จากรีวิวครั้งก่อนที่ผมได้ไปหลงสุสาน แถวหินกอง สระบุรี  ก็คิดว่าคงพ้นวาระแบบนี้แล้ว
แต่เหมือนครั้งนี้ มันมีเหตุผลที่ทำให้ได้เยือนดินแดนย่ำค่ำอีกแล้ว

แทนที่กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ตั้งใจจะเขียนรีวิวไปเที่ยวประเทศกัมพูชาแบบทุรกันดาร แบบจัดเต็มซักที
กลับต้องมาเล่าเรื่องแบบนี้อีกแล้ว  (รีวิวเที่ยวแบบเต็มๆกำลังจัดทำครับ)
ทำไมดวงผมถึงสมพงษ์กับเรื่องแบบนี้จังแหะ

คำเตือน** ภาพบางภาพ ขนาดผมเป็นคนไม่กลัวผี ยังเสียวสันหลังขณะพิมพ์เลย
ถ้าอยากอ่าน แนะนำให้อ่านตอนกลางวัน หรือในที่ชุมชนนะครับ                                                                                                                                                                                      

                                                                                 
สำหรับภาพนี้ เป็นรูปปั้นเด็กนักเรียนหน้าโรงเรียนเปยทม ถิ่นทุรกันดาร กัมพูชา
เห็นว่าสวยดี เลยเก็บภาพมาให้ชม      

จขกท ได้ใช้กล้อง 2 ตัวในการถ่ายครับ คือกล้องประจำและกล้องมือถือ(ที่ไปถ่ายสุสานนั่นละครับ)

เนื่องจากตัวผมเองมีธุระที่ต้องไปประเทศกัมพูชา กับครอบครัว โดยไปหาคนรู้จักที่หมู่บ้านเปยทม จังหวัดเปยแวง
ดูจากแผนที่ จะห่างจากตัวพนมเปญมากพอสมควร

จุดวงกลมแดง คือตำแหน่งที่ผมอยู่ครับ

ขยายเข้ามาอีกนิด จะเห็นว่า หมู่บ้านที่ผมอยู่นั้น ยังพอมีบ้านคนให้เห็นบ้าง แต่ห่างไกลความเจริญสุดสุด

ภาพนี้คือภาพบรรยากาศของหมู่บ้าน เท่าที่ได้พูดคุยกับคนที่นี่ ทราบได้ว่า เมื่อก่อนหมู่บ้านนี้ เคยถูกป๊อด (เขมรแดง) ฆ่าเกือบยกหมู่บ้านมาแล้ว ฉะนั้นคนที่นี่จะค่อนข้างกลัวโขมด(ผี) มากๆเช่นกัน

หมู่บ้านนี้ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีประปา มืดเมื่อไหร่ หายนะเมื่อนั้น

ถนนที่นี่ เป็นเหมือนทรายทะเล คือเดินที เท้าแทบจมดิน ฝุ่นตลบสุดๆ

พอตกเย็น ก็ขอให้เจ้าถิ่นพาเดินรอบๆพื้นที่ ซึ่งใกล้ๆบ้าน มีโรงเรียนประถมอยู่ จึงเดินตามเพื่อไปดูโรงเรียนของเด็กเขมรซะหน่อยสิ

มีแปลงปลูกผัก อาคารเรียนเก่าๆ เป็นวิถีชาวบ้านจริงๆ

นี่คือบรรยากาศภายในห้องเรียนครับ แว่บแรกที่เดินเข้าไปถ่ายนั้น มันทะมึน เครียดๆยังไงไม่รู้

เอาละ เริ่มจะมืดแล้ว เตรียมตัวเดินกลับบ้านดีกว่า เพราะถ้ามืดแล้วจะลำบากละ

ช่วงเวลาตะวันชิงพลบอีกแล้ว

เดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะกลับบ้าน

หันซ้ายเหลือไปเจอวัดเขมรโบราณแห่งนึง
ด้วยที่ว่ามันยังไม่มืดมาก จึงเดินเข้าไปถ่ายรูปศาลาสักหน่อย

บรรยากาศก็เหมือนวัดทั่วไป แต่ศาลาที่เห็นนี้ เก่ามาก มันแปลกๆแหะ

อันนี้น่าจะเป็นกุฎิสงฆ์ร้าง เพราะมันผุๆพังๆ
ตอนที่ถ่าย เหมือนมีใครแอบมองอยู่ในบ้าน
(ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้กลัวอะไรมาก)

