ความคิดเห็นที่ 1 ผมเป็นคนมองโลกในแง่ลบ ชอบเห็นว่าคนนู้นคนนี้ไม่ดี คอยแต่จะจับผิด ระวังนู้นระวังนี่ กลัวนู้นกลัวนี่ หลังๆมานี้ก็รุ้สึกว่าตัวเองจะคิดมากเกินไป ^^^ The Secret แปลโดยคุณ จิระนันท์ พิตรปรีชา อธิบายง่ายๆว่าด้วย "กฎแห่งการดึงดูด" ค่ะ การที่เราคิดอะไร หรือหมกมุ่นอยู่กับอะไร เราก็จะยิ่งดึงเอาแต่ความคิดในแนวเดียวกัน ในแบบเดียวกันเข้ามาไว้ในหัว จินตนาการของเราก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เราเครียด กลัว ไปจนถึงขั้นหวาดระแวง อ่านแล้วก็รู้สึกว่าจริงนะ... แค่เปลี่ยนความคิด...ชีวิตก็เปลี่ยน อีกเล่ม "วิชาตัวเบา" ของคุณหญิง จำนงศรี หาญเจนลักษณ์ อ่านแล้วสบายใจดีเหมือนกัน ความคิดไม่ดี ความคิดร้ายๆที่มันทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น แค่มี "ไม้กวาดวิเศษ" กวาดออกไปจากใจ อะไรๆก็ง่ายขึ้น หรือ "ข้อดีของคนขี้ลืม" ทำให้เราไม่ค่อยจดจำความผิดของใครเท่าไหร่ หนังสือพวกนี้อ่านแล้วนอกจากจะเข้าใจ..ยังทำให้สบายใจขึ้นค่ะ จากคุณ : ++ Little Miss Someone ++ - [ 17 ก.พ. 51 12:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หนังสือที่สร้างกำลังใจ ให้มองโลกในแง่บวก เป็นหนังสือเก่ามากๆ ชื่อ As a Man Thinketh เขียนโดยนักจิตวิทยาฝรั่งชื่อ James Allen  หนังสือเล่มนี้เก่านับร้อยปี ไป download ฉบับภาษาอังกฤษได้ โดยการตาม link ข้างล่างนี้ไป http://www.gutenberg.org/etext/4507 แต่ใครที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงนักจะอ่านภาษาไทยก็ลองฉบับแปลดู   จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ บริษัท โอ้ พระเจ้า พับลิชชิ่ง จำกัด  ....ชื่อภาษาไทยคือ "คิด เห็น เป็น ชีวิต" ผู้เรียบเรียงคือ "ปลายฟ้า" หมายเหตุ พอเห็นชื่อสำนักพิมพ์ แล้วอย่าคิดว่าหนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือสอนศาสนานะ เพราะว่าไม่ใช่ แต่หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือจิตวิทยา ที่สอนให้คนมองโลกในแง่บวก แล้วเปลี่ยนแปลงวิถึชีวิตของตนเองได้ เราไม่รับประกันฉบับภาษาไทยว่าจะแปลเรียบเรียงได้ดีหรือไม่นะ คือว่าเรามีเพื่อนคนหนึ่งที่คุยกับเราเรื่องหนังสือปรับปรุงสุขภาพ แนวพวก esoteric arts (ศาสตร์เร้นลับ) แล้วส่งหนังสือให้กันและกัน เราส่งหนังสือบางเล่มไปให้เพื่อนเรา แล้วเพื่อนเราก้อเลยส่งหนังสือเล่มที่ว่านี้มาให้เราเพื่อเป็นการตอบแทน  พอเราเห็นชื่อเรื่องเราก้อวิ่งไปที่ google แล้วไปหาต้นฉบับภาษาอังกฤษมาอ่าน เราจึงอ่านแต่ต้นฉบับภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่ได้อ่านภาษาไทยเลยนั่นเอง.... ก่อนอ่านหนังสือเล่มนี้ เราทำงานแปล ได้งานแค่ราคาถูกๆ นั่งสมาธิฝึกลมปราณก็ติดๆขัดๆ ไม่ก้าวหน้า หน้าตาเราโทรมมากๆ overworked and underpaid (ทำงานมากเกินและได้เงินน้อยเกิน) ....