ยืม log in เพื่อนมา
ผมจบวิศวเครื่องกล จากมหาลัยที่คนส่วนใหญ่อยากเข้ามากที่สุดก้อว่าได้และ
จบมาก็เกรด3 กว่าๆ ตั้งใจเรียนมากกว่าจะได้มา เรียนก็ยาก
ยากกว่าการพยายามเพื่อให้ได้เข้าเรียนอีก สอบTOEIC ก็ 600 กว่าๆ
แต่จบมายังหางานบริษัทใหญ่ๆดีๆทำไม่ได้เลย ทั้งที่เพื่อนๆได้งานดีๆกันและ
ไม่ใช่สัมภาษณ์ไม่ผ่านนะคับ แต่ตรวจร่างกายไม่ผ่าน
เพราะผม "ตาบอดสีครับ" เก่งแค่ไหน ดีแค่ไหน ก็จบคับ
บอกตรงๆว่าเหนื่อยและท้อคับ เพราะผมไม่มีสิทธิต่อสู้หรือแก้ไข้อะไรได้เลย
ตอนนี้ก็คงได้แค่นอนหลับตาลง คิดไม่ออกจะทำไรต่อไป
รอให้มีกำลังใจค่อยมากันใหม่
ลองตัดคำว่า "บริษัทใหญ่ ๆ" ออกก็จะหาได้ง่ายกว่าเดิมครับ
จากคุณ : MAX [13 ธ.ค. 55 20:49:12 ]ลูกชาย และน้องชาย เราตาบอดสี
ลูกชายเรา6ขวบเอง เราคงต้องศึกษาอาชีพที่เป็นไปได้แต่เนิ่นๆ
เราไม่อยากให้เขาฝันไปไกล แล้วไปไม่ถึง
ส่วนคุณ เสือโหด คุณมาไกลขนาดนี้แล้ว สู้นะคะ
หมื่นทางตัน มีหนึ่งทางออกเสมอ
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ
จากคุณ : เนยนมน้ำตาล [13 ธ.ค. 55 21:07:50 ]เกรดดี ผมว่าหาทุนไปเรียนต่อดีกว่าครับ
ไม่ต้องรอให้คนอื่นให้โอกาส ต้องสร้างโอกาสด้วยตัวเองครับ
เหตุผลที่เฉินหลงต้องดังในฮ่องกงก่อน เพราะถ้าไปฮอลลีวูดเลยก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับเป็นตัวประกอบไหม
เมื่ออยู่ฮ่องกงดังเปรี้ยงปร้าง เดี๋ยวฮอลลีวูดก็จะวิ่งมาหาเค้าเอง
หวังว่าคงเข้าใจกับสิ่งที่บอกนะคะ สู้ๆค่ะ
จะกลับมาบอกอีกครั้งว่าไม่ใช่ความผิดคุณนะ
ตาบอดสี เป็นกรรมพันธ์
มองในแง่ดีนะคะ
ยังมีเด็กอีกหลายคนที่เกิดมาพิการ หูหนวกตาบอด ไม่สมประกอบ
ความโชคร้ายมีโชคดี คุณมีวันนี้แล้ว กลั้นใจอีกนิดนึง อย่าเพิ่งท้อ
ถ้าสาย วิศวเครื่องกล เป็นไปไม่ได้จริงๆ สำหรับคนตาบอดสี
ให้เบนสายนิดนึง หางานที่เป็นไปได้ ใกล้เคียงสายที่เรียนมาที่สุด และชอบด้วยนะ
ปัจจุบันนี้ตาบอดสี ยังไม่มีทางรักษา แต่คุณมีทางไปแน่นอน
อีกอย่างต่างประเทศมีการยอมรับคนตาบอดสีมากกว่าเมืองไทย
เช่นทำใบขับขี่ได้ ทำงานได้หลายสายมาก
ใจเย็นๆมองไกลๆ กว้างๆ
เราบอกลูกชายแบบนี้ตลอด
ตาบอดสี เราแก้ไขมันไม่ได้ แต่เราหาทางอยู่กับมัน และยอมรับมันได้
หนูไม่ผิดอะไรนะลูก ที่เกิดมาตาบอดสี
กรรมพันธ์ทางแม่ทำให้ลูกเกิดมาตาบอดสี แต่แม่ก็ดีใจที่ลูกมีความสามารถอื่นๆมากมายที่คนอื่่นไม่มี
ลูกต้องทำให้ความสามารถอื่นของลูก มันเด่น มันกลบ จนคนอื่นมองไม่เห็น ว่าลูกแตกต่าง
