ความคิดเห็นที่ 1 ตะกี้พันทิปเดี้ยง รูปหายเลยอะ แง จากคุณ : Clear Ice - [ 16 ส.ค. 51 20:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Year Zero ของ Jeff Long ครับ อ่านๆ หยุดๆ ไม่ถึงไหนซักที ^^' eBook Category: Suspense/Thriller eBook Description:      In his sensational novel The Descent, Jeff Long created a world of stunning terror and adventure, "an imaginative tour de force" (Jon Krakauer). Now he imagines a scenario so vivid, so haunting, it anchors his place among storytelling masters. An archaeological manhunt is raging in the holy land--a hunt for the historical Jesus. For Nathan Lee Swift, a young American field researcher and expectant father, the line between noble discovery and the plunder of ruins is sacred--until the night he crosses it. At a Roman landfill beneath the crucifixion grounds known as Golgotha, Nathan Lee yields to his professor's greed and turns common grave robber. จากคุณ : HudchewMan - [ 16 ส.ค. 51 20:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กำลังอ่าน sci-fi เรื่อง The Ghost Brigades อยู่ เป็นตอน 2 ในชุดของ Old Man's War - The Ghost Brigades - The Last Colony ของ Jonh Scalzi จากคุณ : นายแมว - [ 16 ส.ค. 51 22:52:40 A:58.8.166.243 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้าห้องสมุดครั้งแรกครับ ขอแจมด้วยคนนะครับ กำลังอ่าน Economics Naturalist : Why economics explains almost everything อยู่ครับ ส่วนอีกเล่มที่รออยู่ก็ Naked economics ไม่รู้ว่ากระทู้นี้เน้นเฉพาะ fiction หรือปล่าว แต่ขอแจมละกันครับ แหะๆ จากคุณ : Earth & Sky - [ 17 ส.ค. 51 00:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่าน "เซ็งเป็ด" (ช้าไปปะ) น้ำตาร่วงเป็นวรรคเป็นเวร จากคุณ : mamao - [ 17 ส.ค. 51 00:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 the night battle : witchcraft and agrarian cults in the sixteenth and seventeenth centuries by carlo ginzburg ครับ ส่วนถ้าเปน fiction เพิ่งปิด เอกพจน์บุรุษที่1 ของครูอบไปเมื่อไม่กี่วันก่อน จากคุณ : นายปลาตีน - [ 17 ส.ค. 51 01:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เหมือนกระทู้ก่อนค่ะ 2 เล่มนั้นยังอ่านไม่จบเลย จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 17 ส.ค. 51 04:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งอ่านเล่มนี้จบ  ด้วยความอินจัดๆๆ   เป็นหนังสือเล่มแรกในรอบหลายปีที่อ่านแล้วพลุุ่งพล่านขณะอ่าน  และต้องอ่านจนจบ  ทั้งเรื่อง บรรยายความรัก ความตายได้อย่างวิจิตร   วิจารณ์หนังสือไม่เก่งค่ะ  แต่บอกได้คำเดียวว่า ชอบบบบบ Salammbo   ของ  Gustave Flaubert   สงสัยจะอ่านช้ากว่าคนอื่น เพราะเขาวางขายในไทยมาตั้งแต่ปี  2545 แล้วค่ะ ภาพปั้นของ  Salammbo &  Malto ....I love you  I love you จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ - [ 17 ส.ค. 51 05:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แหม มาตอบกระทู้นี้ด้วยความเขินอาย รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนหูหนาตาเล่อมากๆ เพราะปีที่ผ่านมาไม่ค่อยได้อ่านอะไรเลยค่ะ ที่ได้อ่านเป็นจริงเป็นจัง ก้ 19 minutes ของ Jodi Picoult อุ้ยร้องห่มร้องไห้ คงเพราะเพิ่งเป็นแม่ด้วย อ่านเเล้วคิดถึงว่า ถ้าลูกเราโดนแกล้งแบบนี้ คนเขียนเก่งมาก เป็นเล่มแรกที่อ่านงานเขา มีคนเเนะนำให้อ่านอีกเล่มของเขาด้วยคือ my sister keeper และที่ซื้อมายังไม่ได้เริ่มคือ Something to Tell You ของ Hanif Kureishi ชอบเขามากๆ จาก intimacy ไม่รุ้จะผิดหวังไหม อีกคนที่ชอบ คือ Tony parsons แต่หลังๆ เริ่มเขียนอะไรซ้ำซาก เหมือนพุดเรื่องเดิมๆ เลยเบื่อ ตอนนี้อยากอ่านอะไรเบาๆ สนุกๆ ผู้หญิงๆ มีอะไรแนะนำไหมคะ จากคุณ : mrs.night owl - [ 17 ส.ค. 51 09:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Interview with the Vampire กับ The Vampire Lestat ค่ะ อยู่ในโหมดคลั่งนิยายเซทนี้นะ เป็นHorror เหนือธรรมชาติ ไม่รู้สิ เซทนี้มันจะคล้ายๆกับชอคโกแลตชนิดดาร์ค (โดยเฉพาะตัวเอกคือ Lestat ที่ต่อให้มันออกมาเป็นตัวที่ถูกพูดถึงมันก็คือตัวเอก...) เข้มข้น หอม ขมอมหวาน ชวนให้หลงใหล เสพติด seductive มาก อีกเรื่องที่อ่านค้างไว้คือ The Spanish Bow ว่าจะหาเวลาอ่านให้จบ แต่ยาก เพราะตอนนี้มีตำรามาจ่อคอให้อ่านแล้ว T T จากคุณ : kurika - [ 17 ส.ค. 51 10:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ช่วงนี้อ่านหนังสือนิยายไทยเยอะเชียวค่ะ  เพราะเพิ่งกลับไทยและขนกลับมาหลายสิบเล่มมาก  ณ ตอนนี้อ่านเรื่อง กลิ่นการเวก ของคุณพงศกร ค่ะ จากคุณ : offita - [ 17 ส.ค. 51 10:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กะลังอ่านบันทึกลับของแอนน์ แฟร้งค์อยู่ครับ... จากคุณ : นายไผ่ - [ 17 ส.ค. 51 13:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นที่คุณข้างบนเขียนถึง Salammbo แล้วหงุดหงิดใจ ตั้งใจว่าจะอ่านงานเรื่องอื่นๆของโฟลแบร์ตที่นอกเหนือจากมาดามโบวารี แต่ก็ยังไม่ได้อ่านสักที อยากเขกหัวตัวเองจริงๆ ต่อไปนี้คงต้องบังคับตัวเองให้อ่าน sentimental education ให้ได้ก่อน แล้วค่อยต่อไปที่ Salammbo ละกันนะคะ คราวนี้คงต้องกลับไปหางานคลาสสิคอย่างจริงๆจังๆดีกว่า เพราะหนังสือที่อ่านผ่านๆมาไม่ถูกใจเลยสักเรื่องเดียว (ถึงจะเป็นซารามาโก้เองก็เหอะ) จากคุณ : petitfour - [ 17 ส.ค. 51 17:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่าน Breaking Dawn อยู่ค่ะ เป็นภาคจบของ Twilight ซีรีย์ที่มีพระเอกเป็นแวมไพร์ ซื้อมาดองตั้งแต่วันที่ 4 พึ่งอ่านไปได้นิดเดียวเองเพราะโดนสาปพระเพ็ง ของ กิ่งฉัตร ตัดหน้าค่ะ จากคุณ : kitnan - [ 17 ส.ค. 51 20:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อันนี้ไม่ได้จะมากวนนะ แต่เราอ่าน Organization Management อยู่ง่ะ - -" คือแบบว่ากำลังจะสอบน่ะ  อิอิ จากคุณ : ตัวแสบ (Brave_AE1) - [ 18 ส.ค. 51 01:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่าน "สมองกลวง" จบไปเมื่อต้นเดือนค่ะ พล็อตแปลงโฉมแบบฉับไวยิ่งกว่า makeover เมื่ออยู่ ๆ เด็กสาวทอมบอยเกิดอุบัติเหตุและฟื้นขึ้นมาใช้ร่างของนางแบบสาวสุดฮ็อต   เล่มนี้เป็นซีรี่ส์อีกแล้ว เล่มแรกยังเป็นแค่การปูพื้นแนะนำตัวละคร ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องหลัก ๆ เหมือนชุดอื่น  ต้องรอดูเล่มต่อไปว่าแนวไหนกันแน่  แต่เท่าที่อ่านไปก็สนุกพอสมควรค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 18 ส.ค. 51 02:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สองสามวันนี้อ่านสองเล่มนี้ไป "สถาบันฝันสยอง"  เล่มแรกของซีรี่ส์อีกเช่นกัน  (เซ็งเล็กน้อย) แนวแฟนตาซีคล้ายแฮร์รี่นักปั้นหม้อนิดหน่อย  เด็กชายตัวเอกมีพรสวรรค์ฝันร้ายเรียกปีศาจจากแดนสนธยาออกมาในโลกความเป็นจริงได้  พลังของเขามากถึงขนาดเปิดประตูมิติไปหาปีศาจระดับ the Named  เลยถูกจับเข้าโรงเรียนไปตามระเบียบ   เล่มนี้มีเนื้อเรื่องให้ลุ้นและอ่านจบแค่เล่มเดียวได้เลย  กำลังคิดว่าถ้าเจอเล่มสองคงอ่านต่อค่ะ  สนุกดีเหมือนกัน จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 18 ส.ค. 51 02:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนเล่มนี้ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์  มันสนุกกว่าที่คิด Endymion Spring เป็นงานชิ้นแรกของคนเขียน พิมพ์ครั้งแรกสองสามปีแล้ว  ตอนซื้อไม่ได้หวังอะไรมาก นึกว่าอยากอ่านแฟนตาซี บวกกับเปิดๆ ดูแล้วท่าทางจะติดหนึบพอสมควร เลยหยิบ   ...ปรากฎว่าอ่านแล้วเต็มอิ่มดีค่ะ เรื่องเริ่มจากเด็กชายเบลคกับน้องสาว ดั๊ก ตามแม่ไปติดแหง่กในอ็อกซฟอร์ดเพราะแม่ได้ทุนวิจัยที่นั่น  สองพี่น้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องสมุด  เบลคไล่นิ้วระไปตามสันหนังสือแล้วก็เจอหนังสือชื่อ Endymion Spring งับตอบ  พอหยิบมาเปิดดู กลับพบว่ามันเป็นหนังสือเปล่าที่มีปริศนาผุดขึ้นมาจากหน้ากระดาษ และเบลคเป็นคนเดียวที่เห็นข้อความนั้น ... เบลควางหนังสือคืนที่เดิม แต่ได้รู้ภายหลังว่ามันเป็นหนังสือหายากที่นักวิชาการไล่ตามหามานาน และโผล่มาหาเฉพาะคนที่หนังสือเลือกเท่านั้น เนื้อเรื่องเล่าสลับกับเรื่องในอดีตปี 1943  เป็นเรื่องของเด็กฝึกหัดใบ้ที่ชื่อ Engymion Spring ของกูเตนเบิร์ก  คืนหนึ่ง ฟัสต์เดินทางมาเยือนกูเตนเบิร์กพร้อมหีบหนักอึ้ง  เขาตกลงออกเงินทุนให้โครงการพิมพ์ไบเบิ้ลด้วยตัวเรียงพิมพ์โลหะของกูเตนเบิร์ก แต่เอนดีเมี่ยนมั่นใจว่าฟัสต์มีแผนบางอย่างลึกลับกว่านั้น พล็อตแนวไขปริศนาเกี่ยวกับหนังสือลึกลับ ที่มีตัวเอกอ่านได้คนเดียว ฉากตามท้องเรื่องเน้นห้องสมุดในอ็อกซฟอร์ด  ปมในอดีตใช้เหตุการณ์ช่วงที่กูเตนเบิร์กคิดค้นตัวอักษรเรียงพิมพ์ อ้างอิงถึง 'เฟาซ์' ที่ขายวิญญาณให้ปีศาจเล็กน้อย   ทั้งหมดนี้รวมกันแล้ว...ถูกใจค่ะ  คนเขียนหยอดเหตุการณ์ให้ลุ้น หลอกให้อ่านติดหนึบได้ตลอด (ระดับความสมเหตุผลยังอยู่แค่ระดับเด็กโต)  ตัวละครก็ไม่มีตัวไหนน่ารำคาญ  โดยเฉพาะฉากไคลแมกซ์ที่ลงไปไล่ล่าหาหนังสือในห้องสมุดใต้ดิน บรรยายได้เห็นภาพชวนจินตนาการมาก   เรื่องนี้ถ้าเอาไปทำเป็นหนัง ใช้สถานที่จริงถ่ายทำ คงเป็นเรื่องที่ห้ามพลาดแน่นอน จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 18 ส.