นักขายมือเซียน - ตอนสุดท้าย

20 ทรัพยากรค่าล้นคือเวลา


เขียนนักขายมือเซียนให้คุณอ่านกันมานานเต็มที ไม่รู้ว่าเริ่มจะเบื่อ เริ่มจะเซ็งกันบ้าง

หรืออย่างไร เจอะเจอใครต่อใครที่รู้จักมักคุ้น ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าไม่ค่อยจะมี

เวลาอ่านเรื่องเวลา


ผมมีเวลาเขียนให้คุณๆ อ่าน แต่คุณกลับบอกว่าไม่มีเวลาอ่านที่ผมเขียน......


เวลาของคุณและของผม หรือของใครๆ มันก็มีคนละ 24 ชั่วโมงต่อวันเท่าๆ กัน

เห็นจะต้องคุยกันเรื่องเวลา การบริหารเวลา กันเสียหน่อยจะดีไหม

เพราะเห็นที่ไหนๆ ก็สนอกสนใจเรื่องการบริหารเวลาด้วยกันทั้งนั้น


คุณเป็นนักขายมือเซียนทั้งที จะมางมงายล้าสมัยได้อย่างไรกัน เสียชื่อสถาบันนัก

ขายมือเซียน


วันก่อนผมแย็บไปอยู่นิดหนึ่ง เรื่องคุณสมบัติที่สำคัญของนักขายและได้พูดถึงการรู้

คุณค่าของเวลาว่าเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ขอสาธยายให้มันกระจ่างแจ้งแสดงความคิด

เห็นอีกสักที คุณคงไม่บ่นกระไรหรอกนะ ไหนๆ ก็หลงเป็นแฟนกันมานานเต็มที


เรื่องเวลา ของนักขายมือเซียนอย่างคุณ ก็คงเหมือนกันกับเวลาของใครต่อใครในโลก

นี้ทั้งหมด ต่างคนต่างมีปีละ 365 วัน หรือ 12 เดือนเท่ากัน เดือนหนึ่งหนึ่งก็มี 30 วัน

บ้าง 31 วันบ้าง


ในแต่ละวัน ทั้งคุณทั้งผม ต่างก็มีคนละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน


เจ้า “เวลา” ที่ผมว่ามานี้ นักบริหารมือฉกาจของโลกต่างยอมรับกันว่ามันเป็นของ

สำคัญ เป็นสมบัติประจำกายของต่างละคนเลยทีเดียว และถือกันว่าเป็นทรัพยากร

ทางการบริหารที่มีค่ามากที่สุดเสียด้วย


ที่ว่ามันสำคัญก็เพราะว่า มันไม่เคยหยุดนิ่งไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง น้ำท่วม ปฏิวัติ

หรือเครื่องบินตกเพราะถูกจรวดยิง มันไม่สนใจใยดีทั้งสิ้น มันไม่เคยง้อหรือหยุดรอ

ใครเลย ดอกเบี้ยที่มันบานทุกโอกาสก็เพราะไปผูกติดไว้กับเวลา ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมัน

ผ่านแล้วก็เลยไป จะซื้อมาเพิ่มเติมก็หาไม่ได้


คุณจะเป็นเจ้าสัวมีเงินกองเท่าภูเขาทอง ก็ไม่มีให้คุณ


ถึงจะมีอำนาจล้นฟ้า โตคับบ้านคับเมืองก็ไม่มีสิทธิอีกนั่นแหละ


ที่เจ็บแสบยิ่งกว่าอะไรก็คือ นอกจากจะหาซื้อไม่ได้แล้ว บางคนยังไม่มีสิทธิจะใช้มัน

ได้อีกต่อไปเสียด้วย


จะเรียกว่าเวลาหมดหรือหมดเวลาก็ได้


มันเป็นสัจธรรมหรือธรรมสัจจะของหลวงพี่พระมหาพะยอมยังไงยังงั้นทีเดียวเชียว


นักขายมือเซียนอย่างคุณจะไม่สนอกสนใจเสียเลยก็คงไม่ถูกต้อง


คุณควรจะได้รู้ว่าจะหาทางใช้เวลาที่เป็นทรัพยากรของคุณ ให้เกิดประโยชน์อย่าง

ประหยัดได้อย่างไร เป็นการใช้เวลาอย่างมีทั้งประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ


