เงินเดือน 20000 ผ่อนรถได้มั้ยคะ

ทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือน 20000 หักประกันสังคมแล้วก็เหลือประมาณ 19000 กว่าๆ มีแพลนจะจองรถเล็กๆสักคนราคาประมาณ 5 แสน แต่กลัวว่าจะผ่อนไม่ไหวมากค่ะ เท่าทีดูก็ตกดือนละ 6000-7000 แต่เรามีภาระต้องจ่ายค่าห้องอีกประมาณเดือนละ 4000 อยู่แล้ว เฮ้ออ พูดแล้วก็เครียดเน้ออ จะรอดมั้ยเนี่ย เพื่อนๆคนไหนเคยมีเงินเดือนน้อยๆแล้วมีภาระต้องผ่อนของอะไรแบบนี้บ้างมั้ยคะ แล้วผ่านมาได้ยังไงคะ รบกวนแชร์หน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^

จากคุณ : Phoebe Caulfield [8 ธ.ค. 55 16:22:20 ]
ความเห็นที่ 1

ผมว่าคงซื้อได้แต่ผ่อนกันเหนื่อยแน่ ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้รถ หรือใช้รถหาเงิน

ผมว่ายังไม่ควรซื้อ เพราะไหนจะค่านำ้มัน ค่าดูแลรักษา ค่าประกันรถ ฯลฯ
ยิ่งเป็นผู้หญิง ยิ่งมีคาแต่งตัว แต่งหน้า จุกจิกอีกต่างหาก

จากคุณ : ติ๊กซี่ (ป๋าติ๊ก เอนลาก) [8 ธ.ค. 55 17:04:36 ]
ความเห็นที่ 2

คุณอย่าลืมคิดค่าน้ำมันด้วยนะ
เพราะซื้อรถ ค่าใช้จ่ายตามมาอีกเยอะค่ะ


เงินจะพอใช้หรือป่าวขึ้นอยู่กับนิสัยการใช้จ่ายของคุณด้วย
ซึ่งไม่มีใครตอบได้ดีไปกว่าตัวคุณเอง

จากคุณ : ms_pretty8431 [8 ธ.ค. 55 17:04:47 ]
ความเห็นที่ 3

จริงแล้วผมก็เงินเดือนพอๆกันคุณ
แล้วก็ผ่อนรถราคาเจ็ดแสน

โชคดีที่ไม่มีภาระอื่นๆ บวกเป็นรถติดแก๊ส
ก็ผ่อนได้ไม่หนักมากครับ

จากคุณ : ติ๊กซี่ (ป๋าติ๊ก เอนลาก) [8 ธ.ค. 55 17:09:14 ]
ความเห็นที่ 4

ผมว่าน่าจะลองคิดเองเลยนะครับ

เงินเดือนประมาณ 19,000 - ค่าห้อง 4,000 - ผ่อนรถ 7,000  = เหลือประมาณ 8,000 หาร 30 วัน เหลือประมาณวันละ 267 บาท คิดว่าพอใช้มั้ยครับ ถ้าคิดว่าพอใช้ก็ได้ แต่ถ้าไม่พอก็ไม่ได้ครับ

นี่ผมคิดคร่าวๆแค่ค่าห้องกับผ่อนรถนะครับ อย่างอื่นที่ต้องมีอีกแต่ผมยังไม่ได้คิดก็ เช่น ค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์ และที่สำคัญค่าน้ำมันรถ (หรือกรณีเป็นผู้หญิงอาจต้องมีค่าเครื่องสำอางด้วยหรือเปล่า)

จากคุณ : Sirapak [8 ธ.ค. 55 17:11:01 ]
ความเห็นที่ 5

ค่าใช้จ่ายในการมีรถ มีดังนี้

1. ค่าน้ำมัน
ไปกลับ วันละ 20+20 กิโลเมตร สุดสัปดาห์ไปห้างบ้าง ราวๆ400กิโลเมตรต่อสัปดาห์
ค่าน้ำมันถ้าเป็นพวกอีโคคาร์ สัปดาห์ละพัน เดือนละ4พัน
2.ถ้าวิ่งแบบข้างบน ปีหนึ่งๆ ราว 2 หมื่นกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย
ต้องเข้าเช็คระยะ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 พันกว่าบาท ก็เกือบ5 พันบาทต่อปี
เดือนหนึงก็ 400บาท
3.ค่าประกันชั้น 1  กลัวรถมันหายหรือชน
ปีละ 2 หมื่น
ตกเดือนละ 1700 บาท

