PANTIP.COM : K8661627 ~***~ เหมันต์ขยันอ่าน ~ Winter Wonder Read : WWR ~***~ ครึ่งทางแล้วค่ะพี่น้อง...{แตกประเด็นจาก K8607514} [หนังสือแนะนำ]

~***~ เหมันต์ขยันอ่าน ~ Winter Wonder Read : WWR ~***~ ครึ่งทางแล้วค่ะพี่น้อง...{แตกประเด็นจาก K8607514}

กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก K8607514

ครึ่งทางแล้วค่ะ ขออนุญาตแตกกระทู้มาลุ้นครึ่งหลังกับแชมป์เดือนธันวาคมค่ะ

โจทย์เหมันต์ขยันอ่าน

file โจทย์ 5 คะแนน

5-1.[แก้วกังไส + หมูย้อมสี + แม่ไก่] อ่านหนังสือที่กล่าวถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เช่น การระลึกชาติ คำสาป เวทย์มนตร์คาถา ฯลฯ
5-2.[แก้วกังไส + หมูย้อมสี] อ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตหรือสัตว์ในตำนาน เช่น พญานาค ยักษ์ นางเงือก ฯลฯ
5-3.[ปีศาจ ความฝัน] อ่านหนังสือที่ชื่อหนังสือมีคำว่าแม่มด พ่อมด หรือนางฟ้า หรือถ้าอ่านภาษาอังกฤษ ให้มีคำในความหมายเดียวกัน เช่น witch, wizard, wise woman, angel, fairy
5-4.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวในประเทศไทย เช่น ขึ้นภูดูทะเลหมอก ฯลฯ
5-5.[PTNCenter] หนังสือที่มีเรื่องราวของคนไทยในต่างแดนจะเป็นประเภทใดก็ได้ไม่จำกัด
5-6.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือที่ตัวเอกมีอาชีพฉีกแนวจากพิมพ์นิยมแทน เช่น หมอผี หมอดู คนขับเเท็กซี่
5-7.[อมราวตี] อ่านจินตนิยาย (นิยายเกี่ยวกับโลกสมมุติ) เช่น นิยายวิทยาศาสตร์ แฟนตาซี
5-8.[หมูย้อมสี] อ่านหนังสือที่ตัวเอกเป็นนักกีฬาหรือมีอาชีพเกี่ยวข้องกับกีฬา เช่น ชุด ไมรอน โบลิทาร์
5-9.[PTNCenter]หนังสือที่มีเนื้อหาสื่อถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน (จะเป็นคนกับคน สัตว์กับสัตว์ หรือคนกับสัตว์ก็ได้)
5-10.[ปีศาจ ความฝัน] อ่านหนังสือที่มีชื่อเรื่องเป็น 1 คำ 1 พยางค์ (ได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษหรือตัวเลข) เช่น ล่า, ฝน หรือ 7 เป็นต้น
5-11.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ชื่อเรื่องมีคำว่าหนาว หน้าหนาว ฤดูหนาว เหมันต์ หิมะ
5-12.[สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือกำลังภายใน 200 หน้าขึ้นไป 1 เรื่อง (จะเล่มเดียวจบ หรือหลายเล่มจบก็ได้) หากอ่านแล้วรวมกว่าจะจบเรื่องเกิน 500 หน้า บวกเพิ่มอีก 5 คะแนน แต่ถ้าเกิน 800 หน้า บวกเพิ่มอีก 10 คะแนน **ใครไม่บอกจำนวนหน้าติดลบ 15 ใครบอกหน้าผิดติดลบ 20 wink

file โจทย์ 10 คะแนน

10-1.[ทินา+Il Maze] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ผู้เขียนเกิดเดือนเดียวกับคนอ่าน จะเป็นนักเขียนชาติใดก็ได้ ขอให้ระบุเดือนเกิดมาด้วย (ยึดวันเกิดนักเขียนเป็นหลัก หากเป็นหนังสือแปล วันเกิดนักแปลไม่นับนะคะ สามารถลองค้นวันเกิดนักเขียนไทยได้จากเวป http://www.praphansarn.com/new/c_writer/ เป็นต้น)
10-2.[January Friend] อ่านหนังสือเกี่ยวกับเมืองหรือจังหวัดบ้านเกิดหรือที่พักอาศัยของคนอ่าน หรืออ่านหนังสือที่ผู้แต่งเป็นคนที่มีบ้านเกิดหรือที่พักอาศัยในเมืองหรือ จังหวัดเดียวกันกับคนอ่าน (หากอยู่ต่างประเทศ ใช้เมืองหรือรัฐที่อาศัยอยู่ตอบโจทย์ได้)
10-3.[แก้วกังไส+ อมราวตี] อ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสี่ภาค เช่น ล้านนา เวียงกุมกามของภาคเหนือ ศรีวิชัย ทวารวดี ของภาคใต้ ล้านช้าง พิมาย ของภาคอีสาน เป็นต้น
10-4.[อมราวตี] อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นถึงก่อนสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
10-5.[อมราวตี] อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวในยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 -2520
10-6.[อมราวตี] อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหญิง เจ้าชาย หรือเชื้อพระวงศ์ จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งก็ได้
10-7.[January Friend] อ่านหนังสือเฉพาะแนว โดยเลือกจาก ดนตรี ศิลปะ กีฬา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อาหาร บทกวี โดยเลือกสองเล่ม คนละแนว (กีฬาในที่นี้ จะเป็นกีฬาที่เล่นกันจริง ๆ หรือกีฬาที่สมมุติขึ้นมา เช่น ควิดดิช บลิทซ์บอล ก็ได้ ส่วนหนังสือเกี่ยวกับอาหารต้องไม่ใช่ตำราทำอาหาร)
10-8.[ทินา] คารวะที่หนึ่ง : อ่านหนังสือที่ชื่อหนังสือมีคำว่า "ปลายทาง" "ของ" หรือ "สายรุ้ง" หรือภาษาอังกฤษ คำว่า "Over" กับ "Rainbow" (ตามชื่อล็อกอิน "Over the Rainbow" ค่ะ)
10-9.[ทินา] สี่สุดสนุก อ่านหนังสือที่ชื่อหรือนามปากกานักเขียนมีสี่พยางค์
10-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือ 2 เล่ม 2 ประเภท จาก 2 สำนักพิมพ์ เช่น เล่มแรกเป็นนิยายของอมรินทร์ เล่มสองเป็นเรื่องสั้นของ a book เป็นต้น
10-11.[ส้มแช่อิ่ม] อ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่ซื้อมาถูกที่สุด แต่คุ้ม เช่น ลดราคามาเหลือ 50 บาท สนุกมาก ได้ความรู้ ฯลฯ ให้บอกราคาจริง ราคาซื้อ และสถานที่ซื้อมาด้วย
10-12.[แม่ไก่] อ่านหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเรื่องสั้นอยู่ในเล่มไม่น้อยกว่า 5 เรื่อง
10-13.[แม่ไก่] เสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราเป็นวันเด็กแห่งชาติ มารับฟังเสียงของเด็ก ๆ บ้างดีไหม อ่านหนังสือ 1 เล่มที่เขียนโดยเด็กอายุต่ำกว่า 18 (อายุขณะที่เขียน)หรือให้เด็กเป็นตัวละครเอกที่ถ่ายทอดเรื่องราวในหนังสือ เล่มนั้น ๆ (ในกรณีหลังนี้ขอให้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ค่ะ)
10-14.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่ผู้ดำเนินเรื่องหรือตัวเอกเป็นผู้ร้าย เช่น หรือว่าผมฆ่า? (Darkly Dreaming Dexter) หรือ เหี้ยมไม่เงียบ (The Silence of the Lambs) เป็นต้น
10-15.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือในดวงใจที่อยากแนะนำให้คนอื่นอ่าน

file โจทย์ 15 คะแนน

15-1.[ทินา] เรื่องของสองนคร: อ่านหนังสือ 2 เล่มที่มีฉากเป็นเมืองหลวงของสองประเทศ โดยต้องเป็นเมืองที่มีอยู่จริงในแผนที่โลก
15-2.[Clear Ice + January Friend + นัทธ์] หนังสืออัตชีวประวัติ (autobiography คือ หนังสือที่บุคคลนั้นเขียนเล่าประวัติของตัวเอง) หรือเป็นหนังสือชีวประวัติ (biography) ที่ผู้อื่นเขียนก็ได้
15-3.[นัทธ์ + อมราวตี] อ่านหนังสือที่พูดถึงวันลอยกระทงหรือตำนาน เรื่องเล่า ความเชื่อเกี่ยวกับดวงจันทร์ เช่น เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ หรือ หนังสือที่มีคำว่า "จันทร์" อยู่ในชื่อเรื่อง
15-4.[ปีศาจความฝัน] 14 พฤศจิกายน วันคนพิการแห่งชาติ อ่านหนังสือที่มีตัวเอกเป็นคนพิการ
15-5.[ปีศาจความฝัน] 1 ธันวาคม วันเอดส์โลก อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับโรคเอดส์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
15-6.[ปีศาจ ความฝัน + อั๊งอังอา] 4 ธันวาคม วันสิ่งแวดล้อมไทย อ่านหนังสือเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับช่วยลดภาวะโลกร้อน หรือตัวละครในเรื่องทำงานเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
15-7.[ปีศาจความฝัน + ปลายทางของสายรุ้ง] อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชกรณียกิจ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือหนังสือเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
15-8.[แม่ไก่ + PTNCenter] วันพ่อ 5 ธันวา อ่านหนังสือ 1 เล่มที่เน้นบทบาทของคนเป็นพ่อ หรือบ่งบอกถึงความรักความผูกพันของคนเขียนที่มีต่อพ่อ
15-9.[นัทธ์] วันพ่อแห่งชาติ คราวนี้เอาหนังสือที่คนเขียน คนแปล ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเดียวกับชื่อจริง หรือชื่อเล่นของ "พ่อ" กันบ้าง
15-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือเกี่ยวกับวันคริสต์มาส หรือมีบรรยากาศวันคริสต์มาสเป็นบรรยากาศหลัก
15-11.[ยาคูลท์] อ่านหนังสือ 2 เล่มที่คำสุดท้ายเล่มหนึ่งคล้องจองกับคำแรกของอีกเล่ม เช่น ฤดูกาลของหัวใจกับไฟพิศวาส
15-12. [แม่ไก่] วันสิ้นปี มาเจริญมรณสติกันหน่อย อ่านหนังสือ 1 เล่มที่ได้รับแจกจากงานศพ หรือหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย

file โจทย์ 20 คะแนน

20-1.[อั๊งอังอา] ฮัจญี : ช่วงปลายปี 2552 ถึงเดือนมกราคม 2553 เป็นช่วงที่พี่น้องชาวมุสลิมเดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ ซึ่งช่วงนี้มีวันสำคัญสองวัน คือ วันสิ้นสุดพิธีฮัจย์ และ วันอีดุลอัฎฮา (วันออกฮัจญี หรือ อีดใหญ่ ซึ่งเป็นวันฮารีรายอ ครั้งที่ 2) อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม หรือมีตัวละครหลักเป็นมุสลิม หรือเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีอิสลาม
20-2.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่ชื่อเรื่องตรงกับชื่อเพลง ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น คือรัก ผู้เขียน อีแร้ง จากเพลงคือรัก นักร้อง ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว หรือ เวลาในขวดแก้ว ของประภัสสร เสวิกุลกับเพลง Time in a Bottle ของ Jim Croce
20-3.[II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน จะเป็นนักแสดง นายแบบนางแบบ หรือจะเกณฑ์คนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือตัวเองมาแสดงก็ได้ ถ้าไม่เป็นที่รู้จักให้เอารูปมาให้ดูด้วย
20-4.[สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 2 เล่มของนักเขียนต่างเพศกัน (ยึดเพศสภาพเป็นหลัก) โดยชื่อ (หรือนามปากกา) ของนักเขียนต่างเพศนั้น ต้องขึ้นด้วยพยัญชนะเดียวกัน เช่น วินทร์ กับ ว.วินิจฉัยกุล เป็นต้น โดยหนังสือทั้งสองเล่ม ต้องหนามากกว่า 100 หน้าขึ้นไป
20-5.[piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้
20-6.[Il Maze+ปลายทางของสายรุ้ง+ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือ 2 เล่ม จากรายการหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน หนังสือดี 100 เล่มที่เด็กและเยาวชนไทยควรอ่านและหนังสือดีวิทยาศาสตร์ 88 เล่ม รายชื่อหนังสือดูได้จากเวปนี้ http://www.eppo.go.th/tank/100-bestbook.html

file โจทย์ 25 คะแนน

25-1.[ทินา] จับยามสามตา : อ่านหนังสือ 3 เล่ม ที่มีคำบอก "เวลา" อยู่ในชื่อเรื่องไม่ซ้ำกัน เช่น เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ คืน วัน เดือน ปี ฯลฯ
25-2.[ยาคูลท์] โจทย์บุฟเฟ่ต์: อ่านหนังสือ 4 เล่มในหมวดต่อไปนี้ - นิยายไทย, นิยายแปล, นิยายภาษาต้นฉบับ, รวมเรื่องสั้น, รวมบทความ/สัมภาษณ์, นิยายภาพ/การ์ตูน (ใช้คำว่า "นิยาย" เพื่อให้เข้าใจ แต่จะเป็นหนังสือวิชาการก็ได้)
25-3.[แก้วกังไส+ยาคูลท์] เกาะติดข่าวเด่นประเด็นดัง เลือกอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นร้อนต่อไปนี้ คือ ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาพระวิหาร แพนด้า ช้างไทย โดยเลือกมา 2 เล่ม 2 ประเด็นไม่ซ้ำกัน
25-4.[ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือเกี่ยวกับอารยธรรมสมัยโบราณที่เกิดขึ้นก่อนยุคคริสตกาล เช่น อียิปต์โบราณ กรีก เมโสโปเตเมีย หรือจีนยุคก่อนราชวงศ์ฉิน เป็นเรื่องแต่ง เรื่องอิงประวัติศาสตร์ เรื่องจริง หรือสารคดีได้หมดแต่ถ้าเป็นเรื่องแต่ง หรืออิงประวัติศาสตร์ให้บอกด้วยว่าคนไหนมีจริง ไม่มีจริง
25-5.[ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือเกี่ยวกับคนในกลุ่มชาติพันธุ์ หรือ มีคนในกลุ่มชาติพันธุ์เป็นตัวเอกจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย เช่น ปกากะญอ ม้ง ไทยใหญ่ ฯลฯ หรือในต่างประเทศ เช่น อินเดียนแดงเผ่าต่าง ๆ ชาวพิกมีในแอฟริกาโดยต้องเล่าถึงลักษณะเด่นหรือลักษณะพิเศษของกลุ่ม ชาติพันธุ์นั้นมาด้วย

file โจทย์ 30 คะแนน

30-1.[นัท ธ์+แม่ไก่] อ่านหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรท์ 3 เล่ม 3 ประเภท (เรื่องสั้น นิยาย และกวีนิพนธ์) จะได้รับรางวัลปีเดียวกันหรือต่างปีกันก็ได้ หรือ อ่านหนังสือที่ได้รับรางวัลของต่างประเทศ 2 เล่มจาก 2 รางวัลไม่ซ้ำเรื่อง ไม่ซ้ำรางวัลกัน เช่น นิวเบอร์รี่กับโนเบิลไพรส์ เอ็ดการ์กับบุ๊คเกอร์ไพรส์ โดยบอกรายละเอียดของรางวัลมาพอสังเขป
30-2.[สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 3 เล่ม โดยให้คนอ่านผูกธีมเอาเอง เช่น สามเล่มที่เป็นเรื่องของอาหารเหมือนกัน สามเรื่องที่มีเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเหมือนกัน ฯลฯ
30-3.[ยาคูลท์] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่มีเค้าโครงเรื่องหรือแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยให้เล่าถึงเหตุการณ์นั้นๆโดยสังเขป และเปรียบเทียบว่าเหมือนในหนังสืออย่างไร อาทิ เหตุการณ์สึนามิ 9/11 กบฎโรมานอฟ หรือคดีฆาตกรรมต่างๆ
30-4. [PTNCenter] Mix&Macth : อ่านหนังสือ 4 เล่ม จำนวนหน้ารวม 700+ โดยเลือกจากโจทย์ RRR http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8364258/K8364258.html ( 4 เล่ม กี่โจทย์ก็ได้)
30-5.Pending...

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 09:21:57

ความคิดเห็นที่ 1

flower ** ความตั้งใจ **
(ก๊อปมาจาก "Rainy Read Rally" ค่ะ)

อยาก ให้เป็นกระทู้ที่ทุกคนเข้าร่วมได้น่ะค่ะ คิดว่าน่าจะช่วยให้คนที่อ่านหนังสือเป็นประจำอยู่แล้วมีกิจกรรมเล่นสนุกด้วย กัน ชวนหนอนด้วยกันคุยเล่น ถือโอกาสรื้อกองดองในบ้านมาอ่าน และเผื่อจะกระตุ้นให้คนสนใจอ่านหนังสือหมวดอื่นบ้างด้วย

จุดประสงค์ อีกอย่างคือ กระจายข่าวสารเกี่ยวกับหนังสือ เพราะผู้เข้าร่วมอาจทำรีวิวสั้นๆ เกี่ยวกับเล่มที่อ่าน ดังนั้น บุคคลทั่วไปอาจได้รู้จักหนังสือที่ไม่เคยรู้จัก นี่อาจช่วยในการตัดสินใจซื้อหนังสือได้ด้วย

file ** กติกา **

* สามารถเข้าร่วมเมื่อไหร่ก็ได้ และจะประกาศรายชื่อก่อนล่วงหน้าหรือไม่ก็ได้
* นับเฉพาะหนังสือที่เริ่มอ่าน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2552 - 31 มกราคม 2553
* หนังสือที่อ่านเป็นครั้งแรก หรืออ่านซ้ำ ก็ได้
* ประเภทหนังสือ ทุกประเภท จะเป็น E-Book หรือมังงะ(นิยายภาพ หรือการ์ตูน)ก็ได้
* ขอความร่วมมือไม่เอาหนังสือที่ตัวเองตอบในโครงการครั้งที่แล้วมาตอบซ้ำ
* ถ้าไม่ได้ระบุประเภท + จำนวนหน้าของหนังสือ ให้ใช้หนังสือประเภทอะไรก็ได้ จำนวนหน้า 100 +
* เน้นหนังสือภาษาไทย แต่สามารถใช้หนังสือภาษาอื่นๆ ร่วมด้วยได้
* ในกรณีที่อ้างถึงชื่อหนังสือ หรือ ชื่อตัวละคร ให้ดูชื่อตามภาษาที่อ่าน
* กรณีอ้างถึงชื่อคนแต่ง ถ้าเป็นหนังสือแปล สามารถใช้ชื่อคนแปล แทนได้
* กรณีอ้างถึงชื่อหนังสือ สามารถใช้ชื่อต้นฉบับ หรือ ชื่อที่แปลแล้วได้
* หนังสือ 1 เล่ม สามารถตอบโจทย์ได้ครั้งเดียว
* สามารถใช้หนังสือซ้ำกับคนอื่นได้
* สามารถตอบโจทย์กี่ครั้งก็ได้ แต่คิดคะแนนให้เพียงครั้งเดียว
* ตอบโจทย์ไหนก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ
* เมื่อตอบแล้ว ไม่มีผู้ทักท้วงอะไร จนกระทั่งมีการสรุปคะแนนแล้ว ถือว่าได้ตามนั้น ไม่มีการกลับไปแก้

** ผู้ร่วมโครงการที่ได้คะแนนสูงสุด ในแต่ละเดือน (แชมป์ประจำเดือน) จะได้โบนัส 10 คะแนน และได้ตั้งโจทย์ 30 คะแนน 1 ข้อ (หากไม่สะดวก สละสิทธิ์ได้)
คะแนนสูงสุดแต่ละเดือน จะนับคะแนนของเดือนนั้น ๆ ไม่ใช่คะแนนรวม

เริ่มนับ ** คะแนน **

คาดว่าจะสรุปทุก ๆ 5 วัน
การได้คะแนนหมายความว่าได้อ่าน ทั้งนี้ ทุกอย่างมีพื้นฐานจากความเชื่อใจกัน
อ่านจบหรือไม่จบ ตรงโจทย์หรือไม่ คนอ่านรู้เอง

question ** FAQ **

1. ถ้าเลือกหนังสือได้แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจ ?
*** ให้ทิ้งคำถามไว้ที่กระทู้หรือส่งหลังไมค์ไปถามเจ้าของโจทย์ หรือ ผู้ดูแล

2. รีวิวสั้น ๆ ได้มั้ย ต้องมีอะไรบ้าง?
*** สั้นหรือยาวก็ได้ แต่ในคำตอบต้องมีรายละเอียดดังนี้
- โจทย์ที่ต้องการตอบ
- ชื่อหนังสือ / ชื่อผู้แต่ง(ผู้แปล) / ชื่อสำนักพิมพ์ /จำนวนหน้าหนังสือ
- คำตอบ (ให้อ่านที่โจทย์ ต้องตอบให้ครบถ้วนที่ถาม)
- ความรู้สึกต่อหนังสือเล่มนั้น ชอบ ไม่ชอบ

3. มาตอบเพียงเล่มเดียวได้มั้ย?
*** ยินดีค่ะ เพียงแวะมาก็ดีใจ แล้วนี่มาตอบด้วย ยิ่งกว่าคำว่าดีใจค่ะ

4. มาตอบแแล้วได้อะไร?
*** ได้คำว่าขอบคุณและมิตรภาพค่ะ

5. ผู้ดูแล ปลายทางของสายรุ้ง, แม่ไก่, Il Maze, ปิยะรักษ์

** สำหรับคำถามอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับโจทย์ "เหมันต์ขยันอ่าน" เชิญที่กระทู้เปิดตัวโจทย์ทั้งสองกระทู้นี้ได้เลยค่ะ

กระทู้ที่ 1.
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8427682/K8427682.html
กระทู้ที่ 2.
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8445853/K8445853.html
WWR ยกที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8495474/K8495474.html
WWR ยกที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8514034/K8514034.html
WWR ยกที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8533122/K8533122.html
WWR ยกที่ 4
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8552479/K8552479.html
WWR ยกที่ 5
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8573486/K8573486.html
WWR ยกที่6
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8607514/K8607514.html

Enjoy Reading !! หนอน

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 09:22:53

ความคิดเห็นที่ 2

สรุปคะแนนวันที่ 11 - 15 ธันวาคม ค่ะ พลุ

(ช่องแรกคือคะแนนรวมทั้งหมด ช่องที่สองเป็นช่องคะแนนของเดือนนี้ค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 52 09:29:57

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 09:24:56

ความคิดเห็นที่ 3

คุณแม่ไก่ขา

มึนมาก ลืมระบุโจทย์ ขออภัยด้วยค่ะ
หนังสือ "ชื่อ" ตอบข้อ 5-10 อ่านหนังสือที่มีชื่อเรื่องเป็น 1 คำ 1 พยางค์ ถูกต้องแล้วค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ

จากคุณ : เที่ยงวัน

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 09:44:47

ความคิดเห็นที่ 4

มารับไม้ผู้ดูแลต่อจากพี่แม่ไก่ค่า (ใครจะต้อนรับการกลับมาของเค้าด้วยโรแม้งก็ได้นะ ฮ่าๆๆ)

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 15:29:08

ความคิดเห็นที่ 5

^
^
ไม่มีโรแม้งให้ต้อนรับอะจิ แหะๆ

ต่อจากนี้น่าจะรีวิวเด็กหญิงสวนกาแฟ แล้วก็ผู้เสกทราย

จากนั้นจะเป็นโจทย์ 15 คะแนนแล้วฮ่ะคุณ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 17:24:39

ความคิดเห็นที่ 6

^
^
กำลังอ่านโรแม้งไทยอยู่ค่ะคุณพัท...
รอแป๊บนึงจวนจบแล้ว

ว่าแต่ไม่แน่ใจว่าจะใช้ตอบโจทย์ไหนได้มั่งนี่ดิ... หยอกเย้า

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 19:40:55

ความคิดเห็นที่ 7

ทำไงดีคะ เมื่อกี้ไปตอบเวปบอร์ดที่สั่งซื้อของด้วยชื่อ "หมูย้อมสี" พิมพ์ไปด้วยความเคยชิน ผสมอาการง่วงๆ มึนๆ เบลอๆ อายจัง น่าขายหน้าประชาชี เจ้าของร้านคงงงๆว่า "หมูย้อมสี" ไหน!?

5-2.[แก้วกังไส + หมูย้อมสี] อ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตหรือสัตว์ในตำนาน เช่น พญานาค ยักษ์ นางเงือก ฯลฯ

มนตร์มรกต
ผู้แต่ง แพรณัฐ
สนพ.ปริ๊นเซส
จำนวนหน้า 302 หน้า ราคา 180 บาท

โปรยปกหลัง :

พราวฟ้า เป็นหญิงสาวผู้มีพลังวิเศษติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ยามใดที่เธอได้รับบาดเจ็บ จะมีแสงสีเขียวพราวระยับออกมาจากร่าง และสมานแผลให้หายอย่างรวดเร็ว เธอไม่เคยรู้เลยว่าเพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น แต่ความฝันประหลาดกำลังจะนำพาเธอไปสู่หนทางในการไขปริศนา

ลีโอ และ มีร่า คือคู่รักที่ พราวฟ้า ฝันถึงเป็นประจำ ยิ่งไปกว่านั้น มีร่า กลับมีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝด ทุกครั้งก่อนสะดุ้งตื่นจากฝัน เธอจะเห็นมังกรสีมรกตเข่นฆ่าผู้คนนับพันอย่างโหดเหี้ยม รวมไปถึง มีร่า ที่ต้องหนีจากการมุ่งหมายเอาชีวิตเช่นเดียวกัน

************************************************************

เรื่องย่อ : นานมาแล้ว ณ อาณาจักรอีเลียส มีมังกรดุร้ายชื่อ มังกรมรกต มันสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนกษัตริย์ต้องอัญเชิญเทพเจ้าลงมาปราบ ถึงแม้ว่าจะจัดการมันจนสูญสลายไปได้ แต่ก็ยังเหลือเกล็ดมรกตที่มีอำนาจวิเศษของมันอยู่ ผู้ที่ครอบครองมันจะสามารถคร่าชีวิตและคืนชีวิตให้แก่ใครก็ได้ ดังนั้นกษัตริย์จึงต้องสร้างวิหารและห้องที่แข็งแกร่งเพื่อเก็บรักษาเกล็ดมังกรนี้ไว้ ทั้งเพื่อป้องกันการขโมยจากคนชั่วและป้องกันไม่ให้มังกรร้ายคืนชีพ

หลายร้อยปีผ่านไป มีพี่ชายและน้องสาวคู่หนึ่งบุกไปขโมยเกล็ดมรกต และใช้อำนาจของมันเรียกมังกรมาเพื่อฆ่าชีวิตชาวเมือง กว่าที่ความช่วยเหลือจะไปถึง เมืองนั้นก็ไม่มีใครรอดชีวิต และสองพี่น้องก็หายสาบสูญไป

เมื่อพราวฟ้าได้ใช้อำนาจวิเศษทำให้ผู้คนฟื้นขึ้นมาได้โดยบังเอิญ ทำให้คนในอาณาจักรอีเลียสบุกมายังโลกเพื่อแย่งชิงเกล็ดมรกต แต่ก็มีชายหนุ่มมาช่วยไว้ ซึ่งก็คือ ลีโอ กษัตริย์อีเลียสในปัจจุบัน เขาได้อธิบายเรื่องราวในอดีตให้พราวฟ้าฟังว่าเธอก็คือ มีร่าที่กลืนเกล็ดมรกตเข้าไปและได้มาเกิดใหม่ในมิตินี้ ลีโอขอให้พราวฟ้ากลับไปกับเขาเพื่อช่วยผู้คนในเมืองที่ตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้นให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อเธอตกลงใจช่วย การผจญภัยก็เริ่มต้นขึ้น มีร่าคือคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้นจริงหรือ!? ความรักที่ก่อตัวขึ้นจะทำอย่างไร ในเมื่อเธอคือคนที่ไม่คู่ควร แล้วเขารักเธอที่เธอเป็นเธอ หรือเพราะเธอคือมีร่ากันแน่ !?

**********************************************************

ตอบโจทย์ : สัตว์ในตำนานเรื่องนี้คือ ยูนิคอร์น มีบทเด่นมากๆเพราะเป็นพาหนะที่พระเอก+นางเอกใช้ขี่ไปเมืองมรกต มีบทบาทสำคัญอีกแต่บอกไม่ได้เพราะจะสปอยล์

ความรู้สึกหลังอ่าน : เท่าที่อ่านจากคำนำ คิดว่าเล่มนี้คงเป็นเล่มแรกของผู้เขียน บทแรกๆยังบรรยายสะดุดๆ แปลกๆไปบ้าง แต่เมื่ออ่านไปได้สักพักก็สนุกและร่วมลุ้นไปกับตัวเอกในเรื่องจนลืมเรื่องสำนวนไปเลย (แต่สำนวนอาจดีขึ้นแล้วจริงๆก็ได้ แต่เราไม่ทันได้สังเกต มัวแต่ลุ้น )

สนุกและอ่านได้เพลินดีค่ะ ยิ่งซื้อมาจากชุดบุฟเฟ่ โปรโมชั่นสุดถูกจากสนพ.สถาพร ยิ่งรู้สึกคุ้มสุดๆเลยค่ะ

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 20:28:40

ความคิดเห็นที่ 8

5-7.[อมราวตี] อ่านจินตนิยาย (นิยายเกี่ยวกับโลกสมมุติ) เช่น นิยายวิทยาศาสตร์ แฟนตาซี

โอฆะอัคนี
ผู้แต่ง แพรณัฐ
สนพ.ปริ๊นเซส
จำนวนหน้า 368 หน้า ราคา 240 บาท

โปรยปกหลัง :

สงครามรักสะท้านแผ่นน้ำและผืนดิน

เมื่อเจ้าอัคคีได้ลักพาตัวเจ้าสาวของเจ้าสมุทรไปเพียงสองวันก่อนการแต่งงานจนนางต้องตาย

เจ้าสมุทรจึงประกาศแก้แค้นเจ้าอัคคีอย่างสาสม เขาลักพาตัวเมรินหญิงสาวชาวมนุษย์ ว่าที่ชายาของเจ้าอัคคี ในวันแต่งงานของนางกับเทพแห่งไฟ

แผนการแก้แค้นอันแสนหวานของเจ้าสมุทรจึงเกิดขึ้น พร้อมๆกับสงครามระหว่างน้ำกับไฟ ซึ่งทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยากจะคาดเดา

**************************************************************

ตอบโจทย์ : แนวแฟนตาซีชัวร์อยู่แล้วเพราะมีการแบ่งชนชั้นกันด้วย สัตว์น้ำชั้นสูงจะแปลงร่างได้และมีอายุยืนเป็นพันๆปี โลกใต้น้ำเรียกดินแดนโอดิสซีย์

ความรู้สึกหลังอ่าน : ชอบเรื่องมนตร์มรกตมากกว่าเรื่องนี้นะคะ แต่เรื่องนี้คนเขียนก็ไอเดียดี จับเรื่องสิ่งมีชีวิตในทะเลมาประยุกต์ มีสัตว์น้ำนานาพันธุ์เลย ทั้งปลากระเบนราหู วาฬเบลูกา ปลาไหลสวน ฯลฯ พร้อมทั้งอ้างอิงรายละเอียดสัตว์น้ำชนิดนั้นๆด้วย ได้ความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้นเลย

ไม่ค่อยมีปัญหากับคำว่าบาง หนา ใหญ่ เล็ก แบบคุณหนิง (มันก็มีนะคะ แต่หมูไม่รำคาญ) แต่งงว่าทำไมพระเอกทั้งเรื่องนี้และเรื่องที่แล้วต้อง "ริมฝีปากบาง" หรือ "ปากบาง" ผู้ชายเขาใช้คำนี้กันได้ด้วยเหรอ ปกติเห็นคำว่าบางจะต้องนึกว่าเป็นผู้หญิงอ่ะ ??

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 20:48:44

ความคิดเห็นที่ 9

ปกหมุด ..และเริ่มแจก give แล้วจ๊ะ

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 21:43:11

ความคิดเห็นที่ 10

ผลของการดองรีวิว ก็เลยมาอัดซะทีเดียวเลย อย่าเพิ่งเบื่อรีวิวไม่มีสาระของหมูกันนะคะ ข้อสุดท้ายแล้วค่ะ

10-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือ 2 เล่ม 2 ประเภท จาก 2 สำนักพิมพ์ เช่น เล่มแรกเป็นนิยายของอมรินทร์ เล่มสองเป็นเรื่องสั้นของ a book เป็นต้น

เรื่องแรก บริษัทจัดระเบียบหัวใจ ประเภท นิยายแปล จากสนพ.อมริทร์
เรื่องที่สอง ห้องเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับ ประเภท เรื่องสั้น จากสนพ.เนชั่นบุ๊คส์

บริษัทจัดระเบียบหัวใจ [The Little Lady Agency]
ผู้แต่ง เฮสเตอร์ บราวน์ [Hester Broene]
ผู้แปล ออมรัก
สนพ.อมรินทร์
จำนวนหน้า 481 หน้า ราคา 315 บาท

โปรยปกหลัง :

หลังจากอกหัก ตกงาน และถูกพ่อจอมเขี้ยวตามทวงหนี้ไม่เลิก เมลิสซา สาวเรียบร้อยใสซื่อ ก็หาทางออกที่สดใสให้ตัวเองได้เสียที

เธออาศัยทักษะการจัดการที่เป็นเลิศ ทำธุรกิจ ‘เดอะลิตเติ้ลเลดี้เอเจนซี่’ ที่ช่วยจัดระเบียบชีวิตให้กับหนุ่มๆ ทั้งเรื่องการแต่งตัว การเข้าสังคม การสลัดแฟนเก่าทิ้ง หรือการเป็นแฟนหลอกๆ และเธอยังเปลี่ยนตัวเองเพื่องานนี้ด้วยการใส่วิกผมบลอนด์ แต่งเนื้อแต่งตัวเป็นสาวเปรี้ยว พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น ฮันนี่ สาวสวยมาดมั่นที่หนุ่มๆต่างหลงใหล ไม่เว้นแม้แต่หนุ่มอเมริกันรูปหล่อบาดใจอย่าง โจนาธาน ไรลีย์ ที่ย้ายจากสหรัฐฯมาอยู่ในลอนดอนหลังจากหย่ากับภรรยา

เมลิสซาหลงรักเขาเข้าเต็มเปา แต่ดูเหมือนเธอจะหาทางออกให้กับความรักครั้งนี้ไม่ได้ง่ายๆ ก็เพราะคนที่เขาหลงเสน่ห์คือฮันนี่ สาวบลอนด์มาดมั่น ไม่ใช่สาวเฉิ่มขี้อายอย่างเมลิสซาน่ะสิ

ความรู้สึกหลังอ่าน : น่ารักดีค่ะ น่าสงสารนางเอก โดนพ่อเลี้ยงมาแบบกดดัน(ตามประสาลูกนักการเมือง) เลยเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ทั้งๆที่เธอมีความสามารถในการจัดการ(ทั้งเอกสารและผู้คน)

ชอบเรื่องนี้ที่นางเอกเก่งนี่แหละค่ะ เธอเปรียบตัวเองเป็น แมรี่ ป๊อปปินส์ ในถุงน่องไหมสุดเซ็กซี่ (แต่คนอ่านก็รู้สึกอยู่ดีว่าถึงแม้ตอนนางเอกเป็นฮันนี่ เธอก็ยังแสดงนิสัยตัวเองออกมาอยู่ดีล่ะ เช่น การเห็นใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่น)

งานของนางเอกมีทั้งออกเดทกับหนุ่มๆ(และเกย์) ส่งการ์ดวันแม่ให้แม่เจ็ดสิบคน ส่งดอกไม้ให้พี่สาวน้องสาว เลขาฯและคู่กิ๊กอีกเพียบ แสดงเป็นแฟนเก่าสุดแสบ ช่วยกบให้กลายร่างเป็นเจ้าชาย หาของขวัญให้ลูกทูนหัวอีกสิบห้า และจัดปาร์ตี้สุดเลิศ ทั้งหมดนี้นางเอกทำคนเดียวค่ะ สุดยอดเลยใช่มั้ยล่ะ ไม่แปลกใจเลยที่กิจการเจริญรุ่งเรือง (จะเอามาทำเป็นอาชีพในเมืองไทยได้มั้ยน้า เผื่อจะรวยแบบนางเอก)

ระหว่างที่ search หาข้อมูลหลังอ่านจบว่าเอามาตอบข้อไหนได้บ้าง ก็พบว่ามัน...มัน...มันเป็นซีรี่ส์ !! ตอนนี้มีทั้งหมด 4 เล่มแล้ว ทำไงดี อยากอ่านต่อจัง คาดว่าน่าจะถูกลอยแพเพราะรู้สึกจะไม่ค่อยฮิต แต่นี่มันสนพ.อมรินทร์เชียวนะ !! จะพอมีความหวังบ้างรึเปล่าเนี่ย

*******************************************************************

ห้องเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับ
ผู้แต่ง Jiro Akagawa
ผู้แปล มินามิ
สนพ.เนชั่นบุ๊คส์
จำนวนหน้า 268 หน้า ราคา 195 บาท

โปรยปกหลัง :

ในโลกนี้มีแต่เรื่องน่ากลัวจริงๆ......คดี อุบัติเหตุ ความน่ากลัวเหนือจินตนาการของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นมีอยู่กันดาษดื่น

ผลงานชิ้นเยี่ยม "อาคางาวะเฮอร์เร่อร์" ที่ผู้อ่านต่างรอคอยชิ้นนี้ ได้ถ่ายทอดความน่ากลัวอันล้ำลึกให้เราได้สัมผัส "มุมใดมุมหนึ่งในเมือง หรือว่ามุมใดมุมหนึ่งในสวนสาธารณะ หรือว่าส่วนลึกในซอกหลืบแห่งจิตใจมนุษย์ ....เราไม่มีทางที่จะมองสังคมมนุษย์ รวมไปถึงมนุษย์ทั้งหมดที่อยู่ในสังคมนั้นออกได้โดยทะลุปรุโปร่ง"

คำนำผู้แปล : คนเรากลัวอะไรกันได้หลายๆแบบ บางคนกลัวในสิ่งที่มองเห็น บางคนกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น เมื่อคุณอ่านงานของอาคางาวะเล่มนี้ คุณจะได้พบกับความน่ากลัวทั้งสองแบบ แต่ที่แน่ๆ คุณจะได้สัมผัสกับความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ในใจของมนุษย์ ทั้งมนุษย์เด็กและผู้ใหญ่ มนุษย์ผู้ชายและผู้หญิง อ่านแล้วคุณอาจจะคิดว่า "มนุษย์" นี่แหละที่น่ากลัวกว่าอะไรทั้งหมดทั้งปวง

ความรู้สึกหลังอ่าน : เล่มนี้มีเรื่องสั้นทั้งหมด 4 เรื่อง คือ ห้องเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับ แสงสว่างวาบ หลงใหล และพันหนึ่งราตรี ทุกเรื่องออกแนวหลอนนิดๆ แต่ไม่รู้สึกน่ากลัวเลย รู้สึกว่ามันเวอร์อ่ะ อ่านแล้วคิดว่านี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ต้องการจะสื่ออะไรเหรอ ไม่เห็นเข้าใจเลย เพราะอย่างนี้แหละถึงไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องสั้น ต้องใช้ความพยายาม ความคิด ความลึกซึ้งในการอ่านและตีความ หนังสือเรื่องนี้คงสอนอะไรหลายอย่าง แต่เรามันไม่เข้าใจเอง อ้อ เข้าใจเรื่องหนึ่ง ...ว่า "จิตใจมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง (หมูก็เลยหยั่งไม่ถึงเลย - ล้อเล่นค่ะ) และมักมีสัตว์ร้ายซ่อนอยู่"

อาจจะไม่ใช่เพราะประเภทหนังสือ แต่อยู่ที่ลุงอาคางาว่าก็ได้ หลังๆงานของแกไม่ไหวจะเคลียร์ โชคดีจังที่ซื้อเล่มนี้มาครึ่งราคา

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 52 21:51:09

ความคิดเห็นที่ 11

คุณหมูมาแรงมากๆเลยค่ะ ไม่เบื่อรีวิวหรอก ลงมาเลย ยิ่งเขียนเป็นระบบแบบนี้ ช่วยเพื่อนๆได้มากเลยค่ะ แต่พัทก็ชอบทุกสไตล์นะ สไตล์ใครก็สไตล์มันเนอะ อิอิ

ขอบอกใบ้ด้วยว่ารางวัลซีซั่นนี้เด็ดสะระตี่ หนอนน้ำลายไหลแน่ๆ ไว้ใกล้ๆปีใหม่จะมาบอกให้เร่งเติมเชื้อไฟกันนะคะ ไม่งั้นเจ้าพลุได้แน่ๆ อิอิ (เผื่อใครคิดเป็นแจ้คผู้โค่นพลุค่ะ)

ปักหมุดว่าลงคะแนนถึงคห. 10 ค่ะ

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 14:19:58

ความคิดเห็นที่ 12

มายืนยัน นั่งยัน นอนยันอีก 1 เสียง ว่าเด็ดจริง ๆ ขนาดต้อง ห่อปกพลาสติก กันน้ำ(ลาย)เลยทีเดียว... (รู้สึกเหมือน กำลังไ้ด้รับบททดสอบจากเบื้องบนเลยอ่ะ 555)

ผู้สนับสนุนรายการที่เคยแจ้งไว้ และ ผู้ที่ำไม่ได้แจ้ง แต่อยากสนับสนุน แจ้งได้หลังไมค์เลยนะคะ แต่ช่วงนี้อาจจะไม่ได้ตอบ ถ้ามีโอกาสตอบเมื่อไหร่ จะรีบตอบเลยค่ะ

จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง

เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 52 22:56:38

ความคิดเห็นที่ 13

มีเวลาว่างมาตอบโจทย์กับเขาบ้างสักทีครับกับโจทย์ข้อนี้

30-4. [PTNCenter] Mix&Macth : อ่านหนังสือ 4 เล่ม จำนวนหน้ารวม 700+ โดยเลือกจากโจทย์ RRR http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8364258/K8364258.html ( 4 เล่ม กี่โจทย์ก็ได้)

ใช้โจทย์ 2 โจทย์ จำนวนหน้ารวมได้ 745 หน้าครับผม

เล่มแรกกับโจทย์นี้คือ
15-2. [LMJ] 3 กันยา วันสารทจีน: อ่านหนังสือเกี่ยวกับประเทศจีน คนจีน หรือแปลจากภาษาจีน

จังหวะชีวิต
Blinking Seconds
ผู้เขียน จิมมี่ เหลียว
ผู้แปล อัษมา มหาพสุธานนท์
สำนักพิมพ์ NANMEEBOOKS
ราคา 178 บาท
จำนวน 144 หน้า

“ชีวิตคนต่างดำเนินไปตามจังหวะที่แตกต่าง
บ้างก็จงใจ บ้างเป็นไปตามโชคชะตา
มีทั้งเรื่องตื่นเต้นประหลาดใจ หวาดกลัวจนตัวแข็ง
ราบเรียบเสียจนน่าเบื่อ เงียบเหงาอ้างว้าง
หรือแสนหวานราวอยู่ในห้วงฝัน
ทุกข์บ้าง สุขบ้าง ปะปนกันไป
ขอเชิญคุณมาเต้นรำไปกับ จังหวะชีวิต ด้วยกัน
เอ้า! หนึ่ง สอง สาม สี่ หนึ่ง สอง สาม สี่...”

นี่คือคำโปรยบนปกหลังของหนังสือเล่มนี้ที่รวบรวมเอาผลงานภาพดีๆของนักเขียนท่านนี้
มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว ‘จังหวะชีวิต’ ให้คนอ่านได้อ่านและได้ชมกัน...

โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยภาพที่นำเสนอ
เพราะนี่คือหนังสือที่รวบรวมผลงานในสื่อประเภทต่างๆตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมาของนักเขียนท่านนี้
ตั้งแต่ปี 1996 ถึงปี 2001
ซึ่งยังคงไว้ด้วยอารมณ์เหงา เศร้าและละมุนละไมตามแบบฉบับของจิมมี่ เหลียวเหมือนเคย

แม้ความต่อเนื่องของเรื่องราวในเล่มนี้จะไม่ลื่นไหลนัก มีหลายครั้งที่ทำให้สะดุดในอารมณ์บางขณะ
แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันจากในเล่มว่านี่คือ หนังสือรวมผลงานด้านภาพ คนอ่านขาประจำอย่างผมจึงพอจะยอมรับได้
ถึงแม้ลายเส้นในบางภาพจะแตกต่างกันอยู่ก็ตาม แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรมากมาย
เพราะสุดท้ายทุกภาพก็ให้ความละมุนละไมในอารมณ์อยู่ดี

กับถ้อยคำดีๆก็คงยังมีให้อยู่เหมือนเดิม
แม้อาจจะไม่ค่อยโดนใจเหมือนกับผลงานเด่นๆเล่มก่อนๆของนักวาดเขียนท่านนี้
แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ผมได้รับกลับมาก็ยังคงเป็นข้อคิดดีๆในการเรียนรู้และมองโลกใบนี้ในมุมมองใหม่ๆอยู่นั่นเอง

สุดท้ายขอปิดท้ายด้วยประโยคโดนๆเหมือนเคยกับ...

“พวกเราล้วนต้องเข้าใกล้แสงสว่างให้มากที่สุดเพื่อให้จิตใจอบอุ่น”

“แม้โลกจะรุ่งเรืองงดงาม แต่สำหรับฉันแล้วกลับมืดสลัวลวงหลอก”

“มนุษย์กลัวสูญเสียสิ่งของ มิใช่ความรัก!”

และ

“มนุษย์งดงามด้วยความฝัน...”

สรุป เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เด่นด้านภาพมากกว่าด้านคำของจิมมี่ เหลียวครับ
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 01:42:10

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 01:25:45

ความคิดเห็นที่ 14

โจทย์ที่สอง
20-5. [piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้

เล่มแรก -ไทย-

CHOCOLATE
สำนักพิมพ์ FULLSTOP
ราคา 225 บาท
จำนวน 158 หน้า

หนังสือนิยายภาพรูปเล่มแปลกตาที่มาพร้อมกับชื่อเรื่องน่าอร่อยเล่มนี้นั้น
ได้รวบรวมเอาผลงาน 7 เรื่องเกี่ยวกับช็อคโกแลตของนักวาดเขียน 7 คน...

เรื่องที่ 1 CHOCOTHERAPY โดย ต้องการ

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเยียวยาความเศร้าและน้ำตาด้วยรสชาติที่หวานปนขมของช็อคโกแลต

“...หรือว่าจะเป็นเวลาที่เราได้ค่อยๆละเลียดกินของอร่อยอย่าง chocolate แบบนี้
ทำให้เราได้ลืมอดีตและอนาคตแล้วได้มีจิตใจที่จดจ่ออยู่ในปัจจุบันกับ chocolate
ที่หวานหอมกลมกล่อมแสนอร่อยที่อยู่ตรงหน้าของเรากันแน่นะ...”

ภาพหวานๆเข้ากันดีกับเรื่องราวเศร้าๆ และสารที่ได้รับก็คือ เวลาเศร้าๆอย่ามัวจมปลักอยู่กับมัน
ให้ลองหาอะไรที่ชอบทำดู เชื่อเถอะ! ไม่นานเดี๋ยวก็ลืมเอง
แต่ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรก็ลองกินช็อคโกแลตแบบตัวเอกในเรื่องนี้ก็ได้เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นมา

เรื่องที่ 2 SHOCOLATE SIDE STORIES โดย เดอะ ดวง

เมื่อความฝันอันสูงสุดของเหล่าช็อคโกแลตคือการได้ถูกกิน แต่ดูเหมือนว่าความเป็นจริงจะโหดร้ายยิ่งกว่านั้น

“...การได้ถูกพวกเขากินนั่นถือเป็นความสุขของพวกเรา
และพวกเขาเองก็มีความสุขเช่นกันที่ได้กินพวกเรา”

ชอบมากเป็นพิเศษกับตอนจบที่โหดร้ายและแสบสันต์ดีแท้

เรื่องที่ 3 DARK โดย ทรงวิทย์ สี่กิติกุล

เรื่องราวการเดินทางของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีสัญญาณไฟเป็นจุดหมายปลายทาง

“ดาร์กช็อคโกแลตมีรสขม...
Dark Chocolate has bitter taste…”

เรื่องราวธรรมดา แต่มีดีที่ตอนจบ (น่ารักดี)

เรื่องที่ 4 CHOCOLATE PRINCESS โดย องอาจ ชัยชาญชีพ

เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิง สัตว์ประหลาด ช็อคโกแลตและพ่อกับลูก

“ตอนเล็กๆน่ะ เจ้าหญิงเอาแต่กินช็อคโกแลตทั้งวัน ข้าวปลาไม่ยอมกิน
พระราชาเตือนก็ไม่เชื่อฟัง เอาแต่กินช็อคโกแลต กิน กิน กิน จนกระทั่ง...”

เป็นเรื่องที่ผมชอบมากที่สุดในหนังสือเล่มนี้ โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยภาพเปิดตัวที่เป็นภาพร่างสีดำ
กับเรื่องราวที่เป็นภาพวาดสีเทียนคล้ายกับฝีมือวาดภาพของเด็กๆ ซึ่งเข้ากันดีกับเรื่องราวที่มี แถมยังมีตอนจบที่น่ารักเป็นที่สุด

เรื่องที่ 5 HORMONE โดย สุทธิชาติ ศราภัยวานิช

เรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งกับ HORMONE ของเขา

“ผมอยากจะมอบมันให้เธอเพียงคนเดียวในวันวาเลนไทน์...”

อ่านจบแล้วก็แอบอมยิ้มไม่ได้ที่กัดสังคมไทยได้เจ็บแสบดีแท้กับเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่บางคู่
บางคนอยากมอบของขวัญให้มากกว่าช็อคโกแลต???

เรื่องที่ 6 BROWNEY THE CHOCOLATE SELLER โดย ทรงศีล ทิวสมบุญ

เป็นเรื่องราวลึกลับของ ‘บราวนี่ สมิธ’ หรือที่ผู้คนมักเรียกกันว่า ‘บราวนี่คนขายช็อคโกแลต

“กล่าวกันว่าช็อคโกแลตของบราวนี่ไม่ได้มีไว้ขายให้กับมนุษย์
แต่มีไว้ขายให้กับภูตผีปีศาจ
เพื่อแลกกับเรื่องราวต่างๆที่ปีศาจเหล่านั้นนำมาเล่าให้ฟัง”

กับเรื่องราวที่มีให้เหมือนกับได้อ่านเรื่องสั้นลึกลับดีๆเรื่องหนึ่งที่มาพร้อมกับภาพที่ดูสมจริงในบรรยากาศหม่นๆยังไงยังงั้น

เรื่องที่ 7 VALENTINE โดย summer

เรื่องราวของช็อคโกแลตคู่รักที่วันหนึ่งมีอันต้องแยกจากกัน

“อดีตที่สวยงามและความทรงจำเก่าๆ
มันจะไม่สามารถเกิดขึ้นกับผมได้อีกแล้วหรือนี่
ทำไมเราต้องจากลา ทั้งๆที่เราไม่เต็มใจ”

บอกได้คำเดียวว่า ‘ชอบ’ ครับ ทั้งภาพและเรื่องราวน่ารักมากๆ

กับสิ่งหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษของหนังสือเล่มนี้ก็คือ
การนำเอาเกร็ดความรู้เกี่ยวกับช็อคโกแลตที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ มาเขียนบอกไว้ ไม่ว่าจะเป็น...

-ชื่อทางพฤกษศาสตร์ของต้นโกโก้คือ Theobroma Cacao
ชื่อ Theobroma ในภาษากรีกแปลว่า อาหารของพระเจ้า

-Praline ช็อคโกแลตสอดไส้เกิดขึ้นครั้งแรก
เพราะความสะเพร่าในห้องครัวของ ดยุค Plesslis – Praline

-โคลัมบัสนอกจากจะค้นพบทวีปอเมริกาแล้ว
เขายังเป็นชาวยุโรปคนแรกที่นำช็อคโกแลตกลับสู่บ้านเกิด

-อาการอยากของพวก Chocoholic เลือกที่จะกินช็อคโกแลตชนิดแท่ง
หรือแม้แต่ White Chocolte ซึ่งไม่ได้มีส่วนประกอบจริงๆของช็อคโกแลตเลย

-เชื่อกันว่าช็อคโกแลตมีสรรพคุณเป็น ยาปลุกเซ็กซ์

-อัลเฟร็ด ฮิทซ์ค็อค ผู้กำกับหนัง Psycho ใช้ช็อคโกแลตไซรัปแทนเลือดปลอม

-White Day (14 มีนาคม) คือวันที่หนุ่มญี่ปุ่น
จะซื้อช็อคโกแลตให้หญิงสาวที่ซื้อช็อคโกแลตให้ในวันวาเลนไทน์

ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้หนังสือเล่มนี้ดูดีและมีอะไรมากกว่านิยายภาพธรรมดาๆขึ้นมาอีกนิดนึงแล้วสำหรับผม

เรื่องที่แนะนำ : CHOCOLATE PRINCESS โดย องอาจ ชัยชาญชีพ, BROWNEY THE CHOCOLATE SELLER โดย ทรงศีล ทิวสมบุญ และ VALENTINE โดย summer

สรุป เหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่ชื่นชอบนิยายภาพแบบรวมหลายเรื่องครับผม
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 21:46:23
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 01:46:19

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 01:33:07

ความคิดเห็นที่ 15

เล่มที่สอง -ญี่ปุ่น-

ลูป พิศวงโลกเหนือจริง
RUPU
ผู้เขียน ซุสุกิ โคจิ
ผู้แปล น้ำทิพย์ – อัษฏา เมธเศรษฐ
สำนักพิมพ์ JBOOK
ราคา 200 บาท
จำนวน 334 หน้า

“ลูป พิศวงโลกเหนือจริง
เริ่มต้น ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในโลกอนาคต
ซึ่งเกิดโรคระบาดไวรัสมะเร็ง
พ่อของ คาโอรุ ก็ติดเชื้อนี้เช่นกัน
คาโอรุเข้าเรียนแพทย์เพื่อค้นหาความจริงของไวรัสนี้
และค้นพบว่ามีโครงการวิจัยหนึ่งชื่อ ‘ลูป’
อยู่ในทะเลทรายตะวันออกของอเมริกาที่จะช่วยไขปริศนาโรคร้ายนี้ได้
โดยมีชายชื่อ ทาคายามะ ริวจิ (ตัวละครสำคัญใน ริง คำสาปมรณะ) เป็นกุญแจสำคัญ
คาโอรุจึงออกเดินทางข้ามทะเลทรายเพื่อตามหาโครงการลูป
อันเป็นเหตุแห่งการผจญภัยสุดระทึกใจ
ซึ่งพลิกชีวิตของคาโอรุและเหนือความคาดหมายของผู้อ่าน”

นี่คือส่วนหนึ่งในคำโปรยบนปกหลังของหนังสือเล่มนี้ที่นับเป็นภาคที่สามของนิยายชุดนี้
ต่อจาก ริง คำสาปมรณะ (RINGU) และ สไปรัล พันธุ์อาถรรพ์ (RASEN)
ผลงานของนักเขียนผู้เคยสร้างปรากฏการณ์ “สุดยอดนิยายสยองขวัญแห่งศตวรรษใหม่” นั่นเอง...

กับเรื่องราวที่มีให้ก็เหมือนกับที่เขียนไว้บนปกหลัง เนื้อหาหลักๆมันมีอยู่แค่นั้นจริงๆ
ส่วนใครก็ตามที่หวังว่าจะได้อ่านนิยายสยองขวัญบรรยากาศน่ากลัวๆเหมือนเล่มที่ผ่านมาก็คิดผิดถนัด
เพราะกับเล่มนี้นั้นมันออกจะเป็นนิยายแนววิทยาศาสตร์-ไซไฟซะมากกว่า
ไม่มีกลิ่นอายสยองขวัญเหมือนภาคก่อนๆ แต่ก็ยังคงโดดเด่นด้วยการใช้ภาษาที่สละสลวยและน่าติดตาม
ผิดกับการดำเนินเรื่องที่ยืดยาดอืดอาดในช่วงต้นๆ กว่าจะมาสนุกและน่าติดตามก็โน่นเลยช่วงหลังๆ
ซึ่งถ้าใครเป็นพวกความอดทนต่ำก็อาจจะเบื่อเล่มนี้ไปเลย

*********เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ*********

ชอบมากเป็นพิเศษกับเรื่องราวที่เป็นบทสรุปของเนื้อหาในภาคก่อนๆ
ไม่ว่าจะเป็นการที่เฉลยว่าทั้ง 2 ภาคก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกจำลอง ‘ลูป’ หาใช่โลกจริงไม่
เป็นเพียงแค่โลกสมมุติในคอมพิวเตอร์เท่านั้น และสาเหตุที่แท้จริงของการแพร่ระบาดของไวรัสริง
ส่วนข้อสงสัยที่ผมเคยสงสัยในเล่ม 2 (สไปรัล พันธุ์อาถรรพ์) นั้น ต่างก็ได้คำอธิบายที่ชัดเจนในเล่มนี้
อีกทั้งเรื่องราวต่างๆของทั้งสามภาคก็ยังสอดคล้องกันอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ผมต้องขอยอมรับในความสามารถของนักเขียนท่านนี้จริงๆ

**********************************************

สรุป เหมาะสำหรับใครก็ตามที่อ่านทั้ง 2 ภาคก่อนหน้ามาแล้วครับผม
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 01:40:08

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 01:36:22

ความคิดเห็นที่ 16

และเล่มสุดท้าย -อังกฤษ-

กับดัก
The Mousetrap
ผู้เขียน อกาธา คริสตี้
ผู้แปล ดวงตา
สำนักพิมพ์ สร้างสรรค์บุ๊คส์
ราคา 70 บาท
จำนวน 109 หน้า

“บ้านมองค์เวลล์ เป็นบ้านให้เช่าเปิดใหม่
แขกที่เข้ามาพักแต่ละคน ล้วนมีอะไรดูแปลกประหลาดน่าระแวง!
ภายในบ้าน ก็อบอวลไปด้วยบรรยากาศของการฆาตกรรม!
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว!
ทางเข้าออกถูกตัดขาด เพราะพายุหิมะที่ถล่มลงมา!
โทรศัพท์ถูกตัดสาย ไม่สามารถติดต่อกับภายนอกได้!
ฆาตกรเริ่มลงมือฆ่า... อีกครั้ง!
และวาง ‘กับดัก’ เพื่อฆ่าอีกครั้ง!”

นี่คือคำโปรยบนปกหลังของหนังสือเล่มนี้ที่มีดีตรงที่
เป็นผลงานปลายปากกาของเจ้าแม่นิยายสืบสวนสอบสวน ‘อกาธา คริสตี้’

เรื่องราวที่มีก็เหมือนกับที่เขียนบอกไว้บนปกหลัง
อาจจะมีรายละเอียดแปลกย่อยตรงที่คดีฆาตกรรมนี้ฆาตกรมาพร้อมกับเพลงกล่อมเด็ก ‘หนูตาบอดสามตัว’ (THREE BLIND MICE)…

ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของนักเขียนบวกด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดความสนใจจากผม
แต่นี่ยังมีคำโฆษณาการันตีบนปกหนังสือทุกเล่มของนักเขียนท่านนี้เขียนไว้ว่าเป็น ’นิยายสืบสวนขายดีตลอดกาล’ อย่างนี้มีหรือที่ผมจะพลาด...

กับความรู้สึกหลังอ่านจบ ค่อนข้างจะผิดหวังนิดหน่อย
อาจเป็นเพราะผมชอบตั้งความหวังไว้สูงจนเกินไป
พอผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ไม่ตรงดั่งใจ ก็เลยรู้สึกผิดหวังไปโดยปริยาย
เนื่องจากการดำเนินเรื่องของเรื่องนี้ค่อนข้างจะอืดอาดยืดยาดในบางช่วง
และไม่ค่อยมีฉากหรือเหตุการณ์อะไรที่น่าตื่นเต้นจนชวนให้ติดตาม
ความรู้สึกขณะอ่านจึงออกจะเนือยๆ ไม่ถึงขั้นวางไม่ลงอย่างที่ควรจะเป็น
แต่ก็พอแก้ตัวได้กับบทสรุปตอนจบที่สามารถหลอกคนอ่าน(หรือเปล่า???)ได้ผล
ขนาดผมยังเดาคนร้ายผิดเลย แค่นี้ก็พอจะให้อภัยกันได้แล้ว

ส่วนสารเล็กๆน้อยๆที่ได้ก็คือ อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง
เพราะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ที่เห็นว่าแสนดี จริงๆแล้วอาจจะเลวสุดขั้วก็เป็นได้ใครจะไปรู้...

สรุป เป็นผลงานของอกาธา คริสตี้ ที่ไม่ถึงขั้นดีจนอยากแนะนำ
แต่ถ้าใครจะยังอยากอ่านอยู่ ก็ลองไปหาอ่านดูได้ไม่เสียหายอะไรครับ

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 01:39:18

ความคิดเห็นที่ 17

อ่านหนังสือก็ยังไม่จบ สงสัยว่าเล่มนี้คงไม่จบแน่ๆ พยายามเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ไหวจริงๆ เป็นเรื่องที่มีอะไรหลุดให้จับผิดได้เยอะไปหน่อย บังเอิญมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่อเมริกาด้วย ถูลู่ถูกังต่อไปไม่ไหวอีกแล้วค่ะ

กิฟต์ก็หมดแล้ว ได้แต่มาอ่านรีวิวและเป็นกำลังใจให้ลุยกันต่อไปค่ะ อ้อ! ตอบคำถามของคุณสาวไกด์จากกระทู้ก่อนด้วยค่ะ ไม่ทราบมีเรื่องสั้นของ H.P. Lovecraft แปลเป็นไทยบ้างหรือยังนะคะ แต่กรณีนี้ทำให้เกิดไอเดียค่ะ เอารวมเรื่องสั้นของ H.P. Lovecraft มาตอบโจทย์ข้อรวมเรื่องสั้นดีกว่า อิอิ ได้การ
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 05:54:36
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 04:28:08

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 04:27:11

ความคิดเห็นที่ 18

สวัสดีตอนบ่ายค่ะ...
ฮ่า...คุณพัทกะคุณหนิงเข้าใจเติมเชื้อฟืน
เอ้า...ทุกคนสู้ ๆ ค่ะ

วันนี้ขอส่งการบ้านสองโจทย์ก่อนนะคะ

(คุณพัทคะ โรแม้งไทยที่บอกไว้เม้นต์ก่อน อ่านจบแล้ว แต่กะใช้ตอบโจทย์บุฟเฟ่ต์ ซึ่งตอนนี้กำลังอ่านเล่มที่สี่อยู่ ไม่รู้จะทันรอบคุณพัทไหมเนี่ย... หยอกเย้า )

วันนี้ขอเก็บโจทย์เล็ก ๆ ก่อนแล้วกันค่า....
โจทย์แรก 5-8.[หมูย้อมสี] อ่านหนังสือที่ตัวเอกเป็นนักกีฬาหรือมีอาชีพเกี่ยวข้องกับกีฬา เช่น ชุด ไมรอน โบลิทาร์

อ่านรวมเรื่องสั้น
"ดาราลับฟ้า : ความหลังฝังใจจากวัยเยาว์"
ผู้เขียน อัศศิริ ธรรมโชติ
ผู้พิมพ์ บ.ต้นอ้อ แกรมมี่ จำกัด
128 หน้า

เรื่องสั้นทั้งหมด ๑๑ เรื่องในหนังสือเล่มนี้ โยงใยสอดร้อยเป็นเรื่องราวเดียวกัน ที่บอกเล่าถึงความหลังความผูกพันของ "ผม" (ตัวเอกในเรื่อง)ในฐานะอดีตนักฟุตบอลที่มีประสบการณ์การเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่วัยเยาว์...สะท้อนบทบันทึกถึงความใฝ่ฝันและการต่อสู้ชีวิต...

การจัดลำดับเรื่องจากจุดเริ่มต้นของเรื่องแรกคือ "เบื้องหลังประตู มีแม่น้ำ" จนถึง "ดาราลับฟ้า" มีการประสานสัมพันธ์เป็นเนื้อเดียวกัน...ทุกเรื่องราวตอกย้ำถึงความฝันและความขาดแคลนโอกาส (และอีกหลาย ๆ สิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเด็กในเมือง) ของ "นักฟุตบอลบ้านนอก"

ผู้เขียนได้บอกเล่าจากประสบการณ์ชีวิตวัยเยาว์บางส่วน แถมท้ายด้วยการทบทวนความรู้สึกส่วนตัว เพื่อนำเสนอกระแสความคิดเชิงสร้างสรรค์สำหรับผู้อ่าน

- เบื้องหลังประตูมีแม่น้ำ - - บอกเล่าถึงทีมฟุตบอลโรงเรียนประชาบาลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่กว่าจะได้ลูกฟุตบอลหนังของแท้มาเล่นนั้นก็แสนจะยากเย็น
ลูกฟุตบอลลูกนั้นจึงมีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด...เมื่อ "ผม" หรือที่เขาเรียกตัวเองว่า "ปีกซ้าย เหยี่ยวบินดินระเบิด" มุ่งมั่นจะเอาชนะเจ้า "เทพบุตรมือดินเหนียว" ผู้รักษาประตู ได้ทุ่มเทสรรพกำลังเตะเจ้าลูกบอลลูกนั้นออกไปเต็มเหนี่ยว
จนมันเฉียดเสาข้างประตู ลอยละลิ่วข้ามรั้วเตี้ย ๆ ของโรงเรียน แล้วไปตกลงกลางสายน้ำที่ไหลเชี่ยว...แม้เขาจะรีบเร่งพายเรือตามไปเพื่อหวังจะเก็บมันคืนมาแต่ก็หาได้ตามทันไม่..."ผมร้องไห้ ...แม่น้ำเอ๋ย เจ้าไหลเชี่ยวเสียจริง ๆ "
เมื่อโตขึ้นเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของจังหวัด ยังคงรักษาฉายา"เหยี่ยวบินดินระเบิด" ได้อย่างยอดเยี่ยม หากทุกครั้งที่เขายิงผิดพลาด ลูกบอลแฉลบออกข้างสนาม หัวใจของเขาจะหล่นวูบทันใด...อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้ เขาจึงมักยิงประตูได้อย่างไม่ผิดพลาด...จนเป็นที่เลื่องลือ
มีแต่เขาผู้เดียวเท่านั้นที่รู้ดีว่า...เป็นเพราะ...เบื้องหลังประตูมีแม่น้ำ

จากนี้ก็มีเรื่อง "สนามฟุตบอลนี้...ของเรา" ออกแนวเสียดสีแบบจิกกัดเล็ก ๆ - - "ไลนส์แมนบ้านไร่" บอกเล่าถึงไลนส์แมนผู้เที่ยงตรงและเป็นธรรม หากขัดใจผู้คนในชุมชนจนต้องจบชีวิตลงอย่างเดียวดาย - - "ทะเลและดารา" เมื่อนักฟุตบอลที่มีอดีตอันรุ่งโรจน์ ต้องการสร้างผู้สืบต่อ เขาจึงมองหาจุดเริ่มต้นตรงจุดเดิมที่เขาเคยก้าวออกไป...นั่นคือสนามธรรมธรรมชาติริมทะเล - - "วันเวลาของดารา" เมื่อดาวเด่นแห่งวงการฟุตบอลบ้านนอกก้าวผ่านกาลเวลาจนกลับกลายเป็นเพียงตัวสำรองตัวอ้วนฉุ...และเมื่อเขาสามารถลงเล่นได้ในครึ่งหลังและยิงประตูเข้าไปนำชัยให้กับทีม...ประตูลูกนั้นก็เป็นเพียง"ลูกฟลุค" สำหรับอดีตดาราอย่างเขาเท่านั้น - -

เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายให้ชื่อว่า"ดารา-ลับฟ้า" เป็นเรื่องสั้น-สั้นที่แสนเศร้า บอกเล่าถึงอดีต"ดารา" ผู้พิการ ขาขาดทั้งสองข้างจนต้องนั่งรถเข็น ความคิดความฝันทั้งหมดของเขาจ่อมจมอยู่กับการแข่งขันฟุตบอลของหมู่บ้านที่เขาเข็นรถไปแอบดูอยู่ริมสนาม...เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน เขาเข็นรถกลับบ้านอย่างเหงา ๆ แล้วหยิบเสื้อฟุตบอลกับรองเท้าสตั๊ดมาสวมใส่...จากนั้นก็นอนฝันถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ของตัวเองจน...ดาราลับฟ้า
เศร้าง่ะ :(
แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 13:13:54

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 13:09:29

ความคิดเห็นที่ 19

กับอีกโจทย์ค่ะ 15-8.[แม่ไก่ + PTNCenter] วันพ่อ 5 ธันวา อ่านหนังสือ 1 เล่มที่เน้นบทบาทของคนเป็นพ่อ หรือบ่งบอกถึงความรักความผูกพันของคนเขียนที่มีต่อพ่อ

"กราบพ่อ : Nice to Meet You Dad..."
"เมฆโอบรุ้ง"/เขียน
สนพ."ยิ้มตาหวาน"/พิมพ์ (ครั้งที่ 3 ธ.ค. 2547)
239 หน้า

โปรยปก : ผ่านฟากฟ้าและฝั่งฝัน คือคืนและวันอันศักดิ์สิทธิ์
ในความเป็น "พ่อ" คนหนึ่ง
พ่อได้ให้ทุกอย่างเกินคำว่า "ครบถ้วน" และ "บริบูรณ์"
พ่อให้คำสอน คำตักเตือน แนวคิด แนวทางชีวิต
ให้ความรู้ ให้การศึกษา ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ
ให้รู้จักทุกคุณค่าของการมีชีวิตอยู่
และเหนือการให้ทั้งปวง พ่อให้สองสิ่ง...
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของลูกและชีวิตของคนหนึ่งคน
นั่นคือ "ให้อภัย" และ "ให้โอกาส"
ไม่มีการให้ใดใด ยิ่งใหญ่เท่ากับการให้ทั้งสองนี้อีกแล้ว

****************

บางส่วนจากคำนำ :
"กราบพ่อ" บันทึกเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่รอนแรมจากบิดาของเขาไปไกล เพื่อความสำเร็จในชีวิตและความชื่นชมของผู้เป็นพ่อ วิบากกรรมพรากเอาหนึ่งกำลังใจสำคัญให้จากไปอย่างไม่มีวันกลับก่อนหน้าความสำเร็จจะมาทักทาย...
ในขณะที่ทุกอย่างพากันอันตรธานและสูญสิ้น "ดวงชีวิตพ่อ"ที่ยังสถิตอยู่ใน "ดวงใจ" ของผู้เป็นลูก ก็ปลอบประโลมให้กำลังใจ ให้ความรักนำทางพาผู้สิ้นหวังสู่ฝั่งฝันอย่างภาคภูมิ"

เป็นเรื่องเล่าเชิงบันทึกของ "เมฆโอบรุ้ง" ที่บอกเล่าถึงการต่อสู้ร่วมกันของเขากับ "พ่อ" ในวาระสุดท้ายแห่งดวงชีวิตของพ่อ...
ที่อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งสะเทือนใจ รับรู้ได้ถึงสายสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่และเหนียวแน่นของ"พ่อ-ลูก"

"ดวงชีวิตสองดวงในเวิ้งชีวิตอันไพศาล
อาจมีค่าและช่วงระยะเวลาเท่ากับชีวิตของผีเสื้อตัวหนึ่ง
กับผีเสื้ออีกหนึ่งตัว ที่ซ้อนทับดวงชีวิตไว้ด้วยกัน
เพื่อพยายามยืดต่อวันเวลาอันแสนสั้น
ด้วยการร้องขอต่อชะตากรรม และวิงวอนต่อวิบากกรรม
เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย
ระหว่างความมีชีวิตและไว้ชีวิต
อยู่เพียงแค่กระพือ กะพริบของเรียวปีกอันแสนบอบบางแต่แข็งแกร่งที่สุดนั้น"

****************

ส่วนตัวน้ำตารินกับหนังสือเล่มนี้ เพราะเข้าอกเข้าใจ ลึกซึ้งในความรู้สึกและอารมณ์ของผู้เขียนทุกถ้อยทุกความที่บรรยายออกมาเป็นสำนวนภาษาที่สละสลวย

ไม่แน่ใจนักว่าผู้เขียนเป็น "คนดัง" ในแวดวงใด แต่ด้านหน้าของหนังสือมีคำนิยมที่เขียนโดย"คนดัง"หลายท่าน อาทิ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านรมต.สำนักนายกฯ คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย คุณเอนก นาวิกมูล คุณจำลอง ฝั่งชลจิตร ฯลฯ

ส่วนหลังเป็นภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้เขียนได้เกริ่นกล่าวไว้ในหน้าคำนำว่าผู้เป็นพ่อนั้นรักภาษาอังกฤษเป็นชีวิตจิตใจ จึงได้มีการแปลบทบันทึกนี้เป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วย แปลโดย "อัฏษมา อนงคตระกูล"

จะตินิดเดียวก็เรื่องของการจัดหน้าและรูปเล่มหนังสือ วางอาร์ตเวิร์ก ที่ดูเหมือนจะพยายามให้เป็นศิลปะ แต่ออกมาแล้วดู มากเกินไปจน"เปรอะ"เสียมากกว่า
พลิก ๆ ดูตอนแรกคิดว่าเป็นหนังสือทำมือของชมรมใดชมรมหนึ่งที่เคยทำกันเล่น ๆ สมัยเรียนในมหาวิทยาลัย
แต่เมื่อหยิบมาอ่านเนื้อหาอย่างจริงจัง ก็ให้รู้สึกเสียดายอยู่ตงิด ๆ
การตกแต่งใด ๆ ที่มากเกินไปกลับกลายเป็นการลดทอนความศักดิ์สิทธิ์ ความสำคัญของหนังสือลงอย่างน่าเสียดาย
เป็นแค่ความรู้สึกส่วนตัวค่ะ

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 13:19:27

ความคิดเห็นที่ 20

มาอีกหนึ่งรีวิวปิดท้ายสัปดาห์นี้ค่ะ

10-13.[แม่ไก่] เสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราเป็นวันเด็กแห่งชาติ มารับฟังเสียงของเด็ก ๆ บ้างดีไหม
อ่านหนังสือ 1 เล่มที่เขียนโดยเด็กอายุต่ำกว่า 18 (อายุขณะที่เขียน)
หรือให้เด็กเป็นตัวละครเอกที่ถ่ายทอดเรื่องราวในหนังสือ เล่มนั้น ๆ
(ในกรณีหลังนี้ขอให้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ค่ะ)

ตอบโจทย์ - น้องมุก ตัวเอกในเรื่องแสดงตั้งแต่เกิดจนเกือบโตเป็นสาวเลยแหละค่ะ

เด็กหญิงสวนกาแฟ
ผู้เขียน เม น้อยนาเวศ
สำนักพิมพ์ อมรินทร์
จำนวนหน้า 199 หน้า
ราคา 150 บาท

เรื่องเล่าของเด็กหญิงชาวใต้ชื่อมุก กับการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางครอบครัวอันอบอุ่น
ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ พี่โม ย่า ฯลฯ

การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น และการเรียนรู้ตามวัย

จวบจนได้เจอกับเรื่องราวที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

ก่อนอื่น..หาไม่เจอว่าใครแนะนำเรื่องนี้ไว้ - ขอบคุณมากๆ นะคะ

แต่คิดว่า..น่าจะเป็นจากบล็อกนี้กระมังนะ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kaolawkao&month=05-2009&date=29&group=5&gblog=2

เพราะอ่านแล้วชอบมากเลยแหละค่ะ เป็นวรรณกรรมเยาวชนไทยอีกเรื่องที่อยากให้อ่านกัน

ตอนแรกที่อ่าน ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรค่ะ (การอ่านโดยไม่คาดหวังนี่ดีจังน่อ)

แต่ก็สามารถอ่านเรื่องราวต่างๆ ที่บอกเล่าถึงชีวิตของชาวใต้ ด้วยสำนวนสะอาดสะอ้าน
ชวนให้คิดถึงบรรยากาศของชนบท ความเป็นอยู่ที่น่าสนใจ
อ่านแล้วก็อมยิ้มไป เหมือนได้ไปเดินเที่ยวย่ำอยู่ในสวนยามเช้าที่อากาศดีๆ
สูดอากาศเย็น ดูหมอกระเรี่ยยอดไม้ ฟังเสียงคนกำลังเริ่มตื่นกัน

ได้อมยิ้มน่ารักกับความแสนรู้ของบรรดาหมาๆ ทั้งหลาย (คนรักหมาน่าจะยิ้มกันทุกคนค่ะ ถ้าได้อ่าน)

แต่พออ่านไปจนจบ กลับกลายเป็นน้ำตาซึมซะงั้นค่ะ

คนเขียนเก่งในการสร้างความผูกพันของตัวละครกับเรา แล้วก็ทำให้เรา "รู้สึก" ได้มากกับตอนจบของเรื่อง

เรื่องนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ภาษาใต้หลายๆ คำ แต่สงสัยว่าทำไมบางคำถึงไม่มีอธิบาย
(โดยปกติ คนเขียนจะมีวงเล็บอธิบายเป็นภาษากลางให้ในคำใต้ค่ะ
แต่กลับไม่ทำทุกคำแฮะ ทำให้บางคำ ก็งงๆ อยู่ว่า คำคำนั้นแปลว่าอะไรหว่า?)

เช่น หน้า 38 บ้านสวนกาแฟยังต้องตามตะเกียงอยู่เลย (ซึ่งน่าจะแปลว่าจุดตะเกียง)

หน้า 41 "กวี" ไม่เคยอาบน้ำเลย เพราะน้ำในกร่อท้ายสวนนั้นเย็นมาก
...น้ำในกร่อนี้ไหลมาจากทางน้ำเล็กๆ บนภูเขา
(คิดว่า กร่อ - น่าจะหมายถึงห้องน้ำหรือเปล่าหว่า?)

หน้า 48 ย่าแปลกใจ เดินตามไป เจอหมากหกรายเป็นทาง จึงได้ฉาวขึ้นว่ามีคนมาลักหมาก
หน้า 83 จากบ้านป้าหญีตนั้น เดินคุยฉาวๆ ไม่กี่อึดใจก็ถึงสุดทางลงท่า
(คำว่าฉาวแปลว่าอะไร? พูดเสียงดัง? หรือว่าไงง่ะ?)

