^๐^ ^๐^ ^๐^ ปิ๊งๆๆๆกระทู้อารมณ์ดีในดวงใจ @ สินธร # 21/12/12 ซื้อๆขายๆหุ้น ^๐^ วันซิ่นโลก{แตกประเด็นจาก I13089697}

^๐^ ^๐^ ^๐^ ปิ๊งๆๆๆกระทู้อารมณ์ดีในดวงใจ @ สินธร # 21/12/12 ซื้อๆขายๆหุ้น ^๐^

ลูกสาวหนุ่มน้อยประแป้งลูกสาวสวัสดีครับพี่จีนี่ พี่ฟ้าใส พี่ข้างบูรพา พี่กุ้ง พี่กี้บลู  พี่ ฮะว่าไงนะ
พี่ปรัชญา พี่สุเกียง   พี่ saimai77 พี่graratea พี่แวน พี่่ดอกไม้ พี่oready  พี่สาม พี่แมม น้องปุ๋ม นู๋ไผ่ พี่ซี พี่be real พี่อิ๋ง พี่ปุ๊ต๋ง พี่น้องหนู พี่tarojay พี่แพร์ พี่ปันปัน พี่worthneverdie พี่Noopy&Wood พี่จุ๊กกุ๊กจัง  พี่ตอร์เรสสุไหงโกลก
พี่THALAY2 พี่jejeeppe พี่จันทร์พ้นเมฆ พี่่โต้คลื่น พี่ชาญดำ  พี่nextdoor น้องกระต่ายสีเขียว  พี่อ้วนตุ้ยนุ้ย พี่Na_bird พี่คุณป้าพาเพลิน พี่halogen พี่โตตรอกจันทร์ พี่เกือบไม่ได้มาแล้ว พี่ elvish346 พี่8088-xt พี่Horizon23 พี่ Atom_s  พี่Dal ja พี่ baridhara พี่ ตี๋แก้มยุ้ย พี่หยองแหยง พี่venezier พี่rocky mountain  พี่michita พี่มือเก่าหัดขับ พี่notsugar พี่มิ่งกลิ้ง พี่สาระขัน พี่*+*+ChoCoLateDesserts+*+*  พี่LightStream1010 พี่คุณหญิงจิ๋วแจ๋ว พี่น้าหมีอ้วน พี่่Dr.D70 พี่OKANEMOCHI พี่feel lonely พี่@งั้นแหละ@ พี่มองได้..แต่อย่าชอบ พี่นิภาโชติ พี่ Little Calf พี่Juneman พี่ไม่อยากตกรถ พี่THE FINAL 2 พี่The Fast And Furious พี่RANNY  พี่เกือบไม่ได้มาแล้ว พี่Joe_worrarit  พี่สังขยาใบเตย พี่1st class newbie  พี่Horizon23 พี่่มือเก่าหัดขับ พี่ทองแก  พี่Bakedez พี่ sweetoil พี่happy-lucky  พี่ดาวเรือง   พี่Mukzaki  พี่่่่Fsmoothdood พี่ทำไงได้...คนมันน่ารัก พี่Nong-KiD พี่เด่นดวง  พี่nicenan  พี่mochay พี่siriratana.l  พี่วิถีคนกล้าควบม้าสีหมอกออกทะเล พี่ไม่ท้อ พี่Big Jump พี่ เพลินจิตอาเขต พี่คุณดี. ซี พี่asker2008  พี่่NUKKY007  พี่ siriratana.l  พี่ mochay พี่กระดาษโน๊ต พี่pinkiepooh พี่นธีทอง พี่Fsmoothdood พี่WAGASHI พี่Holistica พี่ฉลามบุก พี่พันเกลียว พี่แล้วแต่ดวง พี่หมูแดง dogbox พี่กายสีขาว พี่PupaeApp พี่ตำลึงริมรั้ว,พี่Fro_N พี่มารหุ้นแสวงพ่าย พี่Nat_YFS2011 พี่chocolate biscuit  พี่แอปเปิ้ลน้อยสีชมพู พี่ประลองยุทธ์ พี่หนูอยากรวยด้วยคนคะ พี่Pla Nonthaburi พี่songnida  พี่tasuko   พี่PeterMc  พี่kredpork พี่Jenjutakarn พี่ Dal ja พี Patunga พี่ JAZZY_G พี่พู่เจริญ พี่LoTTaE พี่่Hongj  พี่Hintadragon  พี่ M011 พี่suratanonin พี่เม็ดทรายสีฟ้า  พี่Boom2trad พี่ไผ่หวานพลิ้วลิ่วลม  พี่เม่าสินธร พี่Shinosuke08 พี่su_k3430 พี่ princess_smile,กับพี่mild.jung พี่RANNY  พี่counsello
พี่หุ้นเดียวกัน พี่chowthai พี่joyly_polly พี่ auto พี่Xceed Abb พี่rain pk son  พี่Islandvolk  พี่ บุญเยิ้ม พี่ watermelon_jr พี่comen04 และรอบวงครับpompom



สวัสดีครับพี่ๆชาว "อารมณ์ดีในดวงใจ" กระเป๋าเงินกระเป๋าเงินกระเป๋าเงิน

แว๊บมาเปิดบ้านรอ..หนุ่มน้อยประแป้งมอบรัก..รัก....รอยยิ้ม..pompom..และข้อมูลข่าวสาร

พูดจา หยอกล้อ เล่นหัว..ปลอบ..กาแฟหอมๆ และเมนูอาหารน่าทานน่าทานหนุ่มน้อยประแป้ง pompompompompompom


เช่นเคยทุกวันครับ หนุ่มน้อยประแป้งwinkhahawinkหนุ่มน้อยประแป้งpompom

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 06:59:55 ]
ความเห็นที่ 1

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

21 ธันวาคม 2555






General News
-----------------


• ธ.กลางยุโรป (ECB) อนุญาตให้ใช้พันธบัตรรัฐบาลกรีซเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อจาก ECB ได้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดและเปิดช่องทางเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ธนาคารของกรีซ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกรีซอายุ 10 ปี ลดลงเหลือ 11.649%

• ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือน พ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ต.ค. แต่เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ปีก่อน บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่ยังคงอ่อนแอของผู้บริโภคอังกฤษ และโอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงไปอีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีเพิ่มขึ้น

• GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐขยายตัว 3.1% จากการประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนหน้าที่ 2.7% เนื่องมาจากการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลและยอดการส่งออกขยายตัวได้ดีเกินคาด รวมไปถึงการลงทุนก่อสร้างของรัฐบาลท้องถิ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 17,000 ราย มาอยู่ที่ 361,000 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์กลับเป็น 367,750 ราย ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ต.ค.ซึ่งนับว่ายังคงเป็นสัญญาญที่ดีต่อตลาดแรงงานของสหรัฐ

• บารัค โอบามา เตรียมใช้สิทธิ์ยับยั้งข้อเสนอ “แผนสอง" ในการแก้ Fiscal Cliff ของจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่ให้ขยายมาตรการลดภาษีในสมัยของ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ให้ครอบคลุมครัวเรือนที่มีรายได้ไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ รวมถึงให้ยกเลิกเพดานภาษีสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่โอบามาระบุล่าสุดว่า จะยอมรับข้อตกลงเพิ่มภาษีผู้ที่มีรายได้ต่อปีสูงกว่า 400,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่เป็น 250,000 ดอลลาร์

• Fitch Ratings เตือนว่า สหรัฐอาจสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA หากล้มเหลวในการหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal cliff ซึ่งจะทำให้การดำเนินโยบายการคลังเกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นจนอาจบั่นทอนแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะกลาง และทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐต้องเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยไม่จำเป็น

• ธ.กลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.10% พร้อมขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 101 ล้านล้านเยน จากเดิม 91 ล้านล้านเยน เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้าหลังจากพรรคเสรีประชาธิปไตยที่สนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

• นางสาว พัค กึน-ฮเย แห่งพรรคอนุรักษ์นิยมได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของ เกาหลีใต้ ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงของชาติ การฟื้นความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ รวมไปถึงการแก้ไข้ปัญหาเศรษฐกิจและคอรัปชั่นในภาครัฐ โดยจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการต่อจาก ลี เมียง บัค ในเดือน ก.พ. 2556

• จำนวนบริษัทล้มละลายของเกาหลีใต้ในเดือน พ.ย.ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน มาอยู่ที่ 93 ราย เนื่องมาจากการการฟื้นตัวของการส่งออกในเดือนที่ผ่านมา

• S&P ปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ขึ้นเป็นเชิงบวกโดยยังคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ BB+ แต่ระบุว่าหากรัฐบาลฟิลิปปินส์ปฏิรูปโครงสร้างรายได้ของรัฐบาล ลดภาระหนี้ต่างประเทศ รวมถึงดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็มีโอกาสที่จะถูกปรับให้อยู่ในอันดับที่น่าลงทุน (Investment grade) เป็นครั้งแรกได้

• สภาอุตสาหรรมฯ เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน พ.ย.ของไทยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เท่ากับ 256,581 คัน เพิ่มขึ้น1.75% จากเดือน ต.ค. และ 983% จากเดือน พ.ย. 2554 เนื่องจากการเกิดอุทกภัยจนกระทบกับการผลิตในช่วงปลายปี 2554 ประกอบกับผลจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปี 2555 จะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 2.45 ล้านคัน

Equity Market
------------------


• SET Index ปิดที่ 1,377.40 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0-07% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41,931.03 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,650.47 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นมาแรงกว่าตลาดภูมิภาคในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ประกอบกับ นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐที่ยังไม่มีความชัดเจน และอาจจะล่าช้าไปจนถึงสัปดาห์หน้า

• ดร.สมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคม บลจ. คาดว่าในปีหน้าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปถึง 1,500 จุด เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังคงมีแนวโน้มที่ดีจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงเติบโต ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

Fixed Income Market
--------------------------

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39278
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.01% ถึง 0.03% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท.อายุ 14 วัน วงเงิน 30,000 ล้านบาท

Oil Corner
-------------


• สนง. พลังงานสากล (IEA) ระบุว่า ถ่านหินจะกลายเป็นพลังงานหลักของโลกแทนที่น้ำมันภายในปี 2017 จากการที่ปริมาณการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีนและอินเดีย

โดยปัจจัยเดียวที่สามารถจำกัดการเติบโตของการใช้ถ่านหินได้แก่การดิ่งลงของราคาน้ำมันโลกเท่านั้น

จากคุณ : วันซิ่นโลก (yai-cho) [21 ธ.ค. 55 07:18:48 ]
ความเห็นที่ 2

SET ลบ แต่ไม่ลึก....!



