หลังจดทะเบียนพาณิช์(อิเล็กทรอนิกส์)แล้ว ต้องทำอะไรต่อคะ

สวัสดีค่ะ

ท้าวความเลยนะคะ

ดิฉันรับจ้างทำ-ออกแบบเวปไซด์น่ะค่ะ ทำมาประมาณ 3 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เวปไซด์แบบธุรกิจเล็ก ๆ น่ะค่ะ ดิฉันก็ออกเป็นใบเสร็จรับเงินธรรมดา

จนมาระยะหลัง ๆ ลูกค้าเริ่มขยายเป็นกลุ่มบริษัทใหญ่ ดัีงนั้นจึงมีการขอใบกำกับภาษีมา ดิฉันเลยตัดสินใจไปจดทะเบียนพาณิชย์มา เมื่อเดือนที่ผ่านมาค่ะ อยากทำให้ถูกต้องน่ะค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มออกใบกำกับภาษีเลย คือ แบบว่าถ้าใครขอถึงจะออกให้ แบบนี้ได้มั้ยคะ และมีเรื่องรบกวนถามหลายข้อเลยดังนี้ค่ะ

1. ก่อนออกใบกำกับภาษี(ใบแรก) ต้องไปติดต่อที่ไหนก่อนมั้ยคะ เพราะตอนนี้จดทะเบียนพาณิชย์มาแค่นั้นเองค่ะ ต้องไปสรรพากร หรือหน่วยงานราชการไหนมั้ยคะ

คือ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ การออกใบกำกับภาษีเป็นภาษาอังกฤษ สามารถทำได้เลยมั้ยคะ มีรูปแบบ ข้อบังคับอะไรมั้ยคะ ต้องไปขออนุญาตที่ไหนหรือเปล่าคะ หรือว่าออกได้เลย

2. เคยอ่านผ่านตามาว่า ออกใบกำกับภาษีเป็นภาษาอังกฤษ ต้องใส่อัตราแลกเปลี่ยนเงินด้วย ไม่ทราบว่า อัตราแลกเปลี่ยน อ้างอิงจากที่ไหนคะ ธนาคารแห่งประเทศไทยใช่มั้ยคะ

3. โดยปกติ ดิฉันจะคิดราคาเป็นเงินบาท เวลาลูกค้าโอนเงินมา เค้าจะโอนมาเป็นเงินสกุลนั้น ๆ แล้วธนาคารก็เปลี่ยนเป็นบาทอัตโนมัติ แบบนี้ดิฉันต้องออกใบกำกับภาษีเป็นเงินสกุลไหนคะ แล้วยังต้องอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่

4. ต้องเริ่มทำบัญชีรายรับ รายจ่าย เลยใช่มั้ยคะ แล้วยื่นเสียภาษีช่วงไหนคะ จะสิ้นปีแล้วค่ะ

5. ค่าใช้จ่ายในการทำงาน (ต้นทุน)แต่ละครั้ง เช่น ค่าแปลเอกสาร ค่าเช่าโฮสติ้ง ฯลฯ ต้องแยกเขียนในการทำบัญชี หรือว่าเขียนรวมเป็นรายจ่ายได้เลยคะ

ถามมาหลายข้อแล้ว มีทั้งเกี่ยวข้องและนอกเรื่อง แต่ไม่มีความรู้่ทางด้านนี้เลยค่ะ ลองหาข้อมูลในกูเกิ้ลดูแล้ว ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ รบกวนผู้รู้ด้วยนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

จากคุณ : cioccolatino [11 ธ.ค. 55 19:35:46 ]
ความเห็นที่ 1

ลองผิดลองถูกเอง  จะเสียภาษีหนักกว่าเดิมหรือเปล่าคะ

ไม่จ้างทำบัญชีเลยค่ะ

จากคุณ : สี่สิบดีกรี [11 ธ.ค. 55 19:51:32 ]
ความเห็นที่ 2

ขอเกริ่นก่อน : -
> การจดทะเบียนพาณิชย์ เป็นเพียงเพื่อจะเริ่มเข้าระบบทำธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย

> ส่วนการออกใบกำกับภาษี  จะต้องเป็นผู้ที่เข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มก่อน จึงจะมีสิทธิ
  ออกใบกำกับภาษี (หมายถึง ต้องไปขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร )  
  **ออก VAT โดยไม่มีสิทธิ จะต้องระวางโทษตามกฎหมาย**

