ความคิดเห็นที่ 1 มันเป็นไปได้ไหมว่า .. หลังจากกินไวอาก้าเข้าไปแล้ว ตับ ตับ ตับ กันแล้วอีกฝ่าย ซาดิสม์เผลอเอามือตบบ้องหูคุณ .. สงสัยอ่ะ !!! . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 15:19:30

ความคิดเห็นที่ 2 เปิดอ่านผลข้างเคียงของ Viagra   -ความดันเลือดต่ำ , ปวดหัว , ร้อนวูบวาบ , แน่นจมูก --> จากฤทธิ์ขยายหลอดเลือด -พิษต่อตา มองเห็นสีผิดปกติ/ตาบอด แต่ไม่เจอเรืี่องพิษต่อหูอ่ะค่ะ รอผู้รู้มาตอบอีกที ^^" จากคุณ : เขียนบน iPhone (onimaru46) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 15:24:36

ความคิดเห็นที่ 3 ผมลองค้นดูมีคนพูดไว้เหมือนกันครับ http://www.pleasehealth.com/index.php?option=com_content&view=article&id=323:2011-06-14-14-00-00&catid=6:ask-your-doc&Itemid=8 คุณหมอเด่นหล้าครับ ผมอายุ 48 ปี ไม่มีโรคประจำตัว (เท่าที่ทราบ) ถ้าผมกินไวอะกร้าเดือนละ 1-2 เม็ด จะมีอันตรายอะไรไหมครับ และกินยังไงจะปลอดภัยที่สุด ขอบคุณครับ อำนาจ สวัสดีค่ะคุณอำนาจ “ไวอะกร้า” เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือโรคความดันในปอดสูงผิดปกติ ที่มีการใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีพบว่ามีการนำ “ไวอะกร้า” มาใช้ในลักษณะ “recreational” คือใช้เพื่อความบันเทิงชั่วครั้งคราว ค่อนข้างแพร่หลาย ซึ่งหมอเข้าใจว่าเป็นกรณีเดียวกับที่คุณอำนาจนำมาใช้ใช่ไหมคะ ?...หากว่า ใช่...คำถามของคุณอำนาจจึงจัดอยู่ในประเด็นที่ว่า “การซุกซนนำยามากินเล่นๆนั้นอันตรายหรือไม่ ?” และคำตอบสั้นๆก็คือ เกิดได้ค่ะ มีรายงานชัดเจนว่า “ไวอะกร้า” ทำให้เกิดภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต เห็นภาพสีฟ้า ตาบอด หูดับได้ แม้จะพบได้ไม่บ่อย...คุณอำนาจก็คงต้องลองชั่งน้ำหนักดูค่ะว่า ความสนุกชั่วครู่ที่แลกมานั้นคุ้มค่าความเสี่ยงของผลข้างเคียงจากยาหรือไม่ การประมาณความเสี่ยงก็คิดตามหลักคณิตศาสตร์ทั่วไปค่ะ... 2 เม็ดก็เสี่ยงขึ้น 2 เท่า เพราะยาก็คือยาค่ะ เป็นดาบสองคม ที่ควรใช้เท่าที่จำเป็นและตามความเหมาะสม ดังนั้นการกิน “ยาไวอะกร้า” ให้ปลอดภัยที่สุดก็คงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ ซึ่งหากคุณอำนาจมีปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศจริง ก็จะได้รับการตรวจวินิจฉัยเป็นอันดับแรกว่า ภาวะเสื่อมนั้นเกิดขึ้นจากมูลเหตุใด ซึ่งอาจเกิดได้จากทั้งทางกาย เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด หรือทางใจ เช่น โรคซึมเศร้า เป็นต้น ข้อสำคัญ... ยาทุกชนิดมีผลกระทบต่อกันและกันไม่มากก็น้อย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ “ยาไวอะกร้า” ร่วมกับการกินยาแก้อักเสบหรือยาฆ่าเชื้อราบางชนิดด้วยค่ะ อ.พญ.เด่นหล้า ปาลเดชพงศ์ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 16:33:29 A:223.206.230.150 X: TicketID:209222

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้อีก ตะลึง "ไวอะกร้า"ในหลายประเทศ ได้รับผลข้างเคียงอันตราย"หูหนวกฉับพลัน" สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า ผลศึกษากระทำทั่วโลกพบว่า มีผู้ใช้ยาไวอะกร้า ยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ มี อาการ"หูหนวกฉับพลัน"เป็นจำนวนหลายร้อยคนในหลายประเทศ เช่น อเมริกา เอเชียตะวันออก และออสเตรเลีย โดยจำนวนนี้ 47 รายนี้ พบว่ามีอาการสูญเสียการได้ยินจากอวัยวะรับความรู้สึก ซึ่งเป็นอาการหูหนวกข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง จากการใช้ยาไอวะกร้า และยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศอื่น ๆ เช่น ยา"Cialis"และ"Levitra"และที่ผ่านมา แพทย์ได้รับการเตือนถึงผลข้างเคียงอันตรายดังกล่าวหลังจากมีการรายงานแจ้ง การหูหนวกของผู้ใช้ยาไวอะกร้าในสหรัฐ รายงานระบุว่า ถึงขณะนี้ ยังไม่มีการรู้แน่ชัดว่า เพราะ เหตุใด ยาไวอะกร้าจึงก่อให้เกิดอาการหูหนวก แต่อาจเป็นเพราะปฎิกิริยาลูกโซ่เชิงเคมีที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อหูชั้นใน โดยอัตราเฉลี่ยของผู้ได้รับผลกระทบมีอายุ 57 รวมทั้ง 2 รายที่มีอายุเพียง 37 ปี ด้านดร.อาฟอร์ซ ชาห์ ข่าน ประจำโรงพยาบาลในอังกฤษระบุว่า ผู้ใช้ยาไวอะกร้า ควรจะระมัดระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุขและยาของอังกฤษ ระบุว่า ถึงขณะนี้รายงานเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ได้รับผลข้างเคียงหูหนวกฉับพลันเพราะยาไว อะกร้าในอังกฤษ มีจำนวนน้อยมาก ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cartoonthai&month=05-2011&date=20&group=11&gblog=161 จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 16:45:22 A:223.206.230.150 X: TicketID:209222

