Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เส้นทาง(นิยาย)รัก 4 vote  

http://www.baantalaylormbooks.com

เส้นทาง(นิยาย)รัก 4

การเดินทางบนเกาะฮ่องกงของฉันดำเนินเข้าสู่วันที่สาม  วันนี้เป็นวันที่ฉันตื่นเต้นไม่น้อย เพราะจะได้เดินทางไปไหว้พระใหญ่ที่วัดโป่วหลิน  ที่เคยได้เห็นแต่ในภาพถึงความยิ่งใหญ่ขององค์พระ

เราออกเดินทางโดยใช้รถไฟใต้ดิน  และไปต่อรถบัสโดยสารอีกทอดหนึ่ง  ที่แรกฉันก็คิดว่าไม่ไกล  แต่ที่ไหนได้  เราสองคนใช้เวลาเดินทางราวๆชั่วโมงครึ่ง  รถบัสก็ขึ้นลงไปตามทางภูเขา  และฉันก็ได้เห็นวิถีชีวิตชาวจีนที่อยู่นอกเขตเมืองใหญ่ตลอดเส้นทาง  เป็นชีวิตที่เรียบง่ายดี  ต่างจากวิถีการดำเนินชีวิตของคนในเมืองใหญ่  ลิบลับ  

ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่า  ตัวเองเดินทางออกมาไกลจากเกาะฮ่องกงมากแค่ไหน  แต่คงจะไกลมาก  เพราะหน้าจอโทรศัพท์มือถือของฉันขึ้นคำว่า  “ยินดีต้อนรับสู่มาเก๊า” เอ๊า! แสดงว่าภูเขาอันเป็นดินแดนที่วัดโป่วหลินตั้งอยู่  คงอยู่ใกล้เกาะมาเก๊ามากทีเดียว

เรามาถึงวัดโป่วหลินราวๆสิบเอ็ดโมงเช้า  และละอองฝนก็ยังตกอยู่ตลอดเวลา  แต่สามารถเดินได้นะ  ไม่ต้องใช้ร่ม เพราะมันเป็นละอองฝนฝอยๆที่เล็กมากๆ  เพียงแต่ประมาณว่า  พอเราเดินไปสักพักใหญ่เสื้อผ้าถึงจะค่อยรู้สึกชื้นๆ  แต่ไม่ถึงกับเปียกแบบฝนตกบ้านเรา

ฉันกับเพื่อนได้ขึ้นไปไหว้สักการะองค์พระใหญ่ตามที่ตั้งใจไว้  ฉันไม่รู้ว่ามีใครเป็นเหมือนฉันหรือเปล่า  ทุกครั้งที่ฉันแหงนหน้าขึ้นมององค์พระพุทธรูป  หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่สักการะไม่ว่าจะศาสนาใดๆ  จิตใจของฉันจะสงบเย็นขึ้นมาชอบกล  และความรู้สึกต่างๆก็จะนิ่งสงบชั่วขณะอยู่อย่างนั้น  ทุกครั้งไป

เมื่อไหว้องค์พระใหญ่เรียบร้อยแล้ว  ฉันกับเพื่อนก็เดินลงไปที่ Wisdom Path หรือทางเดินแห่งปรัชญาสถานที่แห่งนี้จะเป็นเสาไม้ปักเรียงๆกันไปและเขียนข้อความเป็นภาษาจีน คงให้แง่คิดปรัชญาแห่งชีวิตต่างๆ เพราะฉันกับเพื่อนได้แต่มองดูข้อความเหล่านั้น แต่แปลไม่ออก และฉันก็ได้แต่หวังว่า สักวันจะรู้ความหมายของข้อความเหล่านั้นจริงๆ

เราเดินทางออกจากวัดโป่วหลินราวบ่ายโมงเศษ  โดยใช้เส้นทางเดิมคือรถบัสโดยสาร  และมาต่อรถไฟฟ้ากลับเข้าเมือง  จริงๆมีกระเช้าให้ขึ้นลง  แต่ราคาแพงพอสมควร  ฉันกับเพื่อนเลยตัดใจ  ขอประหยัดเงินกันตามระเบียบ  เรากลับมาถึงฝั่งเกาลูนราวๆบ่ายสามโมง  และเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวถนนนาธานจนล่วงเข้าเวลาเย็นจึงเดินทางกลับที่พัก