ทำงานเสร็จก็กินเหล้ากินเบียร์นอนจมอยู่ตรงนั้น.....ตรอมใจมากๆ...เลย... แต่พออ่านหนังสือเล่มนี้ไปได้แค่ 10 หน้า (ยังอ่านไม่จบเล่มด้วยซ้ำไป) เราเพ่งสมาธิแล้วฝึก pyschopictogrphy ได้สำเร็จในระดับหนึ่ง...ใจแข็งละเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอลได้อย่างน่าประหลาด จนเราเดินลมปราณทะลวงจุดชีพจรได้ไปตั้งหลายจุดจนหน้าตาเด็กขึ้นกว่าเดิมเพียบเลย แล้วได้แฟนใหม่ดีๆ ได้งานแปลจากแหล่งใหม่ๆ ดีๆราคาแพงๆ.... แล้วที่มหัสจรรย์ยิ่งไปกว่านั้นนะ ที่ในห้องยำภาษา มีคนใส่ร้ายเรา เรื่องอะไรบางอย่าง จนกลายเป็นว่า คนหลายๆคนจับกลุ่มกัน แบ่งพรรคแบ่งพวก เข้ามาทะเลาะกัน ด่ากันอย่างรุนแรง (คนที่ไม่เคยเข้าห้องยำภาษาก็โผล่เข้ามาช่วยกันด่า เพราะพวกไปตามกันมา) และมีคนด่าเราพาดพึงถึงเราและด่าเพื่อนเราคือพี่nickycharles (ที่เพิ่งตายไปเมื่อไม่นานนี้เอง) เราแค่กินเจและเพ่งกระแสจิต ไม่โต้ตอบแต่อย่างใดเลย...(คือ "ใช้ความนิ่งสยบการเคลื่อนไหว")... แล้วอยู่ดีๆนะ มีสมาชิกท่านหนึ่ง ปากจัดชมัดเลย  (เราไม่รู้จักเขาเลย) โผล่เข้ามา เขาเพียงแค่คนเดียวยืนหยัดอยู่ แล้วเถียงกับคนนับสิบๆคน ที่เข้ามารุมด่าเรา กับด่าพี่ nickycharles อยู่...เหลือเชื่อเลย คนๆเดียวที่ว่านี้ด่าคนสิบกว่าคนจนกระจุย ปิดวิกหนีไปเลย...???!!!.... ตอนที่เกิดเหตุการณ์คนหลายๆกลุ่มด่ากันไปก็ด่ากันมา และมีคนพาดพิงถึงเรา ด่าเรานี้นะ ทุกทีที่เรานั่งสมาธิเราจะเห็น shakti (เจ้าแม่กาลี) เข้ามาประทับที่ในร่างเรา เพื่อช่วยเหลือเรา เนื่องจากเราเพิ่งลองเปลี่ยนวิธีเดินลมปราณแบบนักพรตเต๋ามาเป็นแบบฝึกตามสายอินเดีย ...สาย kundalini ...ของปราชญ์ชาวฮินดู....และ shakti ตามวิชาพลังลมปราณแบบ kundalini ถือว่าประทับอยู่ ณ จุดชีพจรหรือศูนย์รวมกำลังภายใน (chakra) แห่งหนึ่งในร่างกาย ...แปลกมากๆเลย เรื่องพลังจิตเนี่ย....!!!??....เราเคยเชื่อเรื่องนี้ในระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้เชื่อมากๆยิ่งๆขึ้นอีกหลายๆระดับ...และจะพยายามฝึกฝนต่อไป แบบเจาะลึก...ให้มากกว่านี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา ให้ดีกว่านี้.... เอ่อเรายังไม่ได้ไปกล่าวขอบคุณเพื่อนเราคนที่ให้หนังสือเล่มนี้เลย ...เธอเป็นเพื่อนสนิทคนที่เคยคุยกับเราทุกวันจนแฟนเก่าเราหึงถึงขั้นทะเลาะกันบ้านแตกแล้วเลิกกันไปเลย ...เลยทำให้เราโชคดี มาได้แฟนใหม่ที่แสนดี...ก็เพราะหนังสือเล่มนี้นี่แหละ...555+++... แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 51 14:41:40 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 51 14:35:54 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 51 14:34:49 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 51 14:33:19 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 51 14:21:06 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 17 ก.