จากกระทู้ของคุณหนูน้อยฯ ที่ขอให้คนไทย หัวใจไทยร่วมใจกันช่วยโหวตให้น้องริต้า ผู้แทนสาวไทยไปประกวด
Miss Universe 2012  แล้วกลายเป็นประเด็นหน้าไทย หน้าไม่ไทย


สรุปว่าหน้าไทย ๆ คือหน้าแบบชาวเอเชีย  ซึ่งเอเชียก็มีหลายเชื้อชาติรวม ๆ กันอยู่นะครับ  เพราะเรามีอาคันตุกะ
มาเยือนประเทศตั้งแต่สมัยโบราณกาล  ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย โปรตุเกส ฮอลันดา (เนเธอร์แลนด์) อังกฤษ
จีน ญีปุ่น ฯลฯ  ทำให้เชื่อไทยแท้ ๆ นั้นยากที่จะหาได้  เอาเป็นว่าไม่ว่าหน้าอย่างไร  ขอให้คุณสมบัติเป็นคนไทย
รับใช้ในฐานะของ "คนไทยทั้งประเทศ" ได้  ก็จงร่วมใจกันช่วยให้คนไทยได้มีที่ยืนบนเวทีโลกด้วยก็แล้วกันครับ


เรามาเรียงลำดับดูกันว่า  ตั้งแต่ 2477 มาแล้ว...ประเทศเรามีผู้แทนไปทำหน้าที่สาวงามกันกี่คน  และมี
หน้าตาอย่างไรกันบ้าง  


กระทู้นี้เพียงเพื่อให้ทราบว่า...คำว่า "ตัวแทนประเทศไทย" ไม่ว่าจะเชื้อชาติใดปะปน  ขอเพียงเธอหรือเขา
มีจิตใจเป็นไทย อ่อนหวาน อ่อนโยน ใช้ภาษาไทยถูกต้อง  อย่างอื่นเป็นของแถม...เท่านั้น...เพียงพอนะครับ


1. นางสาวสยาม พ.ศ. 2477 ... กันยา เทียนสว่าง

      'กันยา'' มีนามเดิมว่า ''ลูซิล'' เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2456 ขณะที่เข้าประกวดมี อายุ  21  ปีบริบูรณ์
ด้วยเหตุที่เธอมีใบหน้าอันคมคายค่อนไปทางฝรั่ง จมูกโด่งริมฝีปากบาง รูปร่างสูง ทรวดทรงสมส่วน
มีผิวเนื้อสองสีแต่ค่อนข้างขาวตาม แบบชาวสยามโดยสมบูรณ์ จึงได้รับการคัดเลือกให้ได้รับตำแหน่ง
อันทรงเกียรติ  ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของผู้เฝ้าชมการประกวดโดยทั่วไปในปีนั้น
      หลังจากพ้นตำแหน่งนางสาวสยาม เธอเข้าพิธีสมรสกับ ดร. สุจิต หิรัญพฤกษ์ มี บุตรธิดาทั้งสิ้น  
5  คน และกันยาได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในมดลูก โดยปิดฉากชีวิตด้วยวัยเพียง  46  ปี


เพิ่มเติมครับ
ขอขอบคุณเจ้าของเรื่องที่ผมไป search มานะครับได้แก่
1) คลังปัญญาไทย http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/นางสาวไทย
2) wikipedia http://th.wikipedia.org/wiki/รายนามนางสาวไทยและรองนางสาวไทย
3) เว็ปของแฟนคลับของน้อง ๆ นางสาวไทยรุ่นใหม่ ๆ ต้องขออภัยผมไม่ได้เซฟไว้เพราะหาจากหลายที่
เอามาปะติดปะต่อกันครับ
4) เว็ปไซต์กระปุกดอทคอม และสนุกดอทคอม
ขอบคุณอากู๋ในการ search หารูปครับ

วณี เลาหเกียรติ นางสาวสยามปี พ.ศ. 2478

     ''วณี'' เป็นสาวงามที่มีใบหน้างดงาม ยิ้มหวานหยด เธอนับถือศาสนาคริสต์และเป็นธิดาคนเดียวของพ่อแม่
มีย่าเป็นเจ้าของห้างใหญ่ที่มีชื่อในสมัยนั้น  ทั้งยังเป็นเจ้าของที่ดินมากมาย
จัดว่าเป็นผู้มีฐานะดีพอสมควร

        ในขณะที่เข้าประกวดสำเร็จการศึกษาระดับมัธยม ศึกษา และกำลังจะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา  ทว่าได้มาเป็น
นางสาวสยาม ปีพ.ศ. 2478 เสียก่อน

      หลังจากได้รับตำแหน่งนางสาวสยาม 4 ปี เธอได้เข้าพิธีสมรสกับ นายแพทย์มานิตย์ สมประสงค์ ขณะอายุ 20 ปี
มีบุตรธิคา ทั้งสิ้น 3 คน ปัจจุบัน วณี ในวัย 87 ปี มีความสุขกับลูกหลาน ทั้งยังได้เดินทางไปพำนักที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
บ้างเป็นครั้งคราว

ปี 2479...วงเดือน ภูมิรัตน์

       ปีนั้นมีจำนวนผู้เข้าประกวดมากมายถึง 200  กว่าคน  โดยมีสาวงามที่ได้รับ การจับตามองมาโดยตลอด
คือ วงเดือน ภูมิรัตน์ และผลการประกวดก็เป็นไปตามความ คาดหมาย

      ''วงเดือน'' เกิดที่กรุงเทพฯ เป็นบุตรีคนที่  6 ในจำนวนบุตรทั้ง หมด  10 คน ของ พระพิชัยบุรินทรา (สอาด ภูมิรัตน์)
ผู้เคยเป็นเจ้าเมือง พระประแดงและเมืองสมุทรสาคร และ คุณนายเล็ก ภูมิรัตน์  สำเร็จการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนสตรี
ประจำจังหวัดสมุทรสาคร  ต่อมาได้ศึกษาความรู้ด้านการเรือน  เช่นการจัดดอกไม้การจัดโต๊ะอาหารทางไปรษณีย์
ที่โรงเรียนภาณุทัต  เธอ ร่วมเข้าประกวดในนามหนังสือพิมพ์ สยามราษฎร์
ขณะรับตำแหน่งนางสาวสยามมีอายุเพียง  
14  ปี (...โอ้โห)  นับเป็นนางสาวพระนครคนที่สามที่ได้ครองตำแหน่งนางสาวสยาม

ปี 2480...มยุรี วิชัยวัฒนะ

     การประกวดนางสาวสยามปี พ.ศ. 2480 มีผู้เข้าประกวดคับคั่งเช่นเคย รวมทั้ง มี 2 อดีตนางสาวสยาม
วณี เลาหเกียรติ และ วงเดือน ภูมิรัตน์ ร่วมประกวดด้วยอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่มีข้อห้ามอดีตนางสาวสยามเข้าประกวด
จึงมีผู้ใหญ่ในวงสังคมขณะนั้นขอร้องให้เธอทั้งสองเข้าประกวด เพื่อเป็นการช่วยชาติ

    แต่ถึงอย่างไรก็ตามในที่สุดผู้ชนะเลิศที่ได้รับการคัดเลือกให้ครองตำแหน่งนางสาวสยาม ปีพ.ศ. 2480  ก็คือ  
นางสาวมยุรี วิชัยวัฒนะ  สาวงามจากกรุงเทพฯ ผู้ซึ่งได้รับการทาบทามจากท่านข้าหลวงจังหวัดอยุธยาให้เข้าร่วมประกวด
ในฐานะ ที่เป็นตัวแทนของจังหวัดอยุธยานั่นเอง  ด้วยความที่เป็นสาวน้อยดวงตาคมวงหน้า หวาน รอยยิ้มละมุน
ผิวสีน้ำผึ้ง สมเป็นสตรีไทยอย่างแท้จริง

   ''มยุรี''ได้รับการคัดเลือกเป็นนางสาวสยามคนที่  4 ขณะอายุ  16  ปี เธอเป็น ธิดาของช่างชุบทอง เกิดและเติบโต
ย่านเสาชิงช้า  เคยย้ายไปใช้ชีวิตอยู่แถว บางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านเดิมของผู้เป็นมารดา
จากนั้น อายุ  12 ปี เธอจึงย้ายกลับมายังพระนครอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเข้าประกวดนางสาวสยาม  จบการศึกษา
ระดับชั้นมัธยมที่ ๑ หลังจากรับตำแหน่งนางสาวสยามไม่ครบปี มยุรีได้ เข้าพิธีสมรสกับ ร้อยโท อาจ เจริญศิลป์
มีบุตรธิดารวม  5 คน

ปี 2481...พิศมัย โชติวุฒิ

     ''พิสมัย'' ได้เป็นนางสาวสยามคนที่ 5 ด้วย วัย 18  ปี ซึ่งขณะเข้าประกวดเธอมีความสวยเด่นมาแต่ต้น
และมีความงามพร้อม กว่าปีก่อนจึงกำชัยชนะไปในที่สุด

     เธอเป็นบุตร คนสุดท้องของครอบครัวพี่น้อง จำนวน  8 คน  จบการศึกษาจากโรงเรียนราษฎร์วิทยา หลังจาก
ครองตำแหน่งนางสาวสยามได้ปีเศษ  เธอได้เข้าพิธีสมรสกับ นายเล็ก ตันเต็มทรัพย์  ผู้มีอาชีพทนายความในขณะนั้น

      พิสมัย กำเนิดบุตรชาย  2  คน เธอมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น และ สมบูรณ์  ก่อนจะปิดฉากชิวิตลงด้วยวัย  
67  ปี ด้วยโรคหัวใจในปีพ.ศ. 2531

ปี 2482... เรียม แพศยนาวิน

     ได้รับคัดเลือกเป็นนางสาวไทยคนที่ 6 ของประเทศ ขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 16 ปี  เป็นบุตรสาวคนโตจาก
พี่น้องจำนวน 7 คน  สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนมหัสดัมอิสลามวิทยาลัย  หลังจากรับตำแหน่งนางสาวไทย
กว่า 10 ปี  จึงได้เข้าพิธีสมรสกับ เอช เอช ซุดพัตรา ชามา ลุลลาอิล  ราชาแห่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย
มีโอรสธิดารวม 4 องค์

      เรียม หรือ รานีซุดพัตรา ชามาลุลลาอิล ตวนมาเรียม ถึงแก่อนิจกรรมอย่างกะทันหันด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน
ในปี พ.ศ. 2529 สิริอายุรวม 64 ปี อนึ่งนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ เรียม นับเป็นสาวมุสลิมเพียงคนแรกและคนเดียว
เท่านั้นที่ได้ครองตำแหน่งนางสาวไทย

ปี 2483...สว่างจิตต์ คฤหานนท์

      เป็น ธิดาของ พันโท พระแกล้วกลางณรงค์ และ นางสาคร คฤหานนท์ ขณะรับตำแหน่งนางสาวไทยนั้น
มีความรู้จบชั้นมัธยมบริบูรณ์  และเป็นนางสาวไทยที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม
ดังที่หญิงไทยพึงมีหลายประการ

      สว่างจิตต์ เข้าพิธีสมรสกับ เรืออากาศเอก หะริน หงสกุล มีบุตรธิดารวม 3 คน  ปัจจุบัน คุณหญิงสว่างจิตต์ หงสกุล
ใช้ชีวิตอย่างสงบ ในวัย 82 ปีท่ามกลางลูกหลานอย่างมีความสุข

การประกวดนางสาวไทยชะงักไปหลังจาก ปี 2483 เนื่องจากเกิดสงคราม

เมื่อสิ้นสุดสงครามเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ในปี พ.ศ.2491 รัฐบาลโดยกองการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย
จึงได้มีมติให้จัดการประกวดนางสาวไทยขึ้นอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญ
หลังจากว่างเว้นการประกวดนางสาวไทยมาถึง 8 ปี

ได้กำหนดให้มีการประกวดนางสาวไทยขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 ธันวาคม มีการเดินประกวดในชุดเสื้อแขนกุดเปิดหลัง
กางเกงกีฬา เหมือนดังปี 2483 เวทีประกวดถูกจัดขึ้น ณ สวนอัมพร ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายของลมหนาว

สาวงามผู้ที่ชนะใจกรรมการได้รับการตัดสินดำรงตำแหน่งนางสาวไทย คือ ลัดดา สุวรรณสุภา  ท่ามกลางรองอีก 4 คน
คือ ลักษมี กรรณสูต, อุษา วีรยะวรรธนะ, เรณู ภิบูลย์ภาณุวัธน์ (คุณแม่ แซม ยุรนันทน์) และ ปราณี มาลีพันธุ์สกุล



ลัดดา สุวรรณสุภา นางสาวไทย ปี พ.ศ.2491

      ''ลัดดา'' เป็นนางสาวไทยที่สื่อมวลชนบางฉบับเรียกขานเธอว่า ''บุหงาปัตตานี''  เนื่องจากเธอเข้าประกวดในนาม
ของจังหวัดปัตตานี  แม้ว่าแท้ที่จริงเธอจะเป็นชาวกรุงเทพฯ ก็ตาม

       ลัดดาครองตำแหน่งนางสาวไทยขณะอายุ 16 ปี  เป็นธิดาของนายดิเรกข้าราชการนครบาลกรุงเทพฯ  
สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยม 4  จากโรงเรียนซางตาครูซ คอนแวนด์  ''ลัดดา'' เข้าพิธีสมรสกับนายสนิท พุกประยูร
มีบุตรชาย 2 คน

และในปีรุ่งขึ้น พ.ศ. 2492 การประกวดนางสาวไทย  และงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญต้องมีอันงดจัดไป 1 ปี
เนื่องจากมีคำสั่งของ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น  ด้วยเหตุที่สภาพเศรษฐกิจของ
บ้านเมืองไม่เอื้ออำนวย



อัมพร บุรารักษ์ นางสาวไทย ปีพ.ศ.2493

      ''อัมพร'' เกิดที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่  เธอเป็นบุตรสาวคนโตในจำนวน 7คนของ นายบุญส่ง ข้าราชการ
อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยม 6 จากโรงเรียนราษฎร์ประพันธ์กุล  และได้รับการทาบทาม
จากผู้ว่าราชการส่งเข้าประกวดในนามของจังหวัดเชียงราย นับเป็นนางสาวไทยคนที่ 9 ของประเทศไทย และเป็น
เอื้องเหนือคนแรกที่ได้ครองตำแหน่งนางสาวไทย  เธอได้รับตำแหน่งขณะอายุ 18 ปี

       ต่อมาได้สมรสกับร้อยตำรวจตรี วิศิษฐ์ พัฒนานนท์ มีบุตรธิดารรวม 4 คน

ปี 2483... อุษณีษ์ ทองเนื้อดี

      นางสาวไทยคนที่ 10 ของประเทศไทย เธอเป็นบุตรีคนที่ 4จากจำนวนพี่น้องรวม 8 คนของ นายเอื้อม ผู้รับราชการ
เป็นผู้ช่วยสรรพสามิตจังหวัดปราจีนบุรี  สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนสายปัญญา

      เข้าประกวดนางสาวไทยในนาม จังหวัดสมุทรสงคราม โดยการทาบทามของ หลวงอรรถไกลวัลวที
บิดาของ ศรีสมรอรรถไกวัลวที รองนางสาวไทยเมื่อปีก่อนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของอุษณีษ์  ขณะครองตำแหน่ง
นางสาวไทยเธอมีอายุ 18 ปีเต็ม  โดยเข้าร่วมประกวดพร้อมกับพี่สาว นวลละออ ทองเนื้อดี ซึ่งผ่านเข้ารอบรองสุดท้าย
ในการประกวดปีเดียวกันของ ''อุษณีษ์''  ความหมายที่มงคลต่อตัวเธอ อันมีความหมายว่า ''มงกุฎ'' มงกุฎของเธอ
ซึ่งเป็นมงกุฎดิ้นเงินปักบนผ้ากำมะหยี่ดังเช่นปีที่ผ่านมา  และยังมีแหวนเพชรเสียบอยู่บนเรือนมงกุฎอีกด้วย

       อุษณีษ์เข้าพิธีสมรสกับร้อยโท ม.ร.ว. พงษ์ดิศ ดิศกุล มีบุตรธิดารวม 5 คน

ปี 2495...ประชิตร์ ทองอุไร

      'ประชิตร์' เกิดและเติบโตแถวถนนรองเมือง กรุงเทพมหานคร บิดาเป็นนายตรวจสายไฟฟ้า กรมรถไฟ
สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมต้น จากโรงเรียนโพธิทัต ได้รับการชักชวนจาก ภรรยาของหม่อมหลวงชูชาติ กำภู
ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานในสมัยนั้น  โดยเข้าร่วมประกวดนางสาวไทยในนามกระทรวงเกษตราธิการ
หรือกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ในปัจจุบัน

      ขณะได้รับตำแหน่งนางสาวไทย 'ประชิตร์' อายุ 18 ปี  ด้วยรอยยิ้มอันงดงามบนใบหน้าอันคมคาย ทำให้เธอ
เป็นขวัญใจของวัยรุ่นในสมัยนั้นอย่างไร้ข้อกังขา  และนับว่าเป็นนางสาวไทยของประชาชนอย่างแท้จริง

นางสาวไทย ปี 2496 ... อนงค์ อัชชวัฒนา

      ''อนงค์'' ครองตำแหน่งนางสาวไทยขณะอายุ 18 ปี  เธอเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เกิดและเติบโต
ในช่วงปฐมวัยย่านสวนมะลิ  เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัวมีน้องชาย 2 คน  ในวัยเด็กศึกษาที่โรงเรียนแก้วปัญญา
และโรงเรียนสายปัญญาในระดับมัธยม  ก่อนที่ย้ายไปพำนักที่สวรรคโลกและลำปาง ตามลำดับ

      เมื่ออายุ 16 ปีขณะอยู่ลำปางเธอได้เข้าร่วมประกวดนางสาวลำปาง และพิชิตชัยชนะเป็นนางสาวลำปาง
ก่อนที่จะเข้าร่วมประกวดนางสาวไทยเพียง 2 ปี ต่อจากนั้นจึงเข้าร่วมประกวดนางสาวไทยในนามของกระทรวงการคลัง

      ในขณะที่ครอง ตำแหน่งนางสาวไทย เธอที่ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นนาน 14 วัน จากการเชิญของ
ธนาคารมิตซุย  และเป็นนางสาวไทยคนแรกที่ได้รับการขับกล่อมในคืนวันรับตำแหน่งด้วยเพลง ''นางฟ้าจำแลง''
โดยมี ครูเอื้อ สุนทรสนาน เป็นผู้ประพันธ์ คำร้องและทำนอง  ซึ่งเพลง ''นางฟ้าจำแลง'' นับเป็นเพลงอมตะ
ของการประกวดนางสาวไทยมาจวบจนปัจจุบัน

      หลังจากพ้นหน้าที่ในตำแหน่งนางสาวไทย  อนงค์ได้เข้าพิธีสมรสกับ นายแพทย์ไพฑูร นาคะเกศ
ให้กำเนิดบุตรชาย 2 คน อนงค์ปิดฉากชีวิตลงด้วยการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
เมื่อปี 2545 สิริรวมอายุ 68 ปี

