ผมคิดแบบนี้จึงไม่มีเงินเก็บของตัวเองเลย ณ ปัจจุบัน คิดถูกมั้ย

อยากเล่าสู่กันฟังแบบนี้ครับ คือผมอายุ 28 ปี เงินเดือนก็ 30K ภรรยา 25K
ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายก็ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่ากินอยู่ทั้วไป โดยแทบไม่เหลือเก็บเป็นเงินสดเลย โดยผมกับภรรยามองอนาคตคล้ายกันคือทำวันนี้ให้มีความสุขบนพื้นฐานของรายได้ที่จะจ่ายได้โดยถ้า ถ้าเกษียนจะได้เงินจากกองทุนของโรงงาน+ประกันสังคม+ประกันชีวิต ตกคนละน่าจะถึง 7 หลักรวมถึงบ้านอีกหนึ่งหลัง ที่จะหมด จึงคิดว่าไม่เก็บเงินบั้นปลายไว้ใช้ดังนั้นทุกวันนี้ไม่มีเงินเก็บชัดเจนเลยเพราะค่ารักษาพยาบาลเราและครอบครัว ก้เบิกได้อยู่ ส่วนเงินฉุกเฉินก็มีแค่เป็นบัตรที่ทำไว้แต่ไม่ได้กดรวมกันก็หลักแสนครับ ดังนั้นทุกวันนี้เงินจะหมดเดือนชนเดือนพอดีเลย ถ้าไม่พอหรือจำเป็นก็หมุนเวียนเอาและเคลียร์ได้ทุกครั้งที่โบนัสไตรมาสออก แบบนี้ถือว่าพอได้มั้ยครับหรือว่าอย่างไรก็ต้องมีเงินเก็บไว้สำรอง ปรึกษาหน่อยครับอยากได้มุมมองเพราะเราสองคนดันคิดเหมือนกันเลยยย

จากคุณ : คนวันจันทร์ [8 ธ.ค. 55 22:12:40 ]
ความเห็นที่ 1

เก็บไว้สัก 10% ของเงินเดือนทุกเดือนก็ยังดี

ทั้งผัวทั้งเมียนั่นแหละ

จากคุณ : กะเทยเด็กแนว [8 ธ.ค. 55 22:55:38 ]
ความเห็นที่ 2

มีเงินเก็บไว้บ้างย่อมดีกว่าอยู่แล้วครับ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจะได้มีเงินใช้ ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุดครับ
-ค่าใช้จ่ายของลูกก็ต้องเผื่อไว้ด้วย ถ้าคิดมีลูกครับ แต่เท่าที่อ่าน คิดว่าจะไม่มีลูกใช่มั่ยครับ

จากคุณ : CMT [8 ธ.ค. 55 22:57:00 ]
ความเห็นที่ 3

เริ่มจาก 6 เท่าของเงินเดือนไว้ในออมทรัพย์ค่ะ

จากคุณ : Lucky Newcomer [8 ธ.ค. 55 22:59:24 ]
ความเห็นที่ 4

สมมุตินะครับสมมุติ
พรุ่งนี้เดินตกบันได เกิดอาการอัมพาตทำไง รายได้หาย รายจ่ายเพิ่ม

จากคุณ : MamaKungking [8 ธ.ค. 55 23:02:25 ]
ความเห็นที่ 5

อย่างน้อยก็มีทรัพย์สินคือบ้าน

จากคุณ : he_is_pop [8 ธ.ค. 55 23:09:43 ]
ความเห็นที่ 6

ยังเสี่ยงอยู่นิดๆ เพราะไม่แน่ว่าโรงงานจะรอด 100%
หลายคนคงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มีไว้ก็อุ่นใจกว่าเนอะ

จากคุณ : MortalR2 [8 ธ.ค. 55 23:22:04 ]
ความเห็นที่ 7

อย่างน้อยควรมีสำรองประมาณ 6-12 เดือนในกรณีที่ตกงาน หรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมานะค่ะ

จากคุณ : onearth [8 ธ.ค. 55 23:44:49 ]
ความเห็นที่ 8

-*- เป็นภาวะที่ผมไม่สบายใจที่สุดเลยนะนั่น ..... เป็นหนี้ก็ไม่เป็น จะว่า มั่นคงก็บอกได้ไม่เต็มปาก
ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องหลังเกษียณครับ ...... คือไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเจออะไรที่ต้องใช้เงินเยอะหรือป่าว เลยไม่ชอบเก็บแบบนั้นเท่าไหร่  และผมจะสบายใจกับอะไรที่มันดึงออกมาใช้ได้ง่ายๆมากกว่า


