จริงหรือที่เดี๋ยวนี้หนังจีน(ฮ่องกง ไต้หวัน)เเบบพีเรียดจะให้เสื้อผ้าคล้ายของเกาหลี ญี่ปุ่นมากขึ้น เพราะอะไรคะ

เห็นเขาว่าเดี๋ยวนี้หนังจีน(ฮ่องกง ไต้หวัน)เเบบพีเรียด มีการตัดเย็บเสื้อผ้าให้คล้ายเเบบของเกาหลี ญี่ปุ่นมากขึ้น ฟังเเล้วงงนะค่ะ เพราเท่าที่ทราบสามประเทศนี้วัฒนธรรมการเเต่งกายจะคล้ายกัน จีนจะเป็นพี่ใหญ่สุด จะเหมือนบ้างก็ไม่น่าเเปลก

ที่เหมือนนี่เหมือนอย่างไงคะ เเล้วตามจริงต้องเป็นไง

จากคุณ : น้ำค้างเเก้ว [19 ธ.ค. 55 15:06:57 ]
ความเห็นที่ 1

ไม่จริงนะ สมัยก่อน
เกาหลีเนี่ยมันจะมียุคที่แต่งตัวคล้ายประเทศจีนเลย
เช่นในยุคซอนต๊อกงี้อ่ะ สมัยนั้นจะแต่งตัวคล้ายจีน รวมถึงทรงผมยังเหมือน  ช่วงที่ไม่เป็นโซซอนอ่ะคะ
พอช่วงที่เป็นโซซอนแล้ว ก็อย่างเช่นเครื่องแต่งกายในเรื่องทงอี ประมาณนั้นอ่ะ

เราเคยได้ยินแต่เกาหลีญี่ปุ่นเอาของจีนมาใช้
ไม่เคยได้ยินว่าจีนเอาของเขามาอ่ะ

จากคุณ : จอลลี่คุกกี้ [19 ธ.ค. 55 15:16:44 ]
ความเห็นที่ 2

มันเป็นของเกาหลี เห็นในข่าว ภูมิปัญญาต่างๆ เกาหลีเค้าก็ว่าเป็นของเค้าหมด อย่าไปเถียง ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : Kormicsamashoon [19 ธ.ค. 55 15:20:47 ]
ความเห็นที่ 3

ก็จริงนะค่ะ อย่างเรื่อง painted skin ชุดเหมือนญี่ปุ่นเลย

จากคุณ : PRADAสีชมพู [19 ธ.ค. 55 15:27:32 ]
ความเห็นที่ 4

จขกท อย่าเชื่อพวกเกาหลีมากน่ะ พวกนี้ชอบบิดเบือนประวัติศาสตร์ คิอว่าประเทศตัวเองเป็นต้นกำเนิดอะไรทุกๆอย่าง ทั้งต้นกำเนิดภาษา อารยธรรม

จริงๆแล้วประเทศที่เป็นต้นกำเนิดอารยธรรมตะวันออกน่ะ คือ ประเทศจีน เป็นต้นกำเนิดทั้งภาษา เคยสังเกตไหมล่ะว่าตัวคันจิของญี่ปุ่นเขียนเหมือนภาษาจีน แต่แค่ออกเสียงไม่เหมือนกัน ส่วนพวกเกาหลีก่อนหน้าที่ยังไม่เป็นราชวงศ์โชซอน(ยุคแดจังกึม)ยังใช้ภาษาจีนในการติดต่อสื่อสารเลยอยู่เลย ยังไม่มีภาษาของตัวเอง จนพระราชาของเกาหลี(อันนี้จำชื่อไม่ได้น่ะ) ได้ประดิษฐ์อักษรเกาหลีเหมือนพ่อขุนรามไทยน่ะ

ส่วนเรื่องที่ จขกท ว่าจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เลียนแบบชุดจากเกาหลี ญี่ปุ่น นั้น ที่จริงแล้ว กิโมโน ยังมีอีกชื่อนึงชื่อว่าโกฟูคุ(吴服)หรือถ้าภาษาจีนก็จะแปลว่า"เสื้อผ้าแคว้นอู๋"

