กระทู้นี้ไม่มีกั้ก ไม่มีหมดเม็ด แชร์ไอเดียธุรกิจ ที่ใครมีแรงมีทุนก็เอาไปทำให้รวยเลย

จากที่มาสิงสถิตย์อยู่ในห้องสีลม มานาน กระทู้ที่เห็นบ่อยสุดน่าจะเป็น "ไม่รู้จะทำอะไรดี"

กระทู้นี้ไม่ใช่เป็นการโชว์พาว หรืออะไรที่น่าหมั่นไส้นะครับ เพราะเริ่มจากตัวผมเองทำงานประจำ  
ยังไม่รวย หนี้สิ้นล้นพ้นตัว วันๆนึงเข้าห้องสีลมไม่รู้กี่รอบ อยากจะรวยอยากมี
คิดแต่เรื่องจะทำมาหากินอะไรดี ไอเดียอะไรต่อมิอะไรเต็มหัวไปหมด
แต่ไม่ได้ทำสักที มีแต่คิดๆๆ แต่ไม่ได้ทำ กลัวตายไปสิ่งที่คิดไว้มันจะไร้ประโยชน์
เลยขอระบายออกที่กระทู้นี้เลยละกัน หัวจะได้โล่งๆหน่อย

เลยขอตั้งกระทู้นี้สำหรับคนที่ยังไม่มีไอเดียธุรกิจ ไม่รู้ว่าจะทำอะไร
หรือมีไอเดียแล้วแต่ยังติดขัดเรื่องต่างๆ หรือมีบริการสินค้าแบบไหน
ที่คุณคิดว่าน่าจะมี น่าสนใจ ดีกว่าเก็บไว้กับตัวแล้วไม่ได้ทำ จดๆใส่กระดาษไว้ ก็กลายเป็นขยะหมด
จนวันนึงเราก็หลงลืมไอเดียนั้นไปอย่างน่าเสียดาย เราทำไม่ได้ ให้คนอื่นทำให้รวยไปเลย
ลองมาแชร์กันให้รู้แล้วรู้รอดไป

หรือเอาแค่

ผม/ฉันอยากให้มี ......(เติมคำในช่องว่าง)...

ก็ได้ครับ

จากคุณ : rabbit full armor [14 ธ.ค. 55 00:37:57 ]
ความเห็นที่ 1

ไอเดีย
ขายข้าวแกงแบบ ขายส่ง

ที่มา
เริ่มต้นจากอยากขายข้าวแกง แต่ทำกับข้าวไม่เป็น การทำอาหารเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องเตรียมซื้อของ ต้องผลิตอาหาร ทำแล้วของเหลือขาดทุนอีก แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

ทำยังไง คิดเอาเองว่าถ้ามีคนทำ ข้าวแกง ประมาณ 15-20 เมนูต่อวัน ไม่ต้องมีหน้าร้าน
ทำประมาณเป็นถุง ถุงนึงประมาณหนึ่งหม้อพอดี ลูกค้าเลือกซื้อขั้นต่ำๆ 10 เมนูต่อวันเพื่อเอาไปขายต่อ ถ้าทำบริมาณมาก ต้นทุนวัตถุดิบจะถูกลง คิดกำไร + ค่าแรงเป็นเปอร์เซนต์ เน้นวอลลุ่ม
ให้ลูกค้าขายต่อได้กำไร เกิน10% ขึ้นไป

รายได้ คิดคร่าวๆ เอาง่ายๆ ว่าได้กำไรหักต้นทุนแล้วประมาณถุงละ 100 บาท มีลูกค้าซื้อ 5 เจ้า ๆ ละ 15 ถุง = 15 ถุง X 100 บาท = 1500 บาท X ลูกค้า 5 เจ้า =7500 บาทต่อวัน x30 วันก็ 225000 บาท


หัวผมเริ่มโล่งไปหน่อยแล้ว เดี๋ยวมาต่อครับ

จากคุณ : rabbit full armor [14 ธ.ค. 55 00:39:21 ]
ความเห็นที่ 2

ไอเดีย ขายซัพพอร์ดคอม แบบประกัน

ที่มา คอมพังบ่อย ซ่อมเองไม่เป็น ต้องยกไปร้านเสียเวลา

ทำอย่างไร ขายบริการคอมแบบสมาชิกรายปีไปเลย ซ่อม ดูแลรักษา เปลี่ยนอุปกรณ์ แก้ปัญหาจุกจิกให้กับลูกค้า
แบบไม่จำกัด มีคอมใช้ทดแทนระหว่างซ่อม ให้ยืมอุปกรณ์บางอย่างได้ด้วย แบบพวกบัตรดีลนั้นแหละครับ

