Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Vernon God Little ช่วงวัยแห่งแรงขบถที่ถูกควบคุมด้วยอุจจาระ vote  

บทความนี้ตัดตอนมาจากการวิเคราะห์หนังสือเรื่องนี้ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการทำศิลปะนิพนธ์ของผมครับ  เผื่อท่านใดสนก็ขอเป็นแรงสนับสนุนให้อ่านเรื่องนี้อีกหนึ่งเรื่องนะครับ


บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน




Vernon God Little ช่วงวัยแห่งแรงขบถที่ถูกควบคุมด้วยอุจจาระ

ช่วงเวลาที่เรามักเพรียกหาตัวตนของตัวเองมากที่สุด ดูเหมือนมักมาเยือนเราในช่วงวัยที่ความคึกคะนอง และอารมณ์มีมากกว่าเหตุผล ช่วงวัยซึ่งแรงขบถเป็นสปริงขนาดมโหฬารที่คอยผลักดันชีวิตไปข้างหน้า ช่วงวัยที่ความเป็นหนุ่ม-สาวบานสะพรั่ง   ช่วงวัยเหล่านี้ เราต่างถามหา และพร้อมจะระเบิดมันออกมา   “ตัวตน”  เราตะโกนก้อง ตัวตน! ตัวตน! ตัวตน!  

เราเพรียกหาตัวตนเพื่อให้มันมาเป็นตัวกู ทว่าโดยไม่ทันรู้ตัว ตัวตนของบางคนก็มิอาจกำหนดด้วยสองมือของตัวเอง  กลายเป็น“ตัวบท”ต่างๆนานาๆต่างหากเล่า  ที่เข้ามาฉีกกระฉาก หรือแม้กระทั่งโปะทับ  ให้ตัวตนของใครบางคนเปลี่ยนไปในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยที่เขาไม่สามารถ “เลือก” ได้

ในช่วงวัยเหล่านั้น เวอร์นอน เกรเกอรี ลิตเติ้ล ดันมีชีวิตที่สุดแสนบัดซบด้วยการบงการของตัวบทที่มีอยู่อย่างมหาศาล


Vernon God Little  คือชื่อนวนิยายที่เขียนโดย ดีบีซี ปีแอร์ ฉบับภาษาไทยแปลโดย ภาคภูมิ วิสุทธิสิน ถูกยกย่องให้เป็นหนังสือดี 1 ใน 100 Best Things in the World ประจำปี 2003 จากการจัดอันดับของนิตยสาร GQ  

บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเด็กชายชาวอเมริกันวัย 15 ปี นาม เวอร์นอน เกรเกอรี ลิตเติ้ล ผู้เติบโตขึ้นมาในเมืองเล็กๆของเท็กซัส และชาดหาดเม็กซิโก การผจญภัยอันบ้าระห่ำของเขา เริ่มต้นเมื่อเวอร์นอนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีอันสะเทือนขวัญ  เพียงเพราะเขาเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์นี้

ภายใต้เรื่องราวที่ เฮซุส เพื่อนสนิทของเขาเป็นคนก่อ  ด้วยเหตุการณ์ที่ดูคลุมเครือเหล่านั้น ทำให้ลิตเติ้ล ต้องถูกดำเนินคดี พร้อมๆ กับสายตาของคนในเมือง และสื่อที่เริ่มก่อกำแพงขึ้นเป็นกรงขังเขา และดูเหมือนว่าคนรอบข้าง ดูจะไม่มีใครยืนอยู่ข้างเขาเลย แม้กระทั่งแม่ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับเขาเพียงคนเดียว  หนำซ้ำ ชายที่ชื่อแลลลี่ซึ่งตอนแรกดูราวกับเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย กลับทำให้เรื่องราวทวีความเลวร้ายมากขึ้น

ด้วยความไร้เดียงสา บวกแรงขบถของเด็กที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ลิตเติ้ลจึงกลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย แม้ว่าเขาจะยังยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ แต่ด้วยโรคประจำตัวที่ไม่สามารถบอกใครได้  ทำให้เขาเลือกที่จะไม่พูดความจริงว่าแท้จริงแล้ว ในขณะที่เพื่อนซี้ของเขากำลังกระหน่ำกระสุนปืนเข้าใส่เพื่อนนักเรียนอยู่นั้น   เขากำลังทำอะไร และอยู่ที่ไหน    เรื่องราวจึงยิ่งปานปลาย และเลวร้ายยิ่งขึ้น ลิตเติ้ลเลือกใช้คำโกหกสารพัด เพื่อทำให้ตัวเองดูราวมีอิสระภายใต้กรงขังของเหตุการณ์อันเลวร้าย แต่หารู้ไม่ว่าคำโกหกเหล่านั้น กลับกลายเป็นตัวบทอีกอย่างหนึ่งที่ย้อนเข้ามากระชากตัวตนของเขาให้ไปสู่อีกรูปแบบหนึ่ง


