จู่ๆคงจะท้อ  เลยมาตั้งกระทู้แบบนี้

ไม่ได้อยากทำโอทีนะคะ ..แต่งานท่วม

เมื่อวานกลับเที่ยงคืนครึ่ง ..เจ้านายเรียกประชุมทีม ตอนสามทุ่ม

วันนี้หนีกลับสามทุ่มกว่าๆ  ..แอบตั้งกระทู้ตอนรถติดไฟแดง ว่า จริงๆแล้ว

งานหนัก งานสนุก เงินเดือนเยอะ โอทีบาน แบบนี้

คุ้มกับชีวิตที่เสียไปมั้ย...

เราแค่รุ้สึกว่า ขีวิต ทำงานมากไปรึป่าว ..เหมือนทำงานจนไม่มีชีวิต

คิดยังไงกันคะ

ผมว่าคุณน่าจะมีคำตอบในใจแล้ว

ส่วนตัว อะไรที่สุดโต่งเกินไป ก็ไม่ดี หน้าโทรม สุขภาพร่างกาย ความเหนื่อยสะสม สิวขึ้น ฯลฯ

เดินทางสายกลางครับ

ถ้ามีเงินมากอยู่แล้ว ไม่คุ้ม
ถ้ามีเงินน้อย คุ้ม

ผมคิดแบบนี้ครับ

work-life balanceแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนอาจจะอยากได้เงิน เพื่อวันหยุดของเขาจะได้ใช้เต้มที่
บางคนอยากทำเพื่อให้งานมันจบไป

อย่างน้อยคุณก็ยังดีกว่าใครหลายๆคนทีทำงานดึกกว่าและไม่เคยได้โอทีรวมทั้งผมด้วย

ถ้าคุณคิดแบบนี้เมื่อไหร่ แปลว่ามันไม่คุ้มแล้วล่ะครับ
จากประสบการณ์ตัวเอง

ก็แล้วแต่ว่าชีวิตอยู่เพื่อใครด้วยน่ะค่ะ ถ้าไม่มีภาระอะไร แต่ทำเพื่อสะสมสนองความต้องการต่างๆของตัวเอง หักโหมขนาดนั้นก็เกินไป ไม่คุ้มกับชีวิตที่หายไปแน่นอน ถ้าจขกท.เข้าข่ายนี้ก็ถือว่าโชคดีมากนะคะ ที่สามารถเลือกทำต่อหรือเปลี่ยนทางได้ แต่ถ้ามีภาระเป็นที่พึ่งพิงของคนอื่น จะไม่มีคำถามนี้เลยค่ะ หนักก็ต้องทำ ชีวิตหายไปก็ต้องทำ ต่อเมื่อหมดภาระแล้ว คำถามนี้ก็คงมีในใจกันทุกคนแหละค่ะ

แต่มีเพื่อนเราบางคน ไม่มีภาระอะไร แต่เป็นโรคติดงาน ทำงานหนักมากกกก แล้วก็บ่นไม่มีเวลาใช้เงินซะงั้น แล้วมันก็ทำหนักแบบเที่ยงคืน ตีๆ ต่อไป อันนี้เรียกกรรมค่ะ ^^'

คิดมาก เดี๋ยวสิวขึ้นนะครับ

ผมก็ไม่ทราบหรอกนะครับว่าคุณได้โอทีเท่าไร

แต่เรามาลองคิดในมุมมองของหนังเรื่อง In Time กัน

สมมติว่าคุณได้เงินเดือน 50000 บาท

1 เดือนทำงาน 22 วัน วันละ 8 ชม. = 22*8 = 176 ชม.

เฉลี่ยทำงานได้เงิน ชม. ละ 50000/176 = 284 บาท... เริ่มรู้สึกอะไรบ้างหรือยัง


มีคนซื้อเวลาในชีวิตคุณ 1 ชม. โดยจ่ายเงินให้คุณ 284 บาท หรือเฉลี่ยนาทีละ 5 บาท
เวลาในชีวิตที่ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้อีกเลย

คำถามที่ควรถามตัวเองก็คือ ... เวลา 1 นาทีในชีวิตของเรา มีค่าเพียง 5 บาท แค่นั้นหรือ...