รายได้ ค่าสมาชิกที่น่าจะจ่ายได้ อยู่ที่ 2000-2500 บาทต่อปี ลูกค้าจ่ายเงินก่อนได้ใช้บริการ helpdesk
ลูกค้าน่าใช้บริการประมาณเดือนละ 1 ปัญหา ถ้าหาสมาชิกได้ สัก 100 คน ก็ 300 ปัญหาต่อเดือน
หาร 30 วันก็เท่ากับค่าเฉลี่ยที่ 10 ปัญหาต่อวัน helpdesk 2 คนก็ดูแลได้แล้วครับ
ก็คิดแบบชุ่ยๆ ว่า 2000 บาท x 100 = 200000 ปี นี่หาสมาชิกเดือนละ 8 คนนะครับ ถ้าหาสมาชิกได้มากกว่านี้ ก็ไปคิด คูณ คิดหารกันเอาเอง

ยังมีอีกครับ

จากคุณ : rabbit full armor [14 ธ.ค. 55 01:04:24 ]
ความเห็นที่ 3

gj

จากคุณ : gjgjg [14 ธ.ค. 55 01:17:53 ]A:124.121.33.180 X: TicketID:385282
ความเห็นที่ 4

อีกสักอันครับ

อยากให้มี การขนส่งพัสดุสินค้า ที่สามรถถึงลูกค้าภายใน 2 ชั่วโมง
ที่มา จากการขายของในเนท มีปัญหาเรื่องการส่งสินค้าทั้งลูกค้าและพ่อค้าบ่อยๆ

คร่าวๆนะครับ เริ่มง่วงแล้ว
มีศูนย์ส่งกระจายแบบใยแมงมุม เช่นตามห้างซุปเปอร์ ต่างๆ รับส่งพัสดุเป็นทอดๆไป
(นึกถึงการส่งพิซ่า) ผมว่าถ้า 2 ชม ราคาไม่เกิน 200 บาทลูกค้ารับได้ครับ

จากคุณ : rabbit full armor [14 ธ.ค. 55 01:35:24 ]
ความเห็นที่ 5

ขอมาเก็บข้อมูลนะครับ เผื่ออาจจะมีบางอันที่น่าสนใจ เพราะในสมองยังว่างเปล่าอยู่เลย ยังไม่รู้ว่ายังจะทำอะไรที่ลงทุนไม่สูง

จากคุณ : LonelyLife [14 ธ.ค. 55 02:54:20 ]
ความเห็นที่ 6

อ่า รออยู่นะคะ มีต่อมั้ยค้าาาา

จากคุณ : Gracey_DT [14 ธ.ค. 55 04:17:03 ]
ความเห็นที่ 7

ขอแชร์ด้วยค่ะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ  ผิดถูกยังไงอย่าว่ากันนะคะ

เร่ื่องข้าวแกง ตอนนี้มีทำอยู่แล้วหลายที่เลยค่ะ ^_^ แต่ถ้าทำกับข้าวโอเคก็น่าทำนะ เพราะไม่ต้องเสี่ยง มีคนสั่งก็ทำส่งแค่นั้น

ซ่อมคอม เราว่าไม่เวิร์ค เพราะบางคนที่ไม่เป็นก็ไม่เป็นเลยจริงๆ และบางทีบอกวิธีให้ทำตามก็ยังทำไม่เป็น คนกลุ่มนี้แหละที่จะซื้อบริการ ถ้าออนไซท์ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็สูง ส่วนคนที่พอเป็นเค้าจะไม่ซื้อเหมาตายปีเค้าจะอยากเสียเป็นครั้งๆมากกว่า
เรื่องส่งสินค้า ปัจจุบันก็มีบริการ messenger อยู่แล้วนะคะตามรัานไปรษณีย์เอกชน

จากคุณ : JaE-Ny ThE PiG [14 ธ.ค. 55 09:37:04 ]
ความเห็นที่ 8

เรื่องคอม มีทำมานานแล้วครับ

ส่วนใหญ่ จะเข้าตามหน่วยงานราชการ หรือไม่ก็มหาวิทยาลัย

เดียวนี้ใช้ระบบเช่ากันทั้งนั้น

3 ปี 5 ปี ว่าไป คอมเสีย ส่งเครื่องอื่มมาแทน ครบกำหนด โละทิ้ง สั่งสเป๊กใหม่ ดีๆมาแทน

