ความคิดเห็นที่ 1 กะว่าปีนี้เอา The name of the rose ให้จบค่อยว่ากัน ^^ จากคุณ : majia (majia) - [ 28 ม.ค. 51 18:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หุหุ เอาด้วยค่ะ ทลายกองดองไปสักสิบสองเล่ม ฝุ่นที่ชั้นหนังสือคงน้อยลงบ้าง 1. Dragon Wing : Margaret Weis & Tracy Hickman - เล่ม 1 ของซีรีย์ Deathgate Cycle เพื่อนใน LJ แนะนำไว้นานแล้ว บ้าจี้ซื้อไว้นานแล้วเช่นกัน (ซื้อมาสองเล่มอีกต่างหาก) ยังไม่ได้อ่านค่ะ 2. Rainbow Road : Alex Sanchez - เล่ม 3 ของซีรีย์ Rainbow ที่ซื้อไว้ตั้งแต่มันออกใหม่ ๆ ห่อปก ห่อของขวัญเสร็จสรรพ กระดาษห่อคิโนะมันน่ารักดี เลยให้เค้าห่อให้ แล้วมันก็ยังอยู่ในห่อจากบัดนั้นถึงบัดนี้ .. 3. Life of Pi : Yann Martel - ในหิ้งเป็นเวอร์ชั่นแปลไทยค่ะ ซื้อมาสักปีนึงได้แล้ว คงได้เวลาปัดฝุ่นมาอ่าน 4. The Golem's Eye : Jonathan Stroud - เล่มสองของ Bartimaus Trilogy .. เล่มนี้ซื้อมานานแล้ว แถมคิโนะใจดี จับฉลากชื่อเรา ให้มาอีกทั้งชุดสามเล่มพร้อมลายเซ็นต์คนเขียนอีกต่างหาก เอิ๊กก ๆ .. เหมือนเคยอ่านไปบทสองบท แล้วก็ดองยาวค่ะ 5. The Hobbit : J. R. R. Tolkien - พูดจริง ๆ ว่าบีจังไม่เคยอ่าน The Hobbit ทั้งที่เป็นสาวก Lotr & Silmarillion ซื้อมาเคยเปิด ๆ แล้วก็วางไม่เคยแตะต้องอีก แต่เลือกเล่มนี้มาใน List เหมือนโกง ๆ นิด ๆ ยังไงไม่รู้ เอิ๊กก ๆ 6. Ender's Game : Orson Scott Card - เดี๋ยวจะไปซื้อมาอ่านค่ะ เห็นคนแถวนี้แนะนำหลายคนแล้ว 7. The Time Traveler's Wife : Audrey Niffenegger - ไว้รอ Bliss ส่งเวอร์ชั่นแปลไทยมาให้ ก็คงได้อ่านค่ะ 8. ขอบฟ้าไม่ว่างเปล่า : The Shipping News : Annie Proulx - คุณน้อง สกบร. เพิ่ง Review ไป คุณพี่เลยนึกได้ว่ากาลครั้งหนึ่ง (นานเท่ากับพาย พาเทล) เคยมีหนังสือเล่มนี้อยู่บนหิ้ง 9. Inkheart : Cornelia Funke - เคยมีคนบอกไว้ว่าถ้าอ่านผ่าน 50 หน้าแรก (หรือ 100 หน้าหว่า) จะสนุกจนวางไม่ลง แต่บีจังยังไม่เคยอ่านผ่านได้สำเร็จเลยสักครั้ง มันก็เลยจมฝุ่นอยู่ในหิ้งหนังสือค่ะ หวังว่าคงจะอ่านจบในปีนี้ เพราะถ้าทิ้งนานกว่านี้คงไม่ได้แตะต้องอีก จนกลายเป็นว่าอาจได้ดูเวอร์ัชั่นหนังก่อนอ่านหนังสือจบ เอิ๊กก ๆ 10. The Black Unicorn : Terry Brooks - เล่ม 2 ของซีรีย์ Landover ที่ซื้อภาษาไทยมาตั้งโชว์ครบชุด (ตั้งโชว์อย่างเดียว ไม่ได้แตะ) 11. The Thief : Megan Whalen Turner - ซื้อเวอร์ชั่นไทยมาครบสามเล่มเมื่องานหนังสือคราวก่อน มีคนแถวนี้บอกว่าโอเค 12. The Harsh Cry of Heron : Lian Hearn - ประหนึ่งว่าซื้อมาก่อนผู้ใดในประเทศไทย และเป็นคนกระจายข่าวการวางขายของเล่มนี้ แต่ทำไมหนอ อ่านได้แค่สองสามบทแล้วก็ไม่เคยอ่านอีกเลย จนตอนนี้ภาษาไทยก็ออกแล้ว เล่มห้าก็ออกภาษาอังกฤษมายั่วแล้ว บีจังก็ยังไม่ได้อ่านเลย หุหุ ถัดจากนี้ เป็นเล่มสำรองค่ะ - Running with Demon : Terry Brooks เริ่มอ่านหลายครั้ง ล้มเหลวมาหลายครั้ง - Ptolemy's Gate : Jonathan Stroud เล่มโกงอีกหนึ่งเล่ม ถ้าอ่าน Golem's Eye จบแล้วสนุก ก็จะอ่านเล่มนี้ซึ่งเป็นเล่มจบต่อเลย เอิ๊กกก ๆ - Elven Star : Margaret Weis & Tracy Hickman นี่ก็โกง ถ้าอ่าน Dragon Wing แล้วชอบ เล่มนี้คงอ่านจบตามติดกันไป เอิ๊กก ๆ - The Dark Tower 3 : The Wasteland : Stephen King เหมือนอ่านไปได้หน่อย แล้วก็ดอง เหตุผลคืออ่านภาษาอังกฤษของคุณพี่คิงไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยหยุดอ่านไปซะอย่างงั้นล่ะ แต่ขี้เกียจรอเวอร์ไทยแล้วอะ ช้ามาก ป่านนี้ยังไม่ออกเลย - ปีกแดง : วินทร์ เลียววาริณ หนังสือควรอ่าน ที่ไม่เคยอ่าน - The Wheel of Time 1 : The Eyes of the World : Robert Jordan ได้ข่าวว่าเคยเริ่มอ่านมาแล้วกว่าสามครั้ง แต่ก็ล้มเหลวมันทุกครั้ง - Fire from Heaven : Mary Renault สมัยที่คลั่งอเล็กซานเดอร์ บีจังอ่านแต่เฉพาะส่วนที่อยากอ่าน แบบนี้เรียกว่าอ่านหนังสือเรอะ 555 - Abarat: Days of Magic, Nights of War : Clive Barker อบารัตเล่มสองน่ะค่ะ มีทั้งเวอร์ไทยและอังกฤษ แต่ไม่เคยแตะทั้งสองเวอร์ .. ซื้อมาประดับหิ้งจริง ๆ - The Rescue : Nicolas Spark ตรูเคยซื้อเล่มนี้มาด้วยวุ้ย ... จะพยายามอ่านให้ครบให้ได้ค่ะ โย่ สู้ ๆ ! จากคุณ : BeeJang - [ 28 ม.ค. 51 23:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นึกแล้วว่าอีกไม่นานต้องแตกประเด็นมาเป็นประเด็นนี้แน่ๆ 555 ((หัวเราะไปปาดเหงื่อไป)) ไอซ์ก็เป็นพวกประเภท impulsive ขั้นรุนแรงเหมือนกันค่ะ ((ทำให้เป็นพวกสะสมกองดองเยอะเป็นภูเขา เพื่อรองรับได้ทุกอารมณ์ อิอิ)) แถมยังจำกัดแนวหนังสือที่อ่านเวลาเขียนนิยายด้วย ... เวลาปั่นนิยายจะพยายามไม่อ่านหนังสือต่อไปนี้ - ดีเกินไปจนอาจทำให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ((ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอยากเปิดเรื่องใหม่ ทิ้งเรื่องเก่า)) - อิงประวัติศาสตร์ อิงตำนาน อิงเรื่องจริง ((เหตุผลเดียวกับด้านบน แถมถ้าอยากรู้อยากเห็นมาก จะไปค้นข้อมูลต่อจนลืมเวลาไปเลย)) - อ่านยากเกินไป ((เดี๋ยวเครียดจนคิดอะไรไม่ออก)) - แนวเดียวกับที่เขียน ((เดี๋ยวติดไอเดีย)) - หนังสือที่สนุกจนวางไม่ลง ((เดี๋ยวติดหนังสือจนไม่ได้ทำงาน ฮา)) ฯลฯ สรุปว่า...ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา หนังสือส่วนใหญ่ที่อ่านจบเลยมีแต่หนังสือย่อยง่าย อ่านพอฆ่าเวลายังไงก็ไม่รู้  -"- เห็นท่าทางจะคึกคักแบบนี้ชักอยากลองเล่นด้วยคน เพราะมีหนังสือที่ตั้งใจอยากอ่านแต่หยิบๆ วางๆ หลายเล่ม แต่ขอดูผู้กล้าหาญอีกซักหน่อยละกันน้า ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 29 ม.ค. 51 21:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ถ้าไอซ์เล่น พี่ค่อยตามละกัน อุอุ   เพราะถ้าจะมีใครกองดองสูงกว่า ก็คงไอซ์นี่แหละ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 30 ม.ค. 51 02:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ พูดแล้วห้ามคืนคำนะคะ หนูจะไปทำลิสแร้วววววว กร๊ากกกกก ฮึดๆๆ ทลายกองดอง อ๊า...ไม่เชื่อว่ากองดองของไอซ์จะสูงกว่าพี่ยาคูลท์อ้ะ น่ากลัวเกินไปแร้วววว >_< จากคุณ : Clear Ice - [ 30 ม.ค. 51 08:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอแจมด้วยคนนะ มีอยู่ 20 เล่มที่ตั้งใจจะอ่านแต่มีลางสังหรณ์ว่าจะไม่ได้อ่านแน่ๆเลย 1. The Line of Beauty 2. Vernon God Little 3. The Night Watch 4. On Beauty 5. Everything is Illuminated 6. The Unbearable Lightness of Being 7. Middlesex 8. Brooklyn Follies 9. Moon Palace 10 The Zahir 11 Being Dead 12 Out of Africa 13 Notes from underground 14 As I lay dying 15 Madame Bovary 16 Catch-22 17 Where we were orphan 18 Cairo Trilogy 19 Love in the time of Cholera 20 The Inheritance of Loss ปล. เหมียวยิ้มส่งรูปให้รึยัง เรายังไม่ได้รูปที่ไปกินกันวันนั้นเลยอ่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 30 ม.ค. 51 10:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอเคค่า ทำลิสเสร็จแล้ว เล่นด้วยคนๆ (>_<)/ เรียงตามความนานในการดอง 555 ประมาณคร่าวๆ จากวันที่ซื้อหนังสือมานะคะ 1. Empress Orchid - Anchee Min หนังสือที่เอาประวัติของชูสีไทเฮามาเขียนเป็นนิยายค่ะ เล่มนี้แอบโกงนิดหน่อย เพราะอ่านไปได้สิบบทแล้ว ^^" ดองมาแล้ว ~ 1 ปี 2. Birds Without Wings - Louis De Bernieres   ตอนไปเที่ยวตุรกีเมื่อเดือน ต.ค. ปี 2006 ไกด์เห็นว่าไอซ์สนใจประวัติศาสตร์ของที่นั่น ก็เลยแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้อ่าน ฉากหลังเป็นฉากช่วงการล่มสลายของอาณาจักรอ็อตโตมัน ดองมาแล้ว ~ 1 ปี 3. The Shadow of the Wind - Carlos Ruiz Zafon อ่านปกหลังแล้วน่าสนใจดีก็เลยซื้อมาค่ะ เห็นหลายๆ คนบอกว่าดีมากๆ แต่ก็ไม่ได้อ่านซักที เพราะ...มันหนา ฮา ดองมาแล้ว ~ 1 ปี 4. The Time Traveler's Wife - Audrey Niffenegger เล่มนี้ซื้อเพราะแรงเชียร์ของพี่พัท (Il Maze) และอีกหลายๆ คนในกระทู้แนะนำหนังสือ ((ใจง่ายอะ อิอิ)) ดองมาแล้ว ~ 1 ปี 5. New York Trilogy - Paul Auster มีช่วงนึงพี่ยาคูลท์รีวิวงานของ Paul Auster ในกระทู้หนังสือแนะนำบ่อยมากๆ พอเจอหนังสือก็ซื้อมาค่ะ เล่มนี้จริงๆ เคยพลิกอ่านไปหน่อยแล้ว รู้สึกว่าบรรยากาศมันหม่นหมองเหลือเกิน ตอนนั้นอยู่ในอารมณ์เหี่ยวอยู่แล้วก็เลยวางก่อน ได้โอกาสเลยว่าจะเอามาปัดฝุ่นซะที อิอิ ดองมาแล้ว ~ 2-3 ปี 6. The Unbearable Lightness of Being - Milan Kundera บอกตรงๆ ว่า เล่มนี้ซื้อเพราะชอบชื่อหนังสือค่ะ ที่แปลเป็นภาษาไทยก็เก๋ดี "ความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต" ถ้าจำไม่ผิด ไอซ์ไปเจอหนังสือลดราคาในงานหนังสือก็เลยรีบคว้ามาดองไว้ ดองมาแล้ว ~ 2-3 ปี 7. Life of Pi - Yann Martel เหอๆ ซื้อมาตั้งแต่หนังสือเล่มนี้ติดลิสชิงรางวัล กะเก็บไว้อ่านเวลาเซ็งๆ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่ inspring ดี ... ด้วยความกลัวว่าถ้าเซ็งมากจะไม่มีหนังสือทำนองนี้อ่าน เลยดองยาวมาถึงตอนนี้ เอิ๊ก ดองมาแล้ว ~ 4 ปี 8. House of the Spirits - Isabel Allende เคยอ่านงานแนววรรณกรรมของ Isabel Allende แล้วชอบสำนวนการเขียน เล่มนี้เป็นเล่มที่ดังมากๆ ของนักเขียนคนนี้ ก็เลยซื้อมาค่ะ อิอิ ดองมาแล้ว ~ 6 ปี 9. Of Mice and Men - John Steinbeck เล่มนี้มีเพื่อนแนะนำมา บอกว่าเป็นหนังสือคลาสสิกภาคบังคับที่ควรอ่าน ฮา ... เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของเด็ก GCSE ด้วยง่ะ ดองมาแล้ว ~ 6 ปี 10. The Catcher in the Rye - J.D. Salinger หลายปีก่อนมีคนมาติดต่อไอซ์ให้เขียนหนังสือสองภาษาสำหรับเยาวชน เค้าบอกว่า อยากให้เขียนแนวแบบ The Catcher in the Rye ... พอบอกไปว่า ไอซ์ยังไม่เคยอ่าน เค้าถึงกับเหวอไปเลยว่า ไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ "*-*" ไปๆ มาๆ โครงการนั้นก็ล้มพับไป แต่ไอซ์ก็รีบไปซื้อหนังสือมาเก็บเข้าชั้นทันที เอิ๊ก ดองมาแล้ว ~ 7-8 ปี 11. Catch-22 - Joseph Heller อุอุ เป็นหนังสือที่มีหนังสือหลายเล่มอ้างอิงถึงบ่อยมากค่ะ อ่านๆ ไปจะเจอประโยค "This is so catch-22." ...อ่านแล้วก็ได้แต่สงสัยว่า Catch-22 มันเกี่ยวกับอะไร ก็เลยไปซื้อมา...