คือว่าเริ่มหางานมีตั้งเเต่ต้นเดือน ตุลาคมค่ะ จากนั้นก็ทยอยหางานมาตลอด เข้าไปฝากประวัติกับทางเว็บ jobtopgun jobsbd jonstreet nation jos job bkk job thai เลือกเเนะนำงานมาทาง e-mail ,สมัครโดยตรงกับอีเมลล์ของhr บริษัทโดยตรง ก็มีเรียกมาน้อยมากเลยค่ะ เป็นบริษัทจัดหางาน3ที่ เดินทางไปกรอกรายละเอียด ที่นั้นเพื่อหางานให้เรา เเต่ก็ไม่ได้งาน ไม่ค่อยโทรมาเสนองานด้วยค่ะ มีบริษัทจริงๆโทรมานัดสัมภาษณ์รวม 4ที่เองค่ะ ตกสอบข้อเขียนไป1 ตกpresented อังกฤษไป1ค่ะ อีก2ที่ก็บอกยังไม่ได้ตรวจข้อสอบ ที่ๆ3เห็นโรงงานเเล้วไม่อยากจะทำค่ะ เพราะให้ไปกรอกใบสมัครงานใต้ต้นไม้ค่ะ ไม่มีโต๊ะนั่ง ผ่านมาจะ2อาทิตย์เเล้วค่ะ ก็รวมเเล้วเหลือ1ที่เองค่ะ ที่รอผลอยู่ ถ้าผ่านข้อเขียนจะได้เรียกสัมภาษณ์อีกทีค่ะ เเต่ก็กลัวว่าจะไม่ได้ค่ะไม่มีที่อื่นเรียก อีกเลย เราก็มีคะเเนนโทอิก440 หรือว่าคงจะน้อยไป เกรดเฉลีียก็ไม่สูงมาก จบวิศวกรโรงงาน5ปีค่ะ( หรือว่าเขาคงต้องการคนจบ4ปีตาเกณฑ์มากกว่าค่ะ)เราก็อยากให้บริษัทนัดเข้าไปสัมภาษณ์งาน อีกอ่ะค่ะ เอาไว้สำรองเผื่อไม่ได้งานเลยค่ะ ทั้งๆที่ก็กดสมัครไปหลายเว็บ ทางe-mail hr โดยตรง อัพเดท resumeตลอด(ขอตัวอย่างเรซูเม่ของเพื่อนที่ได้งานหลายที่ มาเป็นเเบบอย่างด้วยค่ะ) เเต่ก็ไม่ได้งานสักที  บางบริษัทบอกว่าช่วงนี้คนหางานกันน้อย เพราะไม่ค่อยลาออก เพื่อรอโบนัส จะหางานง่าย จริงหรือค่ะ เเต่เราว่านานจังค่ะ เพื่อนเราส่วนใหญ่ได้งานกันตอน พ.ค.-มิ.ย.ค่ะ  ขอคำเเนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆ ชาวสีลมด้วยนะค่ะ ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะได้งาน ขอบคุณมากๆค่ะ

เข้าวัดทำบุญ ทำจิตใจให้แจ่มใส

1 ทำสิ่งที่ทำได้ เช่นเตรียมตัวให้ดีกับการสัมภาษณ์ เช่นหาบริษัทที่น่าสนใจเข้าร่วม
2. ส่ง จดหมายสมัครงานไปเยอะๆ
3. ถ้าให้ดี สมัครที่ website ของบริษัทนั้นๆประกอบไปด้วย
4. ฝึกคุณสมบัติตัวเองให้พร้อม เช่นภาษา รึคำถามคำตอบในการสัมภาษณ์
5. เตรียมจิตใจให้พร้อม เข้าวัด รึ ทำอะไรที่ทำไม่ให้หดหู่และ หมดความมั่นใจครับ

