ขอความเห็นหน่อยคะ

อยากรุเหมือนกันครับ นอกจากความมั่นคงแล้ว รวยตอนแก่จิงไหม แล้ววัยรุ่นล่ะ

เราว่าเงินมันไปไวมั้งคะ เพราะพ่อเราเป็นหมอรพ.รับ แม่เราทำรัฐวิสาหกิจ ตอนนี้เงินเดือนพ่อกับแม่พอๆกันอ่ะค่ะ เหมือนสวัสดิการแม่ดีกว่าของพ่อด้วยนะ

ตอนนี้น่าจะเหลือแต่ ตลาดหลักทรัพย์ กฟผ. กฟน. กฟภ. แล้วที่ดีน่าเข้าไปทำงาน

เราว่าเงินมันไปไวมั้งคะ เพราะพ่อเราเป็นหมอรพ.รัฐ แม่เราทำรัฐวิสาหกิจ ตอนนี้เงินเดือนพ่อกับแม่พอๆกันอ่ะค่ะ เหมือนสวัสดิการแม่ดีกว่าของพ่อด้วยนะ

จริงค่ะ
สตาร์ทน้อย
แต่เงินเดือนขึ้นไว
ถ้าแก่ไป เงินเดือนเยอะ ไม่ถูกบีบออกค่ะ
เลี้ยงจนเกษียนค่ะ

แต่ถ้าคุณทำเอกชน
เงินเดือนสตาร์ทสูง
แต่พอเงินเดือนเริ่มเยอะขึ้น
อาจเสี่ยงต่อการถูกบีบออกนะค่ะ

จริงครับ แถมตอนออกได้เงินอีก

อย่างพ่อผมได้เงินบำนาญราวๆเดือนล่ะหลายหมื่นเลยทีเดียว

เป็นความคิดยุคเก่าครับ ธรรมดา หากเป็นราชการ รัฐวิสาหกิจมั่นคง แต่สมัยนี้เงินเดือนห่างกับเอกชนมาก 2-3 เท่า หากอยู่ในสาขาที่ตลาดงานต้องการ

สงสัยว่ารวยตอนแก่ดีตรงไหน ผมว่ารวยตอนหนุ่มสาวน่าจะดีกว่านะ ทำเอกชนเก็บเงินซัก 20-30 ปี เกษียรตัวเอง เอาเงินก็บมาลงทุนดีกว่า

ไม่รู้เหมือนกันค่ะ  เพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเงินเดือนน้อยอยู่ >_<

ไว้เดี๋ยวอีก 30 ปี ใกล้จะเกษียณแล้วจะมาบอกค่ะว่า รวยจริงไหม....รอก่อนนะคะ

พ่อผมทำงานรัฐวิสากิจ อยู่ ทำมา 30 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ เลย ตั้งแต่สมัยเงินเดือนพันกว่าบาท จนตอนนี้ทะลุแสน พ่อไม่ได้ทำอาชีพอื่นนอกจากนี้ (พื้นฐานครอบครัวยากจนมาก่อน) ก็มีเงินซื้อบ้านมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 หลัง
ซื้อบ้านหลังใหญ่ราคาหลายล้านให้ครอบครัวอยู่สบาย สวัสดิการมากมาย ถ้าดูจากเงินเดือนพ่อช่วงที่ผ่านมา อาจจะจริงอย่างที่ #5 ว่า ช่วงแรกๆ จะเงินเดือนน้อยพอๆ กับราชการ แต่พออายุซัก 40 แล้วเงินเดือนจะไปไวมาก

ก็มั่นคงระดับหนึ่งค่ะ ถ้าสามีภรรยาอยู่ รัฐวิสาหกิจ
โบนัสคูณ 2 ไปเลย

จริงครับ ยืนยัน

รัฐวิสาหกิจอาจเงิน start น้อย แต่ % การขึ้นเยอะครับ อย่างขอองผม มาตราฐาน 7.5 % ห่วยๆไม่เอาอ่าว 6 เก่งๆ 8-9 % แถมเพดานสูง พนักงานระดับต่ำสุด ปตรี แก่ๆ ทั่วๆไป บางคนทะลุแสนไปแล้ว สบายไหมละ