ค. 51 02:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ง่า สัญญาณเน็ตกะปริบกะปรอยสิ้นดี T^T รอดูลิสต์คุณป้าว่าได้อะไรมากค่ะ "แค่" สิบสี่เล่มเอ๊งงงงง 555 ระยะหลังอ่านหนังสือเด็กได้จบเป็นเรื่องเป็นราวกว่าแนวผู้ใหญ่ค่ะ ก่อนหน้านี้ หยิบแนวสืบสวน ปรัชญาหรือ non-fiction มาแล้วอ่านค้างเพราะไม่ติด ไม่สนุก หรือลืมอ่านต่อ วางระเนระนาวเต็มบ้าน  เพิ่งมีสามเล่มบนนี้แหละที่อ่านต่อเนื่องไม่มีค้างเลย   เสียดายถ้าไม่เพราะมีงาน คงได้อ่านต่อ  กำลังติดลมเชียว ทำให้รู้สึกว่าหนังสือสำหรับผู้ใหญ่มักคิดมากเกินไป บรรยายเยิ่นเย้อ ข้อมูลมากเกิน หรือพยายามสร้างตัวละครมีมิติจนอ่านแล้วรำคาญมากกว่าชอบ  (หรือไม่ก็เพราะคนอ่านเหนื่อย เซ็ง เครียด เลยเกิดอาการดังว่า) ...ระหว่างที่พิมพ์ สัญญาณหลุดไปแล้วสองรอบ  เอ่อ ไปทำงานต่อดีกว่า ไว้คุยกันค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 18 ส.ค. 51 02:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบคำถามกระทู้ก่อน กำลังอ่าน Complications - A surgeon's notes on an imperfect science ว่าด้วยเหตุผิดพลาดทางการแพทย์จากมุมมองของศัลยแพทย์ค่ะ ผู้เขียนเขียนเรื่องนี้ตอนเป็นแพทย์ประจำบ้านอยู่ที่ Harvard Medical School ดูเหมือนว่าปัจจุบันทำงานอยู่ที่บอสตัน แต่ไม่ทราบว่ายังเขียนบทความลง New York Times หรือเปล่า หนังสือเขียนได้ดีมาก คุณหมอผู้เขียนบรรยายฉากและเหตุการณ์จริงได้ดีจนตื่นเต้นตามไปด้วย สนุกยิ่งกว่าดู ER อีกค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 19 ส.ค. 51 00:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนคำถามคุณยาคูลท์ ขอตอบด้วยภาพค่ะ ตื่นเต้นวุ้ย... ไม่เคยโพสต์ภาพ (ที่ถ่ายเอง) ซักที กองสูงเป็น Fiction กองเตี้ยเป็น non-fiction ค่ะ จากคุณ : น้ำคำ - [ 19 ส.ค. 51 00:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อุ๊ย...โพสต์ได้ด้วย... ดีใจ ดีใจ :)  ว่าแต่จริงๆ มัน ๑๖ เล่มเหรอเนี่ย???? non-fiction ที่เห็นในภาพ ขอรับประกันว่าดีแสนดีทุกเล่มค่ะ -complications พูดถึงไปแล้วข้างบน -The Songlines ได้ยินว่าเป็นงานชิ้นเอกของ Bruce Chatwin -The Meaning of Everything เป็นภาคขยายของ Professor and the Madman ใครชอบแนวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางภาษาต้องชอบเรื่องนี้แน่ค่ะ - The Man who mistook his wife for a hat เป็นงานคลาสสิกทางการแพทย์ของ Oliver Sacks ว่าด้วยโรคทางประสาทวิทยาที่คนไข้มีอาการแปลกประหลาด อย่างชื่อเรื่องนั่นแหละค่ะ - Persian Fire ผู้เขียน Tom Holland เขียนหนังสือประวัติศาสตร์ได้ดีเหลือเกิน ป้าอ่าน Rubicon ของเขาเมื่อปีก่อน สนุกมาก ดุเด็ดเผ็ดมัน หักหลัง หักเหลี่ยมจนเวียนหัวยิ่งกว่านิยายกำลังภายใน  Persian Fire ได้รับคำนิยมมากมายตามเคย หนังสือพวกนี้ออกมาหลายปีแล้วนะคะ เล่มล่าสุดคือ Persian Fire ออกมาอย่างน้อยก็สองปีแล้ว   ถ้าใครสนใจอยากเปลี่ยนรสชาติจากนิยายมาอ่านแนวเรื่องจริงลองไปดูที่ห้องสมุดเนลสัน เฮยส์ค่ะ น่าจะมีอยู่ทุกเล่ม   หมวด non-fiction ของเนสันเฮย์สมีของดีอยู่เยอะมากค่ะ ขอบอก...  เรื่องของคุณหมอเจมส์ แฮร์เรียตหาอ่านจากที่นั่นได้ยกชุดเลย แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 00:39:28 จากคุณ : น้ำคำ - [ 19 ส.ค. 51 00:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนกองนิยายคงคุ้นๆ ชื่อกันอยู่แล้ว เพราะไม่ใช่หนังสือใหม่ ที่น่าสนใจคือเรื่อง A Long Long Way ของ Sebastian Barry เล่มนี้เข้า shortlist Booker Prize หลายปีก่อน  ปีนี้ผู้เขียนคนนี้ได้เข้า Longlist Booker แล้วค่ะ ได้ยินว่าออกจะมาแรง  ไปเจอเล่มนี้ราคา หนึ่งเหรียญเลยคว้ามาทดลองอ่านซะหน่อย ส่วน OUT แปลจากภาษาญี่ปุ่น ได้ยินว่าผู้เขียนเธอเป็นนักเขียนดังของญี่ปุ่น จริงเท็จอย่างไรไม่รู้ค่ะ  ลุงอ่านแล้วบอกว่าสนุกดี แถมท้ายว่าถ้าเธออยากอ่านก็ขนกลับเอาเองแล้วกัน ไม่งั้นก็ทิ้งไว้ข้างหลัง ป้าเลยต้องกัดฟันแบกกลับมาด้วยความงก :( แต่เล่มที่ภูมิใจนำเสนอที่สุด คือปกแข็งเอี่ยมลออ ราคา ๓๓ บาท (1 USD) เล่มนี้ค่ะ จากคุณ : น้ำคำ - [ 19 ส.ค. 51 00:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เล่ม Operation Shylock นี่ทำให้ได้พบเคล็ดลับว่าถ้าอยากได้หนังสือดี ราคาแสนถูก ระหว่างเดินทางตามเมืองเล็กๆ ในอเมริกาให้แวะดูห้องสมุดประชาชนของเขาค่ะ เล่มนี้ป้าได้มาจากห้องสมุดในเมืองเล็กๆ ทางภาคอีสานของเวอร์มอนต์  ข้างในห้องสมุดมีหนังสือปกแข็งสภาพดีมาก ขายเล่มละ ๑ ดอลลาร์  ส่วนปกอ่อนสภาพไม่ดีนักวางใส่ตะกร้าอยู่หน้าประตูให้หยิบไปได้ฟรีถ้าอยากอ่าน ห้องสมุดอีกแห่งที่ Montpelier เมืองหลวงของเวอร์มอนต์มีหนังสือขาย  ราคาแล้วแต่จะบริจาคค่ะ  เห็นอัตชีวประวัติของเชอร์ชิล ปกแข็ง ลุงอยากได้มาก แต่หนาเหลือเกิน ไม่มีปัญญาขนกลับ  ต้องตัดใจอย่างหนักหลังจากเวียนยกๆ แบกๆ อยู่สามสี่รอบ ที่เมือง Stamford ในคอนเนคติกัต มีห้องสมุดที่แยกห้องขาย used materials ไว้ต่างหาก  นิยายสภาพดีมาก ราคาแค่ ๒ ดอลลาร์  เจอ My Sister's Keeper ที่นี่ ใหม่เอี่ยมไซส์ใหญ่ด้วยค่ะ แต่ตอนนั้นกำลังกลุ้มใจเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเลยตัดสินใจไม่ซื้อมา ตอนนี้มานั่งเสียดายค่ะ ทนกัดฟันอีกนิดก็ดี   ที่น่าสนใจอีกอย่างคือที่นี่มี audiobooks เยอะค่ะ ราคาไม่แพงแต่เป็นพวก horror, thriller ไม่เข้าทางป้าเท่าไหร่ เป็นอันว่าถ้าใครไปเที่ยวตามเมืองเล็ก เมืองน้อยในอเมริกา ก็เตรียมฝึกยกน้ำหนักไปล่วงหน้าสักสามเดือนแล้วกันค่ะ จะได้แบกหนังสือขึ้นเครื่องไหว ไม่ต้องเสี่ยงจ่ายค่าน้ำหนักเกิน  (ป้าทำมาแล้วค่ะ ตอนยกเป้ใส่ช่องเก็บของหลังแทบหักแน่ะ...) จากคุณ : น้ำคำ - [ 19 ส.ค. 51 01:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีเล่มสุดภูมิใจ ก็ต้องมีเล่มที่ทำให้ปวดใจ Cat's cradle เป็นหนังสือที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะซื้อกลับมาแน่นอน  ไปเจอครึ่งราคาที่ร้านหนังสือมือสอง (เป็นร้านที่ไกด์บุ๊คบรรยายว่าเป็นสวรรค์ของ used-book junkies หนังสือเยอะมากกกก  แถมยังตั้งเก้าอี้ไว้ตามซอกตามมุม ทั้งเก้าอี้นวม โซฟา เก้าอี้ไม้ เก้าอี้ออฟฟิศ ให้ซ่อนตัวอ่านได้ตามสบาย  คนขายก็แสนจะน่ารักค่ะ ไม่เข้ามากวนเลย) เป็นอันว่าเห็นเล่มนี้ สภาพดีมาก รีบคว้าทันที แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 51 01:21:14 จากคุณ : น้ำคำ - [ 19 ส.ค. 51 01:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 รูปใหญ่ค่ะ ขอลองอีกที จากคุณ : น้ำคำ - [ 19 ส.ค. 51 01:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ออกจากร้านมาเปิดหนังสือดูทีหลัง ช้ำใจมากค่ะ  มีรอยขีดเขียนอย่างนี้หลายหน้าทีเดียว ใครมีวิธีกำจัดร่องรอยอย่างนี้ให้แนบเนียนบ้างไหมคะ   ดูเหมือนเจ้าของเดิมเขียนวิจารณ์ หรือวิเคราะห์ถ้อยคำสำนวนอะไรสักอย่าง หรือจะปล่อpทิ้งไว้ ทำใจว่าได้ reading guides แถมมาด้วย เฮ้อ...ช้ำใจจริงๆ จากคุณ : น้ำคำ - [ 19 ส.ค. 51 01:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ๊ะคุณป้า มีเล่มเดียวกันเลย The man who mistook his wife for a hat น่ะค่ะ อันนี้คนใกล้ตัวพัทอ่าน (แต่เค้าบอกว่าหมวกมันเล็กไปสำหรับพัท ฮึ่มมม) คุณป้าอ่าน Jared Diamond กับ Richard Dawkins ด้วยไหมคะแนวนี้ ไอซ์ๆๆ เพิ่งเห็นทู้อ่ะ เที่ยวมาน่าหนุกจริงๆ อยากไปมากเลย แฟนพี่บอกว่าชิลีสวยมาก เปรูเค้าก็ไปแต่แค่ทำงาน ไม่ได้ไปไหนเลย ไอซ์อัพเยอะๆเลยนะ ทู้นี้อุ่นหนาฝาคั่งมากๆ สวัสดีทุกคนด้วยนะคะ ก่อนหน้านี้ลุยอ่านแนวสืบสวนซ่อนเงื่อนไปค่ะ ไล่มาจาก Tess Gerritsen ชุด The Surgeon ต่อด้วย Zigma series ของ James Rollins ไม่กินไม่นอน ตาลายไปเลย ทั้งหมดนี้อ่านรีวิวได้ในบล็อกของไอซ์ค่ะ (โยนๆๆ) เอ้อ ไอซ์ ถามหน่อย เคยอ่านชุด Pendergast ของ Douglas Preston มั้ย ถ้าได้อ่านแล้ว สนุกรึเปล่า เล่มหนึ่งเล่มนี้น่ะ http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/0812543262/ref=ord_cart_shr?_encoding=UTF8&m=ATVPDKIKX0DER&v=glance ช่วงนี้มีคนใจดีเอานิตยสารมาให้อ่านเยอะมากๆๆๆ มีนิตยสารใหมน่าสนใจมากชื่อ Monocle ค่ะ หนังสือสวยมาก ปราณีต บทความก็หลายหลาย แต่พัทว่ามันออกแนวล้ำสมัยไปหน่อยเลยไม่ค่อยลุ่มลึก ลองดูในเวปนะคะ http://www.monocle.com/ เห็นคุณ Mrs.Nightowl ถามหนังสือแนวหญิงๆ เห็นเล่มนี้กำลังมาแรงนะคะ http://www.amazon.com/Guernsey-Literary-Potato-Peel-Society/dp/0385340990/ref=pd_nr_b_8?ie=UTF8&s=books พัทซื้อเล่มนี้มาอ่าน น่าจะหญิงๆเหมือนกันค่ะ กะว่าหมดเรื่องสืบสวนแล้วจะต่อคิวเลย (มู้ดโหดๆมันจะได้ไม่สะดุด ฮ่า) http://www.amazon.com/Garden-Spells-Bantam-Discovery-Addison/dp/0553590324/ref=pd_sim_b_77 ไว้คุยกันค่ะ ปั่นงานเหมือนเดิม จากคุณ : Il Maze - [ 19 ส.ค. 51 16:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ต้องลองอ่าน Death and the Penguin ดูนะคะคุณป้า หรือจะรอภาคแปลภาษาไทย (ฝีมือหนูเอง) ก็ได้ค่ะ น่าจะฮาเหมือนกัน แต่เล่มนี้ขอบอกว่าชอบมากๆๆๆๆ เคยซื้อมานั่งอ่านที่พารากอน มีหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส อิตาเลียน (หน้าตามีสกุลรุนชาติมั่กๆๆ) เดินเข้ามาทักเลย ว่ายูอ่านหน้งสือน่ารักมากๆๆๆ จากคุณ : petitfour - [ 19 ส.