ผมกลัวอย่างเดียว คุณจะรู้จักฆ่าเวลามากกว่าค่าของเวลาเสียมากกว่าจริงไหม


เมื่อทุกคนต่างล้วนแต่มีเวลาเท่าๆ กัน การที่ใครจะมีผลงานความก้าวหน้ามากน้อย

กว่ากัน นอกเหนือจากความรู้ความสามารถแล้ว การรู้จักใช้หรือบริหารเวลาก็เป็นเรื่อง

ทีมองข้ามไปไม่ได้


ลองมาดูกันซิว่า จะใช้เวลากันอย่างไร มันถึงจะดีมีประโยชน์สูงสุด


และถ้าคุณรู้ว่าเวลาที่คุณมีอยู่นั้น มันมีค่ามีราคาเป็นตัวเงินแล้วคุณคงจะต้องเห็นด้วย

กับผมแน่ๆ ว่า


เงินทองเป็นของมีค่า เวลาเป็นเงินเป็นทองได้จริงๆ

หนังสือที่น่าสนใจสำหรับ "นักขาย"

ห้องสมุด "ลุงแอ็ด"

สมมุติว่าคุณอายุ 22 ปี ทำงานได้เงินเดือนๆ ละ  9,000 บาท  ไม่รวมค่าเบี้ยเลี้ยง ค่า

คอมมิชชั่นในการขาย และคุณกะว่าคุณจะทำงานเป็นนักขายไปจนอายุได้ 55 ปี ก็จะ

เกษียณไปอยู่บ้านนอก ปลูกผักเลี้ยงปลา ทำไร่ ทำสวนไปตามประสา


ซึ่งก็แสดงว่าคุณมีเวลาทำงานขายเรื่อยไปเป็นเวลา 33 ปี


ถ้าปีหนึ่งมี 365 วัน เมื่อหักวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์ วันลาป่วย ลากิจ ลา

พักร้อนตามสิทธิเสีย 40 วัน คุณก็เหลือเวลาทำงานปีละ 325 วันพอดิบพอดี


คราวนี้หากคุณต้องทำงานวันหนึ่งๆ แค่ 8 ชั่วโมงตามกฎหมายแรงงาน แต่ที่จริงทำ

ประเดี๋ยวเดียว คุณก็จะมีเวลาทำงานปีละ 2,600  ชั่วโมง


ถ้ามีเวลาทำงานทั้งหมด 33 ปี ก็จะเป็นเวลาทำงานทั้งสิ้น 85,800 ชั่วโมง ถ้าคุณได้

เงินเดือนประจำเดือนละ 9,000 บาท คิดเป็นชั่วโมงก็จะเป็นมูลค่าชั่วโมงละ 37.50

บาท


คุณก็จะเป็นเจ้าของเวลาที่มีมูลค่าทั้งสิ้น 3,217,500 บาท


เท่ากับรางวัลสลากกินแบ่งของรัฐบาลรางวัลที่หนึ่งตั้งสามใบ


ซึ่งในความเป็นจริงมันจะต้องมีมากกว่า เพราะเงินเดือนได้เพิ่มขึ้นทุกปี ถ้าไม่ถูกเขา

ไล่ออกเสียก่อน


คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าคุณมีเงินอยู่ตั้งสามล้านกว่าบาทเป็นทุนทรัพย์ หรือเงิน

สำรองใช้ในการลงทุนหมุนเวียน คุณจะเอาทำอะไรดี มันถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด


แต่ถ้าคุณไม่รอบคอบไม่รู้จักวางแผน พอใช้มันหมดไปวันหนึ่งๆหรือถึงคุณไม่ใช้มัน

เลยมันก็จะหมดไปเองโดยอัตโนมัติ คุณไม่คิดเสียดายมันบ้างหรืออย่างไร

หนังสือที่น่าสนใจสำหรับ "นักขาย"

ห้องสมุด "ลุงแอ็ด"

ลองเอามาแบ่งใช้เป็นส่วนๆ จะดีไหมครับ


1.  ออกไปหาลูกค้า เป็นงานหน้าที่หลักที่คุณจะต้องทำเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า

ประเภทไหนก็ตามแต่ ทั้งที่เป็นลูกค้าเก่าลูกค้าปัจจุบัน ลูกค้าใหม่หรือจะแบ่งเกรด

แบ่งชั้นลูกค้า อย่างไรสุดแท้แต่ใจคุณ คุณคงต้องใช้เวลากับมันให้มากกว่าอย่างอื่น

สักหน่อย


หากถ้าคุณรู้วิธีการทำงาน การออกเยี่ยมลูกค้า การหาข้อมูลในตลาด การจัดเตรียม

การเขียนรายงาน การเดินทางไปต่างจังหวัดก็จะทำให้คุณประหยัดเวลาที่มีอยู่มาก

ขึ้น


เรื่องอย่างนี้ถ้าคุณสนใจ รู้จักวางแผน เตรียมการไว้ล่วงหน้ารับรองได้ว่าสบายมาก


แต่ส่วนใหญ่ที่ผมได้เคยพบเคยเห็น พูดได้คำเดียวว่ายากส์เพราะไม่มีใครสนใจ


ทำงานกันตามสบาย บางคนแม้จะมีแผนการเดินทางให้เจ้านายที่กทม.อนุมัติแล้วก็

ตาม พอเอาเข้าจริงๆ รายการแหกตาเจ้านายก็ให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ


ลองมานั่งคิดดูให้ดีๆ ซีครับ คุณจะเห็นอะไรดีขึ้นมากมายก่ายกองทีเดียว


2.  ศึกษาหาความรู้  เป็นเรื่องจำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะการ

ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม กับการที่จะเป็นนักขายมือเซียนนั้นเป็นของคู่กันทีเดียว ยิ่ง

สมัยนี้อะไร มันก้าวหน้าจนแทบจะตามไม่ทันอยู่แล้ว ข่าวสารข้อมูลที่ต้องอ่าน ต้อง

ติดตามก็มีมากมายก่ายกองจดจำกันไม่ไหว


การอ่านข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานการขาย การตลาด การโฆษณา คุณจะ

ละเลยเสียไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าสนใจจริงๆ น่าจะลองซื้อเทปการบรรยายเรื่องการ

ค้าการขายที่อัดไว้เป็นชุดๆ เช่น ของมร.ยาซีน เอสเอ็มมูตู หรือของ นิตยสารนักขาย

ก็ยังได้ แทนที่จะซื้อเพลฮิตติดอันดับหรือเทปตลกฮาจนตกถนนฟังกัน ถ้าเบื่อฟังเต็ม

ทีจะซื้อเทปการเมืองการบ้านของ คุณสมัคร สุนทรเวช ฟังไว้ประดับความรู้และศึกษา

วิธีการพูดที่นักขายมือเซียนหลายๆ คนต้องชิดซ้ายตกขอบไปเลยก็ยังดี


หนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การค้า เดี๋ยวนี้ก็มีกันออกเกร่อ ล้วนแต่ดีๆ ด้วย

กันทั้งนั้น จะอ่านเล่มไหนเลือกได้ตามกำลังทรัพย์ แต่ที่ผมเคยเขียนเป็นเจ้าประจำก็

ต้อง ฐานเศรษฐกิจ ประชาชาติธุรกิจ เจ้าเก่าซึ่งไม่ต้องโฆษณาอะไรกันมาก และน้อง

ใหม่ไฟแรงที่ทำท่าจะแซงขึ้นหน้าก็เป็น ผู้จัดการ


แต่ถ้าเบื่อผมเต็มทีก็อย่าตามไปอ่านกันเลย เอาแต่ซื้อแล้วให้คนอื่นอ่านก็เห็นจะพอ

หนังสือที่น่าสนใจสำหรับ "นักขาย"