อยามองว่า บ. ใหญ่ๆ = งานดีๆ สิคะ
โอกาสมีมากมาย แต่ จขกท. มองข้ามไป
เพราะยึดติดความเชื่อ "บริษัทใหญ่ๆดีๆ"
การที่ จขกท. ตาบอดสี แล้วไม่ถูกรับเข้าทำงาน
อาจเป็นเพราะตำแหน่งงานนั้นๆ ต้องใช้สายตาพิจารณสีด้วยหรือเปล่าคะ
เราเคยได้งาน บ. ใหญ่ค่ะ
พูดไป เพื่อนๆก็รู้จัก แต่ทำได้ไม่นาน
ออกมาทำ บ. เล็กๆ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ มีความสุขและสนุกกับงานที่ทำ
ปล. เราจบม.มีชื่อ เกียรตินิยม ค่ะ อย่ายึดติดค่ะ ^^
ผมเพิ่งจบใหม่เหมือนกันครับ วิศว
แรกๆก็มองหาแต่บริษัทที่มีชื่อเสียง
อยากได้เงินเดือนเยอะ ๆ
ตอนนี้มาสนใจบริษัทเล็กๆ เงินเดือนน้อยกว่าที่ผมเรียกไป
แต่ที่ผมสนใจเพราะความเป็นกันเองของหัวหน้างาน
เขาสัมภาษณ์ผมผ่านโทรศัพท์ เขาบอกถ้าสนใจติดต่อกลับมาได้เลย ให้เวลาคิด
(ไม่ตรงสาย ผมจบวิศวะระบบควบคุม แต่งานเกี่ยวกับเครื่องกล ไกลบ้าน เงินเดือนให้น้อยกว่าที่เรียก แต่ปรับให้หลังผ่านโปร) ผมคิดอยู่ 2 วัน รอเผื่อมีบริษัทอื่นเรียกด้วย วันนี้ผมโทรกลับไป ผมชอบทัศนคติของหัวหน้างานมาก เป็นบริษัทเล็กๆแต่ดูอบอุ่น วันจันทร์นี้เข้าไปคุย หากพอใจก็ตกลงกันอีกที
ถ้าบริษัทนี้ผมได้เข้าไปทำงานแล้วเป็นอย่างที่บอกผมคงมีความสุขมาก ถึงแม้จะเงินน้อยกว่าที่อื่น แต่ที่อื่นที่ให้เงินมาก ผมไม่รู้จะมีความสุขกับการทำงานหรือเปล่า เขามีความสนใจเด็กที่จบจากสถาบันผมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และเขาบอกจะช่วยผลักดันผมขึ้นที่สูง
เป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรกที่ผมไม่กดดัน วันจันทร์นี้จะเป็นไงค่อยว่ากันอีกที
อยากจะลองเสนอแนะไว้หน่อยครับ บริษัทเล็กๆนี่จะดูมีความเป็นครอบครัวดีนะครับ ไม่รู้ถ้าไปบริษัทใหญ่ๆ จะเข้าอกเข้าใจเราหรือเปล่า หรือมองเราเป็นแค่ลูกจ้างกินเงินเดือนธรรมดาๆคนนึง
งานที่ว่าหายากแล้ว ผมว่างานที่มีเจ้านายที่ดีนี่หายากยิ่งกว่า
เพราะคุณไม่มีอะไร คุณถึงถูกปฏิเสธด้วยข้อจำกัดของร่างกาย
แต่หากคุณพิสูจน์ตัวเองได้จนความสามารถเป็นที่ยอมรับ ข้อจำกัดของร่างกายก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
คุณจบวิศวะ คุณน่าจะรู้จักคนที่ชื่อว่า สตีเฟน ฮอล์คกิง นะครับ
ลองสายการเงินไหมครับ ไม่น่าต้องกังวลตาบอดสี
ผมจบวิศวะจากมหาลัยที่คนทั่วโลกอยากเข้าครับ เกรียรตินิยมอันดับ 1 เช่นกันครับ แต่มาทำเป็น analyst สายการเงินบริษัทใหญ่ปานกลาง ก็ไม่มีตรวจตาบอดสีนะครับ มีหลายๆที่ครับที่ไม่รับคนตาบอดสี ลองดูครับ ชีวิตเรามีทางเลือกเสมอ อยู่ที่จะลองหรือไม่แค่นั้นเองครับ