ดอง ดองมาแล้ว ~ 7-8 ปี 12. The Name of the Rose - Umberto Eco 555 เล่มสุดท้ายในลิส คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ เริ่มอ่านหน้าแรกเมื่อไหร่ เป็นปิดไปก่อนทุกที คราวนี้จะเอาจริงแล้วล่ะ ดองมาแล้ว >10 ปี ........... ต่อไปนี้คืออัศวินสำรองค่ะ มีเยอะกว่าที่กำหนดหน่อย หลายเล่มเป็นหนังสือชุด ((แอบโกงนะเนี่ย ขอหย่อนกฎสำหรับ impulsive reader หน่อยนะคะ ฮา)) 1. Black Order / Sandstorm - James Rollins Sigma novel ชุดเดียวกับ Map of bones ค่ะ ตอนนี้มีดองอยู่ในสังกัดสองเล่ม อิอิ ดองมาแล้ว < 1 ปี 2. Lion of Macedon - David Gemmell แฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์ ((ล่ะมั้ง)) นานๆ จะได้เจอแฟนตาซีแบบเล่มเดียวจบที่น่าอ่านซักที ดองมาแล้ว < 1 ปี 3. The Zahir - Paulo Coelho จริงๆ เล่มนี้อ่านไปได้หน่อยแล้วค่ะ แต่รู้สึกว่ามันอืดๆ ยังไงชอบกล เลยถูกปลดมาอยู่ลิสสำรอง ดองมาแล้ว ~ 1 ปี 4. The Thirteenth Tale - Diane Setterfield ลังเลว่าจะเอาขึ้นลิสหลักดีไหม เพราะหลายๆ คนที่อ่านแล้วบอกว่าดี อิอิ ดองมาแล้ว ~ 1 ปี 5. Twisted / More Twisted - Jeffery Deaver รวมเรื่องสั้นของนักเขียนคนโปรดอีกคนค่ะ ดองมาแล้ว ~ 1 ปี 6. Vince and Joy - Lisa Jewell หนังสือแนว pop fiction ของนักเขียนคนที่ชอบมากอีกคนค่ะ แต่เล่มนี้หนามากๆ เลยยังไม่ได้หยิบมาอ่านซักที ดองมาแล้ว ~ 2 ปี 7. Wild Oats - Veronica Henry เป็นเล่มต่อของ Making Hay ((ละมั้ง)) อ่าน Making Hay นานจนลืมไปหมดแล้ว แหะๆ ดองมาแล้ว ~ 3 ปี 8. Number9Dream - David Mitchell นี่ก็อีกเล่มที่ตอนแรกอยู่ในลิสหลัก ติดใจนักเขียนคนนี้มาจากเรื่อง Ghostwritten ค่ะ แต่...หนังสือของเขาอ่านยาก ต้องใช้สมาธิสูง เลยปัดมาเป็นตัวช่วยก่อน ดองมาแล้ว ~ 4 ปี 9. Paddy Clarke Ha Ha Ha - Roddy Doyle เล่มนี้มีเพื่อนแนะนำให้อ่าน ซื้อมาดองนานมากจนเกือบลืมไปแล้วเนี่ย ดองมาแล้ว ~ 10 ปี 10. The Wind on Fire Trilogy - William Nicholson - The Wind Singer - Slaves of the Mastery - Firesong อยากอ่านมาตั้งนานแล้ว พอดีน้องสาวเพิ่งขนกลับมาจากอังกฤษครบชุดเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา 11. Sabriel / Lirael / Abhorsen - Garth Nix หนังสือชุดแฟนตาซีที่ตั้งใจจะอ่านมาตั้งนานแล้วเช่นกัน 12. The Tawny Man Trilogy - Robin Hobb - Fool's Errand - Golden Fool - Fool's Fate เป็นหนังสือชุดที่ใช้ตัวละครต่อจาก The Farseer Trilogy ซึ่งเป็นแฟนตาซีชุดโปรด ตอนนี้ขาดเล่ม Golden Fool อยู่เล่มนึง ..... จะต้องอ่านจากลิสข้างบนให้ได้อย่างน้อย 12 เล่มในปีนี้ให้ได้ค่ะ ฮึบๆ สู้ๆ ^^V ปล. จะรอดูลิสของพี่ยาคูลท์น้า ^0^ จากคุณ : Clear Ice - [ 30 ม.ค. 51 10:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 55555 ชอบหัวข้อกระทู้มากๆเลย อยากหัวเราะออกมาดังๆๆๆ เจ้าของกระทู้ฮามากๆ เดี๋ยวขอเวลารวบรวมกองดองทั้งหลายแหล่ของเราแล้วจะมาตอบนะคะ เอิ๊กกก ปอลอ อย่างนี้ติ่มซำคงมีลิสต์ยาวเป็นหางว่าวแหงมๆ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : เพติ๊ด (petitfour) - [ 30 ม.ค. 51 13:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กรี๊ด มาเขย่าพู่เชียร์ๆ เห็นจำนวนปีในไหดองของคุณไอซ์แล้วมีฟามสุข ฮ่าๆ มีคนแนะว่าให้เปลี่ยน จาก "กองดอง" เป็น "ถังบ่ม" มันจะได้ออกมาเป็นบรั่นดี ฮ่าๆ งื้ด ยังไม่ได้เอารูปออกจากไหดอง เอ๊ย กล้อง เลยค่ะคุณตาลขา รอแป๊ะน้าาาา จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 30 ม.ค. 51 15:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กรี๊ดดด ต้องอ่านจริงหรือเนี่ย เห็นลิสต์ของน้องตาลกับไอซ์แล้วก็...เออ เราก็มีเล่มนี้ เล่มนั้นนี่หว่า แต่อยู่ไหนแล้วไม่รู้  ดองนานกว่าเล่มที่เล็งไว้เสียอีก งานนี้จะกลายเป็นงานรื้อกองหนังสือมากกว่าทลายกองดองรึเปล่าเนี่ย ขอไปรื้อๆๆ เพิ่มอีกนิดค่ะ  หนังสือวางอยู่ทั่วทุกมุมบ้านจริง ๆ เดินไปมุมไหน ก็มีที่แอบหมกไว้ทั้งนั้น จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 31 ม.ค. 51 00:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เลือกรายชื่อได้แล้วค่ะ 1. The Man Who Ate the 747 (Ben Sherwood), B 2. The Good Doctor (Damon Galgut), HB 3. Brooklyn Follies (Paul Auster), HB 4. Starbook (Ben Okri), TPB 5. The Time Traveller's Wife, HB 6. Poe Shadow (Matthew Pearl) หรือไม่ก็ Interpretation of Murder 7-12. รอเสียบทีหลัง รื้อเจอพวกที่อยากอ่านเพียบเลย เยอะจนเลือกไม่ถูก  คือถ้าเลือกก็เลือกเกือบทุกเล่มแหละ  เลยขอโกงเล็กน้อย ระบุรายชื่อแค่ส่วนเดียวก่อน และตัวสำรองไม่จำกัดจำนวน   ตอนแรก ใส่รายชื่อตัวสำรองแปะลงบล็อก  พอมานับแล้วก็ตกใจ  เยอะจนน่าอาย ลบทิ้งดีกว่า แหะแหะ  (ขนาดยังไม่รวมเรื่องเด่น ๆ ที่สมาชิกชาวทู้เชียร์ไว้นะเนี่ย) ..เผื่อคุณป้าอยากรู้  ไม่ได้รวม Suitable Boy ไว้ในลิสต์ค่ะ  เพราะอยู่กล่องล่างสุด รื้อยากมาก ปล่อยมันไว้ที่เก่าแหละดีแล้ว กร้ากกก จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 31 ม.ค. 51 07:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โห แต่ละคน ทำให้ผมรู้สึกว่ากองดองของผมมันเป็นแค่กระติ๊บข้าวเหนียวเท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับถังบ่มของแต่ละท่าน ข้าน้อยขอคารวะ จากคุณ : ahiruno007 - [ 1 ก.พ. 51 01:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ พอกัน -_-" ของอิชั้น ไอ้ที่ดองๆ ไว้ อ่านเวลาทำงานไม่ได้ทั้งน้านนนนน จากคุณ : แพนด้ามหาภัย - [ 6 ก.พ. 51 01:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กรี๊ดดดด อ่านหนังสือตามโครงการจบไปแล้วหนึ่งเล่มค่า >_< แปะรีวิวแล้ว ^^ AR no.1 - Empress Orchid : ชีวิตรันทดของซูสีไทเฮา T^T http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=clear-ice&month=02-2008&date=06&group=3&gblog=81 ... และมีความเสียใจที่จะแจ้งให้ทราบว่า ... เพราะโครงการนี้อะ ทำให้อิฉันไปซื้อหนังสือตามรายชื่อกองดองของชาวบ้านเพิ่มมาด้วย แงๆๆๆๆ ผลก็คือ กองดองเพิ่มขึ้นมาอีกแว้วววว ~T^T~ จากคุณ : Clear Ice - [ 6 ก.พ. 51 09:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่งออกจากเกาะมาเห็นหัวข้อกระทู้ ตื่นเต้า เอ๊ยตื่นเต้น... (ขออภัย...ไม่คุ้นคัีย์บอร์ดค่ะ ค่าชั่วโมงอินเตอร์เนตแพง รีบพิมพเดินหน้าอย่างเดียว์) ตรงใจเผงเลยค่ะ เพราะเพิ่งนั่งคิดนอนคิดว่าปีหน้าตูจะหยิบเล่มไหนในตู้มาอ่านดีหนอ... ขอบอกว่า คนที่บ้านเพิ่งซื้อ War and Peace มาฝาก แต่จำใจตัดออกจากรายการตามคำขอของเจ้าของกระทู้ ฮ่าๆๆๆ... (ความจริงเห็นความหนาแล้วท้อตะหาก) เวลาหมดค่ะ ขออีกห้าหกวันจะมาตามอ่าน และเสนอของตัวเองด้วยคน คิดถึงเน้อ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 6 ก.พ. 51 12:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กรี๊ด รอดูลิสต์คุณป้าดีกว่า ขำน้องไอซ์อ่ะ  พี่ไม่เป็นนะ เพราะ 1. เล่มในลิสต์คนอื่นที่พี่สนใจ พี่มีแล้ว   2. เล่มที่ยังไม่มี ก็ยังไม่คิดอยากอ่านหรือไม่สน รอดไป (ยกเว้นว่าเขาจะอ่านแล้วมารีวิวชม อันนี้อาจจุดประกายได้) ค่อนข้างมีปัญหากับการเลือกเล่มที่สองแฮะ เพราะเพิ่งได้นิยายไทยใหม่ ๆ น่าสนใจมาเกือบสิบเล่ม อ่านไรก่อนดีว้า? จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 7 ก.พ. 51 00:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถามอะไรแบบนี้อะ ร่วมเล่นด้วยไม่ได้เลย ตอนนี้อยากอ้วกเป็นตัวหนังสือมากๆ จะไม่อ่านอะไรอีกแล้ว เอาเป็น 12 ร้านอาหารที่ต้องไปกินให้ได้ในปีนี้ได้ม้า (-_-'') จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 7 ก.พ. 51 18:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วินาทีแรกที่อ่านชื่อกระทู้ ขำก๊ากเลยค่ะ เพราะเดือนก่อนพี่สาวมาเห็นตู้หนังสือแล้วทักว่า อ่านครบทุกเล่มแล้วเหรอ (คงเพราะเห็นเราชอบเข้าร้านหนังสือ ซื้อมาดองแหงมๆ) ข้าน้อยผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะตั้งใจอ่านหนังสือที่ดองไว้ ถ้าขอแจมด้วยนะคะ เผอิญพึ่งว่างลิสต์รายการ ลิสต์มีตามนี้นะคะ 1. Small Island 2. On Beauty- Zadie Smith 3. Suit Francaise- Irene Nemirovsky 4. Rings of Saturn 5. Song of Exile- Kiana Davenport 6. Kite Runner 7. Handmaid's Tale- Magaret Atwood 8. The Black Book- Orphan Pamuk 9. Saving fish from drowning- Amy Tan 10. Persian Fire:The First World Empire, Battle for the West - Tom Holland 11. The Mermaid's Chair 12. Tipping the Velvet 13. Never Let me go ลิสต์สำรองค่ะ บางเล่มก็หนาซะ เลยขอเก็บเป็นสำรองดีกว่า เพราะท่าทางจะต้องหาเวลานั่งอยู่กับโต๊ะ ไม่ขยับไปไหนแล้วอ่านค่ะ 1. Thailand: A Late Decentralization Country - Tanet Charoenmuang 2. Gun Germs and Steel- Jared Diamond 3. ปีกแดง ของ วินทร์ 4. The Future of the United Nation System: Potential for the 21th Century 5. The AFHAN - Frederick Forsyth 6. As A Man Thinketh 7. The Secret Man 8. River Town 9. Women in Love 10. A Crack at the End of the world- Winchester 11. Collapse- Jared Diamond 12. Memory Keeper's Daughter ต้นๆปีอาจจะอ่านช้าหน่อยนะคะ เพราะติดทำวิทยานิพนธ์ แต่รับรองว่าจะอ่านให้หมดนี้(ก่อนสิ้นปี)แน่ๆเลยค่ะ จากคุณ : ​ (Vita_tranquila) - [ 12 ก.พ. 51 11:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นแล้วอยากทำlist บ้างจังคะ แต่กำลังรักพี่เสียดายน้องอยู่ แต่ถ้าให้นับว่าต้องอ่านให้จบก่อน50%แล้วถึงจะซื้อเล่มใหม่ได้นี่ คงไม่ต้องซื้อไปอีก3-4 ปีเลยค่ะ             ไหนๆก็ไหนๆแล้วอยากถามพี่ๆเพื่อนๆว่าlistที่ทำไว้ใครมีผลงานคืบหน้าบ้างคะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 51 17:28:34 จากคุณ : pie_love_beck (pie_love_beck) - [ 12 ก.พ. 51 17:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ เพิ่งหายจากหลังเดี้ยงเพราะอุตริแบกหนังสือใส่เป้หลังขึ้นเครื่อง... (กระเป๋าเดินทางใส่ของกินจนเต็มซะหมดแล้ว...) หนังสือก็ไม่ได้ซื้อมากมาย ทำไมมันหนักตั้งเกือบ ๑๕ กิโลก็ไม่รู้ (โชคดีที่ไม่มีใครขอชั่งน้ำหนักเป้หลัง ไม่งั้นต้องกัดฟันทิ้งไว้ข้างหลังหลายเล่มแน่เลย) ส่วนใหญ่ซื้อจากดาสะค่ะ เป็นหนังสือที่เล็งๆ ไว้ตั้งแต่ปีกลาย มาเห็นราคาที่ดาสะประมาณ ๑/๓ ของราคาที่เมืองอาบูดาบี เลยรีบซื้อมาเก็บไว้ก่อน ขออวดรายการนะคะ (นอกประเด็นกระทู้ไปนิด) - Suite Francaise - Everyman (Philip Roth) อ่านจบไปแล้ว ชอบมากค่ะ - In the country of men - One good turn - The Famished Road - The thirteenth tale อ่านจบไปแล้วเหมือนกัน นอกจากนี้มี Animal's People ซื้อจากบุ๊คกาซีน ส่วนที่เหลือเป็นหนังสือไทยค่ะ - โลกจิต - แมวน้อยอยากนิพพาน (อ่านแล้วน้ำตายังไม่ร่วงค่ะ บ่อน้ำตาลึกกว่าคนแนะนำ..อิอิ..) - เงาสีขาว ...