ห้องสมุด "ลุงแอ็ด"

3. อยู่กับครอบครัว แหมเรื่องนี้ผมชักเหนียม เพราะกลัวจะไปสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำเสีย

เปล่าๆ เรื่องอย่างนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก เพราะทุกวันนี้นักขายมือเซียนอย่าง

คุณหรือแม้แต่ตัวผมเองก็ทำงานกันอยู่ก็เพราะลูกเพราะเมียนี่แหละ


การให้เวลากับครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโดยปกตินักขายมือเซียนจะทำงานกัน

ไม่เป็นเวลาประจำ สุดแท้แต่ความสะดวกของลูกค้า บางทีต้องคอยติดตาม คอย

บริการหรือแม้แต่ต้องไปเลี้ยงดูปูเสื่อ ซึ่งไม่ว่าคุณว่าผมล้วนชอบด้วยกันทั้งนั้น


การที่ทัพหลังจะได้มีโอกาสเข้าใจสภาพการทำงาน ก็จะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ดี

และมีส่วนช่วยคุณได้มาก เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยเป็นห่วงเป็นใย ยิ่งถ้าเดินทาง

ไปต่างจังหวัดครั้งละหลายๆวันไปกันใหญ่ ต่างคนต่างห่วง ไม่ต้องเป็นอันทำงานกัน

ล่ะ


แต่ก็มีนักขายไม่น้อยเชียวล่ะที่ถือโอกาสไปเปิดหูเปิดตา หาเศษหาเลย เรียกว่าสนุก

เสียจนลืมคนที่บ้านเอาทีเดียว ที่หนักยิ่งกว่านั้น คือมีบ้านสำรองไว้ตามทางที่จะต้อง

ผ่านเป็นการประหยัดค่าที่พัก ค่าอาหาร แต่ต้องเสียค่าส่งเสียมากขึ้น เรื่องอย่างนี้ผม

ว่าตัวใครตัวมันจะดีกว่า


4.  พักผ่อนหย่อนใจ  คนเรานั้นไม่ใช่เครื่องจักรเครื่องยนต์ มันก็คงต้องเหน็ดเหนื่อย

เมื่อยเพลียกันอยู่บ้าง จะไม่ให้หยุดพักผ่อนเสียเลยคงทำไม่ได้ อย่างน้อยก็เป็นการ

เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ให้เกิดความเครียด ความเซ็งเพราะมันจำเจ ซ้ำซาก


ส่วนใครจะชอบอะไรก็สุดแท้แต่ใจ บางคนชอบนอนอยู่กับบ้านดูวีดีโอ โทรทัศน์ บ้าง

ก็ออกไปช้อปปิ้ง เป็นการหาข้อมูลทางการตลาดไปในตัว บางคนชอบอ่านหนังสือ

ทำงานบ้าน ปลูกต้นหมากรากไม้ เลี้ยงนกเขาหรือเล่นหมากรุก หรืออาจจะไปเล่น

กีฬาไปทัศนาจร ฯลฯ เพื่อให้ร่างกายมันกระฉับกระเฉงขึ้น  พอออกไปทำงานมันจะ

ได้แคล่วคล่องว่องไว  ทันลูกทันคนมากขึ้น


เรื่องอย่างนี้ต้องเป็นแบบลางเนื้อชอบลางยา ทางใครทางมันหรือจะคิดไปเต้นดิสโก้

ดูโชว์ที่เพิ่มชีวิตชีวาก็ไม่แปลก


ส่วนนักขายที่ชอบพักผ่อนด้วยการเล่นการพนัน ไม่ว่า เล่นไพ่ เล่นหวย เล่นมวย เล่น

ม้า เห็นทีจะต้องขอบิณฑบาต เพราะมีแต่เจ๊งลูกเดียว  แต่ถ้าจะตั้งวงเสพสุราเป็นบาง

คราวผมว่ายังพอจะไปกันได้

หนังสือที่น่าสนใจสำหรับ "นักขาย"

