ใช้เหตุผลหรือใช้ความรู้สึกในการทำงานดีครับ

สวัสดีครับพี่ๆ ผมเป็นนักศึกษาปี 4 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ อีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบแล้ว
ก่อนจะเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน(ถ้ามีบริษัทรับ) ผมอยากจะเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดอะครับ

ประเด็นปัญหาของผมคือ มีอยู่วิชาหนึ่งที่ผมได้ทำงานกลุ่มกับเพื่อน(ผมเองทำงานกลุ่มไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่)
สมาชิกกลุ่มผมทั้งหมด 4 คน ได้แบ่งงานกันประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนกำหนดส่ง
พอถึงหนึ่งวันก่อนกำหนดส่ง ก็ปรากฎว่า มีเพื่อนคนหนึ่งสมมติว่าชื่อ A ทำงานส่วนของตัวเองยังไม่เสร็จ
ขณะที่คนอื่นเสร็จหมดพร้อมจะรวมงานกันแล้ว A นัดเพื่อนในเฟซฯ มาทำงานที่หอสมุด พอผมไปถึง
ปรากฎว่า B ซึ่งเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่ง ได้บอกให้ผมทำงานในส่วนของ A
ในขณะที่ A เอง ก็ให้ผมช่วยทำงานในส่วนของ A ด้วย แต่ผมไม่ทำ ผมยกเหตุผลว่า
1. มีการแบ่งงานกันเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนก็ควรจะทำงานในส่วนของตัวเองให้สำเร็จ
2. แต่ละคนมีเวลาทำราวครึ่งเดือนกว่าๆ ไม่ใช่เพิ่งมาแบ่งงานกันเมื่อวานหรือวันก่อน พอ A ทำไม่
  เสร็จ การทำไม่ทันจึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น

แต่ B กับเพื่อนของB ก็หาว่าผมไม่ช่วยงานส่วนรวม เพราะต้องช่วยกันทำทุกคนงานถึงจะเสร็จ
ซึ่งผมฟังแล้วเหมือนมันเป็นความรู้สึก มากกว่าใช้เหตุผล เหมือนกลับผิดให้กลายเป็นถูก
พอผมไปถามความเห็นเพื่อนที่อยู่นอกกลุ่ม เขาก็เห็นด้วยกับผมว่า การที่ A ทำงานส่วนของตัวเอง
ไม่เสร็จ ทั้งที่มีเวลาทำงานตั้งครึ่งเดือนกว่าๆ แล้วโบ้ยให้ส่วนรวมรับผิดชอบ มันไม่ถูกต้อง
ถ้าอย่างนั้นเกิดผมทำส่วนของตัวเองไม่เสร็จบ้าง แล้วโยนให้คนอื่นรับผิดชอบก็ได้สิ
สรุปคือ ผมเลยไปนั่งเป็นเพื่อนเฉยๆ โดย A ก็นั่งทำงานของตัวเองจนเสร็จ(เกือบเช้า)

แต่ผมก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าเหตุผลของตัวเองถูกต้อง เพราะผมเองย่อมเกิดอคติได้ ผมจึงนำมาถามพี่ๆ
ครับว่า ผมทำถูกต้องหรือเปล่า ผมค่อนข้างรู้สึกไม่สบายใจ เพราะ B และเพื่อนของB
ทำเหมือนกับผมไม่มีความรับผิดชอบ (ทั้งๆ ที่งานเสร็จก่อนกำหนดด้วยซ้ำ)
ผมเลยมีคำถาม 2 ข้อ ดังนี้ครับ

1. ผมทำถูกต้องหรือเปล่าครับที่ไม่ได้ทำงานในส่วนของ A
2. ในการทำงานจริง พวกพี่ๆ ใช้เหตุผลหรือความรู้สึกในการทำงานมากกว่าครับ แบบไหนจะ
  เกิดประโยชน์กับองค์กรมากกว่า หรือเพื่อให้อยู่ในองค์กรได้ ควรจะเน้นส่วนไหนมากกว่า ขอบคุณครับ

จากคุณ : สุชาญ [9 ธ.ค. 55 16:48:06 ]
ความเห็นที่ 1

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ได้บอกว่าความคิดของผมต้องถูก

1. ผมคิดว่าไม่ถูกครับ เพราะเป็นงานกลุ่ม คือถ้า A ทำไม่เสร็จ ก็คืองานกลุ่มไม่เสร็จ ครั้งนี้ยังดีว่า A ทำทัน ถ้าเกิดไม่ทันขึ้นมาจะต้องเสียหายทั้งกลุ่มรวมถึงคุณด้วยนะครับ ผมว่าบางครั้งเราก็ต้องยอมเสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวมบ้างครับ