นางสาวไทย พ.ศ.2497... สุชีลา ศรีสมบูรณ์

      ''สุชีลา'' หรือ นามเดิม สมบูรณ์ ศรีบุรี พื้นเพเป็นชาวจังหวัดลำพูนเป็นบุตรีคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน ของครอบครัว
เธอเป็นเด็กที่กำพร้าพ่อตั้งแต่เยาว์วัย  จึงได้รับการอบรมเลี้ยงดูโดยผู้เป็นยาย เนื่องจากมารดาแยกไปมีครอบครัวใหม่

      เคยได้รับตำแหน่งรองนางสาวถิ่นไทยงาม ก่อนครองตำแหน่งนางสาวไทยเพียง 1 ปี ในฐานะตัวแทนจาก
กระทรวงยุติธรรม  ขณะสวมมงกุฎนางสาวไทยเธอมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ และได้รับขนานนามจากหนังสือพิมพ์ว่า
''แสนซนคนสวย''  หลังจากครองตำแหน่งนางสาวไทย  เธอได้ใช้ชีวิตคู่กับนักธุรกิจเจ้าของโรงแรมชากังราว
จังหวัดกำแพงเพชร มีบุตรชายรวม 2 คน

กระทู้ดีมีคุณค่าคู่ควรแก่การโหวตค่ะ

ปี 2498-2501 งดจัดการประกวด  เนื่องจากเกิดรัฐประหารในประเทศไทย


ปี 2502....สดใน วาริชวัฒนา

      รองศาสตราจารย์ ดร. สดใส พันธุมโกมล (สกุลเดิม วานิชวัฒนา) อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เคยเข้าร่วมประกวด นางงามจักรวาล ปี 1959 ที่ สหรัฐอเมริกาด้วย และคว้าตำแหน่งนางงามมิตรภาพ หรือ Miss Amity
มาครองได้สำเร็จ อันแสดงถึงความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีของสาวไทย

      รองศาสตราจารย์ ดร. สดใส เป็นผู้ก่อตั้งภาควิชาศิลปการละคร ผู้ร่วมก่อตั้งชมรมดนตรีสากล สจม. (C.U. BAND)
ก่อตั้งโรงเรียนการแสดงที่ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นผู้กำกับละครคำพิพากษา และเป็นผู้ประพันธ์คำร้องภาษา
อังกฤษถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเพลงพระราชนิพนธ์แสงเทียน (Candlelight Blues)

ปี 2555 ได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและโทรทัศน์) ประจำปี 2554

โหวต ค่ะสาระดีมาก

2503-2506  การจัดประกวดเปลี่ยนมือมาอยู่ที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย  จัดประกวดนางงามวชิราวุธ


2507....อาภัสรา หงสกุล

      อาภัสรา หงสกุล (ชื่อเล่น: ปุ๊ก) นางสาวไทย พ.ศ. 2507 คนที่ 14 ครองมงกุฎนางงามจักรวาล ค.ศ. 1965
เป็นนางงามจักรวาลคนที่ 14 และคนที่ 2 ของเอเชีย ต่อจากอากิโกะ โคจิมะ นางงามญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งนี้เมื่อ
ค.ศ. 1959 สำหรับอาภัสรา เป็นสาวไทยคนที่ 3 ที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย ต่อจากอมรา อัศวนนท์ รองนางสาวไทย
พ.ศ. 2496 และเป็นตัวแทนคนแรกเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาล ค.ศ. 1956 และสดใส วานิชวัฒนา
ในครั้งนั้น บริษัทน้ำมันเชลล์เป็นเจ้าภาพ อาภัสรา หงสกุล มีส่วนสูง 164 ซม. สัดส่วน 35-23-35 ซม.

      อาภัสรา หงสกุล เกิดที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 6 คนของนาวาอากาศเอก (พิเศษ) เพิ่ม หงสกุล
และเกยูร หงสกุล และเป็นพี่สาวของปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี

     ในปีที่อาภัสราได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาลนั้น ได้จัดการประกวดที่หาดไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
โดยรองนางงามจักรวาลคนที่ 1 คือ นางงามจากฟินแลนด์, ที่ 2 นางงามจากสหรัฐอเมริกา, ที่ 3 นางงามจากสวีเดน
และ ที่ 4 นางงามจากฮอลแลนด์

      อาภัสรา หงสกุล สมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร โอรสของหม่อมเจ้าขจรจบกิตติคุณ กิติยากร
กับหม่อมราชวงศ์วิจิตรโฉม กิติยากร (ชยางกูร) มีบุตรชาย คือ หม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร และสมรสอีกครั้งกับ
สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ มีบุตรคือ นายภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์

      ปัจจุบัน เปิดสปาในชื่อ "อาภัสรา บิวตี้ สลิมมิ่ง สปา" และทำธุรกิจส่วนตัว ขายนาฬิกาและเครื่องสำอาง


เพิ่มเติมครับ  ปีนั้น มีรองนางสาวไทย 4 คนได้แก่  อรัญญา นามวงศ์  เนาวรัตน์ วัชรา  เสาวนีย์ วรปัญญาสกุล
และละอองดาว กิริยา ครับ

ร่วมโหวตกระทู้ดีๆ แบบนี้อีกหนึ่งเสียงค่ะ  

กระทู้แนะนำมันต้องอย่างงี้ป่ะ :)

ปี 2508...จีรนันทน์ เศวตนันทน์


      จีรนันทน์ เศวตนันทน์  หรือ เล็ก เศวตนันทน์ เข้าพิธีมงคลสมรสขณะมีอายุได้ ๒๗ ปี เกิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เป็นบุตรของ พล.ต.ต. จรุง และนางอร่ามศรี เศวตนันทน์ เป็นศิษย์เก่า รร.อนุบาลสวนเด็ก กับ รร.เขมมะสิริอนุสรณ์
และกรุงเทพการบัญชี จากนั้นจึงไปทำหน้าที่สอนภาษาไทยให้ ม.ร.ว. นริศรา จักรพงษ์ ที่ประเทศอังกฤษระหว่างปี
๒๕๐๕ ถึง ๒๕๐๗ ได้ครองตำแหน่งนางสาวไทยในปี ๒๕๐๘ และ รองนางงามจักรวาลในปี ๒๕๐๙

      หมั้นกับนายแพทย์รุ่งธรรม บุตรพระยาลัดพลีประคัลภ์ ในวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๑๑ แล้วเข้าสู่พิธีสมรส
เมื่อ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ โดยได้รับพระราชทานประกอบพิธีสมรสจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ
พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ


      รองนางงามทั้งสี่คนประกอบด้วย ชัชฎาภรณ์ รักษนาเวศ  สุทิศา พัฒนุช  มลุลี เอี่ยมศิริรักษ์  และ
กิ่งกมล อุบลรัตน์ ครับ

ปี 2509...ประภัสสร พานิชกุล

      ประภัสสร พานิชกุล (ชื่อเล่น: แดง) นางสาวไทย พ.ศ. 2509  เกิดวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2492 เป็นบุตรคนที่ 3
ในจำนวน 4 คน มีชีวิตในวัยเด็กที่ไม่สุขสบายนัก เนื่องจากบิดาผู้มีเชื้อสายจีนแต้จิ๋วซึ่งเป็นคนจังหวัดเพชรบุรีนั้นมีภรรยา
หลายคนตามความนิยมของชาวจีนในยุคนั้น ส่วนคุณแม่ที่เป็นชาวจังหวัดราชบุรีนั้นเป็นผู้ดูแลบุตรทั้ง 4 จวบ
จนประภัสสร อายุได้ 11 ปี คุณแม่ก็เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ เติบโตโดยการดูแลของน้าสาว

      เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสริมสวยดาวรุ่ง เธอได้รับตำแหน่งนางงามเวทีแรกคือ นางงามบ้านหมี่
จังหวัดลพบุรี เกิดจากการที่เธอได้ไปแต่งหน้าให้กับผู้เข้าประกวดในครั้งนั้น แล้วได้รับการชักชวนให้เข้าประกวด
เธอจึงตกลงเข้าร่วม และชนะเลิศเวที่นี้ในที่สุด และเป็นตัวแทนของอำเภอ เข้าร่วมประกวดนางสาวไทย และคว้า
ตำแหน่งมาได้สำเร็จ ปีนั้นเป็นปีแรกที่มีบัลลังค์ให้นางงามนั่งตามแบบเวทีนางงามจักรวาล

      ขณะดำรงตำแหน่งนางสาวไทย เธอมิได้เดินทางไปร่วมประกวดนางงามจักรวาล เนื่องจากอายุเธอเพียง 16 ปี
ไม่ถึงเกณฑ์ของกองประกวดนางงามจักรวาล แต่ยังมีโอกาสเป็นตัวแทนประเทศได้เข้าร่วมประกวด มิส ควีน ออฟ
เดอะ แปซิฟิค ที่ประเทศออสเตรเลีย และเธอก็ได้รับตำแหน่งนางงามบุคลิกภาพ มาฝากคนไทยอีกด้วย

      ประภัสสร หรือ จิตประภัสสรในปัจจุบันเธอมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นกับ พล.ต.ต.เทอดพงษ์ เทียนสุวรรณ
มีทายาทด้วยกัน 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ กรุณพล เทียนสุวรรณ นักแสดง และมีร้านอาหารจิตประภัสสร ย่านประชาชื่น
เป็นธุรกิจเล็กๆ ที่เธอทำมานานอีกด้วย

ปี 2510...อภันตรี ประยุทธเสนีย์

      'อภันตรี' หรือ 'ปุ้ย' เป็นบุตรีของนายทหาร ร่วมประกวดนางสาวไทยในนามราชตฤณมัยสมาคมเป็นผู้ส่งเข้าประกวด
โดยเธอมิเคยผ่านเวทีประกวดนางงามมาก่อน เธอมีดวงตาที่กลม ใบหน้าหวานงดงาม ครองตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 17
เมื่ออายุ 19 ปี ในปีถัดมา อภันตรีเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาล ณ ไมอามี่ บีช รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

      แม้ว่าเธอจะพลาดตำแหน่งนางงามจักรวาล แต่เธอก็เป็นผู้หนึ่งที่เข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ด้วยความสง่างามและสะดุดตา
ผู้ที่ได้พบเห็น และเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก

      ปัจจุบัน อภันตรี มีบุตรสาว 1 คน และเธอยังคงความงามเช่นเดิม โดยมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงใน ททท.
หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย



ป.ล. อภันตรีติดอันดับ 1 ใน 15 การประกวดนางงามจักรวาล  ได้ตำแหน่งชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม  และรองนางสาวไทย
ในยุคนั้น  รุ่งทิพย์ ภิญโญ (รองนางสาวไทยอันดับหนึ่งของปีนั้น)  ก็ได้รองอันดับ 4 และขวัญใจช่างภาพจากการประกวด
Miss International ที่ประเทศญี่ปุ่น  ส่วนรองอันดับ 4 (นางสาวไทยปีนั้น) พินนะรัฐ ทนันไชย เป็นหญิงไทยคนแรก
ที่ไปประกวด Miss World  โดยพินนะรัฐสามารถเข้ารอบ 15 คนสุดท้ายด้วย

ปี 2511 .... แสงเดือน แม้นวงศ์

      'แสงเดือน' สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนศึกษานารี และเข้าทำงานเป็นพนักงานฝึกหัด ณ ธนาคารออมสิน
ก่อนเข้าร่วมประกวดนางสาวไทย

      ในการประกวดนางงามจักรวาล ที่หาดไมอามี่ในปี 2512 เธอสามารถพิชิตตำแหน่งชนะเลิศ นางงามผู้แต่งกาย
ในชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ด้วยชุดไทยตามแบบละครรำ สวมชฎาเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ชมทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง

      ปัจจุบันหลังจาก แสงเดือน สมรสกับ นิเวศน์ พร้อมพันธุ์ โดยมีพยานรักเป็นธิดา 2 คน นอกจากจะเป็นแม่ศรีเรือนแล้ว
ยังดำเนินงานเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธรูปอีกด้วย

ปี 2512-2513...วารุณี แสงศิรินาวิน

      'วารุณี' หรือ 'เปีย'เป็นนางสาวไทยคนที่ 19 ของประเทศไทย เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด  เกิดและเติบโต
ย่านมหานาคเธอเป็นผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งนางสาวไทยถึง 2 ปีติดต่อกัน  เนื่องจากในปีถัดมาสถานการณ์สงคราม
อินโดจีน อยู่ในภาวะรุนแรงด้วยเหตุผลของความไม่เหมาะสม ที่จะจัดงานสนุกสนานบันเทิง  คณะกรรมการจัดงาน
วชิราวุธอนุสรณ์ จึงมีมติให้งดการประกวดนางสาวไทยไป 1 ปี

      เธอได้ร่วมกับนางสาวไทยรุ่นพี่ไปร่วมงานเอกซโป 1970 ที่ประเทศญี่ปุ่นทั้งยังเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาล
ในปี 2514 โดยเป็นสาวงามผู้มีอายุน้อยที่สุดของการประกวดครั้งนั้น

      ปัจจุบันในวันนี้ของวารุณี มีความสุขอยู่ที่การทำงานในธุรกิจของครอบครัว เกี่ยวกับสิ่งทอรวมทั้งการทำหน้าที่เป็น
ศรีภรรยาของ ตรีทิพย์ เตลาน

ปี 2514...นิภาภัทร สุดศิริ

      'นิภาภัทร' หรือ 'เล็ก' ได้รับการสนับสนุนเข้าประกวดโดยบริษัท เสริมสุข จำกัด 'เป๊ปซี่' เป็นผู้ส่งเข้าประกวด
ก่อนเข้าประกวดเธอเป็นนางฟ้าของบริษัท การบินไทย เธอมีเรือนร่างที่สูงโปร่งถึง 170 เซนติเมตร

      ในปีถัดมา 'นิภาภัทร'ได้เดินทางไปประกวดนางงามจักรวาล ณ ประเทศเปอร์โตริโก แม้ว่าจะไม่ได้ตำแหน่งสูงสุด
ของการประกวด แต่รอยยิ้มอันประทับใจแก่ผู้พบเห็นทั่วไป ต่างกล่าวขวัญถึงมิสไทยแลนด์ อย่างชื่นชมตลอดการเก็บตัว
ของการประกวดในครั้งนั้น

      ปัจจุบัน หลังจากสมรสกับ จตุพร สีหนาทกถากุล นักธุรกิจผู้มีกิจการหลายสิบอย่าง เช่น โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท,
โรงแรมสยาม เพชรบุรีตัดใหม่, บริษัท สีหนาท ก่อสร้าง เป็นต้น นิภาภัทร ได้ออกจากบริษัท การบินไทยและมาดำเนิน
ธุรกิจกับครอบครัวอย่างเต็มตัว

ปี 2515...กนกอร บุญมา

      'กนกอร' หรือ 'วัชรี เภามา'  พื้นเพเดิมเป็นชาวแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา อดีตนักเรียนเสริมสวยจาก
โรงเรียนเสริมสวยแอนนา เข้าร่วมประกวดนางสาวไทยโดยการชักชวนของอาจารย์อรุณี สามโกเศศ เจ้าของโรงเรียน
เสริมสวยแอนนา เธอเป็นนางสาวไทยคนที่ 21 ของประเทศไทย

      เธอเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลที่ประเทศกรีซในปี 2516 ร่วมกับสาวงามอีกเกือบร้อยประเทศทั่วโลก แม้ว่า
จะไม่ได้รับตำแหน่งใด ๆ กลับมาแต่เธอก็ได้ฝากรอยยิ้มและไมตรีจิตอันดีงามของชาวไทย ไปเผยแพร่แก่ชาวโลก
อย่างดียิ่ง

      ปัจจุบันหลังจากสมรสกับ สุวิทย์ พงษ์จรัสพันธุ์ เมื่อ 18 พฤษภาคม 2518 แล้วกนกอรได้มาเป็นแม่บ้านอย่าง
เต็มตัวรวมไปถึงช่วยดำเนินธุรกิจ ปั๊มน้ำมันเชลล์สุรนารีบริการและห้างหุ้นส่วนจำกัดอุปกรณ์ค้าไม้ ของสามี
ที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

แต่ละท่าน โฟร์ไฟล์เริ่ดทั้งนั้น ไม่ลูกหลานเจ้าเมือง  ก็มีบิดามาดาเป็นเจ้านายเก่า

ตั้งแต่มีเหตุการณ์ 14 ตุลาเป็นต้นไปในปี 2516-2526  ประเทศก็ยุติการประกวดนางสาวไทยไปอัตโนมัติ

มาเริ่มการจัดการประกวดกันใหม่ในปี 2527  โดยในปี 2526 บริษัทมิสยูนิเวิร์สซึ่งเป็นบริษัทจัดการประกวดนางงามจักรวาล
ได้เดินทางมาดูสถานที่ในประเทศไทยเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการจัดการประกวดนางงามจักรวาลขึ้นในประเทศไทย
โดยในขณะนั้น คุณชาติเชื้อ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ซึ่งดำรงตำแหน่ง
นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปภัมถ์ จึงได้รื้อฟื้นการจัดขึ้นอีกครั้งในปี 2527 ในงาน
เทศกาลพัทยา ครั้งที่ 3 ณ เมืองพัทยา โดยสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ
สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 และด้วยความร่วมมือสนับสนุนกับการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย

การจัดการประกวดนางสาวไทยในยุคนี้ นับเป็นยุคแห่งการประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก
เพื่อคัดเลือกสาวไทยเป็นตัวแทนไปประกวดนางงามจักรวาล




ปี 2527...สาวิณี ประการะนัง

      สาวอิมพอร์ตจากสหรัฐอเมริกาที่กลับบ้านมา เพื่อพิชิตมงกุฎนางสาวไทยไปครอง  สาวิณีเป็นสาวไทยแท้ วัย 19 ปี
สูง 167 เซนติเมตร เกิดในเมืองไทยแต่ไปเติบโตที่สหรัฐอเมริกา ก่อนพิชิตมงกุฎนางสาวไทย สาวิณีหรือจ๊ะเอ๋ เคยพิชิต
มงกุฎธิดาโดมแอลเอมาก่อน

      เข้าประกวดนางงามจักรวาล ติดอันดับ 1 ใน 10 ของการประกวดนางงามจักรวาล คะแนนของเธอติดอยู่ในอันดับ 6
พลาดตำแหน่ง 5 อันดับสุดท้ายไปอย่างฉิวเฉียด

      หลังจากนั้นไม่นาน ได้ตกลงใจแต่งงานกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กัณฑ์เอนก ปัจฉิมสัวสดิ์ หลายคนอดเป็นห่วงเธอ
ไม่ได้ ด้วยเหตุที่ฝ่ายชายเป็นคนเจ้าระเบียบ และสูงวัยกว่า ขณะที่สาวิณี เพิ่งอายุ 20 ปี กำลังเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว

      ชีวิตคู่เดินทางไม่เท่าไร เธอได้เลิกรากับนักธุรกิจหนุ่ม มีพยานรักด้วยกัน 3 คน

ป.ล. เพลงที่ใช้ในการประกวดนางสาวไทยในปีนี้แต่งขึ้นใหม่คือเพลง "นางสาวไทย" แต่งโดยเรวัติ พุฒินันท์

ปี 2528....ธารทิพย์ พงษ์สุข

      สาวจังหวัดน่านได้รับตำแหน่งนางสาวไทยตอนอายุ 18 ปี สูง 165 เซนติเมตร อดีตเคยเป็นประชาสัมพันธ์
โรงพยาบาลจังหวัดน่าน เคยพิชิตตำแหน่งนางสาวน่าน มิสไทยเทรดเตอร์และรองนางงามพัทยา นับเป็นสาวเหนือคนที่ 3
ที่พิชิตตำแหน่งนางสาวไทย

      จบการศึกษาระดับปริญญาโทเกียรตินิยมอันดับสอง และเป็นอาจารย์สอนวิชาการตลาด และ นิเทศศาสตร์ ให้
มหาวิทยาลัยเกริกที่เธอเข้ารับปริญญามหาบัณฑิต และเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยพงษ์โปรดักชั่น จำกัด พร้อมกับ
ช่วยสามี คุณสุนทร บุญชัย ผลิตรายการให้กับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

      ปีนั้นจัดการประกวดที่ สวนสยาม  สาวิณี ประการะนัง นางสาวไทย 2527 ไม่ได้เดินทางกลับมาจากอเมริกา วรัญญา วรากร รองอันดับ 1 ทำหน้าที่สวมมงกุฎให้นางสาวไทยคนใหม่แทน  นางงามจักรวาลในปีนี้ จัดที่ ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา


ป.ล. รองนางสาวไทยทั้งสี่ของปีนั้นประกอบด้วย  ลีลาวดี วัชโรบล  ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล (เสียชีวิตจากมะเร็งเมื่อปี 2554)
สุจิตรา รัตนประยูร และดวงหทัย กุญชร ณ อยุธยา

อย่าช่วยกันเก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยนะคะ ... ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ ทั้ง รูปภาพ และ ข้อมูล จ้า  ปลื้มมากๆๆ ....

