ม.6 กับ ปริญญา

นานๆทีจะโพสที่ห้องสีลม แต่อัดอั้นจริงๆ คือ ที่บ้านทำธุรกิจซ่อมรถ และ ขายอะไหล่ด้วย เงินเดือนคนงานเฉลี่ยคนละ 14,000 บาท ต่อเดือน ไม่รวมค่าอาหาร ที่พัก โบนัส อย่างต่ำ 2 เดือน มีโอที ส่วนวุฒิก็ ป.6 บ้าง ม.3 บ้าง มากสุด คือ ม.6

เราเพิ่งลาออกจากงานประจำ เพราะต้องมาช่วยดูหน้าร้าน เงินเดือนล่าสุดของเรา(ป.โท บัญชี) 24,000 บาืท ไม่มีค่าอาหาร ไม่มีที่พัก ไม่มี OT โบนัสมากสุด 2 เดือน

ถามที่บ้านทำไมจ้างแพง ได้คำตอบว่า ถ้าไม่จ้างเท่านี้ไม่มีใครทำ เพราะ งานสกปรก ยกหนัก เราบอกว่านี่เท่าปริญญาตรีเลยนะ เรียนมากว่าจะจบ ส่วนคนพวกนี้เอาแต่เที่ยวเล่น ดีตรงที่ว่าทำงานตั้งแต่วัยรุ่นจึงรู้งาน แต่ก็ยังเที่ยวเล่นอยู่ดี

แล้วไม่ใช่ร้านเราร้านเดียวที่จ้างแบบนี้ บางทีช่าง ม.6 เงินเดือน 20,000 ก็ยังมี

ถามความเห็นเพื่อนๆว่า แล้วเราจะเรียนทำไมเยอะ จบ ม.6 มาทำงานหาประสบการณ์ ได้เงินเร็วกว่า บางงานเงินเยอะกว่าปริญญาตรีอีก เจ้าของกิจการก็ง้อสุดฤทธ์ พอแก่แล้ว บางคนมีเงินเก็บเปิดร้านขายของเล็กๆได้อีก

อ้อ มีอีก คนขับรถ เงินเดือน 10,000 บาท ไม่ต้องยกของ ขับอย่างเดียว วุฒิม. 6แค่มีใบขับขี่ แต่หายากอย่างกับงมเข็ม

จากคุณ : tanacar [7 ธ.ค. 55 13:46:10 ]
ความเห็นที่ 1

ปริญญาไม่ใช่ทุกอย่างครับ เจ้าของกิจจการยอมจ้างลูกจ้างต่อเมื่อเค้าเห็นว่าลูกจ้างทำงานได้มูลค่ามากกว่า
เงินที่เค้าจ้าง ในความจริงช่างเก่งๆนั้นทำเงินได้มากกว่าเด็กจบใหม่เยอะครับ และในความเป็นจริงอีก อาชีพสายช่าง
โดยเฉลี่ย รายได้สูงกว่าสายอื่นๆ(ยกเว้นหมอ) เช่นกัน และไอที่คุณบอกว่าเค้าไม่ได้สนใจเรียนอันนั้นคงไม่ใช่
การเรียนไม่ได้มีแต่ในห้องเรียนหรือมหาลัยนะครับ คนเราจบมาจากท้องพ่อท้องแม่แล้วจะทำงานเป็นเลย
โดยเฉพาะสายช่าง มันต้องเรียนรู้ต้องเก็บประสบการณ์ ความจริงตรงนี้มันก็คือการเรียนอย่างนึง

ส่วนคนขับรถที่คุณบ่นๆหน่ะ เอาจริงเงินเดือนที่คุณให้ไม่ได้ต่างจากค่าแรงขั้นต่ำเลย ทำโรงงานเงินดีกว่า
เอาจริงๆคนขับรถเป็นขับแท็กซี่ได้เงินเยอะกว่า นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีคนมาสมัครงานครับ

เตือนน้องหน่อยครับอย่าคิดว่าปริญญามันสำคัญขนาดนั้น จริงคนเราได้ปริญญาตรีมันก็แค่เรียนมากกว่ากว่าเค้า 4 ปี
คนได้โทมันก็เพิ่มอีก 2 ผมไม่ได้เห็นว่ามันจะวิเศษกว่าคนอื่นเลย ยิ่งสมัยนี้มาตรฐานตำลงทุกวัน จ่ายครบจบแน่
แค่มีเงินมีเวลาหน่อย ระหว่างนั้นคนทำงานเค้าก็เก็บประสบการณ์เค้าเช่นกัน ดังนั้นอย่าคิดไปดูถูกเค้าครับ

จากคุณ : hil4552 [7 ธ.ค. 55 14:22:04 ]
ความเห็นที่ 2

บ้านเราเรียนเพื่อให้ได้ชื่อว่ามีลูกรับปริญญา แค่นั้นแหละ

จากคุณ : RyanUtd [7 ธ.ค. 55 14:38:03 ]
ความเห็นที่ 3

ไม่ชอบความคิดแบบนี้เลย
คนจบป.ตรี ป.โท ทางเลือกมีให้เดินเยอะกว่าเค้า
เงินเดือนเริ่มต้นอาจจะดูเยอะ แต่มันกระโดดไปจากนี้ไม่ได้มากหรอก ถ้าเค้าไม่พัฒนาตัวเอง
ซึ่งด้วยความรู้ของเค้ามันก็ไม่ได้เอื้อมากนัก
เพราะงั้นอยากให้เห็นใจเค้าบาง รวมถึงถีบตัวเองให้สูงขึ้นไปกว่าเค้าซิ

