เหนื่อยและท้อใจกับการหางานมากคับ ผมทำผิดอะไรหรอถึงได้เป็นแบบนี้

ยืม log in เพื่อนมา

ผมจบวิศวเครื่องกล จากมหาลัยที่คนส่วนใหญ่อยากเข้ามากที่สุดก้อว่าได้และ

จบมาก็เกรด3 กว่าๆ ตั้งใจเรียนมากกว่าจะได้มา เรียนก็ยาก

ยากกว่าการพยายามเพื่อให้ได้เข้าเรียนอีก สอบTOEIC ก็ 600 กว่าๆ

แต่จบมายังหางานบริษัทใหญ่ๆดีๆทำไม่ได้เลย ทั้งที่เพื่อนๆได้งานดีๆกันและ

ไม่ใช่สัมภาษณ์ไม่ผ่านนะคับ แต่ตรวจร่างกายไม่ผ่าน

เพราะผม "ตาบอดสีครับ" เก่งแค่ไหน ดีแค่ไหน ก็จบคับ

บอกตรงๆว่าเหนื่อยและท้อคับ เพราะผมไม่มีสิทธิต่อสู้หรือแก้ไข้อะไรได้เลย

ตอนนี้ก็คงได้แค่นอนหลับตาลง  คิดไม่ออกจะทำไรต่อไป

รอให้มีกำลังใจค่อยมากันใหม่

จากคุณ : เสือโหด [13 ธ.ค. 55 20:32:46 ]
ความเห็นที่ 1

ลองตัดคำว่า "บริษัทใหญ่ ๆ" ออกก็จะหาได้ง่ายกว่าเดิมครับ

จากคุณ : MAX [13 ธ.ค. 55 20:49:12 ]
ความเห็นที่ 2

ลูกชาย และน้องชาย เราตาบอดสี
ลูกชายเรา6ขวบเอง เราคงต้องศึกษาอาชีพที่เป็นไปได้แต่เนิ่นๆ
เราไม่อยากให้เขาฝันไปไกล แล้วไปไม่ถึง

ส่วนคุณ เสือโหด คุณมาไกลขนาดนี้แล้ว สู้นะคะ
หมื่นทางตัน มีหนึ่งทางออกเสมอ

จากคุณ : CEECEE [13 ธ.ค. 55 20:50:51 ]
ความเห็นที่ 3

เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ

จากคุณ : เนยนมน้ำตาล [13 ธ.ค. 55 21:07:50 ]
ความเห็นที่ 4

เกรดดี ผมว่าหาทุนไปเรียนต่อดีกว่าครับ
ไม่ต้องรอให้คนอื่นให้โอกาส ต้องสร้างโอกาสด้วยตัวเองครับ

จากคุณ : CMT [13 ธ.ค. 55 21:11:47 ]
ความเห็นที่ 5

เหตุผลที่เฉินหลงต้องดังในฮ่องกงก่อน เพราะถ้าไปฮอลลีวูดเลยก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับเป็นตัวประกอบไหม