ซึ่งเป็นชุดอีกรูปแบบนึงซึ่งใส่กันมาตั้งแต่ยุคโบราณของจีน

แต่ชาวจีนไม่ได้เรียกกิโมโนหรือโกคุฟุเหมือนญี่ปุ่นหรอกนะ

แต่เขาจะเรียกว่า ฮั่นฝู "hanfu汉服" ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่าคันฟุคุ"kanfuku"

ฮั่นฝู่นั้นเริ้มเผยแพร่เข้าสู่ญี่ปุ่นในสมัยราชวงศ์ถัง(tang唐)ของจีน

เพราะช่วงนั้นคนญี่ปุ่นก็เริ้มมาเรียนรู้วิทยาการจากจีนแล้วกลับไปพัฒนาบ้านเมืองที่ญี่ปุ่น

มีตั้งแต่ เอาภาษาจีนฮั่นที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า"คันจิ"ไปเผยแพร่

และก็มีต้นชามาปลูก เผื่อจะได้มีชาในประเทศตนเอง

หนึ่งในนั้นคือผ้าไหมและวิชาการทอผ้าซึ่งจากฮั่นฝูหรืออู๋ฝูก็เลยเป็นกิโมโนในที่สุด

ซึ่งกิโมโนนั้นถ้าจะว่าก็คงเหมือนลูกหลานของเสื้อฮั่นฝู่ที่ยังอยู่ยงถึงทุกวันนี้ก็ว่าได้

เพราะฮั่นฝูของจีนไม่ว่ารูปลักษณ์รูปร่างก็คล้ายคลึงกับชุดกิโมโนของญี่ปุ่น

ปัจจุบันฮั่นฝู่ที่ว่านั้นในประเทศจีนไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว

นอกเสียจากจะเห็นตามละครประวัติศาสตร์ตามทางทีวีเท่านั้น

http://bukkenbite.exteen.com/category/History/page/2

จากคุณ : องค์หญิงหวนจู (องค์หญิงหวนจู) [19 ธ.ค. 55 15:40:48 ]
ความเห็นที่ 5

เกาหลีเนี้ยตัวเลียนแบบ แล้วชอบอ้างว่าเป็นของตัวเอง อย่าไปเชื้อมันมาก
หนังย้อนยุคสมัยนี้ ทำยังไงก็ไม่มัน สู้หนังย้อนยุคจีน สมัยเด็กๆ ฉากต่อสู้นี้สู้ไม่ได้เลย
อ้ออีกอย่างชุด เกาหลีเลียนแบบจีนชัดๆ ไทยก็กระแสอะไรมาก็เอาหมด จนเด็กๆ
สมัยนี้พลาดหนังจีนย้อนยุค ที่ให้คติสอนใจ เยอะแยะ

จากคุณ : june_ju [19 ธ.ค. 55 15:48:27 ]
ความเห็นที่ 6

ภาพสตรีสมัยราชวงศ์ถัง อยู่ในช่วง พ.ศ. 1161–พ.ศ. 1450 ตอนนั้นเกาหลี ยังเป็นแค่อาณาจักรชิลลา(ยุคซอนต๊อก)คาบเกี่ยวกับยุคโกรคูยอ(จูมง)และแพ็กเจ(ซอดองโย)

จากคุณ : องค์หญิงหวนจู (องค์หญิงหวนจู) [19 ธ.ค. 55 15:48:38 ]
ความเห็นที่ 7

เห็นด้วยกับความเห็นข้างบนของคุณ (องค์หญิงหวนจู)และคุณjune_juทุกประการค่ะ ชอบละคร-ดาราเกาหลีนะคะ

แต่ไม่ได้ชอบจนคลั่งทำให้ลืมละครไทยและชาติอื่นๆ เกาหลี เพิ่งจะเริ่มมีประวัติศาสตร์ที่เป็นของตัวเองเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี่แหละค่ะ

เมื่อก่อนใช้ภาษาจีน และอิงภาษาญี่ปุ่นด้วย เครื่องแต่งกายเค้าก็ดัดแปลงมาจากของจีน อันนี้ศึกษาจากประวัติศาสตร์ค่ะ เพราะชอบประวัติศาสตร์