“ไม่หรอก คำโกหกของผมมันหนักหนามากๆ จนไม่คุ้มค่าที่จะสารภาพผิดแล้ว  ดูให้ดีสิ  โชคชะตาทำให้มันยากยิ่งขึ้นที่จะยอมรับคำโกหก...”


คำว่า“โชคชะตา” ที่ลิตเติ้ลพูดถึง คงไม่ได้หมายถึง โชค-ดวง หรือการทำนายชีวิตจากการโคจรของดวงดาวอะไรทำนองนั้น หากแต่คงหมายถึงปัจจัยจากภายนอกอันเลวร้ายที่มีอยู่มากมายเหล่านั้นต่างหาก ที่อยู่ๆก็วิ่งเข้ามาปะทะกับตัวตนของเขา และทำให้การใช้ชีวิตของเขายากลำบากยิ่งขึ้น

ตัวบทต่างๆ ทำให้ตัวตนของลิตเติ้ลเปลี่ยนไปในสายตาผู้อื่น มันทำให้ตัวตนของลูกชายที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มเปลี่ยนไปจากสายตาของแม่   มันทำให้ตัวตนของเขาเปลี่ยนไปในสายตาของตัวเอง

ทว่าด้วยความเป็นมนุษย์ที่รักในอิสระของลิตเติ้ล เขาหาได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตา(ตัวบท)เหล่านั้น ลิตเติ้ลมีความฝัน และ “เลือก” จะทำมันในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต เขาตัดสินใจวิ่งหนีออกจากเมืองที่เขาเติบโตมา หรือพูดให้ชัด เวอร์นอน เกรเกอรี ลิตเติ้ล ตัดสินใจวิ่งเข้าหาประเทศเม็กซิโก ดินแดนที่เขาจินตนาการว่ามันคือสววรค์ของเสรีภาพ พร้อมฝันไปว่าเขาจะได้ใช้ชีวิตที่นั้นร่วมกับ เทเลอร์ ฟิเกอเรอา หญิงสาวที่เขาแอบรัก

แม้สุดท้ายจะมีเพียงร่างกายผอมโซ กับจิตใจที่สับสนของลิตเติ้ลเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ได้ก้าวย่างเข้าสู่เม็กซิโก

ตัวตนของลิตเติ้ลถูกมองในอีกรูปแบบหนึ่งอีกครั้ง เมื่อคนแปลกหน้าในเม็กซิโกซึ่งไม่เคยรู้จักภูมิหลัง ไม่รู้ว่า  เวอร์นอน เกรเกอรี ลิตเติ้ล คือใคร ได้ตัดสินตัวตนของเขาจากตัวบทอันเบาหวิว เขากลายเป็นเพียงเด็กหนุ่มอเมริกันที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเม็กซิโกเพียงเท่านั้น

ตัวตนของเขาได้ถูกตีความใหม่อีกครั้ง  ที่นี่ ไม่มี เวอร์นอน เกรเกอรี ลิตเติ้ล ที่เป็นนักโทษหนีคดีอีกต่อไป

ลิตเติ้ลยังคงใช้ออกซิเจนหายใจเหมือนตอนที่อยู่ในเท็กซัส ต่างไปเพียงที่นี่ไม่มีใครรู้จักเขา


“มันต้องเป็นออกซิเจนแบบเดียวกันในอากาศ แรงโน้มถ่วงของโลกแบบเดียวกับที่บ้าน แต่ที่นี่ ทุกอย่างล้วนเร่าร้อน และหมุนติ้วไปหมดจนไม่มีอะไรมีความหมายอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะดี หรือเลวก็ตาม...”