มีข้อติดข้องประการเดียวคือ น้องมุกมีโอกาสได้ทั้งดูวัลลี และบุญชูสระอูย้าวยาว
ก็เลยรู้สึกสงสัยว่า..มันห่างกันกี่ปีี เหมือนมันห่างกันเยอะเกินกว่าเวลาที่น้องมุกจะได้ดูในหนังสือน่ะค่ะ

แต่โดยรวมแล้ว..เป็นวรรณกรรมเยาวชนไทยที่ดีเรื่องหนึ่งนะคะ

ถ้าใครชอบอ่านแนวนี้ก็อยากให้ลองอ่านกันค่ะ

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 13:28:21

ความคิดเห็นที่ 21

ปักหมุดลงคะแนนถึงคห 20 ค่า

สู้ๆๆๆนะคะทุกคน ซีซั่นนี่พัทปั่นงานหน้ามืด อดเล่นเลย ฮืออ ขอเป็นกองเชียร์แบบนี้แล้วกัน

(พี่แม่ไก่ เร่งสปีดหน่อย อิอิ)

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 17:36:31

ความคิดเห็นที่ 22

มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
รอบนี้ขอเป็นกองเชียร์ด้วยเช่นกัน

จากคุณ : ปณาลี

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 19:45:07

ความคิดเห็นที่ 23

ปักหมุด แจงกิ๊ฟ และขอลงรีวิวหน่อยค่ะ เดี๋ยวเดือนนี้ไม่มีคะแนนกัน อิอิ

15-3.[นัทธ์ + อมราวตี] อ่านหนังสือที่พูดถึงวันลอยกระทงหรือตำนาน
เรื่องเล่า ความเชื่อเกี่ยวกับดวงจันทร์ เช่น เทพธิดาแห่งดวงจันทร์
หรือ หนังสือที่มีคำว่า "จันทร์" อยู่ในชื่อเรื่อง

ข้อมูลหนังสือ

ปรารถนาแห่งแสงจันทร์รวมเรื่องสั้น
ผู้เขียน : เงาจันทร์
พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก : แพรวสำนักพิมพ์ ตุลาคม 2550
207 หน้า

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ฉันรู้สึกว่า แสงจันทร์เป็นฉากหลังของความเศร้า ความรู้สึกนี้
เกิดขึ้นขณะอ่านหนังสือเรื่องนี้ "ปรารถนาแห่งแสงจันทร์" หนังสือรวมเรื่องสั้น
ของ "เงาจันทร์" ดีกรีของหนังสือคือเป็นหนังสือที่เข้ารอบแปดเล่มสุดท้ายชิง
รางวัลซีไรด์ในปี 2551ฉันสนใจหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ตอนนั้นด้วยว่ามีพี่สาวที่รัก
และเคารพแนะ นำมาอีกที

เรื่องสั้นในเล่มนี้มีอยู่ด้วยกัน 8 เรื่อง

ภาระ
(ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสาร ฅ คน มีนาคม 2550)

เด็กหญิงนักเขียนจดหมาย
(ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสาร ฅ คน มกราคม 2550)

นิทานเมฆเมืองแก้ว
(เขียน 21 กันยายน 2546 พิมพ์ครั้งแรกที่นี่)

ดอกหางนกยูง
(พิมพ์ครั้งแรกในวารสารหนังสือใต้ดิน " บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา " ฉบับที่ 10 ธันวาคม 2549)

ดาวรายอันเงียบงัน
(เขียน มกราคม 2548 พิมพ์ครั้งแรกที่นี่)

บุหลันแรม
(เขียน 13 ธันวาคม 2546 ตีพิมพ์ครั้งแรกใน "บุหลันแรม" รวมเรื่องสั้นนายอินทร์อะวอร์ด กรกฎาคม 2548 ได้รับรางวัลเรื่องสั้นยอดเยี่ยมนายอินทร์อะวอร์ด ประจำปี 2548)

บางสิ่งซึ่งสูญลับดับหาย
(เขียน 9 กรกฎาคม 2547 ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสารสกุลไทย ฉบับที่ 2640 พฤษภาคม 2548)

ด้วยแรงแห่งรัก
(เขียน 19 ตุลาคม 2547 พิมพ์ครั้งแรกที่นี่)

เรื่องสั้นทุกเรื่องของ "เงาจันทร์" มีเอกลักษณ์ประจำตัวและให้อารมณ์สอดคล้อง
ต่อเนื่องกัน เมื่อเริ่มอ่านเรื่องแรกๆ ยังไม่คุ้นเคยกับสำนวนการเขียน และเนื่อง
จากโดยปกติแล้วฉันชอบอ่านเรื่องสั้นหรือนิยายที่ใช้ตัวละคร "ฉัน" หรือเล่าใน
มุมมองของตัวเอกมากกว่าการอ่านเรื่องสั้นหรือนิยายที่เอ่ยชื่อตัว ละครออกมา
บ่อยครั้ง จึงใช้เวลาปรับตัวสัก 2 ตอนจากนั้นก็รู้สึกว่าอ่านได้ลื่นไหล

อย่างที่คำนำในหนังสือก็ เอ่ยบอก ว่าเรื่องสั้นทุกเรื่องในเล่มนี้ล้วนมีแสงจันทร์
เกี่ยวข้องด้วย และสอดคล้องกับนามปากกาผู้แต่ง ชื่อที่นำมาตั้งเป็นชื่อหนังสือนี้
ฉันจึงรู้สึกว่าเหมาะเจาะพอดี

เรื่อง สั้นที่นำมารวบรวมไว้นี้ ล้วนเป็นเรื่องราวเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งของความ
สัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ยกเว้นเรื่องสั้น ดาวรายอันเงียบงัน ที่ฉันชอบที่สุดในเล่ม
เป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างเด็กผู้ชายกับวัว ที่เขาเลี้ยง อันเรื่องราวที่ดำดิ่ง
ในความสัมพันธ์ที่เอ่ยมานี้ในเล่มทำได้เป็นอย่างดี นักอ่านจิตใจเปราะบางอย่าง
ฉันเป็นอันได้หลั่งน้ำตาให้กับความเหงาความเศร้า จากก้นบึ้งความสัมพันธ์ทั้ง
หลายทั้งปวงนี้อยู่หลายตอน

มี ประเด็นย่อยๆ ที่อยากแบ่งปันแก่ผู้ที่อ่านแล้วด้วยกัน ฉันเห็นว่าประเด็นความ
สัมพันธ์บางส่วนที่เกิดขึ้น ค่อนข้างเป็นเรื่องของอารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผลโดย
เฉพาะอารมณ์รักๆ ใคร่ๆ ที่ด้วยความเป็นเรื่องสั้นทำให้ไม่ค่อยเห็นที่มาที่ไป และ
ทำให้บางตอนค่อนข้างรู้สึก "เชื่อยาก" อยู่สักหน่อย อันนี้วิจารณ์แบบคนที่ไม่
ค่อยได้อ่านนิยายรักมากนัก

อย่างที่ผู้ เขียนออกบอกไว้ที่โปรดปกหลัง (ยกมา) ว่า " ข้าพเจ้าหวังเพียงแต่ว่า
หนังสือของข้าพเจ้าจะทำให้คนที่ผ่านความเจ็บปวดได้เห็นใจและเข้าใจมนุษย์
รอบ ข้างตนเองมากขึ้น เราจักได้เลิกทำร้ายกันรวมทั้งเลิกทำร้ายตนเองด้วย
กาลเวลาจะได้บันทึกความสุขของมนุษย์แทนรอยโศกจนชั่วนิรันดร์" คุณ "เงา
จันทร์" เขียนไว้เช่นนี้ และฉันได้เข้าใจถึงเจตนาของผู้เขียนได้ชัดเจนหลังจากได้
อ่านจบเล่มแล้ว

และขออนุญาตจบรีวิวด้วยประโยคโดนใจจากตอน เด็กหญิงนักเขียนจดหมาย
หน้า 57 ย่อหน้าที่ 6

" ...คนเราไม่ได้กลัวการอยู่คนเดียวเท่ากับการถูกลืมหรอกใช่ไหม..."

สำหรับฉันหนังสือเล่มนี้ไม่อาจลืมได้ง่ายๆ เป็นแน่

ป.ล.ยาวหน่อยนะคะ เอามาจากบล็อกฉบับเต็มเลยค่ะ

จากคุณ : อ้อน (BeCoffee)

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 20:02:46

ความคิดเห็นที่ 24

10-11.[ส้มแช่อิ่ม] อ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่ซื้อมาถูกที่สุด แต่คุ้ม เช่น ลดราคามาเหลือ 50 บาท สนุกมาก ได้ความรู้ ฯลฯ ให้บอกราคาจริง ราคาซื้อ และสถานที่ซื้อมาด้วย

เรื่อง >> เล่าเรื่องเมืองสยาม
ผู้เขียน >> ฑิภากร บารเมษฐ์
จำนวน >> 144 หน้า
สำนักพิมพ์ >> บางกอกบุ๊คส์
พิมพ์ครั้งที่ / ปีที่ >> ปี 2539
ราคาปก 120 บาท

เมืองสยามหรือประเทศไทยนั้นดำรงความเป็นเอกราช และผ่านพ้นภัยจากข้าศึกมาได้ เนื่องจากมีหลักเมืองและพระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โดยเฉพาะพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ที่ทรงทำนุบำรุงป้องกันเอกราชของอาณาจักรแห่งนี้มาทุกสมัย

๐ หลักเมือง
๐ พระแก้วมรกต
๐ สมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า
๐ กษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง
๐ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
๐ พ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด
๐ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๐ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
๐ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
๐ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ พระเจ้ากรุงสยาม
๐ พระสยามเทวาธิราช รัชกาลที่ 4
๐ เสด็จฯ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
๐ สมเด็จพระญาณสังวร
๐ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เรื่องนี้ราคาเต็ม 120 บาท แต่ได้มาในราคา 29 บาท ซื้อจากโลตัสอ่อนนุช ตรงตามโจทย์เป๊ะเลยล่ะ
ประหยัดไปตั้ง 91 บาทแน่ะ ในเล่มแบ่งเป็นตอนต่างๆ และในแต่ละตอนจะบอกเล่าความเป็นมา
ของสถานที่นั้นหรือของบุคคลท่านนั้นๆ พร้อมภาพประกอบขาว-ดำ
แต่อยากให้บางภาพเป็นภาพสีมากกว่า พอเป็นขาว-ดำแล้วมองไม่ค่อยออกเลย
เล่มบางกำลังดีด้วย อ่านแล้วชอบนะ อะไรที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เนี่ย
แต่อ่านแล้วไม่ค่อยได้จำซักเท่าไหร่ แหะ..แหะ..

^
^
^

อยากบอกอ่ะ ::

ช่วงที่หายไปไม่มีรีวิว จริงๆ ก็อ่านเก็บโจทย์บุฟเฟ่ต์อยู่ แต่พอมาดูโจทย์ข้ออื่นๆ
เลยมีการโยกย้ายจากโจทย์บุฟเฟต์ที่ได้ 25 คะแนน เราก็มองดูว่าเล่มไหนเข้ากับโจทย์อื่นได้บ้าง
โยกไปโยกมาพอรวมคะแนนแล้วได้เกินกว่า 25 อีกแน่ะ แถมยังทลายโจทย์อีกประมาณ 3 โจทย์
เราเลยดองโจทย์บุฟเฟ่ต์ไว้ก่อนดีกว่า ขอเก็บคะแนนเยอะๆ ไว้ก่อน อิอิ...

ปล.ขออนุญาตให้กิ๊ฟ 1 คะแนน/โจทย์/คน นะ จะได้มีเหลือถึงปลายเดือน

จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 20:16:25

ความคิดเห็นที่ 25

เข้ามาอ่านรีวิวและแจก give
แล้วก็ลาหยุดอีก 2 วัน มีเรื่องต้องเดินทางอีกแล้ว
ช่วงนี้ ดองหนังสือ และดอง blog ไปพลางๆ ก่อน ...^^

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 22:20:06

ความคิดเห็นที่ 26

หายหน้าหายตาไปซะหลายวัน
แอบซุ่มอ่านอยู่แต่ช่วงนี้อ่านได้สะเปะสะปะมากมาก
แต่ดูจากอาการพาดพิงของพี่พัทแล้วสงกะสัยว่า
ต้องรีบปั่น ไม่งั้นโดนโค่นแชมป์แน่แน่
อุตส่าห์เงียบๆซุ่มๆแล้วเชียวนะเนี่ย อิอิ

>> ไอซ์คุง
Chocolate น่าสนมาก
ส่วนงานของอกาธา ที่เคยตื่นเต้นกับชื่อของเธอ
แต่พออ่านเข้าจริงๆจังๆ มันยังไม่โดนเหมือนที่ว่าเลย
พลุอ่านมา 4-5 เล่มแล้วยังรู้สึกเฉยๆอยู่เลยอ่ะ
แต่เล่มหลังๆที่อ่านพอเดาตัวคนร้ายได้นะ
ไม่รู้เหมือนกับตัวเองจับแนวบวกกับเทคนิคการเดาได้หรือเปล่าไม่รู้
แต่โรคจิตมันกำเริบอ่ะ ซื้อแล้วต้องซื้อให้ครบแม้จะไม่ดีจนอยากจะเก็บ
ไม่น่าหลวมตัวเลย เหอๆๆๆๆ

>> พี่แม่ไก่
เดือนนี้ติดสปีดจังเลย ไล่ไม่ทันแล้วง่ะ T_T 555+

แว่บๆไปก่อนเด๋วค่อยมารีวิว

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 23:18:40

ความคิดเห็นที่ 27

มาปักหมุดค่ะ
เน็ตเดี้ยงอีกแล้ว เดี๋ยวรีบตอบรีบล็อกออฟละกัน

ยืนยันอีกเสียงว่ารางวัลน่าน้ำลายไหลมากค่ะ คือ จริงๆ ของฟรีก็ดีทั้งนั้นแหละเนอะ แต่มีรางวัลนึงที่น่ากรี๊ดจริงๆ ค่ะ ขออิจฉาคนได้ล่วงหน้าเลย (เผอิญรู้เรื่องรางวัลเพราะคนติดต่อผู้ดูแลชุดเก่าก่อน ... เล่นเอาเกิดกิเลสวูบขึ้นมาเลย)

ดังนั้น ใครจะลงขันกำจัดน้องพลุบ้างคะ? 555
((ประโยคนี้จะลบตัวเองในสิบวิ))

คุณสาวไกด์
"ตามตะเกียง" "คุยฉาวๆ" น่าจะเป็นสำนวนพูดแบบเก่านะคะ เราคุ้นๆ อยู่ว่าสมัยก่อนอ่านเจอเขาเขียนกันแบบนี้แหละ
ส่วน "กร่อ" นี่ไม่ชัวร์ อาจเป็นศัพท์ที่เราไม่รู้จัก
ส่วนประโยค "ฉาว..." นี่อ่านแล้วเข้าใจนะ (ถึงจะไม่ใช่วิธีพูดที่ชิน) เหมือนกับบอกว่า "เรื่องเลยเปิดเผยขึ้นมาว่า.." ประมาณนั้นน่ะค่ะ
>> กรณีนี้ทำให้นึกได้ว่าหนังสือสมัยนี้ ภาษาเป็นสากลจัง อ่านแล้วไม่ค่อยได้เรียนรู้ศัพท์หรือสำนวนเฉพาะถิ่นแบบสมัยก่อน

คุณกุลธิดาอ่านเล่มไหนอยู่คะเนี่ย? อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาติดหมัดเลย

เล่มของคุณแม่ไก่ทั้งสองเล่ม กับของคุณอ้อนน่าสนดีค่ะ แต่ช่วงนี้เครียด ขออ่านแต่ลั๊ลลาก่อน ใครมีหนังสือลั๊ลลาบั่นทอนปัญญาแต่ฮาสนิทมาแนะนำไหมคะเนี่ย? เค้าเครียดดดดด เค้าเฉามากกกก T__T

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 00:15:48

ความคิดเห็นที่ 28

ปักหมุดลงคะแนนถึงคห. 27 ค่ะ ตกลงเราจะร่วมมือกันกำจัดพลุใช่มั้ย อิอิ

ว่าแต่วันหยุดนี่มีใครไปซุ่มอ่านอะไรมาอีกไหมคะ

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 17:35:09

ความคิดเห็นที่ 29

เป็นเรื่องที่มีคนแนะนำหลายคนค่ะคุณยาคูลท์ ก็เลยสั่งซื้อมาพร้อมกับ เพียงใจที่ผูกพัน ราคาที่ซื้อที่นี่พอๆ กันเลย คือประมาณ 1300 บาทถ้าคิดเป็นเงินไทยนะคะ อ่านเล่มนี้ไปได้ไม่ถึงครึ่งเล่มเลยค่ะ ดีตรงที่ทำให้รู้สึกว่าชอบ เพียงใจที่ผูกพัน ขึ้นอีกเยอะเลยเพราะสำนวนคุณกิ่งฉัตรเจ๋งอยู่แล้ว อ่านได้เรื่อยๆ ตลอดจนจบเลย มาเล่มนี้สำนวนก็ เอ่อ...เฮ้อ ที่ขัดใจที่สุดก็ตรงเรื่องหลุดๆ นี่แหละค่ะ เป็นเรื่องของคู่แฝดชื่อเล่นว่าเพื่อนกับแพงนะคะ แฝดคนพี่เป็นคนแข็ง ขณะที่คนน้องอ่อนๆ แถมขี้โรค คนพี่ก็เลยเสียสละเพื่อน้องทุกอย่างแม้แต่คนรัก และเพื่อแสดงความเสียสละก็เลยหนีมาอเมริกาโดยใช้ transcript และอ้างตัวเองว่าเป็นคนน้องเพื่อเข้าเรียน MBA เอ่อ คือตัวเองทำงานในมหาวิทยาลัยนะคะ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเวลาที่ลงทะเบียนหรือแม้แต่เวลาที่มาทำเรื่องเมื่อได้รับเข้าเรียนแล้วก็ต้องใช้หลักฐานอื่นประกอบด้วย อย่างนักศึกษาต่างชาติก็พาสปอร์ต นักศึกษาของที่นี่ก็บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งนั่นก็ยืนยันอยู่แล้วว่าเป็นคนละคนกับในทรานสคริป

นั่นปัญหาแรก ปัญหาต่อมา แฝดคนพี่นี่ก็ไปนอนกับผู้ชายเพื่อให้ตัวเองท้อง ตอนคลอดปรากฎว่าฝ่ายผู้ชายตั้งชื่อลูก ทำเรื่องแจ้งเกิดให้ลูกเสร็จเรียบร้อยโดยที่ตัวเองซึ่งเป็นแม่ คลอดเด็กออกมาแท้ๆ ไม่รู้เรื่องเลย เป็นไปได้ไงไม่ทราบ ตอนที่ตัวเองคลอด เจ้าหน้าที่เอาใบแจ้งเกิดของเด็กมาให้กรอกถึงเตียงคนไข้เลยค่ะ แล้วเราในฐานะแม่จะไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไงว่าลูกคลอดแล้วจะตั้งชื่อลูกว่ายังไงดี เรื่องของเรื่องคือผู้หญิงในประเทศนี้มีจำนวนไม่น้อยที่คลอดโดยไม่ได้แจ้งชื่อพ่อของเด็ก อาจเป็นเพราะยังไม่แต่งงาน หรือเป็นได้ว่าท้องโดยไม่มีใครรับเป็นพ่อ แต่เรื่องที่ว่าแม่เด็กจะไม่รู้เลยว่ามีคนตั้งชื่อลูกของตัวและแจ้งเกิดโดยที่ตัวไม่รู้เรื่องเลยนั้นเป็นไปไม่ได้ค่ะ อย่างน้อยที่สุดในใบแจ้งเกิดแม่เด็กต้องเซ็นชื่อรับรู้ด้วยค่ะ หมายถึงสมัยนี้นะคะ ถ้าเป็นสมัย 50-60 ก่อนซึ่งการจัดเก็บข้อมูลไม่ดีเท่าทุกวันนี้อาจต่างออกไป แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหตุการณ์ซึ่งเกิดในอเมริกาเป็นเรื่องปัจจุบันค่ะ ก็เลยเกิดอาการเซ็งเล็กน้อย มีความรู้สึกเหมือนคนเขียนดูถูกคนอ่านยังไงก็ไม่ทราบ เหมือนคิดว่าคนอ่านจะไม่รู้เรื่องหรือไงก็ไม่ทราบ คงลืมไปว่าโอกาสที่คนอ่านบางคนเป็นประชากรของประเทศที่ใช้เป็นสถานที่เกิดเหตุนั้นมีอยู่ แถมไม่ค่อยจะปลื้มกับสำนวนด้วยอีก ก็เลยเก็บเข้ากรุ ดองยาวไปเลยด้วยความเก๊กซิมที่เสียตังค์ซื้อมาตั้งหลายดอลล่าร์ (วงเล็บว่าคนที่เคยอ่านคงเดาได้แล้วนะคะว่าเรื่องอะไร ชื่อเรื่องขึ้นต้นด้วยตัว ต ค่ะคุณยาคูลท์ ชื่อคนเขียนขึ้นต้นด้วยตัว จ) เรื่องนี้ก็เลยสอนให้รู้ว่าอะไรที่ไม่แน่ใจก็จะไม่เสี่ยงอีกแล้ว ที่จริงก็เคยอ่านงานของนักเขียนคนนี้มาเล่มนึงแล้วนะคะ เล่มนั้นก็ไม่ปลื้มเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทำไม่ถึงไม่เข็ดตั้งแต่คราวนั้นก็ไม่ทราบ เฮ้ออีกรอบ

เลยเอานาคราช ของ แก้วเก้า กับ หัวใจสองภาค ของ ม. มธุการี ๒ นักเขียนในดวงใจมาอ่านซ้ำเพื่อให้หายเจ็บใจค่ะ จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออกค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 05:01:27
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 04:24:46

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 04:18:16

ความคิดเห็นที่ 30

ขอส่งการบ้านก่องคร้า...

5-1.[แก้วกังไส + หมูย้อมสี + แม่ไก่] อ่านหนังสือที่กล่าวถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เช่น การระลึก
ชาติ คำสาป เวทย์มนตร์คาถา ฯลฯ

เจ้าหญิงสายน้ำ / W.Maple / 153 หน้า

คำโปรยจากปกหลัง : ทั้งที่วันคืนน่าจะผ่านไปอย่างสุขสงบปราศจากปัญหาใด จู่ๆ ก็มีปัญหาเกิดขึ้นเหนือ
น่านน้ำพันต์อีกจนได้ เมื่อทายาทแห่งนครใต้สมุทรหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ร้อนถึง ‘เธอ’ ซึ่งเป็นถึง
เทพผู้พิทักษ์ผืนน้ำต้องออกโรงแก้ไขสถานการณ์ด้วยตัวเอง ทว่า... เบาะแสหรือร่องรอยต่างๆ กลับแทบ
ไม่มีเลยสักนิด ‘เขา’ผู้บังเอิญถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยจึงต้องกระโจนเข้าสู่การไล่ล่าครั้งสำคัญ และ
กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยแสนพิลึกพิลั่นที่ไม่มีผู้ใดคาดเดาผลลัพธ์ได้!

ตอบโจทย์ : เพราะว่านางเอกเป็นผู้พิทักย์ทะเลทำให้ใช้เวทมนตร์ได้ค้า

ฟามรู้สึกคนอ่าน : น่ารักอ่ะค่ะ ชอบๆนางเอกน่ารัก ใจร้อน เอาแต่ใจ แต่ไม่ใสซื่อ (ก็เป็นตั้งผู้พิทักษ์ท้อง
ทะเลนิ) พระเอกก็น่ารักถึงตอนแรกจะดูจ๋องๆ ก็เหอะ (เพราะพระเอกเพิ่งเคยเจอคนใช้เวทย์ได้ก็ตอนเจอ
นางเอกนี่แหละ) แต่หลังๆ มามีอิทธิพลกะนางเอกน่าดู แค่พูดก็ปราบซะอยู่หมัด อุๆๆ

แต่พอคิดไปไกลๆ แล้ว พระเอกจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหนนิ เพราะพระเอกเป็นคน สุดท้ายก็ต้องตายจาก
ไปก่อนอยู่ดี ถึงจะรักกันแค่ไหนก็เหอะ

~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

จากคุณ : ไอ้มู๋ไร้อมฯ

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:25:36 A:124.122.173.33 X:

ความคิดเห็นที่ 31

5-9.[PTNCenter]หนังสือที่มีเนื้อหาสื่อถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน (จะเป็นคนกับคน สัตว์กับสัตว์ หรือคน
กับสัตว์ก็ได้)

แก๊งหนุ่มป่วน ก๊วนสาวอลเวง / Yuki Fujimoto / บงกช คอมมิค / 195 หน้า (ตอนนี้ออกมา 2 เล่ม)

คำโปรยจากปกหลัง : ย่านการค้าเมือนกินกะซึ่งอยู่ชานเมืองเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความตื่นเต้น
เพื่อนสมัยเด็กทั้ง 6 คน ที่เติบโตจากที่นั่นได้สร้างเรื่องราวของย่ายพ่อค้า วัยรุ่นที่มีความสนุกและความ
เศร้า 120 %

ตอบโจทย์ : เป็นมิตรภาพของเด็กๆ ที่กำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่

ความรู้สึกคนอ่าน : เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ใสๆ ของเด็กหญิง 3 คน ชาย 3 คน ที่โตมาด้วยกันตั้งกะเป็นเด็กเล็กๆ
ซึ่งพอเริ่มโตขึ้นทุกคนก็จะเริ่มแยกห่างกันไป ไม่ว่าจะด้วยงานที่ต้องช่วยพ่อแม่ทำ เพราะแต่ละคนเป็นลูกพ่อ
ค้าแม่ค้าในย่ายกินกะ และเรื่องที่ต้องแยกกันเรียนในชั้นม.ต้น และต้องแยกโรงเรียนในชั้นม.ปลาย ทำให้
เพื่อนๆ ไม่สามารถมารวมกลุ่มกันได้เหมือนเคย และทำให้รู้สึกว่าเพื่อนๆ ห่างกันออกไป แต่ก็ยังมี
เหตุการณ์ที่ทำให้เจ้า 6 คนนี้กลับมารวมตัวกันได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในย่านกินกะนั่นเอง อ๊ะ ...เหมือน
เล่าเรื่องย่อ... แต่ชอบจ้า... มิเกะ... ซนยังกะลิง ฮา...

~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

จากคุณ : ไอ้มู๋ไร้อมฯ

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:24:21 A:124.122.173.33 X:

ความคิดเห็นที่ 32

เฮ้อ...กว่าจะมารีวิวได้แต่ละเล่ม

ตอนนี้ขอเก็บคะแนนจิ๊บๆก่อนก็แล้วกันนะคะ อาจจะเขียนน้อยหน่อยด้วย

5-5.[PTNCenter] หนังสือที่มีเรื่องราวของคนไทยในต่างแดนจะเป็นประเภทใดก็ได้ไม่จำกัด

จริงๆเรื่องนี้ตัวเอกไม่ได้เป็นคนไทยแต่ก็มีพระรองเป็นคนไทยไม่ว่ากันนะ

ตามรักล่าหัวใจ
ผู้แต่ง : เด็กทะเล
สนพ: แจ่มใส

คำโปรยหลังปกจ้ะ

อะไรกันนักหนา! จู่ๆ ก็เกิดกระแสให้บรรดาชี้คหนุ่มเมืองทะเลทรายแห่จับหญิงไทยไปกักขัง หน่วงเหนี่ยว ทรมาน หรือมันกำลังเป็นเทรนด์ฮิต? แต่ทำไมหนุ่มๆ ชาวอาหรับพวกนั้นถึงต้องพากันไปหลงรักหญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเชลยด้วยเล่า ไม่เข้าใจจริงๆ

ด้วยความแค้นที่หญิงไทยเป็นต้นเหตุให้เจ้าหญิงเฟธียาห์คนสวยถูกปฏิเสธการแต่งงานมาถึงหกครั้ง! เธอเลยสั่งองครักษ์คนสนิทให้ไปจับหนุ่มไทยใครก็ได้มาสักคนเป็นเชลยให้เธอทรมานเล่น อยากรู้นักว่าคนเชื้อชาตินี้มีอะไรดี ถึงทำให้ชายชาวอาหรับพากันเทใจให้

ทว่าไม่ว่าจะล่ามโซ่ โบยด้วยแส้ ให้อดอาหาร และอีกสารพัดวิธีที่คิดว่ามันช่างโหดเหี้ยมสุดๆ เธอก็ลองทำมาหมดแล้ว แต่ทำไมหนุ่มไทยหน้าคมถึงไม่เกรงกลัวเธอสักนิด นี่มันไม่เหมือนกับที่เคยได้ยินมานี่นา

คนเป็นเชลยมันต้องมีท่าทางหวาดกลัวตัวซีดตัวสั่นสิถึงจะถูก ไม่ใช่มาเล่นหูเล่นตา และทำเหมือนว่าจะโปรยเสน่ห์ใส่เธออย่างนี้ บ้าจริง!

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

งงค่ะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องล้อหนังสือบนชั้นหนังสือทั้งหลายที่เต็มไปด้วยชีคนั่นชีคนี่ จุดประสงค์ของการแต่งเข้าใจได้ง่ายบวกกับชื่อของคนเขียนทำให้อยากอ่านขึ้นมาตอนแรก แต่ความรู้สึกแรกเมื่ออ่านจบก็เป็นตามข้างบนเลยค่ะว่างง

คือจุดประสงค์ตอนแรกกับตอนจบทำไมมันไปคนละเรื่องเลยไม่รู้ ออกอ่าวออกทะเลไปแต่คนเขียนก็ใช้ความสามารถพยายามตบๆให้มันจบลงให้ได้ (แบบไม่เนียนด้วย)

พล็อตแรกเริ่มโอเคแต่สุดท้ายออกอ่าวไปอย่างน่าเสียดาย เนื้อเรื่องเอาแต่ใจคนเขียนไปหน่อย ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตัวละครต้องการแต่คนเขียนจะทำ ใครจะทำไมอะไรทำนองนั้นอ่ะ อ่านไปก็ได้แต่งงแล้วก็เกาหัวว่าตัวละครไม่ได้ต้องการสักหน่อยไปบังคับมันทำไม บางเรื่องไม่มีการปูไว้ตั้งแต่แรก แล้วก็เอาไปใส่ในตอนท้ายแบบงงๆ คนอ่านเลยยิ่งอ่านยิ่งงง

คือถ้าอ่านเอามันก็จัดเป็นเรื่องที่สนุกดีนะคะ ไม่คิดไรมากก็โอเค แต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานที่คนเขียนเคยทำไว้ บอกตรงๆว่าส่ายหน้าค่ะ แต่ว่าไม่ได้ เป็นเพราะคนอ่านตั้งความหวังไว้เองด้วยแหละ ความรู้สึกเลยกลายเป็นแบบนี้

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:32:12

ความคิดเห็นที่ 33

เล่มถัดไป

5-11.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ชื่อเรื่องมีคำว่าหนาว หน้าหนาว ฤดูหนาว เหมันต์ หิมะ

ฟ้าฝันตะวันหนาว
ผู้แต่ง : ปริญญ์
สนพ: แจ่มใส

แม้จะล่วงเลยมาถึงสองปี เจ็ดเดือน กับสิบหกวัน... แต่หัวใจรักมั่นของ ‘รัมภ์รพี’ ที่มีต่อพี่ชายเพื่อนซี้ที่ชื่อ ‘นภัสภ์’ ไม่เคยแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

ทว่าแม้จะส่งผ่านความรักอย่างเปิดเผยผ่านทั้งสายตา การกระทำ และคำพูดไปมากเพียงไร สิ่งที่ได้รับตอบกลับมาก็คือเธอยังครองคำว่า ‘น้องน้อย’ สำหรับเขาไม่เปลี่ยนแปลง

แต่เพราะถือคติตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก บวกกับได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนซี้ รัมภ์รพีเลยสบโอกาสได้ติดสอยห้อยตามเขาไปไกลถึงแคชเมียร์ ดินแดนที่ถูกขนานนามว่าสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย

“ไชโย! โอกาสงามๆ มาเยือนแบบนี้ รัมภ์รพีจะงัดทุกกลเม็ดที่มีมาพิชิตใจพี่ฟ้าให้ได้...”

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

ถามว่าเรื่องนี้เป็นยังไง ก็อ่านเพลิน สนุกดีนะคะ ถ้าไม่คิดไรก็อ่านได้เรื่อยๆค่ะ อาจจะทำให้คนอ่านบางคนยิ้มได้ตลอดเรื่องเพราะความน่ารักนางเอกและพระเอก

แต่อย่างที่บอกถ้าไม่คิดอะไรก็สนุก แต่เผอิญคิดนี่สิ เอาเป็นว่าพูดแค่เรื่องเดียวก็แล้วกันค่ะ

ทำไมต้องแคชเมียร์?

คือไม่ได้หมายความว่าเป็นเมืองอื่นได้ไหมหรืออะไรหรอกค่ะ แต่เซทติ้งสำคัญของเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปที่แคชเมียร์เลยสักนิด ถ้าหากว่าเป็นการเดินทางที่ทำให้พบรักแล้วเป็นสถานที่หลักของเรื่องจะไม่ว่า แต่นี่คือเหมือนอยากให้ไปที่นั่นแล้วพระเอกก็รู้ใจตัวเองที่นั่น

แต่ตอนอ่านมันไม่เซนส์เรื่องนี้เลย ถ้าให้พระเอกนางเอกไปหลงป่าแล้วต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนเห็นใจกันยังดูเข้าทีกว่า เพราะตอนที่ไปเที่ยวก็ไปเป็นกลุ่ม ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ความรู้สึกของพระเอกรุนแรงหรือซาบซึ้งตรึงใจขึ้นเลย หรือไม่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเที่ยวยังอ่อนเกินทำให้คนอ่านไม่รู้สึกสักนิด

ถ้าจะใช้แคชเมียร์เป็นเซ็ทติ้งสำคัญก็ถือว่าเรื่องเข้มข้นไม่พอ ตัดทิ้งยังได้เลยค่ะ

แต่ไม่ใช่ไม่สนุกนะ อย่างที่บอกว่าอ่านได้เรื่อยๆเพลินๆค่ะ แต่หนิงๆโรคจิตเองอ่ะ เลยเหมือนมีแต่คำติเป็นหลัก

จากคุณ : peiNing

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:57:08

ความคิดเห็นที่ 34

ไหนๆก็ไหนๆ ขออีกเรื่องจากสำนักพิมพ์เดียวกันก็แล้วกันค่ะ

5-6.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือที่ตัวเอกมีอาชีพฉีกแนวจากพิมพ์นิยมแทน เช่น หมอผี หมอดู คนขับเเท็กซี่

พระเอกเป็นเจ้าของอู่ซ่อมกับนางเอกขายกาแฟนี่ คิดว่าไม่น่าจะพิมพ์นิยมนะ

ลางสัมผัส... รหัสหัวใจ
ผู้แต่ง : ป้าหนอน
สนพ: แจ่มใส

ร้านกาแฟของโนรีกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่แย่ตรงที่ช่วงนี้มีคดีฉกชิงวิ่งราวเกิดขึ้นในหมู่บ้านที่เคยสงบสุขแห่งนี้บ่อยเหลือเกิน ซ้ำร้ายครั้งล่าสุดนี่ยังมาเกิดขึ้นที่หน้าร้านของเธออีกด้วย

เพื่อนสนิทของโนรีบังเอิญถ่ายภาพคนร้ายไว้ได้ สองสาวจึงเล่นบทนักสืบกันเอง นายม่อน เจ้าของกิจการอู่ซ่อมรถที่เพิ่งมาเปิดใหม่ดูน่าสงสัยที่สุด เพราะโนรีเคยได้ ‘กลิ่นไม่ดี’ มาจากตัวเขา เธอจึงปักใจเชื่อว่าหมอนี่นี่แหละต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

อ้อ ลืมบอกไปว่าโนรีของเราไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาๆ แต่เธอมีสัมผัสพิเศษที่แสนประหลาดนั่นคือการดม เธอรู้ว่าใครเป็นคนดีหรือร้ายได้จากกลิ่นต่างๆ ที่เธอได้จากตัวคนคนนั้น และนายม่อนก็มีกลิ่นที่ทำให้เธอถึงกับผงะ!

แต่นานวันเข้า ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้โนรีคิดว่าบางทีสัมผัสที่หกของเธอคงจะใช้ไม่ได้ผลเสียแล้ว ถ้าอย่างนั้น... บางทีก็คงต้องลองใช้หัวใจสัมผัสดูบ้างแล้วล่ะ

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

ก็น่าจะจัดว่าเป็นเรื่องแนวทดลองละมั้ง (ที่จริงมันก็มีแบบนี้มานานแล้วแต่ไม่ชินเวลาที่เอามาใส่ในนิยายน่ะ) นั่นก็คือแบบให้คนอ่านได้มีส่วนร่วมด้วย ให้เลือกเป็นแบบข้อ ก หรือข้อ ข อะไรทำนองนั้น

อาจเป็นพวกพิมพ์นิยมแบบหัวเก่าเลยรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบลักษณะนี้ค่ะ

ตัวเรื่องก็อ่านได้ สะดุดก็ตรงให้เลือกนี่แหละ ก็เลยกระตุกเป็นเฮือกๆไป สุดท้ายปล่อยให้กระตุกไปเรื่อยๆแบบหงุดหงิดเล็กน้อยจนกระทั่งจบ เรื่องเป็นไงไม่รู้รู้แต่ไม่ชอบอ่ะ

(คนอ่านเอาแต่ใจ นิสัยไม่ดี)

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 22:07:08

ความคิดเห็นที่ 35

ทักทายก่อนปิดรอบนะครับทุกคนวันนี้แวะเอาการบ้านมาส่งด้วยครับ
(4 เล่มฆาตกรรมล้วนๆ เพื่อนบอกว่าศึกษาหนทางสร้างคดีหรือไง ??)

15-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือเกี่ยวกับวันคริสต์มาส
หรือมีบรรยากาศวันคริสต์มาสเป็นบรรยากาศหลัก

A HOLIDAY FOR MURDER : คริสต์มาสฆาตกรรม
อกาธา คริสตี้ : เขียน
ปรีชา ส่งสัมพันธ์ : แปล
สำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์
พิมพ์ครั้งแรก (สร้างสรรค์บุ๊คส์) พฤศจิกายน 2548
338 หน้า 170 บาท

ในคืนฉลองวันคริสต์มาสที่น่าจะสนุกสนาน รื่นเริง
แต่แล้วก็เกิดเรื่องร้ายขึ้น เจ้าของบ้านถูกฆ่าตายภายในห้องของตนเอง
สภาพภายในห้องปิดตายไร้ซึ่งทางออก สภาพศพที่ถูกเชือดคอนอนจมกองเลือด
ท่ามกลางข้าวของเครื่องใช้ที่กระจัดกระจาย ใครคือฆาตกร แล้วมีวิธีการอย่างไร

เรื่องราวของไซมอน ลี เจ้าของคฤหาสน์ที่ต้องการพบลูกหลานอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในวันคริสต์มาส
จึงเขียนจดหมายให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขามาฉลองกันที่กอร์สตัน ฮอล,ลองเดลแอดเดิลฟิล

นอกจากอัลเฟรด ลีและลิเดีย ภรรยาที่อาศัยอยู่ที่กอร์สตัน ฮอลแล้ว ลูกหลานจากทั่วสารทิศได้เดินทางเข้ามาสมทบ
เดวิด ลีและฮิลดา ภรรยา
ยอร์ช ลีและแมกดาลีน ภรรยา
แฮรี่ ลี ลูกชายและพิลา หลานสาวลูกของเจนนิเฟอร์ลูกสาวที่หนีไปแต่งงานกับชาวสเปน
นอกจากนั้นยังมีสตีเฟน ฟาร์ ลูกชายของเพื่อนเก่าร่วมวงเข้ามาด้วย

แต่ในคืนคริสต์มาสอีฟ ไซมอนได้ถูกฆาตกรรม
จึงร้อนถึงนักสืบยอดฝีมือเฮอร์คูล ปัวโรต์ที่ต้องแสดงฝีมืออีกครั้ง
คราวนี้ได้สารวัตรซักเดนและพันตำรวจเอกจอห์นสันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุร่วมสืบคดีด้วย

เล่มนี้หักมุมดี อ่านแล้วเหมือนโดนคนเขียนหักหลัง ( พอแล่ะเดี๋ยวคนที่คิดจะอ่านเล่มนี้อาจจะหมดสนุก )
สำนวนการแปลยังแปลกๆอยู่บ้าง พิมพ์สลับอยู่ พิมพ์ผิด พิมพ์ตก พิมพ์เกิน ปัญหาเดิมๆยังคงเจอ
แต่ไม่มีความรู้สึกสงสารคนตายเลย แต่สงสารเดวิดมากกว่า
อีกตัวที่ชอบคือฮิลดา ภรรยาของเดวิดเธอเกิดมาเพื่อเป็นผู้ปกป้องตัวจริง ปกป้องดูแลคนที่เธอรักด้วยความรัก
เล่มนี้อ่านได้ในระดับปานกลาง ไม่ถึงกับชอบแต่ก็ไม่อยู่ในระดับที่น่าเบื่อครับ

ปล ชื่อภาษาอังกฤษมีอยู่ 3 ชื่อเผื่อใครอยากหาเวอร์ชั่นปะกิตมาอ่าน

A HOLIDAY FOR MURDER
HERCULE POIROT'S CHRISTMAS
MURDER FOR CHRISTMAS
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 23:36:43

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 23:08:41

ความคิดเห็นที่ 36

30-2.[สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 3 เล่ม โดยให้คนอ่านผูกธีมเอาเอง
เช่น สามเล่มที่เป็นเรื่องของอาหารเหมือนกัน สามเรื่องที่มีเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
สามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเหมือนกัน ฯลฯ

โจทย์ข้อนี้เสนอธีม ฆาตกรรม นะครับ (โหดไปม่ะ)

เล่มแรก ฆาตกรรมในอาหรับ : อกาธา คริสตี้
เล่มสอง ฆาตกรรมอินเทอร์เน็ต : จี้ฉิง
เล่มสาม ฆาตกรรมฆ่าเวลา : อาคากะวา จิโร

MURDER IN MESOPOTAMIA : ฆาตกรรมในอาหรับ
อกาธา คริสตี้ : เขียน
ดวงตา : แปล
สำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์
พิมพ์ครั้งที่ 1 (สร้างสรรค์บุ๊คส์) ธันวาคม 2548
307 หน้า 150 บาท

เอมี่ ลีเธอรัน พยาบาลสาวที่ถูกขอร้องจากนายแพทย์ไรล์ลี่
ให้รับงานดูแลภรรยาของด็อกเตอร์ไลด์เนอร์ ที่ติดตามสามีมากับคณะขุดค้นโบราณคดี
เนื่องด้วยอยู่ดีๆ หลุยส์ ไลด์เนอร์ ภรรยาของเขาเกิดความกลัวขึ้นมาว่าจะมีคนปองร้าย
ทำให้เธอเกิดความหวาดระแวงแต่เขาคิดว่าเธอป่วยเพราะโรคประสาทมากกว่า
จึงต้องการพยาบาลเพื่อคอยดูแลภรรยาของเขาอย่างใกล้ชิด

เมื่อลีเธอรันก้าวเข้าสู่บ้านพักของคณะขุดค้นโบราณคดี
เธอได้สัมผัสถึงความรู้สึกแปลกและแตกแยกของผู้ร่วมอาศัย
ทั้งความอิจฉาริษยาและความแปลกที่เธอก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าเพราะอะไร
จนกระทั่งเกิดเหตุฆาตกรรม หลุยส์ ไลด์เนอร์ถูกพบเป็นศพอยู่ในห้องพัก
หลังจากเธอเปิดเผยความลับเรื่องจดหมายขู่ฆ่ากับนางพยาบาลของเธอ
จึงทำให้ลีเธอรันรู้ถึงเหตุผลที่มิสซิสไลด์เนอร์หวาดระแวงได้ทันที
และเป็นเหตุบังเอิญอีกเช่นกันที่ระหว่างนั้นเฮอร์คูล ปัวโรต์ เดินทางมาแถบนั้นพอดี
นายแพทย์ไรล์ลี่จึงไปขอร้องให้นักสืบผู้เลื่องชื่อช่วยไขคดีนี้

ระหว่างการสอบสวนเก็บข้อมูลของปัวโรต์นั้น
เขาระบุว่าการหาตัวฆาตกรน่าจะเริ่มต้นจากคนในมากกว่าคนนอก
จึงทำให้ทุกคนในคณะขุดค้นโบราณคดีไม่พอใจเพราะคิดว่ายังไงก็คงต้องเป็นฝีมือของคนภายนอกมากกว่า
ท่ามกลางการเก็บเล็กสังเกตน้อยของปัวโรต์ที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
มิสจอห์นสัน หนึ่งในคณะได้รู้ตัวฆาตกรขึ้นมา แต่เนื่องด้วยเหตุผลบางประการ
ที่ทำให้เธอยังไม่กล้าบอกความจริงแก่ใครและคืนนั้นเองที่เธอได้กลายเป็นศพรายต่อไป
การทิ้งปริศนาก่อนตายของเธอครั้งนี้ทำให้ปัวโรต์รู้ตัวฆาตกรตัวจริง
ใครล่ะคือฆาตกรและเหตุจูงใจคืออะไร ถ้าอยากทราบแนะนำให้อ่านครับ

เป็นผลงานของราชินีนวนิยายสืบสวนสอบสวนชื่อก้องโลกเล่มที่ 5 ที่หยิบมาอ่าน
จาก 4 เล่มที่ผ่านมายังดึงใจผมไม่อยู่ แต่เล่มนี้ตรึงผมได้ซะอยู่หมัด
สนุก ลุ้นระทึกไปพร้อมกับเนื้อเรื่อง อ่านรวดเดียวจบโดยไม่มีคำว่าน่าเบื่อ
สำนวนการแปลดีกว่า 4 เล่มก่อนมาก อาจจะเป็นเพราะคนแปลหรือเปล่ายังไม่แน่ใจ
(เล่มแรกที่อ่านฆาตกรรมยุคฟาโรห์แปลโดย ดวงตา-เปี่ยมสุข
เล่มที่สองฆาตกรรมอำพรางแปลโดย เปี่ยมสุข
เล่มที่สามแบกแดดแดนมหันตภัยแปลโดย ดวงตา-เปี่ยมสุข
ส่วนเล่มนี้ฆาตกรรมในอาหรับแปลโดย ดวงตา)
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือเล่มนี้มีจุดที่พิมพ์ผิดอยู่เพียงแค่ 2 จุด (4 เล่มก่อนหน้ามีจุดผิดเยอะมากอ่านแล้วสะดุดสุดๆ)
หน้า 61 ชื่อด็อกเตอร์ไลด์เนอร ตกการันต์
หน้า 85 บรรทัดสุดท้ายใบหน้าคนตายจ ตัว จ เพิ่มมา

ผมอ่านแล้วเดาตัวฆาตกรได้เพียงแต่ขาดแรงจูงใจที่หาสาเหตุไม่เจอจนถึงตอนเฉลย
(ก็น่าอยู่หรอกเพราะปมเฉลยแรงจูงใจมาโผล่จากปากฆาตกรตอนสุดท้ายนี่น่า)
แต่โดยรวมสรุปแล้วเล่มนี้ สนุก ลุ้นระทึก ตัวละครมีปม อ่านได้ครับ

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 23:18:15

ความคิดเห็นที่ 37

NETWORK EVIL NEIGHBORHOOD : ฆาตกรรมอินเทอร์เน็ต
จี้ฉิง : เขียน
อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี : แปล
สำนักพิมพ์แพรว
พิมพ์ครั้งที่ 2 สิงหาคม 2549
321 หน้า 215 บาท

หญิงสาวถูกเผาทั้งเป็นสามรายซ้อน ผู้ตายทุกคนล้วนมีพฤติกรรมติดอินเทอร์เน็ต
ชอบเล่นเกมออนไลน์และติดการแชตเหมือนกัน

จาง จวินเจี้ยน นักสืบเอกชนผู้มีสัมผัสที่หก ได้รับมอบหมายให้สืบคดีลึกลับนี้
ดูเหมือนไฟประหลาดจะลุกไหม้เฉพาะตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
โดยไม่ลุกลามไปติดสิ่งอื่นเลย ที่แปลกประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ
ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ตายทุกรายมีไฟล์วิดีโอของหญิงสาวผูกคอตาย
และในที่เกิดเหตุของทั้งสามคดีก็มีเชือกสีขาวเส้นหนึ่งแขวนอยู่กลางห้อง

แรกเริ่มเดิมที จวินเจี้ยนนักสืบบริษัทเอกชนได้ถูกว่าจ้างให้ตามหาตัวเด็กสาวที่หนีออกจากบ้าน
ครึ่งเดือนต่อมาเขาได้ถูกว่าจ้างจากชายผู้พิการให้ตามล่าหาตัวฆาตกร
ในเกมออนไลน์สุดฮิต เมืองมนุษย์หมาป่าออนไลน์ ที่ลูกสาว กู หมิงฮุ่ย
อ้างว่าต้องหาตัวละครที่ฆาตกรคนนี้ควบคุมให้ได้ภายใน 1 วัน
ไม่อย่างนั้นเธอจะกลายเป็นศพ แต่หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
จวินเจี้ยนได้เข้าไปพบหมิงฮุ่ยในห้องพบว่าเป็นเพียงห้องมืดที่ทุกอย่างล้วนทาสีดำเท่านั้น
และได้ค้นหาหลักฐานจากคอมพิวเตอร์ในห้องพบว่าหมิงฮุ่ยได้หายตัวไปสักระยะ
จึงคิดว่าเธอน่าจะตายแล้วจึงลงความเห็นว่ากู ฉงซี
ชายพิการเป็นบ้าไปเนื่องจากเสียใจจากการตายของภรรยาและลูกสาว
และระหว่างนั้นได้พบกับกู หมิงเซี่ยว ลูกชายอีกคนหลังจากนั้น
จากการพูดคุยกันทำให้รู้ว่าหมิงฮุ่ยพี่สาวได้เสียชีวิตไปแล้วจริงๆ
โดยการเสียชีวิตของพี่สาวคือไฟได้ลุกไหม้ทั่วตัวด้วยตัวเอง
และหมิงเซี่ยวยังติดใจถึงสาเหตุการตายที่มีเงื่อนงำพร้อมทั้งยังบอกเขาอีกว่า
สงสัยว่ากู ฉงซี พ่อของตัวเองไม่ได้บ้าจริง แต่เพียงแค่แกล้งบ้าเท่านั้น

ด้วยความติดใจถึงความแปลกประหลาดในรูปคดีและหลักฐานที่พบในคอมพิวเตอร์ของหมิงฮุ่ย
ทำให้จวินเจี้ยนตกปากรับคำหมิงเซี่ยวในการตามล่าหาความจริง
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลต้องสืบหาที่มาที่ไปและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตและเกมเมืองมนุษย์หมาป่าออนไลน์

สืบไปสืบมาทำให้พบคดีก่อนหน้าหมิงฮุ่ยอีกสองคดีซึ่งทุกอย่างเหมือนกัน
แน่นอนว่าต้องเป็นฝีมือของฆาตกรโรคจิตที่ทำการฆาตกรรมต่อเนื่อง
เขาจึงสืบเรื่องราวจากคดีทั้ง 3 ไม่ว่าจะเป็นคดีของหมิงฮุ่ย สวี่ ชิงอี๋หรือเกา เจียเวย
และเป็นการดึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลผู้เป็นเหยื่อเข้ามาร่วมไขคดี
แต่สุดท้ายแล้วฆาตกรจะเป็นใครอะไรคือแรงจูงใจคงต้องติดตามกันต่อด้วยตาคุณเอง

เรื่องราวจากแฟนพันธ์แท้นิยายฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนตัวจริง
ที่เจ้าตัวตั้งใจและเก็บข้อมูลมานาน เนื้อเรื่องตื่นเต้น ระทึก
ทิ้งปมที่น่าสนใจชวนให้ติดตามและโรคจิตเอาการเลยทีเดียว
ใช้จุดเด่นของการสร้างตัวตนบนอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นข้อมูลในการสืบหาตัวฆาตกร
เริ่มสืบจากข้อมูลของเหยื่อแล้วสาวไปถึงบุคคลไร้ตัวตนที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลจากหลายแหล่งเริ่มปะติดปะต่อจนกลายเป็นจิกซอว์ตัวสำคัญในการตามล่าหาคนร้าย
อ่านจบก็มีข้อสงสัยว่าจวินเจี้ยวมีสัมผัสที่หกยังไง ไม่เห็นเลย
อีกอย่างทั้งเรื่องเหมือนจะเป็นแค่ตัวประกอบไม่ได้มีจุดเด่นหรือความเป็นเลิศในการสืบสวนเลย
เพิ่งจะมาแสดงความเก๋า เผยความฉลาดก็ในบทสุดท้ายเท่านั้นเอง
แต่โดยรวมก็โอเค ลุ้นระทึกดี หนอนหนังสือแนวนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 23:24:50

ความคิดเห็นที่ 38

ฆาตกรรมฆ่าเวลา
อาคากะวา จิโร : เขียน
วิยะดา คะวะงุจิ : แปล
สำนักพิมพ์ JBooK
พิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2550
252 หน้า 200 บาท

ครอบครัวฮายาคาวะมีสมาชิกทั้งหมด 5 คน
คะโยโกะ ผู้เป็นแม่หลังจากสามีตาย ก็ทำงานหาเลี้ยงลูกทั้ง 4 มาโดยลำพัง
แต่เบื้องหลังแม่ผู้ใจดีและเจ้าของร้านขายโบราณวัตถุแท้จริงแล้วเธอคือนักจารกรรมชั้นยอด

คะสึมึ ลูกชายคนโต ผู้มีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอเมื่ออยู่กับครอบครัว
อาชีพนักข่าวอิสระคืออาชีพที่แม่และน้องๆรู้ แต่แท้ที่จริงแล้วเขาคือนักฆ่ามืออาชีพ

เคสึเกะ ลูกชายคนรองที่กุมความลับของคนทั้งบ้านไว้ เมื่อเขาล่วงรู้อาชีพที่แท้จริงของแม่
พี่ชายและน้องสาวทำให้ต้องเบนเข็มจากอาชีพหมอที่เขาใฝ่ฝันมาเรียนรู้ด้านกฏหมาย
เพียงเพื่อเตรียมการไว้ในอนาคตหากต้องว่าความให้แม่ พี่ชายและน้องสาว

มิกะ ลูกสาวเพียงคนเดียว เธอเป็นสาวสวยรวยสเน่ห์วัย 24 ปี
หลังจากเรียนจบเธอก็ตั้งบริษัทรับออกแบบเป็นของตัวเอง แต่เบื้องหลังความสวย
เธอแฝงไว้ด้วยอันตรายและเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราวเพราะเธอคือนักต้มตุ๋นสิบแปดมงกุฏ

มาซามิ ลูกชายคนเล็กที่หัวรั้น มีความตั้งใจสูงแต่ไม่ค่อยมีไหวพริบ (ว่ากันตรงๆก็คือโง่นั่นแหล่ะครับ)
อาชีพของเขาคือตำรวจสืบสวน

ทั้ง 5 คนอาศัยอยู่ด้วยกันโดยที่ต่างไม่รู้ความลับของกันและกันเลยนอกจากเคสึเกะลูกชายคนรอง
แต่เรื่องราวดันมาเกิดขึ้นเพราะงานแสดงเพชรของมหาเศรษฐีผู้มีเบื้องหลังปริศนา

งานแสดงเพชรมูลค่ามหาศาลที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ถูกจัดขึ้นในโรงแรมริมทะเลสาป
เพชรคือตัวดึงดูดให้คนในครอบครัวฮายาคาวะไปที่นั่น
เริ่มจากมาซามิได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปคุ้มกันเพชรของทาจิบานะ
ซึ่งเขาได้ออกปากชวนแม่ไปพักผ่อน ซึ่งก็เข้าล็อกของคะโยโกะนักจารกรรมพอดี
ส่วนคะสึมึพี่ชายคนโตได้รับการว่าจ้างให้ไปสังหารทาจิบานะเจ้าของเพชรที่ว่านี้
และนักต้มตุ๋นอย่างมิกะก็คงไม่พลาดด้วยเช่นกัน ทำให้สิ่งที่คะสึเกะกังวลเป็นจริงดังว่า
ถ้าหากแม่โจรกรรมเพชรได้จริงหน้าที่การงานของน้องชายคนเล็กคงต้องพบกับอุปสรรค
จึงได้ลางาน แล้วปลอมตัวเข้าไปดูเหตุการณ์ในโรงแรม S

แต่แล้วก่อนที่จะถึงงานแสดงเพชรดังกล่าวก็ปรากฏว่ามีผู้เคราะห์ร้ายโดนสังหาร
เริ่มจากชิมาโนะ นักข่าวหนังสือพิมพ์ A ที่ถูกฆ่าตายภายในบังกะโลห้องพักของมิกะ
แล้วผู้พบศพคนแรกนั่นก็คือเคสึเกะที่เข้าไปหาเบาะแสในห้องน้องสาวนั่นเอง

ฆาตกรรมฆ่าเวลาเป็นตอนแรกในนิยายชุดนี้ของอาคากะวา จิโร
(เล่มสอง แผนซ่อนกล คนซ้อนแผน เล่มสาม รักซ้อนซ่อนเลือด---ติดตามรีวิวได้เร็วๆนี้----)
นักเขียนที่ผมติดตามผลงานอีกคนนึง พล็อตเรื่องน่าสนใจ ผูกปมได้โอเค
แถมยังแฝงไว้ด้วยซึ่งอารมณ์ขบขันตามสไตล์ของเขาล่ะครับ
หนอนหนังสือแนวนี้ครับไม่ควรพลาดครับ ^^
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 23:37:11

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 23:34:54

ความคิดเห็นที่ 39

แวะมาปักหมุดครับผม ยังคงไม่มีรีวิวมาส่งเหมือนเคยครับ - -

มายกมือร่วมล้มแชมป์นายพลุอีกคนครับ (อยากได้รางวัล) แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่านะ อิอิ

-พี่สาวไกด์ฯ น่าสนใจมากๆอ่ะครับกับเด็กหญิงสวนกาแฟ

-พี่อ้อน ตามมาเชียร์หนังสือเล่มนี้ต่อจากบล็อกพี่ครับกับปรารถนาแห่งแสงจันทร์ พี่อ้อนรีวิวซะน่าอานมากๆ

-นายพลุ กะว่าจะหยิบ คริสต์มาสฆาตกรรม มาตอบโจทย์ข้อนี้เหมือนกันอ่ะ ใจตรงกันเลย อิอิ

กับธีม "ฆาตกรรม" เนี่ย น่าสนทั้งสามเล่มเลยนะ อยากอ่านมากสุดก็คงเป็น ฆาตกรรมฆ่าเวลา พล็อตเรื่องน่าสนใจสุด

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 00:52:23

ความคิดเห็นที่ 40

สวัสดีค่ะ หายหน้าไปนานเลย...
สอบเสร็จแล้ว กลับมาประจำการอ่านได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ

มาปักหมุด กับตามเก็บรีวิวก่อนนะคะ
(ขวัญไม่ได้เข้ามาหลายวัน รีวิวเพื่อน ๆ แอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย อิอิ)

เดี๋ยวบ่าย ๆ ขวัญจะมาส่งการบ้านอีกทีค่ะ

จากคุณ : P@ween@

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 10:04:22

ความคิดเห็นที่ 41

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกท่าน...(อรุณสวัสดิ์ตอนสาย ๆ นี่แหละ )
หายตัวไปสองวัน...งานเข้าเล็กน้อย แต่ตอนนี้เคลียร์(เกือบจะ)เรียบร้อยแล้วค่ะ วันนี้จึงยังไม่มีรีวิวค่า...อ่านโจทย์ใหญ่ ๆ ครบสองโจทย์แล้วแต่ยังไม่มีเวลาพิมพ์รีวิว งือ...

กลับมากระทู้เหงา ๆ นะคะ เตรียมตัวเที่ยวส่งท้ายปีเก่ากันละซี
ใครได้เที่ยวก็เที่ยวเผื่อคนไม่ได้ไปไหนด้วยนะคะ

ปลายปีนี้ขออาสาเป็นคนเฝ้ากระทู้ค่ะ ใครจะอยู่เป็นเพื่อนเคานท์ดาวน์กับแม่ไก่มั่งเนี่ย...

อ่านเรื่องย่อที่คุณกุลธิดาเล่าคร่าว ๆ แล้วทำเอาอยากรู้ค่ะ ว่าเรื่องอะไร ใครแต่ง เพราะส่วนตัวไม่ค่อยรู้จักนักเขียนนามปากกาใหม่ ๆ สักเท่าไหร่เลย...

น้องพลุ... ไม่ได้ซี ต้องเร่งสปีดกันหน่อยไม่งั้นก็ตามน้องพลุไม่ทันแน่ ๆ 55
ว่าแต่ ไหงอ่านแนวโหดนักอ่ะ ?
แต่ละเล่มที่อ่านนี่ ดูท่าจะ"วางไม่ลง" ทั้งนั้นเนอะ

เจอน้องไอซ์ ขอถามนิดนึงค่ะ...โจทย์ผู้ดำเนินเรื่องหรือตัวเอกเป็นผู้ร้ายนี่...เค้าไม่ถึงขั้นทำการฆาตกรรม แต่แค่เป็นสาเหตุให้คู่กรณีของเขาต้องตายจากการแก้แค้นของเขา ใช้ได้ไหมคะ?

ทักทายและเป็นกำลังใจให้ทุกคนเช่นเคยค่า... ผีเสื้อ

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 10:05:29

ความคิดเห็นที่ 42

น้องปีศาจฯ

ถ้าชอบวรรณกรรมเยาวชน เชียร์จ้ะ เขียนดีเลย

เล่มที่พี่ซื้อล่าสุดนี่ พิมพ์ครั้งที่ 4 แล้วนะ แสดงว่าคนชอบเยอะเหมือนกัน

มาปักหมุดค่ะ วันหยุดที่ผ่านมา เดินทาง เลยไม่ได้อ่านหนังสือเพิ่มเลย แหะๆ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 10:19:53

ความคิดเห็นที่ 43

กลับมาแล้วค่า หลังจากยิงกระสุนไปจนหมดแม็ก หมูก็หายตัวไปกทม.(ไม่ได้หายตัวไปซุ่มอ่านนะคะ) เพิ่งจะกลับมา หมูอ่านจบไปอีกสองเล่ม แต่ว่าเนตที่บ้านเสีย แง๊ ถ้าวันนี้ยังซ่อมไม่ได้ พรุ่งนี้คงต้องหอบหนังสือมาที่ทำงานล่ะค่ะ

รอบนี้รีวิวกันเยอะเลย แต่ละคนก็ยิงกันเป็นชุด มีแต่แนวแจ่มใสกับแนวฆาตกรรม ชอบค่า ^o^

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 13:22:57

ความคิดเห็นที่ 44

มารับไม้รอบวันที่ 21-2ต่อจากพี่พัทค่า ^ ^

ช่วงก่อนวุ่นวาย ต้องจัดหนังสือขึ้นชั้น เลยหายไปพักนึง

อ๊าย นิยายสืบสวนฆาตกรรมเยอะมาก (แต่ทำไมมาตอนที่พี่พัทเป็นคนดูแลล่ะ ฮา)

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 13:31:10

ความคิดเห็นที่ 45

สวัสดีค่ะ ปกติไม่ค่อยได้เข้ามาห้องสมุด วันนี้เข้ามาแล้วรู้สึกสนุกมากค่ะ ขอเข้าร่วมสนุกด้วย ไม่แน่ใจว่าเข้าใจกติกาถูกต้องรึเปล่าค่ะ ขอแค่โจทย์ 5 คะแนนก่อนค่ะ

5-9.[PTNCenter]หนังสือที่มีเนื้อหาสื่อถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน (จะเป็นคนกับคน สัตว์กับสัตว์ หรือคนกับสัตว์ก็ได้)

เด็กชายชนะ : เด็กพิเศษที่ไม่อยากเป็นพิเศษ
ผู้แต่ง : อนันต์ ประภาโส
สำนักพิมพ์ : ษาริน

ชนะเด็กชายขาลีบพิการ เนื่องจากโรคร้ายสมัยก่อนนั่นคือโรค "โปลิโอ" แต่ความพิการขาลีบไม่ได้ทำให้หัวใจของเด็กน้อยยอมแพ้ต่อความพิการ ยังเป็นเด็กที่เอาตัวเข้าไปนำเสนอต่อเพื่อน เพื่อให้เพื่อนยอมรับเข้ากลุ่ม โดยไม่ติดในความเป็นเด็กพิการ
ชนะ สามารถเล่นสนุกกับเพื่อนๆ ได้ เหมือนที่เด็กปกติเล่นกัน
ชนะ สามารถเอาชนะเพื่อนที่ดูถูกความสามารถของเด็กพิเศษเช่นเขา โดยไม่เคยร้องขอความเห็นใจ แม้แต่จากคุณครูผู้สอน
ชนะ สามารถเอาชนะความเป็นเด็กพิเศษได้ด้วยการเสนอความพิเศษของตัวเองให้คนทั่วไปยอมรับ ด้วยความสามารถทางด้านศิลปะ และความรักเพื่อน

************
ชนะ สามารถเอาชนะหัวใจของแม่เรไรได้ เพราะลูกสาวสองคนที่แม่เรไรอ่านหนังสือเรื่องนี้ให้ฟัง ทดลองมาเดินด้วยวิธีกระเถิบเหมือนเด็กชายชนะ เพื่อจะดูว่ามันลำบากแค่ไหน หากคนเราไม่สามารถเดินด้วยเท้าได้

จากคุณ : แม่เรไร

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 14:37:51

ความคิดเห็นที่ 46

คุณ หนิงๆ (peiNing)
ธีมของแจ่มใสที่ให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมนี่ ขวัญก็ไม่ค่อยปลื้มเหมือนกันค่ะ มันขัด ๆ กับความรู้สึกทำให้ต้องอ่าน 2 รอบ เพราะอยากรู้ว่าแต่ละตอนมันแตกต่างกันยังไงนั่นเองค่ะ

คุณ แม่เรไร
นอกจากมารีวิวหนังสือแล้ว มีคุ๊กกี้มาแถมให้ด้วยมั้ยค่ะ smile

********************************************************************

15-9. [นัทธ์] วันพ่อแห่งชาติ คราวนี้เอาหนังสือที่คนเขียน คนแปล ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเดียวกับชื่อจริง หรือชื่อเล่นของ "พ่อ" กันบ้าง

ตอบโจทย์ ชื่อคุณพ่อขึ้นต้นด้วย “ป.ปลา”
เลือกอ่าน - ศึกรบสยบหัวใจ ของไปรยา ค่ะ

ชื่อหนังสือ : ศึกรบสยบหัวใจ
ผู้แต่ง : ไปรยา
สำนักพิมพ์ : พิมพ์คำ สำนักพิมพ์
จำนวนหน้า : 245 หน้า
ราคา : 160 บาท

********************************************************************************

ปกหลัง

ด้วยเพลิงแค้นที่สุมอก... สองพี่น้องฝาแฝดสายเลือดขัตติยะ เจ้าชายอาเธอร์ และ เจ้าหญิงเจนน่า จากดินแดนซาอิส จึงปลอมแปลงร่างแทรกซึมเข้าสู่ดินแดนธีบิส

เพื่อหมายจะช่วยเหลือพระบิดาผู้เป็นฟาโรห์แห่งธีบิส ที่ถูกครอบงำโดยจอมเวทผู้เรืองอำนาจในอาณาจักร ซึ่งหมายจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างบนผืนดินทะเลทรายและใต้ฟ้าแห่งธีบิส และเพื่อคืนสถานะอันสูงเกียรติให้แก่พระมารดาอันเป็นที่รัก

ในห้วงกาลแห่งการช่วงชิงอำนาจด้วยศัสตราวุธและเวทมนตร์ เจ้าหญิงเจนน่า ได้รับการคุ้มครองและฝึกปรือศาสตร์ยุทธ์จาก เมธิส องครักษ์หนุ่มผู้จงรักภักดีต่อฟาโรห์ยิ่งชีวิต

ท่ามกลางสภาวการณ์อันวิกฤตและผกผันต่างๆ นานา ในหัวใจของเจ้าหญิงและองครักษ์หนุ่มเหมือนกำลังอบร่ำไปด้วยกลิ่นหอมแปลกของดอกไม้ปริศนา...

นี้ใช่ รัก หรือไม่ ... ที่กำลังผลิเริ่มท่ามกลางศึกสงคราม และเปลวร้อนแห่งท้องทะเลทราย

********************************************************************************

“ศึกรบสยบหัวใจ” เป็นนิยายเกี่ยวกับอาณาจักรฟาโรห์ ดินแดนทะเลยทราย ที่มีการต่อสู้ช่วงชิงราชบัลลังก์กัน โดยในเรื่องจะไม่มีเหตุการณ์นองเลือดมากนะคะ จะเน้นการต่อสู่ไปที่เวทมนต์ การใช้อำนาจมนต์ดำมากกว่า คิดว่าแปลกดีค่ะ แล้วก็เนื่องจากว่าเจ้าหญิงเจนน่า นางเอก ต้องปลอมตัวเป็นชายเข้ามาช่วยกอบกู้บัลลังก์ เลยทำให้องครักษ์เมธิส พระเอก เกิดสับสนทางเพศของตัวเองเล็กน้อย

สำหรับขวัญเรื่องนี้เฉย ๆ อ่านได้เรื่อย ๆ ค่ะ ไม่มีอะไรมาก ตัวละครมันมีความเป็นไปตามแบบที่เราคาดเดาได้ล่วงหน้าทุกตอนอ่ะค่ะ เพียงแต่อยากรู้ว่าผู้เขียนจะให้แต่ละคนมีจุดจบอย่างไรเท่านั้นเอง
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 52 15:05:16

จากคุณ : P@ween@

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 15:01:31

ความคิดเห็นที่ 47

5-6. [แก้วกังไส] อ่านหนังสือที่ตัวเอกมีอาชีพฉีกแนวจากพิมพ์นิยมแทน เช่น หมอผี หมอดู คนขับเเท็กซี่

ตอบโจทย์
เลือกอ่านเรื่อง หมอกพรางรัก ของ คีตาญชลี ค่ะ
พระเอก มีอาชีพเป็นช่างภาพ
นางเอก มีอาชีพเป็นสถาปนิก

ชื่อหนังสือ : หมอกพรางรัก
ผู้แต่ง : คีตาญชลี
สำนักพิมพ์ : พิมพ์คำ สำนักพิมพ์
จำนวนหน้า : 384 หน้า
ราคา : 240 บาท

********************************************************************************

ปกหลัง

...มีสาเหตุมากมายที่ทำให้คนสองคนรู้จักกัน แต่พัฒนาการของ "ความรู้จัก" จะหยุดอยู่แค่นั้นหรือก้าวไปสู่ความสัมพันธ์ที่จีรัง เป็นเรื่องที่คนสองคนเป็นผู้กำหนด

...แต่ผู้หญิงอย่าง "อาคิรา" ไม่ง่ายที่ "ความรู้จัก" จะพัฒนาไปทิศทางที่ดีกับอีกฝ่ายเสมอไป...ทำให้ผู้ชายอย่าง "สขิล" เรียนรู้นิสัยใจคอหญิงสาวที่สะดุดใจเขาอย่างยากลำบากที่จะหยั่งถึงจิตใจเธอ...ประการหนึ่ง เพระตัวเขาเองเป็นกำแพงบดบังและอีกประการหนึ่ง เพราะเกราะป้องกันในตัวอาคิรานั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจะทะลุทะลวงผ่านไปได้โดยง่าย...

*********************************************************************************

ขวัญเพิ่งมีโอกาสอ่านผลงานของคุณคีตาญชลี เรื่องหมอกพรางรัก เล่มนี้เป็นเล่มแรกค่ะ รู้สึกว่าตัวอักษรมันละเมียดละไมนะคะ บทบรรยายอ่านไหลลื่นไม่เสียอรรถรสใด ๆ แต่ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าปกติขวัญไม่ค่อยชอบหนังสือที่บทบรรยายเยอะมาก เพราะอ่านแล้วมันชวนหลับค่ะ ซึ่งเรื่องนี้บรรยายเยอะจริง ๆ ค่ะ แต่ก็คงความน่ารัก กุ๊กกิ๊ก หวาน ๆ เอาไว้ได้ดีนะคะ

หมอกพรางรักเป็นเรื่องราวความรัก กุ๊กกิ๊ก ของ "สขิล" ช่างภาพมาดเซอร์ และ "อคิรา" สถาปนิกสาวมั่น เรื่องนี้ออกแนวพระ - นาง ชอบทะเลาะกัน แต่จริง ๆ แล้วคุณพี่สขิล กวนประสาทอาคิราซะมากกว่า ก็เลยเป็นการต่อปากต่อคำ ของพระ - นางซะส่วนใหญ่ แต่สนุกดีค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าทันกันดี ชอบ

เรื่องราวต้น ๆ ช่างเป็นการทดสอบทฤษฎีโลกกลมดีจริง ๆ ค่ะ พี่สขิล กับ อาคิรา เจอกันโดยบังเอิญตลอด แต่พอกลาง ๆ เรื่องจะกลายเป็นพี่สขิลทำตัวบังเอิญมาเจอนางเอกตลอด จะบอกว่าโดยส่วนตัวแอบปลื้มผู้ชายลักษณะอย่างพี่สขิล (พระเอก) มาก ๆ เลยค่ะ เซอร์ ๆ กวน ๆ รู้ทันไปซะหมด เพราะฉะนั้นพระเอกของเรื่องนี้ ก็ได้ใจขวัญไปเต็ม ๆ (ลำเอียงสุด ๆ 555) แล้วขวัญก็เป็นคนแพ้ทางผู้ชายลักษณะอย่างพี่สขิลมาก ขนาดอ่านในหนังสือยังไม่วายแอบปลื้ม เราชอบที่เขาเป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองมาก ๆ ประทับใจนางเอกตั้งแต่แรกพบ จนได้ใกล้ชิด และรักกันในที่สุด ช่วงหลัง ๆ แอบลุ้นกับพี่สขิลด้วยว่าจะทำให้อาคิรา “รัก” ได้หรือเปล่า

สำหรับ “อาคิรา” สาวมั่น เราแอบหมั่นไส้เธอเล็กน้อย ค่าที่ไม่เคยมองความรักรอบ ๆ ตัวเลย เอาแต่ตั้งแง่กับพระเอกตลอด

นอกจากเรื่องราวของพระเอกนางเอกแล้ว เรื่องนี้ยังมีผู้ช่วยพระเอกนางเอกที่แต่ละคนแสบสันต์พอกัน ทั้งกลุ่มเพื่อนนางเอก เพื่อนพระเอก คุณปู่ แต่ที่เราชอบมากเห็นจะเป็นคุณตำรวจทยุต คนนี้รักและหวังดีกับเพื่อนมาก ๆ (คุณผู้เขียนน่าจะบทพระเอกให้เขาซักเรื่องนะคะ)

สรุปว่านอกจากพี่สขิล - พระเอกที่ขวัญปลื้มสุด ๆ แล้ว เนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่องนั้น ขวัญเฉย ๆ กับเรื่องนี้นะคะ อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น คือส่วนตัวรู้สึกว่าบทบรรยายของผู้แต่งเยอะไปนิดนึงอ่ะค่ะ แต่ก็อ่านได้ต่อเนื่องเรื่อย ๆ จนจบค่ะ อีกอย่างช่วงท้าย ๆ ก็หวานน่ารักดีค่ะ
แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 52 17:13:55

จากคุณ : P@ween@

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 15:09:41

ความคิดเห็นที่ 48

P@ween@ : เขินค่ะ มีคนรู้ด้วยว่ามาจากก้นครัว ขอบคุณที่ทักทายกันค่ะ

จากคุณ : แม่เรไร

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 15:20:51

ความคิดเห็นที่ 49

ประกาศคะแนนรอบวันที่ 16-20 ธันวานะคะ (ขอโทษทีที่มาช้าไปหน่อย เสาร์อาทิตย์เจองานเลี้ยงเข้าไป ช่วงปลายปีนี่คิดว่าเป็นช่วงโปรโมชั่น กินแหลกมากๆค่ะ เอิ้ก)

ยินดีต้อนรับคุณแม่เรไรด้วยนะคะ มาเล่นอีกนะคะ :)

ขำคุณหนิงรีวิวด้วยอ่ะ เล่มที่บอกว่างง อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ ส่วนเล่มที่ให้คนอ่านเลือกเอง พัทก็ไม่ชอบนะ ต้องมาอ่านอีกรอบเหมือนกันเลย มันไม่ต่อเนื่องยังไงไม่รู้อ่ะค่ะ

นายพลุ ไม่ต้องห่วง ใครจะโค่นพลุได้ พี่ว่าไม่มี ก้าก

สวัสดีทุกคนด้วยนะคะ

(ปล.ส้ม พี่ว่าคนคงรู้ว่าถ้าพี่ไม่หื่นก็โหดมั้ง เลยมาแนวฆาตกรรมเชียว ฮ่าๆๆ)

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 16:08:02

ความคิดเห็นที่ 50

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

10-6.[อมราวตี] อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหญิง เจ้าชาย หรือเชื้อพระวงศ์ จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งก็ได้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หนังสือ จิตรา ( chitra)
อินทรายุทธ รจนา
แสงทอง เรียบเรียง
จากบทนิพนธ์พากย์อังกฤษของ เซอร์ รพินทรนาถฐากูร
สำนักพิมพ์ ศิวาลัย สิงหาคม 2522
ราคา 15 บาท จำนวน 160 หน้า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่เล่น RRR กัน คุณแมวเหมียวพุงป่อง เข้ามาเชียร์ให้อ่านเรื่องวรรณกรรมแสงทอง
ได้ยินชื่อ แสงทอง แล้วคุ้นๆ เหมือนเราเคยมีหนังสือของนักเขียนท่านนี้

จนมารื้อหาหนังสือเล่น WWR ได้เจอเล่มนี้ ดองมานานหลายปีแล้ว
ซื้อมาจากงานหนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตย์
รื้อมาจากกองหนังสือเก่า ทุกเล่ม 20 บาท
เหตุผลที่ซื้อมาเพราะชอบท่อนหนึ่งที่สำนักพิมพ์ศิวาลัย
นำมาเขียนประกอบในหน้าคำนำเสนอว่า

“กลอนยอเกียรติทั้งหลาย เป็นความสาปแช่งมนุษยชาติ
การขายตัวกวีเถื่อน คืออาวุธอันร้ายกาจที่หวนมาสังหารประชาชน

กวีโบราณกาลโดยมาก ตกเป็นเครื่องมือของผู้กดขี่
ที่จะช่วยสร้างสรรค์ความเคลิบเคลิ้ม แลความพอใจ
ในการสืบสันดานทาสให้แก่ประชาชน

ทำไมทาสจึงกลัวความเป็นไท?
เพราะกวีช่วยกันกล่อมทาสเหล่านั้น
ให้หลับลงในความเป็นทาสและไม่รู้ตื่น ?”

