Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพาเวอร์ มอลล์ ตลาดโต3G // Instagram ขายภาพทั้งหมดให้ Facebook แล้ว // ย้อนความรัก Instagram และ twitter vote ติดต่อทีมงาน

ประเด็นหลัก

คุณและคนที่คุณรัก อาจจะกลายเป็นดาราหน้าใหม่ไปโดยไม่รู้ตัว!!! หากคุณโพสต์ภาพลงในแอพพลิเคชันถ่ายภาพและตกแต่งภาพบนสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดอย่าง อินสตราแกรม (Instagram) เมื่อ อินสตาแกรม มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ภายหลังจากที่เฟซบุ๊ก (Facebook) เทเงินซื้อแอพพลิเคชันสุดฮอตไปได้ไม่นาน โดยทาง อินสตราแกรม อ้างสิทธิที่จะขายภาพถ่ายของผู้ที่โพสต์ผ่าน อินสตราแกรม ซึ่งไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่ต้องชำระเงินใดๆ ให้กับเจ้าของภาพ โดยนโยบายดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2556 เป็นต้นไป

 ปัจจุบันดีลระหว่างอินสตาแกรม กับเฟซบุ๊กเป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว โดยมูลค่าสุดท้ายอยู่ที่ 715 ล้านเหรียญ แบ่งเป็นเงินสด 300 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นให้กับทางอินสตาแกรม ทั้งนี้ ที่จำนวนมูลค่าการซื้อขายลดลงจากที่ประเมินไว้ 1 พันล้านเหรียญ เป็นเพราะว่าหุ้นของเฟซบุ๊กในตลาดหุ้นมีราคาลดลงจากที่คาดหมายไว้นั่นเอง
     
      อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวนี้ เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ต่างไม่ขอออกให้ความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น
     
      อนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างทวิตเตอร์ กับอินสตาแกรมปัจจุบันถือว่าอยู่ในสถานะที่ไม่ค่อยดีนัก หลังจากที่อินสตาแกรมตัดการเชื่อมต่อภาพระหว่างอินสตาแกรมกับทวิตเตอร์ออกไป ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถแชร์รูปภาพจากอินสตาแกรมลงทวิตเตอร์ได้ จะมีให้เห็นเฉพาะลิงก์ที่อยู่ของภาพเท่านั้น ซึ่งสาเหตุของปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากทวิตเตอร์ตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์สำหรับการตกแต่งรูปภาพในแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ (Twitter for iPhone, Twitter for Android) ออกมา ทำให้อินสตาแกรมมองว่าทวิตเตอร์อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของอินสตาแกรมในอนาคต


นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีครบวงจร กล่าว "สมาร์ทโฟนโตต่อเนื่องหลัก 100% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะยังโตต่อเนื่องเพราะได้กระแสจาก 3จี สัดส่วนยอดขายสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ 80% เป็นของค่ายแอปเปิล อีก 20% เป็นมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์" นายจักรกฤษณ์ กล่าว และว่า ช่วงปลายปีนี้เพาเวอร์มอลล์จะจัด 2 แคมเปญใหญ่ คือ POWER MALL SMART CELEBRATION สำหรับเป็นของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ และ BANGKOK ELECTRONICA 2013 ซึ่งถือเป็นงานใหญ่เน้นนำเสนอนวัตกรรมสินค้า ทั้งสมาร์ททีวี อินเตอร์เน็ตทีวี โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นต้น จัดพร้อมกัน 3 สาขา คือสาขาบางกะปิ งามวงศ์วาน และบางแค ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมนี้-2 มกราคม 2556 ตั้งเป้ายอดขาย 15 วัน 450 ล้านบาท และสิ้นปียอดขายโตได้ 14% มียอดขายเพิ่มเป็น 9.7 พันล้านบาท


