สวัสดีค่ะ ช่วยให้คำปรึกษาหน่อยค่ะ

เราลาคลอด 3 เดือน พอถึงเวลามาทำงาน เราไม่มาทำงาน เนื่องจากไม่มีคนเลี้ยงลูก โทรมาแจ้งฝ่ายจัดซื้อ (เพราะไม่มีฝ่ายบุุคคล) แต่ข้อตกลงของเราคือขอให้บริษัทส่งเรื่องไปประกันสังคมว่าเลิกจ้าง บริษัทก็ทำให้ เป็นเลิกจ้าง

เราก็ไปรายงานตัวที่กรมแรงงานเป็นกรณีเลิกจ้าง แต่พอถึงเวลาเงินไม่เข้า จึงโทรไปถามฝ่ายประโยชน์ทดแทน แจ้งว่าเราขาดหนังสือเลิกจ้าง

เราก็โทรแจ้งน้องจัดซื้อให้ออก หนังสือเลิกจ้างให้ ในเอกสารเลิกจ้าง เรื่อง....การเลิกจ้าง (จริง) แต่เนื้อหานั้นแจ้งว่าเราลาคลอด แล้วไม่มาทำงาน โทรมาแจ้งให้ฝ่ายบุคคลออกหนังสือเลิกจ้าง กลายเป็นว่าเราลาออกไปเอง ไม่เกี่ยวกับบริษัท (เนื่องจากฝ่ายบุคคลไม่มี การออกเอกสารจึงอยากออกอย่างไรก็ได้ แถมเจ้าของบริษัทก็เซ็นอีก 555)

สุดท้ายตอนนี้เราไม่ได้เงิน แล้วประกันสังคมก็ไม่จ่ายเงิน ทำอย่างไรกับกรณ๊นี้ดีคะ ตอนนี้เราโทรกับไปให้บริษัทออกหนังสือใหม่ เป็นเลิกจ้างที่ถูกต้อง ไม่รู้ว่าจะออกให้รึป่าว เพราะตอนนี้ทำเรื่องเป็นเลิกจ้างไปหมดแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

ผมว่าคุณเข้าใจผิดใหญ่แล้วนะครับ

ประการแรกเข้าใจว่าคุณคงขอให้ทางบริษัทแจ้งเป็นเลิกจ้าง เพื่อที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนมากกว่าการลาออกเอง แต่ผมว่า ไม่มีฝ่ายบุคคลด้อยความรู้ท่านไหนจะทำมักง่ายเช่นนั้น เพราะขืนออกหนังสือให้คุณเป็นการเลิกจ้าง ก็เท่ากับบริษัทเลิกจ้างคุณ แล้วทีนี้เงินชดเชยการเลิกจ้าง เงินบอกกล่าวล่ะครับ ดีไม่ดี คุณเอาไปฟ้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้อีก หากจะอ้างให้บริษัทเลิกจ้างเนื่องจากขาดงานตามมาตรา 119 มันต้องมีขั้นตอนมากกว่านี้อีกมากครับ

ดังนั้น ให้บริษัทแจ้งเป็นลาออกนั้นถูกต้องที่สุดแล้วครับ

ตอบได้ในมุมมองของบริษัทเค้า ไม่อยากเสียเงินค่าเลิกจ้าง จนทก มั้ง
และ จนทก หยุด งาน ไป หลังจากลาคลอด ถ้าครบ สามวันติดต่อกัน แบบนั้น
มั้งเค้าถึง เลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย

ตอบตามความเข้าใจผิดถูกรอความเห็นหลังๆครับ

ขืนใช้เหตุผลให้นายจ้างเลิกจ้างเนื่องจากละทิ้งหน้าที่ ก็ไม่มีสิทธิได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานอยู่ดีครับ เนื่องจากหลักเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยกรณีว่างงานกำหนดไว้ชัดเจนในข้อนี้

ผู้ที่ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกรณี

ทุจริตต่อหน้าที่  
กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง  
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย  
ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณีร้ายแรง  
ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร  
ประมาทเลินล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง  
ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา  


ทีนี้จะกลับไปเป็นกรณีบริษัททเลิกจ้างเอง ก็เข้าตามเนื้อหาแรกที่ผมได้กล่าวไป ว่าไหนล่ะเงินชดเชย ไหนล่ะเงินบอกกล่าว เลิกจ้างกันถูกต้องเป็นธรรมต่อลูกจ้างหรือไม่?