ศรีอินทรายุธ

ไม่ทราบว่าเอามาจากหนังสือเล่มไหน
แต่อ่านแล้วจับใจดี

เนื้อหาเป็นเกล็ดในเรื่องมหากาพย์ภารตะ เหมื่อนเรื่อง ศกุนตลา ที่รัชกาลที่ 6 ทรงแปลไว้
หนังสือเล่มนี้เขียนเป็นกลอนบทละคร มีทั้งหมดเก้าฉาก
นายผีหรืออัศนี พลจันทร์ เขียนเรื่องนี้ตอนที่อยู่ในช่วงมีปัญหาทางการเมือง
บางตอนขาดหายไป แสงทองแปลเป็นร้อยแก้วแทน
อ่านสำนวนที่แสงทองแปลแล้ว เริ่มอยากอ่านวรรณกรรมแสงทองขึ้นมาทันที

เรื่องย่อ
ตอนที่ฝ่ายปาณฑพแพ้พนันสกาฝ่ายเการพ
ต้องออกเดินทางไปจนกว่าจะครบสิบสามปี
อรชุน โอรสองค์ที่สาม ได้เดินทางไปถึงเมืองมณีปุระ

เมืองมณีปุระนี้ท้าวจิตรวาหนเจ้าเมือง ไม่มีพระราชโอรสไว้สืบราชสกุล
จึงได้อบรม พระนางจิตรางคณา พระราชธิดา อย่างพระราชโอรส
ให้ใส่เครื่องทรงอย่างชาย และสถาปนาในตำแหน่งรัชทายาท

จนพระอรชุนได้มารักกับพระนางจิตรางคณามีพระราชโอรสไว้สืบราชสกุล
พระอรชุนจึงได้ออกเดินทางต่อไป

เล่มนี้อ่านยากพอควร มีคำศัพท์ยากๆ และเรื่องราวทางวรรณคดีหลายอย่าง
ที่คงต้องมีความรู้พอสมควร ถึงจะอ่านเข้าใจทั้งหมด

ขออนุญาตเอากลอนบางตอนมาฝากเพื่อนๆได้ลองอ่านกัน
เป็นตอนที่พระอรชุนได้เจอกับพระนางจิตรางคณา

วันนั้นฝันไปฤาไม่ฝัน
ภาพสวรรค์เวียนหน้าเข้ามาสิง
ความทุกข์ขุกเข็ญเว้นประวิง
ลืมลิงโลดจิตเพราะพิษรัก

วันนั้นฝันไปมิใช่ฝัน
เพราะภาพนั้นจริงแท้แน่ตระหนัก
ภาพมนุษย์สุดงามอร่ามพักตร
ชายชักชวยเห็นให้เอ็นดู

นางแลลงไปในอ่างแก้ว
อ่างน้ำงามแล้วยังลานอยู่
งามนางอ่างน้ำงามตรู
งามเงาเข้าคู่กับคนงาม

งามเงาเย้ายวนนัยนา
นางพิศคิดว่าใครมาหยาม
โฉมฉายงายเงาวาววาม
งามอามพุท้านารี

บัวขาวเบือนคอขึ้นรอรับ
อรุณอุ่นสรรพรังสี
แย้มกลีบอยู่กลางอ่างยี-
ยวนอุบลบดีเดือดใจ

รินรสคนธินกลิ่นกลั้ว
ทั่วทั้งปัทมินศีลใส
กำเริบเอิบฤทธิ์คิดไกร
เหลือบไปปะเงาเยาวพา

ก็จักจำหยุดซุดลง
ใบบังบุษบงเบือนหน้า
หุบกลีบรีบเหงาเซาซา
ไม่อาจอวดกล้ากำเลา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 17:54:23

จากคุณ : January Friend

เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 16:11:27

ความคิดเห็นที่ 51

10-9.[ทินา] สี่สุดสนุก อ่านหนังสือที่ชื่อหรือนามปากกานักเขียนมีสี่พยางค์

Almost Paradise : The East Hampton Murder of Ted Ammon
ผู้เขียน Kieran Crowley
สำนักพิมพ์ St. Martin's Press
370 หน้า ไม่นับ index ท้ายเล่ม

เป็นหนังสือประเภท true crime ค่ะ เขียนจากคดีฆาตกรรมมหาเศรษฐี Ted Ammon ซึ่งถูกฆ่าตายและมีผู้พบศพในเช้าวันหนึ่งของเดือนตุลาคม ค.ศ. 2001 เป็นคดีซึ่งมีผู้คนสนใจกันทั่วประเทศในเวลานั้นเพราะมีทุกอย่างเลย คือไม่ใช่แต่ฆาตกรรมอย่างเดียว ยังมีเรื่องเกี่ยวกับ Generosa ภรรยาซึ่งมาจากครอบครัวยากจนแต่ทะเยอทะยาน ถูกข่มขืนตั้งแต่ยังเล็ก และให้ท่าผู้ชายมาแต่เข้ารุ่นสาวเพราะมีเป้าหมายอย่างเดียวคือจะต้องแต่งานกับมหาเศรษฐีให้ได้ บวกกับเรื่องของชู้ประเภทชนใช้แรงงานของ Generosa คือ Danny Pelosi 3 คนนี้เป็นตัวละครหลักในเรื่อง เป็นเรื่องเล่าจากด้านของแต่ละคนนับตั้งแต่เป็นเด็กๆ โตมาอย่างไร ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อโตขึ้น จนมาถึงวันที่มีคนพบศพ Ted Ammon หลังจากนั้นก็เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการสืบสวนเรื่องนี้ซึ่งภรรยาคนตายเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก

เป็นเรื่องเล่าที่มองจากสายตาคนนอก ไม่มีการเห็นใจใครแม้แต่คนเดียวในเรื่องนี้ ที่แน่ๆ คือตัวร้ายหลักเลยคือ Generosa ปกติชอบเรื่องประเภท true crime อยู่แล้วค่ะ และ Kieran Crowley เป็นหนึ่งในผู้เขียนสารคดีประเภทนี้ที่ชอบมาก ตรงที่ดำเนินเรื่องเร็ว ไม่ติดอยู่กับส่วนใดส่วนหนึ่งนานจนน่าเบื่อ ไม่มีศัพท์เทคนิกเยอะจนเหมือนเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพหรือแพทย์ผู้ชันสูตรศพมาเอง

สรุปว่าวางไม่ลงค่ะเล่มนี้ อ่านรวดเดียวจบเลย
แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 06:49:48
แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 06:01:24

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 05:24:53

ความคิดเห็นที่ 52

ปักหมุดค่ะ...รอบนี้เราก็ยังไม่มีรีวิว...เอาไว้อ่านจบยกชุดค่อยเขียนทีเดียวละกัน ^^

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 07:57:45

ความคิดเห็นที่ 53

มาต้อนรับคุณแม่เรไรค่ะ

มารีวิวอีกนะคะ พลุ

ตอนนี้อ่านผู้เสกทรายสำหรับหนังสือในดวงใจอยู่ค่ะ ติดหนึบมากกกกก

หวังว่าคงจบและทันรีวิวภายในสัปดาห์นี้ แหะๆ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 11:15:06

ความคิดเห็นที่ 54

แวะมาปักหมุดบ้างค่ะ วันนี้เน็ตไม่เดี้ยง (แสนดีใจ เอิงเอย)
ช่วงนี้กำจัดกองดอง JLS ไปได้ครึ่งนึงแล้ว เสียดายคงเอามาตอบโจทย์ไม่ได้ แต่เดี๋ยวว่างแล้วจะลองส่องดูอีกที เผื่อฟลุ้คได้สักข้อ

นึกไม่ออกแฮะว่าคุณกุลธิดาอ่านเรื่องอะไร สงสัยไม่เข้าร้านหนังสือนาน เลยชักตกข่าว ช่วงนี้สนใจแต่นิยายฝรั่งค่ะ
ไม่เคยอ่าน True Crime เลยค่ะ เราว่าเราชอบเรื่องแต่งมากกว่า จะได้มีเรื่องรักหรือบทสรุปลำเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งเลย อีกอย่าง จะได้ไม่เครียดด้วย

เห็น "จิตรา" กับราคาแล้วอิจฉาเจ้าของจังค่ะ ปกสวยดีเนอะ

แหะแหะ ข้อ 5-9 นี่ลอกคุณมู๋ไร้อมฯ ดีไหมเนี่ย? เพิ่งอ่านเจ้าหญิงสายน้ำไปเองค่ะ เรื่องนี้ต่อกับเรื่องของโจรสลัดคาวีที่เพิ่งอ่านไปไม่นานพอดี เลยค่อนข้างรู้เรื่องหน่อย ไม่งั้นมักจะลืมว่าใครเป็นใครประจำ

อ่านพล็อต "ลางสัมผัส..รหัสหัวใจ" แล้วสนมาก แต่พอเห็นว่าเป็นชุดวาเลนไทน์ก็บอกลาค่ะ ไม่ชอบเหมือนกัน

ยินดีต้อนรับคุณแม่เรไรค่ะ
ขออนุญาตสะกิดนิดนึง คือ..ถ้าไม่เผอิญมีหนังสือเตรียมไว้แล้ว เรื่องที่ตอบเนี่ยสามารถตอบข้อ 15-4 (ตัวเอกพิการ) ได้คะแนนเยอะกว่านะคะ

เผลอแป๊บเดียว ขึ้นวันที่ 2x แล้วเหรอเนี่ย?
อ๊ากกก ยังไม่ได้ซื้อของขวัญ ส่งของ ฯลฯ จิปาถะเลย

ไปทำงานก่อนค่ะ T__T

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 12:20:05

ความคิดเห็นที่ 55

สวัสดีตอนบ่ายค่ะ...
แถวบ้านมีงานบุญเยอะมากช่วงใกล้ ๆ สิ้นปีหยั่งงี้
เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลามารีวิวหนังสือ คาดว่าคืนนี้อาจจะได้เข้ามาเก็บโจทย์ซักสองสามข้อ

ยินดีต้อนรับคุณแม่เรไรค่ะ พลุ
ดีใจมีคนมาเล่นเพิ่ม...รออ่านรีวิวเล่มต่อไปนะคะ

เห็นด้วยกะคุณยาคูลท์นะคะว่าเล่มนี้ตอบโจทย์ 15 คะแนนได้ด้วยล่ะ

เมื่อวานลืมบอกไปว่าคุณหนิง(Peining)มีเพื่อนค่ะ เพราะแม่ไก่เคยรีวิวหนังสือแนว ๆ นี้(แบบนิยายทางเลือก)แล้วก็บ่น ๆ อยู่เหมือนกันว่าสะดุด ๆ ฮ่า...นึกว่าเป็นเพราะตัวเองหัวเก่าอยู่คนเดียว
เล่มนี้ก็ดองอยู่บนชั้นแน่ะค่ะ คืออ่านแล้วไม่คืบก็เลยวางยาวไปเลย

True Crime ที่คุณกุลธิดาอ่านน่าสนใจนะคะ จะมีใครแปลไหมเนี่ย

คุณแจนฯ จิตราสวยจังเลยค่ะ คยเห็นเล่มนี้แว้บ ๆ ในกองหนังสือเก่าเมื่อนานมากแล้ว แต่ไม่ได้หยิบมา
ถึงตอนนี้จะมีให้ซื้ออยู่หรือเปล่า หนังสือพิมพ์ตั้งตะปี 22 อายุ 30 ปีพอดี แถมราคาแสนจะถูก
อ้อ...ศกุนตลา น.หนูสะกดค่า

โอ้ย...จะสิ้นปีแล้ว ยังไม่ได้ส่งการ์ดอวยพรปีใหม่ให้ใครเลย เวลาเจ้าเอย...ทำไมบินไปรวดเร็วนัก รอคนเดินช้ามั่งซีเนาะ

ทักทายและเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:28:18

ความคิดเห็นที่ 56

10-1.[ทินา+Il Maze] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ผู้เขียนเกิดเดือนเดียวกับคนอ่าน จะเป็นนักเขียนชาติใดก็ได้ ขอให้ระบุเดือนเกิดมาด้วย

วีรกรรมทำเพื่อเงิน ภาค 6 [Hot Six]
ผู้แต่ง เจเน็ท อีวาโนวิช [Janet Evanovich]
ผู้แปล ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์
สนพ. บลิสพับลิชชิ่ง
จำนวนหน้า 281 ราคา 200 บาท

โปรยปกหลัง :

สเตฟานี พลัมในภาค6 ยังคงความแสบซ่าแต่ถังแตกและต้องห้ามไล่ล่าพวกหนีประกันหาเลี้ยงชีพเหมือนเคย แต่คราวนี้ดูท่าคดีที่เธอเจอจะหนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้งเมื่อแรนเจอร์ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรฆ่าลูกชายเจ้าพ่อมาเฟีย แถมหนีประกันหายตัวไปเฉยๆ เอาละซิ สเตฟานีจะทำยังไง หรือเธอจะกลายเป็นศิษย์ล้างครูเข้าซะให้แล้ว

ขณะเดียวกันเรื่องรักที่เริ่มลงตัวก็ชักอลหม่าน เมื่อยายมาซูร์โผล่มาเป็นก้างขวางคอ รวมถึงเจ้าบ๊อบสมาชิกใหม่ของบ้านที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตัวช่วยหรือตัวป่วนกันแน่ วี้ดวิ้ว วาบหวาม โครมคราม ฮาแตกไปกับก๊วนสเตฟานีที่เปรี้ยวโดนใจผู้อ่านแน่นอน

******************************************************************

ความรู้สึกหลังอ่าน : ยังสนุกและฮาเหมือนเดิมค่ะ อาจฮามากกว่าเดิมเพราะเรื่องนี้มีตัวละครใหม่โผล่มาสร้างสีสันอีกเพียบ โดยเฉพาะเจ้าบ๊อบ สุนัขพันธุ์โกลเดน รีทรีฟเวอร์ ที่กินทุกอย่างแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ ตอนที่ชอบที่สุดในเล่มนี้ คือ วีรกรรมของมันหลังจากกินลูกพรุนเข้าไปสองกล่อง หัวเราะจนปวดท้อง (คำเตือนสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข อย่าให้มันกินลูกพรุนเข้าไปเชียว มิฉะนั้นอาจเป็นแบบเจ้าบ๊อบ)

แนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวสืบสวนนิดๆ นางเอกฮาๆ บ้าระห่ำ ไม่หวั่นแม้อุปสรรคใดๆ (โดนลักพาตัว รถโดนเผา ผู้ที่เธอต้องไปสังเกตการณ์จับเธอได้คาหนังคาเขา) เธอก็สามารถเอาตัวรอดได้ทุกครั้ง (อยากรู้จริงว่าห้อยพระอะไร) ส่วนพระเอกก็หล่อเร้าใจแถมมีตั้งสองคน (แอบเลือกไม่ถูกเลย จริงๆก็ชอบแรนเจอร์มากกว่านิดนึงนะ)

ตอบโจทย์ : คนเขียนเกิดวันที่ 22 เม.ย. 1943 ส่วนหมูเกิดวันที่ 21 เม.ย. 19x3 ค่ะ ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะหาวันที่ได้ใกล้เคียงมาก และไม่อยากเชื่อว่าคนเขียนจะอายุมากขนาดนี้ อาจจะหยาบคายแต่อยากบอกว่า คนเขียนอายุมากแล้วแต่แต่งให้สเตฟานีเปรี้ยว บ้า ฮาสุดๆได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:54:04

ความคิดเห็นที่ 57

--ยาคูลย์ แม่ไก่ --
ปกนี้งามจริงๆ โพสต์รูปใหญ่ เจตนาโชว์ปกเลยค่ะ
ลืมบอกไป ฝีมือ อ. จักรพันธุ์ โปษยกฤต
กองหนังสือเก่างานหนังสือ ของดีๆเยอะค่ะ
แก้ไขแล้ว ศกุนตลา ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : January Friend

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 17:52:26

ความคิดเห็นที่ 58

จิตรา อีกรูปเครดิตจาก www.damrong.ac.th ค่ะ

จากคุณ : January Friend

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 18:00:04

ความคิดเห็นที่ 59

20-3.[II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน จะเป็นนักแสดง นายแบบนางแบบ หรือจะเกณฑ์คนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือตัวเองมาแสดงก็ได้ ถ้าไม่เป็นที่รู้จักให้เอารูปมาให้ดูด้วย

เกมรัก กับดักใจ [Oscar]
ผู้แต่ง คิมซูฮี (ผู้เขียนเรื่องกับดักหัวใจของยายแม่มด)
ผู้แปล วิภาพร พูลสวัสดิ์
สนพ. อรุณ
จำนวนหน้า 448 ราคา 279 บาท

โปรยปกหลัง :

"ยูริ เซบาสเตียง แดนตัน" เพลย์บอยหนุ่มชื่อดัง ประธานบริษัทผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ของอเมริกา เดินทางไปพบ "ซาจุน" ดาราหนุ่มสุดฮ็อตของเกาหลีเพื่อเจรจาธุรกิจร่วมกัน ทว่า...เพียงแวบแรกที่ทั้งคู่ได้พบกัน ยูริก็ตกหลุมรักซาจุนขึ้นมาทันที!!! หารู้ไม่ว่า แท้จริงแล้วหนุ่มน้อยหน้าใสที่เขาแอบปิ๊งอยู่นั้น คือ "ซาบินอู" น้องสาวฝาแฝดของซาจุนต่างหาก แต่หญิงสาวก็ไม่อาจบอกเขาได้ว่าเธอคือใครเพราะผลประโยชน์ก้อนใหญ่ค้ำคออยู่ ดังนั้น การเล่นละครตบตาครั้งใหญ่จึงเปิดฉากขึ้น และเมื่อนั้นเองที่หัวใจของคนทั้งคู่ก็เปิดออกเพื่อรู้จักและค้นหาคำว่า "รักแท้" เช่นเดียวกัน

ยูริจ้องปลายเท้าของฝ่ายตรงข้ามก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อีกก้าว เขาเข้าไปใกล้พอที่จะได้ยินเสียงลมหายใจของหมอนั่น แล้วจึงทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นช้าๆ ดึงสองมือของอีกฝ่ายมากุมไว้แนบอก เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองซาจุน รู้แต่ว่าตัวเองกำลังหวาดหวั่น ตื่นเต้น เครียด ลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นใคร นี่อาจเป็นการสารภาพรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาลงทุนมากที่สุดในชีวิต ยูริหลับตานิ่งก่อนจะกลั้นใจพูดออกมาในที่สุด "ฉันทิ้งทุกอย่างได้เพื่อนาย จุน เป็นแฟนฉันเถอะนะ"...

**********************************************************************

ความรู้สึกหลังอ่าน : หยิบเล่มนี้มาเพราะอยากอ่านแนว coffee prince แต่ผิดหวังนิดหน่อย เพราะเรื่องมันเรื่อยๆมาก ไม่ฮา ไม่มีนางอิจฉามาทำให้เข้าใจผิด ไม่มีพระรองรูปหล่อแสนดี ไม่มีฉากกระชากอารมณ์เลย ปกติถ้าอะไรที่เกี่ยวกับเกาหลีจะต้องเรียกน้ำตาได้แน่ แต่เล่มนี้ไม่ได้ซักหยด แล้วไม่รู้ทำไมตอนอ่านถึงรู้สึกว่ากำลังอ่านนิยายไทยอยู่เลย !?

อุตส่าห์แต่งให้นางเอกมีปม พ่อแม่หย่ากัน ตัวเองไปอยู่กับแม่ที่ยากจน ไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องไปทำงานทำให้เป็นคนกลัวสังคม คิดว่าพ่อไม่รักเพราะพาไปแต่พี่ชาย แถมบ้านพ่อก็รวย แต่ปมนี้เหมือนไม่ได้เอามาใช้เท่าไหร่เลย แล้วตอนที่พระเอกคิดว่าตัวเองเป็นเกย์ ต้องเลือกระหว่างความรักกับสังคมอีก ไม่ได้บิ้วอารมณ์คนอ่านเล๊ย ถ้าแต่งดีๆ งานนี้มีสิทธิ์น้ำตาท่วมได้ง่ายๆเลยนะ เฮ้อ..เสียดาย

เห็นเหมือนบ่นเยอะๆ แต่ก็อ่านรวดเดียวจบเลยนะคะ พออ่านฆ่าเวลาได้อยู่ แต่ไม่ถึงขั้นแนะนำ ถ้าทำเป็นซีรี่ส์อาจสนุกก็ได้(มั้ง?)

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 18:54:11

ความคิดเห็นที่ 60

Casting ตัวละครค่า (ไม่เคยเขียนรีวิวครั้งไหนนานขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ หนังเกาหลีก็ไม่ค่อยดู ดาราเกาหลีก็ไม่ค่อยรู้จัก ยังอยากจะ Casting ทำละครเกาหลีอีก -_-")

1. **ยุน อึน เฮ** แสดงเป็น ซาบินอู/ซาจุน - นางเอก+พี่ชายนางเอก (เนื่องจากเป็นฝาแฝดขนาดข่าวยังจับไม่ได้ เพราะฉะนั้นใช้ตัวละครตัวเดียวกันเลยนะคะ เพราะคงหาดาราที่หน้าเหมือนกันแต่คนละเพศยาก)

2. **กง ยู** แสดงเป็น ยูริ เซบาสเตียง แดนตัน - พระเอก ลูกครึ่งอเมริกัน ฝรั่งเศส เกาหลี

3. **เดนนิส โอ** แสดงเป็น คริส ชอร์ - เลขาพระเอก คอยเป็นห่วงและดูแลพระเอกแถมยังเป็นเลขาที่มีความอดทนเป็นเลิศ

4. **มุน กึน ยอง** แสดงเป็น คังมียอง - เลขานางเอก ผู้มากความสามารถและจงรักภักดีต่องนางเอกสุดๆ

5.**คิม แต ฮี** แสดงเป็น ยูริเอะ - เพื่อนสนิทนางเอก อาชีพนักแสดง

หมายเหตุ : บทพระเอกนางเอกอาจไม่ค่อยเหมาะ แต่โจทย์บอกว่าให้เลือกตามใจคนอ่าน เพราะฉะนั้นไม่ว่ากันนะคะ อยากเห็น กงยู+อึนเฮ เล่นคู่กันอีก (ถึงแม้เดนนิสจะเหมาะเป็นพระเอกมากกว่าก็ตาม)

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 18:56:05

ความคิดเห็นที่ 61

ส่งการบ้าน 1 ข้อค่ะ

5-5.[PTNCenter] หนังสือที่มีเรื่องราวของคนไทยในต่างแดนจะเป็นประเภทใดก็ได้ไม่จำกัด

เมด อิน เจอรแมนี - สีมน
สำนักพิมพ์ดอกหญ้า : 2539
ราคา 120 บาท จำนวน 264 หน้า

รวมเรื่องสั้นซึ่งเคยตีพิมพ์ในนิตยสารดิฉัน
แต่ละเรื่องจะเล่าถึง ผู้หญิงไทย (แท้และเทียม) ที่ไปใช้ชีวิตในประเทศเยอรมันนี
ด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ แต่ละคนก็มีเหตุผลแตกต่าง และมีปัญหาในต่างแดนแตกต่างกันไปด้วย
บางเรื่องนำเสนอมุมมองที่ชาวเยอรมันมีต่อผู้หญิงไทย
บางเรื่องเล่าถึงการดำเนินชีวิตอันยากลำบากในต่างแดน
บางเรืองเป็นเรืองของหญิงไทยที่ถูกชายเยอรมันหลอก
และบางเรื่องก็เปิ็นเรื่องของผู้ชายเยอรมันที่ถุกผู้หญิงไทยหลอก

ด้วยความที่ผู้เขียนเองก็ใช้ชีวิตครอบครัวกับสามีชาวเยอรมัน
บางเรื่องจึงคล้ายกับจะเป็นเรื่องของเธอเอง ...

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 21:13:53

ความคิดเห็นที่ 62

อ๊าย คุณหมูย้อมสี รีวิวเสียไม่อยากอ่านเลย เล่มเกาหลีนั่นอยู่ในกองดองเราพร้อมกับอีกเล่มก่อนหน้านั้นอ่า

ข้อ casting นี่จริงๆ อ่านนิยายรักเอามาตอบได้หลายเรื่องแล้ว เดือนก่อนว่าจะเอาภาคสองของ "สายการบินเสี่ยงรัก" มาตอบ (อุตส่าห์อ่านเล่มหนาปาหัวหมาแตกสองเล่มจบ ขอใช้เสียหน่อยเหอะ) เพราะเห็นพระเอกหล่อ นางเอกสวย น่าจะตื่นตาตื่นใจดี ...แต่ไม่ค่อยรู้จักดารา ไม่รู้(และขี้เกียจ)จะไปหาเว็บที่มีภาพดาราเยอะๆ หลายสไตล์ที่ไหนดี ทำไปทำมา ลืมเนื้อเรื่องหมดแล้ว ช่างมันละกัน 555

ว้าว คนแต่งสเตฟานีเกิดปี 1943 เลยเหรอ? ไม่น่าเชื่อเลย

เห็นด้วยกับคุณแจนฯ ว่ากองหนังสือเก่างานหนังสือมีของดีเยอะค่ะ เผลอซื้อที่ไม่ใช่แนวอ่านมาบ่อยๆ ก็เพราะเห็นว่ามัน "ถูก"+"ดี" นี่แหละ

อ๊ะ คุณนัทธ์เริ่มปล่อยของแล้ว อิอิ

งานเสร็จแล้ว เดี๋ยวไปเปิดพวกที่อ่านก่อนว่าเคลมแต้มได้มั่งเปล่า (ไม่ค่อยหวังแฮะ เฮ้อออ)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 22:43:39

ความคิดเห็นที่ 63

กรี๊ดด ได้ส่งการบ้านแย้ว

5-1.[แก้วกังไส + หมูย้อมสี + แม่ไก่] อ่านหนังสือที่กล่าวถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เช่น การระลึกชาติ คำสาป เวทย์มนตร์คาถา ฯลฯ

Magical Stone ขอพรรัก ไขปริศนาหัวใจ
ผู้แต่ง: Ten-Pins
สำนักพิมพ์แจ่มใส, พิมพ์ 2552, ราคา 139 บาท, 192 หน้า

หลังจากที่สาวน้อยจิตใจดีอย่างสานฝันคนนี้ช่วยจูงคุณยายคนหนึ่งข้ามถนน ^-^ แกก็ได้มอบหินสีแปลกๆ ก้อนเล็กๆ ให้เป็นของตอบแทน พร้อมกับบอกว่ามันสามารถใช้ขอพรที่ปรารถนาได้สามข้อด้วย -*- พอกลับถึงบ้านฉันก็สงสัยว่าเรื่องที่แกบอกจะจริงหรือหลอกน้า ก็เลยลองใช้มันขอพรดูสักหน่อย ขอให้ฉันได้พบกับเนื้อคู่สุดหล่อแสนเพอร์เฟ็กต์ซะเลย (^/l\^)

วาบบบ~ ทันใดนั้นเอง หินในมือฉันก็เปล่งแสงสว่างวาบก่อนจะดับลง แต่ไม่ยักจะมีผู้ชายหน้าไหนโผล่มาสักคน เชอะ สุดท้ายมันก็เป็นแค่หินของเล่นสินะ T^T ทว่าในเช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่ฉันกำลังนอนหลับอยู่นั่นเองก็รู้สึกเหมือนมีคนมาปลุก พอลืมตาตื่นขึ้นมาฉันก็แทบช็อกสุดๆ เมื่อเห็นผู้ชายในร่างโปร่งแสงกำลังยืนฉีกยิ้มให้ฉัน >///< โอ้แม่เจ้า นี่แสดงว่าเนื้อคู่ของฉันเป็นผีเหรอเนี่ย ม่ายอาววว <(>O<)>

* * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวแจ่มใสวัยรุ่น อีโมติค่อนเพียบ เดินเรื่องง่ายๆ สไตล์ JLS ค่ะ

พล็อตเริ่มแบบเรื่องตะเกียงวิเศษ แต่เปลี่ยนตะเกียงเป็นหิน เปลี่ยนจินนี่เป็นเทพกึ่งยมทูตที่จะเบี่ยงเบนพล็อตพรวิเศษจากตะเกียงให้โยงไปถึงพล็อตเทวดา/นางฟ้าตกสวรรค์ในตอนท้าย โดยมีนางเอกเป็นตัวเชื่อมของทั้งสองพล็อต แต่ละพล็อตมีพระเอกหนึ่งคน กลายเป็นรักสามเส้าพอดี

ตัวละคร การเดินเรื่องและการตกหลุมรักจะง่ายๆ อาศัยว่ามีเรื่องแปลกประหลาดให้ตื่นเต้นและขำๆ ตลอด เลยไม่กลายเป็นข้อเสีย เช่น นางเอกขอพรข้อแรกว่าขอให้ได้เจอเนื้อคู่ทันที ผลคือเนื้อคู่เกิดอุบัติเหตุกลายเป็นวิญญาณความจำเสื่อม ต้องมาป้วนเปี้ยนให้นางเอกจิกหัวใช้ซะงั้น (ซวยจริงๆ)

แอบขำนิดหน่อยที่เทวดานางฟ้าเขาใช้รหัสสื่อสารกันด้วยล่ะ สงสัยคนแต่งกำลังอินกับดาวินชี่โค้ดแน่เลย หุหุ

โดยรวมแล้ว อ่านเพลินๆ แก้เครียดดีค่ะ

(ภาพปกจากเว็บแจ่มใส)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 23:06:12

ความคิดเห็นที่ 64

เล่มนี้เป็นการอ่านซ้ำ เพราะตอนรื้อเจอนึกว่ายังไม่อ่าน เลยอ่านใหม่ อ่านไปครึ่งเกือบจบเล่มแล้วถึงแน่ใจว่า "อ่านแล้วนี่หว่า" ... อ่านจนจบเลยละกัน (อัลไซเมอร์ก็ดีไปอย่าง อ่านซ้ำได้เหมือนอ่านใหม่ 555)

5-3.[ปีศาจ ความฝัน] อ่านหนังสือที่ชื่อหนังสือมีคำว่าแม่มด พ่อมด หรือนางฟ้า

โอมเพี้ยง! แม่มดอลวน รักยกกำลังสอง
ผู้แต่ง: TheLittleFinger
สำนักพิมพ์แจ่มใส, พิมพ์ 2552, ราคา 139 บาท, 192 หน้า

หลังจากที่อีตาซีนขี้เก๊ก มือกีตาร์ของวง Blue’s Eyes สุดฮอตประกาศให้ทุกคนรู้ว่าฉันคือแฟนสุดที่รักของเขา -///- และเรื่องที่ฉันเป็นแม่มดยังไม่แตกดังโพละออกมา ความรักระหว่างแม่มดกับคนธรรมดาของพวกเราก็เลยเป็นไปได้ด้วยดีสุดๆ เหมือนใช้เวทมนตร์เสก...ซะเมื่อไหร่เล่า!? -_-^^

เพราะจู่ๆ ก็มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นรอบตัวเราสองคนเต็มไปหมด! กรี๊ดดด OoO หรือว่าฉันจะโดนทำคุณไสย โทษฐานที่มีแฟนหล่อไม่บันยะบันยัง โฮ~ TT[]TTนี่ ยังไม่นับรวมถึงเรื่องที่นายริวซากิ หนุ่มญี่ปุ่นจอมตื๊อที่เพิ่งย้ายมาใหม่สรรหามาให้ฉันปวดหัว กับอารมณ์หึงของอีตาซีนอีกนะ!!

ฮุๆ คนสวยอย่างฉันก็มีกรรมเยี่ยงนี้นี่เอง -.,-

* * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวแจ่มใสวัยรุ่น อีโมติค่อนสไตล์ JLS เหมือนเล่มบนค่ะ แต่เรื่องนี้จะเป็นภาคสองต่อจากอีกเล่ม (แต่อ่านแยกได้)

นางเอกเป็นลูกแม่มด มีแฟนเป็นคนธรรมดา ภาคแรกเป็นเรื่องราวความรักของคู่นี้ พอภาคนี้ ก็แค่เพิ่มพ่อมดมาเป็นมือที่สามในความรักของตัวเอก เนื้อเรื่องก็จะวนเวียนอยู่กับฉากกุ๊กกิ๊ก หึง แง่งอน แย่งชิง/ต่อสู้กัน ก่อนจะจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้งค่ะ

เหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่ก็อ่านเพลินๆ คลายเครียดได้ตามจุดประสงค์คนซื้อค่ะ อิอิ

(ปกจากเว็บแจ่มใส)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 23:17:16

ความคิดเห็นที่ 65

แวะมาปักหมุดครับ

ตอบคำถามพี่แม่ไก่ ผมใจดีให้ผ่านครับ ^ ^

เดี๋ยวจะแวะมาตอบโจทย์ต่อครับ กลับไปเขียนรีวิวต่อให้เสร็จก่อน

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 23:18:06

ความคิดเห็นที่ 66

ตอนแรกว่าจะใช้เล่มนี้ตอบข้อ 15-9 (ชื่อพ่อขึ้นด้วย "พ") แต่เสียงไม่ตรงกับ "เปียโน" ขอเปลี่ยนละกันค่ะ

เอาเป็นข้อ 20-5 [piccy] สามสัญชาติ
เล่มแรก - ไทย

Love or Tricks รักกะล่อนครั้งนี้หนุ่มตี๋ขอเฮ้ว
ผู้แต่ง: piano
สำนักพิมพ์แจ่มใส, พิมพ์ 2552, ราคา 199 บาท, 296 หน้า

ระหว่างที่ฉันกำลังออกไปช็อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าใหม่ เตรียมไว้ไปสอนพิเศษนักเรียนคนใหม่ของฉันที่ได้ยินมาว่าเป็นคุณชายระดับรวยล้นฟ้า ^O^ จู่ๆ ก็มีลมพัดแรงผ่านมาวูบใหญ่ ทำเอาข้าวของในมือของฉันกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง อ๊ากกก O[]O นี่ฉันเกือบจะถูกรถเฉี่ยวเหรอเนี่ย!

แง~ อีตาคนขับรถคันนั้นยังมีหน้าถอยรถกลับมาเย้ยเยาะ บอกให้ฉันหัดดูตาม้าตาเรือก่อนจะข้ามถนนอีก (ได้ข่าวนายฝ่าไฟแดง!) แถมไอ้ที่ฉันรับไม่ได้สุดๆ ก็คือหมอนั่นดันเรียกฉันว่า ‘ป้า’ น่ะสิ \(>O<)/ นี่ยังดีที่รองเท้าสุดแพงที่ซื้อมายังเหลืออยู่หนึ่งข้าง หา! หนึ่งข้าง (- -“)\ กรี๊ดดด อย่าให้ฉันเจอหน้าหมอนั่นอีกครั้งนะ แม่จะ... จะ... ติวเข้มสั่งสอนให้สุดฝีมือเลย!!

ฮือๆ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะดันเป็นคนเดียวกับคุณชายมิกซ์ ลูกศิษย์ที่ฉันจะต้องติวหนังสือให้เขาตลอดช่วงปิดเทอม แงๆๆ งานเข้าของแท้เลย TOT

* * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวแจ่มใสวัยรุ่น JLS อุดมอีโมติค่อน เช่นเดิมค่ะ (สองสามวันนี้ลุยอ่านไปเกือบสิบเล่ม สต็อกเพียบ อิอิ)

พระเอกเล่มนี้ออกแนวแบดบอย หนังสือหนังหาไม่ตั้งใจเรียน ดีแต่มั่วสุมเข้าผับกับเพื่อน กิ๊กสาวไม่ซ้ำ (ยังดีที่ไม่ถึงกับเป็นแก๊งอันธพาลแบบแนววัยรุ่นเรื่องอื่น) จนคุณแม่เรียกนางเอกมาดป้าเชยมาเป็นติวเตอร์

นางเอกจะอายุมากกว่าพระเอก 4 ปี แต่อินโนเซนต์เรื่องความรัก พอลูกศิษย์คิดแกล้งจีบเลยตกหลุมรักหนุ่มหน้าใสปิ๊งอย่างง่ายดาย (เด็กมันยั่วอ่า เค้าเข้าใจนางเอกน๊า~) แต่ความใสซื่อของเธอก็ทำให้เขาเริ่มจริงจังได้ในที่สุด

เนื้อเรื่องเน้นความรักล้วนๆ (สงสารคุณแม่ที่จ้างยัยนางเอกมาติวลูกชายชะมัด ชีไม่ใช่มืออาชีพเลย) ช่วงแรกจะเป็นดราม่าตอนนางเอกโดนพระเอกหลอก ช่วงหลังจะมีพระรองที่แอบชอบนางเอกก่อนโผล่มาขัดขวางความรัก ดราม่าอีกรอบ
...เช่นเคย เนื้อเรื่องเหมือนไม่มีอะไร แต่อ่านๆ แล้วก็ติดเหมือนกันแฮะ แหะแหะ (แสดงว่าเรายังหัวใจวัยสะรุ่น)

กลุ่มพระเอกจะมีเพื่อนอีกสามสี่คน เป็นแบดบอยขี้หลีพอกัน แต่ละคนจะเป็นตัวเอกในเรื่องอื่น แต่จะอ่านแยกก็ไม่เป็นไรค่ะ

(ปกจากเว็บแจ่มใส)
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 00:18:31

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 23:57:04

ความคิดเห็นที่ 67

15-9.[นัทธ์] วันพ่อแห่งชาติ คราวนี้เอาหนังสือที่คนเขียน คนแปล ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเดียวกับชื่อจริง หรือชื่อเล่นของ "พ่อ" กันบ้าง

ชื่อพ่อขึ้นด้วย "พ" เอามาใช้กับ PloyPink ละกัน เสียงตรงกันหน่อย

My Brownie ป่วนหัวใจรักนายรุ่นพี่ตัวแสบ
ผู้แต่ง: PloyPink
สำนักพิมพ์แจ่มใส, พิมพ์ 2552, ราคา 139 บาท, 176 หน้า

อ๊า~ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของฉันเริ่มขึ้น (อีกครั้ง) แล้ว จะใช้ชีวิตเฟรชชี่ให้คุ้มค่าไปเล้ย ฮุๆ (><)/ ตอนนี้ฉันกำลังร่วมกิจกรรมรับน้องอยู่ล่ะ อ๊ะ ถึงตาฉันต้องแนะนำตัวพอดี งั้นไปฟังพร้อมๆ กันเลยนะ ^O^ ฉันชื่อปลายฟ้า เอกภาษาไทย ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆ ทุกคนด้วยนะค้า~ อิๆ >O<

แต่เพราะฉันไม่รู้จักชื่อบ้านเดิมของนางสีดา (เกี่ยวกับเด็กเอกไทยด้วยเหรอ) ยัยรุ่นพี่ตัวแสบเลยทำโทษให้ฉันไปตะโกนบอกรักรุ่นพี่ที่ชื่อบราวน์ (-_-*) เหอะๆ ชื่อเหมือนหมาแถวบ้านฉันไม่มีผิด แต่ก็นั่นแหละ รู้หรอกว่าการแกล้งรุ่นน้องให้ได้อายเนี่ยมันเป็นธรรมเนียม เชอะ ทำก็ได้ ปีหน้าฉันค่อยเอาคืนกับน้องเฟรชชี่ละกัน TOT

‘รุ่นพี่บราวน์ขา คบกับฉันเถอะ!’ ว้าย พูดออกไปแล้วอ่ะ >///< แต่ทันใดนั้นเอง@@@ ตุ้บ! พลั่ก! โทรโข่งกระแทกปากฉันเต็มๆ และผู้ต้องหาที่ปาลูกบาสมาก็ไม่ใช่ใคร อีตารุ่นพี่บราวน์นั่นเอง หน้าตาก็ดีแต่นิสัยแย่ แถมไม่มีขอโทษฉันสักคำ เห็นทีจะญาติดีกันไม่ได้ซะแล้ว ฮึ่ย T^T

* * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวแจ่มใสวัยรุ่น JLS & อีโมติค่อน อีกแล้วค่ะ

เนื้อเรื่องจะคล้ายแนวรักนักศึกษานิดหน่อย เพราะเปิดฉากที่พิธีรับน้อง ต่อด้วยการเข้าค่าย ตามด้วยบรรยากาศในชมรมนิดหน่อย
แต่ด้วยความที่เล่มมันบางนิดเดียว เรื่องเลยเน้นที่ความรักมากกว่าชีวิตนักศึกษา (ถ้าหนากว่านี้สักนิด แล้วใสบรรยากาศมหาวิทยาลัยอีกหน่อย อาจจะดูมีมิติกว่านี้)

องค์ประกอบในเรื่องคล้ายกับ JLS เท่าที่รีวิวมา คือพระเอกจะมาดเยอะหน่อย และมีเพื่อนฮ็อตๆ เป็นฝูง นางเอกกับพระเอกจะไม่ค่อยถูกกันตอนแรก แต่พอเริ่มชอบกันก็จะมีผู้ชายอีกคนโผล่มาสร้างสีสัน เล่มนี้เพิ่มรายละเอียดอีกนิดให้มีเรื่องของ "เยล" เพื่อนหญิงที่พระเอกแกล้งเป็นแฟนด้วยเพื่อช่วยให้เยลยั่วให้หนุ่มอีกคนหึง ทำให้นางเอกสับสนและเข้าใจผิด

โดยรวมแล้ว เป็นแนวอ่านเพลินๆ อีกเล่มค่ะ

(ปกจากเว็บแจ่มใส)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 00:12:42

ความคิดเห็นที่ 68

20-5 [piccy] สามสัญชาติ
เล่มที่สอง - จีน

ปริศนารักบังใจ
ผู้แต่ง: จั้นชิง / แปล: กระบี่หลงทิศ
สำนักพิมพ์แจ่มใส, พิมพ์ 2552, ราคา 149 บาท, 200 หน้า

อิสระที่เคยถวิลหา ความอบอุ่นที่ ‘ซย่าม่อหู’ รอคอยจากใครสักคนมานานใกล้จะไขว่คว้าได้ ยามเมื่อพบกับ ‘เต๋อซั่ว’ หนิงจวิ้นอ๋องหนุ่มผู้ตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกเห็น จนถึงกับเอ่ยปากว่าจะมาสู่ขอนางหลังกลับจากนำทัพออกศึก

ทุกวันนางได้กำลังใจจากการรอคอยด้วยความหวังอันอิ่มเอม ความสุขที่ล้นเหลือในหัวใจ และยิ่งปรีดิ์เปรมยามที่เขาส่งคนมาสู่ขอจริงดังคำที่ให้ไว้ หากแต่เมื่อถึงเวลาส่งตัวเข้าหอนางก็ต้องตกใจกับความร้ายกาจของเขา ทั้งยังแสดงท่าทีรังเกียจจนถึงขั้นเกลียดชัง ทำให้นางได้แต่ตรอมใจอยู่ในห้องหอ

แม้จะเสียใจที่เขาก่นว่าและยังทำท่าจะขอหย่ากับนางเสียให้ได้ แต่ซย่าม่อหูที่เริ่มมีสติหลังจากฟูมฟายมาหลายวันก็จับได้ถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น! มีบางอย่างเปลี่ยนไป ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาแน่ๆ นางจะไม่ยอมให้ชีวิตคู่ที่เคยวาดฝันไว้มลายสิ้น คงต้องเร่งหาวิธีคลี่คลายเรื่องทุกอย่างก่อนที่มันจะบานปลายโดยเร็วเสียแล้ว

* * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแจ่มใสชุดมากกว่ารัก ที่ให้อารมณ์น้ำเน่าพอกับนิยายน้ำเน่าไทยค่ะ

นางเอกเป็นลูกกำพร้าแม่ที่แม่เลี้ยงไม่สนใจไยดีจะอบรมเป็นกุลสตรี แต่นั่นกลับทำให้เธอได้ใช้สติปัญญาอย่างเต็มที่ ไม่โดนกรอบประเพณีปิดกั้นแบบคุณหนูทั่วไป พระเอกปิ๊งมาดมั่นใจของนางเอกตั้งแต่แรก และเริ่มตีสนิทจนสุดท้ายก็มอบของแทนใจไว้ต่างของหมั้นหมายกันเอง ก่อนเขาจะเตรียมออกรบ

แต่เกิดเรื่องบางอย่างให้เขาลืมช่วงสองสามเดือนที่รู้จักเธอไปจนหมด สามปีผ่านไป พระเอกกลับมาอย่างวีรบุรุษ และช่วยน้องสาว (ลูกแม่เลี้ยง) ของนางเอกไว้ระหว่างกลับจวน จึงรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวขุนนางคนหนึ่ง

เมื่อฮ่องเต้คิดเกลี้ยกล่อมยกองค์หญิงจอมเฮี้ยวให้ พระเอกเลยอ้างว่ารักกับลูกสาวขุนนางคนนี้แล้ว ฮ่องเต้ก็ดีแสนดี ประกาศราชโองการจัดงานแต่งให้เลย ขุนนางไปถามลูกสาวคนโต นางเอกก็ดีใจ บอกพ่อไปว่าตกลง

วันเข้าหอ พระเอกเปิดผ้ามาก็ผงะ เจ้าสาวไม่ใช่คุณหนูที่ช่วยไว้วันก่อน ด่านางเอกใหญ่ นางเอกก็ตะลึงว่าเกิดอะไรขึ้น

เรื่องที่ตามมาสนุกดีค่ะ เพราะพระเอกจะเป็นพวกยึดถือหลักการ (ของตัวเอง) สุดกู่ ไม่ยอมอ่อนง่ายๆ ยังดีที่นางเอกเป็นคนฉลาด ถึงจะน้อยใจแค่ไหนก็ยังฮึดสู้ว่าจะเรียกความรักของเขาคืนมาให้ได้

แล้วคนอ่านก็จะอ่านไปด่าพระเอกไปด้วยความเมามันส์ คลายเครียดจริงๆ 5555 โดยเฉพาะฉากทำร้ายจิตใจนางเอกครั้งสุดท้ายนี่น่ากระโดดถีบอย่างยิ่ง

โดยส่วนตัวแล้ว ชอบเล่มนี้มากกว่าเล่มอื่นที่ออกก่อนหน้านี้ในช่วงหลังค่ะ คงเพราะได้ด่าพระเอก สะใจดี ฮ่าฮ่าฮ่า

(ปกจากเว็บแจ่มใส)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 00:38:02

ความคิดเห็นที่ 69

20-5 [piccy] สามสัญชาติ
เล่มที่สาม - อเมริกา

The Gift by Cecelia Ahern
สำนักพิมพ์ Harper Collins, พิมพ์ 2009 (พิมพ์ครั้งแรก 2005), 305 หน้า

Lou Suffern เป็นนักธุรกิจบ้างานที่รีบเร่งอยู่เสมอ เขาไม่เคยอยู่ที่เดียวทั้งกายและใจ ใจเขามักเตลิดไปอยู่ที่อื่นขณะที่ทำอีกอย่างอยู่ ผลคือเขาเริ่มห่างเหินจากครอบครัว ไม่เคยดูแลลูกชายแรกเกิด ไม่เคยรักษาสัญญาอย่างจริงจัง ดีแต่ผลัดผ่อนเรื่องตรงหน้าไปเรื่อยๆ

จนวันหนึ่ง บางอย่างดลใจให้เขาหยุดคุยกับคนจรจัดหน้าตึก Gabe สามารถจำรองเท้าที่เดินผ่านหน้าเขาได้ทุกคู่ ลูจึงดึงเขามาเป็นเด็กส่งเอกสารในตึกเผื่อจะเป็นประโยชน์ในการสืบข่าวได้ เพราะตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเพิ่งว่างลง และลูกำลังขับเคี่ยวชิงตำแหน่งนี้กับเพื่อนร่วมงานจอมเจ้าเล่ห์อีกคน

แต่ในขณะที่ลูวิ่งรอกไปตามกำหนดงานแทบไม่ทันสักอย่าง เก้บกลับปรากฎตัวที่โน่นที่นี่ได้อย่างรวดเร็วราวปาฏิหาริย์ เหมือนหายตัวได้ เก้บเหมือนจะรู้ไปเสียทุกอย่าง ลูเริ่มไม่สบายใจและกลัวว่าอาจตัดสินใจผิด

ยิ่งใกล้วันคริสต์มาสเท่าไหร่ ลูก็ยิ่งย่ำแย่ทั้งในด้านการงานและชีวิตครอบครัว เขากำลังจะได้รับบทเรียนสำคัญว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต

* * * * * * * *

เรื่องนี้เป็นนิยายคริสต์มาสตามแบบฉบับเลยค่ะ

เริ่มจากตัวเอกนิสัยไม่ดีหลายอย่าง แต่เขาได้เจอคนหรือเหตุการณ์บางอย่างที่ผลักดันให้เขาหลุดฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นไคลแมกซ์สู่การกลับใจในตอนท้าย

เรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นนิยาย "ปาฏิหาริย์ในวันคริสต์มาส" ไปหน่อย ซึ่งก็ดีในระดับหนึ่ง--ถ้าอยู่ในอารมณ์อยากอ่าน ขัดใจนิดเดียวตรงที่คนแต่งคลี่คลายปมง๊ายง่าย ใช้คริสต์มาสเป็นตัวแก้สมการอย่างเดียวเลย

โดยรวมแล้ว เล่มนี้ซึ้งแบบเซซิเลียค่ะ (เว่อร์ไปนิด แต่รับได้)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 01:02:48

ความคิดเห็นที่ 70

15-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือเกี่ยวกับวันคริสต์มาส หรือมีบรรยากาศวันคริสต์มาสเป็นบรรยากาศหลัก

Dashing Through the Snow
ผู้แต่ง: Mary Higgins Clark, Carol Higgins Clark
สำนักพิมพ์ Pocket, พิมพ์ 2009 (พิมพ์ครั้งแรก 2008), 304 หน้า

เมืองเล็ก Branscombe กำลังจะจัดงานฉลองเทศกาลแห่งความรื่นเริงครั้งใหญ่ ทุกคนเตรียมการไว้อย่างอลังการ

หัวหน้าคนงาน 5 คนของซูเปอร์มาร์เก็ตประจำเมืองช็อคเมื่อพบว่าปีนี้ไม่มีโบนัสคริสต์มาส เพราะภรรยาสาวคนใหม่เกลี้ยกล่อมสามีให้จ่ายเป็นภาพถ่ายงานแต่งของพวกเขาแทน! ดันแคน..หัวหน้าคนหนึ่งผิดหวังมากจนขอแยกกลับบ้านคนเดียว ไม่ไปผับต่อกับเพื่อนอีก 4 คน

คืนนั้นเป็นคืนประกาศผลรางวัลล็อตเตอรี่ ล็อตเตอรี่จะแบ่งเงินรางวัลตามจำนวนคนที่ถูกรางวัล ครั้งนี้มีตั๋วถูกรางวัลแค่สองใบ ทั้งสองใบซื้อจากเมืองติดกัน สี่คนที่ไปผับดีใจยกใหญ่เมื่อรู้ว่าพวกเขาถูกล็อตเตอรี่ 160 ล้านเหรียญจากการลงขันซื้อทุกเดือน ดันแคนโชคร้ายที่เกิดเปลี่ยนใจไม่ลงขันในนาทีสุดท้าย ทั้งที่เบอร์ที่ถูกรางวัลเป็นเบอร์ของเขา เพื่อนทั้งสี่ตกลงกันว่าจะหารห้า..รวมดันแคนด้วย

แต่ดันแคนหายไปตั้งแต่คืนนั้น เขาหายไปไหน? ตั๋วที่ถูกรางวัลอีกใบเป็นใบที่เขาแอบไปซื้อหรือเปล่า? แฟนสาวต่างเมืองของเขาเดินทางมาเซอร์ไพรซ์และหายตัวไป

อัลไวร่าห์กับเพื่อนและครอบครัวเดินทางมาร่วมฉลองงานเทศกาล แต่พวกเขาได้กลิ่นบางอย่างไม่ชอบมาพากล ใครจะนึกว่าเรื่องของตั๋วล็อตเตอรี่กับชายที่หายตัวไปจะเชื่อมโยงต่อไปถึงเรื่องของนักต้มตุ๋น ทายาทกองทุน และคดีฆาตกรรมหญิงชราเมื่อหลายปีก่อน คริสต์มาสปีนี้ชุลมุนจริงๆ

* * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวสืบสวนเบาๆ ท่ามกลางบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสค่ะ

ตัวเอกคืออัลไวร่าห์..นักสืบสมัครเล่นจากอีกเรื่องที่คุณปิยะรักษ์รีวิวไว้เมื่อเดือนก่อน (รึเปล่า? จำไม่ค่อยแม่นแล้ว) แต่เล่มนี้อัลไวร่าห์กับเพื่อนโผล่มาสืบจริงๆ ไม่ได้มีบทเด่นอะไรเป็นพิเศษ

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าเรื่องของดันแคนเป็นอะไรที่น่าสงสารมาก นอกจากชวดรางวัลใหญ่ที่ควรได้แล้ว ยังโดนหลอก เจ็บตัว แฟนหาย และอื่นๆ อีกมากมาย ช่างเป็นผู้ชายดวงกุดจริงๆ

ถ้าเทียบกับเล่มบน เล่มนี้เป็นนิยายคริสต์มาสที่อ่านสบายใจกว่าเยอะค่ะ (จริงๆ ถ้าบอกว่า MHC เขียนร่วมกับลูกสาว ก็คงเดาได้อยู่แล้วนิ)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 01:31:07

ความคิดเห็นที่ 71

Mary Higgins Clark นี่เคยเป็นหนึ่งในนักเขียนที่ติดตามผลงานทุกเล่มเลยค่ะ แต่ 3-4 ปีที่ผ่านมามัวแต่หลงใหลได้ปลื้มกับนักเขียนไทย 4 ท่านคือ ม. มธุการี ว. วินิจฉัยกุล ปิยะพร ศักดิ์เกษม แล้วก็ สิริมา อภิจาริน ติดตามอ่าน ตามล่าซื้อหนังสือทุกเล่มของนักเขียน 4 ท่านนี้เท่าที่จะหาได้ จนลืมนักเขียนอเมริกันที่เคยติดตามงานมาตลอดไปเลยค่ะ เห็นรีวิวของคุณยาคูลท์กับคุณปิยะรักษ์ในกระทู้ก่อน สงสัยได้เวลาแสวงหางานของนักเขียนอเมริกันที่เคยชอบและพลาดอ่านไปในรอบ 3 ปีที่ผ่านมามาอ่านเสียแล้วค่ะ หลังจากที่พบนักเขียนไทยที่มาเป็นนักเขียนในดวงใจให้ตามผลงานต่อไปแล้วอย่างนี้

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 03:11:29

ความคิดเห็นที่ 72

20-3.[II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน จะเป็นนักแสดง นายแบบนางแบบ หรือจะเกณฑ์คนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือตัวเองมาแสดงก็ได้ ถ้าไม่เป็นที่รู้จักให้เอารูปมาให้ดูด้วย

หัวใจสองภาค
ผู้เขียน ม. มธุการี
สำนักพิมพ์เพื่อนดี
๕๙๕ หน้า

เล่มนี้อ่านเป็นรอบที่ ๓ ค่ะคราวนี้ เห็นว่ากำลังทำเป็นละครอีกรอบ อีกรอบแสดงว่าเคยทำเป็นละครโทรทัศน์มาอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเป็นเมื่อไหร่เพราะไม่เคยดู

เรื่องนี้ที่จริงตอนแรกตั้งใจจะใช้ตอบโจทย์ข้อหนังสือในดวงใจ เพราะชอบมาก อ่านอีกรอบยังได้ แต่โจทย์ข้อนั้นตอบไปแล้ว ก็เลยเอามาใช้ข้อนี้แทน

เป็นเรื่องของตะวันฉาย หญิงสาวลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย พ่อเป็นนักธุรกิจที่มีหนี้สินหลายล้าน จนแทบจะล้มละลายอยู่แล้ว ตะวันฉายโตที่ออสเตรเลียและอยู่กับแม่ซึ่งเลิกกับพ่อแล้ว เรื่องเริ่มเมื่อตะวันฉายกลับมาหาพ่อที่เมืองไทย ได้เจอกับดนตร์ที่สนามบินโดยไม่รู้ว่าดนตร์จริงๆ แล้วเป็นลูกชายของอารยะซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของพ่อ ดนตร์อาสามาส่งบ้านเพราะไม่มีรถไปรับตะวันฉายจากสนามบิน สิ่งแรกที่ตะวันฉายเห็นเมื่อถึงบ้านพ่อคือพ่อกำลังเล่นการพนัน ขาไพ่ที่นั่งอยู่ด้วยคนหนึ่งคืออารยะ พ่อของดนตร์ อีกคนคือเสี่ยชัค ดนตร์กับเสี่ยชัคสนิทกันมากแม้นิสัยจะต่างกันลิบลับ เสี่ยชัคเป็นลูกครึ่งไทย-จีน แต่ออกไปทางพ่อซึ่งเป็นจีนมากกว่า เป็นคนเอางานเอาการ เป็นเจ้าของกิจการใหญ่และร่ำรวย (ถึงเรียกกันว่าเสี่ยเนอะ) ในขณะที่ดนตร์ไม่ได้เรื่องได้ราว ไม่ทำอะไรอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เอาแต่เล่นการพนันและอาศัยบารมีของพ่อ อาศัยเงินของพ่อกับติดเสี่ยชัค

ดนตร์สนใจตะวันฉาย ยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งสนใจ จากที่เคยผ่านผู้หญิงมาหลายคน แต่พอมาเจอตะวันฉายก็คิดว่าจะจริงจังด้วย แต่เสี่ยชัคเตือนว่าราญ พ่อของตะวันฉายอาจกำลังเอาลูกออกเร่ขายเพื่อใช้หนี้ เพราะเมียน้อยของราญเคยเอาลูกสาวอีกคนมาเร่ขายให้ตัวเองครั้งหนึ่งแล้ว ดนตร์เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ส่วนที่ไม่เชื่อเพราะชอบตะวันฉายเข้าแล้วจริงๆ ที่จริงเสี่ยชัคก็สนใจตะวันฉายอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยินดีเสียสละให้เพื่อน

ราญรู้นิสัยดนตร์ดี รู้ว่าไม่เป็นโล้เป็นพายก็พยายามกีดกันไม่ให้ตะวันฉายสนิทสนมด้วย ดนตร์โกรธ หันไปเล่นการพนันจนเป็นหนี้หลายแสน อารยะซึ่งอยากได้ตะวันฉายมาเป็นของตัวอยู่แล้วก็ยื่นข้อเสนอให้ลูกชายไปอยู่ลาสเวกัส เพื่อจะแยกทั้งคู่ออกจากกัน จากนั้นก็บีบให้ราญยอมยกตะวันฉายให้ตัวเพื่อแลกกับหนี้หลายสิบล้านที่ราญเป็นหนี้อยู่ ราญมาปรึกษาเสี่ยชัค และเสี่ยชัคก็ยอมให้เงินสิบล้านไปใช้หนี้โดยเอาตัวตะวันฉายไว้ ราญเข้าใจว่าเสี่ยชัคจะเก็บตะวันฉายไว้ในฐานะเมียน้อยก็เสียใจจนหัวใจวายตาย เสี่ยชัครู้เข้าก็เสียใจมาก สัญญาว่าจะดูแลตะวันฉายอย่างดี

เรื่องไม่จบแค่นี้นะคะ เล่าย่อๆ แค่นี้ก็แล้วกันค่ะ ไม่งั้นไม่สนุกเพราะขืนเล่าต่อมีสิทธิสปอยล์แหงๆ

ถึงเรื่องจะเครียดนะคะ แต่ประทับใจ อ่านแล้วมีความสุขที่ได้อ่านเรื่องดีๆ สำนวนดีมาก เนื้อหามีเหตุมีผล ไม่มีอะไรหลุดๆ ให้รำคาญใจ ถึงจะอ่านอีกรอบ และถึงจะรู้เรื่องหมดแล้วก็ยังอ่านชนิดรวดเดียวจบ วางไม่ลงเลยเหมือนครั้งก่อนๆ ที่อ่านค่ะ

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 05:45:45

ความคิดเห็นที่ 73

ในรูปนี่คงเป็นตัวละครหลัก ๓ ตัวในเรื่อง คือคนซ้ายคงเป็นเสี่ยชัค คนกลางตะวันฉาย คนขวาคือดนตร์ แหะๆ จริงๆ แล้วนักแสดง ๓ คนนี่คือใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จักซักคนเดียว แต่ดูจากรูปก็คิดว่าเหมาะสมดีค่ะ แต่ถ้าเสี่ยชัคจะขาวกว่านี้สักนิด หน้าออกจีนกว่านี้สักหน่อย และตะวันฉายจะดูเป็นลูกครึ่งกว่านี้อีกสักนิด ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 05:49:33

ความคิดเห็นที่ 74

สวัสดีตอนเที่ยง ๆ ค่า... smile
อ๊ะ ปล่อยของกันใหญ่ เดือนนี้ใช้กิ๊ฟแบบประหยัด ๆ เลยเหลือแจกถึงวันนี้ได้ แต่ขอแจกโจทย์ละกิ๊ฟนะคะ

ข้อคาสต์ตัวละครนี่สำหรับตัวเองรู้สึกยากจริง ๆ มีปัญหาเหมือนกับหลาย ๆ คนคือไม่ค่อยรู้จักดารา แหะ ๆ

ขอบคุณน้องไอซ์เรื่องโจทย์พระเอกผู้ร้ายค่ะ ได้การแล้ว มีนิยายรุ่นคุณปู่อยู่เล่มหนึ่ง เดี๋ยวหยิบมาตอบโจทย์ข้อนี้ได้

ขอส่งการบ้านมั่ง...(ขอพื้นที่ 4 คอมเมนต์เลยนะคะ) กับโจทย์นี้ค่ะ

25-2.[ยาคูลท์] โจทย์บุฟเฟ่ต์: อ่านหนังสือ 4 เล่มในหมวดต่อไปนี้ - นิยายไทย, นิยายแปล, นิยายภาษาต้นฉบับ, รวมเรื่องสั้น, รวมบทความ/สัมภาษณ์, นิยายภาพ/การ์ตูน (ใช้คำว่า "นิยาย" เพื่อให้เข้าใจ แต่จะเป็นหนังสือวิชาการก็ได้)

เล่มที่ ๑ (นิยายไทย) อ่าน...
"รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน : Rising Sun"
ผู้แต่ง "ณารา"
ผู้พิมพ์ สนพ.พิมพ์คำ (ครั้งที่ ๓ ก.พ. ๒๕๕๒)
๕๕๐ หน้า

เรื่องย่อ : เรื่องราวเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมืองโยโกฮาม่าในช่วงปีค.ศ. ๑๙๗๐ "แพรวดาว" นักศึกษาสาวไทยได้รับทุนไปเรียนต่อที่นั่น
เธอได้พบกับ "ทาเคชิ" บุตรชายคนเล็กแห่งตระกูล โอนิซึกะ ซึ่งเป็นกลุ่มยากุซ่าที่ใหญ่ที่สุดในเมือง...
ซึ่งเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ
ทาเคชิแอบหลงรักแพรวดาวในทันทีที่พบหน้า และเฝ้าแอบตามเธอจนรู้จักที่อยู่ และพยายามที่จะหยิบยื่นไมตรี....
แต่เขามีคู่หมั้นแล้ว ซึ่งเป็นลูกสาวตระกูลใหญ่อีกตระกูลหนึ่งซึ่งเป็นคู่ธุรกิจกันมากับตระกูลของเขา...
แพรวดาวนั้น แม้จะแอบมีใจให้กับทาเคชิไม่น้อยแต่ก็ต้องจำตัดใจ ด้วยรู้ว่าเธอกับเขาแตกต่างกันยิ่งนัก

หากก็มีเหตุไม่คาดคิด เมื่อพ่อ แม่ และพี่ชายคนเดียวของทาเคชิถูกลอบฆ่า...ทาเคชิต้องก้าวขึ้นมาเป็น "โอยะบุน" (หัวหน้า)ของกลุ่ม
แม้จะถูกเร่งรัดจากบิดาของไอโกะ คู่หมั้นสาว ให้จัดการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการ แต่ทาเคชิก็เพียรปฏิเสธเรื่อยมา โดยอ้างว่าเขาต้องการแก้แค้นให้บิดามารดาและพี่ชายเสียก่อน
หากต่อมา...เมื่อมีมือที่สามแทรกเข้ามา และชี้ให้ไอโกะเห็นว่า...ที่ทาเคชิไม่ยอมแต่งงานกับเธอนั้น
แท้จริงแล้วเป็นเพราะเขามีหญิงสาวชาวไทยอย่างแพรวดาวอยู่เต็มหัวใจจนไม่เหลือที่ว่างให้คู่หมั้นอย่างเธอต่างหาก
จึงสร้างความเจ็บแค้นให้กับไอโกะเป็นอย่างยิ่ง
เธอให้คนตามราวีแพรวดาว จนทาเคชิต้องปกป้องเธอ พร้อมกับประกาศให้เธอเป็น"ผู้หญิง"ของเขา

แพรวดาว กลายเป็นจุดอ่อนของทาเคชิ เมื่อศตรูรู้ว่า...เธอคือยอดดวงใจของเขา...
ส่วนแพรวดาว...แม้จะรักแสนรัก แต่เธอก็ต้องปฏิเสธการแต่งงาน เพราะเธอไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางการหักล้าง แย่งชิงอำนาจของกลุ่มยากุซ่า...
เธอต้องการกลับเมืองไทยหลังเรียนจบ เพื่อมีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ต้องหวาดระแวงใด ๆ
เส้นทางชีวิตของเขากับเธอจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง...
เขาและเธอจะต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถเคียงคู่กันไปในเส้นทางเดียวกัน

*************

หลังอ่าน....
เล่มแรกของ"ณารา" ที่ได้อ่านค่ะ
หนังสือหนามาก เรื่องราวสนุกสนานอ่านเพลินในระดับหนึ่ง
ชอบตรงการดำเนินเรื่องกระชับ ฉับไว แม้คนอ่านจะตะกุกตะกักนิดหนึ่งด้วยไม่คุ้นกับชื่อต่าง ๆ ในภาษาญี่ปุ่น...แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร...

ปัญหาของคนอ่านหัวโบราณอย่างอิชั้นกลับอยู่ที่ฉากโรมานซ์อันวาบหวาม ที่บรรยายละเอียดลออ (จนคนอ่านไม่ต้องใช้จินตนาการใด ๆ เลย )
เสียจนไม่อยากเชื่อว่ากำลังอ่านนิยายไทย ที่แต่งโดยคนไทย นึกว่ากำลังอ่านโรแม้งฝรั่ง...
(อ้อ...เรื่องนี้ผู้เขียนเขาดำเนินเรื่องในลักษณะเป็นแฟลชแบ็กของตัวเอก...คือแพรวดาวเล่าถึงเรื่องราวแห่งความหลังให้กับลูกสาวของตัวเองฟังน่ะค่ะ...
มีการย้อนกลับมายังช่วงเวลาปัจจุบันเป็นครั้งคราว...เพื่อดึงให้ผู้อ่านให้กลับมาเห็นภาพปัจจุบันไปด้วย
ทำให้แอบสงสัยว่า...หูยยยย....นี่แม่เขาเล่าฉากเลิฟซีนของตัวเองกับพ่อให้ลูกสาวฟังซะละเอียดขนาดนี้เชียว !)

บางทีก็อยากถามนักอ่านคนอื่น ๆ นะคะว่า...นิยายรักเนี่ย จำเป็นต้องมีฉากมหัศจรรย์มากน้อยแค่ไหน
ถ้าไม่มีฉากนี้จะทำให้คนอ่านน้อยลงหรือเปล่า
คุณภาพของนิยายรักจะด้อยลงไปหรือเปล่า...
ส่วนตัวแล้วคิดว่า...ถึงไม่มีฉากแบบนี้ เรื่องราวที่ดำเนินไปก็ไม่ได้ขาดตอนหรือสะดุดแต่อย่างใด...
ไม่ได้แอนตี้ฉากโรมานซ์นะคะ แค่คิดง่าย ๆ ว่า...จริง ๆ แล้วมันจำเป็นต้องมีหรือไม่...ในการสร้างสรรค์งานด้านวรรณศิลป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของสังคมและวัฒนธรรมของไทย
(เฮ้อ...เดี๋ยวขออนุญาตเก็บไว้คอมเมนต์ยาว ๆ ในบล็อกตัวเองดีกว่าค่ะ...เดี๋ยวแฟน ๆ โรแม้งจะค้อนเอา)

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 12:52:56

ความคิดเห็นที่ 75

เล่มที่ ๒ (นิยายแปล)...อ่าน...
กุหลาบเลือด / Mistress of devil's manor
ผู้แต่ง : ฟลอเรนซ์ สตีเวนสัน
ผู้แปล :ว.วินิจฉัยกุล
พิมพ์โดย สนพ.ดอกหญ้า
260 หน้า

โปรยปกหลัง :

" ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีผู้หญิงสองคน...
ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเริ่มต้นที่สาวงามคนไหนก่อนดี
แซฟไฟร่า เครน ผู้สวยและแสนดี
หรือว่าโรซาลีน สวยและทราม
เอาอย่างนี้ดีกว่า...
เริ่มที่คฤหาสน์บาร์-บี เมื่อหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา"

เรื่องเริ่มต้นและจบลง...เพียงเมื่อหนึ่งร้อยปีที่ล่วงไปแล้วจริงหรือ
การปรากฏกายของแซฟไฟร่าในช่วงคืนที่ชายหนุ่มทายาทของนิโคมาพักแรมในคฤหาสน์
และการกลับมาของกุหลาบเลือดล่ะ
เรื่องราวเหล่านี้จะอธิบายว่าอย่างไร

กุหลาบเลือด
ความลี้ลับสะเทือนขวัญ
ชวนคิดถึงมิติที่มิอาจคาดเดาได้

**********

เรื่องย่อ : ตัวเอกของเรื่องนี้เป็นหญิงสาวสวยชื่อ คิตตี้ เทเลแฟร์ เธอเกิดมาในกลุ่มมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่า "เมใจ" เป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจจิตแรงกล้า มีสัมผัสพิเศษ สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคตและติดต่อกับวิญญาณได้...
แต่คิตตี้ก็เป็นหญิงสาวที่ใช้ชีวิตเช่นสาวงามแห่งมหานครนิวยอร์กโดยทั่วไป เธอมีคู่หมั้นแล้ว ซึ่งเป็นคนกลุ่ม "เมไจ" เช่นเดียวกับเธอ เธอเป็นผู้จัดรายการโทรทัศน์ มีรายการของตัวเองชื่อ "ชั่วโมงอาถรรพ์"

เรื่องราวลึกลับนี้เกิดขึ้นเมื่อกิลเลี่ยน - เพื่อนสาวของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับในเมืองร้างกลางทะเลทราย ระหว่างการฮันนีมูน...
คิตตี้สัมผัสได้ถึงอันตรายที่เพื่อนได้รับ เธอจึงเดินทางไปที่นั่น ทั้ง ๆ ที่ถูกทักท้วงจากบิดา ผู้กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทาง และคู่หมั้นก็กำลังทำงานอยู่ต่างเมือง...
คิตตี้จะได้พบกับเรื่องราวลึกลับ สยองขวัญอย่างไรบ้าง...ขออนุญาตเก็บไว้ไปเล่าเรื่องย่อแบบยาว ๆ ในบล็อกแล้วกันนะคะ

***********

เรื่องราวดำเนินไปผ่านการเล่าของ"ฉัน" คือคิตตี้...แต่ก็มีเรื่องเล่าที่ซ้อนอยู่ในเรื่องเล่านั้นอีกที
อ่านบทต้น ๆ ก็เรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ค่ะ...
จนถึงเกือบ ๆ กลางเล่มนั่นล่ะค่อยตื่นเต้นเร้าใจ...กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น จนต้องอ่านอย่างต่อเนื่องจนจบแบบวางไม่ลงเลยทีเดียว...
สำนวนแปลเรียบรื่น (ชื่อผู้แปลการันตีได้เป็นอย่างดีเรื่องของสำนวนภาษา)

เล่มนี้เดี๋ยวอัพลงบล็อกแบบยาว ๆ ค่ะ เพราะอ่านแล้วอยากเล่ามาก...
เป็นหนังสือค่อนข้างเก่า อาจจะหาอ่านยากอยู่สักหน่อย

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 12:55:54

ความคิดเห็นที่ 76

เล่มที่ ๓ (รวมนิทาน)

๑๐๐ นิทาน ๑,๐๐๐,๐๐๐ กำลังใจ
One hundred wisdom stories from around the world
Compiled by Margaret Silf
แปลโดย นาริตะ
พิมพ์โดย สนพ.เรือนบุญ (ครั้งที่ ๗ ก.ย. ๒๕๕๐)
๒๔๐ หน้า

...๑๐๐ นิทานเพื่อการเติบโตทางจิตวิญญาณ และความงดงามแห่งปัญญา...

