มีคำถามจะมาถามพี่ๆ เกี่ยวกับ การวางแผนทางการเงิน

รถยนต์คันแรก จำเป็นไหมสำหรับเด็กเพิ่งจบ ป ตรี ?

คือว่าที่บ้านจะดาว์นให้ แล้วจะให้ผมผ่อนส่งเอง โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าผมไม่ได้งานทำ (คือไม่มีเงินเดือนส่งรถ) ก่อนวันรับรถ (ประมาณ พฤษภา 56) ก็จะไม่ดาว์นให้ ก็คือจองเปล่า เสียค่าจองเปล่าไปเลย ซึ่งจริงๆแล้วผมก็กำลังฝึกงานอยู่ เป็นเทอมสุดท้ายแล้ว โอกาสที่จะได้ทำงานกับที่ฝึกงานก็มีอยู่บ้าง

สำหรับความคิดเห็นของผมคือ
1. จำเป็น เพราะบ้านอยู่ ตจว. อาจจะได้ใช้รถกลับบ้าน
2. ไม่จำเป็น ยังมีโอกาสที่จะเอาเงินไปลงทุนในด้านอื่นอีกมากมาย แล้วค่อยซื้อรถทีหลัง

ปล ใช้สิทธิ์รถคันแรกก่อน ธ.ค. 56

แล้งรถจำเป็นสำหรับงานหรือเปล่า
เป็นเซลล์ ต้องออกพบลูกค้าหรือเปล่า
คนทำงานหลายๆคนยังขึ้นรถเมล์อยู่เลย
ถ้ารถไม่ก่อรายได้ก็อย่าซื้อเลย

แล้วแต่ว่าได้งานอะไรน่ะครับ

แต่ถ้าให้ผ่อนเอง กับเงินเดือนเด็กจบใหม่นี่ผมว่าค่อนข้างโหด
ยิ่งคิดค่าน้ำมัน ค่าอย่างอื่นด้วยอีก
แต่ก็แล้วแต่อาชีพด้วยนะครับ

รถ มีแต่ลด ไม่รู้ ฐานะทางบ้านเป็นไง

แต่เป็นผม ผมไม่เอา ต่อให้ดาว์ให้ก็เหอะ เพราะ

ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา มีแล้วก็เกิดกิเลส อยากไปนู่น อยากไปนี้ รายจ่ายทั้งนั้น

เว้นแต่รถ สามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่ม เช่นเป็นเซลล์ หรือ ใช้คนของไปขายตลาดนัด ช่วงวันหยุด

ส่วนข้ออ้างที่ว่า บ้านอยู่ ตจว ถามกลับว่า แล้วคนจนละ คนที่เขาหาเช้ากินค่ำ เขากลับบ้านกันอย่างไง ผมว่าข้ออ้างเปล่าๆ

ไม่รู้นะ แต่ผมว่า เป็นผม ผมยังไม่ซื้ออะ

ขนาดตอนนี้ ผมมีเงินลงทุนหลัก ล้าน ที่บ้านยุให้ซื้อรถ มือสอง คันละ 2 แสน ผมยังไม่เอาเลย บอกเปลื่อง ไม่มีความจำเป็น ไม่ก่อให้เกิดรายได้

ขี่มอไซน์พอ เติมน้ำมัน 4 วันร้อย ไปได้เหมือนกัน

ไม่เอา อ่ะ เป็นเราไม่เสี่ยง เพิ่งจบ ความแน่นอนไม่มี

น้ำมัน ? ค่าบำรุง

ถ้าพ่อแม่ไม่มีเงินรองรับ อย่าเสี่ยงเลย แต่ถ้าพ่อแม่มีเงินรองรับ แบบว่า ถ้าเดือนนี้ ช็อต ก็สามารถเบิกได้ อะไรแบบนั้น ก็โอเค

แต่อย่างว่า ...เราทำงานแล้ว อย่า..พึ่งคนอื่นเลย

โดยทั่วไป เงินเดือนเด็กจบใหม่ ม่พอ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ค่าประกัน ค่าผ่อน (ค่าที่จอดรถ สำหรับบางคน)

ยกเว้น คุณเป็น เซลล์

ควรทำงานซักสามปี เก็บเงินให้ได้ซักก้อน ตอนนั้นก็อายุ25 ค่อยออกรถกำลังดีนะ

มีรถอย่าคิดว่า..ชีวิตจะง่ายนะคะ

-ซื้อรถแล้วก็ต้องมีที่จอดรถ บางตึก ที่ทำงาน เค้าคิดค่าจอดพนักงานเป็นรายเิดือนเลยคะ