จากคุณ : โอ ติ๊ง ต่อง [19 ธ.ค. 55 15:50:36 ]
ความเห็นที่ 8

อันนี้เป็นรูปปั้นสตรีในสมัยราชวงศ์ถัง สังเกตว่าทรงผม กับชุด คล้ายกิโมโนของญึ่ปุ่นมาก

จากคุณ : องค์หญิงหวนจู (องค์หญิงหวนจู) [19 ธ.ค. 55 15:51:12 ]
ความเห็นที่ 9

หนึ่งใน 4 ยอดหญิงงามของจีน หยางกุ้ยเฟย ซึ่งในสมัยก่อนเกาหลีคงไม่มี

จากคุณ : องค์หญิงหวนจู (องค์หญิงหวนจู) [19 ธ.ค. 55 15:52:57 ]
ความเห็นที่ 10

ถ้าเจ้าของกระทู้ยังสงสัยอยู่ ขอแนะนำให้ไปดูหนังจีนเรื่อง บูเช็คเทียน จอมนางเหนือแผ่นดิน
นาทีที่ 4.45 มีบอกว่า "ทูตของเกาหลี กับ ญี่ปุ่นมาเข้าเฝ้าพระนางบูเช็คเที่ยน

http://www.youtube.com/watch?v=PdxADL-3pVg

จากคุณ : องค์หญิงหวนจู (องค์หญิงหวนจู) [19 ธ.ค. 55 16:04:27 ]
ความเห็นที่ 11

เกาหลีคือพ่อของทุกประเทศ ฉันดัง ฉันเริ่ด ฉันเป็นที่หนึ่งในจักรวาล






ประชดนะ

จากคุณ : north_shine [19 ธ.ค. 55 16:10:28 ]
ความเห็นที่ 12

จีนนี้ลอกเลียนแบบคนอื่นก็ยอมรับเต็มอกว่า ใช่!!!!! ชั้นก็อปมา
เกาหลีเลียนแบบคนอื่น แต่ๆๆๆๆๆดันบอกว่า  ไม่นะ ไม่จริงเลย ชั้นหน่ะต้นฉบับ คนอื่นต่างหากที่ก็อปชั้น
ทั้งมวยไทย  พิซซ่า พระเยซู  ภาษาจีนก็ล้วนมาจากเกาหลีที่นี้ที่แรกทั้งนั้น
เอากับมันสิ  เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออ

จากคุณ : หงส์ฟ้า ตาเหล่ [19 ธ.ค. 55 17:17:27 ]
ความเห็นที่ 13

ผมเข้าใจว่าที่เขาบอกๆกันว่า เกาหลีคือต้นกำเนิดของโลก มันคือโจ๊กที่อำกันเล่นๆมากกว่า..

จากคุณ : ติสท์แตก [19 ธ.ค. 55 17:43:19 ]
ความเห็นที่ 14

#13
เรารู้ เราจึงคิดว่ามันโจ๊ก
แต่คนเกาหลี เขาคิดจริงจัง

จากคุณ : a MOMENT to REMEMBER [19 ธ.ค. 55 18:22:13 ]
ความเห็นที่ 15

เราก็ชอบดารานักร้องเกาหลีนะคะ
แต่ว่าคิดถึงหนังจีนมาก อิทธิฤทธิ์ภูมิเทวดา เจ้าแม่โคมวิเศษ นางพญางูขาว นาจา ได้ว่าแต่ก่อนฮิตมากก
แอบเห็นด้วยกับบางความเห็นที่เสียดายเด็กอนุบาลประถมสมัยนี้คงไม่ได้ดูหนังจีนเหมือนตอนเรายังเด็กๆ

จากคุณ : พาโกะ (dadoong) [19 ธ.ค. 55 18:32:32 ]
ความเห็นที่ 16

ผมก็จำได้เหมือน 13 นะ
ว่าคลิปน่ะ มีคนทำล้อขึ้นมา ... คนเกาหลีส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นต้นกำเนิดนู้นนี่อะไรหรอก
มีแต่พวกคนเกาหลีเพี้ยนๆที่พูด

อารมณ์ประมาณคนไทย เชื่อกันผิดๆว่า สมัยก่อนฟุตบอลทีมชาติเราดีกว่าญี่ปุ่นเกาหลีใต้
พอไปดูสถิติจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ทีมชาติไทยเป็นลูกไล่มาตลอด
แล้วก็จับมือใครดมไม่ได้ว่า ใครกันที่บอกทีมชาติไทยสมัยก่อนเก่งกว่าญี่ปุ่นเกาหลี
สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าคนเผยแพร่ความเชื่อผิดๆ มันคือใคร ?