พ. 51 14:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านฤทธิ์มีดสั้นกับชอลิ้วเฮีบงดูครับ ผมว่าทำให้เรามองโลกในแง่ดีมากขึ้น จากคุณ : เด็กโหละฯ - [ 17 ก.พ. 51 22:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แนะนำให้ลองศึกษาศาสตร์เรื่องนพลักษณ์ค่ะ  ของ สนพ.โกมลคีมทอง  ออกมาเยอะค่ะ...เป็นศาสตร์ที่ทำให้เราเข้าใจตัวเองและผู้อื่น... หรือถ้าไม่งั้นก็ลองอ่านวรรณกรรมเยาวชน ดูค่ะ...น่าจะเหมาะกับอารมณ์เครียด ๆ ... จริง ๆ แล้วหนังสือทุกเล่มทำให้เรามีโลกทัศน์ที่กว้างมากขึ้นค่ะ  อ่านไปเรื่อย ๆ ค่ะ แล้วมันจะซึมไปเอง...หาเล่มที่อ่านแล้วสนุก เหมาะกับจริตของคุณ  แล้วก็อ่านมันไปเรื่อย ๆ คุณจะมองโลกในแง่ดีโดยที่คุณไม่รู้ตัว... จากคุณ : Stand by bowky - [ 18 ก.พ. 51 01:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจะอ่านให้คลาสิคหน่อย ผมนึกไปถึงก็องดิดด์ของวอลแตร์ แต่วอลแตร์ ไม่ได้เขียนเชิงให้กำลังใจนะ เป็นการเสียดสีล้อเลียนมากกว่าถึงได้สร้าง ตัวละครก็องดิดด์ให้เป็นคนมองโลกในแง่ดีมาโดยตลอด เป็นหนังสือแนว ที่อ.วัลยา เรียกว่า ปรัชญาชวนหัวครับ ถ้ายากไป ผมก็มีอีกเล่มนึงแนะนำ คือความสุขแห่งชีวิตของวิลเลียม ซาโรยัน เรื่องนี้ก็ไม่เชิงให้กำลังใจอีก แต่เป็นการมองโลกที่สวยสดงดงามในทรรศนะของผู้เขียน ท่ามกลางความ โหดร้ายของสงครามโลก อ่านเล่มนี้แล้วจะยิ้มทั้งน้ำตา นึกถึงคนที่โชคร้าย กว่าเราอีกมากในโลก แล้วคงทำให้สบายใจขึ้นบ้างนะครับ จากคุณ : พลายแป้ง - [ 18 ก.พ. 51 02:12:50 A:84.227.17.202 X: TicketID:120371 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุนทุก คห. มากๆเลยคับ มีไรเพิ่มเติมได้นะคับ จากคุณ : chumber - [ 19 ก.พ. 51 00:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กล่องไปรษณีย์สีแดง จากคุณ : ดร คลองตาล - [ 19 ก.พ. 51 08:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ความสุขง่ายๆชีวิตสบายๆ  หนังสือเล่มบางๆคัดเรื่องมาจาก หนังสือ สายลม-แสงแดด ของ วิลาศ มณีวัต คนขี่เสือ หนังสือแปลโดย จิตร ภูมิศักดิ์ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 19 ก.พ. 51 10:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Highly recommended, "Don't sweat the small stuff..and it's all small small stuff" By Richard Carlson Ph.D. It says, simple ways to keep the little things from taking over your life. จากคุณ : PatPDX - [ 19 ก.พ. 51 12:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เจ้าชายน้อยยยยย...อ่านมายี่สิบรอบละค่ะ ทุกครั้งที่ทุกข์ใจก็หยิบมาอ่านทุกที......... จากคุณ : Stand by bowky - [ 19 ก.