เอาละ เดินกลับดีกว่า มืดแล้ว เจ้าถิ่นก็ตะโกนเรียก ให้รีบๆเดินกลับบ้าน
เพราะที่บ้านกำลังรอกินข้าวพร้อมกัน แล้วพอมืดๆมันจะมองข้าวไม่ค่อยเห็น

เดินกลับก็ถ่ายรูปติดไม้ติดมือเป็นบรรยากาศครับ

โอเค ณ.เวลานั้น คิดว่าคงจบแล้ว หมดวันแล้ว กลับไปกินข้าวดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่เที่ยวใหม่


แต่....เรื่องราวมันต่อจากนี้ครับ

กลับมาถึงบ้าน อย่างที่คิด มืดจริงๆด้วย มองไม่เห็นอะไรเลย
กับข้าวก็มองไม่ค่อยเห็น จริงๆแล้วมันมีไฟที่ชาร์ตมาจากแบตเตอรี่ครับ แต่ดันติดไว้ไกลไปหน่อย
ทุกอย่างมันสลัวๆ
555 ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนึง


เสร็จแล้ว ถ่ายรูปร่วมกันหน่อย
รูปนี้ไม่ได้เปิดแฟลชครับ

เห็นไหมว่า มันมืดจริงๆ

พอกินข้าวเสร็จ เจ้าถิ่นถามว่า อีกฝั่งนึงของวัด วันนี้เค้ามีหนังกางแปลงมาฉาย
อยากไปดูไหม จะพาไปดู เค้ามีขนมขายด้วย

ด้วยความที่เป็นคนชอบอะไรแปลกๆอยู่แล้ว จึงรีบตบปากรับคำ โดยที่ไม่ได้ฉุกคิดว่า

"สถานที่นั้นคือ อีกฟากนึงของวัด "

ขณะที่ออกเดินทาง เจ้าถิ่นถามว่า จะเดินผ่านวัด หรือว่าผ่านโรงเรียน(ที่ตอนเย็นไปมา)
ในใจก็คิดว่า เอาน่า สุสานก็เพิ่งหลงมา เราแกร่งขึ้นแล้ว ก็เลยตอบไปว่า " ขาไปเข้าวัด แล้วขากลับเข้าโรงเรียน "
เจ้าถิ่นถามว่าแน่ใจนะ?
ไม่รู้ด้วยเหตุบังเอิญใด ที่ทำให้ผมมาพบโชคชะตาแบบนี้อีก ฉะนั้นทำตามเหตุจูงใจนี้ซะเลย



ผมจะให้ดูแผนที่ GPS คร่าวๆ นะครับ
จุดวงกลมแดงๆ คือที่ผมอยู่
จุดฟ้า คือ จุดฉายหนังกางแปลง
เส้นม่วง คือการเดินทางของผม

ไปกันสามคน และมันเหมือนกับว่าทั้งหมู่บ้าน จะมีแค่พวกผมนี่ละ ที่ไปดูหนังกัน
ถ่ายให้เห็นว่า มันมืดมากๆ โดยมีเพียงแสงจากไฟฉายกระบอกเดียว

เปิดแพลชสักหน่อย จะเห็นได้ว่า มันเปลี่ยวจริงๆจังๆ

มาถึงหน้าวัดละ จำศาลาที่ถ่ายเมื่อตอนเย็นได้ไหมครับ
ตอนนี้มันมีสภาพแบบนี้แล้ว

นี่เป็นอีกมุมนึงครับ บรรยากาศมัน... อืม...

ภาพนี้คือ เมรุ ที่ใช้ประกอบในการพิธีฌาปนกิจศพมาหลายต่อหลายแล้วครับ


** เจ้าถิ่นก็ทักว่า ถอดรูปเวลากลางคืนแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย
แต่ผมคิดว่า กรณีนี้ ผมขอถ่ายรูปเถอะนะ
อย่างน้อยที่สุด หากเกิดอะไรแปลกๆขึ้น ภาพนี้จะบันทึกมันไว้
ซึ่งเหตุการณ์ซ้ำๆแบบนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับผมบ่อยๆ

