*-*-* ขอพื้นที่เล็กหน่อยนะครับ มีปัญหาอยากให้เพื่อนๆช่วยเหลือ ( เรื่องหุ้นส่วนทางธุรกิจ )

---คือผมจะเปิด บริษัทนำเข้าส่งออกครับ แล้วจะหุ้นกับหุ้นส่วน ซึั้งเป็นคนจีนที่ถือพาสปอต เข้ามาเมืองไทยครับ แต่ผมเป็นคนไทยนะครับ  คือตกลงกันว่า ให้เพื่อนคนจีนเป็น ฝ่ายจัดซื้อที่เมืองจีน ผมเป็นฝ่ายขายที่เมืองไทย ลงทุนกันคนละ 2 ล้านบ้าทครับ  (เค้าให้ผมเป็นคนบริหารนะครับ)  คือ คำถามนะครับ
1. อยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เรากับหุ้นส่วนทะเลาะกันบ้าง
2.แล้วปัญหาอะไรที่จะทำให้บริษั่ทเราขาดทุนหรือเจ็ง
3.แล้วปัญหาอะไรที่ ผมจะโดนหุ้นส่วนที่เป็นคนจีนเอาเปรียบบ้างครับ

ปล แต่ตอนนี้บริษัทเริ่มเปิดมาได้ 1 เดือนแล้วครับกำไรก้อดีเลยครับ กำไรไป 7 แสน  แต่พอตอนนี้หุ้นส่วนเอาแฟนที่เป็นคนไทยมานั่งในออฟฟิตด้วย เหมือนว่าจะกลัวผมโกง หรือ จะมาเอาข้อมูลลูกค้าผม  
คือผมกลัวไปหมดเลยครับเพาะบริษัทนี้ผมทุ่มเทให้มันไปหมด  
ขอร้องนะครับใครที่มีประสบการณ์เรื่องหุ้นส่วนเรื่องบริษัท ตอบผมทีนะครับ

จากคุณ : mafianun [11 ธ.ค. 55 21:58:38 ]
ความเห็นที่ 1

1. อยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เรากับหุ้นส่วนทะเลาะกันบ้าง

** เรื่องเงิน กับเรื่องเวลา เช่น ฉันทำงานมากกว่าเธอ ทำไม ได้เงินน้อยกว่า ฉันทำงานเหนื่อยกว่า ทำไมเธอได้เงินเยอะกว่า อะไรแบบนี้

ทางที่ดี จัดการให้ชัด เช่น กำหนดเงินเดือนของแต่ละคนเลย ว่าจะเอาเท่าไร ใครทำงานอะไรบ้าง โอเค ไหม อะไรแบบนี้


2.แล้วปัญหาอะไรที่จะทำให้บริษั่ทเราขาดทุนหรือเจ็ง

** คู่แข่ง ต้นทุนสินค้า เพื่อนโกงไปตั้ง บริษัทของตัวเอง

3.แล้วปัญหาอะไรที่ ผมจะโดนหุ้นส่วนที่เป็นคนจีนเอาเปรียบบ้างครับ

** เรื่องต้นทุนสินค้า ซื้อมาชิ้นละ 1 หยวน บอกเรา 2 หยวน กำไรเข้ากระเป๋าไปซะ แถม บริษัท กำไร ก็ยังได้ส่วนแบ่งอีก

หรือไม่ก็ ส่วนลดจากโรงงาน หรือค่าหัวคิว อันนี้ก็เข้ากระเป๋าได้เหมือนกัน แต่ถ้าคุณทำใจได้ ก็ปล่อยๆไป หลับตาข้างหนึ่งซะ

เพราะถ้าคุณพอใจกับราคาต้นทุนสินค้าที่เพื่อนบอกมา ก็จบ เพื่อนจะได้ส่วนลด ได้ค่าหัวคิว ก็คิดซะว่าเป็นค่าเหนื่อยค่าคอม ของเขา ที่เขาสามารถต่อรองหาส่วนต่างตรงนี้ได้เอง

เช่นเดียวกัน ค่าคุณ ขายของได้ราคาดีกว่า ที่คุยกันไว้ ส่วนต่างคุณจะเอาเข้ากระเป๋า ผมก็ว่าเขาก็ไม่น่าจะว่า เป็นเพราะความสามารถ ที่คุณทำเพิ่มได้เอง