ห้องสมุด "ลุงแอ็ด"

5.  ให้สังคม เรื่องนี้เห็นจะพูดง่ายแต่ทำได้ยาก เพราะเป็นเรื่องที่คุณอาจต้องใช้ทั้ง

เวลาและเสียเงินตราซ้ำสอง เพราะการที่คุณจะไปเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ทางสังคม

มันคงหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นสมาคม ชมรมวิชาชีพ ทั้งโรตารี่

ไลออนส์ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศ

ไทย สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย สารพัดชมรมหรือแม้แต่สมาคมนักเรียนเก่าก็

ตามที


คุณควรจะให้เวลากับสังคมเหล่านี้บ้าง เพราะอย่างน้อยมันก็จะทำให้คุณได้พบปะผู้

คนในวงการอาชีพเดียวกัน หรือต่างวงการทำให้ได้รับข่าวสารข้อมูล ข้อคิดเห็น หรือ

แม้กระทั้งความช่วยเหลือเกื้อกูลจากคนที่ได้รู้จักกัน


ขออย่างเดียวอย่าได้เข้าไปทำให้วงเขาแตก เพราะคุณเที่ยวได้เหมาเอาคนเหล่านั้น

ว่าเป็นลูกค้าผู้ที่คุณมุ่งหวังขายสินค้าลูกเดียว


จะมีอยู่บ้างก็เพียงรายสองราย พอเป็นน้ำกระสายยาหรือพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคุณก็เป็น

นักขายที่มีฝีมืออยู่ ไม่ถึงกะหมดฝีมือเสียทีเดียว


อย่าเอาแต่ขายทุกคนที่ขวางหน้าเป็นใช้ได้ เดี๋ยวจะว่าผมไม่เตือน


6.  ออกกำลังเล่นกีฬา  เดี๋ยวนี้ผมเห็นนักขายส่วนใหญ่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ไม่น้อย

ทีเดียว จะว่าไปมันก็เกี่ยวกับความอยู่รอดหรือการใช้เวลาที่คุณมีอยู่ให้ได้นานกว่าคน

อื่นนั่นเอง


แต่ข้อเสียก็มีบ้างเหมือนกัน  เช่นค่าใช้จ่ายในการเล่นแต่ละครั้งซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณจะ

เล่นกีฬาประเภทไหน ถ้าคุณอยากจะเล่นกอล์ฟก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็มีกีฬาอีก

หลายๆ อย่างที่น่าเล่น เช่น เทนนิส แบดมินตัน ปิงปอง ว่ายน้ำ หรือแม้กระทั้งจ๊อกกิ้ง

ก็ไม่เลวเหมือนกัน


แต่ถ้าจะให้ประหยัดก็ควรที่จะไปตามสโมสรที่มีเกมส์หลายๆ อย่างให้คุณเล่นได้ตาม

ใจ


หรือคุณจะไปหัดมวยจีนไท้เก็กก็คงเข้าทีเหมือนกัน


ขอเพียงแต่ให้ได้ออกกำลังออกเหงื่อ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้โลหิตหมุนเวียนดีขึ้น

กล้ามเนื้อได้ทำงานมากขึ้น เพราะอย่างน้อยคุณก็ต้องเชื่อว่า


จิตใจที่ดีย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรงเหมือนผมเช่นกัน


7.  ฝึกสมาธิ  เรื่องนี้ออกจะแปลกแหวกแนวไปสักหน่อย แต่ผมเห็นว่าถ้าคุณทำได้

มันจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะมันไม่ใช่การพักผ่อนแต่ทางร่างกายเพียงอย่างเดียว