จากคุณ : MortalR2 [7 ธ.ค. 55 15:00:29 ]
ความเห็นที่ 4

อ่านแล้ว ถอนหายใจอยู่หลายครั้ง จขกท กำลังแค้นใจอะไร ใครหรือเปล่า ไม่เป็นไรเก็บไว้ก่อน

เรามานั่งพิจารณากันเป้นเรื่อง ๆ ไปดีกว่านะคะ

ตลาดแรงงาน (หรือตลาดอื่น ๆ ก็ตาม) ราคาเป็นไปตาม ดีมานซ์และซับพลาย(ขอใช้คำนี้นะคะ ) จขกท ลองไปอ่านสภาพของตลาดแรงงานในปัจจุบันซิคะว่า ตลาดต้องการ แรงงานประเภทไหน......

ส่วนที่ว่า พวกนี้เรียน ๆ เล่น ๆ ก็ได้เงินดี.....อยากจะบอกว่าเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนชอบเรียนหนังสือ ก็เรียนไปซิคะ แต่มีเด็กอีกหลายคนที่ชอบการปฏิบัติ อ่านหนังสือแล้วหลับ ให้ทำถนัดกว่าให้คิด ทางของเขามาแบบนี้ แล้วเขาก็สามารถหาเลี้ยงชีพได้ด้วยตัวเอง มันน่าจะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม

การเรียนเมื่อเขาเรียนจบการศึกษาภาคบังคับไปแล้ว เขาจะเลือกเดินทางไหน นั้นเป้นสิทธิ์ของเขาไม่ใช่หรือ ถ้าเขาเลือกทางที่ทำงานเลี้ยงชีพแทนที่จะเรียนต่อ เขาก็ทำได้

ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ประสบความสำเร็จหรือไม่ ไปได้แค่ไหน..... จขกท เองก็เรียนมาไม่น้อย คงพอจะรู้นะคะว่า คนเรา ปัจจัยที่จะประสบความสำเร็จของแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกัน

จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส [7 ธ.ค. 55 15:03:13 ]
ความเห็นที่ 5

คห 1 พูดได้เจ็บปวดมาก ชอบๆๆๆ

" คนเราได้ปริญญาตรีมันก็แค่เรียนมากกว่ากว่าเค้า 4 ปีคนได้โทมันก็เพิ่มอีก 2 ผมไม่ได้เห็นว่ามันจะวิเศษกว่าคนอื่นเลย "

จากคุณ : ฮานาก้า [7 ธ.ค. 55 15:12:16 ]A:115.67.103.226 X: TicketID:369642
ความเห็นที่ 6

บางที่มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละครับ คนงานหายาก งานหนัก สกปรก ใครก็ไม่อยากทำเลยต้องจ้างแพง

แต่ ม 6 ตำแหน่งงานอย่างนั้น ที่คุณว่าได้เยอะ มันก็ตันแค่ 1-2 หมื่นนั้นแหละครับไปไกลกว่านี้ไม่ได้ แถมต้องทำงานกรรมกร ตากแดด ตากฝน ยกของหนัก

แต่ ปตรี ต่อยอดได้อีกไกล start ก็ 15000 แล้ว ทำไป 10-20 ปี ก็ 3-5 หมื่น สบายๆ แถมไม่ต้องทำงานกรรมกร ยกของอีก

ต้องมองยาวๆครับ ตอนเริ่มอาจไม่ต่องกัน แต่ระยะยาวต่างกันแน่นอน

จากคุณ : ตั้ม [7 ธ.ค. 55 15:12:30 ]A:202.12.118.61 X: TicketID:354239
ความเห็นที่ 7

งานด้านเทคนิค ไม่ต้องเรียนสูง ๆ หรอก ครับ ใช้ความชำนาญล้วน ๆ ไปดูตามไซต์งานก่อสร้าง ช่างไม้ ช่างปูน ค่าจ้างต่อวันสูงมาก ทั้ง ๆ ที่บางคนจบ ป.4

จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว [7 ธ.ค. 55 15:19:19 ]A:125.25.78.42 X: TicketID:294750
ความเห็นที่ 8

ถ้าไม่อยากเสียเงิน ก็ฝึกซ่อมเอง ไม่ต้องจ้างใคร

ถ้าค่าจ้างถูก ช่างก็จะไปอยู่ร้านอื่นแทน

จากคุณ : amited [7 ธ.ค. 55 16:05:33 ]
ความเห็นที่ 9

วิชาชีพขาดแคลนมากในหลายสาขารวมถึงวิชาชีพช่างยนต์
ที่มีดีมานด์เยอะ  ซัพพลายน้อย (ช่างขาดแคลน)
คนแห่มาเรียนปริญญาตรีกันเยอะซึ่งล้นความต้องการของตลาด
ราคาค่าจ้างแรงงานก็เป็นไปตามดีมานด์และซัพพลาย

เมืองไทยเล็งเห็นใบปริญญาสำคัญกว่าความรู้ความชำนาญและความสามารถ
เลยคิดว่าช่างฝีมือควรรายได้น้อยกว่าคนทำงานออฟฟิศ
ซึ่งซัก 10-20 ปีก่อนอาจจะใช่ แต่ปัจจุบันนี้ สลับกันแล้ว