เนี่ย อีโคคาร์นะ ถ้าคิดว่าไหวก็มาลุยโลดเลยหนู

จากคุณ : โลหการ4 [8 ธ.ค. 55 17:14:23 ]
ความเห็นที่ 6

28000 ถึงจะไหว ไม่เครียดด้วย

จากคุณ : น้ำก้นแก้ว [8 ธ.ค. 55 17:19:38 ]
ความเห็นที่ 7

30000 ถึงจะสบายๆ
20000 ไม่พอยาไส้

จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย [8 ธ.ค. 55 17:27:43 ]
ความเห็นที่ 8

มีรถแล้วก่อให้เกิดรายได้หรือเปล่าคะ ถ้าคุณเป็นเซลล์ได้ค่าน้ำมัน ค่าสึกหรอ แล้วรถทำให้ได้ค่าคอมฯ เพิ่มจากรายได้ประจำ เราสนับสนุน

ถ้าไม่ จะเอามาเป็นภาระทำไมเก็บเงินไว้กินไว้เที่ยว กับเก็บเข้าธนาคารชิลล์ๆ ดีกว่ามั้ยคะ
รถไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น มีแต่รายจ่ายและเสื่อมสภาพ

เท่าที่ดูรายได้คุณ ผ่อนแบบหืดขึ้นคอค่ะ

จากคุณ : crazy_mom [8 ธ.ค. 55 17:36:09 ]
ความเห็นที่ 9

ถ้าไม่จำเป็นต้องเอามาใช้ในการทำงาน อย่าซื้อเลย รายรับแค่นี้รับรองได้ว่าเหนื่อยแน่ค่ะ

เก็บเงินเอาไว้ ไปทำสวย ไปกินอะไรอร่อยๆ หรือเก็บเป็นเงินออมเล็กๆน้อยๆ แล้วทำให้มันงอกเงยดีกว่าค่ะ

จากคุณ : มองผ่านแว่นสายตาเอียง [8 ธ.ค. 55 18:18:39 ]
ความเห็นที่ 10

ผ่อนลดไม่เท่าไหร่

กังวลค่าน้ำมันกับค่าซ่อมบำรุงดีกว่า

จากคุณ : iShore [8 ธ.ค. 55 18:43:29 ]
ความเห็นที่ 11

ถ้าอยากได้จริงๆ ก็ต้องลำบากหน่อยกินน้อยลงแบบประหยัด ห้องก็เช่าราคาถูกกว่านี้หน่อย อยู่ลำบากหน่อย แต่อย่าไปทำอะไรให้คนค้ำประกันเขาเดือดร้อนแล้วกัน

เอาจริงๆ แนะนำว่าอย่าเลยค่ะ

จากคุณ : greeneyed [8 ธ.ค. 55 18:50:58 ]
ความเห็นที่ 12

ตอนได้สองหมื่นซื้อคอนโดล้านนึง อยู่เอง ผ่อนหกพันห้าถ้ามีเหลือก็โปะ ต่อมามีครอบครัวซื้อบ้านแล้วปล่อยเช่าได้ค่าตอบแทนปีละ 6% ของราคาที่ซื้อ ถือว่าไม่เสียหายอะไร

แต่รถเนี่ย... วันดีคืนร้ายมีอะไรเสีย ต้องเปลี่ยนต้องซ่อม ซักวันต้องมีเกินเงินเดือนคุณแน่ๆ  ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ค่าต่อทะเบียน พรบ ประกัน ค่าที่จอดรถ(แล้วแต่กรณี). เพื่อนชวนเที่ยว ไปโน่นไปนี่

เตรียมเงินออมติดบัญชีไว้เลย 3-4 หมื่นไม่งั้นอาจจะมีช๊อตได้เวลาสารพัดเรื่องประดังเข้ามา

คิดดูดีๆ ว่านั่งรถเมล์ไม่มีหนี้ กับซื้อรถแล้วไม่อยากเอาออกมาขับเพราะไม่มีเงินเติมน้ำมันหรือซ่อม อะไรมันทุกข์น้อยกว่ากัน (ถ้ามองจากมุมของความสุขอาจจะไม่ค่อยเก็ท)

ผมทำงาน 10ปี แบบคนไม่มีรถยนต์สบายที่สุดเพราะนั่งรถเพื่อนร่วมงานหรือแม้กระทั่งหัวหน้าก็ขับรถให้นั่ง

