ศาสตราจารย์ ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้ที่ออกโรงเตือนเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติของชาติและของโลก

เก็บมาฝากจากบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร MiX ฉบับเดือนพฤศจิกายนครับ

ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก สำหรับศาสตราจารย์ ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้ที่ออกโรงเตือนเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติของชาติและของโลกตามสื่อมาโดยตลอด และในช่วงปลายปีนี้ (รวมถึงต้นปีหน้า) ถ้าโชคไม่ดี เราจะประเดิมด้วยพายุสุริยะที่เป็นจุดเริ่มต้นของภัยพิบัติ

“พายุสุริยะคือปฏิกิริยาที่เกิดบนผิวดวงอาทิตย์ มันคือการรวมตัวกันของไฮโดรเจน กลายเป็นแก๊ซฮีเลียม เหมือนกับระเบิดไฮโดรเจน บนดวงอาทิตย์มีไฮโดรเจนเยอะมาก และมันจะรวมตัวกันทุก 11 ปี และจะรุนแรงมากที่สุดช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมนี้ และมันจะทำให้ไฟฟ้าฟ้าดับนานพอสมควร ระบบการสื่อสารพังหมด ดาวเทียมอาจจะระเบิด การสื่อสารก็จะลำบาก

“พายุสุริยะจะไปกระตุ้นเปลือกโลกให้เคลื่อนไหวเร็วขึ้น คือกระตุ้นให้สนามแม่เหล็กมันเปลี่ยนแปลง แล้วสนามแม่เหล็กก็ไปเปลี่ยนแปลงของเหลวที่อยู่ในโลก เปลือกโลกของเราก็เลยเคลื่อนไหวเร็วขึ้น นั่นก็หมายความว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหนักๆ เดือนธันวาคม เดือนมกราคม ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลงไปนิวซีแลนด์ อีกด้านหนึ่งก็จะไปทางอลาสก้า แคลิฟอร์เนีย เม็กซิโก และชิลี

“เปลือกโลกที่เป็นอันตรายต่อประเทศไทยก็คือที่มันชนกันแถวฟิลิปปินส์ ตอนนี้ฟิลิปปินส์เองก็เริ่มมีแผ่นดินไหวหนักและแรงขึ้น ถ้าชนกันตรงฟิลิปปินส์ เปลือกโลกจะแบ่งออกเป็นอีกส่วนนึง ถ้าด้านที่ติดกับเราชนกันหนัก เปลือกโลกเคลื่อนตัวขึ้นลง ก็จะทำให้เกิดสึนามิเข้ามา ผมก็ได้เตือนหลายเดือนแล้วว่าจะเกิดสึนามิ คราวนี้เป็นที่อ่าวไทย แต่ใช่ว่าที่ฝั่งอันดามันจะหมด ฝั่งนี้ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม

“ไม่ใช่แต่ทางภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง ที่ต้องระวัง เพราะทางฝั่งอ่าวไทย ตั้งแต่ สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา โดยเฉพาะสงขลานี่ลำบากมาก เพราะอยู่พื้นที่ต่ำ ไม่ค่อยมีภูเขาให้หนีไปไหน แต่ยังโชคดีที่ยังพอมีเวลา 15 ชั่วโมงหลังจากเกิดคลื่นยักษ์ หนีทัน แต่ต้องเตรียมตัว ไม่ใช่ทุกคนวิ่งไปพร้อมกันถ้าแบบนี้ก็จะลำบาก

“เรื่องทั้งหมดที่ผมเล่าให้ฟังทั้งหมด โอกาสที่เกิดพายุสุริยะนั้นมีจริง แต่มันก็สามารถพ่นไปทางอื่นที่ไม่ใช่โลกก็เป็นไปได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเราก็จะเบาขึ้นเยอะเลย กลายเป็นโชคดีสำหรับเรา

“สิ่งที่ผมเป็นห่วงอีกอย่างหนึ่งก็คือ ภัยพิบัติที่ผมเคยพูดไว้เรื่องน้ำท่วม เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนเกิดขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลายเป็นว่าเล่น แถวกรีนแลนด์ละลายหายไปลงสู่ทะเลเยอะแล้ว ผมไปที่ภูเขาหิมาลัย ไปอบรมครูที่ประเทศภูฐานมา 8 ครั้งแล้ว 2 ปีสุดท้าย บนภูเขาหิมาลัยน้ำแข็งไม่มีแล้ว