จากคุณ : ฟหกด (oohlalap) [7 ธ.ค. 55 16:15:29 ]
ความเห็นที่ 10

ทำไมใจแคบจัง จขกท กำลังพิมพ์ตอนโมโหหรือโกรธอะไรใครรึเปล่า กลับไปสงบสติก่อนดีมั้ยคะ แล้วค่อยตริตรอง

จากคุณ : ทุกอย่าง มี สองด้าน [7 ธ.ค. 55 16:15:59 ]
ความเห็นที่ 11

ขอบคุณกับทุกความเห็น

บางความเห็นก็เข้าใจผิดไปกันใหญ่ เราไม่ได้ดูถูกแรงงาน เพราะถ้าไม่มีพวกเขาใครจะทำงานให้เรา

ประเด็น คือ เรียนแทบตายกว่าจะจบ นั่งรถ นั่งเรือ ไปเรียน อ่านหนังสือถึงเช้าก็เคย เรื่องเที่ยวนี่ต้องรอว่างจริงๆ แต่พอจบ เงินเดือนไม่ต่างกัน เราเลยมาคิดว่า เริ่มงานเร็วๆดีไหม เรียนไม่ต้องสูงมาก ไม่ต้องเครียดอ่านแต่หนังสือ

แต่ความเห็นที่ 6 ทำให้เริ่มคิดว่า ปริญญาต่อยอดได้

จากคุณ : จขกท (tanacar) [7 ธ.ค. 55 16:27:19 ]
ความเห็นที่ 12

เริ่มต้นอาจจะไม่ต่างกันมาก แต่พอทำงานไปสักพัก ฐานเงินเดือนจะเริ่มต่างกันเองครับ

ลองมองดูคนจบ ป.โท กับ ม.6 ที่มีประสบการณ์ทำงานมาสัก 10 ปีดู เฉพาะที่ยังเป็นลูกจ้างรับเงินเดือนนะ

จากคุณ : maxijojo123 [7 ธ.ค. 55 17:26:44 ]
ความเห็นที่ 13

ก็ต้องยอมรับครัวว่าปริญญาสำคัญมาก  เ็ป็นใบเบิกทาง ที่จะไปทำอะไรหลายๆอย่างได้อีกเยอะ  เป็นช่องทางไปสู้งานสบายรายได้เยอะ มีเส้นทางเดินเยอะกว่า

ชีวิตคนเรามีหลายทางเดินให้เลือกครับ แต่ละทางก็มีดีไม่ดี  แต่ใบปริญญาจะดีหน่อยตรงที่เห็นทางเดินชัดเจน

ใครถนัดด้านไหน ใครคิดอย่างไร ใครเชื่อแบบไหน ใครทำอะไรแล้วทำได้ดี หรืออยากที่จะเป็นแบบไหนก็เลือกได้เลยครับ

ยังไงก็แล้วแต่ ผมมองว่าปริญญาได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว ปริญญาไปทำงานของ ม 6 ได้  แต่ ม 6 มาทำงานของปริญญานั้น ยากครับ โดยเฉพาะระบบราชการ(โอกาสเป็นไปไม่ได้เลย) และบริษัทเอกชน

ใครใคร่เรียน เรียน ใครไม่อยากเรียนก็ไม่ว่ากันครับ

ทั้งนี้ไม่ได้ดูถูก ม 6 นะครับ เพื่อนผม ม 6 ไปทำงานได้เงินเยอะๆก็มี แต่ก็ต้องมีความสามารถและเก่งจริงๆ
เส้นทางของเราเราเลือกเองครับ อย่าโทษใบปริญญา อย่ายึดติดกับใบปริญญา

จากคุณ : นายวาคิม [7 ธ.ค. 55 17:42:47 ]
ความเห็นที่ 14

ผมมี4ตรี 2 โท และ 1 เอก คำถามที่อยากถาม จขกท. คือ คิดว่า ผมเรียนเพื่ออะไร

จริงๆแล้ว การศึกษา กับการหาได้มาซึ่งเงินตรา ไม่ได้แปรผันโดยตรงต่อกันเลยครับ เราเรียน เพราะเราอยากรู้ไม่ใหรือ องค์ประกอบการดำรงชีพแม้เงินจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อน แต่ทุกขณะนาทีที่เราดำรงอยู่ สังคม การสนทนา เพื่อน ต่างประเทศ โลก สิ่งต่างๆเหล่านี้ การศึกษามีส่วนสำคัญต่อวิถีในการดำรงอยู่ มิใช่หรือ

จากคุณ : พี (peh_chai) [7 ธ.ค. 55 17:49:26 ]
ความเห็นที่ 15

11.

พวกช่างเค้าก็เรียนค่ะ
เรียนจากประสบการณ์ชีวิต

ใช่ว่าเขาจะได้เงินเดือนขนาดนี้เลย
เค้าต้องมีประสบการณ์มากพอที่เจ้านายจะยอมให้เงินเดือนจำนวนนั้นด้วย


แต่คนเรียนป.ตรี บางงานไม่ต้องใช้ประสบการณ์
จบแล้วไปสมัครได้เลย บริษัทจะให้เครดิตเงินเดือนจากวุฒิที่เรียน
คือให้ค่าที่เรียนมา 4 ปีนั่นแหละ

ช่างเขาก็เรียนไม่ต่างกันกับคุณ แต่ต่างกันแค่สถานที่เรียนค่ะ


การมีวุฒิ ข้อดีของมันคือ เราสามารถต่อยอดที่มาจากวุฒินั้นได้หลายทาง
สังคมที่เราอยู่ในช่วงเรียน การได้รู้จักรุ่นพี่ อาจารย์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของโอกาสที่เยอะกว่า