ผมใช้วิธีลงทุนเอง + แบ่งเงินส่วนนึงมาออมไว้ + ส่วนนึงก็ออมหลังเกษียณแบบที่ จขกท.ทำ
เวลาที่ได้เงินมาผมแบ่งแบบนี้ครับ
1. ฝากประจำ 2 ปี ..... โอนเข้าทุกเดือน(ช่วยกันเก็บกับภรรยา)
2. เอาไปซื้อหุ้น + ซื้อกองทุน อันนี้แล้วแต่สภาพตลาด
3. เอาไปใส่ออมทรัพย์ สำหรับเงินฉุกเฉิน (ส่วนนี้เอาไปฝาก ME ไว้เพราะดอกมันเยอะดี)
4. ส่วนที่เหลือ คือค่าใช้จ่ายรายเดือนทั้งหมด .... ให้ภรรยาไว้ แล้วเบิกวันละ 200 -*- (ไม่ได้ทำแบบนี้นะ แยกกันใช้)
5. ปลายเดือน ถ้ามันยังเหลืออยู่ก็เอาไปซื้อกองทุน หรือถ้าตลาดไม่ค่อยดีก็ไปโยนทิ้งไว้ใน ME


ผมคิดว่า เก็บก่อนใช้แล้วจะสบายครับ
ลองพิจารณาดูแล้วกันว่าเอาไปปรับใช้ได้ไหม ..... ตอนแรกๆที่ผมทำงานก็คิดแบบ จขกท.ครับ มาตอนหลังๆ ผมลองเปลี่ยนนิสัยการใช้เงินใหม่  เห็นผลชัดๆว่า เงินในบัญชีมันเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเดิมเยอะ อุอุอุ ..... คิดว่า 7หลักของ จขกท. ไม่ต้องรอเกษียณก็ทำได้ครับ ..... ผมเองก็ทะลุไปเรียบร้อยแล้ว


ปล. ตอนนี้ทั้งอายุ/เงินเดือน ของผม+ภรรยา ก็พอๆกับที่ จขกท. ว่ามานั่นแหละ
บัตรเงินสด ผมไม่ทำ ...... บัตรเครดิต มีแค่ 1 ใบที่ไม่เคยจ่ายเกินกำหนด ..... ส่วนตัวแล้วไม่ชอบธุรกิจบัตรพวกนี้เท่าไหร่ และไม่อยากเป็นหนี้

ปล2. 55k ต่อเดือน ถ้าจขกท.ไม่ต้องผ่อนบ้าน ผมว่าเป็นรายจ่ายที่สูงเกินไปนะ   แต่ถ้าผ่อนบ้านอยู่ก็อีกเรื่องนึง...............อยากจะฝากว่า ถ้าอนาคตมีเจ้าตัวน้อย รายจ่ายจะเพิ่มขึ้นอีก ต้องเผื่อส่วนนั้นไว้ด้วยนะครับ

จากคุณ : ginosty [9 ธ.ค. 55 00:35:13 ]
ความเห็นที่ 9

... ให้รวมจ่ายค่าผ่อนบ้านผ่อนรถยังเยอะไปเลยนะนั่น ลองเอาค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างมากางดูสิครับ เจสัน

จากคุณ : ปลาทูออนไลน์ [9 ธ.ค. 55 01:16:54 ]
ความเห็นที่ 10

เดี๋ยวก็ผ่อนรถหมด ก็เก็บเงินในส่วนที่ผ่อนรถนั้นได้นิครับ
และก็ เงินเดือนก็น่าจะเพิ่มขึ้นแต่ละปี พอไปถึงอายุสี่สิบ รายได้รวม น่าจะถึงแสนแล้ว

การใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มีความสุข เป็นเรื่องที่ดีมากนะครับ

จากคุณ : Zet [9 ธ.ค. 55 07:15:20 ]
ความเห็นที่ 11

อายุ 28 มีรายได้กับใช้ชีวิตและคิดแนวนี้ ใช้ได้ครับ
เมื่ออายุมากขึ้นในแต่ละปี ค่าใช้จ่ายมันจะลดลงเอง แต่รายได้และทรัพย์สินกลับมั่นคงขึ้น
เงินเหลือก็มีมากขึ้นเอง ถ้าไม่ไปหาทำอะไรที่มันโง่ๆไร้สาระ

จากคุณ : preepa11 [9 ธ.ค. 55 09:33:31 ]
ความเห็นที่ 12

วิธีคิดคุณผมเดาว่าลำบาก...