ปี 2529...ทวีพร  คลังพลอย

      สาวจากนครสวรรค์ ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ไม่เคยผ่านการประกวดนางงามจากเวทีไหนมาก่อน นับเป็นนางสาวไทยที่เรียกว่าเป็นม้ามืดที่สุด แต่เธอก็สามารถ
พิชิตมงกุฎนางสาวไทยไปครอง ด้วยบุคลิกภาพที่แปลกตาไปจากนางสาวไทยคนอื่น ๆ

      ปีนี้นับเป็นปีแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่การจัดประกวด จากกลางแจ้งมาจัดในโรงแรมแทน  และนับเป็นปีแรก
และปีเดียวที่นางสาวไทยในปีที่ผ่านมา (ธารทิพย์ พงษ์สุข) เป็นสวมมงกุฎให้ผู้ได้รับตำแหน่ง

      ทวีพร ไปประกวดนางงามจักรวาล ณ กรุง ปานามาซิตี ประเทศ ปานามา และไม่ผ่านเข้ารอบใดๆ
ทวีพร 'วี' คลังพลอย เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น 'สิงหะคเชนทร์' เริ่มเข้าเป็นพนักงานการบินไทยตั้งแต่ 24 ตุลาคม 2532



ป.ล.  รองอันดับหนึ่งเวทีนางสาวไทยปีนั้น ซึ่งถือเป็นตัวเก็งคือสรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์  ไปประกวดมิสเอเชียแปซิฟิก
และได้รับตำแหน่งรองอันดับสอง   ส่วนรองอันดับสี่ในปีนั้น คือ พัชรีพร จันทร์สว่าง  เป็นดารานักร้องในกลุ่ม 18 กะรัต

ตั้งแต่เรายังไม่เกิด

กระทู้ดีดีแบบนี้กดโหวตให้ค่ะ

ปี 2530...ชุติมา นัยนา

      ชุติมา นัยนา หรือชื่อจริง อุมาพร นัยนานนท์ (ชื่อเล่น: เอ้) เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2510  เป็นนางสาวไทย
คนแรกที่คว้าตำแหน่งนางสาวไทย และขวัญใจช่างภาพ  เคยได้รับตำแหน่งนางสาวถิ่นไทยงาม จังหวัดเชียงราย

      เอ้เป็นสาวกรุงเทพฯ ได้รับตำแหน่งตอนเป็นนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เธอเป็นดาวขวัญใจคณะของมหาวิทยาลัย นับเป็นนางสาวไทยคนแรกของยุคนี้ที่ก้าวสู่วงการบันเทิง เริ่มจาก
การเป็นนางเอกละครทั้งที่ยังอยู่ในช่วงดำรงตำแหน่ง

     ได้ไปประกวดนางงามจักรวาลที่สิงคโปร์ หลังจากได้ตำแหน่งได้เริ่มแสดงละครเรื่อง แผลเก่า รับบทเป็น "เรียม"
ออกอากาศทางช่อง 7 สี และมีผลงานละครมากมายหลายเรื่องทั้งจอเงินและจอแก้ว ชุติมา นัยนา ยังเคยมีผลงาน
อัลบั้มเพลงเป็นของตนเองผลชุด หัวงู และประสบผลสำเร็จในระดับกลางถึงดี


ป.ล. รองทั้งสี่ในปีนั้นประกอบไปด้วย  ดวงเดือน จิไธสงค์  ศิริกัลยา โชติมณีพันธ์  มัลลิกา เกรียงไกร
และประภาพรรณ์ บำรุงไทย

ปี 2531....ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก

       ภรณ์ทิพย์  เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2511  ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  และย้ายไปอยู่ที่อมริการตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ      
เป็นอดีตขวัญใจอำนวยศิลป์ และรองธิดาโดมแอลเอ ภรณ์ทิพย์ หรือปุ๋ย เป็นสาวอิมพอร์ตคนที่ 2 ในยุคปัจจุบันที่เดินทาง
มาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อมาพิชิตมงกุฎนางสาวไทย ตอนอายุ 20 ปี นับว่าเป็นนางสาวไทย ที่ปลุกกระแสการประกวด
นางงามในเมืองไทย ให้เฟื่องฟูอีกครั้ง

       การประกวดนางงามจักรวาล ค.ศ. 1988 จัดขึ้น ณ เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน มีผู้เข้าประกวด 66 คน
ตัวเก็งการประกวดในสายสื่อมวลชน คือ นางงามสหรัฐอเมริกา นางงามเม็กซิโก นางงามสาธารณรัฐโดมินิกัน
นางงามนิวซีแลนด์ และนางงามไทยแลนด์ และสาวงามจากไอซ์แลนด์ ในปีนั้นเธอได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 Miss World
ในปี1987 มาแล้ว ซึ่งก็พ่ายให้กับสาวในแถบเอเซีย ในการประกวดรอบแรก

       ภรณ์ทิพทำคะแนนในชุดว่ายน้ำได้ลำดับที่ 11 แต่เมื่อรวมคะแนนจากชุดราตรีและการสัมภาษณ์แล้ว สามารถเข้ารอบ
สิบคนสุดท้ายมาในลำดับที่ 4 โดยมีคะแนนตามหลัง นางงามสหรัฐอเมริกา นางงามสาธารณรัฐโดมินิกัน และนางงามเกาหลีใต้
ในการประกวดรอบ 10 คน เธอสร้างความประทับใจให้กับกรรมการอย่างมากระหว่างช่วงการประกวดรอบสัมภาษณ์
ซึ่งทำให้เธอกวาดชัยชนะทั้งสามรอบ และกลายเป็นผู้ชนะอย่างขาดลอยของการประกวดนางงามจักรวาลในปีนั้น

       นอกจากได้รับมงกุฏนางงามจักรวาลแล้วยังได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมอีกตำแหน่งอีกด้วย

       ภรณ์ทิพย์ สมรสกับนักธุรกิจชาวอเมริกัน เฮิร์บ ไซมอน เจ้าของบริษัทพัฒนาไซมอน หนึ่งในหุ้นใหญ่ของธุรกิจขนาดใหญ่
ของสหรัฐอเมริกา เช่น ห้างนอร์ดสตอร์ม มีบุตรชาย 1 คนชื่อ ฌอน ไซมอน และบุตรสาว 1 คน ชื่อ โซฟี ไซมอน ขณะนี้
อาศัยอยู่ที่รัฐลอสแองเจิลลิส สหรัฐอเมริกา แต่ยังคงเดินทางไปกลับประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือการกุศลอยู่เป็นประจำ
อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีให้กับ โครงการเกี่ยวกับผู้หญิงและเด็กภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยความร่วมมือ
กับองค์การสหประชาติ


เพิ่มเติมครับ

ปีนั้นรองทั้ง 4 คนได้แก่  ปรียานุช ปานประดับ  ได้ตำแหน่งมิสเอเชีย แปซิฟิค ขวัญใจช่างภาพ  ชุดประจำชาติ และนางงาม
บุคลิกภาพ  ที่ฮ่องกง  รองอันดับสอง พิมพิไล ไชยโย  อันดับสาม ศุภรานันทน์ พันธ์ชูจิต  และอิสราภรณ์ จงเจริญ

ประวัติน่าสนใจทุกท่่านเลยคะ

ปี 2532...ยลดา รองหานาม

      นักศึกษานาฏศิลป์วัย 18 ปี สูง 171 เซนติเมตร ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยควบกับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ
เป็นนางสาวไทยที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการประกวดมา เธอได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 ชุดแต่งกายยอดเยี่ยมในการประกวด
นางงามจักรวาล ที่ประเทศเม็กซิโก

      ยลดา หรือ น้อง  รักการกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ  วันที่ประกวดเธอดูเด่นและไร้กังวลใด ๆ ทำให้หลายคนสงสัย
เธอบอกว่า  ที่เธอเดินเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้ และกำลังนึกถึงงานกีฬาของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะเริ่ม
จึงเดินให้รีบ ๆ จบไปโดยไม่ได้คิดเรื่องการประกวดใด ๆ


ป.ล.  รองทั้งสี่ในปีนั้นได้แก่ เพชรรัตน์ สีแก้วได้ตำแหน่งรองอันดับ 4 จากเวที Miss Asia Pacific 1989 ที่ฮ่องกง,
รักษ์สุดา สินวัฒนา ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 Miss Flower Queen 1989 ที่ประเทศญี่ปุ่น จริญญา หาญณรงค์
และทิพาพร เพชรรัตน์

กระทู้คุณภาพจริงๆครับ

ปี 2533...ภัสราภรณ์ ชัยมงคล

      สาวจังหวัดสงขลา ได้รับฉายาจากการประกวดว่า หมวยอินเตอร์ เคยได้รับตำแหน่งนางสาวแพร่ ธิดาปราจีน
และรองมิสเฮาส์ซิ่ง เธอเป็นนักศึกษาสาขาการตลาดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตจักรพงษภูวนาท
เป็นนางงามของค่ายป้าศรีเวียง ตันฉาย  ถือเป็นม้ามืดในกองประกวดซึ่งปีนั้นมีสาวงามของป้าชุลี ใจยงค์
เจ้าแม่แห่งวงการผุ้ผลักดันสาวงามหลาย ๆ คนเป็นนางสาวไทย

      ภัสราภรณ์ หรือ หญิง เป็นนางสาวไทยคนแรกและคนเดียวในปัจจุบันที่คว้าตำแหน่งขวัญใจช่างภาพจากการประกวด
นางงามจักรวาล  

      หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ภัสราภรณ์ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ Middlesex University ประเทศอังกฤษ


ป.ล. เบญจมาภรณ์ เดชสุภา รองอันดับหนึ่งในปีนั้น ได้ตำแหน่ง Miss Asia จากเวที Miss World university 1990

ปี 2534  จิระประภา เศวตนันทน์

      นักศึกษามหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น หลานสาวของอาเล็ก จีรนันทน์ เศวตนันทน์ นางสาวไทยปี 2508
เธอเคยได้รับตำแหน่ง นางงามสันติภาพจังหวัดกาญจนบุรีและตำแหน่งมิสพัทยา มาก่อนในการประกวดรอบสุดท้าย
คะแนนของเธอเท่ากับรองนางสาวไทยอันดับ 1 คือ วรรณิดา กุญชร แต่ได้รับการตัดสินชี้ขาดให้คว้ามงกุฎนางสาวไทย
โดยคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ประธานกรรมการตัดสินในปีนี้

    นางงามจักรวาลในปีนี้ จัดการประกวดที่ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

ปี 2535....อรอนงค์ ปัญญาวงศ์

      อรอนงค์เกิดวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านของอรมีฐานะยากจน ได้ทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อ
ในระดับอุดมศึกษา จบการศึกษาที่วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่

      เคยเป็นเทพีสงกรานต์และแม่หญิงถีบรถกางจ้องเชียงใหม่ เป็นนางสาวไทยที่ก้าวเข้ามามีชื่องเสียงในวงการบันเทิง
ในบทบาทของพิธีกรและนักแสดง เมื่อครั้งประกวดนางสาวจักรวาลที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ หลังพ้นจากตำแหน่ง
ได้เข้ามาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

      อรอนงค์เปลี่ยนนามสกุล ปัญญาวงศ์ เป็น อาวะกุล เพราะสมรสกับนายชินวุธ อาวะกุล มีลูก 2 คน

รองทั้งสี่คนของปีนั้น  จิดาภา ณ ลำเลียง   นารถวลี ศรีสกุล ได้รองอันดับที่ 1 จากเวที Miss Asia Pacific 1992 ที่ฟิลิปปินส์
ฟ้ารุ่ง ชารีรักษ์ และ อลิสา สุวรรณวงศ์

สวยทุกคนอ่าาา

ปาดขวา โหวตจ้า ข้อมูลแน่นมาก

โหวต!!!

ผมเกิดปี 2530
คุณชุติมา นัยนา ได้ตำแหน่ง
อิอิ

ปี 2536....ฉัตฑริกา อุบลศิริ

      ฉัตฑริกา หรือ ปุ๊ก นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยสยาม ได้รับตำแหน่งตอนอายุ 20 ปี ส่วนสูง 170 เซนติเมตร
เคยได้รับตำแหน่งนางนพมาศ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทย พระนครศรีอยุธยามาก่อน

      การประกวดนางสาวไทย 2536 เป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีนางสาวไทยในยุคที่ช่อง 7 รื้อฟื้นการจัดประกวด
นับจากปี 2527 เป็นต้นมา โดยในปีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ที่เด่นๆ เลยนั่นคือการลดจำนวนรองนางสาวไทย
จากเดิมที่เคยมี 4 คนลงมาเหลือแค่ 2 คนเพื่อให้สอดคล้องกับการประกวดนางงามจักรวาลในยุคนั้นที่มีตำแหน่ง
รองนางงามจักรวาลเพียง 2 คนด้วย   และสาวงามที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจากเดิมที่เคยสวมชุดว่ายน้ำรับตำแหน่ง
ก็เปลี่ยนมาเป็นสวมชุดราตรี เป็นปีแรกที่มีการสัมภาษณ์ผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายโดยคำถามจะมาจากจากใบประวัติ
ของผู้เข้าประกวดที่กรอกมาตอนสมัคร

     ฉัตฑริกาเป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดนางงามจักรวาลที่ประเทศเม็กซิโก และเข้ารอบ10 คนสุดท้าย
ในการประกวดชุดประจำชาติด้วย

ปี 2537...อารียา สิริโสภา

      อารียา หรือ ป๊อป  เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2515 สูง 171 ซม.สาวอิมพอร์ตจากมิชิแกน สหรัฐอเมริกา
จบการศึกษาด้านสื่อสารมวลชน วิชาเอกด้านการหนังสือพิมพ์จาก MICHIGAN STATE UNIVERSITY

      อารียาถูกจัดให้เป็นตัวเก็งในการประกวดนางงามจักรวาล 1994 แต่ตกรอบ 10 คนอย่างน่าเสียดาย โดยได้คะแนน
เป็นอันดับ 13 ได้รางวัล Miss Kodak Smile หรือ นางงามยิ้มสวย ในการประกวดนางงามจักรวาล 1994 ที่มะนิลา
ประเทศฟิลิปปินส์  เธอได้รับการกล่าวขาน
ว่าเป็นนางสาวไทยที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งจากเวทีการประกวดนางสาวไทย

      ครอบครัวของอารียาเคยใช้นามสกุลว่า "เย้าเยือน" ต่อมาได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น "ชุมสาย" เมื่อใช้ชีวิตอยู่ใน
สหรัฐอเมริกา ตามชื่อของญาติผู้ใหญ่  ซึ่งพ้องกับราชสกุลชุมสาย ณ อยุธยา ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นญาติกัน
เมื่ออารียาเริ่มมีชื่อเสียงจากการประกวดนางสาวไทย และถูกเข้าใจผิดจากสื่อมวลชน บางครั้งได้ลงข่าวโดยเติม
"ณ อยุธยา" ที่ท้ายนามสกุล จนถูกทักท้วงจากกลุ่มราชนิกูลในราชสกุลชุมสาย

     ในปี พ.ศ. 2543 เธอจึงเปลี่ยนมาใช้นามสกุล สิริโสภา ซึ่งใช้ในการประกวดนางสาวไทย มาจนถึงปัจจุบัน

      เคยรับราชการเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนทหาร จนมีฉายาที่คนทั่วไปเรียกกันว่า "หมวดป๊อป" ปัจจุบันเป็นนักแสดง
พิธีกร นักเขียน และผู้กำกับภาพยนตร์

ปี 2538....ภาวดี วิเชียรรัตน์

      มะปราง สาวอายุ 20 ปี สูง 168 เซนติเมตร เกิดที่กรุงเทพฯ แล้วย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่ลอสแองเจลิส เคยได้รับ
ตำแหน่งธิดาโดมแอลเอและกุลสตรีสงกรานต์วัดไทย ในแอลเอ เธอได้รับฉายาว่า น้องป๊อปสอง ตอนได้รับตำแหน่ง
นางสาวไทยใหม่ ๆ

      ภาวดีเป็นนางสาวไทยคนที่สองที่ดำรงตำแหน่งนางสาวไทย 2 ปีซ้อน เพราะปี 2539 นั้นไม่มีการจัดประกวดนางสาวไทย
เนื่องจากมีพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

     ต่อมาเธอก็เข้าร่วมประกวด Mrs. World 2003 และเธอสามารถครองมงกุฎจากเวทีนี้ได้เป็นคนแรกของประเทศไทย
จากประสบการณ์การประกวดและบุคลิกที่มาดมั่นของเธอ จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอสามารถคว้ามงกุฎ Mrs. World 2003 มาครอง

อยากเห็นรูปแม่คุณแซม ยุรนันท์ ว่าจะงามหยดย้อยขนาดไหน

เพราะคุณแซมก็หน้าหวานซะ

ปี 2539 มีงานพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เนื่องจากเงื่อนไขของผู้เข้าประกวดนางงามจักรวาล
จะต้องมีการประกวดคัดเลือกเป็นตัวแทนของประเทศก่อน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการ
ส่งตัวแทนสาวไทยในนาม Miss Thailand จึงได้จัดการคัดเลือกตัวแทนเพื่อไปประกวดนางงามจักรวาลในปีนี้
ที่โรงแรมดุสิตธานี วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 โดยไม่มีการสวมชุดว่ายน้ำ เดินประกวดและสัมภาษณ์ในวันเดียวกัน
ผลการคัดเลือก นิรัชลา คำยา ซึ่งเคยเข้ารอบ 10 คน ในการประกวดนางสาวไทย พ.ศ. 2538 ได้เป็นตัวแทนสาวไทย
ร่วมประกวดนางงามจักรวาลที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2539



