คืออยากทราบค่ะ ว่ามหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่เราจบมานั้น มีความสำคัญหรือส่งผลกับการสมัครงาน ตำแหน่งงาน สัมภาษณ์งาน มากน้อยเพียงใด และมีความแตกต่างกันมากขนาดไหนคะ คือตัวเองจบมาใหม่ค่ะ ต้องการนำข้อมูลไปช่วยตัดสินใจในการสมัครงาน
(ต้องการ Hr หรือผู้มีประสบการณ์ ผู้มีความรู้ด้านต่างๆมาช่วยแชร์หน่อยคะ)


**ขอความกรุณา ช่วยแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์นะคะ**
เผื่อเป็นประโยชน์นักศึกษาจบใหม่
ขอบคุณที่ช่วยแสดงความคิดเห็นนะค่ะ ขอบคุณมากคะ

มีผลแน่นอนครับ เขาต้องเลือกสถาบันที่ดีที่สุดมาก่อนอยู่แล้ว
มันขึ้นอยู่กับองค์กรนั้นๆ หลายๆที่ค่อนข้างชัดเจนเรื่องสีและสถาบัน
แต่ละสถาบันก็มีผลกับ Bias ของผู้สัมภาษณ์ด้วยครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพร้อม และสามารถของเราเอง
มีดีก็แสดงไห้เขาเห็น [แต่ก็อีกนั่นแหละครับ โอกาสอาจหายไปเพราะชื่อสถาบัน]
สู้ๆครับ ผมก็จบปีนี้ แต่โชคดีตอนฝึกงาน ได้หัวหน้าดีมาก เรียนจบมีงานรอแล้ว

บริษัทเรามักจะรับสถาบันTop 3ทั้งในส่วนของรัฐและเอกชนค่ะ
หรือไม่ก็รามถ้าเป็นสาขาบัญชีหรือนิติ
โดยให้ฐานเงินเดือนต่างกันในแต่ละกลุ่มสถาบันการศึกษาค่ะ
แต่การpromoteตำแหน่งขึ้นกับผลงานล้วนๆ เกรดกับสถาบันไม่เกี่ยวค่ะ

ถ้าบริษัทใหญ่ มีผู้สมัครงานเยอะ ย่อมมีตัวเลือกมาก
แน่นอนเป็นธรรมดาที่บริษัทย่อมเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติที่ดี
ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่านิสิต นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง
มักมีคุณสมบัติทั้งด้านความขยันหมั่นเพียร และผลการเรียนที่ดีมากกว่าแห่งอื่นๆ

แต่หากเป็นบริษัทขนาดกลางหรือขนาดเล็ก
ก็อาจมีตัวเลือกไม่มากนัก อาจไม่คำนึงถึงจุดนี้มากก็เป็นได้

และต้องยอมรับว่านักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ
มักมีโอกาสได้รับผลตอบแทนหรือฐานเงินเดือนที่สูงกว่ามหาวิทยาลัยอื่นจริงๆ

มีผลเป็นอย่างมาก

ไม่มีผลครับ ถ้าเรามีความสามารถ


แต่ถ้าที่ไหนเล่นสี เล่นสถาบัน ผมก็ไม่อยากไปอยู่เหมือนกัน


เคยมีรุ่นพี่ที่สถาบันเก่งมากเข้าบริษัทน้ำมันสีชมพูได้  แต่อยู่ไม่ได้เพราะโดนเยียดมากเลย


พอลาออกไปอยู่ บ.ต่างประเทศ สบายมาก เค้าไม่ได้ดูเรื่องสถาบันอยู่แล้ว เค้าสนใจแค่ว่าคุณทำอะไรได้บ้าง



แต่ถ้าทุกบริษัทเล่นสีเส้นสายกับ คนที่จบบ้านนอกมาแบบผมก็คงไม่ได้ลืมตาอ้าปากกันทีเดียว