การไม่มีวุฒิ เหมาะสำหรับบุคคลที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะทำอะไรและพิจารณาอย่างถ้วนถี่ว่าใช้วุฒิหรือไม่

หรือ บุคคลที่ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอในการเรียนเอาวุฒิ
แต่ต้องใช้พลังกายและพลังใจหยาดเหงื่อ เรียนจากประสบการณ์ชีวิตเอาเอง


ขออภัยถ้าแรงกับประโยคต่อไปนี้
ถ้าเรียนจบถึงปริญญาตรี แล้วยังคิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ก็น่าเสียดายความรู้ที่ได้มา

จากคุณ : ปลายปัญญา [7 ธ.ค. 55 18:03:15 ]
ความเห็นที่ 16

คนเก่งต่อให้มีวุฒิหรือไม่มีวุฒิ ยังไงก็คือคนเก่ง
วุฒิสูงทำในสิ่งที่วุฒิต่ำได้ แต่วุฒิต่ำยังไม่สามารถทำบางอย่างที่วุฒิสูงทำได้
แต่ต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้าไมมีวุฒิก็ทำไม่ได้

จากคุณ : MamaKungking [7 ธ.ค. 55 19:24:22 ]
ความเห็นที่ 17

เราเข้าใจเจ้าของกระทู้นะค่ะ แต่ก่อนเคยทำงานที่เดอะพิซซ่า(ระหว่างเรียนป.ตรี)
แล้ววันนึงผู้ช่วยผู้จัดการมาใหม่ เป็นเด็กอายุ19 ม.3 เงินเดือนตามตำแหน่งไม่ขึ้นกับวุฒิ
ถ้าจบ ม.3 และอายุแค่นี้เป็นหัวหน้าได้ เราก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไม เหนื่อย จบไม่จบเงินเดือนเท่ากัน

จากคุณ : วานรอินดี้ [7 ธ.ค. 55 19:36:15 ]
ความเห็นที่ 18

บ้านผมขายของตลาดกัน ผมเรียน ปตรี การตลาด บ้านอื่นเขาบอกเรียนไปทำไม การตลาด จบไปก็ขายของหรอ ไม่เห็นต้องเรียน ใครๆก็ขายได้ แต่ตั้งแต่ผมเรียนมันทำให้ผมรู้ในศาสตร์นี้มาก อย่างน้อยตอนนี้ผมก็เอาความรู้ที่ผมมีไปใช้ จนตอนนี้ขายดีกว่าเจ้าอื่นๆ และผมคิดกำลังจะต่อยอดไปอีก เลยคิดว่าเรียนมาถึงจะเป็นพ่อค้าก็ไม่เสียใจอย่างน้อยก็รู้มาก ก่อนที่ผมจะเรียนการตลาด ผมก็เรียนช่างกลและก็ช่างอิเลคมา
อีกหนึ่งเรื่อง ลุงผมทำงานเป็นรองกัปตันเรือแร่ที่อินโด เงินเดือน70000 ที่พักพร้อมอาหาร ลุงจบ ป.5 ครึ่ง และถามว่าทำไมเขาได้ขนาดนี้ ลุงผมทำงานตั้งแต่อายุ13-14 เป็นพวกลูกน้องเดินเรือ กว่าจะมาขนาดนี้ลำบากมามาก คนบางคนอาจมองว่าพวกเด็กอู่แต่งตัวกระจอก เอาแต่แต่งรถ ใครจะรู้ว่าเขาบางคนไม่มีตังค์เรียน อาศัยอยู่อู่มานานจนแน่น จนมีเงินเก็บออกไปทำอาชียส่วนตัว สิ่งที่พบเจอของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกครับ คนเรียนป.ตรี เครียดกับการเรียน ส่วนเขาเหนี่อยกายหน่ายใจ คนมองต่ำต้อย มันก็สมควรกับสิ่งที่เขาได้และ จบครับ.ขี้เกียจต่อ

จากคุณ : bazayi [7 ธ.ค. 55 19:46:15 ]
ความเห็นที่ 19

เค้าหวังมากกว่า 14000 ไงครับ มองกว้างๆหน่อยครับ

การเลือกทำงานไม่ได้มองแค่เงินอย่างเดียว สวัสดิการ อนาคต ความก้าวหน้า

จากคุณ : นายครรชิต [7 ธ.ค. 55 20:37:55 ]
ความเห็นที่ 20

เด็กช่างชอบเที่ยวก็จริง แต่แทบจะทุกคน ฝันว่าอยากเป็นเจ้าของกิจการเองนะคะ

ลูกพี่ลูกน้องเราจบช่าง ยอมทำงานเงินเดือนน้อยๆ (ในความคิดของเขานะ)เพียงเพราะที่อู่นั่นมีรถยนต์ทุกรุ่นให้ได้ซ่อม ให้ลองขับ ดูเครื่องยนต์ ดูอะไหล่ เขาบอกเรางานหนักแทบตาย ลูกค้าก็ขี้บ่น แต่ก็ยอมทำ จนเขาเก็บเงินได้มากพอมาเปิดร้านซ่อมเล็กๆเอง

ลูกค้าที่ติดชอบเขาก็ตามมาซ่อมที่ร้านค่ะ
เขาใช้เวลาไม่ถึงปี สามารถซื้อรถ camry รุ่นล่าสุด ด้วยเงินสดได้
ต่างกับเราจบมาเกียรตินิยมด้วย ให้ซื้อรถเหมือนเค้าต้องเก็บเงินอีกหลายปี 5555