แล้วเพียงพอ มันควรจะพักผ่อนสมอง อารมณ์ ความคิด ความอ่านเสียด้วย


การทำสมาธิเพื่อให้จิตสงบจะช่วยให้คุณมีจิตใจดีขึ้น ซึ่งก็ย่อมกระทบต่อร่างกายของ

คุณโดยตรง


แต่ไม่ใช่การนั่งวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อที่จะได้สำเร็จไปสู่นิพพานอย่างที่เขาทำกัน

หรอกนะ


มันเป็นเรื่องของการพักจิตให้สงบเท่านั้น


คุณจะนั่งเฉยๆ ปล่อยใจให้ว่างเปล่าหรือจะฝึกเล่นโยคะ หรือพลังจักรวาลก็ได้ทั้งนั้น


หากขี้เกียจเต็มที่จะนอนให้หลับเสียสนิทเสียเลยก็ยังได้ มันช่วยคุณได้มากทีเดียว


ครับที่เล่ามาให้ฟังนี้ ก็เพื่อที่จะบอกคุณว่า เวลาเป็นของมีค่ามีราคาค่างวด

ถ้ารู้จักนำมาใช้มันก็จะได้ประโยชน์

ขอขอบพระคุณ อาจารย์ไพบูลย์ สำราญภูติ เป็นอย่างสูง ที่กรุณามอบบทความใน

หนังสือเล่มนี้ให้ลุงแอ็ดนำมาถ่ายทอดเพื่อเป็นความรู้ให้แก่ผู้ที่เป็นนักขายทุกท่าน

นักขายมือเซียน


นักขายมือเซียน...ตอนที่ 1 คุณขายอะไร...ใคร่ขอถาม?

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/08/B12474441/B12474441.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 2 คุณมีความสามารถขายได้เพียงไหน?

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/08/B12484001/B12484001.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 3 ลูกค้าคิด มีปฏิกิริยา ประการใด

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/08/B12510782/B12510782.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 4 คุณต้องคิดเตรียมแผนไว้ให้จงดี

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/08/B12537244/B12537244.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 5 อย่าขายอย่างขู่เข็นหรือรุกเร้า

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/08/B12589180/B12589180.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 6 ต้องเข้าใจ "คุณค่า" ให้ถ้วนถี่

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/09/B12602056/B12602056.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 7 ราคาแพง เป็นอุปสรรคยากสิ้นดี

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/09/B12615565/B12615565.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 8 สิ่งที่นักขายควรมีติดกายา

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/09/B12632885/B12632885.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 9 อย่าโต้เถียง หรือขึ้นเสียงกับลูกค้า

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12663769/B12663769.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 10 วิธีตอบให้ถูกที่ต้องค้นหา

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12697006/B12697006.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 11 จะคุยกับลูกค้าอย่างไรดี

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12728765/B12728765.html

นักขายมือเซียน...ตอนที่ 12 ต้องเตรียมยุทธวิธีในการคุย

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12758762/B12758762.html

นักขายมือเซียน..ตอนที่ 13 สูตรสำเร็จการขาย คือ ไอด้า

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12795135/B12795135.html

นักขายมือเซียน..ตอนที่ 14 สูตรใหม่ล้ำค่าน่าสนใจ

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12821997/B12821997.html

นักขายมือเซียน..ตอนที่ 15 จะทำให้ลูกค้าซื้อได้อย่างไร

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12852645/B12852645.html#7

นักขายมือเซียน..ตอนที่ 16 วิธีสรุปการขายได้ผลดี

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12884704/B12884704.html

นักขายมือเซียน..ตอนที่ 17 ต้องรู้จักพูดจาประสานักขาย

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12917223/B12917223.html

นักขายมือเซียน..ตอนที่ 18 พูดอย่างมีความหมายย่อมได้ผล

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12955701/B12955701.html

นักขายมือเซียน..ตอนที่ 19 คุณสมบัติที่ทุกคนควรมี

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B13014810/B13014810.html

ขอบคุณมากค่ะลุงแอ๊ด

ขอบคุณครับ ลุงแอ๊ด