รายละเอียด

๑๐๐ นิทาน ๑,๐๐๐,๐๐๐ กำลังใจ เป็นการรวบรวมเรื่องราว
อันก่อให้เกิดความกระจ่างทางความคิด จากหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก
นำมาเล่าเรียงในรูปแบบของนิทาน เพื่อถ่ายทอดแง่คิดในการดำเนินชีวิต
ที่งดงามด้วยปัญญา
ในเล่ม...ท่านจะได้พบกับนิทานสั้นๆ
ที่จะต้องค้นหาบทสรุปบรรทัดสุดท้ายด้วยตัวของท่านเอง....
ผ่านปลายปากกานักเขียน นักคิดชั้นนำของโลก อาทิ

- ลีโอ ตอลสตอย
- เปาโล โคเอลโฮ
- ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน
- อีสป
- ออสการ์ ไวลด์
และ ฯลฯ
แล้วนิทาน....จะมิได้เป็นเพียงเรื่องเล่าเพื่อความเพลิดเพลินของชีวิต
เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

*************

หนังสือแบ่งออกเป็นภาคต่าง ๆ ทั้งหมด ๙ ภาคด้วยกัน ได้แก่
ภาค ๑. พรหมลิขิต (Destiny) ประกอบด้วยนิทานทั้งหมด ๑๑ เรื่อง เป็นเรื่องราวของการค้นพบตัวตน ความรัก ความศรัทธา และมิตรภาพอันงดงาม
ภาค ๒ .สมบัติในชีวิตประจำวัน (Treasure in Everyday Life) ประกอบด้วยนิทาน ๑๒ เรื่องที่เน้นในเรื่องราวของหน้าที่การงานของมนุษย์และความภาคภูมิใจในหน้าที่ของตน แม้จะเพียงน้อยนิด
ภาค ๓. ชัยชนะแห่งความดี ( The Triump of Good Over Evil) มีนิทาน ๑๒ เรื่องในภาคนี้ เนื้อหามุ่งเน้นในเรื่องของธรรมะชนะอธรรมนั่นเอง
ภาค ๔ คุณค่าอันยืนยาว ( Lasting Value ) นิทาน ๑๑ เรื่องบอกเล่าถึงการแลเห็นคุณค่าที่แท้จริงของสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของตลอดจนคุณค่าแห่งเวลาและความสุข
ภาค ๕ สัญญาณอันตราย ( Warnings) ประกอบด้วยนิทานทั้งหมด ๑๓ เรื่อง ที่บอกเล่ากล่าวเตือนมนุษย์ให้ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการเปลี่ยนแปลงหรืออันตรายนั้นเกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์เสียเอง
ภาค ๖ ศิลปะแห่งการครองชีวิตบนความจริง (The Art of Living True) นิทานทั้ง ๑๒ เรื่องในภาคนี้ บอกเล่าถึงทัศนคติในการดำเนินชีวิตและมองโลกที่แตกต่างกันของผู้คน
ภาค ๗ ความอดทนและความมุ่งมั่น (Patience and Determination) นิทาน ๙ เรื่อง บอกเล่าถึงคุณค่าและผลที่ได้รับจากความอดทนและความมุ่งมั่น
ภาค ๘ ความเสียสละ (Sacrifice) นิทาน ๑๐ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรักและการเสียสละ
ภาค ๙ ความสัมพันธ์ของเราต่อสรรพสิ่ง (Our Reltionship with All Creation) ประกอบด้วยนิทาน ๑๐ เรื่อง บอกเล่าให้เราได้รับรู้และเอาใจใส่ต่อคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และระมัดระวังผลของการกระทำใด ๆ แม้เพียงเล็กน้อยว่าอาจจะกระทบกระเทือนต่องสิ่งอื่นจนแผ่ขยายเป็นวงกว้างได้

**************

ทุกเรื่องราว ทุกสัจธรรมที่ปรากฏในนิทานหนึ่งร้อยเรื่องนี้ล้วนแต่มีความเป็นสากล...
เพราะเป็นเรื่องราวแห่งชีวิต เป็นเรื่องของความทุกข์ ความสุข...
และการดำรงตนอยู่ในโลกอย่างกลมกลืนสอดคล้องกับธรรมชาติ...
หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ เท่านั้น หากแต่เหมาะสำหรับคนที่เคยเป็นเด็กมาแล้ว...ไม่ว่าจะยาวนานมาแล้วสักกี่มากน้อย...
เพียงแต่คุณจะจำได้...ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต...เคยเป็นเด็กมาก่อน...
และใช้การระลึกรู้นั้นเปิดตาเปิดใจให้กว้าง เพื่ออ่านหนังสือเล่มนี้
คุณจะสัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์...ไม่ต่างจากที่เคยได้รับเมื่อครั้งเยาว์วัย

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 12:58:29

ความคิดเห็นที่ 77

ขออภัย...เกิดอาการสะดุดเล็กน้อย ไฟดับค่ะ

เล่มที่ ๔ (รวมเรื่องสั้น - สั้น)
"เอนหลังอ่าน"
โดย "เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย"
แพรวสำนักพิมพ์ จัดพิมพ์
๑๕๐ หน้า

โปรยปก :

รวมเรื่องสั้น ๆ เหมาะทั้งอ่านเอาเรื่อง และอ่านเอารส
จากแนวคิดที่ทำมุม ๔๕ องศากับพื้นโลก
..........
ต้นไม้สองกระถางสอนให้คนไร้พันธะที่ไปไหนมาไหนไม่เคยห่วงหน้าพะวงหลัง เริ่มเรียนรู้ความรู้สึก"ห่วง"
ทว่าในเยื่อใยพันธนาการนั้น คล้ายมีความอบอุ่นเจืออยู่ พอให้คนโสดรู้สึกได้ยามต้องจากบ้านไปไหน ๆ
เมื่อนึกขึ้นมาว่าอย่างน้อย...ก็มีสิ่งมีชีวิตสองกระถางรอคอยการกลับบ้านอยู่ - -รอให้ไปรดนำ เช็ดใบคอยให้พาออกไปอาบแดดตอนเช้า ๆ
การได้"ให้" ด้วยความรักและเต็มใจ ช่วยเพิ่มความหมายต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ
ต้นไม้เล็ก ๆ นี้ ช่วยให้ฉันตระหนักว่า หัวใจที่เต้นตุบ ๆ ธรรมดา ๆ ดวงหนึ่งจะปีติที่สุดเมื่อมันได้เต้นเพื่อผู้อื่น

***********

รวมเรื่องสั้น ๆ ๑๘ เรื่อง ที่บอกเล่าด้วยถ้อยสำนวนสบาย ๆ ...ที่คล้าย ๆ จะเป็นการคุยกันฉันเพื่อน
มีแทรกเจืออารมณ์ขัน ให้ได้อมยิ้ม นัยน์ตาใสอย่างต้องอกต้องใจ
มีการนำเสนอมุมมองต่อเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บางครั้งบางทีเราอาจจะละเลยหรือลืมเลือนไปด้วยเห็นเป็นธรรมดา ๆ
บางบทบางตอนมี(แอบ)เสียดสีสังคมแบบกระทบชิ่ง ...ไม่เจ็บไม่ปวดแต่แสบ ๆ คัน ๆ
รวมความว่าเป็นหนังสือที่อ่านเพลิน อ่านสนุก มีทั้งสาระ บันเทิงครบครันแบบทูอินวันอีกเล่มหนึ่งทีเดียว

(หนังสือเล่มนี้ได้รับเป็นของขวัญปีใหม่เมื่อหลายปีก่อน เก็บไว้ดีมากจนเพิ่งจะมารื่อเจอเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ...
คนให้เขารู้ว่าเป็นแฟนเจ้าของนามปากกานี้อย่างเหนียวแน่นมาแต่ไหนแต่ไร...
หยิบมาอ่านตอนใกล้ ๆ ปีใหม่ รู้สึกอุ่นในหัวใจขึ้นมาโดยพลัน)
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 13:48:07

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 13:21:01

ความคิดเห็นที่ 78

ขอคุยต่ออีกนิด...
คุณกุลธิดาคะ ทราบแล้วค่ะว่านิยายเรื่องอะไรที่ทำเอาคนอ่านถูลู่ถูกัง... ฮ่าฮ่าฮ่า

เพราแม่ไก่ก็เคยประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้เมื่อซีซั่นก่อน กับหนังสือเล่มหนา ๆ ของนักเขียนคนเดียวกันนี้เลย...ชื่อเรื่อง "เช - - - "
ตอนนี้หนังสือยังวางแอ้งแม้งอยู่ชั้นใต้โต๊ะนั่นเลยค่ะ จะยกให้ใครก็ไม่กล้ากลัวคนรับเค้าจะด่าเอา แหะ ๆ

ทักทาย & เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ ดอกไม้

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 13:35:15

ความคิดเห็นที่ 79

10-15.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือในดวงใจที่อยากแนะนำให้คนอื่นอ่าน

ผู้เสกทราย ภาค 1 น้ำตาลร้อยสี
ผู้เขียน ลวิตร์ (พัณณิดา ภูมิวัฒน์)
สำนักพิมพ์ เอ็นเธอร์บุ๊คส์ (ในเครือแจ่มใส)
จำนวนหน้า 486 หน้า
ราคาปก 299 บาท

เนื้อเรื่อง (เป็นเรื่องที่เขียนเล่าได้ยากมากๆ พยายามไม่ให้สปอยล์สุดๆ แล้วค่ะ)

ในประเทศที่คนใช้เวทมนตร์ถูกแยกออกจากคนธรรมดา
ประเทศที่คนใช้เวทมนตร์ถูกแยกออกไปอยู่ยังดินแดนหนึ่ง
ภายหลังจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลด ซึ่งเกี่ยวพันกับวีรบุรุษนาม “อมารอค”

เด็กหนุ่มกำพร้าพ่อและแม่นามคาซีมีร์ ได้พบกับคนทำน้ำตาลนามฟิลัน
ฟิลันที่ทำให้คาซีเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น
ฟิลันที่ทำให้คาซีค้นพบว่า ชีวิตตนเองมีค่า มีความหมาย

หากแต่..ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้คาซีมีร์มีพลังอันไม่คาดคิด
ก็ได้นำพาเจ้าตัวไปสู่หนทาง..ที่ดูคล้าย..โดดเดี่ยวมากกว่าเดิม

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

เป็นอีกหนึ่งงานแฟนตาซีที่แฝงแนวคิดหนักๆ แต่ถ่ายทอดด้วยกลวิธีสนุกได้ดีค่ะ
กับคำถามที่ว่า “คนที่แตกต่างกันอยู่ร่วมกันไม่ได้จริงหรือ?”
ถ้าอยู่ร่วมกันได้ หนทางออกนั้นคืออะไร วิธีการซึ่งจะนำไปสู่ทางออกนั้นต้องเป็นอย่างไร

ทว่า..แนวคิดที่ดูเหมือนหนักหนานั้น กลับถูกถ่ายทอดมาด้วยเรื่องราวที่ชวนติดตาม

อ่านสนุก และล่อหลอกให้อ่านได้เรื่อยๆ

นอกจากแนวคิดที่สอดแทรกมาในหนังสือเล่มนี้แล้ว
การสร้างตัวละครที่ยังเป็นจุดเด่นของนักเขียนคนนี้ก็ยังคงมีครบถ้วน
นั่นคือมีความ “กลม” และมีความเชื่อมั่นว่ามนุษย์ทุกคนมีความดีในตัว
มีส่วนที่แหว่งวิ่น มีจุดด้อย มีบาดแผล

แต่ทุกคน..ล้วนแต่มีความดีอยู่ในตัว
(ซึ่งทำให้เรารักและสงสารได้แม้แต่คนที่เหมือนจะเป็นผู้ร้ายในเรื่องนั่นแหละ)

และมีหลายๆ ตอน...ที่เรียกน้ำตาได้ไม่น้อยเลย ขี้แง

บรรทัดต่อไปนี้สปอยล์เล็กน้อย
ภาคหนึ่งนี้ยังจบอยู่ที่คาซีมีร์กลับมาเดินทางกับฟิลันได้
ทว่า...จากการอ่านในอินเตอร์เน็ต เรื่องราวหลังจากนี้ค่อนข้างหนักหนาเอาการอยู่ค่ะ
ซึ่งทำให้เกิดอาการเหมือนจะลงแดงว่า..โอ๊ยยยย เมื่อไหร่เล่มต่อไปจะออกเนี่ย ขี้แง

นอกจากนั้นยังมีตอนแถมอีกสองตอนคือ
ลูกปัดของฟิลัน ว่าด้วยการทำงานหาเงินของคาซี การซื้อของขวัญให้ฟิลัน
และของขวัญสำหรับวันเกิดรายา

และโอบดาว – เรื่องรักระหว่างมัธธายน์และนางไม้
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงมัธธายน์ และทำให้อะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลง

ยังคงมีอีกหลายเรื่องที่อยากพูดถึงค่ะ แต่คงจะเอาไปรีวิวในบล็อกอีกที (น่าจะเป็นปีหน้าเลย)

สรุปสุดท้ายว่า

ยังคงเป็นนักเขียนในดวงใจ และเรื่องนี้...ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ชอบมาก
และอยากให้คนที่ชอบอ่านหนังสือแนวนี้ได้อ่านทุกคนค่ะ

ปิดท้ายด้วยหลายๆ ประโยคที่อาจจะเป็นตัวอธิบายที่มาของชื่อหนังสือเล่มนี้นะคะ

“ตอนที่ทุกอย่างสิ้นไปในกองไฟ ข้าเคยคิดอยู่หลายปีว่าไม่มีอะไรมีความหมาย
ชีวิตของข้าเป็นของควบคุมไม่ได้
ไม่ว่าจะทำอย่างไรในที่สุดก็อาจจะถูกทำลายโดยสิ่งอื่นที่อยู่ภายนอกอยู่นั่นเอง” เขาบอก
แต่ชีวิตสิ้นหวังเช่นนั้นไม่เหมือนชีวิต วันหนึ่งข้าไปเห็นคนเป่าแก้ว
ทรายแต่ละเม็ดรวมกลายเป็นเนื้อแก้วใส
ข้าคิดว่ามันน่าอัศจรรย์...และตอนนั้นข้าก็คิดว่าใช่...
บางทีในตัวข้าก็คงจะมีทรายแต่ละเม็ดอยู่
ความเจ็บปวดแต่ละครั้ง ความยินดีแต่ละหน อย่างน้อยมันก็เป็นสมบัติของข้า
ข้าคิดว่าอย่างน้อยถึงจะทำอะไร กับสิ่งที่เกิดภายนอกไม่ได้
ข้าก็ยังทำอะไรกับสิ่งที่อยู่ข้างในตัวข้าเอง ทำให้มันมีความหมายขึ้นมาได้
เคอร์รัน ข้างนอกนั่น คนเขาเห็นความพยายามของเจ้าเป็นเหรียญตรา...
เป็นเพียงผ้ากับโลหะ เขาจึงแย่งสิ่งนั้นไป
ทว่ามีแต่ตัวเจ้าเองที่รู้...แท้จริงแล้วความพยายามกลายเป็นส่วนหนึ่งของเลือดเนื้อ
เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้ามุ่งมั่นกว่าคนอื่น ตัดสินใจฉับไวและรับผิดชอบกว่าผู้อื่น
เจ้าอาจจะเลือกทางผิดหรือไม่ข้าไม่รู้ได้
ข้ารู้แต่ว่ามันเป็นทรายของเจ้า
เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าตัดสินใจจะรับมาด้วยตนเอง
เมื่อตัดสินใจโยนลงไปในหม้อหลอมแล้ว
เจ้าก็ไม่มีทางทำให้มันกลับเป็นทรายได้อีกหรอก
แต่ที่จริงในที่สุดแล้ว มนุษย์ก็ไม่เหมือนแก้วตรงที่ไม่เคยมีอะไรแน่นอน
เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และไม่สามารถรู้รูปร่างที่แท้จริงเลยจนกว่าจะตาย
ปริมาณทรายสำหรับทำเครื่องแก้วแต่ละชิ้นถูกกำหนดไว้แล้ว
แต่ทรายแห่งประสบการณ์ของมนุษย์ไม่เคยมีขีดจำกัด
ดีเลว โง่ฉลาด ผิดหรือถูก ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอน
ถ้าคราวนี้เจ้าเห็นว่าตัวเองไม่ดีเท่าที่ควรก็เพิ่มทรายอีกสักหน่อย
แล้วตั้งใจหลอมให้ดีกว่าเก่าเถอะ
เพราะว่าในที่สุดสิ่งที่เราจะทำได้ก็มีเท่านั้นเอง"

แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 13:54:28

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 13:53:26

ความคิดเห็นที่ 80

คุณ ยาคูลท์ - อย่าเพิ่งด่วนเชื่อหมูค่ะ หมูอาจจะคาดหวังมากไปว่ามันต้องตลก ตอนจบต้องซึ้ง ร้องไห้น้ำตาท่วมปอด มันแค่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่ก็อ่านรวดเดียวจบเลยนะคะ / หมูก็ไม่ค่อยรู้จักดารา เมื่อวานเลยทำรีวิวข้อนี้ตั้งเกือบ 3 ชม. / คนแต่งสเตฟานี ตอนหมูค้นเจอก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะอายุเยอะขนาดนี้ (เมื่อเทียบกับนิสัยนางเอก)

อย่าไปแซวคุณนัทธ์เลยค่ะ คุณยาคูลท์ต่างหากที่ปล่อยของ แนว JLS มาเพียบเลย

คุณแม่ไก่ - หนังสือของณารา คนอ่านประจำจะรู้กันค่ะว่ามีฉากอย่างนั้นทุกเล่มเลย (หมูก็เลยซื้อทุกเล่มเลยเหมือนกัน)

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:30:25

ความคิดเห็นที่ 81

มารอบนี้นิยายรักเพียบเลย มีครบหมดทั้งไทย JLS จีน เกาหลีเลย
(น่าจะสลับผู้ดูแลกับรอบก่อนเนอะ ฮา)

ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่คุณแม่เรไรค่ะ ^ ^

อยากอ่านเรื่อง Almost Paradise ค่ะ แต่ที่นี่หา True Crime ไม่ค่อยได้

ชอบ casting ของคุณหมูย้อมสีจังค่ะ โดยเฉพาะยุนอึนเฮ
ตอนเล่นคอฟฟีพรินซ์น่ารักมาก ดูแล้วรู้สึกว่าเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ

เรื่อง เมด อิน เจอรแมนี ของ สีมน ที่คุณนัทธ์รีวิว จำไม่ได้ว่าเคยอ่านหรือยัง
แต่ชอบสำนวนที่คุณสีมนแปลเรื่อง Das Parfum ของ Suskin เอาไว้นะคะ

คุณยาคูลท์ รีวิวเรื่อง The Gift เลยนึกถึงเรื่องเกี่ยวกับ synesthesia ได้อีกเรื่อง
อันนี้นิยายแน่ ๆ คือ The Gift ของ Vladimir Nabokov ค่ะ
Dashing Through the Snow ของ MHC ยังไม่ได้อ่านเลย
แต่เห็นชื่ออัลไวราห์แล้ว คิดเลยว่า เราพลาดไปได้ไงเนี่ย

อ๊าย เรามีกุหลาบสีเลือดในชั้นหนังสือด้วยแหละ
เรื่อง ๑๐๐ นิทาน ๑,๐๐๐,๐๐๐ กำลังใจ ที่พี่แม่ไก่รีวิว จดใส่ลิสต์ด่วน

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 21:48:51

ความคิดเห็นที่ 82

แวะมาตอบโจทย์ก่อนไปนอนครับผม

10-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือ 2 เล่ม 2 ประเภท จาก 2 สำนักพิมพ์
เช่น เล่มแรกเป็นนิยายของอมรินทร์ เล่มสองเป็นเรื่องสั้นของ a book เป็นต้น

เล่มแรก ประเภทนิยายภาพ สำนักพิมพ์ a book

7
Seven
สำนักพิมพ์ a book
ราคา 190 บาท
จำนวน 272 หน้า

บุ๊กกาซีนกราฟิกฉบับปฐมฤกษ์ ในโครงการ abc comic ของสำนักพิมพ์ a book
ที่มาในชื่อตอนว่า ‘Seven Deadly Sins’ หรือ ‘บาป 7 ประการ’
พบกับ 7 การ์ตูนบาป จากฝีมือ 7 นักวาดเขียน...

[WRATH] BEANSPROUT & FIREHEAD THE SPECIAL CHAPTER : Lady Blackdress โดย ทรงศีล ทิวสมบุญ

เลดี้แบล็คเดรส ตัวละครที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดจาก ‘ถั่วงอกและหัวไฟ’ แสดงพลังอำนาจสีดำของเธอในฉากต่อสู้อันน่าอัศจรรย์

“สิ่งที่ฉันกำลังจะทำ เป็นไปเพื่อการมีชีวิตรอด
ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ยากเย็นกว่าการปลิดชีวิตตนเองนัก”

เป็นข้อผิดพลาดของผมเองที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ช้าเกินไป
เพราะเนื่องจากเนื้อเรื่องในตอนนี้มันได้มีอยู่ในหนังสือเรื่อง ‘BEANSPROUT & FIREHEAD IN THE BLACK SEASON : ถั่วงอกและหัวไฟ 2’ อยู่ก่อนแล้ว
พอมาอ่านเล่มนี้ทีหลังก็เลยทำให้รู้สึกผิดหวังอยู่เล็กๆ แต่มันไม่ใช่ความผิดของนักเขียนเลย
เพราะว่าเขาเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาก่อนที่จะส่ง ‘ถั่วงอกและหัวไฟ 2’ ออกมาให้ได้อ่านกัน
กับตอนนี้ผู้เขียนขอหยิบเอา ‘ความโกรธ’ มาเป็นแกนหลัก
กับการเอาตัวรอดในฝูงศัตรูของเลดี้ชุดดำ ที่ยังคงความโดดเด่นที่ภาพและเรื่องราวเหมือนเคย

[SLOTH] Hairlot โดย สุทธิชาติ ศราภัยวานิช

นักฆ่าสาวฝีมือดีแต่ขี้เกียจ (ตัวเป็นขน – จริงๆ !) ทุกๆ 7 ปี เธอจะรับงานเพียงจ๊อบเดียวเท่านั้น

“กลับไปนอนดีกว่า
เงินที่เหลือคราวที่แล้ว
คงพออยู่ไปได้อีก 7 ปี
...
อยากนอนตลอดไปจังเลย
ทำยังไงดีนะ”

จะว่าไปแล้ว ‘ความเกียจคร้าน’ มีอยู่ในตัวของทุกคน มันขึ้นอยู่กับว่าใครจะจัดการกับมันอย่างไร?
หรือมีวิธีรับมือกับมันแบบไหน? แต่คงไม่ถึงกับขั้นขี้เกียจตัวเป็นขนเหมือนกับตัวเอกในเรื่องนี้หรอกนะ
เพราะว่าถ้าใช่ อันนี้ก็ไม่ไหว มันเกินไปจริงๆ

[PRIDE] L’orgueil โดย เดอะ ดวง

การตามหาความหมายของคำคำเดียวที่คาใจชายหนุ่มมาทั้งชีวิต ไม่ได้จบลงอย่างที่เขาคาดเอาไว้

“พ่อฮะ แม่ฮะ... แล้วการสร้างภาพคืออะไรฮะ”

บาปที่นักวาดเขียนท่านนี้เขียนถึงก็คือ ‘ความหยิ่งจองหอง’ โดยนำ ‘การสร้างภาพ’ มาเป็นเรื่องราวหลัก
ส่วนข้อคิดดีๆที่ได้รับก็คือ ที่เห็นฉากหน้าว่าเป็นคนดีแสนดีน่ะ แท้จริงแล้วอาจมีฉากหลังที่ชั่วร้ายก็เป็นได้
พออ่านจบผมก็เลยมีความคิดดีๆอยากให้ ผู้นำประเทศ นักการเมืองและดารานักร้องบางคน
ได้มาอ่านเรื่องนี้เสียจริงๆ เผื่ออะไรดีๆจะได้เข้าหัว เข้าตัวพวกเขาบ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี

[GLUTTONY] Gulp โดย Puck

ตำรวจหนุ่มจะทำอย่างไรเพื่อหยุดยั้งขบวนการ ‘เขมือบแหลก’ ลึกลับที่กินกรุงเทพฯไปแล้วเกือบหมดเมือง!

“ขอให้ทุกท่านเจริญอาหารกับการกินบ้านกินเมือง”

‘ความตะกละ’ คือแกนหลักของเรื่องนี้แถมมีดีตรงที่นักวาดเขียนท่านนี้ไม่ได้เขียนถึง ‘ความตะกละตะกรามในอาหาร’
แต่แอบกัดเจ็บๆถึง ‘ความมักมากในเงินตรา’ ของพวกคอรัปชั่นกินบ้านกินเมืองทั้งหลาย
โดยโยงเข้ากับ ‘เกมงับๆ’ (ตั้งชื่อเอาเอง) เกมดังในเครื่องแฟมิคอมเกมนั้น
แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออกหรืออาจจะไม่เคยเล่นเกมที่ว่าจะให้ผู้เล่นบังคับเจ้าตัวกลมๆสีเหลืองปากกว้าง
และถ้าอยากจะผ่านด่านแต่ละด่านไปให้ได้ก็ต้อง ‘กินแหลก’ ของทุกอย่างที่ขวางหน้าให้หมดนั่นเอง
ซึ่งก็ต้องซูฮกให้กับนักวาดเขียนท่านนี้ที่ช่างผูกเรื่องได้แปลกแหวกแนวจริงๆ

[LUST] Neighbor โดย Aliza

เขามีความสุขกับการแอบมอง ส่วนเธอก็ตื่นเต้นที่ถูกลอบมอง

“มันทำให้ฉันล่วงรู้ความจริงอันเน่าเฟะว่า
ในโลกนี้มีพวกตัณหาราคะจัดอยู่นับไม่ถ้วน และอยู่ได้ในทุกคราบ”

ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นผลงานของนักวาดเขียนหญิง เพราะกับ ‘ตัณหาราคะ’ นั้น
ดูเหมือนจะเป็นบาปที่น่าจะเหมาะกับผู้ชายเสียมากกว่าในการถ่ายทอดออกมา
แต่นักวาดเขียนท่านนี้ก็ทำได้ดี จนน่าแปลกใจ แถมยังทำให้คนอ่านอดที่จะทึ่ง อึ้ง เสียวไม่ได้อีกด้วย
เพราะเธอถ่ายทอดออกมาได้น่าหวาด ‘เสียว’ จริงๆ ซึ่งมันก็ดีไปอีกแบบ
เพราะจะได้รับรู้ความคิดของฝ่ายผู้หญิงเขาบ้างว่าคิดกันอย่างไร? คิดกันแบบไหน?
และนักวาดเขียนท่านนี้ก็เลยขอหยิบเอาประเด็นร้อนๆ ที่มักจะตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่บ่อยๆกับ ‘คลิปหลุด’
มานำเสนอในมุมมองของเธอให้เราได้รับรู้กันไปเลยว่า...
บางที่ฝ่ายผู้หญิงก็อาจจะยินยอมพร้อมใจให้ถ่ายเองก็ได้ ใครจะไปรู้...

[GREED] ราชาหมา โดย Nuut

ความลับของสมบัติแห่งราชาหมาคืออะไร และทำไมคนที่ออกตามหา จึงไม่เคยมีใครได้กลับมาอีก?

“...นมนานมามีราชาองค์หนึ่ง
มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล
ล้นฟ้าล้นแผ่นดิน
ใช้เท่าไหร่ก็ใช้ไม่หมด

เมื่อตายไปเลยเอาสมบัติโยนทิ้งไว้
รอให้คนโลภได้แก่งแย่งแสวงหามันจนพบ
แล้วลงโทษความโลภนั้น
ด้วยการสาปให้กลายเป็นหมา
ไปชั่วกัลปาวสาน...”

ก็อย่างที่ประโยคที่เกริ่นไว้ ‘ความโลภ’ ไม่เคยปรานีใคร
และยิ่งเกิดกับ ‘มนุษย์’ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีบาปหนักด้วยแล้ว
ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้ยิ่งมืดมนมากมายหลายเท่านัก อย่างประโยคเด็ดในเรื่องนี้ที่กล่าวไว้ว่า...

“สำหรับมนุษย์หากสามารถไขว่คว้าหาสิ่งใดมาครอบครองได้แล้วนั้น
กลับไม่ต้องการให้มีคนอื่นใดที่จะมีโอกาสได้ครอบครองเช่นเดียวกับตน
และหากมนุษย์ไม่สามารถหาหนทางที่จะทำให้ตนเองสมปรารถนาได้แล้ว
ก็จะไม่มีวันยอมให้ผู้อื่น ได้มีหนทางอันสมปรารถนาเหนือไปกว่าตน”

และนี่ก็คือคำตอบของคำถามข้างต้นที่ถามไว้ว่า “ทำไมคนที่ออกตามหา จึงไม่เคยมีใครได้กลับมาอีก?”

[ENVY] ด้วยความยินร้าย โดย สะอาด

บทสนทนาของสองหนุ่มกับมุมมองที่แตกต่างอย่างสุดโต่ง อ่านแล้วลองถามตัวเองว่าคุณเป็นใครในสองคนนี้?

“ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ไม่ว่าชีวิตคนเราจะดิ่งนรกลงเหวแค่ไหน
มันก็เรียนรู้ที่จะมีความสุขได้ทั้งนั้น
ในขณะที่บางคน ชีวิต:-)ก็แสนจะบรรเจิดประเสริฐศรี
ก็ยังจะอุตส่าห์ไปอิจฉาชาวบ้านเค้า!”

เรื่องนี้ขอเล่าเรื่องราว ‘ความอิจฉา’ ผ่านมุมมองของคน 2 คน ที่คนหนึ่งมองโลกในแง่ดี แต่กับอีกคนมองโลกในแง่ร้าย
ที่สุดท้ายแล้วไอ้เจ้าความอิจฉาเนี่ยมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครอื่นเลย
แต่มันอยู่ที่ใจเราเองต่างหากที่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีแล้วหรือเปล่าเท่านั้นเอง แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าเราเป็นใครกันใน 2 คนนี้...

และขอปิดท้ายด้วยประโยคที่ชอบประโยคที่เหลือ ดังนี้...

“พ่อสอนเราเสมอว่า ในหน้าที่การงาน จงอย่าเป็นเหมือนขนมปังชิ้นล่างของเบอร์เกอร์
ต่ำต้อยและอยู่ล่างสุด โอกาสสัมผัสซอสน้อยกว่าชาวบ้าน ไร้งาและชิ้นบาง”

“...เมื่อเรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องโกหก คนเราก็มักจะจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง
มันทำให้ผมสับสนระหว่าง ‘ความจริง’ กับเรื่องที่ ‘สร้างขึ้นมา’ “
“มนุษย์ก็เป็นงี้แหละ ไม่ว่าใครหน้าไหน
เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอย่างแท้จริง”

และ

“อย่าดูถูกใคร แม้ผู้นั้นจะต่ำต้อยกว่าก็ตาม”

ตอนที่แนะนำ : [WRATH] BEANSPROUT & FIREHEAD THE SPECIAL CHAPTER : Lady Blackdress โดย ทรงศีล ทิวสมบุญ
และ [PRIDE] L’orgueil โดย เดอะ ดวง

สรุป เป็นฉบับเปิดตัว abc comic ที่แต่ละเรื่องมีดีแตกต่างกันไป
บางเรื่องภาพสวย บางเรื่องคำงาม บางเรื่องเนื้อหาโดน บางเรื่องข้อคิดดี
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของคนอ่านแล้วว่าจะชอบเรื่องไหน ตอนไหนมากกว่ากัน
แต่ผลลัพธ์สุดท้ายที่ให้กับคนอ่านทุกคนก็คือ แฝงไว้ด้วยข้อคิดดีๆทุกเรื่องราว

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 00:16:43

ความคิดเห็นที่ 83

เล่มที่สอง ประเภทรวมบทความ สำนักพิมพ์ FULLSTOP

KISS
จูบ
เขียนและเรียบเรียงโดย ชลธิชา ตั้งวรมงคลและจิตตามาส เอกวิภพ
สำนักพิมพ์ FULLSTOP
ราคา 195 บาท
จำนวน 200 หน้า

“จูบ...คุณคิดว่าไม่สำคัญ
แต่เมื่อคุณจูบฉัน... ทำไมฉันสั่นไปถึงหัวใจ”

กับบทเพลงบทนี้ที่หนังสือเล่มนี้นำมาเกริ่นไว้ในหน้าแรกๆ คงพอจะบอกใจความหลักสำคัญได้เป็นอย่างดี
เพราะนี่คือหนังสือที่รวบรวมสารพันเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘จูบ’ เอาไว้มากมาย...

ภายในเล่มคนอ่านจะได้พบกับทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการจูบ
ตั้งแต่ต้นกำเนิดจูบ ตำนานจูบ ขั้นตอนการจูบ นิยามจูบ สถิติจูบ เลยไปถึงการทำนายจูบกันเลยทีเดียว
โดยนำเสนอข้อมูลผ่านเรื่องราว ตำนาน ความเชื่อ สถิติ บันทึก งานวิจัยและคำบอกเล่าด้วยภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย น่าสนใจและไม่น่าเบื่อ
ไม่เหมือนกับหนังสือรวบรวมข้อมูลเชิงสารคดีเล่มอื่นๆที่มักให้ความสำคัญแต่กับเนื้อหา
โดยไม่สนใจภาษาที่นำเสนอ จนทำให้หนังสือออกมาน่าเบื่อสุดๆ

ชอบมากเป็นพิเศษกับรูปเล่มที่น่ารัก สีสันที่สดใส หน้าปกที่ดึงดูดใจ และข้อมูลที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น...

-มีหลายวัฒนธรรมที่เชื่อว่าการจูบเป็นการหลอมรวมกันระหว่างวิญญาณสองดวง

-New Year Kiss มีที่มาจากความเชื่อที่ว่าหากไม่ได้จูบใครสักคน ณ วินาทีที่เปลี่ยนผ่านสู่ปีใหม่ ปีนั้นทั้งปีจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย

-สัญลักษณ์ XOXO ที่มักใช้ลงท้ายจดหมายและอีเมล์นั้น มีความหมายแปลว่า จูบและกอดนั่นเอง (X = จูบ, O = กอด)

-‘จูบของจูดาส’ (Kiss of Judas) เป็นสัญลักษณ์ของ ‘จูบแห่งความตาย’ (Kiss of Death)

-การจูบแก้อาการสะอึกได้

-มีการทำวิจัยพบว่าผู้ชายที่จูบภรรยาก่อนออกจากบ้านไปทำงาน
มีรายได้มากกว่าถึง 20 – 30 เปอร์เซ็นต์และมีอายุยืนกว่าผู้ชายที่ไม่จูบภรรยา
เพราะว่าการจูบตอนเช้า (Morning Kiss) ทำให้ผู้ชายเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสุข

-ในระหว่างจูบหากความรู้สึกไม่อยู่กับคนที่จูบกันอยู่
ผู้หญิงมักนึกถึงแฟนเก่า ส่วนผู้ชายมักนึกถึงเพื่อนผู้หญิง

-นอกจากคำว่า kiss คนอเมริกันประมาณหนึ่งในสี่จะใช้คำแสลงว่า smooch

-บุคคลที่น่าจูบมากที่สุดคือ แองเจลินา โจลี่และจอห์นนี่ เดปป์

-จูบในหนังที่น่าจดจำมากที่สุด ผู้ชาย 2 ใน 5 เลือก Spider-Man
ฉากที่สไปเดอร์แมน (โทบี้ แมกไกวร์) ห้อยหัวลงมาจูบกับแมรี่ แจน (เคิร์สเต็น ดันสท์)
ส่วน 30% ของผู้หญิงเลือก Pretty Woman
ฉากที่วิเวียน (จูเลีย โรเบิร์ตส์) บรรจงประทับจูบลงบนริมฝีปากของเอ็ดเวิร์ด (ริชาร์ด เกียร์) ที่กำลังหลับอยู่
ทั้งๆที่เคยให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะไม่จูบลูกค้า

-ผู้หญิง 96% ชอบให้จูบที่คอและหู ส่วนผู้ชาย 57% ชอบจูบแบบเฟรนซ์คิสและขบเบาๆที่หู

และขอปิดท้ายด้วยประโยคโดนๆเหมือนเดิมกับ...

“จูบเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ของหัวใจสองดวง”

-หน้า 184-

“A kiss is something you cannot give without taking and cannot take without giving”

“จูบคือสิ่งที่ไม่อาจให้โดยไม่รับหรือรับโดยไม่ให้”

-หน้า 25-

“A man snatches the first kiss pleads for the second,
demands the third, takes the fourth, accepts the fifth – and endures all the rest”

“ผู้ชายฉวยโอกาสเอาจูบแรกไป เว้าวอนขอจูบที่สอง เรียกร้องเอาจูบที่สาม
งั้นๆกับจูบที่สี่ หยวนๆกับจูบที่ห้า และจำทนกับจูบต่อๆมา”

-เฮเลน โรว์แลนด์- หน้า 132

“Kissing is like drinking salted water : you drink and your thirst increases”

“การจูบก็เหมือนการดื่มน้ำเกลือ ยิ่งดื่มยิ่งกระหาย”

-สุภาษิตจีน- หน้า 150

และ

“Kisses that are easily obtained are easily forgotten”

“จูบที่ได้มาง่ายๆ ก็ถูกลืมไปได้ง่ายๆเช่นกัน”

-สุภาษิตอังกฤษ- หน้า 185

ปล. รู้สึกติดใจอยู่อย่างหนึ่งคือ น่าจะมีรูปภาพประกอบเรื่องราวมากกว่านี้
เพราะกับบางข้อมูลนั้นคนอ่านบางคน (อย่างเช่นผมคนหนึ่งละ)
ก็ไม่รู้จักและนึกภาพสิ่งๆนั้นไม่ออกครับผม

สรุป แนะนำให้อ่าน โดยเฉพาะคนชอบจูบครับผม

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 00:22:06

ความคิดเห็นที่ 84

เอ่อ..เพิ่งนึกออกว่าลืมใส่ปกผู้เสกทราย

ขอเอามาแปะในคห.นี้แล้วกันนะคะ - -"

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 09:01:10

ความคิดเห็นที่ 85

มีพาดพิง...อย่าเรียกว่าปล่อยของเลยค่ะ
อ่านจบเล่มนึง ก็ได้รีวิวทีนึง
ตอนนี้ ต้องทิ้งช่วงอีกแล้วล่ะ
เพราะมัวปลุกปล้ำกับภาพถ่ายทริปมะละกาเข้าไว้ up blog เรื่องเที่ยวของเรา
ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเป็นชิ้นเป็นอัน
อ่านพร้อมๆ กันอยู่ 3-4 เล่มเนี่ยแหละ สำหรับโจทย์ 3 ข้อ
...อาจจะอ่านและรีวิวทันในรอบเดือนนี้อีกซักเล่มอ่ะนะ

แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 52 21:28:32

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 13:02:13

ความคิดเห็นที่ 86

ขอบคุณหลายๆ ท่านที่ต้อนรับขับสู้ ต้องบอกว่าจริงๆ ยังไม่ค่อยเข้าใจกติกาซักเท่าไหร่ เพราะเพิ่งเข้ามาในห้องสมุด

แต่เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเช่นเดียวกับการทำอาหาร (ก่อนนี้อยู่ในห้องก้นครัวอย่างเดียว)

จากคุณ : แม่เรไร

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 16:53:56

ความคิดเห็นที่ 87

20-3.[II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน จะเป็นนักแสดง นายแบบนางแบบ หรือจะเกณฑ์คนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือตัวเองมาแสดงก็ได้ ถ้าไม่เป็นที่รู้จักให้เอารูปมาให้ดูด้วย

เรื่อง >> รอยแค้นดินแดนรัก
ผู้เขียน >> ศตรัศมิ์
จำนวน >> 416 หน้า
สำนักพิมพ์ >> พิมพ์คำ
ราคาปก 250 บาท

ดาวล้อมเดินทางไปที่เกาะแห่งหนึ่งตามคำสั่งเสียของผู้เป็นแม่ ชื่อของเกาะและสถานที่ต่างๆ ที่แม่บอกไว้ก่อนตาย ทำให้หล่อนไม่อาจละความสนใจไปได้ เนื่องจากสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับที่มาที่ไปของตัวเอง แต่การข้ามไปยัง ‘เกาะดาวล้อม’ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ไม่มีคนเรือคนใดยอมไปส่งหล่อน มีเพียงชายคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยวางแผนให้หล่อนขึ้นไปบนเกาะนั้นด้วยวิธีแปลกประหลาด

มีคนหลายคนไม่ต้องการให้ดาวล้อมอยู่บนเกาะนั้นต่อไป ในขณะที่หญิงสาวดื้อดึงเพื่อค้นหาของสำคัญในห้องลับ...กุญแจ...ภาพถ่าย...แหวนเงิน คือสิ่งที่ต้องการ โดยไม่รู้มาก่อนว่าข้าวของเหล่านั้นได้ซุกซ่อนเรื่องราว และความลับไว้มากมายเกินกว่าจะคาดคิด

* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เรื่องนี้อ่านสนุก มีทั้งกุ๊กกิ๊ก ลึกลับ หวาดกลัว ฆาตกรรม
สมแล้วที่เรื่องนี้อยู่ในโครงการนักเขียนดาวดวงใหม่ที่น่าจับตามอง
เนื้อเรื่องเริ่มจากดาวล้อมต้องไปที่เกาะดาวล้อมตามคำสั่งเสียของแม่ก่อนตาย
พอไปถึงต้องเจอกับพระเอกที่วันๆ เอาแต่ปั้นหน้ายักษ์ใส่ตลอดเวลา แต่ในจิตใจน่ะอ่อนโยนมากๆ
ทั้งคู่ต้องร่วมกันตามล่าหาความจริงว่าที่ผ่านมา ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวยุ่งยากพวกนี้
แล้วใครต้องรับผิดชอบกับคนที่ต้องมาตายบนเกาะนี้

แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องเครียดๆ นะ แอบมีฉากน่ารักๆ ของพระ-นางด้วย ทำเอาเราหน้าแดงไปด้วยเลย
นึกไปว่าตัวเองเป็นนางเอกซะงั้น 555...

** มาดูตัวละครที่เราแคสดีกว่า **
- ดาหวัน (แม่ของนางเอก) > ต่าย-เพ็ญพักตร์
- ดาวล้อม (นางเอก) > อ้อม-พิยดา
- อดุล (พ่อนางเอก) > นิรุตต์ ศิริจรรยา
- อิชย์ (พระเอก) > ก้อง-สหรัฐ
- เดือนเด่น (น้องชายดาวล้อม) > เล็ก-ฝันเด่น
- การินทร์ (พี่ชายต่างแม่ของดาวล้อม) > น็อต-วรฤทธิ์
- หมอเวธน์ (เพื่อนการินทร์) > แซน-พนมกร
- ป้าจุรี (แม่บ้าน) > โฉมฉาย ฉัตรวิไล
- รุจิดา (หุ้นส่วนอิชย์) > เมย์ เฟื่องอารมย์
- อธิป (หุ้นส่วนอิชย์) > เอส-วรฤทธิ์
- ลินดา (แฟนหมอเวธน์) > ธนิดา กาญจนวัฒน์
- ผานิต (เพื่อนสนิทดาวล้อม) > แพท-ณปภา
- น้าฉาย (น้าของการินทร์) > วรินทร์ เชยอรุณ
- รุ่งนภา (แม่ของอิชย์) > หมู-พิมผกา
- สุทิน (ตำรวจ) > วิทยา วสุไกรไพศาล

:: ถามค่ะ ::
โจทย์ข้อ 15-12. [แม่ไก่] วันสิ้นปี มาเจริญมรณสติกันหน่อย อ่านหนังสือ 1 เล่มที่ได้รับแจกจากงานศพ หรือหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย

อ่าน >> เวลาเหลือน้อย ของ อ.บูรพา ผดุงไทย ได้มั้ยคะ??

จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 21:57:05

ความคิดเห็นที่ 88

อะแฮ่ม เพื่อความหลากหลายของหนังสือในรอบนี้ ขอตอบเพิ่มค่า

20-2.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่ชื่อเรื่องตรงกับชื่อเพลง ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

เพลง "มหัศจรรย์แห่งรัก" ของต้น ชาญณัฐ

มหัศจรรย์แห่งรัก (Wonderful)
ผู้แต่ง: Jill Barnett / แปล: กัณหา แก้วไทย
สำนักพิมพ์ เกรซ พับลิชชิ่ง, พิมพ์ 2552, ราคา 245 บาท, 362 หน้า

เลดี้ไคลโอหมั้นกับลอร์ดเมอร์ริค เดอ โบคอร์ท อัศวินเลื่องชื่อของอังกฤษเมื่ออายุได้เพียงสิบห้า เธอเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งที่แสนวิเศษ แต่ความหวังในวัยเยาว์ของเธอกลับเลือนหาย เมื่อต้องคอยอยู่ในคอนแวนต์ถึงหกปี โดยไม่ได้ยินข่าวคราวจากคู่หมั้นเลย

หลังจากใช้เวลาหลายปีในสนามรบ เมอร์ริคก็มองหาชีวิตที่เรียบง่าย มีภรรยาหัวอ่อนอยู่เคียงข้าง แต่เขากลับได้พบความสุขสงบเพียงน้อยนิด เมื่อต้องคอยปกป้องดูแลชายแดนแคว้นเวลส์ และยิ่งน้อยลงไปอีกกับคู่หมั้นที่เขาทอดทิ้ง เธอทำลายความหวังใดๆที่เขาหวังจะได้รับจากภรรยาว่านอนสอนง่าย ทำให้เขาปวดหัวเสียยิ่งกว่ายามอยู่ในสงคราม

แต่ความรักที่ทั้งสองมีเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง เมื่อต้องฟันฝ่าความสูญเสียร่วมกัน อย่างไม่ยอมแพ้และมั่นคงต่อความรัก ซึ่งก่อให้เกิดมหัศจรรย์แห่งรัก ขึ้นได้

* * * * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวอังกฤษย้อนยุค สมัยที่ชาวเวลช์ยังชอบยกพวกมาบุกปราสาทค่ะ

เนื้อเรื่องเป็นแบบโรมานซ์แนวอังกฤษปนสก็อตทั่วไป คือ นางเอกจะสวยแต่เพี้ยนๆ ผิดจากเลดี้ทั่วไปหน่อย พระเอกเป็นนักรบแข็งกระด้าง แต่เรื่องนี้ไม่งี่เง่าเท่าไหร่--ค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษเลยทีเดียว

คนแต่งไม่ค่อยใส่เซอร์ไพรซ์อะไรไว้ แต่เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกน่ารักหรือขำตรงบทสนทนา การบรรยาย หรือฉากที่ชวนให้ 'อิน' ดีค่ะ เล่มนี้รู้สึกว่าคนแต่งจะเล่นกับ "ความตรงกันข้ามกัน" ของหลายอย่าง ทั้งเรื่องชาย-หญิง นักบวช-แม่มด อ่านแล้วก็เพลินดี

ไม่ได้อ่านแนวย้อนยุคมานานตั้งแต่โรมานซ์ไซส์เล็กเริ่มหายไป พอมาอ่านอีกทีก็ชักคิดถึงเรื่องเก่าๆ แฮะ

(ปกจากเว็บสำนักพิมพ์)
แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 52 22:05:24

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 22:03:52

ความคิดเห็นที่ 89

ปกคห.87

จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 22:14:16

ความคิดเห็นที่ 90

10-2.[January Friend] อ่านหนังสือที่ผู้แต่งเป็นคนที่มีบ้านเกิดหรือที่พักอาศัยในเมืองหรือ จังหวัดเดียวกันกับคนอ่าน

Moonlight Sonata... เพลงรักใต้แสงจันทร์
ผู้แต่ง: Clear Ice (เป็นคนกรุงเทพ บ้านใกล้กันด้วยล่ะ อิอิ)
สำนักพิมพ์ แจ่มใส, พิมพ์ มีนาคม 2551, ราคา 139 บาท, 200 หน้า

‘มัสลิน’ จิตรกรสาวผู้สูญเสียความทรงจำไปเพราะอุบัติเหตุทางเครื่องบิน แม้จะมีสามีผู้แสนดีอย่าง 'เมธัส' คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่เศษเสี้ยวความทรงจำอันรางเลือนและความรู้สึกลึกๆ กลับคอยย้ำเตือนอยู่ภายในหัวใจว่า...เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อมัสลิน

จนกว่าจะไขปริศนาให้ได้ว่า ‘ทรอย’ ชายหนุ่มผู้มีผมสีน้ำตาลอ่อน เจ้าของดวงตาสีฟ้าในความทรงจำของเธอคือใคร และชื่อที่ขึ้นต้นด้วยอักษร A เป็นใคร

...เมื่อนั้นแหละ ที่ความทรงจำทั้งหมดที่ถูกปิดตายอยู่เบื้องหลังประตูแห่งหัวใจจะถูกเปิดออกอีกครั้ง...

* * * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวเรื่องผู้ใหญ่กว่างานช่วงแรกของคนแต่งค่ะ

พล็อตเกี่ยวกับการสลับร่างสลับวิญญาณ ที่ลงเอยเป็นเรื่องหนึ่งหญิงสองชายแบบไม่รู้จะเชียร์ใครดี เพราะไม่มีใครควรผิดหวังทั้งนั้น

เรื่องอาจเครียดเล็กน้อย แต่ได้ฉากบรรยากาศโรแมนติกอย่างลูเซิร์นหรือการบรรยายความรู้สึกอ่อนหวานของสามีภรรยา ทำให้อ่านแล้วได้อารมณ์ซึ้งด้วย (เป็นข้อพิสูจน์ว่าเรื่องซึ้งต้องมีความเครียดด้วย)

โดยรวมแล้ว คิดว่าคนแต่งทำได้ดีค่ะสำหรับเล่มบางๆ แต่มีเนื้อหาและอะไรให้คิดพอสมควร

(ภาพปกจากเว็บแจ่มใส)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 22:20:07

ความคิดเห็นที่ 91

15-3.[นัทธ์ + อมราวตี] อ่านหนังสือที่มีคำว่า "จันทร์" อยู่ในชื่อเรื่อง

พระจันทร์แสน (ร้าย) รัก
ผู้แต่ง: ปลากัด
สำนักพิมพ์ ไฟน์บุ๊ค, พิมพ์ 2552, ราคา 235 บาท, 384 หน้า

เธอ : ไม่จริงหรอกที่ใครหลายคนบอกว่า...เวลามองพระจันทร์แล้วให้ความรู้สึกโรแมนติก สำหรับเธอ อย่าว่าแต่โรแมนติกเลย แค่คำว่ารู้สึกดียังไม่เฉียด! แล้วจะให้หันมองเหรอ เฮอะ...หางตาก็ไม่แล พระจันทร์ร้ายๆ อย่างนั้น ขืนมองไป มีแต่จะหงุดหงิด!

เขา : ที่เขาบอกว่ายิ่งเกลียด ยิ่งใกล้ ดูท่าจะจริงเสียกระมัง ดูสิ เขาไม่ชอบฝน...ฝนกลับตกได้บ่อยๆ ไม่เลือกฤดู เขาไม่ชอบแมว...แมวก็ดันมาอยู่ในบ้านเสียได้ และที่ไม่ชอบสุดๆ ก็คือ...เอ่อ (ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน) ก็ยังต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ต้องดูแล ต้องทะเลาะ ต้อง...ต้อง...โอย...ต้องใกล้ยิ่งกว่าใกล้!

เท่าที่เคยดูละครมาเขาเคยเห็นแต่พระเอกกับนางเอก เริ่มต้นด้วยร้าย ลงท้ายด้วยรักกันทั้งนั้น ไม่ยักกะมีใคร ‘เริ่มต้นด้วยร้าย ลงท้ายด้วยร้ายกว่า’ อย่างเขาเลยสักคน คิดแล้วน่าเจ็บใจนัก แต่ก็อย่างนี้แหละ พระเอกสุดหล่ออย่างเขาดันมาหลงรักนางร้ายสุดแสบอย่างยายตัวแสบนี่เข้าแล้วนี่นา ทำไงได้

* * * * * * * * * * *

เรื่องนี้เป็นแนวรักกุ๊กกิ๊กที่พระเอกนางเอกไม่ได้ดี๊ดีแบบนิยายทั่วไปค่ะ

'อิษยา' หรือแนนเป็นน้องสาวที่พี่ชายหวงมาก แต่ต้องให้เธอย้ายไปอยู่บ้านพระเอกชั่วคราวในช่วงที่พี่ชายกับพี่สะใภ้กลับบ้านต่างจังหวัด เพราะเป็นคนเดียวที่สภาพแวดล้อมทางบ้านน่าไว้ใจที่สุดแล้ว แถมยังเป็นคนรู้จักกันดีด้วย

'ศศิน' เป็นเพื่อนกับพี่สะใภ้นางเอก เขาเป็นคนหน้าตาดีขนาดได้เป็นเดือนคณะ แต่สุดท้ายกลับได้ฉายา "เดนคณะ" เพราะเพาะฟาร์มสุนัขไว้ในปาก คิดยังไงพูดอย่างงั้นไม่มีกั๊ก เลยมีเรื่องฮาๆ ของเขากับแฟนเก่าเพียบ

แต่ศศินกับอิษยาไม่ถูกกัน เจอกันทีไรก็ลับฝีปากกันทุกครั้ง เมื่ออิษยาเข้ามาอยู่บ้านเขา เลยหายเหงาไปเป็นกอง เพราะต้องเอาหัวมาคิดหาวิธีรับมือพระเอก มีแฟนเก่า/คนที่แอบชอบโผล่มาสร้างสีสันอีกนิด แล้วเรื่องก็ลงเอยอย่างที่หนอนหนังสือคงเดาได้ไม่ยาก

เรื่องนี้แปลกตรงที่คนแต่งไม่ได้วาดภาพนางเอกหรือพระเอกไว้เลิศเลอ นางเอกดูจะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ (ต้องให้คนปลุก ต้องให้คนไปรับไปส่ง ทำอาหารไม่เป็น) พระเอกก็ปากเสียสุดๆ ขนาดในฉากที่ควรจะโรแมนติกก็ยังปล่อยมุกออกมาจนสาวกระเจิง (แต่คนอ่านฮา) หลายครั้ง

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าเรื่องนี้น่ารักมากตรงความปากเสียของพระเอกนี่แหละ เช่น ในฉากปรับความเข้าใจกันตอนท้าย พระเอกตามไปเจอนางเอกที่เข้าใจเขาผิด แล้วก็พูดว่า "ฉันจะบอกเธอว่า..."
...นางเอกรอลุ้น คนอ่านลุ้นตาม โอ้ สองคนนี้จะเข้าใจกันแล้ว...

"ลำปางหนาวมาก"

(คนอ่าน: มันเกี่ยวอะไรก๊านนนน~)

นี่ยังไม่รวมถึงวีรกรรมโชว์หมาในปากกับผู้หญิงในอดีตของเขาอีกนะ 555
เรื่องนี้เป็นตัวละครชุดเดียวกับงานก่อนหน้านี้ของคนแต่ง รู้สึกว่าจะไม่เคยอ่าน แต่คิดว่าอาจลองหามาอ่านค่ะ เผื่อฮาๆ น่ารักแบบเดียวกันอีก ^^

(ปกจากเว็บสำนักพิมพ์)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 22:48:18

ความคิดเห็นที่ 92

แอบอ่านรีวิว "ผู้เสกทราย" แบบผ่านๆ .. เค้าจะรอเล่มสองออกก่อนค่อยเริ่ม

ชอบชุดงานแปลของ ว. วินิจฉัยกุลชุดนั้นเหมือนกันค่ะ คุณแม่ไก่
รู้สึกว่าแปลลื่นดีจัง เรื่องก็สั้นๆ อ่านสบายใจดี

ยังไม่ได้อ่าน "รอยแค้นดินแดนรัก" เลยค่ะ เดาไม่ถูกว่าไผเป็นไผ
มองหน้าดาราไปก่อนละกัน 555

น้องไอซ์อ่านหนังสือชื่อเท่ห์ๆ ทั้งนั้นเลย ชุด abc นี่อยากลองอ่านเหมือนกันแฮะ

มีโจทย์หลายเล่มอ่านครบแล้วอีกข้อ แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ ง่วงมาก
ขอไปนอนก่อนค่ะ =_=

ป.ล.
รูปปกจากเม้นท์บน ลืมใส่เฉยเลย

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 22:57:22

ความคิดเห็นที่ 93

ตอบคำถามของ คุณส้มแช่อิ่ม
เวลาเหลือน้อย ของ อ.บูรพา ผดุงไทย สำหรับข้อเจริญมรณสติ
เรื่องนี้ ให้ผ่าน อ่านได้เลยค่ะ เนื้อหาในเล่มตรงหัวข้อเป๊ะเลย ^ ^

ย้อนกลับไปที่ คห. 17 ของคุณกุลธิดา เรื่องสั้นของ H.P. Lovecraft
ยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทยค่ะ เป็นเรื่องที่ออกแนวหลอน ๆ ชวนขนลุกมาก ๆ

เรื่อง 7 นี่จด ๆ จ้อง ๆ มานานแล้วค่ะ
แต่เห็นที่ยกตัวอย่างเรื่องแฮมเบอร์เกอร์ สงสัยเราจะเป็นพวกประหลาดแฮะ
ที่เก็บฐานแฮมเบอร์เกอร์ไว้กินท้ายสุด เพราะรู้สึกว่านุ่มอร่อยกว่าขนมปังชิ้นบน
มักจะไกลซอสแต่ใกล้ชิดเนื้อที่สุด แถมเป็นชิ้นที่ช่วยให้ซอสไม่เปื้อนนิ้วเีราด้วย

วันนี้ 25 ธันวาคมแล้ว สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ ต้นคริสต์มาส

_{www.canberra.edu.au}

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 02:20:22

ความคิดเห็นที่ 94

MERRY CHRISTMAS!

รอบนี้มีนิยายน่าอ่านหลายเล่มเลย ...
เข้ามาอ่านรีวิวและแจก give เช่นคยค่ะ
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 06:55:22

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 06:43:55

ความคิดเห็นที่ 95

ลบรูป..ขออภัยที่ทำให้เปลืองพื้นที่
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 07:37:38

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 07:36:34

ความคิดเห็นที่ 96

มาปักหมุด

เล่มสองออกกุมภานะคุณยาคูลท์

แล้วก็คนเขียนบอกว่ามีสามภาคหละ เพราะงั้น...อาจจะต้องรอให้ครบสามเลยนะ

รอไหวป่าว อิอิ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 09:47:38

ความคิดเห็นที่ 97

^
อ้าว นึกว่าสองเล่มจบเสียอีก หง่ะ..
กดลบเม็มโมรี่เรื่องนี้ไปจากหัวก่อนดีไหมเนี่ย? แต่คงยากแฮะ
อุตส่าห์วิ่งไปซื้อจากร้านด้วยความอยากอ่านตั้งแต่สองเดือนก่อนนู้น

ลืมไปเลยว่าวันนี้วันคริสต์มาส โฮ่โฮ่โฮ่ hoho

เกล็ดหิมะ สุขสันต์วันคริสต์มาสทุกคนนะคะ

เดี๋ยวต้องออกนอกบ้านไปรับงานด่วนอีกแล้ว
จะได้รีวิวต่อไหมเนี่ย T^T

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 10:43:10

ความคิดเห็นที่ 98

รอบนี้หนังสือน่าอ่านเพียบเลยค่ะ ทั้งนิยายและไม่ใช่นิยาย โดยเฉพาะเรื่องจูบ น่าสนใจเหมือนกัน เคยสงสัยมานานแล้วว่า XOXO เนี่ย คืออะไร วันนี้ได้รู้ซะที นิยายของคุณยาคูลท์ก็น่าสน แล้วยังการ casting สุดอลังการของคุณส้มอีก ทำเอาหมูละอายใจไปเลย (เราทำน้อยไปรึเปล่าเนี่ย)

สุขสันต์วันคริสต์มาสค่า ต้นคริสต์มาส
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 13:28:17
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 13:27:37

จากคุณ : XOXO (หมูย้อมสี)

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 13:26:50

ความคิดเห็นที่ 99

15-8.[แม่ไก่ + PTNCenter] วันพ่อ 5 ธันวา อ่านหนังสือ 1 เล่มที่เน้นบทบาทของคนเป็นพ่อ หรือบ่งบอกถึงความรักความผูกพันของคนเขียนที่มีต่อพ่อ

ทุกสิ่งอันที่เรามิเคยเอื้อนเอ่ยต่อกัน
ผู้แต่ง มาร์ก เลอวี
ผู้แปล อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง
แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า 297 ราคา 210บาท

เรื่องย่อจากเวปสนพ. :

อีกสี่วันกราฟฟิกดีไซเนอร์ช่างฝัน จูเลีย วัลช์ ก็จะได้เข้าพิธีวิวากับคู่หมั้น แต่แล้วพ่อผู้ไม่ลงรอยกันมายี่สิบปี แอนโทนี ก็เกิดเสียชีวิต และมีกำหนดพิธีฝังศพในวันเดียวกัน จูเลียจึงต้องยกเลิกการแต่งงาน และไปร่วมฝังศพพ่อ

หลังจากพิธีหนึ่งวัน มีลังใบใหญ่ส่งมาที่บ้านจูเลีย ภายในคือพ่อซึ่งเป็นหุ่นยนต์พร้อมรีโมตคอนโทรล เมื่อจูเลียกดปุ่มเปิดสวิตช์ หุ่นยนต์ที่เหมือนพ่อทุกกระเบียดนิ้วก็เสนอเวลาหกวันให้เธอที่เดินทางตามรอยความทรงจำของเขา ได้ทำความรู้จักเขาเพื่อชดเชยคืนวันอันห่างเหิน เพื่อเดินทางย้อนไปในเส้นทางแห่งอดีตที่ความรักครั้งเยาว์ยังคงรอคอยให้ออกติดตาม

****************************************************************

ความรู้สึกหลังอ่าน : ชอบมากๆๆๆเลยค่ะ ตอนนี้ขึ้นแท่นหนังสือในดวงใจไปแล้ว กรี๊ดดด มันสุดยอดมาก เป็นหนังสือแนว Feel Good คืออ่านจบแล้วรู้สึกดีๆ มันไม่ใช่มีแค่ความรักของพระเอก-นางเอก แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น

นางเอกทะเลาะกับพ่อมาตลอด เธอมักจะถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว ในขณะที่พ่อเดินทางไปทำงานทั่วโลก เธอรู้สึกเหงาและคิดว่าพ่อไม่รัก เมื่อพ่อตายได้ส่งหุ่นยนต์ตัวแทนมาให้ ทำให้เธอได้สนิทกับพ่อและเข้าใจพ่อมากขึ้น แถมพ่อเธอยังสอนอะไรอีกหลายอย่าง รวมทั้งช่วยเธอตามหารักครั้งแรกที่พ่อเป็นคนพรากมันไป

สนุกและซาบซึ้งมากๆ แต่ไม่ค่อยชอบตอนที่นางเอกนึกถึงเรื่องในอดีต(ความรักครั้งแรก) อ่านแล้วมันงงๆ สับสนๆ ยังไงก็ตาม เล่มนี้เป็น Highly Recommended !! หามาอ่านกันเถอะค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง ว่าแต่มีใครเคยอ่านเรื่องอื่นของนักเขียนคนนี้บ้างมั้ยคะ ชักติดใจแต่ก็กลัวจะไม่สนุก

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่สาวไกด์ใจซื่อที่รีวิวหนังสือเรื่องนี้ ทำให้หมูได้รู้จักและไปหามาอ่านบ้างค่ะ (ปกติจะไม่หยิบแน่ๆเพราะคิดว่าเศร้า รันทด) ย้อนกลับไปดูที่พี่สาวไกด์ Casting ใช้ได้เลยค่ะ แต่ว่าแอดัมนี่ดูแย่ไปนิ๊ด น่าสงสารออกค่ะ ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย (ป.ล. หมูยังสงสัยตอนจบ ขอหลังไมค์ไปคุยได้มั้ยคะ)

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 18:21:12

ความคิดเห็นที่ 100

5-6.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือที่ตัวเอกมีอาชีพฉีกแนวจากพิมพ์นิยมแทน เช่น หมอผี หมอดู คนขับเเท็กซี่

วีรกรรมทำเพื่อเงิน ภาค 7 [Seven Up]
ผู้แต่ง เจเน็ท อีวาโนวิช [Janet Evanovich]
ผู้แปล ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์
สนพ. บลิสพับลิชชิ่ง
จำนวนหน้า 295 ราคา 225 บาท

โปรยปกหลัง :

สเตฟานี พลัม นักล่าเงินประกันสาวปากกล้ากลับมาแล้ว ในภาค 7 นี้ จ๊อบใหม่ของสเตฟานีคือการไล่ล่าคู่เดตของยายมาซูร์ นามว่า เอ็ดดี เดอชูช ชายแก่นัยน์ตาฟางที่ดูเหมือนไร้พิษสง ฉายานักขนของเถื่อนจอมโหด

เดอชูชหนีไปได้อย่างหวุดหวิด โดยทิ้งศพผู้หญิงถูกยิงไว้ในบ้าน แถมเพื่อนของสเตฟานีที่เข้ามาพัวพันกับคดีนี้ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ เรื่องชวนปวดหัวไม่หยุดแค่นี้ พี่สาวคนดี (แต่น่าปวดหัว) ของสเตฟานีกลับมาอยู่บ้าน ซ้ำสเตฟานียังตกกระไดพลอยโจนต้องเตรียมตัวแต่งงานกับมอเรลลี

คดีก็ยุ่งเหยิงซับซ้อนขึ้นไปอีก เมื่อยายมาซูร์ถูกลักพาตัว สเตฟานีป่วนจนต้องขอความช่วยเหลือจากหนุ่มฮอตอย่างแรนเจอร์ แต่เขาดันมีข้อแลกเปลี่ยนสุดหวามใจนี่สิ...ว้าว

********************************************************************

ตอบโจทย์ : นางเอกทำอาชีพ เป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายการประกันตัว หรือเรียกง่ายๆว่านักล่าเงินรางวัล คือ ตามจับผู้ต้องหาที่ได้รับการประตัวแล้วไม่ยอมไปศาลตามกำหนด ถ้าจับมาไม่ได้ เจ้านายของนางเอกที่เป็นคนวางเงินประกันก็จะสูญเงินนั้นไป

ความรู้สึกหลังอ่าน : จบอย่างนี้ ฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่า เหมือนตอนเล่ม 5 เลย อยากรู้ตอนต่อไปมั่กๆ คดีในเรื่องจบเคลียร์เรียบร้อย แต่ที่ไม่เคลียร์ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกกับสองหนุ่มหล่อน่ะสิ (สรุปจะเลือกใครย่ะหล่อน คนอ่านอิจฉาเฟ้ย)

เล่มนี้ไม่ค่อยตลก แต่วีรกรรมของเจ้าบ๊อบก็ยังสุดยอด (นางเอกช่างทำไปได้ !!) ตัวละครใหม่จากเรื่องที่แล้ว ท่าทางจะกลายเป็นตัวประจำไปซะแล้ว ทั้งเจ้าบ๊อบ มูนเนอร์และดักกี แต่ทุกคนก็(ฮา พิลึก แปลก)สุดยอดกันทั้งนั้นเลย ยิ่งสร้างสีสันให้เรื่องนี้เข้าไปใหญ่ อยากอ่านเล่มต่อไปเร็วๆจัง

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 18:55:49

ความคิดเห็นที่ 101

โฮ่...โฮ่...สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะทุกคน ต้นคริสต์มาส

เข้ามาซะมืดเลย หะแรกว่าจะมารีวิวหนังสือวันคริสต์มาสที่อ่านจบไปตั้งแต่เมื่อคืน ...
แต่เปื่อยซะแล้ว เมื่อตอนกลางวันไปช่วยงานศพเพื่อนบ้าน กลับมาเป็นหวัด น้ำมูกไหล (แบบไม่มีวี่แววมาก่อนเล้ย...)
คืนนี้เห็นทีจะไม่ไหวแล้ว ต้องรีบนอนแต่หัวค่ำ

ยกยอดไว้รอบหน้าแล้วกันค่ะ...
คืนนี้ได้แต่อ่านรีวิว & แจกกิ้ฟนะคะ (ไม่น่าเชื่อ กิ้ฟยังเหลืออีกตั้งสิบกว่าดวงแน่ะ...)

กู้ดไนท์ค่า ผีผ้าห่ม

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 20:05:43

ความคิดเห็นที่ 102

กลับมาแล้วค่า คลื่นมหาชนในวันหยุดที่สยามช่างน่ากลัว T__T
เริ่มไมเกรนเล็กน้อย เมื่อวานเพิ่งหายนะเนี่ย
อย่าแปลกใจถ้ารีวิวขาดตอนละกัน (อาจแว่บไปดูหนังด้วยแหละ อิอิ)

25-2.[ยาคูลท์] โจทย์บุฟเฟ่ต์: อ่านหนังสือ 4 เล่มในหมวดต่อไปนี้ - นิยายไทย, นิยายแปล, นิยายภาษาต้นฉบับ, รวมเรื่องสั้น, รวมบทความ/สัมภาษณ์, นิยายภาพ/การ์ตูน

เล่มแรก - นิยายแปล
ฝันรักสุดฟากฟ้า (Imagine)
ผู้แต่ง: Jill Barnett / แปล: ณัฐภัทรา
สำนักพิมพ์ เกรซพับลิชชิ่ง, พิมพ์ 2552, ราคา 265 บาท, 400 หน้า

หลังจากต้องติดคุกอยู่หลายปีในข้อหาฆาตกรรม ทั้งๆที่เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แฮงค์ ไวแอท นักโทษแหกคุกก็รู้วิธีที่จะเอาตัวรอด แต่เขาไม่รู้ว่าจะเอาชีวิตรอดได้ถึงชั่วโมงหรือไม่ เมื่อต้องมาติดอยู่บนเกาะร้างกับสาวสวยผมบลอนด์และเด็กกำพร้าสามคน

แม็กกี้ มาร์กาเร็ต ฮันติงตัน สมิธ ทนายความสาวสวยจากซาน ฟรานซิสโกต้องจากชีวิตที่ทันสมัย และมั่งคั่งมารับบทแม่ที่หล่อนไม่เคยรู้จัก และยังต้องทำสงครามสติปัญญาควบคู่กับสงครามหัวใจกับผู้ชายยโสที่อวดดีที่สุดที่หล่อนเคยพบมา

ผู้ใหญ่สองคนที่มีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว กับเด็กเล็กๆสามคนที่รอดชีวิตจากเรือแตก ถูกโชคชะตาโยนให้ต้องมาอยู่ร่วมกัน เรียนรู้ที่จะเอาตัวรอด และมีโอกาสที่จะได้รู้จักกับความรักที่ทรงอำนาจเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้

* * * * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นโรมานซ์แนวติดเกาะ แต่ไม่ใช่แนวติดเกาะเน้นวาบหวิว เพราะเรื่องนี้มีเด็กกำพร้าอีก 3 คน (และจินนี่อีกตน) มาแจมด้วย

คนแต่งวาดภาพพระเอกกับนางเอกไว้ต่างกันสุดขั้ว พระเอกเป็นนักโทษหลบหนี อยู่ได้ด้วยสัญชาตญาณล้วนๆ ในขณะที่นางเอกเป็นทนายสาวที่ใช้ชีวิตด้วยเหตุผลและกฎเกณฑ์

เมื่อสองคนต่างขั้วนี้มาติดเกาะด้วยกัน เลยตกลงอะไรกันไม่ได้สักเรื่อง ถ้าไม่ใช่เพราะสองคนนี้เป็นคนต่างเพศ (ที่สารเคมีปิ๊งกัน) และมีเด็กเป็นเหตุผลให้ต้องประนีประนอมกันแล้ว เรื่องนี้อาจเป็น Lord of the Flies ภาคผู้ใหญ่ได้ไม่ยาก

เนื้อเรื่องเล่มนี้ค่อนข้างเดาได้ง่าย ไม่มีอะไรมาก ชายหญิงติดเกาะพร้อมเด็ก ต่อมา ทั้งหมดก็เริ่มรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจอจินนี่ ขอพรให้กลับ จบ
..แต่ตอนอ่าน คนแต่งจะเขียนให้ตัวละครมีพัฒนาการ จากที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างคนต่างอยู่ คิดต่างกัน บางคนต่อต้านกัน ก็ค่อยๆ แบ่งเป็นฝ่ายก่อน (ชายดูแลชาย หญิงดูแลหญิงกับเด็ก) จากนั้น สองฝ่ายก็เริ่มกลืนกัน ให้ความรู้สึกเป็นครอบครัวในที่สุด

จินนี่ในเล่มนี้ค่อนข้างจะเป็นตัวประกอบค่ะ เป็นแค่ทางออกให้ตัวละครกลับบ้านได้..ประมาณนั้น และแม้แต่จินนี่เองก็มีพัฒนาการเช่นกัน

โดยรวมแล้ว เล่มนี้ให้อารมณ์อบอุ่นและมีแง่คิดมากกว่าที่คิดไว้ค่ะ ตอนแรกอ่านปกหลังเห็นว่ามีจินนี่ เลยนึกว่าเป็นแนวแฟนตาซีประเภทพรวิเศษบันดาลให้เกิดโน่นเกิดนี่ (ซึ่งก็คงสนุกดี แต่คงไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่) ไม่นึกว่าคนแต่งจะเน้นในส่วนของคนมากกว่าพร

(ภาพปกจากเว็บสำนักพิมพ์)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 21:20:26

ความคิดเห็นที่ 103

สุขสันต์วันคริสต์มาสทุกๆ คนค่ะ hoho

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 21:41:22

ความคิดเห็นที่ 104

เล่มที่สอง - การ์ตูน

โนไซด์ เกมนี้ไม่มีจบ (No Side)
ผู้วาด/แต่ง: Satomi Kei / Taniguchi Ikuyo
สำนักพิมพ์ วิบูลยกิจ, พิมพ์ครั้งที่สอง 2005, เล่มละ 40 บาท
ทั้งชุด 4 เล่มจบ จำนวนหน้า 178, 196, 180, 191 หน้าตามลำดับ

มินามิคาวะ มาซากิ..นักเรียนที่ร่าเริงและเป็นฮีโร่ของโรงเรียน เขาทุ่มเทชีวิตวัยรุ่นเพื่อเล่นรักบี้ แต่กลับไปไม่ถึงสนามแข่งระดับประเทศก่อนเรียนจบ เพราะการวางทรัยลูกสุดท้ายโดนคู่แข่งสะกัดไว้เสียก่อน

คุโบตะ ริคุ..จอมเกเรที่เป็นตัวรังเกียจของโรงเรียน เขาเป็นลูกคนรวยที่มีปัญหาทางบ้าน จึงทำตัวเกะกะระรานไปทั่ว

ริคุก่อเหตุวิวาทในบาร์ จนเกิดอุบัติเหตุทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองเสียชีวิต คนหนึ่งตัวตายแต่สมองอยู่ อีกคนตัวอยู่แต่สมองตาย พ่อของริคุใช้อำนาจเงินรักษาชีวิตของลูกชายไว้ได้ แต่ "สมอง" ในร่างกลับเป็นของมาซากิ

มาซากิต้องเริ่มชีวิตใหม่ในชื่อริคุ ไม่สามารถกลับไปหาครอบครัวได้อีก แถมยังต้องรับมือความรังเกียจที่คนอื่นมีให้ริคุคนเก่า แต่ข้อดีคือร่างใหม่ของเขาเพิ่งอยู่ปีหนึ่ง เขาเริ่มสานฝันมุ่งสู่สนามแข่งรักบี้ได้อีกครั้ง

* * * * * * *

เรื่องนี้เป็นการ์ตูนกีฬารักบี้ค่ะ เนื้อเรื่องหลักจะอยู่ที่การสลับวิญญาณ และการฟันฝ่าของตัวเอกเพื่อให้ทุกคนเชื่อใจเขา

ระหว่างนั้นก็มีเรื่องรักด้วย มีตัวละครหญิงสองตัวคือ อิจิโจ ช่างภาพที่มาซากิเพิ่งรู้จักก่อนเสียชีวิต (และถ้าไม่ตาย คงจะจีบ) กับน้องสาวของมาซากิ ซึ่งทำไปทำมาดันมาหลงรักริคุ (หรือพี่ชายตัวเองในร่างใหม่) เสียนี่

นอกจากนี้ ยังมีตัวร้ายคือประธานนักเรียน ซึ่งดูจะจงใจขัดขวางริคุเป็นพิเศษ และคอยยุแยงคนในทีมให้แข็งข้อ แต่อุปสรรคใหญ่ที่สุดจะโผล่มาช่วงท้าย เมื่อหมอบอกว่าริคุเพิ่งฟื้นจากอุบัติเหตุร้ายแรง ถ้าเล่นรักบี้ต่อไปอาจไม่ปลอดภัยก็ได้

ดูแล้วเหมือนมีอะไรให้ติดตามเยอะมาก แต่คนแต่งเกลี่ยน้ำหนักเรื่องรักบี้ เรื่องสลับวิญญาณ เรื่องรักและปัญหาตัวร้ายกับสุขภาพไว้พอๆ กัน บางจุดก็แก้ไขแบบง่ายดายตามประสาการ์ตูนมองโลกในแง่ดี เรื่องนี้เลยจบได้ในสี่เล่ม แบบอ่านสบายๆ ค่ะ

ถ้าถามว่าสนุกไหม ก็สนุกและน่าเก็บดีค่ะ โดยส่วนตัว ค่อนข้างชอบอ. ซาโตมิ เคย์ที่แต่งพล็อตได้น่าติดตามแทบทุกเรื่อง (แม้ว่าจะจบแบบง่ายๆ เหมือนกันหมด) เรื่องนี้มีพิมพ์ทั้งหมดสองครั้ง ครั้งแรกช่วงการ์ตูนไม่มีลิขสิทธิ์ ครั้งที่สองคือปกที่เอามาโพสต์ค่ะ

(ปกจากเว็บ comtoon)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 22:11:28

ความคิดเห็นที่ 105

คุณปิยะรักษ์..โอเคค่า จะได้ลุยต่อ

คุณหมู..ไม่น้อยไปหรอกค่ะ พอดีเรื่องที่ส้มอ่านตัวละครค่อนข้างเยอะน่ะค่ะ

คุณยาคูลท์..ส้มว่าปล่อยของเยอะกว่าใครเพื่อนเลยนะคะ เอ...หรือจะโค่นน้องพลุจริงๆ

ขอตัวไปอ่านหนังสือต่อนะคะ ^^

จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 22:21:10

ความคิดเห็นที่ 106

คห. 96 กับ 97 ผู้เสกทรายมีสองภาคนะคะ ภาคสองก็จบแล้วค่ะ เขียนยาวกว่านี้ก็ไม่มีเรื่องเขียนแล้วเน้อ Y-Y

^w^= ขอบคุณที่รีวิวนิยายนะคะ คนเขียนดีใจ

จากคุณ : ลวิตร์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 22:41:41

ความคิดเห็นที่ 107

คุณส้มฯ
โค่นไม่ไหวหรอกค่ะ ดูคะแนนสิ วิ่งไปเกินครึ่งแล้ว
ที่ปล่อยของเพราะช่วงนี้มีเวลาเขียนรีวิวพอดีน่ะค่ะ

คุณเคียว - ดีจังเลย งั้นปีหน้าคงได้อ่านล่ะสิ
รู้สึกว่าปีหน้าเป็นปีของแฟนตาซีที่เฝ้ารอนะเนี่ย อีกเล่มก็จอมโจรยูเจนิดิส
คิดว่าเล่มจบของชุดเพอร์ซี่ (ปกอ่อน) ก็น่าจะออกปีหน้า อา... (*ทำตาลอย)

เรื่องที่สาม - นิยายไทย

Danger Sign! สัญญาณอันตรายบอกหัวใจว่ารัก 1-2
ผู้แต่ง: AoFFii
สำนักพิมพ์แจ่มใส, พิมพ์ 2552, ราคา 159+139 บาท, 216+192 หน้า

--เล่มหนึ่ง--
สำหรับคนมีแฟน วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาคงจะเป็นวันแห่งความทรงจำที่ดีมากวันหนึ่ง แต่สำหรับฉัน... มันเป็นวันที่เศร้าเอามากๆ เลยล่ะ T^T ฮือ~ เพราะจู่ๆ วันนั้นฉันก็ถูกแฟนบอกเลิกแบบสายฟ้าแลบ ซึ่งจะให้ฉันตามไปถามว่าทำไมเราถึงต้องเลิกกันด้วย เขาก็คงตอบฉันไม่ได้แล้ว เพราะหลังจากที่เราเลิกกันได้ไม่ถึงชั่วโมงเขาก็ถูกรถชนความจำเสื่อม O_O

ให้รอจนกว่าเขาจะหายดีเหมือนเดิมก็ไม่ได้ซะด้วย - -“ เพราะฉันต้องย้ายตามพ่อไปเรียนที่เชียงใหม่ แต่อะไรก็ยังไม่แย่เท่าการที่ฉันต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายของแก๊งแบล็กบัตเตอร์ฟลายที่มี ‘นายมนุษย์รองเท้า’ จอมหยาบคายเป็นหัวหน้านี่สิ! > <

-- เล่มสอง --
เอาแล้วไง! สมองของฉันจะต้องได้รับความกระทบกระเทือนมาแน่ๆ +_+ ฉันถึงได้เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับนายมนุษย์รองเท้าโชแปง!! ถึงหมอนั่นจะเอาแต่พูดจาเหน็บแนมฉัน เรียกฉันด้วยชื่อประหลาดๆ แต่ถึงเวลาที่ฉันตกอยู่ในอันตรายขึ้นมา เขาก็คอยปกป้องฉันเสมอ แล้วจะไม่ให้ฉันหวั่นไหวได้ยังไงล่ะจริงมั้ย -///-

แต่แล้ว ‘เพนท์’ แฟนเก่าของฉันก็มาปรากฏตัวตรงหน้า OoO คอยตามดูแลฉันไม่ห่างเหมือนกับว่าเรื่องที่เราเลิกกันเป็นแค่ฝันร้ายที่จบไปแล้ว โอ๊ย! รับรองว่าต้องเป็นเรื่องแน่ ก็ตอนนี้ฉันโดนยัดเยียดให้รับตำแหน่งว่าที่เจ๊ใหญ่แห่งแก๊งแบล็กบัตเตอร์ฟลายน่ะสิ -_-^^ โชแปงที่ถือว่าฉันเป็นสมบัติของเขาแล้วจะต้องไม่ยอมอยู่เฉยแน่ อึ๋ย~ หวังว่าฝนเลือดคงจะไม่ตกหรอกนะ T_T

* * * * * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็น JLS อีกแล้ว (อ่านให้อ้วกตายกันไปข้างนึง 555)

พล็อต..อ่า.. อ่านข้างบนเลย นางเอกเลิกกับแฟนเก่า ย้ายมาเชียงใหม่ แล้วก็เริ่มกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มรายใหม่ที่เป็นหัวหน้าแก๊งแบล็กบัตเตอร์ฟลาย

พระเอกก็ตามฟอร์ม JLS แนวเด็กแก๊งค์ คือจะเย็นชาบ้าพลัง ไม่สนหญิงจนมาเจอนางเอกต๊องๆ เข้า ส่วนนางเอกอาศัยความโก๊ะจนได้แฟนใหม่ มีศัตรูพระเอกจับนางเอกไปหลายครั้ง ยกพวกตีกันไปตีกันมา แล้วแฟนเก่าก็กลับมา เป็นเรื่องยุ่งๆ ช่วงท้ายอีกหน่อย

อือม์ พอมาเขียนรีวิวแล้วก็งงๆ ว่าสองเล่มจบได้ไงหว่า? ปกติพล็อตแบบนี้เล่มเดียวก็ได้นะ แต่ตอนอ่านก็โอเคค่ะ (ถ้าไม่สวมโหมดผู้ใหญ่หรือป้าระเบียบอ่ะนะ) อ่านลื่นไปเรื่อยๆ ไม่สะดุดอะไร

โดยรวมแล้ว เป็นแนวอ่านคลายเครียดเช่นเคยค่ะ

ป.ล.
หมายเหตุไว้หน่อย เพราะอ่าน JLS จบไปสิบกว่าเรื่อง รู้สึกว่าชอบ JLS ยุคเก่าๆ มากกว่าค่ะ เพราะอ่านแล้วฮากับสำนวนมากกว่าอ่ะ งานเด็กรุ่นหลังมีเล่มหรือสองเล่มเองมั้งที่อ่านแล้วหัวเราะกิ๊กกั๊กกับวิธีใช้คำ นอกนั้นออกแนวเดิมๆ ไปหน่อย

(ภาพปกจากเว็บแจ่มใส)
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 23:17:23

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 23:15:18

ความคิดเห็นที่ 108

Ho Ho Ho !!! Mery X'mas Na Krub .. . . .
รอบนี้ไม่มีรีวิว ยังอ่านไม่ครบ
ยกยอดไปรอบหน้าเลยแล้วกันนะ
แล้วจะค่อยๆทยอยๆมาส่งรีวิว

รอบนี้พี่ยาคูลย์ปล่อยของ !!!!

