อดีตนักการตลาด ออกมาทำธุรกิจตัวเอง แรกๆ ก็ดีค่ะ ตอนหลังมีปัญหากับเพื่อนร่วมหุ้น
เหนื่อยใจอยากกลับมาทำงานบริษัทเหมือนเดิม

ไม่ทราบว่าตอนสมัครงานต้องแสดงหลักฐานการทำกิจการของตัวเองยังไงคะ
หากบริษัทไม่ได้จดทะเบียนเป็นเรื่องเป็นราว

และมันดูไม่ดีมั้ยคะหากว่าเรามาทำธุรกิจตัวเองแล้วมีปัญหาหุ้นส่วนจนต้องทิ้งไปแบบนี้ค่ะ

เอาจากประสบการณ์ตรงของเราเลยนะคะ

เราก็เคยทำธุรกิจส่วนตัวมาก่อน พอหยุด ก็กลับมาสมัครเป็นพนักงานประจำ
ในใบสมัครงานก็กรอกว่าเคยประกอบธุรกิจส่วนตัวมา 5 ปี ใส่เวปไซต์ ใส่ชื่อบริษัทของเราลงไป

ตอนเรียกสัมภาษณ์ก็จะเจอคำถามประมาณว่า
-เคยเป็นเจ้าของแล้วกลับมาเป็นลูกจ้างจะทนได้หรอ
-รายได้ไม่เยอะเหมือนตอนมีธุรกิจส่วนตัวนะจะอยู่ไหวหรอ
-เคยเป็นเจ้านายแล้วต้องมาเป็นลูกน้องจะปรับตัวได้หรอ
-มาเรียนรู้ธุรกิจแล้วเห็นช่องทางจะออกไปเปิดเองอีกรึป่าว
-อื่นๆ

จนมีที่นึงรับเราเข้ามา เป็นโฮมออฟฟิศขนาดธุรกิจกลางๆเท่ากับที่เราเคยทำ
ผลคือ เค้าจะระแวงเราพอสมควร ไม่ค่อยให้รู้อะไรมาก ถามอะไรที่เกี่ยวกับต้นทุนจะไม่ค่อยยอมบอก
ไม่ให้ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง (ทั้งๆที่บางครั้งต้องดีลกับลูกค้าโดยตรง)

จนเราตัดสินใจออก เริ่มสมัครงานใหม่ แล้วเวลากรอกใบสมัครช่วงที่ทำธุรกิจของตัวเองเราเปลี่ยนเป็นว่าเราเป็นพนักงานในบริษัทนั้นแทน

ไม่นานก็ได้งาน ก็ไม่มีปัญหาอะไร พอมาทำงานเจ้านายกลับชมด้วยซ้ำว่าเรารู้เยอะดี มีอนาคต ต่อไปคงจะมีลู่ทางสร้างธุรกิจของตัวเองได้ไม่ยาก

อันนี้มาแชร์ให้ฟังเฉยๆนะคะ อาจจะเจออะไรที่ไม่เหมือนกันก็ได้

แต่ตอนนี้เรากำลังจะกลับไปลุยธุรกิจของตัวเองอีกที ก็ชีวิตมนุษย์เงินเดือนมันไม่ใช่ทางงงงงงง
แค่หยุดพักใจแป๊ป ต้นปีหน้ากลับไปสานฝันต่อ ^_____^

เห็นรายรายครับ
จากเจ้าของธุรกิจ  กลับมาเป็นมนุษย์เงินเดือน  ก็เห็นไปกันได้ดีอยู่หลายคนนะครับ

หลักฐานก็ไม่ต้องอะไรมาก เขียนลงใน resume แค่นั้นก็จบละครับ  ส่วนใหญ่บริษัทเค้าไม่
ลงลึกอะไรมากในการเช็คอ้างอิงหรอกครับ ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งเกี่ยวกับการเงินที่เสียง ๆ ทั้งหลาย

ดูไม่ดีหรอ ผมว่าดีนะ ประสบการณ์เป็นทุน Soft Skill น่าจะปึกกว่า แต่ความเชียวชาญใน
เรื่อง Hard Skill ในสายงานที่คุณไปสมัคร อาจจะต้องอาศัยช่วงเวลาเรียนรู้ต่อยอด
มากกว่าพวกที่  ตรงมาสายนี้ต่อเนื่องเลย..  

ถ้าคำนวณเบ็ดเสร็จแล้วว่าลุย... ก็ไปเถอะครับสัมภาษณ์ไปเรื่อย ไม่น่ากลัวอะไรหรอก.
ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสของแต่ละคนด้วย

บอกช่วยงานที่บ้าน น่าจะดีกว่า เขาถามว่าทำไมกลับมาทำงาน บ. ใหม่ ก็ตอบไปว่า รายได้ที่บ้านลดลง  เลยต้องหางาน อื่นที่ ช่วยที่บ้านอะไรก็ว่าไป ครับ

อาจจะบอกว่าที่บ้านเปิดร้าน ขายของชำ โดน 7 มาเปิดแข่ง หรือ บอกทำร้านถ่ายรูป คนไม่คอยมาล้างรูปกันแล้ว อะไรแบบนี้นะครับ ให้สมเหตุสมผล น่าจะดีกว่า

บอกว่าเป็นธุรกิจแบบกงสี ส่วนมากเค้าจะ get ค่ะ ว่าทำไมต้องออกมาทำงานรับจ้าง

ที่จริงเจ้าของกิจการมีสิทธ์เลือกตำแหน่งนะครับ... ตั้งเอาได้เลย
แต่ระวังเรื่องฐานเงินเดือนและภาษี.. จะระบุยังไง..กระทบภาษีด้วยนะ..

ถ้าไม่เขียนทำนองกรรมการบริษัท เจ้าของ อะไรทำนองนี้น่าจะไหวครับ
ผู้จัดการร้านก็พอได้นะครับ..

เจ้าของกิจการบางคน... รับเงินเดือนในตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายเทคนิค หรือหัวหน้าฝ่ายขาย แบบนี้สบายๆเลย..

ถ้าต้องไปลุยอีกผมก็ไม่เอาตำแหน่งหัวหอกแล้วหละ...ตำแหน่งโตๆนี่เหมาะเอาใว้คุยกับแค่บางคน
เนื่องจากการที่คนส่วนใหญ่ ยึดติดกับตำแหน่ง...

สำหรับขาลุย..ถ้าเราใช้ตำแหน่งระดับกลางๆใว้คุยกับคนส่วนใหญ่ ก็สบายใจดี ได้เห็นทำงานจริงๆของคู่ค้าและปฏิกริยาของลูกค้ามากกว่าแบกตำแหน่งใหญ่ๆ อาจทำให้แก้ปัญหาได้ดีขึ้นครับ

ผมเคยออกเซอร์วิสในฐานะช่าง ก็ได้ทิปดีครับ.. พอแบกตำแหน่งผู้จัดการไปด้วย...อดเลย..ลูกค้าขอส่วนลดอีกตะหาก..