Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โจทย์หินเอเยนซี่ ( วงการเชื่อ อนาคตดิจิทัลจะได้รับความนิยมไม่แพ้ทีวี ) ปี56โตแรง10%พุ่งทะลุ 40,000 ล้านบาท vote ติดต่อทีมงาน

ประเด็นหลัก

สำหรับโฆษณาที่มาแรงในปี 56 คือ สื่อเคเบิลทีวีและทีวี ดิจิตอล ที่ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่หันไปใช้สื่อโฆษณามากขึ้น เนื่องจากใช้งบที่ต่ำกว่าสื่อฟรีทีวีคาดว่าจะมีการใช้สื่อโฆษณาผ่านเคเบิลทีวีและทีวีดิจิตอลในปีหน้าสูงถึง 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีนี้มีเม็ดเงิน 20,000 ล้านบาท รองลงมา สื่อที่เติบโตดีต่อเนื่องคือในโรงภาพยนตร์, สื่อณ จุดขาย และสื่อออนไลน์คาดว่าจะเติบโตจาก 2,000 ล้านบาทในปีนี้ เป็น 4,000 ล้านบาทในปีหน้าด้วย ตามพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่สนใจสื่อออนไลน์มากขึ้น ส่วนสื่อที่จะชะลอตัวในปีหน้า คือ สื่อสิ่งพิมพ์สื่อวิทยุ และสื่อนิตยสารต่างๆ

โดยเฉพาะ "สื่อดิจิทัล" ที่เข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่สะเทือนมาถึงการทำงานของเอเยนซี่โฆษณาที่ต้องเปลี่ยนตาม สังเกตได้ว่าที่ผ่านมาหลายเอเยนซี่ได้ตั้งแผนกดิจิทัลขึ้น เช่นเดียวกับ "ครีเอทีฟ จูซ" ก็มีการให้บริการในส่วนดิจิทัลแก่ลูกค้าเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้แยกออกมาเป็นแผนกเฉพาะ เพราะมองว่าไม่มีความจำเป็น

"ถ้า วันนี้เอเยนซี่รายใหญ่ ๆ ไม่รู้เรื่องสื่อดิจิทัล แล้วปล่อยให้แผนกหนึ่งที่แยกออกมาดูแลด้านนี้ไป เมื่อวันที่มันเติบใหญ่ขึ้นถึงขนาดใหญ่กว่าทีวี เราจะเปลี่ยนไม่ทัน ดังนั้นสำหรับครีเอทีฟ จูซ ทุกทีมต้องทำดิจิทัลเป็น ซึ่งเราจะมีการฝึกอบรมพนักงานทั้งบริษัทให้สามารถเรียนรู้สื่อดิจิทัลไป พร้อม ๆ กัน"

"วิทวัส" มองว่า แนวโน้มการเติบโตของสื่อดิจิทัลขยายตัวรวดเร็ว ถึงสิ้นปีนี้เติบโตถึง 27% ส่วนมูลค่าค่อนข้างกระจัดกระจายและไม่ใช่การจัดเก็บข้อมูลที่ดี บางคนคาดว่ามีมูลค่าเพียง 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% ของงบฯโฆษณารวม แต่ความเป็นจริงเชื่อว่ามูลค่าปัจจุบันทะลุ 3,000 ล้านบาทไปแล้ว และปีหน้าจะเติบโตขึ้นอีก 40-50%

เขาเชื่อว่า ขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของสื่อทีวีไปสู่สื่อดิจิทัล วันนี้ทีวียังเป็นสื่อหลักที่เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม แต่อนาคตดิจิทัลจะได้รับความนิยมไม่แพ้ทีวี









__________________________


โจทย์หินเอเยนซี่ ยุคเปลี่ยนผ่านสู่ "สื่อดิจิทัล"

ด้วย พฤติกรรมรับสื่อของผู้บริโภควันนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ "ฟรีทีวี" จากบทบาทของ "สื่อทางเลือก" โดยเฉพาะสื่อดิจิทัล หรือโซเชียลมีเดีย ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้นในสังคมยุคใหม่ ที่วันนี้ไม่จำกัดแค่ในตัวเมือง แต่เริ่มแพร่ขยายออกไปยังต่างจังหวัด

