ที่บริษัทบันทึกข้อมูลโดยเรียงจาก
วันที่ รายการ ชื่อร้านค้าที่รับเงิน จำนวน(หน่วย) ราคาต่อหน่วย รวมจำนวนเงิน หมายเลขPV
เรียงเป็นคอลัมไป แต่ "วันที่" ลงเป็นวันที่ส่งของ ไม่ใช่วันที่จ่ายเงิน
แบบนี้ผิดหลักไปจากการลงไหมครับ เขาบอกว่าทำแบบนี้กันมานานแล้ว
พอดีเจ้านายผมต้องการดูค่าใช้จ่ายรายอาทิตย์หรือรายเดือน ให้ผมมานั่งเรียงข้อมูล
ทางฝ่ายบัญชีก็บอกให้ไปไล่ดูตาม PV อีก เพราะวันที่จ่ายจริงอยู่ในนั้น
แบบนี้เสียเวลาแย่เลย แถมลงเขียนมืออีก ไม่ได้ลงระบบหรืออย่างน้อย น่าจะเป็น excell
แต่คนเก่าคนก่อนเขาทำกันมาแบบนี้ จะเปลี่ยนลงระบบก็ไม่ยอมเรียนรู้
เขาลงถูกแล้ว
รับของ รับ invoice แล้วก็ต้องลงเป็นเจ้าหนี้ รวมถึงเรื่อง vat ด้วย
เรื่องจ่ายเงิน เป็นเรื่องของการบริหารเงินสด ที่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็ต้องทำต่างหาก คือใช้ข้อมูลปัจจุบัน ประกอบกับการคำนวณ หรือ ประมาณ การรับ-จ่ายในอนาคต ทั้งเจ้าหนี้ และ ลูกหนี้
....เจ้าของน่าจะอยากรู้ว่า ถ้าเงินสดมันจะช็อท ต้องหาเงินมาโปะก่อนจะเก็บเงินลูกค้าได้หรือเปล่า ?
หน้าที่ปกติ เป็นของทางการเงิน หรือ คนที่ทำบัญชีนั่นแหละครับ
งั้นแปลว่ารายการทางบัญชี ไม่สมารถตอบสิ่งที่เจ้านายต้องการได้
แต่ว่าผมต้องนำข้อมูลบัญชีมาทำต่างหาก (เรียงข้อมูล คำนวณ ประมาณการต่างๆ)
แบบนี้ใช่ไหมครับ คือเราเป็นบริษัทเล็กๆ (แต่ทำงานใหญ่) ผมเป็นลูกหลานต้องมาช่วยงาน
เลยอยากทราบว่าหลักสากลเขาทำกันแบบนี้หรือเปล่า กลัวเดินกันผิดทาง
ขอบคุณสำหรับคำตอบมากครับ
ปล. ผมกลัวงานมันจะซ้ำซ้อน เพราะนึกว่างานทางฝ่ายบัญชีน่าจะตอบได้หมด (หรือเพราะระบบบริษัทไม่ดี)
....ใช่แล้ว
น่าสงสัยว่าแล้วเมื่อก่อนนี้ทำยังไง เอาเงินจากไหนมาจ่ายทุกเดือน ...เจ้านายทำเอง
หรือทางบัญชีทำให้เจ้านาย (แต่แกล้งไม่ทำให้คุณ ?)