ปี 2540 .... สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ

      น้ำฝน  สาวจากอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก นักศึกษาชั้นปีที่ 2 เอกบรรณารักษ์และสารนิเทศ คณะมนุษยศาสตร์
สถาบันราชภัฏ จันทรเกษม เคยได้รับตำแหน่งนางงามมิตรภาพไทย–ลาว นางสงกรานต์วิสุทธิกษัตริย์ นางงามสันติภาพ
จังหวัดกาญจนบุรี และนางงามระยอง นอกจากนี้ยังได้รับตำแหน่งนางงามผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นอีกด้วย นับเป็นนางสาวไทย
ที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อเข้าประกวดอย่างยาวนาน ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเข้าประกวดเมื่อปี 2537 แต่อายุไม่ถึงเกณฑ์

      น้ำฝน สรวงสุดา  เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 มีพี่น้อง 3 คนเป็นพี่คนโตจบการศึกษาระดับชั้น ม.6
โรงเรียนมาลาสวรรค์พิทยา และปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ภาควิชาสารนิเทศ

      หลังจากได้เป็นนางสาวไทย พ.ศ. 2540 มีผลงานการแสดงละครและภาพยนตร์ อาทิ เช่น มนต์รักอสูร 12 ราศี
ขบวนการปุกปุย สวรรค์เบี่ยง ขังแปด เสือคาบดาบ ฯลฯ สรวงสุดามีฐานะเป็นนักแสดงช่อง 3 ล่าสุดก็ได้แสดงละครเรื่อง
รหัสทรชน/กุหลาบร้ายกลายรัก/เพลิงทรนง/เงาพราย/ และล่าสุดคือเรื่องแรงแห่งยุค...แรงเงา แสดงเป็นแม่ของวีกิจ


ป.ล. (เพิ่มเติม) รองอันดับหนึ่งปีนั้น วรรัตน์ สุวรรณรัตน์ ได้ตำแหน่ง มิสเอเชียแปซิฟิก ค.ศ.1997 ในการประกวดที่เมือง
ดาวาว ประเทศฟิลิปปินส์

กระทู้ดี มีสาระ โหวตค่ะ

สวยๆกันทุกท่านเลยย

ปี 2541....ชลิดา เถาว์ชาลี

      ชลิดา หรือ นก เกิดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2517  เกิดที่เมืองชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในวัยเด็กอยู่กับบิดา ดร.ชัชว์ เถาว์ชาลี แล้วย้ายกลับมาศึกษาต่อที่ประเทศไทยจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จึงกลับไป
เรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการพยาบาล ออโรรา ยูนิเวอร์ซิตี้
2536 เตรียมพยาบาลศาสตร์ University of Illinois at chicago

      เป็นสาวอิมพอร์ตจากสหรัฐอเมริกา ได้รับตำแหน่งสาวเจ้าเสน่ห์ในการประกวดด้วย  เคยได้รับตำแหน่งเทพีสงกรานต์
วัดไทยในชิคาโกมาก่อน

      นางงามจักรวาล ค.ศ.1998 จัดประกวดที่ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา

      ชลิดาสมรสกับนายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ (กบ) กรรมการผู้จัดการ ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์
มีบุตรชายฝาแฝด 2 คน ชื่อ ไมเคิล และ อเล็กซ์ (เสียชีวิต 11 ส.ค.2550)

(เพิ่มเติม) รองสองคนของปีนั้นคือ สิริดา ชุณหชาติ และมัณฑนา โห่ศิริ

ปี 2542 ..... อภิสมัย ศรีรังสรรค์

      อภิสมัย  หรือ หมอเบิร์ด  มีตำแหน่งแพทย์ระดับ 4 จากกรมสุขภาพจิต จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น ได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสาวเจ้าเสน่ห์ นับเป็นคุณหมอนางสาวไทยคนแรกของประเทศ เคยได้รับ
ตำแหน่งมิสไลก้าและเป็นนางสาวไทยคนสุดท้าย ที่ได้เป็นตัวแทนไปประกวดนางงามจักรวาล เนื่องจากบทบาท
และหน้าที่ของนางสาวไทยที่เปลี่ยนไป ตามสภาพสังคมและยุคสมัย

      พ.ญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2517  จังหวัดนครปฐม จบประถมศึกษาที่โรงเรียน
ฐานบินกำแพงแสน มัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
มัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนสตรีวิทยา จบการศึกษาปริญญาตรีจาก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตเวชศาสตร์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และได้เข้าทำงาน
ที่โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรีแล้วได้อยู่ฝ่ายจิตแพทย์ทั่วไป

      หลังประกวดแล้วได้เป็นผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ต่อมาได้เป็นพิธีกรรายการเพราะฉันคือผู้หญิง
ทางไอทีวี  ปัจจุบันทำงานเป็นจิตแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา

      สมรสกับนายแอนดริว ชาร์ล เมลก้า ชาวอเมริกัน

คุณวงเดือนได้รางวัลตอนอายุ 14 ปี อย่างนี้คงต้องเรียก "เด็กหญิงสยาม" แล้วล่ะค่ะ

ปี 2543...ปนัดดา วงศ์ผู้ดี

      ปนัดดาเข้าประกวดนางสาวไทยหลังจากเป็นอาจารย์คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
จังหวัดชลบุรีได้ 1 เทอม  

      ปีนี้เป็นปีแรกที่นางสาวไทยดำรงตำแหน่งทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้เป็นที่
รู้จักไปทั่วโลก ปนัดดาได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ และเป็นนางสาวไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่ง ขณะจบการศึกษา
ปริญญาโท สาขาธุรกิจระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยวอลลองกอง ประเทศออสเตรเลีย

      และเป็นปีแรกของการประกวดนางสาวไทย ที่เป็นความร่วมมือของสมาคมนักเรียนเก่า วชิราวุธวิทยาลัย กับทางไอทีวี
ซึ่งจัดการถ่ายทอดสดผ่านทางไอทีวี โดยแต่เดิมนั้นการประกวดนางสาวไทย เป็นความร่วมมือของสมาคมนักเรียนเก่า
วชิราวุธวิทยาลัย กับทางช่อง 7 โดยจัดการ
ถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 7 ซึ่งในการประกวดนางสาวไทย ในปี 2543 นี้ ทาง วชิราวุธวิทยาลัย ร่วมกับการท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทย ในการกำหนดนิยามของการประกวดนางสาวไทยว่า "ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย"
โดยจะมอบตำแหน่ง "ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย แก่ผู้ชนะเลิศการประกวดนางสาวไทยปี 2543 อีก 1 ตำแหน่ง
และในปี 2543 เป็นตั้งต้นมาการประกวดนางสาวไทย ไม่มีการประกวดโดยการสวมใส่ชุดว่ายน้ำ ซึ่ง ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
ได้ชื่อเป็นนางสาวไทยคนแรก ที่เป็นทั้งนางสาวไทยและทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทยพร้อมกัน

      สมรสกับ วีรพงศ์ พิพิธสุขสันต์ เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2548 พบกันตอนไปอบรมหลักสูตร พสบ. ที่กองทัพเรือ
มีลูกสาวชื่อน้อง อันดามัน ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ได้ประกาศต่อสาธารณชนว่าแยกกันอยู่


ป.ล. นางสาวไทยตั้งแต่ปีนี้ไม่ได้สิทธิ์ไปประกวดนางงามจักรวาล แต่ทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

เพิ่มเติมคะ คุณจีรนันทน์ เศวตนันทน์ เป็นแม่ของคุณคิว นักร้องนำวงฟลัวร์คะ
^_^

ปี 2544....สุจีรา อรุณพิพัฒน์

      ได้รับตำแหน่งขณะศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบพัสตรากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาวน้อยวัย 19 ปี
บุคลิกร่าเริงสดใส ได้รับการตัดสินให้เป็นนางสาวไทย นับได้ว่าสุจิราได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของนางสาวไทยที่เคยเคร่งขรึม มาสู่แนววัยรุ่นสมัยใหม่
ได้อย่างลงตัว

      สุจิรา หรือ นุ้ย เกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2525 เป็นนางสาวไทยประจำปี 2544 เป็นนักแสดง ศึกษาระดับอนุบาล-ม.3 ที่โรงเรียน
เซ็นต์ฟรังส์ซิสซาเวียร์ ระดับ ม.4-ม.6 ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายศิลป-ภาษาเยอรมัน และระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์
สาขาพัสตราภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปี 2545..... ปฏิพร สิทธิพงศ์

      ปฏิพร หรือ หน่อย จบทางด้านเศรษฐศาสตร์ จาก Boston University กำลังหางานทำในกรุงเทพ แต่ก็มาได้ตำแหน่ง
อันทรงเกียรติเสียก่อน อย่างไรก็ตามบุคลิกของปฏิพร ทำให้ภาพของนางสาวไทยยุคปัจจุบันต้องเป็นผู้ที่รอบรู้
งามทั้งหน้าตาและสติปัญญา นอกจากนี้ การประกวดในปีนี้ยังริเริ่มให้มีคะแนนสะสม จากความสามารถของระดับ
สติปัญญาอีกด้วย

     นอกจากตำแหน่งนางสาวไทยในปีนั้น หน่อยยังได้คว้าตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน, ขวัญใจภาคเหนือ
และพ่วงด้วยตำแหน่งสาวมาดมั่น หลังจากได้รับตำแหน่ง เธอได้เข้าทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจภาคภาษาอังกฤษ
ที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวี หรือไทยพีบีเอส ในปัจจุบัน ก่อนเปลี่ยนไปเป็นผู้ประกาศข่าวและพิธีกรรายการ ที่สถานี
Money Channel

      หน่อยเปลี่ยนชื่อเป็นพนิตพิมพ์ และสมรสกับ นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กก.ผจก.ธนาคารอาคารสงเคราะห์
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2555ที่ผ่านมา

กระทู้เลอค่ามากค่ะ

ปี 2546... ชาลิสา บุญครองทรัพย์

      ชาลิสา หรือหมิง  เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2526  ได้รับตำแหน่งตอนอายุ 19 ปี ส่วนสูง 165 เซนติเมตร
จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการละคร และศึกษาต่อปริญญาโททางด้านจิตวิทยา
ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บิดาเป็นเจ้าของธุรกิจบริษัท สปอร์ตโทรฟี่ นำเข้าและผลิตถ้วยรางวัล

      ในปีนั้น ‘หมิง’ กวาดไปถึง 4 รางวัลบนเวทีนี้ ทั้งตำแหน่งนางสาวไทย, ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน, ผู้หญิงที่มีบุคลิก
มาดมั่นแห่งปี และนางงามผมสวย หมิง ค่อนข้างได้เปรียบในด้านความกล้าแสดงออก และจุดเด่นที่น่าสนใจของเธอคือ
ร่าเริง แจ่มใส จึงทำให้เธอเป็นนางสาวไทยคนที่ 40

      จัดการประกวดที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด "นางสาวสยาม งามสคราญกุลสตรีไทย"
ในปีนี้เป็นปีครบรอบ 70 ปีนางสาวไทย ได้มีการจัดนิทรรศการภาพเขียนอดีตนางสาวไทย โดยศิลปิน วิศเวท วัฒนสุข
รวมทั้งได้เชิญอดีตนางสาวสยามและนางสาวไทย รวม 17 คน มาร่วมในงานด้วย และตำแหน่งรองนางสาวไทยปีนี้
จัดให้มี 4 ตำแหน่งเหมือนอย่างแต่ก่อน

โอ๊ะเย่.. กระทูัดี มีคุณค่า และสาระ คู่ควรแก่การจดจำ ชอบๆ .. ครั้งแรกที่กดโหวด พร้อมกดถูกใจและกดเข้าคลัง

ขอบคุณคุณพี่อ๋องมากค่ะ^__^

ปี 2547....สิรินทร์ยา สัตยาศัย

      สิรินทร์ยา หรือ ฝ้าย เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2524 เป็นบุตรคนโตของ ดร.นพ สัตยาศัย อดีตอาจารย์ประจำ
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้บริหารการประปานครหลวง กับนางศิริวรรณ สัตยาศัย เจ้าของ
ธุรกิจสนามไดร์ฟกอล์ฟ และร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกา เรียนชั้นมัธยมจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ประสานมิตร แล้วเดินไปอาศัยอยู่กับน้าที่สหรัฐอเมริกา เริ่มเรียนระดับชั้นมัธยมต่อที่นั่น และกลับมาศึกษาต่อ
รับปริญญาตรีที่ คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตรนานาชาติ

      ได้ชื่อว่าเป็นม้ามืดในการประกวด เพราะสามารถเบียดตัวเก็ง จนได้ตำแหน่งจากการที่ตอบคำถามได้อย่างฉะฉาน
โดดเด่นกว่าใคร ฝ้าย ครองตำแหน่งนางสาวไทยด้วยวัย 23 ปี


      ปีนี้จัดการประกวดที่ เวทีใหม่ สวนอัมพร ภายใต้แนวคิด "กุหลาบงามสยามนคร" โดยได้เชิญอดีตนางสาวไทย
หลายสมัยมาร่วมแสดงในชุด "กุหลาบงามสยามนคร" และที่เป็นที่น่าสนใจที่สุดคือการเชิญ คุณมยุรี วิชัยวัฒนะ(เจริญศิลป์)
นางสาวสยาม พ.ศ. 2480 ร่วมแสดงบนเวทีด้วย (ในปี พ.ศ. 2547 นี้ คุณมยุรี มีอายุ 83 ปี)

      สิรินทร์ยาได้รับตำแหน่งนางสาวไทยเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2547
โดยดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 2 ปี ถึง พ.ศ. 2549
เนื่องจากในปี พ.ศ. 2548 นั้น สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ได้งดจัดการประกวด เกิดเหตุการณ์กบฏไอทีวี

ปี 2549...ลลนา ก้องธรนินทร์

      เจี๊ยบ เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2530 ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เป็นบุตรคนที่ 2 ใน 3 คนของ นายสุเทพ ก้องธรนินทร์
เจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก และ นางวินิตตา ก้องธรนินทร์ เจ้าของรายการข่าวภาคภาษาอังกฤษ ขณะได้รับตำแหน่ง
นางสาวไทยกำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

      การประกวดจัดขึ้นที่โรงละคร ไทยอลังการ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ภายใต้แนวคิด "เพชรงามสยามประเทศ"  
เจี๊ยบได้รับตำแหน่งนางสาวไทยประจำปีนั้นไป ด้วยส่วนสูงถึง 173 เซนติเมตร  และใช้ความสามารถพิเศษ
ด้านกีฬาเทควันโด และการตอบคำถามในรอบสุดท้าย  และยังได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน
และขวัญใจประชาชน จากการโหวตผ่านเอสเอ็มเอสจากประชาชนอีกด้วย

      งานอดิเรก คือ ดูแลสัตว์เลี้ยง เพราะที่บ้านเลี้ยงสัตว์ไว้หลากหลายชนิดพันธุ์ ทั้ง สุนัข ปลา เต่า บลูทั้งค์
และสัตว์แปลกๆ อีกมากมาย กีฬาที่ชอบเล่น คือ เทควันโด

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ^^
โหวต + เก็บ ค่ะ

ปี 2550.... อังคณา ตรีรัตนาทิพย์

      อ้อ หรือ อังคณา ตรีรัตนาทิพย์ อายุ 22 ปี เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2528 เป็นลูกสาวคนเดียวของนางปัทมา
เจียรนัยรุ่งโรจน์ ทำธุรกิจขายอาหาร คุณพ่อได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็ก กำลังเรียนอยู่ที่คณะพาณิชยศาสตร์
และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 ในขณะที่ครองตำแหน่ง  ด้วยส่วนสูง 172 เซ็นติเมตร  มีความ
สามารถพิเศษหลากหลาย ทั้งเต้นบัลเล่ต์ ลีลาศ เป่าขลุ่ย รำไทย  อ้อยังได้รับรางวัล "Miss Healthy"
"Miss Perfect" และรางวัล "นางงามมิตรภาพ" ไปครองอีก 3 รางวัลบนเวทีนี้อีกด้วย

      ปีนี้จัดการประกวดที่ ห้องรอยัล จูบิลลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด
"งามล้ำค่า กัลยาเทอดแผ่นดิน"  

      ปัจจุบันสมรสกับ  นายแพทย์อัฏฐวัฒน์ หิรัญพฤกษ์ เมื่อสิงหาคม 2553


ป.ล.  ผู้เข้าร่วมประกวด น.ส.ชมพูนุช ลออวรรณากร ไม่สบายกะทันหันและไม่สามารถออกมาตอบคำถามบนเวที
ภายหลังจากได้รับการประกาศชื่อให้เข้ารอบ 3 คน และได้ขอสละสิทธิ์ ทำให้ได้ตำแน่งรองอันดับ 2 ไป

นี่ไง หน้าไทยๆ แต่ไทยแท้หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบ

ทันถ่ายทอดอ่าาา ภูมิใจจจ

ปี 2551....พรรณประภา ยงค์ตระกูล

      พรรณประภา หรือ บุ๋ม อายุ 20 ปี นิสิตคณะแพทยศาสตร์ ปี 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถพิชิต
มงกุฎไปครองได้สำเร็จ และปฏิบัติหน้าที่ "ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว" ในการประชาสัมพันธ์และสร้างชื่อเสียง
ให้กับประเทศไทย ทำเอาหลายคนอมยิ้มกับความสวยใส สง่างาม ที่มาพร้อมกับความฉลาดตรงตามแนวคิด
"ประกายงามแห่งปัญญา"  ทั้งนี้บุ๋มยังได้รับตำแหน่ง "นางงามผิวสวย" พ่วงอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย

      บุ๋ม เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2531 อายุ 20 ปี เป็นคนกรุงเทพมหานคร ส่วนสูง 169 เซนติเมตร เคยเข้าประกวด
มิสทีนไทยแลนด์ ประจำปี 2006 เมื่อตอนอายุ 18 ปี และสามารถคว้ารองอันดับ 2 พ่วงรางวัล สาวผิวเนียนใสไร้แผลเป็น
หรือ มิสฮีรูดอยด์ปี 2006 มาครอง

ปี 2552....อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์

      อรวิภา หรือ โจอี้ เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2532 อายุ 20 ปี สูง 167 เซนติเมตร  มีพี่น้อง 4 คน โดยเธอ
เป็นลูกสาวคนที่ 2 ของเจ้าของธุรกิจไร่ส้ม ที่จังหวัดกำแพงเพชร มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสระบุรี  จบการศึกษา คณะสังคม
สงเคราะห์ศาสตร์ สาขา เด็ก-เยาวชนและครอบครัว มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนหน้านี้เคยเป็น ลีด เฟรชชี่
และได้ตำแหน่ง "ดาว มหาวิทยาลัย" ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

      ในฐานะนางสาวไทย ประจำปี 2552 โจอี้ยังจะต้องทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เพื่อเสริม
ภาพลักษณ์ และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่ประจักษ์ในสังคมโลกอย่างกว้างขวางมากขึ้นอีกด้วย      



ป.ล.  จัดการประกวด ณ โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ถนนรางน้ำ กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด
"ทอแสงงามแห่งจิตใจ" โดยโมเดิร์นไนน์ทีวี ถ่ายทอดสดการประกวด  เพลงที่ใช้ในการประกวดในปีนี้คือเพลง
"จากฟากฟ้า สู่นางสาวไทย"

เราว่ารุ่นก่อนๆนี่ ดูครั้งแรกก็คิดว่าคนไทยนะ คือมันมีเค้าโครงอ่ะ ว่าเป็นเอเชียแน่นอน

ปี 2553 .... กฤชภร หอมบุญญาศักดิ์

     กฤชภร หรือ “น้องกิ๊ฟ” เป็นสาวเชียงใหม่ วัย 20 ปี เกิดเมื่อ 8 มิถุนายน 2533  เป็นชาวบ้านหนองไคร้
อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เจ้าของส่วนสูง 172 เซนติเมตร กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 2  มีความสามารถพิเศษในการรำไทยประยุกต์ จินตลีลา และชื่นชอบด้านการแสดง

      นอกจากตำแหน่งนางสาวไทย  เธอยังคว้าไปอีกถึง 3 รางวัลด้วยกัน ก็คือ รางวัล Miss Intelligent  รางวัล
Miss Body Perfect และรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน  โดยก่อนหน้าที่จะเข้ามาประกวดนางสาวไทยนี้
กิ๊ฟก็เพิ่งคว้ารางวัลนางงามเชียงใหม่ปี 2553 และเป็นอดีตเจ้าของตำแหน่งนางงามสงกรานต์ จ.เชียงใหม่ และ
ธิดานครพิงค์ ประจำปี 2551 มาแล้วเช่นกัน

ป.ล. จัดการประกวด ณ โรงละครอักษรา ภายใต้แนวคิด "งามอย่างยั่งยืน" ความพิเศษของปีนี้คือผู้เข้าประกวดจะได้
เดินทางตามรอยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ จังหวัดนครปฐม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี การสถาปนาวชิราวุธวิทยาลัย และนางสาวไทยปีนี้จะได้เป็นทูตทางการค้าเพิ่มอีก
หนึ่งตำแหน่งด้วย

นั่งอ่านทุกนางงามเลยอะ ทึ่งงงงงงงง!!!!!!!!

