+++++ วิธีตกแต่งร้านค้า ให้ขายดี +++++


      คุณเคยไหม  ที่เวลาเดินซื้อพวกผัก ผลไม้ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต  เวลาดูที่ร้านก็รู้สึกว่าผักผลไม้สีสวยน่าทาน แต่พอซื้อแล้วกลับมาที่บ้านก็รู้สึกว่าความสวยของผลไม้น้อยลง  หรือตอนเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าตามร้านดังๆ ลองชุดในห้องแต่งตัวรู้สึกว่าชุดที่เราลองใส่ ใส่แล้วเข้ากับเรามาก เราใส่ชุดนี้แล้วสวยขึ้นเยอะ    สิ่งเหล่านี้เป็นผลมาจากการตกแต่งร้านค้าให้เหมาะกับสินค้าครับ
การจัดร้านโดยใช้ แสง สี เสียง กลิ่น ให้เหมาะสมกับสินค้า จะช่วยให้สินค้าของคุณดูสวยงามมากกว่าปกติ  และแน่นอนว่าลูกค้าย่อมที่จะอยากซื้อสินค้าจากร้านของคุณมากขึ้น

ผมขอแนะนำวิธีการเล็กๆน้อยสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว , ค้าขาย ให้ตกแต่งร้านเพื่อกระตุ้นยอดขายดังนี้ครับ

- สี การเลือกใช้สีให้เหมาะกับสินค้าจะส่งผลกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า   โดยสีสดใส เช่น สีแดง สีส้ม  สีชมพู  จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เช่น ร้านเครื่องสำอาง Karmart ใช้โทนสีชมพูตกแต่งทั้งร้าน
ซึ่งสีชมพูเป็นสีที่ผู้หญิงส่วนมากชอบ เมื่อผู้หญิงเห็นสีชมพู ก็จะรู้สึกสะดุดตาทันที     ส่วนการตกแต่งภายในร้าน ถ้าเราตกแต่งร้านโดยใช้สีโทนแนวอบอุ่น เช่น  สีเทาอ่อน สีไม้  จะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ลูกค้าเมื่อเดินเข้ามาเลือกสินค้าแล้ว จะรู้สึกสบายๆ เหมือนกับอยู่ในบ้านตัวเอง
ทำให้ลูกค้าอยู่ในร้านนานขึ้น  ตัวอย่างการตกแต่งสีของร้านแนวนี้ก็เช่น Apple store นั่นเอง ซึ่งสีแนวอบอุ่นจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเลือกสินค้าได้อย่างสบายใจ ไม่รีบร้อน ในความคิดผม ผู้ที่ทำธุรกิจควรให้ความสนใจเรื่องสีในร้านค้าเป็นพิเศษ  เพราะว่าจะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ง่าย โดยใช้ต้นทุนน้อยครับ

- แสง  ร้านขายเสื้อผ้าควรจะใช้ไฟที่มีแสงโทนเหลืองมากกว่าแสงสีขาว เพราะจะช่วยให้สีผิวของลูกค้าดูสวยขึ้น และเวลาลองเสื้อผ้าในร้านจะดูดีขึ้น    ส่วนในกรณีร้านอาหารมีการวิจัยออกมาแล้วว่าแสงสว่างจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากทานอาหารมากขึ้น  จึงสังเกตุได้ว่าพวกร้าน Mcdonald,KFC จะเปิดไฟให้สว่างตลอดเวลา เพื่อให้ลูกค้าทานอาหารได้มากขึ้น  และการวิจัยยังบอกอีกว่าถ้าเปิดไฟสลัวๆ จะช่วยให้ลูกค้านั่งอยู่ในร้านนานขึ้น (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลูกค้ามองไม่ชัดจึงค่อยๆ ทานหรือเปล่า)  พวกร้านอาหารแนวผับจึงมักใช้ไฟสลัวๆ เพื่อให้ลูกค้านั่งอยู่ในร้านนานๆ ลูกค้าจะได้สั่งเครื่องดื่มเยอะๆ

- เสียง  มีการวิจัยว่าถ้าในร้านขายของมีการเปิดเพลงบรรเลงช้าๆ จะทำให้ลูกค้าอยู่ในร้านนานกว่าการเปิดเพลงอื่นๆ  อาจจะเพราะลูกค้าสบายใจที่ได้ฟังเพลงบรรเลงช้าๆ และรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งการที่ลูกค้าอยู่ในร้านนานขึ้น ก็ทำให้คุณมีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น ส่วนในร้านอาหาร fast food การเปิดเพลงที่ให้จังหวะตื่นเต้น จะช่วยให้ลูกค้าทานเร็วขึ้น  ซึ่งเป็นผลดีกับร้าน เพราะร้านอาหาร fast food ต้องการให้ลูกค้ารีบทานให้เสร็จเร็วๆ เพื่อที่ลูกค้าใหม่จะได้มานั่งแทน

- กลิ่น  ในไทย การใช้กลิ่นมักจะพบในร้านขายผลไม้ ร้านปิ้งย่างต่างๆ ซึ่งเป็นกลิ่นธรรมชาติจากอาหารโดยตรง   เมื่อคนได้กลิ่นอาหารก็จะกระตุ้นความอยากอาหารและซื้ออาหาร  แต่ที่ญี่ปุ่น มีธุรกิจที่ขายกลิ่นโดยเฉพาะ โดยมีกลิ่นให้เลือกหลายอย่าง เช่น กลิ่นกล้วย กลิ่นผลไม้ต่างๆ กลิ่นยางรถยนต์ กลิ่นลมหายใจของไดโนเสาร์  ซึ่งพ่อค้าผลไม้บางคนก็จะซื้อกลิ่นผลไม้เช่น กลิ่นมะม่วง ไปพ่นหน้าร้าน   (มีเครื่องพ่นกลิ่น) เพื่อที่จะกระตุ้นให้ลูกค้าที่ผ่านหน้าร้านซื้อมะม่วงจากร้านของตน ร้านเกมส์ที่ปกติมักจะมีแต่ผู้ชายมาเล่น  ก็นำเอากลิ่นที่ผู้หญิงชอบมาพ่นในร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าผู้หญิงให้เข้าร้านเกมส์มากขึ้นครับ (ดูรายละเอียดได้จากคลิปรายการ Dohiru)
ดังนั้นถ้าเราเอากลิ่นมาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับร้านค้าก็มีโอกาสสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากขึ้นครับ

- การตกแต่งอื่นๆ นอกจาก แสง สี เสียง กลิ่น ที่กล่าวไปแล้ว เราสามารถตกแต่งร้านอย่างอื่นได้ เช่น ร้านชาชักบางเจ้า จะใช้การชักชาที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มายืนดูการชักชา หรือร้านขายขนมปังบางเจ้าจะทำครัวเปิดโล่งเพื่อที่จะให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนวิธีทำว่าสะอาด และกลิ่นขนมปังจากครัวจะดึงดูดลูกค้าให้ซื้อขนมปังอีกด้วย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว , ค้าขาย ได้ไอเดียตกแต่งร้านให้ดึงดูดใจลูกค้ามากขึ้นนะครับ

ที่มา
www.ThaiSMEfriend.com


.

จากคุณ : มังกรซ่อนกาย [วันรัฐธรรมนูญ 55 17:57:14 ]