โดย : ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล ผอ.ศูนย์เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอา
เซียน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
เลื่อน AEC ออกไป !...จะดีหรือ !
(ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล ผอ.ศูนย์เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน มหาวิทยาลัย
ธุรกิจบัณฑิตย์)
จากข่าวผลการสำรวจของสำนักโพลแห่งหนึ่งถึงความพร้อมในการปรับตัวของผู้ส่ง
ออกเอสเอ็มอี (SMEs) ไทย เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN
Economic Community : AEC) ที่ระบุว่า มีผู้ประกอบการถึงร้อยละ 60 ของ SMEs
ไทยจากทั้งหมด 2.9 ล้านราย ยังไม่มีการปรับตัวเพื่อรองรับ AEC แต่อย่างใด โดย
ประมาณร้อยละ 42 รอการช่วยเหลือจากภาครัฐ เกือบร้อยละ 30 ระบุว่า ไม่ทราบ
ข้อมูล และต้องการข้อมูลที่ชัดเจนที่เกี่ยวข้องกับ AEC มีเพียง ผู้ประกอบการประมาณ
ร้อยละ 7 เท่านั้นที่ยืนยันว่าได้มีการปรับตัวเพื่อรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
แล้ว และส่วนท้ายของข่าวรายงานว่านักวิชาการที่สำรวจสนับสนุนให้มีการเลื่อนการ
รวมตัวเป็น AEC ออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการปรับตัว
ลองมาพิจารณาดู ว่าหากมีการเลื่อนการรวมตัวเป็น AEC ออกไป จะเกิดผลกระทบ
ทางบวกและทางลบอย่างไรบ้าง ขอเริ่มที่ผลกระทบทางลบก่อน
1. หากประเทศไทยแสดงเจตจานงขอเลื่อนการรวมตัวเป็น AEC ออกไป ในขณะที่
อีก 9 ประเทศสมาชิกที่เหลือยังยืนยันเจตนารมณ์เดิม ประเทศไทยย่อมเสียเปรียบใน
หลายมิติอย่างแน่นอน เช่น สูญเสียโอกาสทางการตลาดในอาเซียน เป็นต้น และที่
สำคัญเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนให้ประเทศสมาชิกอื่น ๆ ต่างรับรู้ว่าประเทศไทยนั้นยัง
ไม่มีความพร้อมในการปรับตัวเอาเสียเลย จริงอยู่ที่ประเทศที่มีความแข็งแกร่งทาง
เศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเมืองในระดับที่สูงกว่าในอดีต ก็น่าจะมีระดับของ
ความพร้อมในการปรับตัวมากกว่าประเทศอื่น แต่ในความเป็นจริง หลายสถานการณ์ที่
เกิดขึ้นส่งผลให้เชื่อได้ว่าระดับความพร้อมในการปรับตัวของผู้ประกอบการ SMEs
ของแต่ละประเทศในอาเซียนนั้น ไม่น่าแตกต่างกันมากนัก
ยิ่งกว่านั้นไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้ประกอบการ SMEs ของกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา
ลาว พม่า และเวียดนาม) จะสามารถปรับตัวและสร้างความพร้อมเพื่อรองรับ AEC ได้ดี
กว่าผู้ประกอบการ SMEs ไทยอย่างมีนัย ซึ่งกลุ่มประเทศ CLMV ไม่เคยแสดงเจต
จำนงของการเลื่อนการรวมตัวเป็น AEC ออกไปเลย ในทางกลับกันกลับแสดงเจต
จำนงขอเลื่อนการเข้าเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Community : AC) เร็วขึ้นจาก
ปี พ.ศ. 2563 เป็น พ.ศ. 2558 เสียด้วยซ้ำ เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้มองเห็นโอกาส
และผลประโยชน์มหาศาลของการเป็นประชาคมอาเซียนโดยแท้
T 1
จากคุณ : ลุงแอ็ด [13 ธ.ค. 55 21:23:10 ]T 2
จากคุณ : ลุงแอ็ด [13 ธ.ค. 55 21:24:30 ]2. จากผลการสำรวจ รวมไปถึงข้อเสนอของการเลื่อนการรวมตัวเป็น AEC ออกไป ทำ
ให้เห็นได้ชัดเจนว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยยังเข้าใจ AEC อย่างคลาดเคลื่อนและไม่
ถูกต้องนัก แท้จริงแล้วองค์ประกอบส่วนหนึ่งของ AEC คือเขตการค้าเสรีอาเซียน
(AFTA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 กรอบการตกลงด้านการค้าบริการ
(AFAS) เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ความตกลงเขตการลงทุนอาเซียน (AIA)
มีผลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 รวมไปถึงธุรกิจบริการอย่าง สาขาบริการด้านคอมพิวเตอร์
โทรคมนาคม และธุรกิจท่องเที่ยวและสุขภาพ มีผลภายใต้กรอบ AEC ตั้งแต่ปี พ.ศ.