เสพสื่อข้อมูลในเน็ท ใช้วิจารณญาณกันนิดนึงครับ
อย่าเอาอคตินำ
ในโลกความเป็นจริงใครจะบ้าอ้างตัวเป็นเจ้าของนู้นนี่แบบไม่มีมูลอะครับ
มันต้องหาหลักฐานมาแย้งกัน
ซึ่งสิ่งที่เห็นก็มีแต่คลิป(ที่ไม่รู้จริงไม่จริง เกาหลีทำเองหรือเปล่ายังไม่รู้)
มันมีอย่างอื่นนอกจากคลิปมั้ยครับ ? เช่นหนังสือของเกาหลีที่เป็นวิชาการจริงๆ

ไม่ใช่หนังสืออารมณ์แม่ชีปัดระเบิด อเมริกาจะมาทิ้งระเบิดที่ไทย แต่ด้วยแม่ชีสุดเมพของไทย ปัดระเบิดไปลงที่ญี่ปุ่นแทน

^
^
ลองคนต่างชาติ เอาหนังสือเล่มเนี่ยไปอ้างอิงแบบนี้สิครับ
"คนไทยมันบอกว่า อเมริกาจะไปทิ้งบอมบ์ที่ประเทศมัน แล้วมีคนบินไปปัดระเบิดกลางอากาศ ระเบิดปลิวไปลงที่ญี่ปุ่นแทนด้วยว่ะ 5555"

หรือ
"คนไทยมันบอกว่า ทีมชาติมันเคยเก่งกว่าทีมชาติญี่ปุ่น ทีมชาติเกาหลีด้วยว่ะ ตอนไหนฟร่ะ มันฝันไปหรือเปล่า ไปดูสถิติของฟีฟ่า เห็นมีแต่แพ้เค้ามาตลอด นานๆชนะที เลยดีใจเกินจริงละมั้ง 5555"

....น่าอายมั้ยครับ = =
(ที่น่าอายกว่า คือ คนไทยบางคนก็ยังเชื่อเรื่องนี้ !!)

ผมว่าเรื่องเกาหลีเป็นต้นกำเนิดอะไรต่างๆ นี่มันก็อารมณ์ประมาณเนี่ย = =
ไม่รู้ใครสร้างความเชื่อแปลกๆมาผิดๆ โดยคนไม่กี่คน
แต่โดนเหมารวมทั้งประเทศ ... อยากให้ลองคิดกันนิดนึงครับ

**แก้เยอะหน่อยนะครับ มึนๆไม่ค่อยสบาย

จากคุณ : Kyo3 [19 ธ.ค. 55 18:45:05 ]
ความเห็นที่ 17

คห. 13 กะ 16 คะ
คือมีคนเกาหลี พวกอายุประมาณยี่สิบ เนี่ยแหละ บอกว่าดราก้อนบอลเป็นการ์ตูนสร้างโดยคนเกาหลีนะ
คือไม่ใช่โจ๊กแต่มันมีปัญหาเรื่องการเสพสื่อของคนเกาหลีจริงๆ คะ
ในอดีต รัฐบาลเกาหลีกลัวพวกสื่อจากต่างชาติ เลยเอาสื่อที่ดังๆ ของญี่ปุ่นไปทำลอกเลี่ยนแบบแล้วบอกว่าเป็นผู้ผลิตซะงั้น มีเรื่องสตอเบอรี่ที่ไปเอาพันธ์มาจากญี่ปุ่น แล้วก็เปลี่ยนชื่อไม่บอกที่มา แล้วเคลมว่าเป็นของผลิตภัณฑ์ที่กำเนิดมาจากเกาหลี คือมันหลายสิ่งมากที่เกาหลีอ้างว่าตนเองคิดค้น แต่มีกำเนิดหรือได้รับมาจากที่อื่นแต่ไม่ยอมบอกหน่ะคะ นี่คือแหล่งกำเนิดโจ๊กอันนี้หน่ะคะ

