PANTIP.COM : K9319578 ### cccc( >''< ) HHR 10 # ประกาศผลแชมป์เดือนสอง เริ่มต้นนั้บถอยหลังสู่เดือนสุดท้าย #{แตกประเด็นจาก K9278828} [หนังสือแนะนำ]

### cccc( >''< ) HHR 10 # ประกาศผลแชมป์เดือนสอง เริ่มต้นนั้บถอยหลังสู่เดือนสุดท้าย #{แตกประเด็นจาก K9278828}

กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก K9278828

5 คะแนน

5-1. [กุลธิดา] Seasons in the Sun : ช่วงเดือนมีนาคม - มิถุนายน เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน อ่านหนังสือที่ชื่อเรื่องมีคำว่าใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ผลิ วสันต์ spring ร้อน ฤดูร้อน คิมหันต์ หรือ summer
5-2. [Clear Ice ] ปีนี้บอลโลกจัดที่อัฟริกาใต้ : อ่านหนังสือเกี่ยวกับกีฬา มีกีฬาเป็นธีมหลัก ตัวเอกเป็นนักกีฬา หรือ หนังสือที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในทวีปอัฟริกา
5-3. [ColdOut- piccy] ท่องเที่ยวไทย: อ่านหนังสือเกี่ยวกับหรือมีฉากเป็นทะเล หรือสถานที่ท่อง เที่ยวหน้าร้อนในประเทศไทย
5-4. [แม่ไก่] วันครอบครัว : อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่น หรือเกี่ยวกับความ รักความผูกพันของคนในครอบครัว
5-5. [ปิยะรักษ์] ธรรมะดับร้อน : อ่านหนังสือธรรมะ 1 เล่ม เกี่ยวกับการเจริญสติ หรือแนะแนวทางใน การใช้ชีวิตให้มีความสุข
5-6. [PToNZ_PRiNZz] อ่านหนังสือที่ได้มาฟรี ไม่ว่าจะได้มาจากการแถม ชิงรางวัลหรือเพื่อนให้มา เน้นหนังสือที่ได้มาโดยการไม่เสียเงิน
5-7. [PToNZ_PRiNZz] อ่านแบบสบายๆ อ่านหนังสือที่เข้าข่าย "เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย" อ่านได้ทุกประเภท ถ้าหากเป็นนิยายขอเป็นเรื่องที่ไม่มีตัวร้ายหรือตัวอิจฉาคอยกรี๊ดปรี๊ดแตก ทำนองใสๆพ่อแง่ :-)อนกันไปสุดท้ายก็ลงเอยด้วยดี เป็นต้น (ประมาณว่าอ่านแล้วสามารถทำให้อมยิ้มได้-คลายเครียดช่วงหน้าร้อนทั้งสภาพ อากาศและสภาพบ้านเมืองที่ร้อนระอุ)
5-8.[ColdOut] อ่านนิยายปกดารา อย่างน้อย 2 เล่ม หรือมากกว่า ให้จำนวนหน้ารวมกัน 100++ หน้า
5-9. [LMJ] เอารายชื่อหนังสือกองดองสิบชื่อมาจับฉลาก แล้วอ่านที่จับได้ บอกชื่อหนังสือทั้ง 10 เล่มที่นำมาจับด้วย
5-10. [Clear Ice – ปิยะรักษ์ - ทินา] อ่านหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดาราศาสตร์ หรือมีชื่อเป็นชื่อดาวในระบบสุริยะ เช่น อาทิตย์ จันทร์ ดาวศุกร์ หรือเทหวัตถุ เช่น ดาวหาง อุกกาบาต ก็ได้
5-11. [Clear Ice] วรรณกรรมรำลึก: อ่านหนังสือที่ผู้เขียนหรือผู้แปลเสียชีวิตไปแล้ว ให้บอกด้วยว่าเสียชีวิตไปเมื่อไหร่
5-12. [นัทธ์+PToNZ_PRiNZz] อ่านหนังสือที่สมาชิก bloggang หรือ ล็อกอินในพันทิป เขียนหรือแปล เช่น ผลงานของ Clear Ice, ลมตะวัน, ฟองคลื่น คืนจันทร์ พันดาว เป็นต้น
5-13. [Friday Story] ปีขาล: อ่านหนังสือที่มีคำว่า 'เสือ' 'พยัคฆ์' 'tiger' หรือที่แปลไปในทางเดียวกันอยู่ในชื่อเรื่องหรือเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ เสือ (จะเป็น fiction, non-fiction หรือ manga ก็ได้)
5-14. [สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือที่ชื่อหนังสือ หรือชื่อผู้เขียนมีตัวอักษรขึ้นต้นเหมือนกับตัวอักษรขึ้นต้นล็อกอินของผู้ ร่วมเล่นเกมที่เกิดในเดือน เมษายน พฤษภา และมิถุนายน เช่น ล็อกอิน สาวไกด์ใจซื่อ กับ หนังสือเรื่อง สามทหารเสือ เป็นต้น [ ชื่อหนังสือหรือชื่อนักเขียนที่ขึ้นต้นด้วย C , I , K , ท , ฟ , ส , ห ]
5-15. [Friday Story] อ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่ตัวเอกเป็นเจ้าของร้าน หรือทำงานในร้านกาแฟ หรือร้านเบเกอรี่ หรือร้านไอศกรีม (ประเภทหวานๆ เย็นๆ ได้หมด เอามาลดความร้อนกันหน่อย ^^)

10 คะแนน

10-1. [นัทธ์] อ่านหนังสือที่อักษรตัวแรกของนามปากกาหรือชื่อจริงของนักเขียน ตรงกับอักษรตัวแรกของชื่อจริงของตัวเอง ให้บอกชื่อจริงของตัวเองด้วย
10-2. [Clear Ice] Debut book: อ่านหนังสือซึ่งเป็นผลงานเล่มแรกของผู้เขียน ข้อมูลตรงนี้สามารถหาได้จากประวัตินักเขียน หรือใช้ search engine ต่างๆ เช่น google ค่ะ
10-3. [Clear Ice - หมูย้อมสี] หนังสือที่มีชื่อเป็น "ตัวเลข”: อ่านหนังสือที่มีตัวเลขอยู่ในชื่อเรื่อง เช่น 824, one for money (ชุดวีรกรรมทำเพื่อเงิน) แต่ถ้าเป็นชื่อตอนหรือชื่อภาคเฉย ๆ เช่น ตอนที่ 2, ภาค 2 ไม่ได้
10-4. [nikanda + PToNZ_PRiNZz] ตัวละครหรือฉากในดวงใจ: อ่านหนังสือที่มีตัวละครที่ชื่นชอบจะเป็นตัวเอก ตัวประกอบ หรือ ใครก็แล้วแต่หรือฉากไหนก็ได้ ที่ตรึงความรู้สึกได้ดี รีวิวหนังสือและ ความคิดเห็น ความรู้สึกที่มีต่อตัวละครคนพิเศษว่า ชอบเขาหรือเธอเพราะอะไร
10-5. [ยาคูลท์ - นัทธ์- Clear Ice] 26 มิถุนายน วันสุนทรภู่: อ่านหนังสือเกี่ยวกับสุนทรภู่ เช่น ประวัติสุนทรภู่ วรรณคดีสุนทรภู่ หรืออ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดีไทย หรือวรรณคดีพื้นบ้านของไทย เช่น ปลาบู่ทอง
10-6. [Clear Ice] อ่านหนังสือที่มีเรื่องราวหลักเกิดขึ้นในเรื่องอย่างน้อยใน 2 ประเทศ
10-7. [นัทธ์] วันแรงงาน 1 พฤษภาคม: อ่านหนังสือเกี่ยวกับแรงงาน ถ้าเป็นนิยาย ก็ให้ตัวเอกเป็นชนชั้นกรรมกร แรงงาน
10-8. [II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน จะเป็นนักแสดง นาย แบบนางแบบ หรือจะเกณฑ์คนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือตัวเองมาแสดงก็ได้ ถ้าไม่เป็นที่รู้จักให้เอารูปมาให้ดูด้วย
10-9. [ปลายทางของสายรุ้ง] อ่านหนังสือที่ตัวเอกไม่ถูกกัน เป็นศัตรูกันมาก่อน หรือ อ่านหนังสือที่มีเนื้อ เรื่องเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาการเงิน การลงทุนผิดพลาด เป็นต้น
10-10. [PToNZ_PRiNZz] หนังสือซ้อนหนังสือ: อ่านหนังสือที่กล่าวถึงหนังสือเรื่องอื่น ๆ จะเป็นหนังสือที่สมมุติเอาเองในเรื่อง เช่น นิยายที่ตัวละครในเรื่องหยิบมาอ่านแล้วทะลุมิติเข้าไปในหนังสือ หรือภายในเนื้อเรื่องกล่าวอ้างถึงหนังสือที่มีอยู่จริง ๆ จะเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง เล่มใด หรือหลายเล่มก็ได้ โดยหนังสือที่ถูกเอ่ยถึงจะต้องมีบทบาทสำคัญกับเรื่อง ไม่ใช่แค่หยิบมาอ่านนิดเดียว หรือถูกพูดถึงโดยไม่มีผลต่อการดำเนินเรื่อง
10-11. [Clear Ice] อ่านหนังสือที่จบแบบโศกนาฏกรรม ตัวเอกของเรื่องตายตอนจบ จบไม่สมหวัง หรือจบเศร้า
10-12. [Clear Ice] อ่าน หนังสือที่มี "ชื่อตัวละคร" อยู่ในชื่อเรื่อง เช่น Ali and Nino / Hannibal / ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด / เรื่องของ จัน ดารา
10-13. [ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือประเภทไหนก็ได้ที่นำเสนอปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน เช่น เด็กเร่ร่อน แรงงานเด็ก การตั้งครรภ์ก่อนวันอันควร เป็นต้น
10-14. [ปิยะรักษ์] อ่านหนังสือที่ตัวเอกของเรื่องมีอายุเกิน 40 ปี (ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอก นางเอกก็ได้ แต่ต้องมีบทบาทโดดเด่นในเรื่อง)
10-15. [ปลายทางของสายรุ้ง] หนังสือแนวกินเด็ก, กินหญ้าอ่อน (กินหญ้าเฉย ๆ ไม่เอา): ให้อ่านหนังสือที่พระนางมีอายุห่างกัน

15 คะแนน

15-1. [สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 2 เล่มของนักเขียนต่างเพศกัน (ยึดเพศสภาพเป็นหลัก) โดยชื่อ (หรือนามปากกา) ของนักเขียนต่างเพศนั้น ต้องขึ้นด้วยพยัญชนะเดียวกัน เช่น วินทร์ กับ ว.วินิจฉัยกุล เป็นต้น โดยหนังสือทั้งสองเล่ม ต้องหนามากกว่า 100 หน้าขึ้นไป
15-2. [หมูย้อมสี] อ่านหนังสือ 2 เล่ม ที่คำในชื่อเรื่องเป็นคำที่มีความหมายเดียวกันหรือสื่อได้ในความหมายเดียว กัน แต่ไม่ใช่คำที่เหมือนกัน เช่น The Eight + แปดเทพอสูรมังกรฟ้า, ดั่งดวงหฤทัย + ดวงตาในดวงใจ เป็นต้น
15-3. [สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือที่มีผู้เขียนร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป (ประเภทรวมเรื่องสั้นของหลายๆ คนไม่นับ) เช่น งานที่วินทร์เขียนร่วมกับปราบดา / ชุดของแจ่มใสวาเลนไทน์ / ต้นไม้ใต้โลกของสามหนุ่ม - นิ้วกลม ทรงกลด ทรงศีล / ระยะทางอันห่างใกล้ – นิ้วกลมกับพิมปาย
15-4. [ฟองคลื่น คืนจันทร์ พันดาว] อ่านหนังสือที่ตัวเอกของหนังสือมีอุปนิสัยที่ "แปลก" โดยต้อง "แปลก" แบบเป็นรูปธรรม เช่น มีนิสัยติดตัวแปลก ๆ มีงานอดิเรกแปลก ๆ หรือมีของสะสมที่แปลกแตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไป (แปลกแบบชีวิตจริงสามัญชนคนธรรมดา)
15-5. [ทินา] เล่าเรื่องเมืองสมมุติ: โจทย์ภาคต่อจากคราวก่อน คราวนี้ให้อ่านหนังสือซึ่งใช้ฉากเป็นเมืองสมมุติในโลกเรา โดยไม่ใช่โลกแฟนตาซี เช่น ปุชิตา หรือธิโมส์ ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าเป็น Middle earth หรือ Pern นี่ไม่นับ
15-6. [นัทธ์] อ่านหนังสือรางวัลต่างประเทศ 2 เรื่อง 2 ประเภท เช่น รางวัลนิยายสืบสวนกับรางวัลวรรณกรรมเยาวชน เป็นต้น
15-7.[Clear Ice] เพชรในตม: หนังสือที่อ่านแล้วคิดว่าดีเลิศหรือปลาบปลื้มมากๆ แต่ไม่เป็นที่รู้จักหรือไม่ค่อยมีคนพูดถึง
15-8. [หมูย้อมสี] อ่านหนังสือที่มีการบรรยายถึงชีวิตตัวเอกตั้งแต่เด็กจนถึงตายหรือถึง ปัจจุบัน
15-9. [ปิยะรักษ์] หลังคาแดง: อ่านหนังสือที่มีตัวเอกหรือตัวละครสำคัญป่วยเป็นโรคจิตเวช หรือมีอาการทางจิต หรือสติไม่สมประกอบ
15-10. [Clear Ice - นัทธ์] หนังสือที่มีชื่อเรื่อง หรือชื่อผู้แต่ง (ชื่อจริงหรือนามปากกา) 6 พยางค์

จากคุณ : PTNCenter

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 00:29:18

ความคิดเห็นที่ 1

20 คะแนน

20-1. [Clear Ice] อ่านนิยายที่มี "บุคคลจริงในประวัติศาสตร์" อยู่ในเนื้อเรื่อง จะเป็นตัวเด่นหรือตัวประกอบก็ได้ ถ้าในเรื่องมีบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์เป็นตัวละครหลายคน ให้เลือกคนที่เด่นที่สุดในเรื่องขึ้นมาตอบโจทย์ โดยเล่าประวัติของบุคคลนั้น และบทบาทของบุคคลนั้นที่มีต่อเรื่องโดยสังเขป
20-2. [หนิงๆ (peiNing) + กุลธิดา] 6 มิถุนายน วัน D-Day (วันยกพลขึ้นบกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง): ให้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับสงคราม หรือ อ่าน
หนังสือเกี่ยวกับการปฏิวัติที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ทั้งไทย ทั้งเทศ (ขอเน้นสภาพสังคม จะเป็นนวนิยาย หรือบันทึกก็ได้ แต่ไม่เอาประเภทวิเคราะห์สาเหตุ หรือมีประเด็นที่ก่อให้เกิดการถกเถียงด้านการเมือง)
20-3. [Clear Ice] อ่านหนังสือ 3 เล่ม 3 แนว: โดยเลือกจากหนังสือแนวแฟนตาซี/sci-fi, สืบสวนสอบสวน, อิงประวัติศาสตร์, โรแมนซ์, รักกุ๊กกิ๊ก, non-fiction
20-4. [piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้
20-5. [นัทธ์ - ฟองคลื่น คืนจันทร์ พันดาว] วันอนุรักษ์มรดกไทย 2 เมษายน: อ่านหนังสือเกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี หรือเทศกาลสำคัญ

25 คะแนน

25-1. [ยาคูลท์] ของนำโชคงานแต่ง - Something Old, Something New, Something Borrowed and Something Blue: อ่านหนังสือ
เก่าที่ซื้อมานานแล้ว (อย่างน้อยหนึ่งปี), หนังสือเพิ่งซื้อภายในหนึ่งเดือน, หนังสือเช่าหรือยืม, และหนังสือที่มีสีน้ำเงินบนปกหรือชื่อเรื่อง
25-2. [ส้มแช่อิ่ม-ยาคูลท์-Clear Ice] โจทย์ "ไตรรงค์ธงไทย": อ่านหนังสือ 3 เล่มที่มีโทนสีปกแดง 1 เล่ม ขาว 1 เล่ม น้ำเงิน 1 เล่ม (ต้องเห็นสีที่ว่าชัดๆ สัก 1x1 นิ้ว หรือเป็นสีพื้นหลังที่เป็นโทนคล้ายกันก็ได้)
25-3. [Clear Ice] อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับ "ภัยพิบัติ" หรือ หนังสือที่ภัยพิบัติส่งผลกระทบต่อแกนหลักของเรื่อง ภัยพิบัตินี้จะเป็นแผ่นดินไหว น้ำท่วม ไฟป่า หรืออะไรก็ได้ที่เกิดจากความรุนแรงตามธรรมชาติ
25-4. [สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 3 เล่ม โดยให้คนอ่านผูกธีมเอาเอง เช่น สามเล่มที่เป็นเรื่องของอาหารเหมือนกัน สามเรื่องที่มีเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเหมือนกัน ฯลฯ
25-5. [อั๊งอังอา] อ่านหนังสืออะไรก็ได้ 1 เล่ม ที่จำนวนหน้า 500+ หน้า ... ทุกส่วนเกิน 100 หน้าบวกโบนัสเพิ่ม 5 คะแนน

30 คะแนน

30-1. [ยาคูลท์] โจทย์บุฟเฟ่ต์: อ่านหนังสือ 4 เล่มในหมวดต่อไปนี้ - นิยายไทย, นิยายแปล, นิยายภาษาต้นฉบับ, รวมเรื่องสั้น, รวมบทความ/สัมภาษณ์, บันทึกการเดินทาง, นิยายภาพ/การ์ตูน (ใช้คำว่า "นิยาย" เพื่อให้เข้าใจ แต่จะเป็นหนังสือวิชาการก็ได้)
30-2. [ยาคูลท์] โอตาคุ: อ่านหนังสือแนวเดียวกันอย่างต่ำ 5 เล่ม (แนวรัก, ลึกลับสืบสวน, แฟนตาซี, วิชาการ ฯลฯ) รวมกัน 1000+ หน้า ถ้าอ่านเกิน 2000 หน้าได้โบนัส 10 คะแนน (โจทย์ข้อนี้ห้ามอ่านการ์ตูนหรือนิยายภาพค่ะ แอบโหดนิดนึง)
30-3. [ทินา+Clear Ice+PToNZ_PRiNZz] นักเขียนโปรดของเพื่อน: อ่านหนังสือ 3 เล่ม 3 นักเขียนโดยเล่มหนึ่งเป็นนักเขียนคนโปรดของตัวเองและอีก 2 เล่มเลือกจากนักเขียนคนโปรดของผู้ร่วมโครงการ (เล่มที่ 4 เป็นต้นไปบวกโบนัสเพิ่มเล่มละ 10 คะแนนข้อแม้ว่าไม่ซ้ำนักเขียน)
รายชื่อนักเขียนคนโปรด

PToNZ_PRiNZz : อาคากาวะ จิโร่
กุลธิดา (kdunagin) : ม. มธุการี (เพชรน้ำค้าง)
ปีศาจความฝัน : จิมมี่ เหลียว
นัทธ์ : ยาขอบ
ยาคูลท์ : ว. วินิจฉัยกุล (แก้วเก้า)
เรียวรุ้ง : ทมยันตี
Clear Ice : James Rollins หรือ James Clemen
แม่ไก่ : สิริมา อภิจาริน
thezircon : โสภาค สุวรรณ
ColdOut : Clear Ice
หมูย้อมสี : ลินน์ เกรแฮม
ทินา : วินทร์ เลียววาริณ
P@ween@ : วรรณวรรธน์
ฟองคลื่น คืนจันทร์ พันดาว : กิ่งฉัตร
Sichon (MiKi) : ซุสุกิ โคจิ
ปลายทางของสายรุ้ง : ลิซ่า เคลย์เพลส
Smooth Night : เปาโล โคเอโย
สาวไกด์ใจซื่อ : พัณณิดา ภูมิวัฒน์ (ลวิตร์)
I_JeejunBo (JeejunBo) : ฮาร์ลาน โคเบน
ปิยะรักษ์ : โรอัลด์ ดาห์ล
Il Maze : ประชาคม ลุนาชัย
Friday Story : ฮิงาชิโนะ เคโงะ
กำจาย : โยสไตน์ กอร์เดอร์
nikanda : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
PinkyPiE : โอตสึจิ อิจิ
เหมือนพระจันทร์ : ดวงตะวัน
เที่ยงวัน : ประภาส ชลศรานนท์

30-4 [Clear Ice] Animal Lover : อ่านหนังสือที่มีชื่อสัตว์อยู่ในชื่อหนังสือจำนวนกี่เล่มก็ได้ ให้มีหน้าเฉพาะ "เนื้อหา" ((คำนำ สารบัญ หน้าโฆษณา ฯลฯ ไม่นับ)) รวมกันแล้วเกิน 1000 หน้า ถ้าอ่านเกิน 2000 หน้าได้โบนัส 10 คะแนน โจทย์ข้อนี้ห้ามอ่านการ์ตูนหรือนิยายภาพนะคะ

ชื่อสัตว์ในที่นี้ จะเป็นสัตว์ที่มีอยู่จริง เช่น แมว ปลา นก ฯลฯ รวมคำที่มีความหมายของชื่อสัตว์เหล่านั้นด้วย เล่น วิฬาร์ มัจฉา สกุณา หรือเป็นสัตว์ในตำนาน เช่น มังกร ฟินิกส์ ฯลฯ นั้นใช้ได้หมด แต่ไม่ให้เป็นสัตว์ที่มีร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นมนุษย์หรือมีอิทธิฤทธิ์แปลงร่างเป็นคนได้ เช่น เงือก สฟิงค์ นาค ครุฑ ฯลฯ

ยกตัวอย่างชื่อหนังสือที่ให้ได้ วัวพันหลักรักพันใจ / นกสีฟ้า / Dragon delivery / Fox Evil เป็นต้น
30-5 Pending...

** ความตั้งใจ **

อยากให้เป็นกระทู้ที่ทุกคนเข้าร่วมได้น่ะคะ คิดว่าน่าจะช่วยให้คนที่อ่านหนังสือเป็นประจำอยู่แล้วมีกิจกรรมเล่นสนุกด้วย กัน ชวนหนอนด้วยกันคุยเล่น ถือโอกาสรื้อกองดองในบ้านมาอ่าน และเผื่อจะกระตุ้นให้คนสนใจอ่านหนังสือหมวดอื่นบ้างด้วย

จุดประสงค์ อีกอย่างคือ กระจายข่าวสารเกี่ยวกับหนังสือ เพราะผู้เข้าร่วมอาจทำรีวิวสั้นๆ เกี่ยวกับเล่มที่อ่าน ดังนั้น บุคคลทั่วไปอาจได้รู้จักหนังสือที่ไม่เคยรู้จัก นี่อาจช่วยในการตัดสินใจซื้อหนังสือได้ด้วย

** กติกา **

* สามารถเข้าร่วมเมื่อไหร่ก็ได้ และจะประกาศรายชื่อก่อนล่วงหน้าหรือไม่ก็ได้
* นับเฉพาะหนังสือที่เริ่มอ่าน ตั้งแต่ 1 เมษายน 2553 - 30 มิถุนายน 2553
* หนังสือที่อ่านเป็นครั้งแรก หรืออ่านซ้ำ ก็ได้ * ประเภทหนังสือ ทุกประเภท จะเป็น E-Book หรือมังงะ(นิยายภาพ หรือการ์ตูน)ก็ได้
* ขอความร่วมมือไม่เอาหนังสือที่ตัวเองตอบในโครงการครั้งที่แล้วมาตอบซ้ำ (ทั้ง RRR และ WWR ส่วนสมาชิกหน้าใหม่อ่านได้หมดค่ะ)
* ในการตอบโจทย์ทุกข้อในซีซั่นนี้ขอให้ระบุจำนวนหน้าด้วยทุกเล่มและทุกครั้ง
* ถ้าไม่ได้ระบุประเภท + จำนวนหน้าของหนังสือ ให้ใช้หนังสือประเภทอะไรก็ได้ จำนวนหน้า 100 +
* เน้นหนังสือภาษาไทย แต่สามารถใช้หนังสือภาษาอื่นๆ ร่วมด้วยได้
* ในกรณีที่อ้างถึงชื่อหนังสือ หรือ ชื่อตัวละคร ให้ดูชื่อตามภาษาที่อ่าน
* กรณีอ้างถึงชื่อคนแต่ง ถ้าเป็นหนังสือแปล สามารถใช้ชื่อคนแปล แทนได้
* กรณีอ้างถึงชื่อหนังสือ สามารถใช้ชื่อต้นฉบับ หรือ ชื่อที่แปลแล้วได้
* หนังสือ 1 เล่ม สามารถตอบโจทย์ได้ครั้งเดียว
* สามารถใช้หนังสือซ้ำกับคนอื่นได้
* สามารถตอบโจทย์กี่ครั้งก็ได้ แต่คิดคะแนนให้เพียงครั้งเดียว
* ตอบโจทย์ไหนก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ
* เมื่อตอบแล้ว ไม่มีผู้ทักท้วงอะไร จนกระทั่งมีการสรุปคะแนนแล้ว ถือว่าได้ตามนั้น ไม่มีการกลับไปแก้
* อนุญาตให้สามารถอ่านนิยายภาพได้ไม่จำกัด แต่ขอจำกัดการ์ตูน สามารถนำมาตอบได้รวมแล้วไม่เกิน 10 ข้อ

** ผู้ร่วมโครงการที่ได้คะแนนสูงสุด ในแต่ละเดือน (แชมป์ประจำเดือน) จะได้โบนัส 10 คะแนน และได้ตั้งโจทย์ 30 คะแนน 1 ข้อ (หากไม่สะดวก สละสิทธิ์ได้)
คะแนนสูงสุดแต่ละเดือน จะนับคะแนนของเดือนนั้น ๆ ไม่ใช่คะแนนรวม

เริ่มนับ ** คะแนน **

คาดว่าจะสรุปทุก ๆ 5 วัน
การได้คะแนนหมายความว่าได้อ่าน ทั้งนี้ ทุกอย่างมีพื้นฐานจากความเชื่อใจกัน
อ่านจบหรือไม่จบ ตรงโจทย์หรือไม่ คนอ่านรู้เอง

** FAQ **

1. ถ้าเลือกหนังสือได้แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจ ?
*** ให้ทิ้งคำถามไว้ที่กระทู้หรือส่งหลังไมค์ไปถามเจ้าของโจทย์ หรือ ผู้ดูแล

2. รีวิวสั้น ๆ ได้มั้ย ต้องมีอะไรบ้าง?
*** สั้นหรือยาวก็ได้ แต่ในคำตอบต้องมีรายละเอียดดังนี้
- โจทย์ที่ต้องการตอบ
- ชื่อหนังสือ / ชื่อผู้แต่ง(ผู้แปล) / ชื่อสำนักพิมพ์ /จำนวนหน้าหนังสือ
- คำตอบ (ให้อ่านที่โจทย์ ต้องตอบให้ครบถ้วนที่ถาม)
- ความรู้สึกต่อหนังสือเล่มนั้น ชอบ ไม่ชอบ

3. มาตอบเพียงเล่มเดียวได้มั้ย?
*** ยินดีครับ เพียงแวะมาก็ดีใจ แล้วนี่มาตอบด้วย ยิ่งกว่าคำว่าดีใจค่ะ

4. มาตอบแแล้วได้อะไร?
*** ได้คำว่าขอบคุณและมิตรภาพค่ะ

5. ผู้ดูแล PToNZ_PRiNZz , Smooth Night , Sichon , P@ween@

** เครดิตทีมผู้ดูแล WWR ซีซั่นที่แล้วนะคะ

ติดตามกระทู้ถาม-ตอบย้อนหลังได้

~***~(^_^)>>> ประกาศเปิดกระทู้รวมพลพี่น้องชาวหนอน ~***~
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8917250/K8917250.html

CCCC(>""<) HHR 1 # เปิดประเด็น - นักเขียนคนโปรด
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8975049/K8975049.html

cccc( >''< ) HHR 2 # เปิดตัวโจทย์ประจำซีซั่น 3
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K8997716/K8997716.html

cccc( >''< ) HHR 3 # แย่แล้วคร๊าฟพี่น้อง ~ สืบเนื่องจากกระทู้ด๋อย
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9044309/K9044309.html

cccc( >''< ) HHR 4 # ชาวหนอนเข้าที่...ระวัง...เตรียมตัว... ~อ่านโลด!!! ~
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9063692/K9063692.html

cccc( >''< ) HHR 4 # ชาวหนอนก่อม็อบเคลื่อนขบวน...เปลี่ยนกระทู้ ~2FiGHT~
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9110686/K9110686.html

### cccc( >''< ) HHR 6 # เปลี่ยนที่รวมพลชาวหนอน ตะลุยอ่านดับร้อน###
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9155239/K9155239.html

### cccc( >''< ) HHR 7 # สุดยอดนักอ่านประจำเดือน == เก็บคะแนนเดือนที่ 2 หาแชมป์คนต่อไป #
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9195198/K9195198.html

### cccc( >''< ) HHR 8 # ชาวหนอนลัลล้ามาถึงกลางซีซั่นกันแล้วนะจ๊ะ ###{แตกประเด็นจาก K9195198}
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9235317/K9235317.html

HHR9 # แตกทู้ใหม่ตามใจชาวหนอนค่า{แตกประเด็นจาก K9235317}
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9278828/K9278828.html

จากคุณ : PToNZ_PRiNZz (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 00:30:21

ความคิดเห็นที่ 2

>> และแล้วก็ก้าวข้ามผ่านเดือนที่สองของซีซั่นนี้ น้องใหม่ไฟแรงกันจริงส่วนหนอนหน้าเก่าแรงแผ่วกันลงไปเยอะเลยนะจ๊ะ

แชมป์เดือนที่ 2 ได้แก่คุณ เรียวรุ้ง จร้า ตามความคาดหมาย ขอแสดงความยินดีด้วย จุ๊บๆ ฮูเลฮูเล

คุณเรียวรุ้ง รบกวนตั้งโจทย์สุดท้ายของซีซั่นและเป็นโจทย์สุดท้ายของตัวเองด้วยนะคร๊าฟ

ปล ของรางวัลสำหรับซีซั่นนี้ยังม่ะมีนะครับ TT_TT ใครสนใจสมทบทุนหลังไมค์มาบอกได้เลย
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 00:41:40

จากคุณ : PToNZ_PRiNZz (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 00:37:58

ความคิดเห็นที่ 3

ขอแสดงความยินดีกับแชมป์ คุณเรียวรุ้ง ค่ะ พลุ ชนแก้ว

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 00:50:04

ความคิดเห็นที่ 4

ยินดีกับคุณเรียวรุ้งด้วยค่า รอโจทย์ใหม่ๆ >_< ((โจทย์เก่ายังเล่นไม่หมดเลย 555))

ในที่สุดก็ขึ้นกระทู้ใหม่ ขอประเดิมค่ะ ฮี่ๆๆๆๆ

25-2. [ส้มแช่อิ่ม-ยาคูลท์-Clear Ice] โจทย์ "ไตรรงค์ธงไทย": อ่านหนังสือ 3 เล่มที่มีโทนสีปกแดง 1 เล่ม ขาว 1 เล่ม น้ำเงิน 1 เล่ม (ต้องเห็นสีที่ว่าชัดๆ สัก 1x1 นิ้ว หรือเป็นสีพื้นหลังที่เป็นโทนคล้ายกันก็ได้)

เดินดูทั่วห้องสมุดทำให้สังเกตว่า หนังสือแนวแฟนตาซีที่เป็นชุดส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ค่ะคือ ถ้ามี 3 เล่มจบจะเป็นสี แดง - น้ำเงิน - ดำ ถ้ามี 4 เล่มจบจะเป็น แดง - น้ำเงิน - ดำ - ขาว หรือ แดง - น้ำเงิน - ดำ - เขียว มีชุดนี้ชุดเดียวที่ 3 เล่มจบแล้วเป็นสี ขาว - น้ำเงิน - แดง เลยได้ฤกษ์หยิบมาอ่านซักที หลังจากดองไว้นานมากเหลือเกิน

สาเหตุที่ดองก็คือ ซื้อเล่มแรกมาตั้งแต่ออกใหม่ๆ เพราะหน้าปกสวย จากรูปคงมองไม่เห็น แต่ปกจริงมีการยิงนูนเป็นอักษรเวทย์มากมายตามท้องเรื่อง อ่านปกหลังแล้วน่าสนใจ แต่...พอซื้อมาแล้วพบว่า...มันเป็น trilogy -_-" ก็เลยกะว่ารอให้ออกครบแล้วค่อยอ่านทีเดียว กว่าจะออกครบก็รอเสียหมดกำลังใจ ทำให้ขี้เกียจอ่านอยู่นานเชียว ^^"

หนังสือ : Sabriel
เขียนโดย : Garth Nix
ปกอ่อน : 368 หน้า
สำนักพิมพ์ : HarperCollinsChildren'sBooks
ภาษา : อังกฤษ

รายละเอียดจากปกหลัง

ใครจะปกป้องคนที่มีชีวิต เมื่อคนตายฟื้นคืนชีพ...?