2553
จะเห็นได้ว่าส่วนหนึ่งของสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามข้อตกลงของ AEC มีผลบังคับใช้
เรียบร้อยแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่ง ประเทศไทยกำลังเดินอยู่บนถนน AEC หาได้ก้าวเข้า
สู่ AEC อย่างที่เข้าใจ แต่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนหรือ AC
ต่างหาก และนี่คือที่มาของความจำเป็นของคนไทยที่ต้องรู้จักปรับตัวเพื่อรองรับ AC
ที่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้น การเลื่อนการรวมตัวเป็น AEC ออกไป ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เกิด
ขึ้นได้เลย และข้อเสนอดังกล่าวดูจะสร้างความสับสน และความเข้าใจผิดเพิ่มขึ้นใน
สังคมไทยอย่างมาก
T 3
จากคุณ : ลุงแอ็ด [13 ธ.ค. 55 21:27:40 ]T 4
จากคุณ : ลุงแอ็ด [13 ธ.ค. 55 21:28:35 ]3. หากมีการเลื่อนการรวมตัวเป็น AEC ออกไปอีก 1 ปีจริงตามข้อเสนอ ก็ไม่มีสิ่งใดจะ
ยืนยันได้ว่าอีก 1 ปีข้างหน้านั้น ผู้ประกอบการ SMEs ไทย จะมีการปรับตัวจนมีระดับ
ความพร้อมเพียงพอ และที่สำคัญต้องทาความเข้าใจว่า วันที่ 1 มกราคม 2558 ซึ่ง
เป็นวันแรกของการเป็นประชาคมอาเซียน และเป็นวันเริ่มต้นที่แต่ละประเทศจะต้อง
ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอีกหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้สอดรับและเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ของประชาคมอาเซียน
สหภาพยุโรปถือเป็นอีกหนึ่งแม่แบบของการรวมตัวทางเศรษฐกิจในรูปแบบประชาคม
กำเนิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2535 จวบจนวันนี้ผ่านไปกว่า 20 ปี แต่ละประเทศ
สมาชิกในสหภาพยุโรปยังคงต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงในอีกหลาย ๆ ด้านเพื่อบรรลุ
ตามวัตถุประสงค์ของการรวมตัวเป็นสหภาพยุโรป
ดังนั้น แต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนจึงควรเริ่มปรับตัวเพื่อสร้างความพร้อมเสียแต่
วันนี้ และให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต แต่หากยังคงเลื่อนการรวมตัวออกไป
ย่อมไม่ส่งผลดีต่อภูมิภาคนี้เป็นแน่
ผลกระทบทางบวกของการเลื่อนการรวมตัวเป็น AEC ออกไป ดูเหมือนจะมีอยู่เพียง
ประการเดียว คือมีระยะเวลาเพิ่มขึ้นสำหรับการปรับตัวเพื่อสร้างความพร้อม หากแต่
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่มีสิ่งใดยืนยันว่าการเลื่อนการรวมตัวออกไป จะส่งผลให้
ระดับความพร้อมของผู้ประกอบการ SMEs ไทยเพิ่มสูงขึ้นจริง และที่สำคัญต้องคำนึง
ว่านโยบายการรวมตัวทางเศรษฐกิจ อย่างการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนนั้น เป็น
นโยบายระดับภูมิภาค
กล่าวคือ วัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ รวมถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาค
จากนโยบายนี้ จะสัมฤทธิ์ผลได้จำต้องได้รับความร่วมไม้ร่วมมือจากผู้บริหารประเทศ
ที่เป็นสมาชิก ผู้ที่จะร่วมกำหนดทิศทาง รวมไปถึงมาตรการต่าง ๆ คือ ผู้นำของแต่ละ
ประเทศสมาชิก หาใช่เป็นนโยบายระดับประเทศอย่างนโยบายคืนภาษีรถคันแรก