จากคุณ : dot_face [19 ธ.ค. 55 19:05:21 ]
ความเห็นที่ 18

#17 คือ ผมอยากจะบอกว่า "คนเกาหลีเค้าคิดแบบนั้นทุกๆคนจริงหรอ"

หรือมันเป็นความเชื่อของคนไม่กี่คน แล้วคนไทยก็เอามาเหมาว่าเค้าคิดแบบนั้นทั้งประเทศ
คืออยากให้ทุกคนมองกันกว้างๆหน่อย
เพราะคนเกาหลีที่ผมรู้จักมันก็ไม่ได้คิดอะไรแบบนี้เลย = =

กรณีนี้มันเกิดขึ้นได้ ทุกประเทศ
อย่างอุลตร้าแมนเป็นของคนไทย ผมไม่เห็นจะภูมิใจอะไรเลย
เพราะการที่มันดังไปทั่วโลกก็เพราะคนญี่ปุ่น
ผมเชื่อว่าคนไทยไม่ค่อยกล้าเอาไปคุยอวดใครหรอกว่าอุลตร้าแมนเป็นของไทยน่ะ
http://www.account.co.th/view-news.php?itemid=347
ลองอ่านดูครับว่า "อุลตร้าแมนเป็นของคนไทย"
ทั้งๆที่คนญี่ปุ่นเค้าก็เชื่อมาตลอดว่าอุลตร้าแมนเป็นของประเทศเค้า
ถ้าคุณมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่น แล้วคุณชวนคุยประเด็นเรื่องนี้ ผมว่ามันส์แน่ๆ

แถมอีกเรื่อง
ปัจจุปันไปบอกว่า Red bull เป็นของคนไทยฝรั่งบางคนยังขำเลยครับ
ทั้งๆที่มันก็เป็นของคนไทยจริงๆ = = อันนี้ผมก็แอบเคือง

------

เรื่องเกาหลีใต้ถือตัวเป็นเจ้าของอะไรต่างๆ
ผมก็ไม่อยากให้ฟันธงไปก่อนแค่นั้นแหละ
เพราะเรายังไม่รู้เลย ตกลงคนในประเทศเค้าคิดยังไงกันแน่
เพราะมันก็มีฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

คนในครอบครัวเดียวกันยังมีความเห็นหลากหลายได้
แล้วทำไมคุณถึงคิดว่า คนทั้งประเทศ เค้าคิดแบบเดียวกันหมด ?
อยากให้มองกว้างๆแบบนี้มากกว่า ส่วนตัวไม่ค่อยชอบการเหมารวมครับ

-----

อย่างเรื่องดราก้อนบอล เอาเป็นว่าคนทั้งโลกที่ดูการ์ตูนเรื่องนี้
ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นของญี่ปุ่น ... คนเกาหลีใต้ที่คิดว่าดราก้อนบอลเป็นของเกาหลี
ผมก็ว่ามันเพี้ยน

แต่...ผมเชื่อว่า คนเกาหลีใต้เค้าก็ไม่ได้คิดแบบนี้กันทุกคน
ยังมีอีกหลายคนที่รู้ว่าดราก้อนบอลมันของญี่ปุ่น
และก็คงอายที่บางคนดันบอกว่าเป็นของชาติตัวเองซะงั้น

จากคุณ : Kyo3 [19 ธ.ค. 55 19:16:14 ]
ความเห็นที่ 19

บอกไว้ก่อนนะครับ
ผมไม่ได้เข้าข้างเกาหลีนะ ผมมองกลางๆ
คือ ไม่ได้อคติ และก็ไม่ได้ช่วยแก้ตัวมากมายอะไร
... แต่พูดกลางๆ ว่าอยากให้มองกว้างๆขึ้นมาหน่อย
เพราะเห็นบางคนอคติกับเกาหลีไปนิดนึง

