ความคิดเห็นที่ 1   "แรกๆ เปิดดิกฯ หลังๆ เริ่มเดา เพราะรู้สึกสนุกไม่อยากไปเปิดแล้ว อยากรู้เรื่องเร็วๆ เลยเดาเอาเอง -_-!" คุณมีพรสวรรค์ครับ จากคุณ : Pieces of the Silver Shining เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:45:12

ความคิดเห็นที่ 2   ^ ^ ขอบคุณนะคะ คุณ Pieces of the Silver Shining แต่ว่า ที่เดาเนี้ย ก็มีทั้งเดาผิด เดาถูก มั่วไปเรื่อยนะคะ T.T คือ อารมณ์ประมาณ จินตนาการเอาเองอะค่ะ เลยไม่แน่ใจว่า เป็นวิธีที่ดีหรือเปล่า แต่วินาทีนั้น มันขี้เกียจอะค่ะ -''- จากคุณ : ชีวิตชีวา เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:53:21

ความคิดเห็นที่ 3   คิกๆ แมวขอเจ๋อ... ไม่รู้วิธีไหนดี แต่แมวก็อ่านแบบไม่ค่อยเปิดดิกง่ะครับ บางทีเปิดแล้วมันไม่มันส์ เสียอารมณ์ง่ะครับ การดูความเป็นไป ประโยครอบๆ บางทีมันส์ก็เดาได้ง่ะครับว่า คำที่เราไม่รู้แปลว่าอะไร แต่มีเรื่องราวบางอย่าง ถ้าไม่เปิดดิก บางทีมันส์ไม่รู้เรื่องง่ะครับ อย่างนิยายของ James Clavell พวก Tai-Pan, Shogun ฯลฯ บางทีเขาบรรยายฉาก พวกลักษณะเรือ แผนที่การเดินเรือ อะไรพวกนี้ บางทีแปลไม่ออก มันมึนส์เหมียนกัลง่ะครับ ไม่รู้ว่า Remember Me? ของ Sophie Kinsella เป็นแนวแบบไหน แต่ถ้าคุณชอบแนวสืบสวน ทนาย ศาล คดีความ ชีวิตทั่วไป แมวแนะนำนิยายของ John Grisham ครับ บรรยายเรื่องดี น่าสนใจ ศัพท์ที่ใช้ไม่ยากส์... แมวอ่าน + ฟัง audio book ของนักเขียนคนนี้เกือบทุกเรื่อง ไม่เคยผิดหวัง เรื่องที่แนะนำมากส์ที่สุดคือ A Painted House ครับ อันนี้เป็นแนวชีวิต เรื่องราวการเล่าจากมุมมองเด็กที่มีชีวิตอยู่ในไร่ฝ้าย ทางตอนกลางของอเมริกา เมื่อสัก 40 - 60 ปีก่อนง่ะครับ เรื่องนี้แมวว่า น่ารักดี Update : จริงๆอีกวิธีนึง ก็คือพยายามหานักเขียนที่เราชอบสไตล์ของเขาหรือเธอ แล้วก็ตามอ่านงานของเขาน่ะครับ เราจะไม่รู้สึกเท่าไหร่ว่ามันยากส์ เพราะเราอยากอ่าน แต่วิธีนี้ยากส์หน่อย เพราะนิยายภาษาอังกฤษแบบให้ยืมค่อนข้างหายากส์ เมื่อก่อนแมวเคยสมาชิกของห้องสมุด The Neilson Hays Library อยู่แถวสุรวงศ์ง่ะครับ http://www.neilsonhayslibrary.com/ จำไม่ได้ว่าเสียค่าสมาชิกปีล่ะเท่าไหร่ น่าจะสัก 2 - 3 พันน่ะครับ อีกที่ ถ้า Central World ยังมีชีวิตอยู่ ก็ TK Park ง่ะครับ อันนี้ค่าสมาชิกปีล่ะ 200 - 300 บาท แต่นิยายภาษาอังกฤษไม่เยอะเหมือน The Neilson Hays Library คิดว่า อีกสักเดือน 2 เดือน TK Park น่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งน่ะครับ อ้อ ! ถ้าจะยืมหนังสือภาษาอังกฤษ ต้องเสียค่ามัดจำ 1,000 บามง่ะครับ http://www.tkpark.or.th/tk/index.php?lang=th อ้อ !  แนะนำอีกอย่างก็คือ หาหนังสือพวก Non-Fiction ในเรื่องราวที่คุณสนใจมาอ่าน ก็ช่วยได้เหมือนกันครับ จริงๆตรงนี้ ไม่ต้องอ่านหนังสือก็ได้ อ่านข่าว คอลัมน์เรื่องราวที่คุณสนใจใน internet มีนักเขียนดีๆเยอะครับ การอ่านมันส์ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องคำศัพท์อย่างเดียว บางครั้งมันส์ก็สามารถทำให้เราเขียนเรียบเรียงเรื่องราวได้ดีขึ้น + ช่วยในเรื่องการพูดด้วย แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 15:22:33 จากคุณ : แมวมึนส์ (tutorcat) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:04:40