ถ้าพนักงานระดับล่างที่บรรจุรุ่นเก่าๆ (ยาม แม่บ้าน คนส่งเอกสาร 30000 กว่ากันทั้งนั้น)


ยามการไฟฟ้า ยามการท่าอากาศยาน รุ่นเก่าๆ ก็เกิน30000 กันทั้งนั้น

start อาจน้อย หมื่นนิสๆ แต่ขึ้น ปีละ 8 % ตลอดแน่นอนทุกปี จะไม่สบายได้ไง งานก็ธรรมดาไม่ได้กดดัน บีบคั้นอะไร

เอกชนถ้าไม่เก่งจริง จะมีซักกี่คน ที่เงินเดือน เป็นแสน แล้วนั่งทำงานสบายๆ ถ้าไม่โดนบีบออกก่อน ก็ทำงานจนคุ้มค่าจ้าง

ที่คุณ จขกท ถามว่าทำไม ที่เห็นๆมาก็งั้นๆ ไม่เห็นจะรวย ต้องเรียนให้ทราบก่อนว่า รัฐวิสาหกิจมีเกรดของมันครับ มีรัฐวิสาหกิจจน รัฐวิสาหกิจรวย ถ้ารัฐวิสาหกิจจนเงินก็พอๆกับข้าราชการ ถ้ารัฐวิสาหกิจกลางๆ-รวยๆ พนักงานจะเงินเดือนเยอะมาก บางแห่งพนักงานระดับปฎิบัติเงินเดือนเป็นแสนนี่ปกติ ต้องดูเกรดของรัฐวิสาหกิจนั้นๆด้วยครับ


คนเก่งอาจมองว่า เงินธรรมดา มาเยอะตอนแก่ไม่เห็นจะดีตรงไหน ก็จริงครับ แต่กับคนความสามารถธรรมดา จบ ม งั้นๆ(แบบผม) ไปทำเอกชน start 12000 ขึ้นปีละ 3-5% สวัสดิการงั้นๆ รอโดนบีบตอนแก่ ผมว่ารัฐวิสาหกิจนี่ดีมากแล้วครับ

เคยอบรมร่วมกับคนจากภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ เห็นเงินเดือนที่ระบุในใบสมัคร
จากภาคเอกชนระดับผู้จัดการจากโรงงานแถวแหลมฉบังอายุสามสิบกลางๆหน้าตาท่าทาง ดูดีมาก เงินเดือนสองแสน
จากภาครัฐวิสาหกิจระดับผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าแถวเซ็นทรัลชิดลมอายุห้าสิบต้นๆ หน้าเครียดมาก เงินเดือนแสนสอง
เล่าเพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา

คนในห้องสีลมเงินเดือนเกินแสนกันทั้งนั้น

13 เทียบแบบนั้นอาจต้องดูต้นทุนชีวิตด้วยนะคับ บางทีต้นทุนมันมาไม่เท่ากัน เปรียบแบบนี้ผมว่าไม่ค่อยแฟร์กับอีกคนเท่าไหร่ High risk + High investment = High Return

บางทีการเข้ารัฐวิสาหกิจอาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วของคนชั้นกลางธรรมดาๆคนนึง ที่ไม่ได้มีต้นทุนชีวิตสูงเหมือนเด็กสมัยใหม่บางคนก็เป็นได้นะคับ

ไม่ได้บอกว่ารัฐวิสาหกิจดี ผมก็คิดว่ามันไม่ได้ดีเลิศอะไร

แต่ผมก็เชื่อว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ พนักงานรัฐบางคนรายได้น้อยกว่าเอกชนเยอะ แต่ก็มีเวลาหลังเลิกงาน make money ได้มากกว่าเงินเดือนหลายเท่า