“เราต้องเข้าใจด้วยว่ามนุษย์เรามันอยู่ที่กรรมด้วย กรรมไม่ใช่เรื่องเหลวไหลอะไร เราทำอะไรมันก็ส่งผลกระทบมาที่เราเสมอ มันเป็นวิทยาศาสตร์ เราส่งพลังอะไรไป พลังนั้นก็สะท้อนกลับมาที่เราในที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะให้พ้นภัยพิบัติ ก็จะต้องรักกันสามัคคีกัน ต้องช่วยเหลือพึ่งพากันครับ”

by Boywisoot

จากคุณ : นักลงทุน999 [20 ธ.ค. 55 23:36:57 ]
ความเห็นที่ 1

ปล.ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อข่าวแต่อย่างใด นำเสนอเพื่อความตะลึงในลุ่มแม่น้ำออสเตรเลีย

http://www.toptenthailand.com/news_detail.php?id=7118

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ เปิดเผยภาพสุดอึ้ง จระเข้ขนาดมหึมาโดดงับชิ้นเนื้อจิ๋ว สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวบนเรือล่องแม่น้ำในออสเตรเลียเป็นอย่างมาก

         โดยภาพดังกล่าวนี้ ถูกถ่ายจากบนเรือล่องแม่น้ำแอดิแลด เมืองดาร์วิน ขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังเพลิดเพลินกับการล่องเรือท่องเที่ยว ไกด์ก็ได้เตรียมเนื้อควายไว้ ก่อนจะยื่นมันออกไปนอกเรือ และเจ้าบรูตัส จระเข้ยักษ์อายุกว่า 80 ปีตัวนี้ ก็กระโจนขึ้นมาจากน้ำ เพื่องับชิ้นเนื้อขนาดจิ๋วเมื่อเทียบกับตัวมัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวหลายคนบนเรือเป็นอย่างมากเนื่องจากมันโผล่ขึ้นมาในระยะกระชั้นชิด เฉียดเรือเพียงนิดเดียว ขณะที่ แคทเธอรินา บริดจ์ฟอร์ด ช่างภาพหนังสือพิมพ์ที่ไปล่องเรือพักผ่อนกับลูก ๆ ก็รีบแชะภาพเก็บวินาทีสุดตื่นตะลึงนี้ไว้ ซึ่งเธอก็อธิบายว่า เธอไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้เลย มันโผล่ขึ้นมาใกล้มาก

         อย่างไรก็ดี ภาพดังกล่าวนี้ดูจะไม่แปลกตาสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น รวมถึงไกด์นำเที่ยวด้วย เพราะเจ้าบรูตัส จระเข้ยักษ์ตัวนี้อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มานานแล้ว ขณะที่ขาหน้าของมันขาดไปข้างหนึ่ง โดยมีการสันนิษฐานกันว่า มันอาจถูกฉลามกัด ซึ่งเมื่อจินตนาการดูแล้ว ก็เห็นทีว่าฉลามที่กัดมันคงมีขนาดใหญ่มหึมากว่ามันไม่น้อยเลย

         ทั้งนี้ กิจกรรมล่องเรือให้อาหารจระเข้นี้ เป็นกิจกรรมที่แม้จะดูเสี่ยงอันตราย แต่ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยบริเวณดังกล่าวจะมีจระเข้น้ำเค็มอาศัยอยู่นับพันตัว และคงไม่ต้องเดาเลยว่าแต่ละตัวมีขนาดใหญ่แค่ไหน ซึ่งทางการก็ได้ปักป้ายห้ามเตือนประชาชนลงเล่นน้ำ หรือตั้งแคมป์ริมฝั่งแม่น้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากจระเข้ หลังจากหลายปีที่ผ่านมา มีประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถูกลากตัวลงไปในน้ำมาหลายรายแล้ว

จากคุณ : นักลงทุน999 [20 ธ.ค. 55 23:39:00 ]
ความเห็นที่ 2

ไม่ค่อยเชื่อ ภาพ สักเท่าไร

ตัวโตเกินจริงไปหน่อย

จากคุณ : Pigfarm [21 ธ.ค. 55 00:00:57 ]
ความเห็นที่ 3

เป็นภาพแต่ง ดูจากน้ำช่วงลำตัวไม่สมดุลย์ แข็งๆเป็นเส้นตรง แต่งไม่สมจริง..