ความคิดเห็นที่ 4   สวัสดีค่ะ คุณแมว Remember me? เป็น Chick Lit ค่ะ ปกติ อ่านนิยายรักค่ะ (ตอนที่อ่านนิยายไทย) ไว้ถ้ามีโอกาส จะไปหา A Painted House มาอ่านนะคะ ขอบพระคุณมากๆ สำหรับคำแนะนำ Cheewit Cheewa จากคุณ : ชีวิตชีวา เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:27:36

ความคิดเห็นที่ 5   1. ช่วยได้ในการทำความคุ้นเคยกับรูปแบบประโยคและสำนวน ส่วนศัพท์คำใหนเจอบ่อยๆซึ่งผู้เขียนส่วนมากจะใช้คำซ้ำๆก็ค่อยเปิดดิกหาเสียที อีกวิธีหนึ่งที่ผมใช้มาหลายสิบปีแล้วคือใช้เล็บจิก(คนถนอมหนังสือจะด่าผมเรื่องนี้)ตรงศัพท์ ที่ไม่รู้ให้เป็นรอยแล้วพับหน้าไว้ แล้วค่อยหาความหมายทีหลังตอนว่างๆ 2.-3.วิธีการอ่านที่จะเป็นการพัฒนาทักษะนั้นผมว่าต่างคนต่างก็มีวิธีของตัวเองนะ สำหรับของผมมีง่ายๆอ่าน20หน้าแรกถ้ารู้สึกว่าไม่ captivating ก็โยนทิ้งเลยอย่าเสียดายแล้วหาเล่มใหม่ที่เป็นแนวที่เราชอบมาอ่านแล้วคุณจะอ่านได้มากจนเป็นเรื่องปกติอย่างผมชอบอ่านเรื่องผจญภัยเคยอ่านKing Solomon's mine และเรื่องอื่นๆในชุด Allan Quaterman ของ H. Rider Haggard ตั้งแต่เมื่อ40กว่าปีที่แล้วจึงรู้ว่านักเขียนชื่อดังของไทยบางคนไปก๊อปปี้พล๊อตเขามา ข้อแนะนำก็คืออ่านมากเข้าว่า แล้วทุกอย่างจะมาเองทั้งศัพท์สำนวนและรูปแบบประโยค จากคุณ : Cyber Sage เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 17:45:32

ความคิดเห็นที่ 6   เรื่องเเรกที่ผมอ่านเป็ฯภาษาอังกฤษก็คือ The Hunting of the Last Dragon อ่านเเบบเข้าใจมากกว่าไม่เข้าใจ เเม้ศัพท์จะพอยากในสมัยนั้น เเต่ก็ไม่เปิดดิค อาศัยบริบทบ้าง ยกเว้นจะเป็นศัพท์ที่จำเป็นในประโยคที่ไม่สามารถเดาได้ ก็จะเปิดดิค สังเกตว่า เวลาอ่านจบบทนึง ได้ภาพต่างๆมากมายในหัว เเต่ถ้าจะให้พูดบรรยายออกมาใหม่เป็นอังกฤษมันไม่ได้เลย ผมฝึกจากการอ่านเเบบนี้ตลอด จนตอนนี้อ่านเเบบไม่ติดขัดเลยยกเว้นตอนไม่มีสมาธิเท่านั้น จากคุณ : Thaumaturge เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 18:24:11