.....การเงิน ก็ต้องมีพื้นฐานจากข้อมูลในบัญชี .....เขาถึงเอาไว้ด้วยกัน หรือต้องทำตามกันไปตลอด
....แนะนำให้ทางบัญชีส่งคนไปอบรมให้ทำดีๆ หน่อย .....แล้วคุณคอยตรวจดีกว่า
http://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%94&ie=utf-8&oe=utf-8&aq=t&rls=org.mozilla:en-US:official&client=firefox-a
ที่ผ่านมาค่อยข้างเละครับ ไม่อยากพูดถึงเลย
อยากรู้เรื่องพวกนี้ เรียนบัญชีหรือการเงินการธนาคารดีครับ ในแง่ที่ต้องมาิบริหารจัดการ
หากวัตถุประสงค์ต้องการดูค่าใช้จ่ายรายอาทิตย์หรือรายเดือน => ข้อมูลที่ทำไว้ถูกต้องตามหลักบัญชีแล้ว (เกณฑ์คงค้าง) โดยแยกเป็น 2 กรณีดังนี้
1. สินค้าที่ได้รับ นำมาใช้ทันที ถือว่าค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแล้ว (ยังไม่ขอพูดถึงสินทรัพย์
ถาวร)
2. สินค้าที่ได้รับ ใช้ไม่หมด หรือยังไม่ได้ใช้ จะเป็นค่าใช้จ่ายตามส่วนที่ใช้ไปจริง ที่
เหลือบันทึกเป็น stock ไว้ ซึ่งก็ถูกต้องตามความเป็นจริง
คิดว่าฝ่ายบัญชีก็คงบันทึกในทำนองนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง การชำระเงินเป็นเรื่องของ
การปลดหนี้เท่านั้น
> ส่วนที่ว่าต้องคำนวณประมาณการต่าง ๆ ไม่ทราบว่าใช้วัตถุประสงค์อะไร หากเพื่อดู
เรื่องการเงิน แนะนำให้ัจัดทำ cashflow เพิ่ม จะสามารถตอบโจทย์ได้ เนื่องจาก
cashflow จัดทำด้วยเกณฑ์เงินสด
คห .4 เรียนรู้จากประสบการค่ะ
เรียนบัญชีการเงินบางทีไม่ไ้ดตอบสนองสิ่งที่ต้องการ
เรียนรู้จากประสบการณ์ในการทำงานดีที่สุดค่ะ เรื่องบางเรื่องตำราไม่มีสอน
หรือเรียนมาก็ไม่เข้าใจ
พอเข้าใจแล้วว่าลงแบบ หลักบัญชี(เกณฑ์คงค้าง) แต่ไม่เห็นมีการปรับปรุงบัญชีตอนสิ้นงวดเลย
เห็นลงสมุดไว้ (เขียนมือ) แล้วก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรอีก มีแต่ลงเพิ่มไปเรื่อยๆ
ส่วนบัญชีสรรพากรมีการจ้างคนนอกทำไว้ครับ
งงดีจัง ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านครับ
อธิบายหลักๆก่อนน่ะครับ
จริงๆ บัญชีต้องสนับสนุนฝ่ายบริหาร น่ะครับ
แบ่ง ส่วนงานเป็น 5 ระบบงาน
1.ระบบซื้อ/เจ้าหนี้
2.ระบบขาย/ลูกหนี้
3.ระบบรับเงิน
4.ระบบจ่ายเงิน
5.ระบบสต้อก
ระบบใบสำคัญจ่าย( pv ) เป็นเอกสารสำหรับควบคุม ในระบบการจ่ายเงิน ครับ
ส่วนวันที่ที่ลง pv จะใช้เป็น วันที่จัดทำเอกสาร หรือ วันที่ จ่ายเงิน ก็ได้ แล้วแต่ระบบงาน
ถ้าใช้วันที่จัดทำเอกสาร ลงรายการ (เพราะต้องควบคุมการรันนิ่งนัมเบอร์เอกสารpvและปริมาณเอกสารมาก) ก็จะใช้ทะเบียนเช็คจ่าย คุมการรับเช็ค อีกทีหนึง พอสิ้นงวด ก็กระทบยอดเช็คที่ยังไม่มีผู้มารับเอา