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 23:19:18

ความคิดเห็นที่ 109

กรี๊ด จะเที่ยงคืนแล้ว คอมพ์จะกลายเป็นฟักทอง!
ไม่ได้ ต้องรีบเขียนรีวิวก่อน >w<//

เล่มที่สี่ - นิยายภาษาต้นฉบับ

Titan's Curse (Percy Jackson & The Olympians # 3)
ผู้แต่ง: Rick Riordan, สำนักพิมพ์ Puffin, พิมพ์ครั้งแรก เมษายน 2007, 294 หน้า

เมื่อเทพีอาร์เทมิสหายตัวไประหว่างการล่าปีศาจ เหล่า Hunters และหลายคนเชื่อว่าเธอถูกลักพาตัวไป แต่อะไรหรือใครล่ะที่มีอำนาจขนาดลักพาตัวและหน่วงเหนี่ยวเทพีผู้มีฝีมือการต่อสู้ขนาดนี้ได้?

ที่สำคัญ เทพีอาร์เทมิสต้องกลับมาให้ทันการประชุมในวันเหมายัญ (Winter Solstice) มิเช่นนั้น ปวงเทพอาจไม่สามารถลงมติรบกับพวกไททันได้

แต่การหายตัวไปของเทพีเป็นการวางแผนซับซ้อนของศัตรูเก่าและใหม่ ซึ่งใช้แอนนาเบลเป็นเบี้ยตัวหนึ่งในการหลอกล่อด้วย เพอร์ซี่ที่ไม่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมการผจญภัยครั้งนี้จึงต้องแอบตามมาเอง เพราะเขาเชื่อในคำทำนายว่างานนี้จะลุล่วงได้ถ้า Hunters และ Half-Bloods ร่วมมือกัน

* * * * * * * * *

หลังจากเล่ม 2 ของซีรี่ส์จืดลงไปนิดนึง (แม้จะเรียกความสนใจได้ในตอนท้าย) เล่มนี้กลับมาสนุกสนานน่าติดตามและวางไม่ลงอีกครั้งค่ะ

สาเหตุหนึ่งน่าจะเพราะตัวละครน่าสนใจทั้งนั้น ทั้งเทพีอาร์เทมิสและเทพอพอลโล่ (ที่จ๊าบซะไม่มี) ทาเลียที่ออกมามีบทบาททั้งเรื่อง แอนนาเบลยังเด่นเช่นเคย..แม้จะโดนจับไปและไม่ค่อยได้ออกฉากเท่าไหร่

จุดที่ชอบคือเล่มนี้เพอร์ซี่ได้ใช้อภิสิทธิ์การเป็นลูกครึ่งมหาเทพมากกว่าที่เคย ตัวร้าย..น่าแปลกใจกว่าที่คิด และเซอร์ไพรซ์ของเรื่องค่อนข้างน่าเศร้าแบบที่ตำนานกรีกควรเป็น (จริงๆ มีเซอร์ไพรซ์หลายจุด แต่บางจุด คนอื่นอาจไม่เซอร์ไพรซ์เหมือนเราก็ได้)

นอกจากนี้ ยังมีตัวละครใหม่โผล่มา ส่อเค้าว่าน่าจะเป็นตัวละครสำคัญระดับเดียวกับเพอร์ซี่ ทาเลียเลย ทีนี้ คนแต่งจบแบบให้ตัวละครนี้หายไป..พร้อมความโกรธแค้นเพอร์ซี่
อา แค่คิดก็สนุกแล้วว่าตอนหน้า เพอร์ซี่จะโดนเล่นงานจากเทพ ปีศาจ ศัตรูเก่าและตัวละครตัวนี้แค่ไหน (คนอ่านซาดิสต์อ่ะ)

โดยรวมแล้ว เล่มนี้สนุกสูสีกับเล่มแรก หรืออาจสนุกกว่านิดนึงด้วย และจบแบบยั่วน้ำลายให้ติดตามต่อเช่นเดิม เพราะเล่มนี้เพอร์ซี่อายุ 14 แล้ว เหลืออีกสองปีก็จะรู้กันล่ะว่าอนาคตจะเป็นอย่างคำทำนายไหม

---- สปอยล์ ----
ตอนจบ คนแต่งบอกลางๆ ว่าตัวละครใหม่นี้อาจเป็นลูกครึ่งของมหาเทพฮาเดส แปลว่า..สามมหาเทพผิดคำสาบานหมดเลย 5555
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 23:51:29

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 23:41:02

ความคิดเห็นที่ 110

โฮะโฮะ ไม่ได้สิ น้องพลุ ต้องเลียนแบบใครบางคนในซีซั่นก่อนบ้าง อุอุ

หลังจากนี้ น่าจะเหลือเล่มหรือสองเล่มเองค่ะที่อาจตอบโจทย์ได้
โจทย์ที่เหลือจะเริ่มอ่านไปตามใจชอบแล้วมายัดลงโจทย์ยากแล้วล่ะ
อา เดือนหน้าต้องมีแต่หนังสือสาระเครียดๆ แน่เลย
(ตีนกาช้านนนน)

ไปนอนก่อนค่ะ ช่วงนี้เป็นเด็กอนามัย ไม่ใช่ค้างคาวแบบปกติ

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 00:00:33

ความคิดเห็นที่ 111

เผลอแป๊บเดียวหมดรอบห้าวัน ก็ได้เวลาแจ้งคะแนนแล้วสิ ^ ^

ขออนุญาตแจ้งคะแนนไวหน่อยนะึคะ เพราะพรุ่งนี้กว่าจะว่างก็เย็นโน่นเลย

เหลืออีกแค่อีกห้าวันสุดท้ายของเดือนธันวา มาลุ้นกันดีกว่าว่าใครจะตั้งโจทย์ต่อไป

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 00:48:55

ความคิดเห็นที่ 112

เห็นคะแนนคุณยาคูลท์แล้ว โอ้ มาเร็วและแรงมั่กๆ

กิฟต์หมดไปตั้งแต่กลางเดือนแล้วค่ะ ให้กิฟต์ใครไม่ได้แล้ว
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 52 02:38:05

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 02:37:15

ความคิดเห็นที่ 113

มารับไม้ต่อจากน้องส้มค่ะ

อาทิตย์สุดท้ายของปีแล้ว ให้ไวนะคะพี่น้อง ของรางวัลรอทุกท่านอยู่ อิอิ

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 15:49:06

ความคิดเห็นที่ 114

มาช่วยพี่พัทยืนยันเรื่องของรางวัล WWR ค่ะ
พี่หนิง ปลายทางของสายรุ้งฝากบอกมาด้วยว่า ของรางวัลมาถึงมือผู้ดูแลแล้วด้วยละ
อุบไว้ก่อนเพื่อความตื่นเต้น แต่รับรองได้ว่าพิเศษจริง ๆ ^ ^

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาแล้ว รีวิวหนังสือบ้างดีกว่า

-----------------------------------------------------------

25-2.[ยาคูลท์] โจทย์บุฟเฟ่ต์: อ่านหนังสือ 4 เล่มในหมวดต่อไปนี้ –
นิยายไทย, นิยายแปล, นิยายภาษาต้นฉบับ, รวมเรื่องสั้น, รวมบทความ/สัมภาษณ์, นิยายภาพ/การ์ตูน

ในเมื่อให้อ่านสี่เล่ม เราก็เรียงลำดับแบบนี้เลยดีกว่า ขออนุญาตใช้พื้นที่ 4 ความเห็นเลยก็แล้วกันนะคะ

snowman เล่มที่ 1 - นิยายแปล

ฆาตกรรมบทที่ 1 (First to Die)

ผู้เขียน : เจมส์ แพทเทอร์สัน (James Patterson)
ผู้แปล : ลักษณา จอมสืบ และ กานต์สิริ โรจนสุวรรณ
สำนักพิมพ์ : นานมีบุ๊คส์ ไครม์แอนด์มิสทรี (พ.ศ. 2551)
จำนวนหน้า : 403 หน้า

จากปกหลัง

ฆาตกรต่อเนื่องติดตามฆ่าคู่แต่งงานใหม่ในช่วงฮันนีมูนของพวกเขา
ลินด์เซย์ บ็อกเซอร์ นักสืบแผนกฆาตกรรมในซานฟรานซิสโกเข้ามาทำคดี
แต่ในระหว่างนั้น เธอก็ได้พบกันผู้หญิงอีกสามคน
หนึ่งทนายความ หนึ่งผู้สื่อข่าว และหนึ่งเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ
ทั้งหมดรวมตัวกันคลี่คลายอาชญากรรมที่สยดสยอง
ชมรมนักสืบหญิงได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!

เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกในชุด Women’s Murder Club ของ James Patterson ค่ะ
ตอนนี้ออกมาได้ 8 เล่มแล้ว คนเขียนเข้าใจตั้งชื่อเรื่องนิยายชุดนี้ดี โดยไล่เป็นลำดับตั้งแต่
First to Die, Second Chance, Third Degree, Fourth of July, the Fifth Horseman
The Sixth Target, Seventh Heaven, The Eight Confession และ The Ninth Judgment
(ดูรายละเอียดโดยสังเขปของแต่ละเรื่องได้ที่นี่ค่ะ http://www.jamespatterson.com/books_wmc.php)

ส่วนฉบับแปลเป็นภาษาไทย ให้ชื่อได้ตรงไปตรงมามาก ๆ คือ ฆาตกรรมบทที่ 1, 2, 3…

ฆาตกรรมบทที่หนึ่ง เริ่มจากเหตุฆาตกรรมคู่บ่าวสาวในโรงแรมหรูในซานฟรานซิสโก
เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกแทงและเชือดคอในคืนแรกของการแต่งงาน
มีร่องรอยการกระทำรุนแรงทางเพศกับศพของเจ้าสาว
ลินด์เซย์ บ็อกเซอร์ นักสืบแผนกฆาตกรรมเข้ามาทำคดี และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้พบ
ซินดี ทอมัส นักข่าวหนังสือพิมพ์เดอะโครนิเคิลที่ลักลอบเข้ามาทำข่าวและตกลงร่วมมือกัน
ในคดีนี้ ลินด์เซย์ยังได้เบาะแสเพิ่มเติมจากแคลร์ วอชเบิร์นเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ (coroner) ด้วย

แต่ไม่ทันไร คดีฆาตกรรมคู่บ่าวสาวรายที่สองก็เกิดขึ้นอีกจนได้
เมื่อมีผู้พบศพของเบกกีและไมเคิล เดอจอร์จในหุบเขาแห่งหนึ่งในแนปา
และการฆาตกรรมก็ยังไม่จบอยู่เพียงคู่ที่สอง หากยังเกิดเหตุฆาตกรรมในคืนฉลองแต่งงาน
ของเคทีและเจมส์ วอสคุห์ล โดยทั้งคู้ถูกยิงที่ศีรษะในห้องน้ำของร็อคแอนด์โรลฮอลออฟเฟม
ในคดีที่สามนี่เอง ลินด์เซย์เริ่มแกะรอยไปถึงผู้ต้องสงสัยรายสำคัญได้
เธอต้องการความร่วมมือจากอัยการเขตในการจับฆาตกร และในการติดต่องานครั้งนี้
ที่เธอได้ผู้ช่วยอัยการเขตจิลล์ เบิร์นฮาร์ต มาเป็นสมาชิกคนที่สี่ของชมรมนักสืบหญิง

ในขณะที่กำลังไล่ล่าตัวฆาตกรก่อนที่จะก่อคดีสะเทือนขวัญรายใหม่ขึ้นอีก
ลินด์เซย์ก็ต้องต่อสู้กับปัญหาโรคประจำตัวที่ดูจะหนักหนาขึ้นเรื่อย ๆ ไปพร้อมกันด้วย

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เล่าโดยใช้มุมมองของลินด์เซย์ บ็อกเซอร์ สลับกับการบรรยายของผู้เขียน
ส่วนบทเฉลยและส่งท้ายในตอนจบที่มีหักมุมกันหลายตลบ (แต่อ่านแล้วไม่เชื่อว่าทำแบบนี้ได้จริง)
พูดได้ประโยคเดียวว่า ช่างกล้านะคะ คุณแพทเทอร์สัน... - -'

ในส่วนของเนื้อเรื่อง ตัวเองเฉย ๆ ค่ะ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ตื่นเต้นเฉพาะตอนฆาตกรลงมือกับเหยื่อ
แต่ความโรคจิตของฆาตกรไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอาชญากรรมที่มีเรื่องเพศมาเกี่ยวข้องอย่างยิ่ง

เนื้อเรื่องส่วนใหญ่พอจะเดาได้ว่ามันมีอะไรตงิด ๆ อยู่ และเป็นอย่างที่กะไว้แล้วจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม แพทเทอร์สันใส่จุดหักมุมของเรื่องที่ควรจะสะเทือนใจและช็อคคนอ่านเอาไว้ด้วย
จุดนี้ตัวเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน แต่ไม่ได้สะเทือนใจหรือช็อคอะไร แค่คิดว่า อ้าว ซะงั้น...เท่านั้นเอง

ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัว ชอบเรื่องชุด ดร. อเล็กซ์ ครอสกว่าชมรมนักสืบหญิงเยอะ
ส่วนชมรมนักสืบหญิงนี้ อ่านแล้วเฉย ๆ ไม่ค่อยรู้สึกลุ้นหรืออยากเอาใจช่วยลินด์เซย์เท่าไหร่
ติดจะรำคาญเธออยู่นิด ๆ ในความอ่อนไหวและออกจะเจ้าน้ำตาไปหน่อยด้วยซ้ำ ^ ^"
ตัวละครที่ตัวเองชอบที่สุดกลับเป็นแคลร์ วอชเบิร์น เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพอ้วนดำ สวยน้อยที่สุดในสี่สาว
แต่พอโผล่ออกมาทีไร บรรยากาศที่ก้ำกึ่ง ไม่แน่ใจว่าจะเครียดหรือเศร้าดี สว่างทันตา เข้ารูปเข้ารอยทันที
อีกคนหนึ่งที่ตัวเองชอบ เป็นตัวประกอบอดทนชื่อ วอร์เรน จาโคบี สายสืบคู่หูดั้งเดิมของลินด์เซย์
รายนี้ก็เป็นคนผิวดำอีก อายุมากกว่าแต่ตำแหน่งต่ำกว่า ชอบกัดนางเอกบ่อย ๆ แต่เข้าอกเข้าใจกันดี
อดรู้สึกไม่ได้ว่า แพทเทอร์สันสร้างตัวละครผิวสีได้มีเสน่ห์กว่าตัวละครผิวขาวมาก
(ยิ่งอ่าน Second Chance เรื่องที่สองของชุดนี้ ความรู้สึกที่ว่ายิ่งชัด เพราะสาธุคุณวินสโลว์เท่สุด ๆ)

สรุปอย่างตรงไปตรงมา คือ จะไม่ซื้อก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าซื้อมาแล้วก็อ่านได้เพลิน ๆ ไม่เสียดายเงินค่ะ

ป.ล. หนังสือชุดนี้มีการทำเป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์และทำเป็นเกมคอมพิวเตอร์แล้วด้วย
เกมทั้งสามภาค คือ Death in Scarlet, Twice in A Blue Moon และ Darker Sahde of Grey สนุกดีค่ะ ^ ^

_{ไม่ได้รีวิวนาน ใส่โค้ดผิดสามรอบเลย - -'}

_{ภาพปกหนังสือจาก sanook}
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 52 17:13:49
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 52 17:12:28
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 52 17:11:31

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 17:09:09

ความคิดเห็นที่ 115

snowman เล่มที่ 2 - รวมเรื่องสั้น

เอลเลอรี่ ควีน ยอดนักสืบ : หมาสองหัว และประพฤติการณ์ตอนอื่น ๆ

ผู้เขียน : เอลเลอรี่ ควีน (Ellery Queen)
ผู้แปล : แดง ชารี
สำนักพิมพ์ : รหัสคดี (พ.ศ. 2551)
จำนวนหน้า : 280 หน้า

ในบรรดานิยายสืบสวนทั้งหลายของฝั่งอเมริกา ส่วนตัวเทใจให้เอลเลอรี่ ควีนมาเป็นอันดับแรกค่ะ
โดยเอลเลอรี่ ควีน เป็นทั้งตัวละครในนิยายสืบสวนชุดนี้และเป็นนามปากกาของผู้เขียนสองคน
คือ เฟรดเดอริค ดานเนย์ และ มันเฟร็ด บี. ลี นอกจากนี้ยังเป็นชื่อนิตยสารที่ทั้งสองเป็นบรรณาธิการ
รวมถึงได้ชื่อว่าเป็นนิยายสืบสวน ‘อเมริกัน’ (Ellery Queen is THE American detective story) ด้วย

คราวก่อนเคยรีวิวเป็นภาษาต้นฉบับไปแล้ว คราวนี้รีวิวฉบับแปลเป็นภาษาไทยบ้าง
รวมเรื่องสั้นชุดเอลเลอรี่ ควีนของรหัสคดีที่ออกมาก่อนหน้านี้ คือ สุภาพสตรีมีเครา ส่วนเล่มนี้เป็นชุดที่สอง
เป็น ‘รวมเรื่องสั้น 8 คดี “ปริศนา” ชุดใหม่ ท้าทายกว่าเก่า จากฝีมือนักเขียนชาวอเมริกันที่ดังที่สุดแห่งยุคทอง’
อย่างที่เขียนไว้บนปกนั่นละค่ะ โดยเรื่องสั้นเป็นเรื่องที่ว่าประกอบด้วย

- ประพฤติการณ์ ตอน หมาสองหัว (The Adventure of the “Two-Head Dog”)
- ประพฤติการณ์ ตอน นักกายกรรมแขวนคอ (The Adventure of the Hanging Acrobat)
- ประพฤติการณ์ ตอน นาฬิกาครอบแก้ว (The Adventure of the Glass-Domed Clock)
- ประพฤติการณ์ ตอน งานเลี้ยงน้ำชาเพี้ยน ๆ (The Adventure of the Mad-Tea Party)
- ประพฤติการณ์ ตอน ล่าสมบัติ (The Adventure of the Treasure Hunt)
- ประพฤติการณ์ ตอน มังกรกลวง (The Adventure of the Hollow Dragon)
- ประพฤติการณ์ ตอน บ้านแห่งความมืด (The Adventure of the House of Darkness)
- ประพฤติการณ์ ตอน ภาพเหมือนหลั่งเลือด (The Adventure of the Bleeding Portrait)

ในบรรดาเรื่องสั้นทั้งแปดเรื่องมีหลายเรื่องเหมือนกันที่ออกแนว Puzzle คือ ปริศนา
ที่ให้ทายจากคำบอกใบ้ก่อนตาย (Dying Message) ของผู้ตาย หรือปริศนาคำทายที่ควีนบอกใบ้
ตอนที่ชอบที่สุด คือ ตอน หมาสองหัว นักกายกรรมแขวนคอ แล้วก็ภาพเหมือนหลั่งเลือดค่ะ

สำหรับ สนพ. รหัสคดี นี้เชื่อใจได้ในฝีมือบรรณาธิการ แต่สำหรับเล่มนี้ เจอที่สะดุดจัง ๆ อยู่สองที่ คือ

ตอนหมาสองหัว หน้า 22 มีประโยคบรรยายว่า “เปลือยเปล่าอยู่ในเสื้อนอกกระดุมสองแถว”
อ่านแล้วสับสนเล็กน้อยว่า ตกลงคุณพี่แกจะใส่เสื้อผ้าหรือไม่ใส่เสื้อผ้ากันแน่
เดาว่าคำว่า ‘เปลือยเปล่า’ นี้ น่าจะมาจากคำว่า ‘barely’ ซึ่งจากบริบทนี้น่าจะใช้ในความหมาย
‘เห็นได้ชัดว่า’ มากกว่า (ตรงนี้แอบงงว่า ทางสำนักพิมพ์ปล่อยผ่านออกมาโดยไม่สะดุดใจได้ไง)

อีกจุดเป็นจุดที่ผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ คำว่า หินเลือดพระลักษม์ หน้า 104
หิน Bloodstone นี้ แปลถูก แต่สะกดตกหล่นหรือผิดค่ะ น่าจะเป็น เลือดพระลักษมณ์
หรือ ที่จะเห็นบ่อยกว่า คือ เลือดพระลักษณ์ จะสะกดแบบนี้ก็หยวนกันได้ นอกนั้นก็ไม่มีอะไร

ใครอยากลองอ่านนิยายสืบสวนแบบ ‘อเมริกันจ๋า’ แนะนำเรื่องของเอลเลอรี่ ควีนได้เลย
สำหรับเรื่องสั้นชุดเอลเลอรี่ ควีนของรหัสคดี ถ้าจะซื้ออยากให้เริ่มจาก ‘สุภาพสตรีมีเครา’ ก่อนนะคะ
เพราะในเล่มแรกคดีมีเบาะแสให้เดาที่ง่ายกว่า ไม่มีเรื่องที่ใช้มุกภาษาเท่ากับ ‘หมาสองหัว’ ค่ะ

_{ภาพปกจาก naiin.com}

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 17:18:18

ความคิดเห็นที่ 116

snowman เล่มที่ 3 - การ์ตูน (มังงะ)

คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา ตอน คดีฆาตกรรมแห่งโรงโอเปร่าครั้งที่ 3
(Kindaichi Shonen No Jikenbo : Opera Zekan – Daisan No Satsujin)

ภาพ : ซาโต้ ฟุมิยะ (Sato Fumiya)
เรื่อง : อามางิ เซย์มารุ (Amagi Seimaru)
สำนักพิมพ์ : วิบูลย์กิจ (พ.ศ. 2549)
2 เล่มจบ เล่มละประมาณ 180 หน้า

จากปกหลังเล่มแรก

คดีฆาตกรรมแห่งโรงโอเปร่าครั้งที่สาม
คินดะอิจิมีเหตุให้ต้องเดินทางมาที่โรงละครโอเปร่าอีกครั้ง
ที่นี่กลิ่นอายของเหตุการณ์คดีฆาตกรรมต่อเนื่องทั้งสองครั้งยังคงลอยอบอวล
และแล้วคดีฆาตกรรมฝีมือของ “แฟนธอม” แห่งโรงละครโอเปร่าก็บังเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม
คราวนี้ แม้แต่ผู้หมวดเคนโมจิก็พลอยหายตัวไปแบบลึกลับด้วย
ฉากความสยองด้วยเทคนิคเหนือชั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว...!!

คินดะอิจิ ฮาจิเมะแจ้งเกิดในคดีแรกจากโรงละครโอเปร่า
และการกลับมาอีกครั้ง หลังออกไปท่องเที่ยวและกลับมาอีกครั้งของคินดะอิจิก็มีเหตุ
ให้ต้องกลับไปยังโรงโอเปร่าที่เปิดคดีเปิดตัวของเขาอีกจนได้

ก่อนจะไปที่คดีฆาตกรรมในโรงโอเปร่าครั้งที่สาม อาจจะมีคนสงสัยว่า
ครั้งที่หนึ่งก็พอรู้แล้วว่าอยู่ในภาคแรก แล้วครั้งที่สองล่ะ มีตั้งแต่เมื่อไหร่
คำตอบสำหรับเรื่องนี้ คือ คดีฆาตกรรมแห่งโรงโอเปร่าครั้งที่สองอยู่ในนิยายของอามางิ เซย์มารุ
เรื่อง Opera Zakan Arata Naru Satsujin ที่ออกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1994
เพราะฉะนั้น คดีฆาตกรรมครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่สามค่ะ

ครั้งนี้ คินดะอิจิ มิยูกิ และผู้หมวดเคนโมจิได้รับเชิญกลับไปยังโรงละครบนเกาะของคุโรซาว่า
เพื่อชมการแสดงอำลาโรงละครเป็นครั้งสุดท้าย คณะผู้แสดงละครล้วนเป็นลูกศิษย์ของคุโรซาว่าผู้ล่วงลับ
แต่เบื้องหลังของพวกเขากลับมีอดีตบางอย่าง ซึ่งเกี่ยวพันกับสมาชิกที่ได้รับอุบัติเหตุไฟไหม้จนเสียโฉม
และเรื่องราวเกี่ยวกับนักชมละครผู้ลึกลับที่คอยติดตามดู เรโอนะ นางเอกดาวเด่นของคณะละคร
ซึ่งพฤติกรรมนี้คล้ายกับปีศาจแห่งโรงละครโอเปร่าที่คอยติดตามคริสตีน ดาเอ ในนิยาย
หากก่อนการแสดงจะเริ่มขึ้น สมาชิกในคณะละครนั้นกลับต้องประสบเหตุจนมีอันเป็นไปทีละคน
มิหนำซ้ำ ผู้หมวดเคนโมจิก็หายตัวไปอย่างลึกลับในเวลาต่อมาอีกด้วย
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นฝีมือของใคร ฆาตกรมีวิธีการอย่างไร และมีแรงจูงใดในเหตุฆาตกรรม
เป็นหน้าที่คินดะอิจิต้องค้นหาความจริงของคดีที่เกิดขึ้นในโรงละครปิดตายนี้ โดยมีชื่อของปู่เป็นเดิมพัน

จะว่าไปแล้ว แฟนธอมในคินดะอิจิดูจะอิงกับแฟนธอมฉบับละครเวทีของแอนดรูว์ ลอยด์ เวเบอร์
มากกว่าแฟนธอมในต้นฉบับของกัสตง เลอรูซ์จริง ๆ คงเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับละครเวที

คราวนี้ ตายเป็นเบือตามสไตล์คินดะอิจิอีกตามเคย แถมพักหลัง ๆ อ. อามางิจะชอบเล่นกับแผนที่
ระยะทางระหว่างสถานที่เป็นพิเศษ ตัวฆาตกรเดาได้ไม่ยาก แต่มึนกับทริคบางอย่างที่ฆาตกรใช้มากกว่า
ส่วนตัว ชอบแรงจูงใจกับเหตุผลของฆาตกรนะคะ เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วเห็นว่าเหยื่อพวกนี้น่าฆ่าทิ้งจริง ๆ - -'

มีบางจุดที่ไม่เกี่ยวกับคดีโดยตรง แต่ชอบ คือ ตอนเห็นหน้าฮิบิกิ ชิสึกะ เจ้าของคนใหม่หนแรก
ตัวเองขำเลยละค่ะ เพราะ อ. ซาโต้เล่นอำเรื่องหน้ากากแก้ว ด้วยการยืมคาแรกเตอร์มาใช้ได้หน้าตาเฉยมาก
อีกจุดหนึ่งที่ตัวเองอ่านแล้วแอบสงสัย คือ ตัวของชิรางามิ เคโตะ ผู้สื่อข่าวเรื่องลึกลับ (Mystery Reporter)
เข้าใจว่า อ. อามางิน่าจะอำตัวเอง เนื่องจากชื่อจริงของ อ. อามางิ คือ คิบายาชิ ชิน (Kibayashi Shin)
ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูน MMR: Magazine Mystery Reportage จะรู้ว่าพระเอกเรื่องนี้มีชื่อเดียวกัน
แถมมีชื่อย่อใกล้เคียงกัน แค่สลับตัว K กับ S แถมไม่พอคินดะอิจิภาคแรกยังชอบแซวเรื่อง MMR บ่อย ๆ ด้วย

ถึงจะเข้มข้นน้อยกว่าคดีฆาตกรรมในโรงละครโอเปร่าครั้งแรกสุด
แต่สำหรับคดีฆาตกรรมแห่งโรงโอเปร่าครั้งที่สามก็ยังถือว่าสนุกตามมาตรฐานคินดะอิจิอยู่ดีค่ะ ^ ^

_{ภาพปกจาก comtoon.com}

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 17:23:17

ความคิดเห็นที่ 117

เล่มสุดท้ายของโจทย์ข้อนี้ เปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องสืบสวนเป็นเรื่องอื่นบ้างดีกว่า

snowman เล่มที่ 4 - รวมบทความ

สี่ยอดหญิงงาม ผู้พลิกประวัติศาสตร์จีน

ผู้เขียน : ถาวร สิกขโกศล
สำนักพิมพ์ : ก ไก่ (พ.ศ. 2535)
จำนวนหน้า : 160 หน้า

บางส่วนจากต้นเรื่อง

หญิงงามที่ปรากฏชื่อเลื่องลืออยู่ในประวัติศาสตร์และวรรณคดีของจีนมีอยู่มากมาย
แต่ที่งามเยี่ยมสุดยอดมีสี่คน ได้แก่ ไซซี หวางเจาจวิน เตียวเสี้ยน และหยางกุ้ยเฟย
มีคำกล่าวสดุดีความงามอันเลอเลิศของยอดพธูทั้งสี่นี้อย่างคมคายกะทัดรัดว่า

ไซซี : มัจฉาจมวารี
หวางเจาจวิน : ปักษีตกนภา
เตียวเสี้ยน : จันทร์หลบโฉมสุดา
หยางกุ้ยเฟย : มวลผกาละอายนาง

ความงามและบทบาทของเธอแต่ละคนส่งผลสะเทือนต่อยุคสมัยของตนอย่างใหญ่หลวง
นาฏกรรมชีวิตของยอดพธูเหล่านี้น่าสนใจยิ่งกว่านิยาย จนกลายเป็นเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมานานนับพันปี

หนังสือเล่มนี้เล่าถึงความเป็นมาของหญิงงามในพงศวดารจีนแต่ละนาง
บางคนก็มีบันทึกว่าเป็นคนที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ เช่น ไซซี หวางเจาจวิน และหยางกุ้ยเฟย
แต่บางคนก็เป็นเพียงหญิงงามในวรรณคดีเท่านั้น คือ เตียวเสี้ยน จากสามก๊ก
สำหรับเรื่องราวของหญิงงามที่ว่ากันว่ามีตัวตนจริงนั้น ผู้เขียนได้เล่าเปรียบเทียบว่า
เรื่องที่เล่าต่อกันมา เรื่องใดเป็นความจริง เรื่องใดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น พร้อมแทรกเกร็ดประวัติศาสตร์จีน
เช่น ลำดับชั้นขุนนางของจีน ลำดับชั้นของนางสนมในวัง ชื่อจริงและชื่อฉายาของคนจีน เอาไว้ด้วย

ผู้เขียนเล่าเรื่องของหญิงงามแต่ละนางตามลำดับของยุคสมัย โดยเริ่มจาก

ไซซี (ราชวงศ์โจว ช่วง 537 ปีก่อนพุทธศักราช – พ.ศ. 322)
ลูกสาวชาวนาชาวแคว้นเยว่ที่เกิดร่วมยุคกับนักปราชญ์หลายคน ไม่ว่าจะเป็นของจื๊อ เอี้ยนอิง และซุนวู
ผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้แคว้นหวู ซึ่งมีเสนาธิการคนสำคัญอย่างซุนวูเป็นที่ปรึกษาต้องล่มสลาย
ไซซีไม่เพียงแต่ปรากฏตัวอยู่ในพงศวดารเรื่องเลียดก๊ก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจในการเขียน
นิยายกำลังภายในเรื่อง ‘กระบี่นางพญา’ ของกิมย้งในยุคสมัยต่อมาอีกด้วย

หวางเจาจวิน (ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ช่วง พ.ศ. 337 – พ.ศ. 551)
ลูกสาวสามัญชนที่ถูกเรียกตัวเข้าวัง หากไม่เคยมีโอกาสถวายตัวด้วยฮ่องเต้มีนางสนมจำนวนมาก
เมื่อฮูหานหยาข่านแห่งเผ่าซงหนูมาทูลของนางในของราชสำนักฮั่นเป็นชายาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี
นางจึงอาสาไปเป็นชายาของหัวหน้าเผ่าซงหนู ซึ่งอยู่ในดินแดนที่ห่างไกล วันนั้นฮ่องเต้จึงได้เห็นโฉมหน้านาง
แต่เมื่อตรัสยกให้แล้วก็คืนคำไม่ได้ ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลาที่นางมีชีวิต ฮั่นกับซงหนูปลอดสงครามกันโดยสิ้นเชิง
ทว่าในนิยายและบทงิ้วสมัยหลัง นางกลับถูกเปลี่ยนแปลงจากหญิงสาวที่เข้มแข็งกลายเป็นอ่อนแอไปแทน

เตียวเสี้ยน (ยุคสามก๊ก ช่วง พ.ศ. 763 – 823)
เตียวเสี้ยนเป็นหญิงงามที่ไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แต่มีบทบาทสำคัญในการโค่นล้มตั๋งโต๊ะในนิยาย
ไม่ว่านางจะเคยเป็นภริยาที่พลัดพรากกันไปของลิโป้ ตามความในสามก๊กจี่เพ่งอ่วย
หรือเป็นสาวใช้ในบ้านของอ้องอุ้นที่อาสาเป็นหมากบนกระดานในสามก๊กฉบับหลอกว้านจง (ล่อกวนตง)
ซึ่งในสามก๊กฉบับหลังนี้ได้สร้างให้เตียวเสี้ยนเดินเกมใน ‘กลลูกโซ่’ ของอ้องอุ้นจนตั๋งโต๊ะและลิโป้แตกคอกัน
เตียวเสี้ยนในพงศวดารจีนก็ได้ชื่อว่าเป็นตัวละครที่สร้างสีสันให้พงศาวดารสามก๊กสนุกอย่างไม่ต้องสงสัย

หยางกุ้ยเฟย (ราชวงศ์ถัง ในรัชสมัยของพระเจ้าถังเสวียนจง พ.ศ. 1228-1255)
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ที่มีพระปรีชาสามารถ พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ราชสำนักมั่งคั่ง
แต่ในภายหลัง ความรุ่งเรืองถึงขีดสุดดังกล่าวกลับชักนำให้พระเจ้าถังเสวียนจงเผชิญความล่มสลาย
เพราะทรงลุ่มหลงในพระสนมหยางกุ้ยเฟย ที่โส้วอ๋องนำมาถวายให้จนไม่เป็นอันปฏิบัติราชกิจ
แท้จริงแล้ว หยางกุ้ยเฟยเป็นนางมารร้าย หรือ เป็นผู้บริสุทธิ์ที่กลายเป็นเหยื่อทางประวัติศาสตร์กันแน่

ในช่วงท้ายเล่มหลังประวัติของหญิงงามแต่ละนาง ผู้เขียนได้เขียนบทวิเคราะห์และแสดงความเห็น
ด้วยว่า หญิงงามคนใดมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง หากเทียบกันแล้ว ใครควรเป็นสุดยอดแห่งหญิงงาม
และเปรียบเทียบนางงามในวรรณคดีไทยกับจีนว่ามีส่วนเหมือนหรือต่างกันอย่างไรไว้ด้วย

ส่วนตัวแล้ว ชอบหนังสือเล่มนี้นะคะ เพราะเรียบเรียงเรื่องราวได้น่าสนใจ ถึงบางตอนแอบโดด ๆ
หรือจัดหน้าแบบเบี้ยว ๆ ไปบ้าง และเสียดายที่ภาพประกอบเป็นภาพขาวดำเป็นส่วนใหญ่ไม่ใช่ภาพสี
ชอบมุมมองของผู้เขียนที่แทรกอยู่ในเรื่องด้วย เช่น ในตอนที่มีชื่อว่า ‘หยางกุ้ยเฟยเลวบริสุทธิ์?’
ผู้เขียนได้ตั้งคำถามว่า หยางกุ้ยเฟยเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีจริงหรือ และแสดงความเห็นวิเคราะห์ว่า
จริง ๆ แล้ว หยางกุ้ยเฟยถูกสามีเก่าและใหม่ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น
และแม้ว่านางจะมีข้อเสียตรงที่ขาดวิจารณญาณในการตัดสินใจ แต่ผู้เขียนก็เห็นว่า
เราเองก็ควรตระหนักด้วยว่า สังคมจีนยุคนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้ฝึกฝน ได้ใช้ปัญหามากแค่ไหนด้วย
อ่านประโยคนี้แล้วรักคนเขียนขึ้นมาอีกเป็นกอง ที่ว่าจะบ่นเรื่องพิมพ์ผิด กับเรียบเรียงงง ๆ บางช่วง ลืมไปเลย

เล่มที่มีอยู่เป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก ส่วนที่ออกมาปัจจุบันเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 แล้ว ปกสวยมาก ๆ
และมีการเพิ่มเนื้อหาในส่วนที่ว่า ไซซีเป็นคนไทหรือเปล่า ด้วย สำหรับเล่มนี้ แนะนำให้อุดหนุนได้เลยค่ะ

_{ภาพปกสีฟ้าทางซ้ายมือ เป็นภาพปกฉบับพิมพ์ครั้งแรก จาก kaimookbooks.com
ภาพปกสีชมพูทางขวามือ เป็นภาพปกฉบับพิมพ์ครั้งที่ห้า จาก sangsanbooks.com}

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 17:31:06

ความคิดเห็นที่ 118

ตกลงรอบนี้เล่นธีมฆาตกรรมเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า
มีเล่มสี่หญิงงามฯ ข้างบนเหมือนกันค่ะ ยอมซื้อใหม่เพราะเวอร์ชั่นล่าสุดมีภาพสีสวยงาม ส่วนเจมส์ แพตเตอร์สันนี่ระยะหลังไม่ถูกจริตกันแฮะ เล่ม 1st Degree นี่อ่านแล้ววางลืมเลย

อา ในที่สุดก็ติดอันดับท็อปกับเขาเสียที

ไม่อยากโม้ว่าวันนี้อ่านจบไปอีกสี่เล่มมาตรฐานกับสามเล่มเล็กแล้ว
แต่..มันเป็นหนังสือแนวที่มิอาจเผยแพร่ได้ ก๊ากกกก
เสียดายเหมือนกันที่เอามาพูดไม่ได้ เพราะสนุกมากกก บีบคั้น รันทด มีทั้งน้ำตาหยดติ๋งๆ กับหวานวาบ เรียกได้ว่าเป็นหนังสือที่อ่านแล้ว "อินสุดๆ" โดยไม่ต้องฝืนในรอบสองเดือนนี้เลยก็ว่าได้

อ่า เพิ่งนึกออกว่าเมื่อวานไปเอางานด่วนมา ขอมุดลงดินชั่วคราวค่ะ

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 18:26:05

ความคิดเห็นที่ 119

มาเก็บโจทย์ก่อนไปกินข้าวค่ะ

5-1.[แก้วกังไส + หมูย้อมสี + แม่ไก่] อ่านหนังสือที่กล่าวถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เช่น การระลึกชาติ คำสาป เวทย์มนตร์คาถา ฯลฯ

เรื่อง >> บุนชินซาบา คาถาเรียกผี
ผู้เขียน >> ลี จง โฮ : ปาร์ค คฺยอง อึน (แปล)
จำนวน >> 304 หน้า
สำนักพิมพ์ >> เนชั่นบุ๊คส์

ฆาตกรรมสยองขวัญที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียนของหมู่บ้านชนบท Y ความลับที่ถูกซ่อนไว้กลับมีเบื้องหลังที่คาดไม่ถึงกำลังจะได้รับการเปิดเผย

สาเหตุของปัญหาเด็กที่ถูกเพื่อนรังเกียจ รุมรังแก ที่เรียกว่าเป็น "หมาหัวเน่า" ความรุนแรงเกิดขึ้นมากในโรงเรียนสมัยนี้ เพราะความกลัวที่ว่าหากไม่ได้รังแกคนอื่นก่อน ตัวเองจะตกเป็นเหยื่อถูกรังแกแทน ไม่เพียงแต่สังคมปิดอย่างโรงเรียนเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามสัญชาตญาณแห่งความเห็นแก่ตัวในการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มใหญ่จะทำให้สบายใจ มักผลักดันผู้อื่นที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มให้ต้องเผชิญกับความสยองขวัญนั่นเอง

* * * * * * * * * *
เป็นเรื่องราวของสองแม่ลูกที่พากันย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน Y แต่บังเอิญว่าลูกสาวตาบอดแม่จึงเป็นร่างทรงให้ลูกคอยนำทางให้เวลาลูกออกไปนอกบ้าน แต่ชาวบ้านกลับเข้าใจว่าแม่ลูกคู่นี้เป็นผีร้ายที่นำความชั่วร้ายมาสู่หมู่บ้าน จึงรวมตัวกันใช้ศาลเตี้ยจัดการแม่ลูกคู่นี้อย่างโหด และเป็นจุดเริ่มต้นของเก้าอี้หมายเลข 39 ณ.ห้อง ม.5/3

"บุนชินซาบา บุนชินซาบา โออิเดะ คุดาซัย" เป็นคาถาเรียกผีที่เด็กกลุ่มหนึ่งใช้เรียกวิญญาณแม่ลูกคู่นี้ออกมา แต่เรายังงงอยู่ว่าในเมื่อมาเกิดใหม่แล้วทำไมวิญญาณจึงยังอยู่อีกล่ะ ??? และด้วยแรงอาฆาตจึงเกิดเรื่องราวร้ายๆ ตามมาไม่หยุดหย่อน แต่สรุปสุดท้ายบทจะจบก็จบแบบง่ายดายซะงั้น ไม่มีลุ้นมีแต่ฉากน่าขยะแขยงมากกว่ากลัว

ผู้แปลเขียนไว้ในหน้าคำนำตอนหนึ่งว่า "พบว่าตัวเองกำลังหลงเข้าไปในเรื่อง จนวางหนังสือไม่ลงแม้แต่วินาทีเดียว ผ่านไปสองชั่วโมงกว่าผู้แปลอ่านจนจบเล่ม น้ำตาคลอเบ้าโดยไม่รู้ตัว" แต่สำหรับเราความรู้สึกมันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง -- น้ำตาไม่ไหล วางหนังสือไปหลายรอบอยู่

คิดว่าผู้แปลคงไม่ถนัดแปลแนวนี้มากกว่า (แปลแนวผีเป็นครั้งแรก ปกติแปลแนวรักวัยรุ่น) ต้นฉบับเป็นของนักเขียนชาวเกาหลีที่ได้ชื่อว่าโด่งดังที่สุดพอมาเจอผู้แปลที่ไม่เคยแปลมาก่อนเข้าให้ อรรถรสเลยหดหายไปเยอะพอสมควร คิดเล่นๆ นะว่าถ้าให้ JBOOK ที่ถนัดแนวนี้แปลน่าจะดีกว่านี้รึเปล่า...

จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 18:37:58

ความคิดเห็นที่ 120

10-14.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่ผู้ดำเนินเรื่องหรือตัวเอกเป็นผู้ร้าย เช่น หรือว่าผมฆ่า? (Darkly Dreaming Dexter) หรือ เหี้ยมไม่เงียบ (The Silence of the Lambs) เป็นต้น

เรื่อง >> รหัสลับคนจูงหมา
ผู้เขียน >> กาบแก้ว
จำนวน >> 224 หน้า
สำนักพิมพ์ >> เลมอน กรีน

ชายลึกลับกับหมาหนึ่งตัวที่ชื่อมะลิ ไม่ว่าจะไปที่ใดต้องลงท้ายด้วยการมีคนเสียชีวิต ด้วยการจ่อยิงอย่างเผาขนที่หน้าผาก ใช่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีใครสังเกตเห็น ยังมีเด็กชายผู้หนึ่งที่ชอบเล่นกับมะลิคอยเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ ว่าเขาคงไม่ใช่คนร้าย แต่ผู้เป็นพี่สาวนี่สิ เธอเป็นถึงลูกสาวนายตำรวจใหญ่...เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเดาผิดไปได้

* * * * * * * * * *

เนื้อเรื่องอ่านแล้วเข้ากับ (ทุก) ยุค (ทุก) สมัยมากๆ เหมือนกำลังอ่านแฉชีวิตนักการเมืองเลย ผู้เขียนอธิบายได้เห็นภาพเป็นฉากๆ ข้อมูลแน่นทีเดียว ถ้านักการเมืองบางคนได้อ่านคงมีสะอึก

นายฉันทวัฒน์กับเจ้ามะลิสุนัขคู่ใจไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็จะเกิดฆาตกรรมขึ้นที่นั่น จนเป็นที่สังเกตของใครต่อใครรวมถึงบุปผา หลายคนคงเดาออกว่าที่บุปผชาติคิดไว้น่ะมันจริง 100% เพราะเราเลือกเล่มนี้มาตอบโจทย์นี้ก็เป็นการบอกกลายๆ แล้ว อีกอย่างผู้เขียนก็บอกว่าใครเป็นคนร้ายตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ร้ายเพื่อส่วนรวมกำจัดคนขี้โกงเพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอด

นอกจากนี้ยังมีมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างฉันทวัฒน์กับบุปผชาติ และเด็กชายปิ๊บกับเจ้ามะลิด้วย เป็นความรัก ความห่วงใย ความซื่อสัตย์ที่มีต่อกัน โดยมีเรื่องการเมืองและการฆาตกรรมเป็นตัวเชื่อมโยงเรื่องให้น่าอ่านมากขึ้น ชอบบทสรุปตอนท้ายเรื่องจังมันซึ้งดี ไว้ไปเล่าตอนนี้ที่บล็อกดีกว่าเพราะมันสปอยน่ะ

อันที่จริงเรื่องนี้สามารถเก็บโจทย์ 5-6 ตัวเอกมีอาชีพฉีกแนวได้ และอีกโจทย์ 5-9 มิตรภาพระหว่างเพื่อนได้ แต่เห็นแก่คะแนนเอ๊ย..ไม่ใช่เห็นว่าน่าจะเหมาะกับโจทย์นี้มากกว่านะ หรือคณะกรรมการว่าไงเอ่ย ??? ถ้าไม่ได้จะได้โยกย้าย

ปล.ปกหลังว่าบุปผชาติเป็นพี่สาวของปิ๊บจริงๆ เป็นน้าต่างหาก
แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 52 19:40:54

จากคุณ : ส้มแช่อิ่ม

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 18:39:44

ความคิดเห็นที่ 121

^
ข้อนี้ จำได้ว่าน้องไอซ์บอกว่าถ้าตัวเอกฆ่าคน หรือเป็นคนเลวร้าย (เช่น ฮิตเลอร์) ก็ถือว่าได้แล้วนะคะ

รอบนี้ประเดิมด้วยหนังสือน่ากลัวทั้งนั้นเลย สาวน้อยอย่างเราอ่านแล้วตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว กะรี๊ดดดด อิอิอิ

จากคุณ : อารมณ์ดีเพราะเจอหนังสือดี (ยาคูลท์)

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 20:15:42

ความคิดเห็นที่ 122

ปักหมุดลงคะแนนถึงคห 120 ค่า

ธีมฆาตกรรมมาแรงเจงๆๆๆ

(เอ้อว่าแต่คนข้างบนนั้นน่ะ คนที่บอกว่าไปอ่าน "นิยายต้องหาม เอ๊ย ต้องห้าม" มาเนี่ย จะไม่ปล่อยของหน่อยเหรอคะ หลอกให้อยากอ่านแล้วจากไปนี่นาาาา)

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 52 20:18:46

ความคิดเห็นที่ 123

แวะแอบมาดูว่ามีใครรีวิวเพิ่มบ้าง
ส่วนของพลุไว้พรุ่งนี้จะมาส่งการบ้าน
คืนนี้ขออ่านเพิ่มอีกสักเล่มเล็กๆ

พี่ยาคูลย์ : เหมือนพลุเลย เล่มเล็กๆเบาๆ อ่านไปเดือนที่แล้ว เดือนนี้เลยมีแต่เล่มหนาๆหนักๆ ต้องใช้เวลาอ่านทั้งนั้นเลย คะแนนเลยไม่ค่อยกระเตื้อง

พี่พัท : ต้อนรับการกลับมาด้วยธีมฆาตกรรมเหมือนคราวที่แล้วเลย
สงสัยว่าจะถูกโฉลกนะเนี่ย

อ้อมีคำถามมาฝากด้วยครับ

25-3.[แก้วกังไส+ยาคูลท์] เกาะติดข่าวเด่นประเด็นดัง เลือกอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นร้อนต่อไปนี้ คือ ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาพระวิหาร แพนด้า ช้างไทย โดยเลือกมา 2 เล่ม 2 ประเด็นไม่ซ้ำกัน

ข้อนี้ต้องอ่านเฉพาะประเด็นที่ว่ามาในโจทย์ใช่หรือเปล่าครับ
เป็นประเด็นที่เพิ่งมีอย่าง นาธาน หรือ โน้ต อุดมเนี่ยได้ม่ะครับ

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 00:14:02

ความคิดเห็นที่ 124

มาตอบน้องพลุแทนพี่พัทก่อนค่า

ข้อ 25-3 หมายถึงเฉพาะประเด็นในโจทย์เท่านั้น คือ
ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาพระวิหาร แพนด้า ช้างไทย
ส่วนประเด็นร้อนที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างนาธานหรือโน้ต อุดมไม่ได้ค่ะ

มีคนบอกลายแทงให้ไปหาึำคำตอบละว่า หนังสือดีของคุณยาคูลท์เป็นแนวไหน
แนวนี้ผิดคาดเลยนะเนี่ย ไม่ปล่อยของให้ผู้ดูแลตื่นเต้นหน่อยเหรอคะ ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 00:58:41

ความคิดเห็นที่ 125

น้องหมูฯ

หลังบ้านมาได้เลยจ้ะ จะถามอะไรเหรอ

ดีใจที่ชอบจ้ะ มาร์ก เลอวี มีเล่มอื่นด้วย แต่พี่ยังไม่เคยอ่านเหมือนกัน

ว่าจะหามาอ่านเพิ่มเหมือนกันจ้า

คุณยาคูลท์และคุณเคียว

เออ..เราจำผิดจริงๆ ด้วยอ้ะ คนเขียนบอกหลังบ้านว่าสองภาค แต่เราจำเป็นสามง่ะ หยอกเย้า
(เราว่าสมองมีความผิดปกติบางประการแน่ๆ หมู่นี้คิดอย่างพูดอย่าง รู้อย่างเชื่อไปอีกอย่าง ขี้แง )

คุณเคียว (เพิ่มเติม)

เดี๋ยวจะรีวิวลงบล็อกอีกทีนะคะ (แต่คงอีกพักใหญ่ๆ เพราะคิวจะรีวิวยาวมาก)

ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมกว่านี้อีกอะค่ะ

มารีวิวเก็บคะแนนนะคะ

15-1.[ทินา] เรื่องของสองนคร: อ่านหนังสือ 2 เล่มที่มีฉากเป็นเมืองหลวงของสองประเทศ
โดยต้องเป็นเมืองที่มีอยู่จริงในแผนที่โลก

อ่านสองเล่มนี้นะคะ

จักรวาล 1x1 เมตร
ผู้เขียน ม.ย.ร.มะลิ
สำนักพิมพ์ วงกลม
จำนวนหน้า 185 หน้า
ราคาปก 190 บาท

ตอบโจทย์ - เรื่องเล่าของผู้คนที่อยู่ในซอยทองหล่อ จ.กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย

ฆ้อน กรรไกร กระดาษ
ผู้เขียน หวงเยวี่ยน
ผู้แปล อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
สำนักพิมพ์ ฟรีฟอร์ม
จำนวนหน้า 250 หน้า
ราคา 235 บาท

ตอบโจทย์ เรื่องเกิดในไทเป เมืองหลวงของไต้หวันค่ะ

ทีละเล่มเลยนะคะ เล่มแรก - จักรวาล 1x1 เมตร

คุณม.ย.ร.มะลิ เป็นนักเขียนคนหนึ่งที่เราชอบผลงานค่ะ เท่าที่ผ่านมาก็ตามเก็บทุกเล่ม

ตั้งแต่โตเกียวอะโซบิ ฮ่องกงอึ่มก๊อย แก้ผ้าอาบน้ำ ขอพร ฯลฯ

เล่มนี้ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความอารมณ์ดี เป็นคนน่ารักของคนเขียนค่ะ

คนเขียนใช้วิธีสัมภาษณ์ พูดคุย เก็บข้อมูล ถ่ายรูป (แต่เวลาสื่อ ใช้การวาดการ์ตูนด้วยตัวเองแทน)
ผู้คนต่างๆ ที่ทำอาชีพอยู่ในซอยทองหล่อ ซึ่งเคยเป็นคอลัมน์ในนิตยสารพลอยแกมเพชร

คนเหล่านี้ก็มีอาชีพทั้ง นักเย็บผ้า / นักทำกุญแจ / นักปิ้งกล้วย / นักขับรถเมล์สีแดง / นักต้มกาแฟเย็น
นักบิดมอ'ไซค์รับจ้าง / นักต้มเฉ่า / นักเข็นถั่วต้ม / นักตีโรตี / นักคั่วเกาัลัด
นักปาดข้าวเกรียบ / นักขายโชค / นักป่นกลอย / นักหมกไก่ / นักเก็บเงินค่าจอดรถ
นักแกะขนุน / นักทอดปาท่องโก๋ / นักเลี้ยงวัว / นักปิ้งข้าวเหนียวสมาธิ / นักขายกล้วย
นักเข็นผลไม้ขาย / นักกวาดถนน / นักแกงเห็ด /นักแยกขยะ

นอกจากสไตล์การเล่า+รูปวาดน่ารักๆ แล้ว หนังสือเล่มนี้ทำให้เราได้ความรู้เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ

้เช่น เราสามารถเอาแม่กุญแจไปให้นักทำกุญแจทำลูกกุญแจได้ด้วย (แต่ต้องช่างที่เก่งๆ เท่านั้น)
หรือถั่วต้มมีสองถั่วซึ่งมีคุณสมบัติที่ต่างกัน ถั่วเกษตรจะกรอบและมัน ถ้าถั่วในหลวงจะนิ่มและหวาน
เกาลัดจะอร่อยสุดในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน + การรักษากรวดสำหรับคั่วเกาลัด
ศาสนาอิสลาม มีข้อห้ามว่า ห้ามฝากเงินโดยมีผลตอบแทน
หน้าร้อน ขนุนจะหวานที่สุด
ฯลฯ

อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ อ่านหนังสือของม.ย.ร.มะลิทีไร
เรารู้สึกเหมือนได้กินผักสดๆ ปลอดสารพิษหรือกินอาหารที่อร่อย สะอาด
ปราศจากผงชูรสให้ระคายลิ้นและเป็นพิษกับร่างกาย

อ่านแล้วอารมณ์ดี มองโลกสดใส อยากรู้จักใครต่อใครมากขึ้น
และได้เข้าไปรู้จักกับจักรวาลของใครต่อใครได้มากขึ้นเช่นกัน

จักรวาล 1x1 เมตรทุกแห่ง
ทำให้ฉันซาบซึ้งว่า ทุกคน 'เชี่ยวชาญ' ในทางของตน
เราจึงควรภูมิใจใน 'ดี' ของตนเองและคน 'ควรให้เกียรติ' กัน

สรุปแล้วชอบค่ะ

แต่เสียดายว่า หลายๆ จุดมีพิมพ์ผิดหรือสะกดผิดอยู่ค่ะ

เช่น ไสย์ศาสตร์ กิเลศ
"มาขายใหม่ๆ โดยเขม่นมั้ยคะ" (ที่จริงต้องโดนเขม่น)
หรืออย่างการใช้คำพูด จะมีสะกดวรรณยุกต์ผิดอยู่
อย่างหน้า 52 "ใครเจ๋งสุดพี่ แถวเนี่ย" (มันน่า่จะ เนี้ย มากกว่าน่ะนะคะ)
หรืออย่าง "ทำไมละคะ" มันน่าจะ ทำไมล่ะคะ หรือทำไมหละคะ น่ะค่ะ

ส่วนคำว่า โอโห้ นี่ ไม่แน่ใจว่าคนเขียนตั้งใจสะกดพราะต้องการออกเสียงอย่างนี้หรือเปล่า
เพราะเคยได้ยินคนพูดอย่างนี้นอกจาก โอ้โห เหมือนกันค่ะ

อีกเล่มขออีกเม้นท์นะคะ เพราะกลัวเกินที่พันทิปกำหนดไว้

ป.ล.แก้ไขพิมพ์ผิดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 10:26:16

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 09:52:15

ความคิดเห็นที่ 126

เล่มสอง

ฆ้อน กรรไกร กระดาษ

เรื่องราวของเยี่ยตั่วลี่ - หญิงสาวออฟฟิศธรรมดา ใบหน้าไร้ที่ติ แต่ก็ไม่มีอะไรให้เอ่ยชม

ที่จู่ๆ วันหนึ่งก็เริ่มมีเรื่องไม่ธรรมดาเข้ามาในชีวิต

พร้อมๆ กับการที่มีสองหนุ่มมาหลงรักเธอพร้อมๆ กัน

คนหนึ่งคือฉีเสียง หนุ่มรวย หล่อจนผิดกติกา ปากคอวาจาเชือดเฉือน
และเฉินเค่อลั่ว หนุ่มผู้รังสรรค์ผลงาน "แรกรัตติกาล" ที่ทำให้ตั่วลี่เกิดอาการลุ่มหลงอย่างไม่ลืมหูลืมตา

ตั่วลี่จะทำอย่างไร คนรีวิวขอไม่สปอยล์แล้วกันนะคะ แฮ่ ฮ่าฮ่าฮ่า

ก่อนอื่นบอกก่อนว่า ซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะเคยอ่านผลงานของผู้เขียนคนนี้มาก่อนหนึ่งเล่มแล้วชอบมาก

นั่นก็คือเรื่อง "เรื่องรักของ 'เรา'" ค่ะ ซึ่งเคยรีวิวลงบล็อกไว้แล้ว

พอมาอ่านเล่มนี้ กลับเป็นอีกอารมณ์หนึ่งนะคะ แต่ก็ยังชอบอยู่ค่ะ

เล่มนี้จะออกแนวขำๆ ฮาๆ มากกว่าแล้วก็ตัวละครและการดำเนินเรื่องจะค่อนข้างออกแนว "การ์ตูน" มากๆ

จนบางครั้ง..ถ้าไม่คิดว่ามันออกแนวการ์ตูน ก็จะมีบางตอนแปร่งๆ แหม่งๆ อยู่เหมือนกันค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
คือ...เรียกได้ว่า "หลุด" ในบางเรื่องเลยหละค่ะ

แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะคะ ถ้าคนชอบอ่านการ์ตูน น่าจะชอบเล่มนี้ด้วยซ้ำ

นอกจากนั้นเสน่ห์ของหนังสือของหวงเหยี่ยนอีกอย่างก็คือคำพูดคมๆ โดนๆ ที่ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมค่ะ
(เดี๋ยวจะ quote มาให้อ่านนะคะ)

แต่ขอบอกว่า...ถ้าเราเป็นตั่วลี่ เราก็คงเลือกยากมากๆ เหมือนกันค่ะ

ยิ่งตอนที่ตัวเองตัดสินใจเลือกแล้ว แล้วคนเขียนบรรยายถึงการ์ตูนภาพที่เค่อลั่ววาดมาให้

เราร้องไห้เลยอ้ะ ขี้แง

แต่คนเขียนก็ไม่ใจร้ายนักนะคะ กับตอนจบแบบนี้ โอเคอยู่

คงเป็นนักเขียนอีกคนหนึ่งที่ถ้ามีงานแปลออกมา เราก็จะหามาอ่านทุกเล่มอีกคนค่ะ
(ตอนนี้ต้องเก็บผู้ชายเหมือนระเบิดอีกเล่ม หุๆ)

แต่ถ้าเทียบกับเรื่องรักของเรา เราก็ยังชอบเรื่องรักของเรามากกว่านะคะ

เราว่าลงตัวมากกว่า แต่ยังไงเรื่องนี้ถ้าใครชอบอ่านการ์ตูน หรือเรื่องฮาๆ ขำๆ
แต่ก็มีอะไรสอดแทรกให้คิดอยู่บ้างก็น่าจะชอบค่ะ

ปิดท้ายด้วยประโยคที่ชอบๆ นะคะ
(มีหลายๆ ประโยคที่สั้นๆ แต่ช่วยอธิบายความเป็นตัวละครนั้นๆ ได้ดีค่ะ)

ตั่วลี่คิดว่าการชมภาพกับการอ่านหนังสือนั้นเหมือนกัน
สิ่งสำคัญอยู่ที่ความรู้สึกร่วม ไม่ได้เกี่ยวข้องเลยว่า จะต้องมีความรู้เฉพาะทางในด้านนั้นหรือไม่

สิ่งที่ตนรังเกียจ เธอไม่เคยยัดเยียดให้เกิดกับใคร

"ความมืดไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือการพลัดหลงทิศทางอยู่ท่ามกลางความมืดที่ไม่มีสิ้นสุด
จนกระทั่งภายหลัง แม้แต่ความกระหายหาแสงสว่าง ยังถูกริดทอนจนสิ้นหวังไร้รส"

'คนที่เกียจคร้านแสวงหาความจริง ไม่มีิสิทธิ์ตำหนิคนที่พูดปด'

ตั้งหน้าตั้งตาขุดคุ้ยแผลเก่าของชาวบ้านเสร็จแล้วค่อยถามว่าเขาเจ็บหรือปวดมากน้อยแค่ไหน
ถามทั้งที่รู้กับหน้าด้านไร้ยางอาย มันเป็นคำพ้องความหมายกันชัดๆ

...โรคภัยเข้ามาทางปาก ความใคร่ความอยากก็ออกมาจากปาก
ปัญหาโลกแตกมากมายเกิดจากคนเราอ้าปากพูดความปรารถนาของตนเองออกมา
เรื่องบางเรื่องรู้อยู่กับใจ แอบชมเชยเงียบๆ ก็พอแล้ว
เมื่อไหร่ที่เอ่ยปากออกมา ก็จะหนีไม่พ้นถูกความเสียใจลอบจู่โจม

"...บาดแผลที่เฉาะตัวเองน่ะ ไม่ใช่บาดแผล แต่เป็นร่องรอยของความเย่อหยิ่งจองหอง"

"...ความรักเดียวใจเดียวย่อมหมายความว่าประกาศตนเป็นศัตรูกับสิ่งเย้ายวนใจทั่วทั้งโลก..."

"...ความเข้มแข็งมันเป็นของมีค่าก็ต่อเมื่อไม่มีคนอยู่ด้วย
ผลของการก้มหน้ายอมรับลิขิตชีวิต ก็คือถูกมองข้ามไม่เห็นหัว"

"แม้เป็นดอกหญ้าที่หาความโดดเด่นมิได้ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร
แต่ก็หวังใจอยากได้ความเอาใจใส่ที่อ่อนโยนประดุจกุหลาบงาม"

"...ถ้าคนเรารู้จักควบคุมความประพฤติของตนเอง
เพราะกลัวจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นละก็
โลกเราคงสงบสุขไปนานแล้ว"

"ฉันไม่ได้ต้องการความเห็นใจจากคุณ ฉันต้องการความรัก"
"ของบางอย่างมันถูกจำกัดเวลา จำกัดปริมาณและจำกัดคุณสมบัติ
ไม่ใช่คุณอยากได้ก็ต้องได้"

อันนี้เป็นคำถาม (ฝากถึงคนแปลช่วยอธิบายด้วยก็ดีค่ะ แหะๆ)

มีคำพื้นเมืองไต้หวันว่า
"แต่งพี่สาวเป็นภรรยา นั่งเก้าอี้ทองคำ"
หมายถึงว่า ไปไหนไม่ได้ ถูกผูกติดใช่ปะคะ
แล้ว "พี่สาว" ในที่นี้ หมายถึงผู้หญิงที่แก่กว่าใช่ไหม? ไม่ได้หมายถึงพี่น้องแต่งงานกันจริงๆ?

ป.ล. พิมพ์ผิดเยอะมาก แก้ไขหลายรอบสุดๆ - -"
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 10:45:30
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 10:34:26
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 10:21:33

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 10:18:55

ความคิดเห็นที่ 127

ก่อนอื่นเลยขอบคุณสำหรับคำตอบของพี่ปิยะรักษ์นะครับ
ว่าแต่หาหนังสือเข้าโจทย์ข้อนี้ไม่ได้เลย ไม่มีใครมารีวิวให้ลอกคำตอบด้วย เหอๆๆ

แวะเอาการบ้านมาส่งหลังจากอ่านเล่มนู่นนิดเล่มนี้หน่อย
ตอนนี้จบเป็นชื้นเป็นอันทยอยส่งหน่อยแล้วกัน

ปล รีวิวนี้ใช้ตอบ 2 ข้อ แต่ขอรีวิวพร้อมกันเลยนะครับ

5-10.[ปีศาจ ความฝัน] อ่านหนังสือที่มีชื่อเรื่องเป็น 1 คำ 1 พยางค์
(ได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษหรือตัวเลข) เช่น ล่า, ฝน หรือ 7 เป็นต้น

: BLU

20-4.[สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 2 เล่มของนักเขียนต่างเพศกัน
(ยึดเพศสภาพเป็นหลัก) โดยชื่อ (หรือนามปากกา) ของนักเขียนต่างเพศนั้น ต้องขึ้นด้วยพยัญชนะเดียวกัน
เช่น วินทร์ กับ ว.วินิจฉัยกุล เป็นต้น โดยหนังสือทั้งสองเล่ม ต้องหนามากกว่า 100 หน้าขึ้นไป

: ROSSO

BLU
ท์ชึจิ ฮิโตนาริ : เขียน
สมเกียรติ เชวงกิจวณิช : แปล
สำนักพิมพ์ JBooK
พิมพ์ครั้งที่ 2 ตุลาคม 2545
237 หน้า 165 บาท

ROSSO
เอคุนิ คาโอริ : เขียน
ขวัญใจ แซ่คู : แปล
สำนักพิมพ์ JBooK
พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2545
250 หน้า 165 บาท

ระหว่างความเยือกเย็นและร้อนแรง ซีรี่ย์รักระหว่างหนุ่มสาว
ที่รักกันอย่างดูดดื่มแต่ต้องแยกทางกันในที่สุด
โดยมีเพียงสัญญาว่าจะมาพบกันอีกครั้งบนยอดดูโอโมที่ฟลอเรนซ์
ในวันที่เธอ อาโออิ มีอายุครบ 30 ปี

อาโออิ หนอนหนังสือสาวผู้รักสงบ ชอบดื่มด่ำรสชาติไวน์และนอนแช่น้ำอุ่นๆในอ่าง
จุนเซ จิตรกรหนุ่มผู้แสวงหา อารมณ์อ่อนไหว คลุกคลีอยู่กับโลกของศิลปะ

เส้นทางความรักของหนุ่มสาววัยคะนองเมื่อตอน 20 ต้นๆ ทำให้ทั้งคู่
หลงระเริงกับสิ่งยั่วยวนจนทำให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์
จนต้องทำให้แยกจากกันในที่สุด แต่ระหว่าง 8 ปีที่แยกจากกัน
ต่างคนต่างจดจำและใช้ชีวิตอยู่กับความทรงจำในอดีต
แม้เขาและเธอจะมีคนข้างเคียงคนใหม่ แต่ในใจกลับเรียกร้องหาแต่กันและกัน

นิยายรักโรแมนติกชุดนี้เกิดจากการเขียนสลับกันเป็นตอนๆลงในนิตยสารของญี่ปุ่น
แต่เมื่อทำออกมาเป็นรูปเล่มได้แยกออกเป็นสองเล่ม
คือความรู้สึกของอาโออิ เล่มหนึ่ง จุนเซ เล่มหนึ่ง
ผมว่าถ้าอ่านสลับตอนน่าจะได้อรรถรสที่แตกต่างออกไปจากการอ่านแยก 2 เล่ม
เป็นมุมมองควาามรักที่ทั้งคู่จดจำในมุมมองของตัวเอง
เหมือนการพรรณนาความรู้สึกที่มีต่อบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นที่รัก
แต่ถ้าจะอ่านผมแนะนำให้อ่าน ROSSO ก่อนแล้วค่อยอ่าน BLU
ใน ROSSO อาโออิ จะพรรณนา บรรยายการใช้ชีวิต
อ่านไปเหมือนเรื่อยๆ มีแค่อ่านหนังสือ ทำงาน แช่น้ำอุ่น สังสรรค์และมีเซ็กซ์
จนกระทั่งเกือบปลายๆเรื่องที่มีจุนเซโผล่มาให้รู้ว่าทำไมเธอถึงจมอยู่กับอดีต
แต่ BLU จะกล่าวถึงความรู้สึกโหยหาอาโออิตั้งแต่ต้นเรื่อง
ดังนั้นอ่าน ROSSO ก่อน BLU น่าจะได้อรรถรสมากกว่า
โดยส่วนตัวแล้วชอบ BLU มันดูมีที่มาที่ไปมากกว่า ROSSO
อ่านได้เรื่อยๆ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านแนวนี้ซะเลยไม่ขอแนะนำครับ
อาจทำให้คุณเข้าขั้นเบื่อเอาได้ง่ายๆเลยทีเดียว
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 15:43:03
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 15:01:16
แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 15:00:51

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 15:00:18

ความคิดเห็นที่ 128

20-4.[สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 2 เล่มของนักเขียนต่างเพศกัน
(ยึดเพศสภาพเป็นหลัก) โดยชื่อ (หรือนามปากกา) ของนักเขียนต่างเพศนั้น ต้องขึ้นด้วยพยัญชนะเดียวกัน
เช่น วินทร์ กับ ว.วินิจฉัยกุล เป็นต้น โดยหนังสือทั้งสองเล่ม ต้องหนามากกว่า 100 หน้าขึ้นไป

เล่มสอง : แผนซ่อนคน กลซ้อนแผน - อาคากาวะ จิโร

แผนซ่อนคน กลซ้อนแผน
อาคากะวา จิโร : เขียน
วิยะดา คะวะงุจิ : แปล
สำนักพิมพ์ JBooK
พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2551
217 หน้า 180 บาท

หลังจากคลี่คลายเรื่องราวคดีโจรกรรมเพชรได้เมื่อตอนที่แล้ว
คราวนี้ครอบครัวฮายาคาวะต้องโคจรกลับเข้ามาข้องเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอีกครั้ง

เริ่มต้นที่คะสึมิ นักฆ่ามืออาชีพที่ถูกจ้างวานจากชายแปลกหน้าให้สังหารตำรวจนายหนึ่ง
ซึ่งแอบคบชู้อยู่กับภรรยาของตน บุคคลที่คะสึมิต้องลงมือสังหารคราวนี้คือ ฮายาคาวะ มาซามิ
ด้วยความสงสัยว่ามาซามิไปแอบลักลอบเล่นชู้กับภรรยาชาวบ้านได้อย่างไร
คะสึมิจึงทำหน้าที่พ่อสื่อจับคู่ดูตัวให้น้องชายเพื่อสังเกตพฤติกรรม
นอกจากไม่พบพฤติกรรมที่น่าสงสัยแล้วน้องชายคนเล็กของครอบครัวฮายาคาวะ
ยังตกหลุมรักสาวน้อยคนนั้นทันทีที่เห็นรูปถ่าย

ส่วนหญิงสาวที่ถูกอ้างว่าเป็นชู้กับมาซามิได้ถูกสังหารลง
คะสึมิเห็นสามีผู้ตายเดินถือปืนออกมาจึงคิดว่าเรื่องราวได้จบลงแล้ว
แต่หลังจากนั้นชายคนนั้นได้พยายามฆ่าตัวตายแต่มีผู้ช่วยให้รอดมาได้และนำตัวส่งพยาบาล
มาซามิได้รับมอบหมายให้เฝ้าชายคนนี้เอาไว้เพื่อสอบปากคำ
แต่แล้วเขาก็โดดฆ่าพร้อมกับพยาบาลสาวคนหนึ่งระหว่างที่มาซามิไปเข้าห้องน้ำ
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มาซามิสะเทือนใจเป็นอย่างมาก บรรดาพี่ๆเป็นห่วงน้องชาย
จึงจัดการนัดเจอตัวริรุโกะให้มาซามิเพื่อจะได้ทำให้มาซามิรู้สึกดีขึ้น

จากการเสียชีวิตของชายผู้ว่าจ้างคะสึมิ ทำให้เขาเริ่มต้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
ใครคือชายชู้ผู้อ้างชื่อมาซามิในการนัดเจอ สุดท้ายทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับสมาคมคบชู้
โดยมีชายผู้อ้างตัวว่าเป็นมาซามิเป็นกุญแจ จนมารู้จักกับอิคุโกะ

อิคุโกะถูกแบล็กเมล์ ข่มขู่จะเปิดเผยเรื่องราวที่เธอคบชู้ คนร้ายจึงนัดเธอไปพบเพื่อให้เธอร่วมมือกำจัดคะสึมิ
ระหว่างที่โทรศัพท์นัดแนะสถานที่นัดพบ คะสึโยะลูกสาวได้แอบได้ยินจึงได้สะกดรอยตามไป
สุดท้ายคะสีโยะถูกจับ แต่ด้วยความสงสารของโคะมัตสึจึงไม่ได้ฆ่าเด็กหญิงตามคำสั่ง
แต่ติดต่อให้ ฮายาคาวะ มิกะ มารับตัวคะสึโยะไปดูแล

ร้านขายวัตถุโบราณของคะโยโกะถูกลอบวางระเบิดหลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์จากอันโด
ชายชราผู้คร่ำหวอดในวงการโจรกรรมที่เพิ่งออกจากคุกมาได้เพียง 3 ปี
เหตุเนื่องจากสิ่งที่ชายชราต้องการบอกคะโยโกะคือเขาถูกจับเพราะมีหนอนบ่อนไส้
และต้องการเผยตัวตนของผู้หักหลังให้ทราบแต่ปรากฏว่าทันทีที่คะโยโกะไปพบเขาที่บ้าน
ตามเวลานัดหมาย ชายชราผู้นั้นก็ได้กลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้วทันที

หลังจากร่วมมือกันต่อสู้มาจากเหตุการโจรกรรมเพชรคราวที่แล้ว ทำให้เคสึเกะแต่งงานกับมิจิโกะ
มิจิโกะถูกจับตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้บรรดาครอบครัวฮายาคาวะเป็นห่วงกันมาก
เพราะมิจิโกะท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที่จึงหาทางและเบาะแสของคนร้ายรายนี้จนถึงที่สุด

ร้านของคะโยโกะถูกวางระเบิด มีผู้ชายอ้างชื่อมาซามิในการคบชู้
ผู้ต้องสงสัยที่มาซามิคุ้มกันก็ถูกฆ่า มิจิโกะภรรยาเคสึเกะยังถูกลักพาตัว
คะสีโยะลูกสาวอิคุโกะแม่บ้านผู้คบชู้ถูกจับหายไปโดยไม่รู้ชะตากรรม
เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวข้องกันอย่างไร และใครคือผู้ร้ายตัวจริง

แผนซ่อนคน กลซ้อนแผล ภาคต่อจากฆาตกรรมฆ่าเวลา
ผลงานของนักเชียนแนวอาชญนิยายผู้มากด้วยอารมณ์ขัน
เรื่องราวยังคงเข้มข้น แต่เล่มนี้จะดราม่ากว่าเล่มแรก ทำให้หลงสเน่ห์ครอบครัวฮายาคาวะได้ไม่ยาก
โดยเฉพาะคะสึมิที่แสดงบทบาทสมกับเป็นมืออาชีพตัวฉมังที่หาตัวจับได้ยาก สนุก ตื่นเต้น จนวางไม่ลงทีเดียว

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 15:04:43

ความคิดเห็นที่ 129

10-14.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่ผู้ดำเนินเรื่องหรือตัวเอกเป็นผู้ร้าย
เช่น หรือว่าผมฆ่า? (Darkly Dreaming Dexter) หรือ เหี้ยมไม่เงียบ (The Silence of the Lambs) เป็นต้น

รักซ้อนซ่อนเลือด
อาคากะวา จิโร : เขียน
วิยะดา คะวะงุจิ : แปล
สำนักพิมพ์ JBooK
พิมพ์ครั้งที่ 2 กันยายน 2551
253 หน้า 200 บาท

รักซ้อนซ่อนเลือด ตอนที่ 3 ของซีรีย์สืบสวน ฆาตกรรมฆ่าเวลา
มาคราวนี้ครอบครัวฮายาคาวะทุกคนก็ยังเข้าไปเกี่ยวพันกับเหตุฆาตกรรมเช่นเดิม

เรื่องราวเริ่มจากพี่ใหญ่ของครอบครัว คะสึมึ นักฆ่ามืออาชีพ
ได้เจอกับนักศึกษาชมรมศึกษาอาชญากรรมทำการปฏิบัตินอกสถานที่
หนึ่งในสองคนนั้นได้เห็น คะสึมึ ฆ่าคนตายจะๆ ต่อหน้าต่อตา

มิกะ ลูกสาวคนเดียวของครอบครัวได้รับการว่าจ้างออกแบบทำบาร์ให้กับ
ฮิซาเอะ ภรรยาน้อยของ ฮาชิงุจิ ประธานบริษัทผลิตเสื้อเชิ๊ต
อยู่มาวันหนึ่ง ฮาชิงุจิ ได้เจอกับนักศึกษาสาวคนหนึ่งจะว่าให้ท่าก็ได้
ทำให้ ฮาชิงุจิ หลงเสน่ห์สาวเจ้าทันทีและเริ่มตีตัวออกห่างจาก ฮิซาเอะ

ในวันงานวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย K
มายามิ น้องชายคนเล็กของบ้านได้ถูกเชิญเป็นวิทยาการบรรยายพิเศษ
ในชมรมที่ริรุโกะ ภรรยาตัวเองสังกัดอยู่ พี่ๆจึงมาให้กำลังใจ
และในงานครั้งนี้เองทำให้นักฆ่าอย่างคะสึมึพบกับเอมิ
นักศึกษาสาวที่เห็นตนเองลงมือฆ่าต่อหน้าต่อตาอีกครั้งเพราะสังกัดเดียวกันกับริรุโกะ

ทางด้านชมรมการแสดงที่ อะสึโกะ ลูกสาวของฮาชิงุจิสังกัดอยู่นั้น
ได้จัดแสดงละครเวที ระหว่างที่ผู้คนทยอยออกมาจากห้องหลังละครจบ
พบว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้น ผู้เคราะห์ร้ายคือหนึ่งในพนักงานของบริษัทฮาชิงุจิ
พี่น้องตระกูลฮายาคาวะจึงโดดเข้าไปเกี่ยวข้องตามล่าหาตัวฆาตกรรายนี้

หลังจากเสร็จงานนักฆ่าที่ก่อเหตุก็ถูกฆาตกรรมลงเหตุเพราะมีคนเห็นหน้าระหว่างลงมือ
ทำให้งานต่อไปถูกส่งมาถึงมือของ คะสึมึ ซึ่งผู้ว่าจ้างคือเลขา ของฮาชิงุจิ
ที่ต้องการสั่งเก็บภรรยาน้อย เพราะเป็นตัวขัดขวางความรักของตนกับนักศึกษาสาว
แต่ฮิซาเอะไม่ยอมตีจากแถมยังจ้างนักสืบแกะรอยฮาชิงุจิ
จนกระทั่งถึงกับติดเครื่องดักฟังในห้องทำงานของฮาชิงุจิ
หลังจากฮิซาเอะเสียชีวิต ทั้งคะสึมึและมิกะก็ได้รับประโยชน์จากเครื่องดักฟังนี้เอง
ทำให้ล่วงรู้ความลับของบริษัท รวมทั้งพฤติกรรมมากรักของฮาชิงุจิอีกด้วย

ทางด้านชมรมศึกษาอาชญากรรมมีอาจารย์โอยะเป็นที่ปรึกษา
อาจารย์คนนี้เป็นที่รู้กันว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเพราะแอบมีสัมพันธ์ลับกับนักศึกษา
สุดท้ายอาจารย์โอยะถูกฆาตกรรมเช่นเดียวกัน ผู้พบศพคือ อะสึโกะ ลูกสาวของฮาชิงุจินั่นเอง

ยังคงสนุก ตื่นเต้น อยู่เหมือนเดิมสำหรับภาคจบของซึรี่ย์ชุดนี้
การันตีฝีมือของอาคากาวะเหมือนเล่มที่ผ่านๆมา ทั้งอารมณ์ขันและการหักมุม
เค้าคนนี้ยังผูกเรื่องได้ตรงใจเหมือนเดิม ไม่เสียดายที่ได้อ่านครับ

ปล เล่มนี้ตัวเอกทั้ง คะสึมิ มิกะ รวมทั้ง คะโยโกะและฮาชิงุจิ ตัวเอกของเรื่องนี้
ล้วนแล้วเข้าข่ายฆาตกรได้ทั้งหมด

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 15:06:12

ความคิดเห็นที่ 130

5-9.[PTNCenter]หนังสือที่มีเนื้อหาสื่อถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน (จะเป็นคนกับคน สัตว์กับสัตว์ หรือคนกับสัตว์ก็ได้)

เพื่อนรักจากจินตนาการ พ็อบบีกับดินแก็น
เบน ไรซ์ : เขียน
รัตนา รัตนดิลกชัย : แปล
สำนักพิมพ์ JBooK
พิมพ์ครั้งที่ 3 กันยายน 2551
119 หน้า 100 บาท

พ็อบบีกับดินแก็นเป็นเพื่อนสนิทของเด็กหญิงเคลลีแอน
แต่มีเพียงเคลลีแอนคนเดียวเท่านั้นที่เห็นพวกเขาทั้งสอง
เพราะพ็อบบีกับดินแก็นนั่นเป็นเพื่อนในจินตนาการ
แอชโมล พี่ชายของเคลลีแอนไม่พอใจ
เขามองว่าเป็นเคลลีแอนทำตัวเด็กและไร้สาระ
กระทั่งวันหนึ่งเมื่อพ็อบบีกับดินแก็นหายไป แล้วน้องสาวตรอมใจจนป่วยหนัก
แอชโมลจึงต้องออกค้นหา เพื่อนในจินตนาการ ที่หายไปเพื่อช่วยชีวิตน้องสาว
แอชโมลพยายามจูงใจให้คนทั้งเมืองช่วยกันค้นหาเพื่อนผู้ล่องหนของน้องสาว
ก่อนจะพบว่ามีเขาเท่านั้นที่จะค้นหาพ็อบบีและดินแก็นเจอได้

เป็นเรื่องราวเรียบง่ายของครอบครัววิลเลียมสันในเหมืองขุดโอปอลที่ออสเตรเลีย
เรื่องราวสื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชาย-น้องสาว รวมทั้งเธอกับเพื่อนในจินตนาการ
เล่มนี้ผมรู้สึกเฉยๆนะ ไม่แน่ใจเพราะเล่มมันเล็กด้วยหรือเปล่าจึงบรรยายความสัมพันธ์
ของเพื่อนในจินตนาการไม่ครอบคลุมทำให้เราไม่ได้ซืมซับความผูกพันของเพื่อนในจินตนาการ
รู้เพียงว่าเคลลีแอนมีเพื่อนในจินตนาการซึ่งรักมาก อยู่ด้วยกันเพียง 3 คน
จนเพื่อนหายไปจึงทำให้สภาวะในจิตใจอ่อนแอจนล้มป่วยอย่างหนัก
แต่จะเห็นความพยายามของพี่ชายที่ทำทุกอย่างทุกวิถึทางเพื่อช่วยให้น้องสาวหายจากอาการป่วยประหลาด
แต่ถ้าใครชอบแนวนี้ผมว่าอาจจะชอบเล่มนี้นะ ออกแนวปรัชญานิดหน่อยต่อความศรัทธา
ในสิ่งที่ไม่มีตัวตนหรือว่าคนที่สามารถเข้าไปลึกๆในจิตใจของตัวละครได้ ประมาณเรื่องเจ้าชายน้อย ครับ

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 15:07:11

ความคิดเห็นที่ 131

ปักหมุดว่าลงคะแนนถึงคห 130 ค่า

พลุๆๆ เดี๋ยวมารับรางวัลหลังฉากไปเลยนะ เอิ้ก

วันอาทิตย์อย่างนี้ สงสัยจะต้องมีเพื่อนๆซุ่มอ่านกันหลายคนแน่ๆเลยค่ะ :)

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 16:05:00

ความคิดเห็นที่ 132

คุณปิยะรักษ์ พัท - ชู่ว์ บอกไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวจะแตกตื่นมากกว่าตื่นเต้น
แต่แนวที่อ่านเนี่ย ถ้าเอามาตอบข้อ casting คงสนุกมากตอนหาดารา อาจจะเลือดกำเดาไหลตายหมดตัวไม่รู้ตัว 5555

โน้ตบอกตัวเองว่าลอกคุณหมูฯ (ข้อพ่อ) กับสาวไกด์ดีกว่า
กำลังเล็ง 1x1 ไว้เหมือนกัน แต่ยังไม่ชัวร์ว่าจะเอาไว้ข้อไหน

อ่านจบไปอีกเล่มเกือบสองเล่มแล้วค่ะ ยังหาที่ร่อนลงไม่ได้เช่นกัน
เดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆ แล้วค่อยมาสรุปละกัน ตอนนี้ต้องเก็บงานอีกนิดก่อน

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 19:10:15

ความคิดเห็นที่ 133

เย๊...เราได้แชมป์เดือนนี้แล้วใช่ไหมนี่...