ค. 51 19:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กำลังคิดว่าคุ้นชื่อ Death and Penguin จากไหน ที่แท้จากเพติ๊ดนี่เอง ว่าแล้วก็นึกได้ เมื่อวานไปเจอ I am a Cat แปลไทยลดราคาเหลือเล่มละ 20 บาทในร้านดอกหญ้า  สนใจไหม? จะได้ซื้อเก็บไว้ให้ อิจฉาคุณป้ามากกกก  ปกแข็งราคา 33 บาท โอ้ มันมีอยู่จริงๆ ด้วย!   เรื่อง OUT มีแปลไทยแล้วค่ะ ได้รางวัลอะไรสักอย่างด้วย เป็นเรื่องที่อ่านแล้วชอบมาก  เพราะเป็นแนวฆาตกรรมที่มีสาระ อ่านแล้วได้ประเด็นสังคมวิทยาไปคิดด้วย  เดินเรื่องน่าติดตามอีกต่างหาก   ความจริง หนังสือที่มีคนขีดเขียนความเห็นส่วนตัวไว้นี่ก็อ่านสนุกไปอีกแบบนะคะ คุณป้า  เหมือนอ่านตัวเรื่องจริง ๆ กับอ่านที่เจ้าของเก่าตีความไปด้วย   จะให้ดีต้องมีที่อยู่เจ้าของเก่า ตรงไหนเห็นแย้งกัน จะได้เขียนแย้งแล้วเมล์ส่งไปเถียงกันผ่านหนังสือ 555 พัท อ่านแล้วรีวิวบ้างสิ  เผื่อน่าสนพี่จะได้ตะกายไปหามาอ่านบ้าง (แต่โรลลินส์นี่  เห็นความแน่นเอี๊ยดของฟ้อนต์แล้วสยองอ่ะ) ตอนนี้กำลังเลือกอยู่ว่าจะหยิบอะไรอ่านต่อดีค่ะ  โน่นก็อยากอ่าน นี่ก็อยากอ่าน  ถ้าแยกร่างเป็นอะมีบ้าได้ก็คงดี ฮึ่ม ไว้คุยกันค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 ส.ค. 51 20:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่าน Death and the Penguin จบไปแล้วค่ะคุณเพติ๊ด (ไม่ยักกะมีหนุ่มหล่อเข้ามาทักกะเค้าบ้าง) โดนนายวิคเตอร์ชกปลายคางตอนจบ มึนไปพักใหญ่ หนังสือกองนี้ไม่มีการดองค่ะ อ่านไปแล้วสามเล่ม แต่กลับจากเที่ยวแล้วคงมีเล่มอื่นมาหันเหความสนใจตามเคย คุณยาคูลท์มี The plot against America อยู่ไหม ถ้ามีหยิบมาอ่านได้เลยค่ะ สนุกจริงๆ ป้าคิดว่าจะน่าเวียนหัวเพราะเรื่องยิว เรื่องสงคราม แต่เอาเข้าจริงไม่เลยค่ะ ผู้แต่งเก่งมากที่เอาประวัติศาสตร์มาเขียนใหม่เป็นตุเป็นตะให้เราเกิดอารมณ์ร่วมได้ ทั้งที่รู้ว่าความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นแน่ๆ แล้วตัวละครที่สร้างมาเป็นตัวเอกก็แสนจะมีเสน่ห์ เชียร์สุดตัวนะคะเรื่องนี้ ความจริงช่วงเลือกตั้งอเมริกาน่าจะมีสนพ.เลือกเรื่องแบบนี้มาแปลขายบ้าง เห็นบางสนพ. โหมแปลเรื่องของโอบามาซะหลายเล่ม ทีเรื่องสนุกๆ อ่านมันได้แนวคิดดีๆ นักเขียนฝีมือเยี่ยมๆ ทำมั้ยไม่เอามาแปลให้คนไทยได้รู้จักกันในวงกว้างบ้างน้อ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 20 ส.ค. 51 01:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กร้ากกก i am a cat ลดเหลือเล่มละ 20 เองเหรอ ของโซเซกิใช่มั้ย กะลังจะไปซื้อภาษาอังกิดอยู่พอดี เอาๆๆๆนะติ่ม ช่วยหน่อย ลองเอาภาษาไทยมาอ่านก็น่าจะดี แท้งกิ้วหลายๆน้า แหะ แหะ คุณป้า ขืนลองเสนอ the plot against america ให้ล่ะก็มีหวังโดนดองยาว ถ้าโอบาม่าเกิดได้เป็นปธนขึ้นมาจริงๆล่ะก็ เผลอๆอาจโดนดองจนพ้นจากตำแหน่งก็ยังไม่ได้ออกแหงๆๆ เอิ๊กกก น่ากลัวมั่กๆๆ อย่าได้คิดเชียวค่ะ 55555 จากคุณ : เพติ๊ด (petitfour) - [ 20 ส.ค. 51 10:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ^ รับทราบ ปฏิบัติ! คุณป้า ง่า..ก็อยากอ่าน Plot อยู่หรอกค่ะ แต่ขี้เกียจไปรื้อหา  โดนย้ายไปมุมไหนแล้วไม่รู้  คิดว่าคงอ่านพวกใกล้มือก่อนค่ะ  ตอนนี้มีหนังสือเด็กเล่ม  รถไฟเที่ยวดึกไปลิสบอนอีกเล่ม หรือไม่ก็แนวสืบสวนของนักเขียนที่อยากอ่านมานานแล้วอีกเล่ม  (ไม่รวมพวกพล็อตแปลกดีอีกสองเล่มที่ซื้อมาแบบไม่ได้คิดมาก) ... จะอ่าน "เสาค้ำโลก" ก็กลัวใจตัวเอง อ่านไม่จบชัวร์ เมื่อวานกำจัดหนังสือไปได้อีกเล่ม  ตอนนี้อ่านเรื่องผีในกล่องรูปหัวใจอยู่ค่ะ  แต่ดันถึงกำหนดส่งงานอีกแล้ว คงต้องวางเรื่องผีไปก่อน  แง่ม กำลังสนุกเลยนะเนี่ย  ผีเฮี้ยนมากกกก จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 21 ส.ค. 51 16:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องที่เพิ่งจบไปค่ะ  Confessions of a Jane Austen Addict เรื่องของสาวศตวรรษที่ 21 ที่อยู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาในร่างของเจน แมนสฟิลด์ ศตวรรษที่ 19   คอร์ทนีย์เพิ่งบอกเลิกคู่หมั้นจอมเจ้าชู้ และเลิกคบเวส..เพื่อนสนิทของคู่หมั้นที่ช่วยกันปิดบังเรื่องนอกใจ   เวสพยายามติดต่อเธอ แต่เธอหมกตัวอยู่ในโลกนิยายของเจน ออสติน จนในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมาเป็นมิสเจน สาววัย 30 ที่อาศัยอยู่กับแม่จอมบงการ ซึ่งเตรียมเสนอเจนให้มิสเตอร์เอดจ์เวิร์ธ ผู้มีรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติตรงตามสเปคของคุณแม่ยุครีเจนซี่ทุกประการ   การเดินเรื่องเป็นสไตล์ชิกลิท คือ บรรยายความคิดของนางเอกปนกับการเดินเรื่อง  เรื่องแบบนี้ถ้าไม่ชอบนางเอกก็จบเห่ อ่านไม่สนุกแน่  แต่เล่มนี้ยังพอไหวค่ะ ไม่ถึงกับช๊อบชอบ แต่ก็ไม่ถึงกับปาทิ้ง แม้จะมีบางฉากที่คิดว่านางเอกสมองช้า หรือทำตัวกร้านผิดวิสัยคนที่น่าจะรู้วิธีวางตัวในยุคนั้นดี  (เช่น ฉากผู้ชายขอแต่งงาน เธอโพล่งออกมาว่าฉันยังไม่รู้จักคุณดีเลย เรายังไม่ได้นอนด้วยกันสักหน่อย)  แต่จุดที่ไม่ค่อยโดนพวกนี้ก็ชดเชยได้ด้วยการเดินเรื่องแบบออสติน คือ เน้นรายละเอียดจุกจิกในชีวิตหญิงสาวที่(คล้ายจะ)มีชายมาติดพัน มีการเดินทางไปบาธ ไปลอนดอน มีงานปาร์ตี้อลังการ  ...กระตุ้นต่อมสอดรู้สอดเห็นให้เปิดอ่านต่อไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม พออ่านจนจบแล้ว มันคาใจนิดหน่อยค่ะ  เหมือนกับว่าไอ้ปมสลับร่างนี่ไม่สำคัญเลย  คนเขียนแค่อยากเล่าเรื่องรักของเจน (ที่จริงๆ คือคอร์ทนีย์) แล้วก็จบ  เรื่องทางฝั่งคอร์ทนีย์หายไป  คนอ่านต้องเดาเองว่ามันแฮปปี้เอนดิ้ง แต่มีฉากหนึ่งที่โดนใจมาก  คือตอนที่เจนเข้าลอนดอนและได้เจอเจน ออสตินตัวจริง  ทำให้นึกว่าสมมติว่านักอ่านอย่างเราเลือกได้ว่าอยู่ ๆ จะสลับร่างไปอยู่ในยุคไหน  เราจะอยากเจอนักเขียนคนไหนมากที่สุด? ตอนนี้นึกได้สองคนค่ะ  อกาธา คริสตี้ (อยากเป็น Christie stalker มากเลย) กับวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ (คนหลังนี่ค่อนข้างลังเล เพราะหวั่นกับสภาพความเป็นอยู่ในยุคนั้น) เพื่อน ๆ ล่ะคะ? อยากไปเจอนักเขียนในยุคไหนบ้าง? จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 21 ส.ค. 51 16:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หวัดดีค่า ^^ แหะๆ มาตั้งกระทู้เอาไว้แล้วก็หายตัวไป กร๊ากกกก แถมเล่มข้างบนก็อ่านค้างไปเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศ พักสายตามาอ่านหนังสือ font โตๆ บ้าง หลังจากเพ่งกับ font เล็กๆ มาครึ่งเรื่อง ไว้ค่อยไปอ่านต่อ เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วแว่บไปเอเชียร์บุ๊คส์มา เจอโปรโมชั่น 3 for 2 วิญญาณนักช้อปเลยเข้าสิง ทั้งๆ ที่บอกตัวเองว่า ไม่ค้วรไม่ควร ... ซื้อมา 7 เล่มค่ะ ((เล่มนึงมันไม่อยู่ในโปรโมชั่นอ้ะ แต่อยากอ่าน มีคนเคยรีวิวไว้ค่ะ Girl with dragon tattoo รีวิวจนอยากอ่านมากๆ ฮา)) ล้วนแต่เป็นหนังสือแนว "อาหารจานด่วน" สำหรับไอซ์ทั้งนั้น ซึ่งก็คือ แนว thriller กับ พวก murder&mystery ค่ะ 555 เพิ่งซื้อ (3 for 2) และอ่าน The Mephisto Club ของ Tess Gerristen จบไป ว่างเมื่อไหร่คงเข้าไปรีวิวในบล็อกค่ะ ตอนนี้กำลังอ่าน The Bone Garden ต่ออยู่ .... พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ หลายคนอ่านหนังสือน่าสนใจจังค่ะ ขอจดลิสต์ไว้เลียนแบบก่อน อิอิ สนใจ the night battle กับ  Salammbo ((เชยกว่าพี่โตฯ ค่ะ เพราะไอซ์ไม่เคยได้ยิน 555)) งานของ Tony Parsons นี่มีคนบ่นมาให้ฟังหลายเสียงแล้วค่ะ mrs.night owl ว่า ซ้ำซาก ส่วนตัวเคยอ่านเรื่อง Man and boy เล่มแรกของเขาเล่มเดียว ชอบมากๆ เลยไม่ได้อ่านเล่มอื่นอีก ฮา ช่วงนี้ไอซ์ไม่ได้อ่านหนังสือแนวผู้หญิงเลยค่ะ เอิ๊ก ลิสต์ของคุณป้าอลังการงานสร้างมากๆ เลยค่ะ โฮ่ๆๆๆ นี่ไอซ์แทบไม่ได้อ่าน non-fiction มาพักใหญ่ๆ แล้วนะคะเนี่ย ((มีแต่ซื้อมาดอง กร๊าก)) อยากอ่าน Persian Fire ง่ะ OUT นี่ไอซ์อ่านเล่มแปลภาษาไทยแล้วค่ะ ตอนอ่านก็ชอบนะคะ อิอิ หอบมาไม่เสียหลายค่ะ หนังสือที่มีรอยเขียนไว้ ไอซ์ว่าถ้าเขาเขียนน่าสนใจก็ฮาดีนะคะ อิอิ งานของ Douglas Preston & Lincoln Child  นี่ไอซ์ไม่เคยอ่านอะค่ะพี่พัท ฮา ช่วยอ่านหน่อยสิคะ แล้วบอกด้วยว่าดีป่าว 555 แต่ในเว็บของ James Rollins แนะนำงานเขียนร่วมกันของสองคนนี้เยอะมากค่ะ พอดีไอซ์ยังหาหนังสือไม่ได้ พี่พัทชอบ Zigma series ของ James Rollins ป่าว ปีหน้าอยากไป ชิลี โบลิเวีย อาร์เจนติน่า อะพี่ แต่ยังไม่มีตังส์ แงๆๆๆ Death and the Penguin นี่ไอซ์ดองมานานนนมากกกแล้วล่ะค่ะ ไว้จะต้องขนไปอ่านที่พารากอน เผื่อมีหนุ่มหล่อมาทักแบบพี่เพติ๊ด กร๊ากกกกก "เสาค้ำโลก" ของพี่ยาคูลท์นี่ใช้ The Pillars of the Earth ป่าวอะ ... เล่มนี้ฝากน้องซื้อมาให้จากเมกา พอเห็นความหนาปุ๊บ ความอยากอ่านลดฮวบลง 50% เลยอะ แง อืม...ยุคของนักเขียนที่อยากเจอเหรอคะ ... นึกไม่ออกแฮะ ^^" ไอซ์ว่าอังกฤษยุคเหล่านั้นไม่น่าอยู่เท่าไหร่ โดยเฉพาะลอนดอน เอิ๊กส์ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 06:25:07 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 06:22:10 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 51 06:17:58 จากคุณ : Clear Ice - [ 22 ส.