ความคิดเห็นที่ 1 เค้าปิดเพื่อขาย content อย่างง่ายๆแค่ mp3 ถ้า apple ลงเพลงง่ายๆ ค่ายเพลงหน้าไหนจะยอมให้มาขายใน itune store ถ้าให้ลง app ง่ายๆ หาโหลดจาก 4shared ได้ จะหา app คุณภาพที่เค้าลงทุนทำเพื่อ"ขาย"ได้เกลื่อน app store แบบนี้รึเปล่า แล้วที่บอกว่าปิดๆเอาไฟล์ลงยาก ทั้งๆที่ itune store มันก็อยู่ในเครื่อง จะหนังจะเพลง ก็โหลดมาดูสิ แบบถูกต้องนะ เรื่อง ลิขสิทธิ์ของ digital content เป็นของแสลงของบ้านเรา อีก 10 ก็ยังเปลี่ยนแนวคิดแบบนี้ไม่ได้เหรอก เอาแค่นี้ ถ้าไม่เข้าใจ อธิบายไปก็คงเปล่าประโยชน์ จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:03:26

ความคิดเห็นที่ 2 playstore ที่เมกากับยุโรป เขาก็ขายcontent กันได้ครับ ไม่จำเป็นต้องปิดเหมือนแอปเปิ้ลแต่อย่างใด ตอนนี้ออสเตรเลียกับญี่ปุ่นกำลังจะตามมา เอาแค่นี้ ถ้าไม่เข้าใจ อธิบายไปก็คงเปล่าประโยชน์ จากคุณ : Lind Say "gorgeous" เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:14:44

ความคิดเห็นที่ 3 เก่งจังเลยวันนี้ ฟองน้ำน้อย จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:22:39

ความคิดเห็นที่ 4 เถียงเค้าไม่ได้ก็ด่าเค้าฟองน้ำ เหมาะกับอัครสาวกจริงๆ ความคิดฟายๆแบบนี้มีอยู่ไม่กี่ตัวหรอก จากคุณ : Devilot เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:30:07

ความคิดเห็นที่ 5 ระบบปิดทำให้สามารถควบคุมความรู้สึกของผู้ใช้ที่ดีครับ ความรู้สึกดีๆนั้นเกิดจากการได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีๆ ระบบเปิดมันอิสระ ซึ่งทำให้ไม่สามารถจัดการประสบการณ์ผู้รับได้ เพราะแต่ละคนจะพยายามปรับแต่งตามใจฉัน มันโดดเด่นคนละแบบ ถ้าอยากใช้ระบบเปิดก็ไปใช้แอนดรอยครับ ทำไมต้องมาโวยให้เจ้าอื่นๆเปิดด้วย เขามีจุดยืนต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณ ว่าจะแฮปปี้ที่จะยืนอยู่จุดไหน จากคุณ : jojo_serie เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:35:37

ความคิดเห็นที่ 6 ระบบปิดผมมองไปที่เรื่องความปลอดภัยครับ การเจลเบรคเปนการเปิดช่องให้แก้ไขนั่นนู่นนี่ แต่ก็เสี่ยงใช่มั้ยล่ะ? ส่วนการขายคอนเท้นต์ก็เหมือนกันฮะระบบปิด มันเหมาะแล้วล่ะ Edit หน่อย คุณคงไม่ชอบหรอก อยู่ ๆ popup เด้งมาให้กดจากแอพบ้า ๆบอ ๆ หรือแอพอันตราย ๆที่ไม่รู้จักแต่เผลอติดตั้งไป แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 16:42:58 จากคุณ : via iPhone (Trying) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:40:21

ความคิดเห็นที่ 7 Apple ปิดแบบนี้มา นมนาน แต่แรกอยู่แล้ว ใครไม่ชอบ ก็ไประบบเปิด ยี่ห้ออื่นก็เท่านั้น.. โทษนะ กะว่าไม่ต้องให้มีตัวเลือกอื่นมั่งเลยหรือไง.. จากคุณ : นาคน้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:40:39