ในขณะที่ยังได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาล unlimite คลอบคลุมทั้งตัวเอง ครอบครัวและพ่อแม่ แบบที่ไม่มีเอกชนแห่งไหนให้ได้คับ

พวกรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนบานเบอะ คุณภาพแย่ แต่พนักงานเงินเดือนสูง

น่าจะจับแปรรูปให้หมด

โดยเฉพาะรถไฟไทย

ไม่อยากรอลุ้นตอนแก่
ขอรวยวันนี้ มั่นคงวันนี้ กับธุรกิจของตัวเองดีกว่า
ไม่อยากนอนรอความหวังว่ารัฐจะเลี้ยงดูเมื่อยามเป็นหมาแก่
เพราะเราไม่รู้ว่า ถึงตอนนั้น ระบบระบอบต่าง ๆ มันจะกลืนกินสวัสดิการเหลือเท่าไหร่

เราว่ามันต้องดูบริบทอื่นๆที่มันสูสีกันด้วยน่ะค่ะ ถึงจะเปรียบเทียบกันได้เห็นภาพบ้าง แค่เปรียบเทียบบ.ฝรั่ง บ.ญี่ปุ่น บ.ไทย โครงสร้างเงินเดือนก็ต่างกันแล้ว ในวัย40ของแต่ละคนในแต่ละบ. เชื่อว่าเงินเดือนที่ได้ก็ไม่เท่ากัน

แต่ถ้าสุ่มเลือกมาง่ายๆ คนอายุ50ในระดับปฏิบัติการ เชื่อว่ารัฐวิไม่น่อยหน้าใครแน่นอน
ลางเนื่อชอบลางยาค่ะ บางคนชอบทำงานหนัก บางคนชอบที่จะมีเวลาให้กับตัวเองบ้าง มันต้องtrade offกันเป็นเรื่องปกติค่ะ :)

การท่าอากาศยานก็ดีนะครับ โบนัสตั้ง 7.5 มั้ง

ปวส. ช่างระดับ3เริ่ม 9,xxx กินแกบ
เมื่อเป็นช่างระดับ7 รับ 8x,xxx  รวย

-เราก็ทำงานรัฐวิสาหกิจใหญ่ทั้งคู่ ตอนต้มยำกุ้งและ แฮมเบอร์เกอร์ ครอบครัวเราไม่เดือดร้อนเลย แต่เราก็ไม่รวย ในขณะที่เพื่อนเงินเดือนมากกว่าเราหลายเท่าตกงาน แต่เขาโกยไว้เยอะแล้วก็ไม่เดือดร้อนเหมือนกัน ตอนเกษียณเราก็ได้เงินก้อนใหญ่มา กินดอกผลอยู่ได้สบายๆ ค่อนข้างดี
-ลูก2คน เขาเก่งมาก ไม่ยอมเข้ารัฐ คนโตทำงานกะฝรั่งสตาร์ทเงินเดือนเท่ากะเงินเดือนเราตอนเกษียณ ทำงานมาสิบปีเก็บเงินได้เท่ากะที่เราได้ตอนเกษียณ
-คนเล็กเข้ารัฐวิสาหกิจได้ แต่ไม่ชอบ ลาออกมาเข้าบริษัทญี่ปุ่น เงินเดือนสูงเหมือนกัน
-ตัวเราไม่ค่อยหัวก้าวหน้า เราพอใจอยู่กะรัฐวิสาหกิจ เพราะมั่นคงดี แต่work hard work smart

ถ้าเอาแค่มุมมองลูกจ้างจริงๆนะ ผมมองว่าเงินเดือนปลายรัฐวิสาหกิจดีๆกับเอกชนไม่ต่างมากครับ
เพียงแต่....