ลำบากแรกคือ คุณมองว่าไม่สะสมเงินก็มีเงินรอปลายทางคนละ 7 หลัก แต่อย่าลืมว่าอนาคตเงินก้อนนี้จะเล็กน้อยมาก ตอนนั้นข้าวอาจจะจานละ 150 บาท เงินที่ได้มามันเลยน้อยนิด

ลำบากสองคือ คุณไม่ได้เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สมมุติว่าบริษัทเจ๊ง สมมุติว่าใครป่วยหนักจนเกินวงเงินที่บริษัทจ่าย อะไรพวกนี้เกิดขึ้นได้ครับ

ควรเก็บเงินบ้าง ที่เหลือจะใข้ก็ตามใจครับ

จากคุณ : Mr. Prodigy [9 ธ.ค. 55 09:44:11 ]
ความเห็นที่ 13

ควรจะเจียดออมรายเดือนเดือนละ 5 เปอร์เซ็นต์ และโบนัสมีไหม ถ้ามี ก็ต้องเก็บโบนัสไว้เลย เป็นเงินออม

จากคุณ : 908auan [9 ธ.ค. 55 10:01:53 ]
ความเห็นที่ 14

เงินเดือนเยอะ  ไม่เก็บได้ไงค่ะ   วันนี้ดีที่สุด  
แต่วันข้างหน้าเราไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น
อนาคตมาถึงจะรู้ว่าไม่ควรใช้เงินหมด  
แก่ไปเอาเงินไหนมาใช้ถ้าไม่เก็บ

ถ้าเป็นเรา เก็บเดือนสองหมื่นซื้อหุ้นปันผลมันทุกเดือนเลย  อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว
เราเงินเดือนน้อนนิด  แต่เวลามีโบนัส  เราเอาโบนัสทั้งหมดไปซื้อหุ้นหมดเลย

จากคุณ : สี่สิบดีกรี [9 ธ.ค. 55 10:06:59 ]
ความเห็นที่ 15

ถ้าคิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ...  ไม่ได้ครับ

ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินแล้วต้องไปกู้  หรือใช้บัตรแล้วจ่ายดอกแพงๆ  หรือปิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพออกมา(น่าจะเป็นกรณีเลวร้ายสุด  เพราะคุณหวังพึ่งกองทุนฯ)  มันจะเกิดความสิ้นเปลืองกว่าการที่คุณมีเงินออม

แต่ถ้าไม่แคร์อนาคต(ถ้าบังเอิญอายุยืนไม่ตายง่ายๆ ล่ะ..)   ก็จะบอกว่าไม่เห็นเป็นไร

จากคุณ : rujipars_a [9 ธ.ค. 55 11:10:34 ]
ความเห็นที่ 16

ถึงเวลาตกระกำลำบาก  มีบ้านมีรถ  แต่ไม่มีเงินซื้อข้าว  ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถ

ขายบ้านก็ต้องไปเช่าห้องอยู่ก็เพิ่มรายจ่ายอีก...

จากคุณ : rujipars_a [9 ธ.ค. 55 11:11:49 ]
ความเห็นที่ 17

7 หลัก ในอนาคต กว่าจะถึงวันนั้น ค่าเงิน 7 หลัก อาจจะมีค่าแค่ 5 หลักในวันนี้ก็ได้ถ้าเทียบกัน

หลายอย่าง มูลค่ามันลดลง เช่น ค่าเงิน

แต่หลายอย่าง มูลค่ามันเพิ่มขึ้น เช่น ทอง ที่ดิน อสังหาทำเลดีๆ

เงิน ล้าน ในอีก 20 30 ปี ข้างหน้า อาจจะพอแค่ซื้อ มอไซน์ ได้ 2-3 คัน ก็ได้ใครจะรู้