เป็นแบบนี้นานแล้วครับ น่าจะเป็น 10 ปีได้แล้วตั้งแต่สมัยผมเรียนแล้ว

ที่ ม. ไม่มีการซื้อคอมของตัวเองเลย ใช้วิธีนี้ทั้งนั้น เช่า ครับ เสียส่งคืน บ. ส่งเครื่องสำรองมาแทน ครบกำหนด โละอย่างเดียว ส่งคืน บริษัทหมด

เป็นมานานแล้ว แต่ตามบ้านยังไม่มีนะครับ

คงเป็นเพราะไม่คุ้ม เพราะแบบนี้ ค่าเช่าถือว่าแพงกว่าเยอะ เผลอๆจะพอๆกับการซื้อเครื่องเลย

แต่ดีตรงที่ถ้าเป็น ม. จะได้ไม่ต้องมีเรื่องการจำหน่ายครุภัณฑ์ นะครับ

ถ้าใช้ตามบ้าน คงไม่ดี คงไม่มีลูกค้าเท่าไร แถมจัดการยาก เพราะลูกค้ากระจายเกิน

แต่ถ้าลองปรับมาใช้กับร้านเน็ต ก็ไม่แน่

จากคุณ : Miracle Boy [14 ธ.ค. 55 10:00:25 ]
ความเห็นที่ 9

ปุกหมุดเก็บความรู้

จากคุณ : คุณหนูผลไม้รูปไข่ [14 ธ.ค. 55 10:17:07 ]
ความเห็นที่ 10

ทำกิจการอะไรก็ตามเมื่อมีตลาดรองรับ ถ้าเก็บรายละเอียดต้นทุนทุกอย่างแปลงเป็น
รายได้เพิ่ม ลดต้นทุนการดำเนินการให้ต่ำที่สุด ทุกอย่างสามารถทำเป็นอาชีพได้ึครับ
เช่นตัวอย่างการหาเงินและรายได้เพิ่ม สำหรับเกษตรกรหรือผู้มีพื้นที่เพื่อการเกษตร
ไอเดียเลี้ยงไก่ไข่ 300 ตัว เสริมเพิ่มรายได้หรือให้ได้กำไรสุทธิ 15,000 บาท/เดือน
โดยใช้พื้นที่ประมาณ 300 ตรม.เลี้ยงแบบกึ่งขังกึ่งปล่อย ใช้เงินลงทุนปะรมาณ 3 หมื่น
บาท และต้นทุนเครื่องจักรในการอัดมูลไก่ 4 หมื่นบาท รวมเงินลงทุึนประมาณ 7 หมื่น
บาท-1 แสนบาท จัดการโดยทำงบประมาณดังนี้
งบประมาณรายรับ
-ขายไข่ได้วันละ 240 ฟองๆละ 2.50-3.00 บาท/ฟอง (80%ของแม่ไก่) เป็นเงิน
600-700 บาท/วัน
-ขายมูลไก่อัดเม็ด 300 กก./วัน ราคาขายส่ง 4 บาท/กก. เป็นเงิน 1,200 บาท/วัน
งบประมาณรายจ่าย
-ต้นทุนค่าพันธุ์ลูกไก่ไข่ 15 บาท/ตัว =4,500 บาท
-ต้นทุนเลี้ยง 1วัน-18 สป. (ค่าอาหาร+การจัดการ) =80 บาท/ตัว (24,000 บาท)
รวมต้นทุนการเลี้ยงลูกไก่จนถึงไก่สาว = 28,500 บาท +สูญเสีย 3%= 29,355 บาท