ซาเบรียล (Sabriel) เป็นลูกสาวของผู้ใช้เวทมนตร์ (Mage) ชื่อ แอ็บฮอร์เซ็น (Abhorsen) เธออาศัยอยู่นอกกำแพงของอาณาจักรเก่า (Old Kingdom) ตั้งแต่ยังเด็ก - ห่างไกลจากพลัง 'Free Magic' ที่ควบคุมไม่ได้ และห่างไกลจากคนตาย ซึ่งฟื้นคืนชีพ

แต่ขณะนี้พ่อของเธอหายตัวไป และซาเบรียลก็โดนเรียกให้เดินทางข้ามกลับไปยังอาณาจักรเก่าเพื่อตามหาเขา ต้องจากความปลอดภัยในโรงเรียนซึ่งเหมือนกับเป็นบ้าน ซาเบรียลเริ่มต้นเดินทางซึ่งเต็มไปด้วยความอันตรายเหนือธรรมชาติ กับผู้ร่วมทางซึ่งเธอไม่อาจวางใจได้ - เนื่องเพราะไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เห็นในเขตของอาณาจักรเก่า ที่นั่น...เธอพบกับความชั่วร้ายซึ่งเป็นภัยเหนือชีวิตของเธอเอง และได้เผชิญหน้ากับโชคชะตาที่ซ่อนอยู่...

...

จากไอซ์ :

เล่มนี้เป็นเล่มแรกของ Trilogy ซึ่งก็จะเป็นการแนะนำ "โลก" ที่ผู้เขียนสร้างขึ้นนะคะ

"โลก" ของหนังสือชุดนี้จะแบ่งออกเป็นสองอาณาจักรกั้นด้วยกำแพงสูง ... โลกภายนอกซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของกำแพงจะเหมือนกับโลกสมัยใหม่ของเราค่ะ ยิ่งห่างจากกำแพงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่มีเวทมนตร์ ใช้ไฟฟ้า ใช้รถยนต์ ส่วนทางทิศเหนือของกำแพงคือ "อาณาจักรเก่า" จะเป็นโลกที่ยังมีเวทมนตร์อยู่ ซึ่งในเรื่องใช้คำว่า "Charter Magic" การร่ายมนตร์ก็จะใช้ "Charter Mark" หรือเครื่องหมายเวทมนตร์นั้นเอง ... ผู้ที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้จะเรียกว่า "Charter Mage" ซึ่งจะมีเครื่องหมายเวทย์กลางหน้าผาก

พ่อของซาเบรียลซึ่งมีฉายาว่า "แอ็บฮอร์เซ็น" เป็นผู้ใช้เวทมนตร์ที่เป็น Necromancer หรือแปลง่ายๆ ว่า "หมอผี" คือสามารถเรียกและกำจัดวิญญาณได้ หน้าที่ของเขาคือ การกำจัดสิ่งที่ควรตายแล้วแต่กลับฟื้นขึ้นมาอีกในรูปแบบต่างๆ ... เครื่องมือของแอ็บฮอร์เซ็นก็คือ ดาบและกระดิ่ง 7 ใบ ซึ่งมีอำนาจในการปราบวิญญาณต่างๆ กัน ((ชื่อกระดิ่งและอำนาจของมันอยู่หน้า 65 ต้องคอยเปิดดูทุกที เพราะจำยาก ฮา))

โลกแห่งวิญญาณจะมีประตู 9 บาน ถ้ายังไม่ได้ผ่านประตูบานที่ 9 ก็ยังจะสามารถเรียกวิญญาณกลับมาได้ แต่จะกลับมาในรูปแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้เรียก

ซาเบรียลถูกพ่อส่งเข้าโรงเรียนด้านนอกกำแพงของอาณาจักรเก่าตั้งแต่อายุห้าขวบ เธอเป็นนักเรียนดีเด่น เป็นหัวหน้านักเรียน และ...ในโรงเรียนนี้มีการสอนเวทมนตร์พื้นฐานด้วย ... นอกจากการเรียนเวทมนตร์ในโรงเรียนแล้ว พ่อของเธอยังถ่ายทอดวิชาการเป็นหมอผีให้เธอด้วย เธอรู้วิธีการใช้กระดิ่ง และศึกษา "คำภีร์แห่งความตาย (Book of dead)"

จู่ๆ วันหนึ่งก็มีสิ่งไร้ชีวิตที่ถูกสร้างด้วยเวทมนตร์มาหาเธอ นำดาบและกระดิ่งของพ่อมาให้ ทำให้ซาเบรียลรู้ว่า พ่อของเธอเผชิญกับปัญหา และเธอก็ต้องออกเดินทางไปช่วยพ่อ ทั้งๆ ที่เธอแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาณาจักรเก่าเลย

...

อ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม RPG ค่ะ ฮา รู้สึกว่าถ้าเอาไปทำเป็นเกมคงสนุก จัดการกับวิญญาณร้าย ((มีหลายระดับมาก)) ผ่านด่านต่างๆ พ่อผู้ร่วมทาง ค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของอาณาจักรเก่า

ไอซ์ว่าเนื้อหาของเรื่องก้ำกึ่งอยู่ระหว่างวรรณกรรมเยาวชนและหนังสือสำหรับผู้ใหญ่นะคะ ((หนังสือชุดนี้อยู่ในหมวดวรรณกรรมเยาวชน)) เพราะเนื้อหาเข้มข้นดี ถึงแม้ว่าตัวเอกจะเป็นเด็กสาวอายุ 18 ก็ตาม อ่านจบแล้วก็อยากอ่านเล่มต่อไป ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 07:29:23

ความคิดเห็นที่ 5

หนังสือ : Lirael
เขียนโดย : Garth Nix
ปกอ่อน : 528 หน้า
สำนักพิมพ์ : HarperCollinsChildren'sBooks
ภาษา : อังกฤษ

รายละเอียดจากปกหลัง

เมื่ออนาคตถูกซ่อนไว้ ใครเป็นคนถือกุญแจแห่งโชคชะตา...?

ลิราเอลไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกสาวของชาวเคลยร์ (Clayr) เธอไม่เคยมีความสามารถในการมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรืออนาคตที่อาจะเป็นไปได้ (Sight) - ซึ่งเป็นความสามารถโดยกำเนิดของชาวเคลยร์ ถึงกระนั้น...ระหว่างที่แอ็บฮอร์เซนซาเบรียลติดพันกับการแก้ปัญหาที่อื่น...โชคชะตาของอาณาจักรเก่ากลับอยู่ในกำมือของเธอ

ขณะที่ความชั่วร้ายจากอดีตแผ่ขยายเงา - ความชั่วร้ายที่ต่อต้านสายเลือดแห่งราชตระกูล ปิดกั้นการมองเห็นของเหล่าเคลยร์ และคุกคามที่จะทำลายเส้นแบ่งระหว่างชีวิตและความตาย - ลิราเอลจึงต้องรับภาระกิจใหญ่หลวง โดยมีเพียงสุนัขชื่อเสีย (Disreputable Dog) เพื่อนผู้ซื่อสัตย์เป็นผู้ช่วยเหลือ ลิราเอลออกเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตราย และเผชิญหน้ากับโชคชะตาของเธอ...

...

จากไอซ์ :

เล่มสองเริ่มต้นด้วยระยะเวลาห่างจากตอนจบของเล่มแรก 14 ปีค่ะ ดังนั้นจะมีสปอยล์เล่มแรกนิดหน่อยนะคะ

เล่มนี้มีตัวละครเด่น 2 คนค่ะ

คนแรก...สาวน้อยลิราเอล

แม่ของเธอเป็นเคลยร์ที่ได้กระทำสิ่งที่แตกต่างจากชาวเคลยร์ทั่วๆ ไป ...ชาวเคลยร์ซึ่งเป็นพวกที่มีนิมิตรสามารถมองเห็นอนาคตหรือที่เรียกว่า Sight ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงค่ะ และจะมีลูกโดยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มาหาถึง Clayr's Gracia ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวเคลยร์ ตั้งอยู่เหนือสุดของอาณาจักรเก่า แต่แม่ของลิราเอลหายหน้าไปจาก Clayr's Gracia แล้วก็มีเธอกลับมาด้วย ไม่มีใครรู้ว่าพ่อของเธอคือใคร

เด็กสาวชาวเคลยร์จะสวมชุดสีฟ้า พอโตแล้วจะเปลี่ยนเป็นสวมชุดสีขาว การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของชาวเคลยร์ขึ้นอยู่กับว่า จะเริ่มมีนิมิตรเมื่อไหร่ ซึ่งปกติจะเริ่มมีกันตั้งแต่อายุประมาณสิบเอ็ด

ลิราเอลอายุ 14 ปีแล้ว เธอยังไม่มีนิมิตรเลย นอกจากนั้นเธอยังดูแตกต่างจากชาวเคลยร์ทั่วไปที่มีผมสีทองตาสีอ่อนอีก ... เธอมีดวงตาและผมสีเข้ม แน่นอนว่า มันทำให้เธอกลุ้มใจมากๆ ความแตกต่างนี้ทำให้เธอเก็บตัวให้ห่างจากคนอื่นๆ ลิราเอลจึงไม่มีเพื่อนเลย

ความต้องการขอลิราเอลคือ ได้เห็นนิมิตร ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชาวเคลยร์เต็มตัว แต่จริงๆ แล้ว โชคชะตาของเธอยิ่งใหญ่กว่านั้น

คนที่สอง...เจ้าชายซาเม็ธ (Sameth) หรือ แซม

แซมเป็นลูกคนที่สองของทัชสโตนกับซาเบรียลค่ะ ลูกคนแรกของทั้งสองเป็นผู้หญิงชื่อเอลิเมเร (Ellimere)

ทัชสโตนกับซาเบรียลส่งลูกทั้งสองออกไปเรียนในโรงเรียนนอกอาณาจักรใหม่จนจบมัธยมปลาย ก่อนจะกลับเข้ามาในอาณาจักรเก่านะคะ

ในสายตาของแซม เอลิเมเรเป็นพี่สาวที่จู้จี้จุกจิกและเจ้าอำนาจ เธอจะเป็นราชินิคนต่อไป ซึ่งก็หมายความว่า แซมจะต้องสืบทอดหน้าที่แอ็บฮอร์เซ็นต่อจากซาเบรียล

ปัญหาก็คือ...การที่เกือบโดนหมอผีคนหนึ่งจองจำในโลกหลังความตายทำให้แซมกลัวโลกหลังความตาย เขาไม่สามารถอ่านคัมภีร์แห่งความตาย และไม่สามารถบังคับใจให้ใช้กระดิ่งทั้ง 7 ได้

สิ่งที่แซมถนัดและชอบทำนั้นคือการสร้างสิ่งของต่างๆ ด้วยเวทมนตร์ ซึ่ง...ไม่ใช่สิ่งที่แอ็บฮอร์เซ็นควรทำสักนิด

เขาจะสามารถเป็นแอ็บฮอร์เซ็นตามที่ทั้งพ่อ แม่ พี่สาว และทุกคนในอาณาจักรคาดหวังได้งั้นหรือ

สำหรับเล่มกลาง เล่มที่หนาที่สุดนี้ เป็นการปูพื้นตัวละครสองตัวบน ซึ่งเป็นตัวเด่นต่อไปถึงเล่มหน้าค่ะ ลิราเอลและแซม...ทั้งสองต่างมีปัญหาที่ไม่สามารถเป็นอย่างที่คนรอบข้างคาดหวังได้

อาณาจักรเก่ากำลังระส่ำระสาย มีคนที่ฟื้นจากความตายเข้ามาก่อกวนในอาณาจักรจนซาเบรียลแทบจะไม่ได้อยู่วัง ต่อสู้จนบาดเจ็บสาหัสอีกต่างหาก แถมชาวเคลยร์ก็ยังไม่สามารถมองเห็นบริเวณใกล้ Red Lake ซึ่งหมายความว่ามีอะไรบางอย่างปิดกั้นนิมิตรของชาวเคลยร์

ลิราเอลและแซมต่างเดินทางตามโชคชะตาของตัวเอง จนกระทั่งเส้นทางของทั้งสองมาบรรจบกัน ต่อสู้กับศัตรูร้ายของอาณาจักรร่วมกัน

...

เล่มนี้เนื้อหาเข้มข้นและสนุกสนานกว่าเล่มแรกค่ะ มีตัวร้ายตัวใหม่ที่ร้ายกว่าเดิมเข้ามาวางแผนการใหญ่ มีปัญหาการเมืองระหว่างอาณาจักรเก่าและอาณาจักรใหม่ เปิดเผยเกี่ยวกับอดีตของอาณาจักรเก่า และเรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้น

ช่วงแรกๆ จะรำคาญตัวละครแซมมากหน่อย ที่ถูกวางคาแร็กเตอร์ให้เป็นเด็กสปอยล์ เอาแต่ใจ ไม่คิดหน้าคิดหลัง คิดน้อย ตามประสาเจ้าชายเอาแต่ใจ อายุ 17 แต่ทำตัวเหมือนอายุไม่ถึง 15 ... ก็เข้าใจได้นะคะ เพราะคนเขียนปูพื้นหลังมาแล้ว แต่อ่านแล้วก็รู้สึกเหมือนอยากจะเข้าไปเบิร์ดกะโหลกสักทีสองที เอิ๊ก

พอแซมมาเจอกับลิราเอลแล้ว ค่อยรู้สึกว่าทำตัวเข้าท่าขึ้นมาหน่อย

คนเขียนตั้งใจเขียนให้ตัวละครชายทำตัวงี่เง่าแน่ๆ เลย เล่มแรกก็เป็น ฮา

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 07:30:51

ความคิดเห็นที่ 6

หนังสือ : Abhorsen
เขียนโดย : Garth Nix
ปกอ่อน : 396 หน้า
สำนักพิมพ์ : HarperCollinsChildren'sBooks
ภาษา : อังกฤษ

รายละเอียดจากปกหลัง

เมื่อประตูบานที่เก้าเรียกหา ใครจะสามารถต่อต้านการเรียกร้องของมันได้...?

ความชั่วร้ายจากโบราณกาลได้ตื่นขึ้น - เป็นอิสระจากคุกใต้ดินและหาทางที่จะหนีออกจากครอบเงินมนตราซึ่งป้องกันไม่ให้มันปลดปล่อยพลังแห่งความชั่วร้ายได้

ลิราเอลผู้ซึ่งได้รับมรดกหมาดๆ ในการเป็น "ผู้ที่จะสืบทอดหน้าที่แอ็บฮอร์เซ็น (Abhorsen-in-waiting)" รู้ว่าชะตากรรมของโลกอยู่ในมือของเธอ มีเพียงภาพทำนายจากเคลยร์ที่ช่วยนำทางเธอ และความช่วยเหลืออย่างไม่แน่ใจของเพื่อนร่วมทาง - แซม สุนัขชื่อเสีย และม็อกเก็ต - ลิราเอลปฏิบัติภารกิจอันตราย คำตอบจะต้องถูกค้นพบที่ใดที่หนึ่งระหว่างชีวิตและความตาย - แต่อดีตผู้ช่วยบรรณารักษ์ระดับสองจะสามารถค้นพบสิ่งที่จะใช้ทำลาย "ผู้ทำลายล้าง (Destroyer)" ก่อนที่จะสายไปได้หรือ?

...

จากไอซ์ :

เหตุการณ์ในเล่มสามจะต่อจากเล่มสองเลยค่ะ ดังนั้น...จะมีสปอยล์เล่มสองนะคะ

ตอนนี้ลิราเอลและแซมต่างรู้โชคชะตาที่แท้จริงของตัวเองแล้ว ลิราเอลเป็น "ผู้ที่จะสืบทอดหน้าที่แอ็บฮอร์เซ็น (Abhorsen-in-waiting)" ส่วนแซมคือนักสร้างหรือ Wallmaker

ปริศนาของอาณาจักรเก่าเริ่มคลี่คลาย และรู้แล้วว่าศัตรูที่วางแผนร้ายรอบทิศ ชักใยโยงทั้งในอาณาจักรเก่าและอาณาจักรใหม่คือใคร และต้องการอะไร

ปัญหาก็คือ...จะหยุดยั้งมันได้อย่างไร

เล่มสามเป็นเล่มที่สนุกที่สุดในสามเล่มค่ะ ตามฟอร์มของ Trilogy นะคะ ที่สองเล่มแรกจะปูทางมาเพื่อเล่มสุดท้าย

จบได้อย่างลงตัว พร้อมกับทิ้งปมไว้ให้คิดนิดหน่อย

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 07:32:02

ความคิดเห็นที่ 7

สรุปสั้นๆ สำหรับ Old Kingdom - Abhorsen Trilogy นั้นเป็นแฟนตาซีผจญภัยสำหรับวัยรุ่น ธีมของเรื่องเป็นการต่อสู้ระหว่าง Necromancer หรือ หมอผี ค่ะ

เวทมนตร์ในอาณาจักรเก่าจะแบ่งเป็นสองอย่างคือ Charter Magic และ Free Magic ... Charter Magic เทียบง่ายๆ ก็คือ เวทย์ขาว ส่วน Free Magic ก็ทำนองเวทย์ดำนะคะ

หมอผีใช้ Free Magic เป็นสิ่งที่ถูกแบนในอาณาจักรเก่า เพราะพวกเขาปลุกคนตายให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา พวกคนตายที่ฟื้นคืนชีพมาพวกนี้จะกินคนเป็น เพื่อซึมซับพลังชีวิตให้สามารถอยู่ในโลกของคนเป็นได้

แอ็บฮอร์เซ็นเป็นหมอผีที่ทำหน้าที่กำจัดวิญญาณร้าย รวมทั้งหมอผีฝ่ายตรงข้าม

ตัวละครหลักจะเป็นเด็กสาว เพราะเขียนขึ้นมาอยู่ในหมวดวรรณกรรมเยาวชนนะคะ แต่เนื้อเรื่องเข้มข้นใช้ได้เลย ไม่ได้เด็กจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เคร่งเครียดเลือดสาดบีบหัวใจแบบแฟนตาซีผู้ใหญ่ ... สรุปว่าเด็กวัยรุ่นอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี

ส่วนตัวอ่านจบแล้วรู้สึกว่า ผู้เขียนยังใช้ "โลกที่สร้างขึ้นมา" ได้ไม่คุ้มเท่าไหร่ เพราะโลกจินตนาการนี้ยังมีอะไรให้เล่นอีกมากเลยค่ะ มีอะไรอีกหลายๆ อย่างที่สร้างขึ้นมาแล้วยังไม่ได้หยิบมาใช้ คิดว่าผู้เขียนสามารถนำเอา "อาณาจักรเก่า" มาเล่นอะไรได้อีกเยอะ ... ในอเมซอนบางทีก็ไม่เรียก 3 เล่มนี้ว่าเป็น Old Kingdom Trilogy นะคะ แต่เรียกเป็น Old Kingdom Chronicles ... สงสัยว่าผู้เขียนจะหยิบเอามาใช้อีกจริงๆ ...

เท่าที่รู้ตอนนี้มีอีกเล่มที่ใช้ฉากและตัวละครจากชุดนี้ แต่เป็นรวมเรื่องสั้นชื่อ Across The Wall : A Tale of the Abhorsen and Other Stories

แต่เท่าที่อ่านรีวิวเห็นว่า มีเรื่องที่เขียนใหม่จริงๆ อยู่แค่เรื่องเดียวอะค่ะ เป็นเรื่องของนิโคลัสซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแซม เรื่องอื่นๆ เป็นผลงานเก่าๆ ของผู้เขียนที่เอามารวมไว้ รู้สึกว่าจะไม่ค่อยเวิร์ค ทั้งเล่มสนุกอยู่เรื่องเดียว น่าจะทำให้เสียดายเงิน แต่ใจนึงก็อยากได้มาเก็บไว้ให้ครบๆ จัง ปกสวยด้วย >_<

คิดว่า...หนังสือชุดนี้ยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทยนะคะ ((อยากให้มีแปล แต่ก็สงสารคนแปล หนังสือชุดนี้บทสนทนาน้อยยยยมากกกกก บรรยายเยอะมากกกกกก แปลมือหงิกแน่ๆ 555))

สำหรับคนที่สนใจงานของ Garth Nix ตอนนี้เอ็นเธอร์แปลชุด The Keys to the Kingdom มา 6 เล่มแล้ว ใช้ชื่อภาษาไทยว่า "อาณาจักรแห่งกาลเวลา" เหลือเล่มสุดท้ายก็จะจบชุดแล้วค่ะ ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.jamsai.com/store/productsearch.aspx?Title=Garth%20Nix&Cate=4&type=1 นะคะ

หนังสือชุดนี้ดังเลยล่ะค่ะ ไอซ์ซื้อฉบับภาษาอังกฤษสะสมไว้ตั้งแต่เริ่มออก ตอนนี้ขาดเล่มสุดท้ายที่เพิ่งออกเมื่อเดือน มี.ค. เล่มเดียว ... ถ้าครบแล้วออก boxset จะเคืองมาก >_<

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 07:35:12

ความคิดเห็นที่ 8

ดาว ขอบคุณคุณแม่ไก่, คุณPToNZ_PRiNZz (PTNCenter),คุณกุลธิดาและคุณClear Iceค่ะ

ไม่รู้โจทย์นี้จะโดนรึเปล่านะคะน้องโบว์

อะแฮ่ม...ขอตั้งโจทย์เลยนะคะ

อ่านหนังสือที่ตัวเอกของเรื่องเป็นพวกอมุนษย์ (ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอก นางเอกก็ได้ แต่ต้องมีบทบาทโดดเด่นในเรื่อง)อ่านหนังสือกี่เล่มก็ได้ให้ครบ 1,000 หน้า(นับเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อเรื่อง) โดยเลือกจากหมวดต่อไปนี้(ห้ามซ้ำหมวดเดิม)
-มนุษย์ต่างดาว มาจากโลกอื่นหรือกาแลกซี่อื่น
-เทพ เช่นเทวดา, นางฟ้า, แฟรี่
-ปีศาจ, ซาตาน, ผี, วิญญาณ,แวมไพร์,ซอมบี้,มนุษย์หมาป่า
-สัตว์กึ่งเทพ เช่นพญาครุฑ, พญานาค,นรสิงห์ รวมไปถึงครึ่งสัตว์ครึ่งมนุษย์เช่นเงือก,เซ็นทอร์ด้วย
-สัตว์ในตำนาน เช่นนกฟินิกซ์,ยูนิคอร์น,ปิกาซัส,มังกร
ใช้หนังสือภาพตอบโจทย์ได้ค่ะ แต่หนังสือการ์ตูนขอไม่ให้นะคะ

ยากไปรึเปล่าคะถ้ายังไงแนะนำได้นะคะเพราะเป็นการตั้งโจทย์ครั้งแรกของเราอยากอ่านพวกอมนุษย์บ้างค่ะ
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 07:42:23
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 09:14:06

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 07:39:32

ความคิดเห็นที่ 9

^
^
^

ขอบคุณค่าพี่รุ้ง สำหรับโจทย์ถูกใจ
โบกะว่าจะเอาอาร์ทิมิส ฟาวล์มาตอบโจทย์นี้ค่ะ
เพราะนางเอก (มั้ง) เป็นชาวแฟร์รี่ 555++

ยินดีกับแชมป์คนใหม่นะคะ ^^

จากคุณ : I_JeejunBo

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 08:05:07

ความคิดเห็นที่ 10

^
^
^

ขอแสดงความยินดีกับคุณเรียวรุ้งมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

โจทย์โดนใจตูนอย่างแรง
สามารถหาโรมานซ์มาอ่านได้เยอะเหมือนกันนะนี่
แต่งงกับวงเล็บที่ว่า "ห้ามซ้ำหมวดเดิม"

หมายถึงถ้าตูนอ่านหนังสือเพื่อตอบโจทย์ข้อนี้
เล่มแรกเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว
เล่มที่สองก็ห้ามเป็นมนุษย์ต่างดาวอีกใช่หรือเปล่าคะ

อาจต้องเลี่ยงไปอ่านเป็นพวกนางฟ้า, เทพ, อะไรอย่างนี้ใช่หรือเปล่า
รบกวนด้วยค่ะ

จากคุณ : เหมือนพระจันทร์

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 08:11:18

ความคิดเห็นที่ 11

ขอบคุณน้องโบกับคุณเหมือนพระจันทร์ค่ะ

ตอบคุณเหมือนพระจันทร์ใช่เลยค่ะ ถ้าเล่มแลกเลือกมนุษย์ต่างดาว เล่มต่อไปต้องเลือกหมวดอื่นค่ะ

ถ้าใครมีหนังสือเรื่องเดียว(มากกว่า 1 เล่ม )จำนวนรวม 1000 หน้าได้โดยเลือกตอบหมวดเดียวก็ใช้ได้ค่ะ แต่หนังสือพวกแบ่งเป็นตอนไม่นับนะคะ เช่นอาร์ทิมิส ฟาวล์ที่น้องโบเลือกนี่มีหลายตอน ก็ใช้ตอบได้แค่ตอนเดียว แล้วต้องเลี่ยงไปหาเรื่องอื่นมาตอบโจทย์เพื่อให้จำนวนหน้าครบ 1000 หน้าค่ะ

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 09:10:39

ความคิดเห็นที่ 12

^
^
^

อ้อ.. ขอทำความเข้าใจคามนี้นะคะ
ถ้าโบตอบโจทย์นี้โบต้องอ่าน
-- อาร์ทิมิส (แฟร์รี่) 400 หน้า 1 เล่ม
-- นิวมูน (แวมไพร์) 400 หน้า 1 เล่ม
-- แฮร์รี่ พ๊อตเตอร์ (เซ็นทอร์, ฟีนิกซ์) 200 หน้า 1 เล่ม

ป.ล. จำนวนหน้านี่สมมตินะคะ

ประมาณนี้ป่าวคะพี่รุ้ง
เริ่มงง ประมาณนี้
>>>

จากคุณ : I_JeejunBo

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 09:22:11

ความคิดเห็นที่ 13

ถูกต้องเลยค่ะน้องโบ แต่ถ้าใช้หมด 5 หมวดแล้วยังไม่ครบ 1000หน้าอนุโลมให้ซ้ำได้ค่ะ

ว้าว...........ตูบหน้าย่น4ตัวน่ารักมากค่ะ
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 53 09:43:53

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 09:42:11

ความคิดเห็นที่ 14

โอ้..โจทย์ถูกใจ แต่ว่า..ในกองดองเหลือแนวนี้อยู่บ้างมั้ยเนี่ย

ยังไม่มีรีวิว มาปักหมุดเฉยๆ อีกเช่นเคย เง่อ หยอกเย้า

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 11:34:38

ความคิดเห็นที่ 15

เพิ่งได้ฤกษ์ไปเช่าหนังสือมาอ่านหลังจากที่ไม่ได้อ่านอะไรมาร่วมเดือน

10-9. [ปลายทางของสายรุ้ง] อ่านหนังสือที่ตัวเอกไม่ถูกกัน เป็นศัตรูกันมาก่อน หรือ อ่านหนังสือที่มีเนื้อ เรื่องเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาการเงิน การลงทุนผิดพลาด เป็นต้น

พระพันปีตัวร้าย ชุด ตำหนักรักนิรันดร์
โดย : ตู้โม่อวี่
แปลโดย : มดแดง
จำนวนหน้า : 416

คำโปรย

ถึงคราวแผ่นดินผลัดเปลี่ยนรัชสมัย จักรพรรดิองค์น้อยจึงต้องขึ้นครองราชย์อย่างที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด แต่ขุนนางทั้งราชสำนักต่างรู้ดีว่าผู้กุมอำนาจที่แท้จริงหาใช่โอรสสวรรค์ไม่
กลับเป็น ‘ตวนมู่จี้’ ผิงอ๋องผู้มากความสามารถอย่างล้นเหลือคนนั้นต่างหาก

ทว่า... ต่อให้คนนับร้อยนับพันสรรเสริญเทิดทูนคุณความดีของเขา
ถ้อยคำยกย่องเหล่านั้นก็มิได้เข้าหูพระพันปีน้อยแม้สักครึ่งคำ
เพราะเธอรู้ดีว่าเจ้าม้าไม้ตัวร้ายตัวนั้นกำลังจ้องวางแผนชิงบัลลังก์อยู่

ฮึ! แต่ไหนๆ ฟ้าก็ส่งเธอมาเป็นดาวข่มเขาแล้ว
แม้จะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง ก็จะกำราบเจ้าม้าไม้ตัวนั้นให้จงได้!

ความรู้สึกที่อ่าน

อ่านเอาเพลินค่ะ พระเอกตามท้องเรื่องเป็นคนกุมอำนาจการปกครอง ส่วนนางเอกเป็นสนมของจักรพรรดิ แต่เข้ามาถึงไม่กี่วันจักรพรรดิก็ลาโลกไปเสียก่อน แต่ดันโดนแต่งตั้งให้กลายเป็นเมียหลวงทั้งที่แทบไม่เคยเจอหน้าจักรพรรดิด้วยซ้ำ ก็เลยได้เป็นพระพันปี (แม่ของจักรพรรดิองค์ใหม่ที่อายุน้อยกว่านางเอกแค่สองปีเอง)

การผูกเรื่องยังอ่อน ตอนจบค่อนข้างเพ้อฝันอยู่มาก ถ้ามองจากพระเอกเป็นคนปกครองเมือง ก็ถือว่าไม่ได้ให้ความรู้สึกเก่งเท่าที่คนเขียนพยายามจะบอก แต่ถ้าใครที่ชอบประมาณว่าพระเอกนี้ดูแลนางเอกสุดๆ รักจริงแบบทุ่มเท ชีวิตนี้มีเพื่อเธอ ผสมกับโรแมนติกแบบพ่อแง่:-)อน ก็เป็นเรื่องที่น่าหยิบอ่านนะคะ

นานาจิตตัง แล้วแต่ความชอบ ถือว่าพอถูไถสำหรับหนิงๆผู้คลั่งอยากอ่านเรื่องโคแก่ค่ะ เรื่องนี้ไม่ถึงขั้นโคแก่มากเพราะอายุห่างจากนางเอกแค่สิบปี (ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกอายุไม่เห็นต่างกันเลย) แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อ่านอะไร

จากคุณ : หนิงๆ (peiNing)

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:29:28

ความคิดเห็นที่ 16

ขอแสดงความยินดีกับคุณรุ้งสำหรัยแชมป์เดือนที่แล้วค่า ตั้งโจทย์ได้น่าสนใจมากเลยค่ะ เด๋วไปค้นดูบ้างดีกว่าว่าเหลือแนวพวกนี้บ้างรึเปล่า

หนังสือที่คุณไอซ์รีวิวน่าอ่านมากเลยค่ะ แต่บรรยายเยอะคงต้องขอผ่าน ถึงแม้ว่าอาจจะมีแปลเป็นไทยก็ตาม

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 13:45:17

ความคิดเห็นที่ 17

"แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อ่านอะไร "
555+หนิง (peiNing) แบบนี้จะอ่านดีไหมนี่

รีวิวคุณไอซ์...หนังสือปกสวยจังเลย
แต่ว่ามันไม่ใช่แนวเรา กร๊าก..ก..ก..อิอิ

ปล.หมูไม่ชอบนิยายบรรยายเยอะๆ เหรอ?