แต่อย่างไรก็ตาม นาย A ถือว่าขาดความรับผิดชอบ ถ้าไม่ไหวก็น่าจะรีบบอก ไม่ใช่รอจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้วค่อยบอก ถ้าเป็นผม ครั้งนี้ผมจะช่วย แต่จะไม่ทำงานกลุ่มร่วมกับนาย A อีกครับ (จริงๆผมก็เคยเจอกรณีแบบนี้มาแล้ว ซึ่งผมก็ทำอย่างที่บอก คือ ช่วยทำงานปัจจุบันให้เสร็จ แต่หลังจากนั้นไม่ต้องมายุ่งกันอีก)

2. ใช้ทั้ง 2 อย่างผสมกันครับ บางครั้งการใช้เหตุผลแม้ว่าเราจะถูก แต่ก็อาจทำให้องค์กรเสียหายได้ เหมือนงานครั้งนี้ที่ถ้า A ทำไม่เสร็จก็จะต้องเสียหายทั้งกลุ่ม แต่จะใช้อารมณ์อย่างเดียวมันก็คงไม่ใช่ โดยรวมแล้วส่วนใหญ่ก็น่าจะเน้นเหตุผลแหละครับ (คือเหตุผลยังใช้อ้างอิงกับคนอื่นได้ ว่าเรามีเหตุผล แต่อารมณ์มันใช้อ้างอิงไม่ได้)

ลืมถาม ว่าแต่คุณ B ที่บอกให้คุณช่วยงาน แล้วเค้าได้ช่วยงานของ A ด้วยรึเปล่าครับ (แค่สงสัยเฉยๆ พอดีเคยเจอเหมือนกันพวกที่บอกให้ช่วยงาน แต่คนที่บอกให้ช่วยกลับไม่ทำอะไรเลย)

จากคุณ : Sirapak [9 ธ.ค. 55 17:22:37 ]
ความเห็นที่ 2

การทำงานจริง มีเรื่องแบบนี้บ่อยครับ
คนประเภท A ก็มีเยอะ คนที่ไม่รู้จักรับผิดชอบในงานของตนเอง

และคนประเภท B ก็มีเยอะ แต่ถ้าเทียบเป็นหัวหน้างาน บางทีการที่เรา
รับผิดชอบงานตนเองเสร็จแล้ว สามารถช่วยเหลืองานทีมได้
ก็มองเป็นโอกาสได้แสดงผลงาน แสดงฝีมือให้คนประเภท B ได้เห็น

และถ้าโชคดี คนประเภท B เป็นคนยุติธรรม มองกว้าง เป็นผู้นำที่ต้องแก้ปัญหา
เฉพาะหน้า มุ่งหวังให้งานสำเร็จก่อน (เปรียบเสมือน A คือตัวปัญหา)
เมื่องานเสร็จ ก็ควรจะให้ความดีความชอบกับคนอย่างคุณมากกว่าคนประเภท A

คุณจะได้มีกำลังใจนะครับ

จากคุณ : จอนนี่น้อย [9 ธ.ค. 55 17:39:14 ]
ความเห็นที่ 3

ตอบคุณ Sirapak ครับ

B ไม่ได้ช่วย A ทำงานครับ  แต่ B เร่งงาน A  เพราะว่า B เป็นคนจัดPower Pointครับ
(ทำสีพื้นหลังให้เป็นแบบเดียวกัน+หารูปประกอบใส่ตกแต่ง+ปริ้นท์เอกสารส่งอาจารย์)

Power Pointของคนอื่น B จัดเสร็จไปแล้ว เหลือแต่ของ A คนเดียวครับ
(ผมส่งงานช่วงตี 2 รอยต่อวันอาทิตย์-วันจันทร์  B จัดPoint ของทุกคนเสร็จวันจันทร์
เหตุการณ์เกิดวันอังคารที่งาน A ยังไม่เสร็จ ส่งงานวันพุธครับ)

จากคุณ : สุชาญ [9 ธ.ค. 55 18:08:11 ]
ความเห็นที่ 4

แล้ว A นี่สนิทกันไหมคะ เขามีภาระทางบ้านหรือเปล่า


พี่เคยมีเพื่อนตอนเรียนคนนึง ตอนนั้นรู้สึกว่า ทำไมขี้เกียจจัง หลับในห้อง การบ้าน รายงานทำไม่เสร็จ ไม่ค่อยทำ
รู้แต่ที่บ้านเขาขายของ