วิธีการจัดการทั่วไป เพื่อให้ได้งบประมาณกำไร 15,000-20,000 บาท/เดือน
-ใช้วัสดุปูพื้นหนา 2-3 ซม. อาจใช้ทรายละเอียดหรือยิปซั่มจากโรงงานที่ไม่ใช่แล้ว
ซับขี้ไก่+แอมโมเนีย อย่าใช้แกลบเนื่องจากอาจมีเชื้อไข้หวัดนกปะปนมากับแกลบ
-ให้อาหารไก่+น้ำ โดยใช้อุปกรณ์ระบบอัตโนมัติ (ลดแรงงานคน) ค่าอาหารไก่
ประมาณ 1.50 บาท/ตัว/วัน = 450-500 บาท/วัน (12,500-15,000 บาท/เดือน)
-หลังจากเริ่มให้ไข่ ได้ประมาณ 80% ขายไข่ตามราคาตลาด 2.50-3.00 บาท/ฟอง
-เริ่มเข้าเดือนที่ 5 นำขี้ไก่+วัสดุรองพื้น นำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยวิธีการ
อัดเม็ดให้ได้วันละ 300 กก. ขายส่งราคา 4 บาท/กก. ได้เงิน 1,200 บาท/วัน
มีต้นทุนค่าวัตถุดิบและการดำเนินการ 2 บาท/กก. คงเหลือกำไรสุทธิ 2 บาท/กก./วัน

สรุป งบประมาณรายรับ จากการขายไข่ไก่/วัน+มูลไก่อัดเม็ด = 1,800-1,900 บาท/วัน
งบประมาณรายจ่าย ค่าอาหารไก่+การจัดการ+ต้นทุนค่าเสียโอกาส = 600-700 บาท/วัน
ต้นทุนค่าแปรรูปผลิตภัณฑ์มูลไก่อัดเม็ด = 600-700 บาท/วัน (รวมต้นทุน 1,200-1,400
บาท/วัน)
งบประมาณกำไร= รายได้ที่เป็นตัวเงินประมาณ 600-700 บาท/วัน และได้ความสุขในการ
ทำกิจกรรมแต่ละวันด้วยครับ

จากคุณ : หัวใจจากท้องทะเล [14 ธ.ค. 55 10:27:42 ]
ความเห็นที่ 11

เอ่อ...ไม่รู้จะเป็นไอเดียรึป่าว แต่แค่สงสัยคับ ว่าทำไมมีแต่บะหมี่เกี๊ยวที่ชอบเข้ามาขายในหมู่บ้าน ทำไมไม่มีพวก ก๊วยเตี๋ยวเป็ด, ราดหน้า, ผัดซีอิ๊ว, อาหารตามสั่ง ทำเป็นรถเข้ามาขายบ้าง? ข้าวมันไก่ หรือ ข้าวหมูแดงก็ได้ เอ้า (ผมไม่ชอบกินบะหมี่เกี๊ยวอ่ะ)

จากคุณ : Batman76 [14 ธ.ค. 55 11:49:51 ]
ความเห็นที่ 12

อยากให้มี ล็อคเกอร์ที่ฝากของ ,กระเป๋า + ห้องน้ำ ตามสถานีรถไฟฟ้า ทำไมบ้านเราไม่มีก็ไม่รู้  แล้วก็ที่รับฝากรถจักรยาน ตามสถานีรถไฟฟ้า คนจะได้ลดการใช้รถยนต์ลง

จากคุณ : -zzz- [14 ธ.ค. 55 12:46:50 ]
ความเห็นที่ 13

#12 เห็นด้วยค่ะ ที่ก็เหลือเยอะแยะ

จากคุณ : JaE-Ny ThE PiG [14 ธ.ค. 55 13:33:05 ]
ความเห็นที่ 14

ตอบคุณ rabbit (จขกท) รู้สึกว่า ไอเดีย ข้าวแกงแบบdelivery มีคนทำแล้วนะคะ หลายราย ตอนนี้ที่รู้จักก้อ "mymommade.in.th" และ "ข้าวหมูทอดเจ้จง " ค่ะ
เอามาแชร์กันเฉยๆ ค่ะ

จากคุณ : สาวใสใจซื่อ [14 ธ.ค. 55 15:19:36 ]
ความเห็นที่ 15

มีร้านรับซักผ้าแบบดิลิเวอรี่แล้วอยากให้มี ร้านรับซ่อมผ้า แก้ทรงเสื้อผ้า แบบรับส่งมั้งอะ
เพราะเดี่ยวนี้หาร้านที่ทำดีๆยากมาก บางที่ดีแต่อยู่ไกลไม่สะดวก