ค. 51 06:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ^ Pillars of the Earth แม่นแล้วน้อง  พี่เพิ่งได้จากงานเซลส์เนลสัน เห็นความหนาแล้วต้องซื้อ เพราะถ้าเป็นเล่มเล็กน่าจะฟ้อนต์เบียดกันแน่น อ่านไม่ได้แน่ อ่าน Heart-Shaped Box จบไปแล้วค่ะ รีบเขียนก่อนจะหมดไฟดีกว่า ร็อคสตาร์วัยดึก Judas Coyne มีนิสัยสะสมของพิลึก เช่น คำสารภาพของแม่มดยุคโบราณ เทปเหตุการณ์ขณะฆาตกรโรคจิตลงมือ ฯลฯ  แนวเพลงของเขาดึงดูดพวกมีปัญหา วัยรุ่นฮอร์โมนพล่านหรือไม่ก็ฝักใฝ่ลัทธิมืด  แต่ตัวเขากลับอยู่อย่างค่อนข้างสันโดษ  บ้านไร่ของเขามีเพียงตัวเขา แฟนสาวที่เด็กกว่าเกือบสามสิบปี ผู้จัดการส่วนตัว และหมา 2 ตัวเท่านั้น จนวันหนึ่ง จูดาสทะลึ่งไปสั่งซื้อผีจากอินเตอร์เน็ต เลยได้วิญญาณตาแก่ชื่อแคร็ดด็อคมาร่วมบ้านอีกตน   แต่แคร็ดด็อคไม่ใช่ผีน่าคบ  จูดาสค้นพบอย่างรวดเร็วว่าเขาถูกจัดฉากให้จ่ายเงินเพื่อได้กรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของวิญญาณ (แปลว่า คิดจะไล่ก็ไล่ไม่ได้ เพราะวิญญาณตามติดเขา ไม่ใช่สถานที่)  สาเหตุเพราะแคร็ดด็อคเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กสาวชื่อแอนนา ซึ่งเคยเป็นคู่นอนเขาอยู่พักนึง ก่อนเขาจะทนโรคจิตตกของเธอไม่ไหวและส่งเธอกลับบ้านไป  หลังจากนั้น แอนนาฆ่าตัวตาย ครอบครัวเธอโทษว่าเป็นความผิดของจูดาส ดังนั้น เลยส่งวิญญาณพ่อเลี้ยงมาแก้แค้น ที่น่ากลัวคือแคร็ดด็อคไม่ใช่วิญญาณแค้นธรรมดา แต่มีความสามารถสำแดงตนและสะกดจิตคนเป็นให้ทำตามที่เขาต้องการได้   เรื่องราวหลังจากนั้นสุดแสนจะผีหลอกวิญญาณหลอน  ผีเล่นสงครามประสาทกับคน จนคนอ่านอยากจะให้ตัวเอกฆ่าตัวตายหนีความทรมานไปเสียที  แต่จูดาสประสาทแข็งและดวงดีมาก ผีเลยเล่นงานเขาจัง ๆ ไม่ได้เสียที ต้องไล่ล่าตามหลอนกันข้ามรัฐไปจนกระทั่งจูดาสรู้เรื่องราวทั้งหมดของแอนนา และสะสางปมในชีวิตส่วนตัวของเขาเองได้ในที่สุด ---- ขอสารภาพว่าตอนแรกนึกว่าผีกับคนในเรื่องจะซี้กัน ช่วยเหลือกันในตอนท้าย ปรากฎว่าอ่านไปแค่ร้อยหน้าก็สะอื้น...ผีไรฟะ เฮี้ยนชะมัด ผีแหวกตับโชว์ไส้ยังไม่น่ากลัวเท่า (เพราะมันทำอะไรเราไม่ได้) แต่ผีตนนี้เล่นสะกดจิตเราหรือไม่ก็คนรอบตัวเราได้  แถมยังเล่นสงครามประสาทอีก เช่นเดียวกับเรื่องผีทั่วไป เรื่องนี้มีหลายอย่างที่เหนือธรรมชาติ  คนแต่งอาจเขียนผีให้เก่งเกินไปหน่อย แต่ก็ใส่ตัวช่วยให้พระเอกเยอะมากเช่นกัน  และถึงแม้ว่าตัวละครแทบทุกตัวจะมีชีวิตสุดแสน..เอ่อ บัดซบ? ผ่านอะไรเลวร้ายมามากทั้งจากฝีมือตัวเองและคนอื่น หลายคนยังเป็นคนดี (ลึกๆ)  คนอ่านเลยอดชอบพวกเขาไม่ได้   การเดินเรื่องฉับไว มีอะไรคืบหน้าล่อให้อ่านต่อไปได้เรื่อย ๆ เหมือนดูหนัง(ผี)แอ๊คชั่นฮอลลีวู้ด  ก่อนจะจบด้วยฉากแอ๊คชั่นครั้งใหญ่ เอาใจคนอ่าน โดยรวมแล้ว เป็นเรื่องผีที่ตัวละครน่าสนใจมาก เดินเรื่องน่าติดตาม คลี่คลายแบบเว่อร์ ๆ ไปนิด (แต่เพราะมันเป็นแนวผี ความเว่อร์เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว)  แอบเป็นนิยายรักนิดนึงด้วยค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 23 ส.ค. 51 03:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 Endymion Spring เคยเห็นที่คิโนะตอนเป็นหนังสือใหม่แต่ปล่อยผ่าน สงสัยต้องไปเก็บเสียแล้ว สองวันนี้อ่านจบไปสองเล่มค่ะ ซีรีย์เดียวกัน เพิ่งซื้อมาสดๆร้อนๆ แบบว่าเคยเห็นใน Amazon แล้วคิโนะฯมีก็เลยสอยมาซะ (ไอ้ที่ดองอยู่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปก่อน มันไม่อยากอ้ะ) Resenting the Hero : Moira J. Moore บนดาวแห่งหนึ่งซึ่งมีภัยธรรมชาติรุนแรง และวิทยาการต่างๆไม่สามารถใช้ได้ มีเพียงคนที่ได้รับพลังจากธรรมชาติเป็น Source กับ Shield ที่จะบรรเทาภัยพวกนั้นได้ นางเอกเป็น Shield (มีหน้าที่ต้องคอยคุ้มครอง Source เวลาถ่ายพลัง) ซึ่งจริงจังสุดๆ แต่ดันต้องมาจับคู่กับ Source (มีหน้าที่ถ่ายพลัง) ที่เป็นหนุ่มหล่อน้องชายท่านดยุค แถมยังมีชื่อเสียงว่าเจ้าชู้สุดๆ ซึ่งการผูกพันธะเป็นคู่กันเนี่ยทำได้ครั้งเดียว แล้วก็เลือกเองไม่ได้ด้วย พระเอกกับนางเอกน่ารักดีค่ะ นางเอกเธอเป็นพวกผู้หญิงไร้อารมณ์ จริงจังสุดๆ ส่วนพระเอกก็ออกแนวเจ้าเสน่ห์แสนดี แอบขี้อ้อนนิดนึง (เฮียแกมีปมซึ่งจะเฉลยในเล่มถัดไป) ครึ่งแรกของเรื่องเป็นการปูพื้นพระเอกนางเอก ก่อนจะเข้าสู่พล็อตหลักซึ่งเมืองที่ทั้งสองดูแลอยู่เจอกับภัยพิบัติประหลาดซ้ำๆกัน แถมอีตาพระเอกยังถูกลักพาตัวไปแล้วนางเอกต้องไปช่วย ระบบเวทมนตร์เรื่องนี้แปลกดี แล้วทั้ง Source กับ Shield ก็จะมีนิสัยประหลาดๆกันคนละอย่าง ทีแรกซื้อแค่เล่มหนึ่ง แต่ชอบมากจนไปซื้อเล่มสองในวันถัดมาเชียวนะ จากคุณ : ทินา - [ 23 ส.ค. 51 23:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^ น่าสนใจค่ะ ออกครบชุดหรือยังคะ? เผื่อวันไหนลองไปเปิดดูบ้าง อ่านพล็อตแล้วนึกถึงโรมานซ์ชุดนึงค่ะ จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว แต่จะมีคนหนึ่งมีพลัง กับอีกคนทำหน้าที่คล้ายปริซึมควบคุมอีกที (หรือปกป้องหว่า จำไม่ค่อยได้) จะบอกน้องทินาด้วยว่า Heart-Shaped Box ปกที่ทินาได้ไปน่ะ ภาพเข้ากับเรื่องมากกว่าปกพ็อคเก็ตเยอะเลย  ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ กี๊ซซซซ ซื้อก็แพงกว่า ไหงภาพไม่เจ๋งเท่าฟร่ะ? ฮึ่ม ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเด็กของ Zilpha Snider อยู่ค่ะ โทนเรื่องช่างเด่ะๆ หน่อมแน้มตัดข้ามกับเรื่องผีมาก ปรับโหมดไม่ค่อยทันแฮะ  อย่างไรก็ตาม คงต้องวางไปทำงานอีกเช่นเคย เฮ้อ ไปทำงานก่อนล่ะค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 24 ส.ค. 51 00:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ คิดว่าน่าจะยังมีเล่มใหม่มาอีกค่ะ เป็น Series ปลายเปิด แต่ละตอนก็จะมีเคสหลักต่างๆกันไป แล้วก็พัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครไปเรื่อยๆ อย่างในเล่ม 2 (The Hero Strikes Back) ก็มีคดีคนหาย + ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล แล้วก็แม่พระเอกที่จะมาตามเฮียแกกลับไปรับตำแหน่งท่านดยุค กับความหลังวัยเด็กของพระเอกที่ทำให้นางเอกเริ่มใจอ่อนขึ้น แต่ว่าขนาดเล่มนี้แล้ว ยังไปไม่ถึงไหนกันเล้ยยยย คนอ่านลุ้นจนเหนื่อย ไม่แน่ใจว่าที่คิโนะฯยังมีอีกรึเปล่านะคะ เพราะตอนซื้อมาก็เห็นอย่างละเล่มเอง แถมเล่ม 3 ขอบหนังสือก็แหว่งอีก รอให้เขาไปเอาจะ Emporium อยู่ จากคุณ : ทินา - [ 25 ส.ค. 51 00:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แถมด้วยรีวิวต่อ เครื่องกำลังร้อนหลังจากอืดมาพักใหญ่ Aurelia : Anna Osterlund แนวเจ้าหญิงเจ้าชายแบบ YA ค่ะ นางเอกเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทของประเทศนึงซึ่งถูกปองร้าย พระเอกเป็นลูกชายอดีตสายลับหลวงซึ่งถูกท่านลุงที่เป็นมหาเสนาบดีเรียกตัวมาสืบคดี อ้อ สองคนนี้เป็นเพื่อนสมัยเด็กกันด้วย (อ่า ทำไมเล่าแล้วเหมือนนิยายของลักษณวดีเลยฟระ) ตัวละครอื่นๆประกอบด้วยกษัตริย์ ราชินี(แม่เลี้ยง) น้องสาวลูกติด ลูกพี่ลูกน้องพระเอก(ลูกชายท่านลุงนั่นล่ะ) กษัตริย์เมืองข้างๆ เรื่องส่วนที่เป็นการตามหาคนร้ายทำได้โอเคค่ะ หักมุมนิดหน่อย แต่ว่า...ตัวละครไม่ได้ใจเลย ไม่ถึงกับแบนราบแต่จืดชืดชะมัด ความสัมพันธ์ก็ราบเรียบ ไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย สรุปก็คือพออ่านได้แต่ไม่แนะนำค่ะ จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 25 ส.ค. 51 01:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อุ้...(แว๊~) เข้ามา งง มีแต่หนังสือภาษาอังกฤษ อยากอ่านมั่งจัง ๆๆๆ >.< แต่...มีแบบที่หนุก ๆ ศัพท์ง่าย ๆ อ่านได้เรื่อย ๆ รวดเดียวจบ ไม่มีไม่ได้ อ่านแล้วใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ราคากันเอ๊งกันเองมั้ยคะ (เรื่องมากชิ๊เป๋ง 555+) อยากอ่านภาษาอังกฤษมั่ง แต่ไม่รุ้จะเริ่มอ่านจากเรื่องอะไรอ่ะค่ะ ว๊า ลองโหลดE-bookมาลองอ่าน ก็...มิชอบนั่งอ่านหน้าคอมอ่า ปวดตา มีร้านไหนรับปริ้น2ด้านรับเย็บเป็นหนังสือเลยมั่งคะเนี่ย... จากคุณ : Lavinia - [ 26 ส.ค. 51 00:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนนี้กำลังรอ ยังมีรักที่ฮอร์การ์อยู่นะค่ะ แล้วอยากได้อีกหลายเล่มมากเลยแต่ว่างบจำกัดอ่ะค่ะ จากคุณ : pim (pimparapim) - [ 27 ส.ค. 51 14:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หาคำตอบให้คุณยาคูลท์ไม่ได้เลย คิดไม่ออกว่าอยากเจอใครค่ะ ไม่อยากเจอตัว แต่อยากเห็นห้องทำงาน กับห้องสมุดของนักเขียนมากกว่า อยากรู้ว่าเขาอ่าน + เก็บหนังสืออะไรกันบ้าง ตอบคุณพัทว่าป้ามีหนังสือของ Jared Diamond กับ Richard Dawkin อยู่ค่ะ ยังไม่มีโอกาสอ่าน ต้องรอให้ถึงวันหยุดยาว ไม่ต้องจ่ายตลาดทำกับข้าวถึงจะได้อ่านเต็มที่ ตอนนี้ดองไปก่อน หนู Lavina อยู่กรุงเทพฯหรือเปล่าคะ (ขอเรียกหนูก็แล้วกัน ถ้าทางจะอายุน้อยกว่าป้าโขอยู่) ถ้าอยู่กรุงเทพฯ ก็เก็บตัง ไปสมัครสมาชิกห้องสมุดเนลสันเฮยส์ เลือกหนังสือที่ไม่ยาก อ่านง่ายเข้ากับรสนิยมของเรามาลองไปเรื่อยๆ อ่านไม่จบก็ไม่ต้องเสียดายตัง เพราะเราหาเล่มอื่นมาลองใหม่ได้เรื่อยๆ รับรองว่าคุ้มค่ะ หนังสือเป็นเล่มน่าอ่านกว่าพรินต์เอาต์ ชวนให้ลูบคลำ ทำให้อ่านจบได้ง่ายขี้น หวังว่าเรื่องทางเมืองไทยคงไม่ย่ำแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่นะคะ เดี๋ยวนี้เห็นคำว่า Thailand ทางสำนักข่าวนานาชาติทีไรใจหายทุกที ไม่มีข่าวซะจะดีกว่า อย่างที่ฝรั่งเขาว่า No news is good news นั่นมันจริงแท้ อยู่ไกล...ได้แต่เอาใจช่วยให้เรื่องเรียบร้อยโดยเร็ว เฮ้อ... จากคุณ : น้ำคำ (น้ำคำ) - [ 27 ส.ค. 51 18:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ สองสามสัปดาห์ก่อนได้ดูสัมภาษณ์ Richard Dawkins ใน BBC สุดยอดมากค่ะ นักข่าวถามว่าคิดว่าการที่ผู้นำประเทศเชื่อในพระเจ้านี่เป็นเรื่องไม่ดีใช่ไหม เขาก็ตอบว่า ก็ไม่เชิง แต่การที่ผู้นำเชื่อว่ามีสิทธิจากสวรรค์ในการส่งกองทัพไปบุกอิรักเนี่ย มันก็ไม่เวิร์คหรอกนะ ดูแล้วขำก๊ากเลย จากคุณ : ทินา - [ 27 ส.