ทุกวันนี้เราก็เรียนรู้เรื่องซ่อมรถกับเขาล่ะค่ะ ได้คุยกันบ่อยๆ ก็ได้ความรู้เพิ่มเติมหลากหลายดี

จากคุณ : SailomC [7 ธ.ค. 55 21:01:50 ]
ความเห็นที่ 21

ไม่มีลูกจ้างคนไหนอยากเป็นลูกจ้างตลอดกาล

จากคุณ : โจรดอกบ๊วย [7 ธ.ค. 55 21:11:44 ]
ความเห็นที่ 22

ใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดในแบบฉบับของคุณดีกว่าครับ ชีวิตใครชีวิตมัน ไปบังคับกันไม่ได้หรอก :)

จากคุณ : แมวน้อยไร่ส้ม [7 ธ.ค. 55 21:11:50 ]
ความเห็นที่ 23

การเรียนสูงแค่ช่วยให้อ่านหนังสือได้เข้าใจมากขึ้นเท่านั้นเอง

คนที่รู้จักมาปรับใช้ในชีวิตจริงต่างหากคือคนเก่ง

จากคุณ : รอฟ้าเปลี่ยนสี (รอฟ้าเปลี่ยนสี) [7 ธ.ค. 55 21:19:25 ]
ความเห็นที่ 24

ยังดีครับที่บ้านคุณให้เกิน 10k อยู่ สมัยจบป.ตรีใหม่ๆ ไปทำกราฟฟิกร้านป้าย 8พัน ผ่านโปรให้ 9พัน ส่วนช่าง 8 พันบ้าง 9พันบ้าง
คนเก่งสุดในร้านได้ 10k (ทำได้ทั้งกราฟฟิคและช่าง) ทำได้ปีนึง ก็ออกเพราะเงินเดือนดันต่างกับช่างไม่เท่าไร แถมช่างแต่ละคน จบป.6กันทั้งนั้น

เจ้าของร้านบอกทุกคนว่าพนักงานร้านนี้ต้องทำได้ทุกอย่าง บ้าไปแล้ว ไม่ให้ช่างมาทำกราฟฟิคบ้างละลูกพี่ ทีกราฟฟิคเห็นเก่งหน่อยใช้ทำทุกอย่าง
ที่สำคัญ แม่บ้านเซเว่นยังได้เยอะกว่าเลย ประเด็นคือ แล้วแต่นายจ้างนะครับว่าจะจัดการอย่างไร

ของคุณให้เงินมากเพราะฝีมือไม่สนวุฒิ ส่วนร้านเก่าผมให้ตามใจตัวเอง บางร้านแบ่งตามวุฒิชัดเจน โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ
แต่ถ้าจะให้ถูกต้องผมว่านะ ตามวุฒิและอายุงานนั่นแหละ จบใหม่ก็ดูวุฒิ แก่หน่อยก็ดูอายุงานและผีมือ แล้วเอามาคิดเงินเดือนให้สมควร

จากคุณ : konmanjapenpriest [7 ธ.ค. 55 21:36:36 ]
ความเห็นที่ 25

เรื่องวุฒิที่ผมจะบอกคือวุฒิมันมีความสำคัญเฉพาะบางสายอาชีพเท่านั้นครับ อย่างข้าราชการ งานบริษัท(บางอย่าง)
แต่สำหรับอีกหลายอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพอิสระ วุฒิไม่ได้มีความสำคัญเลย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับวุฒิจนลืมดีมานซัพพลายในตลาด มีหลายคนคิดว่าจบป.ตรี สูงกว่าปวช. ปวส.
จนทำให้ปวช. ปวส.ขาดตลาด และยังหลายๆความเชื่อผิดๆที่ว่าวุฒิสูงกว่าทำวุฒิต่ำกว่าได้ ไอนั้นความจริงเป็นแค่ใน
สายสามัญครับ(ซึ่ง จริงๆสายช่างที่จขกท.พูดลูกน้องเค้าไม่ได้จบม.6 หรอก จบปวช. ปวส. มากกว่า)สำหรับสายอาชีพนั้น
คนละเรื่องนะครับ คุณไปถามวิศวะได้เลย น้อยคนมากที่ถ้าไม่ใช่วิศวะต่อเนื่องจะทำงานช่างจริงๆได้ วิศวะโยธา ให้ไปผสมปูน
ก่ออิฐ ลงเสาเอง มีกี่คนทำได้ แต่เพราะกระแส ปริญญามาแรง ตอนนี้เรามีแต่วิศวะ ไม่มีช่าง มีแต่คนคิด ไม่มีคนทำ
ซึ่งถ้าว่ากันตามดีมาน ซัพพลายแล้วมันจะเริ่มตีกลับกันหมดแล้ว ไองานที่ควรเงินเดือนสูงดันล้นตลาด งานที่เงินเดือนต่ำ
ดันไม่มีคนทำ หลายคนอาจะเถียงว่างานระดับล่างถ้าคนจบสูงจะทำ ถ้าจะทำจริงๆก็เรียนกันได้ แต่ความจริงเช่นกัน
ช่างเค้าก็เรียนต่อได้เช่นกันถ้ามีโอกาส ดังนั้นมันไม่ว่าคุณจบสูงแล้วจะทำงานต่ำกว่าได้หรอก เพราะคนจบต่ำเค้าจะ
ไปเรียนเพิ่มก็ได้เหมือนกัน