เทรนด์ดังกล่าวส่งผลให้บรรดาเจ้าของสินค้า เอเยนซี่โฆษณา ต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของสื่อ เทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภค

"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับมุมมองของนักโฆษณาระดับแถวหน้าของไทย "วิทวัส ชัยปาณี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ครีเอทีฟ จูซ แบงคอก จำกัด ซึ่งมองการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ

เขาชี้ว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมโฆษณาอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ และถือเป็นช่วงเวลาที่ยาก เพราะการเปลี่ยนผ่านที่เกิดขึ้นไม่เป็นการเปลี่ยนอุตสาหกรรมใหม่ทั้งหมดแบบ ทีเดียว แต่เป็นการเปลี่ยนเพียงบางส่วนและบางกลุ่มเท่านั้น และนั่นทำให้การทำงานของเอเยนซี่มีความยากลำบากขึ้น

โดยเฉพาะ "สื่อดิจิทัล" ที่เข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่สะเทือนมาถึงการทำงานของเอเยนซี่โฆษณาที่ต้องเปลี่ยนตาม สังเกตได้ว่าที่ผ่านมาหลายเอเยนซี่ได้ตั้งแผนกดิจิทัลขึ้น เช่นเดียวกับ "ครีเอทีฟ จูซ" ก็มีการให้บริการในส่วนดิจิทัลแก่ลูกค้าเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้แยกออกมาเป็นแผนกเฉพาะ เพราะมองว่าไม่มีความจำเป็น

"ถ้า วันนี้เอเยนซี่รายใหญ่ ๆ ไม่รู้เรื่องสื่อดิจิทัล แล้วปล่อยให้แผนกหนึ่งที่แยกออกมาดูแลด้านนี้ไป เมื่อวันที่มันเติบใหญ่ขึ้นถึงขนาดใหญ่กว่าทีวี เราจะเปลี่ยนไม่ทัน ดังนั้นสำหรับครีเอทีฟ จูซ ทุกทีมต้องทำดิจิทัลเป็น ซึ่งเราจะมีการฝึกอบรมพนักงานทั้งบริษัทให้สามารถเรียนรู้สื่อดิจิทัลไป พร้อม ๆ กัน"

"วิทวัส" มองว่า แนวโน้มการเติบโตของสื่อดิจิทัลขยายตัวรวดเร็ว ถึงสิ้นปีนี้เติบโตถึง 27% ส่วนมูลค่าค่อนข้างกระจัดกระจายและไม่ใช่การจัดเก็บข้อมูลที่ดี บางคนคาดว่ามีมูลค่าเพียง 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% ของงบฯโฆษณารวม แต่ความเป็นจริงเชื่อว่ามูลค่าปัจจุบันทะลุ 3,000 ล้านบาทไปแล้ว และปีหน้าจะเติบโตขึ้นอีก 40-50%

เขาเชื่อว่า ขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของสื่อทีวีไปสู่สื่อดิจิทัล วันนี้ทีวียังเป็นสื่อหลักที่เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม แต่อนาคตดิจิทัลจะได้รับความนิยมไม่แพ้ทีวี

"เช่นเดียวกับทีวีเมื่อ 10 ปีก่อนมีส่วนแบ่งตลาดถึง 60%ของงบฯโฆษณารวม แต่ปัจจุบันกลับมีสัดส่วนเหลือประมาณ 51% เพราะออนไลน์ค่อย ๆ เข้ามาปันส่วนแบ่งตลาด อนาคตเชื่อว่าสัดส่วนฟรีทีวีอาจจะอยู่ที่ 30-40% ของงบฯโฆษณารวม"

