อยากจะออกจากงานประจำไปค้าขาย แต่ไม่รู้ว่าขายอะไร คิดอะไรที่มันยาก ซับซ้อน ผมคิดไม่เป็นอะครับ  แต่รู้ว่าทุกวันนี้อยากขายน้ำ เครื่องดื่ม
ถ้าคิดกำไรเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว 17% นะครับ  แล้วเป็นเงินสดด้วย สบายใจที่สุด ค้าขายเงินสด ถ้า 1 วันผมขายให้คน 1 พันคน กำไรทั้งสิ้น 1700 บาท
ไอเดียนี้เป็นไงบ้างครับ อะไรที่ซับซ้อนคิดเยอะต้องซื้อนู้นซื้อนี่ผมไม่เป็นอะครับ พี่ ๆ สีลมมีไอเดียอะไรกันบ้างครับแชร์ ๆ กัน

น้ำอะไร ขายที่ไหน ถึงได้รู้ว่า จะมีคนซื้อคุณวันละ 1 พันคน

กำไร 17% มาจากไหน ...

เอาง่ายๆนะครับ
เอาน้ำแข็งเปล่า+น้ำอัดลม
ใช้เวลาในการใส่น้ำแข็ง ใส่น้ำ ทอนเงิน = 1 นาที
จะขายให้ได้ 1000 แก้ว ใช้เวลา 1000 นาที
อย่างนัน เปิดร้าน ตั้งแต่ตีห้า ยัน 5 ทุ่มเลยนะครับ

ค่าเช่าเท่าไร
ค่าของเท่าไร
เอาลูกค้ามาจากไหนเดินผ่านคุณเป็นพันๆ ต่อวัน ไม่ใช่ทุกคนที่ผ่านร้านจะซื้อนะคิดก่อน

ขายตั้ง พันคน ได้กำไรแค่ 1700 เองเหรอครับ ดูไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นะ

ฝากประชาสัมพันธ์คะ...
IMBA ม.ธรรมศาสตร์ กำลังจะจัดเวิร์คช็อปเพื่อให้คนอยากมีธุรกิจของตัวเอง แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี หรือจะเริ่มยังไงดี มาค้นหาไอเดียที่จะพัฒนาต่อให้เป็นธุรกิจจริง

*สนใจลองเข้าไปลงทะเบียนได้ที่ www.StepwiseAcademy.org หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 081-843-6367...รีบหน่อยนะคะ กิจกรรมจะมีวันเสาร์นี้แล้วคะ

เอาอะไรคิดเนี่ยพูดเล่นป่าวค่ะ ขายพันคน ได้กำไร 1700 แล้วคิดว่าจะขายแบบนี้ได้พันคนทุกวันไหมละ คิดใหม่เถอะค่ะ ของบางอย่าง ขายแค่สองสามชิ้นต่อวัน กำไร มากกว่า 2000 มีเยอะไป อยู่ที่ความคิดการบริหารค่ะ ไม่เช่นนั้นก็ไม่เหมาะกับธุรกิจ ไปทำงานประจำสบายๆดีกว่า

น่าจะได้มากกว่านั้นครับ ขายน้ำ กาแฟ ชา อะไรพวกนี้

สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก เหลือก็มีแค่น้ำแข็ง ราคาไม่เท่าไร แต่ติดที่ทำเล หาที่ขายได้ดีก็กำไรเน้นๆ ครับ

คุณขายน้ำ แก้วละ 10 บาทเหรอ ถึงได้กำไร 1700 บาท จาก 17% ใน 1000 คนอ่า

น้ำอะไรอ่าค้าบ ^^

ร้านขายสินค้าฟุ่มเฟือยบางร้าน...