ตอนนี้มีรถไว้เพื่อให้ภรรยาขับไปทำงานเป็นหลัก ที่ทำงานอยู่อโศก ต่อให้มีใช้ส่วนตัวคนเดียวก็ไม่ขับไปเพราะรถติดมาก

จากคุณ : rujipars_a [8 ธ.ค. 55 19:04:17 ]
ความเห็นที่ 13

ในความคิดผมคิดว่าคงไม่รอดเนื่องจาก
- เงินเดือนหลังจากหักค่าใช้จ่ายประจำ เหลือไม่ถึง 300 ต่อวัน
- ในแต่ละเดือนคุณจะ shopping กินอาหารตามร้านแทบจะไม่ได้เลย
- จากเดิมดูหนัง เที่ยวผับได้สบาย ๆ แต่ต่อไปคงอดหรือแทบไม่ได้ไปไหนเลย
- ถึงคราวจ่ายค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา ตามระยะทาง แย่แน่ครับ

หากจะซื้อจริง ๆ คงต้องดาวน์หนัก ๆ ให้เหลือผ่อนเดือนละไม่เกิน 4พัน นะครับผมว่า

จากคุณ : เนจิ แห่ง โคโนหะ [8 ธ.ค. 55 19:26:37 ]
ความเห็นที่ 14

ลองดูครับ

จากคุณ : cantare [8 ธ.ค. 55 19:32:27 ]
ความเห็นที่ 15

เรื่องเงินทอง ถ้าคิดว่าไม่รอด มันก็น่าจะไม่รอดครับ ขนาดคนที่คิดว่ารอดยังไม่รอดเลย

ยกเว้น...เรามีวิธีเพิ่มรายได้ เรื่องลดรายจ่ายคงเรื่องรองนะครับ เพราะรายได้ 20000 มันไม่ได้มากมายอยู่แล้ว

อีกข้อที่ควรพิจารณา การมีรถมันทำให้เรารายได้เพิ่มมั้ย ถ้าใช่ก็คือการลงทุน ไม่ใช่ภาระซะทีเดียว

จากคุณ : Mr. Prodigy [8 ธ.ค. 55 19:58:31 ]
ความเห็นที่ 16

ไม่รอดแน่ๆ

ผมเงินเดือนมากกว่า ค่าห้องไม่เสีย

ยังคิดหนัก เลย

จากคุณ : phanyanukul [8 ธ.ค. 55 21:49:01 ]
ความเห็นที่ 17

ทำงานได้เท่าไหร่ให้รถกินหมด

จากคุณ : หมึกสด [8 ธ.ค. 55 22:24:08 ]
ความเห็นที่ 18

การผ่อนรถต้องสำรองผ่อนอีก3-6เดือน หลายคนโดนยึดรถ
เพราะคิดว่าตัวเองผ่อนได้ปริ่มๆ ไปๆมาๆไม่มีเงินเก็บเพราะมีรถแล้ว
รถมันมีค่าใช้จ่ายแทบทุกวันทั้งแก๊ส/น้ำมัน บำรุงรักษา ประกันรายปี
มีรถก้อต้องออกไปวิ่ง หาเรื่องไปนู่นนี่เพราะมันไปง่ายเสียเงินอีก
แล้วเงินเก็บคุณจะไม่มีเลย  พอไม่มีเงินเก็บ วันดีคืนดีตกงานแบบไม่คาดคิด
เรียบร้อยเลย ปล่อยให้ยึดคิดว่าเรื่องจบที่ไหนได้เงินที่ขายรถไฟแนนซ์
ขายทอดไปแล้วบอกไม่พอต้องจ่ายเพิ่มเรื่องยาวล่ะทีนี้

ถ้าเอารถไปช่วยทำธุรกิจช่วยงานเซลล์ หรือคำนวณแล้ว
คุ้มกับค่ารถไปกลับ มีรายได้มากมีกำลังพอผ่อน
หรือเอารถไปหาเงินนั่นถือว่าลงทุน