นี่คือภาพเมรุที่เก็บอัฑฐิ

ขอบอกว่า บรรยากาศในตอนนั้น วังเวง ชอบกล
จากอากาศร้อนๆอบอ้าว มันกลับเย็นยะเยือก

ช่วงที่กำลังเปิดแฟลชถ่ายนั้น
อยู่ๆลมมาจากไหนก็ไม่รู้ พัดซะฝุ่นกระจายเลย

ภาพนี้ เหมือนจะเป็นเจดีย์ หรือที่เก็บอัฑฐิ
ตอนที่่ถ่ายก็ไม่ได้สังเกตุอะไร
พอกลับมาดูรูป กลับมาแสงยาวๆวิ่งบริเวณยอดเจดีย์
ทั้งๆที่มันมืดมากๆ

โอเค  รูปนี้แค่บังเอิญมั้ง

ภาพนี้สิครับ แสงยาวๆ วิ่งแถวๆยอดเจดีย์เมรุ อันนี้ชัดมาก

ภาพพวกนี้ ผมมาเปิดดูทีหลังในตอนเช้า
คนที่บ้านและชาวบ้านละแวกนั้น เมื่อเห็นรูปนี้ ร้องกันเสียงหลงเลย

จริงครับ ภาพนี้น่ากลัวมาก เพราะดูรุปไป นึกถึงบรรยากาศไปด้วย

เอาละออกมาหน้าวัดแล้วครับ
กว่าจะออกจากวัดมาได้ เล่นเอาหายใจแทบไม่ออกเลย

ภาพหน้าวัดครับ

มาถึงที่ฉายหนังกางแปลงแล้ว   เย้ๆ!!!!!!!!!!!

แต่...เฮ้ย.... ไม่เหมือนอย่างที่คิด
ขนมก็ไม่มีมาขาย
บรรยากาศก็มืดๆ
ผู้คนก็ดูกันเงียบๆ

มันแปลกกว่าหนังกางแปลงบ้านเรามากๆ

มีส่ง Sms ในหนังด้วยแหะ 555+

แต่บรรยากาศมันไม่เหมือนบ้านเราจริงๆ

ดูได้สัก 10 นาที เริ่มเบื่อๆแล้ว

กลับบ้านดีกว่า
ขากลับผ่านทางโรงเรียน

มาเจอรูปปั้นเด็กนักเรียนตัวเดิม
แต่ทำไมมันหลอนกว่าเดิมแหะ

รูปนี้เป็นประตูโรงเรียนครับ
ที่ฐานเสามีรายชื่อเป็นภาษาเขมรเต็มเลย
ไม่รู้ว่าเขียนว่าอะไรบ้าง

เข้ามาในโรงเรียนที่แสนมืดมิด

เปิดแฟลชหน่อยสิ ไม่อยากถ่ายติดมืดๆ มันมองไม่เห็นอะไร

บรรยากาศกลางวันและกลางคืน มันต่างกันแหะ
ถ่ายติดละ อาคารนี้ เป็นอาคารเรียนเก่า เลิกใช้มาหลายสิบปีแล้ว

แปลงผักของนักเรียนในตอนเช้า
มันกลับเปลี่ยนเป็นแปลงผักของสิ่งลี้ลับในตอนกลางคืนเลย

เปิดแฟลชไปที่อาคารเรียนสักหน่อยสิ
แฟลชเข้าไปถึงยากจริงๆ แต่ก็พอเห็นอาคารเรียนบางๆ

กลับมาถึงบ้านสักที ก็เริ่มอาบน้ำและเตรียมเข้านอน

บ้านมืดมากๆ ไม่มีไฟแสงสว่างเลยสักนิด

นี่คือห้องนอนของผม
ถ่ายตอนนอนและแหงนขึ้นไปทางขื่อบ้าน
นี่เราต้องมาเห็นอะไรแบบนี้อีก 4วันหรือนี่ โอ้ว.....

คุณเคยประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่?
ปวดขี้ในยามกลางคืน วิกาล ทั้งๆที่เพิ่งผ่านสถานการณ์เลวร้ายมา

ครับ ผมเลือกที่จะลงไปขี้ครับ

เดินลงบันไดบ้าน
ก็เหมือนเดิมครับ คือมืดสนิท ไม่เห็นอะไรเลย เอาแสงไฟจากมือถือนี่ละ เป็นตัวช่วยนำทางให้เรา


และแล้วผมก็มาถึงห้องน้ำ แดนสวรรค์ของผมมันกลาบเป็นแดนทุกขลาภของผมไปในทันที
ที่ผมเห็นสภาพนี้