ดัชนี SET ปิดวานนี้อยู่ที่ระดับ 1,377.40 จุด ลดลง -1.00 จุด หรือ -0.07% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41,931.03 ล้านบาท

- นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ -543.51 ล้านบาท
- บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ +475.40 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +1,650.47 ล้านบาท
- นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ -1,582.36 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส บอกในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า ถ้ามองปัจจัยพื้นฐานถือว่าหุ้นไทยค่อนข้างแพงมาก

ซึ่งจากนี้จนถึงสิ้นปีจะลงแรงหรือขยับขึ้นได้หรือไม่ ต้องดูโฟลว์ที่เข้ามาแต่ละกลุ่ม โดยในช่วงต้นเดือนธันวาคมจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่องระดับ 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ 7 พันล้านบาท กลุ่มนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2 พันล้านบาท ฉะนั้นจะเห็นว่าแรงขับเคลื่อนจะมาจากฝั่งของนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์

ทั้งนี้ มองว่าเมื่อใกล้เทศกาลวันหยุดแรงซื้อจะเบาบางลง โดยคาดว่าบัญชีบริษัทหลักทรัพย์จะมีแรงขายออกมา แต่ในส่วนของสถาบันในประเทศมองว่ามีโอกาสซื้อ โดยจากสถิติย้อนหลังในเดือนพ.ย.-ธ.ค. สถาบันจะซื้อราว 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงเชื่อว่ากลุ่มสถาบันในประเทศน่าจะมียอดซื้อที่เหนือกว่า และเชื่อว่าจะช่วยให้ตลาดฯน่าจะรักษาฐานหรือขยับขึ้นช่วงสั้นได้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เลือกหุ้นที่เกี่ยวข้อง LTF-RMF นอกจากนี้ยังแนะนำ WORK หรือ หุ้นปันผลดี

ที่มา http://www.moneychannel.co.th/index....12-setset.html
http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39279

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:19:55 ]
ความเห็นที่ 3

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39268

จากคุณ : วันซิ่นโลก (yai-cho) [21 ธ.ค. 55 07:20:51 ]
ความเห็นที่ 4

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ​แรงขาย​ทำกำ​ไรฉุดทองคำปิดร่วง 21.8 ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนัก​เมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) ​เนื่องจากนักลงทุน​เทขาย​ทำกำ​ไรทองคำ​ซึ่ง​เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐ​เปิด​เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย​ในประ​เทศ (จีดีพี) ​ไตรมาส 3 ที่ขยายตัว​ได้ดี​เกินคาด





สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบ​เดือนก.พ.ร่วงลง 21.8 ดอลลาร์ ​หรือ 1.31% ปิดที่ 1,645.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญา​โลหะ​เงินส่งมอบ​เดือนมี.ค.ลดลง 1.438 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.678 ดอลลาร์/ออนซ์ ​และสัญญา​โลหะทอง​แดงส่งมอบ​เดือนมี.ค.ลดลง 6.9 ​เซนต์ ปิดที่ 3.5365 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบ​เดือนม.ค.ปิดที่ 1546.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 46.70 ดอลลาร์ ​และสัญญาพัลลา​เดียมส่งมอบ​เดือนมี.ค. 680.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 18.10 ดอลลาร์

นักลงทุน​เทขายสัญญาทองคำหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ​เปิด​เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย​ในประ​เทศ (จีดีพี) ที่​แท้จริงประจำ​ไตรมาส 3 ปี 2555 ขยายตัว 3.1% ​ซึ่ง​เป็นปรับ​เพิ่มขึ้นจาก​การประมาณ​การครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัว​เลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิ​เคราะห์ส่วน​ใหญ่คาด​การณ์​ไว้ที่ 2.7% ​เนื่องจากอัตรา​การอุป​โภคบริ​โภคส่วนบุคคล​และยอดส่งออกขยายตัว​ได้ดี​ เกินคาด

นักวิ​เคราะห์คาดว่า สัญาทองคำจะยังคง​เคลื่อนตัวผันผวน​ในอีกหลายวันข้างหน้า​เนื่องจากนักลงทุนยังคง​เทขาย​ทำกำ​ไร

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:21:44 ]
ความเห็นที่ 5

สวัสดีวันโลกไม่แตกครับทุกๆท่าน

จากคุณ : พันเกลียว [21 ธ.ค. 55 07:22:34 ]
ความเห็นที่ 6

ราคาทองคำโลกย้อนหลัง 40 ปี

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:22:40 ]
ความเห็นที่ 7

สวัสดีครับหนุ่มๆสาวๆแห่งปิ๊งๆๆๆๆ
และผู้ที่กำลังจะมาสมัครเข้าบ้าน
และผู้เยี่ยมชมบ้านทั้งหลายครับ
ถ้าจะให้กิฟท์แก่ผู้เปิดบ้าน
ก็จะสร้างกำลังใจได้เยอะครับ
และจะได้รู้ด้วยว่า
มีพี่ๆน้องๆท่านใดมาบ้างแล้วหรือไม่ครับ
ข่าวสารและข้อมูลทั้งมีสาระและไม่มีสาระ
นำมาเพื่อคิดพิจารณาและวิเคราะห์
ไปด้วยอารมณ์ดีๆด้วยกันนะครับ

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:32:14 ]
ความเห็นที่ 8

สวัสดีครับพี่ปรัชญา

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โอเอสเค(ประเทศไทย)กล่าวว่า การซื้อขาย Set50 Futures วันนี้ ตลาดปรับตัวลงหลังจากที่เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจา Fiscal Cliff ที่จะต้องพยายามให้ได้ข้อสรุปภายใน 1-2 วันนี้ก่อนคริสต์มาส หากการเจรจาไม่เรียบร้อยมีโอกาสให้ตลาดปรับลงได้อีก และมีโอกาสทำให้ตลาดเข้าสู่
ช่วงการปรับฐาน
นอกจากนี้ช่วงปลายปี flow จะเริ่มลดลง และนักลงทุนหันไปเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว ทำให้ขาดแรงหนุนตลาดจากหุ้น big cap แนะการลงทุนให้ short แนวต้านที่ 940-942 จุด แนวรับที่ 932 จุด
ส่วนตลาดทองคำ กลับเป็นขาลงอย่างชัดเจนแล้ว เนื่องจากไม่มีปัจจัยกระตุ้น เพราะชัดเจนแล้วว่า สหรัฐคงไม่ออก

มาตรการเพิ่มปริมาณเงิน (QE) อีก แนะการลงทุน ถ้าราคาดีดกลับที่ 1,680 , 1,660 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะให้ short  ถ้าหลุด1,660 ดอลลาร์/ออนซ์ มีโอกาสลงลึกที่ 1,620 ดอลลาร์/ออนซ์
ด้าน บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ออกบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำในการซื้อขายระหว่างวันของวันนี้แกว่งตัวระหว่าง 1,665-1,672 ดอลลาร์ ราคาทองคำยังติดแนวต้านที่บริเวณ  1,680 ดอลลาร์ ถึงแม้มีปัจจัยหนุนจากการเจรจาFiscal cliff ของสหรัฐเริ่มมีปัญหา หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันวางแผนที่จะลงคะแนนเสียงสนับสนุนร่างกฎหมายในการปรับขึ้นภาษีสำหรับผู้มีเงินได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีและเรียกเก็บภาษีที่ระดับต่ำสำหรับผู้เสียภาษีกลุ่มอื่นๆ  ซึ่งประธานาธิบดีโอบามาขู่ที่จะวีโต้แผนภาษีของพรรครีพับลิกัน
คืนนี้สหรัฐจะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/55 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย คาดว่าจะขยายตัว 2.8% จากที่ประมาณครั้งที่ 2 ขยายตัว 2.7% ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.คาดเพิ่มขึ้นเป็น 4.88 ล้านหน่วย จากที่เดือนต.ค. อยู่ที่ระดับ 4.79 ล้านหน่วย ถ้าตัวเลขทั้ง 2 ตัวออกมาดีคาดว่าจะเป็นปัจจัยให้การฟื้นตัวของราคาทองคำไปไม่ได้ไกล
โดยมีแนวต้านที่ 1,680 ดอลลาร์และ 1,690 ดอลลาร์ตามลำดับ แนวรับสำหรับการเก็งกำไรฝั่งซื้ออยู่ที่ 1,660 ดอลลาร์ กรณีที่ราคาฟื้นตัวขึ้นแรงมาที่แนวต้าน 1,690 ดอลลาร์อาจเก็งกำไรฝั่งขาย
ดัชนีอ้างอิง SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 937.52 จุด ลดลง 1.19 จุด (-0.13%)
ปริมาณ                        สถานะคงค้าง
Total Market                      57,353                             271,650
Total Futures                     57,266                            266,090
Brent Crude Oil                       409                                  999

Metal                                    14,892                               47,512
- 50 Baht Gold                   5,455                               16,609
- 10 Baht Gold                   9,392                               30,587
- Silver                                  45                                  316

USD                                             282                             16,995

Interest Rate                             -                                     -
- 3M BIBOR                               -                                      -
- 6M THBFIX                              -                                     -
- 5Y Gov Bond                           -                                     -

SET50 Index                         23,395                               48,267
- S50Z12                          14,214                                37,242
- S50F13                                  71                                  222
- S50G13                                     3                                     5
- S50H13                             8,980                                9,949
- S50M13                                 106                                 589
- S50U13                                  21                                  260

Sector Index Futures                  -                                     7
- BANK Index Futures               -                                     5
- COMM Index Futures               -                                     -
- ENERG Index Futures            -                                      1
- FOOD Index Futures               -                                     -
- ICT Index Futures                -                                      1

Single Stock                      18,288                             152,310
- ADVANC Futures                   16                                  122
- BANPU Futures                      11                                 120
- BAY Futures                       367                              1,388
- BBL Futures                           6                                  961
- BTS Futures                   2,008                                77,069
- CPALL Futures                      11                                 215
- CPF Futures                           8                              1,566
- DTAC Futures                          -                                    48
- HMPRO Futures                   320                              1,010
- IRPC Futures                       99                              2,001
- ITD Futures                       133                              6,516
- IVL Futures                          28                                 782
- KBANK Futures                   138                                  765
- KTB Futures                   6,167                                11,588
- LH Futures                           72                                  987
- MINT Futures                          -                                 227
- PS Futures                              -                                 253
- PTT Futures                           4                                  806
- PTTEP Futures                   295                              2,721
- QH Futures                      6,265                               17,392
- SCB Futures                       122                                  309
- SCC Futures                           3                                  106
- STA Futures                          30                                 338
- TCAP Futures                          7                                 440
- THAI Futures                          -                                 637
- TMB Futures                   2,014                                11,844
- TOP Futures                           9                                  515
- TRUE Futures                      140                             3,354
- TTA Futures                          15                             7,830
- TUF Futures                           -                                  400

Total Options                              87                              5,560
SET50 Index                                 87                             5,560
Call                                     69                              1,567
Put                                        18                             3,993