อันนี้ต้องแล้วแต่ตอนคุยกัน

ส่วนเรื่องแฟน ระวังๆไว้ก็ดี อะไรที่เป็นความลับ ก็ปิดๆไว้บ้าง

เห็นมาเยอะ ดูอย่างคนทำเซลล์ก็ได้ พอรู้อะไรๆ ก็ออกมาเปิดของตัวเองทั้งนั้น เช่นเดียวกัน อันนี้ทำใจซะ ถ้าทำใจไม่ได้ก็ต้องทำคนเดียว

แลกเอา

เขาจะทำเองไม่ได้ ถ้าสัมพันธ์ คุณกับลูกค้าดี พูดง่ายๆ ลูกค้าติดคนขาย

แต่กรณี คุณน่ากลัว ตรงที่ถ้าเขารู้ ลูกค้าคุณคือใคร คุณขายให้เขาเท่าไร

เขาอาจจะตัดราคาคุณ ก็ได้ เพราะสินค้าเขาเป็นคนหา ดีไม่ดี เขาไม่หาสินค้าให้คุณๆ ก็จบอยู่ดี

ทางที่ดี คุณต้องดูทางรอดไว้บ้าง เช่น เขาหาสินค้าให้คุณ ว่างๆก็บินไปดูโรงงานนั้นบ้าง ติดต่อสายสัมพันธ์เขาบ้าง (โรงงานะ)

เพื่อเพื่อนคุณไม่ส่งให้ อย่างน้อยคุณดิวเองยังได้

การที่เขาส่งแฟนเขามาก็เพื่อให้ เขาได้เปรียมทั้ง สองขา คือขา หาของ กับ ขาลูกค้า

แต่ของคุณ รู้แค่ ขาเดียว คือขาลูกค้า ดังนั้นคุณต้องไปรู้อีกขาให้ได้ คือรู้ว่า ใครคือ ซับพลายเออร์เรา อนาคตอาจจะติดต่อธุรกิจเองโดยไม่ผ่านเพื่อนคุณก็ได้

จากคุณ : Miracle Boy [11 ธ.ค. 55 22:25:49 ]
ความเห็นที่ 2

ขอบคุณมากๆนะครับ   คือจะเล่าให้ฟังเพิ่มเติมนะครับ
ตอนนี้ผม ก็กันไว้เหมือนกันครับ คือ ให้เค้า เซ็นสัญญากับผม  คือ หุ้นสว่นคนจีน ห้ามนำสินค้าที่บริษัท(ของเรา) เอาเข้ามาขายในเมืองไทย และห้ามนำสินค้า ประเภทแพ็คกิ้งมาขาย  ในเมืองไทย   และ ผมก็ ห้ามนำสินค้าจากเมืองจีนมาขายในเมืองไทยเหมือนกัน   (แต่ผมก้อพูดกดักคอหุ้นส่วนไว้เหมือนกันนะครับไม่ใช้ว่าคุณให้คนอื่นขายนะ ห้ามให้คนอื่นมาขายหรือให้คนไทยคนอื่นมาขายเหมือนกัน)
แต่พวก ใบอินวอย หรือ เอกสารทุกๆอย่าง  หลักฐาฯการโอนเงิน หุ้นส่วนที่เป็นคนจีนก็เปิดให้ดูหมดนะครับ    ถ้าอย่างไงช่วยตอบผมที่นะครับ  Miracl Boy ไม่มีเพื่อนให้ปรึกษาจริงๆ

จากคุณ : Mafia (mafianun) [11 ธ.ค. 55 22:54:35 ]
ความเห็นที่ 3

ผมควรเขียนสัญญาอะไรที่ มันรัดกุ้ม มากกว่านี้หรือเปล่าครับ

จากคุณ : mafianun [11 ธ.ค. 55 23:03:15 ]
ความเห็นที่ 4

ทำบริษัทขนาดนี้คงไม่ธรรมดาอยู่แล้วครับ มิกล้าแนะนำจริงๆ ยังเอาตัวไม่รอดเลยครับ

แต่พูดได้จากการฟังคนที่เคยทำแล้วมีปัญหามาก็แค่นั้นครับ

อย่างที่คุณพูด เขาไม่ทำ แต่อาจจะให้แฟนทำ หรือถ้าไม่ให้แฟนทำ แต่อาจจะไม่ส่งสินค้าให้ก็ได้ แล้วอ้างว่าของส่วนแบ่งเพิ่มอะไรก็ว่าไป