ทุกวันนี้ที่ทำงานผม วิศวะเป็นหัวหน้าในออฟฟิต เงินเดือนแน่นอนว่าเยอะกว่าช่างที่เป็นลูกน้อง แต่เอาเข้าจริง
ช่างแทบทุกคน รับงานเหมาส่วนตัวด้วย มีงานไม่ขาดมือเลย เพราะงานเยอะแต่หาคนทำยากมากๆ กลายเป็นว่า
พวกนี้เดือนๆ รายรับเยอะกว่าวิศวะที่เป็นหัวหน้าอีก ส่วนวิศวะตอนนี้หางานนอกยากมากครับ(คิดดูนะครับ งานที่ต้อง
ใช้วิศวะส่วนใหญ่เป็นงานที่มาตรฐานระดับนึงเลย ดังนั้นจะทำเองเรื่องใหญ่พอควร รายละเอียดมาก ต้องมีทีม
ลูกน้องด้วยซึ่งไอนี่แหละที่ยากจริงเพราะหาช่างยาก แต่พวกช่างนี่รับงานเล็กๆยิบย่อยได้หมด)พวกช่างเก่งๆที่ทำงานผม
หน่ะรายรับจริงๆแต่ละคน 6-7 หลักเลยนะครับ


สรุปผมมองว่าการเรียนมหาลัย มันจำเป็นแค่สายวิชาการ ส่วนสายวิชาชีพ มันเป็นการแตกไปอีกทางหนึ่ง เป็นการให้เรา
รู้ทฎษฎีในภาพกว้าง แต่มันไม่ได้ตัดสินว่าเรียนอย่างไรแล้วจะเหนือกว่า เพราะสายวิชาชีพชื่อก็บอกว่าเรียนเพื่อทำอาชีพ
แต่ความรู้วิชาชีพนั้นจะเรียนรู้จากการทำอาชีพจริงๆก็ได้ ตัวอย่างที่ชัดคือ คห.18 บอกว่าเค้าเรียนการตลาดเลยเอา
มาประยุกต์กิจการเค้าได้เค้าจึงขายดี คิดดีๆการตลาดที่เค้าไปเรียนมันก็คือการไปเอาความรู้จากคนที่มีความรู้ทางการตลาด
ซึ่งเจ้าของกิจการหลายๆคนที่ถูกเชิญมาบรรยายลองไปถามซิผมเชื่อว่าเค้าไม่ได้จบการตลาดด้วยซ้ำ เค้าเรียนรู้จาก
ประสบการ เจ้าการตลาดอย่างคุณตัน ไม่จบปริญญาด้วยซ้ำ

ที่ผมพูดผมไม่ได้บอกว่าการเรียนมหาลัยไม่สำคัญนะครับ มันสำคัญมาก เพราะมันคือแหล่งความรู้ ให้คนที่ไม่รู้จะไปเอา
วิชาชีพจากใครได้เข้ามาเรียนรู้จากคนอื่น โดยไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอง แต่สิ่งที่ผมอยากให้ระวังคือ การที่เรา
ได้ไปเรียน ไม่ได้ทำให้เราดีกว่าคนที่เค้าไม่ได้ไปเรียน อย่าไปหลงตัวว่าจบสูง แล้วดูถูกคนจบต่ำกว่า
เพราะความรู้นั้นไม่ได้มีแต่ในห้องเรียนครับ และความรู้บางอย่างหาไม่ได้ในห้องเรียน

จากคุณ : hil4552 [7 ธ.ค. 55 22:16:16 ]
ความเห็นที่ 26

จขกท เริ่มออกจากกะลาแล้ว สู้ๆๆ โลกนี้มันกว้างใหญ่มากนะ

จากคุณ : บ้าไปแล้ว [7 ธ.ค. 55 22:43:44 ]A:118.173.92.158 X: TicketID:377691
ความเห็นที่ 27

ที่อเมริกา โดยเฉลี่ยเงินเดือนทนายมากกว่าหมอครับ

จากคุณ : แน่ข้างเดียว [7 ธ.ค. 55 23:10:35 ]
ความเห็นที่ 28

คห.25

7เลยหรือครับ เหอะๆ

จากคุณ : bignst [7 ธ.ค. 55 23:17:05 ]
ความเห็นที่ 29

เคยได้ยินไหมคะ

"ความสำเร็จที่แท้จริงอยู่ที่การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อประโยชน์สุขแก่มวลมนุษยชาติ"

ดังนั้นน่าจะคิดมากกว่านะคะ ว่าคุณเรียนไปแล้วได้ทำอะไรตอบแทนคนอื่นบ้าง

ฝากไว้ค่ะ

จากคุณ : คนผ่านมา [8 ธ.ค. 55 00:24:48 ]A:202.28.179.13 X: TicketID:384600
ความเห็นที่ 30

ผมอ่านที่ จขกท. เขียนก็ไม่ได้คิดว่า จขกท. ดูถูกลูกจ้างนะครับ
เขาแค่อยากแชร์แนวคิดว่า จะเรียนไปทำแป๊ะอะไร ก็ในเมื่อ จบ ม.6 มา ได้เงินเดือนพอๆ กัน

โดยเฉพาะอาชีพช่าง มันเป็น skill ครับ เงินเดือนสูงอยู่แล้ว...
ช่างเก่งๆ ก็ผันตัวไปรับงานเองกันหมด
แค่ปูพื้นห้องน้ำครึ่งวัน จ่ายค่าแรง 1000 บาท!!!!
เพราะเราทักษะไม่ถึง...

