ตอนนี้แฟนผมได้เปิดร้านขายมือถือที่ bigc โดยการเช่าเนื้อที่ใน bigc โดย jmart เช่าเหมาพื้นที่เอาไว้ แล้วแฟนผมเช่าต่อ jmart มาตอนนี้ jmart เค้าขอขึ้นค่าเข่าที 40% จากปีนี้ แฟนผมตกใจมาก ไม่รู้ทำยังไง ตอนนี้ผมบอกให้เค้าเจรจาต่อลองดู ถ้าคุยไม่รู้เรื่องไม่รู้ว่าฟ้อง สคบ ได้หรือ เปล่า เพื่อนๆว่าไงครับ
จากคุณ : value invester [9 ธ.ค. 55 11:29:56 ]อ่านสัญญาเช่าจิ
จากคุณ : asker2008 [9 ธ.ค. 55 12:14:42 ]ผู้ประกอบการ คงไม่ใช่ผู้บริโภค
เป็นไปตามสัญญาเช่าตามคห.1 สุดท้ายแล้วถ้าค่าเช่าแพงไม่คุ้มก็ต้องยอมแพ้
โดนบีบครับ ... อย่าไปสู้เลย เสียเวลาเปล่า เอาเวลาไปหาทำเลใหม่ดีกว่าครับ
ในโลกแห่งธุรกิจ โหดร้ายแบบนี้แหละครับ ...
ผม ก็เห็นด้วย นะครับ
ถอยดีกว่า นะครับ เราเสียเปรียบทุกประตู ครับ
เพราะเราไม่ได้ เช่าพื้นที่โดยตรงจาก big c
ก็คง ต้องทำสัญญาไปตามความต้องการของ ทาง jmart เขาครับ เพราะเขาก็เช่าที่มาแพงเหมือนกัน
ลองอ่านในสัญญาเช่าฉบับที่แล้วดูว่า ในสัญญา มีข้อไหนบ้างที่เปิดช่องโหว่ ให้เขาสามารถปรับค่าเช่าได้ตามอำเภอใจ แบบนี้ ความจริงการเช่าพื้นที่ขายของแบบนี้ จะมีอายุสัญญาเช่า ปี ต่อ ปี หรือ 3 ปี / ครั้ง และสามารถปรับค่าเช่าได้ต่อครั้ง ไม่น่าจะเกิน 10% ครับ
ทางแก้คือหาที่ใกล้เคียงครับ
เรื่องแบบนี้พูดยากเพราะบางทีไม่มีคนเค้าก็ให้เช่าในราคาถูกเกินจริง แล้วขึ้นหลังจากหนึ่งปี
ต้องดู สัญญาหากหมดสัญญาก็คงทำอะไรไม่ได้ คราวหน้าก็ทำสัญญาระุยาว ป้องกันไว้ ไม่ก็แนบท้ายสามารถต่อสัญญาได้อีก xxปี โดยขึ้นราคาได้ xx %ืก็ว่าไป
หาทำเลใกล้ๆ ที่ราคาถูกกว่าหรือเท่าเดิม
จากนั้นก็ทำใบปลิวเล็กๆเท่านามบัตร ติดป้ายย้ายร้านอะไรกันไป
เพื่อดึงลูกค้าเอาไว้
เอางี้ คนที่มาแทนที่คุณ ณ ที่เก่า
โดนราคาเดียวกันกับคุณหรือเปล่า
ถ้าโดน ราคาเค้าสู้คุณไม่ได้อยู่แล้วครับ
นี่คือจุดอ่อนของการทำธุรกิจที่ต้องมีหน้าร้าน และต้องเช่าเขาครับ
เพื่อนผมทำร้านพิมพ์นามบัตร และบริการด้านเอกสาร เช่าที่ในห้างสรรพสินค้า
พอเริ่มอยู่ตัว ลูกค้ารู้จัก ทางห้างก็เปลี่ยนแปลงพื้นที่ปรับปรุง ไม่ต่อสัญญาให้
เพื่อนผมก็ต้องหาที่ใหม่ พอไปที่ใหม่ ยอดตกลง เพราะลูกค้าหาไม่เจอ ต้องเริ่มเหมือนนับ 1 ใหม่ครับ
เป็นปกติ ของการเช่า พื้นที่ เลย
จากคุณ : ก้นกบ [12 ธ.ค. 55 14:10:52 ]