จากคุณ : nikanda

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:45:29

ความคิดเห็นที่ 18

เจอคุณnikanda ขอคุยหน่อย
โสมส่องแสงน่าอ่านมากๆค่ะ ขอบอกแต่ถ้าเราอ่านก่อนดูละครคงไม่ชอบที่เจ้าจ้อยแสดงโดยจอย ศิริลักษณ์ ก็ความงามของเจ้าจ้อยป้าอี๊ดเธอบรรยายไว้ว่า

"จะหางามสามโลกก็เหลือหา
สมเป็นนางพญาอันสูงสุด
บ่ควรคู่กับผู้ใดในมนุษย์
ควรสมมุติแต่กษัตริย์ขัตติยา"

ส่วนเจ้ารอยอินทร์นั้น

"รอยรูปอินทร์หยาดฟ้า
มาอ่าองค์ในหล้า
แหล่งให้คนชมแลฤา
รอยรูปอินทร์ประทับ
จำหลักตรึงแม่นมั่น
บ่ลืมบ่เลือนรักนั้นนิรันดร์กาล"

สรุปว่าทั้งหล่อทั้งสวยทั้งพี่ทั้งน้อง ขอบคุณสำหรับรูปพลอยปภัสค่ะ จริงๆแล้วก็ไม่โดนใจเท่าไหร่แต่ไม่รู้จะเลือกใครที่เห็นภาพได้อย่างกลอนข้างบน เคยเห็นพลอยปภัสเล่นเรื่องพ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์เห็นว่าน่ารักดีก็เลยเลือกคนนี้ เจ้าจ้อยดูเด็กมากเพราะภูริตคิดว่าเจ้าจ้อยอายุไม่ถึง 15 ปีด้วยซ้ำไป เราเลยเลือกพลอยปภัสเพราะเห็นยังดูเด็ก

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 16:10:42

ความคิดเห็นที่ 19

ใช่ค่ะคุณแจง บรรยายเยอะๆจะรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือเรียนน่ะค่ะ แล้วก็จะงงๆด้วย บางทีต้องอ่านหลายรอบกว่าจะเข้าใจ

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 17:29:26

ความคิดเห็นที่ 20

ยินดีกับแชมป์คนใหม่ค่ะ ...ตั้งโจทย์ได้น่าเล่นมากเลย
แต่คงอ่านไม่ทันแหงๆ
ยังไม่ทันจบซีซั่น ..ขอโยนหินถามทางต่อไปว่า ...จะมีซีซั่นที่ 4 รึป่าว
โจทย์ 30 คะแนนจากแชมป์ทั้ง 2 เดือนนี้เรายังอยากเล่นอยู่นะ ^^

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 00:14:07

ความคิดเห็นที่ 21

ดาว ขอบคุณคุณหมูย้อมสีกับคุณนัทธ์ค่ะ

หนังสือคุณไอซ์ปกสวยจริงค่ะ แต่ไม่ใช่แนวเราเช่นกัน เราไม่ชอบหนังสือบรรยายเยอะๆเหมือนคุณ nikanda

ดาว หนังสือที่คุณหนิงๆ รีวิวปกสวยค่ะ หนังสือแบบนี้เราก็ไม่เคยอ่านเลยซักเล่มอ่ะ

ดีใจที่เพื่อนๆหลายคนชอบโจทย์ที่เราตั้งนะคะ และขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 09:00:22

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 08:46:00

ความคิดเห็นที่ 22

^
^
คุณเรียวรุ้ง..ขอบคุณสำหรับเรื่องโสมส่องแสงค่ะ
ดีใจเหมือนกัน ที่เราไม่เคยอ่านนิยายก่อนดูละคร...เพราะอินมาก
และรู้สึกชอบจอย ศิริลักษณ์มาจากเรื่องนี้ ถ้าอ่านก่อน ไม่อินแน่เลย

"แก้ข่าว"นิดนึง เราชอบอ่านนิยายแบบที่มีบรรยายเยอะๆนะคะ
แต่ว่าต้องเป็นบรรยายแบบพรรณา เช่นของคุณ ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ส่วนแบบที่ไม่ชอบคือนิยายที่บรรยายแบบอัดสาระหรือข้อมูลมากเกินไป

ปล.กระทู้ไม่ค่อยวิ่งนะคะช่วงนี้...เพื่อนๆ หายหน้าหายตาไปหมด
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 15:12:42

จากคุณ : nikanda

เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 15:11:44

ความคิดเห็นที่ 23

ส่งโจทย์ข้อสุดท้ายค่ะ

30-5 อ่านหนังสือที่ตัวเอกของเรื่องเป็นพวกอมุนษย์ (ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอก นางเอกก็ได้ แต่ต้องมีบทบาทโดดเด่นในเรื่อง)อ่านหนังสือกี่เล่มก็ได้ให้ครบ 1,000 หน้า(นับเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อเรื่อง) โดยเลือกจากหมวดต่อไปนี้(ห้ามซ้ำหมวดเดิม)

-มนุษย์ต่างดาว มาจากโลกอื่นหรือกาแลกซี่อื่น
-เทพ เช่นเทวดา, นางฟ้า, แฟรี่
-ปีศาจ, ซาตาน, ผี, วิญญาณ,แวมไพร์,ซอมบี้,มนุษย์หมาป่า
-สัตว์กึ่งเทพ เช่นพญาครุฑ, พญานาค,นรสิงห์ รวมไปถึงครึ่งสัตว์ครึ่งมนุษย์เช่นเงือก,เซ็นทอร์ด้วย
-สัตว์ในตำนาน เช่นนกฟินิกซ์,ยูนิคอร์น,ปิกาซัส,มังกร

ใช้หนังสือภาพตอบโจทย์ได้ค่ะ แต่หนังสือการ์ตูนขอไม่ให้นะคะ

ตอบโจทย์ ผาโหงพราย ตัวเอก พญาโหงพราย อายุพันปี
อาร์ทิมิส ฟาวล์ ตัวเอก แฟรี่
หนังสือ 2 เรื่องรวมจำนวน 1,066 หน้า

เล่มที่ 1 ผาโหงพราย (ตัวเอกพญาโหงพราย (ผี))
ผู้แต่ง จินตวีร์ วิวัธน์
สำนักพิมพ์ โชคชัยเทเวศร์
จำนวน 772 หน้า (นับเฉพาะส่วนของเนื้อเรื่อง)
ราคา 200 บาท (2 เล่ม)

ธงรบไปเที่ยวไร่ของเพื่อนที่สระบุรีเขาพกปืนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไปลองยิง เป้าหมายอยู่ที่หน้าผาเป็นชะง่อนเงื้อม เมื่อวิชาญเพื่อนของเขาได้ยินเสียงปืนและเห็นทิศทางที่ยิงก็ตกใจแต่ร้องห้ามไม่ทัน กระสุนตรงถูกหน้าผาใหญ่สะเก็ดหินกระจาย ธงรบไม่รู้ตัวเลยว่าการลองปืนครั้งนี้ของเขาเป็นการปลดปล่อยพญาโหงพรายผีร้ายที่ถูกกักขังด้วยอาคมนานนับพันปีให้สามารถเป็นอิสระได้

พญาโหงพรายถูกกักขังมานานด้วยความคับแค้นมันตั้งปณิธานไว้ว่าใครก็ตามที่ปลดปล่อยมันเมื่อเวลาผ่านไปครบพันปีแล้วมันจะฆ่าคนผู้นั้นแต่เมื่อมันได้รับอิสรภาพมันก็ยังไม่มีโอกาสฆ่าธงรบ อีกทั้งมันยังต้องติดตามหาหัวซึ่งก่อนตายผู้มีอาคมได้ตัดหัวของมันและแยกออกฝังห่างไกลจากตัวพร้อมทั้งลงอาคมกักขังร่างมันไว้ มันกลายสภาพเป็นผีหัวขาด

พญาโหงพรายแฝงร่างของประติมาเพื่อนของธงรบเข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อตามหาหัวของมัน ถ้าเมื่อใดหัวได้ต่อคืนกับตัวแล้วพลังที่มันเคยมีจะกลับคืนอีกครั้งหนึ่ง

ที่ปากช่องไร่ของวศินพี่เขยของพิมพิรา ส่วนหัวของพญาโหงพรายปรากฏขึ้นและติดตามพิมพิรากลับคืนสู่กรุงเทพฯเพื่อตามหาตัวของมันเช่นกัน

ระหว่างที่ตัวและหัวตามหากันและกันนั้น พอตกดึกมันจะพาร่างซึ่งเป็นพาหะของมันออกล่าเหยื่อยามค่ำคืน เพื่อดื่มเลือด คนเคราะห์ร้ายเหล่านั้นตายจากไปในสภาพถูกสูบเลือดออกจากตัว จนในที่สุดมันก็ตามหากันจนพบและสามารถต่อหัวกับตัวได้ดั่งเดิม

อีกหนึ่งเป้าหมายของมันคือการฆ่าธงรบตามปณิธาน แต่ธงรบก็ได้อาจารย์บุญคงผู้เชี่ยวชาญไสยเวทย์อีกทั้งบำเพ็ญตนเป็นผู้สมถะเข้าทำการช่วยเหลือในการปราบพญาโหงพราย

เรื่องนี้ตอนอ่านสนุกมากค่ะดำเนินเรื่องชวนติดตามตลอด ตอนต้นๆมีเอือมที่ธงรบกับเพื่อนๆไม่เชื่อเรื่องภูติผีทั้งที่ธงรบเองก็เจอเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ แต่กลับคิดว่าเป็นเรื่องของเชื้อโรค สุดท้ายพอเชื่อเรื่องภูติผีก็เชิญผู้มีอาคมมาปราบแต่พอถึงตอนนี้ผีที่ปูพื้นมาสุดแสนร้ายกาจกลับถูกปราบลงหม้ออย่างง่ายดาย

จินตวีร์ วิวัธน์ นามปากกานี้เขียนเรื่องสยองขวัญออกมามากมายค่ะ และส่วนใหญ่เราก็ชอบนะ เรื่องนี้โดยรวมก็ยังชอบเสียดายแค่ตอนจบผีลงหม้อง่ายไปอย่างว่า...

เครดิตภาพจากGoogle
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 18:12:54

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 18:10:08

ความคิดเห็นที่ 24

เล่มที่ 2 อาร์ทิมิส ฟาวล์ (ตัวเอกแฟรี่)
ผู้แต่ง อีออยน์ โคลเฟอร์
ผู้แปล ชมนารถ
สำนักพิมพ์ ต้นไม้
จำนวน 294 หน้า
ราคา 240 บาท

อาร์ทิมิส ฟาวล์เด็กอัจฉริยะด้วยวัยเพียง 12 ปี มีแผนการที่จะเอาทองคำของพวกแฟรีมาเป็นของตัว ตระกูลฟาวล์เป็นตระกูลที่มั่งคั่ง ด้วยการทำงานที่ผิดกฏหมาย พ่อของฟาวล์หายออกจากบ้านไป เหลือเพียงแต่แม่ที่มีสติไม่สมประกอบ นายน้อยฟาวล์มีบัตเลอร์ เป็นองค์รักษ์ ทำหน้าที่ทุกอย่างสุดแต่ว่านายน้อยจะสั่งอย่างไร

ฟาวล์เดินทางพร้อมด้วยบัตเลอร์ ไปโฮจิมินห์ ซิตี้ เพื่อไปพบกับแฟรี่ขี้เมาที่ถูกขับไล่ออกมาจากพวกแฟรี่ ฟาวล์ใช้เล่ห์เหลี่ยมได้ถ่ายภาพคำภีร์ของแฟรี่ หลังจากนั้นเขานำมันมาถอดรหัสทำให้รู้ความลับของแฟรี ฮอลลี่เอล์ปสาวเป็นตำรวจได้รับคำสั่งให้ไปจัดการโทรล์ที่หลุดไปวุ่นวายบนโลกมนุษย์ หลังจากโทรล์ถูกจัดการ ฮอลลี่จำเป็นต้องไปฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ตนเองและนั่นทำให้ฮอลลี่ตกอยู่ในมือของฟาวล์

ฟาวล์ใช้ฮอลลี่แลกกับค่าไถ่คือทองคำ ผู้การรูตผู้บังคับบัญชาของฮอลลี่ต้องออกมารับมือกับฟาวล์ ทำให้เขารู้ว่าฟาวล์รู้ความลับของพวกแฟรี่ เพราะฟาวล์มีสำเนาคำภีร์เวทมนตร์ ผู้การรูตต้องขับเคี่ยวกับฟาวล์สารพัดเพื่อช่วยตัวลูกน้องของเขา ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ยาก แต่จริงๆแล้ว ทุกอย่างได้ดำเนินไปตามแผนการณ์ที่ฟาวล์วางไว้เป็นอย่างดีต่างหาก

อาร์ทิมิส ฟาวล์ สนุกดีค่ะ มีเอลฟ์ คนแคระ ซินทอร์ โทรล์ ฯลฯ จินตนาการล้ำลึกจริงๆ นายน้อยฟาวล์เด็กชายอายุ 12 แต่ความฉลาดเหลือเชื่อ สารพัดเล่ห์เหลี่ยมที่ใช้วางแผน เสียดายที่ออกจะโกงๆ และเจ้าเล่ห์ เราว่าเรื่องนี้สนุกกว่าแฮรี่ พอตเตอร์นะ อาร์ทิมิส ฟาวล์มีเรื่องชวนให้ติดตามตั้งแต่ต้นเรื่อง จนจบเรื่องก็ว่าได้

เครดิตภาพจาก Google ค่ะ

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 18:11:58

ความคิดเห็นที่ 25

^
^
^

โจทย์ข้อนี้อ่านตำนานเทพได้ไหมคะ
เช่น หนังสือตำนานเทพอียิปต์อะไรประมาณนี้

จากคุณ : เหมือนพระจันทร์

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 08:03:42

ความคิดเห็นที่ 26

ตอบคุณเหมือนพระจันทร์
ใช้ตำนานเทพตอบโจทย์ได้ค่ะ อยู่ในหมวดพวกเทพ เทวดา แฟรี่ค่ะ

กฤตยา ของทมยันตีก็มีตัวเอกเป็นเทพของอียิปต์ด้วยค่ะ
แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 53 17:34:56

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 09:06:32

ความคิดเห็นที่ 27

มาปักหมุดอีกรอบ หยอกเย้า

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 09:33:38

ความคิดเห็นที่ 28

สวัสดีค่า
แวะมาเยี่ยมกระทู้ค่า

อาร์ทิมิส ฟาวล์ นี่เล่มต่อๆมายิ่งสนุกค่ะพี่รุ้ง

เป็นหนังสืออีกชุดที่เชียร์ให้หลายๆคนอ่าน
คนเขียนข้อมูลแน่นปึ้กมากกก...

จากคุณ : I_JeejunBo

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 09:52:11

ความคิดเห็นที่ 29

ทำรีิวิวเสร็จแระ เอามาส่งสักทีค่ะ (ปาดเหงื่อ)

30-1. [ยาคูลท์] โจทย์บุฟเฟ่ต์: อ่านหนังสือ 4 เล่มในหมวดต่อไปนี้ –
นิยายไทย, นิยายแปล, นิยายภาษาต้นฉบับ, รวมเรื่องสั้น,
รวมบทความ/สัมภาษณ์, บันทึกการเดินทาง, นิยายภาพ/การ์ตูน
(ใช้คำว่า "นิยาย" เพื่อให้เข้าใจ แต่จะเป็นหนังสือวิชาการก็ได้)

ตอบโจทย์ดังนี้นะคะ

นิยายไทย – ลับแล, แก่งคอย
รวมเรื่องสั้น – จับตาย
รวมบทความ/สัมภาษณ์ – ขอบฟ้าอยู่ใต้ฝ่าเท้า
นิยายภาพ/การ์ตูน – รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

เรื่องแรกก่อนนะคะ
ลับแล, แก่งคอย
ผู้เขียน - อุทิศ เหมะมูล
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า ๔๔๔ หน้า
ราคา ๒๗๕ บาท

นิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน
และเซเว่นบุ๊คอวอร์ดเมื่อปี ๒๕๕๒ ค่ะ

...หนึ่งนั้นให้เป็นพี่ชายของความหลับ
อีกหนึ่งนั้นจงเป็นน้องชายของคำลวง...

หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นภาคๆ ดังนี้นะคะ

ภาคหนึ่ง กำเนิดจากเรื่องเล่า – เล่าที่มาที่ไปของตัวละครหลักๆ แต่ละตัว

ภาคสอง ประวัติศาสตร์ที่เริ่มสร้าง – ในช่วงวัยที่กำลังเติบโต

ภาคสาม ในป่าหิมพานต์ ปมในใจของลับแล การฆาตกรรม

ภาคสี่ ฌาปนกิจความจริง การเปิดเผยความจริงของเรื่องราว?

ภาคห้า เถ้าอังคารของความลวง

เป็นนิยายที่มีกลวิธีการประพันธ์ที่มีกลิ่นอายเฉพาะตัวค่ะ
ในระหว่างที่อ่าน จะรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ที่อวลอยู่ตลอดเวลา
มันมีเรื่องของความไม่แน่นอน ไม่น่าไว้วางใจในขณะที่อ่านอย่างไรบอกไม่ถูก
และพอถึงจุดเฉลย บางคนอาจอึ้ง แต่สำหรับเรากลับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ที่ “บรรยากาศ” บางอย่างที่ห่อหุ้มตัวเองมาตลอดเวลานั้น ได้รับการเฉลยเสียที

มีหลายๆ ครั้งที่ผู้เขียนใช้การประพันธ์แบบ..มีอะไรแปลกๆ ให้คนอ่านต้องขมวดคิ้ว

อย่างในหน้า ๒
ที่จริงการไม่มีผมอยู่ในบ้านหลังใหม่
บ้านซึ่งเหลือแต่แม่กับผัวใหม่สองคน...
ซึ่งจบอยู่แค่นี้ ไม่มีประโยคต่อ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ให้คนอ่านคิดต่อเอง
เนื่องจากหลังจากนั้นเป็นการคำนึงถึงพ่อในความบัดสีของแม่

หรืออย่างในหน้า ๒๐
วันจันทร์ ปู่ ย่า ลุงมาด เมีย ขึ้นรถหกล้อเข้าเมือง
แต่ย่า ลุงมาดและเมียอาศัยลงตลาดซื้อของ
๓ คนเดินกลับสวน
ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แล้วปู่หายไปไหน?
ไม่มีถ้อยคำอธิบายอะไรเพิ่มเติม
ซึ่ง...ตอนแรกคิดว่าเป็นข้อผิดพลาดหรือบกพร่องของผู้ประพันธ์

เหมือนอย่างในหน้า ๑๕๔
ที่แม่ซึ่งพูดกอไก่ไม่ได้ จะออกเสียงเป็นจอจานแทน
กลับพูดจริงๆ เป็น กิงๆ ซะงั้น

แต่พออ่านถึงตอนจบ ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า..
มันอาจจะเป็น clue ที่ผู้ประพันธ์ต้องการทิ้งไว้ให้เห็นความลวงก็เป็นได้
...กระมังนะ

เป็นนิยายที่สามารถเขียนได้เห็นภาพพจน์อย่างเด่นชัด
ตัวละครมีเลือดมีเนื้อ เรื่องราวเข้มข้น
แม้ว่าการจบ – สำหรับเราแล้ว ไม่เต็มอิ่ม
แต่ทำให้เกิดความรู้สึกค้างคา ฉงนใจ และใคร่รู้ไม่สิ้นสุดต่อไป

เรียกว่า อ่านจบ แต่ความรู้สึกบางอย่างมันยังไม่จบน่ะแหละค่ะ

ประโยคและย่อหน้ากลุ่มสุดทายของเรื่องนี้ ขอบอกว่าเด็ดมาก เหอๆ

นอกจากนั้นก็ยังมีสอดแทรกความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
เช่น กรมพระยาดำรงฯ เปลี่ยนจากชื่อบ้านลาวเป็นบ้านทับกวาง
กลางดง ที่สมัยก่อนเรียกว่าเป็นแหล่งชุมนุมเรื่องโลกย์ของเหล่าคนรถ

ที่น่าเสียดายประการหนึ่งของหนังสือเล่มนี้คือ คำผิดค่อนข้างเยอะค่ะ
(ได้รางวัลแล้ว พิมพ์ซ้ำหลายครั้งแล้ว แก้สักนิดก็ดีนะคะ)

หน้า ๑๒๕ ยาแก้ไข – ยาแก้ไข้
หน้า ๑๓๖ เล่ห์กระเท่ห์ – เราคุ้นกับ เล่ห์กระเท่ มากกว่าน่ะค่ะ
หน้า ๑๗๔ “เถียงคำไม่ตกฝากนะ...” – ตกฟาก
หน้า ๑๘๑ ร้านขายข้างแกง – ข้าวแกง
หน้า ๒๔๙ เตี้ยมกันกระโดดหนี – เตี๊ยม
หน้า ๓๐๑ ประโยชน์โพดผล – ตกลงเขาไม่สะกด โภชน์ผลแล้วใช่ปะคะ?
หน้า ๓๑๘ ล้ำเลิกบุญคุณ – ลำเลิก
หน้า ๓๕๑ ยำยี –ย่ำยี
หน้า ๓๕๗ พ่อถูกรถเชี่ยว – เฉี่ยว
หน้า ๓๙๘ เดือนร้อน – เดือดร้อน
หน้า ๓๙๙ ด้วยธนบัตรเป็นบึกๆ – ปึกๆ
หน้า ๔๑๓ เขาโกธรเป็นฟืนเป็นไฟ – โกรธ

หรืออย่างบางอันก็มีการใช้ภาษาที่น่าจะเรียกว่าเป็นภาษาถิ่น?
หรืออาจจะเป็นภาษาที่สมัยนี้บอกว่าถูกแล้วก็เป็นได้ ดังนี้ค่ะ

หน้า ๑๙ ความหวังก็แบ่งบานขึ้น – คุ้นกับเบ่งบานมากกว่าน่ะนะคะ
หน้า ๑๒๒-๑๒๓ ..ก็เจอกับพื้นดินซึ่งแน่นหนันเต็มฝ่าเท้า – แน่นหนัน ภาษาถิ่น?

ปิดท้ายด้วยข้อความที่ชอบของเล่มนี้นะคะ

ผมเรียนรู้แล้วว่าบางคำถามผมยังเยาว์เกินกว่าจะให้คำตอบ
ความตายของความจริงกับความลวง
เราเลือกให้บางอย่างตายและเลือกให้บางอย่างดำรงอยู่ต่อไป

เราก็แค่รู้สึกว่า
สำหรับบางคนก็ยินดีที่จะอยู่กับความลวงที่สวยงาม
มากกว่าความจริงที่ปวดร้าว
มันเป็นวิถีทางการเอาตัวรอดของคนอ่อนแอวิธีหนึ่งค่ะ

เราตีความประโยค "เห็นผลงานของเขาในแท่งหินอ่อนก่อนลงมือแกะสลัก"
เป็นการสกัดเอาความจริง (ที่โหดร้าย) ออก
เหลือแต่ความลวงที่สวยงามตามความคิดของตนเอง

ทว่า..สำหรับเรา
เรายินดีอยู่กับความจริงที่เจ็บปวด
ดีกว่าหลอกลวงตัวเองด้วยคำโกหกที่ทำให้ตัวเองสบายใจค่ะ

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 13:43:52

ความคิดเห็นที่ 30

นิยายภาพ/การ์ตูน – รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
ผู้เขียนเรื่อง – เกษม
ผู้วาดภาพ – เอนก
สำนักพิมพ์ – สยามอินเตอร์คอมมิคส์
จำนวนหน้า ๑๒๗ หน้า
ราคา ๔๕ บาท
เราอ่านการ์ตูนเรื่องนี้หลังดูหนังแล้วนะคะ
แล้วก็ไม่มีข้อมูลว่า การ์ตูนเรื่องนี้ถูกสร้างพร้อมๆ กับหนัง
ก่อนหนัง หรือว่าหลังหนังน่ะนะคะ (ถ้าท่านใดมีข้อมูลก็แชร์กันได้ค่ะ)

เนื้อหาของการ์ตูน เรียกว่า น่าจะเป็นช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะเกิดในหนังค่ะ
มีเล่าตั้งแต่เรื่องของเหมยลี่กับเป็ดสมัยก่อนที่เป็ดจะแต่งงาน
เรื่องราวความเป็นมาของพระเอกของเราก่อนหน้าจะไปเมืองนอก
ฯลฯ

อ่านแล้วก็ทำให้มีความเข้าใจหลายๆ อย่างในหนังเพิ่มขึ้นอีกค่ะ

แต่เรารู้สึกว่า พระเอกในการ์ตูนเรื่องนี้นั้น
จะค่อนข้างขรึมและมีความปวดร้าวมากกว่าในหนังนะคะ

ขณะที่ตัวนางเอกในการ์ตูนกับในหนังจะค่อนข้างใกล้เคียงกันมากกว่า
(แม้ว่าในภาคบู๊ การ์ตูนจะทำให้เห็นด้านนี้ของนางเอกเด่นชัดมากกว่าหนัง)

สรุปแล้วอ่านสนุกค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครชอบหนังเรื่องนี้
ก็น่าที่จะลองหาการ์ตูนมาอ่านดูค่ะ
จะได้ครบเซ็ต อิอิ

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 13:44:28

ความคิดเห็นที่ 31

รวมเรื่องสั้น – จับตาย
ผู้เขียน มนัส จรรยงค์
สำนักพิมพ์ สร้างสรรค์บุ๊คส์
จำนวนหน้า ๑๖๙ หน้า
ราคา ๘๕ บาท

เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ผู้จัดพิมพ์ได้คัดสรรมา
และเห็นว่าเป็นเรื่อง “เอกๆ” ของนักเขียนท่านนี้ค่ะ
รวมทั้งพยายามเลือกเรื่องที่มีความหลากหลายมาให้เห็น “ภาพรวม” ของนักเขียนท่านนี้ด้วย

ไล่ทีละเรื่องนะคะ

จับตาย (2485)
เรื่องราวที่ได้มาจากสมัยที่ผู้เขียนยังทำงานที่เกี่ยวพันกับนักโทษ ณ ท้องถิ่นอันกันดารแห่งหนึ่ง
นักโทษที่มีเรื่องราวชิงรักสาวชาวป่ากับเพื่อนร่วมงานของ “ผม”
กับจุดหักมุมที่บางคนอาจจะคาดไม่ถึง

สำหรับเรา –เรื่องนี้โดดเด่นที่การบรรยายให้เห็นภาพของสภาพแวดล้อมในเรื่อง
การทำให้คนอ่านเข้าถึงบรรยากาศและรู้จักตัวละครได้อย่างรวดเร็ว
แต่ในส่วนของการหักมุม ยังไม่โดนนักค่ะ

เรื่องที่สองเป็นเรื่อง Shoot to Kill (1958)
ซึ่งเป็นเรื่องจับตาย ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร

ซาเก๊าะ (2486)
เรื่องราวของวัวชนซึ่งไม่เคยแพ้ใครนามว่า ซาเก๊าะ
กับการทำร้ายมันเพียงเพราะความโลภโมโทสันของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของ
และการหักหลังอย่างเจ็บแสบที่สุด

สำหรับเราแล้ว ค่อนข้างชอบเรื่องนี้มากกว่าจับตายค่ะ สะเทือนอารมณ์และหักมุมได้โดนดี

ติดขวาก (2489)
เรื่องราวของโจรที่อย่างน้อยก็มีความรักถิ่นเกิด
แม้ว่าความรักถิ่นเกิดนั้น จะทำให้เจ้าตัวต้องจบลงอย่างโหดร้าย
และประโยคปิดท้ายที่ทำให้ต้อง “หึๆ”

สำหรับเรา เรื่องนี้ค่อนข้างโหดร้ายค่ะ ขำขื่นๆ

กากมนุษยธรรม (2490)
กลับไปยังฉากของการคุมขังนักโทษอีกครั้งหนึ่ง
กับเรื่องราวของความเกรงใจ ความยึดมั่นในศักดิ์ศรีจนเรียกว่า..ขอตายหากถูกตราหน้าเป็นเช่นอื่น
ความเห็นอกเห็นใจ และนำพาไปสู่จุดจบของเรื่องแบบแฮปปี้
เป็นเรื่องที่จบแบบถอนหายใจอย่างโล่งอกได้เป็นเรื่องแรกของหนังสือเล่มนี้ค่ะ

เงินแดง (2491)
เรื่องเล่าของความโหดร้ายของ “เมืองหลวง”
ที่ไม่ว่าสมัยไหน ก็ยังคงมีเรื่องราวไม่ต่างกัน
นั่นคือการเอารัดเอาเปรียบจากความซื่อและการเชื่อคนง่ายของคนบ้านนอก
ต่างกันแค่เพียงเวลาและตัวบุคคล
แต่การกระทำ และความเลวร้าย ยังคงเดิม

ท่อนแขนนางรำ (2493)
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของคุณมนัส จรรยงค์ค่ะ
จำได้ว่า เหมือนเคยเอามาทำเป็นเรื่องทางทีวีด้วย นานมากๆ แล้วหละ
เรื่องราวของอ้ายโหงด อัปลักษณ์พิกลพิการ
ที่นอกจากรูปชั่วแล้ว จิตใจก็ผิดเพี้ยน จนกระทำการต่อคนที่ตนหลงรักได้อย่างโหดเหี้ยม
สำหรับเราเรื่องนี้ก็ยังคงน่ากลัวอยู่เสมอค่ะ ตั้งแต่ดูทีวี จนกระทั่งได้มาดูเอง
ก็ยังคงน่ากลัวไม่เสื่อมคลาย

สลัดเครา (2493)
เรื่องราวของกลุ่มคนเรือ การหักหลัง และความเป็นจริงที่แสนจะน่าสะเทือนใจ
ความโลภ เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมได้
อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู้หลายอย่างค่ะ
อย่างไข่ปลาปักเป้า ซึ่งเหมาะกับการเอามาทำเป็นเหยื่อตกปลาจวด
หรือ “กระป้อย” ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งในการใช้ตวงวัดข้าว – เพิ่งจะเคยเจอก็เรื่องนี้แหละ

ใกล้อวสาน (2500)

เรื่องราวขำขื่น (แต่หัวเราะไม่ออก) ของนักเขียนตกยากคนหนึ่ง
ที่ทางออกในการที่จะทำให้เขามีกิน (เพียงแค่มีกิน)
กลับกลายเป็นสิ่งที่หัวร่อไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก
อ่านแล้วก็ได้แต่ทอดถอนหายใจ
และได้แต่ถามตัวเอง อย่างที่ถามบ่อยๆ ว่า
เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมีวัฒนธรรมการอ่านมากกว่านี้กันหนอ?

สัมมนาในทุ่งกว้าง (2503)
หนึ่งในเรื่องราวชุด “เฒ่า” ของมนัส จรรยงค์
ที่น่าจะออกแนวสุขนิยม แนวขำๆ มากกว่าเรื่องอื่นๆ ในเล่มนี้นะคะ
เรื่องราวของกลุ่มผู้เฒ่าที่มานั่ง “สัมมนา” ถกเถียงกันว่า
ถ้ามีเงิน ร่ำรวยแล้วจะเอาเงินนั้นไปทำอะไรกันบ้าง
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วคิดถึงบ้านเกิดมากๆ
คืออ่านแล้วกลิ่นและฉากของบ้านเกิดนี่ลอยมาเลย
พอมาอ่านประวัติทีหลังแล้วได้รู้ว่าคุณมนัสเป็นคนเพชรบุรี ก็เลยถึงบางอ้อเลยค่ะ 555+

หนังสือเล่มนี้มีสำนวนแปลกๆ (ซึ่งน่าจะเป็นสำนวนในยุคสมัยนั้น)
ซึ่งอ่านไปบางทีก็สะดุด บางทีก็รู้สึกว่า โอ้..สมัยก่อนใช้อย่างนี้หรือนี่
เช่น

หน้า 44 โดยจะออกค่าพาหนะให้จนสิ้นเชิง – ก็คือออกให้หมดนั่นเอง

หน้า 44 เจ้าดูเระเป็นวัวขึ้นคานอยู่ที่บันนังสตาเหมือนกัน – วัวขึ้นคาน อิอิ

หน้า 54 แต่ด้วยความจนยากไร้สิ้นไม้ตอกหลังคาเรือนทับหอ
จึงไม่มีคนยอบกะลาหัวเหมือนเขาอื่น – ยอบกะลาหัว เพิ่งเคยเจอนี่แหละ
ส่วนสิ้นไร้ไม้ตอกหลังคาเรือนนี่ก็เพิ่งได้ยินสำนวนนี้เต็มๆ เช่นกันค่ะ

หน้า [24] และกอบด้วยความเข้าใจ – กอปรด้วยนี่มาแปลงทีหลังหรือเปล่านี่?