- ถ้าลาออกจากงาน ประกันสังคมจะจ่ายเงินให้คุณ 30 % ของเงินเดือน แต่คิดจากยอกเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน แต่คุณต้องไปขึ้นทะเบียนคนวางงานที่สำนักงานจัดหางานภายใน 30 วัน นับแต่วันลาออกมีผลนะครับ


- ถ้าถูกเลิกจ้าง โดยลูกจ้างไม่มีความผิด  ประกันสังคมจะจ่ายเงินให้คุณ 50 % ของเงินเดือน แต่คิดจากยอกเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน แต่คุณต้องไปขึ้นทะเบียนคนวางงานที่สำนักงานจัดหางานภายใน 30 วัน นับแต่วันลาออกมีผลนะครับ เช่นกันครับ

อืม.... มันพลาดตั้งแต่แรกแล้วอ่ะค่ะ เพราะเคยมีเคสที่ฝ่ายบุคคลแจ้งไปยังประักันสังคมว่า เลิกจ้าง (นาย ก.) เพราะทะเลาะกันแล้วลุกออกไปจากบริษัท (ไม่ได้ลาออก) ก็ทำขั้นตอนแบบเดียวกันคือ ติ๊กเิลิกจ้างแล้วแจ้งไปยังประกันสังคม ก็จบ..เค้าก็ไปรายงานตัวเป็นผู้ว่างงาน ก็ได้เงิน 50% (โอนเข้าบัญชี) โดยที่ประกันสังคมไม่ขอเอกสารใดๆเลย

มาถึงคิวเรา เราก็เลยขอให้ฝ่ายบุคคลทำเช่นนั้นเหมือนกัน เค้าก็ทำให้ตามที่ขอ คือติ๊กเิลิกจ้าง ส่งไปยังประกันสังคม แต่ประกันสังคมดันขอเอกสารเลิกจ้าง จึงทำให้วุ่นวายแบบนี้ค่ะ

ที่ถูกต้องคือต้องลาออกนั่นล่ะค่ะ แต่ปัญหาคือตอนนี้บริษัทก็ทำเคสเลิกจ้าง และเราก็ไปแจ้งว่าเลิกจ้างหมดแล้ว

คราวนี้จะทำอย่างไรต่อไปดีคะ คือเรากับบริษัทจบกันด้วยดี ตกลงกันว่าเลิกจ้าง เพื่อช่วยเราให้ได้สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมค่ะ .... แต่ออกหนังสือมาขัดแย้งกับการเลิกจ้างที่แจ้งกับประกันสังคมไป ค่ะ

แนะนำให้เลือกใช้วิธีลาออกครับ เพราะไม่ีต้องใช้เอกสารในการเลิกจ้างแต่อย่างใด

โดยให้ไปขึ้นทะเบียนคนวางงานที่สำนักงานจัดหางาน ภายใน 30 วัีน  (ย้ำนะครัีบว่า "สำนักงานจัดหางาน" ไม่ใช่ "สำนักงานประกันสังคม")