> ธุรกิจของ จขกท. หากมีรายได้ต่อปีเกิน 1,800,000 บาท จะถูกบังคับต้องจดทะเบียน
   VAT   แต่ถ้าไม่ถึงก็ไม่จำเป็นต้องจดฯ

> หากเลือกที่จะจดทะเบียน VAT แล้ว เมื่อออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า ใบกำกับภาษีนี้
  เรียกว่า ใบกำกับภาษีขาย

> เวลาที่ จขกท. จ่ายเงินซื้อสินค้า/บริการ มาใช้เกี่ยวกับธุรกิจ หากได้รับใบกำกับภาษี
  จากผู้ขาย/ผู้ให้บริการ  ใบกำกับภาษีนี้เรียกว่าภาษีซื้อ

> สำคัญมากๆ : หากเข้าสู่ระบบ VAT แล้ว ต้องมีงานเพิ่มขึ้น ดังนี้ :-
  1. จัดทำรายงานภาษีขาย และ รายงานภาษีซื้อทุกเดือน
  2. ยื่นแบบ ภ.พ.30  ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป  โดยกรอกภาษีขาย/ภาษีซื้อ
     ตามแบบฯ หากภาษีขายมากกว่าภาษีซื้อ ต้องชำระภาษีส่วนต่าง  แต่ถ้าภาษีซื้อ
     มากกว่าภาษีขาย สามารถนำส่วนต่างไปเครดิตในเดือนต่อไป

ตอบคำถาม :-

1. ก่อนจะออกใบกำกับภาษีใบแรก  ต้องไปขอจดทะเบียน VAT กับกรมสรรพากรก่อน
   (ติดต่อสรรพากรเขตที่อยู่)  หากเตรียมหลักฐานครบ ใช้เวลาไม่เกินครึ่งวันก็เสร็จ

2. การออกใบกำกับภาษี เป็นภาษาอังกฤษ ต้องขออนุมัติก่อน  ส่วนเรื่องอัตราแลก
   เปลี่ยน หากคิดราคาเป็นเงินบาท และโอนเงินมาเป็นเงินบาทแล้วเรื่องอัตราแลก
   เปลี่ยนก็ไม่จำเป็นต้องใช้  ( แต่หากจะใช้มี 2 ทางเลือก 1.ใช้อัตราของ ธ.แห่ง
   ประเทศไทย  2. ใช้อัตราของธนาคารพาณิชย์  โดยมีเงื่อนไขหากใช้แบบใดแล้วต้อง
   ใช้อย่างสม่ำเสมอ )

3. การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย => กรณีบุคคลธรรมดา หากคิดหักค่าใช้จ่ายเป็นการ
   เหมา ( ประมาณ 70-80% ไม่แน่ใจ )  ก็ไม่ต้องทำบัญชีใดๆ
   => แต่ถ้าต้องการหักค่าใช้จ่ายตามจ่ายจริง  ก็ต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย โดยต้อง
         มีหลักฐาน (เช่น ใบเสร็จฯ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ) ประกอบรายการบัญชี

4. การยื่นภาษีประจำปี  บุคคลธรรมดาใช้แบบ ภ.ง.ด.90  ยื่นเสียภาษีภายในเดือน
   มี.ค.ของปีถัดไป

  - ส่วนปีหน้า ต้องยื่นภาษีครึ่งปีด้วย => โดยรวบรวมรายได้ ม.ค.-มิ.ย.56 ยื่นแบบ
    ภ.ง.ด.94  ภายในเดือน ก.ย. 56

5. ค่าใช้จ่ายในการทำงาน => หากต้องการหักค่าใช้จ่ายตามจริง ก็ต้องมีหลักฐานของ
   การจ่ายค่าใช้จ่ายแต่ละประเภท เก็บไว้ลงบัญชีแยกเป็นแต่ละรายการ

*** เข้าใจว่า จขกท.อ่านแล้วคงจะงงมากๆ ....ความจริงยังมีภาษีอื่นอีกที่ยังไม่พูดถึง เกรงว่าจะยิ่งงงใหญ่...หากยังไม่เคลียร์ ยินดีตอบให้ครับ...