ความคิดเห็นที่ 8 สมมตินะครับ แอปเปิ้ลวิจัยมาแล้วว่า คนส่วนใหญ่ชอบไอคอนแอฟที่แสดงความน่ารัก ตั้งอยู่บนพื้นหลังสีเรียบๆ และต้องมีความลื่นไหลในการใช้งานดีเยี่ยม แอปเปิ้ลก็สร้างไอโฟนออกมาให้เป็นแบบนั้น แต่คราวนี้มีคนอีกกลุ่มที่รู้สึกไม่ชอบแบบด้านบน ชอบแบบอื่นๆ อาจจะลื่นไหลน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญ แน่นอนว่ากลุ่มนี้ต้องรู้สึกว่า แอปเปิ้ลมีข้อจำกัดเยอะว่ะ แต่ก็นะ คนที่เขาโอเคกับแอปเปิ้ล เขาไม่ได้ขัดใจจะไม่สามารถเข้ายุ่งได้ในบางบริเวณ เพราะส่วนที่แอปเปิ้ลเปิดให้ใช้งานมันก็คลอบคลุมและง่ายต่อการใช้งานอยู่แล้วไง เวลาในหนึ่งวันเขาอยากจะเอาไปทำอย่างอื่นบ้าง จากคุณ : jojo_serie เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:43:22

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าคนไม่ชอบก็ซื้อโทรศัพท์ระบบอื่นก็จบ อย่าคิดแทนคนอื่นหรือคิดว่าทั้งโลกจะต้องชอบอย่างงั้นอย่างงี้ จากคุณ : Buddykung เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:50:17

ความคิดเห็นที่ 10 อยากอธิบายบ้าง แต่กลัวจะโดนหาว่าเป็น ''อัครสาวก'' จากคุณ : Girly Blurly เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:54:47

ความคิดเห็นที่ 11 ตายแน่ครับ ปิดบ้านแบบนี้ไม่นานหรอก กลายเป็น apple เน่า นึกถึง  macintos สมัยโดน PC Compatible แย่งตลาดไป  มันประมาณนี้เลย ที่ขายได้เพราะว่า ความเชื่อ และความดังของ job และ เป็นเจ้าแรกที่ เลิกใช้ปุ่มกดมาใช้ touchscreen 100% แทน  แต่ว่า ตอนนี้เจ้าอื่นก็ทำมาแข่งคู่กันหมดแล้ว ผมใช้ ipad อยู่อยากจะเอาไปขว้างหัวหมามากๆ เพราะ set proxy เล่นเน็ต ผ่าน cellular network ไม่ได้ หรือใช้โทรออกไม่ได้  ต่อส่งรูปที่ถ่ายกับ PC หรือเครื่องวเพื่อนๆผ่าน bluetooth ไม่ได้ สรุป ตอนนี้ใช้ andriod ไม่มีปัญหาอย่างข้างบนเลย แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 55 17:03:26 จากคุณ : Acoustic... เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:57:11

ความคิดเห็นที่ 12 #10 อธิบายเหอะครับ อยากฟังเป็นความรู้ครับ จากคุณ : mr.virgin เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 17:22:47

ความคิดเห็นที่ 13 1. ขอโทษนะคะ ที่ข้อความของเราสื่อไม่ชัด ทำให้เข้าใจผิด 2. ตอนนี้วงการโทรศัพท์เริ่มให้ความสนใจกับ OS อื่นๆมากขึ้น  ส่วนแบ่งของตลาดมือถือมันก็ต้องถัวเฉลี่ยกัน ยอดขายแอปเปิ้ลมันก็ลดลงเป็นธรรมดา  3. เราเลยแค่ถามว่า "จะเกิดอะไรต่อไป" เท่านั้นค่ะ เพราะว่าเราอยากรู้ค่ะ ไม่ได้อคติอะไรทั้งสิ้น 4. เราไม่ได้บอกว่า Ecosystem มันไม่ดีนะคะ  มันก็มีข้อดีของมันค่ะ 5. แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งและความเชื่อมันของผู้บริโภคถดถอยลง ต่อให้มันดียังไงถ้าไม่เป็นที่นิยนมในหมู่ผู้บริโภค มันก็จบค่ะ  6. ในความเข้าใจของเรา เราแค่ถามความคิดของคนในที่นี้เท่านั้นค่ะ เราแค่ไม่เข้าใจ เราก็เลยถามค่ะ  7. ถ้าเราเก่งเรื่องนี้มากพอที่จะวิเคราะห์เองได้ เราก็ไม่ตั้งกระทู้ถามหรอกค่ะ  จากคุณ : Old Lady Princess เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 17:25:24