ถ้าหางานบริษัท"ใหญ่ๆดีๆ"ที่คุณว่าทำไม่ได้ ชีวิตนี้ ไม่ต้องทำงานทั้งชีวิตเลยสิคุณ
เริ่มหางานมากี่เดือนแล้วล่ะ สามเดือนหรือสามปี มีประสบการณ์หรือไม่มีเลย
ถ้าไม่มี, "บริษัทใหญ่ๆดีๆ" เค้ายังไม่รับคุณหรอกตอนนี้
กดดันตัวเองเมื่อไหร่ชีวิตจบสิ้นเมื่อนั้น
บริษัทใหญ่ๆ ดีๆ
เพื่อนๆ ได้งานดีๆ กัน
ขอเสนอด้วยคนค่ะ เป็นอาจารย์มหาลัย ได้ไหมคะ อิอิ
เราเองเป็นคุณครูสอนเด็กมัธยมค่ะ เงินเดือนแม้จะไม่มากมาย แต่ก็มีความสุขดีค่ะ มีเวลาว่าง มีวันหยุดได้เที่ยว ได้อยู่กับครอบครัวด้วย
มันเป็นงานที่เกี่ยวเนื่องกับอันตราย เกี่ยวกับชีวิตคนหากมองสีผิดพลาด
เราเดานะ
พยายามหาสายงานที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตคน จะเลือกบริษัทใหญ่ๆยังไงก็ได้ค่ะ พยายามเข้า
บริษัทใหญ่ๆ ฮ่าๆๆ เรื่องมาก เงินใช่ว่าจะเยอะ การแข่งขันสูง
ถ้าน้องตาไม่บอดสีดำ
เบนสายไปงานระบบเลยน้องอย่างน้องนี่ไปสายงานออกแบบได้สบายเลย คำนวนน่าจะเก่งเพราะได้เกรดมาสูง
งานออกแบบคำนวนส่วนมากไม่ใช้สีใส่ในแบบ เพราะมันเปลือง ฮ่าๆๆ ส่วนมากใช้สีดำ
ถึงใส่ก็ตรวจสอบดูได้เพราะเป็นสัญลักษณ์
แต่ถ้าน้องไปอยู่หน้างาน ตาบอดสีอาจจะเป็นอุปสรรค์ได้ ( อาจจะนะ ) เพราะเราต้องอยู่กับสีตอนตรวจสอบงาน เช่น งานเข้าสายไฟฟ้า เป็นต้น
ตาบอดสีก็ทำงานช่างได้ แต่จะใช้วิธีการดูด้วยตาไม่ได้ ต้องใช้วิธีอ่านสัญลักษณ์ หรือใช้วิธีการวัดค่าเอา
แต่การดูด้วยตาจะเร็วสุด
ฝากไว้อีกอย่าง เราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เราเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อที่จะเอาชนะมันได้ ใจมันจะได้ไม่กลุ้ม
ผมก็ตาบอดสีครับ เห็นใจ จขกท. เหมือนกัน
ตอน ม.ปลาย ผมตั้งใจจะสอบเภสัช สอบหมอ แต่พอรู้ข้อจำกัด ก็ต้องทำใจครับ หาทางอื่นที่ตัวเองฝันอันดับรองลงมา เลยมาเรียนบริหารฯ แทน
แนะนำเหมือน คห. 5 ครับ
สู้ๆ ครับ
งานไม่เกี่ยวกับสีเยอะแยะไปครับ
บริษัทเขาไม่รับ ก็หาทางทำกิจการตัวเอง เริ่มต้นเล็กๆ ของเราเลยครับ
แขนขา ยังดี ตาบอดสี ก็จริง แต่ก็ยังเห็นนี่ครับ กลัวอะไร
แต่ถ้าไม่สู้ ก็ต้องโทษตัวเองแล้วครับ
คุณเสือโหดครับ ผมบกพร่องทางร่างกาย ยังไม่ท้อเลย
มีคนแย่กว่าคุณอีกเยอะ ลองหาอะไรที่มันยังไม่ใหญ่ดูบ้างก็ได้นะครับ
สู้นะครับ
เพื่อนผม มันใช้ จำสี ว่าสลับกันยังไง พอตรวจ คุณก็จะปกติ นะครับ
จากคุณ : แมวรักแมว [18 ธ.ค. 55 14:47:38 ]