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไป นักโฆษณาผู้มากประสบการณ์รายนี้เชื่อว่า การเข้ามาของสื่อดิจิทัลไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในแง่กลยุทธ์การตลาด วันนี้ 4P ยังคงเป็นพื้นฐานหลัก เพียงแต่วิธีการสื่อสารนั้นเปลี่ยนไป ที่เห็นชัดคือ ช่องทางออนไลน์กลายเป็นทางเลือก และสร้างโอกาสให้แก่เจ้าของแบรนด์เพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะกับเทคโนโลยี 3G ที่กำลังจะเริ่มต้นในปีหน้า จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้สื่อดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ 2 ปัจจัยหลัก คือ ซอฟต์แวร์ ค่าบริการรายเดือนที่ถูกลง และฮาร์ดแวร์ที่หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเลต สมาร์ทโฟน ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและโซเซียลมีเดียได้ จะส่งผลให้จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันยุคโทรศัพท์ มือถือเมื่อ 6-7 ปีก่อน เห็นได้ชัดว่า ปัจจุบันเจ้าของสินค้าก็พยายามสร้างแอปพลิเคชั่นของตัวเอง เพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ดิจิทัลที่กำลังฮอตฮิตในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเองในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการไม่เห็นด้วย

"เป็นเสมือนโรคแห่ตามกันแบบไร้สติ เพราะพื้นที่หน้าสมาร์ทโฟนหรือเดสก์ทอปมีอยู่กำจัด ผู้บริโภคเองจะเลือกโหลด
แอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชั่นที่สนใจ มากกว่าจะไปโหลดแอปฯของแบรนด์ต่าง ๆ ดังนั้น โจทย์คือจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคสนใจและโหลดแอปฯของแบรนด์นั้น ๆ"

อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของแอปฯต่าง ๆ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสการขายใหม่ ๆ ให้กับเจ้าของสินค้า

"วิทวัส" ระบุว่า วันนี้ช็อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทยเริ่มเกิดขึ้นแล้ว แต่พฤติกรรมคนไทยก็ยังไม่คุ้นเคยนัก เพราะยังเน้นการช็อปปิ้งแบบต้องสัมผัสของจริงเท่านั้น ดังนั้นช็อปปิ้งออนไลน์จึงต้องเริ่มจากสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องเลือก อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค ที่ผู้บริโภคคุ้นเคย และใช้เป็นประจำอยู่แล้ว

"ทั้ง หมดที่เกิดขึ้น มาจากความซับซ้อนของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเอเยนซี่และนักการตลาดต้องศึกษาแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวด ล้อมตลอดเวลา ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นต้องไม่ตื่นเต้น สมมติวันนี้ทุกคนลุกขึ้นมาทำดิจิทัลกันหมด ไม่ได้ความหมายว่าตลาดนี้จะได้รับความนิยม เพราะฟรีทีวียังมีอิทธิพล ในทางกลับกันเอเยนซี่ต้องศึกษาว่าผู้บริโภคกลุ่มไหนที่ให้ความสนใจกับสื่อดิ จิทัล เพราะสินค้าแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน"

ความยากลำบากอีกประการ ที่ต้องเร่งแก้ไข คือ รูปแบบการวัดผลสื่อดิจิทัลปัจจุบันที่ค่อนข้างลำบากและไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ซึ่งเขาเชื่อว่า ในอนาคตรูปแบบการวัดผลสื่อต้องมีการออกแบบให้สอดคล้องกับยุคสมัย และรองรับกับสื่อดิจิทัลที่จะกลายเป็นสื่อหลักในอนาคต

"การวัดผล สื่อที่ใช้ปัจจุบันถูกออกแบบมาในยุคที่ฟรีทีวีทรงอิทธิพล อนาคตเมื่อสื่อดิจิทัลกลายเป็นสื่อหลัก รูปแบบการวัดผลก็ต้องเปลี่ยนไป"

มากกว่า นั้น ด้วยอิทธิพลของสื่อดิจิทัล ยังทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากการชมละครหรือรายการโปรดตามช่วงเวลาที่ออกอากาศ ก็หันมารับชมผ่านสื่อดิจิทัล ซึ่งทำให้การส่งสารจากเจ้าของแบรนด์สู่ผู้บริโภคทำได้ยากขึ้น