ค่าเช่า+น้ำ+ไฟ+โทรศัพท์      80000 ต่อเดือน
ค่าจ้างพนักงาน              30000 ต่อเดือน
ค่าบริหาร+ความปลอดภัย+รายจ่ายแฝงจิปาถะ     30000 ต่อเดือน
รวมๆแล้ว                  140000 ต่อเดือน แทบจะคงที่เป็น Fix ไปเลย
อาจมีทริคอะไรบางอย่างเรื่องต้นทุน...แต่กระบวนการขายไม่มีอะไรซับซ้อน..ไม่มีการบริการภายหลัง... ไม่มีอะไรทั้งสิ้น  คนขายชอบบอกว่าตัวสินค้าขายตัวมันเอง...

----------------

สินค้าแต่ละแบบมีราคาต่างๆกันไป...ตั้งแต่ 2000 ถึง 300000

บางเดือนขายได้ 2-3 ชิ้น ยอดขาย หลักพัน หรือแค่หมื่นต้นๆ แน่นอนว่าถ้าเป็นธุรกิจอื่นๆ..ที่เอาวอลลุ่มเข้าสู้... ยอดขายแบบนี้คือตัวแดงจนแทบมองไม่เห็นทางฟื้นง่ายๆ

แต่บางเดือนขายได้ 20 ชิ้น... ยอดขาย 2-3 ล้าน  
เมื่อเฉลี่ยทั้งปี ยอดขายประมาณ 8 ล้าน กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 75-80% ...

(ตอนที่ขายอาจมีส่วนลด 15 - 30% ไปแล้วนะครับ..ยังได้กำไรเยอะขนาดนี้...
ต้นทุนจริงๆกี่ % กันแน่..?..)

นี่คือธุรกิจอีกแบบ...อาศัยความใจกล้าและทุนหนา...ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย

พวกเราอาจรู้จักคุ้นเคยโครงสร้างกำไรของธุรกิจที่น่าจะสัมผัสง่ายหน่อย...
เช่น ปัจจัยสี่ การเกษตร ขายปุ๋ย.. การคมนาคม รถสองแถวก้ใช่.. ร้านอาหาร ร้านข้าวแกง การบริการสระซอย อะไรก็ว่าไป...

------------------
แต่ธุรกิจที่ใช้ความมั่นใจในตัวเองของลูกค้าย้อนกลับมาเชือดเอานิ่มๆนี่หละ...ร้ายนัก..
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่การประชาสัมพันธ์.. มุ่งหลอกล่อให้ผู้เสพรู้สึกถึงความโดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นตัวเอง  ทั้งที่สินค้ามันก็ Mass แทบทั้งนั้น จะว่าไปก็... ประชาสัมพันธ์..กึ่งๆหลอกลวงแบบมโหฬาร..

อย่าว่าแต่คนนอกบริษัทเลย...หากใครเพิ่งจับงานแบบนี้ก็งงๆในตัวเลขเช่นกัน

ขายแบบนี้ใครมันจะซื้อหว่า.. ขาดทุนแดงเถือกแบบนี้ทำไมยังทนอยู่เป็นปี.. สองปีก็ยังทน.. อีก
(เข้าปีที่สามจึงค่อยๆหาทางโยกย้าย...)

ร้านพวกนี้จะสร้างภาพลักษณ์ดีมากๆ.. และส่วนใหญ่ไม่ยุ่งการเมือง..อาจคบหาผู้มีอำนาจบ้าง..แต่ไม่หาเรื่องใส่ตัว..เน้นการค้าเท่านั้น

ทำตัวเป็นร้านเล็กๆ.. ไม่โฉ่งฉ่าง เมื่อเศรษกิจไม่ดีก็กัดฟันรอ...เมื่อเศรษกิจดีแต่ละปีก็ฟันกำไรอื้อ... นิ่งและวางท่าสง่าผ่าเผยเหมือนราชสีห์ที่รอตะครุบเหยื่อ...

ถ้าใครมีเงินเย็น มีสินค้าที่พอไปได้... ก็น่าสน.. คนไทยกระเป๋าหนักยังมีอีกเยอะครับ

-------------