จากคุณ : สุดโหดโคตรโรแมนติค [8 ธ.ค. 55 23:41:14 ]
ความเห็นที่ 19

-*- อย่าลืม

ค่าประกันจ่ายปีละครั้ง
ค่ายาง ตีว่า 2-3 ปีครั้ง
ค่าซ่อม แล้วแต่ดวง แต่เฉลี่ยๆ มีเงินติดบัญชีไว้ 30000 - 50000 แล้วจะสบายใจ (คุณไม่ไปชนใคร แต่อาจมีคนมาชนคุณ ....และดวงซวยสุดคือถอยหลังชนบ้านตัวเอง ซ่อมทั้งรถทั้งบ้าน)
ค่าน้ำมัน ทุกเดือน หรือทุก2อาทิตย์
ค่าทางด่วน ผมใช้ Easy pass จ่าย 3เดือนครั้ง -*-
ค่าบำรุงรักษาอื่นๆ

เฉลี่ยคร่าวๆเลยคือ ตกเดือนละ 2000 - 5000 บาท ที่ต้องจ่ายเพิ่มจากค่าผ่อนรถ ขึ้นกับความหรู่ และเบี้ยประกัน


เป็นผมเอง ถ้าเงินเดือนเท่านั้น และ บ.ไม่จ่ายค่าน้ำมัน และค่าบำรุงรักษารถให้ ผมไม่ซื้อครับ

จากคุณ : ginosty [8 ธ.ค. 55 23:45:46 ]
ความเห็นที่ 20

เรามีภาระเหมือน จขกท. เลยค่ะ
ค่าห้อง ค่ากิน ให้พ่อแม่อีก

แต่เงินเดือนเรามากกว่า จขกท. นะ
เรายังคิดว่าเราผ่อนไม่ไหวเลยอ่ะ...
มีรถมันมีภาระมากกว่าอ่ะ

จากคุณ : papergift [9 ธ.ค. 55 00:01:13 ]
ความเห็นที่ 21

ทุกวันนี้เงินเหลือเดือนละเท่าหรั่ยครับ
ถ้าเหลือน้อยอย่าพึ่งเลย

จากคุณ : ขงจื๊อ ขงเบ้ง [9 ธ.ค. 55 00:18:31 ]
ความเห็นที่ 22

ลองมองรถที่ถูกกว่านั้น หรือมือสองไม่ดีเหรอคะ
รถที่อยากได้มันแพงไปนะ

ตอนเราผ่อนรถคันแรก (และคันเดียวใช้มาจนป่านนี้ ผ่อนหมดไปแล้ว)
เงินเดือนเรา 11,000
ซื้อรถมือสอง สภาพดี ราคาแสนเจ็ด ผ่อนเดือนละ ไม่ถึง 4 พัน
พอผ่อนได้ แต่ก็เหนื่อยอยู่ค่ะ แต่ตอนนั้นแฟนเราช่วยดาวน์ให้

จากคุณ : JiGGO InLove [9 ธ.ค. 55 00:25:54 ]
ความเห็นที่ 23

มือสองค่าซ่อมหนักๆ จะมาไวคิดเผื่อกรณีนี้ให้มากกว่ารถมือหนึ่งด้วย ส่วนคุ้มหรือไม่... ไม่แน่ใจเหมือนกัน ความเหมาะสมมันแล้วแต่จังหวะชีวิต

จากคุณ : rujipars_a [9 ธ.ค. 55 08:33:25 ]
ความเห็นที่ 24

เอาง่ายที่สุด เลยนะ ลองสมมติ ตัวเองว่าผ่อนรถอยู่ แล้วลองเก็บเงิน ที่จะผ่อนนั้นและ เก็บไปเรื่อยๆ ห้ามเอาออกมาใช้เลยนะ เก็บไปสัก ๑ ปีดู ว่าตัวเองจะไหวรึเปล่า จะกินจะใช้จ่ายยังไง  ลองบริหารเงินดู ถือว่าเปนการออมไปในตัวด้วย

ออ อย่าลืมสำรอง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วยนะ อย่างที่คห อื่นๆ ว่าไว้

จากคุณ : pigX4 [9 ธ.ค. 55 09:05:28 ]
ความเห็นที่ 25

ผมเงินเดือนเท่าคุณก็ไม่กล้าซื้อเหมือนกันครับ ลองเก็บเงินดาวน์รถให้ได้สัก 50เปอร์เซ็นดูไหมผมว่าอะไรๆน่าจะง่ายขึ้นนะครับ