ลิตเติ้ลลิงโลดที่คิดว่าได้เลือกทางเดินอันถูกต้องให้กับตัวเอง เขารู้สึกดี และมีความสุขที่ได้ยืนอยู่ ณ ดินแดนที่เคยใฝ่ฝัน พาลนึกเลยเถิดไปถึงการใช้ชีวิตในบ้านริมหาดร่วมกันกับ เทเลอร์ ฟิเกอเรอา   และแล้ว  เขาก็ตัดสินใจเลือกอีกครั้ง  

เขาเลือกชวนเธอมาอยู่ด้วยกันที่นั้น...

แต่แล้วก็โดนหักหลัง

ชีวิตย่อมเลือกได้ แต่ชีวิตก็เลือกได้ไม่สุด

ชีวิตของลิตเติ้ลคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นชีวิตที่เลือกแล้ว หากแต่ชีวิตของคนเราก็เลือกได้ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างมิใช่หรือ? เมื่อวันหนึ่งเงื่อนไขอื่นใดวิ่งเข้ามาปะทะ และมาบงการการเลือกของเราอีกครั้ง เราก็จำต้องเลือกใหม่

หากแต่เงื่อนไขครั้งนี้ดูเหมือนจะเสนอทางเลือกให้ลิตเติ้ลเพียงน้อยนิด

เทเลอร์ ฟิเกอเรอา หญิงสาวที่เขาแอบรัก และเป็นคนเดียวที่เขาไว้ใจที่สุด ร่วมมือกับทางการเข้าจับกุมตัวเขา ลิตเติ้ลถูกส่งให้ไปสู้คดีในชั้นศาลด้วยความหวังอันริบรี่


“ผู้พิพากษามาถึงแล้วเขาพยักหน้าให้กับทุกคน แล้วผมก็นั่งลงเพื่อดูโชคชะตาของผม ถูกตีแผ่ออกมาต่อหน้าผม”


แม้เขาพอจะมีทางเลือกอยู่บ้าง แต่ด้วยความอายของวัยแรกหนุ่มกระมังที่ทำให้เขาไม่ยอมปริปาก ว่าในวันนั้นเขาไปอยู่ที่ไหน เด็กหนุ่มผู้โดนความอายควบคุม ไม่สามารถที่จะพูดได้ว่า ตนไม่สามารถควบคุมหูรูดของตัวเองได้  ตนไม่สามารถควบคุมการถ่ายอุจจาระของตัวเองได้  และในวันนั้น ขณะที่เหตุการณ์อันสะเทือนขวัญกำลังเกิดขึ้น เขาก็เพียงแวะเข้าห้องน้ำอยู่เท่านั้น

ราวกับลิตเติ้ลยอมรับต่อโชคะชะตา เงยหน้ามองมัน แล้วคอยฝันถึงอิสระ


“ล่องเรือ
พาฉันจากไป
ไปยังดินแดนที่ฉันได้ยินว่ามันเป็น
เพียงความฝัน และสายลมที่นำพาฉันไป
ในไม่ช้า ฉันจะเป็นอิสระ”



คำถามก็คือ  หาก เวอร์นอน เกรเกอรี ลิตเติ้ล ได้เลือกแล้วจริงๆ เหตุใดสุดท้ายชีวิตของเขากลับยิ่งแย่ลง?

ถึงกระนั้นลิตเติ้ลก็ยังรับมือกับมันได้ดี

ทว่าความจริงที่น่ากลัวก็คือ เขาไม่ได้เลือกอะไรผิด หรือเลือกอะไรถูก   หากแต่เป็นแรงปรารถนาบางอย่างใช่หรือไม่?  ที่ทำให้เขากระทำ และไม่กระทำอะไร   เป็นทั้งปัจจัยภายนอก และภายใน ที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ใช่หรือไม่? ที่ทำให้ตัวตนของเขาเป็นเช่นนี้

หรือในชั่วชีวิตของเรา เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้?    

มันคงจะดี ถ้าเขาสามารถควบคุมหูรูดของตัวเองได้ตั้งแต่แรก

แต่มองกลับกัน หากวันนั้นเขาไม่แวะเข้าห้องน้ำ ลิตเติ้ลคงตายไปแล้ว หากแต่จะต่างอะไรจากวันนี้ ที่เขาโดนสั่งประหาร

สุดท้ายมันก็เป็นเพียงเรื่องขี้ๆ เท่านั้น  มิใช่หรือ?



%negative : เขียน

แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 55 00:52:26

จากคุณ : egoist
เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:05:50




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com