ของเราเลย เพิ่งเจอเข้ากับตัวเองมาหมาด ๆ ลาออกตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. ไปแจ้งว่างงานเมื่อ 14 พ.ย. ปรากฎว่านายจ้างยังไม่แจ้งออกให้ เราก็โทรไปบอกนายจ้างให้แจ้งออกให้เราซะ เค้าบอกจะทำให้ เวลาก็ล่วงเลยผ่านไป จนกระทั่งวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา  ทางประกันสังคมโทรมาหาเราบอกว่า เราแจ้งออกวันผิดรึป่าว ทำไม นายจ้างเรา แจ้งออกให้เราวันที่ 30 พ.ย. เราบอกเลยว่า เราออกจากงานวันที่ 31 ต.ค.จริง .... จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เรารู้เลย ว่า นายจ้างบางทีก็เอาเปรียบลูกจ้างเหมือนกัน ลืมแจ้ง หรือว่าทำเป็นลืมแจ้งให้ลูกจ้างก็ไม่รู้ เพราะว่าถ้าลืมแจ้งให้ลูกจ้างเกิน 15 วัน หลังจากที่ลูกจ้างลาออก นายจ้างก็ต้องมีความผิด เงินชดเชยการว่างงานของเราก็เลย ได้ช้า เลื่อนออกไปอีกเป็นเดือนเลย...นายจ้างแบบนี้ ไม่เห็นใจลูกจ้างเลย เอาเปรียบกันเห็นๆ อันนี้แค่เรื่องประกันสังคมนะครับ ของผมยังมีเรื่องกองทุนที่เงินสะสมที่ทำไว้กับบริษัทอีก เงินตั้งหลายหมื่นยังไม่ได้จนบัดนี้เลย โทรให้นายจ้างแจ้งให้แล้ว ทำเป็นลืมบ้าง ไม่ได้อยู่ในสำนักงานบ้าง ไม่มีเวลาทำให้บ้าง เฮ้อ...ก็ต้องรอกันต่อไป ถ้ามีนายจ้างแบบนี้หลายที่ ก็น่าสงสารลูกจ้างแบบเราๆอยู่นะครับ

คห.7

เงินสะสมนี้ให้ไปติดต่อและขอความช่วยเหลือจากสำนักงานสวัสดิ์การและคุมครองแรงงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ ที่บริษัทตั้งอยู่ครับ

คห.7
ผมว่า สิ่งที่บริษัททำ คือแจ้งออกไปอีก 1 เดือน มีประโยชน์กับคุณมากกว่านะครับ เพราะ
1.นายจ้างจะมีภาระ ต้องจ่ายค่าจ้างเดือน พ.ย. ไปด้วย (เอาหลักฐานที่ประกันสังคมไปเรียกค่าจ้างเดือน พ.ย. ได้เลย)
2.อายุงานคุณเพิ่มอีก 1 เดือน

ส่วนเรื่องเงินทดแทนการว่างงาน คุณก็ยังได้เหมือนเดิม  สิ่งที่คุณอาจจะไม่ได้คือไปยืนกระต่ายขาเดียวกับประกันสังคมว่าคุณออก 31 ต.ค. ซึ่งผมไม่รู้ว่า คุณจะทำอย่างนั้นไปทำไม มันได้อะไรขึ้นมาหรือ

คห. 7 เห็นด้วยกับ #9 ค่ะ ออกเดือน พ.ย. คุณก็ไปทวงเงินเดือนที่ควราจะได้สิคะ ส่วนปกส. ได้ช้าไปหน่อยแต่ก็ได้เท่าเดิม

ส่วนของ จขกท. เราว่าคุณไปแก้ไขข้อมูลเป็นลาออกดีกว่าค่ะ  การเลิกจ้างมันยุ่งยากหลายอย่าง ตอนนี้มันก็กลายเป็นความผิดของคุณไปแล้วนะเนี่ยะ

ถ้าบ.ออกหนังสือเลิกจ้างจริง คุณก็มีสิทธิ์เรียกชดเชยได้หลายอย่างเลยล่ะ เคสแรกที่คุยกันรู้เรื่องถือว่าทางบ.โชคดีไปที่ไม่เจอคนหัวหมอ