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:35:03 ]
ความเห็นที่ 9

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ธ.ค.ลดลง 964,000 บาร์เรล แตะที่ 371.65 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.1 ล้านบาร์เรล

-- ฟิทช์ เรทติ้งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อระหว่างประเทศ เตือนว่าสหรัฐอาจสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA หากล้มเหลวในการเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลัง หรือ fiscal cliff


-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะวีโต้ข้อเสนอ “แผนสอง" ของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เกี่ยวกับหน้าผาทางการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค. 2556

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.10% ในการประชุมวันนี้ พร้อมขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 101 ล้านล้านเยน จากเดิม 91 ล้านล้านเยน

-- นายอาคิโอะ โตโยดะ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น (JAMA) เรียกร้องให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายชินโซ อาเบะ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับการแข็งค่าของเงินเยนและเพื่อหนุนภาคอุตสาหกรรมรถยนต์

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่าเขาและนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จำเป็นต้องประนีประนอมในการหารือสกัดหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) พร้อมแสดงความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงก่อนช่วงคริสต์มาส

-- เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงเป้าเงินเฟ้อไว้ที่ 1% หลังจากที่นายชินโสะ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้มีการปรับเพิ่มเป้าเงินเฟ้ออีก 2 เท่า

-- นายมาซาอากิ ชิราคาวา ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวกับนายชินโสะ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในวันนี้ว่า บีโอเจจะยังคงเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ

-- นายมาซาอากิ ชิรากาวา ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจะทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อและตั้งเป้าที่จะได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนมกราคม หลังจากที่นายชินโสะ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีได้ขอให้บีโอเจดำเนินการมากกว่านี้เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:38:01 ]
ความเห็นที่ 10

ลูกสาวกราบสวัสดีครับพี่ปรัชญา

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:40:24 ]
ความเห็นที่ 11

KR Daily Update : ประเด็นเด่นวันนี้
    ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศขยายขนาดวงเงินซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน (Asset-Purchase Program) ครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน ทำให้วงเงินเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 76 ล้านล้านเยน

จากเดิม 66 ล้านล้านเยน แต่คงวงเงินที่ใช้เสริมความสามารถในการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ไว้ที่ 25 ล้านล้านเยน ซึ่งทำให้วงเงินในมาตรการปล่อยกู้และซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 101 ล้านล้านเยน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์ทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นในครั้งนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวนโยบายที่นายชินโซ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ประกาศไว้ ซึ่งมีเนื้อหาคือการเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นผ่านหลายเครื่องมือ เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินฝืดและกระตุ้นเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี ยังคงมีการคาดการณ์ว่า ทิศทางนโยบายการเงินของญี่ปุ่นในปี 2556 อาจผ่อนคลายลงอีก (หลังการขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของนายอาเบะในวันที่ 26 ธ.ค.2555) ซึ่งก็อาจมีผลให้การเคลื่อนไหวของเงินเยนโน้มไปในด้านอ่อนค่ามากขึ้น ส่วนในระยะกลาง รัฐบาลของนายอาเบะยังคงต้องเผชิญกับโจทย์อันท้าทายในการรักษาเสถียรภาพการฟื้นตัวให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคงต้องยอมรับว่าญี่ปุ่นมีปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งภาวะที่หนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูง แต่การจัดเก็บรายได้มีแนวโน้มลดลงจากปัญหาผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และการถดถอยของความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ ผนวกกับความขัดแย้งกับจีนประเด็นหมู่เกาะเซนกากุ ซึ่งคุกคามธุรกิจญี่ปุ่นในจีนและการส่งออกไปยังจีนอีกด้วย

    เกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีหญิงคนแรกจากการเลือกตั้งวานนี้ (19 ธ.ค.2555) ได้แก่ ปาร์ค กึน เฮ ซึ่งเป็นบุตรสาวของปาร์ค จอง ฮี อดีตผู้นำของเกาหลีใต้ ทั้งนี้ นโยบายที่ได้ประกาศไว้เมื่อครั้งหาเสียงได้แก่ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพิ่มการกระจายรายได้ และการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ ว่าที่ผู้นำใหม่จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนก.พ.2556 และมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ผู้นำใหม่ของเกาหลีใต้ มีภารกิจสำคัญอันดับแรก คือ การเข้ามาบริหารเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้นตัว หลังจากที่ในไตรมาสที่ 3/2555 อัตราเติบโตของจีดีพีลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี (ที่ร้อยละ 0.2 (SA, QoQ)) จากผลกระทบของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนั้น ยังมีโจทย์ท้าทายคือการลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ประชากร ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังจากการเร่งเข้าสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมในยุคหลังสงครามเกาหลี (ค.ศ.1962) โดยสิ่งที่ตลาดต่างเฝ้าจับตาในระยะนี้คือ แนวนโยบายด้านเศรษฐกิจที่จะมีออกมาเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปี 2556 ที่หากได้ผล ก็อาจช่วยประคองโมเมนตัมการฟื้นตัวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกในปี 2556 หลังจากที่จีนได้ใช้มาตรการกระตุ้นในปี 2555 และเศรษฐกิจมีสัญญาณที่ดีขึ้นในระหว่างเดือน ก.ย.-พ.ย.2555

    ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนพ.ย. 2555 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนมาอยู่ที่ระดับ 95.2 จากระดับ 93.0 ในเดือนต.ค. นำโดย การเพิ่มขึ้นของยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศ ซึ่งมีค่าดัชนีที่เกิน 100 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่ออุปสงค์ในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าและบริการ ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และพลังงาน สำหรับภาคการส่งออก ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในเดือนพ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้มียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.6 ลดลงจากระดับ 101.8 ในเดือนต.ค. ตามยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ที่ปรับตัวลดลง    

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวดีขึ้น แต่ค่าดัชนีที่ยังคงต่ำกว่าระดับ 100 ก็เป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลต่อสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่จะมีผลเชื่อมโยงมายังปริมาณคำสั่งซื้อจากต่างประเทศในระยะข้างหน้า ขณะที่ ต้นทุนการผลิตหลายด้านที่มีกำหนดปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้าเช่นกัน (การทยอยลอยตัวราคา LPG และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาททั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 2556) ก็อาจเป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการที่มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่ำ อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลสามารถผลักดันมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนการผลิต และภาวะผันผวนของอุปสงค์ต่างประเทศ ก็น่าจะช่วยผ่อนคลายความกังวลของภาคธุรกิจลง และประคองบรรยากาศในภาคอุตสาหกรรมให้ทยอยฟื้นตัวขึ้นอย่างมั่นคงได้ในระยะต่อไป

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:40:49 ]
ความเห็นที่ 12

วันซิ่นโลก

ซิ่น = ผ้าถุง ครับ

จากคุณ : คุณใหญ่ แซ่ฮัท (yai-cho) [21 ธ.ค. 55 07:42:17 ]
ความเห็นที่ 13

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้นและความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 90.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 110.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สามของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2555 โดยระบุว่า จีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 3.1% ซึ่งเป็นปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% เนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ขยายตัว 1.6% และยอดส่งออกขยายตัว 1.9%

ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 17,000 ราย แตะที่ 361,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 357,000 ราย

นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะวีโต้ข้อเสนอ “แผนสอง" ของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เกี่ยวกับหน้าผาทางการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค. 2556












สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 21.8 ดอลลาร์ หรือ 1.31% ปิดที่ 1,645.9 ดอลลาร์/ออนซ์


สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.438 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.678 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6.9 เซนต์ ปิดที่ 3.5365 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1546.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 46.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. 680.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 18.10 ดอลลาร์

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2555 ขยายตัว 3.1% ซึ่งเป็นปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% เนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลและยอดส่งออกขยายตัวได้ดีเกินคาด

นักวิเคราะห์คาดว่า สัญาทองคำจะยังคงเคลื่อนตัวผันผวนในอีกหลายวันข้างหน้าเนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร











ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของสหรัฐ ได้ช่วยลดแรงลบของดอลลาร์ในระหว่างวัน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 84.390 เยน จากระดับของวันพุธที่ 84.400 เยน และร่วงลง 0.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9115 เยน จากระดับ 0.9133 เยน

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.13% แตะที่ 1.3243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3226 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.21% แตะที่ 1.6278 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6244 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.03% แตะที่ 1.0482 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0479 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.06% แตะที่ 0.8335 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8340 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะวีโต้ข้อเสนอ “แผนสอง" ของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เกี่ยวกับหน้าผาทางการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค. 2556

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2555 ขยายตัว 3.1% ซึ่งเป็นปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7%









ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐได้ปรับเพิ่มการประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐปรับเพิ่มการประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 59.75 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 13,311.72 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.88 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 1,443.69 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 6.02 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 3,050. 39 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 21.8 ดอลลาร์ หรือ 1.31% ปิดที่ 1,645.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.438 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.678 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6.9 เซนต์ ปิดที่ 3.5365 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1546.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 46.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. 680.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 18.10 ดอลลาร์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้นและความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 90.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 110.20 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของสหรัฐ ได้ช่วยลดแรงลบของดอลลาร์ในระหว่างวัน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 84.390 เยน จากระดับของวันพุธที่ 84.400 เยน และร่วงลง 0.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9115 เยน จากระดับ 0.9133 เยน

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.13% แตะที่ 1.3243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3226 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.21% แตะที่ 1.6278 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6244 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.03% แตะที่ 1.0482 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0479 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.06% แตะที่ 0.8335 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8340 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 3.25 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 5,958.34 จุด

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:44:11 ]
ความเห็นที่ 14

ภาวะตลาดน้ำมัน:จีดีพี Q3 สหรัฐ​โต​เกินคาด หนุนน้ำมัน WTI ปิดบวก 15 ​เซนต์

สัญญาน้ำมันดิบ​เวสต์​เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก​เมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐ​เปิด​เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย​ในประ​เทศ (จีดีพี) ​ไตรมาส 3 ที่ขยายตัว​ได้ดี​เกินคาด อย่าง​ไร​ก็ตาม ตัว​เลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้น​และ​ความวิตกกังวล​เกี่ยวกับ ภาวะหน้าผา​การคลังของสหรัฐ ส่งผล​ให้สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้น​เพียง​เล็กน้อย



สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบ​เดือนม.ค.​เพิ่มขึ้น 15 ​เซนต์ ​หรือ 0.17% ปิดที่ 90.13 ดอลลาร์/บาร์​เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ​เบรนท์ (BRENT) ส่งมอบ​เดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 16 ​เซนต์ ​หรือ 0.14% ปิดที่ 110.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูล​เศรษฐกิจที่​แข็ง​แกร่งของสหรัฐ ​โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ​เปิด​เผยตัว​เลขประมาณ​การครั้งที่สามของผลิตภัณฑ์ มวลรวมภาย​ในประ​เทศ (จีดีพี) ที่​แท้จริงประจำ​ไตรมาส 3 ปี 2555 ​โดยระบุว่า จีดีพีที่​แท้จริงประจำ​ไตรมาส 3 ขยายตัว 3.1% ​ซึ่ง​เป็นปรับ​เพิ่มขึ้นจาก​การประมาณ​การครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัว​เลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิ​เคราะห์ส่วน​ใหญ่คาด​การณ์​ไว้ที่ 2.7% ​เนื่องจากอัตรา​การอุป​โภคบริ​โภคส่วนบุคคล ขยายตัว 1.6% ​และยอดส่งออกขยายตัว 1.9%

ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์​แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ​เปิด​เผยว่า ยอดขายบ้านมือสอง​เดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิตต่อปี ​ซึ่ง​เป็นอัตรา​การขยายตัวที่รวด​เร็วที่สุดนับตั้ง​แต่​เดือนพ.ย. 2552



อย่าง​ไร​ก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้น​เพียง​เล็กน้อย​เนื่องจากตลาด​ได้รับ​แรงกดดันจาก ข้อมูลด้าน​แรงงานที่อ่อน​แอ ​โดยกระทรวง​แรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวน​ผู้ขอรับสวัสดิ​การว่างงานครั้ง​แรก​ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. ​เพิ่มขึ้น 17,000 ราย ​แตะที่ 361,000 ราย มากกว่าที่นักวิ​เคราะห์ส่วน​ใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 357,000 ราย

นอกจากนี้ นักลงทุนส่วน​ใหญ่ยังคงวิตกกังวล​เกี่ยวกับภาวะหน้าผา​การคลังของสหรัฐ หลังจาก​ทำ​เนียบขาว​เปิด​เผยว่า ประธานาธิบดีบารัค ​โอบามาของสหรัฐ จะวี​โต้ข้อ​เสนอ “​แผนสอง" ของนายจอห์น ​โบห์​เนอร์ ประธานสภา​ผู้​แทนราษฎรสหรัฐ ที่​เกี่ยวกับหน้าผาทาง​การคลัง ​หรือมาตร​การปรับขึ้นภาษี​และลดรายจ่ายจะมีผลบังคับ​ใช้พร้อมกัน​ในวันที่ 1 ม.ค. 2556

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:45:52 ]
ความเห็นที่ 15

วันซิ่นโลก  หน่วยงานไหนจัดครับ
หรือว่าจัดโดยหย่ายยยยยยยยยย(แซ่ฮัท)
รับรองงานนี้สาวๆตรึมแน่เลย
น่าไปดู(สาวๆ)นะ



  นับถอยหลังอีก 2 สัปดาห์ ตลาดหุ้นไทยก็จะอำลาปี 2555 ส่วนจะทิ้งโค้งสุดท้ายของปีมังกรทอง หรือปีงูใหญ่ ในวันศุกร์ที่ 28 ธันวาคมอย่างไรนั้น ต้องลุ้นว่าปิดในแดนบวกหรือแดนลบ และมีลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ หรือนิวไฮหรือไม่

         ขณะที่การซื้อขายในตลาดหุ้นภาคเช้าของวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันที่สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้แถลงผลสำรวจนักวิเคราะห์ ถึงทิศทางการลงทุนปี 2556 หรือปีมะเส็ง ซึ่งเป็นปีงูเล็ก  ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทะยานขึ้นแตะที่  1,366.17  จุด  เป็นนิวไฮ ในรอบกว่า 16 ปี   ก่อนปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร      
         การลงทุนในตลาดหุ้นไทยเกือบ 1 ปีมานี้  หรือจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2555  สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน ในอัตราที่สูงเฉลี่ย 30 % โดยให้ผลตอบแทนสูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของตลาดหุ้นทั่วโลก  ขณะที่พบว่า กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยบางกองทุนทำผลตอบแทนได้สูงถึง 50 % จากการลงทุนในรอบ 11 เดือน
         สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2556 จะเป็นอย่างไร จะมีปัจจัยบวกอะไรมาเป็นแรงส่ง และสร้างบรรยากาศการลงทุน  และมีปัจจัยลบอะไรเข้ามากระทบ รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน จะเป็นอย่างไร "ฐานเศรษฐกิจ" ได้นำผลสำรวจของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งแถลงข่าวโดยนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมมานำเสนอ ดังต่อไปนี้        
 ***หุ้นปีงูเล็กทะยานสูงสุด 1,537 จุด              
              โพลล์นักวิเคราะห์คาดการณ์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2556 ว่า จะปิด ณ สิ้นปีที่ 1,471 จุด  ขณะที่คาดว่าจะทำจุดสูงสุด หรือนิวไฮ ที่ 1,537 จุด  ส่วนจุดต่ำสุดของปีคาดว่าจะไหลรูดลงไปที่ระดับ 1,245 จุด
               จากคาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ของนักวิเคราะห์ข้างต้นถือได้ว่า ตลาดหุ้นไทยปีหน้ามีความผันผวนสูง โดยแกว่งตัวขึ้น-ลงถึง 292 จุด  เมื่อเทียบจากคาดการณ์ดัชนีสูงสุดกับดัชนีต่ำสุด  แต่สำหรับเซียนหุ้นที่คร่ำหวอด หรือวนเวียนอยู่ในตลาดหุ้นมานาน อาจจะแอบยิ้มกับทิศทางตลาดหุ้นปีหน้า เพราะภายใต้ความผันผวนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ เกือบ 300 จุดนั้น คือ โอกาสสอยกำไรเข้ากระเป๋านั่นเอง  
***ปัจจัยลบให้น้ำหนัก"การเมือง"
         สำหรับปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่นักวิเคราะห์คาด ว่าจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น ในด้านปัจจัยบวกมี 3 ปัจจัย ประกอบด้วย  ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ที่ขยายตัวสูงในปี 2556 ,รัฐบาลลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20%, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศลงอีก ,สหรัฐอเมริกาจะแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง หรือ Fiscal cliff ได้ทัน และนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาซื้อหุ้นไทยอีก โดยคาดว่าปีหน้า จะมียอดซื้อสุทธิเฉลี่ย 4.6 หมื่นล้านบาท  
         ส่วนปัจจัยลบที่คาดว่าจะกระทบการลงทุนในตลาดหุ้นปีหน้า นักวิเคราะห์ที่ตอบแบบสอบถาม 90 % ให้น้ำหนักความเสี่ยงทางการเมือง ขณะที่มีความกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซนมากกว่า คือมีผู้ตอบถึง 76 % เทียบกับปัญหาในสหรัฐอเมริกา ที่มีผู้ตอบ 62 %
             รวมทั้งความเห็นของนักวิเคราะห์ ระบุว่า ภาครัฐควรเร่งลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค และโครงการขนาดใหญ่ ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง เพื่อเพิ่มกำลังซื้อ ลดอัตราดอกเบี้ยทางการช่วงนี้ถึงปี 2556 ลงอีก 0.25-0.50 % และควรปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด
***คาดกำไรบจ.โต 15.2 %  
           ด้านผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) สมาคมนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น(EPS Growth) ของบริษัทจดทะเบียนในปี 2556 จะเติบโตเฉลี่ย 15.2%  
          สำหรับกลุ่มธุรกิจที่น่าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย  32.17% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เติบโตเฉลี่ย 18.44% และกลุ่มธนาคารพาณิชย์  เติบโตเฉลี่ย 18.37% ด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผลนั้น กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะมีอัตราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.กลุ่มสื่อสาร ประเมินอัตราผลตอบแทนไว้ที่ 5.50 % 2.กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 5.08% และ 3. กลุ่มพลังงาน 4.34 %
         ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนในปีหน้า นักวิเคราะห์ แนะนำให้รอจังหวะทยอยซื้อสะสม ในช่วงที่ตลาดปรับฐานลง โดยเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงสม่ำเสมอ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และหุ้นที่อิงการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก โดยแนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ BCP, INTUCH, KBANK, PTTEP, STEC เป็นต้น ส่วนหุ้นเต็มมูลค่า/เกินมูลค่า ได้แก่ หุ้นในหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ธุรกิจธนาคาร และธุรกิจเหล็ก อย่างละ 1 ราย  เป็นต้น
***เปิดสูตรจัดพอร์ตปีหน้า
       นักวิเคราะห์ยังแนะนำให้จัดพอร์ตการลงทุน ด้วยการกระจายไปในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ คือ ลงทุนในหุ้น หรือกองทุนหุ้นในประเทศ สัดส่วน 45%, หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 11%, ทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส 11%, ตราสารหนี้และกองทุนตราสารหนี้  17%  
       สำหรับการลงทุนในหุ้นนั้น แนะนำให้รอทยอยซื้อสะสมช่วงที่ตลาดปรับฐาน เลือกหุ้นพื้นฐานดี ที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และหุ้นที่อิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
              ข้างต้นคือ โพลล์นักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดหุ้น และคำแนะนำการลงทุนปี 2556 ขณะที่ข้อมูลของลิปเปอร์ระบุว่า นักลงทุนทั่วโลกได้ถอนเงินลงทุนออกจากกองทุนรวม ที่ลงทุนในหุ้นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 505 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับที่มากเป็นประวัติการณ์ ในเดือนตุลาคม 2555 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาวะเฟื่องฟูในตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจจะสิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่ผู้จัดการกองทุนหันไปลงทุนในตลาดหุ้นอื่น ๆ ที่มีราคาถูก และตั้งเป้าไปที่ตลาดหุ้นจีนและอินเดีย
          ทั้งนี้ ข้อมูลของลิปเปอร์ระบุว่า ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในภาวะกระทิงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งภาวะดังกล่าวส่งผลให้ ตลาดหุ้นไทยและฟิลิปปินส์ติดอยู่ในกลุ่มตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในโลกในปีนี้
        โดยนายบิล มัลโดนาโด หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนในเอเชีย-แปซิฟิก ของบริษัทเอชเอสบีซี โกลบอล แอสเซท แมเนจเมนท์ฯ กล่าวว่า มีบริษัทที่ดีมากหลายแห่งอยู่ในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แต่ราคาหุ้นในตลาดภูมิภาคนี้มีราคาที่อยู่ในระดับเต็มมูลค่ามากแล้ว
            บทสรุปสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นปีงูเล็ก  ต้องบอกว่าไม่ง่าย เพราะหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น สูตรลงทุนที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์คือ จับจังหวะลงทุนเป็น ติดตามและเกาะติดข้อมูลข่าวสาร  ทบทวนพอร์ตลงทุนเป็นระยะ ๆ เชื่อเถอะว่าไม่มีบาดเจ็บ หรือจะเจ็บก็น้อย หากตลาดหุ้นเกิดแหกโค้ง

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:47:55 ]
ความเห็นที่ 16

ดาวโจนส์ปิดบวก59.75จุด/น้ำมันWTIปิดบวก15เซนต์


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐปรับเพิ่มการประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 59.75 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 13,311.72 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.88 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 1,443.69 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 6.02 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 3,050. 39 จุด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 90.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I13093857/I13093857.html

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:49:31 ]
ความเห็นที่ 17

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่


สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. 55 ทำให้ประเทศไทยตอนบนอากาศจะหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลงได้ 4-6 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส  สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง  อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร  ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน กับหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.











สำนักงานเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางที่ MOLUCCA SEA 5.6 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 04.47 น.  วันนี้( 21 ธันวาคม 2555) พิกัดละติจูด : 0° 28' 48'' เหนือ  ลองจิจูด : 126° 13' 48'' ตะวันออก  ความลึกจากระดับผิวดิน : 60 กิโลเมตร  ไม่มีรายงานการเตือนภัยหรือแจ้งผลกระทบใด ๆ

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:50:51 ]
ความเห็นที่ 18

วันซิ่นโลกจัดโดยหย่ายยยยยยยยยย(แซ่ฮัท)คร๊าบบบบบบบบบฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:52:34 ]
ความเห็นที่ 19

เปิดโผ 10 ธุรกิจร่วง-รุ่งรับปี 2556 "ความงาม" แชมป์สดใส ส่วน "สิ่งทอ-เครื่องนุ่งห่ม" ร่วง พิษ 300 บาท
   นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการจัด 10 อันดับธุรกิจดาวเด่น-ดาวร่วงปี 2556 ว่า ธุรกิจที่คาดว่ามีโอกาสเติบโตมากที่สุด อันดับ 1 คือ ธุรกิจทางการแพทย์และความงามได้ 91.4 คะแนน จาก 100 คะแนน เนื่องจากได้รับผลดีจากกระแสรักษาสุขภาพและความงามมากขึ้น
   อันดับ 2 ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร 89.2 คะแนน ได้รับอานิสงส์จากการมีสัญญาณ 3 จี อันดับ 3 ธุรกิจสื่อโทรทัศน์ 88.2 คะแนน เนื่องจากเข้าสู่ยุคทีวี ดิจิตอล การออกใบอนุญาตฟรีทีวีมากขึ้น อันดับ 4 สถานีบริการจำหน่ายน้ำมัน แก๊ส 88 คะแนน อันดับ 5 ธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน 87.4 คะแนน อันดับ 6 ธุรกิจด้านอาหาร 87.2 คะแนน อันดับ 7 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ 87.0 คะแนน เป็นผลจากธุรกิจบันเทิงขยายตัว คนไทยมีรายได้เพิ่มจึงออกมาสังสรรค์เฮฮา อันดับ 8 มี 2 ธุรกิจได้ 86.4 คะแนนเท่ากัน คือ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจการศึกษา อันดับ 9 มี 2 ธุรกิจได้ 86.2 คะแนนเท่ากัน คือ สถาบันการเงิน ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง และอันดับ 10 มี 2 ธุรกิจได้ 85.2 คะแนนเท่ากัน คือ อสังหาริมทรัพย์และธุรกิจด้านโลจิสติกส์  
   ส่วนธุรกิจดาวร่วง อันดับ 1 ธุรกิจอุตสาหกรรมฟอกย้อม 18.6 คะแนน จาก 100 คะแนน อันดับ 2 ธุรกิจผลิตรองเท้า 20.2 คะแนน อันดับ 3 ธุรกิจเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย 21 คะแนน อันดับ 4 ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องหนัง 21.1 คะแนน อันดับ 5 ผักผลไม้อบแห้ง 21.2 คะแนน อันดับ 6 สิ่งทอผ้าผืน 21.5 คะแนน อันดับ 7 ธุรกิจด้านหัตถกรรม 22.2 คะแนน อันดับ 8 ร้านโชห่วย 23.8 คะแนน อันดับ 9 ธุรกิจโฮมสเตย์ 24.1 คะแนน และอันดับ 10 ธุรกิจของเด็กเล่น 24.3 คะแนน ทั้งนี้ ธุรกิจดาวร่วงส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ใช้แรงงานมาก จึงได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ.

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:52:59 ]
ความเห็นที่ 20

สวัสดีครับทุกท่าน..โลกไม่แตกแย้วววว  ฉลองกันหน่อย ^^

จากคุณ : ตำลึงริมรั้ว [21 ธ.ค. 55 07:54:36 ]
ความเห็นที่ 21

ถ้าไปขอซื้อซิ่นที่เค้าสวมอยู่นี่
เค้ายอมถอดมาขายให้ไหมครับ
ถามก่อน  เผื่อเกิดชอบใจสาวเอ๊ยผ้าซิ่นผืนที่เค้าสวมอยู่



คลังลุ้น “ฟิทซ์” ปรับเครดิตประเทศต้นปี 2556 หลังแจงรับจำนำข้าวไม่กระทบเศรษฐกิจ ส.อ.ท.เผยดัชนีอุตฯ พ.ย.ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน วอนรัฐช่วยเอสเอ็มอี ธปท.เกาะติดหนี้ใกล้ชิด
   นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คณะทำงานสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทซ์ เรทติ้ง ได้เดินมาเข้าพบเพื่อขอข้อมูลทางเศรษฐกิจของไทยกับกระทรวงการคลัง ซึ่งทางฟิทซ์สนใจข้อมูลพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ ด้านการคลัง และผลกระทบนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ว่าจะกระทบเศรษฐกิจของประเทศอย่างไรบ้าง
   ทั้งนี้ คณะทำงานของฟิทซ์ไม่ได้มีการสอบถามถึงปัญหาการเมืองเหมือนกับสถาบันจัดอันดับสแตนดาร์ด แอน พัวร์ (เอสแอนด์พี) ที่ยังคงอันดับเครดิตของไทยไว้เท่าเดิม เพราะยังเป็นห่วงเรื่องนโยบายของรัฐบาล และปัญหาทางการเมืองจะกระทบกับเศรษฐกิจในอนาคต
   "ฟิทซ์ไม่ห่วงเรื่องปัญหาการเมืองของไทยเลย ไม่ได้ถามถึง ซึ่งหากพิจารณาแต่พื้นฐานทางเศรษฐกิจ เชื่อว่าหลังจากฟิทซ์เดินทางกลับไปนำข้อมูลไปให้คณะกรรมการใหญ่ของฟิทซ์พิจารณา มีความเป็นไปได้สูงที่ต้นปีหน้าฟิทซ์จะปรับเครดิตของประเทศไทยเพิ่ม" นายสมชัยกล่าว
   นายสมชัยกล่าวอีกว่า ได้ชี้แจงกับคณะทำงานของฟิทซ์ เพิ่มเติม โดยมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดีทั้งทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูง เงินเฟ้อต่ำ ไม่มีปัญหาการว่างงาน ขณะที่ภาคสถาบันการเงินของไทยก็ยังแข็งแกร่ง เงินกองทุนอยู่ในระดับสูง และหนี้เสียต่ำ
   สำหรับผลกระทบของนโยบายรับจำนำข้าวก็ได้ชี้แจงกับทางฟิทซ์ให้รับทราบว่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้นบ้าง ขึ้นอยู่กับการระบายของกระทรวงพาณิชย์ หากระบายได้เร็วก็จะทำให้การเสียหายเกิดขึ้นน้อย
   ด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม พ.ย.2555 ว่า ค่าดัชนีอยู่ที่ 95.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 93.0 ใน ต.ค.2555 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนของปี 2555 โดยค่าดัชนีที่เพิ่มขึ้นเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ยังมีค่าต่ำกว่า 100 แสดงว่าความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอยู่ในระดับที่ไม่ดี
   ส่วนปัจจัยลบที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจโลก สถานการณ์การเมืองในประเทศ ต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงาน รวมทั้งการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556
   ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐ ก็คือ  ต้องการให้ภาครัฐขยายขอบเขตความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ไทย รวมถึงศึกษาและหามาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ
   ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ครั้งที่ 2/2555 ในวันนี้ว่า ที่ประชุมเห็นว่าความเสี่ยงหลักต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินไทยในปัจจุบัน ยังเป็นความเสี่ยงจากเศรษฐกิจการเงินโลก
   นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมประเมินเสถียรภาพระบบการเงินและเห็นว่าควรติดตามภาวะสินเชื่อและหนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้บางกลุ่มได้ในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย.

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:55:41 ]
ความเห็นที่ 22

แอร์เบอร์ลิน ลงฉุกเฉินไถลรันเวย์ขวางทางเครื่องบินขึ้น-ลง


ช่วงค่ำที่ผ่านมา เครื่องบินสายการบินแอร์เบอร์ลิน ได้นำผู้โดยสารต่างชาติ รวม247 คน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อที่เดินทางไปเยอรมัน ขณะที่นักบินนำเครื่องขึ้นสู่ท้องฟ้าไปได้เพียง 15 นาที ได้ติดต่อกลับมายังหอบังคับการบิน ขอนำเครื่องลง โดยแจ้งว่าเครื่องยนต์ขัดข้อง ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ จังหวะที่นำเครื่องลงจอด ได้เกิดอุบัติเหตุไถลไปกับทางวิ่ง อย่างไรก็ตามผู้โดยสารทั้งหมด ถูกลำเลียงออกมาได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดียังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาในขณะนี้ก็คือ สายการบินอื่นๆ ที่ต้องนำการนำเครื่องลงยังท่าอากาศยานานาชาติภูเก็ต ต้องนำเครื่องบินวน เพื่อรอการย้ายเครื่องบินของสายการบินแอร์เบอร์ลินนำออกไป
จากทางวิ่ง

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:57:02 ]
ความเห็นที่ 23

อืม   ปิ่นโต   สามใบเถาด้วย
เย๊   ช่วยเหมาก่อนนะ  เผื่อมันสิ้นโลกตอนสิ้นวัน
จะได้อิ่มก่อนดูโขนดูหนัง   อิ่มทีหลังดูหนังสิ้นโลก



นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปีหน้า ฝ่ายวิจัยยังคงเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคาร โดยกำลังการเข้าสู่การปรับฐานราคาเทียบกับมูลค่าทางบัญชีขึ้นมาเป็น 1.75-1.9 เท่า จากเดิม 1.5-1.7 เท่า จากอัตราผลอตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้นที่ยังเป็นขาขึ้น โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้นในปีหน้าจะอยู่ที่16.7% สูงสุดตั้งแต่ปี 2549

"ฝ่ายวิจัยคาดว่าในปีหน้าสินเชื่อน่าจะโต 11.2%ซึ่งจะชะลอลงจากปีนี้ที่คาดว่าโต 12.9% แต่เป็นการย้ายจากสินเชื่อที่ปีนี้โตในกลุ่มรีเทล แบงก์ เป็นธนาคารที่เน้นคอร์ปอเรท และเอสเอ็มอี ตามวัฎจักรของการลงทุน เราคาดกำไรปีหน้าจะเติบโต 17% ซึ่งสร้างสถิติสูงสุดเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน"นักวิเคราะห์กล่าว