ดูอย่างทอง เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว บาทละ 8-9 พัน ตอนนี้จะ 25000 แล้ว ขึ้นมา 2.5 เท่าใน 10 ปี

คิดง่ายๆ ถ้าคนเกษียณ์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ได้เงิน 1 ล. ซื้อทองได้ 100 บาท + เงินอีก 1 แสน

กับอีกคน เกษียณ์ ตามหลัง 10 ปี ได้เงิน 1 ล. ซื้อทองได้ 40 บาท แค่นั้น

หากเทียบกับที่ดิน ก็ขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 1 เท่าตัว

ยิ่งบ้าน ไม่ต้องพูดถึง บ้านที่ผมอยู่ พ่อผมซื้อมา 20 ปีได้แล้ว ตอนนั้นซื้อ 1.1 ล.

ตอนนี้แถวนี้ขายกันไม่ต่ำ กว่า 3 ล. แล้วครับ บ้านมือสองนี้แหละ

เมื่องมันขยายไปเรื่อย

...............

ผมว่าแทนที่คุณจะหวังกับเงินเกษียณ์ ว่าจะพอกินพอใช้ ผมว่าคุณเก็บเงินทุกเดือนตอนนี้ดีกว่า

อย่างน้อยในอนาคต ไหนจะเรื่องลูก เจ็บป่วย รถเสีย บ้านพัง มันมีรายจ่ายที่คาดไม่ถึงอีกเยอะแยะ

เงินคุณสองคน ถือว่าไม่น้อยนะครับ ถ้าวางแผนดีๆ เก็บเงินได้เยอะอยู่นะครับ

ลงทุนในที่ดินบ้าง ทองบ้าง อสังหาบ้าง อาจจะดูบ้านมือสองทำเลดีๆ แล้วก็หาเงินดาว์ แล้วปล่อยเช่าให้ได้ราคา ให้ค่าเช่าผ่อนตัวมันเองแบบนั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนะครับ

หรือหาที่ดิน ทำเลพอใช้ สร้างบ้านชั้นเดียวง่ายๆ ปล่อยเช่าถูกๆ หรือสร้างเป็นเพิ่งแบบ โรงจอดรถ แบ่งเช่าให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าค้าขาย ก็ยังได้

ยังไงลองดูครับ

จากคุณ : Miracle Boy [9 ธ.ค. 55 11:21:15 ]
ความเห็นที่ 18

คิดแบบนี้ ผมคิดว่า "ไม่รอด 100%" ครับ

คุณรอดอยู่ได้วันนี้ ไม่ได้แปลว่าจะรอดไปได้อีกเรื่อยๆ อนาคตคนก็มากขึ้น แย่งงานกันมากขึ้น ค่าครองชีพก็มากขึ้น ถ้าไม่รู้จักหาเงินให้มากขึ้น เก็บออม และลงทุนใหดีขึ้น วันนึงก็ต้อวลำบากอย่างแน่นอน อย่าไปฝากความหวังไว้ที่บริษัทที่คุณทำงาน ประกันสังคม เลยครับ ของแบบนี้ไม่คุ้มค่าพอจะเชื่อใจได้หรอก เตรียมตัวด้วยตัวเองดีกว่านะครับ

ลองดูต่างประเทศที่กำลังมีวิกฤติ เกิดอะไรขึ้น รัฐบาลลดสวัสดิการ บริษัทปลดคนงาน มีการประท้วง ทำลายข้าวของ ลักษณะนี้คุณคิดว่ามันจะเกิดได้หรือไม่ในไทย สำหรับผม ผมไม่ทราบ แต่ผมต้องเตรียมตัวรับมือไว้ก่อน เพราะถ้ามันเกิดขึ้นมา ผมก็ยังอยู่ได้ ถ้าไม่เกิดก็ดี ผมก็อยู่อย่างสบายขึ้นอีกหน่อย

จากคุณ : อาร์ตี้ [9 ธ.ค. 55 12:24:07 ]
ความเห็นที่ 19

คิดผิด แล้วน่ะครับ

ลองหาอ่านหนังสือพวก ออมก่อนรวยกว่า อะไรพวกนี้น่ะครับ

การเงินมันควรแบ่งเงินออกเป็นส่วน ๆ ครับ

เช่น

1.ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

2.ออมเพื่อฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย อุบัติเหตุ

3.ออมเพื่อตกงาน เก็บไว้ เท่ากับ ค่าใช้จ่าย หกเดือน ถึง สิบสองเดือน ทำให้เราประคองชีวิตเอาไว้ได้ ยามตกงานน่ะครับ