จากคุณ : ดั่งตะวันและจันทรา [21 ธ.ค. 55 00:23:26 ]
ความเห็นที่ 4

“พายุสุริยะคือปฏิกิริยาที่เกิดบนผิวดวงอาทิตย์ มันคือการรวมตัวกันของไฮโดรเจน กลายเป็นแก๊ซฮีเลียม เหมือนกับระเบิดไฮโดรเจน บนดวงอาทิตย์มีไฮโดรเจนเยอะมาก และมันจะรวมตัวกันทุก 11 ปี และจะรุนแรงมากที่สุดช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมนี้ และมันจะทำให้ไฟฟ้าฟ้าดับนานพอสมควร ระบบการสื่อสารพังหมด ดาวเทียมอาจจะระเบิด การสื่อสารก็จะลำบาก"

ผิดหลายส่วนเลย !
1) การรวมตัวกันของไฮโดรเจน กลายเป็นแก๊ซฮีเลียม    เกิดตลอดเวลาอยู่แล้ว
   และเป็นแหล่งพลังงานที่ทำให้ดวงอาทิตย์ร้อนสว่างอยู่เสมอ
   (ไม่ใช่รวมตัวกันทุก 11 ปี)

2) พายุสุริยะ  คือ พวยกาซที่มีประจุไฟฟ้า ที่พุ่งออกมาจากผิวดวงอาทิตย์
   ส่วนใหญ่ย้อน กลับลงไป  บางส่วนพุ่งแรงและหลุดออกมาสู่อวกาศ
   สาเหตเกิดจากความปั่นป่วนของกาซเนื่องจากความร้อนที่ดันออกมาจากภายใน
  ( ไม่ใช่ระเบิดไฮโดรเจน บนดวงอาทิตย์)

3) ความปั่นป่วน จะมีมากเป็นรอบ 11 ปีโดยประมาณ
   เราไม่สามารถบอกกำหนดการณ์ที่แน่นอนได้
   มันอาจ มีมาก ช่วงต้นปีหน้า หรือ ปลายปีหน้า หรือ ปีถัดไป ...ไม่แน่
   ( ไม่ใช่กำหนดที่ เดือน ธค ถึง  มค นี้ )

4) ประจุไฟฟ้าที่มาเป็นพายุสุริยะ   จะถูกสนามแม่เหล็กโลกดึงดูดไปที่ขั้วโลก
    แล้วก็กลืนหายไปในพื้นดินแถบนั้น
    จำนวนมันไม่มากพอจะเป็นอันตราย อะไร
    ( ไม่ทำให้ไฟฟ้าฟ้าดับ    ระบบการสื่อสารไม่พัง  
     ดาวเทียมอาจจะถูกรบกวนบ้างเพราะอยู่เหนือกรอบสนามแม่เหล็กโลก)
     
ตอบซะยาว  นึกว่าอยู่ห้องหว้ากอ อิอิ

แต่เห็นได้ชัดว่า บทสัมภาษณ์นี้มั่วมาก
แค่วรรคแรก ก็ผิดเพียบ
ส่วนหลังๆ  ก็เป็นจินตนาการผิดๆทั้งนั้น   .....ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

จากคุณ : sb*star [21 ธ.ค. 55 00:35:18 ]
ความเห็นที่ 5

จระเข้นี่ของจริงครับ ยาว 5.5 เมตร

ตอนดิ่งลงไปในน้ำด้วยความเร็ว น้ำก็จะเป็นขอบแบบนั้นแหละ

และรูปนี้มันยืดออกทางกว้าง เลยดูภาพมันแปลกๆ

http://www.theaustralian.com.au/news/nation/monster-croc-brutus-thrills-northrn-territory-tourists/story-e6frg6nf-1226093088039