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่ธปท. ประกาศหลักเกณฑ์ BASEL III ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 56 เป็นต้นไป โดยฝ่ายวิจัยพบว่าธนาคารพาณิชย์ไทยไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนจากหลักเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และยังมีมุมมองในเชิงบวกด้านปัจจัยพื้นฐานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และยังคงน้ำหนัก มากกว่าตลาด

"จากหลักเกณฑ์ที่ประกาศออกมาดังกล่าวจะพบได้ว่าธนาคารพาณิชย์ไทยไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ โดยหากพิจารณาที่ Tier1 Ratio ณ สิ้น 3Q55 ของธนาคารพาณิชย์ที่เราทำการศึกษาอยู่ จะพบว่าส่วนประกอบหลักของ Tier1 เกือบทั้งหมดจะเป็น CET1 อยู่แล้วอยู่ในระดับสูงกว่า 9.0% ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงมาก และเพียงพอที่จะรองรับมาตฐานที่จะบังคับใช้ในปี 2562 ได้ ดังนั้นจึงมีความมั่นใจว่าหลักเกณฑ์เรื่องการดำรงเงินกองทุนใหม่ตามเกณฑ์ใหม่จะไม่ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเพิ่มทุนของธนาคารพาณิชย์ไทยในอนาคต"นักวิเคราะห์กล่าว

เขากล่าวว่า ผลกระทบในระยะยาวยังเป็นประเด็นที่น่าติดตาม แม้ในระยะสั้นการใช้หลักเกณฑ์ BASEL III ใหม่จะไม่ส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ แต่ในระยะยาวเราประเมินว่าการใช้หลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนที่มีความเข้มงวดขึ้นจะช่วยเสริ้มสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในระบบสถาบันการเงิน แต่ในทางทางกลับกันธนาคารพาณิชย์จะสามารถ Leverage เงินกองทุนที่มีอยู่ได้น้อยลง ซึ่งอาจจะส่งผลถึงอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในระยะยาวได้
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือ ธนาคารพาณิชย์จะสามารถใช้เงินกองทุนและสินทรัพย์ที่มีในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม (ROA) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ซึ่งยังประเมินได้ยากในระยะยาวคงน้ำหนัก มากกว่าตลาด

ส่วนด้านปัจจัยพื้นฐาน ยังคงมุมมองเป็นบวกสำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเชื่อว่าในปี 2556 จะยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีสำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากด Momentum การขยายตัวของสินเชื่อและผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่าดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในรอบปี 2555 ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 42.25% จากระดับ 376.01 จุดเป็น 534.88 จุด โดยหุ้นแบงก์ทิสโก้(TISCO)เป็นหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุด 13.74% รองลงมาหุ้นแบงก์ไทยพาณิชย์(SCB) 9.85% หุ้นแบงก์กรุงเทพ(BBL) 7.65% หุ้นแบงก์กสิกรไทย(KBANK) 3.48% หุ้นเงินทุนธนชาต(TCAP) 2.80% และหุ้นแบงก์ทหารไทย (TMB) 1.08% ขณะที่หุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงได้แก่ หุ้นแบงก์กรุงศรีอยุธยา (BAY) 0.81% หุ้นแบงก์เกียรตินาคิน(KK) 3.54% และหุ้นแบงก์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LHBANK) 2.16

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 07:58:25 ]
ความเห็นที่ 24

21 ต้องลองขอซื้อดูครับหยอกเย้า

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 07:58:45 ]
ความเห็นที่ 25

Mayan Calendar Countdown

http://www.timeanddate.com/countdown/maya

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 08:02:36 ]
ความเห็นที่ 26

ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบนางพิมพา จิวะพรทิพย์ และนายนภดล อารยะกุล กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท สาลี่ อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE)  เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,087,214.99 บาท เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555

สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตรวจสอบพบสภาพการซื้อขายหุ้น SALEE ผิดปกติอันเนื่องมาจากการซื้อขายของบุคคลกลุ่มหนึ่ง ทำให้ราคาและปริมาณของหุ้น SALEE เปลี่ยนแปลงไม่ตรงกับสภาพปกติของตลาด ซึ่งจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่านางพิมพา ได้รู้เห็นตกลงกับนายนภดล ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายนภดลและบุคคลอื่น ทำการซื้อขายหุ้น SALEE  ระหว่างวันที่ 2 เมษายน 2550 ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2550 ในลักษณะผลักดันราคา พยุงราคา รวมทั้งจับคู่กันเองระหว่างบัญชี ทำให้ราคาปิดของหุ้น SALEE ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.20 บาท ในวันที่ 30 มีนาคม 2550 มาปิดที่ 5.15 บาท ในวันที่ 9 ตุลาคม 2550 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.94 และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 2.69 ล้านหุ้น เป็น 2.85 ล้านหุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.95 อันมีลักษณะอำพรางการซื้อขายหุ้น SALEE ของบุคคลที่เป็นกลุ่มเดียวกัน หรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดว่าราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไปอันไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด  รวมทั้งมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่อง ทำให้การซื้อหรือขายหุ้น SALEE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าว

การกระทำของนางพิมพาและนายนภดลเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2)  แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา  คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้ปรับนางพิมพาเป็นเงิน 4,587,214.99 บาท และปรับนายนภดลเป็นเงิน 500,000 บาท

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:04:35 ]
ความเห็นที่ 27

สงสัยคงเลือกคนซื้อด้วย  
ว่ารักชอบผ้าจริงไหม
แต่ไม่เป็นไรหน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่งละ  อิอิ



นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน(สมาคมบลจ.) เปิดเผยว่า ช่วง 11 เดือนแรกของปี55 ธุรกิจกองทุนรวมยังมีการเติบโตที่ดีโดยมีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านบาท จากสิ้นปี54 ที่ 2.00 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 25% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าคาดปีหน้าโตเลข 2 หลัก สิ้นปี54 ธุรกิจกองทุนรวมมีบัญชีผู้ลงทุนประมาณ 2.9 ล้านบัญชี

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2.48 ล้านบัญชี และกองทุนส่วนบุคคล 1,687 บัญชี ซึ่งจำนวนบัญชีผู้ถือหน่วยกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอาจจะมีซ้ำกันบ้างบางส่วน แต่ถ้ามองจำนวนผู้ถือหน่วยกองทุนรวมเทียบกับบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีประมาณ 70 ล้านบัญชี นั้น ก็คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3.74% ของจำนวนบัญชีเงินฝากเท่านั้น โอกาสที่ธุรกิจกองทุนรวมจะเติบโตได้อีกมากในอนาคตก็ยังมีอยู่

ปัจจุบันธุรกิจกองทุนรวมมีสินทรัพย์สุทธิคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 19.76% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งส่วนใหญ่ประมาณ 60% นั้นเป็นกองทุนตราสารหนี้ ในขณะที่เป็นกองทุนหุ้นประมาณ 20% เท่านั้น และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 26.38% ของเงินฝากทั้งระบบ ดังนั้นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจกองทุนรวมในไทยยังมีอีกมากเพียงแต่ต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนให้อ่านออกเขียนได้ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง

นายสมจินต์ ยังกล่าวอีกว่า หากมองธุรกิจกองทุนรวมในต่างประเทศจะพบว่าในสหรัฐเองสินทรัพย์สุทธิของกองทุนรวมคิดเป็นสัดส่วน 150% ของ GDP ในฮ่องกง 110% ของ GDP ในญี่ปุ่น 70% ของ GDP ในไต้หวันและเกาหลีใต้เท่ากันประมาณ 30% ของ GDP ส่วนในจีนใกล้เคียงกับไทยประมาณเกือบ 20% ของ GDP ถ้ามองในแง่นี้เชื่อว่าธุรกิจกองทุนรวมในไทยเองยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลปรับโครงสร้างฐานภาษีของบุคคลธรรมดาให้มีความละเอียดมากขึ้นนั้นน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวมบ้างแต่คงไม่มากเท่ากับประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจ เพราะฐานภาษีใหม่จะทำให้ประชาชนบางส่วนเสมือนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากฐานภาษีที่ต่ำลง ก็จะมีเงินในกระเป๋าที่จะไปจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย บริษัทที่ทำมาค้าขายก็น่าจะได้ประโยชน์และในท้ายที่สุดก็จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเองโดยรวม

สำหรับคนที่เคยลงทุนกับกองทุนประหยัดภาษีอยู่แล้วก็เชื่อมั่นว่าคนกลุ่มนี้จะยังคงลงทุนต่อเนื่องไม่ว่าจะอยู่ในฐานภาษีใด ในส่วนของฐานภาษีที่ต่ำกว่า 20% ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์มากนักทางสมาคมบลจ.ก็จะเดินหน้าให้ความรู้ทำความเข้าใจต่อเนื่อง แต่ในส่วนของฐานภาษี 20% ขึ้นมาที่ได้ใช้ประโยชน์อยู่เดิมแล้วนั้น จากประโยชน์จากฐานภาษีใหม่นี้ ก็หวังว่าเงินที่เพิ่มขึ้นมานั้นในบางส่วนผู้ลงทุนกลุ่มนี้จะนำเงินมาซื้อกองทุนประหยัดภาษีให้มากขึ้นนอกเหนือจากการที่นำไปใช้จ่ายในการบริโภคทั่วไปแล้ว ก็หวังใจไว้ในลักษณะนั้นเช่นกัน

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:07:34 ]
ความเห็นที่ 28

ขนหัวลุก
ใบหนาด


"ดาริน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากงานศพ



ที่จริงดิฉันไม่เคยรังเกียจรังงอนการไปงานศพมาก่อน ตรงกันข้าม กลับถือว่าเป็นงานสำคัญที่จำเป็นยิ่งกว่างานวันเกิดวันเงย หรืองานแต่งงานเสียด้วยซ้ำ เพราะถือว่าเป็นการไปอโหสิกรรมต่อกัน ล่ำลากันตามประสาญาติสนิทมิตรสหายเป็นครั้งสุดท้าย



แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์อย่างหนึ่ง เรียกว่าชวนให้ขนลุกขนพองสุดขีดก็แล้วกันค่ะ ที่ทำให้ดิฉันไม่กล้าย่างกรายเข้าไปในงานศพใดๆ อีกเลย นับเวลาได้ราวสิบปีเศษมาแล้ว



งานศพของเพื่อนรุ่นน้องบริษัทเดียวกัน พ่อแม่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมขึ้นที่วัดหัวลำโพงนี่เอง ถือว่าเป็นวัดกลางใจเมือง ตอนนั้นรถราก็ยังไม่ติดขัดนักหรอกค่ะ ถ้าเลยชั่วโมงเร่งด่วนไปแล้ว และวัดทั่วๆ ไปก็ไม่รีบร้อนสวดศพกันตั้งแต่หัววันเหมือนอย่างปัจจุบัน