จากคุณ : amnakim [8 ธ.ค. 55 00:28:17 ]
ความเห็นที่ 31

คิดแบบ จขกท กราบเรียนสถาบันที่น้องเรียนมาว่าให้ขอยึดใบปริญญาคืนได้ไหมค่ะ

จากคุณ : เรียน ป ตรี ตอน 40 [8 ธ.ค. 55 11:54:10 ]A:110.168.108.132 X: TicketID:321816
ความเห็นที่ 32

ทุกอาชีพ ทุกวิชาชีพ

ต่างก็ไม่พ้นความต้องการพื้นฐาน ปัจจัย 4 ครับ

บ้าน เท่าไหร่
รถ เท่าไหร่
ถ้าผู้ชาย แต่งงาน เท่าไหร่

ถ้ามันไปเอาค่าตัวถูกๆ คนเหล่านี้เมื่อไหร่จะมีได้เท่าคนอื่นเขา
และยิ่งถ้าขาดแคลน ก็ต้องฟันให้หนักๆ เช่นกันครับ

ปริญญาตรีเองนี่ก็เถอะ
ถ้ามือดี สาขาขาดแคลน ก็ฟันหนักเหมือนกันหละน่า

จากคุณ : โลหการ4 [8 ธ.ค. 55 14:22:42 ]
ความเห็นที่ 33

ในออสเตรเลียงานหนัก งานเหนื่อย งานใช้แรงงานที่คนไม่ค่อยอยากทำ จะได้ค่าแรงสูงเพื่อจูงใจให้ทำงาน

แต่ข้อแตกต่างของตำแหน่งงานที่ใช้แรงงานกับตำแหน่งงานที่ต้องการวุฒิ+งานบริหารคือ การเติบโตในสายงาน  ซึ่งค่อนข้างจำกัดในงานใช้แรงงาน แต่จะไปได้เรื่อยๆ สำหรับงานบริหาร

ในระยะแรกที่เรียนจบมา ค่าแรงจะใกล้เคียงกับค่าแรงผู้ใช้แรงงาน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ  (สำหรับคนที่มีศักยภาพ)งานบริหารจะเติบโตอย่างทิ้งห่างไปเอง

จากคุณ : FloraLilly [8 ธ.ค. 55 16:34:38 ]
ความเห็นที่ 34

โอเค ปริญญาอาจจะเป็นแค่ใบๆหนึ่ง บางคนอาจจะไม่เห็นว่ามันสำคัญอะไร ก็แค่ใบโก้ๆใบหนึ่งเอามาการันตีว่าคุณมีการศึกษา แต่กรุณาอย่าเหมารวมทุกที่นะค่ะ ว่า แค่มีเงิน จ่ายครบจบแน่ มีแค่เวลากับเงินก็เรียนจบแล้ว ยอมรับว่าอ่านแล้วแอบปรี๊ดด เบาเบา เพระกว่าเราจะจบ ป.ตรีมาได้เลือดตาแทบกระเด็น บางคนนี่แก้แล้วแก้อีก บางคนไม่ตั้งใจเรียนจริงๆโดนรีไทร์ก็มี เราช่วงนี้กำลังเรียน ป.โท เราท้อมาก ร้องไห้บ่อย เราต้องใช้ความพยายามมากๆๆ กว่าจะผ่านมาได้แต่ละวิชา ยิ่งทำวิจัยไม่ต้องพูดถึง เรายังไม่รู้ว่าเราจะจบรึป่าวด้วยซ้ำ อย่าคิดว่ามีเงินมีเวลาเรียนแล้วจะจบเลย มันก็ต้องใช้สมอง อาศัยความพยายามเหมือนคนทั่วๆไปแหละ
ดังนั้นถ้าใครมาบอกกับเราว่า จบปริญญาง่ายจะตาย แค่มีเงินมีเวลาก็จบแล้ว(คนส่วนใหญ่คิดแบบนี้กันเยอะ) เราจะถือว่าเหมือนเป็นการดูถูกเรามากพอควร เราว่าบางคนที่เค้าเรียนมาแทบเป็นแทบตาย มาได้ยินอะไรแบบนี้ ก็แอบหมดกำลังใจเหมือนกันนะ
ปล.จริงๆเราไม่ต้องเก็บมาคิดมาใส่ใจก็ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่เราแค่อยากมาแย้ง มาชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่งว่า มันก็ยังมีบางส่วนอยู่จริงๆนะ ที่เค้าตั้งใจศึกษาเล่าเรียน และอาจารย์ก็ไม่ได้ปล่อยเกรดง่ายๆเหมือนบางที่ ที่มีนะค่ะ

เป็นความเห็นส่วนตัวนะ ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : ฟ้า (ฟ้าใสเมื่อวันวาน) [8 ธ.ค. 55 16:37:31 ]
ความเห็นที่ 35

ถ้าอยู่ในตลาดแรงงานกระแสหลักและถูกช่อง เข้ากับจังหวะชีวิต (เช่น ทำงานเก่ง ชอบการเดินทาง) ได้ทั้งเที่ยวทั้งทำงานสนุกสนาน จะหยุดพักทีละเป็นเดือนครึ่งเดือนก็เป็นไปได้ โลกกว้างกว่ากันเยอะ (ว่าตามสภาพอุตสาหกรรมที่ทำอยู่ แต่ผมไม่่เริ่ดขนาดนั้น) ซึ่งปริญญาเป็นตัวหนึ่งที่เปิดโอกาส แต่มันก็ขึ้นกับปัจจัยทางโอกาส ความสามารถ และความชอบอีกด้วย