จากคุณ : Makalof [9 ธ.ค. 55 09:44:17 ]
ความเห็นที่ 26

อย่าเลยนะครับ หาภาระเปล่า ๆ ความคิดเห็นหลายๆคนในนี้ ถูกต้องที่สุด

ในวันนี้ผมยังห่วงเเฟนเก่าอยู่เลย เพราะเขาผ่อนคอนโดด้วย ผมรู้ด้วยตัวเอง เขาไม่บอกผม ซึ่งผมคิดว่า ระหว่างที่ผมผ่อนรถให้เธอ อดีตเเฟนผมก้ได้เงินกู้+ขายบ้านได้มาซื้อคอนโด เเทนที่ผมจะมีเงินเก็บบ้าง หมดไปกับรถเยอะเหมือนกัน

เพิ่งเลิกกันครับ เเค่เเฟนนะครับ ยังไม่ได้เเต่งกันหรือมีอะไรกัน

ผมช่วยผ่อนไปเเล้ว 2 ปีนิด ๆ เเต่คุณคิดดูซิ ตอนนั้นรายรับผม 65K+ต่อเดือน เเทบไม่พอเลย เพราะต้องผ่อนบ้าน ดเเลเเม่ ดูเเลน้า ดูเเลน้อง ดูเเลหลาน ยกเว้นคนเดียวที่ไม่ได้ดูเเล คือตัวผมเอง

วันนี้ผมเริ่มนับหนึ่งใหม่ อีก 3-4 เดือนคง Ok จะเริ่มเคลียรหนี้บัตรเครดิต เเต่ไม่เป็นไร เพราะรายได้สูงพอสมควร ตอนนี้เหลือ 52K ลดเอง เพราะอยากพัก สักเมษาค่อยเริ่มขยับใหม่

ไว้สัก 1-3 ปีจากนี้ดีไหมครับ ผมเอง 41 ผมยังไม่อยากขับรถเลย

มีเพื่อน ๆ นินทาว่า เพราะไม่ขับรถ เเละเป็นครู คนจึงมองว่าไม่มั่นคง สาวจึงไม่เข้าหา

ถ้าคุณคิดจะซื้อรถ เพราะกระเเสสังคมบ้านเราที่ตัดสินด้วยข้าวของ เวลาคุณลำบาก ใครจะช่วยคุณอดีตเเฟนผม เงินเดือน 12K เเต่มีผมอยู่ วันนี้เธอเดินเอง คง ok เพราะกู้ได้เยอะ เป็นราชการครู

โชคดีครับ

จากคุณ : tonmelb [9 ธ.ค. 55 14:56:30 ]A:171.7.18.233 X: TicketID:054700
ความเห็นที่ 27

ไม่มีใครรู้หรอกครับนอกจากตัวคุณ อยากได้รถ5แสนหรือ5ล้านคุณก็ต้องวางแผนดี คนบางคนเงินเดินน้อยกว่าคุณแต่ผ่อนรถคันละเเปดแสนกว่าได้สบายๆโดยไม่มีปัญหา

จากคุณ : ชัยiriver [9 ธ.ค. 55 18:59:32 ]
ความเห็นที่ 28

เงินเดือน 20,000 เหมือนกันค่ะ

รถเราเนี่ย ส่วนใหญ่พ่อกับแม่จ่ายให้  มีจ่ายเองนิดหน่อย...แต่ค่าดูแลรถ ส่วนใหญ่จ่ายเอง

ตอนนี้แต่ละปียังกระอักเลยค่ะ....เพราะค่าประกัน ค่าเข้าศูนย์ ค่าดูแลรักษา อะไหล่ ต่อภาษี จิปาถะ ฯลฯ   >_<

จากคุณ : Your Sweet Honey [วันรัฐธรรมนูญ 55 09:45:22 ]
ความเห็นที่ 29

เราว่าอาจจะไหวแต่เหนื่อยมากกกกก จะใช้ชีวิตแบบอึดอัดมากๆเลยล่ะค่ะ
อย่าเสี่ยงเลย(ถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆ)

เก็บเงินไว้เป็นก้อนให้ได้เกินครึ่งของราคารถก่อนแล้วค่อยซื้อดีมั้ยคะ?