คนบางคนมีเงินเยอะ ก็ใช้เงินซื้อเวลาคนอื่น เพื่อให้ตัวเองมีเวลามากขึ้น จะได้ไปทำอย่างอื่นนอกจากการหาเงิน

คนบางคนมีเงินน้อย ก็ต้องนำสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไปขาย ซึ่งก็คือเวลา เอาไปแลกเงินมา..

ส่วนตัว คิดว่าไม่คุ้ม เคนโดนบังคับให้ทำงานเต็ม30วันโอทีทุกวัน เหนื่อยมากไม่ได้พัก เช้าตื่นไปทำงานกลับบ้านกินข้าวนอน เช้าตื่นวนอยู่แบบนี้อยากไปตลาดไปซื้อของนอนดูหนังเล่นกับหลานคุยกับแม่ไม่ได้เลย ท้อมากเหนื่อยมากเช้าเข้างานอยู่ดีๆ หยุดคิดกับตัวเอง แล้วไปลาออกเลย ตอนนี้มาทำที่ใหม่หยุด ศุกร เสร อาทิต ไม่มีโอ เลิก5โมง ทุกวันรู้สึกมีความสุขมากกว่า

อยู่ที่แต่ละคนครับ ซึ่งไม่เหมือนกัน

บางคน โอทีน้่อยก็บ่น เพราะว่าง และอยากได้เงินเพิ่ม

บางคน โอทีเยอะบ่น เพราะงานไม่สำคัญมากนัก แล้วก็อยากมีเวลาส่วนตัว / ครอบครัวมากกว่า

ต่างจิดต่างใจครับ ไม่มีอะไำรถูกหรือผิด

ปล. ทำงานไม่มีค่าล่วงเ้วลามาหลายปีแล้ว ทำเยอะถ้าจำเป็นครับ work life balance จำเป็นสำหรับผม

ปล. 2 เคยทำโอทีมากกว่าเงินเดือน เหนื่อยสุด ๆ แต่ตอนนั้น มันก็ได้นะ

ผมสองเดือนแล้ว ที่โอทีเท่ากับเงินเดือนครับ

เคยทำงานต้องเลิกดึกทุกวัน ผมเคยนั่งคิดว่า ช่วงเวลาที่ขาดหายไป มันทำให้ชีวิตที่ไม่ปกติ

ชีวิตไม่ได้มีแค่ ตื่นมาทำงาน และกลับบ้านตอนค่ำนอน

เราต้องมีสังคม เรามีเพื่อน เราต้องทำให้ชีวิตมีความสุขครับ

ผมจึงลาออกและหางานแบบปกติสุขชาวบ้านเขาครับ

ต้องดูว่ามีเงินพอหรือยัง
บางทีเครียดเรื่องเงินไม่พอใช้ อาจจะเหนื่อยกว่าทำโอทีก็ได้ครับ

ทุกอย่างเอาความรู้สึกเรานั่นแหละตัดสิน

โคตรคุ้มค่ะ บริษัทแจกโอไม่อั้น ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ วันเสาร์ขยันหน่อยได้ 2 แรง

อยู่ต่างจังหวัด ไม่มีที่เที่ยว ไม่มีที่ช้อป อยู่บ้านเบื่อ ไปนั่งตากแอร์ ทำงานเงียบๆ

วันนึงได้ 1,500 B งานเสร็จ แถมได้เงินด้วย

ถ้าอยู่บ้านเฉยๆ นอนหายใจทิ้งไปวันๆ  เพราะไม่รู้จะทำอะไร
ผมว่าทำ OT จะมีค่ากว่านะ

แล้วแต่คนแหละครับ
สำหรับบางคนที่ชอบและรักงานที่ตัวเองทำ
ทำงานแล้วมีความสุข อยากทุ่มเททำงานให้เต็มที่จริงๆ
การทำงานเยอะๆก็คงไม่ได้ทำให้เค้าเสียเวลาในชีวิตไปเปล่าๆ

บางคนอาจจะคิดว่า "เวลา" มันจะ "มีค่า" ก็ต่อเมื่อเราใช้ "เพื่อตัวเอง"
แต่สำหรับบางคน "เวลา" มันจะ "มีค่า" ก็ต่อเมื่อเราใช้ "เพื่อคนอื่น"

คุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่า มันขึ้นอยู่กับว่าคุณให้คุณค่ากับสิ่งไหน