ส่วนเรื่อง ดร อาจอง ผมติดใจประโยคนี้มากกว่า

"พายุสุริยะจะไปกระตุ้นเปลือกโลกให้เคลื่อนไหวเร็วขึ้น คือกระตุ้นให้สนามแม่เหล็กมันเปลี่ยนแปลง แล้วสนามแม่เหล็กก็ไปเปลี่ยนแปลงของเหลวที่อยู่ในโลก เปลือกโลกของเราก็เลยเคลื่อนไหวเร็วขึ้น นั่นก็หมายความว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหนักๆ เดือนธันวาคม เดือนมกราคม ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลงไปนิวซีแลนด์ อีกด้านหนึ่งก็จะไปทางอลาสก้า แคลิฟอร์เนีย เม็กซิโก และชิลี"

เรื่องพายุสุริยะกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวนี่ เค้ารู้กันหมดแล้วว่ามันไม่เกี่ยวกัน ท่านคงต้องหาหลักฐานยืนยันที่น่าเชื่อถือกว่านี้แล้วล่ะ

จากคุณ : Mea Culpa [21 ธ.ค. 55 00:58:34 ]
ความเห็นที่ 6

สรุปคือ พายุสุริยะ คือการรวมตัวกันของไฮโดรเจนบนผิวของดวงอาทิตย์ซี่งเกิดเป็นปกติ  เรียกปฏิกิริยานิวเคลียฟิวชั่น แต่บริเวณหนี่งจะเกิดมากกว่าบริเวณอื่นให้พลังงานความร้อน รังสี คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จำนวนมากกว่าปกติ พอที่จะหลุดออกมาจากดวงอาทิตย์ เรียกว่า พายุสุริยะ
     ทีนี้โลกเรามีสนามแม่เหล็กโลก มีชั้นบรรยากาศ คอยกรองสนามแม่เหล็ก กรองรังสี ความร้อน ออกไปก่อน
     ประเด็นคือสนามแม่เหล็กจากพายุสุริยะ พอมาถึงโลก ก็จะถูกสนามแม่เหล็กโลก ดูด กลืนให้ใหลไปหาขั่วโลก  เราเลยไม่ได้รับผลกระทบ แต่ถ้าไปยืนแถวขั่วโลก จะเห็นแสงเหนือ แสงใต้ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคจะรวน
     พลังงานจากสนามแม่เหล็ก ที่ดูดกลืนลงไปในขั้วโลก ย่อมไม่ไปใหน ก็ต้องหาวิธีถ่ายเทออกไป อาจจะเกิดแผ่นดินไหวก็เป็นได้ครับ ดร. ไม่ได้มั่ว ไม่ได้โม้ แน่ ๆ ขี้นอยู่กะว่า ตรงรอยต่อแผ่นโลกนะมันแข็งแรงหรือเปล่า พลังงานจากสนามแม่เหล็กของพายุมีมากแค่ใหน โลกมีสนามแม่เหล้กเพราะของเหลวภายในแกนโลก หมุนวนตลอดเวลา ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กโลก ตอบปกป่องโลกจากสนามแม่เหล็กในอวกาศ ถ้ามีพลังงานมาก่อกวนมาก ๆ ของเหล็วในโลกก็ต้องหมุนวนมากขี้น ก็ทำให้สนามแม่เหล็กมากขี้น ทำให้เปลือกโลกได้รับแรงมากขี้น ก็น่าคิดครับ

      อย่าวางใจครับ ดำรงตนอยู่บนความไม่ประมาท ดีที่สุด

กลุ่มสื่อสารอาจจะเจ๊ง โบ๊ง เป็นพัก ๆ
กลุ่มก่อสร้าง อาจจะได้งานหลังแผ่นดินไหว สีนามิ
กลุ่มโรงพยาบาลงานล้น
กลุ่ม:-)เม่า อาจจะไปลั่นล้า ดำผุดดำว่าย ก็ระวังสินามิ
555555555 +