เมื่ออยู่ฮ่องกงดังเปรี้ยงปร้าง เดี๋ยวฮอลลีวูดก็จะวิ่งมาหาเค้าเอง

หวังว่าคงเข้าใจกับสิ่งที่บอกนะคะ สู้ๆค่ะ

จากคุณ : โจรดอกบ๊วย [13 ธ.ค. 55 21:21:41 ]
ความเห็นที่ 6

จะกลับมาบอกอีกครั้งว่าไม่ใช่ความผิดคุณนะ
ตาบอดสี เป็นกรรมพันธ์
มองในแง่ดีนะคะ
ยังมีเด็กอีกหลายคนที่เกิดมาพิการ หูหนวกตาบอด ไม่สมประกอบ
ความโชคร้ายมีโชคดี คุณมีวันนี้แล้ว กลั้นใจอีกนิดนึง อย่าเพิ่งท้อ
ถ้าสาย วิศวเครื่องกล เป็นไปไม่ได้จริงๆ สำหรับคนตาบอดสี
ให้เบนสายนิดนึง หางานที่เป็นไปได้ ใกล้เคียงสายที่เรียนมาที่สุด และชอบด้วยนะ
ปัจจุบันนี้ตาบอดสี ยังไม่มีทางรักษา แต่คุณมีทางไปแน่นอน
อีกอย่างต่างประเทศมีการยอมรับคนตาบอดสีมากกว่าเมืองไทย
เช่นทำใบขับขี่ได้ ทำงานได้หลายสายมาก
ใจเย็นๆมองไกลๆ กว้างๆ

เราบอกลูกชายแบบนี้ตลอด
ตาบอดสี เราแก้ไขมันไม่ได้ แต่เราหาทางอยู่กับมัน และยอมรับมันได้
หนูไม่ผิดอะไรนะลูก ที่เกิดมาตาบอดสี
กรรมพันธ์ทางแม่ทำให้ลูกเกิดมาตาบอดสี แต่แม่ก็ดีใจที่ลูกมีความสามารถอื่นๆมากมายที่คนอื่่นไม่มี
ลูกต้องทำให้ความสามารถอื่นของลูก มันเด่น มันกลบ จนคนอื่นมองไม่เห็น ว่าลูกแตกต่าง

จากคุณ : CEECEE [13 ธ.ค. 55 21:22:40 ]
ความเห็นที่ 7

อยามองว่า บ. ใหญ่ๆ = งานดีๆ สิคะ
โอกาสมีมากมาย แต่ จขกท. มองข้ามไป
เพราะยึดติดความเชื่อ "บริษัทใหญ่ๆดีๆ"

การที่ จขกท. ตาบอดสี แล้วไม่ถูกรับเข้าทำงาน
อาจเป็นเพราะตำแหน่งงานนั้นๆ ต้องใช้สายตาพิจารณสีด้วยหรือเปล่าคะ

เราเคยได้งาน บ. ใหญ่ค่ะ
พูดไป เพื่อนๆก็รู้จัก แต่ทำได้ไม่นาน
ออกมาทำ บ. เล็กๆ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ มีความสุขและสนุกกับงานที่ทำ

ปล. เราจบม.มีชื่อ เกียรตินิยม ค่ะ อย่ายึดติดค่ะ ^^

จากคุณ : papergift [13 ธ.ค. 55 21:27:09 ]
ความเห็นที่ 8

ผมเพิ่งจบใหม่เหมือนกันครับ วิศว
แรกๆก็มองหาแต่บริษัทที่มีชื่อเสียง
อยากได้เงินเดือนเยอะ ๆ
ตอนนี้มาสนใจบริษัทเล็กๆ เงินเดือนน้อยกว่าที่ผมเรียกไป
แต่ที่ผมสนใจเพราะความเป็นกันเองของหัวหน้างาน
เขาสัมภาษณ์ผมผ่านโทรศัพท์ เขาบอกถ้าสนใจติดต่อกลับมาได้เลย ให้เวลาคิด
(ไม่ตรงสาย ผมจบวิศวะระบบควบคุม แต่งานเกี่ยวกับเครื่องกล ไกลบ้าน เงินเดือนให้น้อยกว่าที่เรียก แต่ปรับให้หลังผ่านโปร) ผมคิดอยู่ 2 วัน รอเผื่อมีบริษัทอื่นเรียกด้วย วันนี้ผมโทรกลับไป ผมชอบทัศนคติของหัวหน้างานมาก เป็นบริษัทเล็กๆแต่ดูอบอุ่น วันจันทร์นี้เข้าไปคุย หากพอใจก็ตกลงกันอีกที
ถ้าบริษัทนี้ผมได้เข้าไปทำงานแล้วเป็นอย่างที่บอกผมคงมีความสุขมาก ถึงแม้จะเงินน้อยกว่าที่อื่น แต่ที่อื่นที่ให้เงินมาก ผมไม่รู้จะมีความสุขกับการทำงานหรือเปล่า เขามีความสนใจเด็กที่จบจากสถาบันผมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และเขาบอกจะช่วยผลักดันผมขึ้นที่สูง
เป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรกที่ผมไม่กดดัน วันจันทร์นี้จะเป็นไงค่อยว่ากันอีกที
อยากจะลองเสนอแนะไว้หน่อยครับ บริษัทเล็กๆนี่จะดูมีความเป็นครอบครัวดีนะครับ ไม่รู้ถ้าไปบริษัทใหญ่ๆ จะเข้าอกเข้าใจเราหรือเปล่า หรือมองเราเป็นแค่ลูกจ้างกินเงินเดือนธรรมดาๆคนนึง