ถ้าอยากมีชีวิตของตัวเอง ไปทุ่มเททำงานเพื่อคนอื่น มันก็ไม่คุ้มค่า
เพราะมันไม่ทำให้เราได้สิ่งที่เราอยากได้
ถ้าอยากใช้ชีวิตตัวเองเพื่อได้เห็นคนอื่นๆมีความสุข มันก็คุ้ม
เพราะเราก็ได้ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น ได้เห็นลูกค้ามีความสุข
ได้ร่วมสุขใจกับเพื่อนร่วมงาน ได้เงินเพื่อครอบครัว หรืออะไรก็แล้วแต่

แต่ยังไงก็คงต้องให้มันพอดีๆแหละครับ
ไม่มีใครที่สามารถทำงานได้ตลอดเวลาและทั้งชีวิต

ตัวเราเคยทำ OT ทุกวันยัน 22.00 น. วันอาทิตย์เต็มวัน
ตอนที่มีหนี้แต่ไม่มีลูก อยากทำ OT ที่สุด
ตอนนี้มีหนี้แต่มีลูก     ไม่อยากทำ OT ที่สุด

เวลาเดินไปทุกวัน แต่ละวันมีค่า เด็กโตขึ้นทุกวัน เขาต้องการเวลาที่เหลือจากทำงานประจำของพ่อแม่บ้างค่ะ

ถ้ามีติดๆกันก็ไม่คุ้มครับ

แล้วแต่ วาระ มุมมอง เวลานั้นๆ
งานผมมีโอที แบบจะอยู่ก็ได้ ไม่อยู่ก็ได้
คืออยู่ก็ standby เผื่อมีปัญหา บริษัททำงาน 24 ชม
เราก็เคลียงานไป ออกกำลังกายได้ เล่นเน็ตได้
นั่งเม้าได้ แต่ถ้างานมีปัญหาต้องพร้อมจะลุย
ถ้าเราไม่อยู่เพื่อนคนอื่นก็อยู่อยู่แล้ว
มีแต่คนอยากได้เงิน

พวกมีครอบครัว ภาระแล้วก็กลับเร็ว เมื่อก่อนพวกนี้ก็ทำสะสมเงินไว้เยอ่ะแล้ว
ตัวผมเองมีรายได้จาก โอที เดือนละ 18000 - 35000 บาท
ยิ่งช่วงหยุดยาว x3 แล้วไม่ได้ไปไหน สบายแอร์เย็น
ผมสามารถปฏิบัติงานใหหัวหน้าได้ช่วงวันหยุด แถมยังนั่งปั่นการบ้านของป.โท ไปด้วย ถ้างานนิ่งจริงก็ออกมาทานมื้อเที่ยงกับแฟนวิน วิน เข้า สายหน่อย
งานมีปัญหาโทรมาตี1 ก็วิ่งเข้าไปช่วย เพราะบ้านห่างแค่ 10 นาที
อ้อแฟนผมเลิกงานค่ำกว่าผมมาก ผมจึงอยู่โอที และรอรับเธอกลับ วิว วิน

ผมและเพื่อนทำกันมาเกือบ จะ10 ปีแล้ว ได้ของที่ต้องการทุกอย่างจากเงินโอทีอย่างเดียว
ช่วงแรกงานหนักมาก โอทีกึ่งบังคับ หลังจาก 3 ปีที่ช่วยกันลุยมา
อย่างหนัก ตอนนี้นิ่งแล้วเป็นโอทีสแตนบาย

'นี่คือ ช่วงเวลา และโอกาสหาเงินของผม'

พี่เค้าสอนไว้ว่า 'มันยังไม่ใช่เวลาสบาย'
ให้ต่อสู้ก่อน ตอนนี้สบายขึ้นแล้ว

อ้อตอนนี้ มีเจ้าตัวเล็กแล้ว
ก็ลดโอทีไปเย่อะครับ เรามีบุญเก่ามาเย่อะ
ตอนนี้มีความสุข กัน 3 คน
วันไหนมีงานยาว ภรรยาก็เข้าใจ
หลังจากนั้นก็พาเค้าไปเที่ยวซะ

นี่คือวาระใหม่ของผมครับ กินบุญเก่า

เพราะเจอโอทียันเที่ยงคืน จึงลาออกจากการเป็นลูกจ้าง ทุกวันนี้รู้สึกว่า คิดถูกมากถึงมากที่สุด