-------

นึกถึงปีที่แล้ว ที่บังเอิญไปกินอาหารเกาหลีอย่างนึง
อาหารจานนี้ผมเคยเห็นจากรายการเกาหลีมาก่อน ผมกับพ่อยังบอกเลย "เหมือนทำแกงส้ม"
พอได้กินเท่านั้นแหละ "แกงส้มชัดๆ" เพื่อนทุกคนที่ไปกินก็บอกว่าได้ไข่เจียวมานะแหล่มเลย
เจ้าของร้านคนเกาหลีใต้แท้ๆ คงไม่เนียนเอาแกงส้มมาใส่หม้อแน่ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
จำชื่อไม่ได้ละ ลองไปหากินกันดู
สงสัยถ้าคนเกาหลีมาเถียงกับคนไทยคงมีดราม่าแกงส้มแน่ๆ เพราะมันเหมือนกันมากๆ ฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : Kyo3 [19 ธ.ค. 55 19:38:56 ]
ความเห็นที่ 20

คือ ก็ไม่ได้อยากจะเหมารวมนะ เเต่กรณีเกาหลีนี่ มันหลายเรื่องสุดๆ เเต่เเต่ละเรื่องนี่มันที่สุด ญี่ปุ่นนี่โดนจนชิน อนิเมหลายเรื่องสมัยก่อนก็บอกว่าตัวเองทำ เคนโด้ก็ว่าตัวเองเป็นต้นกำเนิด เร็วๆนี้ยังบอกว่าตัวเองมีอักษรมาก่อนจีน

นี่ยังไม่รวมกรณีโกงบอลโกงมวยเเละอีกสารพัดกีฬานะ ตอนบอลโลกนั่นขึ้นป้ายหราว่าเป็น"ความภูมิใจของเอเชีย"ทั้งที่ทั่วโลกเขาก่นด่ากันทั้งนั้น กรณีนี้ผมว่าน่าจะเหมาได้ล่ะมั๊ง

จากคุณ : ไล่ฮก [19 ธ.ค. 55 21:21:03 ]
ความเห็นที่ 21

คห.ที่บอกว่า ชุดในเรื่องpaint skinเหมือนชุดของญี่ปุ่นน่ะ ลองมาดูชุดนี้ก่อน

นี่คือชุดแต่งกายสตรีในสมัยราชวงศ์ฉิน และราชวงศ์ฮั่น ซึ่งก็ดูง่ายๆ เรียบๆ เป็นชุดคลุมยาวป้ายทับกันแค่นั้น  ซึ่งก็ออกจะดูคล้ายเรื่องแต่งกายสตรีญึ่ปุ่นสมัยอิคคิวซัง

แต่คงไม่ต้องบอกล่ะมั้ง ว่าใครมาก่อนกัน ระหว่างจีนสมัยราชวงศ์ฉิน กับประเทศญี่ปุ่น (ตอนนั้นมีประเทศญี่ปุ่นหรือยังก็ไม่รู้)

จากคุณ : ฮิวเยียก [19 ธ.ค. 55 23:50:58 ]
ความเห็นที่ 22

พอดีเราเคยศึกษาเรื่องเครื่องแต่งกายของจีนมานิดหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะให้ดูรูป (ขอโทษเรื่องที่มาของภาพนะคะ เซฟไว้นานแล้ว จำเว็บไซต์ไม่ได้ แต่เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายจีนนี่แหละค่ะ)

ภาพนี้เป็นเครื่องแต่งกายยุคราชวงศ์ฉิน (ยุคจิ๋นซีฮ่องเต้) และราชวงศ์ฮั่นนะคะ

จริงๆก่อนหน้านี้เครื่องแต่งกายก็ไม่ได้แตกต่างจากนี้นัก ก็คือสมัยราชวงศ์โจว อันประกอบด้วยยุคชุนชิวและจ้านกว๋อด้วย ในสมัยสามก๊ก (ปลายราชวงศ์ฮั่น) ก็แต่งกายคล้ายๆแบบนี้ค่ะ

แก้คำผิดค่ะ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:00:17 ]
ความเห็นที่ 23