ทั้งหมดทั้งมวลถือเป็นโจทย์ใหญ่ และความท้าทายของเจ้าของสินค้าและเอเยนซี่ ในยุค "ดิจิทัล" ครองเมืองในทุกวันนี้


ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?
newsid=1356341327&grpid=&catid=11&subcatid=1100


____________________________


โฆษณาปี56ส่อแววคึกคักทีวีดาวเทียมรับ4หมื่นล้าน


ไทยโพสต์ * อุตสาหกรรมโฆษณาปี 56 โตแรง 10% ตลาดเครื่องดื่มน้ำดำทุ่มงบหนักรถยนต์ อสังหาฯ สื่อมาแรงสุด เคเบิลทีวี เม็ดเงินโฆษณาโตเท่าตัว พุ่งทะลุ 40,000 ล้านบาท  โฆษณาไลฟ์สไตล์มาแรง

นายวิทวัส ชัยปาณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริ ษัท ครีเอทีฟ จูซ แบงคอก จำกัด ในฐานะนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศ ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุต สาหกรรมสื่อโฆษณาในปี56 จะเติบโตกว่า 10% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 140,000 ล้านบาท มีกลุ่มสินค้าที่โฆษณาสูง สุดใกล้เคียงกับปีนี้  โดยในปีนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาเติบโต 10% คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่มีการใช้งบโฆษณาสูงในปีนี้ จะเป็นกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์โดยเฉพาะน้ำอัดลมที่ใช้งบโฆณษาจำนวนมาก เพราะมีน้ำอัดลมยี่ห้อใหม่ เอส โคล่า ออกมาสู่ตลาด ทำให้ตลาดแข่งขันรุน แรงมากขึ้น หรือตลาดเครื่องดื่มชาเขียวแข่งขันและใช้งบโปรโมชั่นสูงมาก รองลงมา กลุ่มรถยนต์ ผลมาจากนโย บายภาษีรถยนต์คันแรก กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยเฉพาะมีการเปิดตัวสินค้าบำรุงผิวกลุ่มผู้ชายออกมาสู่ตลาด และ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีโครง การใหม่เปิดตัวสู่ตลาดจำนวนมาก



สำหรับโฆษณาที่มาแรงในปี 56 คือ สื่อเคเบิลทีวีและทีวี ดิจิตอล ที่ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่หันไปใช้สื่อโฆษณามากขึ้น เนื่องจากใช้งบที่ต่ำกว่าสื่อฟรีทีวีคาดว่าจะมีการใช้สื่อโฆษณาผ่านเคเบิลทีวีและทีวีดิจิตอลในปีหน้าสูงถึง 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีนี้มีเม็ดเงิน 20,000 ล้านบาท รองลงมา สื่อที่เติบโตดีต่อเนื่องคือในโรงภาพยนตร์, สื่อณ จุดขาย และสื่อออนไลน์คาดว่าจะเติบโตจาก 2,000 ล้านบาทในปีนี้ เป็น 4,000 ล้านบาทในปีหน้าด้วย ตามพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่สนใจสื่อออนไลน์มากขึ้น ส่วนสื่อที่จะชะลอตัวในปีหน้า คือ สื่อสิ่งพิมพ์สื่อวิทยุ และสื่อนิตยสารต่างๆ

ด้าน นายมารุต อรรถ ไกวัลวที ประธานเจ้าหน้า ที่บริหาร บริษัท วี จี ไอ โกล บอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ  VGI ผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาไลฟ์สไตล์เปิดเผยว่า ในปีนี้ธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวล ชนที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ คิดเป็นมูลค่า 2,151 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.5% ของภาพรวมอุตสาห กรรมสื่อโฆษณาขณะที่ธุร กิจสื่อโฆษณาในห้างโมเดิร์นเทรด ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่บริษัททำตลาดมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2,141 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.4% ของมูลค่าอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา โดยในปีนี้ผลประกอบการของบริษัทน่าจะเติบโตประมาณ 40%.

ไทยโพสต์
http://www.ryt9.com/s/tpd/1556189

จากคุณ : So magawn
เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 23:59:06




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com