ขอบคุณ จขกท ที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆจ้า

#10 พ.ศ. น่าจะพิมพ์ผิดค่ะ 2495 มากกว่า 2595 (มันยังไม่ถึงจ้า)
ปล. ขอบคุณ จขกท. ที่เอาข้อมูลมาแบ่งปันค่ะ

จะบอกว่านางงามปีหลัง เราไม่คุ้นชื่อคุ้นหน้าเลย
ดูเงียบๆ ไป

ขอมอบมงให้ จขกท

ขอขอบคุณ
คคห. 13 คุณ TanN LaH La
คคห. 15 คุณ miona2000
คคห. 17 คุณ Mareeraya
คคห. 18 คุณ หมูกรีซลี่คลั่ง
คคห. 29 คุณ tip_tatee
คคห. 31 คุณ พาไล
คคห. 36 คุณ hamich
คคห. 41 คุณ MJ_CHIC
คคห. 48 คุณ vnd_daly
คคห. 57 คุณ rise over run
คคห. 59 คุณ ไก่จำศิล
คคห. 62 คุณ ไอแอมโซวอน


คคห. 26 คุณ นานี่ (dandome) => ครับ...ผมเชื่อว่าพวกเค้าถูกกำหนดหน้าที่มาแล้วครับ


คคห. 34 คุณ ลุ๊งลิ๊ง => ครับผม  ทุกท่านมีประวัติน่าสนใจยิ่ง


คคห. 40 คุณบัวลอยน้ำใส และ
คคห. 49 คุณ dexsil => ครับ  ทุกท่านสวยจริงครับ


คคห. 42 คุณMy Precious...ของรักของข้า!!! (โตน-จุลพจน์) => เลยทราบว่ายังละอ่อนเลยครับ :)


คคห. 46 คุณ เด็กหญิงรองเท้าแก้ว =>  ผมแปะรูปรวมให้ดูนะครับ  คนที่สองจากขวาคือคุณเรณู คุณแม่ของ
คุณแซมยุรนันท์  ตามที่อยากเห็นครับผม


คคห. 52 คุณ นู๋โมจัง => ผมไม่แน่ใจว่า ณ เวลานั้นไม่จำกัดเรื่องอายุหรืออย่างไร  จึงได้เด็กหญิงมาหนึ่งคน
เก๋ครับ...เด็กหญิงไทย  เอ...หรือสมัยนั้น 12 ก็เป็นนางสาวแล้วหนอ?  จำได้ว่าสมัยก่อนก็แต่งงานกันอายุน้อย
นะครับ


คคห. 54  คุณ  sugar_least => ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับผม


คคห. 64 คุณ bonitas_jen และ
คคห. 68 คุณ เด็กหญิงฮิคิโคโมริ
=> หลาย ๆ ท่านก็ดูไม่ไทยนะครับ มีเชื้อนั่น โน่น นี่...แต่ใช่ครับ  ยังออกลุ้คเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ครับ


คคห. 65 คุณ nokyungnaja => ดีใจด้วยครับ


คคห. 70 คุณ เด็กหญิงมะเดี่ยว => ทุกเรื่องราว น่าสนใจและน่าติดตามครับ


คคห. 71 คุณ nonghippo => ด้วยความยินดีครับผม

ขอบคุณมากค่ะ ปีหลังๆ บางคนรายังไม่รู้จักเลย

อยากห็นกัวข้อรวบรวมมิสยูนิวิร์ส กับมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ช่องสามกับเจ็ดจังค่ะ ^^

คคห. 72 คุณ wrnk  => ขอบคุณมากมายครับผม  รับทราบและแก้ไขแล้วครับ


คคห. 73 คุณ  ((อยากหลับตา)) และ
คคห. 76 คุณ  marshmallow.elf =>  ถ้าไม่ทำเองก็ไม่รู้จักจริงครับผม ผมก็งงตัวเองว่าไปอยู่ไหนมาเหมือนกัน


คคห. 74 คุณ lordnoo => จะมอบมงกุฎให้ผมหรือครับ?  ขอบคุณมากครับ แต่คงไม่ใช่มงกุฎอันเดียวกับของ
คุณภัสราภรณ์ ชัยมงคล นะครับ  บ้านเธอถูกยกเค้า มงกุฎหายไปครับ

ขอบคุณมากค่ะ

ชอบกระทู้นี้มากๆๆ มีแต่สาระ

กระทู้เลอค่ามากค่ะ

ตั้งแต่นางสาวไทยย้ายไปไอทีวี  รู้จักน้องเจี๊ยบ  ลลนาอยู่คนเดียวเองอ่ะค่ะ

กระทู้นี้เลอค่ามากจริงๆ  ขอโหวต + กดเก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยคนนะคะ  

ปีหลัง ๆ ที่เราไม่รู้จัก สงสัยไม่มีผลงานออกทีวีแน่เลย

ที่รู้จักจริง ๆ มี แค่ช่วงกลาง ๆ ถึงเกือบปลาย

อย่างว่าละน้า เดี๋ยวนี้มีเวทีโน้นนี้มากมาย งงไปหมด

เป็นกระทู้ที่ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

โหวตๆๆๆ

แอบตกใจตัวเอง ไหงรุ่งหลังๆไม่รู้จัก แต่รุ่นเก่าๆคุ้นหูจัง>_<

อ่านตาแฉะก็ยอม ชอบจังอ่านสนุก

ขออภัย  ผมตอบทุกท่านด้านบนไปหมดแล้ว  แต่เพิ่งเห็นว่าคคห.หาย  สงสัยเพราะรูปใหญ่เกินครับ

คคห. 46 คุณ เด็กหญิงรองเท้าแก้ว => ถามหารูปของคุณเรณู  คุณแม่ของคุณแซม ยุรนันท์  ผมหามาได้
เป็นรูปรวมของปีนั้นนะครับ  คุณเรณูอยู่ที่สองจากขวาครับ

เครดิต :: http://thailandbeauties.com/board/index.php?showtopic=411&mode=linearplus

แถมให้อีกรูป  เป็นรูปตอน 5 คนสุดท้ายของ Miss Univers 1965 ที่คุณอาภัสราเป็นสาวเอเชียผู้เดียวที่เข้ารอบ
โดดเด่นเป็นที่สุดแม้ความสูงจะด้อยกว่าใครก็ตาม  ความสง่าเป็นอันดับต้นเลยล่ะครับ

เครดิต :: http://picpost.postjung.com/106366.html

และเนื่องจากคุณอาภัสราได้เป็น Miss Universe ปี 1965  ปีถัดไปคุณจีระนันท์จึงหมดสิทธิ์ครองมงกุฎเดียวกัน
ซ้อน  และไม่สามารถเป็นรองอันดับ 1 ได้ด้วย เหตุเพราะหาก Miss Universe ทำหน้าที่ไม่ได้ รองอันดับ 1 ต้อง
ทำแทน  และหากเป็นคนไทยก็เท่ากับซ้อน 2 ปี  ผิดกฎ...ด้วยเหตุนี้...ลองดูรูปแล้วกันครับว่าน่าเสียดายเพียงใด

Miss Universe 1966, Margareta Arvidsson of Sweden and her runners-up Miss Finland Satu Charlotta Östring
(1st runner-up) and Miss Thailand Jeeranun Savettanun (2nd runner-up).

เครดิต :: http://beautyschool-bs.** ไม่ใช่ลิควิด **/2009/06/zen-on-sunday.html

เป็นกระทู้ที่ดีมากค่ะ

5 คนสุดท้าย  สง่ามาก ๆ ครับ

เครดิต :: http://www.t-pageant.com/2011/index.php?/topic/27347-อาภัสรา-หงสกุล-มินยู-คนใหม่/

เป็นกระทู้ที่ทรงคุณค่ามากจริงๆ ค่ะ

ได้เห็นนางสาวไทยที่เป็นต้นแบบของชื่อคุณแม่ด้วย อันนี้คุณแม่ไม่เคยเล่า แต่เห็นชื่อนางสาวไทย และปีที่ได้รับตำแหน่งแล้ว เลยลองไปถามดู ใช่จริงๆ ด้วย

มีอย่างหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนค่ะ

คือ พ.ศ.2543 ปีนั้นแบบนางสาวไทยออกเป็นสองสายคือสายที่ยังใช้คำว่านางสาวไทย จัดการประกวดโดยวชิราวุธ

และที่จัดการประกวดโดยคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีด์ ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวอร์ส

ซึ่งมีจุดเปลี่ยนอีกครั้งในปีนี้สำหรับมิสไทยแลนด์ยูนิเวอร์ส  หลังจากที่คุณแดงไม่ได้ทำงานที่ช่อง 7 แล้ว

แต่อย่างไรก็ตามตัวแทนไปประกวดมิสยูนิเวอร์ส ยังคงมาจากการจัดประกวดโดยคุณแดง

ปี 2531 นี่เป็นปีทองของนางสาวไทยจริงๆ พี่ปุ๋ย ซ้อนุช คุณฮันนี่ สวยๆทั้งนั้น
ซ้อนุชนี่ถ้ามาประกวดปีอื่นคงชนะไปแล้ว

คุ้นๆชื่อคุณสาวิณี ปะการะนังเลยไปค้นกูเกิ้ล  ปรากฏแม่น้องหงิก หมูแฮมนี่เอง

กระทู้นี้ต้องโหวด

ให้โวหตหนึ่งคนจากข้างบน

เลือกพี่ปุ๋ย นี่ที่สุดอ่ะ สวยมากกกกกก

แล้ว MU นี่เริ่มประกวดตั้งแต่ปีไหนครับ

แล้วใครเคยได้รับตำแหน่ง MU มาแล้วบ้าง

กระทู้มีทั้งสาระความรู้ และมีความบันเทิงเริงใจ ไปในตัว นี่สิ สมกระทู้แนะนำเฉลิมไทยหน่อย  

...............

หมุนตัวเบาๆ c^^

จิ้มโหวต+เก็บเข้าคลัง

พี่อ๋องสุดยอดไปเลยค่ะ

ช่างสรรหาจริงๆ   สุดเยี่ยม

อยากให้ได้ดูค่ะ ตั้งแต่นาทีที่ 0.30 ตอนคุณปุ๋ยตอบสัมภาษณ์ Miss Universe 1988
(ขออนุญาตเจ้าของคลิปและพื้นที่เจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ)

เราเองเพิ่งมาพอแตกฉานภาษาอังกฤษตอนโต  แต่พูดได้เลยว่าคุณปุ๋ยตอบได้ฉะฉาน ฉลาด และสมควรชนะจริงๆ คำตอบประทับใจมากๆ

ถ้าจำไม่ผิด...จนปัจจุบันเราก็ยังได้ยินข่าวคุณปุ๋ยกลับมาไทยช่วยเหลือเด็กอยู่เป็นระยะๆนะ

เล่าความหลังนะคะ สมัยที่พี่ปุ๋ยได้ตำแหน่งใหม่ๆ เค้ามีขบวนแห่มาถึงโรงแรมเซ็นทรัล จำได้ตอนนั้นโดดเรียนไปยืนดูอยู่ทางเข้าโรงแรม อาจารย์ก็ไม่ว่าด้วยนะ สงสัยจะเห็นว่านานๆ ทีจะโดดเรียน ฮ่าๆๆ  พี่ปุ๋ยสวยมาก ผิวออกขาวเหลือง โบกมืออยู่บนรถเปิดประทุน
ปล. คนอ่านคงจะรู้อายุ รู้โรงเรียนด้วย ไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นอ่านกระทู้นี้อยู่หรือเปล่า

โหวต ให้กิฟท์ เก็บเข้าคลัง

เอ่อ แต่ว่า ปีหลังจากที่เจี๊ยบ ลลนา ได้ตำแหน่ง
เราไม่เคยรู้จักใครต่อจากนั้นอีกเลยแฮะ

เวทีประกวดมันเยอะเกิน หรือเราไม่สนใจเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่รู้แฮะ

เพื่อทำความเข้าใจกับเวทีประกวด "นางสาวไทย" ซึ่งมีมาช้านานตั้งแต่ปี 2477 ดังที่กล่าวไว้แล้วนะครับ
มีหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น  ทำไมนางสาวไทยถึงไม่ได้ไปประกวด Miss Universe อย่างที่คุณอาภัสรา
หรือคุณภรณ์ทิพย์เคยได้ประกวดและทำชื่อเสียงให้ประเทศเราเหมือนเก่าก่อน  แล้ว Miss Universe Thailand
ทำไมจึงได้ไป   มันเกิดอะไรขึ้น....เรามาดูประวัติกันครับ


ขอบคุณที่มา :: th.wikipedia.org/wiki/นางสาวไทย  
                    th.wikipedia.org/wiki/มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์


นางสาวไทย
การประกวดนางสาวไทย เป็นการประกวดความงามรายการแรกของประเทศไทย ในยุคแรกเป็นกิจกรรมส่งเสริมงานฉลอง
รัฐธรรมนูญ ต่อมาจึงเป็นการคัดเลือกตัวแทนสาวไทยไปประกวดนางงามจักรวาล เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศ
ให้เป็นที่รู้จักแก่นานาประเทศ และในปัจจุบัน นางสาวไทยทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เพื่อประชาสัมพันธ์
สถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก


นางสาวไทย ยุคที่ 1 (พ.ศ. 2477- พ.ศ. 2483)

      การประกวดนางสาวไทย จัดครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2477 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
โดยใช้ชื่อว่า "นางสาวสยาม" รัฐบาลได้จัดขึ้นในงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญ ภายในพระราชอุทยานสราญรมย์ ซึ่งเป็น
สโมสรคณะราษฎร์ ในปี พ.ศ. 2477 เป็นการเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญเป็นปีที่สอง แต่เริ่มจัดการประกวดนางสาวสยามเป็นปีแรก
กำหนดระยะเวลาจัดงาน 5 วัน คือวันที่ 8 - 12 ธันวาคม พ.ศ. 2477 ในคืนวันที่ 8 ธันวาคม เป็นการคัดเลือก นางสาวธนบุรี
คืนวันที่ 9 ธันวาคม เป็นคัดเลือก นางสาวพระนคร และคืนวันที่ 10 - 12 ธันวาคม เป็นการประกวด นางสาวสยาม
โดยผู้เข้าประกวดแต่งกายด้วยชุดไทยห่มสไบเฉียง นุ่งซิ่นยาวกรอมเท้า ต่อมาในพ.ศ. 2482 จึงเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อกระโปรงติดกัน
ตัดเย็บด้วยผ้าไหมของไทย เสื้อเปิดหลัง กางเกง กระโปรงยาวถึงเข่า และได้เพิ่มการสวมใส่ชุดกีฬา กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด
เปิดหลังในปีถัดมา

      ในยุคที่ 1 จัดการประกวดที่พระราชอุทยานสราญรมย์ ประเทศไทยมีผู้ได้รับเลือกเป็น "นางสาวสยาม" จำนวน 5 คน
และ "นางสาวไทย" จำนวน 2 คน เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 ว่าด้วยนามของประเทศ พ.ศ. 2482 กำหนดเรียกนาม
ของประเทศว่าประเทศไทย ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใด ซึ่งใช้คำว่า "สยาม" ให้ใช้คำว่า "ไทย" แทน
ดังนั้น การประกวด "นางสาวสยาม" จึงเปลี่ยนมาใช้การประกวด "นางสาวไทย" นับตั้งแต่ พ.ศ. 2482

      ขณะที่รัฐบาลกำลังเตรียมจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2484 ซึ่งกำหนดเริ่มในวันที่ 8 ธันวาคม แต่ในเช้าตรู่วันที่ 8
ธันวาคมนั้น กองทัพญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งหลายแห่ง มีการสู้รบกันที่ บางปู สมุทรปราการ อ่าวมะนาว ประจวบคีรีขันธ์
ชุมพร ปัตตานี ฯลฯ ประเทศไทยเข้าสู่สภาวะสงคราม งานฉลองรัฐธรรมนูญในปีนั้นจึงถูกยกเลิกทันที และไม่มีการจัดงาน
ไปจนสงครามสงบ


เป็นอันจบยุคของนางสาวไทยยุคที่ 1 ครับ

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

นางสาวไทย ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2491 - พ.ศ. 2497)