เล่มนี้แหละค่ะตัวเพิ่มน้ำหนัก หวังว่าเนื้อหาคงไม่หนักหน่วงตามขนาดนะคะ ก่อนเดินทางกลับแวะไปดูที่เอเชียบุ๊ค เห็นมีเทศกาลซื้อสามจ่ายสอง... มีหนังสือใหม่น่าสนใจหลายเล่มทีเดียวค่ะ ถ้าใครว่างไปดูป้าขอแนะนำ Half of a Yellow Sun หนังสือของนักเขียนสาวชาวไนจีเรีย ได้รางวัล Orange Prize มาใหม่หมาด กล่าวถึงประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งขอไนจีเรียกับความขัดแย้งระหว่างเผ่า ที่นำไปถึงขั้นมีความพยายามก่อตั้งประเทศใหม่ เขียนดีค่ะ นักเขียนเธอเก่งทีเดียว เหตุการณ์ที่เธอเขียนเป็นเรื่องราวก่อนเธอเกิดแต่มีหลายคนในครอบครัวเธอมีส่วนเกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนั้น อ่านแล้วสะท้อนใจค่ะ ทำให้หวนคิดถึงหนังเรื่อง Hotel Rawanda และข่าวความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในเคนยา รวมทั้งเรื่อง A bend in the river ของคุณปู่ไนพอล กับ Good Doctor ของ Galgut ด้วย แต่ Half of a Yellow Sun ไม่หดหู่ค่ะ เป็นการเล่าเรื่องที่เป็นไปอย่างที่น่าจะเป็น ไม่มีการบีบคั้นอารมณ์เกินเหตุ ไม่น่าเชื่อว่านักเขียนยังอายุน้อย (ในความรู้สึกของป้า...ฮ่าๆๆ) แล้วจะกลับมาทำลิสต์ ตอบคำถามกระทู้นะคะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 13 ก.พ. 51 17:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สุขสันต์วันกุหลาบแพงจ้ะ หุหุ จากคุณ : แพนด้ามหาภัย - [ 14 ก.พ. 51 12:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เพิ่งได้ยินข่าวแผ่นดินไหว คุณพัทเป็นไงมั่งคะ มีอะไรเสียหายหรือเปล่า แต่ต้องตกใจมากแน่เลย ขวัญเอ๊ยขวัญมา จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 14 ก.พ. 51 22:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แมวยิ้ม ปุ๋ยส่งข่าวมาว่าแมวยิ้มแปะทู้เรื่องแผ่นดินไหว ขอสารภาพว่าพัทไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ตอนนั้นอยู่ในร้านกับเพื่อน กำลังนั่งรอเพื่อนลองเสื้อพอดียังสงสัยว่าเอ๊ะ ทำไมเหมือนมันโคลงๆ แต่ดันไพล่ไปว่าหิวหน้ามืดตาลายประสายังปรับเวลาไม่ได้กับตะกละอยู่ตลอดเวลา เอิ้ก แต่ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะคะจริงๆนะคะ (ซึ้งใจวันวาเลนไทน์จังเลย อิอิ) ที่เอเธนส์ไหวน้อยค่ะ ทางใต้กับเกาะนี่ไหวเยอะเลย ตามหัวข้อทู้แปะไว้ก่อน ปั่นงานๆๆหลังเที่ยวยาวแป๊บค่ะ จากคุณ : Il Maze - [ 15 ก.พ. 51 00:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อะจ้า ไม่รู้สึกก็ดีแล้ว แม้ว่าจะทำให้ขาดแคลนประสบการณ์ก็ตาม อะหุๆ อ่านหนังสือใน TBR C. จบไปเล่มแล้วค่ะ The Oxford Murders อ่านจบแล้วก็ ไปดูตัวอย่างหนังในหูตูบ อ้าวววววว เฮ้ยยยยย ไหงมันออกมาคนละฟีลเงี้ยอ่ะ แต่ก็ รู้สึกว่าน่าดูเหมือนกันนะ จะได้ฉายในไทยไหมเนี่ย ยังไม่มีกำหนดฉายในอเมริกาเลย จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 15 ก.พ. 51 12:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แผนการทลายกองดองของป้าค่ะ 1. Madame Bovary ขุดมาจากก้นลังที่กรุงเทพฯ ลืมวันที่ได้หนังสือมาซะแล้ว แต่กระดาษเหลืองกรอบมากๆ ตั้งใจเลือกเรื่องนี้เพราะอ่าน Flaubert's Parrot เมื่อปีกลายแล้วรู้สึกว่าข้อมูลตัวเองขาดๆ หายๆ ไม่สมบูรณ์เอาเลย เพิ่งเห็นว่าคุณนายโบวารี่เธอติดโผหลายคนซะด้วย ป้าเริ่มอ่านไปแล้วนะคะ หลับๆ ตื่นๆ มาเกือบสัปดาห์ยังไปไม่ถึงครึ่ง... 2. Bleak House ของดิคเก้นส์ ตามความตั้งใจว่าจะอ่านดิคเก้นส์อย่างน้อยปีละเรื่อง มีเรื่องนี้ฉบับของเพนกวินที่ดองไว้นานมากกกก...หนังสือเก๊าเก่าจนคนที่บ้านทนไม่ได้ไปซื้อเล่มใหม่ที่คิโนะมาให้ (แค่ ๑๔๐ บาทเองค่ะ)เพิ่งซื้อเมื่อเดือนก.พ.นี่เองแต่ป้าขอนับเป็นหนึ่งในกองดองด้วยแล้วกัน 3. Tender is the night ของฟิตซ์เจอรัลด์ เล่มนี้ดองมาสามปีได้แล้วมั้ง เปิดอ่านทีไรหลับทุกทีทั้งที่ชอบ The great Gatsby มาก คราวนี้จะอดทนค่ะ 4. Quincunx มีรับประกันความสนุกโดยคุณ Fado กับคุณพัท แต่หนาเหลือกำลัง เดินทางไกลคราวหน้าจะกัดฟันแบกเล่มนี้เล่มเดียว อ่านไม่จบก็ให้มันรู้ไป (วิธีนี้เคยใช้ได้ผลกับ A Suitable Boy และ Wizard of the Crow ค่ะ) 5. The Feast of the Goat ของนักเขียนชิลี ได้ฉบับปกแข็งมาเกือบห้าปีเข้าไปแล้ว คนให้ถามทุกครั้งที่เจอหน้าว่าชอบหรือเปล่า จนเดี๋ยวนี้เลิกถามไปแล้ว...อายเขาจัง... 6. The Plot against America ของรอธ ได้มานานหลายปี แต่มัวนึกหมั่นไส้นักเขียนชาวยิวเลยทิ้งค้างไว้ มาอ่าน Everyman แล้วชอบสไตล์ของนักเขียนคนนี้มากมาย ปีนี้ต้องอ่านให้ได้ 7. Midnight Children ของรัชดี เล่มนี้ก็เงื้อง่าจะอ่านมาหลายที แต่มีอย่างอื่นมาเบี่ยงเบนทุกครั้งไป เก็บมาสามปีกว่าแล้วค่ะ 8.Palace Walk เก็บมาสองปี สองจิตสองใจไม่อ่านเสียทีเพราะสนใจฉบับภาษาไทย "โคตรไคโร" แต่คิดอีกทีมีฉบับภาษาอังกฤษก็อ่านไปแล้วกัน เพราะถ้าซื้อภาษาไทยก็ต้องแบกกลับมาอีก... 9. In Cold Blood ของคาโปเต้ ดองมาสองปีเหมือนกัน 10.12 Books that changed the World มีหนังสือมาสองปีแล้วค่ะ พลิกดูบ่อยๆ แต่ขี้เกียจซะก่อนทุกที ปีนี้จะพยายามกัดฟันอ่านให้ได้ 11. รุกสยามฯ ยังไม่ได้อ่านเพราะความหนาแท้ๆ อุตส่าห์หอบหิ้วมาจากเมืองไทย ยังไงก็ต้องอ่านให้ได้ก่อนย้ายกลับ 12. Oscar and Lucinda ของ Peter Carey ค่ะ เป็นหนังสือที่ยืมจากเนลสันเฮยส์บ่อยมาก แต่ไม่ได้อ่านซะที จนคนที่บ้านซื้อหนังสือมือสองมาให้เกือบห้าปีแล้ว ก็ยังไม่ได้อ่านอีกนั่นแหละ ส่วนเล่มสำรองเอาไว้ป็นทางเลือกแบบปลายเปิดค่ะ แต่อายุความเก่าใกล้เคียงกันแน่ๆ ยังมีลิสต์อีกชุดเป็นกลุ่มหนังสือที่เพิ่งซื้อมาใหม่ พยายามรีบอ่านให้ได้ในปีนี้(หวังว่าจะ) ไม่มีการดองอีกต่อไป แต่ยังมีกลุ่มแทรกแซงเป็นหนังสือจากห้องสมุดค่ะ ตามแต่ลุงจะยืมมาให้ ตอนนี้มาวางรออยู่แล้ว หนึ่งเล่ม น่าอ่านมาก ของคุณปู่ Vonnegut คนโปรดเสียด้วย ต้องพยายามข่มใจอ่าน Madame Bovary ให้จบเสียก่อน ไม่รู้จะแข็งใจได้สักแค่ไหนเนี่ย.... เอาใจช่วยทุกคนให้ทลายกองดองกันได้สำเร็จตามเป้าค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 16 ก.พ. 51 20:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอ่อ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแผ่นดินไหวที่กรีก  ตกข่าวยิ่งกว่าตก คุณป้าสิบห้าโลขา ลิสต์เทพมากค่ะ   เคยคิดจะใส่ Quincunx ไว้ในลิสต์เหมือนกัน แต่เอาออกเกือบจะทันที ส่วน Everyman นี่มีสิทธิ์ได้อ่านปีนี้  เล่มมันบางดี เผื่อชอบจะได้ไปซื้อเรื่องล่าสุดของคนแต่งเสียเลย   ตอนนี้อ่าน Starbook ของ Ben Okri ไปค่อนนึง ใช้เวลาสองถึงสามวัน แล้วก็หมดอารมณ์ วางค้างอยู่เป็นอาทิตย์แล้วค่ะ  รำคาญตาเบนแกขยายความจัง  ตัวเนื้อเรื่องที่อ่านมาร้อยหน้าเนี่ย สรุปได้ไม่เกินครึ่งหน้าแน่นอน  ที่เหลือเป็นการพรรณนาถึงโน่นนี่แล้วก็แอบใส่การเปรียบเปรยหรือสัญลักษณ์อะไรบางอย่างไว้ (อ่านไม่ค่อยเก็ทแฮะ มันไฮเกิน) สำนวนก็อ่านเพลินดีหรอก แต่ทำไมพูด (เขียน) มากแบบนี้ งี้ดดดด TBR ส่อแววแป้กตั้งแต่เล่ม 2 เสียแล้ว T__T จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 17 ก.พ. 51 03:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ไม่ต้องอ่านเรียงกันก็ได้ย่ะเจ๊ อ่านแล้วไม่ไหวก็วางไปหยิบเล่มอื่นมาก่องก็ล่าย ตอนนี้กำลังชั่งใจเลือกเล่มสองอยู่ค่ะ ยังตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าเอาเล่มไหนดี จะเอาเล่มบางๆ ก็ขี้โกงไปหน่อย แต่เล่มหนาๆ ก็ไม่ค่อยมีสมาธิอ่าน งื้อ ลิสต์คุณป้าสุดยอดมากค่ะ อิสสาๆ Madame Bovary อยู่ในลิสต์เหมือนกันค่ะ ส่วน Bleak House สนุกดี Midnight Children สนุกมากๆ The Plot against America อยู่ในกองดองเหมือนกันค่ะ ซื้อมาตอน B2S เลหลังในราคา 99 บาท (จะตกใจยิ่งกว่านี้หากทราบว่าได้รวมจดหมายของ ป๋าโทลคีนเล่มบักเอ้กมาในราคาเท่ากัน อะหุ อะหุ) แล้วไม่กี่เดือนต่อมาก็เจอ เพื่อนบล็อกคนหนึ่งได้หนังสือลุงรอธอีกเล่มมาในราคาเท่ากันจากงานหนังสือ โอย หนังสือลุงช่างด้อยมูลค่า กร๊าก (แต่สูงค่านะเคอะ) จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 17 ก.พ. 51 11:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลิสของคุณป้าอลังการมากค่ะ เหอๆ ไอซ์เตรียมจะเดี้ยงตามพี่ยาคูลท์ไปติดๆ แล้ว เพราะอ่าน The Catcher in the Rye ไปได้หน่อยก็วาง รู้สึกว่า...ง่า มันน่าเบื่อง่ะ ฮา ตอนนี้หยิบเรื่อง The Shadow of the Wind มาลอง ไม่รู้ว่าจะอ่านรอดไหม ช่วงนี้หัวตื้อมากๆ หลังจาก Prison Break จบไปสอง season รวด เอิ๊ก ^^" ปล. ตกข่าวเรื่องแผ่นดินไหวที่กรีซเหมือนกันค่ะ แหะๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 51 20:25:41 จากคุณ : Clear Ice - [ 18 ก.พ. 51 20:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามานั่งบ่นเป็นเพื่อนคุณติ่มค่ะ อุตส่าห์ตั้งตารอตอนที่คุณนายโบวารีใจอ่อนกับชู้รัก...โธ่ พอถึงตอนนั้นจริงกลับมีแต่บทบรรยายป่าเขาลำเนาไพรเสียนี่... เฮ้อ...เก้อเลย (หรือเป็นการใช้สัญญลักษณ์อย่างเล่มของคุณติ่มหว่า...) รู้อย่างนี้จะมีคนแอบปลด Madame Bovary ออกจากโผไหมเนี่ย.... อ้อ...ป้าได้ดูหนังเรื่อง Atonement แล้วออกจะชอบเชียว แต่คงไม่อ่านหนังสือเรื่องนี้แล้วละค่ะ ที่ดองไว้ก็ปิดฝาไหฝังดินได้เลย... (ดูแล้วก็แอบสงสัยว่าหนูไนท์ลีย์เธอเป็นนางเอกคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้ทำ Boob Job เรอะเปล่า) คุณติ่มน่าจะชอบ Everyman นะคะ ลีลาของลุงรอธแกออกจะคล้ายพี่พอล ออสเตอร์อยู่ (ความจริงน่าจะบอกว่าออสเตอร์มาเป็นฝ่ายคล้ายรอธเสียมากกว่า) ป้าว่าคุณไอซ์ต้องชอบ Shadow of the wind แน่ๆ ลึกลับดี Catcher in the Rye น่าจะอ่านสนุกตอนเป็นวัยรุ่นมีปัญหาค่ะ (ไม่ใช่วัยรุ่นตอนปลายอย่างเดี๋ยวนี้) ขอลากลับไปหาคุณนายโบวารีก่อนค่ะ ถึงจะไม่มีฉากเร้าใจ แต่เรื่องนี้อ่านแล้วได้อารมณ์สาวใหญ่ใจเหงามากๆ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 18 ก.พ. 51 23:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ^ มันเป็นบทอัศจรรย์แบบวรรณคดีไทยหรือเปล่าคะ อะกร๊ากกกกกกกก บทพวกเนี้ยเมื่อตอนเด็กๆ อ่านแล้วไม่เข้าใจ นึกว่าคนไทยนี่กระมิดกระเมี้ยน เรื่องเพศกันมาก พอจะเข้าด้ายเข้าเข็มก็หันไปพูดถึงฝนตกลมพัดดอกไม้ไหว อะไรไปโน่น กว่าจะรู้ว่า... อะหุ อะหุ Catcher in the Rye นี่พยายามอ่านมาสามรอบแล้วค่ะ ไม่เคยไปพ้น สิบหน้าแรกเลย เคยเจอคนเขาพูดว่ามันอะไรกันนักหนา ก็แค่เด็กวัยรุ่นขี้บ่น แล้วเด็กที่ไหนจะไม่มีปัญหามั่งฟะ ฯลฯ แต่เคยเข้าไปดูรายชื่อหนังสือที่ถูกพวกผู้ปกครองร้องเรียนให้เอาออกจาก หลักสูตรหรือห้องสมุดในเว็บสมาคมห้องสมุดอเมริกัน เป็นข้อมูลแค่ปีเดียว หรือสิบปีนี่แหละ ปรากฏว่าหนังสือเล่มนี้มีรายละเอียดการถูกร้องเรียนยาว ฟุตกว่าๆ ^___^' อีกเล่มที่ยาวเหยียดไม่แพ้กันคือ To Kill a Mockingbird อ่านเรื่องพวกนี้ทีไรนึกถึงฉากในหนังเรื่อง Field of Dreams ทุกที ตอนที่เมียพระเอกลุกขึ้นด่าที่ประชุมผู้ปกครองยืดยาว แล้วจบด้วยการ กรี๊ดสนั่นกับตัวเองว่า "แม่-- ต้องอย่างนี้สิ ยังกะยุคซิกส์ตี้เลยเว้ย" จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 19 ก.