งานที่ว่าหายากแล้ว ผมว่างานที่มีเจ้านายที่ดีนี่หายากยิ่งกว่า

จากคุณ : ไข่เจียวหมูสับ (คุณชายไข่เจียว) [13 ธ.ค. 55 21:54:42 ]
ความเห็นที่ 9

เพราะคุณไม่มีอะไร คุณถึงถูกปฏิเสธด้วยข้อจำกัดของร่างกาย
แต่หากคุณพิสูจน์ตัวเองได้จนความสามารถเป็นที่ยอมรับ ข้อจำกัดของร่างกายก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

คุณจบวิศวะ คุณน่าจะรู้จักคนที่ชื่อว่า สตีเฟน ฮอล์คกิง นะครับ

จากคุณ : Morning Star [13 ธ.ค. 55 22:09:28 ]
ความเห็นที่ 10

ลองสายการเงินไหมครับ ไม่น่าต้องกังวลตาบอดสี

ผมจบวิศวะจากมหาลัยที่คนทั่วโลกอยากเข้าครับ เกรียรตินิยมอันดับ 1 เช่นกันครับ แต่มาทำเป็น analyst สายการเงินบริษัทใหญ่ปานกลาง ก็ไม่มีตรวจตาบอดสีนะครับ มีหลายๆที่ครับที่ไม่รับคนตาบอดสี ลองดูครับ ชีวิตเรามีทางเลือกเสมอ อยู่ที่จะลองหรือไม่แค่นั้นเองครับ

จากคุณ : Asus [13 ธ.ค. 55 22:12:07 ]A:58.11.103.19 X: TicketID:265937
ความเห็นที่ 11

ถ้าหางานบริษัท"ใหญ่ๆดีๆ"ที่คุณว่าทำไม่ได้ ชีวิตนี้ ไม่ต้องทำงานทั้งชีวิตเลยสิคุณ
เริ่มหางานมากี่เดือนแล้วล่ะ สามเดือนหรือสามปี มีประสบการณ์หรือไม่มีเลย
ถ้าไม่มี, "บริษัทใหญ่ๆดีๆ" เค้ายังไม่รับคุณหรอกตอนนี้

จากคุณ : lovelypriest [14 ธ.ค. 55 04:13:33 ]
ความเห็นที่ 12

กดดันตัวเองเมื่อไหร่ชีวิตจบสิ้นเมื่อนั้น

บริษัทใหญ่ๆ ดีๆ

เพื่อนๆ ได้งานดีๆ กัน

จากคุณ : บทกวีแห่งรัก [14 ธ.ค. 55 10:59:24 ]
ความเห็นที่ 13

ขอเสนอด้วยคนค่ะ เป็นอาจารย์มหาลัย ได้ไหมคะ  อิอิ

เราเองเป็นคุณครูสอนเด็กมัธยมค่ะ  เงินเดือนแม้จะไม่มากมาย แต่ก็มีความสุขดีค่ะ มีเวลาว่าง  มีวันหยุดได้เที่ยว ได้อยู่กับครอบครัวด้วย