ที่นี้คุณก็ใบ้รับประทานแล้วครับ

อย่างที่บอกคุณต้องไปทำความรู้จักกับ โรงงาน ไว้บ้าง ติดต่อกันบ้าง ไปเยื่ยมโรงงานบ้าง

อะไรก็ว่าไป อาจจะไปโดยบอกเพื่อนก่อน หรือไปโดยไม่บอกก็ได้ ต้องจัดสถานการณ์ดีๆ

เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครครับของแบบนี้

หาธุรกิจอื่นๆทำรองรับไว้ก็ดีครับ อาจจะหาซับพลาย์เออร์หรือคนร่วมลงทุนคนอื่นไว้บ้าง จะได้มีหลายทางเลือก เกิดมีปัญหากันจริงๆ

ปัญหาของคุณอย่างที่บอก คุณรู้แต่ลูกค้า แต่ไม่รู้โรงงาน ไม่รู้แหล่งผลิต ไม่รู้การนำเข้าส่งออก ยังไงลองๆศึกษาไว้บ้างนะครับ

ไม่เชื่อลองไปหากะทู้เก่าๆในห้องสีลม ดูได้

มีเงินเท่านี้ ลงทุนอะไรดี มีเงินหนึ่งแสน ลงทุนอะไรดี ตกงานขายอะไรดี

ทุกคน มองหาสินค้า กันทั้งนั้น ไม่ได้มีใครมองหาลูกค้าเลย เพราะการมองหาสินค้า ผมว่าอยากกว่าการหาลูกค้านะ เพราะอย่างน้อย การหาสินค้าได้ ทำให้เรารู้กลุ่มลุกค้าได้ชัดขึ้น

คุณต้องไปทำความรู้จักแล้วละ ว่าใครผลิตให้คุณ โรงงานอยู่ไหน ไปอย่างไง ไปแล้วจะติดต่อกับใคร ใครเป็นคนจัดส่ง ส่งอย่างไง จ่ายเงินกันอย่างไง ต้นทุนเท่าไร ค่าขนส่งเท่าไร มีโรงงานอื่นอีกไหมที่ผลิตแบบนี้ ต้นทุนเท่าไร

ที่คุณได้ คุ้มค่าไหม ดีไหม ใครเข้ามาเล่นตลาดนี้บ้าง พูดเหมือนง่าย แต่ทำยาก

แต่ก็ต้องทำ ไม่ทำก็เท่ากับยืมจมูกเขาหายใจ โอกาสที่เขาจะ เลิกทำก็มี ขี้เกียจ เบื่อ อยากเลิก จะกลับประเทศ อีกสารพัด ที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วที่นี้คุณจะทำอย่างไง

อย่างที่ผมบอก เป็นเซลล์ ทำอยู่สองอย่าง 1 หาลูกค้า 2 หา supplier ถึงจะออกมาทำเองได้

ตอนนี้เพื่อนคุณ ให้แฟนมาหา ลูกค้า แล้ว แล้วคุณละ คอยอะไร เอาแฟนไปช่วยเขาบ้างดิ หรือว่างๆหาเวลา หาข้ออ้างบินไปหาเขาบ้าง แล้วเอ๋ยปากขอไปดูโรงานผลิตเขาบ้างอะไรบ้าง

สู้ๆครับ คุณมาไกล กว่าคนอื่นเยอะ เรื่องแค่นี้ผมว่าคุณเองก็พอมองออก ลองดูแล้วกันครับ

จากคุณ : Miracle Boy [11 ธ.ค. 55 23:07:57 ]
ความเห็นที่ 5

ก็ ประมาณสิ้นเดือนนี้จะไปหาสินค้าเพิ่มเติมที่ กวางโจ อะครับ แต่ไมไปบินไปโรงงาน ก่ะ ว่าก่อนตรุษจีนจะบินไปโรงงานสะหน่อยครับ หรือไม่ก้ออาจจะไปงวดนี้เลยออะครับ

จากคุณ : mafianun [11 ธ.ค. 55 23:16:06 ]
ความเห็นที่ 6

1. ความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความกลัว ฯลฯ แบบมาก ๆ
2. ขาดทุน/เจ๊ง - ซื้อของไม่ดี คุณภาพแย่ หรือต้นทุนสูงกว่าความเป็นจริง
เจ๊งแน่ ๆ ก็จำพวกจ่ายเงินไปแล้วไม่ได้ของมา หรือยักยอกเงินหนี
3. ตาม #1 เลย

จากคุณ : MAX [13 ธ.ค. 55 03:54:25 ]