มารู้ตอนเรียนจบ หลังเลิกเรียน เขาต้องเตรียมของไว้ขายจนดึก เช้าก็ต้องตื่นตี ๔ มาขนของ


จนที่บ้านพี่ขายของพี่ถึงรู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหน





ถ้าพูดเป็นระบบที่ทำงาน น้องอาจจะไม่ผิด ทำแค่หน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ ไม่ช่วยงานคนอื่นก็ไม่ผิด

แต่ ในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย มันยังมีน้ำใจ มีความผูกพันเป็นเพื่อน ที่น้องยากจะหาได้ในการทำงาน

จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก [9 ธ.ค. 55 19:41:23 ]
ความเห็นที่ 5

1. การทำงาน เราทำงานเป็นทีม ชื่อก็บอกแล้ว คือ งานกลุ่ม
อาจารย์ท่านไม่สนใจหรอกจะทำทุกคน คนไหนทำมาก คนไหนทำน้อย
แต่ถ้างานออกมาไม่สมบูรณ์ คะแนนอดทั้งกลุ่มนะครับ
เพราะงั้นเหตุผลที่ยกมาอ้าง คงไม่ 100% แล้วหล่ะ

2. ในการทำงานในแต่ละเทอม แต่ละปี ไม่ได้มีชิ้นเดียวแน่
เพราะงั้นเพื่อนก็จะประเมินกันและกัน ถ้าคุณไม่ช่วยไม่ผิด แต่อนาคตมีใครจะอยากร่วมงานกับคุณบ้าง
อนาคตคุณเองอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่อาจจะดูดี
แต่ถ้าเพื่อนๆ บอกว่าฟังไม่ขึ้นจบทันทีเลย
ส่วนนี้เราควรมีน้ำใจมากกว่านี้หน่อย เพราะเราไม่ได้เดือนร้อนอะไร

สรุปคือ โดนหมายหัวทั้ง 2 คน คุณเองไม่ได้ประโยชน์อะไร แถมเสียประโยชน์อีกต่างหาก

จากคุณ : MortalR2 [9 ธ.ค. 55 20:09:30 ]
ความเห็นที่ 6

ตอบคุณโดดเดี่ยวผู้น่ารักครับ A ไม่ได้มีภาระอะไรครับ

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ บางทีผมอาจจะเห็นแก่ตัวหรือยึดเหตุผลทื่อๆ เกินไป

ถ้าพี่ๆ คนไหนอยากแนะนำเพิ่มกรุณาแนะนำได้เลยนะครับ อีกไม่กี่เดือนผมจะจบแล้ว
ถ้าไม่ติดทหาร คงจะได้หางานทำจริงๆ จังๆ ผมจะได้นำไปเป็นข้อคิด
ในการทำงานในอนาคตครับ

ขอบคุณครับ

จากคุณ : สุชาญ [9 ธ.ค. 55 21:57:59 ]
ความเห็นที่ 7

การช่วยงานกันเป็นสิ่งดีครับ พื้นฐานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน งานที่แบ่งให้ เค้าอาจจะไม่ถนัด จึงใช้เวลามาก ถ้างานเราเสร็จ การช่วยเพื่อนก็เป็นสิ่งดี ในชีวิตจริง การแบ่งงาน ไม่มีทางเท่าเทียมกันหรอก มันจะมีคนทำน้อยทำมาก

ปล แต่ผมไม่ชอบพวกที่มาสั่งให้เราช่วยเค้าแต่ตัวเองไม่ช่วย มากกว่า (ถ้าเค้าไม่ใช่เจ้านายนะ)

จากคุณ : Tiger อู๊ด [9 ธ.ค. 55 22:50:56 ]
ความเห็นที่ 8

ผมคิดว่าการทำงานเป็นทีม ผมจะยึดหลัก เรื่องการแบ่งหน้าที่ แต่ไม่แบ่งความรับผิดชอบ

แต่การทำงานเป็นทีมในช่วงที่เรียนก็มีหลากหลาย เพราะหลายประเภทงาน หลายผู้ร่วมทีม

สำคัญที่สุดคือผู้ร่วมทีม ถ้าเรามีสิทธิเลือก แล้วได้ผู้ร่วมทีมที่ดี อะไรๆ ก็ง่าย  แต่มันคงสบายเกินไป ได้แต่จัดการงาน ไม่ได้จัดการคน