พ. 51 10:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หวัดดีค่า เข้ามาทักพัทก่อนเลย เหตุการณ์ที่กรีซเป็นไงบ้างคะหนู ช่วงนี้พี่ยุ่งโคตรๆๆเลย เห็นแม่บอกว่ามีพายุอะไรซักอย่าง พี่ก็ยังไม่ได้ตามข่าวเหมือนกัน แหะ แหะ มีอะไรก็อัพเดทด่วนนะคะ มาดามโบวารีเป็นเรื่องที่เลิฟมากๆเลยค่ะ ขอแนะนำให้อ่านเป็นอย่างยิ่ง ชอบมั่กๆๆ แต่เสียดายที่ sentimental education ยังคงสภาพอยู่ในกองดองอยู่อีกต่อไป ยังไม่มีเวลานั่งลงอ่านเรื่องนี้อย่างมีสมาธิซักที ส่วน Tender is the Night นี่เลิฟมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ มากกว่า แกสบี้หลายล้านเท่า ชอบเรื่องนี้แบบสุดขีดมาก อ่านเรื่องนี้แล้ว แกสบี้อ่อนไปเลย จำได้ว่าอ่านจบแล้วนั่งซึมไปเป็นเดือน เป็นเดือนจริงๆนะคะ literally!!! ยิ่งได้อ่านกลอนของคีทส์ตรงหน้าปก แล้วล่ะก็ ตรง Already with thee, tender is the night, but here there is no light อยากจะร้องไห้ออกมาใจแทบขาด แต่ว่าร้องไม่ออก มันอัดแน่นอยู่ข้างใน แบบว่า deepมั่กๆๆๆ กรี๊ดดดด แนะนำ อ่านเรื่องนี้แล้วรักฟิตส์เจอรัลด์อย่างมากมาย รู้เลยว่าเป็นอัจฉริยะในการเขียนจริงๆ (แค่นึกกลับไปถึงพล็อตเรื่องยังเริ่มซึมแล้วเรยยย กร้ากกกก อินๆๆๆๆ) ที่ดองมาตั้งแต่สมัยมหาลัย ก็คือ เล่มนี้แน่นอนค่า แต่น แตน แต๊นนน WAR AND PEACE ซ้ำคงต้องดองไปอีกนาน รอให้ไม่มีงานทำจริงๆก่อนคงได้หยิบขึ้นมาอ่านกัน (ขนาดคารามาซอฟ หรือ ไคร์ม แอนด์ พันนิชเมนท์ หรือ แอนนา คาเรนนิน่า ชิวาโก้ก็ยังเคยกัดฟันอ่านมาแล้วนะคะ ตอนเป็นวัยรุ่น แรงมั้ยคะพี่น้อง 55555) แต่เล่มนี้สงสัยต้องยกธงขาว บาวเลย ส่วนอีกเล่มนี่ก็ดองนานเกินห้าปี at swim two birds ไม่รู้เป็นไง อ่านไม่รู้เรื่องแฮะ ทั้งๆที่อ่าน the third policeman ได้อย่างเมามัน หัวเราะโปกฮาไปทั้งเรื่องนะคะ แหะ แหะ to kill the mockingbird นี่ก็อีกเรื่อง ดองนานเกินสิบปี (น่ากลัวมั้ยคะพี่น้อง ใครจะหาญสู้ดองนานอย่างเรา ติ่มซำก็ติ่มซำเหอะ) อ้ะ catcher in the rye นี่ก็อีกเรื่อง อารายกันนักกันหนาฟะ ชั้นเป็นสาวสวย ไร้ปัญหา อ่านไม่รู้เรื่อง เว้ากันซื่อๆอย่างนี้แหละ เอิ๊กๆๆๆ เนอะเหมียวยิ้มเนอะ ง่วงแล้วค่ะ ขอแจมพอหอมปากหอมคอนะคะ ชอบหัวข้อกระทู้มั่กๆๆๆ สะใจ แถมฮากลิ้ง ปอลอ แนะนำ palace walk สุดตัว ไม่ได้อ่านภาษาไทยนะคะ แต่เลิฟภาษาอังกิดมากๆๆๆ ปปล อ่านบัลซัคภาษาอังกิดก็ชอบนะคะ ทำไมอ่านง่ายกว่าของสนพ ผีเสื้อก็ไม่รู้นะคะ จำได้ว่า อ่านโกริโยต์แล้วอิ้นอิน อ่านเป็นภาษาไทยจะยาก อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ปปปปล อ้อ นี่ก็อีกเล่ม Tale of Genji เล่มหนาบึ้ม ดองมาเกือบสิบปีเหมือนกัน จนเพื่อนสนิทยืมไป แถมมันก็เอาไปดองอีก ดองจนตอนนี้หาหน้งสือไม่เจอเลย เสียดายมาก แปลโดย Seidensticker เสียด้วย อาถรรพ์กองดองเจงๆ ดองกันไปเป็นแถบๆ จากคุณ : เพติ๊ด (petitfour) - [ 20 ก.พ. 51 00:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 32 555 อ่านที่คุณป้ากับเหมียวยิ้มบอกแล้ว รู้สึกเข้าใจเลยว่า ทำไมอ่าน Catcher in the Rye ไม่เวิร์ค เลยวัยนั่นเอง ชอบที่พี่เพติ๊ดบอกจัง สาวสวยไร้ปัญหาอย่างเราอ่านไม่รู้เรื่อง 555 อ่านเรื่อง The Shadow of the Wind ไปได้หน่อยแล้วค่ะ ชอบภาษาและการเปรียบเทียบจัง ปกติไอซ์จะชอบหนังสือที่แปลมาจากภาษาสเปนอยู่แล้วนะคะ เพราะรู้สึกว่ามันโรแมนติกดี ฮา ... เสียแต่ว่าภาษาบางช่วงไฮโซมากๆ สงสัยเล่มนี้ต้องเพิ่ง Dict 555 แต่อาจจะต้องวางไว้สักพักก่อนค่ะ ไอซ์จะแว่บไปเที่ยวเวียดนามพรุ่งนี้สัก 4-5 วัน คงไม่เอาเล่มนี้ไป ปกติเวลาไปเที่ยวไอซ์จะเอาหนังสือมือสองไปอะค่ะ เอาเล่มใหม่ๆ ไปกลัวเน่ากลับมา อิอิ เรื่อง War and Peace นี่มั่นใจมากๆ เลยว่า อยู่ในกองดองของใครหลายๆ คน รวมทั้งไอซ์ด้วย 555 จากคุณ : Clear Ice - [ 20 ก.พ. 51 07:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แจ้งข่าวดีค่า น้องตาลคลอดแล้วนะคะ คิดว่าแข็งแรงดีทั้งแม่และลูกค่ะ หากใครสงสัยว่าทำไมพัทถึงได้เป็นคนแจ้งข่าวทั้งๆที่อยู่กรีซ ก็ขอบอกว่าน้องทินาบอกกับปุ๋ยมาอีกที และปุ๋ยมอบหมายให้พัทมาแปะบอกเพราะล็อกอินไม่ได้ แถมยังลืมด้วยว่าลูกชายหรือลูกสาว (ฮึ่ม) ยินดีกับคุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ อย่าลืมเอารูปลูกมาแปะนะ ไอซ์ พี่ว่าเล่มเกี่ยวกับสเปนหลังๆมา เรื่องนี้สนุกสุดแล้วอ่ะ แต่ตอนใกล้จบมีแอบน้ำเน่า พอเดาได้เล็กๆนะ พี่เพติ๊ดคะ มีพายุหิมะเข้าค่ะ ตั้งแต่วันศุกร์ถึงจันทร์ออกจากบ้านไม่ได้เลย เพิ่งละลายเมื่อวานเองค่ะ คิดถึงทุกคนนะคะ ตั้งแต่ต้นปีอ่านจบไปหลายเล่มอยู่ ไว้มาแปะค่ะ จากคุณ : Il Maze - [ 20 ก.พ. 51 20:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณป้ากับคุณไอซ์ค้า เช็คหลังไมค์ด้วยค่า ปล. เพิ่งอ่านไหมจบไปเมื่อคืน อาาาา ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัว จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ วันมาฆบูชา 14:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่มือใหม่ด้วยค่ะ วันก่อนกำลังนึกอยู่พอดีว่าช่วงนี้น่าจะคลอดแล้ว สองวันนี้ว่าง (aka อู้งาน) ไปดูหนังในโรง เลยทิ้งเรื่องอ่านไว้ก่อนค่ะ แล้วก็บังเอิ๊นบังเอิญ เมเจอร์มีโปรแกรมดูหนังเข้าชิง 3 เรื่อง ฟรี 1 เรื่อง เลยกะว่าจะไปตามดู Elizabeth, Atonement, Enchanted แล้วก็ No Country for Old Men  หรือไม่ก็ American Gangster ให้ได้ก่อนสิ้นเดือน เมื่อวานดู Elizabeth ไปแล้ว กลับบ้านเที่ยงคืนแน่ะ มันฉายรอบดึกมาก เรื่องที่เล็งไว้ เหลือรอบฉายวันละรอบเสียส่วนใหญ่  บังคับจิตใจกันชะมัด (แถมเปลี่ยนเวลาบ่อยอีกด้วย  ตั้งแต่ต้นอาทิตย์เนี่ย เปลี่ยนผัง 3 ครั้งแล้ว) เพติ๊ด ยกถ้วยประจำตำแหน่งดองยาวนานไปได้เลยจ้ะ เอิ้กๆ แล้วถ้าเพื่อนเธอหา Tale of Genji เล่มนั้นเจอ เราขอยืม (ดอง) ต่อนะ แบบว่า อยากอ่านแต่คงไม่ซื้อหรอก เปอร์เซ็นต์อ่านไม่จบสูง อ่านเม้นท์ของพัทแล้วก็นึกถึงข่าวหรือกระทู้ที่เพิ่งอ่านวันก่อน เขาว่าอากาศโลกแปรปรวน ประเทศที่เคยเพาะปลูกได้ดีอาจกลายเป็นทะเลทราย ในขณะที่ประเทศแห้งแล้งอาจทำกสิกรรมได้  (จำตัวอย่างเป๊ะ ๆ ไม่ได้แล้ว)  ... ถ้าเป็นจริง คงแปลกดีพิลึกนะ เห็นข่าวว่าอีก 3-5 ปี (รึเปล่า) ทางเหนืออาจมีหิมะตกด้วยค่ะ  หลังจากที่เคยมีหิมะตกที่เชียงรายมาแล้วเมื่อ 50 ปีก่อน  อือม์ แปลกๆๆๆ แว่บไปเป็นผีโรงหนังก่อนค่ะ อิอิ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 22 ก.พ. 51 12:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ดีใจกับคุณตาลด้วยค่ะ ขอให้ลูกชายเลี้ยงง่าย โตไวๆ อ่านหนังสือเก่งๆ เหมือนคุณแม่นะคร้าบบบบ ที่รู้ว่าเป็นลูกชายเพราะบอกได้ด้วยสายตาอันแหลมคมเมื่อคราวพบกันครั้งล่าสุด...อิอิอิ... (ความจริงจำได้ว่าคุณตาลเคยบอกผล u/s ไว้แล้วหลายกระทู้ก่อน) เรื่องดินฟ้าอากาศนี่...เฮ้อ...ขาดความพอดีจริงๆ ค่ะ เมืองทะเลทรายของป้าตอนนี้อากาศหนาวมาก ออกไปวิ่งตอนเช้าฟันกระทบกันดังกึกๆ (วิ่งไปก็ด่าตัวเองไป...ออกมาทรมานตัวเองทำไมฟระ...) อ่าน Madame Bovary จบแล้วค่ะ อุแม่เจ้า...นิยายเฉื่อยๆ ที่เขียนดีนี่เขียนให้ตื่นเต้นเร้าใจขึ้นมาได้ไม่รู้เนื้อรู้ตัว เรียกว่า ๓-๔ บทสุดท้ายนี่ตามลุ้นกับคุณนายจนเหนื่อยไปด้วย ถ้าใครลงมืออ่านเรื่องนี้แล้วเบื่อขอให้อดทนไปจนเลยครึ่งเรื่องไปแล้วจะสนุกมากค่ะ ตอนนี้กำลังอ่าน A Man without a Country เล่มสุดท้ายของ Vonnegut ค่ะอ่านแล้วคิดถึงคนเขียนจับใจ คงหาใครเขียนอะไรให้น่ารักน่าชัง น่าเวียนหัว น่าหัวเราะอย่างคุณปู่อีกได้ยาก ต้องกลับมาพลิกอ่าน Slaughter House Five อีกรอบ... เสียอย่างเดียวว่าเล่มล่าสุดนี่บางมากๆ แถมพิมพ์ฟ้อนต์ใหญ่เบ้อเริ่มอ่านได้วันเดียวก็จะจบแล้ว ยังไม่ชุ่มใจเลย ใครไปเห็นเล่มนี้ที่ไหนแนะนำให้ลองอ่านนะคะ ลีลาอาจจะต่างกับงานยุคมันๆ ของ Vonnegut อยู่มาก แต่นักวิจารณ์เขาบอกว่าเป็นงานที่ผู้เขียนเผยตัวตนมากที่สุด (งานก่อนๆ Vonnegut มักสร้างตัวละครแทนตัวเองที่ทำให้คนอ่านงุนงงได้เสมอ) และยังอ่านสนุกอยู่ดี เป็นอันว่าภารกิจทลายกองดองของป้าเสร็จไปหนึ่งเล่ม เวลาที่เหลือของเดือนนี้ขอยกให้นิยายร่วมสมัย แล้วเดือนหน้าค่อยอ่านตามลิสต์ต่อไปค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 22 ก.พ. 51 20:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยินดีด้วยจ้า จากคุณ : แพนด้ามหาภัย - [ 22 ก.พ. 51 21:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านจบไปสามเล่มค่า อ๊ะๆ อย่าเพิ่งตกใจ เป็นเล่มบางๆ ทั้งสิ้น รู้สึกขี้โกงไงไม่รู้ ที่จริงตอนแรกตั้งใจใส่หนังสือบางๆ ลงไปด้วยจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว เผื่อเป็นทางถอย แต่มาตอนนี้คิดว่าถ้าอ่านเล่มบางๆ มากไป อาจต้องชดใช้เพิ่มสักเล่มสองเล่ม แล้วกระมัง รายชื่อค่า แต่เพิ่งรีวิวไปสองเล่มเอง กะรอให้รีวิวลุงนอมอยู่บนสุดนานๆ น่ะค่ะ อยากให้มีคนอ่านกันเยอะๆ กี๊ซซซซ เทพเจ้าอนาคิสต์ของเดี๊ยนนนนน (อย่าอ่านเป็นอนาคินนะเคอะ) The Oxford Murders - Guillermo Martinez 9-11 ไม่เคยเกิดขึ้น - นอม ชอมสกี้ Silk - Alessandro Baricco จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 23 ก.พ. 51 17:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้เลยทำให้เรา ออกสำรวจว่ายังไม่ได้อ่านหนังสือ อะไรที่เราเป็นเจ้าของและยังอ่านไม่จบบ้าง ขอจองที่ไว้ก่อน แล้วสำรวจเสร็จจะ เอา ลิสมาลง มันคงยาวมากๆๆๆๆๆ เพราะดองไว้ตั้งแต่สมัย ซื้อได้เต็มที่เพราะยังแบมือขอเงิน จนตอนนี้ที่ ต้องจ่ายเงินเองแล้ว ไปนับมาแล้วค่ะ ที่ยังอ่านไม่จบแล้วหมกไว้ มีทั้งหมด 48 เล่ม จะคัดให้เหลือ 12 นี้ต้องขอไป ดูlist อีกที ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือ สองเล่ม ไม่เกี่ยวกับกองดองข้างบน เล่มแรกชื่อ "richard branson ครั้งเดียวไม่เคยพอ" เป็นหนังสือแปล จาก Richard Branson losing my virginity the autobiography ซึ่งเรารู้สึกเสียดายว่าน่าจะไปซื้อภาษาอังกฤษดีกว่า เพราะรู้สึกว่า แปลไม่ค่อยดี อ่านแล้ว งงๆ แต่เนื้อหาน่าสนใจทีเดียว เล่มนี้อ่านก่อนนอน อีกเล่มคือ A bike ride ความฝันไม่มีวันหมดอายุ เป็นหนังสือเกี่ยวกับ คุณครูวัย54 ปี ออกเดินทางรอบโลกด้วยจักรยาน  เล่มนี้อ่านก่อนออกไปทำงาน แบบว่าต้องเติมกำลังใจก่อนไป ออกรบทุกวัน ฮ่าๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 51 18:04:13 จากคุณ : นางสาว ภูมิใจ - [ 24 ก.พ. 51 16:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอแสดงความยินดีกับน้องตาลด้วยค่ะ ทู้เรามีหลานแพลมออกมาคนนึงแล้ววุ้ย ตื่นเต้นจัง ติ่มซำ ไปดูหนังออสการ์เรื่องไหนสนุกรีวิวในทู้ให้อ่านหน่อยนะจ๊ะ ช่วงนี้งานยุ่งมากๆๆๆๆ ไม่มีเวลาไปดูหนังเลย จากคุณ : เพติ๊ด (petitfour) - [ 24 ก.