เอกชนมันมีการจ่ายเงินตามความสามารถ คือถ้าเก่งจริง 30 ก็เป็นผู้บริหารแล้วเงินเดือนเป็นแสนแล้ว
แต่กลับกันมันก็มักจะตันอยู่แค่นั้น(สำหรับคนส่วนใหญ่น่ะนะ เก่งเทพคงยกเว้นให้เค้าแต่จะมีซักกี่คน)เพราะเค้ามาสุดสาย
จะไปที่ใหม่ก็หาสู้เงินเดือนลำบาก ลุงผมมีประสพการครับเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนแกซัก 40 แกออกจากรัฐวิสาหกิจ
เพื่อมาเป็นผู้บริหารบ.นึงให้เงินเดือนเกือบสองแสน แต่อยู่ไม่นานพอลูกเจ้าของเค้ากลับมา เค้าก็มาบีบลุงผมเพราะจะ
เอาลูกนั่งแทนสุดท้ายแกตกงานสมัครใหม่ด้วยเงินเดือนที่สูงไม่มีใครสู้ราคาสุดท้ายแกก็ทำกิจการส่วนตัว แต่ก็ต้องล้ม
หลายครั้งกว่าจะลุกได้ โชคดีมาที่ธุรกิจที่ลุงผมจับรุ่งตอนนี้แกเลยรวย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้ ดังนั้นไอคนที่
ได้เป็นแสนแต่เด็ก ก็จะตันเร็วถูกบีบให้ออกเร็วเช่นกัน เงินเดือนสุดท้ายไม่ได้สูงไปกว่านี้ได้เท่าไหร่


รัฐวิสาหกิจ จ่ายเงินตามอาวุธโสครับ เงินเดือนขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีก้าวกระโดด แม้ว่าคุณจะเก่งแค่ใหน ตำแหน่งอะไร
เพราะถึงเก่งคุณจะมีได้ขั้นครึ่ง บ้างแต่ก็ไม่สู้คนที่ทำงานก่อนหลายปี ผอ.เด็กๆ เงินเดือนน้อยกว่าจนท.ธุรการอาวุธโส
เป็นเรื่องปรกติ และการได้ตำแหน่งนอกจากความสามารถก็ยังต้องมีอาวุธโสถึงด้วย ดังนั้นหากคุณมอง
ว่าอายุเท่ากันยิ่งมองที่เด็กๆ คุณย่อมเห็นว่ารัฐวิสาหกิจ เงินเดือนน้อย เพราะคุณจะไม่เจอผอ.อายุ 30 ต้นๆ
(ถึงมีเงินเดือนก็ไม่ถึงใหนเพราะเลื่อนตำแหน่งเงินเดือนไม่เพิ่มนะครับวิ่งไปปีละขั้น หรือ 7-8% เรื่อยๆเอื่อยๆ)
แต่ความจริงอย่างคือพอแก่ตัวไป มันไม่หยุดนะครับ เพราะยิ่งอยู่นาน เงินเดือนยิ่งเยอะ (ไม่ได้สัมพันธ์กับตำแหน่งเลย)
ธุรการเงินเดือนเกือบแสน(แต่ผู้ช่วยผู้ว่าเงินเดือน แสนสอง) ซึ่งตัวเลขมันก็จะอยู่กลางๆ ถ้ามองที่ธุรการ
จะมีบ.เอกชนที่ใหนกล้าจ้างธุรการ เดือนเกือนแสน แต่หากมองที่ระดับผู้บริหารตัวเลข แสนสองสำหรับผู้ช่วย
ผู้ว่าการมันก็น้อยไป ดังนั้นจึงเกิดมุมมอง สองมุมครับ มุมที่มองถึงคนทั่วไปไม่ได้เก่งจัด เงินเดือนขนาดนี้เยอะมาก
(ที่สำคัญได้กันแทบทุกคน) แต่ถ้าให้คนเก่งๆมองเค้าอาจจะบอกว่าทำไมผู้ว่าเงินเดือนน้อย อายุก็เยอะกว่าจะได้
(ซึ่งถ้ามองจริงๆมันไม่ได้ขี้เหร่หรอก)

ถ้าดูรายได้เฉลี่ยของพนักงานในองค์กร ยังไงรัฐวิสาหกิจรายได้เฉลี่ยของพนักงานในองค์กรก็สูงกว่าเอกชนครับ