ค. 51 21:04:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ ฮ่ะๆๆๆๆ ขำ สะใจ คิดได้ไงเนี่ย หมั่นไส้มันอยู่ในใจมานานแล้ว 5555 ชอบค่าคุณน้องขา จากคุณ : petitfour - [ 28 ส.ค. 51 10:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจริงๆนะเนี่ย วันนี้มีของเล่นใหม่ของ pantip มาแนะนำค่ะ http://www.pantip.com/cafe/memberpoint.html เป็นการให้คะแนนคนตอบกระทู้เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เราได้ใช้เว็บบอร์ดนี้อย่างมีคุณค่าค่ะ ทีมงานpantipนี่เก่งเนอะ คอยปรับปรุงเพิ่มลูกเล่นให้เว็บน่าสนใจมากขึ้นๆทุกปีเลย ไม่สงสัยที่หลายๆคนติดกันงอมแงมเนอะ ไปละ ช่วงนี้งานเยอะค่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 28 ส.ค. 51 10:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาเล่าว่าวันม็อบเคลื่อนพล ดันเป็นวันที่ออกไปแถวพระรามหกพอดีค่ะ ... ลืมไป น้องชายเพิ่งเตือนว่าเขาจะยกพลจากใต้ เราฟังแล้วก็ผ่านหูไป โชคดีไม่ได้ผ่านพื้นที่เสี่ยงโดยตรง อ้อมไปอ้อมมาพอดี น้อง Lavinia  ไม่กล้าแนะนำค่ะ พี่คิดว่าเรื่องหนังสือเนี่ย ต่างคนต่างจริตกัน ดังนั้น แนะนำให้สมัครห้องสมุดอย่างที่คุณป้าว่า หรือ..ถ้ามีเพื่อนอ่านอังกฤษเยอะ ก็ยืมหนังสือฟรีอ่านไปเรื่อย ๆ  แล้วจะเจอเล่มที่ตรงสเป็คเองสักวันค่ะ   คุณพิม ใช่เรื่อง ยังมีรักที่อฮัคการ์ ของคุณโสภาคหรือเปล่าคะ?  กะว่าวันไหนจะอ่านอีกรอบอยู่เหมือนกัน  เมื่อก่อนชอบเรื่องนี้มากกว่าฟ้าจรดทรายหรือความลับบนแหลมไซไนเสียอีก   คุณป้า ติ่มเคยอ่านคอลัมน์ว่านักเขียนอ่านอะไรบ้างปีนี้  รู้สึกว่ามองไม่ค่อยเห็นความสัมพันธ์ระหว่างงานที่อ่านกับงานเขียนค่ะ  บางคนเน้นอ่านแต่คลาสสิกยุคเก่า ไม่สนนิยายออกใหม่  บางคนเน้นนิยายใหม่กระแสมาแรง (ซึ่งไม่ได้แปลว่างานดีเลิศเสมอไป อาจแค่ปานกลาง)  ทำให้รู้สึกว่าความเป็นนักเขียนกับนักอ่านไม่เหมือนกัน   นักเขียนชั้นดีอาจเป็นนักอ่านชั้นมาตรฐานทั่วไป แสดงว่างานเขียนน่าจะเกิดจากประสบการณ์มือหนึ่งมากกว่าประสบการณ์มือสอง ด้วยเหตุนี้ เลยอยากตามติดดูชีวิตของนักเขียนมากกว่าค่ะ   ถ้าผ่าสมองมาวิเคราะห์ขั้นตอนได้ด้วยก็คงดี  ก๊ากกก เดี๋ยวตามไปดูลิงค์ของตาลก่อนค่ะ มีอะไรใหม่เอ่ย ไว้คุยกันค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 28 ส.ค. 51 23:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ^ ^ พี่ตาลไม่อัพเดทรูปหลานกระทู้เหรอค้า คิดถึง จากคุณ : ทินา - [ 29 ส.ค. 51 23:12:38 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หวัดดีค่า หายไปนาน มีใครคิดตึ๋งเค้ามั่งเปล่า มึนหัว ไปละค่ะ บ๊ายบาย จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 1 ก.ย. 51 19:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คิดถึงค่า...คิดถึงและเป็นห่วงทุกคน เฝ้าติดตามข่าวเมืองไทยอย่างใกล้ชิด ว่าแล้วก็ขอบ่นสำนักข่าวบีบีซีหน่อยเหอะ หาคนมารายงานข่าวนี่แบบ...เฮ้อเบื่อ... ฝรั่งที่ไปรายงานข่าวจากพื้นที่ขาดแง่มุมรอบด้านของการเมืองไทย แถมตอนเอาคนไทยมาคุยที่ห้องข่าวก็... ถึงจะทำหนังสือพิมพ์ไทยในลอนดอนแต่เธอยังไม่ถนัดคุยเรื่องการเมืองเป็นภาษาอังกฤษสดๆ ต่อหน้ากล้อง...เป็นอันว่าฟังแล้วอึดอัดค่ะ ทั้งที่เนื้อหาเธอดีกว่านักข่าวฝรั่ง อีกวันก็ไปสัมภาษณ์นักการเมืองเก่า อายุเริ่มจะมาก สุ้มเสียงไม่ชัดเจน พูดจาก็ออกจะเอียงๆ ส่วนอีกวันก็สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญจากเซ็นทรัลลอนดอน ฝรั่งจ๋าเชียว... ได้แต่บ่นกับสามี... ฉันละซาบซึ้งบีบีซีจริงๆ เรื่องร้อนๆ ในเมืองไทย แต่กลับมีการวิเคราะห์จากนักวิชาการตะวันตก นั่งวิเคราะห์จากอีกซีกโลกเนี่ยนะ... ก็เลยดูอัลจาซีราภาคภาษาอังกฤษแทน (สังเกตมาหลายครั้งแล้วค่ะว่าสถานีนี้หาแหล่งข่าวที่เป็นคนในชาติแท้ๆ ได้เก่งกว่าบีบีซี โดยเฉพาะเรื่องในเอเชีย กับอาฟริกา) ต้องทนเอาหน่อยว่าสถานีนี้ชอบเสนอข่าวแบบมองโลกในแง่ร้ายมากๆ ดูแล้วหดหู่เชียว... แต่ที่นี่มีสัมภาษณ์อาจารย์จากจุฬา ได้เนื้อหาใจความ และเป็นกลางดีค่ะ อีกวันสัมภาษณ์นักข่าวไทย (ที่ดูเหมือนไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด) เข้าท่าดีเหมือนกัน เป็นอันว่าตามข่าวจากช่องนี้เป็นหลัก ส่วนซีเอ็นเอ็น ก็ตามระเบียบค่ะ....โลกหมุนรอบอเมริกา (แม้จะได้ชื่อว่าเป็นสำนักข่าวนานาชาติ) มีแต่ข่าวพรรคการเมืองประชุมกับพายุในนิวออร์ลีนส์ เฮอร์ริเคนกัสตาฟผ่านเกาะเคย์แมนเป็นข่าวห้านาที พอกำลังจะเคลื่อนผ่าน นิวออร์ลีนส์เป็นข่าวซะครึ่งชั่วโมง ระหว่างผ่านนิวออร์ลีนส์ก็เป็นรายงานสด (เอ้า...ไม่ว่ากัน) แถมด้วยข่าวคนนับแสนโดนน้ำท่วมที่อินเดียพอเป็นน้ำจิ้มไม่ถึงห้านาที... บ่นมายืดยาว... ขออภัยค่ะ ความจริงตั้งใจมาเล่าให้ฟังเรื่องรายการที่ได้ดูจากอัลจาซีรา พูดถึงการฟ้องร้องสำนักพิมพ์ที่พิมพ์เรื่องแย่ๆ ของคนดัง โดนไปหลายสำนักจ่ายกันจนแทบจะล่มจมทีเดียว บางสำนักพิมพ์ต้องหยุดพิมพ์กลางคันเพราะกลัวล่มจมอย่างว่า แต่หนังสือบางเล่มเดินหน้าพิมพ์ต่อไปและไม่โดนฟ้อง กลายเป็นการเพิ่มเครดิตให้หนังสือโดยปริยายว่าผู้เขียนมีหลักฐานแน่นหนาจนอีกฝ่ายไม่กล้าฟ้อง ที่บ้านป้ามีหนังสือเข้าข่ายที่ว่าหนึ่งเล่มค่ะ ชื่อเรื่อง HOuse of Bush House of Saud โดนรัฐบาลซาอุดขู่ว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุดหากพิมพ์ออกมาขาย จนทางสนพ.ต้องหยุดพิมพ์กลางคัน แต่สุดท้ายก็พิมพ์ออกมาทั้งปกอ่อนปกแข็ง และไม่โดนฟ้องด้วย (หนังสือเล่มนี้เคยปรากฏในชั้นหนังสือที่ห้องสมุดในอาบูดาบี แล้วก็หายสาปสูญไปอย่างลึกลับจากทุกชั้น หาไม่เจอเลย ต้องไปซื้อที่อเมริกา) เขียนมายาว อาจหายไปนานหน่อยนะคะ... โน้ตบุ๊คของป้ากำลังจะหมดอายุทำท่าจะตายวันตายพรุ่ง ความจริงคอมฯ ที่นี่ราคาถูก แต่โปรแกรมราคาแพงเหลือเกินแถมไม่มีคีย์บอร์ดภาษาไทย อาจต้องกัดฟันทนรอไปซื้อที่เมืองไทย...อีกนานโพ้นเลยค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 3 ก.ย. 51 13:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากดูข่าวเท่าไหร่นักนะคะ มีเวลาว่างอยู่ 2 วันเลยหยิบ A Private View ของ Anita Brookner มาอ่าน ชอบมากๆๆๆ เป็นเรื่องราวของชายแก่วัยเกษียณ อ่านพล็อตแล้วน่าหลับมากๆๆ แต่ปรากฏว่าไม่ อ่านไปได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ ไม่ง่วง ไม่หลับด้วย ชอบภาษาค่ะ beautiful, elegant and enchanting มากๆ ทำเอาที่เคยหงุดหงิดกับมูราคามิ และ blindness เนี่ยหายเป็นปลิดทิ้ง ให้บรรยากาศอังกฤษ ที่มีแดดสีซีดตอนใกล้หน้าหนาวได้ดีมากๆๆๆ คิดถึงจัง อยากกลับไปอีกทุกเมื่อเชื่อวัน ถึงจะ enchanting สู้ Latecomers ไม่ได้ก็ตาม แต่ว่าชอบมากๆๆๆๆเลย หนังสือนิ่งๆแบบนี้ นานๆอ่านทีก็ชุ่มชื่นหัวใจเหมือนกันนะคะ แต่หนังสือแบบนี้ไม่น่ามีคนอ่านเยอะหรอกค่ะ เพราะพล็อตไม่มีอะไรมาก แต่ในความไม่มีอะไรนี้เอง คนเขียนเขียนได้ซึ้ง และน่ารักทีเดียว ชอบๆๆๆๆ จากคุณ : petitfour - [ 3 ก.ย. 51 15:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่ค่อยตามข่าวเหมือนกันค่ะ อาศัยคนในบ้านสรุปข่าวให้ฟังเลย พี่สะใภ้เผอิญชอบฟังวิทยุ ฟังจริงจังมาก ฟังจนทะเลาะกับสามีเลย 555 อ่านหนังสือเด็กจบไปแล้ว ตอนนี้กำลังเปิดเล่มโน้นนิดเล่มนี้หน่อย เพิ่งไปช้อป 3 for 2 ที่เอเชียบุ๊คมา ตังค์ที่เก็บไว้ทั้งเดือน 8 หายวับ T^T ดวงยาจกตลอดกาลจริง ๆ  ขนาดเก็บตัวอยู่กับบ้านแล้วเชียวนะ เรื่องที่เพิ่งอ่านจบไปค่ะ The Bronze Pen เรื่องของออเดรย์ เด็กสาวช่างฝันที่ครอบครัวลำบากเพราะพ่อป่วยและแม่ต้องทนทำงานภายใต้เจ้านายนิสัยโขกสับ  จนวันหนึ่ง ออเดรย์ตามเป็ดสีขาวไปที่ถ้ำร้าง และได้ปากกาสีบรอนซ์จากหญิงชราลึกลับคนหนึ่ง มันเป็นปากกาที่เขียนแล้วข้อความจะเป็นจริงบางส่วน เช่น ออเดรย์เขียนนิยายให้ตัวละครพูดกับสัตว์ได้  หลังจากนั้น เธอก็ฟังสัตว์เลี้ยงของเธอพูดออก แต่มนต์ขลังจะอยู่ไม่นาน พล็อตเหมือนจะน่าสนุก แต่คนแต่งยืดเรื่องมากกกกก  กว่าจะได้ปากกามาก็ปาไปค่อนเรื่อง  กว่าออเดรย์จะใช้ปากกาและรู้ว่ามันมีเวทมนตร์ก็หมดไปครึ่งเล่มแล้ว  จากนั้นก็เป็นการทดลองเขียนหลาย ๆ แบบ  แล้วก็ใส่ปมให้ลุ้นนิดนึง ก่อนจะจบแบบนิยายสุขสันต์   โทนเรื่องเด็กไปหน่อยค่ะ น่าจะมีหักมุมแบบจริงๆ จังๆ หรือเนื้อเรื่องมากกว่านี้อีกนิด  ยิ่งอ่านต่อจากเรื่องผีสุดลุ้นด้วยแล้ว เล่มนี้เลยจืดสนิทไปเลย จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 4 ก.ย. 51 08:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ส่วนเล่มนี้เป็นการเก็บงานของเม็ก คาบอท (ที่อยากอ่าน) เล่มสุดท้าย คงต้องรอปีหน้ากว่าจะมีงานของเม็กเล่มใหม่ให้อ่าน ... เซ็งเลย เล่มนี้เป็นแนว young adult คล้ายเรื่อง Teen Idol หรือ How to Be Popular ค่ะ   นางเอกเป็นแฟนของนักฟุตบอลดาวเด่น ในเมืองที่บูชาทีมฟุตบอลไฮสคูลประจำเมืองมาก เพราะทีมนี้ครองแชมป์ระดับรัฐมาสิบกว่าปีแล้ว ถือเป็นเกียรติประวัติที่ชาวเมืองภาคภูมิพอ ๆ กับอาหารประจำเมืองที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อทีม ...ยกเว้นปีเดียวที่ต้องสละสิทธิ์  เพราะนักกีฬาโดนเปิดโปงโดยหนุ่มขี้ก้างชื่อทอมมี่ ซัลลิแวน   ผลที่ตามมาคือมีคนพ่นสเปรย์ Tommy Sullivan Is A Freak ไว้บ่นกำแพงโรงยิม...ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ลบออก  ทอมมี่ย้ายออกจากเมืองไปเมื่อสี่ปีก่อน ไม่มีใครอยากเอ่ยชื่อเขาพอ ๆ กับไม่อยากพูดถึงปีที่พลาดแชมป์ไป ดูภายนอก นางเอกดูดีและสถานะมั่นคง  หากสิ่งที่หลายคนไม่รู้คือนางเอกเต็มไปด้วยความลับ  ทั้งความลับเมื่อสี่ปีก่อน..