เคยคิดเล่นๆว่าถ้ามี Time Machine สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปช่วงไหนก็ได้ในศตวรรษที่ 20 จะมีอยู่ 2 แห่งที่ผมอยากไปมากที่สุด นั่นก็คือปารีสและเบอร์ลินในทศวรรษ 1920s ยุคนั้นกล่าวได้ว่าเป็นยุคทองทางวัฒนธรรมของทั้งสองเมือง ปารีสเต็มไปด้วยนักเขียนและจิตรกรลือชื่อ ส่วนเบอร์ลินก็เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปิน นักคิด นักวิทยาศาสตร์ นักดนตรี ดูจากเทศกาลดนตรีของเบอร์ลินในปี 1929 เราจะได้ชมสุดยอดฝีมืออย่าง Richard Strauss, Furtwangler, Toscanini อำนวยเพลง, ได้ชม Stravinsky เล่นเปียโนบทเพลงของตนเอง, ได้ชมคณะบัลเลต์ของ Diaghilev, ได้ชม Bruno Walter อำนวยเพลง Das Lied von der Erde ของมาห์เลอร์ ทศวรรษ 1920s ถือเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์อย่างแท้จริงของเบอร์ลิน
เบอร์ลินเป็นศูนย์กลางศิลปวัฒนธรรมของสาธารณรัฐไวมาร์ ซึ่งสาธารณรัฐไวมาร์นั้นดำรงอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆเพียง 14 ปี โดยเกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี1919 และสิ้นสุดในปี 1933 ที่ฮิตเลอร์ขึ้นเรืองอำนาจ
ล่าสุดผมเพิ่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับสาธารณรัฐไวมาร์ ชื่อ Weimar Culture เขียนโดย Peter Gay ผู้เขียนบรรยายถึงแง่มุมต่างๆทางวัฒนธรรมในยุคไวมาร์ ซึ่งแม้มีระยะเวลาแค่ 14 ปี แต่นี่เป็นยุคที่ผลิตบุคคลสำคัญในแขนงต่างๆไว้อย่างมากมาย Peter Gay บอกว่า ตอนที่ทั้งหมดหลบหนีนาซีออกจากเยอรมันในปี 1933 เป็นการลี้ภัยที่มีกลุ่มก้อนเป็นนักคิดปัญญาชนจำนวนมากที่สุดเท่าที่โลกเคยประจักษ์มา
ลองดูรายชื่อบางส่วนว่าเขาเหล่านั้นมีใครบ้าง
- ในทางดนตรี : Alban Berg, Paul Hindemith, Arnold Schoenberg, Bruno Walter, Otto Klemperer
- ในทางศิลปะและสถาปัตยกรรม : Wassily Kandinsky, Paul Klee, Walter Gropius, Erwin Panofsky, George Grosz
- ในทางวิทยาศาสตร์ : Albert Einstein, Max Planck, Leo Szilard, Werner Heisenberg
- ในทางภาพยนตร์ : Fritz Lang, Billy Wilder, F.W. Murnau, Marlene Dietrich
- ในทางวรรณกรรม : Thomas Mann, Bertolt Brecht, Erich Maria Remarque, Alfred Doblin
- ในทางปรัชญาและแนวคิด : Theodor Adorno, Walter Benjamin, Max Horkheimer
ข้อด้อยของหนังสือเล่มนี้คือ ด้วยความยาวเพียง 164 หน้า (จากทั้งหมด 197 ถ้านับรวมส่วน Bibliography) ทำให้ไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดได้ อ่านจบแล้วให้ความรู้สึกว่ายังอยากรู้ในอีกหลายประเด็น