ความคิดเห็นที่ 7   หาหนังสือที่ผู้เขียนใช้ภาษาง่ายๆอ่านไปก่อน ลองเปิดอ่านดูภาษา และเนื้อเรื่องก่อนซื้อ ว่าใช่แนวที่เราชอบหรือไม่ พอเริ่มชินกับการอ่าน ก็เลือกซื้อแนวที่สนใจ ที่ภาษาเริ่มยากขึ้นหน่อย หากมีศัพท์ตรงไหนที่ไม่เข้าใจ ใช้ดินสอ หรือ ปากกา highlight ขีดเอาไว้ อ่านให้จบทั้งประโยค แล้วเดาเอาก่อนว่าเราเข้าใจว่าคำนั้นหมายถึงอะไร เมื่ออ่านจบบทนั้น หรือตามจำนวนหน้าที่ตั้งใจไว้ ค่อยเปิด dictionary หาคำแปลของคำที่เราขีดเอาไว้...แนะนำให้ใช้ English to English Dictionary ครับ จะเข้าใจความหมายของคำได้ดีกว่า จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 18:37:27

ความคิดเห็นที่ 8   อืม...ลองอ่านหนังสือจากนักเขียนที่เขียนอ่านง่ายไปยากมั้ยคะ หนังสือที่เขียนใช้ศัพท์ง่ายๆ จขกท.จะไม่ต้องเปิดดิกบ่อยนัก ยกเว้นเจอคำที่ไม่รู้จริงๆ ค่อยๆ สะสมคำศัพท์ และขยับไปอ่านหนังสือที่อ่านยากขึ้น หนังสือที่เหมาะกับจขกท. ((เดาจากแนวที่ชอบอ่าน)) น่าจะเป็นพวก Teen Read หรือหนังสือแนววัยรุ่นน่ะค่ะ เช่น หนังสือของ Meg Cabot ((คนนี้จะเขียนทั้งแนววัยรุ่นและ ChicLit ค่ะ)) เป็นต้น ... นักเขียนนิยายรักที่เขียนใช้ภาษาอ่านง่ายมากๆ ที่อยากแนะนำคือ Nicholas Sparks ค่ะ ศัพท์ง่าย เรียบเรียงอ่านง่าย แต่จะไม่ใช่แนวอ่านขำๆ แบบ ChicLit นะคะ เรื่องของเขาส่วนมากจะหวานเศร้ามากกว่า ... ส่วนหนังสือของนักเขียนคนเดียวกับที่จขกท.อ่าน ลอง Can you keep a secret? ดูมั้ยคะ เราว่าเรื่องนี้น่ารักดี ... อ่านให้สนุกนะคะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 21:38:48

ความคิดเห็นที่ 9   กำลังจะแนะนำเรื่อง Can you keep a secret เหมือนคุณไอซ์เลยค่ะ ปกติเราไม่ค่อยอ่าน Chic Lit เท่าไหร่  ลองอ่านเรื่องนี้ดูแล้วน่ารักดีค่ะ ศัพท์ไม่ยากเท่าไหร่ด้วย ถ้าเริ่มอ่านแรกๆ แนะนำให้อ่านเรื่องของนักเขียนคนเดิมจะง่ายกว่านะคะ เพราะสำนวนจะคล้ายๆ กัน   เอาให้คุ้นก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นของนักเขียนท่านอื่นค่ะ ถ้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไปเจอแบบยากๆ เดี๋ยวจะท้อไปซะก่อน จากคุณ : lalabel เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 01:00:46

ความคิดเห็นที่ 10   ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ ^______^ Can you keep a secret? ซื้อมาเมื่อ 3 ปีก่อน (คนขายเชียร์ บอกเรื่องนี้น่ารัก) แต่สมัยก่อน แรงฮึดในการฝึกภาษายังน้อยอยู่ T_T (ขี้เกียจนั่นเอง) ทำให้อ่านไม่จบ แล้วตอนนี้ หาหนังสือไม่เจอซะแล้วค่ะ เศร้า สงสัยต้องไปรื้อใหม่ ล่าสุดซื้อ You're the one that I don't want มาอ่าน ของ Alexandra Potter เพราะชื่อเรื่องเก๋เดี แต่ตอนนี้ยังไม่คืบหน้าเลยค่ะ ไว้ได้เรื่องยังไง จะมาเล่าให้ฟังนะคะ ขอบคุณทุกๆ ความเห็นเลยนะคะ ห้องนี้คนใจดีเพียบเลย _/|\_ จากคุณ : ชีวิตชีวา เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 12:38:03