นโยบายรับจำนำข้าว ฯลฯ ที่ผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบโดยตรง
ภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งผู้บริหารประเทศมีอำนาจโดยตรงในการตัดสินใจออก
มาตรการต่าง ๆ
จึงกล่าวได้ว่าคนไทยทุกภาคส่วนจำต้องเดินหน้าในการปรับตัวเพื่อสร้างความพร้อม
สำหรับการเป็นประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้น ภาครัฐต้องให้ความรู้ ความเข้าใจ
ทั้งข้อมูลสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ รวมไปถึงผลกระทบต่าง ๆ จากการเป็นประชาคม
อาเซียน ให้กับภาคเอกชนในขณะที่ภาคเอกชนก็ต้องเปิดใจยอมรับกับการปรับตัว
และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้
ภาคส่วนวิชาการเองก็มีความสำคัญในการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องใน
เรื่องประชาคมอาเซียน ไม่สร้างความสับสนหรือนำไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนให้
กับสังคม ทั้งนี้ เพราะประชาคมอาเซียนคือ ความยืดหยุ่นในการปรับตัวของแต่ละ
ประเทศสมาชิก ถ้าประเทศใดมีระดับความพร้อมยืดหยุ่นในการปรับตัวสูง ประชาคม
อาเซียนจะคือโอกาสในการได้รับผลประโยชน์มหาศาลของประเทศนั้น แต่หาก
ประเทศใดมีระดับความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่ำ โอกาสอันดีก็จะถูกแปรเปลี่ยนเป็น
วิกฤตนั่นเอง (ประชาชาติธุรกิจ)
AEC New Alerts
ข่าวประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2555
T 5
จากคุณ : ลุงแอ็ด [13 ธ.ค. 55 21:32:12 ]ผมว่าดีนะครับ ส่วนตัวแล้วคิดว่า เด็ก ๆ ในประเทศเรายังไม่พร้อมรับมือกับประชาคมอาเซียน ที่อยู่ดี ๆ จะมีแรงงานจากต่างประเทศเ้ขามาเพิ่มในตลาดแรงงานที่ต้องแข่งขันกันอย่างสูงมาก ๆ หรอกครับ
ถ้าจะให้ดี สำหรับประเทศเราเนี่ยผมว่าเลื่อนไปอีกซัก 2-3 ปี เลย อาจจะดีกว่าก็เป็นไปได้ครับ
เลื่อนเท่าไหร่ก็ไม่มีหรอกคำว่าพร้อม ได้แต่ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย
ของอย่างนี้ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา
สวัสดีครับ.. พวกเราได้เคยนำเรื่องนี้เข้ามาคุยกันในเรื่องกลุ่ม Supply Chain Management กลุ่มหนึ่ง.. มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า..
- ถ้าเปิดบางด้าน..และบางด้านปิดอยู่.. ต่างชาติ..ก็รอที่จะขย้ำเราทันที..เพราะมองเห็นจุดอ่อนว่าจะได้เปรียบจากประเทศเราอย่างไร..
- ถ้าเลื่อนออกไปทั้งหมด.. ถือเป็นเรื่องที่ดี..เพราะประเทศเราเองก็ยังไม่ได้พร้อมสักเท่าไหร่.. แต่ตอนนี้ก็มีภาคเอกชนหลายๆภาค..ทึ่จะทำการเตรียม การเรียนการสอน การฝีกอบรม..เพื่อให้คนของเราพร้อมรับ AEC
ก็คงต้องยอมรับความจริงน่ะครับ..ประเทศเราไม่ตื่นตัวเท่าไหร่..โดยเฉพาะภาครัฐ.. ตอนนี้เมื่อเลื่อนออกไป..ก็เป็นสิ่งที่ดี..ถ้าภาครัฐไม่ทำ..ภาคเอกชนบางกลุ่ม..ก็จะทำหน้าที่เตรียมความพร้อมให้กับบุลากรในวงการเองล่ะครับ.โดยเฉพาะใเนรื่องของการเรียนการสอนด้าน Supply Chain Management น่ะครับ.. แต่ดีที่สุดก็ต้องให้ภาครัฐสนับสนุนครับ.. เดินไปด้วยกัน...จะทำให้สำเร็จได้ง่าย ได้เร็ว และได้ผลในวงกว้าง..ที่ผ่านมาเฉื่อยชาไปมากๆ ตอนนี้ถ้าเร่งก็น่าจะทันครับ...