เรารับราชการ เวลารับคน ที่ทำงานเราจะดูที่วุฒิการศึกษา ซึ่งต้องตรงสาขาที่ต้องการเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์สมัครได้

แต่หลังจากผ่านมาถึงรอบสัมภาษณ์ สถาบันมีส่วนแน่นอน ยิ่งเข้ามาแล้วยิ่งมีผลค่ะ

บ. ฝรั่งไม่นะคะ วัดที่ความสามารถล้วนๆ เข้ามาทำงานแล้วก็แอคทีฟเต็มที่ได้เลย โปรโมทคนก็แฟร์ๆ ไม่มีเล่นพรรคเล่นพวก ไม่มี seniority จะเรียกเจ้านายก็ขานชื่อเค้าโลด สบายๆฮาเฮ

ส่วน บ. ญี่ปุ่นต้องดูว่า HR. คนไทยบ้าสถาบันมั้ย แต่ที่แย่กว่านั้นบางที่ทั้งนายญี่ปุ่นและ HR.คนไทยก็บ้าเหมือนกัน

บ. จีน ใต้หวัน ไม่เกี่ยงสถาบันอยู่แล้ว ใครมาสมัครรับหมดขอให้รับเงื่อนไขของบริษัทได้ก็พอ และที่สำคัญเด็กที่จบสถาบันดังๆ ไม่มาสมัครแน่ เพราะกดเงินเดือนมาก สวัสดิการก็ พูดง่ายๆคือด้อยกว่าชาติอื่นๆ

องค์กรไทยใหญ่ๆอย่างที่ คห.บนกล่าว แน่นอนเล่นสีเล่นสถาบันอยู่แล้ว


คงขึ้นอยู่กับน้องแล้วล่ะว่าจะเลือกทำที่ไหน ขอให้โชคดีนะคะ

ต้องยอมรับว่าคนแอดมิชชั่นที่เข้า ม.รัฐ ได้ คือคนที่พิสูจน์ตัวเองได้ระดับนึง

แต่ย้ำว่าแค่ระดับนึงนะครับ ยังไม่ทั้งหมด
ถ้าให้เกณฑ์ผมคัดเลือกเด็กจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ผมมี Priority ดังนี้
1. เกียรตินิยม ม.รัฐ
2. ม.รัฐ เกรดไม่ต่ำกว่า 3.00
3. เกียรตินิยม ม.เอกชน

ส่วนพวกที่ไม่ติดในสามข้อนี้ ดูปัจจัยอื่นๆครับ เช่น ความสามารถพิเศษ ฝึกงานที่ไหน มีโปรเจคอะไรเจ๋งๆไหม ตอนสัมภาษณ์ประทับใจไหม ทำ Test ได้คะแนนเท่าไหร่ งานพิเศษ เป็นต้น

ใครบอกไม่เกี่ยวนี่ คงต้องเป็นคนเก่งมากมากครับ

อาจมีทักษะพิเศษ หรือมี จุดเด่น บางประการครับ

เพราะค่านิยม สังคมไทย เราตายไปอีกสิบชาติ ก็ยังยึดติดสถาบันครับ กับ คำว่าปริญญาครับ


มีดาราคนนึง เคยโตมาในเมืองนอก

เล่าให้ฟังว่า

ไปสัมภาษณ์งานกับฝรั่ง เค้าถามว่า คุณมีความสามารถอะไร ทำอะไรได้บ้าง

สัมภาษณ์ กับ คนไทย : คุณจบที่ไหนมา เกรดเท่าไร  

T T


สังคมไทยยยยยยยยยย

ผมมองว่าเกี่ยวมาก

แต่ไม่ควรนำมาตัดสิน อย่าเช่น คัดใบสมัครทิ้งไปเลย มันโหดร้ายเกินไป

แต่มองแบบให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

คนที่จบ มหาลัยดังๆ ควรให้เครดิตเขาบ้าง เพราะในมุมมองผม 80 % คนกลุ่มนี้ตั้งใจเรียนแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นคน รวยหรือคนจน คนกลุ่มนี้อาจยอมเสียเวลาเที่ยวเล่นในวัยเด็ก เพื่อแลกกับอนาคต