สมัยที่เธอเป็นเพื่อนคนเดียวของทอมมี่ขี้ก้าง และความลับตอนนี้ที่เธอแอบจับปลาสองมือ แต่ไม่รักปลาในมือเลยสักตัว   แล้วอยู่ ๆ ทอมมี่ก็กลับมาในมาดใหม่ จากเด็กขี้ก้างเป็นหนุ่มหล่อหุ่นน่าฟัด กับนิสัยนักข่าวจมูกไวเหมือนเดิม  เล่นเอานางเอกขวัญกระเจิงเพราะเดาใจเพื่อนเก่าไม่ถูก ---- อ่านสนุกตามสไตล์เม็กค่ะ  ตอนแรกแปลกใจนิดหน่อยที่นางเอกเล่มนี้ออกจะเปรี้ยว แก่แดดและดูไม่ค่อยเป็น 'นางเอก' เหมือนเรื่องอื่น    แต่ตอนจบเธอก็กลับมาเป็นนางเอกพิมพ์นิยมอยู่ดี (ป.ล. เขียนตอนง๊วงง่วง รายละเอียดอาจผิดบ้างนะคะ อ่านจบไปพักใหญ่แล้วด้วย) จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 4 ก.ย. 51 09:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณป้าบ่นเหมือนกับบ้านพัทเลยค่ะ วันที่บีบีซีเชิญคนไทยคนนั้นมาสัมภาษณ์ ฟังแล้วอึ้งไปตามๆกันเพราะสิ่งที่พูดไม่ค่อยต่อเนื่องเลย คิดกันว่าหรือเธอจะตื่นเต้น แต่วันต่อๆมาไม่ทันได้ฟังค่ะ แต่พัทว่าอะไรก็ไม่มันเท่าวันที่สมัครให้สัมภาษณ์แดน ริเวอร์ของ CNN (ดูจบแล้วเข้าทำนองหัวเราะร่าน้ำตาริน ฮืออ) แต่ช่วงนี้เปิดข่าวทีไรเจอแต่เรื่อง Sarah Palin กับลูกสาวนะคะ เอ๊ะ พอก่อนเดี๋ยวกลายเป็นห้องข่าวไม่ใช่ห้องสมุด พี่ติ่ม ไอซ์ ซีรียส์ Sigma ของ James Rollins สนุกมากค่ะ พี่ติ่มซื้อได้เลย แต่พัทไม่ได้เริ่มอ่านจากเล่มแรกคือ Sandstrom เพราะเข้าใจผิดเหมือนไอซ์ว่าไม่ใช่ซีรียส์เดียวกัน (แถมเรื่องยังเกิดในโอมานอีกตะหาก ความรักความหลัง อุอุ) ถ้าอ่านให้เรียงตามนี้ค่ะ Sandstrom, Map of Bones, Black Order, The Judas Strain และเล่มล่าสุดคือ The Last Oracle (อันนี่ที่กรีซ ยิ่งกว่าความรักความหลัง ฮืออ) ตอนนี้พัทอ่าน The Judas Strain อยู่ค่ะ ถ้าเทียบสามเล่มแล้วสนุกพอๆกัน วางไม่ลงเหมือนกัน แต่ต่างแนว คนเขียนค้นคว้าทำการบ้านมาสุดยอดมากๆๆ แต่พัทอ่าน Map of Bone เข้าใจง่ายกว่าเล่มอื่นเพราะวิทยาศาสตร์ในเรื่องไม่ยากเท่า แต่เล่มอื่นถ้าค่อยๆอ่านก็พอเข้าใจค่ะ (หรือคิดไปเองว่าเข้าใจ ฮ่า) แต่สนุกจริงๆค่ะ (ปล ขอบอกว่าตอนนี้ไม่เป็นอันทำอะไรเลย เจอใครก็ถามแต่เรื่องเมืองไทย ที่สถานทูตก็รับโทรศัพท์กันจนมือจะหงิก ที่ตลกมากคือรุ่นพี่เล่าให้ฟังว่าที่อิตาลี มีนักท่องเที่ยวไปเช็คอินแล้วก็ถามเจ้าหน้าที่ของการบินไทยที่เป็นอิตาเลียนด้วยกันว่าเมืองไทยอันตรายรึเปล่า ไปเที่ยวได้ไหม เจ้าหน้าที่ถามกลับว่า ยูเป็นอิตาเลียนใช่มั้ย ยูเกิดและโตที่นี่ใช่รึเปล่า ถ้าใช่ ไปเหอะ อิตาลีอันตรายกว่าเมืองไทยเยอะ เอิ้ก เห็นบอกว่านักท่องเที่ยวรายนั้นเลยเดินขึ้นเครื่องด้วยความมั่นใจเต็มร้อย) จากคุณ : Il Maze - [ 4 ก.ย. 51 13:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ^ แท้งกิ้วจ้ะพัท ง่า.. เพิ่งซื้อ Judas Strain มาเองค่ะ  เป็นตอนสี่เลยเรอะ (จะอ่านรู้เรื่องไหมเนี่ย?)  พอดีเซ็นทรัลมิดไนท์เซลส์ บีทูเอสลด 15% เลยไปกวาดพวกราคาปกไม่แพงมาเก็บ  บางเล่มลดเหลือ 220 บาท ...ถูกกว่าที่แปลไทยเสียอีก พี่ว่ากรณีสัมภาษณ์นายกสมัครกับแดน ริเวอร์เนี่ย ในอนาคตคงเป็นเรื่องชวนหัวอีกเรื่องนะ  อันที่จริง ถ้าดูแต่ท่าทางกับคำพูด ไม่สนว่าประเด็นของเรื่องมันดีต่อบ้านเมืองไหม นักการเมืองยุคนี้เหมือนตลกคาเฟ่ดี   แต่เป็นหัวเราะร่าน้ำตาริน อย่างที่พัทว่าแหละ หึหึ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 4 ก.ย. 51 23:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 56 555 เยๆ มาเป็นแฟนของพี่ James Rollins กันเถอะค่ะ ((หน้าม้ามาเอง 555)) Judas Strain นี่ซื้อมาพักนึงแล้วค่ะ แต่ว่ายังไม่กล้าอ่านเลย เก็บกักตุนไว้อ่านตอนเซ็งชีวิต ((มากไปกว่านี้ 555)) เพิ่งไปรีวิวหนังสือที่อ่านไม่จบมาค่ะ เอิ๊กส์ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=clear-ice&month=05-09-2008&group=3&gblog=108 เรื่องข่าวบ้านเรา...เหอๆๆๆๆ ((ไม่มีคำพูดใด หึหึ)) จากคุณ : Clear Ice - [ 5 ก.ย. 51 11:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 57 พี่ติ่มคะ พัทว่าน่าจะอ่านให้เรียงเล่มนะ เพราะถ้าพี่อ่าน Judas Strain ก่อนมันจะมีสปอยล์ตัวละครนิดหน่อย ไม่มากหรอกค่ะ แต่ว่ามันจะทำให้อ่านเล่ม Black Order ขาดอรรถรสไปนิด จากคุณ : Il Maze - [ 6 ก.ย. 51 14:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านbreaking dawn จบแล้วเหมือนกันค่ะ ตอนนี้กำลังอ่านvampire academy อยู่ค่ะ ประมาณครึ่งเล่มเอง  หนังสือชุดนี้มี3เล่มค่ะ  คุ คุ จากคุณ : มุ้งมิ้งสีชมพู (มุ้งมิ้งสีชมพู) - [ 6 ก.ย. 51 20:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 59 รู้สึกงานของ Meyer ชุดนี้จะมาแรงจริงๆ  คนติดเยอะแยะเลย ตกลงมันสี่เล่มจบจริงแน่นะ  เผื่อหาฉบับอังกฤษมาอ่านบ้าง พัท มีสปอยล์ด้วยเหรอ? ว้าๆๆ  รู้งี้ซื้อ Sandstorm มาดองแต่แรกดีกว่า เห็นหลายรอบแล้วแต่เมินตลอด   มีปัญหามาขอให้พี่น้องช่วยค่ะ   ... คือ กำลังอ่านนิยาย People of the Book เกี่ยวกับ Haggadah โบราณ  ต้นฉบับมีรอยเจาะรูสำหรับแถบรัด (คล้ายไดอารี่)  เรื่องบรรยายสภาพดั้งเดิมของแถบรัดไว้แบบนี้ Aryeh (ชื่อคน) released the catches, admiring the talent of the silversmith.  Each clasp, closed, was in the form of a pair of wings.  As the delicate catch released--still smoothly, after more than a century--the wings opened to reveal a rosette enfolded within.  Aryeh saw at once that the book was a haggadah,... ในเรื่องมีพูดถึงปีกกับกุหลาบที่ส่วนอื่นด้วย  เช่น ตัวละครหนึ่งได้แถบรัดที่ทำด้วยเงินนี้มา ก็คิดจะแกะกุหลาบไปเป็นของกำนัลให้อนุภรรยาซึ่งชอบเครื่องประดับจิ๋ว ส่วนปีก เขาคิดว่าอาจเอาไปให้ภรรยาหรือสาวคนใหม่ ใครอธิบายภาพเจ้าแถบรัด (double hook) ที่ประกบเป็นรูปปีก พอเปิดแล้วคลี่เป็นดอกกุหลาบนี่ให้ฟังทีเถอะ นึกภาพไม่ออกเลยจริง ๆ ค่ะ  ลองไปหาภาพ Rothschild fascimile มาดูแล้วก็ยังไม่เก็ท  คาใจยิ่งนัก .. ว่าแต่ เพิ่งรู้นี่แหละว่าแค่แถบรัดหนังสือเก่าก็มีราคาขนาดนี้ได้ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 7 ก.ย. 51 06:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ซีรี่ส์ชุดTwilightมี4เล่มจบค่ะ แต่จะมีเล่มที่5 Midnight Sunซึ่งก็คือเล่มที่1 แต่เล่าจากมุมมองของEdwardค่ะ จากคุณ : มุ้งมิ้งสีชมพู (มุ้งมิ้งสีชมพู) - [ 7 ก.ย. 51 09:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ ง่า พี่ติ่ม ก่อนตัดสินใจอ่านดูรีวิวเล่ม 4 ก่อนไหม เห็นในอเมซอนนี่มีคนกลุ่มหนึ่งฆ่าไม่นับสับไม่เลี้ยงกันเลยนะ เขาว่า 3 เล่มแรกน่ะลงตัวเพอร์เฟกต์แล้ว เล่ม 4 มันหลุดธีม (แต่ไม่ได้อ่านเองหรอกน้า ไม่ชอบแวมไพร์สไตล์นี้เท่าไหร่) จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 7 ก.ย. 51 22:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ^ ^ ไปอ่านมาแล้วค่ะ อารมณ์แบบรีวิวสับนิยายรักมอมเมาของไทยเลยนะเนี่ย ท่าทางชุดนี้จะเป็นนิยายรักมากกว่าแฟนตาซีแหง ... (บิดตัวเอียงอาย) ฟามจริง ก็ชอบอ่านแนวนี้น้า อ๊างงง ทำให้นึกได้ว่าวันก่อนได้ไฟล์ .doc ของชุดนี้มา ใครมีวิธีแปลงเป็น .lit ไหมคะ? จะได้เอาไปสมทบในคลังยาฮู (หรือว่ามีอยู่แล้วอ่ะ?) ขอบคุณน้องมุ้งมิ้งสีชมพูด้วยค่ะ ความอยากอ่านลดไปสองขีด แบบนี้มันก็เหมือนไม่จบจริงนะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 8 ก.ย. 51 02:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 วันก่อนเพื่อนส่งหนังสือที่เพิ่งเขียนเองมาให้อ่านเผื่อเตรียมตัวไว้ก่อน (ยังค่ะพี่ติ่ม ยังไม่มีข่าวดี อุอุ) แต่พัทคิดถึงตาลเลยขอมาแปะปกไว้ก่อนนะคะ เพราะอีกหน่อยไทเกอร์โตแล้วได้พาเที่ยวเนอะ (มาให้ป้าๆน้าๆฟัดเล่นซะดีๆ) หนังสือชื่อกระเตงลูกอ่อน ตะลอนโลกกว้าง ใครที่ไม่มีลูกอ่อน (และสามี) จะกระเตงอะไรแทนก็ได้นะคะ คนเขียนไม่ห้าม ฮ่า ส่วนอันนี้ บล็อกคนเขียนค่ะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nzmum&month=08-09-2008&group=1&gblog=72 จากคุณ : Il Maze - [ 10 ก.ย. 51 14:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ประกาศย้ายบ้านค่า จะหายหน้าหายตาไปชั่วคราวนะคะ ช่วงแรกๆคงวุ่นอยู่เหมือนกัน รบกวนทุกคนอ่านหนังสือเผื่อด้วยนะค้า ^O^ จากคุณ : ทินา - [ 11 ก.ย. 51 16:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 65 แอบตามลิงค์ที่พี่พัทแปะไว้ให้ ท่าทางหนังสือดูน่าสนใจดีค่ะ เห็นในบล็อกมีตัวอย่างบทที่ไม่ได้ตีพิมพ์ให้อ่านด้วย ไว้มีเวลาไปร้านหนังสือจะลองหาดูค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับไทเกอร์ตอนนี้เกือบ 7 เดือน ยังไม่เคยไปไหนเลยนอกจากบ้านกับโรงพยาบาล เอารูปมาฝากค่ะ เพิ่งถ่ายอาทิตย์ที่แล้วนี่เองค่ะ น้องทินาจะไปเรียนต่อแล้วเหรอคะ ยังไงก็ขอให้โชคดี เที่ยวเผื่อด้วยนะจ๊ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 16 ก.