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องเพลง หรือ content น่าจะเป็นเรื่องของ ลิขสิทธิ์ หรือเปล่า ไม่งั้นการโอนย้ายได้อิสระ จะเป็นการ copy ผิดกฏหมายไป แถม itune เป็นตัวเริ่มต้นกับการขายเพลงแนวนี้ โดยเน้นไปที่ขายแยกเพลง ราคาถูก พวกเมกา เค้าเลย happy กับ itune พอตัว ส่วนอุปกรณ์ต่อพ่วง กับ ระบบปิด ก็เหมือนเป็นดาบ 2 คม ช่วงตัวเองรุ่ง ก็รวยเละ แต่ช่วง down มันจะกลายเป็นบล็อกตัวเองไปในตัว ก็เหมือน apple สมัยก่อน หรือ sony ช่วงก่อนหน้า ที่พยายามทำอุปกรณ์ให้ใช้ได้แต่ของตัวเอง สรุปหลังจากนี้เดี๋ยวก็รู้ว่า eco system จะอยู่หรือจะไป ปล. ไม่ใช้สาวกเจ้าไหน จากคุณ : a&t เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 17:26:40

ความคิดเห็นที่ 15 ดราม่าได้ทุกเรื่อง เย้ จากคุณ : StreamRider เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 18:06:27

ความคิดเห็นที่ 16 สุดท้าย ใครจะอยู่ใครจะไป ก็อยู่ที่ว่าใครสามารถสร้างความไว้วางใจ ความประทับใจแก้ผู้ใช้ได้มากกว่ากัน ซึ่งตรงนี้มันอยู่ที่แผนการตลาด ของแต่ละฝ่าย โดย Apple ก็ทำการตลาดแบบนี้มานานมากแล้ ไม่ใช่พึ่งมีตอนที่มี ipod iphone ipad ซะหน่อย เขาก็อยู่มาได้ แต่ที่สิ่งที่ทำให้ Apple ก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้นำได้คือการสร้างนวัตกรรมใหม่ ที่ประทับใจผู้ใช้ อย่างที่สตีฟทำไว้กับ ipod iphone หรือ ipad นั่นเอง ซึ่งผู้ใช้ส่วนมากก็อาจอึดอัดบ้างในครั้งแรกๆ ที่เริ่มใช้เพราะระบบปิด แต่พอลองใช้ และสามารถปรับตัว และใช้งานเป็นได้อย่างถูกต้อง ปัญหาเหล่านั้นก็จะหมดไป อย่งผู้ใช้หลายๆคน ที่เคยใช้ระบบปิด มาเปลี่ยนมาใช้ระบบเปิดก็เหมือนกัน ครั้งแรกๆ ก็รู้สึกยุ่งยาก มีอะไรมากมาย เพราะด้วยความเป็นระบบเปิด รู้สึกยุ่งยาก แต่พอปรับตัวได้ ปัญหาเหล่านั้นก็หมดไป จากคุณ : nevernome เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 18:23:46