ลองทำบุญโลงศพดู ไปที่วัดนะ แล้วจะดีขึ้นเอง

ของเราหามา 5 เดือนกว่าก้อยังไม่ได้ คงต้องรอหลังปีใหม่ไปแล้ว คงดีขึ้นนะค่ะ

แนะนำให้เอาเวลาช่วงว่างงานนี้อัพสกิลภาษาอังกฤษตัวเองให้ดี แล้วไปสอบโทอิคใหม่ให้ได้600 Up คราวนี้คิดว่าจะได้รับการพิจารณาจากบริษัทต่างๆมากขึ้น
คุณอย่าลืมว่าสมัยนี้การแข่งขันสูงนะคะ ทุกบริษัทอยากได้คนที่เก่งและมีคุณภาพมาร่วมงาน คุณต้องถามตัวเองว่าเรามีคุณภาพพอที่บริษัทจะรับเราเข้าทำงานหรือเปล่า ภาษาเราดีมั้ย เรามีจุดแข็งอะไรบ้างที่บริษัทควรจะรับเรา ตอนนี้จุดออ่อนของคุณคือเกรด และเรียน5ปี เพราะฉนั้นคุณต้องดึงเรื่องภาษาให้ดีขึ้นเพื่อมาเป็นจุดแข็ง

ของผมเพิ่งจบหางานมาเดือนครึ่งละครับ
มีเรียกสัมภาษณ์ไป 5 ที่ สัมภาษณ์ไป 3 ได้งาน 2
รอวันที่ 18 อีกที่ วิศวะจบใหม่เหมือนกันครับ
ผมเรียนเกินด้วย 5 ปีครึ่ง พระจอมฯลาดกระบัง
ฝากข้อมูลจากเวปเหมือนกันครับ
แต่ผมว่าถ้าอยากได้งานไวๆหาแถวบ้านตามบริษัทที่เปิดรับสมัคร มีโอกาสได้งานไวนะ

เข้าใจเลยนะคะว่าเครียดในช่วงหางานมันเป็นยังไง
ก่อนอื่นขอให้กำลังใจคุณก่อนละกัน อย่าพยามยามทำให้ตัวเองเครียดมากไปกว่านี้นะคะ มั่นใจในความสามารถของตัวเอง
คนที่หางานมานานกว่าคุณมีอีกเพียบค่ะ เราว่าช่วงระหว่างที่คุรรองานเนี่ย อัพสกิลภาษาไปด้วยก็ดีนะคะ
วิศวะถ้าได้ภาษาด้วยเนี่ยมีโอกาสได้งานดีๆเลยล่ะค่ะ ช่วงนี้ตำแหน่งงานว่างน่าจะน้อยเพราะพนักงานมักจะรอโบนัสออกก่อน ค่อยพิจารณาเรื่องลาออกน่ะคะ

ตอนนี้คนรอโบนัสครับ จะยังไม่ออกกัน แนะนำว่าต้นปีหน้า ค่อยสมัครใหม่

ยังงัยก็หางานที่มั่นคงหน่อยก็ดีนะครับ คนในไม่ยากออกแต่คนนอกอยากเข้า ถ้าเข้าได้ ความมั่นคงจะพอสมควรเลย ซื้อรถ ซื้อบ้านได้ สบายใจ ไม่ต้องกลัวตกงาน


440 ถือว่าใช้ได้แล้ว บริษัทเขาก็รับกันแล้วหละครับ

ช่วงที่ผมจบมาใหม่ๆก็หางานไม่ได้เหมือนกัน เพื่อนๆในกลุ่มทยอยได้งานกันไปหมด จนม้าหินที่นั่งประจำ(ชมรมคนตกงาน) เหลือผมนั่งอยู่คนเดียว ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า งานอะไร บริษัทอะไรก็ได้ ขอให้ได้งานก่อน แล้วก็ได้เริ่มงานที่บริษัท no name เงินเดือนไม่ดี สวัสดิการไม่ดี เครื่องไม้เครื่องมือที่จะทำงานก็ไม่พอ ทนทำหาประสบการณ์ให้ตัวเองซักพัก แล้วมองหาโอกาสให้ตัวเองอีกครั้ง โอกาสจะเพิ่มขึ้นครับ บริษัทที่หาพนักงานมาร่วมงานมักมองคนที่มีประสบการณ์ก่อนครับ..........ขอให้โชคดีครับ