สิ่งที่อยากให้ทางสนพ.ปรับปรุง ก็เรื่องเดิมค่ะ แต่ยังดีที่น้อยค่ะ ไม่มากนัก
ถือว่าตรวจปรูฟให้นะคะ
เสียดายที่หนังสือคลาสสิคๆ แบบนี้จะยังมีคำผิดอยู่
ถ้าพิมพ์ใหม่ก็แก้ไขด้วยแล้วกันเนาะ

หน้า 17 หนึง – หนึ่งค่ะ ตกไม้เอก

หน้า 166 ย่อหน้าผิดค่ะ โดยเนื้อหายังไม่ต้องขึ้นย่อหน้าใหม่

หน้า [22] มิหน้ำซ้ำ – มิหนำซ้ำ

แล้วก็ในคำนำของหนังสือเล่มนี้ถามหาเรื่องสั้นเอกอีกเรื่องที่หาไม่เจอ
นั่นก็คือเรื่องหุ่นผี เมื่อปีพ.ศ. 2493 ค่ะ

นักอ่านท่านใดที่มีอยู่ในกรุ ลองเสนอไปทางสนพ.แล้วกันนะคะ

สรุปแล้วก็ถือว่าเป็นงานของนักเขียนไทยคนหนึ่งที่ก็น่าจะเก็บไว้สักเล่มค่ะ
นอกจากจะทำให้ได้อ่านเรื่องสั้นของนักเขียนเรื่องสั้นมือเอกคนหนึ่งของเมืองไทยแล้ว
บรรยากาศหลายๆ อย่างในเรื่องนี้ก็เป็นภาพในอดีต ที่เราหาไม่ได้อีกแล้วในสมัยนี้

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 13:45:04

ความคิดเห็นที่ 32

ขอบฟ้าอยู่ใต้ฝ่าเท้า
ผู้เขียน – ตี้ สุรจักร์ ชัยวรศิลป์
สำนักพิมพ์ – พิมพ์บูรพา
จำนวนหน้า 181 หน้า
ราคา 140 บาท

เป็นหนังสือรวมบทบรรณาธิการจากนิตยสาร POP ของคุณตี้ค่ะ
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าไม่เคยอ่านนิตยสาร POP เลย
เพราะงั้นหัวเราจะว่างเปล่า (แต่ไม่กลวงนะ หุๆ) ว่านิตยสารเล่มนี้เป็นไงบ้าง
จะขอรีวิวเฉพาะตัวบทบรรณาธิการที่ได้อ่านนะคะ

ก่อนอื่นคิดว่าตัวบ.ก.เอง อายุอานามน่าจะใกล้เคียงกับเราค่ะ
เพราะอ่านเธอกับฉันรุ่นคุณสถาพร ซึ่งเราก็ทันอ่านเช่นกัน
(จำได้ว่าตอนม.ต้นมั้งคะ ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็นบอกออีกท่าน เหอๆ)

เป็นบทบรรณาธิการที่แต่ละบทก็มีความหลากหลาย
และสร้างความรู้สึกอันหลายหลากให้แก่คนอ่าน (อย่างข้าพเจ้า) ยิ่งนัก
บางบทตอนก็อึ้งๆ บางบทก็ส่ายหัวไม่เห็นด้วย
บางบทก็ขำหึๆ บางบทก็เล่นเอาน้ำตาคลอ
บางบทก็ทำให้เราเกิดคำถาม บางบทก็ทำให้เราอยากหาคำตอบ
ฯลฯ

อย่างบทการศึกษาในกะลา
ซึ่งผู้เขียนเล่าเรื่องที่ตนเองวาดต้นกล้วย ไม่วาดเป็นต้นไม้ธรรมดาอย่างคนอื่นเขา
แต่กลับถูกครูปอหนึ่งคนนั้นต่อว่า และบอกให้วาดตามปกติ
ซึ่ง..เราคิดว่า เจ้าตัวน่าจะอยากวิพากย์เรื่องของระบบการสอน
ที่ไม่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์น่ะค่ะ
ซึ่งจุดนี้เราค่อนข้างเห็นด้วย
แต่ด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีกับเด็กนักศึกษา ณ ปัจจุบัน
เรากลับเจอนักศึกษาที่อยากจะเอาแต่ “ต่าง” “แปลก” และ “แหวก”
จนไม่สนขนบ ขั้นตอน หรือแกนว่า มันมีมาตรฐานของมันเช่นไร
เพราะงั้นสำหรับเราคิดว่า ระบบการสอนควรหาวิธีที่จะควบคู่กันไปค่ะ
ทั้งสอนให้เขาได้รู้ว่า สิ่งที่เป็นมาตรฐานและแกนของมันคืออะไร
ขณะที่ก็ได้เปิดโอกาสให้เขาได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย

อย่างกรณีนี้ถ้าเป็นเรา เราคงให้เด็กวาดตามก่อน
จากนั้นก็ให้เป็นการบ้านเพิ่มเติมว่า นักเรียนกลับไปบ้านนะคะ
คราวนี้ไปวาดต้นไม้อย่างอื่นที่ไม่เหมือนที่ครูวาด
พร้อมกับเขียนส่วนต่างๆ มาประกอบด้วย เป็นต้น

เพราะสำหรับการศึกษาแล้ว เราคิดว่าเด็กควรรู้ทั้งสองด้านค่ะ
แล้วก็..เด็กปัจจุบันน่ะ คนไหนไม่ต่าง ไม่แปลก หรือที่เรียกว่าใครที่เป็นปกติ เรียบง่าย
กลับกลายเป็นคนแปลกไปแล้วค่ะ ณ ปัจจุบันนี้

อ่านๆ ไป นอกจากได้ทราบเรื่องของทัศนคติและความคิดเห็นของเจ้าตัวแล้ว
บางอย่างก็ต้องโน้ตไว้ว่าจะไปหาเพิ่มเติม
เช่น งานเขียนของคุณปกรณ์ พงศ์วราภา กับ “ผมเพียงแต่อยากจะบอกว่า” มาอ่าน
หรืออยากลองไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวปลาซอยสุขุมวิท 39 สักครั้ง เป็นต้น

แต่อันหนึ่งที่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างสุดใจ
คือเนื้อหาในบทหากเสียงของไดโนเสาร์มีความหมาย
กับประโยคที่ว่า
“ภาษาไทยไม่ใช่เรื่องของรสนิยม จะชอบไม่ชอบก็ต้องใช้ให้ถูก”

ส่วนในบท “คิดนอกคอก”
เจ้าตัวเขียนถึงข่าวที่ดาราถูกถอดจากบทเนื่องจากด่าแม่ของตนเอง
ซึ่งเจ้าตัวไม่เห็นด้วย เพราะควรจะดูที่ฝีมือหรือผลงานมากกว่า
แถมตบท้ายอีกว่า มิน่า วงการถึงมีแต่ดาราแสดงห่วย แต่นิสัยดีเต็มไปหมด
(จริงหรือ??? – เราถามเอง)

อันนี้เราไม่ค่อยจะเห็นด้วยนะคะ
เพราะวิธีคิดแบบนี้จะเป็นการสร้าง “คนเก่ง” แต่ไม่ดีน่ะค่ะ
สำหรับเรา ควรสนับสนุนคนที่ดีด้วยและเก่งด้วย
เพราะมันจะเป็นการเอื้อต่อสังคมที่ดีมากกว่าสนับสนุนคนเก่งที่ไม่ดี
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า..ต้องเสแสร้งดี
(คือการเสแสร้งดี เราว่า..วันหนึ่งมันก็ต้องเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงอยู่ดีหนะแหละค่ะ
จะมีใครเสแสร้างได้ตลอดชาติกันบ้างเล่า)

อ่านบทนี้จบก็ทำให้เกิดคำถามกับตัวเองว่า
บางครั้งการที่เราจะไปว่าใครเขาคับแคบ
ก็ต้องถามตัวเองเช่นกันว่าเราน่ะ “กว้าง” แค่ไหนกัน?
(สำหรับเรา เราให้คำตอบกับตัวเองตั้งนานแล้วว่าเราไม่ใช่คนใจกว้าง
เพราะเราไม่ได้รับได้กับทุกการกระทำค่ะ
อย่างเรื่องมือที่สาม เป็นชู้นี่ เหอๆ เราไม่เคยรับได้มาตลอดชีวิตน่ะนะ)

สรุปแล้วก็เป็นรวมบทบรรณาธิการที่อ่านแล้วกระตุ้นอะไรหลายอย่างค่ะ
ไม่ได้เห็นด้วยทุกเรื่อง แต่อ่านแล้วชวนใคร่ครวญคิดดี
และเป็นคนที่เขียนหนังสืออย่างค่อนข้างเปิดตัวเองค่ะ
ไม่เสแสร้งเป็นคนดี แต่ก็ไม่ได้พยายามเถื่อนถ่อยเพื่อจะให้ “เก๋” ค่ะ

รูปจาก http://www.thaiwriter.net/forum01/index.php?topic=5719.0

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 13:49:21

ความคิดเห็นที่ 33

น้องโบคะ moonstar
อาร์ทิมิส ฟาวล์นี่หยิบหนังสือของน้องสาวมาอ่านค่ะ
ชอบมากกว่าแฮรี่ พอตเตอร์นะ แต่อ่านไปแค่ 2เล่มเองค่ะ (เท่าที่นำมาตอบโจทย์)

วรรณกรรมแฟนตาซีพวกนี้ชอบมากสุด หัวขโมยแห่งบารามอสค่ะ ชุดนี้ก็ของน้องสาวเหมือนกัน แต่เรื่องนี้อ่านได้จบทุกเล่มเลย

รองานสัปดาห์หนังสือว่าจะซื้อผู้เสกทรายนะ ชอบปกสวยและชื่อเรื่องด้วย อีกทั้งแรงเชียร์จากเพื่อนๆในนี้ คงต้องหลวมตัวแล้วล่ะ(หลังจากอ่านไมรอนจบเล่มนี้ก็ของน้องอีกเช่นเคย5555)

วันนี้ว่าจะซื้ออาหรับราตรี กับพันหนึ่งทิวาร้านนายอินทร์ เสียดายอาหรับราตรีเหลืออยู่เล่มเดียวมันเลยดูมอมๆ ไปนิด

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 14:18:00

ความคิดเห็นที่ 34

คุณสาวไกด์
การ์ตูนที่ออกมาชื่อเดียวกับหนัง เท่าที่สังเกตุจะวางแผงก่อนหนังเข้าเล็กน้อย
เป็นแผนการตลาดอย่างนึงอ่ะคะ ..และมักจะเขียนเนื้อหาเสริมกับเนื้อเรื่องของหนัง ...
ส่วนใหญ่ก็จะเช่ามาอ่าน ...มีเรื่องนี้กับแฟนฉันนั่นแหละ ที่เราซื้อการ์ตูนมาไว้ใน collection ด้วย
^^ ชอบเป็นพิเศษ

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 22:37:33

ความคิดเห็นที่ 35

จับตาย น่าสนใจค่ะ ชอบเรื่องสั้นของ มนัส จรรยงค์ ค่ะ

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 01:28:23

ความคิดเห็นที่ 36

10-3. [Clear Ice - หมูย้อมสี] หนังสือที่มีชื่อเป็น "ตัวเลข”: อ่านหนังสือที่มีตัวเลขอยู่ในชื่อเรื่อง เช่น 824, one for money (ชุดวีรกรรมทำเพื่อเงิน) แต่ถ้าเป็นชื่อตอนหรือชื่อภาคเฉย ๆ เช่น ตอนที่ 2, ภาค 2 ไม่ได้

เด็กชายเลขที่ 34
ผู้เขียน ENZO (เอินจั่ว)
ผู้แปล อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
สำนักพิมพ์ : a book, สนพ.
ราคา: 320.00 บาท

คำโปรยหลังปก
ในบึงไม่มีลูกอ๊อดเหลืออยู่อีกเลยแม้แต่ตัวเดียว ลูกอ๊อดทั้งหมดขึ้นฝั่งหมดแล้ว แล้วเด็กชายเลขที่ 34 จะได้เดินไปถึงวันที่เขาเติบโตบ้างหรือไม่?

ความรู้สึกส่วนตัว : ชอบเพราะมันให้ความรู้สึกว่าใช่เลย
เป็นเรื่องราวของเด็กชายเลขที่34 ที่ทุกวันสามารถนอนตื่นสายได้ ไปวิ่งเล่นได้ตามต้องการโดยที่พ่อแม่ไม่ว่าอะไร จนวันหนึ่งเลขที่34ต้องตื่นเช้าเพื่อไปโรงเรียน ทำอะไรตามกรอบ ตามที่ครูสั่ง
เลขที่34ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ใหญ่บอกเพียงว่าสักวันหนึ่งเธอจะเข้าใจ (แล้วนะตอนนี้ผู้ใหญ่เข้าใจหรือยัง) ด้วยความไม่เข้าใจเขาจึงทำอะไรแตกแถวไปเรื่อย โดนลงโทษไม่เว้นวัน ไม่มีเพื่อนคนใดคบหา เพราะผู้ใหญ่ต่างคิดว่าเขาเป็นเด็กไม่ดีจึงห้ามไม่ให้ลูกๆไปเล่นกับเลขที่ 34
เขาจึงหาเพื่อนเล่นใหม่เป็นลูกอ๊อดตัวสุดใต้ในบึงน้ำ เขาจับมันใส่ขวดนำไปแอบไว้ใต้เตียง เฝ้ามองการเติบโดของมัน พามันไปในที่ต่างๆ โดยไม่มีใครรู้ เขารู้สึกมีความสุข แต่สุดท้ายความลับไม่มีในโลก เขาถูกสั่งให้นำลูกอ๊อดไปทิ้ง (เกิดคำถามขึ้นในใจ ??)
เขาเหงา เขาเศร้า จึงหนีออกจากบ้านไปตามหาลูกอ๊อดที่เขานำไปซ่อนไว้ แต่ไม่มีแล้วเพราะลูกอ๊อดได้เติบโตเป็นกบและจากไปแล้ว เขากลับมาที่บ้านเห็นพ่อแม่เสียใจร้องไห้ ผู้คนมากมายเฝ้าตามหาเขา เขาจึงได้รู้ว่าชีวิตไม่ได้เป็นของเขาคนเดี่ยว แต่ยังเป็นของคนที่รักเขาด้วย

จากคุณ : เด็กใต้..ตัวดำ

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 15:07:42

ความคิดเห็นที่ 37

คุณนัทธ์

เราไม่มีการ์ตูนแฟนฉันค่ะ เสียดายเหมือนกัน ไม่รู้ว่ามีขาย ไม่งั้นจะไปตามซื้อเก็บ แหะๆ

คุณกุลธิดา

ถ้าชอบเรื่องสั้นของคุณมนัส

ซื้อเล่มนี้ได้เลยค่ะ เรื่องเอกๆ หลากหลายแนวดีค่ะ

อ่านโอตาคุจบแล้ว แต่ขอเขียนรีวิวก่อน เสร็จแล้วจะเอามาแปะนะคะ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 15:09:44

ความคิดเห็นที่ 38

คุณเด็กใต้..

อืมม์..ชอบประโยคสุดท้ายค่ะ

ชีวิตไม่ได้เป็นของเราคนเดียว แต่ยังเป็นของคนที่รักเขาด้วย

เพิ่งคิดได้อย่างประโยคนี้เมื่อโตมาสักพักแล้วนี่แหละค่ะ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 17:58:45

ความคิดเห็นที่ 39

ช่วงนี้งานเยอะขึ้นแล้วค่ะ เดือนนี้ต้องออกตจว.และมีอบรมเยอะ สงสัยว่าคะแนนจะเดี้ยงแน่ๆ เลย มารีวิวตอบโจทย์หนึ่งข้อนะคะ

30-4 [Clear Ice] Animal Lover : อ่านหนังสือที่มีชื่อสัตว์อยู่ในชื่อหนังสือจำนวนกี่เล่มก็ได้ ให้มีหน้าเฉพาะ "เนื้อหา" ((คำนำ สารบัญ หน้าโฆษณา ฯลฯ ไม่นับ)) รวมกันแล้วเกิน 1000 หน้า ถ้าอ่านเกิน 2000 หน้าได้โบนัส 10 คะแนน โจทย์ข้อนี้ห้ามอ่านการ์ตูนหรือนิยายภาพนะคะ

ชื่อสัตว์ในที่นี้ จะเป็นสัตว์ที่มีอยู่จริง เช่น แมว ปลา นก ฯลฯ รวมคำที่มีความหมายของชื่อสัตว์เหล่านั้นด้วย เล่น วิฬาร์ มัจฉา สกุณา หรือเป็นสัตว์ในตำนาน เช่น มังกร ฟินิกส์ ฯลฯ นั้นใช้ได้หมด แต่ไม่ให้เป็นสัตว์ที่มีร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นมนุษย์หรือมีอิทธิฤทธิ์แปลงร่างเป็นคนได้ เช่น เงือก สฟิงค์ นาค ครุฑ ฯลฯ

หนังสือ : The Girl with the Dragon Tattoo (The Millennium Trilogy I)
เขียนโดย : Stieg Larsson
แปลโดย : Reg Keeland
สนพ. : Publisher: Quercus (24 July 2008)
จำนวนหน้า : 554 หน้า

จากปกหน้า

สี่สิบปีก่อน แฮเรียต แวนเกอร์ (Harriet Vanger) หายตัวไป ได้เวลาที่จะค้นหาความจริงแล้วว่าเป็นเพราะเหตุใด - ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม

จากปกหลัง

"ผมอยากให้คุณหาว่าใครในครอบครัวนี้เป็นคนฆ่าแฮเรียต และใครเป็นคนที่ใช้เวลากว่าสี่สิบปีพยายามทำให้ผมเป็นบ้า"

นักธุรกิจอุตสาหกรรม...
เฮนริก แวนเกอร์ (Henrik Vanger) ประธานของบริษัทแวนเกอร์ทุกข์ทรมานจากการสูญเสียหลานสาวเมื่อสี่สิบปีก่อน เขามั่นใจว่าสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวเป็นฆาตกร

นักหนังสือพิมพ์...
มิคาเอล บลอมค์วิสท์ (Mikael Blomkvist) ขุดค้นลึกเข้าไปในอดีตของเหล่าสมาชิกในตระกูลแวนเกอร์ เพื่อไขความจริงเบื้องหลังปริศนา แต่ใครบางคนต้องการให้อดีตเป็นความลับ และจะทำทุกวิถีทางที่จะหยุดเขา

หญิงสาวผู้มีรอยสักมังกร...
ลิสเบ็ธ ซาลานเดอร์ (Lisbeth Salander) หญิงสาวผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย เธอเป็นคนแปลกเข้าใจยากและมีคดีติดตัว ได้เข้ามาช่วยมิคาเอล ... เธอเป็นแฮ็คเกอร์อัจฉริยะ และไม่อดทนต่อใครหน้าไหน สังคม หรือว่ากฎหมาย

...

หนังสือเล่มนี้ซื้อมาเพราะมีคนเคยมาแนะนำในกระทู้ไหนสักกระทู้ในห้องสมุดค่ะ และพอเปิดเช็คดูในอเมซอนก็พบว่า หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกของ The Millennium Trilogy ที่ดังและขายดีมาก ในอเมซอนมีคนมารีวิวเยอะและได้รับรีวิวที่ดีทีเดียว

Stieg Larsson ผู้เขียนเรื่องนี้เป็นชาวสวีเดน เขาเสียชีวิตอย่างไม่คาดฝันในปี 2004 หลังจากที่ส่งต้นฉบับ The Millennium Trilogy ครบนี่ล่ะค่ะ

สำหรับเล่มแรกนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเปิดและปูพื้นตัวละครเป็นหลัก

เนื้อเรื่องเปิดมาที่เฮนดริก แวนเกอร์...ได้รับของขวัญวันเกิดเป็นดอกไม้แห้งใส่กรอบในวันเกิดปีที่ 82 เหมือนอย่างที่ได้รับทุกปีตั้งแต่แฮเรียต...หลานสาวของเขาหายตัวไป ... เขาเชื่อมั่นว่า ฆาตกรที่ฆ่าแฮเรียตเป็นคนส่งมาตอกย้ำความทุกข์ของเขา

มิคาเอล...บรรณาธิการนิตยสารมิลเลเนี่ยมถูก set up และโดนศาลตัดสินว่าผิดในข้อหาหมิ่นประมาทเวนเนอร์สตรอม (Wennerstrom) ... เขาถูกปรับเป็นเงินก้อนใหญ่ และจะต้องจำคุก 3 เดือน ... แน่นอนว่ามิคาเอลประสบปัญหาการเงิน และสูญเสียความน่าเชื่อถือในอาชีพไป

ลิสเบ็ธ...เป็นหญิงสาวที่มีวัยเด็กอันแสนวุ่นวาย เธอเป็นคนแปลกที่ใครต่อใครคิดว่ามีปัญหาทางจิต แอนตี้สังคม เธอได้รับโอกาสให้ทำงานในฐานะนักค้นข้อมูลให้กับ Minos ... ซึ่งเป็นบริษัทของดรากัน อาร์มานสกี้ บริษัทด้านการปลอดภัยอันดับต้นๆ ... เธอเป็นหญิงสาวตัวเล็กสูงไม่เกินห้าฟุต มีรอยสักรูปตัวต่อที่คอ รูปมังกรที่ไหล่ และรูปอื่นๆ อีก ถึงเธอจะอายุ 24 ปีแล้ว แต่ดูผาดๆ เหมือนเด็กอายุ 14 ปี

เดิร์ทช์ (Dirth) ทนายของเฮนดริกติดต่อบริษัทของอาร์มานสกี้ให้ช่วยค้นข้อมูลของมิคาเอล เพื่อใช้ต่อรองให้มิคาเอลรับทำงานให้เฮนดริก แน่นอนว่า...คนที่ทำหน้าที่ค้นข้อมูลคือลิสเบ็ธ

งานที่เฮนดริกมอบหมายให้มิคาเอลทำในระยะเวลา 1 ปีก็คือ เป็นโกสต์ไรเตอร์เขียนประวัติของเฮนดริก และ...งานที่สำคัญกว่านั้นก็คือ...หาตัวฆาตกรที่ฆ่าแฮเรียต ซึ่งเฮนดริกมั่นใจว่า เป็นใครคนหนึ่งในตระกูลแวนเกอร์

ยิ่งมิคาเอลสืบค้นลึกเข้าไป เขาก็ยิ่งได้รู้ความลับและอดีตดำมืดของตระกูลแวนเกอร์ และ...แน่นอนว่า...มีใครบางคนที่ไม่ต้องหารให้เขารู้ความลับนี้

...

สไตล์การเขียนของ Stieg Larsson ทำให้ไอซ์นึกถึงนักเขียนสวีดิชอีกคนคือ Henning Mankell ซึ่งเขียนแนวสืบสวนสอบสวน ซีรียส์ที่ดังของเขาก็คือซีรียส์ที่มีนับสืบวอลแลนเดอร์ (Inspector Wallander) เป็นตัวเอกค่ะ ... ไอซ์อ่านซีรียส์นี้ได้ 5-6 เล่มแรกมั้งคะ อ่านนานแล้วเลยไม่มีรีวิวไว้ เรื่องที่ชอบมากๆ คือ Sidetracked ซึ่งเป็นเล่ม 5 และ Faceless Killers ซึ่งเป็นเล่มแรกค่ะ เรื่องอื่นๆ ก็สนุกนะคะ

สไตล์ที่ว่านี้คือ จะดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน เก็บรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่เนิบนาบแบบนักเขียนอังกฤษนะคะ เพราะมีอะไรให้กระตุกและหลอกให้อยากรู้และอยากอ่านต่อเป็นระยะๆ ... ไม่ถึงกับวางไม่ลง แต่ก็เป็น page-turner ได้ดีพอสมควรค่ะ

อาจจะเป็นเพราะคาดหวังมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะรีวิวดีมากๆ เลยคิดว่าอ่านแล้วจะต้อง "ว้าว" แน่ๆ แต่อ่านแล้วก็รู้สึกว่า สนุกดีอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรที่พิเศษมากถึงขนาดนั้น

ส่วนตัวไอซ์คิดว่า พล็อตค่อนข้างธรรมดา เปิดมาก็เดาเรื่องได้แล้วว่าเป็นอย่างไร แต่ที่น่าสนใจก็คือ

- วิธีการสืบหาความจริงซึ่งต้องไล่ตามจากเอกสารและรูปถ่ายเก่าๆ ตัวผู้ต้องสงสัยเยอะมากๆ เพราะแวนเกอร์เป็นตระกูลใหญ่ และเรื่องราวก็ผ่านมานานกว่าสี่สิบปีแล้ว

- และ...ตัวละคร ซึ่งมีความแปลกออกไปตามภาษาชาวสวีดิชนะคะ

มิคาเอลเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 40 กว่าๆ หน้าตาดี เคยแต่งงานแล้วมีลูกหนึ่งคนแต่ก็ต้องเลิกรากันไปเพราะนิสัยเรื่องผู้หญิงของเขา ... เขานอนกับผู้หญิงไม่เลือกจริงๆ เขามีความสัมพันธ์กับริกกี้ หรือ Erika Berger เพื่อนสนิทและเป็นเจ้าของนิตยสารมิลเลเนี่ยมร่วมกัน ทั้งๆ ที่ริกกี้นี่ก็แต่งงานแล้ว สามีของริกกี้ก็รู้ -_-" ... เขาเป็นคนใจดี มีศีลธรรมในเรื่องอื่นๆ นะคะ เป็นคาแร็กเตอร์ทีอ่านไปแล้วก็อดเอาใจช่วยไม่ได้

ลิสเบ็ธเป็น Asperger Syndrome ซึ่งเป็นอาการทางออทิสติกอย่างหนึ่งค่ะ ทำให้เธอเข้ากับสังคมได้ยาก มีความสัมพันธ์กับคนได้ยาก และถูกจับให้เป็นเหยื่ออยู่เสมอ แต่เธอก็ไม่ได้งอมืองอเท้านะคะ เธอก็พยายามต่อสู้กลับไปในแบบของเธอเอง เวลาเธอตอกกลับใครนี่เจ็บแสบได้ใจดีแท้ๆ ... นอกจากนั้นเธอยังเป็นแฮ็กเกอร์อัจฉริยะและเป็นคนที่มีความจำแบบ Photographic Memory คือเห็นอะไรเพียงแว่บเดียวก็จำได้แม่น

ตัวละครอื่นๆ อย่างริกกี้ก็น่ารักแบบฮาๆ ดี เธอเป็นสาวสวยจากตระกูลผู้ดีเก่าที่เข้ากับคนได้ง่ายและทำให้คนเชื่อใจได้ง่ายๆ เป็นคนง่ายๆ กับเรื่องความสัมพันธ์มากๆ เวลาเธอสติแตกกับมิคาเอลนี่ขำดี

สรุปว่า...อ่านแล้วก็ชอบนะคะ แต่ไม่ถึงกับ "ว้าว" สำหรับเล่มนี้ดูจะปูพื้นตัวละครเยอะตามประสาเล่มแรกของ Trilogy หวังว่าเล่มต่อไปจะสนุกและตื่นเต้นกว่านี้นะคะ

ส่วนอีกสองเล่มที่เหลือคือ The Girl Who Played with Fire และ The Girl Who Kicked the Hornet's Nest ... ตอนแรกจะอ่าน 2 เล่มนี้มาตอบโจทย์ แต่สงสัยจะอ่านไม่ทันแหงๆ เลยค่ะ ^^"

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 18:33:02

ความคิดเห็นที่ 40

อะ...เรื่องนี้มีทำเป็นหนังแล้วด้วย ลองดู trailer กันได้เลย ส่วนตัวไอซ์คิดว่า ดาราที่เล่นเป็นลิสเบ็ธตรงตามที่จินตนาการไว้ค่ะ ส่วนมิคาเอล...แอบคิดว่าน่าจะหล่อกว่านี้หน่อย ฮา

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 18:34:28

ความคิดเห็นที่ 41

หนังสือ : The Lady and the Unicorn
เขียนโดย : Tracy Chevalier
สำนักพิมพ์ : HarperCollins; New edition edition (7 Jun 2004)
จำนวนหน้า : 288 หน้า
ภาษา : อังกฤษ

รายละเอียดจากปกหลัง

...มันเป็นการจ้างงานครั้งสำคัญในชีวิต...

Jean Le Viste ชายตระกูลใหญ่รับใช้ใกล้ชิดกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 15 จ้างศิลปินเพื่อออกแบบภาพพรม 6 ชิ้น เพื่อเฉลิมฉลองการเลื่อนยศของเขา

Nicolas des Innocents ฟื้นจากความประหลาดใจที่ได้รับงานนี้เมื่อเขาได้เห็น Claude...ลูกสาวผู้จ้าง

การเกี้ยวพาเธอดึงเขาเข้าสู่ความวุ่นวายของความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยา พ่อแม่และลูกๆ คนรักและคนรับใช้

...มันเป็นแบบภาพที่แปลกใหม่...

ในบรัสเซล Georges de la Chapelle ช่างทอที่มีชื่อเสียงได้รับงานที่ท้าทายที่สุดในอาชีพของเขา เขาไม่เคยรับงานที่ต้องทุ่มเทชนิดหมดหน้าตัก

เขาถูกดึงเข้าไปในโลกแห่งความเย้ายวนและล่อลวง เขาและครอบครัวต่างหมกมุ่นอยู่กับงานที่ได้รับและการรับมือนักวาดภาพผู้เจ้าเล่ห์จากปารีส

...ผลลัพธ์ที่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้อง...

...

ผลงานของผู้เขียนคนนี้ที่โด่งดังมากๆ คิดว่าหลายๆ คนคงชอบและรู้จักก็คือ Girl With a Pearl Earring (หญิงสาวกับต่างหูมุก) นะคะ ตอนโน้นไอซ์อ่านแล้วก็ชอบมากๆ ((ไอซ์ชอบ Vermeer อยู่แล้วด้วย)) จนไปกว้านซื้อผลงานของนักเขียนคนนี้มาดองไว้เยอะเชียว แต่พออ่านเรื่องต่อมาคือ The Virgin Blue แล้วไอซ์กลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ก็เลยวางงานของนักเขียนคนนี้มานานเชียวค่ะ

แต่ได้อ่านรีวิวของ The Lady and the Unicorn แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ซื้อมาดองไว้อีก ((ไม่เข็ด ฮา)) พอดีกับที่โจทย์ใน HHR มีข้อที่ใช้หนังสือที่มีชื่อสัตว์ ไอซ์ก็เลยหยิบมาอ่าน ... แล้วก็...ชอบมากๆ เลยค่ะ >_<

เรื่องของเรื่องก็คือฌอน (Jean Le Viste) ตกลงจ้างนิโคลัส (Nicolas des Innocents) มาออกแบบภาพพรม 6 ชิ้น เพื่อประดับในห้องโถง เขาเติบโตขึ้นมาด้วยเงินน่ะค่ะ ก็เลยอยากแสดงความหรูหราไว้อวดชาวบ้าน

นิโคลัสเป็นศิลปินที่ชำนาญการวาดรูปหญิงสาวและภาพขนาดเล็ก เขาไม่เคยออกแบบภาพพรมมาก่อนเลย ก็รู้สึกแปลกใจที่ได้รับเลือก แต่งานนี้งานยักษ์ ถ้าทำสำเร็จเขาก็จะได้รับเงินก้อนใหญ่ และที่สำคัญ...ไม่มีใครในปารีสขัดใจฌอนได้

นิโคลัสได้ค้นพบว่า คนที่บอกให้จ้างเขาจริงๆ แล้วคือเจเนเวีย (Genevieve De Nanterre) ภรรยาของฌอนต่างหาก ... เธอต้องการให้เขาเปลี่ยนใจสามีจากการออกแบบภาพสงครามเป็นภาพอื่นที่เหมาะจะมอบต่อให้คลาวเด (Claude Le Viste) ลูกสาวคนโตและทายาทของตระกูล

แน่นอนว่า นิโคลัสโน้มน้าวใจของฌอนได้สำเร็จและออกแบบเป็นภาพเหล่าหญิงสาวและยูนิคอร์น

ตามลำดับการทำภาพพรมก็คือ เมื่อนักวาดออกแบบสำเร็จแล้ว ก็จะต้องส่งให้ "ช่างวาดการ์ตูน" ในเรื่องใช้คำว่า cartoonist น่ะค่ะ นำภาพนี้ไปขยายและปรับปรุงเพื่อให้เหมาะกับการทำภาพพรม ก่อนที่ช่างทอจะเอาแบบนั้นไปทอได้

ผู้ที่ได้รับเลือกให้รับงานทอภาพพรมนี้ก็คือจอร์จ (Georges de la Chapelle) ช่างทอพรมที่มีชื่อเสียงในกรุงบรัสเซล ... ครอบครัวของจอร์จประกอบด้วยคริสตีน (Chistine Du Sablon) เอลินอร์ (Alienor De La Chapelle) ลูกสาว และจอร์จจูเนีย ((ขอย่อชื่อให้ค่ะ ชื่อยาวมาก และตัวละครไม่สำคัญเท่าไหร่)) ...ลูกชาย

ช่างการ์ตูนที่เป็นผู้ขยายภาพนั้นทำงานกับจอร์จมานานแล้ว ชื่อ ฟิลิปเป้ (Philippe De La Tour)

คนทั้งหมดในเรื่องมีปัญหาและข้อขัดแย้ง มีความปรารถนา มีความใฝ่ฝัน ทะเยอทะยานที่แตกต่างกัน

กว่าที่ภาพพรมชุดนี้จะเสร็จสิ้น...มันก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนที่ได้สัมผัสกับมันไปอย่างสิ้นเชิง

...