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ว่าใครจะอยู่หรือไป ผู้บริโภคก็ชนะอยู่ดีแหละครับ นับวันผู้บริโภคแบบพวก ๆเราเนี่ย ฉลาดขึ้น ไม่ได้ปล่อยให้พวกเขาเอาของยัดไส้ หรือของไม่มีคุณภาพมาขายอีกต่อไปเพราะเทคโนโลยีมันไปทุกวัน -..- เงินในมือคุณ คุณจะทำยังไงก็ได้ให้คุณรู้สึก พอใจกับการจ่ายไปให้มากที่สุด เพียงแต่ตอนนี้ เรามองต่างกันแค่นั้นเอง คุณชอบดรอยด์ แต่อีกคนชอบไอโอเอส มันก็เลยต้องดราม่าหน่อย5555 จากคุณ : Trying เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 18:31:19

ความคิดเห็นที่ 18 #1. การซื้อ content ใน itune มันไม่ใช่คำตอบทั้งหมด สมมุติ ผมอยากฟังเพลงใต้ดิน หรือเพลงนอกกระแส ผมก็ไม่สามารถหาซื้อได้ ยิ่งหากเป็น vdo นี่ยิ่งแล้วใหญ่ สำหรับระบบปิด ผมมองแค่ว่าได้เรื่องความปลอดภัยเท่านั้น แต่ต้องแรกกับข้อจำกัดที่น่าเบื่อมากมาย แต่ถึงยังงั้น ระบบเปิดก็ไม่ใช่ไม่ปลอดภัยนะ แต่ความปลอดภัยสำหรับ ระบบเปิดมันขึ้นอยู่กับความสามารถ และความรอบครอบของผู้ใช้เองเท่านั้น จากคุณ : ข้าวต้มรอบดึก เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 18:37:19

ความคิดเห็นที่ 19 คห 11 รู้อยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านั้นทำไม่ได้ แล้วไปซื้อมันทำไมครับนั่น งง จากคุณ : BallFreak เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:07:45

ความคิดเห็นที่ 20 USB มาเกี่ยวอะไรด้วย ??? งงมาก จากคุณ : Deadhunt เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:33:03

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ายอมเปิด บลูทูธ กับ จาวา แค่นี้ก็ โอ นะ ที่เหลือผ่าน iTunes ไม่เปนไร T^T จากคุณ : burinpun เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:35:21

ความคิดเห็นที่ 22 คห.19 คห.11 เค้าอาจพึ่งรู้ตอนซื้อมาใช้แล้วก็ได้ครับมองโลกในแง่ดี หรือใช้ไปแล้วอาจมีความจำเป็นต้องตั้งค่าทีหลัง ถึงพึ่งรู้ว่าทำไม่ได้ จากคุณ : omegatm เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:37:35

ความคิดเห็นที่ 23 ของพวกนี้มันเป็นไปตามกลไกตลาดครับ อย่างข้างบนเขียนไว้ว่า ถ้าไม่ชอบก็อย่าซื้อ พอวันนึงคนไม่ชอบเยอะขึ้นเรื่อยๆ เค้าก็ต้องเปิดอยู่ดี เพื่อเอาตัวรอด ไม่งั้นกลุ่มคนใช้มันก็จะเล็กลงๆ จนสุดท้ายอาจจะไม่เหลือเลย จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 19:50:35

ความคิดเห็นที่ 24 ระบบเปิดกับระบบปิดมันไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ คนละประเด็น ระบบเปิดก็เปิดให้ผู้ใช้เข้าไปปรับแต่งได้ ไม่จำเป็นต้องละเมิดลิขสิทธิ์ ในขณะเดียวกันระบบปิดเองก็สามารถละเมิดลิขสิทธิ์ได้เช่นกัน จากคุณ : ขนมปังทาเนย เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 21:10:38