จากคุณ : BigMooHuHu [21 ธ.ค. 55 05:08:21 ]
ความเห็นที่ 7

เรื่องไอ้เข้ น้ำเค็ม แถวนั้นเนี่ย เคยดูในสารคดี เป็นเขตอนุรักษ์ โดยเฉพาะ ไม่ได้มีคนไปอาศัย พวกเลี้ยงจรเข้ ก็คอยไปจับลูกเล็ก ๆ เอามาเลี้ยง เพื่อ ถลกหนังขาย      
     จับได้เอามาตรวจเพศ คือ อยากได้ตัวผู้ เอาไปขยายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่จับได้ตัวเมีย 555 +
     คงกะว่าลูกจะมากิน ดันเจอตัวพ่อเข้าให้

จากคุณ : BigMooHuHu [21 ธ.ค. 55 05:17:59 ]
ความเห็นที่ 8

ทุกรอบ 11 ปี มีพายุสุริยะใหญ่ๆ เกิดขึ้น ...ช่วงชีวิตนี้ เราๆ ท่านๆ ก็น่าจะผ่านกันมา 2-5 รอบแล้ว .นะครับ อย่าได้กังวล

จากคุณ : หมูอวบ [21 ธ.ค. 55 07:14:50 ]
ความเห็นที่ 9

เค้าไม่ได้เป็นศาสตราจารย์ค่ะ  และถ้าอยากรู้รายละเอียด ลองถามห้องหว้ากอดูค่ะ

จากคุณ : นู๋นัน [21 ธ.ค. 55 08:34:27 ]
ความเห็นที่ 10

จระเข้ในรูปถ้าเป็นของจริงต้องยาว 8-10 เมตรแล้วครับ ถ้ายาว 5.5เมตร ตัวเล็กกว่านี้เยอะ ลองดูความยาวจากปากถึงระดับน้ำต้องมี 3เมตรกว่าๆเกือบ4เมตรแล้วครับ เพราะคนยืนก็1.80เมตรแล้ว แต่ปากมันโผล่ถึงหลังคาเรือก็น่าจะประมาณ 2.20เมตร และจากพื้นเรือที่คนยืนถึงระดับผิวน้ำก็ต้องมีอีก 1.50-2เมตร รวมความยาวที่จระเข้โผล่พ้นผิวน้ำร่วม4เมตรแล้ว นี่แค่ครึ่งตัวเอง  แสดงว่าภาพนี้แต่งแน่

จากคุณ : PTom [21 ธ.ค. 55 08:51:38 ]
ความเห็นที่ 11

รูปจระเข้ที่เป็นออริจินัลครับ ตัวจระเข้จะไม่อ้วนเหมือนรูปหัวกระทู้

จะเห็นว่าจากปากถึงระดับน้ำเต็มที่ก็ 2 เมตรนิดๆเองครับ (คนยืนอยู่ไกลกว่า)

ส่วนพายุสุริยะที่จะเล็ดลอดเข้ามาได้ก็จะมีตรงที่ขั้วโลก ซึ่งทำให้เกิดแสงออโรร่า

แต่ปริมาณที่เข้ามานั้นถือว่าแทบไม่มีผลกับของเหลวภายในโลกเลย

จากคุณ : Mea Culpa [21 ธ.ค. 55 09:24:26 ]
ความเห็นที่ 12

จรเข้ขาข้างขวาขาดด้วย สงสัยจะโดนใบพัดเรือตั้งแต่เด็ก

จากคุณ : โต้คลื่น [21 ธ.ค. 55 10:31:33 ]
ความเห็นที่ 13

vdo

จากคุณ : โต้คลื่น [21 ธ.ค. 55 10:36:08 ]
ความเห็นที่ 14

^
ที่ขาขวาขาด เห็นเค้าว่ามันโดนฉลามกัดนะครับ เพราะแถวนั้นมันติดน้ำเค็ม (เจ้านี่เป็นจระเข้น้ำเค็ม)

ประเด็นคือฉลามกัดตอนโตหรือตอนเด็ก ถ้ากัดตอนโตแบบนี้ ตัวฉลามต้องใหญ่มากถึงกล้าเข้าต่อกรกับเจ้านี่

จากคุณ : Mea Culpa [21 ธ.ค. 55 11:25:25 ]