พ. 51 22:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ^ Atonement มาเต็งหนึ่งจ้ะ ตอนนี้  ดารา บท เซอร์ไพรซ์--ลงตัวไปหมด Enchanted นี่เหมาะสำหรับดูผ่อนคลาย Elizabeth ฉากสวย ดารานำแอ็คติ้งดีมาก แต่พยายามสร้างภาพสวยเกินไป พอดูแล้วแอบแอนตี้นิดหน่อย แต่ยังไม่ได้ดู Charlie Wilson's War กับ No Country for Old Men สองเรื่องนี้น่าจะสนุกไปอีกแบบ (โดยเฉพาะเรื่องหลัง แค่เข้าไปดูหน้าดาราก็คงประทับใจแล้ว หลอนดี) เพิ่งอ่านกำลังภายในเรื่อง "บ้อซังเกี่ยม" อีกรอบ  และพบว่า...มันฮามาก เป็นกำลังภายในที่โกวเนี้ยระดับนางเอกตบตีกันเพื่อแย่งพระเอก มีฉากหนึ่งในศาลเจ้า พวกพระเอกทำอาหารใส่พริกรสจัดตามสูตรพื้นเมือง  ตัวร้ายที่แอบอยู่บนขื่อเลยจาม  ทำให้พวกพระเอกรู้ตัวและลงมือสู้กัน บทสนทนาขณะต่อสู้จะมี "ฮัดเช้ย" แทรกอยู่ตลอด  อ่านแล้วฮาก๊าก ... ตอนอ่านรอบแรกไม่รู้สึกถึงความตลกในสำนวนเขียน  เพิ่งมาสังเกตรอบนี้แหละ ปล. ลืมพูดถึงเรื่องสวีนนีย์   ซึ่งคงไม่ได้ดูแน่ เพราะในโรงทำเบลอเพียบ ไม่รู้จะเข้าไปดูทำไมให้เซ็งอารมณ์ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 51 01:21:08 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 25 ก.พ. 51 01:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ยินดีกับน้องตาลด้วยนะคะ ไว้ว่างๆ จะหาโอกาสไปเยี่ยมค่ะ แจ้งข่าว Sale ของ Asia Books ค่ะ The First and Bigget Ever Asia Books Warehouse sale at Event Hall, 1st Floor, Amarin Plaza at Ratchaprasong, BTS Chidlom 22 Feb - 4 Mar 08 จากคุณ : Bigcrab - [ 25 ก.พ. 51 08:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อยากคุยด้วยจัง ไว้รอลูกหลับก่อนนะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 29 ก.พ. 51 08:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จะบอกว่าอ่าน The Catcher in the Rye แล้วไม่เห็นจะชอบใจอะไรเลย to kill the mockingbird นี่สนุกมาๆนะคะ แนะนำให้พี่เพติ๊ดลองหยิบมาอ่านค่ะ อ่านง่าย น่ารักแบบใสๆ บริสุทธิ์ค่ะ ขอเม้าท์เรื่องลูกก่อนดีกว่านะ ตาลคลอดวันที่ 20 กพ ที่ผ่านมาน่ะค่ะ พอดีตื่นมาแล้วกางเกงแฉะๆเลยรู้ว่าน้ำเดิน พอไปที่รพ.คุณหมอตรวจดูแล้วบอกว่ายังอีกห่างไกลนักและแนะนำให้ผ่าคลอดแทน สุดท้ายเลยตัดสินใจผ่าเลยเพราะขึ้เกียจรอ อิอิ ลูกคลอดตอน 11 โมงแต่กว่าตาลจะได้ย้ายไปที่ห้องพักตั้งประมาณ 4-5 โมงแน่ะ วันแรกอ่อนเพลียแบบหมดสภาพมากเลย ลูกร้องอีกแล้วเดี๋ยวมาเขียนต่อนะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 29 ก.พ. 51 10:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตาลตั้งชื่อลูกว่า Tiger ค่ะ ไม่เกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟนะ แต่ชื่อนี้มีความหมายต่อตาลมากเพราะเป็นชื่อเล่นของบริษัทที่ตาลเจอกับสามีค่ะ ตอนแรกจะตั้งชื่อลูกว่า GE แต่เพื่อนๆหลายๆคนหาว่าบ้าเห่อบริษัทตัวเอง ฮ่าฮ่า น้องทินาแวะมาเยี่ยมวันศุกร์(รึเปล่า)ด้วย น้องนุชน่ารักจริงๆอุตส่าห์มีของรับขวัญหลานด้วย แล้วบังเอิญซื้อมาตรงกับชื่อหลานเลย เป็น gift set Tigger ของ winnie the pooh แหมน้องหนูซื้อของได้ตรงกับชื่อหลานมากขนาดไม่ได้รู้มาก่อน หนูได้ไปซื้อหวยงวดนี้หรือยังจ๊ะเผื่อจะถูกนะเนี่ย ตาลกลับมาบ้านก็ตอนวันจันทร์ค่ะ วันแรกก็ยังเก้ๆกังๆวุ่นวายกับการจัดของจัดสถานที่ให้ลงตัว ตอนนี้คิดว่าเริ่มเข้าที่แล้ว แต่ขอบอกว่าเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เนี่ย เหนื่อยมากกกกกก เพราะลูกตื่นบ่อยทุกๆ 2-3 ชมไม่เว้นแม้กลางคืนเลย แถมอึ๊กับฉี่บ่อยมากๆเลย แทบจะทุกครั้งหลังให้นม ตาลพยายามใช้ผ้าอ้อมผ้าตอนกลางวัน แล้วใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปตอนกลางคืน เนี่ยดีนะที่มีคนช่วยในส่วนของการซักล้างผ้าอ้อม ไม่งั้นแย่แน่ๆเลย ไว้ว่างๆจะเข้ามาเล่าต่อนะคะ ตอนนี้ขอตัวไปงีบก่อนค่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 29 ก.พ. 51 15:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ในที่สุดก็ได้เห็นหลานทู้คนหัวปี น่ารักน่าชังมากๆ ค่ะ เหนื่อยหน่อยนะคะ แต่ดีจังที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะได้แข็งแรงสมบูรณ์ภูมิต้านทานดีสุดยอด ไม่สิ้นเปลืองด้วยค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณตาล อ้อ...คุณเหมียวยิ้ม หนังสือ 9-11 ไม่เคยเกิดขึ้นนี่ชื่อภาษาอังกฤษว่าไรคะ ป้าพยายามมองหาตามรายชื่อหนังสือของชอมสกี้ที่นี่แล้วหาไม่เจอเล่มไหนที่น่าจะใกล้เคียงเล่มนี้เลย เมื่อไหร่ร้านหนังสือเมืองนี้จะมีเทศกาลลดดีๆ กับเขาบ้างน้ออออ... อยากไปงาน warehouse sale ของเอเชียบุ๊คส์บ้างค่ะ ใครได้ไปมาเล่าให้ฟังบ้างเน้อ... จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 29 ก.พ. 51 16:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ลูกชายน่ารักจังค่ะ ตาล  จ้ำม่ำเชียว ท่าจะหลายปอนด์อยู่นะนี่ ตอนแรกนึกว่าตั้งชื่อเผื่อให้ลูกเป็นโปรกอล์ฟเสียอีก 555 เลี้ยงด้วยนมแม่ดีแล้วค่ะ  เหนื่อยหน่อย แต่เพื่อลูก สู้ๆ เข้าค่ะ (คราวนี้หัดไว้เป็นประสบการณ์  คราวหน้าเอาแฝดเลย ตาล) พลาดข่าวเซลส์อ่ะ ไม่ค่อยเช็คเมล์ เสียดายจัง ช่วงแรกของงานเป็นช่วงที่ว่างเสียด้วย เมื่อวานเกือบจะแวะไปงานเซลส์ของเอเชียบุ้ค แต่ไปติดหนึบอยู่ที่คิโนะ เห็นหนังสือไม่คุ้นหลายเล่ม เลยสำรวจเพลินไปหน่อย (แอร์หนาวมากกก)   พอรู้ตัวก็ห้างเกือบปิดแล้ว  คงไม่ว่างไปแล้วมั้ง ...รอฟังข่าวคนได้ไปเหมือนคุณป้าค่ะ เพิ่งสังเกตว่า pocketbook ออกใหม่ของคิโนะเนี่ย ถ้าซื้อตั้งแต่ลด 20% แล้วราคาเหลือเล่มละ 200 กว่าเอง (เฉลี่ยราว 210-220 บาท) สองสามครั้งหลังนี่ได้ติดมือมาสองเล่มบ้าง สามเล่มบ้าง เพราะราคานี่แหละ กองดองมันสูงขึ้นอีกแล้วววววว จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 29 ก.พ. 51 18:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อืมมม หลานน่ากิน... อู๊ปปปปปส์ หลุดปาก 9-11 ไม่เคยเกิดขึ้น ชื่ออังกฤษว่า 9-11 เฉยๆ ค่ะคุณป้า ถ้ามีอะไรต่อท้ายแปลว่าของปลอม ฮ่าๆ หนังสือชื่อนี้เยอะมากๆ เลย เมื่อกี้ดูใน amazon แต่เล่มนี้ขาดตลาดน่ะค่ะ พิมพ์ครั้งล่าสุด ปี 2004 แต่เป็นการรวมบทสัมภาษณ์ป๋าในช่วงเวลาประมาณ 2-10 วันหลังเหตุการณ์เกิดขึ้น บทสัมภาษณ์ดีตรงที่ว่าอ่านง่าย เปรียบเทียบเป็นรูปธรรม แต่เสียตรงที่ไม่ได้มีการลำดับความคิด ตั้งแต่ 1 2 3 ไปจนถึง 10 ก็เลยได้อะไรมาเป็นท่อนๆ น่ะค่ะ หนังสือป๋าที่เป็นภาษาไทยมีอีกเล่ม คือฝ่าพายุก่อการร้าย ซึ่งชื่ออังกฤษว่ากระไรก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้อยากได้และอยากมีเวลาอ่าน Manufacturing Consents (มี s เปล่าหว่า) เป็นที่สุด แต่คงต้องใช้เวลาสักสามเดือนกระมัง ฮือ หนังสือคิโนะที่ลดแล้วเหลือเล่มละ 200 กว่ามันหนังสือเล่มจิ๋วๆ อ่ะยาคูลท์ กำลังขัดอกขัดใจกับ คิโนะมากๆ ที่ตั้งราคาหนังสือหมวด literature แพงค่อดๆ ตอนแรกก็บ่นเฉยๆ ว่าเงินบาทแข็ง ทำไมหนังสือแพงนัก แต่วันนี้ไปเห็น Against the Day (หล่อนจะอ่านจริงๆ เหรอยะ ) ที่เอเชียบุคส์ราคาไม่ถึงสี่ร้อยบาท แต่ที่คิโนะเกือบห้าร้อยแน่ะ สุดท้าย เพิ่งอ่าน การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก (South of the Border, West of the Sun) จบไปค่ะ เป็นความเศร้าที่ซึมๆ ดีจัง จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 29 ก.พ. 51 21:51:02 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ^ เล่มจิ๋วราคานี้ สำหรับเรื่องที่อ่านจบแล้วจบเลย (ประมาณว่าถ้าชอบมากค่อยไปหาเวอร์ชั่นอื่น) เราว่าโอเคอ่ะ   ดีกว่าซื้อปกแข็งมาแพง แล้วดันไม่สนุก กร่อยเลย เห็นด้วยว่ามุม literature นี่ แพงมาก ซื้อไม่ค่อยลงแฮะ มีดีอยู่อย่างคือมักมีเวอร์ชั่นให้เลือกเยอะ  นาน ๆ เดินทีก็จะเจอรูปเล่มแปลกใหม่ล่อตาล่อใจ วันไหนที่ไซส์ B ราคาอยู่ในช่วง 400 ได้ วันนั้นคิโนะจะเป็นสวรรค์ของเรา สงสัยจังว่าคิโนะทำยังไงกับพวกปกแข็งที่เหลืออยู่ หลังปกอ่อนวางแผงแล้ว? มีหลายเล่มที่อยากอ่านเพราะสนใจใคร่รู้สไตล์คนเขียนเฉย ๆ  ถ้าได้ปกแข็งราคาถูกก็คงจะดี เพราะปกอ่อนบางเรื่องใช้ฟ้อนต์เล็กมาก  บางทีเห็นปกแข็งแล้วไม่เห็นปกอ่อนด้วยซ้ำ (หรือตูลืมชื่อเรื่องเองหว่า?) ปล. เหมียวยิ้มอ่านอะไรซีเรียสมาก  โปรดระวังตีนกา 5555 ปล.เพิ่ม เห็นฉบับแปลของ Thirteenth Tale เมื่อกี้เอง พร้อม Tunnel แนวเยาวชนที่เล็งไว้นานแล้ว  มีแนวประวัติศาสตร์(มั้ง) ชื่อปิระมิดนโปเลียนอีกเล่ม เอ่อ พวกนี้นี่ ถ้าจำไม่ผิด ราคา 395 โดยเฉลี่ยค่ะ พ็อคเก็ตบุ้คทั่วไปราคาลดเหลือ 200-300 บาท ...โปรดเปรียบเทียบราคา แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 51 02:13:10 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 1 มี.ค. 51 02:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 50 โอ้โห หลานน่ารักมากเลย พอโตหน่อยแล้วต้องเอามาให้ป้าๆ น้าๆในทู้ได้อุ้มนะคะ ยินดีกับน้องตาล และ สามีมากๆๆๆเลย ขอให้ลูกโตไวๆ เป็นหนุ่มก็ขอให้หล่อสุขภาพแข็งแรง สาวๆติดเกรียวนะคะ จากคุณ : พี่เพติ๊ด (petitfour) - [ 1 มี.ค. 51 11:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ ชี้ไปที่นมเปรี้ยว เคยเห็นแมวที่ไหนมีตีนกาเหรอยะ เห็นฉบับแปล 13th Tale แล้วเหมือนกันค่ะ หน้าปกไม่สวยเลย เซร็งมากมาย แต่ก็ยังดูดี กว่าที่ขึ้นในเว็บ เฮ้ออออออ ว่าแต่ว่า Tunnel ออกแล้วเหรอ เร็วดีจัง โดยทาง (by the way กร๊าก) 13th tale เล่มประมาณ 350 ค่ะ ราคาหนังสือไทยแพงขึ้น อย่างน่ากลัว อ้อ แล้วก็เห็นประวัติศาสตร์ของทุกสิ่งทุกอย่างของบิล ไบรสัน ฉบับภาษาไทยออกมาแล้วด้วยค่ะ เล่มเล็กผิดคาดมากๆ เลย ของสนพ. วงกลมค่ะ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 1 มี.ค. 51 13:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ฮัลโหลลลลล ยังจำหนูได้ไหมค้า (หายตัวไปประมาณสามชาติกว่า -_-") อยากทะลายกองดองกับเขามั่งจัง แต่ขอลดลงตามเดือนได้ปะ นะ นะ วันที่ไปเยี่ยมหลานน้อยไปไม่ทันเห็นหลานอยู่กับคุณแม่ แต่ไปเกาะดูที่ห้องเด็กแรกเกิดมาค่ะ หลับปุ๋ยเลย (ความจริงแอบถ่ายรูปผ่านกระจกมาด้วย แต่ลืมเอามาแปะ -_-") ช่วงนี้แทบไม่ได้อ่านอะไรเลยค่ะ (ปั่นงานเลือดตาแทบกระเด็น อ๊ากก) มีเวลาว่างบ้างก็ไปดูซีรี่ย์เสียนี่ (Heroes สนุกจังอะ ชอบ ชอบ) แต่พอหนังสือที่ฝากชาวบ้านหิ้วมาจากเมกาฯเพิ่งถูกส่งมาถึงมือ ก็คาดว่าจะได้เวลาอ่านกันแล้วล่ะนะ (ที่จริงก็เคลียร์ไป 1 เล่มแล้วล่ะ) ปล. ยังไม่ถูกหวยเลยค่ะพี่ตาล งวดนี้ถูกกินตามเคย ถ้าหลานให้เลขเด็ดอย่าลืมบอกกันบ้างนะค้า (หาตังค์ไปงานหนังสือ อิอิ) แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 51 18:30:42 จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 3 มี.