น้องพลุ...ช้าๆ หน่อยก็ได้เน้อ...ตามไม่ทันแล้ว wink

มาสวัสดียามดึกค่ะ
นึกได้ว่าจะรับงานต่อจากคุณพัทแต่หลงวันเลยเข้ามาก่อน...

ยังไม่มีรีวิวนะคะ ทั้ง ๆ ที่อ่านจบไปหลายเล่มแล้ว แต่มีอะไรให้ต้องเคลียร์นิดหน่อยเลยยังไม่มีเวลาพิมพ์รีวิว

พ็อบบี้แอนด์ดินแกนเป็นหนังสือเล่มโปรดของพี่เล่มหนึ่งทีเดียวจ้าน้องพลุ เคยรีวิวลงบล็อกไว้เมื่อนานมาแล้ว

มีสี่ยอดหญิงงามอยู่บนชั้นเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้อ่านเลย คงเก็บไว้ซีซั่นหน้าถ้าหาโจทย์ลงได้เหมาะ ๆ อาจจะหยิบมาอ่าน แหะ ๆ

ชอบม.ย.ร.มะลิเหมือนกันค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะอ่านแต่สำนวนแปล งานเขียนได้อ่านฮ่องกงอึ่มก๊อยเล่มเดียว ว่าจะหางานอื่นของเธอมาอ่านอยู่นะคะ จดชื่อหนังสือข้างบนลงลิสต์แล้วค่ะ

เผลอแป๊บเดียวจะหมดเดือนอีกแล้ว ใครซุ่ม ๆ อยู่รีบปล่อยของได้แล้วนะคะ...ไม่งั้นอาจจะได้แชมป์คนเดิมกับเดือนที่แล้วนะเออ ฮ่าฮ่าฮ่า

ว่าแล้วก็ขอตัวไปเขียนรีวิวดีกว่า พรุ่งนี้อาจจะได้เข้ามาแปะซักโจทย์สองโจทย์ค่า...

ทักทายและเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ดอกไม้

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 21:16:02

ความคิดเห็นที่ 134

ขอเล่นด้วยคนนะคะ ยังไม่เคยส่งงานเลย
5-3.[ปีศาจ ความฝัน] อ่านหนังสือที่ชื่อหนังสือมีคำว่าแม่มด พ่อมด หรือนางฟ้า หรือถ้าอ่านภาษาอังกฤษ ให้มีคำในความหมายเดียวกัน เช่น witch, wizard, wise woman, angel, fairy

แฟรี่ วอร์ มหาสงครามแห่งอาณาจักรแฟรี่
แปลโดย ตวงทอง : เฮอร์บี เบรนแนน
พิมพ์ที่ เพิร์ล พับลิชชิ่ง
379 หน้า

เป็นเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งชื่อเฮนรี่ ครอบครัวของเขาไม่อบอุ่นนัก พ่อกับแม่มีปัญหากันบ่อยๆ เฮนรี่ได้ไปทำงานให้กับชายชราชือ่มิสเตอร์โฟการ์ตี้ซึ่งเป็นชายแก่หัวดื้อที่หลายๆคนเกลียดขี้หน้า แต่เฮนรี่ก็ทำงานกับมิสเตอร์โฟการ์ตี้อย่างสนุกสนาน
วันหนึ่งเฮนรี่เก็บแฟรี่ได้และนำไปให้มิสเตอร์โฟการ์ตี้ดู เขาเชื่อว่ามันคือมนุษย์ต่างดาว จนมีโอกาสเปิดประตูมิติเข้าไปในเมืองของแฟรี่ ที่กำลังมีสงครามกลางเมืองกันอยู่ ระหว่างแฟรี่ฝ่ายขาวและดำ ทำให้ชายชราและเฮนรี่เข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามแฟรี่ด้วย

สนุกดีค่ะเล่มนี้ เพิ่งอ่านไปเล่มเดียว มีทั้งหมด 3 เล่ม ซื้อเล่มแรกมาก่อนเพราะกลัวจะไม่สนุก พออ่านจบวิ่งไปซื้อเล่มสองแทบไม่ทันเลยค่ะ

จากคุณ : sweetsugar

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 21:22:49

ความคิดเห็นที่ 135

อีกนิดค่ะ ข้อนี้ แก้วกังไส] อ่านหนังสือที่ตัวเอกมีอาชีพฉีกแนวจากพิมพ์นิยมแทน เช่น หมอผี หมอดู คนขับเเท็กซี่
เราเพิ่งอ่านสูตรเสน่หา จบไป ใช้ได้มั้ยคะ อาชีพกุ๊ก

จากคุณ : sweetsugar

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 21:45:34

ความคิดเห็นที่ 136

โอย...มีเวลาว่างพอจะเข้ามาอ่านรีวิวของท่านอื่นๆเสียที หยุดยาวปีใหม่ดีใจจัง ^^v

สงสัยจะพูดว่าเมอร์รี่ คริสต์มาสก็คงช้าไป (แต่เมื่อวานไปโบสถ์มาแล้วนะ) งั้นคงต้องเตรียมพูดว่าสวัสดีปีใหม่มากกว่ามั้งคะเนี่ย

คุณแม่เรไร --- เรื่อง "เด็กชายชนะ" น่าสนใจจังค่ะ ไว้จะไปหามาอ่าน โดยส่วนตัวชอบเรื่องที่คนที่ต่อสู้กับชะตากรรมตัวเองมากๆ (แต่สำนักพิมพ์นี้ไม่คุ้นเลยแฮะ)

คุณ January Friend --- พรุ่งนี้ว่าจะไปห้องสมุดมหา'ลัย คิดว่าอาจจะได้เจอเล่มนี้ (ก่อนหน้านั้นไปเปิดรวมเรื่องสั้นของคุณรพินทรนาถฐากูร นั่นก็อ่านแล้วจื๊ดทีเดียว)

คุณกุลธิดา --- เรื่องนี้น่าสนใจค่ะ ปกติไม่ค่อยได้อ่านอะไรที่เป็น True Crime เท่าไร (รู้สึกว่าอาจทำร้ายจิตใจเวลาอ่าน) แต่ถ้าเล่มนี้วางไม่ลงมันก็น่าสนใจ ไม่แน่ใจว่าเมืองไทยมีหรือเปล่า ต้องไป search ดูแฮะ

คุณหมูย้อมสี --- เคยอ่านหนังสือของเกาหลีมาบ้าง แต่แปลกไหมที่รู้สึกว่าดูหนังสนุกกว่าอ่ะ เรื่องนี้อาจจะเอามาทำเป็นหนังสนุกก็ได้ใครจะรู้ (แต่หนังเกาหลีมักสนุกแต่ตกม้าตายตอนจบทุกที -*-) ส่วนเรื่อง "ทุกสิ่งอันที่เรามิเคยเอื้อนเอ่ยต่อกัน" เล่มนี้ก็น่าสนใจมาก จริงๆหนิงๆชอบเรื่องที่เก็บรายละเอียดกับความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้าง ไว้จะไปลองสอยมาอ่านอีกเล่มค่ะ

คุณยาคูลท์ --- เห็นรีวิวติดกันเป็นแนวแจ่มใสวัยรุ่นทั้งนั้นเลย คือโดยส่วนตัวจะหยิบมาอ่านเวลาเครียดๆค่ะ แต่ถ้าอ่านติดต่อกันอาจเกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนเพราะความเพลินนั้นได้ (ก็เค้าแพ้เรื่องแบบนี้นี่นา ^^") เลยแอ๊บสงสัยว่าคุณยาคูลท์อ่านติดต่อกันหรือว่ามีเว้นช่วงคะเนี่ย

เรื่อง "Titan's Curse" น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพปกรณัมแล้วเอามาตีความ (ที่จริงจุดที่เขาพูดถึงการรบระหว่างโอลิมเปียกับไททันมีน้อยนะ) เรื่องที่เอาสิ่งที่คนรู้จักอยู่แล้วมาตีความใหม่นี่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ

คุณแม่ไก่ --- ยังไม่เคยอ่านงานแปลของอาจารย์ ว.วินิจฉัยกุล เรื่อง "กุหลาบเลือด" ไว้จะรออ่านในบล็อกนะคะ (จะหาซื้อได้ไหมเนี่ย) ส่วนเรื่อง "เอนหลังอ่าน" ยังไม่เคยอ่านค่ะ แต่ได้อ่านเรื่องอื่น ขอเล่านอกเรื่องนิดหนึ่งว่ามีโอกาสได้พบคุณคนเขียนด้วย ได้ใช้ชีวิตร่วมกันประมาณวันสองวัน แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเพลงดาบแม่น้ำร้อยสายคือใคร (เชยมาก) พอหลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มอ่านงานเขียนซึ่งยอมรับว่าอ่านแล้วหลายเล่มที่อมยิ้มตลอดเลยค่ะ คิดว่าเรื่องนี้คงไม่พลาดอีกเหมือนกัน

คุูํณสาวไกด์ใจซื่อ --- นามปากกา "ลวิตร์" แทบจะการันตีผลงานที่ได้อ่านไปในตัว หลายเรื่องของลวิตร์เป็นเรื่องที่เป็นประเด็นซึ่งส่วนมากมักจะเป็นความเท่าเทียมกันของมนุษย์ (อันนี้คิดเอาเอง เช่นเรื่องความแตกต่างเชื้อชาติ สันติภาพ) เวลาที่รู้สึกล้ากับนิยายที่อ่านแล้วรู้สึกประหลาดๆ หนังสือของลวิตร์จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ^^

คุณปิยะรักษ์ --- เรื่อง "คินดะอิจิ" นี่ตอนที่เห็นออกมาคิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าเอาเรื่องเดิมย้อนกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเท่ห์มั่กๆ แล้วก็เห็นด้วยที่เข้มข้นน้อยกว่าคดีแรก อาจเป็นเพราะความสดกับแรงบันดาลใจของคนเขียนเริ่มเปลี่ยนไปละมั้ง (หนิงชอบคดีแรกกับคดีที่สองที่สุด)

ส่วนเรื่อง "สี่ยอดหญิงงาม ผู้พลิกประวัติศาสตร์จีน" ที่จริงคนที่หนิงแปลกใจที่สุดก็คือคนที่เป็นหญิงงามในนิยายนี่แหละ จริงๆหลังจากที่ลิโป้กับตั๋งโต๊ะแตกกันแล้วก็ไม่มีใครกล่าวถึงเตียวเสี้ยนอีกนะ เลยแอบงงๆอยู่บ้างว่าเหมือนจะให้ความสำคัญแต่ก็ไม่ได้ให้ แต่คนก็ดึงนางมาเป็นหนึ่งในสี่ น่าจะบอกถึงความยิ่งใหญ่ของวรรณกรรมสามก๊กมากกว่าเรื่องหญิงงามเสียอีก

อ่านรีวิวจบแล้วเหนื่อยมากมาย แล้วเห็นลิสท์หนังสือน่าสนใจเพิ่มขึ้นจนชักกังวลว่าจะมีเวลาอ่านหมดไหมนั่นในช่วงปีใหม่นี้ เปิดปีใหม่มาคิดเรื่องงานอย่างเดียวก่อนแหล่วเนี่ย = =

=============================================

ขอรีวิวของตัวเองมั่ง

10-9.[ทินา] สี่สุดสนุก อ่านหนังสือที่ชื่อหรือนามปากกานักเขียนมีสี่พยางค์

Flying Hearts เมื่อหัวใจออกเดินทาง
โดย อุรัสยา
สนพ. แจ่มใส

คำโปรย:

ใครๆ ก็อยากไปเรียนต่อเมืองนอก เพราะมันโก้ไม่หยอกยังไงล่ะ แต่กว่าจะได้ไปก็มีเรื่องให้ต้องเตรียมตัวมากมาย ติดต่อมหาวิทยาลัยเอย หาที่พักเอย หารูมเมตเอย โอ๊ย! แสนจะวุ่นวายเวียนหัว แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพียงคุณติดต่อเรา… ‘Fly to the UK’ บริหารจัดการโดยอนุตตรีย์

เอเจนซี่เล็กๆ นี้เน้นคุณภาพและการบริการ เพราะไม่มีทางเน้นปริมาณไปได้ (แน่ล่ะ พนักงานมีเธอแค่คนเดียวนี่) ลูกค้าหลักคือเด็กๆ นักเรียนนักศึกษา แต่การสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่าผู้ปกครองก็ถือเป็นงานสำคัญไม่แพ้กัน ทว่าผู้ปกครองระบอบ ‘เผด็จการ’ อย่างนายรชตะที่จู้จี้จุกจิกยิ่งกว่าผู้หญิงก็ทำเธอนอตหลุด หวิดปรี๊ดแตกอยู่บ่อยๆ

คู่ปรับคราวนี้กินกันไม่ลง เมื่อคนหนึ่งพยายามหว่านล้อม หยิบยกเหตุผลล้านแปดเพื่อให้เยาวชนของชาติได้ไปเรียนต่อสมใจ ขณะที่อีกคนก็ดื้อแพ่งคัดค้านหัวชนฝา เพราะไม่อยากส่งน้องสาวสุดหวงไปไกลตา เฮ้อ…สงสารก็แต่คนกลางอย่างรชิตา อนาคตการศึกษาของเธอขึ้นอยู่กับว่าใครจะเถียงชนะใครหรือนี่

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

จำไม่ได้ค่ะ คืออ่านเป็นเดือนๆแล้วแต่ดองไว้ไม่ได้มาริวิว รู้สึกเนื้อเรื่องอ่านเพลินๆดีไม่ได้มีอะไรหวือหวามาก จัดว่าเป็นเรื่องที่สูงกว่าระดับมาตรฐานที่อ่านสนุก เพลินดี มีพื้นฐานทุกอย่างเท่าที่นิยายเรื่องหนึ่งพึงจะมี ตัวละครก็ออกแบบได้มีมิติ มีเหตุผลในการเคลื่อนไหว ทุกอย่างผ่านเกณฑ์ที่นิยายเรื่องหนึ่งควรมี แต่ทุกอย่างอยู่ในเขตปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการโดนด่า ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้โดดเด่นให้รู้สึกระลึกถึง เพลย์เซฟมากๆค่ะ

เนื้อเรื่องไม่ได้เสียหาย อ่านเพลินได้จนกระทั่งวางก็ยังรู้สึกโอเคไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดใจ ในขณะเดียวกันก็จำไม่ค่อยได้แล้วว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไงเพราะอาการเพลย์เซฟนั่นแหละค่ะ (มันเหมือนดาบสองคม คือไม่โดนด่าแต่ก็ไม่ได้กรี๊ดกร๊าดอะไรกับมัน ประมาณนั้น)

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 23:06:29

ความคิดเห็นที่ 137

ขออีกเรื่อง เพิ่งอ่านจบเมื่อกี้

15-5.[ปีศาจความฝัน] 1 ธันวาคม วันเอดส์โลก อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับโรคเอดส์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เรื่อง ขอบคุณ...ที่เป็นเอดส์
ผู้เขียน : เจมีไน
สนพ: ANIT

จากเรื่องจริงของสาวคนหนึ่ง ที่ได้รับเชื้อมาจากคนที่ตนเองรักที่สุด

โดยไม่ได้ตั้งใจ จนทำให้ชีวิตที่สวยงามของเธอต้องพังทลาย

ความรู้สึกที่ได้อ่าน (เพิ่งอ่านจบสดๆอาจยาวสักหน่อย)

อั้ก! กระอักค่ะ เหนือคำบรรยาย

หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องที่คนเขียนเขียนถึงประสบการณ์ของตัวเองแบบฉบับพ็อคเก็ตบุ๊คของสำนักพิมพ์ที่ไม่ใช่แนวของตัวเอง แต่เผอิญไปร้านเช่าหนังสือแล้วนึกถึงโจทย์ได้เลยถามเขาว่ามีหนังสือเกี่ยวกับเอดส์ไหม เขาก็หยิบเล่มนี้ให้

ไม่รู้ว่าเขาเขียนด้วยตัวเองหรือมีโกสท์ก็ตาม สำนวนในการใช้เป็นภาษาพูดเหมือนกำลังพูดกับคนอ่าน อ่านแล้วบอกตรงๆว่า sick มาก ไม่ได้ sick ในทางที่ดีเสียด้วย

คือเป็นผู้หญิงที่พบว่าตนเองเป็นเอดส์ พอรู้ว่าชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็เริ่มใช้ชีวิตที่สนุกในแบบที่ตัวเองต้องการ ไปเป็นผู้หญิงขายตัว ไปเป็นเมียน้อย จากที่เป็นครูก็เริ่มเปลี่ยนอาชีพไป คำพูดของเธอตรงมาก เป็นชีวิตอีกระดับที่บอกตรงๆว่าหนิงๆไม่เคยได้สัมผัส (ตัวเองก็ไม่ได้ผู้ลากมากดีมาจากไหน แต่ไม่ชินกับความตรงไปตรงมาในแง่ลบได้ขนาดนี้ รู้สึกว่าตัวเองอ่อนต่อโลกมากมาย)

ตามปกติมักจะได้อ่านอะไรที่เป็นกำลังใจ ทำให้มีความหวัง แต่ไม่ใช่หนังสือเล่มนี้แน่นอน ถ้าใครที่อยากอ่านที่มัน reality ก็ลองอ่านดูนะคะ แต่ไม่รับประกันว่าเป็นหนังสือที่ดี มันยิ่งกว่านิยายที่เป็น First Person ดำเนินเรื่องเสียอีก เหมือนกำลังเสพย์อะไรที่เป็นสุดยอดของความเลวร้ายลงในตัวจนอยากกระอักออกมาจริงๆ

คือไม่ได้หมายความว่าคนเขียนเป็นคนเลวร้าย (ซึ่งเจ้าตัวบอกอยู่ว่าตัวเองเป็นอย่างนั้น เธอตบท้ายหนังสือด้วยคำว่า "คิดถึงความไม่ดีของฉันเอาไว้นะคะ...แล้วคุณจะเป็นคนดี") แต่เป็นหนังสือที่อุดมไปด้วยทัศนคติที่ร้ายกาจจริงๆ (ย้ำว่าไม่ได้เลว) คือการกระทำของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังขั้นรุนแรง...แรงมากจนผลักดันให้เธอทำอะไรแบบนี้ ทำให้เห็นถึงความหยาบของสันดานมนุษย์ที่เมื่อถึงจุดที่เราไม่แคร์สังคม มันปะทุความหน้าเกลียดนั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ แล้วทำให้เห็นถึงแก่นแห่งสันดานว่าแท้จริงแล้วมันเป็นยังไง

หนิงๆรู้และเคยเห็นความหน้าเกลียดในสันดานของตัวเองมากมาย เท่าๆกับความรู้สึก passion ต่อใครสักคนที่มันรุนแรงจนสามารถให้อภัยให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเลวร้ายหรือคนที่พร้อมจะเป็นชู้กับใครด้วยคำว่ารักคำเดียว เพราะความเข้าใจว่ามันมีอยู่ในตัว แต่ความสิ้นหวังมันขับให้ความหน้าเกลียดนั่นทวีเป็นสองเท่าจนแทบจะอ๊อก (ขออภัยไม่สุภาพ) อย่างน่ากลัว

จากที่เข้าใจว่าสิ่งที่ได้จากโจทย์คือเห็นวิธีการ deal เมื่อพบว่าตนเองไปสู่จุดที่สิ้นหวังที่สุดของชีวิตว่าเป็นยังไง ซึ่งก็ได้จริงๆ เล่นเอา sick ไปเลย (จริงๆมีคนมากมายที่ deal กับมันวิธีอื่นแต่กับหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงเอาจริงๆ)

ถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านก่อนนอนแล้วชวนให้ฝันร้ายจริงๆค่ะ แต่ก็เป็นเรื่องที่จริงที่สุดแบบไม่ต้องมานั่งคำนึงถึงมารยาททางสังคมที่ถูกขัดเกลามา แล้วจะเห็นว่าสิ่งนี้แหละคือสันดานดิบที่มีอยู่ในตัวทุกคนจริงๆ

อั้ก! ขอกระอักเลือดอีกรอบ
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 01:17:06
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 00:46:31

จากคุณ : peiNing

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 00:44:34

ความคิดเห็นที่ 138

โอ้โห อยากเล่นบ้างจัง

ขอบหนังสือเรื่องเด็กชายชนะ ที่แม่เรไรรีวิว ค่ะ พอดีข้างบ้านมีเด็กขาพิการ จะซื้อไปฝากดีกว่า

ขอบคุณมากค่ะ

จากคุณ : ใต้เงาหน้าต่าง

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 09:11:44

ความคิดเห็นที่ 139

โห..น้องหนิง

อ่านที่รีวิวแล้ว ท่าทางจะอ่านไม่ไหวเหมือนกันง่ะ น่าจะกระอักเช่นกัน เหอๆ

ดีลวิธีนี้ พี่คงจิตตกไปตลอดจนกว่าจะอ่านจบ (เผลอๆ อ่านจบก็ยังจิตไม่หายตกด้วย)

อ่านโจทย์ 15 คะแนนอยู่ค่ะ คิดว่าพรุ่งนี้น่าจะได้รีวิวนะคะ

แวะมาปักหมุดเฉยๆ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 10:15:29

ความคิดเห็นที่ 140

แวะมาปักหมุดครับผม

ยังคงไม่มีรีวิวเหมือนเคย
ผมเชียร์พี่ยาคูลท์นะให้มาล้มแชมป์นายพลุเดือนนี้นะครับ
หมันไส้นายพลุอ่ะ อ่านหนังสือไวมาก -0-

-พี่ยาคูลท์ ลองไปหามาอ่านดูนะครับสำหรับนิยายภาพของ abc comic แล้วพี่จะชอบครับ

แล้วก็มีคำถามครับตกลงหนังสือชุด Percy Jackson & The Olympians มีแปลไทยออกมาหรือยังอ่ะครับ อยากอ่านจัง

-พี่หมูย้อมสี ผมก็เพิ่งจะรู้ความหมายของ xoxo จากหนังสือเล่มนี้เหมือนกันครับ เคยเจอครั้งแรกในเพลงไตเติ้ลของซีรี่ย์ Gossip Girl แล้วสงสัยอยู่เหมือนกันว่ามันแปลว่าอะไร?

-พี่ปิยะรักษ์ เห็นด้วยครับกับชื่อหนังสือนิยายในชุด Women’s Murder Club ของ James Patterson ตั้งชื่อออกมาได้เท่จริงๆ ตกลงสนุกและน่าอ่านไหมครับ

กับการ์ตูนชุดคินดะอิจิ ผมตามอ่านมาหมดทั้งการ์ตูนชุดยาวและการ์ตูนเรื่องสั้นเป็นตอน ค่อนข้างจะเห็นด้วยเลยครับกับเรื่องทริกการฆาตกรรมและสถานที่บางทริก บางอักค่อนข้างจะเข้าใจยากเหมือนกัน และผมก็ชอบมากเป็นพิเศษกับแรงจูงใจในการฆาตกรรมของฆาตกรในการ์ตูนชุดนี้เหมือนพี่เลยครับ อิอิ แบบว่าบางคนมันน่าฆ่าจริงๆ

-พี่นุช ตกลง บุนชินซาบา คาถาเรียกผี น่าอ่านไหมครับ อยากอ่านนิยายผีๆที่มันหลอนๆ น่ากลัวๆ บ้างอ่ะ หลังจากที่อ่านนิยายชุด ริง มาแล้วมันไม่น่ากลัวเลย

-นายพลุ กะจะทำคะแนนไม่ให้คนอื่นไล่ทันเลยใช่ไหมเนี่ย ใจร้ายอ่ะ?
นิยายชุดนี้ของอาคากาวะ จิโร น่าอ่านมากๆ เดี๋ยวต้องไปซื้อหามาเก็บไว้ซะแล้ว

จากคุณ : ปีศาจความฝัน

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 10:28:52

ความคิดเห็นที่ 141

อรุณสวัสดิ์ทุกคนค่า...

ยินดีต้อนรับคุณ sweetsugar ค่ะ
สำหรับคำถามเรื่อง"สูตรเสน่หา" กับโจทย์อาชีพฉีกพิมพ์นิยมใช้ได้ค่ะ

อ่านรีวิวเล่มเอดส์คุณ Peining แล้ว แทบกระอักตามเลยนะคะนั่น... yuck

วันนี้ขอส่งการบ้านอีกสักสองสามโจทย์ตามที่เกริ่นไว้เมื่อคืนนะคะ

5-5.[PTNCenter] หนังสือที่มีเรื่องราวของคนไทยในต่างแดนจะเป็นประเภทใดก็ได้ไม่จำกัด

"นกน้อยในลมหนาว"
โดย "เชิญอักษร"
สนพ.หมึกจีน (พ.ย. ๒๕๓๗)
๑๘๓ หน้า

เรื่องย่อ : หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ยาหยีก็เดินทางไสหรัฐอเมริกา
เพื่อสมทบกับพี่สาวสองคน - ยานีกับยาดา -ซึ่งต่างก็มีครอบครัวและลงหลักปักฐานที่นั่น
รวมทั้งแม่ของเธอซึ่งตามมาอยู่กับพี่สาวคนโต...
ทั้ง ๆ ที่เธอออกจะรู้สึกขัดแย้งและแปลกแยก แต่เธอก็ไม่มีทางเลี่ยง...

ในระหว่างที่รองาน ยาหยีทำหน้าที่รับส่งหลาน ๆ ไปโรงเรียน
และวันหนึ่งเธอก็ได้พบกับ "ภัทร" เด็กชายไทยตัวเล็ก แต่มีจิตใจนักสู้...
ภัทรอยู่กับบิดา - ภราดา ตามลำพัง
ภัทร ได้ทำให้ยาหยีเรียนรู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่แปลกแยก
เมื่อถูกรังแกจากเด็กที่โตกว่า เขาไม่แก้ปัญหาด้วยการหนี...หรือฟ้องผู้ใหญ่
หากเขาแก้ด้วยการฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น...และมากพอที่จะต่อกรกับคนที่รังแกเขาได้ในวันหนึ่ง
ทำให้ยาหยีรู้สึกทึ่งและประทับใจในวิธีคิด วิธีเลี้ยงลูกของภราดา

ยาหยีไม่เคยชอบหน้า "แอลเลน" พี่เขยมาแต่ไหนแต่ไร...
ด้วยเขามักจะแสดงท่าทีที่เหนือกว่าครอบครัวของภรรยามาโดยตลอด
และวันหนึ่ง ความอดทนของเธอก็สิ้นสุด เมื่อแอลเลนพยายามจะลวนลามเธอ
ยาหยีจึงคิดถึงการกลับเมืองไทย...แม้จะไม่มีญาติพี่น้องเหลืออยู่ที่นั่น
แต่อย่างน้อยเธอก็รู้สึกว่า...ที่เมืองไทยมีคนที่คิดเหมือนเธอ พูดภาษาเดียวกัน มีอากาศอุ่น ๆ ดินอุ่น ๆ ให้เธอสัมผัสได้

แต่ภราดาก็ก้าวเข้ามาทำให้เธอฮึดสู้อีกครั้ง...

***************

อย่าว่ากันน๊า...
ที่หยิบหนังสือของ "เชิญอักษร" มาตอบโจทย์อีกแล้ว
เป็นนักอ่านที่ค่อนข้างติดนักเขียนค่ะ
ลงว่าชอบเสียแล้วก็จะตามติดอ่านของเขาไปเสียทุกเล่มทุกเรื่องไป

"นกน้อยในลมหนาว" เป็นนิยายขนาดสั้น แต่อ่านเพลิน
ด้วยผู้เขียนได้ใช้ประสบการณ์ชีวิตช่วงหนึ่ง ในการเป็น"นกน้อยเมืองร้อน" ที่ต้องไปใช้ชีวิตโต้ลมหนาว ณ ดินแดนไกลบ้านเกิดเมืองนอน
ถ่ายทอดมาเป็นเรื่องราวน่าอ่าน ซึ่งนอกจากจะสอนใจยาหยีแลัว
ก็น่าจะช่วยให้สาวน้อยหนุ่มน้อยหลาย ๆ คนฉุกใจได้คิดด้วยเหมือนกันว่า...
ทุกหนทุกแห่งในโลกมีทั้งคนดีคนเลว แต่จะไม่มีที่ไหนเหมาะกับคนไทยเท่าเมืองไทยอีกแล้ว....

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 10:36:15

ความคิดเห็นที่ 142

โจทย์ต่อไป เล่มนี้ได้รับการอนุมัติจากเจ้าของโจทย์แล้วว่าผ่าน...อิอิ
ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกวางไว้อีกโจทย์หนึ่ง แต่โจทย์นั้น(สี่สุดสนุก)หาหนังสือง่ายกว่า

10-14.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่ผู้ดำเนินเรื่องหรือตัวเอกเป็นผู้ร้าย เช่น หรือว่าผมฆ่า? (Darkly Dreaming Dexter) หรือ เหี้ยมไม่เงียบ (The Silence of the Lambs) เป็นต้น

"แสนรักแสนแค้น"
ผู้เขียน "ศรีบูรพา"
ผู้พิมพ์ : สนพ.ดอกหญ้า ๒๕๔๕(พ.ศ.๒๕๔๗)
๒๔๐ หน้า

เรื่องย่อ : โพยม นักศึกษาหนุ่มมีคนรักที่รักกันดูดดื่มคือจุไร ผู้มีค่าเสมอด้วยดอกฟ้าสำหรับเขา เขาเฝ้าทนุถนอมเธอ แม้มีโอกาสอยู่ด้วยกันใกล้ชิดเขาก็ไม่ยอมทำให้เธอมีมลทิน เพราะคาดหวังว่าเมื่อเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแล้วเขาจะแต่งงานกับเธอ
เมื่อโพยมเรียนอยู่ปีสุดท้าย จุไรซึ่งย้ายตามผู้ปกครองของเธอไปอยู่เมืองสงขลาก็แต่งงานไปกับเจ้าเมืองสงขลา เป็นคุณหญิงจุไร
ทำให้โพยม...ซึ่งรู้ข่าวนั้นโดยบังเอิญก่อนวันสอบไล่วิชาสุดท้ายต้องฝันสลายอย่างยับเยิน
เขาตัดสินใจปุบปับเดินทางไปสงขลาทันทีและเข้าพบกับจุไร ทั้งคู่เกิดการโต้เถียงกัน โพยมรู้สึกโกรธจัดจนใช้มีดแทงจุไรจนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วตัวเขาก็เดินทางกลับกรุงเทพซึ่งพี่สาวทั้งสองของเขากำลังเฝ้ารออยู่อย่างกังวลใจ
จุไรไม่ได้เอาความกับโพยม ด้วยเกรงเจ้าคุณสามีจะล่วงรู้ว่ามือมีดที่ทำร้ายเธอนั้นเป็นคนรักเก่า
โพยมกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอยู่ที่บ้านที่กรุงเทพอีกช่วงระยะหนึ่ง จนใคร ๆ ต่างลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคิดว่าเขาคงตัดใจจากจุไรได้แล้ว
แต่จริง ๆ แล้ว เขาเพียงแต่รอเวลาอยู่เท่านั้น
เขาเดินทางกลับไปสงขลาอีกครั้ง โดยบอกกับพี่ ๆ น้อง ๆ ว่าจะไปหางานทำ...
ครั้งนี้เขาวางแผนเป็นอย่างดี โดยกลับไปหาจุไรและพร่ำพรรณนาถึงความรักความหลัง จนจุไรใจอ่อนและมีความสัมพันธ์ด้วย
และตกหลุมรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ถึงขั้นที่ว่าหากขาดเขาเสียแล้วเธอเห็นจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว
จากนั้นโพยมก็นัดแนะที่จะพาเธอหนี...ซึ่งจุไรก็ยอมรับอย่างง่ายดาย
หากวันที่นัดแนะกันนั้น เมื่อจุไรมาตามนัดเธอก็ได้พบแต่ชายแปลกหน้า พร้อมด้วยจดหมายฉบับหนึ่งจากโพยม
ด้วยเนื้อความที่ระบุว่า...ทั้งหมดที่ผ่านมานั้นเป็นแผนการแก้แค้นจากเขา...
หลังจากอ่านจดหมายจบ จุไรก็หาได้หวนกลับไปหาเจ้าคุณสามี...(เพราะในจดหมาย โพยมระบุว่าเขาได้เขียนจดหมายเล่าความจริงทั้งหมดให้กับสามีเธอด้วย)
เธอตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อตามหาโพยม และถามเอาความจริงแต่โพยมก็หลบเลี่ยงไม่อยู่รอพบหน้า...
หนึ่งปีต่อมา...โพยมจึงได้พบกับจุไรอีกครั้ง ในสภาพทรุดโทรม เป็นเพียงหญิงรับใช้ในโฮเต็ลแห่งหนึ่ง...
โพยมได้ปฏิเสธและผลักไสจุไรอย่างไร้เยื่อใย และรู้สึกภาคภูมิใจในชัยชนะของตนเป็นอย่างยิ่ง
อีกหนึ่งสัปดาห์ถัดจากนั้น...เขาก็ได้ข่าวว่าจุไรได้กินยาตายไปเสียแล้ว กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์รายวันแทบทุกฉบับทีเดียว...

******************

เรื่องย่อค่อนข้างยาว และมีสปอยล์อ่ะ ด้วยเห็นว่าเป็นหนังสือเก่าแล้ว และถ้าไม่สปอยล์ก็ไม่อาจตอบโจทย์ได้

เรื่องราวดำเนินไปผ่าน "ข้าพเจ้า" ในลักษณะบันทึกของโพยม...
ซึ่งเล่าเรื่องราวเหล่านี้หลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ปิดฉากลงไปแล้วถึง ๕ ปี
ด้วยเขาตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดโดยใจเป็นธรรมและปราศจากความรู้สึกโกรธแค้นหลงเหลืออยู่...

ในส่วนของผู้ประพันธ์นั้นขออนุญาตคัดบางส่วนจากคำนำมาลงไว้ณ ที่นี้...
"เรื่อง "แสนรักแสนแค้น"นี้ เป็นผลงานประพันธ์ของ "ศรีบูรพา" ที่มีความโดดเด่น
ผิดกับนิยายประโลมโลกธรรมดา แม้ว่าผู้ประพันธ์จะได้เขียนขึ้นมาแล้วเป็นเวลาช้านาน
ทั้งนี้เพราะผู้ประพันธ์ ได้ตระหนักถึงคุณธรรม ความดีงาม และแง่มุมอันมากด้วยแก่นสารและสาระของชีวิตมนุษย์
ผู้ประพันธ์ได้ใช้ความสามารถอันชาญฉลาดนำมาสอดใส่ให้ตัวละครเดินไปในครรลองแห่งความหมดจด ดีงาม
เพื่ออย่างน้อยจะทำให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์จากการอ่าน"

และเจ้าตัวผู้เล่าเรื่อง็ได้จบบันทึกของเขาไว้ดังนี้...

"ท่านหญิงผู้ดีทั้งหลาย ท่านจะลงโทษข้าพเจ้าว่าเป็นคนโหดร้ายทารุณสักเพียงใดก็ตามทีเถิด
ข้าพเจ้าต้องการแต่เพียงจะให้ท่านได้รู้จักผู้ชายอย่างข้าพเจ้าไว้สักคนหนึ่งเท่านั้น...
ข้าพเจ้าเชื่อว่าผู้ชายอย่างนายโพยมนั้น คงไม่มีแต่เพียงคนเดียวในโลก
ความข้อนี้ท่านหญิงทั้งหลายอย่าได้ลืมเสียเป็นอันขาด..."

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 10:56:13

ความคิดเห็นที่ 143

^
^
อ๊ะ ภาพปกหาย เอาใหม่ ๆ

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:00:19

ความคิดเห็นที่ 144

อีกโจทย์นะคะ ติดๆ กันเลย
10-15.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือในดวงใจที่อยากแนะนำให้คนอื่นอ่าน

แน่นอนว่า(สำหรับตัวเอง)ถ้าเป็นหนังสือในดวงใจ ก็ต้องเป็นหนังสือที่อ่านมาแล้วไม่ต่ำกว่าสามรอบ
ซึ่งจริง ๆ มีค่อนข้างเยอะ ตอนเห็นโจทย์นี้ก็ต้องเลือกอยู่นาน ประมาณว่ารักพี่เสียดายน้อง
เล่มนี้ก็รัก อยากให้ใคร ๆ ได้อ่านตาม เล่มนั้นก็ดี๊-ดี น่าแนะนำให้เพื่อนอ่าน ฯลฯ

แต่มาลงเอยที่เล่มนี้ เพราะนอกจากจะเป็นหนังสือในดวงใจแล้ว ...
ผู้แปลยังเป็นนักเขียนนักแปลในดวงใจตลอดกาลอีกต่างหาก

"ชั่วนิรันดร์"
TUCK EVERLASTING : NATALIE BABBITT
ผู้เขียน : นาตาลี แบ๊บบิตต์
ผู้แปล : สุริยฉัตร ชัยมงคล
ผู้พิมพ์ : สนพ.ผีเสื้อ (ครั้งแรก พ.ย. ๒๕๓๙)
๑๘๕ หน้า

จากคำนำ :
ขณะที่ใครต่อใครพยายามหาวิธี “ยืดอายุ”
ให้ยาวนานออกไปหลาย ๆ ปี อยากมีอายุยืนเพื่อจะได้ใช้ชีวิตในโลกนี้
ให้นานเท่านาน…แต่นาตาลี แบ๊บบิตต์ ผู้เขียนเรื่องนี้กลับคิดสวนทางกัน
ความคิดของเธออยู่บนพื้นฐานของคำถามที่ว่า
'หากฅนกลุ่มหนึ่งค้นพบวิธีทำให้ชีวิตเป็น อมตะ มีชีวิตนิรันดร์
โดยยังคงเรือนร่างอย่างเดิมตลอดไปทุกประการ จะเกิดอะไรขึ้น
ฅนเหล่านั้นจะมีความสุขหรือความทุกข์ และต้องผจญอะไรบ้าง'

เรื่องย่อ : (ย่อเอง...อาจยาวหน่อยและมีสปอยล์... เพราะเล่าโดยไม่สปอยล์ค่อนข้างยาก)

"วินนีเฟรด ฟอสเตอร์" หรือวินนี่ เด็กหญิงวัยสิบเอ็ดขวบรู้สึกเบื่อหน่ายต่อการจ้ำจี้จ้ำไชของผู้ใหญ่ในครอบครัว เธอจึงคิดหนีออกจากบ้าน
เธอดุ่มเดินเข้าไปในป่าทึบใกล้บ้าน(ซึ่งอยู่ในเขตที่ดินของครอบครัวฟอสเตอร์ของเธอนั่นเอง) - - ชื่อป่าทรีแก๊ป
ที่นั่นเธอได้พบกับเจสสี ทัค เด็กหนุ่มผู้ดูเหมือนจะบุคลิกโดดเด่น เปล่งประกายจนวินนี่แทบจะตกหลุมรักเขาในทันทีทันใด
เมื่อทักทายพูดคุย วินนี่ถามเขาว่าเขาอายุเท่าไหร่ เขาก็ตอบเธอว่า เขาอายุ ๑๐๔ ปี
แต่วินนี่ไม่เชื่อ เขาจึงกลับคำ บอกว่าเขาอายุสิบเจ็ด...

ขณะที่วินนี่พบเขานั้น เขากำลังดื่มน้ำจากตาน้ำพุในป่าแห่งนั้น แต่เมื่อวินนี่จะดื่มน้ำนั้นบ้าง เจสสีก็คัดค้านอย่างหนักจนเธอสงสัยว่าทำไม...
ขณะที่เธอพยายามดื้อดึงจะดื่มน้ำพุนั้นให้ได้ แม่และพี่ชายของเจสสี -เม ทัค และไมลส์ - ก็มาถึงที่นั่นพอดี ...
เพื่อป้องกันไม่ให้วินนี่ดื่มน้ำพุนั้น พวกเขาจึงต้องจับตัววินนี่ไปที่ที่อยู่ของพวกเขาด้วย...
วินนี่เองด้วยความคิดที่จะหนีออกจากบ้านอยู่แล้ว...และคนพวกนี้ก็ปฏิบัติต่อเธอสุภาพดีจึงติดตามไปด้วยโดยง่าย
เมื่อเห็นว่าวินนีเป็นเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์ พวกเขาจึงบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้วินนี่ฟัง

นั่นคือ...เมื่อเวลาเนิ่นนานกว่าแปดสิบปีมาแล้วที่พวกเขาได้พบกับตาน้ำพุนั้นโดยบังเอิญ และดื่มน้ำเข้าไป...
ช่วงแรก ๆ พวกเขาก็ยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ...
แต่ต่อมาก็ค่อย ๆ ผิดสังเกต เมื่อเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ขึ้นกับพวกเขา แต่ไม่มีใครเป็นอะไร...
เมื่อไมลส์แต่งงาน และมีลูกสองคน ภรรยาของเขาก็แก่ตัวลงเรื่อย ๆ ลูก ๆ ก็เติบโตขึ้นจนเท่าพ่อ...
พวกเขาก็ยังคงดูเหมือนเดิม จนภรรยาของไมลส์เข้าใจว่าพวกเขาต้องเป็นภูตผีปีศาจหรือพ่อมดหมอผีไปโน่น เธอจึงพาลูก ๆ หนีจากไป
พวกเพื่อนบ้านต่างพากันซุบซิบถึงความผิดปกตินี้และหลบเลี่ยงพวกเขา...

นั่นแหละ พวกเขาจึงได้ตระหนักถึงสิ่งที่เขาเป็นอยู่ และรู้ว่าต้องมาจากน้ำพุนั่น
พวกเขาต้องเก็บความลับเรื่องนี้ไว้อย่างมิดชิด และต้องร่อนเร่พเนจรไปเรื่อย ๆ อยู่ที่ไหนนาน ๆ ไม่ได้ เพราะเกรงคนจะล่วงรู้ความลับนี้...

พวกเขาไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า...ขณะที่พวกเขาเล่าเรื่องราวให้วินนี่ฟังนั้น มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งติดตามวินนี่มาแอบได้ยินเข้าโดยบังเอิญ...
และเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นในใจ...
ชายแปลกหน้ากลับไปบอกกับครอบครัวของวินนี่ให้ยกที่ดินในป่าทรีแก๊ปให้กับเขาแลกกับการที่เขาจะนำตัววินนี่กลับมาให้...

ในขณะเดียวกัน แองกัส ทัค ชายผู้มีใบหน้าเศร้าสร้อยซึ่งเป็นพ่อของเจสสีได้พูดคุยกับวินนี่เพื่อให้เธอสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องน้ำพุนั้น...
และตัวเธอเองจะต้องไม่ดื่มมันเข้าไปด้วย...
วินนี่เข้าใจกระจ่างแจ้งถึงเหตุและผลต่าง ๆ ที่แองกัสพูด...โดยเฉพาะเมื่อเขาบอกว่า...
"...ทุกชีวิตต้องมีความเปลี่ยนแปลง แต่พวกทัคเป็นสิ่งที่ออกนอกวัฏจักรไปแล้ว เป็นเหมือนก้อนหินก้อนหนึ่ง คงอยู่อย่างนั้นไปชั่วนิรันดร์ แองกัสกล่าวว่า 'อย่ากลัวความตาย แต่จงกลัวชีวิตที่มิได้ใช้ให้เป็นประโยชน์'..." เธอจึงรับปาก

พวกเขากำลังจะพาวินนี่กลับบ้าน ก่อนจากกันเจสสีได้แอบมาหาวินนี่และบอกเธอว่าขอให้เธอรออีกหกปี
เมื่อเธอมีอายุสิบเจ็ดเท่าเขาก็ให้ดื่มน้ำพุนั้น แล้วเขาและเธอจะได้มีชีวิตนิรันดร์ร่วมกัน...วินนี่ลังเล

ชายแปลกหน้าเข้ามายังที่อยู่ของพวกเขาเพื่อชิงตัววินนี่ เกิดการยื้อยุดกันขึ้น เม ทัคเกิดพลั้งมือกวัดแกว่งปืนโบราณจนท้ายปืนฟาดโดนศีรษะชายแปลกหน้าจนเสียชีวิต
เธอจึงถูกตำรวจจับ และอาจจะถูกประหารชีวิต...
แต่พวกเขาจะยอมให้เมถูกประหารไม่ได้ เพราะความลับของพวกเขาจะต้องถูกเปิดเผย...

พวกเขาจะแก้ปัญหานี้อย่างไร...?
สุดท้ายแล้ว วินนี่จะทำตามที่เจสสีบอกหรือไม่เมื่อเธออายุสิบเจ็ดปี...?
น่าสนใจใคร่รู้ไหมล่ะคะ

ส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือในดวงใจก็ได้แก่ผู้แปลค่ะ
สุริยฉัตร ชัยมงคล เป็นนักแปลที่มีฝีมือประณีต
ใช้ภาษาได้งดงามสละสลวย ดูแต่บทกวีสั้น ๆ ที่เขาแต่งขึ้น
ประกอบหนังสือเล่มนี้…อ่านแล้ว…อย่างเหงา

“…ห้วงนิรันดร...
ผลึกเวลาตกตะกอนนี้ฝืนสวรรค์
ดอกไม้ที่ไม่มีวันโรยรานั้น
จักอ้างว้างนานอนันต์ – และรวดร้าว”

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:05:39

ความคิดเห็นที่ 145

ไหน ๆ แล้วก็ไหน ๆ เลย ขอเก็บโจทย์วันคริสต์มาสอีกเล่มนะคะ

15-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือเกี่ยวกับวันคริสต์มาส หรือมีบรรยากาศวันคริสต์มาสเป็นบรรยากาศหลัก

นิทานใต้ต้นคริสต์มาส : Round the Christmas Tree
ซาร่าและสตีเฟน คอร์ริน รวบรวม
"ฤดูร้อน" แปล/เรียบเรียง
สนพ.ดอกหญ้า / พิมพ์ (ครั้งที่ 2 มิ.ย. 2536)
159 หน้า

โปรยปกหลัง : เสียงเพลงจิงเกิ้ลเบลล์
ประทัดและดอกฮอลลี ขนมพุดดิ้งพลัมกับไก่งวง
คือสิ่งที่บอกว่า...เทศกาลคริสต์มาสมาถึงแล้ว...

มาพร้อมคุณพ่อคริสต์มาสแสนใจดี
กับกวางเรนเดียร์คู่หู
และถุงของขวัญใบเบ้อเร่อ

มาแจกจ่ายความรักความใฝาฝัน
รวมไว้ใน นิทานใต้ต้นคริสต์มาส
เรื่องราวน่ารักใส ใส
ของคุณพ่อคริสต์มาสผู้โอบอ้อมอารี
ขวัญใจเด็ก ๆ จากทั่วทุกมุมโลก

***********

ชอบจริง ๆ เลยกับการอ่านนิทานเด็ก ๆ เนี่ย
คือ...จะอ่านเอารสก็ได้...จะอ่านเอาเรื่องก็ดี...

ในเล่มนี้ประกอบด้วยนิทานน่ารัก ๆ ที่อวลกลิ่นอายแห่งเทศกาลคริสต์มาสถึง 16 เรื่องแน่ะค่ะ
เปิดเล่มด้วย นิทานเรื่อง "เจ้าเหมียวขาวตัวเบิ้ม" โดย ไลลา เบิร์ก - -เรื่องเล่าของเจ้าหมีขาวที่เดินทางผ่านบ้านชายคนหนึ่งในคืนคริสต์มาสอีฟ...
เจ้าของมันขอเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้าน แต่คืนนั้นมีปีศาจหลายตัวเข้ามารังควานเจ้าของบ้าน และหมีขาวก็ไล่ตะเพิดพวกมันไปจนหมด...
ในวันคริสต์มาสปีถัดมา...พวกปีศาจก็จะเข้ามาก่อกวนบ้านหลังนั้นอีกเช่นเคย
แต่เมื่อมันถามเจ้าของบ้านว่ายังเลี้ยง "เจ้าเหมียวขาวตัวเบิ้ม" อยู่หรือเปล่า เจ้าของบ้านจึงแสร้งตอบว่า ยังเลี้ยงอยู่ แถมมีลูกแมวอีก ๗ ตัวด้วยนะ เจ้าปีศาจจึงรีบหนีไป และไม่มาใกล้บ้านหลังนั้นอีกเลย...

**********

แล้วก็มีเรื่อง "คุณพ่อคริสต์มาสกับช่างไม้"..."กำปั่นนางฟ้า"..."รถไฟคริสต์มาส" ...ฯลฯ

ไปจนถึงเรื่องสุดท้ายชื่อเรื่อง "แกว่ง-ข้าง-ฝา" เล่าโดย บีทริกซ์ พอตเตอร์ เป็นเรื่องของหญิงชราใจดีผู้หนึ่ง ชื่อ แซลลี่ สามีของเธอตายจากไปด้วยอาการป่วยเรื้อรัง ซึ่งทำให้เธอต้องยากจนจนแทบไม่มีจะกิน เพราะต้องใช้เงินไปในการรักษาสามี...
แซลลี่มีนาฬิกาโบราณอยู่เรือนหนึ่ง ที่ส่งเสียงดังแปลก ๆ ว่า "ติ๊ก-ต๊อก-ทอง-นิ้ว"...ซึ่งเธอไม่เข้าใจและไม่ได้ใส่ใจมากมาย

จนวันหนึ่ง เธอก็ได้รับจดหมายจากเพื่อนบ้านของลูกสาวเธอว่า ลูกสาวและลูกเขยของเธอเสียชีวิตแล้ว ทิ้งลูกสาววัยแปดขวบเป็นเด็กหญิงผมทองน่ารักให้เพื่อนบ้านดูแลอยู่ แต่เขาเองก็มีลูก ๆ อีกหลายคน จึงขอให้เธอส่งค่าเดินทางไปให้ เพื่อที่เขาจะได้ส่งเด็กหญิงผมทองให้มาอยู่กับคุณยาย

แซลลี่รู้สึกเศร้าใจเพราะไม่มีเงินไปรับหลานสาว...แต่แล้วในคืนคริสต์มาสอีฟก็เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นในบ้าน เมื่อมีถุงเท้าที่เต็มไปด้วยทองร่วงลงมาจากปล่องไฟเหนือเตาผิง และเจ้านาฬิกาแกว่ง-ข้าง-ฝา ของเธอก็ร้องบอก"ติ๊ก-กะ-ต๊อก-เด็ก-ผม-ทอง-ติ๊ก-กะ-ต๊อก-เด็ก-ผม-ทอง"
คุณยายจึงไปรับตัวหลานสาวมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข...

ขออนุญาตเล่าคร่าว ๆ แค่สองเรื่องนี้ก็แล้วกันนะคะ
หนังสือนิทานเป็นหนังสือประเภทที่อ่านได้ไม่รู้เบื่อสำหรับแม่ไก่ค่ะ
ไม่ว่าจะอ่านเองหรืออ่านให้เด็ก ๆ ฟัง...

ส่งรีวิวไว้ช่วงนี้เพราะเกรงว่าจะพ้นช่วงเทศกาลไปเสียก่อนน่ะค่ะ
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 11:20:41

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:14:09

ความคิดเห็นที่ 146

คุณ sweetsugar - ยินดีต้อนรับค่ะ ส่งการบ้านครั้งแรกก็ใช้ได้แล้วค่ะ แต่ถ้ามีรูปด้วยจะแจ่มมากเลยค่า (สรุปว่าสนุกใช่มั้ยคะ เล็งๆอยู่เหมือนกัน จะได้ลองหามาอ่านบ้าง) ส่วนเรื่องอาชีพกุ๊ก คิดว่าน่าจะได้นะคะ รอกรรมการมาคอนเฟิร์มอีกที (อ่านกระทู้นานไปหน่อย กรรมการมาตอบไปแล้ว)

คุณหนิงๆ - รู้สึกว่าหนังเกาหลีสนุกค่ะ แต่เรื่องไหนที่เคยดูก็ไม่เคยอ่าน เรื่องไหนที่อ่านก็ไม่เคยดู เลยไม่เคยเปรียบเทียบเหมือนกันค่ะ (ว่าจะซื้อหนังสือเรื่อง coffee prince มาอ่าน หลังจากติดใจจากละคร ถ้าได้อ่านคงได้รู้ล่ะค่ะว่าอันไหนสนุกกว่า) / เรื่อง ทุกสิ่งอันฯ เชียร์สุดๆค่ะ อ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ

คุณใต้เงาหน้าต่าง - อย่าได้รีรอค่ะ มาร่วมสนุกกัน แล้วคุณจะติดใจ (ยิ่งกว่าติดเฟสบุก ^o^)

คะแนนสูสีกันมากเลยทีเดียวระหว่างสามอันดับบน ไม่รู้ใครจะได้แชมป์เดือนนี้กันแน่ สงสัยต้องลุ้นจนวันสุดท้าย (รอบนี้ปิด 30 ธค. หรือ 31 ธค. คะ)
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 11:34:49

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:24:11

ความคิดเห็นที่ 147

ขอบคุณสาว "ยาคูลย์" ที่มากระซิบบอก มือใหม่หัดรีวิว ไม่ค่อยเข้าใจกติกานัก

วันนี้ก็เลยนำเสนออีกเรื่องค่ะ

25-5.[ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือเกี่ยวกับคนในกลุ่มชาติพันธุ์ หรือ มีคนในกลุ่มชาติพันธุ์เป็นตัวเอกจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย เช่น ปกากะญอ ม้ง ไทยใหญ่ ฯลฯ หรือในต่างประเทศ เช่น อินเดียนแดงเผ่าต่าง ๆ ชาวพิกมีในแอฟริกาโดยต้องเล่าถึงลักษณะเด่นหรือลักษณะพิเศษของกลุ่ม ชาติพันธุ์นั้นมาด้วย

ศิวา-ราตรี
ผู้เขียน : พนมเทียน
สำนักพิมพ์ : บ้านวรรณกรรม

ทุษยันต์ เวชยันต์ ทัสสยุ สามยุพราชเผ่ามิลัก๘ ผู้ประสูติในกาลเวลาไล่เลี่ยกัน ทรงสิริลักษณ์ประพิมพ์ประพายประหนึ่งหุ่นที่หล่อจากเบ้าหลอมอันเดียวกันจนยากที่จะพิสูจน์ชัดได้ว่าใครเป็นใคร หากนึ่งในสามวิ่งเป็นผู้ประสูติในเวลามัฌกาล ระหว่างผู้เป็นเชษฐาและอนุชา มีรอยจากกำเนิดแตกต่างไปจากสององค์ ด้วยว่า ระหว่างกาลางของพระอุระพางค์ปรากฏเป็นตำหนิร่องลึกดุจเกิดขึ้นด้วยเล็บของสีหราชจารึกอยู่เด่นชัด ส่วนอีกสององค์บริสุทธิผุดผ่องปราศจากมลทินและยองใย

ความเปลี่ยนแปลงอาจจะมีขึ้นได้ในสังขารของข้าพระบาท แต่จะไม่บังเกิดแก่ดวงวิญญาณซึ่งรวมอยู่ยามาระตีเพียงคนเดียว ไม่ว่าภพนี้หรือภพไหน เราอาจจะเคยเป็นคู่รักที่สร้างกรรมไว้แก่กันในชาติก่อน และมาไดรับผลแห่งความชื่นชมในชาตินี้ แต่จะเป็นชาติไหนต่อไปก็ตามที ข้าพระบาทไม่ขอเปลี่ยนที่จะรักยามาระตีอรทัย แม้ว่า โดยความรักนั้นจะได้ลิ้มรสขมขื่นทรมานหนักสักปานใดก็ตาม

สิ่งเดียวที่ข้าปรารถณาในโลกนี้คือความรักจากท่าน แม้จะหักห้ามสักเพียงไร ข้าก็ไม่อาจฝืนความสัตย์จริงนี้ไปเสียได้ ความรักลอยตัวอยู่เหนืออุปสรรคขวากหนามอันใดๆ โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าท่านจะเป็นมิลักขะ ส่วนข้าจะเป็นอารยัน ศัตรูคู่แค้น

นิยายเรื่อง ศิวา-ราตรี เป็นนิยายที่พนมเทียนรักมาก มากจนท่านเคยพูดว่า ถ้าจะให้ท่านเขียนนิยายแนวนี้อีก ท่านคงเขียนให้เหมือนอย่างเรื่องศิวาราตรีไม่ได้อีกแล้ว เรื่องศิวาราตรีก็ได้ทำให้ชื่อของพนมเทียนดังขจรขจายอีกครั้ง (ศิวาราตรี หมายถึง คืนของพระศิวะ หมายความว่า คืนดังกล่าวจะมีพิธีลอยบาป นี่คือคำอธิบายเรื่องศิวาราตรีของพนมเทียน)

จากคุณ : แม่เรไร

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 13:29:36

ความคิดเห็นที่ 148

ลืมรูปประกอบค่ะ

25-5.[ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือเกี่ยวกับคนในกลุ่มชาติพันธุ์ หรือ มีคนในกลุ่มชาติพันธุ์เป็นตัวเอกจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย เช่น ปกากะญอ ม้ง ไทยใหญ่ ฯลฯ หรือในต่างประเทศ เช่น อินเดียนแดงเผ่าต่าง ๆ ชาวพิกมีในแอฟริกาโดยต้องเล่าถึงลักษณะเด่นหรือลักษณะพิเศษของกลุ่ม ชาติพันธุ์นั้นมาด้วย

ศิวา-ราตรี
ผู้เขียน : พนมเทียน
สำนักพิมพ์ : บ้านวรรณกรรม

ทุษยันต์ เวชยันต์ ทัสสยุ สามยุพราชเผ่ามิลักขะ ผู้ประสูติในกาลเวลาไล่เลี่ยกัน ทรงสิริลักษณ์ประพิมพ์ประพายประหนึ่งหุ่นที่หล่อจากเบ้าหลอมอันเดียวกันจนยากที่จะพิสูจน์ชัดได้ว่าใครเป็นใคร หากนึ่งในสามวิ่งเป็นผู้ประสูติในเวลามัฌกาล ระหว่างผู้เป็นเชษฐาและอนุชา มีรอยจากกำเนิดแตกต่างไปจากสององค์ ด้วยว่า ระหว่างกาลางของพระอุระพางค์ปรากฏเป็นตำหนิร่องลึกดุจเกิดขึ้นด้วยเล็บของสีหราชจารึกอยู่เด่นชัด ส่วนอีกสององค์บริสุทธิผุดผ่องปราศจากมลทินและยองใย

ความเปลี่ยนแปลงอาจจะมีขึ้นได้ในสังขารของข้าพระบาท แต่จะไม่บังเกิดแก่ดวงวิญญาณซึ่งรวมอยู่ยามาระตีเพียงคนเดียว ไม่ว่าภพนี้หรือภพไหน เราอาจจะเคยเป็นคู่รักที่สร้างกรรมไว้แก่กันในชาติก่อน และมาไดรับผลแห่งความชื่นชมในชาตินี้ แต่จะเป็นชาติไหนต่อไปก็ตามที ข้าพระบาทไม่ขอเปลี่ยนที่จะรักยามาระตีอรทัย แม้ว่า โดยความรักนั้นจะได้ลิ้มรสขมขื่นทรมานหนักสักปานใดก็ตาม

สิ่งเดียวที่ข้าปรารถณาในโลกนี้คือความรักจากท่าน แม้จะหักห้ามสักเพียงไร ข้าก็ไม่อาจฝืนความสัตย์จริงนี้ไปเสียได้ ความรักลอยตัวอยู่เหนืออุปสรรคขวากหนามอันใดๆ โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าท่านจะเป็นมิลักขะ ส่วนข้าจะเป็นอารยัน ศัตรูคู่แค้น

นิยายเรื่อง ศิวา-ราตรี เป็นนิยายเกี่ยวกับเผ่ามิลักขะ จากชมพูทวีป ที่โดนยึดโดยเผ่าอารยัน ที่พนมเทียนรักมาก มากจนท่านเคยพูดว่า ถ้าจะให้ท่านเขียนนิยายแนวนี้อีก ท่านคงเขียนให้เหมือนอย่างเรื่องศิวาราตรีไม่ได้อีกแล้ว เรื่องศิวาราตรีก็ได้ทำให้ชื่อของพนมเทียนดังขจรขจายอีกครั้ง (ศิวาราตรี หมายถึง คืนของพระศิวะ หมายความว่า คืนดังกล่าวจะมีพิธีลอยบาป นี่คือคำอธิบายเรื่องศิวาราตรีของพนมเทียน)
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 13:33:35

จากคุณ : แม่เรไร

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 13:31:23

ความคิดเห็นที่ 149

^
^
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ อ่านสนุก ลุ้นจนวางไม่ลง แต่ไม่ชอบตอนจบเลยค่ะ ร้องไห้จนหายใจไม่ออก Y-Y

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 14:47:20

ความคิดเห็นที่ 150

25-3.[แก้วกังไส+ยาคูลท์] เกาะติดข่าวเด่นประเด็นดัง เลือกอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นร้อนต่อไปนี้ คือ ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาพระวิหาร แพนด้า ช้างไทย โดยเลือกมา 2 เล่ม 2 ประเด็นไม่ซ้ำกัน

ชื่อหนังสือ : พรหมแดน
ผู้แต่ง : วสิษฐ เดชกุญชร
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน
พิมพ์ครั้งที่ 1 : สำนักพิมพ์มติชน กุมภาพันธ์ 2551

เป็นเรื่องราวความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน ทำให้นายตำรวจหนุ่มที่เพิ่งเสียคนรักจากเหตุการณ์สึนามิ ได้ตกลงใจที่จะไปทำงานใน 3 จังหวัดชายแดน และที่นั่นทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนาที่เขาไม่เคยเข้าใจ เรื่องของหัวใจ เมื่อต้องไปผูกใจกับผู้หญิงต่างศาสนิก และเรื่องอื่นๆ

เราอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า พรมแดนเป็นอาณาเขตที่มนุษย์สมมติขึ้นเพื่อความสะดวกในการปกครอง สมมตินี้แบ่งเราออกเป็นประเทศ เป็นไทย เป็นมาเลเซีย เป็นอินโดนีเซีย และอื่น ๆ ถ้าเราหลงสมมติเราก็จะลืมว่าแท้จริงเราเป็นมนุษย์ที่รู้จักรัก รู้จักเมตตาและกรุณา แล้วเราก็อาจจะรังแกกัน ทำร้ายกัน ฆ่ากัน เหมือนสัตว์เดรัจฉาน แต่ถ้าเราไม่หลงสมมติ เราก็จะไม่ตกเป็นทาสของพรมแดนและจะสามารถคงความเป็นมนุษย์เอาไว้ได้ "ขอให้ท่านทั้งหลายจงเจริญในธรรม" คือคำสอนของรอซูลหรือศาสนทูต และคำสอนของพระพุทธเจ้า คำสอนของทั้งสองท่านนั้นสอดคล้องไม่ขัดแย้งกัน และจะทำให้ท่านสามารถข้ามสมมติคือพรมแดนไปได้ไม่ถูกพรมแดนแบ่งเราออกจากกัน
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 16:37:51

จากคุณ : แม่เรไร

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 16:36:17

ความคิดเห็นที่ 151

มาร่วมต้อนรับคุณแม่เรไรและคุณ sweetsugar ด้วยค่ะ
กับมาตะลึงกับความเป็นอัจฉริยะในการอ่านของน้องพลุ คุณแม่ไก่ และคุณยาคูลท์ ข้อยตามไม่ทันแล้วเด้อ

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 21:54:55

ความคิดเห็นที่ 152

^
^
^

ตามไม่ทันด้วยเหมือนกันค่ะ รู้สึกเหมือนจรวดนำวิถีกับเกวียนเทียมควายเรยอ่ะ -*-

แง้ว! กิฟท์เฮือกสุดท้ายหมดแหล่ว อยากให้ต่อแต่น่าเสียดายจัง งือ -*-

คุณแม่ไก่ --- เรื่องนี้ของศรีบูรพาโหดได้ใจมากเลยนะเนี่ย แรงรักแรงแค้นของหนุ่มรุ่นกระทงนี่สุดยอดจริงๆ (ไม่คิดว่าบูรพาจะเขียนเรื่องประมาณนี้)

คุณหมูย้อมสี --- หนิงๆอ่านนิยายเกาหลีไม่กี่เรื่องค่ะ ส่วนมากดูมากกว่านะ (Coffee Prince ก็สนุกดีแต่แอบโกรธตอนจบว่าได้ใจไม่พอ ชิ!)

==============================================

ขออนุญาตรีวิวของตัวเองบ้างละกันนะคะ

10-6.[อมราวตี] อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหญิง เจ้าชาย หรือเชื้อพระวงศ์ จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งก็ได้

รัตนาวดี
โดย ว. ณ ประมวญมารค
สนพ: นานมีบุ๊คส์

เนื้อหาโดยย่อ :

เมื่อท่านหญิงสุดเฮี้ยวน้องสาวของท่านชายพจน์ปรีชาเดินทางไปอังกฤษ เธอเพลิดเพลิน ตื่นตาตื่นใจกับสภาพบ้านเมืองและภูมิประเทศของต่างเมือง และเหนืออื่นใดเธอได้พบความรักกับหนุ่มคนหนึ่งที่มีเบื้องหลังซึ่งเธอไม่คาดคิดมาก่อน

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

คงไม่ต้องพูดมากสำหรับเรื่องนี้ เข้าใจว่านักอ่านเก๋าๆทั้งหลายคงไม่พลาดเล่มนี้แน่นอนค่ะ (ซึ่งเรื่องนี้หนิงๆพลาดมานานนมจนเพิ่งมาได้อ่านก็วันนี้เอง)

อ่านจบแล้วรู้สึกว่าเรื่องน่ารักและประทับใจค่ะ อมยิ้มไปตลอดเลย ตัวเรื่องดำเนินเรื่องการโต้ตอบจดหมายของตัวละครในเรื่อง เช่น ตัวท่านหญิงฯคุยกับท่านชายพจน์ฯผู้เป็นพี่ชาย คุยกับปริศนาพี่สะใภ้ หรือตัวท่านชายดนัยฯคุยกับท่านชายพจน์ฯที่เป็นเพื่อน เราจะเห็นจดหมายที่ส่งให้ราวกับตัวเราเองคือท่านชายพจน์ฯและปริศนา

คนอ่านจะรู้ที่มาที่ไปว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งคู่ แล้วแอบยิ้มแอบขำกับความน่ารักของคนคู่นี้โดยที่เราจะไม่เห็นจดหมายตอบจากท่านชายหรือปริศนาเลย แต่ก็พอเดาได้บ้างเวลาที่ท่านหญิงอาจขอบคุณมาหรืออะไรก็ตาม

เป็นเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่รู้สึกชอบใจ (ถ้าไม่นึกถึงบริบทด้านการเมืองสมัยนั้น) นี่ถ้าเคยไปเยือนยุโรปมาแล้วคงจะยิ่งเอ็นจอยกับเรื่องนี้น่าดู เหมือนได้เปรียบเทียบประสบการณ์กับภาพของยุโรปในตอนนี้กับสมัยเมื่อเกือบห้าสิบปีก่อนว่าเป็นยังไงเลยค่ะ
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 23:01:42

จากคุณ : peiNing

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 22:59:31

ความคิดเห็นที่ 153

ขอบคุณเพื่อนๆที่มาต้อนรับค่ะ ขอมาส่งการบ้านต่อกันเลย จริงๆก็ซุ่มอ่านกระทู้มานานแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ตอบ อ่านไว้ได้หลายเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ

5-6.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือที่ตัวเอกมีอาชีพฉีกแนวจากพิมพ์นิยมแทน เช่น หมอผี หมอดู คนขับเเท็กซี่

ตามที่ได้ถามไว้ค่ะ ..ขอตอบว่า.....