4.ออมเพื่อการเกษียณ มันต้องเก็บออมตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่ไปลุ้นเอากองทุน อะไรตอนนั้นครับ คือ กองทุน อันน้นน่ะ มันแค่ส่วนเดียว ของแผนการเกษียณ

บอกตรง ๆ ว่าคุณอ่อนเรื่องการเงินนะครับ

นี่ผมยังไม่ได้ พูดถึง การแบ่งพอร์ท ในสินค้าทางการเงินต่าง ๆ เลยนะ

รีบ ๆ ศึกษาเสียเถอะครับ

บอกตรง ๆ เป็นห่วง

จากคุณ : mix_more [9 ธ.ค. 55 12:27:25 ]
ความเห็นที่ 20

เอาทางพุทธนะครับ
ใช้หนี้เก่า คือ ให้พ่อแม่ ท่านให้กำเนิดและเลี้ยงเรามา เราเป็นหนี้บุญคุณท่าน
ใช้หนี้ใหม่ คือ ให้ลูก ลูกเป็นเจ้าหนี้ที่เราสร้างขึ้นมาทีหลัง เป็นเจ้าหนี้ใหม่
ฝังไว้ คือ ให้ทาน ให้เป็นสาธารณะประโยชน์
ทิ้งเหว คือ กินเข้าไป เหวท้องเรานี่ ทิ้งลงไปเท่าไรมันก็ไม่เต็ม

รายได้คุณและภรรยา รวมกันจะว่ามาก ก็ไม่มาก จะว่าน้อยก็ไม่น้อย
รายได้ขนาดนี้ถ้าไม่มีภาระเรื่องบ้านและรถแล้วก็คงคล่องตัวขึ้น
หาทางลดภาระดอกเบี้ยให้เร็วที่สุด ตอนนี้คงต้องประหยัดเรื่องกิน
เรื่องใช้ไปก่อนนะครับ วางแผนครอบครัวดีๆ
ด้านเงินเดือนน้อยไปหน่อย แต่อายุขนาดนี้กำลังสั่งสมประสบการณ์
รายได้น่าจะเพิ่มจากการเปลี่ยนงาน ถ้าเปลี่ยน งานช่วง 2-3ปีนี้
เอารายได้ที่เพิ่มมาเป็นเงินออมสิครับ

จากคุณ : DBM999 [9 ธ.ค. 55 13:39:41 ]
ความเห็นที่ 21

ผมว่าคุณหลอก คุณไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพียงแต่คุณเอาเงินไปลงในทรัพย์สินที่สภาพคล่องต่ำหมด เผลอๆคุณผ่อนบ้านแบบเต็มๆเท่าที่มีเงิน สูงกว่ายอดชั้นต่ำเยอะ

ปัญหาก็แค่ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินต้องการเงินสดจะทำยังไง ปัญหานี้โอกาสเกิดยาก และผมเชื่อว่าคุณแก้ปัญหาได้

จากคุณ : vision [9 ธ.ค. 55 13:43:17 ]
ความเห็นที่ 22

คุณยังดีกว่าผม ผมเงินเก็บ600k แต่บ้านไม่มีรถไม่มีอาศัยอยู่กับพ่อ(พ่อมีบ้านสามหลัง) ใจผมก็อยากมีบ้านนะ แต่พ่อถามเอ็งจะซื้อทำไมถ้าไม่อยู่ อยู่บ้านพ่อก็ได้ จะซื้อรถยิ่งแล้วใหญ่ที่ทำงานอยู่ห่างบ้านแค่7โลนั่งเรือด่วนไปไวกว่าขับรถ แถมที่ทำงาน ส-อ ห่างจากบ้าน300เมตร

จากคุณ : ชัยiriver [9 ธ.ค. 55 18:54:15 ]
ความเห็นที่ 23

กว่าจะไปถึงเกษียณมีอะไรไม่แน่ไม่นอนหลายอย่างระหว่างทางค่ะ
คุณพึ่งอายุ20 กว่าลองลงทุนในพวกอสังหา เป็นการเก็บเงินและลงทุนไปด้วย
ถ้าทำเลดีๆ ก็จะชนะเงินเฟ้อได้ไม่ยาก  หรือตามที่ท่านข้างบนแนะนำมาค่ะ
แต่ถ้าเป็นเรานะ เราคงไม่คิดเป็นลูกน้องไปจนเกษียณ