แต่ในมุมคนที่จบ มหาลัยไม่ดัง ก็ไม่ใช่ ว่าเขาไม่ตั้งใจเรียน เอาแต่เที่ยวเตร่ ผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนมีความเพียรพยายามมาก แต่มันไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่น ซึ่งก้ควรให้ความเป็นธรรมกับเขาเช่นกัน

ทางที่ดี เรียกมาให้เหมือนๆกัน แต่ละฝ่าย ใส่ศักยภาพของตัวเองให้เต็มที่ และผู้ที่ตัดสินควรมีใจเป็นกลางตัดสินที่คน ไม่ใช่สถาบัน ^^

โจทย์ที่1 : มหาวิทยาลัยที่จบ มีผลกับการสมัครงานรวมถึงตำแหน่งงานด้วยรึป่าวและมีมากน้อยเพียงใดคะ

โจทย์ที่2 : มหาวิทยาลัยที่จบ มีผลกับตำแหน่งงานด้วยรึป่าวและมีมากน้อยเพียงใดคะ

โจทย์ที่3 **ขอความกรุณา ช่วยแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์นะคะ**
-----------------------------
ขอตอบโจทย์ที่2+3 ก่อน
มหาวิทยาลัยไม่มีผล กับ Senior Officer , Manager , Director , CEO
มหาวิทยาลัยไม่มีผล กับ Freshy ในแง่มุมที่ว่า
มหาลัยดังกว่า ได้ตำแหน่งดีกว่านั้น <--- ไม่จริง
ถ้าประสบการณ์ 0 ปี ทุกคนมี value เท่ากัน

------------------------------
ขอตอบโจทย์ที่1+3
คุณ ดื่ม pepsi หรือ est
คุณรู้ไหมคนที่ พล่ามทุกวันว่า pepsi อร่อยกว่า est นั้น มีแค่5% ที่รู้จริง แยกรสชาติได้จริง
คนอีก95% จงรักภักดีกับแบรนด์ pepsi แล้วก็หลอกตัวเอง/สะกดจิตตัวเองว่า pepsi อร่อยกว่า

ฉันใดก็ฉันนั้น
HR ส่วนน้อยที่รู้ว่า จุฬา ดีกว่า มหาลัยอื่นตรงไหน
HR ส่วนใหญ่ ก็ตามแห่ เขาว่าจุฬาดี ก็ดีตามเขา (เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด)

ถามว่า ชื่อมหาลัยมีผลต่อการคัด candidate ไหม ตอบว่าใช่ ครับ ตามเหตุผลของ pepsi และ est

หมายเหตุ
เมื่อ15ปีที่แล้ว ผมจบจุฬา เกรดไม่ถึง3.00 ไปสมัครงาน บริษัทขนาดกลาง
HR มักจะทำตาโต แล้วกล่าวว่า
"คุณจบจุฬาหรือ ทำไมมาสนใจบริษัทเล็กๆอย่างผมล่ะ"
หรือ "ผมไม่กล้ารับคุณหรอก ที่นีมีแต่เด็กราม"

สรุปว่า ถ้าเกรดไม่สวย ถึงจะจบจุฬา ก็หางานยากครับ

ไม่ทราบว่า ปัจจุบันนี้ บริษัทกลางๆ ยังกลัวชื่อ "จุฬา" อยู่หรือเปล่า   ใครรู้ ช่วยตอบที

ถ้าเป็นองค์กรใหญ่ๆ ก็มีผลครับ อย่างบริษัทผม ก็เน้นที่ Top5 ของสาขานั้นๆ ในตำแหน่งวุฒิ ป.ตรี