จากคุณ : ซอมภอ [14 ธ.ค. 55 11:21:44 ]
ความเห็นที่ 14

มันเป็นงานที่เกี่ยวเนื่องกับอันตราย เกี่ยวกับชีวิตคนหากมองสีผิดพลาด

เราเดานะ

พยายามหาสายงานที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตคน จะเลือกบริษัทใหญ่ๆยังไงก็ได้ค่ะ พยายามเข้า

จากคุณ : TinyPhoenix [14 ธ.ค. 55 12:25:47 ]
ความเห็นที่ 15

บริษัทใหญ่ๆ ฮ่าๆๆ  เรื่องมาก เงินใช่ว่าจะเยอะ การแข่งขันสูง

ถ้าน้องตาไม่บอดสีดำ

เบนสายไปงานระบบเลยน้องอย่างน้องนี่ไปสายงานออกแบบได้สบายเลย คำนวนน่าจะเก่งเพราะได้เกรดมาสูง

งานออกแบบคำนวนส่วนมากไม่ใช้สีใส่ในแบบ เพราะมันเปลือง ฮ่าๆๆ ส่วนมากใช้สีดำ
ถึงใส่ก็ตรวจสอบดูได้เพราะเป็นสัญลักษณ์

แต่ถ้าน้องไปอยู่หน้างาน ตาบอดสีอาจจะเป็นอุปสรรค์ได้ ( อาจจะนะ ) เพราะเราต้องอยู่กับสีตอนตรวจสอบงาน เช่น งานเข้าสายไฟฟ้า เป็นต้น

ตาบอดสีก็ทำงานช่างได้ แต่จะใช้วิธีการดูด้วยตาไม่ได้  ต้องใช้วิธีอ่านสัญลักษณ์ หรือใช้วิธีการวัดค่าเอา

แต่การดูด้วยตาจะเร็วสุด

ฝากไว้อีกอย่าง เราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เราเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อที่จะเอาชนะมันได้ ใจมันจะได้ไม่กลุ้ม

จากคุณ : สำราญ บานบุรี [14 ธ.ค. 55 12:42:43 ]
ความเห็นที่ 16

ผมก็ตาบอดสีครับ เห็นใจ จขกท. เหมือนกัน

ตอน ม.ปลาย ผมตั้งใจจะสอบเภสัช สอบหมอ แต่พอรู้ข้อจำกัด ก็ต้องทำใจครับ หาทางอื่นที่ตัวเองฝันอันดับรองลงมา  เลยมาเรียนบริหารฯ แทน

แนะนำเหมือน คห. 5 ครับ

สู้ๆ ครับ

จากคุณ : newsiwa [14 ธ.ค. 55 20:45:02 ]
ความเห็นที่ 17

งานไม่เกี่ยวกับสีเยอะแยะไปครับ

บริษัทเขาไม่รับ ก็หาทางทำกิจการตัวเอง เริ่มต้นเล็กๆ ของเราเลยครับ

แขนขา ยังดี ตาบอดสี ก็จริง แต่ก็ยังเห็นนี่ครับ กลัวอะไร

แต่ถ้าไม่สู้  ก็ต้องโทษตัวเองแล้วครับ

จากคุณ : ป้อม (Bgate) [15 ธ.ค. 55 01:15:15 ]
ความเห็นที่ 18

คุณเสือโหดครับ ผมบกพร่องทางร่างกาย ยังไม่ท้อเลย
มีคนแย่กว่าคุณอีกเยอะ ลองหาอะไรที่มันยังไม่ใหญ่ดูบ้างก็ได้นะครับ
สู้นะครับ

จากคุณ : วันอังคารที่สิบสอง [17 ธ.ค. 55 15:05:58 ]
ความเห็นที่ 19

เพื่อนผม มันใช้ จำสี ว่าสลับกันยังไง  พอตรวจ คุณก็จะปกติ นะครับ

จากคุณ : แมวรักแมว [18 ธ.ค. 55 14:47:38 ]