พงษ์เทพอายุ 35 ปี หน้าตาไม่ขี้ริ้ว มนุษยสัมพันธ์ดีมาก มีอารมณ์ขันและช่างพูด ช่างคุย ทำให้เพื่อนฝูงได้หัวเราะกันเป็นประจำ ใครมีปัญหาชีวิตจนหน้านิ่วคิ้วขมวด พอได้ฟังพงษ์เทพพูดคุยก็หายเครียดได้พะเรอ



ทั้งๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นคนที่มีรสนิยมเพศเดียวกัน แต่พงษ์เทพก็ยังไม่มีแฟนซักที ถ้ามีใครถามก็ยิ้มฟันขาว พูดติดปากอยู่สองคำ



"เนื้อคู่ยังไม่เกิด" กับ "พี่ช่วยหาแฟนให้ผมซักคนซีฮะ"



ต่อมาไม่นาน พวกเราก็ต้องยอมรับว่าเป็นโชคดีทั้งของพงษ์เทพ กับผู้หญิงที่จะมาเป็นคนรัก... เป็นภรรยาในอนาคต เพราะพงษ์เทพเสียชีวิตด้วยรถยนต์เมื่อเพื่อนชวนไปดูที่ดินเพื่อซื้อ-ขายเก็งกำไรที่ชลบุรี ในยุคที่ฟองสบู่กำลังเฟื่องฟู



ถ้าพงษ์เทพแต่งงานแล้ว คิดว่าวิญญาณเขาคงนอนตาไม่หลับแน่เพราะห่วงบุตร ภรรยา และฝ่ายหญิงที่อาจจะเพิ่งตั้งครรภ์ ต้องประสบกับความวิปโยคโศกเศร้าปานใด?



แต่เมื่อไม่มีเรื่องเศร้าซ้ำสอง งานศพของพงษ์เทพก็ทำให้เกิดเรื่องสยอง น่าขนหัวลุกโดยไม่มีใครนึกฝัน!



ดิฉันกับเพื่อนๆ ไปฟังสวดอภิธรรมทุกคืน พ่อแม่ของผู้ตายใจแข็งเหลือเกิน ทั้งๆ ที่มีลูกชายคนเดียว นั่งพนมมือฟังพระด้วยท่วงท่าสงบนิ่ง พวกเราเข้าไปยกมือไหว้ก็ฝืนยิ้มรับไหว้ขอบอกขอบใจที่อุตส่าห์มากันทุกคืน...อรสากับเพ็ญพรถึงกับหันมาซับน้ำตากับดิฉัน พึมพำเสียงเครือว่า...ถ้าเป็นเราคงจะขาดใจตายตามลูกไปแล้ว



คืนแรก พี่แหม่ม-หัวหน้าเราที่ออกมาจากบริษัทที่รัชดาฯมางานพร้อมๆ กันก็เจอดีเข้าอย่างจัง



พวกเราจุดธูปไหว้ศพแล้วออกมานั่งที่เต็นต์หน้าศาลา พี่แหม่มนั่งคู่กับพ่อแม่พงษ์เทพ...แต่พอสวดเสร็จจบแรก พี่เขาก็ขอตัวมานั่งสมทบกับพวกเรา มีการเสิร์ฟเกี๊ยวน้ำถ้วยเล็กๆ ดิฉันกับเพื่อนๆ กำลังถือถ้วยตักเกี๊ยวใส่ปาก ส่วน พี่แหม่มขอแต่น้ำเย็น...เอียงหน้าเข้ามาบอกว่า



"นั่งในศาลาไม่ไหว...พงษ์เทพในรูปยิ้มให้พี่ตั้งหลายครั้ง!



ดิฉันหวิดสำลัก เพ็ญพรกับอรสาร้องวี้ดว้ายเบาๆ แถมปล่อยถ้วยปล่อยช้อนร่วงลงพื้นซีเมนต์เพล้งๆ จนคนอื่นๆ หันมามอง ต่างคนต่างเหลียวซ้ายแลขวาเลิ่กลั่ก บรรยากาศแสนจะเยือกเย็นชวนให้วังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก



คืนต่อมามีคุณป้าหกสิบเศษ รูปร่างอวบอ้วน ผิวขาว แต่งตัวเนี้ยบ เครื่องประดับวูบวาบ มาดคุณหญิงของแท้...มีลูกๆ หลานๆ คอยตามประคับประคอง พ่อแม่พงษ์เทพออกมายกมือไหว้นอบน้อม...เชื้อเชิญให้เข้าไปไหว้พระ แต่คุณป้าชะงักเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้



"ลูกชายเมื่อตะกี้หายไปไหนแล้วล่ะ?"



พ่อแม่พงษ์เทพมองหน้ากัน ก่อนจะเรียนคุณป้า ว่ามีลูกชายคนเดียว แต่ท่านยืนยันว่าพอลงจากรถมา ถึงหน้าศาลาก็มีหนุ่มหน้าตาดีออกไปยกมือไหว้ต้อนรับ



"พี่ไม่ได้ตาฝาดนะ...หน้าตาเหมือนพ่อพงษ์เทพเป็นพิมพ์เดียวกัน หรือว่า..."



เสียงคุณป้าขาดหายไปเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ที่ว่าจะเข้าไปไหว้พระเป็นอันว่าล้มเลิก แต่นั่งแปะที่เก้าอี้ในเต็นต์ หน้าตาขาวซีด ลูกๆ หลานๆ รีบคว้ายาหอมยาดมมาให้จ้าละหวั่น... ท่านจะเป็นลมน่ะซีคะ!



คืนสุดท้าย คุณลุงคนหนึ่งลุกจากศาลาอย่างรีบร้อนเมื่อพระสวดจบที่สอง ใครถามว่าจะไปห้องน้ำใช่ไหม? แต่คุณลุงกลืนน้ำลายบอกว่าเปล่า...จะกลับบ้านต่างหากล่ะ! ไม่รอให้พระสวดจบแล้ว...สาเหตุเพราะพงษ์เทพในรูปถ่ายหน้าโลงน้ำตาไหลพรากจนท่านทนดูไม่ไหว



ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ...ตอนที่เราออกจากงานศพมาขึ้นรถไล่ๆ กับแขกคนอื่นๆ ดิฉันกำลังสตาร์ตเครื่อง เพ็ญพรกับอรสาที่มาเบียดกันอยู่ข้างหน้าพูดเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ว่าพี่ดาคะ พงษ์เทพมาส่งเราค่ะ...



ดิฉันหันขวับ...แม้ว่าเป็นภาพเลือนๆ ก่อนจะจางหายไป แต่ก็ยังจำได้ว่านั่นคือพงษ์เทพแน่นอน...แล้วใครจะกล้าไปงานศพอีกล่ะคะ? โธ่...

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 08:09:17 ]
ความเห็นที่ 29

บางคนเป็นหนี้มาก
หวังว่าถ้าเกิดโลกแตกก็ไม่ต้องใช้หนี้
ตอนนี้คงนั่งคิดวางแผนใหม่ละ
แบบว่าผิดแผนแรกไปละ





ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐได้ปรับเพิ่มการประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเกือบ 0.1% ปิดที่ 281.81 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3666.73 จุด บวก 2.14 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7672.10 จุด บวก 3.60 จุด ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 5958.34 ลบ 3.25 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สามของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2555 โดยระบุว่า จีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 3.1% ซึ่งเป็นปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% เนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลและยอดการส่งออก ขยายตัวได้ดีเกินคาด

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะวีโต้ข้อเสนอ “แผนสอง" ของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เกี่ยวกับหน้าผาทางการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค. 2556

หุ้นอิริคนสันร่วงลง 1.8% หุ้นยูบีเอสปรับตัวลง 1.1%






ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 3.25 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 5,958.34 จุด
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะวีโต้ข้อเสนอ “แผนสอง" ของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เกี่ยวกับหน้าผาทางการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค. 2556

หุ้นคาร์นิวัล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 6.1% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:11:34 ]
ความเห็นที่ 30

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39283

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 08:18:37 ]
ความเห็นที่ 31

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39261

จากคุณ : yai-cho [21 ธ.ค. 55 08:19:14 ]
ความเห็นที่ 32

สรุปข้อมูลการขายชอร์ตของหุ้นไทย ณ วันที่ 20 ธ.ค. 2555 มีรายละเอียดดังนี้
หลักทรัพย์        ปริมาณหุ้นที่           มูลค่าการ  %ปริมาณการขายชอร์ต

ขายซอร์ต           ขายชอร์ต  เทียบกับปริมาณการซื้อขาย


(หุ้น)             (บาท)     บนกระดานหลัก

LH            4,707,200    45,683,350.00        19.42%

EGCO             41,700     5,782,950.00         9.09%

TISCO           178,800     9,214,950.00         7.85%

THCOM           625,500    14,161,670.00         4.62%

TASCO             1,300        57,725.00         3.88%

SPALI           235,500     4,168,350.00         3.80%

TOP             102,300     6,911,700.00         3.79%

JAS           2,800,000    14,280,000.00         3.60%

KBANK           168,700    32,607,100.00         3.47%

BLA              63,100     3,901,675.00         3.10%

PTTGC           275,900    18,830,475.00         2.88%

TPIPL           165,200     2,463,910.00         2.58%

PTT              62,000    20,582,000.00         2.40%

BJC             261,800    16,386,950.00         2.25%

DTAC             51,500     4,560,625.00         2.25%

SCB             121,100    21,547,350.00         1.67%

SCC              27,000    11,423,800.00         1.52%

BBL              55,800    10,958,900.00         1.46%

MALEE             5,000       557,500.00         1.45%

SCCC              1,300       553,400.00         1.28%

CPALL           393,900    18,361,725.00         1.21%

LPN             100,000     1,760,000.00         1.01%

LOXLEY          300,000     1,560,000.00         0.95%

BH                4,600       342,700.00         0.89%

BCP              80,000     2,440,000.00         0.79%

MAKRO             1,000       458,000.00         0.48%

MINT             36,300       722,720.00         0.42%

BEC              10,000       690,000.00         0.38%

CK              100,000     1,260,000.00         0.33%

RATCH             5,400       306,775.00         0.26%

ADVANC            9,500     1,990,500.00         0.20%

TTW               4,900        43,445.00         0.10%

PTTEP             6,000       963,000.00         0.07%

BIGC                600       121,200.00         0.06%

BAY              20,000       635,000.00         0.04%

KTB              26,000       506,500.00         0.04%

GLOW                100         7,275.00         0.01%

ที่มา: www.set.or.th







ตลาดอนุพันธ์ (TFEX) รายงานสรุปปริมาณการซื้อขาย All Futures
โดยแบ่งตามประเภทนักลงทุน ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2555 ดังนี้
ณ วันที่ 20/12/12                                 หน่วย: จำนวนสัญญา