ความคิดเห็นที่ 11   เดี๋ยวนี้นิยายส่วนใหญ่ ก็เริ่มที่จะมีเรทบ่งบอกไว้ด้านหลังปกแล้วนะครับ ทำให้เราสามารถคาดเดาได้ว่า ศัพท์ที่ใช้ จะอยู่ในระดับใด  ส่วนตัวแนะนำซีรี่ย์ของ Percy Jackson ครับ แนวๆผจญภัย+มิตรภาพระหว่างเพื่อน ตัวคาแรคเตอร์ต่างๆก็กวนโอ๊ยดี เนื้อเรื่องก็จะผสมผสานระหว่างเทพเจ้าโบราณกับยุคโมเดิร์นได้ดีครับ ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวดี จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 21:41:02

ความคิดเห็นที่ 12   สมัยก่อนเรารู้ศัพท์น้อยเวลาอ่านนิยายเราอ่านสนุกๆขี้เกียจเปิดหาศัพท์ อ่านเอาแค่พอรู้เรื่องไว้ก่อน พออ่านจบเล่มแล้วค่อยมาไล่เปิดหาศัพท์เืพื่อการเรียนรู้ นั่นมันสมัียอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ แต่ตอนนี้เราอ่านแต่ ebooks (ไม่ได้อ่านหนังสือเป็นเล่มๆมาตั้ง 5 ปีแล้ว) แล้วบนคอมพิวเตอร์เรามี dictionaries ที่เป็น software ติดตั้งอยู่มากกว่า 20 ยี่ห้อ ติดศัพท์ตัวไหนก็ไม่กลัวเพราะเราเคาะคอมพิวเตอร์แพล็บเดึียวก็หาศัพท์เจอหมด จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 22:19:30

ความคิดเห็นที่ 13   จขกท.อ่าน Remember Me? เป็นเรื่องที่ผิดหวังสำหรับเรามากค่ะ ธรรมดางั้นๆ ไม่หนุก (แอบเสียดายตังค์นิดนึง) เคยอ่านเรื่องสาวนักช้อปฯ เรื่องราวของสาวรีเบ็คก้า บลูมวูด หรือป่าว สนุกมากกกกกกกกกกกกกกก โคตรๆ ซื้อมาอ่านให้ครบชุดนะ จะไม่ผิดหวังสนุกจริงๆ ค่ะ ขออนุญาตแปะรูปที่ดึงมาจาก K.fayfy bloggang.com ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=fayfy&month=07-2008&date=31&group=2&gblog=2 จากคุณ : เหล้าองุ่น เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:59:46

ความคิดเห็นที่ 14   และอีกเรื่อง ของโซฟี คินเซลลา สาวออฟฟิศ พิชิตงานบ้าน นี่ก็สนุกสำหรับเราค่า... เครดิตภาพจาก K. fayfy  เช่นเคย http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=fayfy&month=07-2008&date=31&group=2&gblog=2 จากคุณ : เหล้าองุ่น เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:03:55

ความคิดเห็นที่ 15   ขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำ พอดี จขกท. ไม่ชอบ Shopping เท่าไหร่ ก็เลยไม่ได้สนใจ Shopaholic ตั้งแต่แรก กลัวอ่านแล้วอยาก Shopping 55+ จากคุณ : ชีวิตชีวา เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:22:04

ความคิดเห็นที่ 16   ขอบคุณสำหรับกิ้ฟนะคะ .. แต่เป็นที่น่าเสียดายมาก ถ้าไม่ได้อ่านรีเบ็คก้า บลูมวูดทั้งเซ็ต โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบช็อปค่ะ เข้าแต่ร้านหนังสือส่วนใหญ่ แต่อ่านเรื่องนี้แล้วชอบมากกกก โอ้ยถึงกับต้องซื้อตามเก็บทุกชุด ให้พี่สาวยืมอ่าน ย้ำแล้วย้ำอีก ว่าสนุกมากกกก ต้องอ่านให้ได้นะ สรุป ปาไป 3 เดือน ก็ยังไม่อ่านซะเล่ม เราเลยเสียดายแทนว่ามันสนุกแต่พี่สาวดันไม่อ่าน เหมือนพี่เค้าพลาดอะไรดีๆ ไปหรือป่าว ปล.เราอ่านภาษาไทยทุกเล่มนะคะ เราเลยไม่รู้ว่าที่อ่านแล้วมันสนุก เป็นเพราะ โซฟี คินเซลลา แต่ง หรือเป็นเพราะ คุณพลอย จริยะเวช แปล. ถ้าเราเก่งภาษา เราจะตัดสินได้ค่ะว่าที่มันสนุก เพราะคนแปลหรือคนแต่งที่ทำให้เรื่องมันสนุก และนี่คือลุค กับ รีเบ็คก้า ในจินตนาการของเราค่ะ ขอบคุณเครดิตรูปสาวน้อยจาก Popcornfor2 นะคะ จำไม่ได้ว่าใครเอามาลง เซฟเก็บไว้เป็นปีแล้ว สาวน้อยคนนี้กับแอนดริว พระ-นาง ต้อง 2 คนนี้เท่านั้น เกือบทุกเรื่องที่เราอ่าน.. แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 14:59:33 จากคุณ : เหล้าองุ่น เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 15:50:26