สูตรเสน่หา
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สนพ. อรุณ
จำนวนหน้า 646 หน้า

อ่านจบได้ประมาณสองสัปดาห์ที่แล้ว เพราะละครกำลังดังเหลือเกิน แต่ด้วยความที่ไม่ชอบดูทีวีเอาเสียเลย ก็มาอ่านหนังสือดีกว่าค่ะ จะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่องบ้าง ปรากฏว่าวางไม่ลงเลยทีเดียว

อลินดาราสาวผู้ร้ายกาจ สวย รวย ปากจัด พยายามฝึกทำอาหารเพื่อไปคัดตัวเป็นพิธีกรรายการอาหารแต่ที่เธอหวังคือเจ้าของรายการต่างหาก ในหนังสือชื่อ สูตรอร่อยกับอลินนะคะ ไม่รู้ในทีวีชื่ออะไร แต่คุ้นๆว่าไม่ใช่ ไม่ได้ดูอ่ะค่ะ เชยไปนิด -*-
ฝึกไปฝึกมาคุณหนูอลินก็เลยหลงรักคุณครูกุ๊กผู้แสนดีและเก่งกาจ ฉลาดไปซะทุกอย่าง เธอเลยเปลี่ยนเป้าหมายจากเจ้าของรายการอาหารมาเป็นคนทำอาหารแทน

ความรู้สึกที่ได้อ่าน...โอ๊ย..สนุกค่ะ สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนมาหลายปีแล้ว สำนวนไม่เก่าเลย นางเอกด่าได้ใจมาก ตลก ขำ ครบรสเลยค่ะ หลังจากนั้นอีกสองสัปดาห์ก็เลยไปขุดนิยายของคุณกิ่งฉัตรจากตู้ของแม่มาอ่าน รวมกันได้ 5 เล่มแล้ว..แต่เหมือนจะไม่เข้าโจทย์เลย แฮะๆๆๆๆ ต้องอ่านต่อไปค่ะ

*******มาเพิ่มคำตอบน่ะค่ะ เผอิญกดผิดเลยส่งมาก่อนซะงั้น ยังตอบไม่เสร็จเลย******

15-11.[ยาคูลท์] อ่านหนังสือ 2 เล่มที่คำสุดท้ายเล่มหนึ่งคล้องจองกับคำแรกของอีกเล่ม เช่น ฤดูกาลของหัวใจกับไฟพิศวาส

ชื่อหนังสือ มนต์จันทรา ฟ้ากระจ่างดาว
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สนพ. อรุณ ทั้งคู่ค่ะ
จำนวนหน้า 491 / 441 ตามลำดับค่ะ

ทั้งสองเล่มเรียกได้ว่าเป็นซีรี่ส์เดียวกัน ตัวเอกเป็นนักข่าวจากสนพ.สยามสาร มีทั้งสามเรื่องด้วยกัน มายาตวัน-มนต์จันทรา-ฟ้ากระจ่างดาว เป็นชุดที่เราหยิบมาอ่านต่อจากสูตรเสน่หาค่ะ เพิ่งอ่านจบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่งกลายเป็นแฟนกิ่งฉัตรค่ะ

มนต์จันทราเป็นเรื่องของสาระวารีนักขาวสาวจอมบู้ ที่ไปทำข่าวการเปิดกาสิโนของเจ้าพ่อษมาบนเกาะเล็กๆ ในเขตกัมพูชา เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ษมายอมให้เธอสัมภาษณ์เพราะปกติเขาจะเป็นคนเก็บตัว ไม่เคยให้ข่าว แต่ด้วยเหตุบังเอิญเมื่อ 17 ปีที่แล้วทำให้เขายอมให้สาระวารีสัมภาษณ์ เธอจึงได้ไปอาศัยอยู่กับเขาบนเกาะยานกเป็นเวลากว่าสัปดาห์เพื่อเก็บข้อมูล และหลังจากทำข่าวการเปิดกาสิโนเสร็จแล้ว ก็ยังกลับไปทำข่าวเรื่องพลอยเขมรอีก และครั้งหลังนี้ทำให้เธอต้องเสี่ยงชีวิตกับการหึงหวงของสาวอื่น และพบกับเรื่องไม่น่าเชื่ออีกหลายครั้ง
สนุก ตื่นเต้น น่าติดตามค่ะ

ส่วนอีกเรื่อง "ฟ้ากระจ่างดาว" เรื่องนี้นางเอกเป็นนักข่าวเรียบร้อยค่ะ คนละรสกับเล่มแรก แต่ก็สนุกไม่แพ้กัน มีคณาสวยแบบสาวไทย เรียบร้อยและเคร่งขรึม เธอทำข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมและยาเสพย์ติดซึ่งขัดกับบุคลิก เหตุที่เธอเลือกทำข่าวทางสายนี้ก็เพราะเธอทนเห็นชะตากรรมของเด็กสาวต่างจังหวัดเช่นเธอ ถูกขายมาทำงานในเมืองใหญ่ แล้วส่งเงินกลับไปให้พ่อแม่ใช้อย่างฟุ่มเฟือย หากใครไม่ยอมขายตัวกลายเป็นคนอกตัญญู มีคณาโชคดีที่หลุดรอดจากวงจรนั้นมาได้ เธอจึงอยากให้สังคมได้รับรู้ถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้น ความโชคร้ายของลูกผู้หญิง และในระหว่างทำข่าวก็ได้รู้จักกับสารวัตรหิรัณย์ ที่ดูแลด้านยาเสพย์ติดเป็นผู้ให้ข่าวเธอหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน ทำให้เกิดความสนิทสนม ไว้วางใจและรักกันในที่สุด

เย้...ตอบเสร็จสองข้อแล้วค่ะวันนี้ จริงๆ เรื่องมายาตวันก็ชอบมากเลยนะคะ อ่านจบไปเป็นเล่มแรกในชุด แต่ยังมองอยู่ว่าจะเอามาตอบข้อไหน ^^

ขอโทษนะคะ ยังไม่มีรูป..ยังโพสต์รูปไม่เป็นเลยค่ะ แหะๆๆ ไว้คราวหน้าไม่พลาดแน่ๆค่ะ มีรูปชัวร์ สัญญา

แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 23:41:33
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 23:16:36

จากคุณ : sweetsugar

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 23:16:08

ความคิดเห็นที่ 154

ต่อๆ

10-13.[แม่ไก่] เสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราเป็นวันเด็กแห่งชาติ มารับฟังเสียงของเด็ก ๆ บ้างดีไหม อ่านหนังสือ 1 เล่มที่เขียนโดยเด็กอายุต่ำกว่า 18 (อายุขณะที่เขียน)หรือให้เด็กเป็นตัวละครเอกที่ถ่ายทอดเรื่องราวในหนังสือ เล่มนั้น ๆ (ในกรณีหลังนี้ขอให้เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ค่ะ)

ถ้าไม่มีผู้ใหญ่บนโลกใบนี้
เรื่อง : เวนิช มิตรสันเทียะ, สงฟาง จรุงกิจอนันต์
ภาพ : เวนิช มิตรสันเทียะ
สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก โดย สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก

เรื่องย่อ

รวมผลงานการ์ตูนสั้น 4 เรื่อง เล่าเรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ต้องเผชิญชีวิตเมื่อพบว่า โลกใบนี้ไม่มีผู้ใหญ่เหลืออยู่เลย

เรื่องที่ 1 ถ้าไม่มีผู้ใหญ่บนโลกใบนี้ : เด็ก ๆ ต้องใช้ความกล้าหาญและมีสติในการเผชิญความหวาดกลัวและอุปสรรคเพื่อการเติบโต

เรื่องที่ 2 สมบัติของเด็ก ๆ : เด็ก ๆ ต้องใช้ปัญญาเพื่อค้นหาว่าสิ่งใดมีความจำเป็นแก่ชีวิตและโลกแวดล้อม

เรื่องที่ 3 ไม่ชอบเลยนะ.. : เด็กต้องพร้อมเปิดใจเพื่อเรียนรู้และเข้าใจตนเอง

เรื่องที่ 4 เด็กหญิง เด็กชาย และสายรุ้ง : เด็กมีการปรับตัวเพื่อจะรู้จักและเข้าใจผู้อื่น

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

จริงๆเรื่องนี้เป็นหนังสือภาพที่เด็กก็อ่านได้ผู้ใหญ่ก็อ่านดีค่ะ คือถ้าเป็นเด็กจะได้รับสารแบบหนึ่ง ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็จะได้รับสารที่ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม อ่านเพลินๆสนุกดีค่ะ แต่แอบรู้สึกว่าภาพประกอบไม่ค่อยโดนใจเท่าที่ควรอ่ะ อันนี้เป็นความไม่ชอบส่วนตัว แต่ถ้าใครชอบหนังสือเด็กลองอ่านดูก็ไม่เลวนะคะ

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 23:19:53

ความคิดเห็นที่ 155

ปักหมุดลงคะแนนถึงความเห็น 154 ค่ะ

ยินดีต้อนรับคุณ sweetsugar ด้วยค่ะ ดีใจที่มาเล่นด้วยกันนะคะ

คุณแม่เรไรคะ โจทย์ข้อ 25-3 ยังค้างอยู่อีกเล่มใช่ไหมคะ

สวัสดีทุกคนด้วยค่ะ ปีใหม่นี่งานเข้ามั่กๆ ยังดีเคลียร์งานตัวเองเสร็จไปแล้ว ค่อยโล่งใจหน่อย อิอิ

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 23:49:34

ความคิดเห็นที่ 156

สวัสดีค่ะทุกคน
หายไปพักนึงกลับมาอ่านรีวิวกันตาแฉะเลยทีเดียว
คราวนี้น่าสนใจหลายเล่มเลย ทั้งที่เกี่ยวกันฆาตกรรม
นิทานใต้ต้นคริสต์มาส ก็ท่าทางน่าสนุก
และก็รวมบทความ สี่ยอดหญิงงาม น่าอ่านมากๆ
ส่วน จิตรา ก็ปกสวยมากๆ ให้คะแนนความอยากอ่านพิเศษเพราะว่าชื่อคล้ายชื่อจริงของอ้อนเลยค่า

มาเก็บคะแนนนิดนึงก่อนสิ้นปีเนอะ

ข้อนี้ค่ะ
30-1.[นัทธ์ +แม่ไก่] อ่านหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรท์ 3 เล่ม 3 ประเภท (เรื่องสั้น นิยาย และกวีนิพนธ์) จะได้รับรางวัลปีเดียวกันหรือต่างปีกันก็ได้ หรือ อ่านหนังสือที่ได้รับรางวัลของต่างประเทศ 2 เล่มจาก 2 รางวัลไม่ซ้ำเรื่อง ไม่ซ้ำรางวัลกัน เช่น นิวเบอร์รี่กับโนเบิลไพรส์ เอ็ดการ์กับบุ๊คเกอร์ไพรส์ โดยบอกรายละเอียดของรางวัลมาพอสังเขป

เล่มที่ 1 ประเภท นิยาย
เวลา
รางวัลซีไรท์ปี 2537
รางวัลนิยายดีเด่นแห่งชาติปี 2537
ชาติ กอบจิตติ เขียน
สำนักพิมพ์ หอน
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 ธันวาคม 2539
232 หน้า

ที่ฉันอยากอ่านหนังสือเรื่อง " เวลา" ไม่ใช่เพราะความเป็นหนังสือรางวัลซีไรท์ ไม่ใช่เพราะบังเอิญเจออยู่แผงขายหนังสือมือสองด้วย ด้วยว่าหากไม่เจอฉันก็ตั้งใจว่าจะซื้อมาอ่านอยู่นั่นเอง หากแต่เป็นเพราะฉันอยากอ่านหนังสือของน้าชาติ "ชาติ กอบจิตติ" ให้มากขึ้นหลังจากที่ได้อ่านหนังสือเรื่อง "คำพิพากษา" และ "พันธุ์หมาบ้า" จบลงไปทั้งสองเล่ม ด้วยสองเล่มนี้เป็นหนังสือที่ให้รสต่างกันแทบจะเรียกว่า
ต่างกันคนละขั้ว แต่ที่น่าแปลกก็คือฉันก็ชอบเสียทั้งสองเล่มและ อ่านจบรวดเดียวไม่มีเล่มอื่นมาคั่น

เช่นเดียวกันกับเล่มนี้

หนังสือเรื่องเวลานี้ได้รางวัล นวนิยายดีเด่นแห่งชาติปี 2537 ซึ่งถ้าจะเทียบกับนวนิยายทั่วๆ ไปแล้ว เป็นเรื่องค่อนข้างสั้น จบลงที่ 232 หน้าเท่านั้น วิธีการดำเนินเรื่องแปลก ด้วยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละคร "ผม" ซึ่งเป็นผู้กำกับหนัง ฉากในเรื่องคือตัวละคร "ผม" นี้มานั่งดูละครเวทีเรื่องหนึ่ง เนื้อเรื่องแสดงฉากในบ้านพักคนชราบริเวณที่เป็นโรงเรือนคนป่วย ตัวละครโดยมากเป็นคนป่วยและแก่ และแม่บ้านผู้ดูแลสองคน ตัวละครอื่นโผล่เข้ามาประปรายอย่างเช่น คนเข็นรถส่งอาหาร คนขายล็อตเตอรี่ พระที่มาบิณฑบาตร ลูกที่มาเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกใจที่ละครในเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่าน่าเบื่อ น่าเบื่อเสียจนผู้กำกับหนังคนนี้ต้องมานั่งดูเลยเชียว

มุมมอง การเล่าเรื่องของหนังสือ ผ่านมุมมองของ "ผม" ที่มองขึ้นไปชมการแสดงละคร และคิดภาพตามว่าหากตัวเองนำมาทำเป็นหนังบ้างแล้วจะโคสอัพ แพนกล้องหรือ กำกับบทอย่างไร ฉะนั้นเราผู้อ่านจึงได้อ่านบทที่ทั้งปรากฏจริงในละครและบทที่ผู้กำกับหนัง วาดขึ้นจากจินตนาการ ...ลื่นไหลดีแท้ ไม่ได้รู้สึกสะดุดเลยตอนที่มีการย้ายฉากการเล่าเรื่อง

ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตัวละคร "คุณยาย" ซึ่งมีคุณยายหลายคนในนั้น ที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิดของหญิงชราที่บั้นปลายชีวิตถูกทอดทิ้งให้โดด เดี่ยวไว้ได้อย่างลึกซึ้ง อ่านจบแล้วต้องย้อนคืนมาอ่านอีกรอบหนึ่งเพื่อเก็บรายละเอียดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 52 23:54:21

จากคุณ : อ้อน (BeCoffee)

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 23:50:25

ความคิดเห็นที่ 157

เล่ม 2 ประเภทกวีนิพนธ์

ม้าก้านกล้วย
ไพวรินทร์ ขาวงาม เขียน
แพรวสำนักพิมพ์
222 หน้า

กวีนิพนธ์ "ม้าก้านกล้วย" นี้ ได้รับรางวัลซีไรท์ ปี 2538 ก่อนอื่นขอออกตัวไว้
ก่อนว่าไม่ค่อยถนัดเขียนรีวิวกวีนิพนธ์เลย (จำได้ว่าเคยเขียนถึงแค่เล่มเดียวคือ ใบไม้ที่หายไป ของคุณจีรนันท์ พิตร
ปรีชา ซึ่งชอบมาก) ด้วยหนึ่งกวีนิพนธ์นี้ปกติฉันจะอ่านทีละบทสองบทเรียกว่าละเลียดอ่าน โดยต้องใช้สมาธิและ
จินตนาการในการอ่านอย่างสูง ส่วนมากมักจะได้อ่านเอาตอนก่อนนอน เรียกว่าอ่านแล้วเคลิ้มหลับกันไปข้างหนึ่ง
และอีกอย่างก็ด้วยคิดว่ากวีนิพนธ์นั้นต้องอ่านเอาเองจึงจะรู้รส อย่างไรก็ตามวันนี้ก็ได้มารีวิวตามโจทย์ wwr อีกครั้ง

"ม้าก้านกล้วยนี้ ภายในเล่มแบ่งเป็น 4 ภาค คือ ภาคนำ (ม้าก้านกล้วย) ภาคหนึ่ง(แผ่นดินถิ่นทุ่ง) ภาคสอง (แผ่นดิน
ถิ่นเมือง) และภาคสาม(แผ่นดินถิ่นใด)

ภาคนำ: ม้าก้านกล้วย ม้าก้านกล้วยในความทรงจำ ม้าก้านกล้วยในจินตนาการ นำพาเด็กน้อยไปสู่วัยหนุ่มและจาก
บ้านทุ่งมุ่งสู่เมืองศิวิไลย์ ม้าก้านกล้วยจึงเปรียบเหมือนตัวแทนของแรงใจและความเป็นเพื่อนความเข้าใจที่ส่งมอบให้
หนุ่มสาวของยุคสมัยแห่งการดิ้นรน มีทั้งหมด 4 ตอน

ภาคหนึ่ง: แผ่นดินถิ่นทุ่ง เป็นภาคที่รวมบทกวีแห่งความนึกคิดเกี่ยวกับบ้านเกิด บทกวีอาบไปด้วยกลิ่นทุ่ง รวงข้าว
กลิ่นควาย กลิ่นอาหารบ้านนา

ภาคสอง : แผ่นดินถิ่นเมือง รวมบทกวีที่กล่าวถึงที่อยู่ปัจจุบันของผู้แต่ง อันได้แก่เมืองหลวง ถ่ายทอดออกมาด้วย
มุมมองของผู้มาอยู่ใหม่อันมีสายตาช่างสังเกต สะท้อนภาพความวุ่นวายแก่งแย่งในเมืองใหญ่

ภาคสาม: แผ่นดินถิ่นใด ภาคนี้เป็นภาคแห่งจินตนาการ ให้ความรู้สึกเคลิ้มฝัน โดยส่วนตัวชอบภาคนี้มากที่สุด บทที่
ชอบที่สุดคือ "โลกน่ารักอยู่หรอก"

บทกวีบางบท ในเล่มนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ ญี่ปุ่น มลายู เรียกได้ว่าเป็นงานที่ได้รับความสนใจ
มากทีเดียว และจากการอ่านของฉันแล้วก็เห็นว่าสมควรแก่การให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง

จากคุณ : อ้อน (BeCoffee)

เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 23:58:46

ความคิดเห็นที่ 158

เล่ม 3 เรื่องสั้น

อัญมณีแห่งชีวิต
รางวัลซีไรท์ ประจำ พ.ศ. 2533 (เรื่องสั้น)
อัญชัน เขียน
สำนักพิมพ์คมบาง
240 หน้า

หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มนี้มีเรื่องสั้นรวมอยู่ทั้งหมด 11 เรื่อง แม่ครับ เรื่องแรก เป็นเรื่องของเด็กชายคนหนึ่งที่แม่เพิ่งจะ
เสีย จิตนาการของเด็กในวัยและอารมณ์ของเขา เมื่อบวกเข้ากับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ทำให้คนอ่านลุ้นอยู่
ว่าจะทำอย่างไรให้เด็กน้อยผ่านเรื่องราวในชีวิตตอนสำคัญนี้ไปได้ เรื่องนี้มีรางวัลเรื่องสั้นดีเด่น ประจำปี 2528 ของ
สมาคมภาษาและหนังสือเป็นดีกรี

ปลาหางเปีย เรื่องราวของเด็กผู้หญิงในสังคมของเด็กผู้ชาย ตีแผ่ความเป็นแกะดำออกมาได้ดี โดยเฉพาะผู้อ่านที่เป็น
ผู้หญิงและเคยมีความรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมในการถูกปฏิบัติน่าจะเข้าถึงเรื่องราวได้ง่าย เรื่องนี้จบลงไม่เศร้านักซึ่ง
ทำให้อารมณ์แฟมินิสค่อยเบาลงได้

ต่อด้วย หม้อที่ขูดไม่ออก เมื่ออ่านต่อจากเรื่องปลาหางเปียข้างต้นแล้ว ความรู้สึกร่วมที่ต่อเนื่องมายิ่งส่งเสริมให้
เรื่องราวของหญิงสาวลูกสองที่ถูกสามีทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจในเรื่องเค้นความรู้สึกเดือดดาลของการถูกกดขี่จาก
เพศชายที่ถือว่าเหนือกว่าของผู้อ่านออกมาได้เป็นอย่างดี เรื่องนี้เหมาะกับสโลแกนที่ว่า "งดให้ความรุนแรงในผู้หญิง" และเรื่องราวก็สมเหตุสมผลดีกับการกระทำของตัวเอกหญิงในความรู้สึกของฉัน เรื่องนี้ได้รับรางวัล เรื่องสั้นดีเด่น
ประจำปี 2531 ของนิตยสาร ลลนา

สมรภูมิ เพื่อนร่วมทาง และ หมาฝั่งธนฯ สามเรื่องนี้ฉันมาอ่านเอาเมื่อตอนดึกแล้ว ตั้งใจว่าจะอ่านเป็นเพื่อนก่อน
นอน แต่ก็คิดผิดไปถนัดเพราะเรื่องราวที่บอกเล่าถึงชีวิตแบบสีเทาจนถึงสีดำ และตอนจบแบบน่ากลัวทำเอาฉันนอน
ไม่หลับเอาเสียดื้อๆ ด้วยเพราะขบคิดต่อยอดไปถึงเรื่องราวที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาแบบให้คิดต่อนี้ด้วย

เมื่อพักหนังสือเล่มนี้เอาไว้อ่านตอนกลางวันแล้ว ก็มาถึงเรื่อง คนนอกใบลาน ถ่ายทอดเรื่องราวของชายนอกศาสนา
จิตใจดี แต่มีตอนจบของชีวิตที่น่าเศร้า สะท้อนสังคมแบบ "บริจาคทานปุ๊บก็เป็นคนดีปั๊บ" ได้อย่างเห็นภาพชัด

ขอทาน เรื่องนี้ฉันชอบเป็นพิเศษ ด้วยว่าเรื่องราวของชายหญิงขอทานในตอน ไม่เศร้ามากนัก จริงแล้วเจือด้วย
อารมณ์ขันแบบประชดประชันเอาไว้เสียด้วย ยกไว้ให้เป็นเรื่องสั้นในดวงใจประจำเล่ม

ต่อมาก็เป็นเรื่องราวของชายที่ไปใช้ชีวิตหาเงินในนิวยอร์ค เศรษฐีเงินล้าน ลีลาการเล่าเรื่องแบบที่ค่อยๆ เผยเรื่องราว
ตอนสำคัญออกมาทำให้เรื่องนี้อ่านเพลินน่าติดตาม

ปุ่ม และ จดหมายถึงแผ่นดิน สองเรื่องท้าย เหมือนเป็นการลดอารมณ์รุนแรงของเรื่องราวแนวดรามาของเล่มลงทีละ
น้อย ซึ่งดีเพราะทำให้ฉันได้คืนสภาพตัวเองออกมาจากหนังสือที่เข้มข้นเล่มนี้ออกมาเขียนรีวิวในวันนี้ได้อย่างค่อนข้าง
ลืนไหลและรื่นเริงใจ

เรื่องราวที่เข้มข้น ลีลาเหลือร้าย และการผูกเรื่องแบบที่ไม่มีช่องโหว่ ให้ความรู้สึกแบบสมจริง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เรื่อง
นี้ได้รับรางวัล ซีไรต์ในปี 2533

ป.ล. เรื่อง อัญมณีแห่งชีวิตนี้มีรีวิวฉบับเต็มในบล็อกนะคะ (อัพพรุ่งนี้ค่ะ)

จากคุณ : อ้อน (BeCoffee)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 00:03:58

ความคิดเห็นที่ 159

โจทย์ 25-5.[ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือเกี่ยวกับคนในกลุ่มชาติพันธุ์ หรือ มีคนในกลุ่มชาติพันธุ์เป็นตัวเอกจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย เช่น ปกากะญอ ม้ง ไทยใหญ่ ฯลฯ หรือในต่างประเทศ เช่น อินเดียนแดงเผ่าต่าง ๆ ชาวพิกมีในแอฟริกาโดยต้องเล่าถึงลักษณะเด่นหรือลักษณะพิเศษของกลุ่ม ชาติพันธุ์นั้นมาด้วย

หนังสือ เสียมกุกขบวนแห่ ของชาวสยาม "เครือญาติ" เขมร ที่นครวัด เป็นใคร? มาจากไหน ?
สนพ.กองทุนแบ่งปันเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะ เขียนโดย สุจิตต์ วงษเทศ 214 หน้า้

ชื่อเรื่อง ยาวเหยียด แต่อ่านสนุก เล่าเรื่องการสืบค้น ชาวเสียมกุก ที่สลักบน
กำแพงนครวัด ว่าใช่ชาวสยามจริงไหม และอยู่ในฐานะอะไรกับเขมร
เป็นเมืองขึ้น หรือเครือญาติ นัยยะแห่งการสลักภาพบนแผ่นหิน

การวิเคราะห์จาก เอกสารโบราณ ตำนาน และ หลักฐานทางประวัติศาสตร์
จากแหล่งต่าง

** เจอกระทู้โดยไม่ตั้งใจ จาก Google อยู่ในช่วงตะลุยอ่านหนังสือ จาก
งาน bookfair ที่ มช. เลยขอเล่นด้วยคน **
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 01:14:52

จากคุณ : คนชอบเขียน

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 01:14:07

ความคิดเห็นที่ 160

5-11.[แก้วกังไส] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่ชื่อเรื่องมีคำว่าหนาว หน้าหนาว ฤดูหนาว เหมันต์ หิมะ

ไม่รู้ ภูเขาน้ำแข็ง จะผ่านไหม

ICEBERG แอตแลนติกเลือด
เขียนโดย CLIVE CUSSLER แปลโดย สุวิทย์ ขาวปลอด
สนพ.วรรณวิภา 400 หน้า

นิยายผจญภัย ในชุดของ dirk pitt เล่มที่ 2 ที่ดำเนินเรื่องหลักๆ ในไอซ์แลนด์
เมื่อเรือหาปลาลำหนึ่งถูกพบในภูเขาน้ำแข็ง อย่างเป็นปริศนา เดิร์ก พิทท์ ต้อง
นำเฮลิคอปเตอร์ บรรทุกผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาน้ำแข็ง ลงจอดเพื่อสำรวจ
เรือปริศนา ที่จะนำเขาไปพัวพันกับ แผนการร้ายระดับโลก
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 01:23:41

จากคุณ : คนชอบเขียน

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 01:22:31

ความคิดเห็นที่ 161

สวัสดีรอบดึกครับ แวะเอาการบ้านมาส่ง

10-11.[ส้มแช่อิ่ม] อ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่ซื้อมาถูกที่สุด แต่คุ้ม
เช่น ลดราคามาเหลือ 50 บาท สนุกมาก ได้ความรู้ ฯลฯ
ให้บอกราคาจริง ราคาซื้อ และสถานที่ซื้อมาด้วย

รักร้าง แรงอธิษฐาน ได้มาจากกระบะลดราคาของ B2S เมื่อวันคริสต์มาสที่ผ่านมา
ราคาเต็ม 140 ซื้อมาได้ในราคา 35 บาท แค่ราคาก็คุ้มแล้วครับ

รักร้าง แรงอธิษฐาน
ทากุจิ แรนดี : เขียน
ยุพกา ฟุคุชิมะ : แปล
สำนักพิมพ์ JBooK
พิมพ์ครั้งที่ 1 กรกฏาคม 2546
158 หน้า 140 บาท

รักร้าง แรงอธิษฐานเป็นหนังสือรวม 12 เรื่องสั้นแห่งรัก
อันเปี่ยมไปด้วยแรงแค้น ริษยา อาฆาตและความใคร่
มีหญิงสาวหลากวัย หลายสถานะเป็นตัวถ่ายทอด

ฝันแสนเศร้า
เรื่องราวของเด็กสาววัย 14 ที่มีความรู้สึกตอบสนองกับข่าวจากหน้าจอโทรทัศน์
เมื่อสัมผัสข่าวสะเทือนขวัญจะรู้สึกคล้ายว่าเหตุการณ์เหล่านั้นได้เกิดกับตัวเอง
จาก 1 คนเป็น 2 3 4 ..... ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่
ซึ่งหมอวิจัยออกมาว่าเป็น กลุ่มอาการทางประสาทในหมู่วัยรุ่น

ซากุระยามราตรี
เรื่องราวของหญิงสาวที่เจอเพื่อนเก่าระหว่างมาเยี่ยมแม่
ได้พูดคุยถึงเรื่องราวในอดีต เหตุการณ์ในปัจจุบันและเรื่องราวของความรัก
เพื่อนเก่ากำลังจะหนีไปกับแฟนโดยทิ้งลูกเอาไว้
แต่เธอประสบปัญหาเพราะสามีดีเกินไปแม้ว่าเธอเสเพลไปชอบผู้ชายคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย
แต่สามีก็ดูแลเธออย่างดีจนเธอทนไม่ไหวทำให้ต้องเลิกรากันไปในที่สุด

ค่ำคืน พระจันทร์และเกลียวคลื่น
เป็นตอนเดียวที่มีตัวเอกเป็นผู้ชายในการถ่ายทอด
ผู้ชายคนนี้แอบรักเพื่อนสนิทสาวคนหนึ่งมานานจนกระทั่งเมื่อสาวคนนี้ตั้งท้องและกำลังจะแต่งงาน
ทำให้เขารู้สึกเสียใจ อิจฉาและริษยา จนทำให้วิญญาณเด็กในท้องเศร้าสร้อย
น้อยใจที่มีใครสักคนไม่ต้องการให้เธอเกิดมา

รักร้าง แรงอธิษฐาน
หญิงสาวคนหนึ่งเผลอเดินหลงเข้าไปในศาลเจ้าตัดสัมพันธ์
ภายในศาลเจ้าแห่งนี้มีแผ่นไม้จารึกความอาฆาตเอาไว้ต่างๆนานา
พลันสายตาเธอเหลือบหันไปเห็นแผ่นไม้อันหนึ่งที่จารึกการตัดสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่มอย่างอาฆาตแค้น
ทำให้เธอโทรหาเขาทันทีเพื่อหาตัวหญิงคนที่เขียนข้อความตัดสัมพันธ์นี้ว่าเป็นใคร

ความทรงจำบนเกาะ
เรื่องราวของหญิงสาวที่หนีภาระในการดูแลแม่มาอยู่เกาะ
แล้วได้พบกับไกด์นำทางหนุ่มผู้ทำให้เธอหวั่นไหว
ในแต่ละปีเธอรอเวลาที่จะกลับมาที่เกาะแห่งนี้
ปีที่ 4 ไกด์นำทางหนุ่มปฏิเสธการนำทางเพราะเห็นว่าเธอชำนาญเส้นทางดีอยู่แล้ว
ทำให้เธอได้พบอะไรบางอย่างที่ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป

โปรดคุ้มครองเหล่าเด็กชายด้วยเถิด
หญิงสาวมีอายุที่บังเอิญไปพบเด็กหนุ่มหน้าตาดี มีฐานะ
แต่ด้วยเหตุผลและความถูกต้องทำให้เขาเป็นได้เพียงแค่เชื้อเพลิงเติมกำลังใจให้เธอเพียงเท่านั้น

พบกัน...อีกครั้ง
คนรักที่เลิกรากันไปได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
ระหว่างการรำลึกถึงความทรงจำต่างๆในเวลาที่เปลี่ยนไป
ทำให้ความรู้สึกที่เคยมีในใจเปลี่ยนแปลงไปด้วย
สุดท้ายก็พบคำตอบว่าอะไรคือสิ่งที่เธอต้องการกันแน่

ผมรักคุณ
เรื่องราวของสาวอาสาสมัครบำบัดความใคร่ให้ผู้ป่วยโรคร้าย
ท่ามกลางความเสี่ยงต่อหน้าที่แต่เธอก็ได้พบบางสิ่งบางอย่างที่แฝงอยู่ลึกๆในใจ

ปลาหมอร่ำไห้
เรื่องราวของหนุ่มสาวนักแช็ตที่นัดพบปะสังสรรค์กันเพื่อทำความรู้จัก
แต่การนัดพบดันทำให้คนรักเก่าอย่างเขาและเธอโคจรมาพบกันอีกครั้ง
ความเจ็บซ้ำน้ำใจที่ถูกทอดทิ้งกับเหตุผลบางอย่าง
ซึ่งบางครั้งถ้ามองในแง่ของคนทิ้งแล้วอาจจะมีเหตุผลที่สมควรก็ได้

คู่รักทั้งหลาย
หญิงสาวที่กำลังจะตกลงปลงใจแต่งงานแต่ดันได้รับโทรศัพท์จากแฟนเก่า
ทำให้เธอมีความคิดที่จะยกเลิกการแต่งงานด้วยเหตุผลที่ตัวเองคิดเองขึ้นมาในใจ
สุดท้ายอะไรล่ะที่เป็นตัววัดบอกระดับความมั่นใจในการตัดสินใจแต่งงานของผู้หญิง

ผู้หญิงเอพริลฟูล
เรื่องราวของสาวชู้ที่บ้าระห่ำแต่งชุดดำไปร่วมงานศพภรรยาของชายคนรัก
อะไรคือแรงจูงใจในการตัดสินซึ่งบางครั้งแม้แต่ตัวเองยังสับสน

ความตายของมามิ
หญิงสาววัย 21 ที่เห็นแก่ตัวต้องการความรักโดยที่ไม่เข้าใจความรัก
จนกระทั่งการตายของหลานสาววัย 3 วันจึงทำให้เธอเข้าใจความรักมากขึ้น

เป็นเรื่องสั้นสะท้อนอารมณ์พอสมควร บางเรื่องหดหู่ บางเรื่องอบอุ่น
มีการผสมผสานระหว่างจิตวิทยาและความสมจริงของสถานการณ์และตัวละคร
ผมชอบเรื่องรักร้าง แรงอธิษฐาน ตอนเดียวกับชื่อหนังสือมากที่สุด
ส่วนเรื่องอื่นๆที่ชอบก็ค่ำคืน พระจันทร์และเกลียวคลื่น / โปรดคุ้มครองเหล่าเด็กชายด้วยเถิด
คู่รักทั้งหลาย / ความตายของมามิ โดยรวมผมคิดว่าอ่านได้ไม่เสียดายเงินครับ
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 02:57:54

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 02:56:35

ความคิดเห็นที่ 162

15-2.[Clear Ice + January Friend + นัทธ์] หนังสืออัตชีวประวัติ
(autobiography คือ หนังสือที่บุคคลนั้นเขียนเล่าประวัติของตัวเอง)
หรือเป็นหนังสือชีวประวัติ (biography) ที่ผู้อื่นเขียนก็ได้

กรรมกรข่าว
สรยุทธ สุทัศนะจินดา : เขียน
สำนักพิมพ์แพรว
พิมพ์ครั้งที่ 37 มิถุนายน 2548
154 หน้า 125 บาท

ถ้าพูดถึงชื่อสรยุทธ คงไม่มีใครไม่รู้จัก
แต่ถ้าจะถามว่ารู้จักเขามากแค่ไหน ผมคงเป็นคนหนึ่งที่จะยกมือแล้วบอกว่า
ก็เป็นพิธีกรฝีปากกล้า ที่มีความบ้าและไม่แคร์สื่อ

เล่มนี้เป็นการแฉชีวิตตัวเองของเฮีย ส. ถึงแม้ไม่หมดเปลือกแต่ก็ละเอียด
ลูกแม่ค้าผลไม้ผู้เรียบร้อยที่มีความคิดเป็นของตัวเองและแน่นอนว่าเค้าไม่แคร์สื่อ

ที่ว่าไม่แคร์สื่อก็เพราะว่าถ้าเฮียเขาคิดว่าเขาทำอย่างนี้แล้วไม่เดือดร้อนใคร
แล้วจะไปกังวลทำไมก็เท่านั้น

อย่างที่เฮียแกบอกว่าชีวิตคนก่อนจะขึ้นถึงจุดสูงสุดมักต้องตะกายบันไดขึ้นมาเป็นขั้น
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโอกาสและจังหวะชีวิต ต้องมานะอดทนและต้องลงไปในรายละเอียด
ผมยกมือเห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะชีวิตของผมเองก็ไม่ต่างจากเฮียเท่าไหร่
อ่านไปบางบทบางตอนถึงกับต้องพยักหน้าแล้วร้องออกมาว่า ใช่แล้วครับ

เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่สื่อ มีจุดเริ่มต้นและจังหวะชีวิตที่คล้ายกัน
เห็นชัดมากที่สุดคือตอนที่เริ่มต้นโดดลงมาทำงานด้านนี้
ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด(แต่จริงๆแล้วชอบพูดแสดงความคิดเห็นในใจมากกว่า)
และไม่รู้ว่าตัวเองมีดี ถ้าไม่มีบุคคลผู้มีพระคุณทั้งหลายช่วยผลัก ช่วยดัน ช่วยดึง
ไม่รู้ป่านนี้ผมจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหน
แต่ทุกอย่างทุกอย่างที่เริ่มต้นมาก็ต้องแลกอะไรหลายอย่างไปอยู่เหมือนกัน
ชีวิตการเที่ยวเล่นกับเพื่อนฝูง สนุกกันทุกศุกร์ทุกเสาร์ผมไม่เคยสัมผัส
เพราะต้องทำงานเป็นจริงเป็นจังตั้งแต่เรียนปี 2
จนถึงตอนนี้สารภาพตามตรงว่าเป็นคนที่ต้องหาอะไรทำตลอด

อีกอย่างที่คิดว่าคล้ายกันคือการดูแลเอาใจใส่ตัวเอง
แฟชั่นเป็นอย่างไร ไม่สน ไม่ชอบก็ไม่ใส่แต่ส่วนใหญ่แล้วมีอะไรก็ใช้อันนั้น
ขนาดกินข้าวบางวันยังไม่เป็นเวลากว่าจะได้กินข้าวเย็นบางทีก็เลยไปตี 1-2 ก็มี

วกกลับมาเพราะรู้สึกว่าจะออกทะเลมากไปแล้ว(ตกลงเป็น Bio ของเฮียหรือของผมกันแน่เนี่ย)
จากเด็กลูกแม่ค้าขายผลไม้ที่ต้องถูกเชิญออกกลางคันตอน ม 2
ตัดสินใจเรียนศึกษาผู้ใหญ่ก่อนกลับเข้าไปเรียนต่อระดับม ปลายในสายสามัญ
ตามเพื่อนไปแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่จนถูกจับนอนคุกเข้าบ้านเมตตา
เริ่มการทำงานแบบไม่ประสีประสา ลองผิดลองถูก จับพลัดจับผลูจนมาทำงานสายข่าว
เริ่มต้นจากนักข่าวหนังสือพิมพ์ ลงพื้นที่หาข้อมูล เข้าถึงตัวแหล่งข่าว
ถูกสั่งให้ไปไหนไปนั่น ถึงไหนถึงกันไม่เกี่ยงจนมาทำงานด้านวิทยุและโทรทัศน์
ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอดสายงานเพราะยังคงวนเวียนอยู่กับข่าว
ต้องบอกว่าชีวิตเฮียเขาช่างสนุกและมีสีสันเป็นที่สุด
กว่าจะได้เป็นสรยุทธในทุกวันนี้มันไม่ง่ายแต่ก็ทำได้ไม่ยาก
อย่างที่เฮียแกบอก "วันนี้รอบๆตัวอาจจะมีแค่กองอิฐกองทราย
แต่วันหน้ามันอาจกลายเป็นตึกระฟ้า ฉะนั้นอย่ากลัว...ลุยเลย"

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 03:01:00

ความคิดเห็นที่ 163

20-5.[piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ
นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้

เล่มแรก : เจ้าหงิญ - ไทย
เล่มสอง : ดินแดนหลับสบาย - เยอรมัน
เล่มสาม : ผจญภัยในสุสาน - อังกฤษ

เจ้าหงิญ
บินหลา สันกาลาคีรี
สำนักพิมพ์มติชน
พิมพ์ครั้งที่ 3 สิงหาคม 2548
127 หน้า 100 บาท

เจ้าหงิญ หนังสือรางวัลซีไรต์ปี 2548
เป็นรวมเรื่องสั้น 8 เรื่องที่เรียงร้อยแต่ละเรื่องเข้าด้วยกันจนเป็นเรื่องสั้นขนาดยาว
เป็นนิทานซ้อนนิทานที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและสร้างสรรค์
ตอนที่ได้อ่านคำนำยังเกิดคำถามในใจว่าอะไรเห็นเล่มเล็กๆเบาๆอย่างงี้เนี่ยนะ
ใช้เวลาเขียนถึง 4 ปีทีเดียว !!!
แต่พอได้อ่าน ต้องยอมรับว่าความละเมียดละไมในตัวอักษรและภาษาที่ใช้
บวกกับความคิดและจินตนาการที่บ่มเพาะออกมาในแต่ละเรื่องนั้น
เหมาะแล้วละครับที่ได้บ่มเพาะ กรั่นกรองออกมาจนกลายเป็นเล่มนี้

8 เรื่อง 8 รส กลมกล่อมทีเดียว

- ชายเดียวดายแห่งภูเขาภาคเหนือ

ว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชายที่อยู่เพียงเดียวดายบนภูเขาภาคเหนือ
เขาเดินทางมาไกลจากแดนปักษ์ใต้ เพื่อมาตั้งรกรากของที่นี่
เขาอยู่อย่างเดียวดาย แต่ก็มีความรู้สึกคิดถึงใครสักคน

เขาออกเดินทางจากภูเขาภาคเหนือลงใต้พร้อมด้วยช่อดอกต้อยติ่งที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติก
ระหว่างทางเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เค้าขบคิด
แต่ในที่สุดเขาก็เดินทางมาถึงที่หมายและบั้นปลายเขาก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่ภูเขาภาคเหนือ
แต่ไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกนะ....และแน่นอนเป็นที่สุดอีกว่าเขาเองก็ไม่ได้เหงาตลอดไปเช่นกัน

- แดฟโฟดิลแดนไกล

ว่าด้วยเรื่องของเด็กชายผู้มั่นคง ที่ทะนุถนอมดอกแดฟโฟดิลจากแดนไกล
ที่มองยังไงๆก็เป็นเพียงดอกหญ้าในสายตาของคนทั่วไป
แต่ใครจะรู้เลยว่าแม้จะเป็นเพียงดอกหญ้าแต่คุณค่ามันอยู่ที่ใจใช่สิ่งที่เห็น

- เจ้าหญิงเสียงเศร้าแห่งดวงดาวที่สี่

ว่าด้วยเรื่องของเจ้าชายผู้เสียสละ ตามหาเจ้าหญิงเสียงเศร้าที่ฝากเสียงมากับเจ้านกสีฟ้าตัวจ้อย
เจ้าชายละทิ้งซึ่งทุกอย่างออกตามหาเจ้าหญิงไร้นามผู้นั่น
ท่ามกลางการแย่งชิงแต่ไร้ซึ่งความอดทนทำให้ผู้คนที่(แอบ)ร่วมตามหาต่างยอมแพ้
แต่เจ้าชายมุมานะบากบั่น จนสุดท้ายเจ้าชายก็พบเจ้าหญิงเสียงเศร้าที่ดวงดาวที่สี่แห่งนั้นเอง

- เก้าอี้ดนตรี

ว่าด้วยเรื่องของเก้าอี้ไม้แสนสวยที่ถือกำเนิดมาด้วยความภาคภูมิใจ
แต่สิ่งที่สวยงาม น่าครอบครองถ้าหากอยู่ผิดที่ ผิดความต้องการ
สุดท้ายก็ส่งผลร้ายได้เช่นเดียวกับเก้าอี้ดนตรีตัวนี้
ว่าในเรื่องของความต้องการ หลายๆคนมักมองแค่มุมเดียวคือมุมที่ตัวเองยืนอยู่
แต่จริงๆแล้วทุกสิ่งมันต้องตอบสนองซึ่งกันและกันมันถึงจะประสานกันได้อย่างลงตัว

- สีที่แปดของรุ้งกินน้ำ

ว่าด้วยเรื่องเจ้าหญิงตัวน้อยที่แสนจะเอาแต่ใจ ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจและเป็นกาวใจประสานรอยร้าว
พระราชาและพระราชินีที่แหกกฏนิยายแยกทางกันอยู่ซะงั้น!!!
แต่เนื่องด้วยความเอาแต่ใจของเจ้าหญิงองค์น้อยที่อยากรุ้งกินน้ำมาครอบครอง
จึงทำให้เสด็จพ่อและเสด็จแม่ยินยอมพร้อมใจกลับมารักกันเช่นเดิม

- นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่

ว่าด้วยเรื่องของปลาตัวน้อยขี้ระแวง
กว่าจะได้เป็นนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่อย่างใจฝัน
ก็เล่นเอารำคาญไปซะเลยทีเดียว เนื่องจากความกลัวและหวาดระแวง
แต่ก็นะไม่ว่าใครก็คงอยากจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองไม่ใช่เหรอ

- ลูกหามกับสามสหาย

ว่าด้วยเรื่องของลูกหามกับสามสหายตัวเปี๊ยกใจหาญ
ที่กล้าก้าวมาต่อสู้กับเจ้างูยักษ์ที่กล้าจับตัวพระธิดาไป
แต่ด้วยจิตใจดี มีความรู้และความเพียรพยายามทุกสิ่งทุกอย่าง
ก็ดูจะต่อสู้ให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดายจริงๆ
ชอบแนวคิดและแก๊กตลกๆของตอนนี้ที่สุด นับถือๆๆๆ

- โลกของเจ้าหญิงนกบินหลายกับเจ้าชายนกบินหา

ปิดท้ายด้วยเรื่องราวของสองนก
นกหญิงผู้เพียบพร้อมกับนกชายผู้อาภัพ
แต่ทั้งคู่คือส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน
แถมยังผูกเรื่องทั้ง 7 ให้กลายเป็นเรื่องเดียวกันซะงั้นอีก
ด้วยสายใยของความเป็นนิทาน

บางเรื่องดูธรรมดา แต่บางเรื่องก็ฮาจนหัวร่องอหาย
ทุกบท ทุกตอนของนิทานมักแฝงไว้ด้วยข้อคิด
เด็กอ่านเพลิน ผู้ใหญ่อ่านแล้วเก็บมาคิดได้ สมศักดิ์ศรีรางวัลซีไรต์
ตอนที่ชอบที่สุด ผมชอบ ลูกหามกับสามสหาย เป็นอะไรที่ล้ำลึกจริงๆ
แถมข้อคิดที่ได้ยังโดนจิตโดนใจเข้าอย่างจัง สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านแนะนำอย่างออกนอกหน้าครับ

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 03:03:28

ความคิดเห็นที่ 164

ดินแดนหลับสบาย
มิฆาเอ็ล เอ็นเด้ : เขียน
แบร์นฮาร์ด โอเบอร์เดียค : ภาพประกอบ
ชลิต ดุรงค์พันธุ์ : แปล
สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน
พิมพ์ครั้งที่ 2 พฤษภาคม 2543
144 หน้า 120 บาท

ดินแดนหลับสบายเป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มจากนักเขียนในดวงใจของผม
ราชาแห่งจินตนาการ มิฆาเอ็ล เอ็นเด้ (จากสุดยอดวรรณกรรมจินตนาการไม่รู้จบ)

เล่มนี้เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นกึ่งนิทานเล่มสองของเขาที่บังเอิญไปเจอจากร้านเช่า
อ่านจบแล้วตาแตกอยากได้เป็นเจ้าของแต่ดูจาก พ.ศ. ที่ผลิตแล้วแอบถอดใจ
ตอนนี้จะหาได้จากที่ไหนเนี่ย

10 เรื่องราวความสนุกที่เต็มไปด้วยจินตนาการและแฝงไว้ด้วยซึ่งปรัชญาแง่คิดต่างๆ
นับได้ว่าสนุกอย่างมีสาระ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

มานะ มุ่งหน้าเดิน เต่าผู้เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เรื่องราวของเต่าชื่อมานะ มุ่งหน้าเดินที่แอบได้ยินนกพิราบสองสามีภรรยา
พูดคุยกันถึงงานเลี้ยงฉลองสมรสของท่านสุลต่านลีโอที่ 28 ราชสีห์เจ้าแห่งสัตว์ทั้งหลาย
มันจึงมุ่งหน้าออกเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงระหว่างทางได้เจอสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด
ที่เหมือนเป็นอุปสรรคให้มันเลิกล้มความตั้งใจไม่ว่าจะเป็น
แมงมุมสาว ทอถัก นักชักใย
หอยทากนาม หนุบหนับ เหนียวหนืด
กิ้งก่าหนุ่ม ขี้เกียจ นอนเหยียดยาว
กาเหว่า ฮัดเช้ย ผู้ฉลาดเฉลียว
แต่ทว่ามานะ มุ่งหน้าเดินของเราก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคเพราะมัน ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว

ตุ๊กตาตัวตลก
เจ้าตุ๊กตาตัวตลกเกิดมาพร้อมหน้าที่อันใหญ่หลวงคือทำให้ เด็กชายคนนั้นหัวเราะไง
แต่หลังจากที่เด็กชายคนนั้นได้เจอของเล่นชิ้นใหม่ก็ได้ขว้างตุ๊กตาตัวตลกแสนเก่าคร่ำครึทิ้งไป
แล้วการผจญภัยของตัวตลกก็เป็นไปตามยถากรรม
แต่หลังจากนั้นไม่นานเด็กชายคนนั้นก็เบื่อของเล่นชิ้นใหม่แล้วร้องหาแต่ตุ๊กตาตัวตลกตัวเก่าที่ทิ้งไป
มีเพียงตุ๊กตาตัวตลกที่เย็บจากเศษผ้าเก่าๆตัวนี้เท่านั้นที่จะทำให้เด็กชายคนนี้หัวเราะได้

เรื่องของพรแห่งพรทั้ง
เป็นเรื่องราวของผู้วิเศษ 3 คนคือ คาถา ปัญญา และไม่นำพา
ที่เดินทางไปยังเมืองของเด็กๆทั้งหลายก่อนจากเมืองนั้นมา
ทั้ง 3 ได้มอบของขวัญให้เด็กๆนั่นคือการให้พร 1 ข้ออะไรก็ได้
เด็กๆในเมืองตกลงขอ "ให้พรทุกพรที่ร้องขอสมประสงค์ในทันใด"
แต่ความสุขสมบูรณ์ทุกประการคงไม่มีค่าไม่มีความหมายหากไม่ได้มาด้วยความพยายาม

ขาใหญ่ นอยาว : เจ้าแรดไร้เกราะ
เรื่องราวของขาใหญ่ นอยาว แรดผู้ทระนงตนและหลงอำนาจ
มันคิดว่าความยิ่งใหญ่ของมันทำให้มันมีอำนาจเหนือสรรพสัตว์
แต่สุดท้ายก็ต้องหลงกลความฉลาดของนกเอี้ยง
ทำให้อำนาจที่มันมีอยู่แม้แต่ตัวเองยังต้องกลัวและสุดท้ายก็หนีตัวเองไปในที่สุด

นายจดจำกับนายลืมเลือน
นายสืบเสาะ แสวงหาได้ออกเดินทางตามหาดินแดนชื่อไร้สาระ
และวันหนึ่งได้ล่องเรือไปพบเกาะแห่งหนึ่งซึ่งสูงเสียดฟ้า
บนเกาะนี้เขาได้พบนายลืมเลือนซึ่งมีน้องชายฝาแฝดชื่อนายจดจำ
แต่พี่น้องฝาแฝดคู่นี้ไม่เคยพบหน้ากันสักครั้งด้วยเหตุผลที่ว่า
หากผู้พบเห็นเดินทางแยกจากนายลืมเลือนไปจะจดจำอะไรไม่ได้แม้กระทั่งการพบกัน
ซึ่งตรงกันข้ามเขาจะจดจำได้ว่าเจอนายจดจำได้ก็ต่อเมื่อได้แยกกลับออกมาแล้วนั่นเอง

ทำไม ทำไม วิลลี ขี้สงสัย เรื่องราวหฤหรรษ์ไม่แฝงสาระใดสำหรับเด็กขี้สงสัยทั้งหลาย
เป็นตอนที่ผมชอบที่สุดในเล่มนี้ เหมือนชื่อตอนเลยครับ
ไม่มีสาระใดนอกจากความสงสัยของเจ้าหนูจำไม ที่มักสงสัยและตั้งคำถามว่าทำไมๆๆๆและทำไม
ทำไมคุณลุงถึงไว้เคราขาว ยาว และดกหนา
ทำไมคุณโลลา โยราราลจึงหายสาปสูญ
ทำไมต้นไม้ถึงขึ้นกลางกระท่อม
ทำไมไม่มีเสียงเพลงให้หุ่นร่ายรำ

สงครามโถกับทัพพี
เรื่องราวของสองกษัตริย์ที่ตั้งเมืองอยู่สองข้างของขุนเขาเมืองซ้ายกับเมืองขวา
เมืองซ้ายกำเนิดพระโอรส ส่วนเมืองขวากำเนิดพระธิดา
กษัตริย์ทั้งสองเมืองจึงสารให้ญาติโกโหติกามาร่วมงานเลี้ยงฉลองการรับศึลล้างบาป
แต่ทั้งสองดันลืมเชิญแซเพ็นทีนเนอ แม่มดผู้เป็นญาติของทั้งสองฝ่าย
แม่มดใจร้ายนางนี้เกิดความไม่พอใจจึงขี่มอเตอร์ไซด์เอาของขวัญไปให้
เมืองหนึ่งได้โถที่มีลายทัพพีอยู่ ในทัพพีก็มีโถอีกใบอยู่ ในโถอีกใบก็มีทัพพีอยู่
อีกเมืองหนึ่งได้ทัพพีที่มีลายโถอยู่ ในโถก็มีทัพพีอีกอันอยู่ ในทัพพีอีกอันก็มีโถอยู่
แต่ทั้งทัพพีและโถใบนี้ต้องใช้คู่กันถึงจะกลายเป็นของวิเศษ
แม่มดแก้เผ็ดทั้งสองกษัตริย์ได้สำเร็จเพราะทัพพีและโถคู่นี้ได้ก่อให้เกิดสงคราม
จนทำให้บ้านเมืองของสองกษัตริย์ต่างถูกทำลายเผาจนวอดวายเหลือแต่ตอตะโก

พลายใหญ่ หนังย่น
พลายใหญ่ หนังย่น เป็นชื่อช้างชราในชมพูทวีปผู้ชอบครุ่นคิดเรื่องสำคัญ
วันหนึ่งเหล่าแมลงวันบนกองปฏิกูลหึกเหิมได้ท้าพลายใหญ่แข่งฟุตบอลนัดชิงแชมป์โลก
เพื่อหาผู้ที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจที่สุดจะเป็นใคร ระหว่างพวกมันกับเจ้าช้างผู้นิ่งเงียบ

ดินแดนหลับสบาย
เกิดการณ์ใหญ่เมื่อพระธิดาแห่งดินแดนหลับสบายนามว่านิทราวดีเกิดไม่อยากนอนหลับ
เหตุเพราะกลัวฝันร้าย พระราชาจึงระดมนักกล้าทั่วราชอาณาจักรหาวิธีกำจัดฝันร้ายของเจ้าหญิง
แต่ก็ไม่มีผู้กล้าหน้าไหนทำได้สำเร็จ พระราชาจึงต้องออกเดินทางตามหาผู้เยียวยาฝันร้ายของเธอ
สุดท้ายแล้วใครจะคืออัศวินที่จะมาปัดเป่าฝันร้ายและทำให้นิทราวดีหลับฝันดีตลอดคืน

ละครเงาของโอเฟเลีย
เรื่องราวของหญิงชราที่เติบโตมากับบทละครของกวีชื่อดัง
ด้วยความที่เสียงเธอแสนเบาจึงทำหน้าที่บอกบทให้กับนักแสดงละครอยู่หน้าฉาก
แต่พอวิทยาการต่างๆก้าวหน้า ทั้งภาพยนตร์ โทรทัศน์เข้ามา
โรงละครจึงร้างลาผู้คนทำให้เธอตกงานระหว่างที่นั่งอาลัยอยู่เธอได้พบเงาไร้เจ้าของ
เงานั้นขอมาอาศัยอยู่กับตัวเธอจาก 1 เป็น 2 เป็น 3 เป็น 4
จนนับไม่ถ้วนสุดท้ายเงาเหล่านี้ก็คือนักแสดงละครเงาที่เธอเป็นผู้อำนวยการสร้างและกำกับการแสดง

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 03:08:56

ความคิดเห็นที่ 165

THE GRAVEYARD BOOK : ผจญภัยในสุสาน
นีล เกแมน : เขียน
ลมตะวัน : แปล
สำนักพิมพ์เพิร์ล
พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2552
324 หน้า 279 บาท

โนบอดี้ โอเวนส์หรือที่รู้จักในนามว่าบ๊อด เด็กชายผู้ได้รับเอกสิทธิ์แห่งสุสาน
เขาเรียกสุสานว่าบ้านและมีเหล่าวิญญาณเป็นครอบครัว

คืนหนึ่งที่บ้านเลขที่ 33 ถนนดันสแตน ครอบครัวดอเรียนได้ถูกฆาตกรรม
แต่เด็กชายวัยซนสุดแสนจะฉลาดได้หนีรอดจากเหตุการณ์นี้มาได้อย่างหวุดหวิด
ด้วยการช่วยเหลือจากสองสามีภรรยาโอเวนส์และไซลาสผู้ปกครองจากกองเกียรติยศ

บ๊อดโตมากับวิญญาณ เรียนรู้หัดอ่านหนังสือจากป้ายหลุมศพและใช้ชีวิตอยู่ภายในสุสานเท่านั้น
ด้วยสาเหตุที่เหล่าวิญญาณบอกว่าสถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่จะให้ความปลอดภัยแก่เขาได้
แต่ด้วยวัยที่โตขึ้นบวกกับความอยากรู้อยากเห็นตามประสาวัยรุ่น
ทำให้บ๊อดอยากออกไปเผชิญโลกนอกสุสานและนั่นคือจุดเริ่มต้นของการตามล่าที่ยังไม่เสร็จสิ้น

ความสนุกของเรื่องนี้การันตีด้วยรางวัลคุณภาพมากมายไม่ว่าจะเป็นรางวัล HUGO
NEWBERY MEDAL 2009 รวมทั้งรางวัล LOCUS
ที่ผสานเรื่องราวได้อย่างลงตัวและกลมกล่อม สนุก น่าติดตาม อ่านได้เพลินๆ ครับ

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 03:10:23

ความคิดเห็นที่ 166

ตามเก็บรีวิวนะครับ

พี่พัท รับรางวัลอะไรเหรอ (O_O)?

พี่แม่ไก่ก็ใช่ย่อยนะเดือนนี้พลุตามไม่ทันแล้วอ่ะ
พ็อบบีกับดิกแก็นพลุเพิ่งได้มาเมื่อคริสต์มาสอ่ะครับ
พอดีไปซื้อของขวัญให้ลูกค้าเหลือบไปเห็นกระบะลดราคา
เล่มนี้ได้มา 50 บาทเองชอบจังหนังสือถูกเนี่ย
ว่าแต่สองโจทย์พี่อ่ะทำไมไหงกลายเป็นสี่ไปได้ล่ะเนี่ย

ต้อนรับคุณ sugarsweet-ใต้เงาหน้าต่าง-คนชอบเขียน ด้วยครับ

คุณหนิงเมื่อวันอาทิตย์แวะเข้าร้านเช่าหนังสือ
เห็นขอบคุณที่เป็นเอดส์แล้วสนใจเหมือนกันแต่ไม่ได้หยิบมาเพราะทำโจทย์ข้อนี้ไปแล้ว
กะว่าว่างๆจะไปหยิบมาลองอ่านดูบ้างเหมือนกัน

อ้าวนายไอซ์อยู่ดีๆมาหมั่นไส้กันอย่างงี้เดี๋ยวน้อยใจตายเลย
อุตส่าห์อดนอนมาอ่านนิยาย (สมควรม่ะเนี่ยเรา 555+++)
ของอาคากาวะรับรองไม่ผิดหวังนะ เพราะพลุเองเห็นงานของอาคากาวะเมื่อไหร่
โดดเข้าใส่แบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลย
ปล ถ้าจะซื้อ ควรซื้อมาอ่านดีกว่าซื้อมาเก็บนะครับ หุหุ

คุณแม่เรไรข้อประเด็นดังขาดอีกเล่มนึงนะครับ
พลุหาหนังสือลงโจทย์ข้อนี้เหมือนกันหาไม่ได้เลย
เดี๋ยวเดือนหน้าจะมีสัปดาห์หนังสือที่หาดใหญ่คิดว่าน่าจะได้จากงานนี้แหล่ะหวังว่างั้นนะครับ

ท่าทางคุณ sweetsugar จะเป็นสาวกกิ่งฉัตรอีกคนนะเนี่ย
อ่านสูตรเสน่หาแล้วอย่าลืมอ่านค่าของหัวใจนะ อลินยังฮาเหมือนเดิมแม้จะเป็นเพียงแค่แขกรับเชิญก็ตาม

คุณคนชอบเขียน โจทย์เล่มหลังพลุคิดว่าไม่น่าจะผ่านนะครับรอผู้ดูแลและเจ้าของโจทย์มาเฟิร์มครับ

ปล รอบนี้คึกคักดีจัง เหลืออีกแค่ 3 วันสุดท้าย สู้ๆนะครับทุกคน

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 05:01:01

ความคิดเห็นที่ 167

โอ้ โห ......เข้ามาอ่านรีวิวเทียวนี้
มากมายขึ้นทันตาเห็น คงเพราะจะปิดรอบแหงๆ
แต่ละท่าน ปล่อยของ กันน่าดูชม

ยินดีต้อนรับเพื่อนร่วมเล่นเกมหน้าใหม่ทุกท่านด้วยค่ะ

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 07:17:00

ความคิดเห็นที่ 168

เห็นด้วยกับคุณนัทธ์ ว่าปล่อยของออกมาส่งท้ายปีเก่ากันเยอะน่าดูชม
ส่วนของอ้อน ดองไว้จนข้าวปีใหม่ต่อไป อิอิ

ยินดีต้อนรับคุณ คนชอบเขียน และเพื่อนใหม่ทุกคนในรอบนี้ด้วยค่ะ

น้องพลุ เจ้าหงิญ นี่พี่ก็ชอบมากเลยล่ะค่ะ อ่านเพลินดี
ปีใหม่นี้อยู่บ้าน กับอยู่เวรอย่างละครึ่ง ไม่ได้ไปไหนอยู่เฝ้ากระทู้ท่าจะดี ^^

จากคุณ : อ้อน (BeCoffee)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 08:01:07

ความคิดเห็นที่ 169

อีกหนึ่งเล่มที่ค้างไว้ใน คห. 150 (ถ้ายังทันนะคะ) เนื่องจากเมื่อวานติดภารกิจ ลงไม่ทันค่ะ

25-3.[แก้วกังไส+ยาคูลท์] เกาะติดข่าวเด่นประเด็นดัง เลือกอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับประเด็นร้อนต่อไปนี้ คือ ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาพระวิหาร แพนด้า ช้างไทย โดยเลือกมา 2 เล่ม 2 ประเด็นไม่ซ้ำกัน

ชื่อหนังสือ หลินปิง ด.ญ.แพนด้าน้อย
โดย บันลือบุ๊คส์
สำนักพิมพ์ บันลือบุ๊คส์
พิมพ์รวมเล่ม ครั้งแรก : กันยายน 2552, 84 หน้า
ราคา 89 บาท
ISBN 978-616-7134-03-1

"หลินปิง ด.ญ.แพนด้าน้อย" หนังสือนิทานภาพที่รวบรวมเรื่องราวความสดใสและน่ารักของหลินปิงแพนด้าน้อยขวัญใจชาวไทยในรูปแบบภาพถ่ายอริยาบถน่ารักและการ์ตูนความรู้อ่านสนุก

หนังสือเล่มนี้ซื้อก่อนที่จะลูกๆ ที่บ้านไปชมความน่ารักตัวจริงของเจ้าแพนด้านน้อยหลินปิง แม้แต่ไปซื้อร่มที่หมู่บ้านทะวาย เจ้าเด็กน้อย 2 คน ที่บ้าน ได้ขอระบายสีร่มเป็นรูปหลินปิงเองด้วยค่ะ

จากคุณ : แม่เรไร

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 08:45:46

ความคิดเห็นที่ 170

ดินแดนหลับสบายน่าสนใจแฮะ ชอบเอนเด้อะค่ะ

ยินดีต้อนรับคุณคนชอบเขียนนะคะ พลุ

มารีวิวหนึ่งโจทย์ อ่านจบสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนนี้เองค่า

15-2.[Clear Ice + January Friend + นัทธ์] หนังสืออัตชีวประวัติ
(autobiography คือ หนังสือที่บุคคลนั้นเขียนเล่าประวัติของตัวเอง)
หรือเป็นหนังสือชีวประวัติ (biography) ที่ผู้อื่นเขียนก็ได้

เขียนฝันด้วยชีวิต
ผู้เขียน ประชาคม ลุนาชัย
สำนักพิมพ์ มติชน
จำนวนหน้า 463 หน้า
ราคาปก 200 บาท

เป็นนวนิยายเชิงอัตชีวประวัติ ที่มาที่ไปของนักเขียนที่ชื่อประชาคม ลุนาชัยค่ะ

หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น

ภาคหนึ่ง เส้นทางลิขิต

เปิดตัวด้วยเรื่องที่เป็นเหมือนความใฝ่ฝันของเจ้าตัว นั่นคือการได้เป็นนักเขียน
การใช้ชีวิตที่สถานีหัวลำโพงเพื่อหางานต่างๆ ทำ ขณะที่ยังเยาว์และรูปร่างผอมบาง
งานยกน้ำปลาในเรือ ที่เจ้าของเรือนิสัยดี แต่งานหนักเกินกว่าร่างกายและจิตใจจะรับไหว
งานที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่มีอาม่าที่แสนจะน่ารัก แต่แล้วด้วยการเปลี่ยนไปของเจ้าของร้าน ก็ต้องเปลี่ยนงาน
การเขียนเรื่องสั้นส่งไปยังที่ต่างๆ แต่ไม่สามารถรับเงินได้ เพราะไม่มีบัตรประชาชน

ภาคสอง ชีวิตและความหมาย
เริ่มไปทำงานเป็นคนเฝ้าวังกุ้ง เขียนหนังสือ แต่ด้วยความเข้าใจผิด ทำให้เขาต้องหนีหัวซุกหัวซุน
การไปทำงานที่ไร่หอมที่ท่าม่วง ที่กลายเป็นเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งในลูกแก้วสำรองที่เราชอบมาก
การกลับไปบ้านเกิดหลังจากหายมาเป็นสิบปี และพบกับความจริงอันโหดร้าย
การเริ่มถ่ายรูป ความผิดพลาดครั้งแรกในการถ่ายภาพ
มิตรภาพระหว่างชายชรากับเขา ที่เป็นที่มาของเรื่องสั้นอีกเช่นกัน
และปิดท้ายด้วยการกลับไปไหว้ศพพ่อแม่

ภาคสาม กลายเป็นอื่น
การไปทำงานเป็นยามในที่ต่างๆ ซึ่งมีทั้งที่ที่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น
แต่ก็พลิกผันด้วยความใจร้อนโกรธเคือง จนต้องย้ายบริษัท
และเริ่มกลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง

ภาคสี่ ตื่นสู้ฝัน
การเปลี่ยนแปลงที่อย่างน้อยก็รู้จักที่จะให้เกียรติผู้อื่นมากขึ้น
การประสบความสำเร็จในการเขียนหนังสือ และการตัดสินใจที่จะเป็นนักเขียนแต่เพียงอย่างเดียว

อ่านด้วยความรู้สึกที่..ทั้งน่าติดตาม กระทบใจ เก็ทที่มาของเรื่องหลายๆ เรื่องที่เคยอ่าน
และ..อึ้งกับหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ

เรียกได้ว่า..ถ้าคนๆ นี้ไม่มีความดื้อรั้นในตัวเอง ไม่ยึดมั่นการอ่านและเขียนหนังสือเป็นสรณะแล้ว
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า..เขาจะมีชีวิตรอดมาขนาดนี้ได้มั้ย
(เพราะหลายๆ อย่างทำให้เรารู้สึกว่า ที่จริงเขาเป็นคนเปราะค่ะ
แต่กับชะตากรรมที่กระหน่ำเขาหลายๆ เรื่อง เขากลับไม่ท้อแท้และสู้ต่อไป)

เราไม่รู้ว่า..ระหว่างอ่านเล่มนี้ก่อนแล้วค่อยไปอ่านนิยายและเรื่องสั้นที่ถูก "แต่ง"

กับอ่านเรื่องสั้นและนิยายที่ถูก "แต่ง" ก่อนแล้วค่อยมาอ่านเล่มนี้ จะได้ผลต่างกันหรือเปล่า

แต่สำหรับเราอยู่ในเคสหลังค่ะ ซึ่ง..สำหรับเรามันโอเคนะคะ

นั่นคือ ได้รู้ผลงานก่อน แล้วค่อยๆ รู้ที่มาของผลงานแต่ละชิ้นน่ะค่ะ

ทำให้เข้าใจว่า..ทำไมเวลาอ่านเรื่องที่เขาเขียนแล้วมันถึงได้มีเนื้อมีหนังและ "จริง" เหลือเกิน

สำหรับนักเขียนหลายๆ คน เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว

ก็อาจจะช่วยจุดไฟในการเขียนตัวเองได้ค่ะ

มีการตกๆ หล่นๆ ในเรื่องของการพิสูจน์อักษรอยู่บ้าง

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายคำพูดปิดหายในหน้า 177

สะกดว่า สัญญาญ ในหน้า 305

เอาอกเอาใจแก่ ในหน้า 323 (ที่จริงน่าจะเป็นเอาอกเอาใจแก หรือเอาอกเอาใจคนแก่ น่ะค่ะ)

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:25:04

ความคิดเห็นที่ 171

จริงๆแล้วเชื่อว่าที่มาปล่อยของกันเพราะอาจจะเริ่มหยุดและเริ่มมีเวลาหรือเปล่าคะ (เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานเฉยเลย) ^^"

20-5.[piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้

เรื่องตามนี้ค่ะ

1. "เงารักซ่อนเงื่อน" ("Mirror Image") ของ Sandra Brown (เม-กา)
2. "ความฝัน" โดยกุนเทอร์ ไอช์ (เยอรมัน)
3. "ทำไม Pourquoi" โดย Jimmy Liao (จีนไต้หวัน)

===============================================

1. "เงารักซ่อนเงื่อน" ("Mirror Image")
สำนักพิมพ์ :แพรวสำนักพิมพ์
โดย : แซนดรา บราวน์
แปล : ขีดขิน จินดาอนันต์

คำโปรยหลังปก

เรื่องราวของเอเวอรี่ แดเนียลส์นักข่าวสาวไฟแรง ที่ฟื้นจากอาการสลบไสลหลังเหตุการณ์เครื่องบินที่เธอนั่งตก และพบว่าใบหน้าของตัวเองถูกไฟไหม้เสียโฉมและคนรอบข้างที่เธอไม่รู้จักเลยคิดว่าเธอคือ แครอล รัตเลดจ์ ภรรยาของผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เทต รัตเลดจ์ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเธอได้กอดร่างหนูน้อย แมนดี้ ลูกสาวของแครอลและเทตเอาไว้ก่อนจะหมดสติลง

อาการบาดเจ็บทำให้เอเวอรี่พูดไม่ได้ และด้วยเหตุบังเอิญ เธอได้ล่วงรู้ว่ากำลังมีคนปองร้ายเทต และเธอก็เข้าใจแล้วว่า ถ้าใครๆ คิดว่าเธอคือแครอล และเชื่อว่าแครอลยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็คงคิดว่าเอเวอรี่ แดเนียลส์ ตายไปแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็กำลังจะผ่าตัดให้เธอกลับมามีใบหน้าเหมือนแครอล โดยไม่มีใครให้โอกาสเธอได้อธิบายความจริง

หลังผ่าตัด เอเวอรี่ตัดสินใจปล่อยเลยตามเลย คิดว่าอย่างไรเสีย พูดความจริงไปก็ไม่มีใครเชื่อ และเธอสามารถใช้ฐานะใหม่นี้ในการช่วยเหลือหนูน้อยแมนดี้จากอการเครียดหนักและหาตัวคนที่ปองร้ายเทต สุดท้ายเธอก็ได้สกู๊ปข่าวเด็ด

และเหตุผลสำคัญที่เธอไม่อาจยอมรับแม้กับตัวเองคือ เธอกำลังหลงรักเทต แม้ว่าเขาจะเกลียดแครอลเสียยิ่งกว่าอะไร

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

เรื่องนี้เป็นเรื่องไว้ดับรู้สึกความอเน็จอนาถหลังอ่านเรื่อง "ขอบคุณที่เป็นเอดส์" คือเกรงว่าจะฝันร้ายก่อนนอน เลยยอมตัดใจหยิบเล่มนี้มาอ่าน (เช่ามาด้วยกัน) ตอนแรกที่ยังไม่คิดจะอ่านเพราะมันดึก และเล่มหนามากเลยอ่านเล่มบางๆก่อน

แล้วก็ตายไปเรย!

เรื่องนี้ก็อุดมไปด้วยความคิดหลากหลายแล้วนำมาร้อยเรียงกันได้น่าสนใจ ส่วนมากอ่านไปแล้วเห็นปัญหาครอบครัว ปัญหาของคนรอบข้างคู่นี้มากกว่าเรื่องราว suspense เสียอีก

ตัวละครเจอปัญหาหลักๆคือ การไม่เป็นที่รัก และการรู้ว่าตนเองถูกทรยศจากความรักที่ได้มอบให้อีกฝ่ายไป นั่นก็ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่จนทำให้เกิดความรู้สึกสูญเสียคุณค่าในตัวเองอย่างรุนแรง ในที่นี้มีตัวอย่างคนที่เจอตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน ไปจนถึงวัยชราซึ่งทั้งที่อายุต่างกันแต่ความว่างเปล่า ความกังวลในจิตใจไม่ต่างกันเลย แต่สิ่งที่ต่างกันเห็นจะเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกที่ต่างไปตามวัยมากกว่า

เรื่องนี้ดำเนินผ่านมุมมองของตัวละครหลายตัว แต่แน่นอนว่านางเอกเป็นจุดหลักๆ เหมือนเป็นนางฟ้าที่กระโดดลงมาแก้ไขปัญหาให้กับครอบครัวนี้โดยที่ตัวเองต้องโดนเขาประณามหยามเหยียดตลอดเวลาเพราะเข้าใจว่าเธอคือเมียของพระเอกจริงๆซึ่งพฤติกรรมแต่ละอย่างของเมียเก่าแต่ละอย่างนี่เกินรับค่ะ ก็สมควรโดนอยู่หรอก

จัดว่าเป็นเรื่องที่อ่านได้เพลิน เล่มหนาๆไม่ได้เป็นอุปสรรคเพราะอ่านได้ตลอดแบบไม่เหน็ดเหนื่อย จะมีจุดที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างในความรู้สึกและเหตุผลที่คนเขียนให้ไม่มีน้ำหนักพอ อ่านไปแล้วติดๆขัดๆอยู่บ้าง แต่ถ้าทำเมินๆไปเสียก็จัดเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นน่าติดตามทีเดียว (แต่ตอนหนิงๆอ่านยอมรับว่าไม่ได้จับรายละเอียดมากเท่าไร มัวแต่หลอน "เรื่องที่คุณก็ว่าอะไร" อยู่)

ที่จริงถ้าหากว่าอ่านต้นฉบับอาจจะได้อะไรมากกว่านี้ (ไม่ได้หมายความว่าแปลไม่ดีนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเวลาอ่านภาษาไทยบางทีไม่ได้ Remind เราถึงคำในภาษาอังกฤษซึ่งบางคำมีความหมายต่อเรื่องมากๆค่ะ)

จากคุณ : peiNing

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 11:53:18

ความคิดเห็นที่ 172

2. "ความฝัน"
เขียน กุนเทอร์ ไอช์
ผู้แปล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สำนักพิมพ์ : นานมี บุ๊คส์

เนื้อหาโดยสังเขป

พบกับพระราชนิพนธ์แปลวรรณกรรมเยอรมัน
ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแปลบทละครวิทยุของ “กุนเทอร์ ไอช์” นักเขียนเรืองนามชาวเยอรมัน

เนื้อหาในเล่มจะชี้ให้ผู้อ่านเห็นถึงสภาพสังคมสมัยใหม่ที่แม้จะดูสมบูรณ์พูนสุข แต่ก็ยังมีปัญหาความขัดแย้งและภัยต่างๆ ที่แอบแฝงอยู่ นำเสนอผ่านภาพบุคคลในชีวิตประจำวัน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไม่ได้
นอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการดำเนินเรื่องที่ลึกซึ้งแยบยลแล้ว ยังได้ข้อคิดดีๆที่คุณสามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

พอได้อ่านวรรณกรรมเยอรมันทีไร หนีไม่พ้นเรื่องสงครามกับการเมืองทุกทีเลย (พอๆกับที่เวลาอ่านเรื่องจีนจะต้องไปเจอช่วงยุคปฏิวัติประจำ)

เพิ่งเคยอ่านบทละครวิทยุเป็นครั้งแรกค่ะ (อย่างดีที่สุดคืออ่านบทละครเวที) ก็ต้องแอบใช้เสียงและจินตนาการเยอะเหมือนกัน คำสนทนาของตัวละครจะบอกถึงฉาก พฤติกรรมว่ากำลังทำอะไรอยู่ และมีข้อดีกว่าบทละครเวทีตรงที่ไม่ถูกจำกัดด้วยฉาก ดังนั้นฉากสามารถเป็นอะไรที่กว้างขวางเกินขอบเขตยังได้ (จะอยู่นอกโลกก็ได้ไม่มีใครว่าเพราะไม่ต้องมีฉากให้เห็นเป็นรูปธรรม)

เพราะฉะนั้น ด้วยฉากที่จำกัดนั่นเองทำให้สร้างสรรค์งานได้อย่างน่าทึ่ง ถ้าไม่นับว่าเป็นบทละครก็คงจะต้องเป็นเรื่องสั้นละนะ เพราะสั้นมากมีธีมเดียว ในหนังสือจะแบ่งเป็นความฝัน 5 ความฝันแต่ละความฝันก็อ้างอิงปรัชญา รวมไปถึงความรู้สึกของคนด้วย ชอบมากค่ะ (แต่ไม่มีปัญญาอ่านต้นฉบับเพราะอ่านภาษาเยอรมันไม่ออก)

ถ้าใครที่ไม่ถนัดอ่านบทละคร ลองเริ่มจากเรื่องนี้ก็ดีเพราะไม่ได้ยาวเฟื้อยเปลี่ยนหลายฉากแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่แนะนำให้อ่านค่ะ

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 12:14:15

ความคิดเห็นที่ 173

3.ทำไม Pourquoi
โดย Jimmy Liao
สนพ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์

เนื้อหาโดยสังเขป

แปลกจัง...เวลาที่เด็กๆ ถามว่า "ทำไม" ดูเหมือนเป็นเด็กช่างคิด แต่เวลาที่ผู้ใหญุ่ถามว่า "ทำไม" บ้าง เหตุใดจึงกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะและดูโง่เหลือเกิน

แปลกจัง...บางเรื่องที่เราคิดว่ารู้เรื่องดี แต่เมื่อมีคนถามว่า "ทำไม..."
เรากลับตอบไม่ได้

คำว่า "ทำไม" มันสำคัญมากหรือ นั่นน่ะสิ "ทำไมต้องถามว่าทำไมด้วยล่ะ...ทำไม"

ความรู้สึกที่ได้อ่าน

เรื่องนี้อ่านจากต้นฉบับเอา (เข้าใจว่าเล่มที่อ่านอยู่นี้ไม่น่าจะใช่ของจริง เมืองจีนปลอมได้ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่หนังสือ แต่ขอโทษเถอะ ขนาดของก็อปยังพิมพ์อาบมันสวยใสไฉไลอยู่เลยเนี่ย เทพจริงๆ)

อย่างที่รู้กัน เรื่องของ Jimmy เป็นแนวปรัชญาที่มีภาพประกอบสวยงาม เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่ยิ่งอ่านได้เข้าไปใหญ่ และคงเป็นเรื่องที่มีภาพประกอบ อยู่ในจินตนาการ เขาถึงสามารถตั้งคำถามได้ทุกคำถามที่ต้องการจะตั้ง และที่ชอบก็คืออย่างน้อยที่สุด เขาไม่ได้สักแต่ว่าจะถาม เพราะถ้าคนอ่านโตพอ เราก็รู้ว่าคำตอบของมันคืออะไร แต่เขาต้องการให้เราฉุกคิดในคำถามนั้นๆต่างหาก

บางเรื่องตอบไม่ถูกก็มี ก็เลยต้องคล้อยตามว่า "นั่นสิเนอะ ทำไม (วะ)"

ช่วงหยุดยาวๆแบบนี้ ได้อ่านหนังสือที่จรรโลงใจเสียบ้างก็ถือว่าตบรางวัลให้กับชีวิตค่ะ เล่มนี้แนะนำให้อ่านเช่นกันนะคะ

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 12:26:53

ความคิดเห็นที่ 174

อ่ะกรี๊ด ผู้ดูแลตาลาย เจอปล่อยของ ฮ่าๆๆ

มีเรื่องต้องขอทักท้วงเพื่อนๆที่ร่วมเล่นเกมนิดนึงน่ะค่ะ อย่าว่าผู้ดูแลใจร้ายเลยน้า

คุณคนชอบเขียนคะ ข้อ 5-11 ที่ร่วมเล่นเรื่องภูเขาน้ำแข็ง ตอบโจทย์ไม่ได้ เพราะคำที่กำหนดไม่มีคำว่าน้ำแข็งน่ะค่ะ แต่อีกเล่มไม่มีปัญหา ลงคะแนนให้แล้วนะคะ

คุณแม่เรไรคะ ข้อแพนด้าน้อย หนังสือหนา 84 หน้า ไม่ตรงตามกติกาที่ต้องอย่างต่ำ 100 หน้า รบกวนหาเล่มใหม่ได้ไหมคะ หรือถ้าหาไม่ได้ จะโยกเรื่องพรมแดนไปตอบข้ออื่นก็ได้นะคะ

พลุ รางวัลคืออะไร เดี๋ยวพรุ่งนี้เฉลยจ้า อิอิ

ปักหมุดว่าลงคะแนนถึงคห 173 นะคะ
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 15:22:29

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 15:05:21

ความคิดเห็นที่ 175

เข้ามาให้กำลังใจผู้ดูแลค่ะ พลุ
ขนาดขวัญตามเก็บรีวิวยังตาลายเลยอ่ะ
ปล่อยของส่งท้ายปีกันใช่มั้ยคะ กะพริบตา
สู้ สู้ นะคะ ทุกคน

จากคุณ : P@ween@

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 17:34:26

ความคิดเห็นที่ 176

น่าฉงฉานคุณพัท ผู้ดูแลรอบนี้ เหมือนโดนสมาชิกกลั่นแกล้ง ปล่อยของกันใหญ่เลย หมูก็อ่านจนมึนไปเหมือนกัน (แล้วกรรมการจะตาลายขนาดไหนเนี่ย)

คุณหนิงๆ หมูอ่านเงารักซ่อนเงื่อนของแซนดรา บราวน์เป็นเรื่องแรก ทำเอาติดใจจนต้องไปหาแนวนี้ของสนพ.อมรินทร์มาอ่านอีก กลายเป็นแฟนชุด Romantic suspense ของสนพ.นี้ไปแล้วค่ะ

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 18:04:04

ความคิดเห็นที่ 177

กรี๊ดดดด....อ่ะ

ไหงปล่อยของกันตูม ๆ งี้ล่ะ ไม่เข้ามาแป๊บ ๆ เอง รอบนี้ผู้ดูแลตาลายแน่ ๆ (เปลี่ยนใจได้ไหมคุณพัท...อ๊ะ...ล้อเล่น wink )

น้องพลุ...ไม่ยอมจริง ๆ ด้วยแฮะ ทำท่าว่าจะทำแฮตทริก... ฮ่าฮ่าฮ่า
สงสัยต้องยกให้จริง ๆ แล้วล่ะ

รอบนี้ปิดเที่ยงคืนวันที่ 31 ธ.ค. ค่ะคุณหมู ฯ ยังมีเวลาอีกสองวัน ใครจะโค่นแชมป์ก็เชิญโลด คุณหนิงๆ คุณหนิง คุณยาคูลท์ ช่วยกันหน่อนเร้ว...