จากคุณ : music&lyric and cats [9 ธ.ค. 55 23:00:30 ]
ความเห็นที่ 24

หลายๆคนคงอยากให้เก็บตังค์กันนะคะ แต่อิฉันว่ารายได้คุณยังไม่เยอะ อายุก็ยังไม่เยอะ
เป็นอิฉันก็คงเหมือนคุณอ่ะค่ะ คือใช้จนหมด แต่คุณภาพชีวิตก็อยู่ในระดับดีสมเหตุสมผล
ไม่ใช่ว่าเอาแต่เก็บซะจนไม่ได้ทำอะไรให้ตัวเองมีความสุขเลย
รายได้ห้าหมื่นกว่าบาทต่อสองคน ไม่ได้มากมายอะไรจนสามารถอยู่ได้แบบสบายๆพร้อมทั้งมีเงินเก็บ

พยามยามพัฒนาตัวเองให้รายได้สูงขึ้นค่ะ แต่อย่าฟุ้งเฟ้อจนเกินไป
เมื่อมีมากขึ้นแล้ว ตอนนั้นจะมีเงินเหลือพอที่จะเก็บและวางแผนลงทุนต่างๆเอง

อันนี้ความเห็นแบบสุขนิยมอย่างอิฉันนะคะ

จากคุณ : คนดีผีคุ้ม [9 ธ.ค. 55 23:45:47 ]
ความเห็นที่ 25

ผมว่า จขกท ควรจะหาทางลดค่าใช้จ่ายครับ

ผมเคยคิดแบบ จขกท มีเท่าไหร่ใช้หมด

และคงมีเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชึพ ถ้าเกษียณ ก็ได้ราว 7 หลัก

พอดีมีเพื่อนแนะนำหนังสือพ่อรวยสอนลูกให้อ่านก็ลองอ่านดู จึงรู้ว่าอะไรคือทรัพย์สินอย่างไหนคือหนี้สิน จึงพยายามซื้อทรัพย์สินเพิ่ม หนี้ไม่ก่อเพิ่ม  รถก็ใช้คันเก่า

จากนั้นก็แบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุน จนปัจจุบันที่ลงทุนเริ่มส่งผลกลับมา ผมมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องทำงาน อีกส่วนหนึ่ง ตอนนี้ได้ 1 ใน 3 ของเงินเดือนแล้ว

คิดว่าอีกไม่นานผมคงไม่ต้องทำงานและก็มีเงินใช้เท่ากับตอนทำงานครับ.

จากคุณ : gamaga [วันรัฐธรรมนูญ 55 00:10:15 ]
ความเห็นที่ 26

อันตรายครับ

เกิดล้มซักคน เงินเหลือครึ้งเดียว

บ้านกับรถคงต้องรีบขายโดยด่วนหละครับ

จากคุณ : โลหการ4 [วันรัฐธรรมนูญ 55 09:19:25 ]
ความเห็นที่ 27

สนันสนุน  ความคิดเห็นที่ 8 ครับ

จากคุณ : 00 (yunisoft) [วันรัฐธรรมนูญ 55 12:00:28 ]
ความเห็นที่ 28

ทั้งสองคน.... เงินออกมาแต่ละเดือน..หารสามโดยด่วน...เก็บไปเลย 1 ส่วน
ถ้าทำได้ดีก็หารสองไปเลย...

ขนาดวินัยพระ ต้องสันโดษสุดๆ ยามฉุกเฉิน ท่านยังให้สะสมอาหารใว้พอ 7 วันเลยคุณ  

แต่ชาวบ้านอย่างเราๆ... มีอาหารติดบ้านพอให้ทานครบเจ็ดวันหรือไม่
บอกได้เลยว่า ส่วนใหญ่ไม่มี...

คุณใช้ชีวิตอย่างประมาทสุดๆ...