สำหรับคนจบใหม่ บางที่ให้เงินเดือนต่างกันเลยนะครับ เช่น จบ ม.รัฐ ชื่อดัง ให้ 13,000 นอกนั้นที่จบ ม.รัฐ ธรรมดา กับ ม.เอกชน ให้ 12,000 เป็นต้น (แต่ rate นี้นานแล้ว ไม่รู้เปลี่ยนหรือยัง)

แต่ถ้ามีประสบการณ์ทำงานนานแล้วก็อาจจะไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่

มีมาก และจะมีผลมากตามขนาด และชื้อเสียงของบริษัทนั้นๆ

เอาสายงานที่เราทำปัจจุบัน (อาจารย์มหาลัย) มีผลค่ะ ถ้าคุณไม่ได้จบนอก แต่จบโทในและไม่ได้จบที่คณะเรา ก็ไม่มีสิทธิ์ค่ะ คณะไม่รับพิจารณาค่ะ หรือมหาลัยชั้นนำจริงๆเค้ามี conection กับองค์กรใหญ่ๆอยู่แล้วมันง่ายมาก แค่ยกหูโทรศัพท์ก็ผ่านการเข้าทำงานแล้วอ่ะค่ะเพราะหัวหน้างานกับคนที่สมัครเข้ามามีอาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกัน หรือแม้กระทั่งบริษัทชั้นนำส่งอีเมล์ ส่งโปสเตอร์มาเชิญให้สมัครงานถึงที่อ่ะค่ะ

ผมสัมภาษย์มาเกิน 200 คน
ตอบได้ว่ามีผลแน่นอน
ถ้าสถาบันไม่เคยได้ยินชื่อเลย ยากที่จะประเมิน
พูดคุย สัมภาษย์มันก็แป็ปเดียว

แต่ปัญหาเหล่านี้หมดไป เมื่อคุณมีประสบต์การณ์ทำงานไปแล้ว 2 ปี
อันนี้จะคุยกันเรื่องเนื้องานล่ะ

มีมากในปีแรกๆที่ทำงานครับ

มหาวิทยาลัย และเกรดที่จบ
ไม่ใช่ดัชนีชี้วัดความสามารถของคนจบใหม่ๆครับ
มันเค่ตัวเลข "ความนาจะเป็น" ครับ

ศิษย์ของผม
บางคนเกรด B แต่ผมประเมิณแบบไม่อคตินะครับ
เจ้าคนเกรด C บางคนยังดีกว่าก็มีเลย
รุ่นเดียวกันสถาบันเดียวกัน ศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกัน

ทั้งนี้อยู่ที่ตัวนายจ้างครับว่า

สิ่งที่ต้องการได้จากลูกจ้างคนที่จะจ้างคืออะไร
ความน่าจะเป็นที่คนเกรดเท่าไหร่ สถาบันไหน ทำได้ เป็นอย่างไร
ส่วนความก้าวหน้านั้น

ถ้าวัดกันจริงๆแล้ว ไปพิสูจน์ตอนทำงานครับ
แต่เกรดน้อย สถาบันโนเนม ทำให้ขาดโอกาสแสดงความสามารถ
แต่ใช่ว่าจะไม่มีเสียเลยนะครับ
อาจต้องเริ่มจากคนเล็กที่เล็กก่อนครับ

ไม่รู้ว่าบังเอิญรึป่าวนะคะ แต่พนักงานเข้าใหม่ของแผนกเรามีแต่จบ จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร เอแบค ทั้งนั้นเลยค่ะ
เราคิดว่าน่าจะเกี่ยวนะคะ

น่าลำบากใจแทนน้องๆ ที่จบ ราชภัฏ หรือว่า เอกชนที่ไม่ใช่ Abac นะครับ จะเข้าไปอยู่ในองค์กรที่เป็นที่โด่งดัง เห็นที คงต้องพัฒนาตัวเองให้มากเลยทีเดียว!!