ถึงอยากแปรรูปให้หมดไง เงินเดือนขึ้นโดยไม่มีผลงานกันเลย

ต้องดูว่ารัฐวิสาหกิจไหนค่ะ บางที่การเมืองแทรกซึมมาก เพราะมีการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร การก่อสร้าง อุตสาหกรรม ผู้บริหารใหญ่ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดบริหาร ผู้อำนวนการ ล้วนแต่ได้รับบทบาทหน้าที่มาให้ทำในสิ่งที่เอื่อผลประโยชน์ต่อเหล่านักการเมือง โดยไม่ดูความถูกต้อง

ที่รู้เพราะทำอยู่รัฐวิสาหกิจหนึ่งแถวเมืองคาวบอยค่ะ ...

ทำไปโดยไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกสอบสวน ก็เหมือนลุ้นเวลาการเมืองเปลี่ยนขั้วและขุดคุ้ยเรื่องที่ขั้วเก่าได้ทำไว้

ที่ทำงานผมมีพี่สาวคนหนึ่งอายุ ๓๐ กว่าๆ(รัฐวิสาหกิจ)

แกต้องรักษาพ่อที่ป่วยปีละประมาณ ๓ ล้าน

แกบอกว่า ถ้าไปทำงานที่อื่น คงไม่มีปัญญาหาเงินมาดูแลรักษาพ่อเหมือนทำงานที่นี่

เล่าให้ฟังครับ คนเรามีปัญหาต่างกัน มุมมองการใช้ชีวิต สติปัญญาต่างกันครับ

บ้านเรายากจน ตอนนี้พ่อแม่ไม่มีงานทำไม่มีรายได้ จบป.4 ขายของรถเข็นข้างถนน มีหนี้เป็นแสน

เราโชคดีสอบได้การไฟฟ้าแห่งหนึ่ง พอลืมตาอ้าปากได้ ใช้หนี้ได้ มีเงินเก็บบ้าง กำลังหาช่องทางลงทุนอื่นๆ อีก มีทำประกัน ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่และเราเบิกได้ ถ้าแอดมิทเข้าเอกชนก็เบิกได้แต่ไม่ได้เต็มจำนวน แถมมีสวัสดิการกู้ซื้อบ้าน

เราเลือกที่จะอยู่รัฐวิสาหกิจกีกว่าอยู่เอกชนนะ เพราะเราไม่ได้เก่งเทพอะไรขนาดนั้น

แต่ถ้าพ่อแม่เรามีหน้าที่การงานที่ดี มีบ้าน มีรถ มีเงินเก็บ แบบไม่เดือดร้อนอะไร เราคงเลือกทำเอกชนอะ เพราะเราอาจมีเงินศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อพัฒนาตัวเองได้อีกเยอะ

เป็นบางคนครับ

บางคนตอน10 ปีแรกเงินเดือนยังน้อย ก็กู้เงินเอาเงินในอนาคตตอนใกล้ๆเกษียณมาใช้ (วงเงินกู้สูงมาก เพราะเข้ามาแล้วไม่มีออกกันหรอก) บางคนกู้โบนัส กู้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (เงินก้อนที่ได้รับตอนเกษียณ) พอตัวเองใกล้ๆเกษียณก็จะโดนหักเงินคืนจากหน้าซองเลย จากเงินเดือน 60K กว่าๆ ได้รับจริงๆเดือนละ 4พันบาทเอง

ถ้าฐานเงินเดือนตอนเกษียณน่ะสูงกันทุกคนแหละรัฐวิสาหกิจ แต่ต้องดูเงินเดือนหน้าซองด้วยว่าเหลือจริงๆอยู่เท่าไหร่ คนทำรัฐวิสาหกิจกู้ง่ายแทบไม่ต้องใช้อะไรค้ำประกัน ใช้เงินอนาคตกันเยอะครับ พอเกษียณออกมาก็ไม่มีอะไรกินเพราะไม่มีเงินเก็บเลย