ถ้าเปรียบเรื่อง Girl With a Pearl Earring ละมุนละไมเหมือนกับภาพวาดของเวอร์เมีย เรื่อง The Lady and the Unicorn ก็ฉูดฉาด หวือหวา กระจายความสำคัญของตัวละครให้มีความสำคัญเท่าๆ กัน มีความต่อเนื่องที่แยกจากกันเหมือนภาพพรมค่ะ

สไตล์การเล่าเรื่องจะเล่าจากมุมมองของตัวละครแต่ละตัว เรื่องจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจากมุมมองของตัวละครที่ต่างกัน ... ไอซ์อยากลองเขียนสไตล์นี้มานานแล้ว แต่รู้สึกว่าเขียนให้ได้ดียาก เล่มนี้เป็นตัวอย่างของเรื่องที่เขียนได้ดีและลงตัว

ตัวละครทุกตัวมีข้อเสียเด่นกว่าข้อดี -_-" อ่านแล้วเกลียดขี้หน้าเกือบทุกตัวเลยเชียว

ตรงส่วนที่เป็นตัวเอียงสปอยล์เล็กน้อย ถ้าไม่อยากรู้นิสัยตัวละคร ก็ข้ามไปนะคะ

ฌอน...เป็นคนหยาบกระด้าง เอาตัวเองเป็นหลัก ไม่สนใจภรรยาและลูกๆ

เจเนเวีย...ภรรยาที่หม่นเศร้า อยากเข้าคอนแวนเพราะคิดว่าตัวเองล้มเหลวที่ไม่สามารถมีลูกชายให้สามี สามีก็เย็นชาใส่ ลูกสาวก็ไม่เชื่อฟัง

คลาวเด...เด็กสาวที่เป็นทายาทคนโตที่อยากจะเสียสาวเสียเหลือเกิน ร่านได้อีก

นิโคลัส...เลวได้โล่ห์ วันๆ คิดแต่จะฟันหญิง ฟันจนท้องแล้วก็ทิ้งหน้าด้านๆ แล้วก็หาผู้หญิงคนใหม่

ฝั่งครอบครัวของจอร์จน่าเซ็งน้อยหน่อยค่ะ

จอร์จ...สามีที่รักงานคิดถึงแต่ความเจริญก้าวหน้าของงานจนบางครั้งก็ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นๆ ในครอบครัวเลย

คริสตีน...พ่อของเธอเป็นช่างทอพรม แต่งงานกับจอร์จเพราะเหตุผลทางธุรกิจ เธออยากทอพรมแต่ว่าไม่อาจทำได้เพราะผิดกฎ Guild

เอลินอร์...ลูกสาวของจอร์จ เธอตาบอด และพยายามทำตัวให้มีประโยชน์มากที่สุด ... แต่พ่อก็ยังจะส่งเธอไปแต่งงานกับช่างย้อมสีที่ตัวเหม็นสุดๆ อยู่ดี ... เอลินอร์เป็นตัวละครที่ไอซ์ชอบที่สุดค่ะ

ฟิลลิเป้...ช่างการ์ตูนที่หลงรักเอลินอร์...เขาช่างขี้อายจนทื่อและซื่อบื้อสุดๆ

ทั้งๆ ที่เหล่าตัวละครทั้งหลายมีข้อเสียมากกว่าข้อดี แต่คนเขียนก็เก่งมากๆ เลยค่ะ ที่ทำให้รู้สึกอยากรู้ว่าชีวิตของตัวละครแต่ละตัวจะดำเนินไปอย่างไร มีผลสรุปอย่างไร ((บางตัวก็เชียร์ แต่ส่วนใหญ่แช่งให้มันมีชีวิตอับเฉา 555))

อ่านจบแล้วรู้สึกว่าตั้งชื่อเรื่องผิดไปหน่อยค่ะ ควรจะต้องเป็น The Ladies and the Unicorn เพราะ...ตัวนิโคลัสนี่แหละคือยูนิคอร์นที่เข้าไปสัมผัสและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้หญิงทุกคนในเรื่อง

จุดที่ไม่ชอบเป็นการส่วนตัวมีอยู่นิดเดียวคือ เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส เลยมีภาษาฝรั่งเศสปนมาในบทสนทนาด้วยนิดหน่อย...แปลไม่ออกง่ะ ต้องไปเปิดดิก -_-"

โดยรวมสรุปว่า...สนุกนะคะ ชอบมากเลยล่ะ ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 18:38:09

ความคิดเห็นที่ 42

ภาพพรมที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องนั้นมีจริงๆ ค่ะ เป็นสมบัติของ Jean Le Viste แล้วตกทอดให้คลาวเด แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบ และใครเป็นคนทอพรม ดังนั้นผู้เขียนจึงจินตนาการเรื่องนี้ขึ้นมาเอง ... ซึ่งก็ทำได้เนียนมากเลยเชียว

ปัจจุบันพรมเหล่านี้แขวนอยู่ที่ Musée National du Moyen Age (หรือ Cluny Museum) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เอามาลงในกระทู้หนึ่งรูปนะคะ ... รูปอื่นๆ ดูในบล็อกได้เลยค่ะ สวยอลังการมากมาย >_<

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=clear-ice&month=22-05-2010&group=3&gblog=252
แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 53 18:40:39

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 18:40:08

ความคิดเห็นที่ 43

โจทย์ข้อนี้ตั้งเองด้วยความคิดว่าจะต้องเอาโบนัสให้ได้ แต่...ถึงเดือนสุดท้ายแล้ว งานเยอะบานตะไท น่าจะอ่านไม่ทัน หลังจากที่อ่านตุนไว้แล้วแปดร้อยกว่าหน้า ก็เลยหยิบเล่มนี้มาอ่านสมทบให้เกินพันหน้าเอาคะแนนก่อนละกัน ฮา

หนังสือ : ยาแก้สมองผูก ตราควายบิน
เขียนโดย : วินทร์ เลียววาริณ
สนพ. : บริษัท 113 จำกัด
ปกอ่อน : 227 หน้า
ภาษา : ไทย

จากปกหน้า

ยาแก้สมองผูก ตราควายบิน

สรรพคุณ - แก้อาการสมองผูก คิดไม่ออก ทำให้สมองโล่งโปร่ง ขับถ่ายไอเดียไม่ดี เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์

วิธีใช้ - วันละครั้งจนยาหมด ใช้ซ้ำเมื่อเกิดอาการสมองผูก หรือส่งงานไม่ทัน (ห้ามนักการเมืองรับประทาน)

ปรุงยาโดย - วินทร์ เลียววาริณ

รายละเอียดจากปกหลัง

นัก(อยาก)เขียน จำนวนมากมีปัญหาเรื่องท่อความคิดสร้างสรรค์อุดตัน อาการของบางคนแย่พอ ๆ กับท้องผูก จวนจะได้ผลงานประเภท ‘คิดได้ไง’ อยู่รอมร่อ แต่ขับเท่าไร ก็ไม่ยอมออก และเมื่อขับออก ก็เป็นไอเดียที่ไม่ค่อยน่าดูนัก บางครั้งพิษจากของเสียที่อุดตันก็พาลทำให้เลิกเขียนไปเลย

บ่อยครั้งนักเขียนมีความคิดในหัวมากเกินไป คิดแต่เรื่องเดิม ๆ มุมมองเดิม ๆ เหมือนกินอาหารชนิดเดียวมากเกินไป กินแต่เนื้อ ไม่กินผัก ทำให้เกิดอาการ ‘ท้องผูก’ ทางสมอง ทางที่ควรคือทำการล้างสมอง ลบความคิดที่วนเวียนในหัวออกให้หมด แล้วเริ่มต้นใหม่ ด้วยการใช้ยาแก้สมองผูก

ยาแก้สมองผูก ตราควายบิน สูตรนี้เป็นการรวมวิธีการคิดพล็อตอย่างเป็นกระบวนการ เป็น ‘ยาทางเลือก’ ปรุงสูตรโดย วินทร์ เลียววาริณ ผู้เขียนวรรณกรรมแนวทดลองมานานยี่สิบปี สาธิตการทำงานให้ลงตัวระหว่างศาสตร์กับศิลป์ คุณค่าทางศิลปะกับเส้นตาย

ยาแก้สมองผูก ตราควายบิน สูตรนี้สาธิตการคิดแบบ ‘คิดพล็อตทางเลือก’ อย่างเป็นขั้นตอน สำหรับนัก(อยาก)เขียน ซึ่งนอกจากจะต้องอึดอย่างควายแล้ว ยังต้องมีจินตนาการเช่นนกที่บินอย่างเสรี

...

จากไอซ์ :

ซื้อหนังสือเล่มนี้มาดองไว้สักชาติกว่าๆ แล้ว เพราะจากการอ่านปกหลัง ดูเหมือนว่าหนังสือเล่มนี้จะบอก "สูตรคิดพล็อต" ซึ่ง...ส่วนตัวไม่มีปัญหาด้านนี้ ปัญหาคือ...เอาพล็อตที่มีมาเขียนมากกว่า

สำหรับไอซ์...ขั้นตอนการเขียนที่ง่ายที่สุดคือ "คิดพล็อต" ค่ะ...เป็นขั้นตอนที่ใครๆ ก็ทำได้ ใครๆ ก็คิดพล็อตได้

พล็อตหลัก หรือธีมของเรื่องคิดไม่ยาก ที่ยากกว่าคือ การคิดพล็อตรองและเหตุการณ์ที่จะเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน คิดตัวละครที่สามารถดำเนินเรื่องได้อย่างน่าสนใจ

และ...ยากที่สุดคือ ลงมือเขียนเรียบเรียงความคิดทั้งหมดออกมาเป็นเรื่องราว

ไอซ์ไม่ได้เขียนนิยายเป็นชิ้นเป็นอันมาเกือบหกเดือนได้แล้วมั้ง มีเขียนสะเปะสะปะเรื่องละ 1-2 หน้าไปจนถึง 5-6 หน้าอยู่หลายเรื่อง มีพล็อตทุกเรื่อง แต่เขียนไม่จบสักเรื่อง ... ด้วยปัจจัยทั้งเรื่องข่าวคราว ปัญหาเรื่องการทำงาน ((เดี๋ยวโน่นก็พัง ซ่อมเสร็จ ไอ้นี่ก็พัง เฮ้อ...)) และปัญหาส่วนตัวที่พากันปะเดปะดังเข้ามา ทำให้สมาธิไม่นิ่งพอ และไม่มีอารมณ์ที่จะเขียน ...

ลองหยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่านดูซิว่า...จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ขยันได้ไหม ฮา

หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนค่ะ

ขวดที่ 1 - การสังเคราะห์พล็อต

ในส่วนนี้จะบอกสูตรการคิดพล็อต 34 สูตร โดยสังเคราะห์มาจากสิ่งที่ได้เห็นรอบๆ ตัว เช่น ข่าวหนังสือพิมพ์ โฆษณา บทเพลง ภาพถ่าย ฯลฯ โดยการเอามา แตกพล็อต ทาบกิ่ง ผสมพันธุ์พล็อต ตัดตอน ฯลฯ

อ่านสนุกดีเหมือนกันค่ะ พออ่านไปได้สองสามสูตร ก็เลยไปหยิบกระดาษ-ปากกามาลองทำบ้าง ได้อารมณ์เหมือนทำแบบฝึกหัดเลย

ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่า จาก "วัตถุดิบ" ที่เหมือนกัน แต่เพราะเป็นคนละคนที่มีประสบการณ์และวิธีการคิดที่ต่างกัน ทำให้ได้พล็อตที่ต่างกันออกมาได้

และ...แต่ละคนก็มีสไตล์การคิดและการเขียนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อ่านไปได้หลายๆ สูตรจะพบว่า เดาพล็อตของคุณวินทร์ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการหักมุมที่เป็นแนวเสียดสีแบบตลกร้าย

อ่านขวดนี้จบแล้ว...ได้พล็อตเพิ่มขึ้นมาอีกหลายพล็อตเลยค่ะ มีสองสามพล็อตที่ชอบแล้วคิดว่าน่าจะเอาไปเขียนเป็นเรื่องยาวได้ แต่...จะได้เขียนเมื่อไหร่ฟะ -_-"

ขวดที่ 2 - พล็อตนานานิยาย

การที่จะคิดต่อยอดได้ง่ายและรวดเร็ว ควรจะต้องเป็นคนที่อ่านหนังสือมาก เพราะจะมีวัตถุดิบอยู่ในหัว

ในส่วนนี้จะพูดถึงวิวัฒนาการของนิยาย 3 ประเภทคือ

- จารกรรม
- กำลังภายใน
- แนวไซไฟ

โดยการยกตัวอย่างหนังสือและหนังจากเก่ามาใหม่ ซึ่งนิยายในแต่ละประเภทจะมี "พล็อตหลัก" ที่คล้ายคลึงกัน แตกต่างที่ส่วนผสม และ...พูดถึงการ "ปฏิวัติ" รูปแบบหลักของนิยายประเภทต่างๆ ด้วย

อ่านแล้วก็น่าสนใจดีค่ะ ทำให้อยากอ่านนิยายอีกหลายเรื่องที่ถูกกล่าวถึงในตอนนี้ ... หลายเรื่องก็ดองอยู่ในตู้หนังสือนี่แหละ

ขวดที่ 3 - การเดินทางของดินสอแท่งหนึ่ง

ถอดความจากการบรรยายและสัมมนา หัวข้อ อยู่อย่างสร้างสรรค์ ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2549

รูปแบบจะเป็นการถามคำถามจากนิสิต และมีคุณวินทร์ตอบคำถาม ประเด็กหลักก็เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ และการดำเนินชีวิตให้มีแรงบันดาลใจ สามารถคิดผลงานดีๆ ออกมาได้

เป็นส่วนของหนังสือที่ไอซ์ชอบที่สุดนะคะ เพราะอ่านแล้วได้แง่คิดในการดำเนินชีวิต การทำงาน และการคิดอย่างสร้างสรรค์

การที่จะเป็นนักสร้างสรรค์ที่ดี จะต้องมีความคิดที่เปิดกว้าง ไม่ยึดติดกับกรอบ มีความรอบรู้รอบด้าน เดินทางสัมผัสสิ่งใหม่ๆ สร้างความคิดที่เป็นระบบ และมีตัวเลือก

อ่านแล้วรู้สึกว่าคุณวินทร์เป็นคนที่ active และมีทัศนคติในการทำงานที่ดีมากๆ เลยค่ะ เจอประโยคที่ทำให้จุกเต็มอกเลยคือ

"การออกแบบหรือการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนละเรื่องกับการวางแผนเองเวลานะครับ จิตรกรไม่จำเป็นต้องทำงานตอนที่มีอารมณ์เสมอไป นักเขียนไม่จำเป็นต้องทำงานตอนที่มีอารมณ์เสมอไป เราควรฝึกให้สามารถสร้างอารมณ์ได้ตลอดเวลา นักเขียนอาชีพในโลกล้วนทำงานใต้เส้นตายทั้งนั้น

พูดสั้นๆ ก็คือ ถ้าคุณไม่สามารถที่จะเปลี่ยนทัศนคติในการทำงาน คุณก็ไม่มีวันที่จะสร้างงานที่ดีในเวลาจำกัดได้"

555 อยากฝึกตัวเองให้สามาถสร้างอารมณ์ได้ตลอดเวลาจัง

...

รีวิวเล่มนี้ดูจะไม่มีสาระและอิงตัวเองมากไปหน่อย แต่แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้นะคะ ไม่ใช่เหมาะเฉพาะนักอยากเขียน ((ที่อยากให้ลองอ่านเล่มนี้ดูจริงๆ)) แต่เหมาะกับคนทั่วๆ ไปเช่นกันค่ะ เป็นการเปิดมุมมองในการสร้างความคิด เป็นหนังสือที่อ่านแล้วได้ใช้สมองดี

สรุปว่าชอบค่ะ ^^

((ปัญหาส่วนตัวก็คือ...อ่านจบแล้วยังไม่มีอารมณ์เขียนหนังสือขึ้นมาเลย มีแต่พล็อตที่เพิ่มขึ้น เฮ้อ T^T))

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 18:43:43

ความคิดเห็นที่ 44

สรุป...ข้อนี้เฉพาะเนื้อหา 554 + 288 + 212 = 1054 หน้านะคะ ^^

ขอแปะเฉพาะรีวิวก่อน ค่อยมาคุยวันหลังน้า

สวัสดีพี่ๆ น้องๆ ทุกคนเลยค่ะ ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 53 18:46:25

ความคิดเห็นที่ 45

เล่มสุดท้ายของ The Millennium Trilogy - The Girl Who Kicked the Hornet's Nest ออกมาแล้วค่ะ ยังไม่มีโอกาสได้อ่านเลย

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 02:40:21

ความคิดเห็นที่ 46

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆชาวหนอน เน็ตเจ๊งไป 3-4 วันยังไม่ได้ตามอ่านรีวิวเลยนะครับ
วันนี้แวะมาทำหน้าที่เก็บคะแนนพร้อมประกาศผลรอบแรกของเดือนสุดท้าย
นับคะแนนถึงคห.43 ของพี่ไอซ์นะครับ

ส่วนการบ้านของตัวเอง พรุ่งนี้จะแวะมาแปะรีวิวเก็บคะแนนบ้าง ^^

จากคุณ : PToNZ_PRiNZz (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 04:20:48

ความคิดเห็นที่ 47

มารับไม้ต่อ ไม่ได้เข้ากระทู้มานานมาก...ก ไม่ว่างเลย
พลุจ๋า เหมือนคะแนนมันผิดอ่ะ พี่ต้องได้ 185 ไม่ใช่ 200 อ่ะค่ะ เกินมา 15 คะแนน

อยากเล่นโจทย์คุณเรียวรุ้งด้วยอ่ะ
แต่แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า ผี อยู่หมวดเดียวกัน อ่านได้อย่างเดียว (ใช่ป่าวคะ?)
เลยไม่รู้ว่าในกองดอง จะหาหนังสือตอบโจยท์ได้ครบพันหน้าได้หรือเปล่า

อ่านข้อรักสัตว์คุณไอซ์ครบแล้ว แต่ยังไม่รีวิวค่า ทำงานก่อน ^^

""
แอบกลับมาถามคุณสาวไกด์ ธีม ปฐมบท เล่มที่หนึ่ง ใช้ได้มั๊ยคะ
จะเอาหนังสือพวกที่มีหลายเล่มจบ จะยกเอาเล่มแรกมารวมเป็นธีมเดียวกัน
นักสืบหญิงหมายเลขหนึ่ง เล่ม 1
การเดินทางของคิโนะ เล่ม 1
เยื่อใยอำมหิต เล่ม 1

ได้มั๊ยคะ
แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 53 11:45:29

จากคุณ : smooth night

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 11:24:45

ความคิดเห็นที่ 48

15-8. [หมูย้อมสี] อ่านหนังสือที่มีการบรรยายถึงชีวิตตัวเอกตั้งแต่เด็กจนถึงตายหรือถึงปัจจุบัน

ขวัญสงฆ์
ผู้เขียน ชมัยภร แสงกระจ่าง
จำนวน 159 หน้า
สำนักพิมพ์คมบาง
พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก ตุลาคม 2551
ราคา 140 บาท

ขวัญสงฆ์ สรุปเนื้อเรื่องตามโปรยปกก็คือ เรียงร้อยชีวิตหนูน้อยกำพร้าูผู้เติบโตในทางธรรม นิยายเรื่องนี้มีลักษณะพิเศษที่เป็น "ร้อยแก้วมีทำนอง ร้อยกรองเป็นนวนิยาย" ตั้งแต่ตอนที่ซื้อแล้ว คนขายแนะนำว่า ถ้ายิ่งอ่านออกเสียงจะยิ่งอ่านสนุก เป็นอย่างไร ขอยกตัวอย่างจากบทแรกมาให้ดูกันค่ะ

หนูเป็นเด็กกำพร้าน่าสงสาร ไม่มีบ้านไม่มีพ่อไม่มีแม่ ใครคนหนึ่งรำคาญหนูร้องงอแง จึงเอาหนูวางแบไว้หน้าวัด หลวงตาเดินออกมาหน้ากุฏิ ได้ยินเสียงฉุฉิ-เหมือนเป็นหวัด แท้เป็นหนูกระแด่วกระแด่วเพราะถูกรัด หมาจะฟัดแมวจะฟ้อนหนูก่อนใคร
โชคดีที่หลวงตามาเห็นก่อน
"เฮ้ย ไอ้จ้อน ไอ้เด่น อยู่ที่ไหน มาดูซิ มาดูนี่ ดูอะไร นี่ลูกใครหลานเขาเอามาวาง มดจะกินหมาจะกัดเอาซะแล้ว โถ ตาแป๋วอย่างนี้ดีทุกอย่าง แม่หรือพ่อทิ้งไว้ แสนบอบบาง"
หลวงตาพูดก้มพลางอุ้มขึ้นมา
ตั้งชื่อโดยฉับพลัน "เจ้าขวัญสงฆ์"
เรียกตาส่งยายหนูมาต่อหน้า
"ฉันจะเลี้ยงเด็กคนนี้นะยายตา แต่ทว่าขัดใจฉันเป็นพระ จึงฝากยายเลี้ยงไว้ก่อนให้สอนสั่ง แต่ข้าวปลาคับคั่งมาเถิดหนะ... จะวันไหนวันไหนไม่เลยละ เชิญมาเอาข้าวบาตรพระไปเลี้ยงมัน.."

จากวันนั้นขวัญสงฆ์ก็เติบโตมาอย่างเด็กฉลาดแสนซน ดื้อบ้าง ทำผิดพลั้งบ้าง และถึงแม้หลวงตาและตายายจะเลี้ยงดูอย่างแสนรัก แต่เจ้าขวัญก็ยังฝันถึงบ้าน ฝันถึงพ่อแม่ อยากมีอยากเป็นเหมือนคนอื่นเขา และเพราะความปรารถนานี้เองที่มักนำพาขวัญสงฆ์ให้หลงเดินผิดก้าวพลาด ไม่ว่าจะตอนที่อยู่กับหลวงตา หรือตอนที่ได้ไปอยู่กับครูสุดา แต่หลวงตาและครูก็หาวิธีสอนสั่งให้ขวัญสงฆ์ได้เรียนรู้ชีวิต

ขวัญได้ไปอยู่่กับครูสุดาหลายปีก่อนที่ครูจะแต่งงานและมีลูกของตัวเอง แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เจ้าขวัญไม่เป็นที่รักที่เอ็นดูเหมือนเดิม แต่เจ้าขวัญก็พยายามทำสมาธิจนเกิดปัญญาและพยายามทำตัวเป็นเด็กดีให้มากขึ้นไปอีก ทำงานบ้านทุกอย่าง ดูแลเลี้ยงน้องอย่างดี จนบางทีก็ไม่ได้ไปโรงเรียน แต่ความดีของขวัญก็ยังไม่ทำให้พ่อแม่เห็นแจ้ง จนทำให้เกิดเหตุให้ไล่ขวัญออกจากบ้าน ขวัญกลับไปอยู่กับหลวงตาที่วัด แม้ตอนหลังพ่อแม่มารับ หลวงตาก็ไม่ได้ให้ขวัญกลับไปด้วย เพราะเห็นแล้วว่ากลับไปก็รังแต่จะทำให้อนาคตมืดมน หลวงตาอยากให้ขวัญสงฆ์บวช ตอนแรกขวัญยังไม่อยากบวช แต่เมื่อเกิดเหตุสูญเสียผู้ใหญ่ที่เป็นที่รักคนหนึ่ง จึงตัดสินใจบวช และต่อมาได้จากวัดไปเรียนปริยัติในเมือง จนเมื่อกำลังสอบชั้นม. ปลาย หลวงตาอาพาธหนัก เณรขวัญจึงตัดสินใจเลิกเรียนออกมาดูแลหลวงตาอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดูแลหลวงตาที่โรงพยาบาล แรกๆ เณรขวัญก็หวั่นไหวไปกับพยาบาลสาวที่มาดูแลหลวงตาบ้าง แต่ด้วยดวงตาเห็นธรรม 3 ปีที่ดูแลหลวงตา ได้เรียนรู้เห็นสัจธรรมของชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย หลายชีวิตในโรงพยาบาล

เมื่อสิ้นหลวงตาเณรขวัญบวชเป็นพระ และด้วยความเป็นพระหนุ่มรูปงามจึงมีมารผจญหลากหลายทั้งหญิงสาว ทั้งสรรเสริญ ทั้งเงินทองที่ญาติโยมถวาย สุดท้ายพระขวัญตัดสินใจออกธุดงค์ พระขวัญสงฆ์ออกธุดงค์อยู่หลายปีก่อนจะกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงตาที่ขวัญสงฆ์เติบโตมา กลับมาพัฒนาวัด พัฒนาคน หลังจากที่วัดนี้เงียบเหงาคนไม่เข้าวัดในระยะหลัง

ขวัญสงฆ์ เด็กน้อยแม้เลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็เลือกทำเลือกเป็น สร้างสรรค์ชีวิตลิขิตทางของตนเองได้

เรื่องนี้ยังมีตัวละครที่น่าสนใจอีกหลายตัวที่ทำให้ร้อยแก้วมีทำนองเรื่องนี้สนุก และซาบซึ้งค่ะ นอกจากเนื้อเรื่องสนุกแฝงแง่คิด การเล่าเรื่องที่พิเศษ รูปประกอบแต่ละบทยังน่ารักด้วยค่ะ เป็นลายเส้นง่ายๆ แต่ได้อารมณ์

จากคุณ : เที่ยงวัน

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 19:02:41

ความคิดเห็นที่ 49

กระทู้เงียบจังเลยนะคะ มารีวิวต่อละกันค่ะ

20-4. [piccy] อ่านหนังสือรวม 3 เล่ม จากคนละประเทศ นับจากสัญชาติคนแต่ง จะเป็นฉบับแปลหรือไม่แปลก็ได้

เล่มที่ 1 เคท ดิคามิลโล - อเมริกัน

หนังสือ : เอ็ดเวิร์ด ทูเลน ตามหาหัวใจไกลสุดฟ้า
ผู้เขียน : เคท ดิคามิลโล
ผู้แปล : งามพรรณ เวชชาชีวะ
ภาพประกอบ : บักแกรม อิบาทูลลีน
สำนักพิมพ์ : เพ็ทแอนด์โฮม
ปกอ่อน : 215 หน้า
ภาษา : ไทย (แปลจากภาษาอังกฤษ)

จากปกหลัง

ครั้งหนึ่ง ณ บ้านหลังหนึ่งบนถนนอียิปต์ ยังมีกระต่ายกระเบื้องตัวหนึ่งชื่อเอ็ดเวิร์ด ทูเลน อาศัยอยู่ กระต่ายพึงพอใจในตัวเองมากและมีเหตุผลอันสมควร กระต่ายตัวนี้เป็นของเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ อะบิลีน เด็กหญิงปฎิบัติต่อกระต่ายด้วยความเอาใจใส่เหลือเกินและยังชื่นชมรักใคร่เป็นที่สุด แต่แล้ววันหนึ่ง เอ็ดเวิร์ดก็พลัดพรากจากเจ้าของ

เคท ดิคามิลโล พาเราสู่การเดินทางไม่ธรรมดา เริ่มจากก้นมหาสมุทรสู่อวนของชาวประมง จากยอดกองขยะสู่ริมกองไฟของหมู่ชนพเนจร จากข้างเตียงเด็กป่วยสู่ถนนเมืองเมมฟิส บนเส้นทางนี้เองที่ผู้อ่านจะได้พบเห็นสิ่งปาฎิหาริย์ของแท้ ปาฎิหาริย์ที่ว่าแม้แต่หัวใจที่แตกสลายได้ง่ายที่สุดก็ยังสามารถเรียนรู้ที่จะรัก ที่จะสูญเสียและเกิดรักขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง

...

จากไอซ์ :

มีช่วงหนึ่งที่เพื่อนบล็อกรีวิวหนังสือเล่มนี้กันเยอะมากๆ เลยทำให้สนใจ ว่าจะซื้อๆ อยู่หลายครั้งก็ลืมเสียทุกที เพิ่งจะได้ซื้อมาเป็นเจ้าของสักปีที่แล้วนี้เอง แล้วก็...ดองตามระเบียบ ฮา

พอหยิบขึ้นมาอ่านเห็นชื่อนักเขียนก็ยิ้ม โอ้...Kate Dicamilo คนที่เขียนเรื่อง The Tale of Despereaux นั่นเอง อ่านเล่มนั้นแล้วชอบนะคะ เคยรีวิวไว้ที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=clear-ice&month=03-2005&date=16&group=3&blog=15 จำได้ว่าเป็นนักเขียนหนังสือเด็กที่...ไม่เด็กจนเกินไป ผู้ใหญ่อ่านได้ดี

เอ็ดเวิร์ด ทูเลน เป็นตุ๊กตากระต่ายที่ทำจากกระเบื้อง หูทำจากขนกระต่ายจริง แขนขาและหูปรับให้ขยับได้ ใส่เสื้อผ้าหรูหรา ... เจ้าของคนแรกของเขาก็คือ อะบีลีน...เด็กหญิงที่ทุ่มเทให้ความรักกับเขาเสียมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเห็นค่าในความรักนั้น

จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาถูกโยนลงไปในทะเล พลัดพรากจากอะบีลีน ทำให้เขาได้ออกผจญภัย ได้พบกับคนมากมาย ทำให้เขาเริ่มเปิดใจขึ้น เริ่มรู้จักความรัก และ...แน่นอนว่า เมื่อเริ่มรู้จักความรัก ก็จะเริ่มรู้จักความปวดร้าวของการพลัดพรากและสูญเสีย ... เขาได้พบ...และพรากจากคนที่รักเขาและเขารักหลายต่อหลายครั้ง จนเกือบจะตัดใจ...เลิกหวังในความรัก

แต่...คนเขียนก็ไม่ใจร้ายกับคนอ่านมากเกินไป ที่สุดท้ายแล้ว...เอ็ดเวิร์ดก็ได้กลับบ้าน...และได้รับความรักกลับคืนมาอีกครั้ง

จะเรียกว่ามันเป็นนิทานพาฝันก็ได้มั้งคะ เพราะธีมของเรื่องก็คือ ต่อให้จะต้องเจ็บช้ำสักกี่ครั้ง ก็อย่าหมดหวังเรื่องความรัก ถ้าคุณเปิดใจ และเชื่อ...ความรักจะมา

อ่านจบแล้วรู้สึกว่า...เรื่อง เอ็ดเวิร์ด ทูเลน ตามหาหัวใจไกลสุดฟ้า นี้...ถึงจะถูกจัดอยู่ในแนวหนังสือเด็ก แต่ไอซ์คิดว่ามันเหมาะสมกับผู้ใหญ่ที่ได้ผ่านชีวิตมาสักช่วงหนึ่งแล้วนะคะ คนที่เคยพบเจอกับความรัก ความสูญเสีย และได้พบกับความรักอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า จะเข้าใจหนังสือมากกว่าเด็กเล็กๆ แต่...ไอซ์ว่าเด็กก็อ่านได้ และจะเป็นหนังสือที่อ่านแล้วได้มุมมองแตกต่างออกไปทุกครั้งที่อายุเพิ่มขึ้น

สรุปว่าชอบมากค่ะ อยากไปหาซื้อฉบับภาษาอังกฤษมาเก็บไว้ ((รู้สึกว่าภาษาแปลขัดๆ นิดหน่อยเป็นบางช่วง)) รูปประกอบก็สวยมาก จำได้ลางๆ เหมือนมีคนบอกว่า เล่มภาษาอังกฤษเป็นภาพสีด้วย ^^

ขอยกประโยคช่วงท้ายเล่ม ที่ตุ๊กตาเด็กหญิงอายุร้อยปีพูดกับเอ็ดเวิร์ดลงมาแปะหน่อยนะคะ

ตอนนั้นเอ็ดเวิร์ดผ่านชีวิตมามากแล้ว รักและพลัดพรากหลายต่อหลายครั้ง จนหัวที่เป็นกระเบื้องแตกหลายชิ้น แต่ก็ได้รับการซ่อมจนดี ส่วนตุ๊กตาเป็นตุ๊กตาเด็กหญิงที่อายุร้อยปีแล้ว

"หวัดดีจ้ะ" ตุ๊กตาร้องทักด้วยเสียงแหลมสูง "ฉันดีใจที่ได้รู้จักเธอจ้ะ"
"หวัดดี" เอ็ดเวิร์ดตอบ
"เธออยู่ที่นี่นานไหมจ๊ะ" ตุ๊กตาถาม
"เป็นเดือนๆ แล้ว" เอ็ดเวิร์ดตอบ "แต่ฉันไม่สนใจหรอก ที่ไหนๆ ก็เหมือนกันสำหรับฉัน"
"ของฉันไม่เหมือนหรอก" ตุ๊กตาพูด "ฉันอยู่มาร้อยปีแล้ว ที่ผ่านมาฉันเคยอยู่ในที่เหมือนสรวงสวรรค์และที่อื่นๆ ที่น่าชัง เวลาผ่านไป เธอก็จะเรียนรู้ว่าแต่ละที่ไม่เหมือนกัน แล้วเธอก็กลายเป็นตุ๊กตาที่ไม่เหมือนกันในแต่ละที่ แตกต่างกันเลยล่ะ"
...
...
ตุ๊กตาโบราณพูดว่า "ฉันสงสัยจังว่าครั้งนี้ใครจะมารับฉันไป จะมีคนมานะ มีคนมาเสมอ ครั้งนี้จะเป็นใครกันนะ"
"ฉันไม่สนใจหรอกว่าจะมีใครมารับฉันหรือเปล่า" เอ็ดเวิร์ดพูด
"แต่คิดอย่างนั้นก็แย่มากเลยนะ" ตุ๊กตาโบราณพูด "ถ้าเธอคิดแบบนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อไป ไม่มีประโยชน์เลย เธอต้องเต็มไปด้วยความคาดหวังนะ เธอต้องอาบอิ่มด้วยความหวัง เธอต้องสงสัยว่าใครจะรักเธอ เธอจะรักใครเป็นคนต่อไป"
"ฉันพอกันทีแล้วกับการมีคนมารัก" เอ็ดเวิร์ดบอกตุ๊กตา "ฉันพอกันทีแล้วกับความรัก มันเจ็บปวดเกินไป"
...
...
"จงเปิดใจ" เธอพูดอย่างนุ่มนวล "ใครคนหนึ่งจะมา ใครคนหนึ่งจะมาหาเธอ แต่เธอต้องเปิดใจก่อน"
...
อย่านะ อย่า เอ็ดเวิร์ดบอกตัวเอง อย่าเชื่อเรื่องนี้เลย อย่ายอมปล่อยตัวเองให้เชื่อเลย
แต่ก็สายไปเสียแล้ว
ใครคนหนึ่งจะมารับเธอ
อีกครั้งที่หัวใจของกระต่ายกระเบื้องเปดกว้าง

....

อ่านจบแล้วก็บอกว่า...เนี่ยรออยู่นะคะ เมื่อไหร่จะมีใครมารับฉันไปเสียที 5555

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 19:24:40

ความคิดเห็นที่ 50

เล่มที่ 2 โอคะดะ จุน - ญี่ปุ่น

หนังสือ : เทวดาที่โหล่
ผู้เขียน : โอคะดะ จุน
ผู้แปล : ปริวัณย์ เยี่ยมแสนสุข
สำนักพิมพ์ : Bliss Publishing
ปกอ่อน : 151 หน้า
ภาษา ไทย : (แปลจากภาษาญี่ปุ่น)

จากปกหน้า

หนังสือรางวัลเยาวชนโรโบโนะอิชิ
นิยายอบอุ่นอ่อนโยนที่ส่งเสริมให้เด็กตระหนักถึงคุณค่าของ "ความพยายาม"

จากปกหลัง

ปรกติแล้วเวลาแข่งขันใครๆ ก็อยากได้ที่หนึ่งหรือได้ตำแหน่งลำดับต้นๆ ก็ยังดี แต่เด็กชายฮาจิเมคนนี้กลับอยากได้ที่โหล่
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะเขาอยากเห็นเทวดาที่โหล่ตัวจิ๋วนั่นเอง

ฮาจิเม เพิ่งสูญเสียพ่อ และย้ายเข้าโรงเรียนใหม่ร่วมชั้น ป.4/1 คุณครูประจำชั้นห้องนี้เน้นการแข่งขันเพื่อความเป็นที่หนึ่งมาก แต่ฮาจิเมะกลับพยายามชิงตำแหน่งที่โหล่ เพราะเขาค้นพบว่า มีเพียงเด็กท้ายแถวเท่านั้น จึงจะเห็นเทวดาตัวจิ๋วได้

ฮาจิเมจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ที่โหล่ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันวิ่งก็พยายามวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้าย หรือในการสอบถึงแม้รู้คำตอบที่ถูกเขาก็ต้องแกล้งทำเป็นตอบผิด

บางครั้งเพื่อนคนอื่นก็ยังแพ้เขา จึงมีผู้เห็นเทวดาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งทุกคนอยากพบเทวดาตัวจิ๋วร่างโปร่งใสตนนี้มาก ถึงกับพากันแย่งชิงความเป็นที่โหล่...