เราหาคนมานานละไม่ได้

Toeic 440 หากใช้งานทั่วไปถือว่าโอเค


แต่หากเป็นงานที่ต้องดีลกับคนต่างชาติโดยตรง ถือว่าต่ำ


ส่วนเรื่องจบ 5 ปีไรนั่น คนรับสมัครงานไม่ได้เอามาคิดเป็นประเด็นมากนักหรอกครับ ถามว่ามีไหม มี แต่น้อย

2เดือนครึ่งแล้วเหรอ...
เรา4เดือนอ่ะ
ว่างๆก็ไปเรียนแต่งหน้า นั่งสมาธิ ดำน้ำ ปลูกปะการัง ทำอาหาร นวดสปา ปลูกป่า ดำนา ดูดิสนีย์ออนไอซ์ แรลลี่ ตีกอล์ฟ ล่องเรือ ส่องสัตว์ ช็อปปิ้ง ดูงิ้ว ดูละครเวที ดูคอนเสิร์ต ดินเนอร์ ทำขนม จัดดอกไม้ เที่ยวตลาดน้ำ เรียนถ่ายรูป ดูกายกรรม ชมเมืองเก่า เข้าสัมมนา ทัวร์ธรรมะ เรียนเต้น แล้วก็ร้องเพลง
ทำได้หมดไม่มีบริษัทไหนไม่รับ

สนใจงานTechincal Sale ขายสารเคมี-สีอุตสาหกรรมไหมครับ

ไม่ต้องคิดมากครับ 2เดือนครึ่งถือว่ายังปรกติอยู่ รอนานกว่านี้มีถมเถไปครับ (ผมเป็นต้น) ผมเพิ่งได้งานแต่กว่าเขาจะให้ไปเริ่มก็ตั้ง เมษาปีหน้า รอกันเหงือกแห้งเลย

ช่วงนี้คนเขารอโบนัสกันจริงๆแหละครับ เพราะเป็นผมก็คงขออยู่รับโบนัสก่อน ทำมาเป็นปีเพื่อรอเงินก้อนนี้เลยนะครับ ^^

อย่าเพิ่งถ้อครับ หาอะไรทำเพิ่มความรู้ไปก่อน

วิศวกร จบห้าปี  ผมว่าไม่แปลกนะ

ส่วนยังไม่ได้งานนั้น
อยากทราบว่าร่อนใบสมัครไปกี่ที่
ถ้าสมัครหลายที่ก็มีโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์เยอะหน่อย

คนที่ถูกเรียกสัมภาษณ์เยอะ
บอกได้เลยว่าใช้เวลาไปกับการจัทำ "Resume" ให้ดูเป็นมืออาชีพเยอะมาก
เพราะเป็นตัวเลือกแรกเลยที่ HR มองเห็น

ผมอ่านประวัติส่วนตัวมานับพันๆ ฉบับ
มีเพียงแค่ร้อยละ 10-20 ฉบับเท่านั้นที่ผ่านการจัดทำมาเป็นอย่างดี
และเป็นกลุ่มแรกๆ ที่จะเลือกเข้ามาสัมภาษณ์

สู้ๆนะคะทำใจให้สบายอย่าไปคิดมากค่ะ บทจะมาก็จัดคิวไปสัมภาษณ์ไม่ถูกเลย

เราเองก็หาประมาณ จขกท. เลยค่ะเพิ่งได้งานเริ่มงานจันทร์นี้ค่ะ ช่วงนี้คนรอโบนัสค่ะใจเย็นๆก่อนเนอะ ^_^