-ซื้อรถแล้วต้องมีเงินเติมน้ำมัน ซึ่งเผลอๆ มากกว่าที่เราใช้บริการรถสาธารณะเสียอีก

-ซื้อรถแล้ว ถ้าทนปัญหารถติดตลอดการเดินทางได้ (จัดไปเลยคะ แม้แต่ตรอกซอกซอยยังติดมาก)

ดังนั้น อย่างที่บอกส่วนใหญ่ซื้อแล้วเจอปัญหา เลยเลือกที่จะจอดเก็บ แต่หารู้ไม่
แต่ละวันจอดเฉยๆ ยังมีค่าป้ายวงกลม ค่าพรบ และค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาที่ต้องจ่ายคะ

เพื่อนที่ทำงานเราเงินเดือนหลายหมื่น แต่ไม่มีใครขับมาทำงานเลย และบางคนมีถึงกระทั้งว่าจ่ายไม่ตรง
โดนเสียค่าปรับเป็นว่าเล่น ...เห็นแล้วเหนื่อยยย ...

ผมไม่เอานะ เอาเป็นคอนโด หรือออมเงินไว้ดีกว่า

ขึ้นอยู่กับเงินเดือน ฐานะทางบ้านด้วย

เช่น ถ้าน้องเงินเดือนเริ่มต้น 17000 (พี่ให้ดีนิดหนึ่ง)
ผ่อนรถก็น้อย ๆ ก็ 7000
ขับรถไปกลับเอาไม่ไกลมาก ค่าน้ำมันต้องมี 2000-4000 ต่อเดือน
จิปาถะไม่นับ

น้องจะเหลือเงินเดือนแค่ไม่กี่พัน

ทีนี้พอเงินเดือนไม่พอใช้ถ้าที่บ้านฐานะดี ก็ไม่มีปัญหาที่บ้านก็ช่วยไป

(พี่ตอนทำงานปีแรก พ่อซื้อรถใหม่ให้ ภายใต้เงื่อนไข ผ่อนคนละครึ่ง)
เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผ่อนแค่ 3500 กับเงินเดือน 15500
ขับรถไปจอดรถใต้ดินบ้าง รถไฟฟ้าบ้าง ขับไปกลับวันละไม่เกิน 30 โล ไม่นับวันหยุด

รวมเติมน้ำมัน ค่าดูแลจิปาถะ เงินเดือนก็เดือนชนเดือนเลยทีเดียว

แต่พ่อมีให้เหตุผลว่า พี่เลิกงานดึก ทางเข้าบ้านก็ไม่มีรถสาธารณะ (จริง ๆ มี แต่ต้องหลายต่อ) อันตรายเกินไปสำหรับลูกสาวคนเดียว เลยบังคับให้ผ่อน

ฉะนั้นคิดดี ๆ ครับผม

เก็บคำว่า"รถคันแรก" เข้าลิ้นชักไปสักครู่

แล้วพิจารณาความจำเป็น ในตัวตน(จริง)ของเราและครอบครัว

ถ้าเห็นสมควรซื้อ ก็ซื้อ แล้วให้คำว่า"รถคันแรก" เป็นประโยชน์เสริม

อย่าให้อะไรก็ตาม ที่ไม่ใช่ตัวตนของเราและครอบครัว มาเป็น "ธง" ครับ

ถ้าบ้านคุณรวย ก็ซื้อได้ครับ
เพราะการมีรถใช้ มีแต่จะเพิ่มค่าใช้จ่าย ค่าจอด ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าแบต ฯลฯ
แล้วรถก็มีอายุใช้งาน ค่าเสื่อม 7-8 ปีก็เริ่มเข้าอู่บ่อย แต่ถ้าบ้านรวยก็เปลี่ยนคันใหม่

ถ้าบ้านไม่รวย ต้องช่วยเหลือตัวเอง ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายที่บ้าน
ซื้อบ้านหรือคอนโด ดีกว่าครับ  ราคามีแต่จะขึ้น
ทำเลดี 5 ปีข้างหน้า ได้กำไรเหนาะ ๆเป็นล้าน
ถ้าเป็นชื่อคุณด้วยก็สบายเลยมีสมบัติติดตัว

จขกท.ใจเย็นๆรอไปอีกสักระยะครับ  
จะมีรถมือสองราคาถูกจำนวนมากมาให้เลือก

ถ้าไม่ชอบรถมือสองก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนั้น
รถมือสองจะช่วยกดราคารถใหม่ไม่ให้แพงขึ้นครับ