แต่การพยายามจะเป็นที่โหล่นั้นดีแน่หรือ...
แล้วความพยายามจะเป็นที่หนึ่งล่ะ...ดีหรือเปล่า
พบกับมุมมองอันงดงามเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง "ความพยายาม" ได้ในนิยายเยาวชนชื่อดังเล่มนี้

....

จากไอซ์ :

ขอบอกไว้ก่อนว่าจะสปอยล์นะคะ เพราะจะได้ออกความคิดเห็นได้เต็มที่

พ่อของฮาจิเมพยายามวิ่งไปข้างหน้า ทำงานหนักเพื่อเป็นอันดับต้นๆ เสมอ แล้วจู่ๆ ก็ตายไปเพราะเหตุนี้ แม่ของฮาจิเมเลยบอกฮาจิเมว่า...ไม่ต้องพยายามก็ได้

เขาย้ายเข้ามาโรงเรียนใหม่ และพบว่าที่นั่งในห้องถูกจัดอันดับตามคะแนน เขาที่มาใหม่จึงได้นั่งหลังห้อง ซึ่งเป็นที่นั่งของคนได้ที่โหล่ เขาจึงได้เห็นชายตัวจิ๋วโปร่งแสง ที่จะโผล่มาให้คนที่ได้ที่โหล่เห็น

ฮาจิเมจึงตั้งใจที่จะทำให้ได้ที่โหล่เพื่อจะได้พูดคุยกับเทวดาที่โหล่ ซึ่งเป็นการพูดคุยทางจิตอย่างสนุกสนาน จนเขาได้รับน้ำใจจากมิยูกิ เด็กสาวที่เคยได้ที่โหล่ในห้องก่อนเขามา เขาจึงบอกความลับของเทวดาที่โหล่ให้เธอรู้ ... เมื่อได้เห็นเทวดาที่โหล่แล้ว ฮาจิเมและมิยูกิก็สามารถคุยกันทางจิตได้ และนัดกันเพื่อเป็นที่โหล่

จนมีคนเริ่มรู้เรื่องเทวดาที่โหล่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เด็กๆ ที่รู้เรื่องก็นัดกันเพื่อให้ได้คะแนนเป็นที่โหล่ด้วยการพูดคุยกันทางจิต ซึ่งไปๆ มาๆ ก็เป็นการช่วยเหลือ ติวกัน จนคนที่เรียนไม่เก่งก็เข้าใจและทำคะแนนได้ดีขึ้น ... คะแนนเฉลี่ยของห้องสูงขึ้นๆ จนสุดท้ายแล้ว คะแนนที่โหล่ก็คือ...คะแนนเต็ม

...

เป็นหนังสือดีที่อยากได้เด็กๆ ทุกคนได้อ่านจังค่ะ การแข่งขันที่ดีที่สุดไม่ใช่การแข่งขันเพื่อเป็นที่หนึ่ง แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเอง การพยายามอย่างสุดความสามารถ และ...ความสุขไม่ใช่การวิ่งไปข้างหน้าตามลำพัง แต่เป็นการวิ่งไปพร้อมๆ กันอย่างเป็นทีม

อ่านแล้วนึกถึงสมัยเรียนที่คุยกับเพื่อนค่ะ ตอนนั้นไอซ์เรียนที่ Imperial College ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านวิศวกรรมอันดับหนึ่งในยุโรป ส่วนเพื่อนเรียนที่ MIT ประเทศอเมริกา ... เพื่อนบอกว่าเครียดมากเลย สอบครั้งนี้ได้คะแนน 98 คะแนน จะต้องตกแน่ๆ เพราะคนอื่นได้ 99 คะแนน ... ฟังแล้วก็อึ้งแท้ๆ ขนาดได้คะแนนเยอะจนเกือบเต็มยังต้องเครียด -_-"

ระบบคะแนนที่อเมริกาเป็นการตัด curve ค่ะ ใครตก curve ก็คือตก ดังนั้นการจะได้อยู่ในลำดับที่ดีหรือเปล่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า เพื่อนในห้องอยู่ในลำดับแย่หรือเปล่า เหอๆๆๆ ก็มีการกลั่นแกล้งทำลายแล็ปกันเพื่อให้เพื่อนคะแนนห่วย ฟังแล้วก็หดหู่ค่ะ

ส่วนตัวเองเรียนที่อังกฤษ ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในยุโรป แต่ไม่มีบรรยากาศการแข่งขันแบบเพื่อนฆ่าเพื่อนเลย เพราะเป็นการตัดเกรด คือ...ถ้าใครได้คะแนนถึงระดับหนึ่งก็จะเป็น A เป็น B อะไรก็ว่าไป ทุกคนแข่งกับตัวเอง ไม่ใช่แข่งกับเพื่อน ดังนั้นบรรยากาศการเรียนจะดีมากๆ ไม่ค่อยมีคนหวงวิชา มีการสอนการติวกันเสมอ ((ให้ลอกกันก็มีค่ะ 555 ใครว่าเด็กฝรั่งไม่ลอก กร๊ากกกก)) และ...เนื่องจากเรียนวิศวกรรม ก็มีการทำงานเป็นทีมเยอะมาก ทุกคนจะพยายามช่วยกันเพื่อดึงคะแนนของเพื่อน ... เป็นบรรยากาศการเรียนที่ดีมากๆ ค่ะ ^^

สรุปว่า...แนะนำหนังสือเล่มนี้นะคะ ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 19:25:22

ความคิดเห็นที่ 51

เล่มที่ 3 Jimmy Liao - ไต้หวัน

หนังสือ : เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี (Mr. Wing)
เรื่อง/ภาพ : Jimmy Liao
สำนักพิมพ์ : นานมีบุ๊คส์
ปกอ่อน : 144 หน้า
ภาษา : ไทย (แปลจากภาษาจีน)

จากปกหลัง

เขาเป็นเด็กที่โชคดี เกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง และเป็นทุกอย่างที่ดีที่สุด ทุกสิ่งที่คนมากมายใช้เวลาไขว่คว้าทั้งชีวิต เขากลับได้มาอย่างง่ายดาย ...คนที่เราเห็นว่าโชคดี เขาโชคดีตามที่เราเห็นจริงหรือ สิ่งที่เราเห็นว่าเป็น ของขวัญที่สวรรค์ประทานมาให้ เป็นสิ่งที่ทำให้มีความสุขเช่นนั้นแน่หรือ...

...

จากไอซ์ :

หนังสือเล่มนี้เป็นนิยายภาพของ Jimmy Liao เล่าเรื่องของชายผู้หนึ่งซึ่งเป็นคนที่โชคดีมาตลอด มีชีวิตวัยเด็กที่มีความสุข มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เป็นที่อิจฉาและคาดหวังของใครต่อใคร

และ...วันหนึ่งเขาก็มีปีกเล็กๆ งอกขึ้นมา ทำให้คนอื่นๆ คิดว่าเขายิ่งโชคดีและเป็นคนพิเศษมากขึ้น มีการคาดหวังกับเขามากขึ้น

แต่...ไม่มีใครนอกจากคนใกล้ชิดและตัวเขาเองรู้ว่า ปีกที่เพิ่มขึ้นมานั้น สร้างปัญหาและภาระให้กับเขามากเพียงไหน เขาเริ่มสูญเสียสิ่งที่เคยมีทีละอย่างๆ

...

อ่านแล้วก็เศร้าอะค่ะ บางทีการที่เรามองจากภายนอกว่าใครคนหนึ่งเป็นคนที่โชคดี จริงๆ แล้วเขาอาจจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นก็ได้ อย่าเอามุมมองของตัวเองไปตัดสินใจ อย่าไปคาดหวังอะไรในตัวใครมากนัก และ...อย่าได้แบกรับความคาดหวังของคนอื่นมากดดันตัวเองมากเกินไป

ไอซ์ว่านะ คนที่มีความสุขในชีวิตคือคนที่ใช้ชีวิตแบบธรรมดานี่ล่ะค่ะ

ภาพประกอบสวยมากเช่นเคย

เป็นอีกเล่มของ Jimmy Liao ที่อ่านแล้วชอบนะคะ ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 19:26:00

ความคิดเห็นที่ 52

อยากให้กิฟไอซ์ทั้งเล่มเอ็ดเวิร์ดฯ ที่ให้ไปแล้วกับเล่มเทวดาที่โหล่เลย

พี่ชอบทั้งสองเล่มเลย แต่ขอให้กิฟเดียวเนื่องจากโจทย์เดียว และต้องเก็บกิฟไว้ใช้ด้วยง่ะ

ไม่โกรธกันน้า แหะๆ

แค่ไม่กี่วัน ตอนนี้เหลือแค่ 50 คะแนนเองอ้ะ

พันทิปน่าจะให้ใช้พอยท์แลกกิฟได้เนาะ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 20:56:53

ความคิดเห็นที่ 53

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ ...ขอส่งการบ้านบ้างคะ

10-12. [Clear Ice] อ่าน หนังสือที่มี "ชื่อตัวละคร" อยู่ในชื่อเรื่อง เช่น Ali and Nino / Hannibal / ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด / เรื่องของ จัน ดารา

อ่าน
อาร์แซน ลูแป็งเผชิญเชอร์ล๊อค โฮล์มส์
โมริซ เลอบลัง เขียน / 'ดำเกิงเดช' แปลจากเรื่อง Arsene Lupin Versus Herlock Sholmes
สำนักพิมพ์รหัสคดี พิมพ์ครั้งที่ 2 เมษายน 2547
จำนวน 280 หน้า

เมื่อสุภาพบุรุษจอมโจรชื่อดังแห่งฝรั่งเศสต้องมาชิงไหวชิงพริบกับนักสืบชื่อดังแห่งอังกฤษ ก็สนุกคนอ่านซินะ ..
นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากโมริซ เลอบลังชอบพฤติกรรมของตัวละคร "เชอร์ล๊อค โฮล์มส์"
จึงอยากนำมาโลดแล่นอยู่บนหน้าหนังสือของตัวเองคู่กับตัวละครเอก
แต่ทว่าผู้สร้างโฮล์มส์ไม่ชอบใจ จึงต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามกันเล็กน้อย
แต่ฉบับแปลนี้ เขียนชื่อตา่มความตั้งใจที่อยากให้เป็นของผู้แต่ง
เล่มนี้มี 2 คดีสำคัญเกิดขึ้นในฝรั่งเศส ท่านบารอนต้องการคนคลี่คลายคดีจึงจดหมายไปขอร้องโฮล์มส์
นักสืบแห่งอังกฤษรู้ว่าคดีที่เกิดขึ้น ก็โดยฝีมือของนายจอมโจรลูแปงนั่นเอง
ที่นี่ ก็อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้คลี่คลายคดี และจับลูแปงได้
ต้องอ่านกันเองนะ

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 09:47:28

ความคิดเห็นที่ 54

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ ...ขอส่งการบ้านบ้างคะ

10-12. [Clear Ice] อ่าน หนังสือที่มี "ชื่อตัวละคร" อยู่ในชื่อเรื่อง เช่น Ali and Nino / Hannibal / ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด / เรื่องของ จัน ดารา

อ่าน
อาร์แซน ลูแป็งเผชิญเชอร์ล๊อค โฮล์มส์
โมริซ เลอบลัง เขียน / 'ดำเกิงเดช' แปลจากเรื่อง Arsene Lupin Versus Herlock Sholmes
สำนักพิมพ์รหัสคดี พิมพ์ครั้งที่ 2 เมษายน 2547
จำนวน 280 หน้า

เมื่อสุภาพบุรุษจอมโจรชื่อดังแห่งฝรั่งเศสต้องมาชิงไหวชิงพริบกับนักสืบชื่อดังแห่งอังกฤษ ก็สนุกคนอ่านซินะ ..
นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากโมริซ เลอบลังชอบพฤติกรรมของตัวละคร "เชอร์ล๊อค โฮล์มส์"
จึงอยากนำมาโลดแล่นอยู่บนหน้าหนังสือของตัวเองคู่กับตัวละครเอก
แต่ทว่าผู้สร้างโฮล์มส์ไม่ชอบใจ จึงต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามกันเล็กน้อย
แต่ฉบับแปลนี้ เขียนชื่อตา่มความตั้งใจที่อยากให้เป็นของผู้แต่ง
เล่มนี้มี 2 คดีสำคัญเกิดขึ้นในฝรั่งเศส ท่านบารอนต้องการคนคลี่คลายคดีจึงจดหมายไปขอร้องโฮล์มส์
นักสืบแห่งอังกฤษรู้ว่าคดีที่เกิดขึ้น ก็โดยฝีมือของนายจอมโจรลูแปงนั่นเอง
ที่นี่ ก็อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้คลี่คลายคดี และจับลูแปงได้
ต้องอ่านกันเองนะ

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 09:47:41

ความคิดเห็นที่ 55

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ ...ขอส่งการบ้านบ้างคะ

10-12. [Clear Ice] อ่าน หนังสือที่มี "ชื่อตัวละคร" อยู่ในชื่อเรื่อง เช่น Ali and Nino / Hannibal / ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด / เรื่องของ จัน ดารา

อ่าน
อาร์แซน ลูแป็งเผชิญเชอร์ล๊อค โฮล์มส์
โมริซ เลอบลัง เขียน / 'ดำเกิงเดช' แปลจากเรื่อง Arsene Lupin Versus Herlock Sholmes
สำนักพิมพ์รหัสคดี พิมพ์ครั้งที่ 2 เมษายน 2547
จำนวน 280 หน้า

เมื่อสุภาพบุรุษจอมโจรชื่อดังแห่งฝรั่งเศสต้องมาชิงไหวชิงพริบกับนักสืบชื่อดังแห่งอังกฤษ ก็สนุกคนอ่านซินะ ..
นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากโมริซ เลอบลังชอบพฤติกรรมของตัวละคร "เชอร์ล๊อค โฮล์มส์"
จึงอยากนำมาโลดแล่นอยู่บนหน้าหนังสือของตัวเองคู่กับตัวละครเอก
แต่ทว่าผู้สร้างโฮล์มส์ไม่ชอบใจ จึงต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามกันเล็กน้อย
แต่ฉบับแปลนี้ เขียนชื่อตา่มความตั้งใจที่อยากให้เป็นของผู้แต่ง
เล่มนี้มี 2 คดีสำคัญเกิดขึ้นในฝรั่งเศส ท่านบารอนต้องการคนคลี่คลายคดีจึงจดหมายไปขอร้องโฮล์มส์
นักสืบแห่งอังกฤษรู้ว่าคดีที่เกิดขึ้น ก็โดยฝีมือของนายจอมโจรลูแปงนั่นเอง
ที่นี่ ก็อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้คลี่คลายคดี และจับลูแปงได้
ต้องอ่านกันเองนะ

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 09:47:56

ความคิดเห็นที่ 56

เฮ้ย...ทำำไมข้อความเราแทรกในข้อความของคุณเต้ยไ้ด้ละเนี่ย ...

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 09:50:03

ความคิดเห็นที่ 57

สงสัยกระทู้ช่วงนั้นด๋อย แต่ให้กิฟในอันที่ซ้อนไปแล้วค่ะ

ปักหมุดใหม่อีกรอบ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 10:01:02

ความคิดเห็นที่ 58

ดาว ตอบคุณsmooth night ,แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า ผี อยู่หมวดเดียวกันค่ะ เลือกตอบได้เพียงหนึ่งค่ะ

คุณเที่ยงวัน เราเพิ่งเคยเห็น"ร้อยแก้วมีทำนอง ร้อยกรองเป็นนวนิยาย" ปกติชอบร้อยกรองค่ะ เรื่องนี้น่าสนใจจัง

ดาว คุณไอซ์ เอ็ดเวิร์ด ทูเลน ตามหาหัวใจไกลสุดฟ้า น่ารักจังค่ะส่วนตัวเราไม่ได้วิ่งตามหา แต่ยังหยุดรออยู่กับที่ ยังไม่มีใครมารับสักที ส่วนเทวดาที่โหล่,เรื่องเล่าของชายผู้โชคดี (Mr. Wing) น่ารักค่ะถูกใจเลย

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 11:00:43

ความคิดเห็นที่ 59

กระทู้ด๋อยเสียแล้ว ไอซ์แจ้งซ่อมไปกับทางพันทิปแล้วนะคะ

หวังว่าจะซ่อมได้น้า >_<

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 13:03:50

ความคิดเห็นที่ 60

สวัสดีวันจันทร์ตอนบ่ายๆ ค่ะ... หนังสือยังอยู่ในมือค่ะ ขอทักก่อนอ่านรีวิวนะคะ

ยินดีกับพี่เรียวรุ้งด้วยค่ะโจทย์ของพี่เรียวรุ้งตูนเอาเรื่อง Load of the Ring มาแปะไว้บนยอดดอยของกองหนังสือแล้วค่ะ

จะอ่านทันไหมเนี่ยะ... กระดาษเหลืองหมดแล้วมั๊ง

จากคุณ : ColdOut

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 13:26:49

ความคิดเห็นที่ 61

กลายเป็นว่า มีคำตอบเดียวกัน 3 ความเห็น 53-54-55 ตลกดี

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 14:31:19

ความคิดเห็นที่ 62

ตรวจสอบแล้วมีการลงคะแนนผิดไป ขอลงตารางคะแนนใหม่นะคะ

ตารางสรุปของเดือนที่แล้ว แทนตารางใน คห.2

จากคุณ : smooth night

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 18:27:49

ความคิดเห็นที่ 63

ตารางนี้ ถึงวันที่ 5 มิ.ย. คห. # 43 แทนตารางใน คห.# 46
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 53 18:29:23

จากคุณ : smooth night

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 18:28:53

ความคิดเห็นที่ 64

ผิด เอาใหม่ แทนตารางใน คห.#46

จากคุณ : smooth night

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 18:31:19

ความคิดเห็นที่ 65

ความเห็นหลังจาก 43 ลงมายังไม่ได้ลงคะแนนให้นะคะ
อัพเดทของเก่าที่ผิดก่อน หากยังมีผิดพลาดที่คะแนนใครแจ้งได้เลยค่า
ไม่รู้ยังมีหลงหูหลงตาอีกหรือเปล่า ^^

จากคุณ : smooth night

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 18:42:45

ความคิดเห็นที่ 66

โอ้...กระทู้หายด๋อยแล้ว ขอไปนอนก่อนค่ะ รู้สึกไม่ค่อยสบาย พรุ่งนี้มาคุยกันน้า ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 21:38:33

ความคิดเห็นที่ 67

## พี่ทราย

จะตอบพี่ทรายว่าคะแนนน่าจะผิดพลาดมาจากการลงคะแนนช่วงที่แล้ว
กำลังจะไปเช็คให้ก่อนอ่านกระทู้จบ !!!

แต่พอเลื่อนหน้าจอลงมาคุณพี่จัดการไปเองซะแล่ะ 55++

หายไปซะนานถ้ามีคะแนนของใครตกหล่นไปบ้างทักท้วงเข้ามาได้นะครับ
รอบนี้ไปก่อน สักแว่บจะแวะเข้ามาแปะรีวิว

จากคุณ : PToNZ_PRiNZz (PTNCenter)

เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 22:04:31

ความคิดเห็นที่ 68

30-4 [Clear Ice] Animal Lover : อ่านหนังสือที่มีชื่อสัตว์อยู่ในชื่อหนังสือจำนวนกี่เล่มก็ได้ ให้มีหน้าเฉพาะ "เนื้อหา" ((คำนำ สารบัญ หน้าโฆษณา ฯลฯ ไม่นับ)) รวมกันแล้วเกิน 1000 หน้า ถ้าอ่านเกิน 2000 หน้าได้โบนัส 10 คะแนน โจทย์ข้อนี้ห้ามอ่านการ์ตูนหรือนิยายภาพนะคะ

214+199+199-191+262 = 1065 หน้า

*** ดราก้อนดิลิเวอรี่ เล่ม 1 / Dragon Delivery ***
พัณณิดา ภูมิวัฒน์ เขียน
สำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์
จำนวน 214 หน้า ราคา 140 บาท

ปกหลัง
ในโลกที่มังกรเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจ ในโลกที่มังกรเป็นพาหนะสำคัญพอ ๆ กับม้า ในโลกที่ประชาชนรับส่งข้าวของ จดหมาย หรือแม้กระทั่งคน ด้วยระบบขนส่งมังกร
ในโลกแห่งนั้น มีร้านขนส่งมังกรชื่อร้านเอซาน
และเรื่องทั้งหมดก็เริ่มขึ้นเมื่อ .. เจ้าของร้านคนเก่าหายสาบสูญไป

*** ดราก้อนดิลิเวอรี่ เล่ม 2 / Dragon Delivery ***
พัณณิดา ภูมิวัฒน์ เขียน
สำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์
จำนวน 199 หน้า ราคา 140 บาท

ปกหลัง
โซลโท เอซาน
สถานะ : เจ้าของร้านขนส่งมังกรเอซาน
สถานการณ์ : มีมังกรสามตัวกับผู้ช่วยหนึ่งคน
ต้องกอบกู้กิจการและเป็นหนี้สองล้านแปดแสน แถมยังถูกคนปองร้ายหมายขวัญ
คำพยากรณ์ : ที่ปรึกษาทางธุรกิจคนใหม่กำลังจะมาเยีอน
ชะตากรรม : เกินบรรยาย

*** ดราก้อนดิลิเวอรี่ เล่ม 3 / Dragon Delivery ***
พัณณิดา ภูมิวัฒน์ เขียน
สำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์
จำนวน 199 หน้า ราคา 140 บาท

ปกหลัง
ร้านเอซานมีกำไรเป็นครั้งแรกแล้ว!
แต่เสียใจด้วย! โซลโทก็ยังประสบปัญหาแบบกระจาดสาดไม่เลี้ยงเหมือนเดิม ตั้งแต่ที่ปรึกษาตัวดีหนีออกจากร้านดื้อ ๆ ท่านชายจอมแสบแห่งสมาคมนักขี่มังกรเข้ามาตรวจสอบกิจการ ปีศาจร้าย

แห่งทะเลสาบชีเลปรากฏกาย แถมพกด้วยผู้ช่วยประจำร้านผู้แสนจะธรรมดา ก็ชักจะไม่ธรรมดาหนักขึ้นทุกที
งานนี้ท่านเจ้าของร้านจะแก้ไขอย่างไร ติดตามได้ในเล่มนะขอรับ

*** ดราก้อนดิลิเวอรี่ เล่ม 4 / Dragon Delivery ***
พัณณิดา ภูมิวัฒน์ เขียน
สำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์
จำนวน 191 หน้า ราคา 140 บาท

ปกหลัง
หลังจากทำกิจการมาได้เกือบปี ชีวิตของ โซลโท เอซาน ก็ดูเหมือนจะลงตัว แต่แล้ว "ท่านผู้นั้น" กลับมาเยือนชีเล และยื่นข้อเสนอให้โซลโทเลือกระหว่างปิดกิจการ หรือทำลายร้านเฮเบล
งานนี้ไม่มีทั้งเทย์ หรือท่านเจวานช่วย แถมยังมีลูกจ้างกิตติมศักดิ์รายใหม่มาทำให้วุ่นวายกว่าเดิม เรื่องรักก็อาการหนัก เรื่องรักก็ชักจะมีปัญหา แต่ท่านเจ้าของร้านก็ยังคงพยายามสุดความสาารถ

ขอรับ!

ความรู้สึกหลังอ่าน
กี๊ซซ กี๊ซซซซซซ (สนุกดีอ่ะ ชอบ) .. เพิ่งเคยลองอ่านหนังสือของนักเขียนท่านนี้ค่ะ ตอนแรก ๆ ที่อ่านนี่ออกอาการอึ้ง ๆ กับสำนวนเล็กน้อย... มันช่างห้วน สั้น และ ตรงประเด็นดีเหลือเกิน... ส่วนมุกฮาทั้งหลาย ที่เป็นประเภทมุกหน้าตาย นี่ก็นะ ฮากระจาย (แต่ก็มีบางมุกที่แป๊กเหมือนกัน) การดำเนินเรื่องฉับไว ไม่เยิ่นเย้อดีค่ะ ... ในความรู้สึกจะชอบเล่ม 1-2 มากกว่าเล่ม 3-4 ค่ะ เหมือนคนละแนวยังไงไม่รู้ ...เล่ม 1-2 จะเน้นการทำธุรกิจ การปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ อ่านแล้วจะได้ความคิดใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจดีค่ะ .. แต่เล่ม 3-4 นี่ ออกจะเน้นหนักไปด้านความรัก ความหวานซะมากกว่า แต่ก็ยังสนุกนะ ...
คิดว่า..ติดใจสำนวนสั้น ๆ กระชับแบบนี้นะคะ แต่ไม่แน่ใจว่า เล่มอื่น ๆ จะเหมือนกันมั้ย แต่คงจะติดตามอ่านแน่ ๆ ค่ะ (เล็งผู้เสกทรายไว้ แต่ก็ยังได้แต่เล็งนี่ล่ะ)

*** ระบำแม่ไก่ หัวใจกุ๊กกุ๊ก / Hens Dancing ***
Raffaella Barker เขียน / มณฑารัตน์ ทรงเผ่า แปล
สำนักพิมพ์ มติชน
จำนวน 262 หน้า ราคา 160 บาท

ปกหลัง
จะเป็นยังไง ถ้าบริดเจ็ต โจนส์ เป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกนิด แต่งงานมีลูกสามคน อาศัยอยู่ในแถมชนบทของอังกฤษ แต่จู่ ๆ กลับถูกสามีทอดทิ้ง ผลลัพธ์อาจจะออกมาเหมือนนิยายอ่านเพลินเล่มนี้ / ยูเอส วีกลี่

สร้างตัวละครที่เล่าเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ขันอันเฉียบคม และยังทำให้ภาพลักษณ์ของชีวิตชนบทดูดีขึ้น จนเราแทบจะยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้ไปอยู่ในที่ของเวเนเทีย / เดอะ ดัลลัส มอร์นิ่ง นิวส์

เป็นเรื่องราวของชีวิตครอบครัวแสนสนุก มีทั้งสุขและทุกข์ หรือแม่แต่ความเพี้ยน ส่งให้บาร์กเกอร์กลายเป็นนักเขียนหญิงอนาคตไกล ที่ให้ได้ทั้งความรุ้และความบันเทิง / เดอะ ไทมส์ (ลอนดอน)

ความรู้สึกหลังอ่าน
เป็นเล่มที่ อ่านเพลิน ๆ ค่ะ .. เหมือนการอ่าน ไดอารี่ ใครสักคน (ซึ่งเค้าก็แต่งหนังสือเป็นการเขียนไดอารี่จริง ๆ น่ะแหล่ะ) .. ถ้าเป็นคนที่รักสัตว์ และ รักเด็ก ต้องชอบเรื่องนี้แน่ ๆ ค่ะ ..เป็นเรื่องของแม่หม้ายลูกสามที่ยังเล็ก (คนเล็กอายุ 1 ขวบ) .. ชีวิตประจำวันวุ่นวายมากค่ะ แค่ต้องคอยรบกับลูกก็หนักหนาแล้ว แต่นี่.. ยังต้องรบกับบรรดาสัตว์เลี้ยง รวมถึงบางครั้ง ก็ต้องรบกับแม่ตัวเอง หรือไม่ก็เพื่อน ๆ ของเธออีก .. ลูก ๆ เธอน่ารักดีค่ะ ทั้งซน ทั้งดื้อ ทั้งแปลก .. แต่ก็รักแม่มากเหมือนกัน เวลาลูก ๆ ทำดีกับเธอนี่ เล่นเอาน้ำตาคลอไปเหมือนกัน (นี่ขนาดว่าไม่ได้เป็นคนรักเด็กนะ) .. ในเรื่องแอบมีพระเอกบ้าง แต่ไม่เยอะ .. น่ารัก ทั้งดี ทั้งหล่อ .. แต่ออกมาน้อยไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยนะ :D

จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 04:09:35

ความคิดเห็นที่ 69

25-1. [ยาคูลท์] ของนำโชคงานแต่ง - Something Old, Something New, Something Borrowed and Something Blue: อ่านหนังสือ
เก่าที่ซื้อมานานแล้ว (อย่างน้อยหนึ่งปี), หนังสือเพิ่งซื้อภายในหนึ่งเดือน, หนังสือเช่าหรือยืม, และหนังสือที่มีสีน้ำเงินบนปกหรือชื่อเรื่อง

อ่านหนังสือ เก่าที่ซื้อมานานแล้ว : ขุมทรัพย์สุริยเทพ ซื้อเมื่อ 2545
หนังสือเพิ่งซื้อภายในหนึ่งเดือน : ข้ามขอบฟ้าตามหาหัวใจ ซื้อเมื่อ 17 พ.ค. 2553
หนังสือเช่าหรือยืม : ดวงใจสัมผัสรัก วันแรก 8 บาท วันที่ต่อไป 6 บาท (แพงเนอะ เคยเช่าเมื่อก่อน 2 บาทเอง)
หนังสือที่มีสีน้ำเงินบนปกหรือชื่อเรื่อง : Seduced

*** ขุมทรัพย์สุริยเทพ / This Fierce Splendor***
Iris Johansen เขียน / กัณหา แก้วไทย แปล
สำนักพิมพ์แก้วกานต์
จำนวน 704 หน้า ราคา 175 บาท
ปกหลัง
สาวสวยชาวสกอต เอลสเบ็ธ แมคกรีเจอร์ เดินทางไปยังเฮลบลัฟฟ์ เพื่อจ้างโดมินิค เดลานีย์ให้นำทางเธอไปยังนครคานดาลันเมืองสาบสูญอันมีมนตร์ขลัง แต่แรกเขาปฏิเสธ - สิ่งสุดท้ายในโลกที่เขาต้องการทำคือ ร่วมเดินทางไปกับนักวิชาการสาวสวยผู้นี้สู่การสำรวจดินแดนอันตราย
แต่ความตั้งใจเด็ดเดียวของเอลสเบ็ธ พร้อมทั้งผมสลวย ดุจเส้นไหมและผิวขาวผ่องดุจนมสดของเธอเป็นสิ่งที่ไม่อาจต่อต้านได้ ความโกรธแค้นระคนความปรารถนา ที่โดมินิคแสดงออกมาในตอนแรกก็ได้เปลี่ยนไปเป็นพิศวาส อ่อนโยนทว่าเร่าร้อน ซึ่งผูกพันสองหนุ่มสาวสู่อนาคตอันร้อนแรงเริงโลด
สองหนุ่มสาวเดินทางผ่านความสุขชื่นบาน ของดินแดนอริโซนาและเม็กซิโกสู่จุดหมายปลายทาง ได้พบกับความลึกลับมืดดำและความมั่งคั่งยิ่งใหญ่ของนครคานดาลัน .. และเพื่อบรรลุผลแห่งสัญญารักอันยืนยง

ความรู้สึกหลังอ่าน
เป็นเล่มเปิดตัวนิยายชุด "เดลานีย์" ค่ะ เป็นเล่มที่ครบรสดีค่ะ ..ในช่วงแรก ช่วงสปาร์คของ พระเอกก็คอยไล่ คอยหนีนางเอก นางเอกก็ตามตื้อไปเรื่อย น่ารักดีค่ะ .. พอเข้าสู่กลาง เรื่อง ก็เริ่มยอมแพ้ รักกันละ แต่ยังอยุ่ร่วมกันไม่ได้ เพราะเหตุผลบางประการ .. ช่วงท้ายนี่อลังการงานสร้าง เดินทางไปหาสมบัติ .. หาเจอง่ายไปหน่อย แต่มีฉากหนีตาย ดราม่าบ้างประปราย .. ถือว่าอ่านได้เพลิน ๆ ค่ะ แต่ไม่แปลกใหม่อะไรมากนัก (หรือเริ่มเบื่อแล้วก็ไม่รู้)

*** ข้ามขอบฟ้าตามหาหัวใจ / Not Quite a Husband ***
Sherry Thomas เขียน / กัญชลิกา แปล
สำนักพิมพ์แก้วกานต์
จำนวน 269 หน้า ราคา 210 บาท

ปกหลัง
ชีวิตคู่ระหว่างเขาและหล่อน อัปปางลงหลังจากช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไม่นานนัก ซึ่งก็ไม่มีใครแปลกใจ แม้กระทั่งตัว ไบรโอนี่ เอง เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชายซึ่งรูปงามราวกับเทพอพอลโล และเป็นที่ใฝ่ฝันถึงอย่าง ลีโอ จะอยากใช้ชีวิตอยู่กับ ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรทัดเทียมเขาได้ ซึ่งกล้าเผยอขอเขาแต่งงาน ถ้าเช่นนั้น หลังจากนั้นอีกสามปีครึ่ง ทำไปเขาถึงได้ออกตามหาหล่อน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ ณดินแดนอันห่างไกลออกไปครึ่งโลก