ที่บริษัทที่ทำอยู่เห็นว่า เงินเดือนขึ้นอยู่กับมหาลัยที่จบเลยคะ อย่างจบ ม ดังๆ ก็จะเรทเยอะหน่อย ถ้า ม ตาม ตจว ก็เงินน้อยคะ

ส่วนเพื่อนคนนึงที่รู้จักกัน จบ ม ตจว คะ แต่ เกียรตินิยม กรณีนี้ก็จะดีหน่อย หางานง่ายคะเพราะเกรดเยอะ

ผมเคยอยู่ในหน่วยงานที่ไม่อยากรับคนจบ ม.ชื่อดังครับ เพราะรู้ว่าอยู่ไม่นานแน่ๆ

แต่ไม่ต้องไปเดือดร้อนแทนผู้สมัครหรอก เดี๋ยวเขาก็ได้งานอื่น

มีผลมากครับ ผมอยากสมัครตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ แต่ผมจบ มช. เค้าไม่รับครับ เค้าบอกว่า รับเฉพาะผู้จบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น

สำหรับผม ถามว่ามีผลไหม  ถ้าในสังคมไทยคงต้องยอมรับว่า "มี"

แต่ถ้าผมแนะนำ  ผมไม่อยากให้ไปโฟกัสที่ประเด็นนี้มากนัก เพราะมันจะทำให้เราหมดกำลังใจและรู้สึกว่าตัวเองด้อยคุณภาพ

แน่นอนว่า จบม.ดังๆมีผลต่อการคัดเลือกแน่นอน  ยิ่งเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่เน้นมากกกกกเรื่องสถาบัน

ผมว่าก็แค่ไม่ต้องไปสมัครบริษัทนั้นๆที่เน้นสีเน้นสถาบันครับ  ในกทม.มีบริษัทเป็นร้อยเป็นพันให้เราเลือกสมัครงาน  และก็มีอีกเยอะมากกกกกกกกกกกกที่ไม่ได้สนใจสถาบันที่จบมาครับ

ผมว่า จขกท. เตรียมตัวให้พร้อมเตรียมพรีเซ็นต์ดีๆ  เชื่อว่าหาไม่ยากครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ไม่ใช่ HR ครับ
แต่ขอแชร์จากประสบการณ์ที่เคยถูกสัมภาษณ์งานตลอด 1ปีที่ผ่านมากว่า 10บริษัท
ต้องบอกว่าสถาบันมีผลต่อการสมัครงานครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องตำแหน่งคงขึ้นอยู่กับความสามารถมากกว่ากว่าสถาบันครับ

มีผลในระดับหนึ่งค่ะ วันก่อนไปกรอกใบสมัครที่ธนาคารแห่งหนึ่งกับเพื่อนค่ะ
ทางธนาคารบอกว่าจะประกาศรายชื่อภายหลัง จนกระทั่งวันนั้นมาถึง ไม่มีรายชื่อติดอยู่ ส่วนตัวไม่ได้สนใจ้พราะคิดว่าคนที่ดีกว่าเรามีเยอะแยะ จนกระทั่งเพื่อนที่ไปด้วยกันมาบอกว่าตัวเค้าก็ไม่มีรายชื่อเช่นกัน แต่ถามอามาแล้ว(อาเป็นระดับใหญ่)อาเค้าจะใช้เส้นให้มีรายชื่อรอบสองแถมอาเค้ายังกระซิบมาว่า เค้าคัดเฉพาะมหาวิทยาลัยชื่อดังจ้า จนเพื่อนเราไปเห็นว่าเพื่อนเก่าที่อยู่มหาลัยชื่อดังก็มีรายชื่อที่ธนาคารนี้เช่นกันและเเอบรู้มาว่าเพื่อนคนนี้ติดเอฟซะด้วย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สถาบันมีส่วนอย่างมากค่ะ