เริ่มงานได้เงินเดือนเกินสามหมื่นมั้ยครับ ถ้าได้เงินน้อยกว่านี้ ไม่ควรมีรถครับ

รถ = ลด

ความเห็นส่วนตัวอิงชีวิตจริงของพี่ พี่ไม่แนะนำจร้า ขนาดพี่ทำงานมา 3 ปีเงินเดือนก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่อะไร 2xK ปลายๆ แต่ละเดือนยังเลือดตาแทบกระเด็น เพราะนอกจากค่าผ่อนรถแต่ล่ะงวดแล้ว ไหนค่าจะน้ำมันซึ่งหนักใช้ได้เลย ค่าซ่อมบำรุง จิปาถะ

แล้วน้องอย่าลืมคำนวนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันนะจ๊ะ ตอนขอพ่อแม่เราอาจจะรู้สึกว่าไม่เท่าไหร่จิบๆ แต่พอเรียนจบแล้วมีแต่ต้องให้พ่อให้แม่ จะเอ่ยปากขอหากขัดสนจริงก็ละอายใจยิ่งนัก ค่าใช้จ่ายประจำวันเอาเข้าจริงๆมันไม่ใช่น้อยนะค่ะ แล้วยิ่งเด็กจบใหม่พี่ฟันธง มันจะมีภาวะ ใช้เงินเป็นบ้าเป็นหลังแบบไม่ค่อยเห็นคุ่ณค่าของเงินเพราะว่าเราเพิ่งเริ่มหาเงินเดือนใช้ได้เอง จะเอาไปใช้อะไรก็ไม่มีใครมาว่าได้ กว่าน้องจะหลุดจากภาวะนี้ได้ใช้เวลาเป็นปี ถ้าน้องเก่งหน่อยก็เร็วกว่านั้น  

เพราะฉะนั้นแล้วอย่าเพิ่งใจร้อนเลยจร้า คาดว่าปีสองปีหน้า รถมือสองสภาพเยี่ยมน่าจะผุดเป็นดอกเห็ด เพราะคนส่วนมากเห็นแกนโยบายรถคันแรกจนลืมดูกำลังผ่อนของตน.....ถูกยึดพรึบจร้า

เราทำงานมา 4 เดือนจ้า
ไม่รู้สึกว่ารถจำเป็นต่อชีวิตขนาดนั้นนะ
ไม่น่าจะทำให้สะดวกขึ้นด้วย เพราะรถติดมาก
นั่งรถประจำทางที่ขึ้นทางด่วน แล้วต่ิอ MRT สะดวกสุด

ถ้าจะมีรถ คงรอเริ่มสร้างครอบครัวก่อนอ่ะค่อยคิด

ถ้าจำเป็นก็ซื้่อเลยครับ แต่ถ้าคิดว่ายังไม่จำเป็น ก็หยุดๆไว้ก่อน ไว้ทำงานสักปีค่อยซื้อก็ได้

คห 3 คนจนเขากลับบ้านกัน คุณเคยกลับแบบเขาบ้างหรือเปล่า ถ้าคนเดียวไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าคนมีครอบครัวแล้วมันลำบากนะครับ ถ้ามีโอกาสคนจนเขาก็อยากซื้อรถกันทั้งนั้นแหละ

ผมว่าถ้าอยากมีรถ รอเก็บเงินสดให้ได้ แล้วค่อยซื้อดีกว่าครับ
แต่ถ้าอยากมีบ้าน ซื้อผ่อนก็คุ้มครับ

เด็กจบใหม่จะเงินเดือนเท่าไหร่กันครับ
มีรถแล้วภาระอื่นๆตามมาอีกเยอะ อย่าไม่หลงแต่คิดว่าไม่ซื้อตอนนี้จะไม่ได้ลดภาษี

คนที่พร้อมจะซื้อ ก็ดีครับถ้าซื้อ
คนที่ไม่พร้อม ก็อย่าโลภเลยครับ เดี๋ยวจะลำบากไปกันใหญ่

ขอบคุณทุกแนะนำครับ

จริงๆแล้ว แค่อยากจะมีไว้ขับกลับบ้าน ตจว. เท่านั้นเอง อยู่ที่ทำงานก็ขี่มอไซด์ ใช้บริการรถทัวร์ ผมไม่เคยได้นั่งเลย ยืนตลอดสาย และที่สำคัญกลัวอบัติเหตุครับ