จากคุณ : เจ้าหญิงเท็ดดี้แบร์ [วันรัฐธรรมนูญ 55 20:01:23 ]
ความเห็นที่ 30

รถติดอย่าเอาเรย

จากคุณ : disketjet (disketjet) [วันรัฐธรรมนูญ 55 20:49:53 ]
ความเห็นที่ 31

ถ้าคุณเป็นผู้หญิงเราอยากให้มีรถ
ยอมเหนื่่อยทนหน่อยเพราะจะให้นังวินเข้าบ้านนังรถเมล์จอดกลางถนนเหรอ เอามาเถอะเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เเต่เงินในกระเป๋าเเย่ลง ลองคิดดูว่าคุ้มไหม

จากคุณ : remy&chanel [11 ธ.ค. 55 12:41:13 ]
ความเห็นที่ 32

ถ้าทำงานต่างจังหวัดซื้อไปเถอะ
ทำงานกรุงเทพ...ตัวเลือกที่ดีกว่านี้ยังมีเยอะ

จากคุณ : iEtA [11 ธ.ค. 55 18:00:57 ]
ความเห็นที่ 33

ขอขอบคุณทุกๆความเห็นเลยนะคะ ส่วนตัวแล้วก็อยากมีรถนะคะ เพราะเบื่อหน่ายกับระบบขนส่งมวลชนของไทยแลนด์มาก แต่เห็นด้วยว่ามันอาจจะเป็นการลงทุนที่ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ ทนเหนื่อยเดินทางแล้วเก็บเงินไปเที่ยวยุโรปดีกว่า(อ่าวเฮ้ย!)

จากคุณ : Phoebe Caulfield [13 ธ.ค. 55 01:04:03 ]
ความเห็นที่ 34

ผม เงิน เดือน น้อยกว่า คุณ ประมาณ 2000 ครับ อยากมีรถ เหมือนกัน กับคุณ แต่ ก็ คิดไป คิดมา เอาบ้านก่อน ดีกว่า  รถ ซื้อมา ใช้ไป นาน ๆๆค่าเสื่ิมราคา อีกอต่างหาก แต่ บ้าน ซื้อไป นานๆๆ  ขายได้ ราคาเพิ่มขึ้น

คิดแบบนั้น ป่าวครับ

ทุกวันนี้ ผม เดินมาทำงานบ้างแล้วไปต่อรถ มอไซื เพื่อ ลด ค่าใช้จ่าย ระยะทางที่เดินก็ประมาณ เกือบ 2 กิโล ซึ่งประหยัดไป ตั้ง 30 บาท ต่อวัน

พอถึงบ้านก็ เข้าห้อง ดู ทีวี เล่นฯ เน็ต สบาย ห้องเป้ฯของเรา  ตอน กลับ ระหว่างทาง จากที่ทำงาน ถึงบ้านรถ ติด เพียงไหน พอเขาบ้านก้สบายใจ ดีนะครับ

แต่ถ้าซื้อรถ มา เงินเดือนเท่านั้นก็  มีค่าที่จอดรถ อีกต่างหาก รถ ป่ายแดง ในกรุงเทพ ก้กลัว หายอีก เฮ้วย สารพัด ครับ


หรือจะลองหา มอไซด์ ขับไป พลางๆ ก่อน ดีไหมครับ เดี่ยวนี้ ผู้หญิง ขับ มอไซดื เอะนะครับ   ผมว่า จะหา อยู่สักคันเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเดิน อีก  แต่  ก็ผ่อน คอนโดอยู่กลัวไม่พอ เหมือนกัน  เวลารถเมย์ฟรีมานะ ผมชอบ เลยหละครับ  ไปลง ตรงสี่แยก หลังจากนั้นผมก็เดิน ไปที่คอนโด อีกประมาณ 2 ป่ายรถเมย์ ครับ

ไว้เงินเดือนเยอะ กว่านี้ค่อยซื้อ รถ ก็ไ้ดครับ

แต่ถ้า บ้านรวย ก็ จัดไปเลย ไม่ต้อง หลัว ว่าจะ  ผ่อนไม่ไหว นะครับ

จากคุณ : แมน (หนุ่มตรัง) [13 ธ.ค. 55 15:19:18 ]
ความเห็นที่ 35

เงินเดือน 20000 นี่ไม่น้อยนะครับ ค่อนข้างมากซะด้วย

เงินเดือนระดับนี้เขาก็ซื้อกันทั้งนั้นหละครับ เป็นรางวัลชีวิตครับ ทำงานมาหนัก เรียนมาตั้งนาน

เงินที่ผ่อนก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ มันก็อยู่ในรถนั้นหละ เวลาขายก็ได้คืน มีส่วนต่างนิดหน่อย ถ้าเป็นรถตลาด


เงินเดือน 20000 ไม่ซื้อรถ ถ้าเก็บเงินอยู่ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ซื้อแต่เอาไปใช้จ่ายอย่างอื่นนี่ก็หมดนะครับ

จากคุณ : masterdoodee [18 ธ.ค. 55 18:33:33 ]