ความคิดเห็นที่ 25 แรกๆก็แอนตี้ระบบของแอ๊ปเปิ้ลเหมือนกัน ต้องต่อนู่่นนี่เยอะแยะ แต่พอมาลองใช้จริงๆ เลยรู้เลยว่า ปกติเราก็ไม่ค่อยโหลดหรือเล่นไรมากมายนี่หว่า อย่างมากลงรูป ก็แค่นั้น ไม่ต้องผ่านไอจูน แถมพอมาใช้ไอแพด แล้วมันซิงค์ icloud ได้ ทุกอย่างลิงค์หากันหมด เลยรู้สึกว่าสะดวกมาก ทำให้รู้เลยว่า ทำไมแอ๊ปเปิ้ลเค้าขายของได้ เพราะเวลาลูกค้าใหม่ๆมาใช้ และปรับตัวได้ ชักเริ่มติดแบรนด์ ต่อไปเวลาจะซื้ออะไรเพิ่มเติม ก็จะมองหาของเค้าก่อนเลยเพื่อความสะดวก และค่อนข้างเชื่อในเรื่องคุณภาพ จากการใช้งานที่ผ่านมา (อาจโชคดี ที่ยังไม่เจอข้อเสียด้วยแหล่ะ) อย่างนี้เราก็กลายเป็นเหยื่อการตลาดเค้าแล้วสินะ 555 ก็มันใช้แล้วแฮปปี้นินา -..-" จากคุณ : UMESHUO เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 22:19:25

ความคิดเห็นที่ 26 #11 อยู่กับอดีตเก่าๆ ยุคเปลี่ยนไปแล้วครับ ตอนนี้โน้ตบุ้คแม็คขายดีสุดในอเมริกา ในไทยตอนนี้แม็คแอร์โหลเหมือนไอโฟน ผมไม่กล้าเอาออกมาใช้แล้วละ ประชุมทีแม็คเกลื่อนห้องประชุม แต่ก่อนยังหลากหลายบ้าง บางคนก็ลีโนโว บางคนก็เอซุส มีผมแม็คแอร์อยู่คนเดียว แต่เดี๋ยวนี้ มันเป็นแม็คหมดเลย ผมละอยากให้แม็คใช้วินโดวส์ไม่ได้จริงๆ จะได้ลดๆไปบ้าง เบื่อครับพวกแม็คแต่เปลือก จากคุณ : แวมไพร์ที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 23:48:22

ความคิดเห็นที่ 27 ค่อนข้างเสี่ยงเหมือนกันนะ ถ้ารุ่งก็กินคนเดียวอิ่มๆ ถ้าไม่รุ่งก็ตัวคนเดียวไม่มีใครมาคอยช่วย เหมือนโซนี่จะเคยพยายามทำมาก่อน แต่ก็ไม่สำเร็จ ก็ต้องพยุงตัวเองขึ้นมาพึ่งพาคนอื่นบ้าง apple เก่งจริงๆครับ จากคุณ : เสเพลย์หมื่นลี้ เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 01:25:14

ความคิดเห็นที่ 28 #26 ก็นี่ยังไงหละครับ แต่ก่อน mac มันลง windows ไม่ได้ ( ระบบปิด ) สุดท้าย apple ก็เปิดให้ลงได้เพื่อให้อยู่ได้ในตลาด ( เปลี่ยนมาเป็นระบบเปิด ) จากคุณ : Acoustic... เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 08:26:57

ความคิดเห็นที่ 29 ดูแล้วแนวโน้ม Apple น่าจะกลับไปเป็นระบบปิดมากกว่าเดิม ... อย่าง Mac ที่เมื่อก่อนใช้ชิพ powerpc ลง Window ไม่ได้ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้ Intel ... แต่ดูมีแนวโน้มจะกลับไปใช้ชิพของ Apple เองในอนาคต เช่นเดียวกับ iOS ที่ค่อนข้างแน่ว่าในอนาคตอาจจะใช้ชิพที่พัฒนาขึ้นเองทั้งหมด ... ปรัญชาของ Apple เขาเน้นกำไร ไม่ได้เน้น market share จากคุณ : JRyn เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 10:11:00

ความคิดเห็นที่ 30 #29 ขอให้เร็วเลยครับ ผมว่าควรแยกทางกับอินเทลได้แล้ว จะได้พิสูจน์กันว่าอยู่ได้โดยไม่มีวินโดวส์จริงมั้ย จากคุณ : แวมไพร์ที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 12:28:06