ลีโอไม่คิดว่าไบรโอนี่จะอยากพบหน้าเขาอีก แต่เขาจะไม่เลิกล้มความตั้งใจ จนกว่าจะได้ส่งข่าวด่วนจากน้องสาวของหล่อน .. และนำหล่อนกลับอังกฤษอย่างปลอดภัย แต่ระหว่างที่ทั้งสองเสี่ยงชีวิตในการเดินทางกลับบ้าน ลีโอจะกล้าหวังหรือไม่ว่า ไบรโอนี่จะมีวันให้อภัยเขา หล่อนจะเชื่อหรือไม่ว่า หล่อนคือผู้หญิงที่เขาสุดแสนรักเสมอมา

ความรู้สึกหลังอ่าน
บอกไม่ถูกเลยค่ะเรื่องนี้ .. ดีหมดเลย สำนวน การดำเนินเรื่อง พล็อต อะไรก็ดี .. แต่ไม่ชอบอ่ะ .. ไม่ใช่ว่าอ่านแล้วไม่สนุกนะคะ แต่อ่านแล้วรู้สึก อึดอัด หนัก ๆ ยังไงไม่ทราบ .. ขณะอ่านก็จะรู้สึกว่า คนแต่งบังคับตัวละครมากไปหน่อย .. เช่นนางเอกเป็นคนใจแข็งมาก .. ไม่ให้อภัยคนง่าย ๆ .. ในช่วงแรก ก็เหมือนว่า นางเอกจะยอมให้อภัยไม่ได้ .. แม้ต่อมานางเอกจะลองแย็บ ๆ ว่า จะให้โอกาสพระเอก แต่พระเอกกลับปฎิเสธ ..(อันนี้ชอบคำพูดพระเอกมาก .. "เพราะผมให้อภัยตัวเองไม่ได้ ผมเลยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ที่คุณจะอภัยผมเช่นกัน" ..โอ้ !! สำนึกดีมาก ๆ ) ... แต่แล้วคนแต่งก็สร้างสถานะการณ์ให้นางเอกและพระเอกต้องยอมคืนดีกัน แบบเลี่ยงไม่ได้.. หรือแม้แต่ความรู้สึก ระหว่างนางเอก-พ่อนางเอก ที่เธอไม่สามารถให้อภัยได้มากว่า 30 ปี แต่สุดท้าย ก็ยอมให้อภัย แต่ตอนอ่าน ก็ไม่รู้เลยว่า เธอให้อภัยเพราะเธอเติบโตทางอารมณ์แล้วจริงๆ หรือ สถานะการณ์มันบังคับ (อีกแล้ว) .. จนกระทั่งตอนจบ ที่ พระ-นาง ได้ผ่านสถานการณ์บังคับมาแล้ว และนางเอกได้มาคิดอีกรอบว่าจะให้อภัยหรือไม่ และสุดท้ายก็เลือกที่จะให้อภัย แต่คนอ่านก็ยังคิดว่า เธอเลือกให้อภัยเพราะเธอเป็นคนใจเด็ด ตัดสินใจให้อภัยไปแล้ว จะเปลี่ยนกลับไปกลับมา ก็ใช่ที่ .. ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คนอ่านก็ฟันธงได้เลยว่า พระเอกเหนื่อยแน่ ประมาณว่า ทำอะไรน่าสงสัยอีกไม่ได้เลย นางเอกเม้งประสาทเสียแน่ๆ

คนแต่งพยายามแต่งให้พระเอกน่าสงสารมากค่ะ เช่น ดีเวอร์ หล่อ รวย เทห์ อัจฉริยะ และรักนางเอกมาก รักมานานตั้งแต่เด็กอีกด้วย .. แต่อ่านแล้วก็ยังสงสารนางเอกมากกว่าอยู่ดีค่ะ สงสารตั้งแต่้ต้นเรื่อง เพราะคิดว่ามันจะต้องมีเหตุผลแน่ ๆ ที่นางเอกร้ายแบบนี้ .. การที่รักใครซักคน แต่ไม่สามารถให้อภัยได้นี่ เราว่ามันเจ็บอ่ะ .. จะเกลียดก็ไม่ได้ เพราะว่ายังรักอยู่ จะเศร้าก็ไม่ได้ อ่อนแอก็ไม่ได้ เพราะเลือกที่จะไม่ให้อภัยเอง .. ก็เลยต้องหนี .. หนีทั้งคนรอบข้าง หนีทั้งใจตัวเอง ก็อย่างว่านะ ถ้าไม่สร้างสถานะการณ์บังคับ คงจบไม่ได้อ่ะเรื่องนี้

ถ้าถามว่าสนุกมั้ย ... สนุกค่ะ คนแต่งเขียนได้หวานดีแท้ มีประโยคเด็ด ๆ จี๊ดหัวใจเยอะแยะเลย .. แต่ถามว่าชอบมั้ย ... ไม่ชอบค่ะ มันหนัก ๆ อึดอัด บังคับกันมากเกินไปค่ะ

*** ดวงใจสัมผัสรัก ***
ชญาน์พิมพ์ เขียน
สำนักพิมพ์อินเลิฟ
จำนวน 312 หน้า ราคา 219 บาท

ปกหลัง
เมื่อเงื่อนไขสุดพิลึกในพินัยกรรมแสนหวาน "บังคับ" ให้เขาและเธอมาเจอกัน "ภีม" .. ร็อกเกอร์หนุ่มหน้าหวาน แบดบอยของวงการ ผู้ไม่เคยเชื่อมั่นในสิ่งที่ตามองไม่เห็นโดยเฉพาะเรื่องของความรัก "กอหญ้า" .. สาวสวยเข้าของสัมผัสพิเศษแรงกล้า ผู้มีชีวิตแแสนเรียบง่าย และเชื่อมั่นในทุกสิ่งที่รับรู้ได้ด้วยหัวใจ โดยเฉพาะความรัก.. เส้นทางชีวิตของคนสองคน ที่เปรียบดังเส้นขนาน กลับต้องมาบรรจบกัน แถมยังพ่วงมาด้วยเจ้านกแก้วมาคอร์ผีสิงตัวแสบ ความเรียบง่ายและความอ่อนโยนของเธอ จะช่วยสอนให้หัวใจที่แข็งกระด้างของเขานุ่มนวลลงได้หรือไม่.. หรือว่าเขาจะปิดตายหัวใจแล้วอยู่กับความร้ายกาจไปตลอดกาล

ความรู้สึกหลังอ่าน
อ่านเพลิน ๆ ค่ะ .. ไม่ได้ชอบอะไร จะมีแปลกน่าสนใจ ก็ตรงที่นางเอกตาบอดแต่มีลูกปัดวิเศษ คอยบอกทาง (ไปเก็บลูกปัดที่เดียวกับคุณวรรณวรรธ ในอขิทโรเลย) พระเอก ก็เป็นประเภทแบดบอย .. ธรรมดาก็จะชอบพวกแบดบอยนะ แต่ถ้าเป็นประเภท ทำโมโหแล้วขืนใจนางเอกนี่ ไม่ไหวอ่ะ ค่อนข้างแอนตี้ .. เรื่องนี้เลย ค่อนข้างเฉย ๆ .. แต่ชอบเพื่อนพระเอกนะ คอยดูแล เทคแคร์พระเอกมาก น่ารักดี..

*** Seduced / สุดหล่อเอฟบีไอป่วนหัวใจยัยจอมจุ้น ***
Beth Ciotta เขียน/ คาราเมล ลาเต้ แปล
สำนักพิมพ์ คนรู้ใจ
จำนวน 349 หน้า ราคา 195 บาท

ปกหลัง
โซเฟีย มารีโน ดาราสาวเลือดละตินสุดสวยสุดเซ็กซี่ ที่กลายเป็นขวัญใจจอแก้วจากบทบาทสุดบู๊ของเธอใน สปายเกิร์ล ทว่า อยู่มาวันหนึ่ง โซเฟีย ตื่นขึ้นกลางทะเลทรายอันรกร้างว่าเปล่าไร้ผู้คน มือข้างหนึ่งมีโทรศัพท์มือถือ ส่วนในมืออีกข้างหนึ่ง มีปืนของใครก็ไม่รู้เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่งรอยการต่อสู้ เสื้อผ้าที่สวนปื้อนเปรอะไปด้วยเลือดแดงฉาน และที่สำคัญ เธอจำไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่!
ทั้งเจ็บ กลัว และพิศวง งงงวย โซเฟียต้องการความช่วยเหลือโดยด่วนที่สุด ความช่วยเหลือจากใครก็ตามที่อยู่ใกล้ แต่อย่างน้อยเธอก็หวังเอาไว้ว่า ใครคนนั้นจะไม่ใช่ผู้ชายที่ทำให้เธอหลงรัก และหัวใจสลายได้ในจูบเดียวแบบเขา

ความรู้สึกหลังอ่าน
แหม .. อยากจะรีวิว แต่คู่เกย์ซะจริงเชียว เล่มนี้คู่เกย์ทั้งสองคน ต้องแยกกันอยู่คนละรัฐ กำลังเผชิญหน้ากับความไม่แน่ใจ และ ความไว้วางใจที่เหลืออยู่น้อยนิด (เหตุเกิดจากเล่มที่2) .. ทีนี้ก็ค่อย ๆ ปรับความเข้าใจ ทั้งกับตัวเอง และ อีกฝ่ายด้วย .. น่ารักมาก ๆ เลย .. ส่วนพระนางเหรอ ก็ดี!! 555 ไม่ใช่ ... นางเอกเข้าไปพัวพันกับการฆาตกรรม แต่ตนเองกลับช็อคจนความจำเสื่อมชั่วคราว พระเอกก็เลยต้องคอยดูแล ... คู่พระนางคู่นี้ เค้าทะเลาะกันมาตั้งแต่เล่ม2 ค่ะ มาเล่มนี้ ในช่วงแรก ๆ ก็เลยด่าว่ากันเยอะหน่อย .. ไม่ค่อยชอบเลย เพราะเค้าด่ากันรุนแรงน่ะ กะให้อีกฝ่ายเจ็บ .. แต่พอมาเปิดเผยความรู้สึกกันแล้ว ก็น่ารักดีคู่นี้ เพราะเป็นพวกที่ต้องการความรักมาเยียวยาทั้งคู่เลย .. สนุกดีค่ะ

จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 05:05:07

ความคิดเห็นที่ 70

สวัสดีตอนเช้าค่ะ ^^

วันนี้ไม่มีรีวิว มาคุยเฉยๆ ฮา

...โจทย์คุณเรียวรุ้ง แอบเสียดายข้อ ปีศาจ / ซาตาน / ผี / แวมไพร์ / มนุษย์หมาป่า อยู่ข้อเดียวกันจัง มีหนังสือแนวนี้หนาๆ เยอะค่ะ 555

...ชุด Sabriel / Lirael / Abhorsen ทำเอาพี่ๆ น้องๆ ถอยกรูดกันเป็นแถว ฮา ... สงสัยจะมีแต่ไอซ์กับนุชที่อ่านกันอยู่สองคนแหงๆ 555

บางทีไอซ์ก็ขี้เกียจอ่านหนังสือที่บรรยายเยอะๆ เหมือนกันค่ะคุณหมูฯ คุณแจง คุณเรียวรุ้ง แต่จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับสำนวนการเขียนเป็นหลัก ถ้าสำนวนดี เขียนน่าสนใจ ไอซ์ก็อ่านได้เรื่อยๆ แต่ถ้าสำนวนแย่ยังไงก็อ่านไม่ได้อะค่ะ แหะๆๆๆ ส่วนเรื่องสาระ ก็ขึ้นอยู่กับสาระเหมือนกัน ถ้าสนใจก็อ่านค่ะ ถ้าไม่สนใจก็...ข้าม เอิ๊ก หนังสือชุดนี้สำนวนดี แล้วเรื่องที่เขียนก็น่าสนใจอะค่ะ โลกแฟนตาซีมันก็เลยต้องอธิบายเยอะนิดนึง ฮา

...ไอซ์ชอบโสมส่องแสงนะคะ แต่ไม่ค่อยชอบรอยอินทร์...มันจบเศร้า TT^TT ตอนเด็กๆ นี่อ่านโสมส่องแสงหลายรอบเลย ฮี่ๆๆ

...อาร์ทิมิส ฟาวล์ ซื้อมาตั้งแต่มันเพิ่งออกฉบับอังกฤษ เริ่มฮิต จนที่ไทยมีแปลหลายเล่มแล้วก็ยังไม่ได้อ่านซักที แหะๆๆ

...ลับแลแก่งคอย .. ดองอยู่ค่ะ เล่มนี้ได้ฟรีมา >_< เรื่องรถไฟฟ้าฯ ไอซ์ยังไมได้ดูเลย เชยเนอะ ^^" เรื่องกิ๊ฟท์ยังไงก็ได้ค่าพี่เต้ย สามเล่มที่อ่านตอบข้อนักเขียนต่างสัญชาติ เป็นแนวใกล้ๆ กัน ที่อ่านแล้วได้คิดอะไร สะท้อนเรื่องชีวิต ไอซ์ชอบเนวนี้อะ

...พี่ไก่คะ ชุด The Millennium Trilogy นี่ไอซ์มีครบทุกเล่มแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีอารมณ์จะอ่านต่อเลย เท่าไหร่เลย หนาจัง อ่านเล่มสองไปร้อยกว่าหน้าแล้วก็วางก่อน 555 สไตล์นักเขียนสวีเดนดูจะเข้าเรื่องช้าอะค่ะ ช่วงนี้สมาธิกุดมากๆ เลย

...คุณเรียวรุ้ง พี่หนิง ไอซ์ขอเป็นม้าอีกตัวที่เชียร์งานของปัน ((ลวิตร์ / พัณณิดา)) ค่ะ สำนวนปันจะออกแนวกระชับ และหาข้อมูลมาดีมากๆ จินตนาการเหลือเฟือจริงๆ

^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 08:20:38

ความคิดเห็นที่ 71

รักคุณ ดีใจจังที่คุณปลายทางของสายรุ้ง รีวิวดราก้อนดิลิเวอรี่
อยากได้แล้วล่ะ แต่จะรอให้ออกครบก่อน งานหนังสือคราวหน้าถ้าออกครบอาจซื้อพร้อมผู้เสกทรายด้วยเลย

รักคุณ ขอบคุณคุณColdOut ค่ะ เลือก Load of the Ring ตอบโจทย์หรือคะ จะรออ่านค่ะ เรื่องนี้หนังเรายังดูไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ ส่วนหนังสือแค่เห็นก็อยากนอนแล้วล่ะ

รักคุณ คุณไอซ์เป็นอีกคนที่เชียร์งานของคุณพัณณิดา เราอ่านไมรอนแล้วเชื่อตามแรงเชียร์จริงๆ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าจินตนาการเธอเหลือเฟือจริงๆ ไม่รู้ว่าระหว่างผู้เสกทรายกับดรากอนดิลิเวอรี่เรื่องไหนที่ออกแนวไม่หดหู่อย่างไมรอน อยากอ่านแฟนตาซีเบาๆบ้าง

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 09:10:10

ความคิดเห็นที่ 72

สวัสดีค่า ทุกคน...

มารายงานตัวค่ะ ว่ายังอ่านหนังสือ ยังเล่นเกมอยู่ แหะ ๆ
แต่ไม่มีเวลามาแปะรีวิว

ทักทายรวม ๆ อ่านรีวิวคร่าว ๆ แจกกิ๊ฟแล้วบ้าย-บายตอนนี้ก่อน

ไม่เกินสัปดาห์หน้าค่อยมาเรียบเรียงบอกเล่าหนังสือที่อ่าน ๆ ไปนะคะ smile

จากคุณ : แม่ไก่

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 12:23:36

ความคิดเห็นที่ 73

คุณเรียวรุ้ง

ถ้าอยากได้แนวเบาๆ ก็ต้องดราก้อนฯ ค่ะ

แต่ไปๆ มาๆ ปมที่ซ่อนไว้ก็ค่อนข้างหนักหนาไม่ใช่เล่นนะคะ

แต่โดยรวมแล้ว เนื้อหาก็ยังเบากว่าผู้เสกทราย

ผู้เสกทรายจะออกแนวหนักเหมือนกัน แต่เข้มข้นนะคะ

งานของคุณพัณณิดาเป็นนักเขียนอีกคนที่ทำให้เราเกลียดใครไม่ลงสักคนในหนังสือของเธอ

คุณปลายทางฯ

หุๆ เล่มหลังๆ จะยิ่งเข้มข้นขึ้นค่ะ ยิ่งเรื่องปมของความลับในเรื่องแล้ว ยิ่งแบบ..โห

นี่แม่เราเพื่อนเราทื่ให้อ่าน ก็รอเล่มต่อไปเหมือนกันค่ะ

ถามอยู่เรื่อยว่าออกหรือยัง ^^

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 12:43:29

ความคิดเห็นที่ 74

คุณเรียวุร้ง
ดรากอนดิลิเวอรี่ ไม่เครียด ไม่เศร้าเลยค่ะ ออกขำๆ ด้วย (ว่าจะ Remark ไว้ว่า ยังออกไม่จบ ก็ลืม)
ถ้าสน ดรากอน อย่าลืมเชค โปรบุฟเฟต์ (10เล่ม 500) ก่อนนะคะ .. 4 เล่มนี้ได้มาแบบสุดคุ้มมาก ๆ

...ขอถามหน่อยค่ะว่า ยักษ์(ไทย) อยู่หมวดอะไรคะ??

คุณสาวไกด์ใจซื่อ
เห็นด้วยว่า เกลี่ยดใครไม่ลงจริงด้วย ..ก็ร้ายแหล่ะ แต่คนแต่งให้เหตุผลซะ ตัวร้าย ๆ กลายเป็นผู้ถูกกระทำเลยเชียว ..
เรื่องปมต่าง ๆ ตอนนี้ก็มีเดา ๆ ไว้แล้ว คงต้องรอเฉลย ไม่รู้ตุลานี้ จะได้อ่านมั้ยนะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาคุยด้วยค่ะ เมื่อคืนคุยไม่ไหว ง่วง

น้องไอซ์... พี่เห็นด้วยว่า รอยอินทร์จบเศร้า เลยทำให้อ่านน้อยรอบกว่าโสมส่องแสง แต่พี่ว่า รอยอินทร์ สนุกกว่านะ ... ชอบ เจ้ารอย อ้อน มิรา อ่ะ.. ว่าจะอ่านมาตอบข้อไม่สมหวัง ยังทำใจอ่านไม่ได้เลย ..

ส่วนเรื่องบรรยายเยอะเนี่ย สำหรับพี่ ขึ้นอยู่กับเหตุผลของผู้แต่งอ่ะ
ถ้าบรรยายประเภท เดินทางไปโน่นนี่ หรือ บรรยายความคิด (บรรยายแล้วเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปด้วย) นี่อ่านได้ค่ะ
แต่ถ้าบรรยาย 3 หน้า แล้วเนื้อหายังอยู่ที่เดิม... แบบ ท้องฟ้าแจ่มใส ไล่โทนตั้งแต่ฟ้าอ่อนไปยังฟ้าแก่ มีก้อนเมฆอยู่ประปราย บรรยายรูปลักษณะก้อนเมฆ แสงอาทิตย์ส่องแสงทอประกายมายังทุ่งหญ้าเขียวขจี เริ่มไล่โทนสีอีกครั้ง ดอกไม้นานาชนิด บรรยายสรรพคุณต่าง ๆ แล้วไปจบที่ เป้าหมายอยู่บนยอดเขาลิบ ๆ ... ประหนึ่งได้ค่าต้นฉบับ แบบนับจำนวนคำ .. ต่อให้บรรยายเพราะขนาดไหน ก็เซ็งอ่ะ

แล้วด้วยความเรื่องมาก...
ถ้ามีแต่บทสนทนา คุยกันทั้งเรื่อง โดยไม่มีการบรรยายความรู้สึก หรือ สถานที่โน่นนี่เพิ่มเติมเลย ก็ไม่ไหวอีกล่ะ

เคยตั้งใจไว้ว่า ชาตินี้จะไม่เป็นครูแน่นอน (เพราะเป็นนักเรียนที่ร้าย)
ตอนนี้ตั้งใจไว้อีกอย่างว่า จะไม่เป็นนักเขียนอีกหนึ่งล่ะ 555 (เพราะเป็นคนอ่านที่เรื่องมากจริง ๆ)

จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 13:14:07

ความคิดเห็นที่ 75

^^^
โปรบุฟเฟต์ (10เล่ม 500)
นี่หมายถึงอะไรคะ
ซื้อ 10 เล่ม 500 บาทหรือยังไง แต่มันก็ดูจะถูกเกินไป (ถ้าได้ 10เล่ม 500ก็เรี่ยมเลยสิ)

แล้วโปร...แบบนี้เชคได้ที่ไหนคะ

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 13:47:36

ความคิดเห็นที่ 76

คุณปลายทางฯ

แต่ตัวดราก้อนเนี่ยออกถึงเล่ม 5 แล้วนะคะ

ถ้า..ถ้านะ ถ้าตุลานี้จะออก ก็น่าจะเป็นเล่ม 6 เลยอะค่ะ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 16:47:16

ความคิดเห็นที่ 77

ไปกทม.มาหลายวัน กลับมาเจอรีวิวยาวเหยียด(อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด) ขอส่งการบ้านก่อนค่อยตามเก็บรีวิวทีหลังนะคะ

15-2. [หมูย้อมสี] อ่านหนังสือ 2 เล่ม ที่คำในชื่อเรื่องเป็นคำที่มีความหมายเดียวกันหรือสื่อได้ในความหมายเดียว กัน แต่ไม่ใช่คำที่เหมือนกัน เช่น The Eight + แปดเทพอสูรมังกรฟ้า, ดั่งดวงหฤทัย + ดวงตาในดวงใจ เป็นต้น

1.มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอน บุกบ้านผีสิง(ของจริง!)
2.คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอน เกาะวิญญาณอาถรรพณ์

ตอบโจทย์ : คำว่า "ผี" กับ "วิญญาณ" นะคะ

1.มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอน บุกบ้านผีสิง(ของจริง!)
ผู้แต่ง อาคากะวา จิโร
ผู้แปล สมเกียรติ เชวงกิจวณิช
สนพ. บลิสพับลิชชิ่ง
จำนวนหน้า 181 ราคา 155 บาท

โปรยปกหลัง :

เมื่อโปรดิวเซอร์รายการทีวีหัวใสอยากเกาะกระแสเรียลลิตี
จึงชวนเพื่อนเก่าอย่างคาตายามาเข้าบ้านผีสิง
เพื่อพิสูจน์รักแท้ของสาวน้อยที่ถูกหนุ่มหลอกลวงจนช้ำรักต้องฆ่าตัวตายเมื่อห้าปีก่อน
แต่วิญญาณยังไม่ยอมไปสู่สุคติ
คอยวนเวียนสร้างปรากฏการณ์บ้านผีสิงให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน
แถมงานนี้ยังได้ดาราหนุ่มระดับคาสโนวาของวงการ
กับดาราสาวที่เพิ่งโดนหนุ่มคาสโนวาเขี่ยทิ้งหมาดๆ
มาร่วมพิสูจน์ความขลังของบ้านผีสิงอีกต่างหาก
งานนี้ไม่ใครก็ใครคงมีคนตายกัน(ให้สะใจ)บ้างล่ะ
ต้องคอยดูฝีมือพระเอกของเรากับแมวสามสียอดเก่งว่าจะจับผีเข้าคุกได้รึเปล่า!

ความรู้สึกหลังอ่าน : เล่มนี้ก็โอเคนะคะ มีผีตัวเป็นๆโผล่ออกมาจริงๆ แล้วก็มีคนถูกฆ่าในห้องปิดตาย! ซึ่งฆาตกรจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผีสาวตนนั้นที่อยู่ภายในห้องเดียวกับผู้ตาย แต่ผีจะฆ่าคนได้จริงๆเหรอ ต้องไปพิสูจน์ในเล่มค่ะ

ผลงานของอาคากะวา หมูไม่ค่อยเรื่องมากอยู่แล้ว ก็พออ่านได้ ยิ่งเป็นตอนยาวยิ่งโอเค ถ้าเป็นตอนสั้นจะไม่ชอบเลย เพราะฉะนั้นเล่มนี้ก็อ่านได้เรื่อยๆ และคงตามซื้อต่อไปอยู่ดี

************************************************

2.คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอน เกาะวิญญาณอาถรรพณ์
ผู้แต่ง โยโคมิโซะ เซชิ
ผู้แปล ชมนาด ศีติสาร
สนพ. บลิสพับลิชชิ่ง
จำนวนหน้า 272+254 ราคา 200+200 บาท

โปรยปกหลัง :

คินดะอิจิเหนื่อยล้าหลังเผชิญหน้ากับคดีฆาตกรรมไม่ว่างเว้น
จึงรับคำเชิญจากมหาเศรษฐีซึ่งเสนอให้ไปหย่อนใจบนเกาะบ้านเกิด
และว่าจ้างให้เป็นธุระสืบหาคนสูญหาย
ขณะแวะเยี่ยมสารวัตรอิโซคาวะ นักสืบพบว่าสหายเก่ากำลังกลัดกลุ้ม
ด้วยคดีชายต่างถิ่นตกทะเลตาย พร้อมทิ้งเสียงปริศนาในเทป
...มันเป็นแฝดตัวติดกัน คลานไปข้าง ๆ เหมือนปู...
...จงระวังคืนที่นกนุเอะร้อง...
...บนเกาะมีวิญญาณร้าย เกาะนั้นชื่อ...
ทั้งที่หมายใจแค่จะช่วยเป็นธุระ คินดะอิจิกลับต้องถลำลึก
สู่เหตุฆาตกรรมบนเกาะใกล้ร้างอันเป็นจุดหมาย
และวังวนปริศนาแห่งผู้สูญหายรายแล้วรายเล่า
นักสืบจะทำอย่างไร เมื่อมีเค้าว่าทุกสิ่งโยงใยสู่อดีตซับซ้อน
ซึ่งพัวพันกับคนใกล้ตัวเขาอย่างคาดไม่ถึง

ความรู้สึกหลังอ่าน : ยาวได้ใจมากค่ะ ตัวละครเยอะสุดๆ มีประวัติของเกาะ ประวัติของตระกูลในเกาะ และชื่อเกาะเล็กเกาะน้อยรอบเกาะของเรื่องอีก นึกว่ากำลังอ่านหนังสือประวัติศาสตร์+ภูมิศาสตร์ซะอีก ช่วงแรกงงมาก เกือบจะทำแผนที่เกาะและแผนผังคนซะแล้ว เพราะเยอะจนจำไม่ไหวจริงๆ หลังๆเริ่มชิน เพราะชื่อสำคัญๆจะถูกพูดถึงบ่อยๆเลยค่อยสบายหน่อย

เรื่องนี้สลับซับซ้อนพอสมควร มีคนเกี่ยวข้องมากมายและบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมารวมตัวกันพอดี แน่นอนว่าต้องมีคนตาย แต่คนร้ายนี่สิ เป็นคนที่คิดไม่ถึงจริงๆ ถึงแม้ว่าเล่มนี้คนแต่งจะแต่งตอนอายุมากแล้ว และเป็นเรื่องสุดท้ายก่อนจะตาย แต่ก็ยังสนุกมากๆเลย นับถือจริงๆ

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 17:57:57

ความคิดเห็นที่ 78

คุณเรียวรุ้ง
โปรบุฟเฟต์ 10 เล่ม 499 บาท .. จริง ๆ ค่ะ ไม่ได้โม้ ..
มักจะออก ช่วง งานหนังสือค่ะ มีมา 2 ครั้งแล้ว
ไม่รับประกันว่า คราวนี้จะมีโปรนี้อีกมั้ย แต่ควรเชคก่อนไปเดินงานค่ะ
เชคได้ที่เวป ของสถาพรบุ๊ค เค้าเลยค่ะ

คุณเรียวรุ้งยังไม่ได้ตอบเลยค่ะว่า ตกลงยักษ์ไทย ควรจะอยู่หมวดไหนดีคะ???

คุณสาวไกด์
กะว่าจะรอจนออกให้จบก่อน แล้วค่อยไปสอยค่ะ
หวังไว้ว่าจะออกตุลานี้ แม้ไม่ลด ก็จะกัดฟันซื้อล่ะค่ะ

จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 21:35:43

ความคิดเห็นที่ 79

^
คุณปลายทางของสายรุ้ง&พี่ไอซ์
ชอบทั้งโสมส่องแสงทั้งรอยอินทร์เลยค่ะ จะว่าไปก็ชอบนิยายสไตล์นี้ (การเมือง/ประเทศสมมติ) ของคุณทมยันตีทุกเล่มทุกนามปากกา มันช่างเข้มข้นบีบใจกันดีจริงๆ

เรื่องบรรยายเป็นของที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในนิยายแฟนตาซีเลยค่ะ เพราะฉากนั้นสำคัญยิ่ง และพวกฉากแอ็คชั่นหรือตัวละครโชว์เหนือก็ต้องออกมาในแนวนี้
แต่นุชก็ไม่ชอบพวกที่บรรยายยาวเว่อร์นะคะ สารภาพเลยว่าลอร์ดออฟเดอะริงก็แทบอ่านไม่จบด้วยเหตุฉะนี้แล ชอบคนเขียนที่ภาษาสวยแต่กระชับ

ทุกๆท่าน
ไม่ได้ค่าโฆษณาจริงๆนะค้า แต่หนังสือของคุณเคียว (พัณณิดา ภูมิวัฒน์) สนุกทุกเล่มจริงๆนา ถึงคนเขียนจะชอบรังแกตัวละครไปหน่อยก็เถอะ (หุหุ)

จากคุณ : ทินา

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 22:04:18

ความคิดเห็นที่ 80

คุยแล้วก็ตอบโจทย์มั่ง

20-2. [หนิงๆ (peiNing) + กุลธิดา] 6 มิถุนายน วัน D-Day (วันยกพลขึ้นบกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง): ให้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับสงคราม หรือ อ่าน
หนังสือเกี่ยวกับการปฏิวัติที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ทั้งไทย ทั้งเทศ (ขอเน้นสภาพสังคม จะเป็นนวนิยาย หรือบันทึกก็ได้ แต่ไม่เอาประเภทวิเคราะห์สาเหตุ หรือมีประเด็นที่ก่อให้เกิดการถกเถียงด้านการเมือง)

Silver Blade: Sally Gardner (312 pages)

(เรื่องนี้เป็นเล่มสองและเล่มจบของชุดค่ะ อ่านเรื่องย่อของ The Red Necklace ที่เป็นเล่มแรกได้ในบล็อกหากสนใจ)

ท่ามกลางความโกลาหลและป่าเถื่อนที่เกิดจากการปฏิวัติฝรั่งเศส Yann Margoza เด็กหนุ่มชาวยิปซีผู้สามารถมองเห็นเส้นสายสีทองและเชิดชักมันเพื่อบังคับผู้อื่น ใช้อำนาจของเขาในการช่วยเหลือผู้คนที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของกิโญตินด้วยการลักลอบพาพวกเขาข้ามไปยังเกาะอังกฤษ ที่ซึ่ง Sido คนรักของเขาถูกส่งไปอยู่กับลุงและป้า ซึ่งต้องการให้เธอแต่งงานกับหนุ่มตระกูลดีสักคนแทนที่จะเป็นยิปซี และ Yann ซึ่งได้รู้ความลับเรื่องชาติกำเนิดของตัวเองก็เลือกที่จะตัดขาด Sido

แต่แล้ว Count Kallivoski ศัตรูของ Yann ที่น่าจะตายไปแล้วกลับฟื้นขึ้นมาเดินดิน ทั้งยังมีสมุนเป็นเด็กหนุ่มรูปงามทว่าจิตใจเย็นชา ท่าน Count ลักตัว Sido มาเพื่อบังคับให้ Yann ถ่ายทอดเวทมนตร์ให้ แต่ความชั่วร้ายย่อมแพ้ให้ความดีงามและความบริสุทธิ์ และเหล่าบุตรธิดาแห่งการปฏิวัติก็เป็นอิสระดุจดังนกบนท้องฟ้า

ส่วนที่ใช้ตอบโจทย์นี้คือสถานการณ์ในเรื่องซึ่งชวนขนลุกเอามากๆ ในเล่มแรก ประชาชนทั้งหลายคิดว่าการปฏิวัติจะนำมาซึ่งอิสรภาพและความเท่าเทียม แต่มันกลับดึงส่วนที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์ออกมาแทน เหล่าชนชั้นสูงถูกฆ่าราวกับผักปลา เพื่อนบ้านหวาดระแวงกันเอง ผู้คนพากันสะใจกับความตายของคนอื่น และส่งเสียงโห่ร้องยินดีเมื่อมีดกิโญตินร่วงลงบั่นคอนักโทษ การปล้นฆ่ากลายเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งเป็นการฆ่าในนามของ "la revolution" ด้วยแล้ว

ตัวละครทั้งหลายในเรื่องนี้ออกแนวตามขนบ พระเอกหล่อเท่เก่งเทพ นางเอกอ่อนหวานทว่าเด็ดเดี่ยว ตัวร้ายโฉดแบบขุดมาจากนรกขุมไหนฟะ แถมยังมีมุก Darth Vader อีกแน่ะ ซึ่งปกติเราจะเซ็งเรื่องแนวนี้มาก แต่ภาษาที่สวยงามของคนเขียน และบทบรรยายก็ทำให้เราเชื่อว่าตัวละครพวกนี้เป็นแบบนี้จริงๆ และเอาใจช่วยมากกว่าจะหมั่นไส้