ความคิดเห็นที่ 17   เชียร์ Percy Jackson สมุกมากก อ่านไม่เบื่อค่ะ จากคุณ : MaYa:ParadiseMedicine เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 12:23:31

ความคิดเห็นที่ 18   Percy Jackson อ่านเหมือนกันค่ะ แต่ว่า ไม่กล้าย่างกราย ไปอ่าน ฉบับภาษาอังกฤษ เห็นแล้วหนาวเลย กลัวแปลผิด จาก หนังสือแนวแฟนตาซี กลายเป็น นิยายรักหวานซึ้งไปได้ ตอนนี้อ่านเล่มภาษาไทยอยู่ ชอบมากค่ะ ถึงเล่ม 4 แล้ว ^___^ ว่าแต่ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษอ่านยากมากมั้ยคะ? จากคุณ : ชีวิตชีวา เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 18:58:11

ความคิดเห็นที่ 19   ^ ^ percy jackson ศัพท์อ่านไม่ยากหรอกค่ะ มันเป็นหนังสือวัยรุ่น จะมีพวก ศัพท์-สำนวน วัยรุ่นเยอะหน่อย อาจจะงงบ้างแต่ก็พอจะเดาได้อยู่ค่ะ ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบนะคะ นี่อ่านเล่ม 5 ค้างอยู่เป็นเดือนแล้ว ไม่จบซักที วางทิ้งไว้แล้วไปหยิบ lord of the rings มาอ่านซ้ำซะงั้น ^^' ส่วนเรื่องวิธีการอ่าน เราก็อ่านไปเดาไปเหมือนกันแหละค่ะ นาน ๆ จะเปิดดิคซักที ถ้าเจอคำสำคัญที่ต้องรู้ความหมายให้ได้ ส่วนหนังสือที่อ่านเราว่าแล้วแต่แนวนะ พอดีเราชอบแฟนตาซีค่ะ ที่อ่านแล้วชอบก็มี -harry potter -THE SOOKIE STACKHOUSE aka SOUTHERN VAMPIRE SERIES by charlaine harris -หนังสือของ darren shan -pendragon series จากคุณ : ws_3765 เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 12:15:09

ความคิดเห็นที่ 20   - กลัวศัพท์ ใน Percy จัง อ่านภาษาไทยบางทียังแอบงง -_-! - "THE SOOKIE STACKHOUSE aka SOUTHERN VAMPIRE SERIES by charlaine harris"  คือนิยายที่ถูกนำมาสร้างซีรี่ย์ เรื่อง True Blood ใช่เปล่าคะ? เคยแต่ดู ไม่เคยอ่าน ไว้ต้องลองอ่านดูบ้าง ^_^ ขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำ จากคุณ : ชีวิตชีวา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 19:44:07

ความคิดเห็นที่ 21   "THE SOOKIE STACKHOUSE aka SOUTHERN VAMPIRE SERIES by charlaine harris"  คือนิยายที่ถูกนำมาสร้างซีรี่ย์ เรื่อง True Blood ใช่เปล่าคะ? ใช่ค่ะ จากคุณ : stay alone เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 16:43:02

ความคิดเห็นที่ 22   percy ศัพท์ไม่ยากครับ ผมไม่เก่งภาษาอังกฤษอ่าน silmarilion 2 หน้าจอดสนิท แต่อ่านpercy อ่านได้เรื่อยๆครับ สนุกดีครับ อ่านไทยแค่เล่ม1 แล้วรอไทยไม่ไหวเลยหาengมาอ่าน จากคุณ : สายลมแห่งความคิดคำนึง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 16:54:02