ภาพจากสามก๊ก อาจจะไม่ชัด แต่จะเห็นภาพรวมของชุดสตรีสมัยราชวงศ์ฮั่น

ก็เห็นกี่เรื่องก็เสื้อยาวทับกัน ป้ายไปมาหลายๆทบตรงชายกระโปรงอย่างนี้แหละ

จากคุณ : ฮิวเยียก [20 ธ.ค. 55 00:02:16 ]
ความเห็นที่ 24

ยุคที่จีนพัฒนาเครื่องแต่งกายได้งดงามที่สุด เห็นจะไม่พ้นราชวงศ์ถัง เครื่องแต่งกายสตรีจะสวยและเซ็กซี่มากๆเลยค่ะ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:03:14 ]
ความเห็นที่ 25

ภาพหลิวอี้เฟย จากบทสตรียุคราชวงศ์ฮั่น

ชุดนี้คงไม่มีใครมาหาว่าเหมือนชุดของท่านแม่ของอิคคิวซังอีกนะ

จากคุณ : ฮิวเยียก [20 ธ.ค. 55 00:03:59 ]
ความเห็นที่ 26

เมื่อกี๊ข้ามยุคราชวงศ์เว่ยจิ้น และราชวงศ์เหนือใต้ไปค่ะ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:05:59 ]
ความเห็นที่ 27

ส่วนเครื่องแต่งกายสมัยราชวงศ์ซ่ง (เปาบุ้นจิ้น ขุนศึกตระกูลหยาง ก๋วยเจ๋ง เอี้ยก้วย) เครื่องแต่งกายจะกลับมามิดชิดอีกครั้ง หลังจากที่โชว์ความเซ็กซี่กันไปหลายร้อยปี

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:08:57 ]
ความเห็นที่ 28

แล้วก็เข้าสู่ยุคราชวงศ์หยวน ที่ปกครองโดยพวกมองโกล เครื่องแต่งกายก็เลยไปทางมองโกลค่ะ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:10:19 ]
ความเห็นที่ 29

หลังจากนั้นจูหยวนจางก็กอบกู้แผ่นดินได้คืนมา เกิดราชวงศ์หมิง สังเกตเครื่องแต่งกายดีๆนะคะว่า คุ้นๆกันหรือเปล่า เกาหลีได้อิทธิพลจีนยุคราชวงศ์หมิงไปมากทีเดียวค่ะ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:12:39 ]
ความเห็นที่ 30

แถมหนุ่มขุนนางราชวงศ์หมิงอีกสักภาพ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:13:51 ]
ความเห็นที่ 31

จากนั้นก็เข้าสู่ราชวงศ์สุดท้ายคือราชวงศ์ชิง คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วนะคะ โดยเฉพาะทรงผมครึ่งหัวของฝ่ายชาย

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:15:52 ]
ความเห็นที่ 32

สุดท้ายก็กี่ชุดกี่เพ้า ชุดจีนสมัยใหม่ค่ะ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:17:32 ]
ความเห็นที่ 33

ที่เอาภาพมาให้ดูคือแค่ตัวอย่างเด่นๆของแต่ละยุคนะคะ เพราะจริงๆแล้ว แต่ละราชวงศ์จะมีเอกลักษณ์และรูปแบบแตกต่างยิบย่อยเยอะมาก เอาไว้ถ้าใครสนใจ จะหามาให้ชมกันค่ะ

ส่วนเรื่องที่บอกว่า หนังพีเรียดฮ่องกง ไต้หวัน ชอบเลียนแบบชุดเกาหลี อันนี้ขอบอกว่าไม่จริงอะค่ะ เพราะเรานี่แหละชอบดูหนังจีนพีเรียดมาก แล้วก็ชอบดูเครื่องแต่งกายตัวละครว่าทำสมจริงตามยุคสมัยหรือดัดแปลงไปแบบไหนตลอด

แต่ถ้าหนังจีนสมัยใหม่ ก็แต่งแนวสาวเกาหลี ญี่ปุ่นเยอะนะคะ อิอิ

ปล.แถมภาพเครื่องแต่งกายสาวสมัยหมิง เราชอบเป็นการส่วนตัวมากๆ เรียกเครื่องแต่งกายชนิดนี้ว่า "สุ่ยเถียนอี" หมายถึง "ชุดนาน้ำ" เป็นชุดที่เลียนแบบลวดลายของท้องนาค่ะ สวยเนาะ