____________________________________

สมาร์ทโฟนแรง โต 100% 3 ปีติด ไฟฟ้า-ไอทีพุ่งด้วย


นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีครบวงจร กล่าวถึงภาพรวมของตลาดสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปีนี้จะเป็นปีที่โตโดดเด่นประมาณ 9% หรือเพิ่มจากมูลค่า 1.75 แสนล้านบาท ปีก่อน เป็น 1.9 แสนล้านบาทในสิ้นปีนี้ ผลจากสินค้ากลุ่มมือถือ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนโตโดดเด่นตามกระแสนิยม โดยยอดขายสมาร์ทโฟนผ่านเพาเวอร์มอลล์โตต่อเนื่องมากกว่า 100% ใน 2 ปีก่อน ส่วนปีนี้โตถึง 150%จากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ทั้งไอโฟน 4เอส ไอโฟน5 สมาร์ทโฟนกลุ่มซัมซุง นอกจากนี้ ตลาดกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กมีส่วนผลักดันให้ตลาดเติบโตได้โดดเด่นเช่นเดียวกัน

"สมาร์ทโฟนโตต่อเนื่องหลัก 100% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะยังโตต่อเนื่องเพราะได้กระแสจาก 3จี สัดส่วนยอดขายสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ 80% เป็นของค่ายแอปเปิล อีก 20% เป็นมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์" นายจักรกฤษณ์ กล่าว และว่า ช่วงปลายปีนี้เพาเวอร์มอลล์จะจัด 2 แคมเปญใหญ่ คือ POWER MALL SMART CELEBRATION สำหรับเป็นของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ และ BANGKOK ELECTRONICA 2013 ซึ่งถือเป็นงานใหญ่เน้นนำเสนอนวัตกรรมสินค้า ทั้งสมาร์ททีวี อินเตอร์เน็ตทีวี โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นต้น จัดพร้อมกัน 3 สาขา คือสาขาบางกะปิ งามวงศ์วาน และบางแค ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมนี้-2 มกราคม 2556 ตั้งเป้ายอดขาย 15 วัน 450 ล้านบาท และสิ้นปียอดขายโตได้ 14% มียอดขายเพิ่มเป็น 9.7 พันล้านบาท




ที่มา : นสพ.มติชนรายวัน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1355801511&grpid=&catid=06&subcatid=0600

_______________________________


Instagram มัดมือชก! ฮุบสิทธิ์การนำภาพไปใช้ มีผล 16 ม.ค.เป็นต้นไป


คุณและคนที่คุณรัก อาจจะกลายเป็นดาราหน้าใหม่ไปโดยไม่รู้ตัว!!! หากคุณโพสต์ภาพลงในแอพพลิเคชันถ่ายภาพและตกแต่งภาพบนสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดอย่าง อินสตราแกรม (Instagram) เมื่อ อินสตาแกรม มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ภายหลังจากที่เฟซบุ๊ก (Facebook) เทเงินซื้อแอพพลิเคชันสุดฮอตไปได้ไม่นาน โดยทาง อินสตราแกรม อ้างสิทธิที่จะขายภาพถ่ายของผู้ที่โพสต์ผ่าน อินสตราแกรม ซึ่งไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่ต้องชำระเงินใดๆ ให้กับเจ้าของภาพ โดยนโยบายดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2556 เป็นต้นไป

ฉะนั้นจะถือว่า ภาพใดๆ ที่โพสต์บน อินสตราแกรม ถือเป็นลิขสิทธิ์ ที่ทางอินสตาแกรมจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ต่อไปได้ ซึ่งเนื้อหาสำคัญที่จะมีผลต่อผู้ใช้มากที่สุดมีดังนี้

1. ข้อมูลจากภาพของผู้ใช้ (เช่น สถานที่ที่ถ่ายภาพ)? จะสามารถถูกในไปใช้ในการโฆษณาได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ และผู้ใช้จะไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ

2. โฆษณาอาจจะไม่ได้เขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นโฆษณา

3. ผู้ใช้ให้สิทธิ์แก่ อินสตาแกรม ในการนำภาพไปใช้ในการโฆษณาอย่างไม่จำกัด โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

4. ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบต่อภาพและเนื้อหาที่ตนเองถ่ายและเขียน หากมีประเด็นเรื่องผิดกฎหมายไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้ใช้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

5. ผู้เยาว์ที่อายุมากกว่า 13 ปี แต่ต่ำกว่า 18 ปี ให้ถือว่าผู้ปกครองยินยอมให้ อินสตาแกรม ใช้ข้อมูลและภาพได้

ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?
newsid=1355831798&grpid=&catid=06&subcatid=0600

______________________________________



จริงหรือ? อินสตาแกรมเกือบขายกิจการให้ทวิตเตอร์!