วันนี้ไปช่วยงานที่วัดมาทั้งวันเลยค่ะ คืนนี้มีรายการพิเศษอีก...
พรุ่งนี้ไม่รู้จะมีแรงเขียนรีวิวหรือเปล่า
จริง ๆ รอบนี้กะจะตอบโจทย์อีกซักสามสี่โจทย์นะเนี่ย เพราะมีอ่านตุนไว้เดือนก่อนหลายเล่มยังไม่ได้รีวิว เพราะมัวแต่เกี่ยงเรื่องคะแนนน้อย...แบบว่าไม่ค่อยจะงกอ่ะ

อ่านรีวิวกับแจกกิ๊ฟ หมดตรงเล่มที่สองของเจ้าชายพลุพอดี ทั้ง ๆ ที่อยากให้กับหนังสือสามสัญชาติของคุณหนิง ๆ มาก ๆ น่าสนทุกเล่มเลยง่ะ เอาใจไปแทนนะคะ
love love love

ทักทาย & เป็นกำลังใจทุกคนนะคะ (รวมทั้งน้องพลุด้วยน๊า...
ข้างบนน่ะกัดฟันแซวเล่น ๆ หรอกจ้า...อย่าน้อยใจล่ะ)

กู้ดไนท์ค่า จุ๊บๆ

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 21:03:14

ความคิดเห็นที่ 178

พี่อ้อน ปีใหม่ไม่ได้ไปไหน
อยู่ทำงานด้วยเช่นกันเพราะงั้นเดี๋ยวเรามาเค้าน์ดาวน์เฝ้ากระทู้กันดีกว่าเน๊อะ

พี่สาวไกด์ฯ เอ็นเด้เนี่ยคนโปรดของพลุเลยล่ะครับไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ

พี่พัท ตั้งตารอดูของรางวัลเลยครับ ^^

พี่แม่ไก่ 30-31 สงสัยท่าทางจะไม่กระเตื้องครับเพราะติดงานทั้ง 2 วันเลย
แต่จะพยายามเข้ามา ( 31 อาจจะเค้าน์ดาวน์หน้าคอมด้วยซ้ำเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดี )

สู้ๆนะครับทุกคนอีก 2 วันจะปีใหม่ สุขใจทำอะไรก็เฮงนะคับ
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 21:40:50

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 21:40:00

ความคิดเห็นที่ 179

give หมดที่ความเห็น 172 ค่ะ...
แล้วก็ขอ "ปล่อยของ" อีกเล่ม ...ก่อนหมดเดือนธันวาคม (คงไ้ด้แค่เล่มนี้แหละ)

15-6.[ปีศาจ ความฝัน + อั๊งอังอา] 4 ธันวาคม วันสิ่งแวดล้อมไทย อ่านหนังสือเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับช่วยลดภาวะโลกร้อน หรือตัวละครในเรื่องทำงานเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

ร้อยเรื่อง...เมืองสวย : รวมผลงานนักเขียน-กวีซีไรท์
สำนักพิมพ์มติชน : 2548 ราคา 120 บาท จำนวน 151 หน้า

รวมข้อเขียน บทความ เรื่องสั้น และบทกวีจากนักเขียนซีไรท์ 7 คน และนักเขียนรุ่นใหม่อีกหลายท่าน
เป็นหนังสือจากโครงการ "Do it clean" หนึ่งในโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของเครือซีเมนต์ไทย
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่แนวคิดเรื่องการจัดระเบียบขยะในวงกว้าง
รายได้จากการจำหน่าย ก็นำไปทำถังขยะมอบให้โรงเรียนในกรุงเทพมหานครและชุมชน
ผลงานต่างๆ ประกอบด้วย
"เมืองใหญ่ในฝัน" - เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรท์ ปี 2523
"กาลครั้งหนึ่งของขยะ" - อัศศิริ ธรรมโชติ นักเขียนซีไรท์ ปี 2524
"ขยะมาจากไหน" - วาณิช จรุงกิจอนันต์ นักเขียนซีไรท์ ปี 2527
"ร้อยปวงบุปผามาลีขยะ" - ไพวรินทร์ ขาวงาม นักเขียนซีไรท์ ปี 2538
"ของฝากข้ามฟากฟ้า" - วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนซีไรท์ ปี 2540, 2542
"ขยะ" - วิมล ไทรนิ่มนวล - นักเขียนซีไรท์ ปี 2543
"มนุษย์ขยะ" - เดือนวาด พิมวนา - นักเขียนซีไรท์ ปี 2546
"เมืองสวยในฝัน" - บีม กวี ตันจรารักษ์
"ของที่ไร้ค่ามักไม่มีใครต้องการ - วิว เยาวภา บุรพลชัย
"ของฝาก..ฝากคิด" : ความรู้ดีๆ เกี่ยวกับเรื่องขยะ
"ของฝาก..จากคนพิเศษ - กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์, ชลิดา เถาชาลี, พลอย จิระเวช และ ณชนก รัตนทารส
พร้อมด้วยการ์ตูนสั้นสีช่อง ภาพโดย ภัทรียา ประสานทอง และเรื่องโดย บัวไร

แต่ละเรื่องราว ล้วนเล่าถึง "ขยะ" ในมุมมองของตน โดยมุมหวังที่จะให้คนอ่านได้คิดตามและช่วยกันบริหารจัดการขยะ
โดยเริ่มจากในบ้านตัวเองซะก่อน
จากบ้านสู่ชุมชน จากชุมชนหนึ่งสู่อีกชุมชนหนึ่ง
ผลลัพท์ที่ได้ คือเมืองสะอาดที่ทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือนั่นเอง

ปล. ติดค้าง up blog ถึงหนังสือที่รีิวิวในเกม 3 เล่มแล้วล่ะ
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 22:28:29

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 22:17:52

ความคิดเห็นที่ 180

20-3.[II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน จะเป็นนักแสดง นายแบบนางแบบ หรือจะเกณฑ์คนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือตัวเองมาแสดงก็ได้ ถ้าไม่เป็นที่รู้จักให้เอารูปมาให้ดูด้วย

2012 วันสิ้นโลก
สยามอินเตอร์บุ๊คส์
เขียน Lawrence E.Joseph
แปลโดย ทรงพล ศุขสุเมฆ
336 หน้า

หนังสร้างจาก เค้าโครงสมมุติฐาน จากข้อมูล ของหนังสือ
เพราะตัวหนังสือเอง เขียนในเชิงสารคดี แบบภาษาพูด ถ้าจะให้เปรียบก็คง
เป็นจับฉ่าย ที่รสชาติค่อนข้างดี เพราะผู้เขียนสืบหาเรื่องของความเชื่อ
หายนะในปี 2012 จากคำพยากรณ์ของศาสนา วิทยาการของชาวมายา
กาีรคำนวณของนักฟิสิกส์ทฤษฎีต่างๆนักดาราศาสตร์ จากหลายทวีป ไปจนถึงคนทรงเจ้า

หนังสือ อ่านสนุกตรงที่ภาษาพูด ที่บางครั้งบ่น แดกดัน ไปกับลักษณะ บุคคลิก
ของแหล่งข้อมูล โดยไม่เสแสร้ง แต่ยังเคารพในตัวข้อมูล ความเห็นต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นทางวิชาการ หรือ ทางจิตวิญญาณ

เล่มนี้ เป็นเป้าหมายแรกในงาน book fair จากร้านสยามอินเตอร์ ครับ

แคสติ้ง นักแสดงใหม่ คงต้องตามหนังเดิมละครับ
ชอบ จอน คูแซค อยู่แล้ว ตั้งแต่ Grosse Pointe Blank
งานไหนพี่แกเล่น ก็ตามเก็บ DVD เกือบหมด

บทอื่นใคร ก็ได้เพราะไม่ค่อยจะเด่นอยู่แล้ว
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 22:49:49
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 22:48:15
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 22:43:34

จากคุณ : คนชอบเขียน

เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 22:41:50

ความคิดเห็นที่ 181

ผู้ดูแลรอบนี้ช่างน่าสงสาร...
แต่... ไม่เห็นใจหรอก เพราะจะปล่อยของเหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า
(เค้ากลัวคุณแม่ไก่กับน้องไอซ์ผิดหวัง อิอิ)
จริงๆ ง่วงแล้ว แต่จะพยายามรีวิวละกัน ไม่งั้นลืมแน่ว่าอ่านอะไรไป

20-3.[II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน

เคหาสน์รัตติกาล เล่ม 1 ตอน รอยประทับ (Marked)
ผู้แต่ง: พี.ซี. แคสต์, คริสติน แคสต์ / แปล: ขีดขิน จินดาอนันต์
แพรวสำนักพิมพ์, พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2552, ราคา 215 บาท, 295 หน้า

โซอี้ เรดเบิร์ด รู้ดีว่าเธอไม่เหมาะกับโลกของมนุษย์ สังคมของมนุษย์... ที่ที่แสนอึดอัดสำหรับเด็กสาววัยสิบหกปีผู้ขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัว และดูเหมือนจะไม่มีพื้นที่ใดอ้าแขนต้อนรับเธอ

กระทั่งวันที่เธอได้รับการ “ประทับรอย” จากผู้ล่า และได้เดินทางสู่ “เคหาสน์รัตติกาล” เพื่อเปิดโลกใบใหม่ซึ่งเธอไม่เคยรู้จัก โลกของราตรี มนตรา ทวยเทพ ความลึกลับ และอำนาจที่เธอค้นพบและต้องควบคุมมัน เพื่อเปลี่ยนตัวเองจากมนุษย์ไปเป็นแวมไพร์เต็มตัว

ที่นั่น...โซอี้ได้รู้ว่ารอยประทับของเธอไม่เหมือนใคร และอำนาจที่เธอได้จากองค์เทวีแห่งแวมไพร์นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่วัยรุ่นคนหนึ่งจะมี

ที่นั่น...เธอได้พบกับแวมไพร์หนุ่มสุดเซ็กซี่ผู้ทำให้โซอี้อึดอัดและออกจะมันเขี้ยว

ก้าวแรกในชีวิตแวมไพร์ของเธอนั้นสุดแสนจะตื่นเต้นเร้าใจ เธอต้องต่อกรกับกลุ่มบุตรีแห่งรัตติกาล ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด และเรียนรู้ที่จะเป็น “ผู้นำ” ที่ยิ่งใหญ่ของเคหาสน์รัตติกาล

* * * * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุดเคหาสต์รัตติกาล (House of Night) ซีรี่ส์แวมไพร์ระดับ young adult ที่กำลังเฟื่องฟูในหมู่สาวน้อย(และเหลือน้อย)

โลกในนิยายจะคล้ายกับ True Blood ตรงที่คนทั่วไปรู้ว่ามีแวมไพร์อยู่ ในเรื่องอธิบายว่าแวมไพร์คือวิวัฒนาการลึกลับบางอย่างที่เกิดกับบางคน เมื่อยีนส์ใครเริ่มผิดเพี้ยนส่อเค้าว่าจะกลายเป็นแวมพ์ ก็จะถูก "ประทับ" และส่งไป "เคหาสน์รัตติกาล" ซึ่งเป็นเหมือนโรงเรียนแวมไพร์นั่นเอง

แต่พวกที่มีรอยประทับจะเป็นแค่ "นักเรียนเตรียม" เท่านั้น บางคนอาจวิวัฒน์ไปเป็นแวมไพร์เต็มตัว แต่บางคนอาจอยู่ๆ ล้มตายแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

แน่ล่ะว่านางเอกของเรื่องต้องถูกประทับ แต่เธอพิเศษกว่าใครตรงที่เทวีแวมไพร์ "นิกซ์" ดูเหมือนจะโปรดปรานเธอ รอยประทับของเธอเลยแปลกกว่าใคร แถมยังมีพลังอัญเชิญธาตุได้ทั้งห้าธาตุ

เล่มนี้อ่านสนุกตอนเก็บรายละเอียดโรงเรียน ระเบียบและพิธีการต่างๆ ของพวกนักเรียนค่ะ ส่วนเนื้อเรื่องยังไม่ซับซ้อนมาก เป็นการแย่งอำนาจหัวหน้ากลุ่มบุตรีแห่งรัตติกาล มีเปิดตัวเรื่องรักๆ ใคร่ๆ นิดหน่อย แล้วก็จบ

ใครชอบตัวเอกเด่นๆ น่าจะชอบชุดนี้ เพราะคนเขียนเข้าข้างนางเอกสุดฤทธิ์สุดเ ดช (ได้รอยประทับเริ่ดกว่าใคร พลังมากมาย เจอเพื่อนดี มีหนุ่มฮ็อตมาสน เป็นคนโปรดของเทวี ฯลฯ)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 00:40:18

ความคิดเห็นที่ 182

Casting:

โซอี้ - นางเอกของเรามีเชื้อเชอโรกี โหนกแก้มสูง ตาสวยแต่ไม่ถึงกับกลมแป๋ว (ไม่งั้นคงแคสท์ Katie Holmes แล้วนะเนี่ย) ตาสีน้ำตาลอ่อน (สมมติว่ารูปนี้ใช่ละกัน) ...เท่าที่นึกออก ก็มี Megan Fox นี่แหละเข้าท่าสุด รูปเธอบางมุมดูสวยและมีอำนาจดีด้วย

เอริก - Robert Pattinson (เวอร์ชั่นไม่พอกหน้าขาวว่อกเกิน)
หนุ่มรุ่นพี่สุดฮ็อต ขี้เกียจคิด ลอก Twilight ละกัน

ฮีท - Taylor Lautner ควอเตอร์แบ็คแฟนเก่าของโซอี้ หนุ่มนักกีฬาบื้อๆ ที่น่ารัก เล่มนี้ยังไม่มีบทอะไรนอกจากเป็น "แฟนเก่างี่เง่า" แต่เล่มหลังๆ เขาจะน่ารักขึ้นเยอะเลย คือ..ยังบื้อเหมือนเดิม แต่บื้อจริงใจน่ารักอ่ะ หนุ่มเจค็อบนี่แหละเหมาะแล้ว

แอโฟรไดที - Britney Spears (สมัยก่อนโน้นนน อย่าสับสนกับสาวหอกตอนนี้ล่ะ) สาวผมบลอนด์จอมเสแสร้ง ผู้นำกลุ่มบุตรีแห่งรัตติกาล แฟนเก่าของเอริก

เนเฟอเร็ต - Eliza Dushku แวมไพร์ที่เป็นประมุขหญิง ผู้ดูแลเคหาสน์ เป็นที่เคารพนับถือของทุกคน แต่บทจะน่ากลัวก็น่ากลัวจริง

ซอนี่ - Alesha Dixon สาวผิวสีช็อคโกแลต ซี้กับแอรินจนได้ฉายาเป็น "คู่แฝด"
แอริน - Avril Lavigne สาวผิวขาวผมบลอนด์ แฝดทางจิตวิญญาณกับคนข้างบน
สตีวี่ เร - Alyson AMichalka สาวโอกลาโฮม่านิสัยอบอุ่นน่ารัก ขี้ขลาดนิดหน่อย
แดเมียน - Lucas Hill เกย์เจ้าคำศัพท์สำบัดสำนวน
(เผอิญเห็นหน้าหวานดี ตัวจริงคงไม่เกย์หรอกเนอะ)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 00:44:58

ความคิดเห็นที่ 183

15-11.[ยาคูลท์] อ่านหนังสือ 2 เล่มที่คำสุดท้ายเล่มหนึ่งคล้องจองกับคำแรกของอีกเล่ม

ดูจากชื่อตอนนะคะ "ภาพลวงตา" กับ "มายาลิขิต"

เคหาสน์รัตติกาล เล่ม 2 ตอน ภาพลวงตา (Betrayed)
ผู้แต่ง: พี.ซี. แคสต์, คริสติน แคสต์ / แปล: อรทัย พันธพงศ์
แพรวสำนักพิมพ์, พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2552, ราคา 245 บาท, 327 หน้า

มันเป็นเหมือนที่โซอี้ เรดเบิร์ดรู้สึกอยู่ครามครันไม่มีผิด
เคหาสน์รัตติกาล...โรงเรียนสำหรับนักเรียนเตรียมแวมไพร์แห่งนี้มีบางอย่างผิดปกติ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่จับความไม่ชอบมาพากลทั้งหลายได้

หลังจากเข้าสู่โลกแห่งรัตติกาลได้พักหนึ่ง โซอี้ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตแบบนักเรียนเตรียมแวมไพร์ได้ เธอรับช่วงตำแหน่งผู้นำกลุ่มบุตรีแห่งความมืดต่อจากแอโฟรไดทีตัวแสบ หวานชื่นกับ เอริก ไนต์..นักเรียนฟอร์มห้าที่หล่อเหลาแบบซูเปอร์แมนเวอร์ชั่นแวมไพร์ แฟนเก่าที่เธอฝังภวังค์มนตร์ให้แก่กันก็ทำให้เธอกับเขาสื่อใจถึงกันอย่างเหลือเชื่อ แถมยังมีกวีราชสำนักมาพัวพันให้ใจหวั่น

แต่แล้ว เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมนุษย์วัยรุ่นสองคนที่เธอรู้จักถูกฆ่า และหลักฐานทั้งหมดชี้ชัดว่าเหตุการณ์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเคหาสน์รัตติกาล!

ระหว่างที่ภัยมืดคุกคามเหล่ามนุษย์ โซอี้ก็ค้นพบพลังอำนาจใจตัวเธอและเพื่อนๆ มากขึ้น หากแต่ความมัศจรรย์เหล่านั้นกลับต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างที่น่าพรั่นพรึง

+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+

เคหาสน์รัตติกาล เล่ม 3 ตอน มายาลิขิต (Chosen)
ผู้แต่ง: พี.ซี. แคสต์, คริสติน แคสต์ / แปล: พาฝัน เจริญดี
แพรวสำนักพิมพ์, พิมพ์ครั้งแรก ธันวาคม 2552, ราคา 210 บาท, 278 หน้า

มันอาจไม่ได้เป็นเหมือนที่โซอี้ เรดเบิร์ดรู้สึกอยู่ครามครันก็ได้
เคหาสน์รัตติกาล...โรงเรียนสำหรับนักเรียนเตรียมแวมไพร์แห่งนี้มีบางอย่างผิดปกติมากขึ้น และเพียงเธอคนเดียว ไม่อาจรับมือกับเรื่องราวต่างๆที่กลับพลิกผันและมีแต่ปริศนาดำมืดได้อีกแล้ว

หลังจากเข้ารับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มบุตรีแห่งความมืดและประมุขหญิงฝึกหัด โซอี้ต้องร่วมมือกับคู่ปรับเก่า (หรืออาจจะยังเป็นปัจจุบัน) แอโฟรไดที เพื่อช่วยเหลือเพื่อนรัก สตีวี่ เร ผู้กลายเป็นผีดิบให้หลุดพ้นจากสภาพตัวประหลาดน่ารังเกียจ แล้วก็ต้องปิดบังไม่ให้กลุ่มเพื่อนสนิทหรือแม้แต่แฟนหนุ่มสุดฮ็อตล่วงรู้อีกด้วย

โซอี้ดำเนินแผนการต่างๆได้อย่างยากลำบาก เพราะตัวการเบื้องหลังที่ทำให้สตีวี่ เร กลายเป็นผีดิบก็คือผู้ทรงอำนาจจนโซอี้ไม่อาจจะงัดข้อต่อต้านได้เลย

แถมการที่ ฮีท แฟนเก่าผู้น่ารัก กับ ลอเรน เบลค อาจารย์หนุ่มสุดหล่อมาคอยทำให้หัวใจเต้นระทึกก็ไม่ได้ช่วยทำให้อะไรๆง่ายขึ้นเลยด้วย

* * * * * * * * * * * *

สองเล่มนี้จะเริ่มผูกปมซับซ้อนขึ้นนิดค่ะ ทั้งเรื่องแวมไพร์ผีดิบ (ที่ไม่รู้เล่มหลังจะหันมาสู้กับแวมไพร์ปกติหรือมนุษย์กันแน่) กับเรื่องรัก

เล่มสองจะมีเรื่องให้ช็อคนิดหน่อย (แต่โดนสปอยล์ไปแล้วในปกหลังเล่มสาม ...อ่า สำนักพิมพ์ย่อเรื่องมาเลยนะเนี่ย) ทำให้หยิบเล่มสามอ่านต่อด้วยความมันส์ค่ะ

ฮีท แฟนเก่านางเอกจะเริ่มมีมิติขึ้น ตอนแรก นึกว่าฮีทคงเป็นตัวละครแฟนเก่านักกีฬาอีโก้สูงที่คงหายไปจากเรื่องเลย แต่เขากลับช่างตื๊อกว่าที่คิด ขนาดเต็มใจบริจาคเลือดให้นางเอก (เอามีดปาดตัวเองยั่วเลยอ่ะ ใจถึงมาก) นิสัยไม่คิดอะไรซับซ้อนของฮีท รักแล้วรักเลยแบบนี้พออ่านแล้วก็อดเชียร์ไม่ได้นะ

เล่มสามมีจุดที่อ่านแล้วเหวอเล็กน้อย..ในเรื่องรัก คนแต่งใส่สามหนุ่มสามบุคลิกมาสนองนี้ดคนอ่าน หนุ่มมนุษย์น่ารัก หนุ่มนักเรียนแวมพ์สุดหล่อ แวมพ์เต็มตัวเสน่ห์ลุ่มลึกแบบผู้ใหญ่
... แต่คนที่นางเอกเลือกในเล่มสามกลับเป็นคนที่เราเชียร์น้อยที่สุด เพราะเขาแทบไม่มีบทอะไรจริงจังเลย (ตรงนี้จะอธิบายได้อีก แต่ขอหยุดแค่นี้ละกัน ไม่งั้นจะสปอยล์)

สามเล่มที่อ่านไปตรงนี้จบดราม่าใช้ได้เลยค่ะ ความสัมพันธ์หลายๆ อย่างคงเปลี่ยนไปในเล่มหน้า รออ่านอยู่เนี่ย
(ไม่น่าเริ่มหยิบอ่านเลยตู ลงแดงตายแน่กว่าจะอวสาน T^T )

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 01:16:13

ความคิดเห็นที่ 184

มาส่งการบ้านหนึ่งข้อก่อนไปนอนค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยขนสัมภาระมาลงเพิ่ม ฮ่าฮ่าฮ่า

----------------------------------------------------------

15-12. [แม่ไก่] วันสิ้นปี มาเจริญมรณสติกันหน่อย อ่านหนังสือ 1 เล่มที่ได้รับแจกจากงานศพ
หรือหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย

รู้ก่อนตาย ไม่เสียดายชาติเกิด

ผู้เขียน : ว. วชิรเมธี
สำนักพิมพ์ : ปราณ พับลิชชิ่ง (พิมพ์ครั้งที่ 12)
จำนวนหน้า : 173 หน้า

จากปกหลัง
ทุกนาทีมีคนเกิดและคนตาย
ทุกวันของชีวิตเรามากมายด้วยคำถาม
แต่น่าแปลกเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนที่เกิดและทุกคนที่ตาย
ต่างก็ล้วนมุ่งมั่นถามในเรื่องนอกตัวและไกลตัว

เอกภพคืออะไร บิ๊กแบงเกิดขึ้นได้อย่างไร
แสงเดินทางเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้ง
กาลและอวกาศมีขอบเขตหรือไม่

มนุษย์ตอบคำถามเหล่านี้เอาไว้แล้วทั้งหมดอย่างเป็นระบบ
แต่ครั้งพอถามเรื่องในตัวอย่างเช่น

ก่อนเกิดมาเป็นมนุษย์ เราเป็นใคร
เราอยู่ที่ไหนก่อนที่จะมาอยู่ในโลกใบนี้
การเวียนว่ายตายเกิดคืออะไร
ตายแล้วไปไหน
คนที่ตายในชาตินี้กับคนที่เกิดใหม่ในชาติหน้าเป็นคนคนเดียวกันจริงหรือ
บุญ บาป เทวดา นรก สวรรค์ มีจริงหรือไม่

น้อยคนนักที่จะตอบคำถามซึ่งเป็นเรื่องของตัวเองล้วน ๆ อย่างนี้ได้
แต่ในบัดนี้ คำตอบของคำถามอมตะนิรันดร์กาลสำหรับทุกชีวิตเหล่านี้
ทุกคำตอบรออยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว

เป็นหนังสือที่ขโมยของพ่อมาอ่านอีกแล้วค่ะ และความรู้สึกแรกหลังอ่านจบ คือ
“เฮ้ย เล่มนี้สนุกอะ”... เป็นหนังสือธรรมะที่อ่านสนุกมาก (ในความคิดของตัวเอง)

หนังสือเล่มนี้ มีชื่อในการพิมพ์ครั้งแรกว่า “ตายแล้วเกิดใหม่ตายนัยพระพุทธศาสนา”
เพราะเนื้อหาภายในเล่มไม่ได้เป็นหนังสือรวมบทความอย่างที่เราคุ้นกัน
แต่มีลักษณะเป็นการถาม-ตอบปัญหาเกี่ยวกับการเกิด การตาย การเกิดใหม่ บาป บุญ
ตามหลักพระพุทธศาสนา คิดว่าใครชอบดูอิคคิวซังก็น่าจะอ่านเล่มนี้เพลินดีเหมือนกัน
โดยแบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ

snowman ภาคหนึ่ง : ปัญหาของพระยามิลินท์: ว่าด้วยการตายแล้วเกิดใหม่
เนื้อหาของภาคแรกนี้ ยกมาจาก มิลินทปัญหา ซึ่งท่าน ว. ได้ยึดฉบับหอสมุดแห่งชาติเป็นหลักค่ะ
สำหรับมิลินทปัญหานี้ ในประเทศไทยถือเป็นปกรณ์ (คัมภีร์) พิเศษที่มีความสำคัญต่อการศึกษาพุทธศาสนา
และในพม่าได้ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกในหมวดขุททกนิกาย
เนื่องจากเป็นที่ยอมรับกันว่ามีใจความและคำอธิบายลึกซึ้งถูกต้องตามหลักธรรมในพระไตรปิฎก

ภาคนี้แบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่

ส่วน ความนำ : มิลินทปัญหา ขุมคลังทางปัญญาของนักปราชญ์
เป็นการเล่าความเป็นมาของคัมภีร์มิลินทปัญหา และประวัติพระเจ้ามิลินท์กับพระนาคเสนโดยสังเขป
โดยพระเจ้ามิลินท์ หรือเมนานเดอร์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ผู้ปกครองสาคลราชธานี
เป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด พอพระราชหฤทัยในการซักถามและโต้แย้งชนิดที่นักปราชญ์ก็สู้ไม่ได้
กับพระนาคเสน พระภิกษุในสมัยหลังพุทธกาลแต่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องพระไตรปิฎกแตกฉาน
พระเจ้ามิลินท์ได้ลองภูมิพระนาคเสน และตอบโต้กันจนพระองค์พอพระทัยว่าได้คู่ถามตอบที่เสมอกันแล้ว

ส่วนปุจฉา-วิสัชนา : ว่าด้วยการตายแล้วเกิดใหม่
ในส่วนนี้ เป็นบทถามตอบในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิด การตาย และการเกิดใหม่
เช่น สงสารวัฏคืออะไร ก่อนเกิดมาเราเคยอยู่ที่ไหน คนสองคนตายพร้อมกัน ใครจะไปเกิดก่อน
ผู้ที่ตายไปแล้วไม่กลับมาเกิดอีกมีหรือไม่ เหตุใดมนุษย์จึงต่างกัน
บุญกุศลอุทิศให้กันได้ แล้วจะสามารถอุทิศบาปให้กันได้หรือเปล่า เป็นต้น

ลักษณะของปุจฉา-วิสัชนา พระเจ้ามิลินท์เป็นผู้ชงคำถามให้พระนาคเสนตอบ
ซึ่งการตอบของพระนาคเสนจะไม่ใช่การอธิบายอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เป็นการยกตัวอย่างเปรียบเทียบ
ให้ผู้ถามลองมองภาพตามแล้วไปคิดเอาเองว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่

ส่วนบทสรุป : จะปล่อยชีวิตเวียนว่ายไปตามกระแสกรรม หรือ จะนำขึ้นมาอยู่เหนือกระแส
ในบทนี้ ท่าน ว. สรุปความว่า การเวียนว่ายตายเกิดเป็นหลักสากล และไม่ใช่แค่เรื่องของ
จริยธรรมทางสังคมแบบ ‘เอานรกมาขู่-เอาสวรรค์มาล่อ’ แต่เป็นการนำความจริงที่มีอยู่แล้วมาสอน
คนเราเลือกเกิดได้ การเลือกทางที่จะไปเกิดมีด้วยกันสองทางแล้วแต่การกระทำดีหรือชั่ว
กรรมในปัจจุบันจึงเป็นหลักประกันของชีวิตในชาตินี้และชาติหน้า
สิ่งที่เราควรเข้าใจและควรกระทำคือ เมื่อคนเราเกิดมามีกรรม ก็ใข่ว่าจะก้มหน้าใช้กรรมไปอย่างเดียว
ขณะที่ใช้กรรมเก่า เราก็สามารถสร้างสรรค์กรรมใหม่ในทางที่ดี เพื่อพัฒนาชีวิตให้อยู่เหนือกฎแห่งกรรม

snowman ภาคสอง : ปัญหาของพระยาปายาสิ: โลกหน้า เทวดา บุญ บาป กฎแห่งกรรมมีจริงหรือไม่

สำหรับภาคนี้มีลักษณะการแบ่งบทอย่างเดียวกับภาคแรกค่ะ คือ

ส่วนความนำ : วิวาทะของสองปราชญ์ร่วมพุทธสมัย
เป็นการเล่าประวัติของบุคคลที่ได้ทำการปุจฉา-วิสัชนาในเรื่องตอนนี้ ได้แก่
พระเจ้าปายาสิ เจ้าเมืองเสตัพยนคร ผู้นำของลัทธิ “นัตถิกทิฐิ” (Nihilism)
ซึ่งเป็นลัทธิที่ถือปรัชญาแบบวัตถุนิยม คือ เชื่อในสิ่งที่มีตัวตน จับต้องได้ สัมผัสได้เท่านั้น กับ
พระกุมารกัสสปะ พระมหาเถระสำคัญองค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล และได้รับการยกย่องจาก
พระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้แสดงพระธรรมเทศนาได้อย่างวิจิตร

ในส่วนที่สอง คือ ปุจฉา-วิสัชนา: โลกหน้า เทวดา บุญ บาป กฎแห่งกรรมมีจริงหรือไม่
ถ้าเปรียบเทียบกันด้วยภาษาชาวบ้าน ๆ ถ้าการถามตอบระหว่างพระเจ้ามิลินท์กับพระนาคเสน
เทียบได้กับการต่อสู้ด้วยศิลปะป้องกันตัวแบบไอคิโดละก็ เรื่องหลังนี้ก็เรียกได้ว่า
เป็นการถามตอบที่หนักหน่วงพอ ๆ กับมวยไทยก็ได้ค่ะ เพราะตัวอย่างที่ยกมา
หนักและโหดกว่าในมิลินทปัญหา เนื่องจากพระเจ้าปายาสิ ‘ดื้อ’ เอาเรื่อง ไม่ยอมเชื่อง่าย ๆ

เริ่มต้นมาด้วยทฤษฎีของพระเจ้าปายาสิว่า “โลกหน้าไม่มี โอปปาติกะสัตว์ไม่มี
ผลแห่งกรรมดีกรรมชั่วไม่มี” พระกุมารกัสสปะจึงได้ตั้งคำถามให้พระเจ้าปายาสิตอบ
โดยตั้งโจทย์อุปมา ให้อธิบาย (ถ้าเป็นข้อสอบเดี๋ยวนี้คงเรียกว่า ให้อภิปรายอย่างกว้างขวาง)
เช่น อุปมาด้วยโจร อุปมาด้วยสตรีมีครรภ์ อุปมาด้วยก้อนเหล็กเผาไฟ อุปมาด้วยคนหอบเปลือกป่าน
ถามกันไปตอบกันมาจนในที่สุดพระเจ้าปายาสิทรงต้องยอมแพ้ และสรรเสริญพระกุมารกัสสปะว่า
การแสดงธรรมของพระกุมารกัสสปะนั้นเหมือนกัน หงายของคว่ำให้เปิด เปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทาง หรือ ตามประทีปในที่มืดด้วยหมายใจว่า ‘คนตาดีจักเห็นรูปได้’

ท้ายการปุจฉา-วิสัชนานี้เอง พระกุมารกัสสปะได้ถวายพระพรตอบพระเจ้าปายาสิว่า
การทำบุญที่สูญเปล่ามีลักษณะเช่นใด การทำบุญไม่เป็นเท่ากับทำคุณบูชาโทษ
และกว่าจะรู้ว่าโลกหน้ามีจริงก็สายเกินไปเสียแล้ว

และในส่วนที่สามคือ บทสรุป : ชาติหน้า พระพุทธศาสนาบอกว่า มี แต่ชาตินี้สำคัญที่สุด
ได้สรุปปายาสิราชัญญสูตรไว้ และในข้อหนึ่งในนั้นพูดถึงการการทำบุญเอาไว้
โดยการทำบุญ ทำได้โดยการให้ทานและการด้วยการประพฤติตนตาม ‘บุญกิริยาวัตถุ”
และอานิสงส์ของการทำบุญย่อมส่งผลในโลกนี้และโลกหน้า

แน่นอนที่สุดว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ได้อ่านเพื่อให้เชื่อทันที แต่อ่านเพื่อให้เริ่มต้นคิด
อ่านเพื่อจุดเริ่มต้นให้เราทำในสิ่งที่ควรทำ ทำในสิ่งที่พร้อมและสามารถทำได้ก่อนจะสายเกินไป

สำหรับเล่มนี้ HIGHLY RECOMMEND ค่ะ ^ ^

ไหน ๆ ก็ใกล้ปลายปีแล้ว (เพื่อเอาใจเจ้าของโจทย์ด้วย ฮา)
ขอยกตัวอย่างตอนหนึ่งในเรื่องมาให้ลองอ่านกันด้วยนะคะ
ตอนนี้เป็นปุจฉา-วิสัชนาที่น่าสนใจเลยละ และอาจจะเป็นคำถามที่บางคนอาจเคยสงสัยด้วย

คนหนึ่งรู้จักบาป อีกคนไม่รู้จัก เมื่อทำบาป ใครจะบาปมากกว่ากัน (หน้า 68)

พระยามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน คนหนึ่วรู้ว่าทำอย่างไรเป็นบาป
และบาปนั้นมีโทษอย่างไร อีกคนหนึ่งไม่รู้เสียเลย คนสองคนนี้ทำบาปด้วยกัน
ใครจะบาปมากกว่ากัน

พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร คนไม่รู้บาปมากกว่า

พระยามิลินท์ : ไฉนจึงเป็นเช่นนั้นเล่าเธอ ก็ทางบ้านเมือง ผู้ที่ไม่รู้กฎหมายกระทำผิดบางอย่าง
ย่อมได้รับความลดหย่อนผ่อนโทษเบากว่าผู้รู้กฎหมาย

พระนาคเสน : ขอถวายพระพร ก้อนเหล็กซึ่งเขาเผาไฟจนแดงโชน คนหนึ่งรู้ว่าเป็นเหล็กแดง
อีกคนหนึ่งไม่รู้ ก็ถ้าจะให้คนสองคนนี้หยิบก้อนเหล็กแดงนั้น
คนไหนจะหยิบได้เต็มมือและถูกความร้อนเผามากกว่ากัน

พระยามิลินท์ : คนรู้จักจะหยิบได้สนิทหรือเธอ ต่อคนไม่รู้จึงหยิบได้เต็มมือ
เมื่อเช่นนั้นก็ต้องถูกความร้อนเผามากกว่าคนรู้

พระนาคเสน : นั่นแลฉันใด นี่ก็ฉันนั้น คือ ผู้ที่รู้เหตุ รู้ผลแห่งบาปกรรมโดยจริงใจมีอยู่อย่างไร
ขณะเมื่อตนกระทำบาปอยู่ ย่อมเกิดความละอายใจและหวาดกลัวว่า
ตนมิสมควรจะกระทำเช่นนั้น ด้วยเกรงว่าภายหลังจะต้องได้รับความเดือดร้อน
เพราะบาปกรรมนั้นตามให้ผล เป็นอันว่ามิกล้าที่จะกระทำบาปต่อไปอีก
ส่วนผู้ที่ไม่รู้ว่าทำอย่างไรเป็นบาป และการกระทำนั้นมีโทษเพียงไร
ย่อมไม่มีความตะขิดตะขวงใจ อาจทำได้ตามอำเภอใจ แม้บาปหนัก ๆ ก็ทำได้
โดยที่ตนไม่รู้ว่า การกระทำนั้น ๆ ตนจะต้องเป็นผู้รับผลอย่างสาหัส
ขอถวายพระพร ด้วยเหตุนี้แล จึงว่าคนไม่รู้บาปมากกว่า

พระยามิลินท์ : เธอว่านี้ชอบแล้ว

_{ภาพปกจาก trendyday.com}
แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 02:01:39

จากคุณ : ปิยะรักษ์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 01:59:42

ความคิดเห็นที่ 185

10-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือ 2 เล่ม 2 ประเภท จาก 2 สำนักพิมพ์

อุ่นไอหัวใจรัก
ผู้แต่ง: มัลลิกา
สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ, พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2552, ราคา 180 บาท, 255หน้า

ไปรยา หรือ คุณจ๋า คุณหนูผู้ร่ำรวยแห่งตระกูลพัชรเศรษฐ์ สูญเสียมารดาผู้เป็นที่รักไปเมื่อตอนอายุ 6 ขวบ โยธิน ผู้เป็นบิดาเองก็เสียใจไม่แพ้กัน เขาทำงานอย่างหนักเพื่อลบเลือนความสูญเสียในครั้งนี้ และที่สำคัญ เพื่อลูกสาวที่เขารักมากที่สุด

แสงศร เด็กชายผู้สูญเสียทั้งบิดาและมารดาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ถูกพาเข้ามาในบ้านตะวันส่อง เด็กชายสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกับคุณจ๋าตลอดไป นับตั้งแต่วันนั้น ไปรยาบอกตัวเองมาตลอดว่า ต่อไปนี้เธอจะไม่เหงาอีกแล้ว แสงศรจะเป็นเพื่อนของเธอ เขาจะเป็นของเธอ …ของเธอตลอดไป

แต่แล้ววันหนึ่ง...เมื่อชายหนุ่มไม่รักษาสัญญา
ผิดมากไหม...หากไปรยาจะทวงสัญญาและเอาคืนด้วยเล่ห์มารยา

* * * * * * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวดอกฟ้ากับหมาวัด นางเอกร้ายกาจเอาแต่ใจค่ะ

เท่าที่เคยอ่านงานของคนแต่งมา คิดว่านี่เป็นเรื่องแรกที่ไม่ถูกจริตกับนิสัยนางเอกค่ะ เธอเป็นคุณหนูจอมวีน เอาแต่ใจและวอนหาเรื่องสุดๆ
เช่น เธองอนที่พระเอกคุยกับผู้หญิงหรือติดนัด ก็ไปเที่ยวผับจนเมาและโดนพาเข้าโรงแรมม่านรูด พระเอกไปช่วยพาออกมา แต่คุณจ๋าไม่มีสลดสักฉาก ฟื้นมาก็บอกว่า "ที่เป็นแบบนี้เพราะศรผิด ไม่ตามใจจ๋า"
(คนอ่าน: พูดแบบนี้ เอาไปส่งโรงแรมม่านรูดอย่างเก่าเลยดีไหมเนี่ย)

นิสัยนางเอกทำให้ครึ่งแรกของเล่มไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ค่ะ (เพราะไม่ชอบนางเอกสไตล์นี้อยู่แล้ว) อ่านแล้วเหมือน "ความรัก" ของนางเอกเหมือนเด็กห้าขวบหวงของเล่นมากกว่า โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าน่าจะมีการปูพื้นความผูกพันสมัยเด็กหรือความน้อยใจของสาวน้อยแรกรุ่นมากกว่านี้สักนิด

แล้วที่แปลกคือ..ไม่ว่าจะเอาแต่ใจแค่ไหน เธอก็ได้ดั่งใจด้วย! เพียงแต่ต้องใช้แผนหลอกลวง--แบบไม่คิดถึงหัวอกใครนอกจากตัวเอง--แค่นั้นเอง

แต่เธอก็โดนพระเอกเอาคืนบ้างในครึ่งหลัง ทำให้อ่านแล้วสนุกขึ้นทีหลัง คิดว่าคนแต่งเปิดตัวนางเอกไว้เสียร้ายขนาดนั้นเพื่อดัดนิสัยเธอตอนท้ายนี่แหละ
(พยายามไม่คิดว่าพระเอกก็บื้อพอกัน จับคุณหนูที่ไม่เคยทำอะไรเลยไปอยู่บ้านสวน ไม่มีกระทั่งเตาแก๊สหรือห้องน้ำเนี่ยนะ ฆ่ากันเลยดีกว่า)

โดยรวมแล้ว เป็นเรื่องที่อ่านเพลินๆ และอาจจะน่ารักกุ๊กกิ๊กสำหรับคนชอบนางเอกวีนๆ ค่ะ เผอิญเราไม่ชอบตัวละคร..เลยเริ่มอ่านแบบจับผิด สวมโหมดป้าแก่อคติไปหน่อย

(ปกจากเว็บสำนักพิมพ์)

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 02:12:35

ความคิดเห็นที่ 186

10-10 เล่มสอง - แนวประวัติศาสตร์ / มติชน
เล่มแรก - นิยาย / พิมพ์คำ

Walking tour ทอดน่องท่องเที่ยวประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ผู้แต่ง: นิภาพร รัชตพัฒนากุล, เทอดพงศ์ คงจันทร์
สำนักพิมพ์ ศิลปวัฒนธรรม, พิมพ์ครั้งแรก มิถุนายน 2548, ราคา 230 บาท, 151หน้า

หนังสือเล่มนี้จะพาคุณเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการเมืองการปกครอง..ด้วยการเดินในบริเวณถนนสายที่มีชื่อว่า "ราชดำเนิน" หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่า "ถนนทางการเมือง"

เนื้อหาในเล่มจะพาคุณย้อนรอยและทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับการเดินทางของระบอบประชาธิปไตยของไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมกับให้ความรู้ทางสถาปัตยกรรมรอบข้าง ถ่ายทอดด้วยสำนวนภาษาที่อ่านง่าย พร้อมภาพประกอบชัดเจน ท้ายเล่มยังมีรายนามนายกรัฐมนตรี พร้อมรายละเอียดเหตุการณ์ทางการเมืองในยุคนั้นๆ ให้ได้ศึกษาเพิ่มเติมอีกด้วย

* * * * * * * * *

เนื้อหาในเล่มจะแบ่งเป็นช่วงๆ ช่วงแรกจะบรรยายเนื้อหาการเมืองไทยโดยสังเขป ช่วงที่สองจะเป็นการเดินทัวร์สถานที่ เนื้อหาน้อยหน่อยแต่เพิ่มเรื่องสถาปัตยกรรมของสถานที่สำคัญเข้ามา

อ่านก่อนเดิน >> ความเป็นมาและลักษณะทางกายภาพของถนนราชดำเนิน -- ตามรอยเส้นทางประชาธิปไตย -- 24 มิถุนายน 2475 -- เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 -- เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 -- พฤษภาคม 2535

อ่านระหว่างเดิน (บางส่วนจากเล่ม) >> ลานพระบรมรูปทรงม้า -- พระที่นั่งอนันตสมาคม -- อาคารส่วนราชการในทำเนียบรัฐบาล -- อาคารสถานที่ราชการริมถนนราชดำเนินนอก -- พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว -- ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ -- อาคารริมถนนราชดำเนินกลาง -- อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย -- อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา

อ่านถึงธรรมศาสตร์ (บางส่วนจากเล่ม) >> มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ -- พระราชวังบวรสถานมงคล -- พระบวรราชานุสาวรีย์ -- นายกรัฐมนตรีและเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ (พ.ศ. 2475-2535)

สำหรับคนไม่นิยมอ่านแนวประวัติศาสตร์การเมืองไทย (ให้จิตตก) ขอแนะนำเล่มนี้ค่ะ จุดที่ชอบข้อแรก--เนื้อหาไม่เยิ่นเย้อ อ่านแล้วเข้าใจภาพคร่าวๆ ดี ข้อสองคือมีภาพประกอบเยอะและชัดเจน ช่วยให้อ่านเข้าใจดีขึ้น ข้อสาม--แนวคิด การนำเสนอและรูปเล่มเท่ห์ดี น่าซื้อเก็บสุดๆ

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 02:37:20

ความคิดเห็นที่ 187

จัดหนังสือด้วยความง่วงและงง เอาเล่มไหนตอบข้อไหนดีเนี่ย -*-

15-1.[ทินา] เรื่องของสองนคร: อ่านหนังสือ 2 เล่มที่มีฉากเป็นเมืองหลวงของสองประเทศ โดยต้องเป็นเมืองที่มีอยู่จริงในแผนที่โลก

โตเกียว ทะบิจิ
ผู้แต่ง: พลอย มัลลิกะมาส
สำนักพิมพ์ วงกลม, พิมพ์ครั้งแรก 2552, ราคา 280 บาท, 256 หน้า

ชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะคนเมืองอย่างชาวโตเกียว หลงไหล คลั่งไคล้และเสพติดงานศิลปะกันอย่างเองจริงเอาจังและมีศิลปะอยู่ทั่วทั้งตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็นที่สวนสาธารณะ สองฟากฝั่งถนนริมทางเดินฟุตบาท ภายในอาคารหรูระยิบ ไปจนถึงตรองซอยเล็กๆ ในย่านที่อยู่อาศัยอันลึกลับและไกลโพ้น

สัมผัสกับพื้นที่ศิลปะและวิถีชีวิตในโลกศิลปะอันน่ารื่นรมย์และพบกับ 100 ร้านสถานที่เด็ด ใน 20 ย่านโปรดในมุมเล็กๆ ของโตเกียวกันเลยดีกว่า

* * * * * * * *

เล่มนี้พาเราไปรู้จักร้านค้า พิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ แกลเลอรี่น่าสนใจในโตเกียวค่ะ แยกเป็นเขตๆ เช่น อะซากุซะ เนะซุ อุเอะโนะ เรียวโกะคุ กินซ่า อะคะบะเนะบะชิ ชินะกะวะ รปปงหงิ เมะกุโระ เอะบิสุ ฯลฯ

รูปเล่มมีภาพประกอบเยอะและแต่งจ๊าบเก๋ไก๋ตามสไตล์แนวท่องเที่ยวของสำนักพิมพ์นี้ แต่เล่มนี้เน้นภาพปะที่ใช้พื้นสมุดลายเส้นผสมกับลวดลาย/ลูกเล่นต่างๆ นาๆ ...ซึ่งไม่เถียงว่าเก๋สะดุดตาน่าหยิบมาอ่าน แต่เราคิดว่ามันแย่งซีนภาพถ่ายสถานที่จริง และหาโฟกัสอ่านยากไปหน่อย (ในบางหน้า) ค่ะ

เนื้อหาในเล่มไม่สามารถเล่าได้ เพราะเป็นข้อมูลสั้นๆ ว่าร้านไหนอยู่ไหน มีอะไรดี มีแผนที่ (ที่ข้อยดูบ่ฮู้เฮื่อง ข้อยมึนกับเลย์เอ้าต์) ซึ่งน่าจะพกไปเที่ยวตามรอยได้สนุกกว่านั่งอ่านกับบ้าน ดังนั้น เลยอ่านแบบเรื่อยๆ ค่ะ

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 02:59:41

ความคิดเห็นที่ 188

พอดีโยกหนังสืออีกรอบ เลยลองใช้เล่มนี้ดู
ถามผู้ดูแลนิดค่ะว่าเล่มนี้ได้ไหม คือ ไม่แน่ใจว่ามีวางขายครบทุกร้านไหมน่ะ (พอดีจะเสิร์ชหาจำนวนหน้าแล้วเจอแค่เว็บเดียว)
... ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้อ่านอีกนิดก็จบอีกเล่มแล้ว อิอิ

โจทย์สองนคร >> เล่มแรก-โตเกียว, เล่มสอง-กรุงเทพ

บาปรักสีชมพู
ผู้แต่ง: สปันงา (ฟิลิปดา)
สำนักพิมพ์ คาเดีบพับลิชชิ่ง, พิมพ์ครั้งแรก 2552, ราคา 280 บาท, 373 หน้า

ความสุขในคืนฮันนีมูนอันมืดมิด ทำให้หยาดรุ้งมั่นใจว่าชีวิตแต่งงานของเธอจะต้องเป็นสีชมพูไปตลอด
แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพังครืน เมื่อสามีของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และเธอแสนจะสับสนว้าวุ่นเมื่อตั้งท้อง แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่าการถูกกล่าวหาว่ามีชู้
หยาดรุ้งหวังว่าพินัยกรรมของสามีจะทำให้เธอมีความมั่นคงในชีวิต แต่ทว่า...

แม้ภรรยาจะเสียชีวิตไปนาน แต่ความไม่ซื่อสัตย์ของเธอยังเป็นปมที่ทำให้ภาคภูมิรังเกียจ
เขาไม่คิดจะแต่งงาน ไม่คิดจะรับผิดชอบผู้หญิงคนไหนอีกทั้งสิ้น แต่คำขอร้องของน้องชายที่เสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เขาต้องติดแหงกอยู่กับน้องสะใภ้ที่กำลังท้อง เซ็กซี่เหลือร้ายนี่สิ
เขาทั้งรังเกียจทั้งอยากเข้าใกล้ แม้จะมั่นใจว่าเด็กในท้องไม่ใช่สายเลือดของน้องชายเขาแน่

* * * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นแนวรักอิ๊อ๊าง ที่พล็อตแปลกดีค่ะ เพราะนางเอกท้องเกือบทั้งเรื่องเลย แล้วพระเอกก็ดันมาปิ๊งสารเคมีกระจายกับคนท้อง (อ่านไปก็ขำไปนะเนี่ย)

การเดินเรื่องเล่าจากมุมมองนางเอก ...ที่คงจะเรียบร้อยน่าดู เลยไม่เอะใจกับอะไรบางอย่างรอบตัว ในขณะที่คนอ่านเปิดสองหน้าก็เดาออกแล้วว่าใครเป็นยังไง ที่อ่านต่อเพราะหื่--เอ๊ย อยากรู้อยากเห็น ว่าจะจบยังไง แค่นั้นเอ๊ง (อิอิ)

- - - รีวิวฉบับสปอยล์พล็อตโลดล่ะนะ - - - -

_{นางเอกโดนคู่เกย์ (เจ้านายกับเลขา) หลอกให้แต่งด้วย เข้าหอหนึ่งเดือนยังไม่เกิดอะไรขึ้น พอช่วงฮันนีมูน รัชภูมิหลอกมอมไวน์ภรรยาให้เผลอหลับ แล้วก็อุ้มไปอีกห้อง

ความจริง รัชภูมิติดต่อชายอื่นให้มาทำธุระแทน แต่เกิดอุบัติเหตุ ชายคนนั้นมาไม่ได้ ภาคภูมิ..พี่ชายของเขาเผอิญแวะมาหลังเที่ยวบาร์ เลยโดนน้องชายชวนดื่มนิดหน่อย และตื่นมาเจอผู้หญิง (ที่เขานึกว่าหิ้วมาจากบาร์) เลยเล่นผีผ้าห่มกันกลางความมืด (พอดีไฟดับด้วย)

เช้าวันต่อมา แม่ของรัชภูมิเสีย เขารีบพาหยาดรุ้งกลับโดยทิ้งต่างหูกับชุดไว้ไม่ทันเก็บ ภาคภูมิตื่นมาแบบงงๆ แต่ก็ไปงานศพแม่ และเพิ่งได้เจอน้องสะใภ้ที่นั่น รัชภูมิพยายาม "นำเสนอ" ภรรยาต่อพี่ชายในแง่ชวนเข้าใจผิดมาก เช่น พาพี่เข้าไปตอนภรรยาแก้ผ้าแช่น้ำสระส่วนตัวอยู่ ทำให้ภาคภูมิรู้ว่าน้องสะใภ้น่าจะร้อนแรงกว่ามาดสงบเสงี่ยมภายนอก

หยาดรุ้งตั้งท้องจากคืนฮันนีมูน ภาคภูมิรู้ว่าน้องเป็นหมันเลยแอบหมิ่นเธอในใจ จากนั้น รัชภูมิก็เสียชีวิต ทิ้งพินัยกรรมให้พี่ชายรับลูกนางเอกเป็นบุตรบุญธรรม ภาคภูมิเลยต้องอยู่ร่วมบ้านกับน้องสะใภ้ที่เขาคิดว่าเซ็กซี่ยั่วใจ ทั้งที่เธอไม่ชอบหน้าเขาเท่าไหร่

นานเข้า สองคนก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นและมีอะไรกันในที่สุด จากที่ภาคภูมิอ้างว่าเป็นการสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นช่วงท้อง..กลายเป็นความรู้สึกลึกซึ้งกว่านั้น แล้วนางอิจฉาก็โผล่มาสร้างความบาดหมางแบบเนียนๆ ทำให้สองคนไม่เข้าใจกันเสียที

นอกจากนั้น ยังมีปมที่พระเอกคิดว่านางเอกนอกใจรัชภูมิจนท้อง และพอนางเอกรู้ว่าสามีเป็นหมันแอนด์เกย์ ก็ต้องหาอีกว่าใครคือชายในผ้าห่มคนนั้น วุ่นดีแท้}

... อ่านไปก็ลุ้นไปว่าจะคลี่คลายยังไง แอบหมายเหตุเรื่องนี้ไว้ว่าเป็นแนว "พระเอกชอบคนท้อง" (ได้ยังไงฟะ)
แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 22:46:52

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 03:52:02

ความคิดเห็นที่ 189

ลืมปก แหะแหะ

สวัสดีพี่น้องทุกคนค่ะ ไว้พรุ่งนี้หรือมะรืนค่อยมาคุยกัน
ง่วงสุดๆ แล้ว

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 03:54:04

ความคิดเห็นที่ 190

-- ส่งซ้ำ --

แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 52 22:27:51
แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 04:00:38

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 03:58:13

ความคิดเห็นที่ 191

^
^
^
ยาคูลท์..บาปรักสีมพู
ไม่อยากบอก กลัวคุณว่าแปลก
แต่อ่านพล็อตแล้วชอบอ่ะ แปลกดี
ถึงพล็อตย่อยจะดูเหลือเชื่อ คือไม่น่าเป็นไปได้
แต่ก็ดูน่าเป็นไปได้แฮะ..สำหรับการกระทำของสามีนางเอก

จากคุณ : nikanda

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 05:09:58

ความคิดเห็นที่ 192

อรุณสวัสดิ์....
ชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมง...ก็มีหนังสือน่าอ่านเพิ่มขึ้นอีก
เล่ม "รู้ก่อนตายฯ" ที่คุณปิยะรักษ์นำเสนอ ..น่าสนใจดีแท้ คงต้องซื้อหามาอ่านโดยไว
แนวเดินเที่ยว ที่คุณยาคูลท์แนะนำ เราก็ชอบนะ..ซื้อไว้หลายเล่มเลยล่ะ ประมาณว่าพกพาไปเดินเที่ยวก็สะดวก
อ่านเอาเรื่อง..ก็ได้เรื่องแบบรู้เรื่องไว้คุยต่อได้ ไม่ต้องลงลึกในรายละเอียดมากนัก
ที่สำคัญ คือภาพสวย น่าสะสม..^^

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 07:22:15

ความคิดเห็นที่ 193

เห็นด้วยกับท่านอื่นๆว่าผู้ดูแลรอบนี้น่าสงสารมากมาย กระนั้นข้าน้อยก็ต้องขออภัยเพราะมาปล่อยของต่อเช่นกัน เอิ๊ก! ฮ่าฮ่าฮ่า

คุณปิยะรักษ์ --- เคยได้ยินเรื่องมิลินทปัญหามามากแต่ยังไม่เคยหยิบอ่านจริงๆจังๆค่ะ

จริงๆเล่มนี้เป็นเล่มตอนที่สาวกเป็นผู้ตอบแล้ว ที่บ้านมีเล่มที่รวมพุทธวัจนะเอาไว้ มีบทที่เป็นถามตอบเหมือนกัน ความลึกซึ้งของคำตอบนั่นถ้าพระยามิลินท์เจอเข้าคงหน้าหงายยิ่งกว่านี้อีกละมั้ง

คุณยาคูลท์ --- ยังไม่เคยอ่านเรื่อง "บาปรักสีชมพู" แต่เข้าใจว่าโรแม็งค์หรือเปล่าคะ พล็อตเรื่องประหลาดได้อย่างเหลือเชื่อจริงๆ (แต่คิดว่าคงไม่หยิบอ่านเพราะไม่ใช่สไตล์แต่ที่พูดถึงเพราะแปลกดี)

=============================================

5-7.[อมราวตี] อ่านจินตนิยาย (นิยายเกี่ยวกับโลกสมมุติ) เช่น นิยายวิทยาศาสตร์ แฟนตาซี

ข้อนี้ไม่แน่ใจมากมายว่าจะใช้ตอบโจทย์ข้อนี้ได้หรือไม่ จะกำลังภายในก็ไม่เชิง จะบอกว่ามีอยู่จริงในปัจจุบันหรือไม่ก็ไม่ใช่ มันอยู่ในโลกสมมติแน่นอน ก็เลยเอามาใช้ตอบโจทย์ข้อนี้

ตำรับรักมัดหัวใจ
โดย : เฉียนเฉ่าโม่ลี่
แปลโดย : มดแดง

คำโปรย

ทุกผู้คนล้วนรู้ดีว่าบุคคลซึ่งมีอำนาจสูงสุดของอาณาจักรจินหลิงอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรนั้นหาใช่จักรพรรดิไม่ แต่เป็นจูจั้นจี๋ผู้ดำรงตำแหน่งอ๋องเหอกงต่างหาก ความโหดร้ายเย็นชา อีกทั้งอารมณ์ขึ้นลงไม่แน่นอนของเขาเป็นที่หวั่นเกรงของใครๆ เพียงกระทบถูกชายผ้าเขาก็มีสิทธิ์หัวหลุดจากบ่าได้โดยง่าย

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องพิสดารพันลึกเมื่อหญิงสาวสามัญอย่างอี้เหลี่ยงเอาน้ำสาดใส่เกี้ยวหามของเขาแล้วยังรอดชีวิตมาต่อปากต่อคำกับเขาได้ ด้วยติดใจในความไม่รู้อีโหน่อีเหน่นั่น จูจั้นจี๋จึงแต่งตั้งเธอเป็น ‘ของเล่น’ ชิ้นโปรด แล้วพามาไว้ที่ตำหนักเพื่อให้หยิบเล่นได้สะดวก

ทว่าของเล่นชิ้นนี้จำกัดการใช้ไว้เพียงสองปี เพราะหลังจากนั้นเธอต้องกลับบ้านเกิดเพื่อแต่งงาน แต่มีหรือจูจั้นจี๋เมื่อยึดถือสิ่งใดเป็นสมบัติส่วนตัวแล้วจะยอมปล่อยมือ คิดหนีไปจากการครอบครองของเขาน่ะไม่มีวันสำเร็จหรอก!

ความรู้สึกหลังอ่าน

เป็นเรื่องที่ชอบพอสมควรนะ คือเป็นเรื่องที่อ่านได้เพลินดี ตัวพล็อตไม่ซับซ้อน อ่านดูก็รู้ว่าเรื่องจะลงเอยยังไง มีส่วนที่ไม่สำคัญกับในเรื่องเลยแต่เข้าใจว่าเป็นเซอร์วิสให้คนอ่าน การขึ้นลงของเหตุการณ์ก็มีแปลกๆไปบ้างแต่เพราะมีจุดที่ชอบจุดใหญ่อยู่ แล้วมันกระจายให้เห็นตลอดเรื่องก็เลยเมินๆไปเสียก็อ่านได้สนุกดี

จุดที่ชอบเห็นจะเป็นนางเอก คือในขณะที่พระเอกน่ารำคาญมาก (ก็เป็นแบบคำโปรยแหละ แต่ก็ต้องขอชมว่าคนเขียนสามารถสร้างให้เขาดูฉลาดได้แบบคนอ่านเชื่อจริงๆ และขอแอบกัดนิยายบางเรื่องที่อ่านแล้วคนเขียนพยายามบ๊อกบอกว่าพระเอกฉลาดแต่คนอ่านไม่ยักรู้สึก) ตัวนางเอกกลับเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากกว่า คือเธอเป็นคนเพียรกับอุตสาหะมากๆ ไม่ใช่ผู้หญิงงอมืองอเท้าเป็นนางเอกที่มัวแต่ฝันหวานแล้วไม่ทำอะไร

โดยส่วนตัวชอบเรื่องที่ตัวละครมีมานะ สิ่งที่คว้ามาได้สมกับความพยายามจริงๆไม่ใช่อยู่เฉยๆแล้วก็ประสบความสำเร็จได้ (ที่จริงจุดนี้พระเอกก็เลยชอบนางเอกซึ่งคนอ่านก็ชอบนางเอกเหมือนกันที่เป็นคนแบบนี้)

ไม่อยากใช้คำว่า "แนะนำให้อ่าน" เพราะนี่เป็นความชอบส่วนตัวที่หนิงๆทำเมินๆส่วนที่บกพร่องไป แต่กับคนอ่านบางท่านอาจไม่เมินแล้วเดี๋ยวจะมาบ่นเอาได้ว่าแนะนำเรื่องนี้ได้อย่างไร

เอาเป็นว่านานาจิตตังละกันนะ
แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 09:41:28
แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 09:28:04

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 09:26:49

ความคิดเห็นที่ 194

ชุดเคหาสน์ฯ ของคุณยาคูลท์ กับรู้ก่อนตายฯ ของคุณปิยะรักษ์น่าสนใจทั้งคู่เลยค่ะ

ชุดเคหาสน์ฯ ยังออกไม่ครบเหรอ งั้นเอาไว้ก่อนดีกว่า ฮ่าฮ่าฮ่า

เพราะแค่นี้ก็มีหลายเล่มที่ต้องตามทั้งที่ยังไม่จบเยอะพอแล้ว แหะๆ

มาปักหมุดและทักทายทุกท่านนะคะ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 10:38:19

ความคิดเห็นที่ 195

กรี๊ด คุณแจงคะ ใจตรงกันเลยค่ะ เรื่องบาปรักสีชมพู หมูอ่านรีวิวแล้วก็ชอบเหมือนกัน (เอ๊ะ หรือว่าเราเป็นพวกชอบของแปลก)

คุณ ยาคูลท์ เห็นมั้ยคะ หมูบอกแล้วว่าชุดแวมไพร์นี้ให้รอออกมาจบก่อน ไม่งั้นอ่านแล้วต้องลงแดงแน่เลย ขอบคุณที่คุณยาคูลท์ช่วยพิสูจน์ทฤษฎีนี้ของหมู (โชคดีจัง ยังไม่ได้ซื้อ รอดไป อิอิ)

คุณ หนิงๆ เรื่องตำรับรักมัดหัวใจนี้น่าสนใจเหมือนกันค่ะ เห็นหลายคนแนะนำมา (รอเจอลด 50%)

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 12:21:52

ความคิดเห็นที่ 196

มาร่วมเล่นด้วยคนนะคะ เพิ่งเคยผ่านมา ไม่รู้จะเล่นถูกรึปล่าว ถ้าผิดพลาด ขอโทษด้วยนะคะ ตามเก็บกระทู้เก่าๆไม่ไหม วันเยอะเกินไป ^_^

30-3.[ยาคูลท์] อ่านหนังสือ 1 เล่ม ที่มีเค้าโครงเรื่องหรือแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

เรื่อง คลื่นลวง
ผู้เขียน กิ่งฉัตรค่ะ
สำนักพิมพ์ อรุณ ในเครือ อมรินทร์ค่ะ
มี 495 หน้า

เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับ สึนามิ คือสึนามีทำให้คนส่วนใหญ่ตาย
แต่ทำให้พระเอกรอดจากเหตุการณ์โจรปล้นเรือ
พระเอกไปติดเกาะ นางเอกก็ช่วยชีวิตเอาไว้ พระเอกก็หลงรัก
สุดท้ายพระเอกก็ต้องกลับไปที่บ้านเพื่อสืบหาคนที่มาฆ่าตัวเอง
ก็รู้ว่ามีเมียของตัวเองเป็นคนวางแผน กับใครอีกคนหนึ่ง

เรื่องนี้ความรู้สึกที่อ่านตอนแรกคือ ไม่ชอบ
นางเอกดูโง่ๆ ติ๊มๆ ยังไงไม่รู้
แต่พออ่านอีกที ชักชอบแหะ นางเอกฉลาดมาก
โดยเฉพาะฉากตอนใกล้จบ อ่านแล้วแบบว่า
นางเอกคิดได้ไงอ่ะ อยากเก่งแบบนี้บ้าง

จากคุณ : บานาน่าทุตตี้ฟรุตตี้

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 12:54:34

ความคิดเห็นที่ 197

วันนี้ขอโพสไปเรื่อยๆนะคะ เยอะหน่อย แต่คงไม่ได้มาเล่นอีกนานนน

15-11.[ยาคูลท์]อ่านหนังสือ 2 เล่มที่คำสุดท้ายเล่มหนึ่งคล้องจองกับคำแรกของอีกเล่ม

สูตรเสน่หา มายาตวัน

เรื่องแรก สูตรเสน่หา
ผู้เขียน กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ แห่งเครือ อมรินทร์
หน้า 400++

เป็นเรื่องของดาราสาว แสนสวยที่ชื่ออลิน
เนื่องจากไปหลงรักเจ้าของรายงานทำอาหาร เธอเลยต้องพยายามเป็นพิธีกรรายการนี้ให้ได้ ซึ่งหน้าที่ของพิธีกรต้องทำอาหารด้วย
เธอจึงได้เรียนทำอาหารกับพสุ หรือ ดินนั่นเอง

ปกหลัง คุณรักเขา เพราะเขาสมบูรณ์แบบ หรือ เพราะคุณรักเขา เขาถึงสมบูรณ์แบบ

เรื่องนี้คงคุ้นหูคุ้นตากันดีเพราะเพิ่งทำเป็นละคร อ่านแล้ว ชอบมากๆ ชอบอลินและคุณป้าองค์สาม เป็นเรื่องเดียวของกิ่งฉัตรที่ทำเป็นละครแล้วเราดู เพราะพระเอกหล่อ(เริ่มออกทะเลแล้ว)

----------------------------------

มายาตวัน
คนแต่ง กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ
หน้า 200++

มัทนา นักข่าวสาว ต้องไปสืบหาประวัติของ หนุ่มหล่อ ที่ผันตัวจากพระเอกหนุ่ม มาเป็นเจ้าของร้านเสื้อ
การเดินทางไปภูเก็ตครั้งนี้ นอกจากจะได้ข่าวตามต้องการที่ได้มาอย่างไม่ง่ายเลย เพราะนอกจากจะต้องสืบให้รู้เรื่องแล้ว ยังต้องทำลาย มายา ของ ตวัน ลงอีกด้วย

เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย ที่เราอ่านของกิ่งฉัตร แล้วก็ทำให้เราได้เข้ามาสู่โลกของ นิยาย
ชอบนะ มัทนา น่ารักดี เรื่องนี้อ่านจนจะจำได้ทุกบรรทัดอยู่แล้ว ^_^
แนะนำ แอบโฆษณา นิยาย กิ่งฉัตร สนุกทุกเรื่อง....

จากคุณ : บานาน่าทุตตี้ฟรุตตี้

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 13:20:44

ความคิดเห็นที่ 198

15-2.[Clear Ice + January Friend + นัทธ์] หนังสืออัตชีวประวัติ (autobiography คือ หนังสือที่บุคคลนั้นเขียนเล่าประวัติของตัวเอง) หรือเป็นหนังสือชีวประวัติ (biography) ที่ผู้อื่นเขียนก็ได้

เรื่อง ชีวิตเหมือนฝัน
ของ คุณหญิงมณี สิริวรสาร
แห่ง แพรวสำนักพิมพ์
มี 750++ หน้า

เป็นเรื่องราวที่เธอเล่าถึงชีวิตของเธอ ตั้งแต่สมัยยังเล้ก เธอมีเชื้อเจ้า แม่เป็นแหม่ม ตอนเล็กๆก็เรียนหนังสือที่ไทย เข้าใจว่าแล้วค่อยไปเรียนที่ต่างประเทศ
มี สามี 3 คน คนแรกอายุสั้น คนที่ 2 ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่ว่นคนสุดท้ายเป็นหมอหรืออะไร ทำนองนี้แหละค่ะ

อ่านแล้ว ก็เฉยๆนะ ไม่ได้สนุกมาก และไม่ได้เป็นคนซื้อด้วย พอดีมันอยู่ที่บ้านมานาน ก็เลยหยิบมาอ่านเล่น
แต่อ่านแล้วก็รู้เรื่อง ประวัติศาสตร์มากขึ้น เพราะกล่าวถึง สงครามโลกครั้งที่ 1 เศรษฐกิจตกต่ำ แล้วก็มีพูดถึง ร.7 ด้วย เพราะสามีคนแรกเขาเป็นคนสนิทของพระองค์

จากคุณ : บานาน่าทุตตี้ฟรุตตี้

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 13:37:22

ความคิดเห็นที่ 199

วันนี้ว่าง โพสไป แก้เซ้ง

10-10.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือ 2 เล่ม 2 ประเภท จาก 2 สำนักพิมพ์

เล่มแรก ลอนดอนไดอารี่ 1.1
สำนักพิมพ์ a book
ผู้เขียน นิ้วกลม
หน้า 100+
แนว อันนี้สิ ปัญหา วรรณกรรมเดินทางแล้วกัน

เป็นเรื่องของ บันทึก ของพี่เอ๋ นิ้วกลมที่เดินทางไป อังกฤษ พี่เอ๋ก็บันทุกไปเรื่อยๆ ให้ข้อคิดเยอะ บางอย่างก็เอามาเป็นหลักในการใช้ชีวิตของเราได้เหมือนกัน

อ่านแล้ว ชอบมากๆๆ เป็นเล่มแรกที่ทำให้เรารู้จักสำนักพิมพ์ a book เลยติดนักเขียนอีกหลายๆคนของสำนักพิมพ์นี้

----------------------------------

อีกเรื่อง วิมานทราย
ผู้แต่ง จามรี พรรณชมพู
สำนักพิมพ์ หรรษา
หน้า 200++

เรื่องย่อเรื่องนี้ บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน แต่ว่าชอบมากๆนะคะ มันเป็นแนวอีกแนวหนึ่งที่แปลกจากที่เคยอ่านออกไป เมื่อก่อนจะเป็นพวกรักหวานแหวว ไม่ได้ ดิบ เถื่อน 55+
หนังสือก็ปกเก่าๆ เมื่อก่อนเคยเห็นผ่านตาก็ไม่สนใจ ไม่เคยคิดจะอ่านหนังสือรุ่นอย่างนี้
แต่พอเปิดอ่านแล้วเนื้อหาติดใจ แม้ภาษาจะเก่าไปบ้างก็ตาม

จากคุณ : บานาน่าทุตตี้ฟรุตตี้

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 13:52:20

ความคิดเห็นที่ 200

ยินดีต้อนรับผู้เล่นใหม่ คุณ sugarsweet, ใต้เงาหน้าต่าง, คนชอบเขียน และคุณบานาน่าทุตตี้ฟรุตตี้ค่ะ
ผู้ดูแลเจอปล่อยของอีกแล้ว 555

เห็นด้วยกับคุณหนิงๆ เต็มที่ว่า Flying Hearts เพลย์เซฟไปหน่อย มันเลยไม่ดีไม่ร้าย ไม่ทิ้งอะไรไว้เท่าไหร่
ส่วนเล่มเอดส์...ไว้ไปแอบอ่านในร้านดีกว่า บางที เราก็ชอบแนวของ Anit นะ แต่อ่านบ่อยเท่า JLS ไม่ไหว
และ "บาปรักสีชมพู" เป็นโรแม้งแม่นแหล่ว เราจัดเป็นแนวอ่านคลายเครียด หรือบางทีก็อ่านดูสำนวน สนุกดีนะ

น้องไอซ์ ชุด Percy Jackson จำได้ว่าน้องทินาเคยบอกว่ามีคนแปลแล้วนะ (ไม่รู้ค่ายไหนได้ไป)
แต่ทำไมไม่พิมพ์ออกมาก็ไม่รู้ คงต้องรอเจ้าตัวกลับมาแล้วถามอีกที

แหะแหะ เพิ่งซื้อ "แสนรักแสนแค้น" มาเมื่อซีซั่นก่อนค่ะ คุณแม่ไก่ ว่าจะเริ่มเก็บงานของศรีบูรพา
แต่เผลออ่านสปอยล์ไปหมดแล้ว T_T (สงสัยจะเป็นกรรมตามสนองจากที่เคยสปอยล์เรื่องหนึ่งกับน้องไอซ์)

คุณแม่เรไร เราว่า "ศิวา-ราตรี" เป็นงานระดับขึ้นหิ้งอีกชิ้นของลุงพนมเทียนค่ะ
อยากให้มีคนทำเป็นหนังหรือละครบ้างจังเลย แต่งานของท่านแต่ละชิ้นเนี่ย..อลังการเกิ๊น สร้างยาก

น้องพลุ ถ้าเดินตามร้านมือสอง บางทีอาจเจอ "ดินแดนหลับสบาย" ก็ได้นะ
พี่ก็ได้จากร้านมือสองนี่แหละ ตอนแรกไม่สน พอดีเหลือบมองชื่อคนแต่งแล้ว..เฮ้ย พลาดได้ไง คว้าทันที

คุณ sweetsugar เอา "มายาตวัน" มาทำข้อ Casting ตัวละครก็ได้นะ

เห็นคุณอ้อนรีวิว "อัญมณีแห่งชีวิต" แล้วนึกได้ว่าลืมหามาอ่านทุกที ไว้ต้องแวะเปิดดูเสียหน่อย

น้องส้ม เดี๋ยวค่อยย้อนมาอ่านรีวิว "รู้ก่อนตายฯ" อีกทีนะ อ่านแล้วเหมือนสมองลัดวงจรอ่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งร้อนรุ่ม ดีเอ็นเอพี่มีไว้สำหรับเรื่องทางโลกย์เท่านั้น 555
(เป็นคนที่พบว่า มิลินทปัญญา อ่านแล้วเหมือนซัดยานอนหลับ น่าจะมีเวอร์ชั่นภาษายุคใหม่บ้างนะ)

คุณแจง ไม่แปลกหรอกค่ะ เราว่าเราก็ค่อนข้างชอบเล่มนี้นะ ภาษายังไม่โดน แต่พล็อตแปลกโดนใจเลย

คุณหนิงๆ อีกรอบ ... "ตำรับรักฯ" เป็นชุดมากกว่ารักของแจ่มใส ทุกเล่มจะมีเซอร์วิสแบบนี้แหละค่ะ
ถ้าชินแล้วจะรู้เอง(ว่าแนวนี้ต้องมองข้ามไปบ้าง ฮา) อย่างเรา ถ้าจะชอบเล่มไหนก็ดูนิสัยนางเอกเหมือนกัน
เล่มนี้เป็นอีกเล่มที่จัดว่าชอบ เพราะไม่เพ้อฝันเกิน แล้วนางเอกก็ขยันทำมาหากิน รักครอบครัว น่าเชียร์ดี

T^T โดนคุณสาวไกด์ กับคุณหมูย้อมสีเยาะเย้ย ฮือ วันหลังไม่หยิบซีรี่ส์ที่ยังไม่เห็นแววจบมาอ่านแล้ว
(แต่ถ้าใครมาบ่นว่าตามซื้อไม่ไหวเพราะมีหลายเล่มหรือของหมด เค้าจะหัวเราะเยาะกลับ อิอิ)

เดี๋ยวคืนนี้หรือพรุ่งนี้ค่อยมาปล่อยของอีกรอบค่ะ แบบว่า..ขี้เกียจเขียนรีวิว มีเล่ม e ต้องมานั่งย่อเรื่องด้วย หง่ะ

แอบสงสัยว่าคุณหนิง-ปลายทางฯ หายไปไหนเอ่ย? ยู้ฮู~

จากคุณ : ยาคูลท์

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 15:00:45

ความคิดเห็นที่ 201

ปล่อยกันมาเรยยย ปล่อยกันเข้าม๊าาาาา เราสู้ ก้าก

พี่ติ่ม หนิงไปย่ำหิมะที่อังกฤษค่า เดือนนี้เลยออมมือให้ แต่อย่าเผลอ เดือนหน้า เธอมาแร๊งงแน่ ว่าแต่เล่มบาปรักสีชมพู (ที่พล็อตอ่านแล้วให้ความรู้สึกตุ่ยๆพิกล ก้าก แต่ก็ดีนะพี่ แนวดี) พี่จะลงโจทย์ข้อไหนคะ พัทยังไม่ได้ลงคะแนนให้เน้อ

ปักหมุดว่าลงคะแนนถึง คห 199 ค่ะ จะแตกทู้แล้วด้วย รอสักครู่

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 16:26:06

ความคิดเห็นที่ 202

อ้าว จะแตกทู้เหรอคะ กำลังจะรีวิวพอดีเลย เพิ่งทำเสร็จ งั้นรอขึ้นทู้ใหม่ดีกว่า (แต่น่าจะแตกปีหน้า ขึ้นรอบใหม่ไปเลยนะคะ)

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 16:30:10

ความคิดเห็นที่ 203

~***~ เหมันต์ขยันอ่าน ~ Winter Wonder Read : WWR ยกที่ 7 สวัสดีปีใหม่แล้ว ~***~
ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K8713376

จากคุณ : Il Maze

เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 16:33:13

ความคิดเห็นที่ 204

คุณสาวไกด์

แต่งพี่สาวเป็นภรรยา หมายถึงผู้หญิงที่อายุมากกว่าครับ คนจีนชอบเรียกความรักแบบนี้ว่า "ความรักของพี่ (สาว) กับ น้อง (ชาย)" ครับ (姐弟戀) คำประเภทนี้มีพวกอีกคำหนึ่งก็คือ "ความรักของอาจารย์กับศิษย์" (師生戀) แต่อันนี้ คืออาจารย์-ศิษย์ จริงๆ

คุณเจ้าชายกลางสายหมอก

ความเป็นนักสืบสัมผัสที่หกของจาง จวินเจี้ยน เกิดขึ้นในเล่มก่อนหน้านี้สองเล่มครับ

(จะยังมีใครมาอ่านไหมอ่า)
"คำสาปประตูปิศาจ" กับ "อุโมงค์มรณะ"
เล่มนี้ (ฆาตกรรมอินเทอร์เน็ต) เป็นเล่มที่สามในซีรีส์ครับ

จากคุณ : beer87

เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 22:19:56

ความคิดเห็นที่ 205

อ้าวเหรอคับขอบคุณคุณเบียร์ด้วยนะครับ
รู้สึกพลุจะมี คำสาปประตูปิศาจอยู่ แต่อุโมงค์มรณะเนี่ยยังไม่มี
ไว้จะไปหามาอ่านดูนะครับ

จากคุณ : เจ้าชายกลางสายหมอก (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 02:43:05

[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่]

[กติกามารยาท] [Help & FAQ]