พ. 51 18:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชาติภพ (Many lives many masters) เรื่องนี้ทำให้เราหลุดจากภวังค์ของคนอกหัก... แล้วก็ทำให้เราไม่โกรธ  ไม่เกลียดผู้ชายคนนั้นจนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : Stand by bowky - [ 19 ก.พ. 51 19:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านขายหัวเราะครับ  มีรายสัปดาห์  อาทิตย์นึงออกครั้งหนึ่ง  บางทีมุขก็ฝืด ซ้ำๆซากๆบ้าง  แต่ก็ฮาแบบฝืดๆนั่นแหละครับ   ผมเวลาเครียดๆแล้วอ่าน ฮาคนเดียวบ้าง ฮาเป็นกลุ่มบ้าง  เอิ๊กๆอ๊ากๆดีครับ แถมยังเอามุขมาเล่นกับเพื่อนๆ  เป็นการช่วยเหลือคนให้หายเครียดไปด้วยนะครับ คิดว่าคนเวลาอ่านขายหัวเราะไม่น่าจะมองโลกในแง่ร้ายนะครับ .... จากคุณ : {{{ผู้ชนะทุกๆทิศ}}} - [ 20 ก.พ. 51 13:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จากคุณ : {{{ผู้ชนะทุกๆทิศ}}} - [ 20 ก.พ. 51 13:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แนะนำ หนังสือของคุณประภาส ชลศรานนท์ ค่ะ มีหลายเล่มเลยทีเดียว นอกจากคิดแง่ดีแล้ว ยังคิดสร้างสรรค์ด้วยค่ะ ลองอ่านดูนะคะ ^_^ จากคุณ : =^aEaY^= - [ วันมาฆบูชา 18:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คู่มือหยุดทุกข์ ค่ะ ของพระยุทธนา เตชปัญโญ อ่านดีมีข้อคิดเยอะเลย จากคุณ : mantanafm - [ วันมาฆบูชา 21:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ จขกท. ที่ตั้งกระทู้นี้ พลอยได้รู้จักหนังสือดีดีด้วยคน เราติดนิยายของแจ่มใสอ่ะ คือปกติไม่ชอบอ่านหนังสือเลย แฮรี่พอตเตอร์ยังอ่านไม่เคยผ่านหน้าที่ร้อย แต่พอมาอ่าน ความรู้สึกดีที่เรียกว่ารัก ทั้งแบบที่เป็นเรื่องสั้นและเรื่องยาว เราติดอ่านหนังสือไปเลย <<< ก็เล่าให้อ่านเฉยๆ อิอิ ว่างๆลองอ่านก็ได้ มันไม่รักแบบเลี่ยนๆ หรอก จากคุณ : สุดท้ายชีวิตของฉันก็ไม่มีใคร - [ 25 ก.พ. 51 13:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา ของ บัณฑิต อึ้งรังษี ลองอ่านดูนะครับ แล้วจะไม่โทษโชคชะตาอีก ตัวอย่าง 1.โชคดี = การเตรียมความพร้อม +โอกาส คือ ทุกคนมีสิทธิ์เจอโชคดีได้ แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณมีความพร้อมไหม ที่จะคว้ามัน หรือ 2.คนส่วนใหญ่ทำทุกๆวัน(เหตุ) เหมือนเดิมแล้วหวังให้(ผล)เปลี่ยนไป เป็นต้น ขอให้คนที่อ่านพบแต่โชคดีทุกคนนะเหมือนผมนะครับ จากคุณ : england2006 - [ 27 ก.พ. 51 10:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คิดเห็นเป็นชีวิต as a man thinketh ด้วยคนถือได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวพัฒนาตนเองในยุคหลังๆเลย จากคุณ : srv (LampOfGod) - [ 1 มี.ค. 51 23:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อิอิพูดตกไปนะครับ เป็นต้นแบบของหนังสือแนวพัฒนาตนเองในยุคหลังๆเลยนะครับ เก่าแก่เป็นร้อยปี แอนโทนีรอบบิน ไบรอันเทซี เดอะซีเครด เอา concept มาจากคนนี้เลย จากคุณ : srv (LampOfGod) - [ 1 มี.ค. 51 23:55:07 ]