แต่ถ้าใช้วันที่ จ่ายเงิน ในเอกสารpv ก็ทำได้เช่นกัน ถ้าปริมาณเอกสารจ่ายไม่มากนัก แต่ จะใช้ระบบแฟ้มเอกสาร เข้ามาช่วย เป็นเอกสารที่รอจ่าย(pv) พอสิ้นเดือน ปิดงวด ก็ค่อยบันทึกรายการคงค้าง
จขกท.จะดูรายการ cashflow ด้านจ่าย หรือเปล่า? ถ้าใช้ ก็ดูจากบัญชี เงินสดจ่าย จะดีกว่าครับ
มาเห็นด้วยกับคุณกันย์ คห. 8 นะคะ บัญชีต้องสนับสนุนงานด้านอื่นๆของบริษัทด้วยค่ะ ดังนั้นต้องเก็บข้อมูลให้เป็นระบบระเบียบ ระบบบริษัทใหญ่ที่จริงๆจังๆเลยเค้าเก็บถึงกับว่า ได้รับเอกสารจากเจ้าหนี้วันที่ สแกนเข้าระบบวันที่ เอกสารลงวันที่ บันทึกเข้าระบบวันที่ อนุมัติวันที่ รายการบัญชีถูกโพสต์เป็นวันที่ (คือวันโพสต์กับวันที่ในรายการไม่จำเป็นต้องเป็นวันเดียวกัน เพราะเอกสารมาช้า ต้องโพสต์เข้าของเดือนก่อนๆจะปิดรอบบัญชี) กำหนดจ่ายวันที่ จ่ายจริงวันที่ เคลียร์รายการวันที่ (ปิดยอดเจ้าหนี้ลูกหนี้)
อันนี้ตัวอย่างแค่ "วันที่" อย่างเดียว นะคะ ถามว่าเค้าเอามาทำอะไร เค้าเอามาวิเคราะห์ค่ะว่าความล่าช้าในระบบงานเกิดที่ตรงไหน เช่น invoice ลงวันที่ 1 ธค. ได้รับ 2 ธค. สแกนเข้าระบบ 3 ธค. อนุมัติ 10 ธค. บันทึกวันเดียวกัน นี่แสดงว่าเอกสารมันไปค้างเติ่งที่ตรงคนอนุมัติน่ะค่ะ (ตัวอย่างง่ายๆค่ะ) แล้วถ้าเก็บข้อมูลเป็น digital format และเป็นระบบ มันวิเคราะห์ได้เยอะมากๆค่ะ
เข้าเรื่อง ถ้าบริษัทไม่ใหญ่มาก กรณีคุณ ถ้าเค้าไม่ยอมใช้โปรแกรม หรืออย่างน้อย Excel คุณก็ขอร้องเค้าให้ตีคอลัมน์นึงในหน้าบัญชี ลงวันที่จ่ายเงินควบคู่ไปด้วยสิคะ บัญชีจะใช้หลักค้างจ่ายอะไรก็ใช้ไป แต่คนที่อยากใช้ข้อมูลตาม cash basis เพื่อบริหารงานก็ยังสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องมีใครทำงานเพิ่มกว่าที่เคยซักเท่าไหร่ ประมาณนั้นน่ะค่ะ อาจจะใช้เมจิกสีต่างๆกัน 12 สีเพื่อแยกให้เห็นชัดๆว่าจ่ายจริงของเดือนไหน เช่น มค.คุณก็แจกเมจิกสีแดงให้เค้าเขียนวันที่จ่าย กพ.จ่ายจริงใช้สีเขียว เพราะรายการจ่ายก่อนหลังอาจจะไม่เป็นไปตามที่ได้รับ รับก่อนจ่ายหลัง อะไรทำนองนั้น ถ้าคุณต้องมานั่งคัดรายการในสมุดเค้าจริงๆจะได้แยกได้ง่ายน่ะค่ะ อันนี้คิดแบบเบๆกรณีที่เค้าไม่อยากเรียนรู้เทคโนโลยีน่ะนะคะ
ขอบคุณครับ จริงอย่างที่คุณ aayin บอกครับ ผมพยายามหลายวิธีแล้วแต่ท่านๆก็ไม่ยอม
ที่น่าตกใจคือ ตอนนี้เขาลงบัญชีเฉพาะตอนจ่ายจริงครับ เพียงแต่ลงวันที่ตามใบส่งของ
เช่น วันนี้จ่ายค่าเหล็กเส้น 17/12/55 ซึ่งมีเครดิตสองเดือน วันนี้ลงบัญชีเขาจะลงเป็น
วันที่ 17/10/55 มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการตั้งหนี้เลย ข้อมูลอยู่ในกระดาษเอามาทำอะไรก็ช้า