     หลังสงครามสงบ ใน พ.ศ. 2488 พระนครบอบช้ำจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรมาก ต้องใช้ระยะเวลาฟื้นฟูอยู่ระยะหนึ่ง
จนถึงปี พ.ศ. 2491 รัฐบาลจึงได้จัดงานฉลองรัฐธรรมนูญขึ้นอีกครั้ง และการประกวดนางสาวไทยในยุคที่ 2 ได้เริ่มอีกครั้งในปี พ.ศ. 2491
แต่ปี พ.ศ. 2492 มีงานฉลองรัฐธรรมนูญแต่เว้นการประกวดไป ปีถัดมารัฐบาลกลับมาจัดการประกวดอีกครั้ง โดยเพิ่มการสวมใส่
ชุดว่ายน้ำในการประกวดด้วยและได้จัดการประกวดต่อเนื่องจนถึง พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่รัฐบาลเป็นผู้มีบทบาท
ในการจัดการประกวด เนื่องจากงานฉลองรัฐธรรมนูญได้ถูกยกเลิกไปอีก เนื่องจากเหตุผลทางการเมืองในช่วงรอยต่อของ
ประชาธิปไตยและเผด็จการ การประกวดนางสาวไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานฉลองรัฐธรรมนูญก็จึงไม่ได้จัดขึ้นด้วย


เป็นความรู้ที่ได้นอกเหนือจากความสวยงามของสาวไทยแล้ว  ยังเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติเราไปพร้อม ๆ กันด้วยนะครับ
จบยุคที่ 2




นางสาวไทย ยุคที่ 3 (พ.ศ. 2507 - พ.ศ. 2515)

      จากการที่งานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญได้ถูกยกเลิกไป ทำให้ไม่มีการประกวดนางสาวไทยในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มักจะมี
การจัดในระดับท้องถิ่น หรือการประกวดเนื่องในโอกาสหรือวาระพิเศษต่าง ๆ เช่น
-  การประกวดเทพีลุมพินี ที่สวนลุมพินี (คนสมัยนั้นส่วนใหญ่จะเรียกสวนลุมพินีรวมว่า สนามมวยเวทีลุมพินีแต่ไม่ได้เป็นจัด
การประกวดในสนามมวยแต่อย่างใด)  
-  การประกวดนางสาวไทย โทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม  
-  การประกวดนางงามตุ๊กตาทอง ในงานประกวดภาพยนตร์ตุ๊กตาทอง
-  การประกวดสาวงาม องค์กฐินชิงถ้วยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นต้น

      ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ทดลองจัดการประกวด "นางงามวชิราวุธ" ขึ้น
ในงานวชิราวุธานุสรณ์ ซึ่งเป็นงานที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้
ประชาชนชาวไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ องค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ อีกวัตถุประสงค์คือ
เพื่อสร้างความบันเทิง แก่ประชาชนผู้มาเที่ยวงาน ส่วนสถานที่จัดงานคือบริเวณพระราชอุทยานสราญรมย์ จากการเติบโตของ
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีความสัมพันธ์กับจุดมุ่งหมายของการจัดประกวดนางสาวไทย ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
โดยการใช้ตำแหน่งนางสาวไทยเป็นสื่อเผยแพร่ชื่อเสียงให้แก่ประเทศ และ ใช้รูปแบบของการเข้าร่วมประกวดนางงามระดับชาติ
ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในปี พ.ศ. 2507 คณะกรรมการการจัดงานวชิราวุธานุสรณ์ ได้มีการ
เปลี่ยนชื่อการประกวดมาเป็นการประกวด "นางสาวไทย"



สังเกตว่า  เมื่อหมดยุคที่ 2 ซึ่งจัดโดยรัฐบาล พร้อมกับการปิดต้วการประกวดด้วยเรื่องราววุ่นวายในบ้านเมือง
พอเริ่มศักราชใหม่...ทางผู้จัดจึงถูกเปลี่ยนมือจากรัฐบาลมาอยู่ที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมป์ครับ

ปิดยุคที่ 3 ด้วยประการนี้

ต่อจากปี 2542 อภิสมัย ศรีรังสรรค์
นางงามที่ได้เป็นตัวแทนไปประกวด Miss Universe เปลี่ยนมาเป็นของช่อง 7...

ปี พ.ศ. (ค.ศ.) ผู้ดำรงตำแหน่ง
2543 (2000) กุลธิดา เย็นประเสริฐ
2544 (2001) วรินทร ผดุงวิถี
2545 (2002) จันจิรา จันทร์โฉม
2546 (2003) เยาวลักษณ์ ไตรสุรัตน์
2547 (2004) มรกต กิตติสาระ
2548 (2005) ชนันภรณ์ รสจันทน์
2549 (2006) ไอยวริญท์ โอสถานนท์
2550 (2007) ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม
2551 (2008) กวินตรา โพธิจักร
2552 (2009) ชุติมา ดุรงค์เดช
2553 (2010) ฝนทิพย์ วัชรตระกูล
2554 (2011) ชัญษร สาครจันทร์

แล้วพอปีนี้ก็ย้ายไปช่อง 5 (?)...ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์ หรือน้อง ริด้า

นางสาวไทย ยุคที่ 4 (พ.ศ. 2527- พ.ศ. 2542)

      ในปี พ.ศ. 2516 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง การประกวดนางสาวไทยจึงได้หยุดจัดไป จนปี พ.ศ. 2527
สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ โดยนายชาติเชื้อ กรรณสูต นายกสมาคม และเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์
กองทัพบกช่อง 7 ได้รื้อฟื้นการจัดประกวดนางสาวไทยขึ้นอีกครั้ง เพื่อคัดเลือกตัวแทนไปประกวดนางงามจักรวาล
โดยในปี พ.ศ. 2527 ได้จัดการประกวดขึ้นที่ เวทีกลางแจ้ง โรงแรมแกรนด์พาเลซ พัทยา จ.ชลบุรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2528
ได้จัดการประกวดที่เวทีกลางสวนน้ำสวนสยาม ซึ่งในปีนั้นได้เกิดฝนตกอย่างหนัก ทำให้การประกวดต้องหยุดชะงักเป็นช่วง ๆ
เป็นอุปสรรคต่อการประกวด

      หลังจากนั้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2529 เป็นต้นมา การประกวดจึงได้จัดในอาคาร ซึ่งจากการเว้นว่างการประกวดไปนาน
หลายปี ทำให้ช่วงสองปีแรกไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนเท่าใดนัก ทั้งผู้สมัครที่มีจำนวนน้อยและหาผู้สนับสนุน
การประกวดยาก หลังจากนั้นผู้คนเริ่มรู้จัก "นางสาวไทย" กันมากขึ้น จึงมีผู้สนใจสมัครเข้าประกวด และภาคเอกชนเข้ามา
เป็นผู้สนับสนุนต่าง ๆ กันมาก

      นางงามคนที่ 36 ได้เข้าประกวดเป็นครั้งสุดท้ายในปี 1999 (พ.ศ. 2542 คุณอภิสมัย หรือหมอเบิร์ธ)
สุรางค์ เปรมปรีด์ ดูแลการผลิตรายการของช่อง 7 สี  ได้รับผิดชอบการประกวดสิ้นสุดการประกวดนางงามช่อง 7 สี ปี พ.ศ. 2542


สังเกตุนะครับว่า...จะเริ่มเปลี่ยนการถ่ายทอดจากช่อง 7 ไปอีกแล้ว...กำลังสนุกครับ  ติดตามชมตอนต่อไป

ครับ คุณสุปศิกาล...กำลังจะเล่าต่อว่าเกิดอะไรกับนางสาวไทย  เพราะลิขสิทธิ์การประกวด "นางสาวไทย" กับลิขสิทธิ์การส่ง
เข้าประกวด Miss Universe...มันคนละเจ้าของกัน   ถ้าไม่ลงล็อค ไม่ว่าจะในเรื่องใด ๆ แม้สักเล็กน้อย...มันก็ทำให้ความขลัง
ของการประกวดอันมีมาช้านาน สูญสลาย มลายไปได้
โดยง่าย  และทำให้เกิดความสับสนกับผู้คนในประเทศอย่างที่เป็นอยู่...

เชิญติดตามตอนต่อไปครับผม



นางสาวไทย ยุคปัจจุบัน (พ.ศ. 2543 - ปัจจุบัน)

      เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องสิทธิประโยชน์ในชื่อ "นางสาวไทย" ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์คือสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ
กับเจ้าของสิทธิ์ในการจัดการประกวดคัดเลือกตัวแทนสาวไทยไปประกวดนางงามจักรวาล คือ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7
ทั้งสองฝ่ายจึงได้แยกกันจัด

      โดยทางสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ยังจัดการประกวดนางสาวไทยต่อไป แต่นางสาวไทยไม่ได้สิทธิ์ไปประกวดนางงามจักรวาล
และสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ได้ให้สถานีโทรทัศน์ไอทีวี เป็นผู้ดำเนินการจัดการประกวด โดยมีการพัฒนารูปแบบการจัด
ประกวดให้เหมาะสมกับความเป็นกุลสตรี สภาพเศรษฐกิจ และสังคม ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น อาทิ การยกเลิกการใส่ชุดว่ายน้ำบนเวที
เพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของสตรีไทย   การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผลคะแนน   การวัดระดับ IQ และ EQ
รวมทั้งการนำความสามารถพิเศษของผู้เข้าประกวดมาใช้ประกอบในการพิจารณาการตัดสิน เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุด
ในทุก ๆ ด้าน ไม่ใช่แต่เพียงความสวยอย่างเดียว

      นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีการประกวดรอบคัดเลือกในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาส ให้ผู้หญิงไทยทั่วประเทศได้มีโอกาส
เข้าร่วมการประกวดอย่างทั่วถึง

      ในยุคนี้ ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง นางสาวไทยจะเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง "ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว" ทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรม
ประเพณีของไทย ให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก ซึ่งต้องเดินทางไป ยังสำนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มีสำนักงาน
สาขาถึง 17 แห่งทั่วโลก รวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตามจังหวัดต่าง ๆ ภายในประเทศ
ตลอดทั้งปี

      จุดมุ่งหมายของการประกวดในยุคนี้ ตรงกับแนวคิดของคำว่า "นางสาวไทย" ที่คนไทยเข้าใจความหมาย จึงได้รับการสนับสนุน
จากองค์กรและส่วนราชการต่าง ๆ มากมาย อาทิ สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รวมทั้งจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ


สรุปคือ...นางสาวไทยยุคใหม่จะไม่ได้เป็นตัวแทนของประเทศเข้าร่วมประกวด Miss Universe อย่างที่เคยเป็นมา
แต่จะกลายเป็นทูตวัฒนธรรมเพื่อเดินทางไปทั่วโลกที่มีสาขาอยู่  เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้คนต่างชาติเห็นถึงวัฒนธรรมไทย
ชักชวนให้มาท่องเที่ยวเมืองไทยแทนครับ  ซึ่งจะอยู่ในรูปกึ่ง ๆ ข้าราชการด้วยการสนับสนุนจากองค์กรของรัฐมากกว่า


และนี่คือที่มาของการเริ่มต้น Miss Universe Thailand... เรามาติดตามความเป็นมาและเป็นไปกันต่อครับ

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

      มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (Miss Universe Thailand) เป็นเวทีการประกวดนางงามระดับประเทศของไทย จัดขึ้นเป็นครั้งแรก
เมื่อปี พ.ศ. 2543 ภายใต้ชื่อ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส โดยสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ในนามสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7  

      ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 สุรางค์ซึ่งเป็นผู้รับสิทธิจัดการประกวด เพื่อคัดเลือกผู้แทนประเทศไทย ไปเข้าร่วมประกวด
นางงามจักรวาลอย่างถูกต้องจากห้างหุ้นส่วนจำกัดมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe Limited Partnership) ในนามบริษัท
มีเดีย พาร์ตเนอร์ จำกัด เปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบัน และเปลี่ยนมาร่วมมือกับ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก, ศูนย์การค้า
สยามพารากอน, เอ็กแซ็กต์/ซีเนริโอ และสหมงคลิล์ม


อย่าเพิ่งงงนะครับ...เพิ่มเติมดังนี้


      หจก.มิสยูนิเวิร์ส มอบสิทธิในการจัดประกวดนางงาม เพื่อส่งเป็นผู้แทนประเทศไทย เข้าประกวดนางงามจักรวาล
(Miss Universe) แก่ชาติเชื้อ กรรณสูต ซึ่งขณะนั้นเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้ได้รับสัมปทาน
จากกองทัพบกไทย ให้ดำเนินกิจการช่อง 7 สี เป็นคนแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 โดยชาติเชื้อ ในนามช่อง 7 สี ร่วมกับสมาคม
นักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย จัดประกวดภายใต้ชื่อนางสาวไทย จนกระทั่งชาติเชื้อเสียชีวิต หจก.มิสยูนิเวิร์ส
จึงสนับสนุนให้สุรางค์ ในฐานะน้องสาวของชาติเชื้อ เป็นผู้รับสิทธิดังกล่าวต่อไป

      ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2543 สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ก็นำการประกวดนางสาวไทย ไปจัดร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
(หลังจากไอทีวีปิดตัวเมื่อ พ.ศ. 2550 จึงย้ายไปจัดร่วมกับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์)
สุรางค์ในนามช่อง 7 สี จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อการประกวดว่ามิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม
พ.ศ. 2554 กฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานกรรมการบริหาร บจก.กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ มีคำสั่งให้สุรางค์พ้นจากทุกตำแหน่ง
ในบริษัทฯ นับแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

      เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555 สุรางค์แถลงข่าวการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากมิสไทยแลนด์
ยูนิเวิร์ส ที่จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ดังนั้นในปี พ.ศ. 2555 จึงเป็นการประกวดครั้งที่ 13 โดยการประกวดรอบสุดท้าย
จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 โดยมีเอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ เป็นฝ่ายออกแบบและจัดสร้างเวทีประกวด
สหมงคลฟิล์มเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์การประกวด และใช้พื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นสถานที่เก็บตัวของผู้เข้าประกวด



สรุปว่าตั้งแต่ปี 2543....นางสาวไทยยังคงอยู่กับสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ  โดยไม่ได้สิทธิ์ในการส่งผู้เข้าประกวดร่วมในงานประกวด
Miss Universe อย่างที่เคยเป็นมา  และการถ่ายทอดเปลี่ยนมือจากช่อง 7 สีไปที่ไอทีวี  จนกระทั่งไอทีวีปิดตัวลง  จึงไปจับมือถ่ายทอด
กับทางโมเดิร์นไนน์ทีวี หรือช่อง 9 อสมท.

และในปีเดียวกันนั้นเอง...ทางช่อง 7 สีโดยคุณนายแดง ผู้ได้สิทธิ์ในการส่งผู้เข้าประกวด Miss Universe ก็จัดตั้งการประกวด
มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สขึ้นมา แทนการประกวดนางสาวไทยอันเป็นสิทธิ์ของวชิราวุธ  และนำผู้ชนะการประกวดเวทีนี้เข้าสู่เวทีโลก
จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2554 ที่ทางช่อง 7 สีมีปัญหากับคุณนายแดง  ปลดเธอออก...เธอจึงเปลี่ยนชื่อการประกวดอีกครั้ง
เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์  โดยจับมือกับช่อง 5 บริษัท เอ็กแซ็กท์  และสหมงคลฟิล์มทำการประกวดต่อไป  ซึ่งน้องริต้าก็เป็น
นางงามคนแรกของยุคนี้ (เปลี่ยนชื่อจาก Miss Thailand Universe เป็น Miss Universe Thailand) ที่เป็นตัวแทนคนไทยไป
ประกวดเวทีโลกครับ

"ปุ๋ย...รักเด็กค่ะ"

ประโยค classic ที่ใช้จนถึงทุกวันนี้
ไม่ทราบว่ามาจาก นางสาวไทยท่านนี้หรือเปล่าครับ

กรี๊ดดดดดดดดดดด จะเข้ามาบอกว่า คุณพิศมัย เป็นน้องสาวย่าชวดเราเอง

บ้านเราหน้าตาดีทั้งตระกูลค่ะ 555555

ลำดับของ Miss Universe Thailand


ปี 2543....กุลธิดา เย็นประเสริฐ

      กุลธิดา หรือ เหน่ง  เกิด 26 กุมภาพันธ์ 2522 มีอายุ 21 ปีในตอนเข้าประกวด และนอกจากจะได้ตำแน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส
คนแรกของไทยแล้ว  ยังได้รับรางวัลสาวเจ้าเสน่ห์อีก 1 รางวัล เป็นตัวแทน
ประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2000
ที่ประเทศไซปรัส

      กุลธิดาเคยผ่านการประกวดและได้รับรางวัลซุปเปอร์โมเดล จากรายการเลติ้ส คอนเนอร์ (Lady's Corner) ทางช่อง 5
และเป็นทูตหัวใจไร้สาร ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอีกด้วย

      กุลธิดา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยทำงานกับ
บริษัท อิตาเลียน-ไทย และเป็นแอร์โฮสเตสของการบินไทย

คุณ  Razgrizขงเบ้ง คคห.110 ครับ

คุณปุ๋ยเป็นคนรักเด็กจริง  เธอมีมูลนิธิ Angels' wings เพื่อช่วยเหลือเด็กจริง และการที่เธอพูดบนเวทีประกวดไทย
และสามารถไปคว้ามงกุฎ Miss Universe ได้ด้วย  ทำให้วลีนี้เป็นวลีเลียนแบบไปโดยปริยายครับ  ส่วนใครจะรักจริง
รักสร้างภาพอย่างไร...ก็สุดแต่ใจจะไขว่คว้า.