จากคุณ : Lin Xian Sheng [11 ธ.ค. 55 20:59:48 ]
ความเห็นที่ 3

คุณ  Lin Xian Sheng อ่านแล้วงงอย่างที่ว่าจริง ๆ ค่ะ
ถ้าอย่างนั้น ดิฉันออกใบเสร็จรับเงินธรรมดาก็ได้ใช่มั้ยคะ แต่ไม่ต้องไปจดทะเบียน VAT เพราะยังไงรายได้ก็ไม่ถึงที่กำหนดแน่นอน เพราะทำเป็นอาชีพเสริมน่ะค่ะ

แล้วใบเสร็จรับเงินธรรมดา ออกเป็นภาษาอังกฤษได้เลยใช่มั้ยคะ

จากคุณ : cioccolatino [12 ธ.ค. 55 18:23:01 ]
ความเห็นที่ 4

> ได้ครับ  หากเป็นใบเสร็จรับเงิน ยังไม่เคยเห็นคำสั่งห้ามเป็นภาษาอังกฤษ

> จริงๆ แล้วก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมบริษัท/ห้างร้าน บางแห่งอยากได้ใบกำกับภาษี ซึ่งใน
  หลักการแล้วถ้ามีใบกำกับภาษี ราคาสินค้าก็จะสูงขึ้นอีกตาม % ของ VAT
 
ยกตัวอย่าง : คุณขายสินค้าราคาปกติ 100 บาท ( ออกเป็นใบเสร็จฯ ไม่มี VAT )  เมื่อลูกค้าต้องการใบกำกับภาษี คุณจะต้องบวกอีก 7% แล้วออกใบกำกับภาษี รวมเป็นเงิน 107 บาท  ลูกค้าจะเสียเงินเพิ่มอีก 7 บาท  ( ถึงแม้ว่าลูกค้าจะขอคืน VAT ซื้อได้...แต่ต้องเสียเงินไปก่อนเพื่ออะไร ??? )   ในขณะที่ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป คุณต้องนำส่ง VAT 7 บาทให้กรมสรรพากร ....?  ( ไม่อยากคิดเลยว่า...ลูกค้าไม่มีความเข้าใจเรื่อง VAT เพียงพอ )

 ...เว้นเสียแต่ว่าลูกค้าขอจ่าย 100 บาทเ่ท่าเดิม แต่ขอใบกำกับภาษี ซึ่งกรณีนี้คุณจะขาดทุนไป  6.54 บาท (100/107 x 7)  เพราะต้องนำ 6.54 บาท ส่งสรรพากร ....แล้วคุณจะยอมหรือ ?

> ขออภัยที่ตอบมาซะยาว....

จากคุณ : Lin Xian Sheng [13 ธ.ค. 55 10:54:44 ]
ความเห็นที่ 5

ดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านการบัญชีอะไรพวกนี้เลยค่ะ จับธุรกิจนี้เป็นอันแรก แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำพวกนี้เลย จนกระทั่งมีลูกค้าบริษัทใหญ่มาขอใบกำกับภาษีนี่แหละค่ะ เลยต้องตาลีตาเหลือก

รู้สึกว่ามีอะไรหลายอย่างที่อยากถอดใจเลย หรือไม่ก็อยากจ้างบริษัทบัญชี แต่เราก็ไม่ได้มีรายได้มากมายหลักแสนหลักล้านต่อปี

แต่ที่คุณ  Lin Xian Sheng อธิบายมาก็เข้าใจได้ง่ายค่ะ มีหลายคำถามแต่เกรงใจค่ะ เอาไว้จะรบกวนใหม่โอกาสหน้านะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ

จากคุณ : cioccolatino [13 ธ.ค. 55 18:22:22 ]
ความเห็นที่ 6

หากข้อความที่ post  เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการคำตอบ  ก็รู้สึกยินดีและดีใจมาก และทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะเข้ามาแชร์ความรู้/ประสบการณ์เท่าที่รู้   จึงขอให้ไม่ต้องเกรงใจ...  เพราะ " ยิ่งให้ ผมก็ยิ่ง รู้มากขึ้น "  ครับ....

จากคุณ : Lin Xian Sheng [13 ธ.ค. 55 19:28:07 ]