เมื่อกลับมาถึงย่านคอสเวย์เบย์  เราตรงดิ่งไปร้านสตาร์บัคก่อนเลย  โชคดีที่น้องๆที่เราพูดคุยด้วยเมื่อเช้ายังไม่เปลี่ยนกะ  เพื่อนฉันหันมาถามฉันว่าจะชวนไปเที่ยวอย่างไรดี  ฉันก็เลยบอกว่า  ก็พูดไปตรงๆเลยจะได้ไม่ต้องมานั่งแปลความหมายกันให้ปวดหัว  เพื่อนของฉันก็เลยชวนน้องจอหน์เป็นคนแรก (เป็นน้องในร้านที่เราดูจะสนิทที่สุด)  และชื่อของน้องจอหน์ก็ทำให้ฉันได้ความรู้ใหม่ว่า  คนจีนฮ่องกงจำนวนมากจะมีชื่อตัวทั้งชื่อจีนและอังกฤษปนกัน  แรกๆ  ฉันก็งงๆชื่อน้องเค้าอยู่นาน  แต่พอรู้ที่มาที่ไป  ก็เป็นการมีชื่อแสดงตัวตนที่เก๋ไปอีกแบบ

เพื่อนฉันชวนน้องจอหน์ว่า  ค่ำนี้จะไปหาที่นั่งดื่มแถวหล่านไคฟง  ไปด้วยกันไหม  น้องจอหน์บอกว่าจะให้ผมไปคนเดียวเหรอ  เพื่อนฉันก็ว่าเปล่า  ชวนเพื่อนๆในร้านเราไปด้วยสิ  ปรากฏว่าน้องๆในร้านทั้งสี่คน  น้องผู้ชาย 3 คน  และน้องผู้หญิงอีก 1 คน  ตกลงที่จะไปกับเรา  แต่ขอเป็นนั่งดื่มกันแถวนี้แทน  เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้างานกันแต่เช้าอีกวัน

เรานัดน้องๆกันราวสี่ทุ่ม  ร้านที่น้องจอหน์และเพื่อนๆพาเราสองคนไป  ก็อยู่ในละแวกคอสเวย์เบย์นั่นแหละ  เป็นผับเล็กๆคล้ายๆบ้านเรา  แต่ที่แปลกก็คือ  เป็นผับที่ตั้งอยู่บนตึกสูง  ต้องขึ้นลิฟท์ไป  8 ชั้น

พวกเรานั่งดื่มและพูดคุยกันอยู่ในผับจนล่วงเลยเที่ยงคืน  จึงค่อยแยกย้ายกันกลับไป  ก่อนกลับน้องจอหน์
บอกเราว่า  คืนพรุ่งนี้อาจจะไปดู Symphony of Light ที่ Avenue of Star กับเรา  เพราะวันถัดจากคืนพรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดงานของน้องจอหน์พอดี

บางครั้งฉันเคยถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่า  การเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง  มักทำให้เราได้รับมิตรภาพใหม่เสมอ  ได้รู้จักคนที่อยู่กันคนละขั้วโลก  ที่คิดว่าไม่น่าจะมาพบเจอกันได้  และทุกครั้งที่ฉันได้พบเจอมิตรภาพใหม่บนดินแดนแปลกถิ่น  ฉันมักถามตัวเองว่า  ทุกอย่างเป็นเรื่องของฟ้าลิขิตหรือความบังเอิญ

เส้นทางนิยายรักของฉัน  กำลังจะเดินมาถึงตอนสุดท้ายในคราวหน้านี้  นั่นก็หมายถึงว่า หนังสือ  “เมืองรักในบาดาล”  กำลังจะเปิดจำหน่ายจริงในเร็ววันนี้  บางคนอยากให้ระบุวันชัดเจน  ฉันก็ขอบอกตามตรงเลยแล้วกันว่า  1  พฤศจิกายนนี้  หนังสือวางจำหน่ายแน่นอน  ที่ร้านหนังสือทั่วไป

คราวหน้า  ฉันจะพาทุกคนอำลาเกาะฮ่องกง   ด้วยไฮไลท์สุดท้ายคือ   การแสดงแสงสี  เสียงบนเกาะฮ่องกง   หรือที่เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า  Symphony  of  Light   ว่ากันว่าเป็น เป็นการแสดงแสงสีเสียง   ที่สวยงามแห่งหนึ่ง  และถือเป็นสัญลักษณ์ของเกาะฮ่องกง  ที่ใครก็ตาม  ที่ได้มีโอกาสมาเยือนเกาะสวรรค์แห่งนี้   ไม่ควรพลาดชม              

ไม้หอมแห่งทะเลจีนใต้ เล่าเรื่อง
การท่องเที่ยวฮ่องกง เจ้าของภาพ

จากคุณ : the last woman
เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 53 15:52:02




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com