ความคิดเห็นที่ 5 แหล่งอ้างอิงต่างๆของ จขกท นั้น..เอ่อ.....ไม่ค่อยน่าเชื่อถือครับ ข้อมูลที่มีนะขณะนี้ 1 จากการรีวิวการศึกษาแบบที่มีการเปรียบเทียบกับยาหลอก 67 การศึกษารวมคนไข้มากกว่า 14000 คนไม่พบว่ามีการรายงานเรื่องหูดับ (Sensorineural hearing loss) มากกว่ายาหลอกครับ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานการพบเคสที่มีอาการหูดับภายหลังการกินยาในกลุ่มนี้ (เมืองนอกมีหลายตัว) แต่พบว่าเจอได้น้อยมากและยังไม่มีคำอธิบายถึงฤิทธิ์ของยาต่อกลไกการเกิดภาวะหูดับ Ref http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19900167 2 ในการศึกษาหาความสัมพันธ์ของปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรค หูดับ พบว่า ในคนไข้ที่หูดับมีการใช้ยาในกลุ่มนี้มากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ประมาณ 2 เท่า แต่ไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่ามันคือปัจจัยที่ทำให้เกิด Ref http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20479381 ปัญหาคือ การเกิดหูดับมันเกี่ยวจริงๆหรือไม่ เนื่องจากคนที่ใช้มักอายุเยอะ มีโอกาสหูดับเองได้อยู่แล้ว ซึ่งทำให้การศึกษาแบบเทียบกับยาหลอกจึงไม่พบความแตกต่าง แต่ในขณะเดียวกันถ้ามันจะเกี่ยวแสดงว่าโอกาสเกิดมันน้อยมากจนแม้กระทั่งการศึกษาเกินหมื่นคนยังไม่พบความแตกต่าง แปลว่า อาจ เกี่ยว แต่ คงไม่สามารถเอาไประบุได้ว่า คนที่กินยาแล้วหูดับ จะเกิดจากยา การจะระบุว่าเกิดจากยา 1 ดีที่สุดคือ มีอาการเมื่อกินยา หยุดกินยาแล้วดีขึ้นหรือไม่แย่ลง และ เมื่อลองกินยาใหม่ ทำให้มีอาการใหม่หรือแย่ลงได้ 2 หรือ มีคำอธิบายทางการแพทย์ว่ายามันไปทำอะไร ให้เกิดหูดับได้ 3 หรือ ในการศึกษาสามารถพบได้มากกว่ายาหลอก อย่างไรก็ตามระหว่างที่ยังไม่มีข้อมูลมากไปกว่านี้ ควรระบุไว้ในคำเตือนว่าอาจทำให้เกิดหูดับได้ครับ ปล.หูดับจากยานี้เป็นแบบ Sensorineural คือเกิดจากเส้นประสาทนะครับ สามาารถเกิดได้ในอายุที่เยอะครับ ถ้าเป็นแบบ conductive นี่ไม่เกี่ยวกับยาครับ ปล.2 หูดับเกิดจากสาเหตุอื่นๆเยอะกว่ามากบ่อยกว่ามากครับ อย่างไรก็ตามการรักษามันไม่ค่อยดีครับ จากคุณ : oncodog เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 54 18:28:30

ความคิดเห็นที่ 6 พอกินไปแล้ว ใครจะว่าอย่างไรก็ไม่ได้ยินแล้ว จาเอาวววว... จากคุณ : ชายเขา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 09:03:19

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณ oncodogครับ ข้อมูลเยอะจริงๆเดี๋ยวผมจะลองไปหาหมออีกที แต่ผมยังสงสัยว่าแล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าหูดับจากสาเหตุอะไร (ผมอายุ34) จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 14:20:09 A:223.207.127.135 X: TicketID:209222

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ คุณ oncodogครับ ข้อมูลเยอะจริงๆเดี๋ยวผมจะลองไปหาหมออีกที แต่ผมยังสงสัยว่าแล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าหูดับจากสาเหตุอะไร (ผมอายุ34) จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 14:21:37 A:223.207.127.135 X: TicketID:209222

ความคิดเห็นที่ 9 เกิดจากไวอะกร้าแหละครับ บทความแรกให้ข้อมูลตรงไปตรงมาแบบคุณหมอที่เป็นใส่ใจคนไข้ดีออก ส่วนของคุณ oncodog เหมือนมาจากบริษัทยา สงสัยได้เปอร์เซนต์ขายไวอะกร้า หุ ๆ จากคุณ : xmen55 (Cafe_noir) เขียนเมื่อ : วันมหิดล 54 07:43:04