** ตอนที่ขี้อยู่นั้น เหมือนว่ามีเสียงอะไรเดินรอบห้องน้ำตลอดเวลา  เพราะรอบๆห้องน้ำเป็นป่าไผ่ เสียงเหยียบกิ่งไม้ ใบไม้ เสียงมันชัดเจนมาก
ก็ทักตลอดว่า เป็นหมาที่เลี้ยงไว้ 3ตัว คงตามผมมาแถวห้องน้ำด้วย

พอออกจากห้องน้ำ กำลังจะเดินขึ้นบันไดเข้าห้องนอน สิ่งที่ผมเห็นก็คือ

"เจ้าหมานอนหลับปุ๋ยที่หน้าบันไดทั้ง 3 ตัวเลย "

ขณะที่ทำรีวิวอยู่นั้น ตอนนี้ก็เกือบๆ ตีสองแล้ว
คิดว่าจะเอามาลงเลยดีไหม  หรือว่า จะลงตอนเช้าดี
เพราะกลัวว่ากระทู้ผมจะตกเร็ว แล้วทำให้เพื่อนๆไม่ได้อ่านกันครับ


สรุปว่า ลงให้อ่านเลยละกันครับ
เพื่อนๆที่ตื่นเช้าๆ จะได้อ่านกัน



***เนื่องจากไปเที่ยวกัมพูชาประมาณ 10วัน
ถ่ายรูปไปประมาณ 2,500 กว่ารูป
มันทำให้ต้องเขียนรีวิวแบบยาวนานเลยอะครับ
แต่พยายามจะเขียนให้มันตลก สนุกสนานละกันนะครับ
แถมได้ความรู้ในการมาเที่ยวครั้งนี้ด้วย
เพราะผมมาแบบ Backpack ครับ  ค่ำไหนนอนนั่น ตั้งแต่ปอยเปต เสียมเรียบ กัมพงทม พนมเปญ เปยแวง จนมาถึงเปยทม
แต่นั่งเครื่องบินกลับครับ แหะแหะแหะ



** ภาพนี้ ตอนที่เลี้ยวเข้าหมู่บ้านใกม่ เจอพายุหมุนเล็กๆ เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเลย

จนตอนนี้มานั่งนึกในใจ  นี่ตรูนำเอาสิ่งอาเพศเข้ามาหมู่บ้านหรือเปล่าฟร่ะเนี้ัยะ

#35

ปาดขวามาตอบค่ะ

น้องหมาสามตัว มันอาจจะเพิ่งวิ่งมาทำท่าหลับตอนที่คุณเจ้าของกระทู้กำลังเปิดประตูก็ได้นะคะ
(มองโลกสวยสุดๆ)

ป.ล.คืนนี้เปิดไฟนอนค่ะ ๕๕๕ ไม่ได้กลัวนะ แค่เกรงใจความมืด

*แก้คำผิด

มองโลกสวยบ้าง

อยากบอก จขกท ว่า
อาจเป็น คนที่นอนบ้านเดียวกับจขกท หรือนอนใกล้ๆ (ถ้ามี)
ลงมาจะเข้าห้องน้ำเหมือนกัน แต่ จขกท ไม่ออกเสียที
เขาเลยไปปล่อยทุ่ง ที่อื่นแทน

ชอบรีวิวสไตล์นี้ของจขกท.อ่านไปจินตนาการตามไป ขำไป กลัวไป ผมอ่านติดต่อกัน2กระทู้ บอกตรงๆอ่านๆปิดๆ ไม่ไหวที่จะอ่านทีเดียว อ่านๆแล้วขนลุกกลัวน้ำตาจะไหล T^T  แต่แล้วก็มาหลุดขำเรื่องห้องน้ำ ถ้ามีรีวิวสไตล์นี้อีกผมจะติดตามนะครับ

บรื๋ออออ บรรยากาศดูน่ากลัว และวังเวงจริงๆด้วย >__<

ขอสารภาพค่ะว่า

อ่านอย่างเดียว ส่วนรูป ดูลวกๆ เนื่องจาก ค่อนข้างเป็นคนเกรงใจสิ่งลึกลับค่ะ แหะๆ

โอ้วววว บรรยายได้ขนลุกขนชันเลยค่ะ ><

อยากไปเที่ยวแบบแบ็คแพ๊คเหมือนกันค่ะ แต่ขอเป็นสถานที่สวยๆงามๆแทนนะคะ

เค้ากลัววววว ><

ถึง คห#39

อย่าให้ผมต้องรีวิวเรื่องประมาณอีกเลยครับ  มันสะเทือนจิตใจมากๆเลย

ที่เขมรไม่มีกระจกให้ส่องเลยครับ
พอกลับมาไทย ได้มีโอกาสส่องกระจกเท่านั้น   " นี่ตรู เหมือนแก่ขึ้นมา 10 ปีเลยแหะ แล้วทำไมผมหงอกเยอะจังหว่า "