จากคุณ : brandsnew_vvs1 [14 ธ.ค. 55 15:46:32 ]
ความเห็นที่ 16

ึคุณBatman76 แถวบ้านเรา บางบัวทอง


มีส้มตำรถรถมอร์เตอร์ไซค์พ่วงหลายคัน คนกลุ่มเดียวกัน แต่กระจายกันขายคนละเส้นทาง, ไอติมกะทิบุฟเฟต์รถมอร์เตอร์ไซค์พ่วง  ทำเป็นครอบครัว แยกกันขายคนละจุด
แล้วยังมี
ขนมจีบซาลาเปารถกระบะ, กุ่ยช่ายตลาดพลู, มีเป็ดพะโล้ด้วย มาถึงก็เป็ดพะโล้มาแล้วครับเป็ดพะโล้ ( แต่เราไม่กินเป็ด เหอะๆๆ ), รวมถึงรถขายกับข้าวผักสดอีกหลายคัน ฯลฯ

ส่วนซาเล้งบะหมี่เกี๊ยว  จริงๆ มีเส้นอื่นด้วยนะคะ เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมู เราชอบนะ แต่นานๆ กินที เขาเจียวกระเทียมกับกากหมูได้หอมน่ากินมาก



ส่วนอะไรผัดๆ คิดว่าทำยาก วงสวิงการผัด ต้องใช้ระดับนึง แล้วต้องล้างกระทะ ซึ่งน้ำหายาก  ส่วนก๋วยเตี๋ยว เขาลวกๆ น้ำหม้อเดียว ( ๒ ช่อง  น้ำซุป กับ ลวก ) ประหยัดพื้นที่ขายแล้วเก็บชามกลับไปล้างบ้านทีเดียว
ลองคิดดูตามสั่ง พอมีคนเรียก ต้องจอดรถ ลงไปผัด ผัดเสร็จ อีกคนสั่งอีกอย่าง ต้องล้างกระทะ ล้างไม่สะอาด เดี๋ยวคนไม่กินอีก ซึ่งไม่น่าจะคุ้มกัน



นอกเรื่องค้าขาย อยากให้มีที่จอดจักรยานแถวบ้านเหมือนกัน เหมือนเป็นสวัสดิการสังคม

จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก [14 ธ.ค. 55 16:03:57 ]
ความเห็นที่ 17

เก็บด้วยครับ ยังไม่มีอะไรในหัวเลย

จากคุณ : Starfight [14 ธ.ค. 55 16:13:41 ]
ความเห็นที่ 18

ต่อครับ

ร้านรับฝากขายของ
เหมือนร้านค้า ดอทคอมทั้งหลาย นั้นแหละ แต่อยากให้มีที่มีหน้าร้านจริงๆ ให้เช่าพื้นที่ชั้นวางของ เป็นรายเดือน มีโปรโมชั้นทุกอาทิตย์ อยู่ในห้างได้ยิ่งดี

จากคุณ : rabbit full armor [14 ธ.ค. 55 16:23:03 ]
ความเห็นที่ 19

อยากเปลี่ยนพวงมาลัย มะม่วงเหี่ยว ขนมไข่หงส์ไข่ห่านตามสี่แยก เป็นข้าวกล่อง ข้าวไข่เจียว ผัดไทย หมี่ผัดแบบกล่องละสิบบาท สิบห้าบาทรองท้อง คือเวลารถติดแล้วหิวอ่ะ ยิ่งถ้าติดยาวแบบแยกอโศกนะขอสองกล่องเลย

จากคุณ : Luna is da Moon (Luna is da Moon) [14 ธ.ค. 55 16:50:52 ]
ความเห็นที่ 20

สมัยยังไม่มี เนท เคยคิด รับจ้างหาข้อมูลตามห้องสมุด ต่างๆ

ผมคิดกางเกงในกำจัดกลิ่นตด ก่อนที่ญี่ปุ่นจะคิดอีก เพราะเจอปัญหาเพื่อนตดกลิ่นเหม็นมาก

ตอนนี้อยากเปิดบริษัท รับจ้างทำนา เพราะเห็นคนมาทำงาน กทม มีที่นาเยอะ แต่ไม่มีเวลาไปทำ ใช้เขาเช่าทำ

จากคุณ : แมวสีเทา [14 ธ.ค. 55 17:47:13 ]
ความเห็นที่ 21

เรื่องทำนาเห็นด้วยครับ ผมยังหาที่นาอยุ่เลย..

แต่ไม่ควรทำในแหล่งเดิมๆ

ภาคใต้บางจังหวัด...ที่ผลิตข้าวไม่ได้เองหรือมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวน้อย..เช่น พังงา กระบี่ บางอำเภอก็น่าทำครับ ถ้าเป็นนครศรีหรือพัทลุง ก็ไม่ต้องไปทำหรอก..