ตอนนี้กำลังคิดว่า จะออกพวกรถมอไซค์คันใหญ่เอา ราคาก็ ไม่เกิน 200k ไว้ขี่กลับบ้านมีความเห็นว่าไงครับ

ปล.ในรูป ผมลองเขียนบัญชีดูแล้ว เงินเดือนไม่พอค่าใช้จ่ายเลยจริงๆ T T

กำ รูปไม่ขึ้น ขอแชร์เป็น Link แล้วกันครับ

docs.google.com/spreadsheet/ccc?key=0Anq8CDnwXUCpdGQyeHhxYWRoZzNLTndhVF9mWFRyUGc

สำหรับเราซื้อรถ แต่ไม่เอามันมาเป็นภาระ คือ????

เราก็ทำงานปกติของเราเหมือนเดิม ส่วนรถเราก็เอามันมาหา "ค่าผ่อนรายเดือนของตัวมันเอง" กับ "ค่าน้ำมัน"
ทีนี้รถก็ไม่ใช่ภาระของเราอีกต่อไป แถมมีรถไว้อำนวยความสะดวกอีก อิอิ

ปล. แผนการนี้เราคิดไว้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถแล้ว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเรา

ถ้าไม่ซื้อสดไม่คุ้มครับ
 
ดาวน์ 5 หมื่น ผ่อน 4.5 แสนผ่อน 7 ปี ร้อยละ 1 ต่อเดือน  
ดอกเบี้ยเดือนละ 4,500
48 เดือน คือ 216,000 บาทครับ
ลดภาีษีได้ 1 แสน  เหลือดอกเบี้ัยที่ต้องจ่าย  116,000 บาทครับ

ได้เงินเดือนซักสามหมื่นค่อยผ่อน

เอาความคิดเราเป็นที่ตั้ง ว่าเหมาะสมหรือปล่าว

ผมซื้อรถเพราะค่าเดินทางแพง+ไม่สะดวกสบาย+บ้านเปลี่ยว+ใกล้แหล่งรวมตัวเด็กแว้น+เลิกงานดึก

แต่ละคนปัญหาไม่เหมือนกันหรอก มันไม่เกี่ยวว่าเป็นสินทรัพย์ที่ด้อยค่าหรอก มันอยู่ที่เหตุผลของแต่ละคน

ตอบคำถามแบบ ตัวเอง ตอบ
ถ้าบ้านรวย....คงจะซื้อ โก้ดี

ถ้าบ้านไม่รวย.....ไม่จำเป็น

นอกจากงานที่ทำ Request ว่าต้องมี
ลองคำนวณค่าใช้จ่ายดูค่ะ ผ่อนรถ เช่าหอ กิน อยู่ น้ำมัน ค่าที่จอด
ถ้าไม่ใช้เงินพ่อแม่ ตัวเองจะอยู่ได้ไม้ อย่างแรกที่ควรทำหลังเรียนจบ คือเลิกแบมือขอเงินพ่อแม่ค่ะ

ถ้าคิดว่าแค่บ้านต่างจังหวัด ต้องมีรถ เออ... ค่าน้ำมันแพงกว่านั่งรถทัวร์หลายเท่าค่ะ ตัวเองบ้านต่างจังหวัดเหมือนกันสมมุติโคราชนั่งกลับ ป 1 อย่างดี ไปกลับไม่เกิน 600 + ค่า Taxi กลับหอแล้ว ถ้ามีรถขับก็ไม่ขับกลับค่ะ เพราะค่าน้ำมันไปกลับหลัก 1000 ขึ้นแน่นอนค่ะ

งั้นแนะนำให้ซื้อ taxi ขับ เพื่อเพิ่มรายได้ครับ
ทันทีที่ขับออกจากบริษัท หลังเลิกงาน ก็ได้เงินทันทีครับ
ไม่ต้องมาอาศัยส่วนลดจากรัฐบาล ที่ไม่ได้เป็นเงินสดครับ

ถ้ามีตัง 200K ซื้อมอไซด์คันใหญ่ได้ ก็ดาวน์ taxi ได้ครับ

ถึงจะไม่มีส่วนลด แต่ ส่วนที่เพิ่ม คือรายได้แน่นอนครับ

แต่ผมว่าท่าทาง จขกท จะมีตังนะ
ถ้ามี 200K ไปซื้อมอไซด์ได้ ก็มีตังแล้วหล่ะครับ

ซื้อไปเถอะครับ
ก็คนมีตังอ่ะ
คิดอะไรมากมาย

เนอะ