555

ครั้งที่แล้วเจอสุสานจีน
ครั้งนี้เจอสุสานเขมร
ครั้งหน้าจะเจอสุสานอะไรหว่า??

บรรยากาศเหมือนหมู่บ้านในชนบทไทยเมื่อสมัย 30 ปีที่แล้ว (บ้านเราเองแหละ อิอิ)
ถนนดินแดงๆ ไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านก็เป็นบ้านไม้ หลังคาสังกะสีเปลือยๆ ไม่มีฝ้าเพดานใดๆ
ค่ำลงก็จุดตะเกียง อ่านหนังสือทำการบ้านกับตะเกียงนี่แหละ
ค่ำๆบางวันก็เดินไปดูหนังกลางแปลงที่วัด เดินไกลเป็นกิโลเชียวล่ะ(ทำไมหนังกลางแปลงชอบมาฉายในวัดก้ไม่รู้)
สิ่งที่น่ากลัวคือความมืดค่ะ มันทำให้จินตนาการบรรเจิดมาก ยิ่งวันไหนดูหนังผีมา เรากับพี่ๆแทบจะเดินกอดกันกลมกลับบ้านเลยทีเดียว

โห อยู่คนเดียว เปิดมาดูตอนตีสาม มันช่างได้อารมณ์มากกๆๆๆๆ

ขออนุญาตแวะมาอ่านต่อตอนเช้านะคะ ในห้อนนอนปิดไฟมืดแล้ว มีแค่แสงสว่างจากหน้าจอไอโฟน จินตนาการทำงานเต็มที่ บรื๊อส์!!

มาลงชื่ออ่าน อิอิ
เรากลัวความมืดจัง แถวบ้านนอกที่อยู่ ไฟดับที มันมื้ดดดดดมืด

เคยอ่านกระทู้จขกท.ที่ห้องบลู

ว่าแต่ มาโพสห้องนี้นี่ท่าจะโดนย้ายไปนอกเรื่องเร็วๆนี้มั้ง อิอิ

ที่ผมสามารถรีวิวในห้องนี้ได้ น่าจะเพราะผมเชื่อมเนื้อหาไปที่รายการเดอะช็อคได้อ่ะครับ เพราะกระทู้ก่อนก็ขอฝากลิงค์ไว้ด้วยอ่ะครับ

ยังไงอย่าย้ายเลยนะครับ

ครั้งต่อไป ผมตั้งใจว่าจะไม่แวะเวียนเข้าไปในสถานที่แบบนี้แล้ว

ไม่รู้ว่ามีอะไรตามผมมาบ้างเนี้ยยยยย

#49 อ๋อ มิน่า โยงไปเดอะ ช๊อคนี่เอง

ว่าแต่ ไม่สนใจไปเดินสุสานอื่นต่ออีกหน่อยเหรอ ฮ่าๆๆ

ตั้งใจว่าจะไม่เข้าไป แต่อาจจะบังเอิญได้เข้าไปอีกนะเนี่ย ><"

คคห 23

คิดในแง่ดี ผมว่าจขกท.เจอ rod เข้าแล้วละครับ search คำว่า flying rod

http://malaysian-ghost-research.org/video/example-of-flying-rod-the-insect-supercharged/
http://en.wikipedia.org/wiki/Rod_%28optics%29

ตอนเห็นภาพนั้นเราก็แอบคิดเหมือนคห.51 อะ

เห็นแล้วคิดถึง ROD

ขอบคุณ คห#51 ทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย
ว่าแต่ตัว flying rod มันคือตัวไหนอ่ะครับ

ตัวหน้ามันเหมือนในรูปตัวอย่างเลยอ่ะครับ
แต่ตัวหลังมีแสงด้วย


ปกติไม่เชื่อเรื่องผีๆอ่ะครับ แต่เริ่มกลับชอบเรื่องแบบนี้แล้วแหะ

คราวหลังไปเดินอีกนะครับ ชอบดูบรรยากาศแบบนี้ 55

มาส่องกระทู้^^

อ่านแล้วทั้งขำ ทั้งกลัว

ทำไมแต่ละรูปมันมืดไปหมด น่ากลัว

เดี๋ยวดูในคอมอีกทีนะ

อ่านอย่างเดียวค่ะ

รูปไม่กล้าดู ฮ่าๆ

จขกท เจอแบบนี้บ่อยนะคะ (แอบอ่านมาตั้งแต่ทู้ที่แล้ว)

มีใครเห็นอะไรแปลกๆใน คห.21 บ้างมั๊ยครับ?