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:22:20 ]
ความเห็นที่ 34

อ้าว ลืมรูป

"สุ่ยเถียนอี" หมายถึง "ชุดนาน้ำ"

จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) [20 ธ.ค. 55 00:23:15 ]
ความเห็นที่ 35

ชอบกระทู้นี้ครับได้ความรู้เยอะมาก ขอบคุณจขกท. ,องค์หญิงหวนจู ,คุณฮิวเยียกและคุณปิรันย่าน้อย สำหรับความรู้และสาระดีๆครับ

จากคุณ : eitakung36 [20 ธ.ค. 55 01:32:49 ]
ความเห็นที่ 36

ส่วนใหญ่หนังจีนสมัยก่อนที่เราดู ไม่ใช่หนังจีนจากจีนแผ่นดินใหญ่นะคะ แต่เป็นหนังจีนจาก "ฮ่องกง" พูดด้วยภาษากวางตุ้ง (Cantonese) ซึ่งเป็นภาษาหลักของชาวฮ่องกง ที่อพยพมาจากเมืองกวางเจา (หนีคอมมิวนิสต์มา) แต่ปัจจุบัน หลังจากอังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีนแล้ว ภาษาในละครฮ่องกงสมัยนี้มักใช้ภาษาจีนกลาง (Mandarin)

พวกคำว่า ใต้เท้า ฮูหยิน ฮ่องเต้ ฮองเฮา ไทเฮา หมื่นปีหมื่นๆปี (จริงๆคือล้านปีนะ แต่ว่าพอแปลเป็นอังกฤษและไทยบอกว่าหมื่น กวางตุ้งบอก หมั่นซอย หมั่นซอย หมั่นหมั่นซอย) ฯลฯ เป็นภาษาจีนสำเนียงกวางตุ้งทั้งนั้น คนจีนกวางตุ้ง จีนแคระ ใครดูซับคงพอฟังออกบ้าง

คิดถึงหนังฮ่องกงตอนเด็กๆมาก พวกปราบผี ที่กระโดดไปกระโดมาทั้งเรื่อง ตอนนี้กลับมานั่งดูใน youtube ฟังภาษากวางตุ้งแล้วรู้สึกแปลกใจที่หลายๆคำ คนไทยใช้คำเดียวกับเค้าเลย

คีม = คีม (คีมที่ใช้หนีบ)
จาม = จาม (ฟันต้นไม้)
ซีอิ๋ว = ซีอิ๋ว
เลข 3 4 5 6 7 8 9 10 11 20 21 อะไรหมือนหมด แต่ 1 เค้าเรียก ยัด 2 เรียก ยี่
ร้อย พัน หมื่น เหมือนหมด
ตั่ง = โต๊ะ (โต๊ะตั่ง ตู้ตั่ง ตั่งเตียง)
มู้ = หมู
ไก้ = ไก่
หว่อง = ราชวงศ์ น่าจะเทียบกับได้กับ วัง

เป็นต้น ตอนนี้เลยกลายเป็นอยากเรียนภาษากวางตุ้ง เพราะว่าภาษาไทยเอาคำพวกนี้มาใช้เยอะมาก ถ้าเรียนหรือดูหนังฮ่องกงบ่อยๆ คงจะพอเข้าใจอะไรได้มากขึ้นอีกเยอะ ^^

ป.ล. คำที่มาเทียบให้ดู เราเทียบเอง ที่เข้าใจเองจากการคุยกับคนที่พูดกวางตุ้ง ไม่ได้เอามาจากตำรานะคะ ใครสนใจค้นลองไปหาตำราดูค่ะ เพราะอิฉันอาจให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนทางหลักภาษาก็ได้

(มาแก้คำผิด)

จากคุณ : เมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยวอีกคะ [20 ธ.ค. 55 10:34:55 ]
ความเห็นที่ 37

ขอบคุณค่ะ เพิ่มเติมได้อีกนะคะ

จากคุณ : น้ำค้างเเก้ว [20 ธ.ค. 55 15:27:35 ]
ความเห็นที่ 38

เนื้อเรื่องยังคล้ายเกาหลี

จากคุณ : loveshishi (loveshishi) [25 ธ.ค. 55 22:16:30 ]