ย. 51 15:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 66 กรี๊ดดด ไทเกอร์โตเร็วมาก  ตอกย้ำอายุป้ามากมาย เอิ้กๆ ตาหวานเหมือนแม่รึเปล่าเนี่ย? พัท แปะหนังสือแบบนี้ ท้าชกกันเลยดีกว่าไหม? แง่ม ไม่เห็นใจสาวโสดโฉดสนิทอย่างเราเลย  5555 อ่านหนังสือจบไปอีก 3 เล่มแล้วค่ะ   เดี๋ยววันไหนหัวโล่งแล้วจะมาเล่าให้ฟัง  ตอนนี้ขี้เกียจมากกก มีเล่มนึงที่แทรกปรัชญาน่าคิดไว้ด้วย เช่น บอกว่า golden rule  คือมนุษย์เราต้องปฏิบัติกับคนอื่นอย่างที่อยากให้คนอื่นปฏิบัติกับเรา   แต่ตัวละครในนิยายบอกว่าหลักการนี้ค้านกับความเป็นจริง เพราะไม่งั้น เราไม่อยากให้คนป้องกันตัวเวลาเราโจมตี ก็แปลว่าเราต้องไม่ป้องกันตัวเวลาถูกโจมตีด้วย   หรือในการฆาตกรรมใครสักคน  ฆาตกรรมไม่ใช่การกระทำโหดร้ายต่อเหยื่อ เพราะการคงอยู่ของเขาหมดไปเมื่อโดนเราฆ่า เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกว่าถูกทำร้ายหรืออะไรอีกแล้ว  การที่ฆาตกรถูกตัดสินลงโทษเป็นการชดใช้ให้ครอบครัวเหยื่อที่สูญเสียคนที่รักไป--ไม่ใช่ตัวเหยื่อซึ่งไม่มีตัวตนแล้ว  ดังนั้น โทษของฆาตกรมักจะหนักเบาตามความรู้สึกสูญเสีย  เช่น คนดำที่ฆ่าคนขาวจะได้รับโทษหนักกว่าคนขาวฆ่าคนดำ และด้วยหลักการนั้น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฆ่าล้างโคตรจนไม่เหลือคนที่จะรู้สึกเศร้ากับการตายของเหยื่อ จึงเป็นการฆ่าที่ไม่โหดร้าย และมีเหตุผลที่จะไม่โดนลงโทษ (อะไรประมาณนั้น) .... อ่านแล้ว mind-boggling จริงๆ ค่ะ  ดีนะที่มีพวกปรัชญาพวกนี้แทรกอยู่ไม่มาก  ไม่งั้นคงอ่านไม่จบแน่ มัวแต่ตีความ กำลังเลือกหยิบเล่มต่อไป แต่เจอพวกฟ้อนต์เล็ก ๆ ทั้งนั้นเลย สงสัยตอนซื้อจะลำพองใจไปหน่อยว่าอ่านฟ้อนต์ 12 pt ไหว (คือ ตอนยืนอ่านตัวอย่างไม่กี่หน้าก็ไหวอยู่  แต่อ่านต่อเนื่องนี่..ตายสนิท) ไว้คุยกันค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 17 ก.ย. 51 10:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 67 พี่ อ่านที่พี่เขียนแล้วคิดถึงตัวละครใน water babies เลย ที่มีสองตัวชื่อ doasyouwouldbedoneby กับ bedonebyasyoudid น่าจะเข้าหลักปรัชญาชวนมึนของพี่ไหม เล่มนี้ชื่ออะไรคะพี่ น่าสนๆๆๆ จากคุณ : Il Maze - [ 17 ก.ย. 51 13:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ^ ^ ตามคนข้างบน จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 17 ก.ย. 51 15:51:02 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เอ่อ ขอใช้พื้นที่กระทู้โฆษณาหน่อยนะคะ คือว่าหนังสือแปลเรื่อง Babette's Feast ของพี่เพติ๊ดออกแล้วนะคะ มีชื่อไทยว่า งานเลี้ยงของบาเบตต์ เล่มสีฟ้าเล็กๆ กุ๊กกิ๊กน่ารัก ลองอ่านสำนวนแปลของพี่เพติ๊ดดูบ้าง ว่างๆก็ช่วยสอยมาอ่านกันบ้างนะคะ รูปยังไม่มีง่ะ เพราะยังไม่ได้เข้าไปเอาหนังสือเลย แต่เห็นว่าอาทิตย์หน้าน่าจะวางแผงแล้วล่ะค่ะ เล่มนี้ทำกับสนพ. วงกลม ค่ะ (หนังสือทำ artwork น่ารักมากขอบอก) โฆษณางานของตัวเองก็เขินเหมือนกัน แต่ทำไงได้ จนใจไม่มีบล็อตของตัวเองน่ะ จากคุณ : petitfour - [ 18 ก.ย. 51 11:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 70 รายงานชอร์ทลิสท์บุคเกอร์ไพรซ์ค่ะ ไม่รู้จักเลยสักคน เฮ่อ เคยได้ยินชื่อ Ghosh ผ่านๆ แค่คนเดียวเอง Aravind Adiga The White Tiger  (Atlantic)                             Sebastian Barry The Secret Scripture (Faber and Faber)                         Amitav Ghosh Sea of Poppies (John Murray)                                   Linda Grant The Clothes on Their Backs (Virago)             Philip Hensher The Northern Clemency (Fourth Estate)                     Steve Toltz A Fraction of the Whole (Hamish Hamilton) ชื่อนักเขียนกับชื่อหนังสือปนๆ กันหน่อยนะคะ ยังปวดไหล่อยู่ ไม่มีแรงจัดแต่งง่ะ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 18 ก.ย. 51 15:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ตอบพัทกับเหมียวยิ้ม  หนังสือชื่อ Homecoming ของคนแต่ง the Reader ค่ะ (จำชื่อไม่ได้ เบิร์นฮาร์ท..ชริงค์?) หลักการมันคงคล้ายกับความหมายของชื่อตัวละครใน Water Babies มั้งพัท เพราะหลัง golden rule แล้วยังมี iron rule แก้ไขจุดบกพร่องในหลักการอันแรกด้วยน่ะ  พี่กำลังคิดว่าหลักพวกนี้น่าจะมีคนคิดหรือเขียนถึงมาแล้วแหละ อย่างหลักการแรกก็น่าจะอยู่ในไบเบิ้ล..รึเปล่า เหมือนเคยอ่านเจอแว่บๆ น่ะ ... อ้อ แต่บอกก่อนว่านิยายเล่มนี้มีส่วนที่พูดถึงปรัชญาพวกนี้นิดเดียวนะ  นำเสนอในรูปบทความของตัวละคร  ไม่ได้ถกกันเป็นหลัก ยินดีกับเพติ๊ดด้วยจ้า เดี๋ยวรออ่านนะ ดูรายชื่อ shortlisted แล้ว รู้จักและเคยเห็นหนังสือแค่ 2 เล่มเอง แต่ไม่เคยอ่านเลยทั้งนั้น   ไปทำงานก่อนค่ะ ส่งพรุ่งนี้ ยังไม่เริ่มเลยสักกะจึ๋ง ตายแน่ตู T__T จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 19 ก.ย. 51 03:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เข้ามารายงานตัวว่ายังมีชีวิตอยู่ดีในต่างแดนค่ะ ตั้งแต่มาเพิ่งซื้อหนังสือไปเล่มเดียวเอง แถมยังไม่ได้อ่านด้วย T_T ชีวิตวุ่นวายปานกลางถึงมาก มีเรื่องใหม่ๆต้องเรียนรู้เต็มไปหมด แง อยู่บ้านนี่มันสบายกว่าจริงๆน่อ จากคุณ : ทินา - [ 22 ก.ย. 51 05:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 73 วันก่อนเข้ามาอ่านกระทู้นี้ทีนึงละ แต่ว่าเนทหลุด ระหว่างที่พิมพ์อยู่ ด้วยความหงุดหงิดยิ่ง  เลยไม่ได้เข้ามาเลยค่ะ แต่พักนี้อ่านเยอะมาก เด๋ววิ่งไปถ่ายรูปแบบคุณป้ามั่ง (เหมือนอ่านได้เยอะ) คุณป้าคะ Persian Fire หนูยังดองบนหิ้งเลย สนุกใช่ไหมคะ เดี๋ยวจะไปงัดมาอ่าน ตอบคำถามก่อน ตอนนี้กำลังอ่าน Boleyn Inheritance ด้วยความเมามันค่ะ พึ่งอ่าน The Constant Princess จบไป สนุกมากมาย ตอนนี้กำลังคลั่งนิยายประวัติศาสตร์ เดี๋ยวมาโพสรูปค่ะ จากคุณ : วิต้า (Vita_tranquila) - [ 23 ก.ย. 51 11:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ที่อ่านจบไปนะคะก็มี Peony In Love by Lisa See The Kite Runner A Thousand Splendid Suns The Constant Princess Shopaholic and Baby จากคุณ : Vita_tranquila - [ 24 ก.ย. 51 10:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 75 Kite Runner นั่นซื้อมือสองมานะคะ ปรกติไม่ใช่คนอ่านหนังสือจนสันหนังสือหักขนาดนั้น เล่มใหญ่สะใจมาก อ่านสบายตาจริงๆค่ะ อีกรูปนะคะ ที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้มีสี่เล่มค่ะ The Boleyn Inheritance อ่านไปแล้วกว่า 75% ค่ะ กำลังจะจบในเร็ววัน On Chesil Beach อ่านไปครึ่งเล่มละค่ะ ก็โอเค แต่แอบเสียดายตัง เพราะซื้อเสร็จไปเจออีกร้านนึงขายถูกกว่าตั้งเยอะ Trespass เริ่มเบลอๆ กะพล็อตเรื่องค่ะ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อ่านมา 25% แล้วค่ะ เริ่มเนือยๆ Saving Fish from Drowning เค้าว่าเป็นสไตล์ใหม่ของ Tan แต่อ่านแล้วก็คล้ายๆ เรื่องเดิมๆ แค่ระทึกกว่านิดนึง อ่านไปแล้ว 25% ค่ะ จากคุณ : Vita_tranquila - [ 24 ก.ย. 51 10:19:04 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขออนุญาตหมั่นไส้คนอ่านแต่เล่มเล็กอย่างคนข้างบนเล็กน้อย เออ ไม่เฒ่าชแรแก่ชราอย่างเราบ้างก็แล้วไป ฮึ่ม วันก่อนพยายามจะเริ่มอ่าน Night Train to Lisbon แต่ไม่ไหวค่ะ ฟ้อนต์เล็กแถมยังบรรทัดอยู่ชิดกันมาก ต้องเพ่งอ่านจริงๆ  ... อ่านไปบทเดียวก็เริ่มอารมณ์เสีย อ๊ากกก สรุป สงสัยเล่มนี้ต้องวางไปก่อนค่ะ ตอนนี้เลยเซ็งๆ ยังไงไม่รู้  อยู่ในโหมดสมองล่องลอยไปกับสายลม จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 25 ก.ย. 51 12:35:38 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เล่าถึงเรื่องที่เพิ่งอ่านจบล่าสุดไปแก้เซ็งหน่อยค่ะ Twisted  by Laurie Anderson เรื่องเล่าด้วยน้ำเสียงของ Tyler วัย 17 ปี ซึ่งต้องทำงานบริการชุมชนตลอดหน้าร้อนเป็นการชดใช้โทษฐานทำลายทรัพย์สินโรงเรียน  เรื่องของเรื่องคือ ไทเลอร์คิดจะพ่นสเปรย์กำแพง เพื่อสร้างความเด่นให้ตัวเอง  ซึ่งก็ทำได้สำเร็จมากกว่าที่คิดไว้..แม้จะคนละแบบกับที่วางแผนไว้  เพราะเขาดันสะกดคำผิดตอนพ่น แถมยังทำกระเป๋าเงินหล่นไว้ในที่เกิดเหตุ  เขาเลยได้นั่งรถตำรวจ ได้ค้างคืนในคุก ได้ขึ้นศาลและโดนคุมความประพฤติ ดังไปอีกแบบ เนื้อเรื่องในเล่มเริ่มขึ้นช่วงปลายฤดูร้อน งานใช้กำลังที่เขาทำตลอดปิดเทอมเปลี่ยนลุคไทเลอร์เป็นหนุ่มมีมัดกล้าม  เทอมใหม่เริ่มขึ้นพร้อมความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ชิพ มัลบิวรี่คนลูกยังคงไม่ชอบหน้าไทเลอร์  แต่น้องสาวฝาแฝดของชิพ..เบธานี ผู้เปรียบเสมือนผึ้งราชินีในโรงเรียน..อยู่ ๆ ก็หันมาให้ความสนิทสนมกับไทเลอร์ หลังจากเกิดอุบัติเหตุที่ไทเลอร์ทำให้เธอต้องบาดเจ็บ  ความสัมพันธ์คืบหน้าถึงขนาดเบธานีชวนไทเลอร์ไปงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่บ้านเพื่อนอีกคน เชื้อเชิญเขาขึ้นห้อง แล้วปาร์ตี้ก็ลงเอยด้วยการที่วัยรุ่นแต่ละคนเมาแอ๋  ไทเลอร์ต้องขับรถพาพวกมัลบิวรี่ไปส่งบ้าน   วันต่อมา มีรูปเปลือยของเบธานีในงานปาร์ตี้หลุดไปทั่วอินเตอร์เน็ต   ไทเลอร์ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามีปากเสียงกับเบธานีในคืนนั้นตกเป็นผู้ต้องสงสัยของตำรวจ และกลายเป็นเป้าหมายกลั่นแกล้งของเด็กทั้งโรงเรียน    พ่อของไทเลอร์ทำงานให้บริษัทของครอบครัวมัลบิวรี่  ปกติเขาก็คิดว่าไทเลอร์เป็นตัวปัญหาอยู่แล้ว  เรื่องครั้งนี้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแย่ลง พ่อคิดว่าเขาอาจตกงานได้ ในขณะที่ไทเลอร์เริ่มคิดถึงสารพัดวิธีการตายที่ครอบงำจินตนาการเขามานานแล้ว... ***** เล่มนี้เป็นแนว young adult ที่อ่านเอาสนุกเพลิน ๆ ก็ได้ อ่านตีความโน่นนี่ก็ได้ค่ะ  (โดยส่วนตัวแล้ว เลือกอ่านแบบแรกค่ะ ขี้เกียจคิด) ตัวละครส่วนใหญ่เป็นแบบที่พบได้ทั่วไป  วัยรุ่นชาย (ตัวเอก) ที่ไม่มีอะไรเด่น คิดเรื่องรุนแรงในบางครั้งแต่ไม่ใช่เด็กก้าวร้าว   พ่อที่ห่างเหินกับทุกคนในครอบครัวแต่ก็พยายามคุมทุกคนให้เป็นอย่างที่เขาต้องการ  แม่ที่ดูเข้าใจลูกและหาข้อแก้ตัวให้ทุกอย่าง   เพื่อนในโรงเรียนที่แบ่งเป็นกลุ่มเด็กป็อปกับโนบอดี้  พวกนักกีฬาอาจแกล้งเด็กแหยบ้างนิดหน่อย ถึงเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับความมืดมิดหรือความสับสนของเด็ก น้ำเสียงการเล่าเรื่องไม่ถึงกับหม่นหมอง เป็นการเดินเรื่องไปเรื่อย ๆ  แทรกมุกให้คนอ่านหัวเราะนิดหน่อย   อ่านเพลินดี ไม่น่าเบื่อสักฉาก      มีฉากเดียวตอนใกล้จบที่ชวนเครียดนิดหน่อย แต่สุดท้าย คนแต่งก็เลือกคลี่คลายเรื่องในแง่ดี ได้เล่มนี้มาแบบ 3 แถม 1  คิดว่าคุ้มดีค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 25 ก.