มืดไปหมด

สยองตั้งแต่รูปปั้นเด็กแล้ว

น่ากลัว

ภาพในคห.17-19 มีแสงเป็นเส้น ๆ ทุกรูปเลย บรื๋อออ

คห.58 ไม่รู้ว่าเห็นเหมือนกันไหม แต่ฉันเห็นทางซ้ายสุดของภาพ เหมือนหน้าคน  2 คนอ่ะ //ขนลุก

#23 มันคือrodค่ะ กระทู้ห้องหว้ากอก็มี
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/08/X6854903/X6854903.html
ส่วนเส้นยาวๆ ก็หลักการเดียวกัน กล้องมันชัตเตอร์ต่ำด้วย ลองถ่ายรูป
ตอนขับรถ ที่ฝนกำลังตก ถ่ายตรงที่ปัดน้ำฝนก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ หลักการคล้ายกัน
ลมหมุน เจอตั้งแต่ตอนกลางวัน กลางคืนจะมีอีกก็ไม่แปลกหรอกค่ะ

จริงๆจะถ่ายมา เพื่อประกอบเรื่องราวสนุกๆก็ไม่ได้ว่าอะไรอ่ะค่ะ
แต่ถ้ากับคนที่ไม่รู้ อย่างชาวบ้านแถวนั้น เปิดมาเจอเส้นๆอย่างนั้น
ไม่รู้ว่ามันคืออะไรอุปทานว่าเป็นสิ่งลี้ลับ ก็คงฝังหัวพวกเค้าไปอีกนาน......

ภาพประกอบจากกระทู้ข้างบน
ค่อยสมกับเป็นเป็นกระทู้ห้องเฉลิมไทยซะหน่อย
เพราะถ่ายติดในหนัง แบบกลางวันแสกๆ

ขนาดเราอ่านตอนบ่าย ยังตื่นเต้นตามด้วยเลย 2กระทู้ละ จขกท ที่ทำให้หวาดกลัวไปพร้อมๆๆกัน

ชอบรีวิวมากสนุกดี

ดูแตละภาพแล้วน่ากลัวยังไงชอบกล เหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ แบบบอกไม่ถูก ยิ่งเป็นบรรยากาศตอนค่ำแล้ว ยิ่งวังเวงเข้าไปอีก
ขอบคุณนะคะ น่าสนใจทีเดียว

ภาพเปิดกะทู้
ตอนแรกเรามองเป็นลาง
พอมองจ้องไปสักพัก
มันชัดขึ้น เสียววูบ
ว่าแล้วเลื่อนขึ้นไปดูใหม่ นั่งไกลกว่าเดิม

แค่เห็นรูปปั้นก็ขนหัวตั้งแล้ว

ถึงเวลาของช่วง"ล่า ท้า ผี"

จขกท ควรไปเอาดีด้านเป็นพิธีกรภาคสนามของ คน อวด ผี นะ เพราะคุณทำได้หลอนมากกกกกกกกกกกกกกก

-มันมืดเกินจนไม่เห็นอะไร เลยไม่น่ากลัวฮับ อิอิ
..เจ้าท่อนแสงนั่น เกิดแบบเดียวกับเวลาถ่ายติดจตุคาม สมัยก่อนเลยฮับ อิอิ บางทีแค่แมลงบินผ่านก้เกิดลำแสงยาวๆได้แล้ว

-ช่วยปรับแสงให้ ดูแล้วหลอนจริงๆ..
..ห้องส้วม

-รูปปั้นเด็กนักเรียน

-เหมือนจะเป็นเจดีย์

-ขื่อบ้าน
..ปกติคนที่นอนบ้านโบราณแบบนี้เค้าจะนอนกางมุ้งกัน นอนแล้วไม่น่ากลัวเท่าไหร่ อิอิ