สิ่งที่คุณจะได้คือ...

1. ไม่ต้องหาตลาด สีข้าวออกมาแล้วก็ลงกระสอบหรือแพคถุงขายที่บ้านหละ
2. ไม่ต้องขนส่งออกนอกพื้นที่ ลดค่าน้ำมันค่าการตลาดไปอีกแทบจะ 100%
3. เรื่องจากในพื้นที่ไม่ค้่อยมีแล้ว .. มีแต่สวนยาง สวนปาล์ม..เป็นหลัก อนาคตต่อยอดเอานักเรียนไปศึกษากิจกรรมได้อีก...
ถ้ามีการทำแปลงนาแบบย้อนยุคไปด้วย...นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ชอบนะครับ..

สิ่งที่คุณจะไม่ได้หรือทำได้ยากหน่อยคือ
1. ปกติเรื่องเงินกู้ธนาคารคงไม่เล่นด้วย จุดคุ้มทุนคง 10 ปีขึ้นไป(มั๊ง) ทำโรงงานยังได้กลับเร็วกว่า
แต่ด้วยแนวโน้มราคาข้าวสารในตอนนี้..จุดคุ้มทุนน่าจะเหลือ 7 ปี.. ธนาคารอาจจะสน..
2. ทำนาแบบเดิมๆต้องใช้พื้นที่เยอะ ถ้าลดต้นทุนแรงงาน..จะเอาให้ Cover ค่าเครื่องจักรไปด้วยอาจจะต้องถึง 300 ไร่... นี่คือปัญหาที่ใหญ่...มากๆ

** หรือไม่ก็ทำนาแบบไฮโดรโพนิคส์ ปลุกกันสองสามชั้นเลย ประหยัดพื้นที่..แล้วเอาหลอด LED ส่องแทนแสงแดด มีต้นทุนโรงเรือนและระบบให้น้ำเพิ่มอีก... (พันธ์ข้าวเบา แต่ละครอปประมาณสามเดือน) อันนี้น่าสน ผมแค่เห็นมีคนทดลองแต่ไม่ได้ทราบรายละเอียดอะไรมากหรอก...

ในทางปฏิบัติอาจขาดทุนแต่ไม่ถึงขั้นป่นปี้หรอก จับตาดูราคาข้าวสารเอาใว้หน่อย...
อย่างน้อยก็ได้แนวทางใว้ต่อยอด..

จากคุณ : BlueDelphi [14 ธ.ค. 55 19:35:29 ]
ความเห็นที่ 22

อยากเปิดร้านรับเกาหัวค่ะ 55 เพราะชอบให้คนเล่นหัว เวลาไปร้านนวด ก็บอกเค้าว่าเน้นหัว เราว่ามันสบายดี คลายเครียดดีด้วย

จากคุณ : ซาลาเปาหน้าหวาน [16 ธ.ค. 55 23:08:16 ]
ความเห็นที่ 23

เปิดร้าน รับรูดบัตรเครดิตเฉพาะ
แนวคิด ปัจจุบันคนเริ่มใช้บัตรเครดิตซื้อของมากขึ้นเรื่อยๆแบบว่าอยากได้แต่ไม่มีเงินสด
แต่มีหลายร้านค้าที่ไม่มีเครื่องรูดบัตรเครดิต ยกตัวอย่าง ร้านค้าตาม JJ หรือ ตลาดนัดขายของกลางคืน เป็นต้น
ลักษณะการบริการและค่าบริการ  คือร้านไหนมีลูกค้าขอรูดบัตรก็บอกให้มารูดที่ร้านหรือเดินไปบริการถึงที่ คิดค่าบริการเป็นเปอร์เซ็น แล้วจ่ายเงินสดให้ร้านค้าหลังหักค่าบริการ
ต่อยอดธุรกิจ ด้วยวิธีการ เปิดเวปให้ลูกค้าที่มาซื้อของหน้าร้านที่เป็นสมาชิกเวป รูดซื้อสินค้าผ่านเวป แล้วค่อยโอนเงินคืนร้านค้าหลังหักค่าบริการ ลูกค้าร้านค้าได้ของไปเลย ร้านค้าได้เงินโอนผ่านบัญชี
สิ่งที่ร้านค้าจะได้คือ เพิ่มยอดขายสินค้าที่ได้จากลูกค้าที่ซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิต

จากคุณ : supermi [24 ธ.ค. 55 14:29:29 ]