ถ้าเป็นสมัยที่ผมเรียน ถ้าได้เพื่อนในกลุ่ม แบบดีบ้างไม่ดีบ้าง เราก็คงพอรู้บ้าง เราก็คงขอมีส่วนร่วมในการแบ่งงานตั้งแต่ต้น แบ่งงานให้คนที่ไม่มีความรับผิดชอบน้อยหน่อย แล้วคอยติดตามช่วยเหลือ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยตอนท้าย

ถ้าเจอแบบแล้วร้ายสุดๆ รู้ว่าเค้าเอาไปก็คงไม่ทำ ดองงาน ก็อาจไม่แบ่งให้เค้าเลย แต่ให้เค้าเป็นผู้ช่วยอีกที เพื่อผลลัพธ์ของงาน

บางคนพูดมาก เวลาประชุมค้านตลอด อ้างโน้นอ้างนี่ เสียเวลาคนอื่น ก็แกล้งนัดคุยงาน ตอนที่คิดว่าเค้าไม่ว่าง ^ ^

อันนี้เป็นเรื่องสมัยผมเรียนนะครับ เจอคนหลากหลาย ทั้งกลุ่มใหม่ กลุ่มเก่า คนดี และคนไม่ดี แต่มันก็ยังง่าย เพราะมีแค่ช่วยและไม่ช่วย (ในการทำงานจริง มันมีการขัดขา ขัดขวาง ฯลฯ) แต่มันก็ช่วยให้เราได้ฝึกฝน เพราะการจัดการกับคน จริงๆ อาจจะยากมากกว่าจัดการงานด้วยซ้ำ

จากคุณ : tum426 [วันรัฐธรรมนูญ 55 08:39:01 ]
ความเห็นที่ 9

ธรรมชาติของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ  
บางคนเหมาะที่จะเป็นผู้นำ บางคนเหมาะที่จะเป็นพนักงาน แต่บางคนไม่เหมาะที่จะเป็นอะไรเลย

กลุ่มงานที่ทำถ้าเปรียบเป็นงานบริษัท
นาย A ไม่เหมาะที่จะเป็นอะไรเลยครับ  เพราะไม่รับผิดชอบงาน บั่นทอนให้บริษัทเสียหาย  ครั้งแรกน่าจะได้รับใบเตือน ครั้งต่อไปเลิกจ้างโดยไม่จ่ายชดเชยครับ

นาย B เป็นห่วงว่างานจะไม่เสร็จ  จึงพยายามขอให้เพื่อนช่วยนาย A เพราะตัวเองยุ่งอยู่กับการทำสีพื้นหลัง+หารูปประกระกอบแบบ+ปริ้นเอกสารฯลฯ  เมื่อเพื่อนไม่ช่วยก็พยายามเคี่ยวเข็ญให้นาย A เร่งทำ  มีความกังวลต่องานที่ร่วมรับผิดชอบ  คนอย่างนี้เหมาะที่จะเป็นผู้นำครับ

สำหรับคุณ  รับผิดชอบงานในส่วนที่ได้รับมอบหมายมาดี งานคนอื่นไม่เกี่ยวข้อง ใครทำผิดก็ช่างเขา บริษัทจะเสียหายก็ไม่ใช่เราทำ ไม่ยินดียินร้าย  อย่างนี้เหมาะที่จะเป็นพนักงานครับ

จากคุณ : บุญถิ่น [วันรัฐธรรมนูญ 55 09:39:21 ]
ความเห็นที่ 10

คือคุณเองใช้ทั้งเหตุผล และอารมณ์ครับ

เหตุผลของคุณถูกต้อง แต่คุณคิดว่าการที่คุณต้องมาทำให้ A มันทำให้คุณ"รู้สึก"ว่าไม่ยุติธรรม เห็นมั้ยครับมันมีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง

ที่จริงแล้วสิ่งที่สำคัญกว่าคืองานต้องเสร็จ ผมคิดว่าทำงานให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปทำเรื่องรองๆ คุณจะแบน A อะไรก็ว่ากันไป แต่ ณ ขณะที่งานกองข้างหน้าและมีกำหนดส่งรออยู่ ไม่ควรที่จะให้อะไรมาสำคัญกว่างานเสร็จสมบูรณ์พร้อมส่ง

ในชีวิตจริงคุณก็ต้องเจออย่างนี้ เวลางานไม่เสร็จ ไม่มีใครฟังหรอกว่าคุณซวยเพราะเพื่อนร่วมงานแย่ หากเค้ามอบหมายงานที่มันง่ายมากๆ ก็คงไม่ต้องจ้างเราครับ

จากคุณ : Mr. Prodigy [วันรัฐธรรมนูญ 55 09:53:13 ]