ย. 51 13:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แวะมาบอกอีกทีค่ะ ว่าอ่าน The Boleyn Inheritance ใกล้จบแล้ว อีก 50 หน้าค่ะ ขอเตือนใครที่อยากอ่าน Peony in Love ว่า ถ้าทนความทุกข์ของผู้หญิงที่ต้องโดนกดขี่ และกดดันมากๆ ไม่ได้ไม่ควรอ่านค่ะ กลางๆ เล่ม เนื้อเรื่องจะเอื่อยๆ กว่าจะกลับมาสนุกได้ก็เกือบๆ จะจบเล่มอยู่แล้วค่ะ **** Peony in Love เป็นเรื่องของ สาวโบตั๋นที่จะต้องแต่งงานโดยยังไม่รู้จักเจ้าบ่าว(ตามประเพณีดั้งเดิมของจีน) ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเดียว พ่อรักมาก แล้วพ่อของเธอก็จัดมหรสพให้ มีการแสดงละคร งานฉลองอะไรๆ มากมาย แล้วเธอก็ได้พบกับคนที่เธอหลงรัก แต่ไม่รู้จักชื่อ แล้วเธอก็ต้องตายไปก่อนที่จะได้แต่งงาน เรื่องก็แนวๆ ประมาณนี้ค่ะ มีกลิ่นอายสงครามมาพอประมาณ อ่านไปก็อึดอัดไป แต่ถ้าอยากศึกษาเรื่อง Burden ของสาวชาวจีน เล่มนี้เหมาะสุดๆ ค่ะ (พี่ยาคูลท์คะ หนูขอเลียนแบบรูปแบบนิดนึง แต่กลับด้านกัน คงไม่ว่ากันนะคะ) สาบานได้ว่าไม่ได้ตาดีอะไร แต่ความงกกินหัวจริงๆค่ะ ถ้าจะซื้อ format B ส่วนใหญ่จะเป็นมือสอง หลังๆ มา อ่านละผื่นขึ้นหน้าด้วย พักนี้เลยหยุดอ่านไปค่ะ ที่ยังดองก็มี On Beauty, Black Book, Autograph Man อะไรทำนองนี้ ตอนซื้อนี่อยากได้เพราะมันถูก แต่ตอนอ่านนี่ทรมานตัวเองจริงๆ เผอิญวิต้าอ่านบนเตียง เลยไม่ค่อยอยากเอามือสองมาอ่านค่ะ เมื่อก่อนว่างตอนกลางวัน เลยได้อ่านหนังสือมือสองเยอะหน่อย รอพี่ยาคูลท์รีวิว Night train to Lisbon นะคะ ว่าจะซื้อมาเหมือนกัน แต่ที่ดองไว้เยอะมาก ไว้รอคิโนะเซล อย่างเดียวเลยค่ะ จากคุณ : จน...กรอบ (Vita_tranquila) - [ 26 ก.ย. 51 13:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ^ วาง Night Train ไปแล้วค่ะ T^T ถ้าจะหยิบอะไรอ่านตอนนี้ ขอไซส์บีเป็นอย่างต่ำ ย่องมารีวิวอีกเล่ม เล่มนี้เป็นหนึ่งในสามเล่มที่อ่านจบได้พักนึงแล้วค่ะ A Light-Hearted Look at Murder อเล็กซานดร้าเป็นสาวออฟฟิศที่อยู่ในช่วงพักรักษาจิตใจจากเหตุการณ์หน้าแตกครั้งมโหฬาร เมื่อสองปีก่อน เธอประกาศขอแต่งงานกับแฟนหนุ่มทางวิทยุแล้วเขาปฏิเสธ  เนื่องจากทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แถมยังมีเพื่อนก๊วนเดียวกันที่เช่าบ้านอยู่ด้วยกัน   อเล็กซานดร้าเลยแยกมาอาศัยในอพาร์ตเม้นท์ที่พี่ชายเช่าร่วมกับเพื่อนชื่อแดน เพื่อนร่วมห้องกลุ่มใหม่ต่างคนต่างอยู่ เพื่อนกลุ่มเก่าก็ไม่อยากกลับไปหา อเล็กซานดร้าเซ็งจัด เลยตกลงเข้าร่วมโครงการเขียนจดหมายไปหานักโทษในคุก  นั่นทำให้เธอได้รู้จักกับแอนเดรียส..หนุ่มนักแสดงหน้าเหมือนดาราที่ต้องโทษข้อหาฆาตกรรม    ไม่นาน ทั้งคู่ก็เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองให้อีกฝ่ายอ่าน แต่เนื่องจากแอนเดรียสเขียนเป็นภาษาเยอรมัน อเล็กซานดร้าเลยต้องอาศัยแดน..เพื่อนร่วมห้อง..เป็นคนแปลให้ฟังทีละส่วน   อเล็กซานดร้าเริ่มสนิทกับแดนมากขึ้น ขณะเดียวกัน เธอเริ่มผูกพันกับเรื่องราวของแอนเดรียสมากขึ้น ถึงขนาดไปเยี่ยมเขาในคุกและแวะไปในที่ที่เขาเคยอยู่   --- เรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องสลับกัน  ด้านหนึ่งเป็นเรื่องของอเล็กซานดร้าที่อ่านแล้วคล้ายชิกลิททั่วไป  อีกด้านเป็นเรื่องเล่าบันทึกชีวิตของแอนเดรียส  หนุ่มนักเรียนทุนจากเยอรมันที่จับผลัดจับผลูมาเป็นนักแสดงหน้าเหมือนฮิตเลอร์   เขาพบรักกับ โรส สาวสูงอันดับที่ห้าของอังกฤษ และร่วมกันเปิดบริษัทนักแสดงหน้าเหมือน เรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในปัจจุบัน  เรื่องหนึ่งเกิดในอดีต สองเรื่องไม่น่ามาเกี่ยวกันได้ (นอกจากเจ้าของเรื่องเป็นเพื่อนทางจดหมายกัน)   แต่เมื่ออเล็กซานดร้าสนใจตามรอยอดีต เธอกลับช่วยไขปมปริศนาในอดีตของแอนเดรียสและปลุกให้เขากลับมาสนใจโลกได้  ในขณะที่แอนเดรียสช่วยให้เธอหลุดจากสภาพพักฟื้นจิตใจและเริ่มใช้ชีวิตใหม่ในที่สุด  ... อ่านแล้วก็ทึ่งคนเขียนที่อุตส่าห์เอาสองเรื่องนี้มาบรรจบกันจนได้ และถึงจะมีคนตาย นิยายเล่มนี้ไม่ได้มีปมฆาตกรรมลึกลับซับซ้อนอะไรค่ะ   เพราะเรื่องในส่วนของแอนเดรียสเน้นสร้างภาพวงการแสดงและเส้นทางชีวิตของเขามากกว่า     สรุปว่าเล่มนี้อ่านเพลินพอสมควร  มันอาจสนุกกว่านี้ถ้าคนอ่านชอบชิกลิทสไตล์อังกฤษ (ที่นางเอกมักลุกลี้ลุกลนกับแทบทุกเรื่อง ตัวละครชายเดาใจยากเพราะไม่ค่อยพูด) จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 28 ก.ย. 51 19:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เต๋อ เอาปกหนังสือที่แปลมาโพสด้วย อยากเห็นๆ หรือต้องรอไปชมที่งานหนังสือเลยน้อ หลานกระทู้น่ารักจริงๆ หวัดดีทุกคนด้วยค้า งานหนังสือเดือนหน้า คงได้เจอกันอีกเน้อ สาวๆ จากคุณ : grappa - [ 28 ก.ย. 51 21:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มะล่ายไปงานหนังสือ T_T ฝากทุกท่านซื้อเผื่อด้วยนะค้า จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 1 ต.ค. 51 06:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ^ ส่งตังค์มาสิ แล้วจะซื้อเผื่อให้ อิอิ งานหนังสือยังไม่เริ่ม หนังสือก็เพิ่มพูนเป็นกองแล้วค่ะ สาเหตุเพราะยัยเพติ๊ดตัวดีดันออกหนังสือแปลแนวสืบสวนกับสันสกฤต พอไปซื้อก็เห็นเรื่องดีๆ อีกสองสามเรื่อง เลยคว้ามาหมด จากนั้น ก็ชักติดลม..หยิบเรื่องแปลสืบสวนของเลมอนทีกับนานมีบุ๊คต่อ กรี๊ดดดด กระเป๋าแหกตั้งแต่ต้นเดือน ลางร้ายมั่กๆ T__T จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 1 ต.ค. 51 10:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ฝากถึงคนข้างบนค่ะ วิต้าพึ่งค้นพบว่าการอ่าน format B เป็นสวรรค์โดยแท้ค่ะ ตัวหนังสือแต่ละบรรทัดก็ห่างกัน อ่านง่ายจริงๆ เผอิญมี Water for Elephants เล่มใหญ่ดองอยู่บนชั้น ก็เลยหยิบมาอ่าน สบายตา แต่หนักจัง พวกพี่ๆที่ซื้อปกแข็งกันมา อ่านบนโต๊ะหนังสือรึเปล่าคะ วิิต้าเริ่มขี้เกียจก็นอนอ่านเลย เพราะว่า ไม่ไหวจริงๆ สบายตา แต่เมื่อยแขนแทน อ่าน Boleyn Inheritance จบแล้วนะคะ อยากให้ทำเป็นหนังจัง อยากรู้จะเลือกใครมาเป็น Ann of Cleves กะหนู Kitty สวัสดีคนร่วมกระทู้ทุกท่านค่ะ จากคุณ : Vita_tranquila - [ 2 ต.ค. 51 13:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สวัสดีค่ะ ทุกคน ยินดีกับคุณเพติ๊ดด้วยค่ะ สำหรับหนังสือแปล คุณทินาอยู่ที่ไหนคะตอนนี้ หนาวมากไหม หวังว่าคงปรับตัวได้เร็ววันนะคะ หนูวิต้าคะ ป้ายังไม่ได้อ่านเปอร์เซียนไฟร์เลยค่ะ รอไว้อ่านตอนปลายปี ระยะนี้ป้ามีเวลาอ่านหนังสือน้อยกว่าเดิมค่ะ เพราะต้องเลิกเป็นชาวเกาะ ออกไปทำงานหาเงินเอง ได้สอนหนังสือหนุ่มอาหรับในเครื่องแบบ ผิวเข้ม ตาคม เพลินดีค่ะ บางคนเป็นเจ้าของฟาร์มอูฐ และบางคนเป็นเจ้าของเฟอร์รารี่ บางคนบอกว่าไม่มีอะไรเลย วันๆ อยู่แต่ในกระโจมกลางทะเลทราย (สงสัยจะเป็นพวกเบดูอิน หรือไม่ก็เป็นเจ้าของบ่อน้ำมัน) หนังสือเล่มล่าสุดที่เพิ่งอ่านจบไปคือ OUTค่ะ สนุกดี และตอนนี้กำลังอ่าน The spot of bother by Mark Haddon ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ก็อ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ ป้าว่าเรื่อง ฆาตกรรมหมาฯ ของเขาดีกว่าเรื่องนี้เยอะเชียว ฝากดูเทรนด์หนังสือในงานหนังสือด้วยนะคะ เศรษฐกิจอย่างนี้เห็นทีตลาดหนังสือจะซบเซา ป้าได้แต่ภาวนาว่าค่าดอลลาร์อย่าได้ตกเชียว เพราะค่าเงินของป้ามันผูกกับดอลลาร์ ค่าเงินตกทีไรราคาสินค้าพุ่งกระฉูดทุกที มีแต่น้ำมันที่ราคาถูกเสมอต้นเสมอปลาย จนอยากจะเปลี่ยนไปกินน้ำมันซะให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย คิดถึงทุกคนค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 3 ต.ค. 51 02:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 85 หวัดดีค่ะ เข้ามาดูว่าคนอื่นเค้าอ่านอะไรกัน เห็น Endymion Spring แล้วน่าสนใจเดี๋ยวไปหาอ่านบ้าง ^^ ที่เราอ่านอยู่ส่วนมากเป็นชุดค่ะ ไม่ค่อยได้อ่านเล่มเดียวจบ ที่ยังอ่านอยู่ก็มี Pendragon [D.J. MacHale] ถึงเล่ม 7 Demonata [Darren Shan] ถึงเล่ม 6 ล่าสุดที่เราอ่านเพิ่งจบไปก็  Procession of the Dead (The City Trilogy) เล่ม 1 by D. B. Shan จากคุณ : ws_3765 - [ 6 ต.ค. 51 15:12:33 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาบอกว่าคิดถึงทุกคนค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 8 ต.ค. 51 08:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 87 แหะๆ พยายามแตกประเด็น แต่มันพลาดไปเสียแล้ว ไปคุยกันต่อนะคะ ^^" http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K7089210/K7089210.html แหะๆๆๆๆๆ แตกประเด็นพลาดเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย TT^TT จากคุณ : Clear Ice - [ 11 ต.ค. 51 12:27:19 ]