ค. 51 18:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาทับถมคนข้างบน แม่เค้าถูกเลขท้ายสามตัวตั้งแปดใบแน่ะ อิอิ แต่ต้องซื้อร้อยงวดถึงจะถูกสักงวดนะ -*- ยินดีกับตาลด้วยจ้า อยากไปช้อปปิ้งหาของรับขวัญหลานยังไม่มีเวลาเลย ฮือๆๆ ขอให้สุขภาพแข็งแร็ง เลี้ยงง่ายๆโตไวๆนะจ๊ะ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 4 มี.ค. 51 11:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ยินดีด้วยจ้าพี่ตาล + น้อง Tiger จากคุณ : แพนด้ามหาภัย - [ 13 มี.ค. 51 19:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 น้องทินา ถ้าอยากได้เลขเด็ด อาจต้องรอให้หลานเขียนตัวเลขได้ก่อนค่ะ พ่อพี่ทำบ่อย ตอนหลานเขียนได้แล้วแต่ยังไม่ค่อยรู้ความ พ่อชอบหลอกให้หลานเขียนเลขอะไรก็ได้ให้ 2 ตัวบ้าง 3 ตัวบ้าง แล้วก็เอาไปแทงหวย 5555 ... เคยถูกด้วยนะ หนเดียว (แต่โดนกินหลายหน) ช่วงนี้ติดหนังไซไฟเหมือนกันค่ะ หลังจากเผอิญได้ดูมินิซีรี่ส์ The Lost Room ฉายติดกันรวดเดียวจบ เลยรอหาดูรีรัน  รอบรีรันจะแยกฉาย 3 วัน  เพิ่งดูตอนอวสานไปเมื่อคืน ชอบมากเลย  เดี๋ยวจะลองไปหาแผ่นมาเก็บไว้   แอบคิดด้วยว่าถ้าเรื่องนี้เป็นนิยาย น่าจะใส่รายละเอียดได้มากกว่านี้ และน่าจะมีตอนต่อด้วย  น่าจะอ่านได้เป็นล่ำเป็นสัน   ใกล้งานสัปดาห์แล้ว ตอนนี้กำลังเริ่มคิดค่ะว่าซื้อเล่มไหนดี ปัญหาคือ เวลาเข้าไปอ่านแนวสาระในร้าน มักจะเปิดอ่านไปเรื่อย ๆ มีอยู่ 2-3 เล่มที่ไปอ่านเกินครึ่งเล่มแล้วก็วาง คิดว่าจะไปอ่านต่อทีหลัง หรือไม่ก็ไปซื้อในงาน (คือ ถ้าหลายวันแล้วยังอยากอ่านต่อ แสดงว่าชอบ ซื้อได้น่ะ) ทีนี้ ดันเป็นพวกปลาทอง  จำชื่อเล่ม ชื่อคนแต่งหรือสำนักพิมพ์ไว้ทีไร กลับบ้านมาไม่กี่วันก็ลืมทุกที  กลับไปเดินที่ร้านก็หาไม่เจอแล้ว ....เศร้าจริง ๆ ชีวิต T__T ว่าแต่ ใครมีลิสต์อะไรไว้ในใจบ้างเอ่ย? มาบอกกันหน่อยค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 14 มี.ค. 51 11:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มาขอแจม โครงการด้วยคนได้ไหมคะ แต่อ่านอยู่ที่ประเทศไทยนะคะ ดังนั้น หนังสือต่างประเทศ คงจะอยู่ในเวอร์ชั่นแปลเท่านั้นค่ะ เพราะสุขภาพภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เห็นกระทู้ตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งจะได้เข้ามาห้องนี้ หวังว่าคงยังไม่สายนะคะ เดี๋ยวขอไปทำลิสต์มาก่อนค่ะ จากคุณ : ม่านฝน - [ 14 มี.ค. 51 22:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ลิสต์มาแล้วค่ะ เห็นลิสต์แล้ว ขออนุญาตแอบอ่อนใจนะคะ T_T มีแต่หนังสืออ่านยากๆที่ดองไว้อ่ะค่ะ แต่เป็นเพราะโปรเจ็คนี้ ทำให้ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง ๑. JAZZ อิสรภาพทางดนตรีของมนุษยชาติ เขียนโดย อนันต์ ลือประดิษฐ์ ๒. The God of Small Things เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ เขียนโดย อรุณธตี รอย แปลโดย สดใส ๓. ความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต มิลาน คุนเดอรา เขียน ภัควดี วีรภาสพงษ์ แปล ๔. เออเฌนี กร็องเด้ต์ ออนอเร่ เดอ บัลซัค เขียน วัลยา วิวัฒน์ศร แปล ๕. ศิลปะแขนงที่เจ็ด เพื่อวัฒนธรรมแห่งการวิจารณ์ภาพยนตร์ บุญรักษ์ บุญเขตมาลา เขียน ๖. ความหลากหลายของชีวิต ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ธีรยุทธ บุญมี เขียน ๗. โลกยุคหลังบรรษัท ชีวิตหลังทุนนิยม เดวิด ซี. คอร์เทน เขียน  เจษณี สุขจิรัตกาล แปล ๘. งานกับคุณค่าของชีวิต อี.เอฟ ชูมาร์กเกอร์ เขียน ภาวนา ยมกนิษฐ์ แปล ๙. บันทึกของแองเจลินา โจลี เสาวลักษณ์ ลีละบุตร แปล ๑๐. ยิว ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียน ๑๑. You are there for I am มีเธอจึงมีฉัน สาทิศ กุมาร เขียน ทาคินี แปล ๑๒. Small is beatiful จิ๋วแต่แจ๋ว(ไม่ชอบคำแปลชื่อเป็นภาษาไทยเลยแฮะเล่มนี้ น่าจะแปลว่า เล็กๆแต่งดงาม อะไรอย่างงี้มากกว่า) อี.เอฟ ชูมาร์กเกอร์ เขียน สมบูรณ์ ศุภศิลป์ แปล ขอสำรองแค่เล่มเดียวนะคะ ยูโธเปีย ของ โทมัส มอร์ สมบัติ จันทรวงศ์ แปล ขอสิ่งศักสิทธิ์อวยพรให้ความฮึดบังเกิดจริงด้วยเท้อดค่า... ---------------------------------- เป็นกำลังใจให้ เจ้าของกระทู้ และผู้เข้าร่วมทุกคนด้วยนะคะ ขอเชียร์ให้อ่านเรื่อง Life of Pi : Yann Martel พาย พาเทล กันก่อนเป็นอันดับต้นๆค่ะ เพราะอ่านง่าย เนื้อหาสนุก อ่านนานแล้ว  อ่านแล้วก็รู้สึกรักหนังสือเล่มนี้มากพอสมควร ดีใจที่มีหนังสือเล่มนี้ไว้ในหิ้ง ^_^ จากคุณ : ม่านฝน - [ 14 มี.ค. 51 23:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีค่ะ เพิ่งเห็นว่าเมืองที่ป้าอยู่มี International Book Fair จัดโดยใช้ Organizer จาก Frankfurt Book Fair ซะด้วย แต่แล่นไปจัดซะนอกเมืองไกลโพ้น คนไม่มีรถอย่างเราก็อด.... ขาไปไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ นั่งแท๊กซี่จากในเมืองไปได้ (อาจต้องจ่ายซักห้าร้อยกว่าๆ...เอิ้กกกก...) แต่ขากลับมีแต่เดินกับเดิน ยังไม่ถึงครึ่งทางก็คงได้ที่ เป็นเนื้อแดดเดียว สุกกำลังดี กินได้เลยไม่ต้องทอด... แต่ไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่หรอกค่ะ ตลาดหนังสือ (ภาษาอังกฤษ) ที่นี่ไม่เฟื่องฟู คงไม่มีคนมาร่วมงานสักเท่าไหร่ เขาเน้นการโปรโมตธุรกิจสิ่งพิมพ์ภาษาอารบิกเป็นหลัก... เพียงแต่อดไปเดินดูชีคหนุ่มหน้าคม ให้ชื่นตาเท่านั้นเอง บ่นมายืดยาวด้วยความอิจฉางานสัปดาห์หนังสือที่เมืองไทยค่ะ ถึงจะเสียงดัง จอแจ อุดมด้วยพริตตี้ แต่ก็ยังพอไปไหว ได้หนังสือหายาก ราคาถูกกลับมาบ้าง แถมหนังสือพิมพ์อังกฤษที่ลุงรับมาอ่านทุกสัปดาห์ยังมีโฆษณา Oxford Book Festival เห็นรายการกับรายชื่อนักเขียนที่ไปร่วมงานแล้วอยากไปจังถ้ามีทีมฟุตบอลอยู่ที่อังกฤษจะไปเที่ยวงานหนังสือที่นั่นทั้งปีเลย.... อยากได้เรื่องเปิดโปงกลโกงบริษัทยาข้ามชาติ อะไรทำนองนี้ ที่งานหนังสือเขาจะมีขายไหมคะคุณติ่ม รู้สึกจะเป็นหนังสือแปล แต่ป้าหาชื่อหนังสือภาษาอังกฤษไม่เจอ ฉบับภาษาไทยก็ไม่รู้ของสำนักพิมพ์ไหน ป้าติด Heroes อยู่พักนึงเหมือนกันค่ะคุณทินา โม้ดี...ดูแล้วไม่ต้องคิดมาก กำลังจะได้ดูซีซั่นสองเร็วๆ นี้ ฝากดูเทรนด์หนังสือในงานสัปดาห์หนังสือให้ด้วยค่ะว่าปีนี้เมืองไทยเขาฮิตอะไรกัน ป้าดูรายการของฝั่งอังกฤษรู้สึกว่าปีนี้นักเขียนใหญ่ๆ ยังไม่มีงานใหม่ออกมาสักเท่าไหร่ และไม่มีหนังสือที่เป็นแนวเด่นๆ ออกมาอย่างปีก่อนๆ หนังสือขายดีส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือที่เอาไปทำเป็นหนัง The other Boelyn Girl กลับมาขายดีอีกแล้วค่ะ (ลุงไม่ยอมเชื่อตอนที่ป้าบอกว่าอีริค บานาเป็น King Henry VII (หรือ VIII หว่า) เขาบอกว่าเป็นการบิดเบือนอย่างแรง... ทำยังกะไม่รู้จักฮอลลีวู้ด) อยากสมัครสมาชิกนิตยสารจากเมืองไทยค่ะ คิดไว้สามสี่เล่ม คือขวัญเรือน สกุลไทย คู่สร้างคู่สม มติชนสุดสัปดาห์ มีคำแนะนำกันบ้างไหมคะว่าเล่มไหนที่น่าจะคุ้มค่าน่าสมัครที่สุด หรือมีเล่มอื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม (และเขาส่งออกนอกประเทศ) ก็แนะนำด้วยนะคะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 18 มี.ค. 51 14:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อ่า ยินดีต้อนรับคุณม่านฝนค่ะ ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ อ่านเรื่องงานหนังสือที่เมืองคุณป้าแล้วรู้สึก deja vu ไงพิกลแฮะ มันเคยเกิดขึ้น แล้วใช่ไหมนี่ ตอนนี้ติดสามก๊กค่ะ หนุกหนานๆ เมื่อก่อนเคยพยายามอ่านหนังสือ แต่ไปไม่รอด ตอนนี้ก็หาหนังสือไม่เจอแล้ว แย่จังเลย แต่พอถึงตอนเด็ดๆ ก็มีอันให้ต้องมีเรื่องให้อยู่ดูไม่ได้ทุกทีไป ตอนเตียวเสี้ยนออก ก็ทีนึงแล้ว จำไม่ได้ว่าไปไหน แต่เมื่อคืนนี้ตอนจิวยี่ตาย อุตส่าห์ลุ้นรอฟังประโยคเด็ด มาตั้งหลายวัน แต่ดันมีนัดกับหนุ่มเสียนี่ กรั่กๆ เวลาหนุ่มหล่อๆ เล่นตลกคาเฟ่นี่ มันก็น่ารักดีเหมือนกันนะคะ ฮามั่กๆ หัวเราะ เสียสติ ทั้งที่จริงๆ น่ะไปดูคอนเสิร์ท แต่ดันมีตลกแถม อ่ะนะ สุดท้ายเวลานึกถึง ก็จำได้แต่เรื่องตลก ไม่ได้นึกถึงเพลงเล้ย จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 18 มี.ค. 51 20:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณม่านฝนอ่านแนวมีสาระจังค่ะ   แหะแหะ TBR ตัวเองยังร่อแร่อยู่เลย   คุณป้าคะ แนวกลโกงข้ามชาติเล่มล่าสุดที่เปิดจะเป็นหลาย ๆ เคสรวมกันค่ะ จำเอนรอนได้เคสเดียว พอดีไม่ได้ตั้งใจอ่านด้วย เลยไม่รู้ว่ามีเรื่องยารึเปล่า แต่ไม่น่าจะใช่เล่มที่คุณป้าพูดถึงนะคะ ไว้เดี๋ยวจะมองหาไปพร้อมกับเวลาสอดส่ายสายตาซอกแซกไปเรื่อย ๆ ค่ะ  ถ้าหนังสือยังมีขายอยู่ คงได้เจอสักวัน   ...นึกถึง Constant Gardener ขึ้นมาเลย เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้พอดี ถ้ามีหนังสือเขียนเรื่องพวกนี้ในเชิงลึกจริง ๆ น่าจะสนุกนะ  เข้ากับสถานการณ์ในไทยตอนนี้ดีด้วย เรื่องนิตยสารนี่ไม่มีข้อมูลค่ะ เป็นพวกรอรวมเล่มอย่างเดียว อยากดู Heroes เหมือนกัน  Numbers ด้วย (เอ ตัวอีต้องเป็นเลข 3 ใช่ปะ?) ทำไมเวลาว่างดูหนัง ไม่เคยเปิดเจอเรื่องพวกนี้เลยฟะ  เจอแต่ยัยมาร์ธาอยู่ได้  ตูจะบ้าตาย วันก่อน เปิดไปทันดู Stranger Than Fiction ครึ่งหลัง  กรี๊ดมาก เพราะอยากดูตั้งแต่เห็นยูบีซี (ทรูวิ) โฆษณาเมื่อเดือนก่อนแล้ว   ชอบเสียงเอ็มม่า ธอมป์สันมากเลย   ไว้คุยกันค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 มี.ค. 51 08:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ข่าวด่วนค่ะ ป๋าแอนโทนี่ มิงเกลล่า ผู้กำกับ The English Patient เสียชีวิตแล้ว เมื่อตีห้าวันที่ 18 ตามเวลาในอังกฤษ เพราะเสียเลือดมากหลังการผ่าตัดเนื้องอก (ข่าวบางกระแสบอกว่าเป็นมะเร็ง) ที่คอ อายุเพิ่ง 54 เท่านั้นเอง น่าเสียดายจริงๆ ขอให้ป๋าพักผ่อนอย่างสงบนะคะ รู้ข่าวเพราะเงยหน้าขึ้นเห็นตอนท้ายๆ ตัววิ่งในทีวี เห็นคำว่าอาการเลือดออกไม่หยุด ก็คิดว่าคงมีใครตายแน่แล้ว จากนั้นก็ตามมาด้วย "ผลงานสร้างชื่อของเขาคือ The English Patient" เลยนึกว่าเรฟ ไฟนส์หรือเปล่าหว่า แต่แล้วก็ต่อด้วย "และ The Cold Mountain" ก็ชัวร์ว่าป๋าแน่ เลยเปิดเน็ทเช็คข่าวให้แน่ใจอีกที บ๊ายบายค่ะป๋า จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 19 มี.ค. 51 09:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่า กลับมาอีกในเวลาอันรวดเร็ว ปู่อาเธอร์ ซี. คลาร์คเสียชีวิตแล้วเช่นกันค่ะ ปิดฉากยุคสามผู้ยิ่งใหญ่ในวงการนิยายวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ แต่ปู่ก็อายุ 90 แล้ว สมควรแก่การพักผ่อนเสียที ขอให้นอนหลับอย่างสงบนะคะ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 19 มี.