... บางเดือนผมก็ได้มากกว่าคุณหน่อย..  มีขึ้นๆลงๆ...
บางเดือนเอาไปลงทุนเหมางาน...(หมดตูดก็มี ได้กำไรเพิ่มเยอะๆก็มี)... ช่วงนี้เน้นเก็บ ...แต่ผมเก็บเกินครึ่งเลยนะคุณ...

พยายามใช้เงินแค่ไม่เกินเงินเดือนขั้นต่ำ...
คนเงินเดือนต่ำสุดใช้ยังไงและไม่ใช้อะไร ... ผมก็พยายามใช้แบบนั้น...
พยายามประหยัดแล้ว ค่าน้ำมันยังกินไปเดือนละหลายพันนะ...

หารสองเข้าใว้เก็บสี่ห้าเดือนก็เป็นแสนแล้วคุณ...  ไปดาว์นที่ดินนอกเมืองทิ้งใว้สักสองห้อง...

กะว่า ภายในสองปี ได้สักสองสามแปลง ..... แบ่งเช่าไป บ้าง
ทำเลตรงไหนทำธุรกิจอะไรได้ก็รอศึกษาใว้หน่อย...  ทำไม่ได้ก็ไม่ขาดทุนหรอกคุณ ...

แต่ถ้าไม่ได้ทำ... เกิดปัญหาเจ็บป่วย ที่ประกันสังคมเอาไม่อยู่ ปัญหาลูกๆ พ่อ:-)ี้... หันซ้ายขวาก็ไม่ทันเลยนะคุณ... ไม่ทันจริงๆนะ

ถ้ามีที่ดิน  หรือเก็บในรูปของทองคำนิดหน่อย... เงินมาเดี่ยวนั้นเลยคุณ




...

จากคุณ : BlueDelphi [วันรัฐธรรมนูญ 55 21:22:51 ]
ความเห็นที่ 29

ผมว่าคิดประมาทเกินไปนะครับ

ผมแนะนำให้เปิดบัญชีธนาคารขึ้นมาอีกอันนึง ไม่ต้องมี ATM นะครับ

ทุกเดือน ได้เงินเดือนออก ก็โอนเงินจากเงินเดือนเข้าบัญชีนี้ไปก่อน สัก 3000 บาท หรือมากกว่านั้น ไม่ต้องมากจนกระทบการใช้ชีวิตมากนัก แต่ให้ทำสม่ำเสมอครับ ทำให้เป็นนิสัย เพื่อให้จิตใต้สำนึกทำงานว่าต้องมีการออมเงิน  มันก็จะทำให้มีเงินเก็บครับ

เงินฉุกเฉินควรมีเป็นเงินสดตัวเอง ไม่ใช่เอาเป็นเครดิตในวงเงินบัตรเครดิตครับ เพราะเมื่อไหร่มันฉุกเฉินจริงๆ มากกว่าที่คุณเบิกจากบัตรได้ คราวนี้มันจะยุ่งแล้วครับ  ถึงเบิกในวงเงินบัตรได้ ก็จะอ่วมค่าดอกเบี้ยอีก

รายได้ต่อเดือน 55000 บาทต่อครอบครัวอย่างคุณ ผมว่า เงินสำรอง ควรมีอย่างน้อยๆ 200000 บาท นะครับ เป็นเงินออมจริงๆ ที่หักตั้งแต่ได้เงินเดือนมาเลย อย่างแนะนำข้างต้นครับ

จากคุณ : ป้อม (Bgate) [11 ธ.ค. 55 01:24:09 ]
ความเห็นที่ 30

กะไม่ป่วย ไม่โดนไล่ออก ไม่มีการลูกเลยหรือ

จากคุณ : remy&chanel [11 ธ.ค. 55 12:33:23 ]
ความเห็นที่ 31

เก็บเดือนละ 3-4 พันก็ยังดีนะครับ ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตคุณแย่ลงหรอก แต่เก็บไปนานๆ แล้วจะดีต่อครอบครัวคุณแน่ๆ

จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว [11 ธ.ค. 55 14:26:00 ]
ความเห็นที่ 32

เงินตั้ง 55k อยู่กันแค่สองคน ใช้ยังไงหมด แถมบางเดือนไม่พอด้วย

จากคุณ : Pu'Chew [13 ธ.ค. 55 09:50:38 ]
ความเห็นที่ 33

..

จากคุณ : มด (nanoon45) [18 ธ.ค. 55 21:31:17 ]