แต่คนอ่านคนนี้ก็รู้สึกว่าเล่มสองด้อยกว่าเล่มหนึ่งนิดนึง ซึ่งคิดว่าเป็นเพราะตัวละครรองไม่เด่นเท่าเล่มก่อนหน้า และแทนที่จะอ่านแล้วรีวิวเลย ดันไปอ่านหนังสือที่ตัวละครเจ๋งเทพอีกหลายเล่มติดๆกันก่อน ซึ่งพวกนั้นเป็นหนังสือผู้ใหญ่จึงเข้มข้นกว่า พอเทียบกันแล้วก็เลยรู้สึกเบาไปหน่อยน่ะค่ะ แต่สำหรับ YA แล้ว Silver Blade ก็ถือว่าเข้มข้นและหม่นทึมมากทีเดียว

แถมด้วยเกร็ดประวัติศาสตร์

ยุคสมัยแห่งความหวาดผวา (The Reign of Terror, The Terror) คือช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรุนแรงซึ่งกินเวลา 1 ปีกับ 1 เดือน นับตั้งแต่การปฏิวัติฝรั่งเศสเริ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงมาจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ และมีการสังหารผู้ที่ถูกเรียกว่า "ศัตรูแห่งการปฏิวัติ" ไปมากมาย ไม่มีใครทราบจำนวนผู้ที่ถูกสังหารแน่ชัด โดยตัวเลขที่ประมาณการกันนั้นมีตั้งแต่ 16,000 ถึง 40,000 คน (credit: wikipedia.org)
แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 53 22:47:27

จากคุณ : ทินา

เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 22:40:24

ความคิดเห็นที่ 81

^
^
อ่านพล็อตแล้วอยากอ่านอะนุช แต่จำได้ว่าเคยเซิร์ชแล้วพบว่านักเขียนคนนี้เคยเขียนหนังสือเด็กแบบเด็กๆๆ มากๆ ประมาณหนังสือภาพใช่หรือเปล่าอะ กลัวว่าเรื่องจะเด็กจัง

พี่หนิงคะ รอยอินทร์นี่ รอบหลังๆ ไอซ์อ่านแค่ค่อนเรื่องแรกค่ะ 555 ตอนจบไม่อ่านอะ รับไม่ได้อย่างแรง แงๆๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกว่าคนเขียนซาดิสม์มาก เพราะจริงๆ แล้วก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตายเลยง่ะ แฟ่ๆๆๆ

หนังสือของปันนี่ไอซ์ซื้อลดน้อยทุกเล่มเลยอะค่ะพี่หนิง คุณเรียวรุ้ง แอบเซ็ง อยากไปบีบคอคนเขียนขอหนังสือฟรีจัง 5555

ไอซ์เหมือนคุณหมูฯ เรื่องผลงานของอาคากะว่าเลย ประมาณอ่านได้ อย่าคาดหวังมาก แต่เรื่องที่สนุกก็สนุกเลยนะคะ ตอนนี้กำลังอ่านมาตอบโจทย์อยู่เหมือนกัน ไม่เกินพรุ่งนี้คงได้รีวิวมั้ง

สวัสดีทุกคนด้วยค่า ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 07:33:56

ความคิดเห็นที่ 82

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ...ขอเก็บคะแนนก่อนออกไปทำงานซะหน่อย

25-4. [สาวไกด์ใจซื่อ] อ่านหนังสือ 3 เล่ม โดยให้คนอ่านผูกธีมเอาเอง เช่น สามเล่มที่เป็นเรื่องของอาหารเหมือนกัน สามเรื่องที่มีเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเหมือนกัน ฯลฯ

ธีม : "ตามรอยพระบาท" ประกอบด้วย
1. ตามรอยพระพุทธเจ้า : การเดินทางของพระพุทธเจ้าและพุทธศาสนา
2. ตามเสด็จไกลบ้าน : การเดินทางตามเรัชกาลที่ 5 ในการเสด็จประพาสยุโรป ครั้งที่ 2
3. สยามยามวิกฤต : การเดินทางตามรอยพระบาทรัชกาลที่ 5 ในการเสด็จประพาสยุโรป ครั้งแรก

เล่มที่ 1 : ตามรอยพระพุทธเจ้า : พาโนรามา
แพรวสำนักพิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ 2 สิงหาคม 2549
จำนวน 290 หน้า

หนังสือเชิงสารคดีและประวัติศาสตร์ โบราณคดี และมานุษยวิทยา ที่พาเราก้าวตามเส้นทาง
ของเจ้าชายสิทธัตถะ จนกระทั่งตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กำเนิดพุทธศาสนาในอินเดีย กระทั่งสูญหายจากอินเดียไปกว่า 700 ปีจึงได้คืนกลับมาอีกครั้ง
ระหว่างการเดินทางค้นคว้าพบปะผู้คนและชีวิตชาวอินเดียหลายคน
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วเรารู้จักพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นเลยล่ะ
อยากไปหาภาพยนตร์สารคดีชุดนี้มาดูบ้าง..น่าจะหาซื้อได้นะ

เล่มที่ 2 : ตามเสด็จไกลบ้าน - อัมพร จิรัฐติกร
สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งที่ 4 มิถุนายน 2543
จำนวน 220 หน้า

หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องโดยผู้เขียนบทสารคดีโทรทัศน์ชุด "ไกลบ้าน"
เป็นการเดินทางตามหาร่องรอยการเสด็จประพาสยุโรป ครั้งที่ 2 ของรัชกาลที่ 5
มีปัญหา อุปสรรค และเรื่องไม่คาดฝันระหว่างการเดินทาง
อ่านได้ไม่เบื่อเลย ...ได้รู้จักยุโรปในมุมมองของรัชกาลที่ 5
และได้รู้มุมมองของชาวยุโรป ต่อประเทศสยามในช่วงเวลานั้นด้วย

เล่มที่ 3 : สยามยามวิกฤต - สุมิตรา จันทร์เงา
สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 2541
จำนวน 173 หน้า

หนังสือเล่มนี้เป็นการรวมบทความสารคดีตามรอยพระบาท 100 ปี เสด็จประพาสยุโรป
บอกเล่าสิ่งที่พบเห็นในปัจจบัน (ขณะเดินทาง)
ควบคู่ไปกับเรื่องราวในช่วงที่สยามตกอยู่ในระหวางมหาอำนาจฝรั่งเศสและอังกฤษ
และเรื่องของมหามิตร รัสเซีย
การเดินทางไปได้มีลำดับเดียวกับเส้นทางเสด็จ แต่ไปเยี่ยมเยีือนครบทุกประเทศ
ที่เสด็จไปในครั้งนั้น ...

อ่านหนังสือจบหมด...ที่เคยทำเป็นสารคดีโทรทัศน์เราก็อยากไปหามาดูบ้าง
และคิดว่าจะหยิบเอาพระราชนิพนธ์ไกลบ้านและพระราชหัตถเลขาที่มีตีพิมพ์ไว้มาอ่านเพิ่มเติม
เอาไว้..เล่นเกมซีซั่นหน้าละกันนะ ..ตอนนี้อ่านไม่ทันแล้วล่ะ
ส่วนรีวิวแบบละเอียดๆ จะเขียนใน blog อีกครั้งนะ
แต่ละเล่ม เรื่องมันเยอะและยาวจ๊ะ

จากคุณ : นัทธ์

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 07:52:33

ความคิดเห็นที่ 83

ตอบคุณ ปลายทางของสายรุ้ง
ยักษ์ไทยขอจัดอยู่ในหมวด เทพ ,เทวดา ค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องโปรค่ะ

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 10:04:32

ความคิดเห็นที่ 84

เอ๊อะ ลืมเลย เหมือนมีคนถามเรื่องธีมเล่ม 1
(คืออ่านเฉพาะเล่ม 1 ของแต่ละเรื่อง)

ให้กรรมการตัดสินได้เลยนะคะ

ที่จริงข้อนี้เปิดกว้างมากอยู่แล้ว ถ้าถามเราก็น่าจะได้กระมังนะ

สาวน้อยปะแป้ง

จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 10:06:00

ความคิดเห็นที่ 85

พี่สาวไกด์ -- หมูอ่านการ์ตูนเรื่องรถไฟฟ้าก่อนไปดูหนังค่ะ เลยรู้สึกว่าเข้าใจความเป็นมามากขึ้น ชอบหนังเรื่องนี้มากๆ โดนตัวเองสุดๆ ^o^

คุณเรียวรุ้ง/คุณโบ -- เรื่องอาร์ทิมิส ฟาวล์สนุกกว่าแฮรี่อีกเหรอคะ คือเห็นบางคนก็ชอบ บางคนก็บอกว่าไม่สนุกเลยไม่กล้าลองสักที แต่ถ้ามีหลายเสียงยืนยันก็น่าสนใจ

คุณไอซ์ -- รีวิวเรื่องเอ็ดเวิร์ด กับเทวดาที่โหล่ซะอยากอ่านเลยค่ะ ปกติจะไม่ค่อยอ่านแนวนี้นะเนี่ย

คุณหนิง(ปลายทาง) -- เรื่องชุดคู่เกย์ ตอนนี้ออกมากี่เล่มคะ แล้วจะมีตอนต่ออีกรึเปล่าคะ สนใจชุดนี้จริงๆ

คุณยาคูลท์ -- หมูไปกทม.รอบนี้ ได้แวะร้านขายหนังสือตรงใต้ 29พลาซ่าด้วยค่ะ ได้ของเตี่ยนซินมาสองเล่ม และอมรินทร์แนว romantic suspend มาอีกเล่ม คุ้มมากเลยค่ะ

กว่าจะอ่านรีวิวจบ ตาแฉะเลยค่ะ เหมือนจะไม่เยอะเม้นท์ แต่แต่ละเม้นท์ยาวเชียว อาจไม่ได้ตอบครบทุกคนแต่อ่านหมดเลยนะคะ

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:30:58

ความคิดเห็นที่ 86

คุณหมู (เหม่ยลี่)
เรื่องชุดคู่เกย์ ออกมาครบ 3 เล่มแล้วค่ะ .. พยายามหาที่ลด ๆ นะคะ หนิงซื้อที่ ส่งเสริมการอ่าน (เซ้นทรัลพระราม2) เล่มละ 60 เอง (รึ 90 ไม่แน่ใจ) รึหลังไมค์กันดี

คุณเรียวรุ้ง
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ..

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

5-11. [Clear Ice] วรรณกรรมรำลึก: อ่านหนังสือที่ผู้เขียนหรือผู้แปลเสียชีวิตไปแล้ว ให้บอกด้วยว่าเสียชีวิตไปเมื่อไหร่
***เสรีภาพเจ้ากรรม / A Feast of Freedom ***
เลียวนาร์ด วิบเบอร์ลีย์ แต่ง / เทศภักดิ์ นิยมเหตุ แปล
แพรวสำนักพิมพ์
จำนวน 171 หน้า ราคา 139 บาท

Leonard Patrick O'Connor Wibberley (April 9, 1915 – November 22, 1983) ** ข้อมูลจาก wiki http://en.wikipedia.org/wiki/Leonard_Wibberley
เทศภักดิ์ นิยมเหตุ เกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2482 เสียชีวิตเมื่อ 1 เมษายน 2538 ** ข้อมูลจากคำนำของหนังสือ

ปกหลัง
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกชาวเกาะตีหัวและย่างกินเป็นอาหาร
นวนิยายแปลหฤหรรษ์เสียดสีประเทศอภิมหาอำนาจ
เมือโอโม ลาอู ประเทศเกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ อาณานิคมของอังกฤษ ตกเป็นเบี้ย บนเวทีการเมืองระหว่างประเทศ โดยถูกอังกฤษเมืองแม่ กับสหรัฐฯ ร่วมกันยัดเยียดเอกราชให้ทั้งที่ไม่ต้องการและขาดความพร้อมที่จะปกครองตนเอง โดยเฉพาะอย่างความพร้อมทางเศรษฐกิจ
เรื่องยิ่งโกลาหลหนักขึ้นเมือรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางไปเยือน เกิดทำผิดประเพณีเข้าอย่างรุนแรง โดยรู้เท่าไม่ถึงการ จึงถูกพวกชาวเกาะตีศีรษะจนถึงแก่ความตายและจับย่างกินเป็นอาหาร โอโม ลาอูจะเอาตัวรอดจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้อย่างไร อนาคตของประเทศนี้จะเดินไปในทิศทางไหน พบคำตอบได้ใน "เสรีภาพเจ้ากรรม" ที่แฟน ๆ ของเทศภักดิ์ นิยมเหตุ จะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ความรู้สึกหลังอ่าน
เป็นหนังสือเกี่ยวกับการเมืองที่อ่านเพลินมาก ๆ .. แม้จะเป็นหนังสือที่ไร้ความหวานโดยสิ้นเชิง .. อย่างที่บอกไว้ตามปกหลังเลย เล่มนี้เป็นหนังสือที่เสียดสีประเทศมหาอำนาจ ก็คือ สหรัฐ กับ อังกฤษ .. และก็ยังเสียดสีไปถึง ระบบการปกครอง กฏหมาย ธนาคาร ... เสียดสีกันหนักบ้าง เบาบ้าง บางเรื่องนี่ขำก๊ากเลย .. เนื้อหาไม่หนัก อ่านไม่ยาก (ยกประโยชน์ให้คนแปลค่ะ แปลดีมาก ๆ) ไม่มีความรู้เรื่องการเมือง (มากนัก) ก็ยังอ่านรู้เรื่องค่ะ .. อ่านไปก็พยักหน้าไป อืมม จริง นี่จริง โน่นก็จริง .. สรุปว่าชอบค่ะ

"มันน่าแปลกใจว่าทำไมไอ้ระบบที่ว่านี่ถึงได้ใช้การได้ ผู้คนทั้งหมดที่มีจำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วนจะรู้ได้ยังไงว่า อะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด" -> อืมม ... จริง
"เจตจำนงของปวงชนคือสิ่งที่ดีที่สุด" "นั่นคือความหมายของคำว่าประชาธิปไตย" -> อืมม ... เหรอ??
"แต่ถ้าผู้คนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดได้ยังไงกัน" -> อืมม.. จริง
"อะไรที่ส่วนใหญ่ของประชาชนต้องการ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด" "มันคือวิธีที่เขาถือว่าใช้การได้ในระบอบประชาธิปไตย" -> ..อืมม .. เหรอ???
"ถ้างั้นมันก็เป็นรัฐบาลที่มาจากความบัดซบ" -> ??? นี่กำลังพูดถึงประเทศอะไรเนี่ย ???

เค้าไม่มีสีนะ และก็ไม่ใช่คอมมิว ด้วย ... :D
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 53 00:56:15

จากคุณ : ปลายทางของสายรุ้ง

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:59:01

ความคิดเห็นที่ 87

พี่ไอซ์
คุณแซลลี่เค้าหันมาเขียน YA ได้สามเล่มแล้วค่ะ ไม่เด็กน้อยเลยสัญญาได้ จะออกแนวดราม่าแบบแฟนตาซีหน่อยๆ คือไม่ได้มียิงแสงปิ้วป้าว แต่มีไสยศาสตร์ มีแฟรี่อะไรอย่างนี้ เล่มแรกที่ชื่อ I, Coriander ก็ได้รางวัลนะคะ
ภาษาเค้าเสน่ห์มากเลย ไว้จะเอามาแปะให้ดู

คุณเรียวรุ้ง/คุณโบ
สารภาพว่าไม่ชอบอาร์เตมิส ฟาวล์ง่ะ มันดูเป็นคนไม่น่าคบ คือปกติชอบตัวละครเจ้าเล่ห์นะคะ แต่ต้องเจ้าเล่ห์เพื่อคนอื่นง่ะ อันนี้มันดูเจ้าเล่ห์เพื่อตัวเองยังไงชอบกล พวกซี่รี่ย์จับกลุ่มคนอ่านแฮร์รี่เราเชียร์เพอร์ซี่ย์ แจ๊คสัน กับอาณาจักรแห่งกาลเวลามากกว่า

คุณปลายทางฯ
นะ นะ น่าอ่านมาก ชอบหนังสือแนวนี้สุดๆเลยค่ะ เสียดสีเฮฮา แถมเป็นคุณเทศภักดิ์แปลด้วยต้องรับประกันฝีมือแน่ๆ

จากคุณ : ทินา

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 14:53:28

ความคิดเห็นที่ 88

คุณหมูย้อมสี สำหรับเราอาร์ทิมิส ฟาวล์ สนุกกว่าแฮรี่ค่ะ แฮรี่อารัมภบทมากไปกว่าจะเริ่มลุ้นให้มันส์เข้าไปเกือบครึ่งแล้ว ประมาณว่าอยากวางแล้วล่ะ เล่มหลังๆไม่อ่านเลย

ส่วนอาร์ทิมิสนี่ น้องสาวชอบค่ะ(รายนี้ก็ไม่ชอบแฮรี่เหมือนเรา)น้องซื้อเก็บไว้เราเลยหยิบมาอ่านตอบโจทย์ อ่านแค่ 2 เล่มเองค่ะเท่าที่ตอบโจทย์ เรื่องนี้อ่านไปมีลุ้นไปตั้งแต่ต้นเรื่องเราเลยว่าสนุกกว่าแฮรี่

แต่อย่างคุณทินาว่า อาร์ทิมิสนิสัยส่วนตัวไม่ดีนัก เป็นเด็กเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจค่ะ

เรื่องที่เราชอบมากกว่าแฮรี่และอาร์ทิมิส ก็หัวขโมยแห่งบารามอสค่ะ 4 เล่มจบอ่านครบทุกเล่มเลย (ของน้องสาวเหมือนกัน) สำหรับอาร์ทิมิสเราว่าสนุกกว่าแฮรี่แต่ไม่ถึงขนาดจะอยากซื้อเก็บค่ะ แต่บารามอสนี่ถ้าน้องสาวไม่มีเราซื้อเก็บนะ

จากคุณ : เรียวรุ้ง

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 15:46:02

ความคิดเห็นที่ 89

คุณ หนิง(ปลายทาง) -- ขอบคุณที่ใจดีจะให้ยืมนะคะ แต่หมูเกรงใจว่าต้องส่งไปรษณีย์กันไปมาอีก เอาไว้หมูจะคอยหาตามที่ลดราคาค่ะ

คุณเรียวรุ้ง -- ตอนแรกหมูคิดว่าคนที่ไม่ชอบแฮรี่ จะชอบอาร์ทิมิส หมูชอบแฮรี่ดังนั้นไม่น่าชอบอาร์ทิมิส แต่...หมูก็ชอบเรื่องบารามอสมากๆๆๆเหมือนกันค่ะ เป็นหนังสือที่คุ้มมากเพราะเอาไปให้เพื่อนอ่านกันอีกสิบคน หนังสือเยินน่าดู สงสัยทฤษฎีนี้จะไม่ได้ผล คงต้องลองอ่านเอง !?

10-8. [II Maze+ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่เคยทำเป็นภาพยนตร์หรือละครมาแล้ว หรือเป็นหนังสือที่ยังไม่เคยนำมาทำก็ได้ ให้รีวิวพร้อมเสนอ casting ตัวละครตามใจคนอ่าน จะเป็นนักแสดง นาย แบบนางแบบ หรือจะเกณฑ์คนใกล้ตัว คนข้างบ้าน หรือตัวเองมาแสดงก็ได้ ถ้าไม่เป็นที่รู้จักให้เอารูปมาให้ดูด้วย

น้องนุชสุดแสบ ชุด สาวงามสะคราญโฉม
สำนักพิมพ์ : แจ่มใส
ผู้แต่ง: เตี่ยนซิน
ผู้แปล : พวงหยก
จำนวน 170 หน้า ราคา 139 บาท

โปรยปก :

เจ็บใจเหลือเกิน หมอยาอย่างนางกลับถูกพิษร้ายจนสิ้นท่า
ที่สำคัญ วิธีการถอนพิษที่เขากระทำกับนาง...ช่างน่าตายนัก!

ร้านขายยาของ ‘เฉียนเป้ยเป้ย’ ธิดาคนที่ห้าของตระกูลเฉียนผู้งดงาม ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง
เพราะยาแต่ละขนานของนางล้วนมีสรรพคุณในการรักษาเป็นที่เลื่องลือ

หากเมื่ออยู่ๆ เกิดคู่แข่งทางการค้าเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่ง นางจึงได้รับคำสั่งเด็ดขาดจากพี่ใหญ่
ให้ออกไปเสาะหายาวิเศษที่สามารถดึงเงินทองจากลูกค้ากลับคืน

แต่ภารกิจนี้ก็ใช่ว่าจะราบรื่น เพราะนางกลับไปถูกพิษร้ายแรงทั้งที่เป็นหมอยาเสียเอง
ครึ่งหนึ่งต้องโทษว่าเป็นเพราะ ‘เขา’ แต่อีกครึ่งต้องโทษตัวเองที่รนหาที่

ปัญหาใหญ่อยู่ที่การถอนพิษ ซึ่งมีแต่ ‘เขา’ เพียงผู้เดียวที่สามารถ ด้วยวิธีที่แสนจะ... พิสดาร... ชวนให้ปั่นป่วนหัวใจ

หากไม่ยอมก็ต้องตาย! แต่ถ้ายอมก็ต้องอับอาย!... โอ๊ย นางควรจะทำอย่างไรดี"

***********************************************

ความรู้สึกหลังอ่าน : น่ารักมากกกก ไม่ไหวแล้ววววว ชอบเรื่องที่เตี่ยนซินแต่งจริงๆเลย ถึงพล็อตและนิสัยพระเอกนางเอกจะไม่ค่อยแตกต่างกัน แต่เราชอบพระนางนิสัยแบบนี้ล่ะ พระเอกครึมๆโหดๆขี้หึงแต่ใจดีกับนางเอกคนเดียว ไม่ค่อยพูดแต่แสดงออกด้วยการกระทำ(กรี๊ดดด) มักทำให้นางเอกเข้าใจผิดว่าไม่รัก ส่วนนางเอกก็เหมือนช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว ให้พระเอกคอยช่วยตลอด ใครที่ชอบพล็อตแบบนี้แนะนำเลยค่ะ โดยเฉพาะเล่มนี้....วิธีถอนพิษก็อย่างที่เขียนชวนให้เข้าใจผิดนั่นแหละค่ะ ฮิ้วววว น่ารักมากๆ

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 17:52:26

ความคิดเห็นที่ 90

ขอสนับสนุนของรางวัลประจำซีซั่นนี้เป็นหนังสือธรรมะค่ะ

ตามรอยธรรม ย้ำรอยครู (ปกแข็ง)
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

จากคุณ : MiKi (Sichon)

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 17:52:46

ความคิดเห็นที่ 91

ไม่ค่อยรู้จักดาราจีนเท่าไหร่ ตอนเด็กๆก็ชอบดูหนังจีนแต่จำชื่อไม่ค่อยได้ ส่วนนางเอกนี่ตอนอ่านก็นึกถึงเจ้าเหว่ยเลยค่ะ ห้าวๆลุยๆ ไม่กลัวอะไร

ตอบโจทย์ :
พระเอก รับบทโดย กัวฟู่เฉิง (พยายามหารูปที่ดูเถื่อนๆ เพราะนางเอกเห็นพระเอกครั้งแรกเข้าใจผิดว่าเป็นนายพราน)
นางเอก รับบทโดย เจ้าเหว่ย

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 17:57:09

ความคิดเห็นที่ 92

25-5. [อั๊งอังอา] อ่านหนังสืออะไรก็ได้ 1 เล่ม ที่จำนวนหน้า 500+ หน้า ... ทุกส่วนเกิน 100 หน้าบวกโบนัสเพิ่ม 5 คะแนน

ระบำไฟ
ผู้เขียน ม. มธุการี
พิมพ์ครั้งที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๓๘
สำนักพิมพ์ดอกหญ้า
๖๐๗ หน้า

"อุทาหรณ์แห่งชีวิตของผู้ที่ตกอยูู่ท่ามกลางกองไฟแห่งอารมณ์"

เรื่องย่อ
ตรีประดับ พยส และ เทศราช เรียนหนังสือมาด้วยกัน ทั้งพยสและเทศราชหลงรักตรีประดับ เทศราชได้เปรียบตรงที่เป็นลูกชายคนเดียวของผู้ว่าการจังหวัดและมีเงิน แต่ในที่สุดพยสก็คนที่ได้หัวใจของตรีประดับ ทั้งคู่หมั้นกัน เทศราชอกหัก หนีเตลิดเปิดเปิงไปอยู่อเมริกา

ตรีปะดับแต่งงานกับพยสซึ่งเป็นทนายความมีอนาคตไกล ทั้งคู่สร้างครอบครัวที่อบอุ่นโดยมีชิงฉัตร หลานชายวัยรุ่นของพยสมาอยู่ด้วย ตรีประดับเป็นนักแปลหนังสือที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ และมีรายได้ดี ครั้งหนึ่งคิดหาคนมาช่วยงานที่บ้านเพราะตรีประดับทำงานตลอดเวลา ไปเห็นประกาศทางหน้าหนังสือพิมพ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่งต้องการผู้อุปการะ ตรีประดับก็เลยรับไว้ พัดชาคือนักศึกษาคนนั้น พัดชาเป็นคนสวย พ่อแม่ทิ้งและโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พอโตเป็นสาวก็ได้สามีภรรยาฝรั่งสูงอายุรับไปเลี้ยง ไม่เพียงเลี้ยงอย่างเดียว พัดชาตกเป็นนางบำเรอของสามีฝรั่งของคนต่างชาติคู่นั้น พัดชาถูกฝ่ายชายข่มขืนตั้งแต่อายุ ๑๖ ปีและต้องทดแทนบุญคุณทั้งคู่ด้วยการหลับนอนกับชายแก่คนนั้นเรื่อยมา จนทั้งคู่กลับประเทศ พัดชาก็หาผู้อุปการะใหม่ต่อไป

แรกๆ ที่พัดชาเข้าไปอยู่ในบ้านของพยสและตรีประดับ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีแม้พัดชาจะไม่ค่อยพอใจชิงฉัตรอยู่บ้าง ตรีประดับไว้ใจพัดชามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพัดชามีการศึกษาพอสมควร ดูเหมือนไว้ใจได้ ก็ให้ช่วยพิมพ์งานให้ ช่วยไปติดต่อโรงพิมพ์ แม้แต่เอาเงินที่ได้มาไปฝากธนาคารให้ด้วย ตรีประดับเป็นคนมองคนในแง่ดีจนคิดไม่ถึงว่าพัดชาหมายตาพยสไว้นานแล้ว จนในที่สุดพยสกับพัดชาได้เสียกัน ครั้งแรกอาจเป็นเพราะพยสซึ่งระวังตัวเองมาตลอดเมา แต่พอมีครั้งแรก ครั้งต่อมาก็ง่ายขึ้น ตรีประดับมาเห็นกับตาตัวเองก็เตลิดหนีกลับไปบ้านในสวนของพ่อแม่ เวลานั้นเทศราชกลับเมืองไทยแล้วและทำงานเป็นนักข่าวกับพยางค์ซึ่งเป็นอาของตัวเอง เทศราชยังคงปักใจอยู่กับตรีประดับ ยังคงรักตรีประดับ เป็นความรักที่อยากเห็นคนที่ตัวรักมีความสุข ก็พยายามช่วยให้ตรีประดับกับพยสคืนดีกัน แต่ปรากฎว่าพัดชาท้องและหาทางกลับมาอยู่กับพยสจนได้ ตรีประดับจึงเป็นฝ่ายยอมแพ้และพยายามขอหย่ากับพยส

พยสไม่ได้รักพัดชา ไม่เพียงแค่นั้นยังรังเกียจที่พัดชามาสร้างปัญหาให้ตัวเอง เริ่มมองเห็นแล้วด้วยว่าพัดชาเป็นคนอย่างไร พยสยอมให้พัดชามาอยู่ในบ้านก็เพราะเห็นแก่ลูก พอมีปัญหากดดันภายในบ้าน พยสหันไปหาชินานางซึ่งเป็นเมียออกหน้าของเสี่ยจิว ชินานางรู้จักกับพยสก็เมื่อว่าจ้างให้ช่วยเอาลูกจากสามีเดิมให้ และชินานางก็หมายตาพยสมานาน ได้โอกาสเมื่อพยสมีปัญหาครอบครัว ชิงฉัตรซึ่งแอบรักตรีประดับอยู่เงียบๆ พอรู้เรื่องที่พัดชาสร้างความแตกร้าวให้ตรีประดับกับพยสก็แอบเข้ามาข่มขืนพัดชาจนพัดชาแท้ง พยสจึงตัดพัดชาออกไปจากชีวิตของตัวเองได้ในเมื่อไม่มีลูกเป็นห่วงคล้องคออยู่อีกแล้ว

ตลอดเวลาที่ตรีประดับมีปัญหาและหม่นหมองกับเรื่องที่เกิดขึ้น เทศราชคอยช่วยเหลือประคับประคอง เมื่อตรีประดับละอายใจที่จะกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ เทศราชก็เสนอให้ไปอยู่คอร์ตของตัวเอง แม้จะมีห้องนอนเดียวและต้องนอนด้วยกัน แต่เทศราชก็ไม่เคยแตะต้องตรีประดับ ตรีประดับอาศัยอยู่กับเทศราชจนคอนโดทีไปซื้อไว้สร้างเสร็จและย้ายออกไปอยู่คนเดียว

สิงคารเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของตรีประดับที่ประทับใจตรีประดับแต่แรกเห็น สิงคารเคยเป็นพระเอกหนังเลื่องชื่อ ต่อมาพยายามสร้างหนังเอง ชินานางเคยเป็นรองนางสาวไทยและเคยแสดงหนังอยู่พักหนึ่งแต่ไม่รุ่ง จนไปได้กับเสี่ยจิวหลังจากมีสามีมาก่อนหน้าแล้ว ชินานางเคยมีอะไรๆ กับสิงคารด้วย สิงคารขอให้ชินานางช่วยพูดกับเสี่ยจิวให้เป็นนายทุนสร้างหนังให้

ตรีประดับกับสิงคารเริ่มสนิทกันเรื่อยๆ สิงคารไม่ได้มองตรีประดับอย่างที่เคยมองผู้หญิงทั่วไปที่เคยเห็นว่าเข้ามาหาตัวเองก็เพราะต้องการผลประโยชน์และต้องการเพียงความสนุกชั่วครู่ชั่วยาม สิงคารมองว่าตรีประดับเป็นผู้หญิงคนแรกที่เห็นว่าเป็นคนดี คิดไปถึงว่าถ้าจะจริงจังกับใครสักคนก็คงเป็นตรีประดับ สิงคารไม่เคยคิดทำร้ายตรีประดับ แต่คืนหนึ่งเมาทั้งคู่และตรีประดับเริ่มจะคล้อยตามไปกับบรรยากาศ เทศราชเข้ามาเห็นเข้าพอดี พอเห็นก็โกรธและแค้นที่ตัวเองเฝ้าดูแลตรีประดับหลังจากที่สบักสบอมมาจากปัญหาพยสและพัดชา โดยที่ไม่เคยคิดแตะต้องตรีประดับเลย แต่กลายเป็นว่าตรีประดับเหมือนง่ายกับผู้ชายคนอื่น คืนนั้นด้วยความแค้น เทศราชทำร้ายตรีประดับ ตรีประดับหนีไปอยู่บ้านพ่อแม่อีก เทศราชพอคิดได้ก็ไปหาอาเพื่อขอให้อาไปสู่ขอตรีประดับให้ ใช้เวลาพักใหญ่กว่าตรีประดับจะตอบตกลง เทศราชและตรีประดับแต่งงานกันในที่สุด

เวลานั้นเทศราชกำลังทำข่าวเกี่ยวกับโรงแรมหนึ่งที่เปิดให้บริการทางเพศโดยใช้เด็กสาวๆ อายุเพียง 13-14 ปรากฎว่าเสี่ยจิวเป็นแบ๊คของโรงแรมนั้น พอเรื่องนั้นเป็นข่าวขึ้นมา เสี่ยจิวส่งคนมาซ้อมเทศราช เทศราชได้ตรีประดับคอยดูแลจนหายดี แต่เสี่ยจิวก็ใช้อิทธิพลบีบบังคับให้พยางค์เลิกจ้างเทศราช เทศราชหางานหนังสือพิมพ์ที่ไหนไม่ได้เลยเพราะอิทธิพลของเสี่ยจิว จึงต้องไปสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ตรีประดับแปลหนังสือได้เงินดี แต่เทศราชภาคภูมิเกินกว่าคิดจะเกาะเมียกิน ต่อมาเสี่ยจิวรู้ด้วยว่าพยสเป็นชู้กับชินานาง ก็ส่งคนไปซ้อมพยส ตรีประดับรู้เข้าก็แอบไปดูแลพยศเพราะความรู้สึกผูกพันที่ยังคงมีอยู่ จนเมื่อพยสหายดีแล้วตรี
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 53 06:37:20
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 53 06:40:52
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 53 06:44:42
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 53 08:12:16

จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)

เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 06:36:14

ความคิดเห็นที่ 93

^
^
ชอบรีวิวของคุณกุลธิดาจริงๆค่ะ อ่านเพลินเลย ตอนจบก็แฮปปี้ใช่มั้ยคะ

จากคุณ : หมูย้อมสี

เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 11:48:58

ความคิดเห็นที่ 95

กระทู้หายด๋อยแล้ว แต่เราเปลี่ยนกระทู้แล้วนะคะ

น้องพลุแตกกระทู้ไว้ที่

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9352126/K9352126.html

ตามไปเล่นกันต่อนะคะ ^^

จากคุณ : Clear Ice

เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 10:34:43

[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่]

[กติกามารยาท] [Help & FAQ]