คนที่รักจริงไม่เป็นแค่คำพูด  แต่แสดงออกด้วยการกระทำอย่างที่คุณปุ๋ยเธอทำครับผม

ปี 2544...วรินทร ผดุงวิถี

      วรินทร หรือ อ้วนตาน มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปี 2544 และยังได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนด้วย
เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2001 ที่ประเทศเปอร์โตริโก  เป็นนางงามไทยคนแรกที่ใส่ชุดว่ายน้ำ
ทูพีซขึ้นประกวดบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ถือเป็นใบเบิกทางของนางงามรุ่นน้องคนต่อมา จนถึงปัจจุบัน

       การประกวดในครั้งนั้น อ้วนเป็นนางงามจากเอเชียที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นสีผิวหรือ
หน้าตาคมเข้มตามแบบฉบับสาวไทย ถึงแม้ไม่อาจผ่านเข้ารอบ 10 สุดท้าย

       เคยเข้าประกวดนางสาวไทยประจำปี 2541 และได้เป็นผู้ถือป้ายประเทศจอร์แดน ในพิธีการเปิดการแข่งขัน
กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2541

       ปัจจุบันสมรสกับชาวต่างชาติ มีบุตร 1 คน

จำปีของคุณทวีพร คลังพลอยได้เลย พอดีคืนนั้นนอกดึกหน่อย เลยได้ดู

มีแต่คนเชียร์คุณสรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์นะ เท่าที่ถามอาของผมตอนนั้น (พอดีไม่ได้ติดตาม) กระแสก็มีแต่เธอ งงกันทั้งบ้านทั้งเมือง เรียกว่า ขัดสายตาเลยก็ว่าได้ (เลาๆว่าได้ยินเสียงโห่ตอนประกาศผลด้วยนะ มันนานมากแล้วอะ) รุ่งขึ้นจำได้ว่า หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงข่าวหน้าหนึ่ง (แอบเหน็บด้วย) นางสาวไทยปีนี้โดนตีข่าวไปทุกฉบับจริงๆ

เพราะกระแสในตอนนั้นส่วนใหญ่(รวมทั้งสื่อสารมวลชน)ก็พูดไปในทำนองเดียวกัน

แต่อีกสองปีต่อมาน่ะสิ คงไม่ต้องพูดกันแล้ว

ปี 2545.... จันจิรา จันทร์โฉม

      จันจิรา หรือ ลูกจัน เกิดเมื่อ 17 มกราคม 2526  การศึกษา  จบปริญญาตรี คณะอุตสาหกรรมเกษตร เอกเทคโนโลยี
ทางกระบวนการเคมีและฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาเอก สาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

       เป็นคู่รักยาวนานกับติ๊ก กลิ่นสี

คคห. 115 คุณตี๋หล่อมีเสน่ห์ ครับ

ปีนั้นถูกต้องครับ  คุณสรารรัตน์ถึงกับหลั่งน้ำตาหลังการประกาศผู้ได้รับรางวัลจนคุณเบิร์ด ธงไชย ต้องหาผ้าไปซับน้ำตาให้

คุณวีเป็นม้ามืด และไม่ขึ้นกล้องเอาเสียเลยครับ  แต่เธอมีปฏิภาณไหวพริบและเฉลียวฉลาดมาก  เธอเป็นแอร์การบินไทย
ซึ่งหลาย ๆ คนที่ได้เห็นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอ "ผ่อง" มาก  แม้วัยจะล่วงเลยแต่เธอยังคงโดดเด่น เป็นสง่าครับ

มีเม้าท์กันว่าเธอเป็นนางงามฟันปลอม  นักข่าวถามเธอถามกลับว่า "ซี่ไหนคะ?"  เยี่ยมครับ

กว่าจะเป็นนางงามได้ แต่ละคนเก่งจริงอะไรจริง ไม่ใช่สวยแบบไม่สมอง

ปี 2546.... เยาวลักษณ์ ไตรสุรัตน์

      เยาวลักษณ์ หรือ เจี๊ยบ เป็นชาวนครศรีธรรมราช มิสทีนไทยแลนด์ 2543 และมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2546
เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2003 ที่ประเทศปานามา ซึ่งกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2003
ยกให้เจี๊ยบเป็นหนึ่งในตัวเก็งของการประกวด เพราะเจี๊ยบทำได้ดีมาก ๆ ในทุกกิจกรรม ชุดประจำชาติที่เจี๊ยบใส่ประกวด
มีชื่อว่า ชุดกิงกาหลา ปักษาสวรรค์ สามารถผ่านเข้ารอบ 10 ประเทศสุดท้าย ซึงออกแบบได้สวยและยิ่งใหญ่อลังการมาก ๆ
แต่ในที่สุดก็พลาดเข้ารอบ 5 ประเทศสุดท้าย ทำให้ชุดประจำชาติชุดนี้ไม่ติด 1 ใน 5 อันดับชุดประจำชาติยอดเยี่ยม
และเจี๊ยบก็ไม่สามารถผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้ายด้วยเช่นกัน

      การศึกษาปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาวิชาถ่ายภาพ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร
ลาดกระบัง  ปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการวางแผนภาคและเมือง สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง

      ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัท บริติช เพ้นท์ส จำกัด  ไม่ชอบวงการบันเทิง อยากทำงานในสิ่งที่ได้เรียนมา

ปี 2547....มรกต กิตติสาระ

      มรกต หรือ เอมี่  เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2527 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เคยเข้าประกวดหนูน้อยสงกรานต์
ปี พ.ศ. 2534 ตอนอายุ 7 ขวบ จากการประกวดหนูน้อยสงกรานต์ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้รับรางวัลชนะเลิศ
เข้าประกวดมิสไทยแลนด์ยูเคประจำปี พ.ศ. 2545 ได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูเค ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

      จบการศึกษาปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ Brunel University, London England และปริญญาตรี Bachelor of Design
majoring in Fashion Marketing at Raffles International College, กรุงเทพฯ

      เอมี่เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาล MISS UNIVERSE 2004 ที่ประเทศเอกวาดอร์
ถือเป็นนางงามที่กล้าฉีกภาพลักษณ์และกฎเกณฑ์เดิม ๆ ของนางงาม โดยก้าวสู่วงการบันเทิงมาถ่ายแบบเซ็กซี่ให้คน
ทั้งประเทศวาบหวิวหลายต่อหลายครั้ง  เป็นพิธีกร  นางแบบและรับบทบาทของนางเอก-นางร้ายทางจอละคร
เอมมี่จึงเป็นมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สที่มีผลงานมากที่สุด

ขอบคุณกระทู้ดี ๆ ครับ ตาม ๆ เมื่อไหร่จะถึงมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์คนปัจจุบัน

แปลกใจว่า ทำไมการประกวดของคุณแดง ถึงมีชื่อเสียงมากกว่า ที่ช่อง 3 จัดประกวด แล้วที่ช่อง 3 จัด เค้าจัดไปแข่งที่ไหน แล้วมีใครมีชื่อเสียง หรือดัง ๆ บ้าง

2548....ชนันภรณ์ รสจันทน์

      ชนันภรณ์ หรือ น็อต เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2525  จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนฉัตรวิทยา จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
จากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี และมัธยมศึกษาตอนปลายจาก Francis Lewis Le High School จาก นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปริญญาตรีคณะวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

      ในปีนั้นน็อดเป็นตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย และคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม
มาครอง โดยปีนั้นนาตาลี เกลโบวา จากประเทศ แคนาดาคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2005

      น็อดเป็นคนที่มีความสามารถสูงในหลาย ๆ ด้าน  ทั้งด้านภาษา ซึ่งสามารถพูดได้ถึง 4 ภาษาคือ ไทย อังกฤษ เยอรมัน
และอิตาเลียน นอกจากนั้นเธอยังเคยเป็นตัวแทนเยาวชนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟ ในรายการจูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ
ที่ซานดิเอโก ปี 2534 - 2538 อีกด้วย

      ด้วยความที่ไม่มีความสามารถหรือใจรักในด้านการแสดง น็อตจึงเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตนรัก  นั่นคือทำงานกับ
สายการบินแอร์เอเชีย

คุณpuijaw3 ครับ

ช่อง 3 ทำ Miss Thailand World ซึ่งนำผู้ชนะการประกวดเข้าสู่เวที Miss World  โดยที่เวทีนี้เป็นเวทีใหม่
ไม่ขลังเท่าของ Miss Universe  ก็เลยไม่ค่อยเป็นที่ฮือฮาครับ

ความที่คุณแดงผูกขาดอยู่กับลิขสิทธิ์ส่งตัวแทนเข้าประกวด Miss Universe จึงยากที่จะมีคู่แข่งขันครับผม

ขอบคุณพี่อ๋องมากครับ กระทู้ดี ความรู้แน่นปึ้กเลยครับ

ปี 2549..... ไอยวริญท์ โอสถานนท์

      ไอยวริญท์ หรือ ชาม  เกิดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2530  จบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ภาคอินเตอร์ (การจัดการการสื่อสาร)  เคยได้รับรางวัลนักกอล์ฟลำดับที่ 9 ในระดับเยาวชน จากสมาคมกอลฟ์แห่งประเทศไทย
พ.ศ. 2545

      ชามครองตำแหน่ง มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปี พ.ศ. 2549 และยังควบรางวัลอีก 2 ตำแหน่งคือรางวัลขวัญใจ
ช่างภาพสื่อมวลชน และรางวัลรักษ์ความเป็นไทย จากเวทีเดียวกัน  สามารถผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้ายในการประกวด
มิสยูนิเวิร์ส ณ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

      ปัจจุบันทำงานอยู่ในแวดวงบันเทิง

ปี 2550.....ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม

      ฟ้ารุ่งหรือกวาง  เป็นธิดาของ  ฟาร์เลย์ ยุติธรรม รองผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดปทุมธานี กับประยูรศรี ยุติธรรม
นางสาวลำปางปี พ.ศ.2525   เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2530  นับเป็นผู้เข้าประกวดที่มีความสูงที่สุดถึง 180 เซนติเมตร  
จบปริญญาตรีคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
กำลังศีกษาปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

      ฟ้ารุ่งมีความสามารถในการเล่นเปียโน และเคยเป็นครูสอนเปียโนที่ รร.ดนตรีสยามกลการ ปัจจุบันได้เล่นละคร
เดินแบบ ถ่ายแบบ เป็นพิธีกร เปิดโรงเรียน Tiara School of Style and Personality และได้ทำธุรกิจโมเดลลิ่งร่วมกับ
Andrian Zahariev กรรม​การ​ผู้จัด​การ บริษัท A1 Models แฟนหนุ่มนายแบบฝรั่งลูกครึ่งบัลแกเรีย-รัสเซีย

ปี 2551.....กวินตรา โพธิจักร

      กวินตรา หรือ แก้ม   เกิดวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2529 เป็นชาวจังหวัดหนองคาย การศึกษาปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ  เคยได้รับรางวัล ธิดาพญานาค ประจำปี พ.ศ. 2551 จังหวัดหนองคาย

       ในการประกวดปีนี้  นอกจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2551  เธอยังครองตำแหน่งหุ่นสวยสุขภาพดี บาย ซีเล็ค
ทูน่าอีกหนึ่งตำแหน่ง และในงานประกวด Miss Universe 2008 ที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม แก้มยังได้รับตำแหน่ง
ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม  ขวัญใจมหาชนจากเว็บไซต์ Misosology และรองชุดประจำชาติเวียดนามยอดเยี่ยม อีกด้วย

ปี 2552.....ชุติมา ดุรงค์เดช

      ชุติมาหรือ ไข่มุก เป็นชาวกรุงเทพมหานครตั้งแต่กำเนิด บุตรสาวคนที่ 4 ในจำนวนพี่-น้อง 5 คน ของคุณพ่อ ฤทธิ์ชัย ดุรงค์เดช
เจ้าของธุรกิจบริษัทเครื่องกรองน้ำ Mazuma และคุณแม่เพชรา ดุรงค์เดช ซึ่งเป็นแม่บ้านคอยดูแลลูก ๆ   เกิดเมื่อวันที่
6 ธันวาคาม 2528 มีส่วนสูง 178 เซนติเมตร

       การศึกษา   จบเกรด 8 โรงเรียนนานาชาติ ISB ที่เมืองไทย ตอนอายุ 15 ปี  ระดับมัธยมศึกษาที่คิงส์คอลเลจ 2 ปี
ระดับปริญาตรีที่มหาวิทยาลัย น็อตติ้งแฮม พร้อมกับได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ในสาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร สำเร็จ
การศึกษาในระดับปริญญาโท ด้านบริหารการจัดการที่ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ลอนดอน ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอก
สาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

      ไข่มุกเคยประกวด มิสลอนดอนยูเค 2008 และติดรอบ 5 คนสุดท้าย โดยได้รับตำแหน่งรองอันดับหนึ่งในการประกวด
และติดรอบรองสุดท้ายในรายการ Britain's Next Top Model  และเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2009
ที่ประเทศบาฮามาส ได้รางวัล รองอันดับ 2 ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม  รางวัล Miss Photogenic (ขวัญใจช่างภาพ
และสื่อมวลชน)  และรางวัลขวัญใจมหาชน People's Choice Award จากการโหวตโดย Missosology.org

ปี 2553..... ฝนทิพย์ วัชรตระกูล

      ฝนทิพย์ หรือ ปุ๊กลุุก  เป็นชาว อ.บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 เป็นบุตรสาว
คนเล็กในจำนวนพี่-น้องสองคน ของ นายวัชรพล วัชรตระกูล ซึ่งประกอบอาชีพทนายความ ส่วนมารดาชื่อ นางดาวทิพย์
วัชรตระกูล เป็นแม่บ้าน จบชั้นประถมศึกษาที่ ร.ร.สุขเจริญผล ส่วนระดับมัธยม สำเร็จการศึกษาที่ ร.ร.ราชวินิตบางแก้ว
ขณะเข้าประกวดเธอกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ   หลังจากนั้นย้ายมาที่
มหาวิทยาลัยรามคำแหง

      เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2010 ซึ่งได้รับรางวัลในการประกวดครั้งนี้ทั้งหมด 3 รางวัล คือ ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน  
รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม  และรางวัล Miss People's Choice Award แต่ปุ๊กลุกไม่สามารถเข้ารอบลึก ๆ ในการประกวด
Miss Universe 2010 ได้

อ่านกระทู้นี้แล้ว โ ค ต ร ภูมิใจในความเป็นไทยเลย..

ปี 2554..... ชัญษร สาครจันทร์

      ชัญษร หรือ ฟ้า เป็นชาวจังหวัดชลบุรี เป็นบุตรีของนายสืบสมุทร สาครจันทร์ กัปตันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
และ นางรตี ตั้งธรรมสถิตย์  เกิดวันที่ 18 มิถุนายน 2533 ได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส พ.ศ. 2554 พร้อมรางวัล
ขวัญใจช่างภาพสื่อมวล

      เข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาล (Miss Universe 2011) ณ กรุงเซาเปาลู  ประเทศบราซิล โดยฟ้าไม่สามารถ
ผ่านเข้ารอบ16คนสุดท้าย แต่ได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมอันดับ 3 ซึ่งก็คือชุด  "เหมราชนารี"

      มีความสามารถพิเศษในการขับเครื่องบินเล็กและสนใจศิลปะการออกแบบ รวมถึงจริยธรรมศีลธรรมในสถาน
เลี้ยงเด็กกำพร้า ทั้งนี้เพราะเธอเล็งเห็นว่า จุดเริ่มต้นของการเป็นคนดีนั้นควรเริ่มตั้งแต่เด็ก

ป.ล. ฟ้าเป็นนางงามคนสุดท้ายที่ใช้ชื่อว่า Miss Thailand Universe ครับ  เพราะปีถัดไป (ปีนี้ 2555) กองประกวดเปลี่ยนชื่อ
เป็น Miss Universe Thailand

แต่ละท่านยิ่งยุคแรกๆ ที่ประกวดนี่ รูปก็งาม นามก็เพราะทุกท่านเลย

ปีปัจจุบัน 2555.....ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์

      ณัฐพิมล หรือ ริต้า มีชื่อจริงว่า ฟาริด้า วัลเลอร์ เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของมิคาเอล วัลเลอร์ บิดาชาวนครเวียนนา
ประเทศออสเตรีย ซึ่งย้ายมาพำนักในประเทศไทยกว่า 25 ปี กับสุพรรณ วรรณปัด มารดาชาวไทยซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหาร
เกิดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2536 ที่จังหวัดกระบี่   สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล และกำลังศึกษา
ในระดับอุดมศึกษา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สามารถพูดได้ 3 ภาษา คือ ภาษาไทย  อังกฤษ และเยอรมัน
กิจกรรมที่เธอโปรดปรานคือ รำไทย  ดำน้ำ และทำอาหาร

      ริต้าชื่นชอบการประกวดนางงามมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความสนใจเธอจึงศึกษาเวทีประกวดต่าง ๆ ด้วยตนเอง
ผ่านอินเตอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจลงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ซึ่งเป็นเวทีแรกของเธอ  ซึ่งการประกวดครั้งนี้
เธอได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เป็นคนแรกของประเทศไทย หลังจากที่ได้เปลี่ยนชื่อจากมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส
ทั้งยังได้รับรางวัลบุคคลิกภาพดีพ่วงด้วยอีกหนึ่งรางวัล

อีกไม่กี่วันก็ได้ประกาศผลแล้วนะครับ...ขอเอาใจช่วยริต้าให้ประสบความสำเร็จสมความปรารถนาครับ

ในบรรดา MTU ชอบน็อตที่สุดเลย ยิ่งอ่านโปรไฟล์แล้วยิ่งชอบ อินเตอร์มาก พูดได้ตั้ง 4 ภาษา

เป็นกระทู้ทรงคุณค่าจริงๆค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

อยากให้น้องริต้าติด 1 ใน 5 สุดท้าย หรือคว้ามงมาเลยก็ได้

หน้าตาน้องริต้า ผสมผสานมากเลย ไทยแขกฝรั่ง

มีแต่คนสวยๆ
ชื่นชม จขกท. ที่หาสาระดีๆมาให้อ่าน

นี่คือนางสาวไทยประจำปี 2555 คนปัจจุบันครับ
คุณ โบลิ่ง ปริศนา กัมพูศิริ

นางสาวไทย ปี 2555
โบว์ลิ่ง ปริศนา กัมภูสิริ

และจำได้ว่าปีกวาง เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายด้วยหรือเปล่านะ

ผลการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2555 หมายเลข 12 "น้องโบว์ลิ่ง" ปริศนา กัมพูสิริ สาววัย 25 ปี คว้าตำแหน่งนางสาวไทย คนที่ 47

สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2555 รอบตัดสิน ภายใต้แนวคิด "พฤกษาดุจชีวา ธาราดุจฤทัย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ นนทบุรี
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลพิเศษอีก 2 รางวัล คือ นางงามคิดบวก และนางงามมิตรภาพ

คุณโบว์ลิ่ง จบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เอกการแสดงและกำกับการแสดง

กำลังศึกษาระดับปริญญาโท คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จะมีสักวันที่เป็นของชั้นมั้ยย่ะ!!!!!