โอกาสเดียวกันบางคนได้รับแล้วสุขสุดๆ แต่บางคนอาจจะกลายเป็นทุกข์มากกว่า

จากคุณ : rujipars_a [8 ธ.ค. 55 18:04:39 ]
ความเห็นที่ 36

แต่สุดท้ายมันก็คือกิจการของบ้านคุณไม่ใช่หรอคะ
ถ้าเป็นที่บ้านเรา เราดูแลกกิจการให้ฟรีด้วยซ้ำ ลงมือบริหารงานเองเลย
ทำให้คนที่บ้านเห็นว่าเราโตพอที่จะแบ่งเบางานที่บ้านได้แล้ว หรือถ้าเค้าไม่ให้เราบริหาร
สุดท้ายรายได้ที่ได้มาก็วนอยู่ในบ้านเรา เราก็กินก็ใช้ของในบ้านเราอยู่ดี ถึงทำฟรีก็ยังมีกินค่ะ
บางคนจบโท เงินเดือนสามหมื่นสี่หมื่นชักหน้าไม่ถึงหลังก็ถมเถไปค่ะ

จากคุณ : teppeiki [9 ธ.ค. 55 09:08:04 ]
ความเห็นที่ 37

ยุคนี้ปริญญาเกลื่อนครับ  หาง่ายกว่าคนใช้แรงงานซะอีก

คิดดูครับ ปริญญาตรีบ้างคนอ่านหนังสือยังตีความไม่แตกเลยครับ
ชวนกินมาม่าซะงั้น

จากคุณ : MAX [9 ธ.ค. 55 23:00:41 ]
ความเห็นที่ 38

ช่าง ม.6 เงินเดือน 20,000 เขาทำมากี่ปีกว่าจะได้ขนาดนั้น คุณจบป.ตรีมา แปปๆก็เกินเขาแล้วครับ

ผมเป็นอีกคนนึงที่จบสายช่างแล้วมาต่อป.ตรี ที่ทำงานหัวหน้าจะชอบผมมากเป็นพิเศษ ใช้ทำงานได้ทั้งงานเอกสารประชุมวางแผนหรือจะไปแก้ปัญหาอยู่หน้างานจับประแจปีนบันไดทำเองก็ได้
อารมณ์จะงงๆหน่อยเมื่อวานยังใส่สูทผูกไทด์ present งานในห้องประชุมอยู่เลย อีกวันกางเกงยีนส์เสื้อยืดเก่าๆยังกับกรรมกร

จากคุณ : EaKLeG๐ [วันรัฐธรรมนูญ 55 02:56:57 ]
ความเห็นที่ 39

คือถ้าจ่ายไหว จ่ายได้ ผมเห็นควรว่าต้องจ่ายครับ อย่างน้อยเค้าก็ทำงานให้เรา เงินที่ได้มันก็สร้างคุณภาพชีวิตเค้าครับ อย่าเอาปริญญามาตีค่าเป็นเงิน งานแบบนี้จ่ายเค้าเท่านี้ผมว่าเหมาะสม งานพวกนี้อายุงานสั้นนะครับใช้แรงงาน แรงกายมาก

จากคุณ : ความเป็นจริงที่ว่างเปล่า [11 ธ.ค. 55 10:27:39 ]
ความเห็นที่ 40

เป็นคนนึงค่ะ ที่จบป.ตรี แล้วทำงานในรูปแบบที่เด็ก ม.3หรือแค่ ป.4 ก็ทำได้
แค่กดเครื่องคิดเลขเป็น..ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีความมั่นคง ทำไปวันๆ ปริญญามันไม่ได้ให้อะไรเรามากหรอกค่ะ
มันอาจจะแค่สอนให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างมีแบบแผนมากขึ้น เรียนเพื่อให้รู้ว่าควรจะทำตัวแบบไหน เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข แค่นั้นจริงๆ

จากคุณ : Sai_saranrat [11 ธ.ค. 55 17:10:56 ]
ความเห็นที่ 41

ยังไงก็แล้ว ผมก็อยากให้คนทุกคนเรียน จนจบ ป.ตรี
หรือไม่ก็ ปวช. ปวส. เพราะ จะได้เป็น ภาษาอังกฤษ เป็นคอมพิวเตอร์
มีเพื่อนฝูง มีความรับผิดชอบ มีทักษะการใช้ชีวิตพอสมควร

ก็จริงครับที่ว่าช่าง คนขับรถ บางทีเงินเดือนเยอะ
15,000-30,000 บาท แต่งานก็หนักสมค่าจ้าง
ผมเองก็ยังจ้างคนขับ หมื่นกว่าบาทเลย มีที่พัก มีot ให้
บางคนเป็นนักศึกษา ป.ตรี ม.เอกชนก็มี ทำงานดีมาก เป็นงานช่างด้วย
แต่เขาก็ค่าจ้างจะตันอยู่แค่นี้ครับ ไม่ได้ขึ้นไปมากกว่านี้สักเท่าไหร่
ไม่เหมือน ป.ตรี ทำงานไป เดี๋ยวก็ขึ้นเยอะ

ต่อไปนี้ผมยังอยากจะเห็น คนขับรถ ช่าง จบป.ตรีเลยครับ
ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง

จากคุณ : นะจังงัง [13 ธ.ค. 55 17:19:20 ]A:125.24.102.211 X: TicketID:273954