      เผยข่าวเด็ด เบื้องหลังสุดยอดดีลของวงการไอทีประจำปีนี้ ระหว่างเฟซบุ๊ก (Facebook) กับอินสตาแกรม (Instagram) ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศเผยว่า ในความเป็นจริงแล้วทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง เกือบเป็นฝ่ายฮุบกิจการของอินสตาแกรมได้แล้วด้วยมูลค่าเพียง 525 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งหากเทียบกับเม็ดเงินที่เฟซบุ๊กเข้าซื้ออินสตาแกรมสำเร็จในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
     
      รายงานจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยนามผ่านสื่อต่างประเทศอย่างรอยเตอร์สระบุว่า ทวิตเตอร์ ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง เคยเกือบที่จะฮุบกิจการอินสตาแกรม แอปพลิเคชันด้านการตกแต่งภาพบนแพลตฟอร์มดังมาก่อนแล้ว ด้วยมูลค่า 525 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนมีนาคม 2012 ก่อนที่ซีอีโออินสตาแกรม เควิน ซิสสตรอม จะตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวนี้ออกไป ทั้งๆ ที่ไมค์ ครีเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งอินสตาแกรม จะเห็นดีเห็นงามด้วยกับการขายกิจการให้แก่ทวิตเตอร์
     
      รายงานยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากทวิตเตอร์แล้วมีบริษัทชื่อดังในวงการไอทีหลายรายต่างสนใจเข้าขอซื้อกิจการของอินสตาแกรม แต่เป็นเควิน ซิสสตรอม ที่เป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะไม่ขายให้ใครเลย และมุ่งเป้าที่จะขายให้แก่เฟซบุ๊กเท่านั้น ก่อนที่สุดท้ายจะลงเอยกับทางเฟซบุ๊กที่ซื้อกิจการในเดือนเมษายน เป็นมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
     
      ปัจจุบันดีลระหว่างอินสตาแกรม กับเฟซบุ๊กเป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว โดยมูลค่าสุดท้ายอยู่ที่ 715 ล้านเหรียญ แบ่งเป็นเงินสด 300 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นให้กับทางอินสตาแกรม ทั้งนี้ ที่จำนวนมูลค่าการซื้อขายลดลงจากที่ประเมินไว้ 1 พันล้านเหรียญ เป็นเพราะว่าหุ้นของเฟซบุ๊กในตลาดหุ้นมีราคาลดลงจากที่คาดหมายไว้นั่นเอง
     
      อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวนี้ เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ต่างไม่ขอออกให้ความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น
     
      อนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างทวิตเตอร์ กับอินสตาแกรมปัจจุบันถือว่าอยู่ในสถานะที่ไม่ค่อยดีนัก หลังจากที่อินสตาแกรมตัดการเชื่อมต่อภาพระหว่างอินสตาแกรมกับทวิตเตอร์ออกไป ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถแชร์รูปภาพจากอินสตาแกรมลงทวิตเตอร์ได้ จะมีให้เห็นเฉพาะลิงก์ที่อยู่ของภาพเท่านั้น ซึ่งสาเหตุของปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากทวิตเตอร์ตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์สำหรับการตกแต่งรูปภาพในแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ (Twitter for iPhone, Twitter for Android) ออกมา ทำให้อินสตาแกรมมองว่าทวิตเตอร์อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของอินสตาแกรมในอนาคต
     

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000152662

จากคุณ : So magawn
เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:47:54




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com