จำได้ว่าปีของคุณปุ๋ยเป็นปีรุ่งเรืองของนางงามจริงๆ เพราะปีนั้นคุณฮันนี่ที่ได้รางวัลขวัญใจช่างภาพ เป็นตัวแทนไปประกวดมิสอินเตอร์ที่ญี่ปุ่น(หรือไงจำไม่ได้) ก็ได้ตำแหน่งขวัญใจช่างภาำพกลับมาด้วย เธอเกิดมาเพื่อเป็นขวัญใจคนถ่ายภาพจริง ฮ่า ฮ่า แม้แต่งงานยังแต่งกับช่างภาพ

เพิ่มเติมตรงคุณมะปราง จำได้ว่าเธอแต่งงานกับเชน เมืองครุฑ อดีตนักร้องดูโอสมิทกับเชนได้ 6 ปี แล้วก็เลิกกัน

ปี2531
ปี2554
อย่างสวยเลยค่ะ

ตกลงปีนี้Miss Universeไม่มึถ่ายทอดสดใช่ไหมครับ

ปีนี้ไทยน่าลุ้นมากๆ

ทำไมถึงมีการแก้ไขเรียก Miss Thailand Universe เป็น Miss Universe Thailand
ในระยะหลังครับ แล้วเริ่มเปลี่ยนเมื่อปีอะไรครับ

พี่ปุ๋ยตอบได้เป๊ะและเป็นธรรมชาติมากเลย

147 ขึ้นไปอ่านดูนะครับ เขาบอกไว้หมด ว่าทำไมเปลี่ยน

ประมาณว่าย้ายจากช่อง 7 ก็เลยเปลี่ยน อะไรประมาณนี้มั้ง

เราอยากให้มีการประกวดหาตัวแทนสาวงามแต่ละจังหวัด
แล้วมาประกวดเป็นนางงามระดับประเทศอีกทีอ่ะค่ะ
ถ้ามีจริง ก็เริ่ดนะ ^^

ขอบคุณ คุณpuijaw3 ครับ ผมพลาดอ่านไปแล้ว มัวแต่มองภาพสวยๆจนเพลิน 55+

ถ้าจำไม่ผิด คุณกันยา เทียนสว่าง นางสาวสยามคนแรกมีเชื้อมอญนะคะ
ประเดิมคนแรกก็ไม่ได้มีเลือดไทยร้อยเปอร์เซนต์แล้วนะคู๊ณ
ไม่เข้าใจบางคนเป็นอะไรมากป่าวหว่า ตามว่า ตามแขวะ ตามจิกเรื่องริต้าเป็นลูกครึ่งได้ตลอด
เฮ้อ!!! ดัง ๆ

อ่านมาเรื่อยๆ จนมาเจอคุณหนูน้อย ฮาเงิบเลยครับ 555+

รู้จักคุ้นๆตั้งแต่ช่วงคุณเอ้ ชุติมา
คุณนก ชลิดา  เซ็ทหลังๆไม่ค่อยคุ้นครับ แต่สวยๆทุกคนเลย

เลื่อนมาตกใจ คห 143 ชะงักนะจังกังมาได้จังหวะทุกทีสิน่า

สวยมากๆทุกท่านเลย
ขอบคุณกระทู้นี้ค่ะ

เอ่อ..ขอโทษค่ะ แบบว่าง่อยภาษาอังกฤษ

คุณปุ๋บตอบคำถามว่าอะไร รบกวนใครใจดีแปลไว้ในที่นี้ จะเป็นพระคุณมากค่ะ ^^"

คห.115
เพิ่มเติมให้พี่ตี๋หล่อฯ

อย่าว่าแต่คุณทวีพร คลังพลอยเลยครับ คุณปุุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ตอนได้รับตำแหน่งนางสาวไทยใหม่ๆ มีแต่คนด่า หนังสือพิมพ์เขียนเหน็บเหมือนกัน
ว่า "หน้าไม่สวย" "ไม่มีความเป็นไทย"(คุ้นๆเนอะ) "กระโดกกระเดก ดูไม่เป็นกุลสตรีไทย" ฯลฯ
ซึ่งคำเหล่านี้ เหมือนถูกเอาไปเปรียบเทียบกับ คุณปรียานุช เต็มๆ

แต่พอคุณปุ๋ยได้ตำแหน่ง Miss Universe เท่านั้นแหละ คนที่เคยวิจารณ์คุณปุ๋ยข้างต้น หงายเงิบกันเป็นแถว
และคุณปุ๋ยยังมีส่วนทำให้ หนังสือพิมพ์หัวเขียว เปลี่ยนรูปในหน้า 1 จากขาว-ดำ เป็นหน้าสีด้วยนะครับ

น้อง คห.69 บ้านเกิดเดียวกับผมเลย เหมือนจะคุ้นๆหน้าสมัยยังเป็นเด็กๆด้วย > <

ตอบ คห.156

ลองอ่านดูบทสัมภาษณ์ที่แปลเป็นไทยแล้ว ใน คห.10 ในกระทู้นี้ดูครับ
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A3527085/A3527085.html

จำได้ว่าตัวเองเคยเป็นเพื่อนกับลูกอภัสราตอนสมัยเรียนอนุบาล เพื่อนชื่อป๊อกกี้ มันคงจำหน้าเราไม่ได้แล้ว และในขณะเดียวกัน เราก็จำหน้ามันไม่ได้แล้วเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ แต่ก่อนเจอคุณอภัสราบ่อย แกมารับลูก สวยสง่ามากๆ

พอโตขึ้นเข้ามธ. ได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นปีเดียวกับนางสาวไทยอีกคน คือหมิง ชาลิสา ปีเดียวกันแต่คนละคณะ เคยเจอที่ร้านขายไส้กรอกที่ตึกSC ตัวจริงตัวเล็กๆ ใส่ส้นสูงปรี๊ดเลย ก็สวยในระดับนึงนะ

นางสาวไทย2คน คนละยุคสมัยทำให้เราได้เห็นว่า นางสาวไทยสมัยก่อนจะเน้นความสวยสง่า ดูเป็นผู้ดี ดูมีสกุลรุญชาติ แต่สมัยนี้จะเน้นผู้หญิงที่ดูฉลาด ดูทันสมัย กล้าแสดงออก ก็เรียกว่าค่านิยมของคนก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนั่นแหละ

กระทู้ดีมากๆคะ เมื่อก่อนคิดตอนดูนางสาวไทย ทำไมหน้าฝรั่งกันเยอะจังเลย แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว เดี๋ยวมีลูกจะส่งลูกประกวดบ้าง :)

คุณอภัสรา สวยมากมากมากเลยค่ะ  ทำไมรู้สึกว่ารุ่นหลังหลังความสวยสง่าสู้รุ่นเก่าเก่าไม่ได้น๊าา

มีนางงามในดวงใจอีกท่านนึงค่ะคือคุณลดา เองชวเดชาศิลป์

แต่จำไม่ได้ว่าประกวดเวทีไหน

เราปลื้มคุณลดามากเลย  เราว่าเค้าเป็นผู้หญิงที่สวยมากกกกกกกกก

คุณ Fairypromise_PTLF ครับ

คุณลดาเธอได้ตำแหน่ง Miss Thailand World 2001 ครับ
เธอโลดแล่นในวงการบันเทิงระยะหนึ่ง  หลังจากนั้นก็บินลัดฟ้าไปเรียนต่อ
ที่สหรัฐอเมริกา  และเมื่อเดือนเมษายน ปีที่แล้ว  เธอเข้าพิธีสมรสกับชายหนุ่ม
ผู้โชคดี กำลังสร้างครอบครัว ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่อเมริกาครับผม

เครดิตรูป :: http://news.giggog.com/382468

ไปเจอกระทู้เก่ามาครับ  สำหรับคนที่ต้องการติดตาม Miss Thailand World เรียนเชิญที่กระทู้นี้นะครับ

http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/12/A8629166/A8629166.html


เครดิต :: คุณ goffy-bz

ปีนั้นรองทั้ง 4 คนได้แก่  ปรียานุช ปานประดับ  ได้ตำแหน่งมิสเอเชีย แปซิฟิค ขวัญใจช่างภาพ  ชุดประจำชาติ และนางงาม
บุคลิกภาพ  ที่ฮ่องกง  รองอันดับสอง พิมพิไล ไชยโย  อันดับสาม ศุภรานันทน์ พันธ์ชูจิต  และอิสราภรณ์ จงเจริญ

จากปี 2531 ปีของคุณปุ๋ย ไม่ทราบว่ารองนางสาวไทยตกหล่นชื่อของคุณ ฮันนี่ ภัสสร ไปหรือเปล่าคะ?

..

ขอบคุณสำหรับกระทู้ดี ๆ มีสาระมากค่ะ
ใจอยากจะเถียงเรื่องนางงามหน้าไม่ไทยตั้งแต่กระทู้โน้นแล้วแต่ขี้เกียจดราม่า 55+

คห 166
ถ้าจำไม่ผิด คุณฮันนี่ ภัสสร บุณยเกียรติ ได้ตำแหน่ง นางงามรางวัลขวัญใจช่างภาพนางสาวไทยปี 2531 แต่ไม่ติด 1 ใน 5 คนสุดท้ายนะ

#167 : ขอบคุณค่ะ

พอดีเห็นรูปสวย จากเพจ คุณ สรินยา ทัตตวร  รอง นางสาวไทย
ปี2514รุ่นคณ นิภาภัทร ขอบคุณเจ้าของเพจด้วยค่ะ คุณสรินยา คือคนที่อยู่
ด้านซ้ายติดกับคุณ นิภาภัทร ติดเบอร์11

สมัยนั้น งามอย่างไทย คลาสสิกมาก

อีกรูป

งามอย่างไทย นางสาวไทย

คห16 มีชื่อแม่ด้วยอ่ะ เอิ๊กๆๆๆๆ

อ่านเพลินมาก ๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับสาระด ๆ นะคะ

แล้ว Miss Thailand World ล่ะ เกี่ยวกันอย่างไร

ลดา เองชวเดชาศิลป์ สวยที่สุดแล้ว

แวะมาโหวตให้พี่ชายคนดีค่า..

^_^

นางงามรุ่นหลังๆ เราชอบ  ลดา  กับชาร์ม 2คนนี้สวย ตรงเสปคเรามากๆ

คลังความรู้สาวงามเมืองไทยเลยครับเนี๊ย! ไม่โหวตให้คงโง่เต็มทีแล้วมั๊งผม สู๊ดดดดดดยวดดดดดดๆๆๆๆๆ

นางสาวไทย พ.ศ.2507 และรองอันดับหนึ่ง อรัญญา นามวงศ์(อัญชลี ชอบประดิษฐ์)

สุดยอด!! ขอบคุณมาก
แต่ละคนสวยๆ ทั้งนั้น

รู้สึกขัดใจยังไงไม่รู้ นางสาวไทยคนปัจจุบัน ชื่อเล่นก็ไม่ไทยละ ยิ่งดูเค้าหน้า ดูไม่เหมือนคนไทยเลยอะ ถ้าเดินผ่านๆนึกว่าฝรั่งด้วยซ้ำนะเนี่ย
แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างนึง นางสาวไทยทำไมรู้สึกเกี่ยวข้องกับอเมริกายังไงไม่รู้ บางคนก็เกิดและไปโตที่นู่น บางคนก็ไปเรียนต่อที่นู่น บางคนก็ไปได้รางวัลที่นู่น บางคนก็ไปอยู่กินที่นู่นเลย แปลกนะว่ามะ

มาโหวตและมาดูคนสวยค่ะ 

แวะมาเยี่ยมพี่อ๋องค่ะ

สาระดีๆ ข้อมูลปึ๊กขนาดนี้ พี่อ๋องตัวจริงเสียงจริง แน่ๆ

เอ่อความคิดเห็นที่ 183 คะ น้องโบว์ลิ่ง นางสาวไทยปีนี้หน้ายังไทยไม่พออีกหรอคะ หรือว่าคุณสับสนอะไรหริอเปล่า น้องริต้าเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เป็นตัวแทนไปประกวดมิสยูนิเวิร์สค่ะ ส่วนนางสาวไทยเขาแยกไปประกวดอีกที่นึงตั้งนานแล้วค่ะ
ที่จริงเราไม่เห็นต้องมาพิมพ์อะไรพวกนี้เลยนะเนี่ย จขกท.ก็บอกข้อมูลเอาไว้ละเอียดดีแล้วนะ

สงสัยจากภาพคห. 169
สมัยก่อนเค้าใส่ชุดว่ายน้ำรับรางวัลเหรอคะ

187@คิดว่าเริ่มมีบ้างแล้วละค่ะ  เพราะตั้งแต่ ปีที่คุณ อาภัสราได้ตำแหน่ง mu การไปประกวด ในเวทีระดับโลกต้องใส่ จึงเข้าใจ ว่า น่าจะใส่ตามหลักสากล ของเวที mu

#188
ขอบคุณค่ะ
จริงๆสงสัยตั้งแต่เห็นภาพฟีตติ้งสุภาพบุรุษจุทาเทพ
ตอนที่เบลล่าเป็นนางงาม ก็เห็นใส่แบบนี้เหมือนกันแต่ตอนนั้นคิดว่า ละครเฉยๆ เลยไม่ได้ไรมากมาย พอมาเห็นภาำจริงเลย งง ว่าทำไมไม่ใส่ชุดราตรี
เหมือนสมัยนี้ ที่แบ่งเป็นรอบๆ อิอิ

ขอบคุณกระทู้ดี มีสาระ ทรงคุณค่า มีแต่เสียงชื่นชม ขอบคุณมากๆค่ะ

ผมใช้เวลาอยู่ ในกะทู้นี้ ตั้งแต่ตี4 ตอนนี้ 6โมงเช้า ได้สาระมากๆครับ

คุณหมิง  ชาลิสา บุญครองทรัพย์  
ผมเรียกแต่  ชาลิสา  มาบุญครอง
เพิ่งรู้ว่าจำนามสกุลผิดก็กระทู้นี้แหล่ะ


คุณป๊อป  อารียา  
ว่ากันว่า  หากปีนั้นไม่ได้จัดประกวดที่ฟิลิปินส์
มีสิทธิ์ที่จะติด  ๑  ใน  ๕  แน่นอน

ดูเหมือนมีลงรูปผิดบางคนนะคะ

อย่างรูปคุณปุ๋ย ภรณ์ทิพย์นี่ผิดแน่นอนอ่ะค่ะ

รูปที่ความเห็น 33&43น่าจะผิดแน่ๆค่ะ

คห. 75 คนด้านซ้ายเหมือนหลิวอี้เฟยเลย อิอิ

นำ รูปคุณทวีพร คลังพลอย ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2012 ในชุดแอร์โฮสเตส มาฝากค่ะ

ที่มาจากเว็บ t-pageant.com

งามเว่อร์

ตอนปี 2005 ที่ขึ้นเวทีนางงามจักรวาล

สวยออร่า กระจายยยยยยยย

ที่มาจากเว็บ t-pageant.com

เทียบกับตอนได้ตำแหน่ง

ที่มาจากเว็บ t-pageant.com

อ่านเพลินตาเพลินใจจริงๆค่ะ รุ่นหลังๆไม่ค่อยคุ้น แต่ก็สวยทุกคน
เง้อ เกิดกี่ชาติจะได้สวยๆแบบนี้บ้างหนอ

เรียนทุกท่านที่เคารพ...


ขอบคุณที่โหวตกระทู้นะครับ...และยินดีที่ได้ทำให้หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยเห็นความเป็นไปของความงามในบ้านเรา
ได้ประจักษ์ว่าสาวไทย งามไม่แพ้ชนชาติใดในโลกครับ


ผมไปตั้งกระทู้ใหม่ ตามลิ้งค์นี้ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A13091356/A13091356.html


ที่ตั้งเพื่ออยากเหลือเกินครับ...อยากให้คนไทย "รับผิดชอบต่อความคิดเห็น" ของตัวเอง
มันไม่ยากครับที่จะ "เห็นด้วย" หรือ "ไม่เห็นด้วย" กับสิ่งใด ๆ ในโลก...กระทู้นี้มีหลายคนบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการ
ส่งน้องริต้าไปเป็นตัวแทนประเทศ เพราะไม่มีความเป็นไทย ทำให้สู้ต่างชาติไม่ได้  ผมก็เห็นด้วย  แต่ใช่ว่าน้อง
หน้าไม่ไทยแล้วเธอจะไม่สมเป็นตัวแทนของไทยครับ...เธอไม่ได้อาจจะด้วยร้อยแปด พันประการ ที่ทราบมา
คือผิวเธอออกจะแห้ง และรูปร่างไม่กระชับ ต้องเข้ายิมเยอะกว่านี้จะทำให้ได้คะแนนรูปร่างมากขึ้น
หรืออาจจะเพราะมีการเมืองเบื้องหลัง...ก็ไม่ทราบได้...หรือกรรมการนิยมแบบอื่น...นั่นก็เป็นอีกเหตุผล


ถ้าจะบอกว่าน้องไม่เหมาะกับการเป็นตัวแทนชาติเรา...ผมขอความกรุณาช่วยเข้าไปให้เหตุผล และช่วยกัน
เฟ้นหาคนที่ "เหมาะสม" ให้หน่อยครับ


ไม่ได้ต้องการการทะเลาะเบาะแว้ง...ผมเขียนชัดเจนว่าต้องการระดมสมองเพื่อความงามในปีต่อ ๆ ไป
ลองไปอ่าน...ลองไปชม  และลองไปให้คำนิยม สาวงามแบบไทย ๆ ผมไม่อยากเห็นแค่นามธรรม...คือแค่ข้อเขียน
ผมอยากให้ช่วยกันลองหารูปใครที่มีแวว...อย่างนี้แหละน่าจะใช่....เอามาลงให้เห็นนะครับ  จะได้ทราบว่า
สิ่งที่คุณคิด...กับความเป็นจริงในปัจจุบัน...มันเหมือน  หรือต่างกันอย่างไร


กรุณาเถอะครับ...ถือว่าผมขอร้องให้ "เริ่มต้น" ทำในสิ่งที่ควรทำ  เพื่อเป็นแบบอย่างต่อคนรุ่นหลังต่อ ๆ ไป
อย่าเพียงพูด...ลงมือปฏิบัติด้วย...จะขอบพระคุณยิ่งครับ

กล้องดีขึ้น ตามกาลเวลา

ขอบคุณมากค่ะ นั่งอ่านเพลินเลยทีเดียว

น้องริด้า หน้าฝรั่งมาก.....

คนฝรั่งเค้าจะมองว่าเป็นคนไทยหรือ ?

ยังไงๆก็น่าจะมีพ่อแม่ปู่ย่า ตายาย เป็นคนไทย 100% นะครับ

(ไม่ต้องบอกว่า จีน แขก มอญ เขมร ลาวผสมนะ ยังไงก็คนเอเซียเหมือนกัน ไม่ได้แหวกแนวไปเป็นฝรั่ง คอเคซอยด์ นะ)

ภาพในคห. 196-197 เหมือนจะเคยเห็นตัวจริงอ่ะค่ะ O_o
แบบว่า ตอนนั้นเหมือนจะตะลึงว่าสวยค้างเลย

นึกไม่ถึงว่าเป็นระดับตำนาน โอ๊ววว

แต่กระทู้นี้ดีนะคะ เราว่าโดยเฉพาะช่วงกลางๆนี่สวยทุกคนเลย
ได้ความรู้มาอีกเยอะ

แล้วก็ต้องยอมรับว่า คุณอภัสราและพี่ปุ๋ย สวยสมกับที่ได้เป็นมิสยูนิเวิร์สจริงๆ

มงกุฏ สมัยก่อนเหมือนหนังจักรๆวง เนาะ

สวัสดีค่ะ ขอบคุณกับข้อมูลที่ได้แบ่งปัน จำได้ว่าสมุดเรียนยุคก่อน 2510 -2515 ปกหลังจะมีรูปหมู่ของนางสาวไทยด้วยนะคะ

ชอบนางสาวไทยและรองฯ ของปีนี้นะคะ

เกิดปี 2531 ปีที่พี่ปุ๋ยได้เป็นนางงามจักรวาล เด็กเกิดปีนั้นชื่อ ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์เยอะมาก

แม่เลยตั้งให้ชื่อปุ๊ก เพราะเป็นนางงามจักรวาลคคนแรกแทน 5555

ส่วนน้องสาวอีกคนเกิดปี 2535 แม่เลยให้ชื่อปุ๋ยแทน ^^

คุณปุ๋ย เป็นคนที่สวยติดตามาก จริง
โตมากับเธอจริงๆ กับสโลแกน รักเด็ก อิอิ

5 นางสาวสยาม

^
^
ภาพสวยมากครับ  ขอบคุณที่แบ่งปันครับ



คุณกบกินกะลาครับ

เรียนเชิญกระทู้โน้นดีกว่านะครับ
แสดงความคิดเห็นได้...และแบ่งปันภาพได้ด้วยครับ

ก็ยังสงสัยอยู่จนทุกวันนี้

ว่าทำไม โรงเรียนชายล้วน ถึงได้เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดสาวงาม

???

สวยทุกคนครับ

เมื่อวานไปดูคอนเสริ์ตสุนทราภรณ์ที่ มธ มา วันนี้เลยมาหาคลิป สุนทราภรณ์มาดู
ไปเจอคลิปนี้เห็นว่าเข้ากับกระทู้นี้เลยเอามาฝากคะ