@15ส่งไปเยอะมากค่ะ เช่นในเว็บพวกจัดหางานต่างๆเช่น job topgun job thai ก็ส่งเรซูเม่ไปโดยเเต่ละเว็บ 20กว่าที่ค่ะ ส่งรวมๆกันเป็นเดือนๆเเล้วก็น่าจะเป็นร้อยกว่าเเล้วค่ะ  เเล้วขอรบกวนสอบถามสักนิดนึงนะค่ะ การจัดทำresume ให้ดูเป็นมืออาชีพ นี่มีลักษณะอย่างไรอ่ะค่ะ จะได้นำไปปรับปรุงเเก้ไขในเรซูเม่ให้ดูน่าสนใจขึ้นบ้างค่ะ

สู้ๆครับ สมัครในเว็ปแล้วลองไปหาพวกรีคูจอีกทางสิครับ เพื่อเพิ่มโอกาส

คนอื่นหาเป็นปีก็มีครับใจเย็นๆครับ ซักวันคงมาถึง
เตรียมตัวเองให้พร้อมเสมอดีกว่า

หาธุรกิจ ส่วนตัวทำไปพลางๆก่อนไหมครับ ดีไม่ดี รุ่งอาจจะไม่อยากกลับไปทำงาน บ. อีกก็เป็นได้

แฮะๆ มาให้กำลังใจ ตอนนี้ 6 เดือนแล้วคะ บางที่รอผลสัมภาษณ์ก็เงียบ และหายยยยย ไปเลย เฮ้ออออ...สู้ๆ คะ อย่าคิดมากเรื่องแบบนี้ มันเป็นดวงด้วยและ อย่างล่าสุดที่อุตส่าห์ถ่อไปสัมภาษณ์ข้ามจังหวัด ตอนเราไป คนสัมภาษณ์มีคนเดียว..ทั้งที่ปกติจะมี 3 คน เราก็แปลกใจแต่ไม่เป็นไร ปรากฏว่าเงียบหายไปเลย พอถามเพื่อนที่ทำงานที่นั่นบอกว่า เขาลองไปเรื่องให้ ปรากฎว่าอิตาคนสัมภาษ์ทำงานชุ่ยมาก บอกว่าจำไม่ได้ว่าสัมภาษณ์ แล้วไม่รู้เอาเอกสารไปไว้ไหน พออีกคนที่มาสัมภาษณ์ทีหลังไปสัมภาษณ์ ซึ่งเลยเวลาที่เปิดรับสมัคร กลับ..ได้ปั๊บเลย อารมณ์เสีย ที่สำคัญ...ไปสมัครตอน 9 โมง ให้แกร่วรออยู่ครึ่งวัน บอกว่าพวกพี่ๆ ที่สัมภาษณ์ว่าง บ่ายโมงให้มาใหม่ พอเราไป กลับต้องรออีก เกือบครึ่ง ชม. แล้วคนสัมภาษณ์ก็มีไม่ครบเลยเป็นปัญหาเนี่ยแหละ....เฮ้อออ แต่เอาเถอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์เนอะๆ สู้ๆ คะ อย่าคิดมากนะคะ ที่สำคัญ..อย่าฟังขี้ปาก และ แคร์สายตาชาวบ้านที่ชอบดูถูก...เพราะเจอมาแระ ช่วง 3 เดือนแรกที่ตกงาน ตอนนั้นเสียเซลไปเลย แต่...พอตั้งสติดีๆ ตัดพวกไม่เจริญไป เราก็สบายใจขึ้นนะคะ สู้ๆ

...อย่าอยู่เฉยๆครับ.. ไปทำอย่างอื่นที่ไม่ตรงสายงานก่อนก็ได้... ไม่ต้องหรูและเท่หรอก..

พอได้งานก็ค่อยๆไปต่อ...

บางทีสิ่งที่ไม่หรูและไม่เท่นั่นหละ...คืออาชีพพระเอกขี่ม้าขาวที่มาช่วยเวลาเราลำบาก แถมถ้าเราพัฒนาไปได้เรื่อยๆ.. ก็กลายเป็นพระเอกตัวจริงไปเลย...

ตอนสมัครงานครั้งแรกหลังจากเรียนจบ

รองานไป 8 เดือน สมัครไป 145 ตำแหน่ง ได้สัมภาษณ์จริง 6 ที่เอง

ยังชิลๆเลย