ค. 51 11:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มาอึ้งกับข่าวล่าด้วยคน เมื่อเช้าอ่านข่าวเหมือนกันเลยแมวยิ้ม ตกใจว่าทำไมจากไปพร้อมๆกัน ก็ขอให้ไปสู่สุคติกันทุกท่านนะคะ (ไม่แน่ท่านอาจจะคุยกันอยู่ก็ได้นา) คุณป้าคะ อ่านรายการหนังสือของคุณป้าแล้ว จากประสบการณ์การอ่านของพัท ขอแนะนำตามนี้ค่ะ 1. อ่านเอามัน คู่สร้างคู่สมเลยค่ะ แต่แบบว่าออกแนว stranger than fiction ชีวิตต่างแดน เน้นผัวเมียละเหี่ยใจไรงี้นะคะ (แต่มันจริงๆนะ ขอบอก โฆษณายังมันเลยค่ะ เอิ้ก) ข้อเสียคือบางทีข้อเท็จจริงไม่ตรงอ่ะค่ะ แต่คอลัมน์และความขายดีขอโบก ขอบอกว่าสุดยอด หลายแนวมากจนจับไม่ถูก ก้าก เป็นหนังสือที่มียอดขายต่างประเทศสูงมากค่ะ (สมัยพัทอยู่โอมาน คุณดำรงค์กับคณะได้แวะไป โหยยยย พี่ๆคนไทยบอกให้พัทขอหนังสือกันใหญ่ คุณดำรงค์ก็ใจดีค่ะ เอามาให้เยอะแยะเลย) 2. อ่านแล้วตั้งตารอ ก็ต้องสกุลไทยสิคะคุณป้า เพราะว่าพอคุณป้าได้อ่านนิยายสารพันแล้ว คุณป้าก็จะต้องนับวันรอๆๆ แล้วก็รอ ว่าเมื่อไหร่เล่มต่อไปมันจะมาซะที ฮึ่ม นิยายสนุกทุกเรื่องจริงๆนะคะ ขนาดพัทกลับไปยังไปขนมาอ่านเป็นตั้งเลย ดีนะไม่ต้องรอ อิอิ คอลัมน์สัมภาษณ์ก็ดีนะคะ แต่อื่นๆจะไม่เร้าใจ หวือหวาเหมือนเล่มแรก 3. อ่านเพื่อความเป็นแม่เหย้าแม่เรือน ก็ขวัญเรือนค่ะ แต่ว่าหนังสือเขามีคุณภาพจริงๆนะ ยิ่งคอลัมน์ต่างประเทศนี่สุดยอดค่ะ อาจารย์พัทเคยบอกว่านักศึกษาไม่ค่อยรู้ว่านิตยสารผู้หญิงเล่มนึงมีคอลัมน์ตปทดีมาก พัทเลยบอกไปว่าขวัญเรือน หูย คนมองทั้งห้อง แต่ถูกนา อุอุ นิยายสนุก กับข้าวอร่อย มีส่วนของเด็กน้อยด้วย แต่แฟชั่นจะเรียบร้อยไปนิ้ดดดดค่ะ 4. อ่านเพื่อติดตามวงการเมืองไทย ก็มติชนสุดสัปดาห์ค่ะ แต่ถ้าถามพัทนะ สมัครอ่านออนไลน์จะคุ้มกว่าไหมคะ เพราะว่าอันนี้ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ มันไม่ใช่หนังสือที่เราอยากอ่านซ้ำแล้ว ซ้ำอีกน่ะค่ะ หรือเอาไปอ่านในห้องน้ำไรงี้ (เค้าให้ไปปลดทุกข์ ยิ่งอ่านข่าวการเมืองจะยิ่งชอกช้ำอ่ะค่ะ) สรุปว่าถ้าเป็นพัท พัทอยากอ่านนิยายเป็นหลักเวลาอยู่ตปท ก็จะเลือกสกุลไทยค่ะ อื่นๆที่ส่งก้เห็นมีแพรวไรงี้นะคะ แต่พัทเฉยๆค่ะคุณป้า เห็นด้วยกะคุณลุงค่ะ อีริค บานาเข้มไปซะทั้งตัว แสดงเป็นเฮนรี่ที่แปด ราชารูปทอง เอาเข้าไป พี่ติ่ม stranger than fiction สนุกมากเลย ชอบอ่ะ แต่ตอนจบเอาใจฮอลลีวู้ดไปนิด สวัสดีคุณม่านฝนด้วยนะคะ ชื่อเพราะจัง จากคุณ : Il Maze - [ 19 มี.ค. 51 16:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตกสายมาวันนี้เห็นข่าว Paul Scofield เพิ่งจากไปอีกคน ตกกะใจอีกแล้ว... เฮ้อ สองวันนี่มีแต่ข่าวเศร้าๆ คุณเหมียวยิ้มที่เดจาวูนั่นสงสัยเป็นเพราะป้าบ่นซ้ำเหมือนเมื่อปีกลาย...แหะๆ แก่แล้วก็เงี้ย...ย้ำคิดย้ำทำ ขอบคุณข้อมูลค่ะคุณพัท (เขียนยังกะรู้ใจว่าจะหาหนังสือไว้อ่านในห้องน้ำ) สี่เล่มที่เลือกมานี่เคยซื้อเป็นระยะๆ ตามอารมณ์ค่ะ พวกนิตยสารอาบมันราคาแพงนี่ไม่เคยซื้ออ่านเลย ส่วนใหญ่มีคนบริจาคให้... ความจริงสนใจสกุลไทยที่สุด แต่บางช่วงนิยายในสกุลไทยก็ไปทิศทางเดียวกันหมดจนน่าเบื่อ และคอลัมน์อื่นๆ น้อยไปนิด ชอบคอลัมน์ในขวัญเรือนค่ะ ติดตรงที่ว่าคงไม่ได้อ่านซะครึ่งเล่มเพราะแฟชั่นกับการฝีมือตัดไปได้เลย ส่วนของกินก็คงได้แต่ดู :( คู่สร้างคู่สมนี่ชอบตรงที่เปิดไปหน้าไหนก็อ่านได้หมด ไม่ต้องการ attention span มาก อ่านแล้วก็แล้วกันไม่มีอะไรต้องคิดมาก (เหมาะกับการเข้าห้องน้ำจริงๆ) ตอนนี้ตัดมติชนไปแล้วค่ะ เพิ่งนึกได้ว่าบางช่วงเอียงกะเท่เร่ซะจนน่าโมโห... เป็นเหตุผลที่ทำให้เลิกซื้อมติชนไปพักใหญ่เลยละค่ะ เรื่องบริษัทยานี่อยากเห็นคนเอามาเขียนให้อ่านง่ายๆ ค่ะ ข้อมูลบางอย่างชวนให้ปวดใจจริงๆ ป้าอ่านกระทู้แนะนำในห้องสวนลุมฯ เรื่อง CLยาซะจนปวดหัว และเมื่อสองวันก่อนนั่งดูสารคดีสั้นๆ เกี่ยวกับการทดลองผลข้างเคียงของยาโดยบริษัทอเมริกันแล้ว...เอ้อเฮออออ... สะเทือนใจค่ะ ป้าเคยอ่านสามก๊กค่ะ ติดยังกะอ่านนิยายกำลังภายใน (อ่านของเจ้าพระยาพระคลังฯ รอบเดียวค่ะ และก็อ่านของนายหนหวยอีกรอบ) มีฉบับของหม่อมคึกฤทธิ์ที่แยกเป็นตัวละครแต่ละตัวนั่นก็สนุก เมื่อก่อนมีครบ แต่รู้สึกจะโดนปลวกกินไปเกือบหมดแล้ว สงสัยงานหนังสือปีนี้คงมีการพิมพ์ใหม่ออกมาขายแข่งกันแน่ๆ เลย คิดแล้วก็อยากอ่านอีกรอบแฮะ ตอนนี้ลืมๆ ไปหมดแล้ว ไว้คุยกันใหม่ค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 21 มี.ค. 51 01:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คนเก่งล่วงลับดับสูญไปตาม ๆ กัน   RIP ค่ะ คุณป้า สามก๊กตอนนี้ก็มีพิมพ์ใหม่หลายสำนวนมากค่ะ  ที่จัดชุดใส่กล่องไว้สวยงามนี่มีอย่างน้อย 3 สำนวนได้  ไม่รวมพวกแยกตัวละครอีกสองหรือสามแบบ   เคยอ่านกระทู้เรื่อง CL อยู่บ้างเหมือนกัน ปวดหัวเช่นกันค่ะ  ตอนคุณป้าถามถึงหนังสือก็คิดว่าจะลองไปหาที่อ่านง่ายๆ มาใส่สมองตัวเองด้วย ในงานสัปดาห์คราวนี้ คิดว่าคงไปหาเรื่องสิทธิบัตรยานี่ กับเรื่องเครื่องเร่งอนุภาคแอตลาสที่เขาสร้างกันอยู่ใต้ดินค่ะ  (ถ้าได้ทุกเครื่องที่อยู่ใกล้กันในเมืองแถบยุโรปเลยยิ่งดี รู้สึกจะมีอีกเครื่องชื่ออลิซ กับอีกเครื่องที่จำชื่อไม่ได้)  เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เองว่าฟิสิกส์อนุภาคเขามีทฤษฎีใหม่ ๆ หลายอย่าง ทั้งเรื่องฮิกส์โบซอน ควาร์ก กลูออน แล้วก็ทฤษฎีสตริง  แบบว่างงงวยเหมือนหัวชนกำแพง อยากได้หนังสือแนะนำพื้นฐานอ่านง่าย ๆ มาอ่านอยู่เหมือนกัน อ่านเม้นท์คุณป้ากับพัทแล้ว เกิดไอเดียว่าสนพ. ควรคิดค้นหากระดาษชำระเนื้อเหนียวหนากว่าปกติ มาจัดทำเป็นหนังสือทิชชู่  เน้นสำหรับหนังสือที่เนื้อหาไม่จำเป็นต่อการเก็บถาวร อ่านเสร็จเช็ดก้นต่อได้  (แบบเดียวกับทิชชู่ puzzle ที่เคยทำออกมาให้เล่นปริศนาไป ปลดทุกข์ไป สมัยก่อน)  ผลิตภัณฑ์นี้น่าจะเวิร์คมาก เป็นการช่วยประหยัดทรัพยากรโลกด้วย วันนี้มาแนวมีสาระ ผิดปกติอย่างยิ่ง 555 ขอตัวไปเลี้ยงหลานต่อค่ะ จากคุณ : แนนนี่ติ่ม (ยาคูลท์) - [ 21 มี.ค. 51 11:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 66 กำ พิมพ์ๆ แล้วหายหมด จะบอกว่าเพิ่งรู้อ่ะค่ะคุณป้า ว่าปู่พอล สกอฟิลด์ "เพิ่งจะ" เสียชีวิต เข้าใจว่า ปู่ไปสวรรค์แล้วมาตลอด เง่อ เรื่อง (ด้านมืด) ของยาเนี่ย เคยเห็นอยู่เล่มหนึ่งค่ะ จำหน้าปกได้แม่น แต่จำชื่อ หนังสือและชื่อคนเขียนไม่ได้เลย แต่ถ้าฉบับภาษาไทยมีอยู่เล่มหนึ่ง อาจจะน่าสนใจ เป็นหนังสือแปลค่ะ ชื่อ "ใบสั่งยาอาจฆ่าคุณ" ปกสีส้มๆ ตัวหนังสือใหญ่ๆ เต็มหน้า เรื่องควอนตัมฟิสิคส์ (อันเดียวกับเปล่า??) นี่เคยมีลงเป็นตอนๆ ในสารคดีค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเล่มไหนถึงเล่มไหน และมีรวมเล่มหรือยัง เพราะไม่ได้อ่านเองค่ะ มีคนอ่านแล้วมาเล่าให้ฟังอีกที จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 21 มี.ค. 51 14:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ^ น่าสนจัง  แล้วจะมีรวมเล่มไหมเนี่ย? ไม่รู้เหมือนกันว่าเนื้อหาส่วนที่อยากรู้มันอยู่ในหมวดอะไร คือจริง ๆ มันเป็นเรื่องฟิสิกส์อนุภาคนะ แต่โยงไปถึงทฤษฎีกำเนิดจักรวาลด้วยน่ะ ใน "ประวัติย่อของเกือบทุกสิ่ง" ก็พูดถึงเรื่องนี้อยู่บทนึง แต่จริง ๆ มันมีเนื้อหาอัพเดทกว่าในเล่มแล้วน่ะ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) อย่างไรก็ตาม ประวัติย่อฯ เป็นหนังสือที่น่าอ่านดีค่ะ  จับเข้าลิสต์ละ คุณป้า วันนี้ไปเจอหนังสือที่พอจะเข้าข่ายค่ะ ชื่อ "กระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ"   แปลจาก The Truth About the Drug Companies ของ Marcia Angell M.D. โดย สนพ. หมอชาวบ้าน พิมพ์ 2549 สารบัญ: ยาไม่เหมือนสินค้าอื่น, ธุรกิจยักษ์สองแสนล้านเหรียญ, การสร้างยาใหม่, อุตสาหกรรมยาใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนายามากน้อยเพียงใด?, อุตสาหกรรมนี้รังสรรค์นวัตกรรมอย่างไร, ยาต่อ-ท้าย (Me-Too Drugs) ธุรกิจหลักของอุตสาหกรรมยา, ยาใหม่นั้นดีอย่างไร, การขายที่ดุเดือด...สิ่งล่อใจ เงินสินบน และการให้ประโยชน์ในทางมิชอบ, การตลาดที่สวมหน้ากากแสร้งว่าเป็นการให้ความรู้, การตลาดที่สวมหน้ากากแสร้งว่าเป็นการวิจัย, เกมสิทธิบัตร-การยืดเวลาการผูกขาด, อิทธิพลต่อการซื้อ- อุตสาหกรรมได้สิ่งที่ต้องการมาอย่างไร, งานเลี้ยงเลิกราหรือยัง, อุตสาหกรรมยาจะอยู่รอดได้อย่างไร และเงินของประชาชนจะใช้อย่างคุ้มค่าได้อย่างไร เพิ่มเติมลิงค์ http://www.ftawatch.org/news/view.php?id=9369 ลิงค์ข้อมูลหนังสือเล่มนี้กับอีกเล่ม http://www.se-ed.com/eShop/Search/SearchList.aspx?SearchType=normal&name=%a1%c3%d0%aa%d2%a1%cb%b9%e9%d2%a1%d2%a1%b8%d8%c3%a1%d4%a8%c2%d2%a2%e9%d2%c1%aa%d2%b5%d4 เท่าที่ถามคนขายดู  เขาบอกว่ามีเล่ม 1 อีกเล่ม ออกก่อนหน้าเล่มนี้ปีสองปี ชื่อเหมือนกันและขายดีมาก ไม่รู้จะพิมพ์มาอีกไหม   แต่ติ่มเปิดดูเล่มนี้ก็เห็นว่าใจความสมบูรณ์ในตัวดีแล้ว ดูไม่เหมือนเป็นเล่มต่อ  เลยงงนิดหน่อยว่ามีอีกเล่มจริงรึเปล่า  (แต่คนแต่งมีงานเขียนก่อนหน้านี้อีกเล่ม เป็นเรื่องของนมเทียม) ... ถ้าคุณป้าสนใจ จะฝากซื้อหรือยืมก็ได้นะคะ  วันนี้ซื้อมาแล้วเพราะเห็นว่าเนื้อหาให้ข้อมูลดีสำหรับคนนอกวงการ วันนี้ได้หนังสือดีหลายเล่มเลยค่ะ  ได้นิยายเก่าเรื่องที่อยากได้อยู่  และเจอเล่มที่เคยเปิดอ่านแล้วจำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วย  คนแต่งพยายามจะตามรอยเนื้อหาในพระอภัยมณีของท่านสุนทรภู่ว่าท่านแต่งโดยอ้างอิงทำเลเมืองอะไร บุคคลไหนในประวัติศาสตร์  อ่านแล้วก็เพลิน ๆ ดี (แบบรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง) ไว้คุยกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 01:22:32 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 01:16:59 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 22 มี.ค. 51 01:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณจริงๆ ค่ะคุณติ่มที่อุตส่าห์หาชื่อหนังสือมาจนได้ เล่มนี้เลยละค่ะที่นึกถึงอยู่ ลองไปดูข้อมูลในกูเกิ้ลแล้วคุณหมอ Angell คนนี้แกมีงานเขียนบทความให้ลองอ่านอยู่เยอะเชียว อันข้างล่างนี้เซฟไว้รอพรินท์ออกมาอ่านอีกที ไม่ได้เก็บลิ้งค์ไว้ค่ะ ใครสนใจลองกูเกิ้ลดูนะคะ The Truth About the Drug Companies - The New York Review of Books.htm ไม่ฝากคุณติ่มซื้อค่ะ เพราะกว่าจะได้กลับเมืองไทยก็อีกปี แต่ถ้าโชคดีวีซ่าผ่านป้าจะได้ไปนิวยอร์คกลางปีนี้ ตั้งใจไปเดินหาหนังสือตามร้านมือสองอยู่แล้ว ตอนนี้กำลังหาข้อมูลกับคิดรายชื่อหนังสืออยู่เ เน้นหนังสือเก่าหน่อยค่ะ ใครมีเรื่อง (หรือร้าน) แนะนำก็บอกมาเลยนะคะ ฟิสิกส์เป็นเรื่องสุดท้ายในโลกที่คิดจะอ่าน... เคยสอบคะแนนเต็มร้อยได้เจ็ด แค่เห็นคุณเหมียวยิ้มเขียนคำว่าควอนตัมป้าก็หัวหมุนสามตลบแล้วค่ะ เป็นศาสตร์ที่สมองไม่ยอมเรียนรู้เอาเสียเลย... เคยอ่านใครบางคนบ่นๆ ว่าหนังสือบางประเภทไม่คู่ควรกระทั่งจะทำเป็นกระดาษเช็ดก้น (เช่นพวกแฉๆ ทั้งหลาย) ถ้าทำตามความคิดคุณติ่มจะมีนักเขียนที่ไหนยอมขายลิขสิทธิ์ให้เอาไปทำหนังสือเพื่อประโยชน์ข้างเคียงอย่างว่ากันล่ะ ถึงจะช่วยภาวะโลกร้อนก็เถอะ แม้แต่หนังสือ inconvenient truth ก็คงไม่ยอม... จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 22 มี.ค. 51 17:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มาขอพายุสมองหน่อยค่าาาา มีเพื่อนอ่าน The Thirteenth Tale แล้วชอบมาก อยากหาอย่างนี้อ่านอีก มีใครแนะนำเล่มไหนบ้างคะ ให้อ่าน Fingersmith แล้วไม่ค่อยชอบนัก (อ่านก่อน 13 อีก) บอกว่าตอน ท้ายๆ น่าเบื่อ ทั้งที่เราว่าตอนท้ายๆ นี่สนุกสุดเลยนะเนี่ย ตอนนี้แนะนำให้อ่าน Shadow of the Wind อยู่ แต่เขาบ่นว่าตัวละคร ไม่อยู่กับร่องกับรอย เลยพาลเบื่อซะงั้น ขอบคุณล่วงหน้าค่า อ๊ะ ลืมไป ตอนแรกเขามาบ่นว่าอยากอ่านหนังสือแนวชิงไหวชิงพริบน่ะค่ะ (อ่าน Death Note แล้ว) จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 22 มี.ค. 51 17:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แมว เรายังอ่านเรื่องที่ 13 ไม่จบเลยอ่ะ ดันวางไปหยิบเล่มอื่นอ่าน เพราะที่เรามีมันปกแข็ง นอนอ่านยาก เลยแนะนำไม่ได้เลย ว้า แต่ถ้าเป็นอย่าง The Book Thief กับ The Book of Lost Things ล่ะ สนไหม ถ้าลองแบบชิงไหวชิงพริบแฟนตาซี ลอง Neverwhere ของ Neil Gaiman มั้ย ตอนนี้คิดออกแค่นี้ ใครมีอะไรเพิ่มเติมว่ามาเลยนะคะ จากคุณ : Il Maze - [ 23 มี.ค. 51 02:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณแมวยิ้ม ไม่รู้คุณเพื่อนชอบเรื่องที่สิบสามเพราะบรรยากาศและสไตล์การเขียนแบบ gothic romance มีลับลมคมในอยู่บ้าง หรือเพราะอยากอ่านเรื่องลับลมคมในที่มีโรแม้งอยู่บ้าง (เห็นว่าอ่าน Deathnote แล้ว อยากได้เรื่องชิงไหวชิงพริบ ไม่ชอบ Fingersmith และไม่โปรด Shadow of the Wind) ถ้าเป็นเหตุผลแรก น่าให้อ่าน Wuthering Heights กับ Rebecca นะคะเพราะเป็นของดั้งเดิม แถม  Jane Eyre กับ The Woman in White ให้ด้วย เนื่องจากเราว่าเรื่องที่สิบสามได้แีรงบันดาลใจมาจากพวกนี้อย่างแรง (โดยเฉพาัะจาก Rebecca ต้องเป็นญาติกันแน่ๆ นามสกุลเดียวกันเลย ฮา) แต่ถ้าคุณเพื่อนจะเน้น thriller แนะนำให้ซื้อไมเคิล แจ๊คสันมาประกอบ *สกบร.โดนเกลียดทันใด* เพราะพล็อตอย่าง JE หรือ Rebecca มันก็ไม่น่าตื่นเต้นแล้วล่ะ   โดยส่วนตัวเราว่า Shadow of the Wind เป็นตัวเลือกที่เ้ข้าเค้าล่ะ ภาษาดีด้วย (หักมุมน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เราก็ว่ามันไม่ใช่ประเด็น) แต่คงต้องอ่านไปสักระยะนึงถึงจะติดอ่ะค่ะ นำเสนอ The Prestige กับ Affirmation ของ Christopher Priest ด้วยมั้ยอ่ะ สกบร.ชอบเรื่องแรกมากกว่า แต่เรื่องหลังเขียนก่อนและถือเป็นหนึ่งในเรื่องเด็ดของปู่เค้าเหมือนกัน ส่วนเรื่องแรก มันดีไปคนละแบบกับหนังเลย Neverwhere ที่คุณพัทแนะนำไปแล้ว เราก็ชอบจ๊ะ อ่านง่ายสุดในบรรดาทั้งหมดที่กล่าวมา (แต่ก็แนวๆดี สมฝีมือคนเขียน)   The Historian ที่เคยฮิตกันช่วงก่อนหน้านี้ก็ได้บรรยากาศโกธิคระทึกหน่อยๆเหมือนกันนะ แต่จะออกแนวไล่ล่ากันมากกว่ามั้งคะ ^^" แต่เล่มนี้ต้องอึดจริงๆนะเนีื่ย (แถมพออ่านจบ ถ้าไม่ชอบไปเลย ก็อาจเกลียดไปเลยก็ได้ โทษฐานอ่านมาตั้งนาน อะไรๆก็ดีหรอก แต่ดันจบแบบเนี้ยยยย  - -")   พอช่วยอะไรได้บ้างมั้ยเนี่ย อ๊าง... จากคุณ : scarborough - [ 24 มี.ค. 51 15:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แง คคห.ก่อนหน้านี้ของเราหายไปไหน คุณสกบร. The Prestige ฉบับหนังสือสนุกเหรอคะ ไปหามั่งดีกว่า (ชอบหนังมากมาย) Neverwhere นี่ก็แนะนำกันหลายคนแฮะ (แต่อ่าน Gaiman ไม่รอดมาหลายเล่มแล้วอะ) พี่พัทอ่าน The Book Thief จบแล้วเหรอ เป็นไงมั่ง ชอบไหม (หนูช้อบชอบ) Gothic Romance เอาเป็นแฟนตาซีได้ปะ ถ้าได้เชียร์ The Great and Terrible Beuaty ของ Libba Bray จ้า เป็นแฟนตาซีกอธิควิคตอเรียที่เฟมินิสต์สุดฤทธิ์ ช่วงนี้เสียทรัพย์ก่อนงานหนังสือไปบานเลย ทั้งงานเซลส์ B2S (สองวันสุดท้ายลด 90% เอาเข้าไป!) แถมยังถอยโน้ตบุ๊คใหม่อีก โอม ท่องไว้ ท่องไว้ จงซื้อให้น้อยลง จากคุณ : ทินา - [ 24 มี.ค. 51 22:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ^ 90% !!!  อ๊ากกก อยากหายตัวไปโผล่กลางร้านจังเลย ไม่อยากบอกเลยว่าเก็บเงินซื้อโน้ตบุ้คมา..เอ่อ เกินหนึ่งปีแล้ว ยังไม่ได้แม้แต่ค่าคีย์บอร์ด  T__T ตอนนี้ตบโน้ตบุ้คพี่ชายมาใช้อยู่ พี่จะตัดญาติอยู่รอมร่อแล้วเนี่ย เหมียวยิ้ม ลองให้เพื่อนไปเปิดอ่าน Ghost Writer ดูสิ เผื่อจะชอบ เรื่องมันเป็นแนวย้อนปัจจุบัน-อดีต และให้อารมณ์โกธิคคล้ายกัน (แต่เราว่ายังสู้ 13th ไม่ได้) จำชื่อคนแต่งไม่ได้แล้วอ่ะ แต่เป็นชื่อโหล ๆ ประเภท จอห์น ดันน์..อะไรประมาณนั้นน่ะ  เป็นเล่มที่อยากได้จนหายอยาก  เคยสั่งซื้อมาแล้วแต่หายกลางทาง เลยไปนั่งอ่านในคิโนะเล่น ไม่ได้ซื้อมาเก็บ ช่วงนี้สัญญาณเน็ตน่ารำคาญมากค่ะ  no connectivity บ่อยมาก บางทีพิมพ์ ๆ อยู่แล้วก็สัญญาณหาย  (เช่นตอนนี้ หายไปแล้ว) ต้องไปขยับเร้าท์เตอร์ หรือลองถอดการ์ดเสียบใหม่ ถึงจะต่อได้ แต่สักพักก็สัญญาณหลุดอีก  ... เซ็งอย่างแรง   ไว้คุยกันค่ะ วันนี้รีบส่งแล้วออกไปเล่นเกมส์เลยดีกว่า จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 24 มี.ค. 51 23:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แอร๊ว ไม่ได้เข้ามาห้องนี้นาน ตกข่าวมากมายค่ะ โดยเฉพาะน้อง Tiger ลูกของตาล กรี๊ดด แก้มยุ้ยมากๆ ((โผล่มาหลานก็ครบเดือนไปแล้ว 555)) ยินดีด้วยนะจ๊ะ ขอให้ลูกชายโตไวๆ เลี้ยงง่ายๆ ค่า ช่วงที่ผ่านมาวุ่นวายก่ายกองมากค่ะ โครงการ TBR แววล่มรำไรๆ แล้วค่ะ ไม่ได้อ่านอะไรเลย ดูแต่ซีรียส์ แหะๆๆๆ ระหว่างออกไปเก็บตัวอย่างตจว. ก็อ่านแต่นิตยสารท่องเที่ยว ใจแตกมากๆ ฮา น้องชายเพิ่งกลับมาจากเมกาเมื่อวาน ขนหนังสือที่ไอซ์ฝากซื้อมาด้วย ... อันเก่าก็ยังไม่ได้อ่าน มีกองใหม่มาอีกแล้ว T^T พลาดงานเซลล์ไปเลยไม่เสียดายเท่าไหร่ เพราะเท่าที่มีก็ไม่ทันแหล่ววววว The Shadow of the Wind อ่านแบบเรื่อยๆ เฉื่อยๆ มากเลยค่ะ สนุกนะคะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาและสมาธิอ่าน หวัดดีทุกๆ คนเลยนะคะ เห็นแต่ละคนอ่านหนังสือกันแล้ว เริ่มจะมีไฟเล็กๆ แล้วล่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 25 มี.ค. 51 10:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 หวัดดีค่าพี่น้อง เข้ามาแนะนำเรื่องรีเบคก้าด้วยคนค่ะ ออริจินัลมั่กๆ อยากให้อ่านกัน เป็นเรื่องโปรดแบบอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลของเราเลยล่ะ ต้องหยิบขึ้นมาอ่านทุกปี จนเล่มที่แม่ซื้อให้เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว  เปื่อยขาดยุ่ย ปกหลุดหมดแล้ว ก็ยังเลิฟค่ะ ที่ผ่านมา หยิบ The wind-up bird chronicle ขึ้นมาอ่าน ด้วยความอยากเป็นสาวกมูราคามิกับเขาบ้าง มูราคามิเขียนเปิดเรื่องได้น่าตื่นตาตื่นใจมากๆเลยค่ะ ช่วง หน้าที่ห้าสิบ ถึงร้อยหน้าแรกอ่านได้โดยไม่มีเบื่อ แต่พออ่านไปอ่านไป จนกระทั่งตอนที่พระเอกถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งที่หก หรือเจ็ด ก็ไม่ทราบ จำไม่ได้ ก็ถึงกับเกิดอาการทนไม่ได้ และไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายแสนธรรมดาไม่ได้ฮ้อทอะไร ถึงได้มีผู้หญิงมาให้นอนเยอะขนาดนี้ฟะ ทั้งในฝัน ทั้งความเป็นจริง โฮ้ย เอาให้วุ่นไปหมด แหวะ ... (แถมแต่ละคนก็เต็มใจให้ความสุขกับพี่แกซะเหลือเกิ๊น) รู้สึกเอียนจนถึงกับต้องหยุดอ่านไปโดยปริยาย พอเปลี่ยนมู้ดมาอ่านงานเก่าๆของมาร์เกซค่อยรู้สึกว่าชีวิตกลับมาดีตามเดิม ส่วนมูราคามิเล่มนี้ก็คงต้องปล่อยให้นอนแช่อยู่ในกองดองอย่างเก่าแล้วล่ะค่ะ ไม่ไหว ไม่ใช่ว่าไม่เก็ทในฟิลอซอฟี่ของพี่แกนะคะ ปรัชญาของเขาที่แทรกอยู่ก็ใช้ได้ทีเดียวแหละ เพียงแต่ว่าตัวเรื่องมันอ่านแล้วแห้งแล้งไปหน่อย (เหมือนพวกที่โดดเดี่ยวมากๆ แล้วกลายเป็นพวก self-absorbed ไปเลย) อ่านแล้วเอียนมากๆเลยจนฝืนทนต่อไปไม่ไหว ต้องหยุดอ่าน จริงๆเล่มนี้ถ้าเขียนซัก 200 หน้าจะเพอร์เฟคมาก ไม่จำเป็นต้องพล่ามยาวถึง 600 หน้าอย่างนี้เลย เห็นอย่างนี้ก็เลยยิ่งรักมาร์เกซเข้าไปใหญ่ กระดูกคนละชั้นเลย นอกนั้นก็อ่านเล่มใหม่ของ peter carey และก็ On Chesil Beach ของ McEwan ซึ่งก็ดีมากๆๆๆๆด้วยกันทั้งคู่ ถ้าไม่นับมูราคามิแล้วล่ะก็ ชีวิตตอนนี้ก็มีความสุขใช้ได้เลยค่ะ ได้อ่านหนังสือที่ถูกใจ จากนักเขียนที่มีฝีมือยอดเยี่ยม ชอบความรู้สึกอย่างนี้จังเลย ตอนที่ได้อ่านหนังสือดีๆ แบบว่ามันเต็มอิ่มนะคะ รู้สึกดีจัง ช่วงนี้เลยหมั่นออกไปเสาะหาหนังสือใหม่ๆ ที่ดีๆอ่านอีก พี่ๆน้องๆถ้ามีเล่มไหนดีๆ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ป.ล. คุณป้าๆๆๆคะ peter carey เขียนหนังสือดีโคตรเลย หนูอ่านแล้วเงียบไปเลย คนอะไรฟะ เขียนหนังสือดีชะมัด หลงหมั่นไส้มาตั้งนาน ป.ป.ล. อ้อ ใกล้จะถึงงานหนังสือแล้วนะคะ พี่น้องเลือกเล่มไหนไว้ในใจแล้วบ้างคะ จากคุณ : เพติ๊ด (petitfour) - [ 25 มี.ค. 51 16:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ต่อๆๆๆ เรื่อง On Chesil Beach ดีจริงๆนะคะ อ่านจบน้ำตาไหลพรากเลย ภาษาเขียนดีเปรี้ยง ตัวเองก่อนนอนยังร้องไห้ต่อจนหลับไปเลยค่ะ โอ้โห พล็อตเรื่องเสียดแทงใจมากๆ ยิ่งมาทราบทีหลังว่า ตัวเอกโดน abused โดยพ่ออีก ยิ่งต้องยกนิ้วให้ใหญ่เลย McEwan เขียนดีเยี่ยมเหมือนเคย เพราะ mention เรื่องนี้ไว้อย่างบางเบามาก ตอนอ่านก็สงสัยตะหงิดๆอยู่ในใจเหมือนกัน ว่าจะใช่เรื่องนี้มั้ย น่าจะใช่นะ พออ่านจบก็ประมวลข้อเท็จจริงไปมา เพราะมันไม่น่าที่จะเป็นเรื่องที่เซ็กซ์เข้ากันไม่ได้แต่อย่างเดียว มันต้องมีมูลมากกว่านั้น ที่จะทำให้ Flo (ตัวเอกที่เป็นผู้หญิง) เกลียด และ กลัวเซ็กซ์มากขนาดนั้น เพราะเธอเองก็ไม่เด็กแล้ว (มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนอายุ 22) แต่ไอ้ความไม่แจ่มชัดในเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์และมีมิติเข้าไปอีกค่ะ อ่านแล้วเล่นเอานั่งร้องไห้ไปหลายรอบ เป็นเรื่องที่ touch เรื่องความรัก และ ความสัมพันธ์ และความเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างดีมากๆๆ ยก 5 ดาวให้ไปเลยเต็มๆ ส่วนเรื่องย่อขอยกยอดไว้คราวหน้านะคะ กร้ากก โพสต์คราวนี้เป็นเรื่องอย่างว่าล้วนๆเรยยย ขออำภัยนะคะพี่น้อง จากคุณ : เพติ๊ด (petitfour) - [ 25 มี.ค. 51 16:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ทู้ยาวแล้ว แถมพี่เพติ๊ดยังมาปิดท้ายให้หวิวเล่นอีกตะหาก อุอุ ขอแตกทู้นะคะ ใครไปงานหนังสือมาแล้ว มาบอกกันหน่อยว่าปีนี้มีเล่มไหนน่าสน แล้วซื้ออะไรกันมามั่งคะ (สงเคราะห์คนใกล้บ้านและใกล้บ้า ฮ่า) แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 51 03:03:26 ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K6457751 จากคุณ : Il Maze - [ 26 มี.ค. 51 03:00:19 ]