นักลงทุน                       ซื้อ                  ขาย       สุทธิ

สถาบัน                    22,189               18,257     3,932

ต่างชาติ                    8,962               11,947    -2,985

ในประเทศ                 26,115               27,062      -947





ตลาดอนุพันธ์ (TFEX) รายงานสรุปปริมาณการซื้อขาย Index Futures
โดยแบ่งตามประเภทนักลงทุน ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2555 ดังนี้
(หน่วย: จำนวนสัญญา)
นักลงทุน              ซื้อ       ขาย       สุทธิ

สถาบัน            4,790     5,126      -336

ต่างชาติ           8,031    10,972    -2,941

ในประเทศ        10,574     7,297     3,277






ขำคนบางคนบอกว่า
เฮ้ย   ขับรถมาตั้งไกล มาดูดอกไม้แค่นี้นะ
ชมพูภูคา

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:21:21 ]
ความเห็นที่ 33

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าไตรมาสแรกของปี 2556 บรรดาผู้ได้รับใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ในย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จาก กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)

อันได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น, บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด และ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด จะเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จีอย่างเป็นทางการ
ถามว่า...การมาของ 3 จี จะเกิดอะไรขึ้น?
   คำตอบ..คือ ตลาดมือถือจะมีอัตราการเติบโตและมีการเปลี่ยนเครื่องจาก 2.5 จีเป็นระบบ 3 จี ที่สำคัญไปกว่านั้นส่งผลทางอ้อมถึงบริการทางด้านข้อมูล หรือ แอพพลิเคชัน เพราะมีการประมาณการว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องถึง 70 ล้านเครื่องภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เปิดให้บริการ
****ยุคทองผู้ค้ามือถือ
   อย่างไรก็ตามบรรดาโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง เอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การเปิดให้บริการระบบ 3 จี ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะส่งผลให้เครื่องลูกข่าย (โทรศัพท์เคลื่อนที่) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และจะส่งผลดีต่อผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิเช่น  บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ที.จี.โฟน จำกัด เพราะจะได้ผลประโยชน์จากการจัดจำหน่ายเครื่อง เนื่องจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากต้องการใช้ระบบ 3 จี ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่
   เช่นเดียวกับนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ในปี 2556 อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเข้าสู่ยุคทองของตลาดเครื่องทดแทน ในปัจจุบัน ดีแทค มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 25 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์จำนวน 5-6 ล้านคน และอีกจำนวน 19 ล้านเครื่องยังไม่เข้ามาสู่ระบบใหม่
****เจ มาร์ท-ที.จี. รับทรัพย์
   แม้แต่นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2556 เจ มาร์ท จะมีรายได้จากการจัดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้นโดยในปี 2556 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านบาทจากในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 8 พันล้านบาท
   อย่างไรก็ตามแผนการทำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ขณะนี้บริษัทได้มีการเจรจากับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์จากระบบ 2.5 จีมาเป็นระบบ 3 จี
"ปีหน้ารับทรัพย์อย่างเดียวตลาดจะเริ่มต้นแข่งขันกันอีกครั้งหนึ่งหลังจากปีนี้การแข่งขันไม่สูงและจะเกิดปรากฏการณ์การเปลี่ยนเครื่อง ในขณะนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมกับการมาของ 3 จีไว้นานแล้ว และภายในสิ้นปีนี้มีศูนย์บริการจำนวนทั้งสิ้น 200 สาขาและสิ้นปีขยายเพิ่มเป็น 280 สาขาลงทุนทั้งหมด 100 ล้านบาทในปี 2556"  
   ส่วนทางด้านนายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ที.จี.เซลลูล่าร์ จำกัด ซึ่งมีช็อปมือถือภายใต้แบรนด์ "TG fone" กล่าวในทำนองเดียวกันว่า จะส่งผลให้ตลาดเปลี่ยนเครื่องจากระบบ 2.5 จีมาเป็นระบบ 3 จี ซึ่งจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 70 ล้านเครื่องคาดว่าจะเปลี่ยนเครื่องเข้าสู่ระบบใหม่ภายในระยะเวลา 3 ปี เนื่องจากในกลางปี 2556 เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ ดังนั้นโอเปอเรเตอร์และผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องเตรียมแผนธุรกิจโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนเครื่องถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญเช่นเดียวกันรองลงมาจากการขยายเครือข่าย
***ส่งผลตลาดเครือข่ายไร้สาย
   ขณะที่นายโดนอลด์ เมเยอร์ ผู้จัดการอาวุโส การตลาดผลิตภัณฑ์ บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ เปิดเผยว่า จากรายงานของ ABI Research ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีการผลิตอุปกรณ์ที่มีความสามารถ ในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายออกมามากกว่า 9 พันล้านเครื่อง  อีกทั้งการ์ทเนอร์มีการคาดการณ์ว่า ยอดการดาวน์โหลดโมบายแอพพลิเคชันจะมีจำนวนสูงถึง 310 พันล้านครั้งภายในปี 2559  เมื่อต้องเผชิญกับการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของจำนวนอุปกรณ์โมบายและแอพพลิเคชันต่างๆ ผู้ดูแลระบบไอทีขององค์กรจึงต้องมั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายจะสามารถให้ประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชันทางธุรกิจ
   อย่างไรก็ตาม อรูบ้า  เน็ตเวิร์คส์ ได้เปิดตัว อรูบ้า 7200 ซีรีส์ (Aruba 7200 Series) ซึ่งเป็นอุปกรณ์โมบิลิตีคอนโทรลเลอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AppRF ของอรูบ้า โดยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้อรูบ้าเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายไร้สายเดียว ที่มาพร้อมกับความสามารถในการรู้จักและควบคุมแอพพลิเคชัน  เพื่อทำให้การนำเสนอหรือขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้การใช้งานแอพพลิเคชัน   ผ่านเครือข่ายไร้สายมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันในปัจจุบัน
   ด้านนายประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ กล่าวว่า อุปกรณ์โมบิลิตีคอนโทรลเลอร์ 7200 Series ยังช่วยให้การสื่อสารด้วยเสียง วิดีโอ และแอพพลิเคชันการสื่อสารแบบรวมศูนย์ (Unified Communications : UC) เช่น Microsoft Lync ส่งผลให้องค์กรสามารถลดการลงทุนหัวโทรศัพท์ประจำโต๊ะ  ระบบ IP PBX  อุปกรณ์การสื่อสารทางภาพและเสียง ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
*** โมบายแอพดีดตัว
   การ์ทเนอร์มีการคาดการณ์ว่า       ยอดการดาวน์โหลดโมบายแอพพลิเคชันจะมีจำนวนสูงถึง 310 พันล้านครั้งภายในปี 2559  ซึ่งนายฉัตรชัย ตั้งจิตตรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีมเบส อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน Watchever สำหรับการชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ผ่านสมาร์ทโฟน   กล่าวว่าการเปิด 3 จี ในปี 2556 จะผลักดันให้แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นอีกมาก   โดยเฉพาะแอพพลิเคชันทางด้านวิดีโอ   ขณะที่เอ็มคอมเมอร์ซ   มีการขยายตัวเป็นอย่างมาก ทำให้การค้าขายออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนจะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นไม่เพียงแต่ผู้ที่เป็นเจ้าของเครือข่ายที่ได้ประโยชน์อย่างเดียว แต่ธุรกิจอื่นๆ จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย  
   นอกจากนี้ยังเชื่อว่าในปี 2556 จะมีบริษัทผู้พัฒนาเว็บไซต์ปรับเปลี่ยนธุรกิจมาพัฒนาแอพพลิเคชันบนโมบายมากขึ้นส่วนองค์กรธุรกิจจะเริ่มมีการใช้แอพพลิเคชันเป็นช่องทางการตลาด และสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น
   นายฉัตรชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เป้าหมายของบริษัทจะพัฒนาการให้บริการมากขึ้น ทั้งจากค่ายเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์  และรายการโทรทัศน์  รวมไปถึงการแสดงคอนเสิร์ตจากเกาหลี  นอกจากนี้ยังมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันให้รองรับการแสดงผลหลากหลายหน้าจอ ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเลต  และสมาร์ท ทีวี
*** สร้างนักพัฒนาแอพรุ่นใหม่
   ส่วน ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซอฟต์แวร์ พาร์ค ในฐานะเลขาธิการกลุ่มผู้พัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน "เอ็มที สแควร์"  กล่าวว่า จะผลักดันให้เกิดนักพัฒนาเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ภาคธุรกิจเข้ามาใช้โมบายแอพพลิเคชันเป็นช่องทางเข้าถึงการทำธุรกรรมต่างๆ มากขึ้น    อย่างไรก็ตามกลุ่มเอ็มที สแควร์ คงไม่ได้มองหรือส่งเสริมนักพัฒนาในการทำตลาดเฉพาะในประเทศ   แต่มองการทำตลาดโมบายแอพพลิเคชันของไทยออกไปทั่วโลก  ซึ่งที่ผ่านมาได้พาซอฟต์แวร์ไทยไปร่วมงานซีบิท เยอรมนี  และโรดโชว์ในญี่ปุ่นนอกจากนี้ยังมุ่งการรวบรวมนักพัฒนาและบริษัทซอฟต์แวร์บนโมบาย  ซึ่งขณะนี้มีนักพัฒนาที่เป็นสมาชิกในกลุ่มประมาณ 1,000 ราย และบริษัทอีก 16 ราย อย่างไรก็ตามมองว่าผู้ประกอบไทยยังมีน้อยอยู่ โดยที่ผ่านมาได้เร่งดำเนินการจัดโรดโชว์ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ  เพื่อสร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นอย่างมาก
   ขณะที่ นายเอกชัย เจริญพัฒนมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-แอ๊ป ครีเอชั่น จำกัด  ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันหรือโปรแกรมสมาร์ทโฟน และแท็บเลต ไอโฟน-ไอแพด  กล่าวว่า จะส่งผลให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือ เรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ มาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา  
   นอกจากนี้จะทำให้แอพพลิเคชันประเภทการส่งข้อมูลวิดีโอ สตรีมมิ่ง  หรือ การอัพโหลด-ดาวน์โหลด ข้อมูลวิดีโอผ่านยูทูบ เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว  ซึ่งทิศทางของบริษัทคงมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันป้องกันภาพ หรือ Pic lock  (Picture Lock), โปรแกรมป้องกันภาพวิดีโอ (Video Lock) และโปรแกรมป้องกันรายชื่อผู้ติดต่อ (Contact Lock)   ให้สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม   โดยผู้ใช้สามารถล็อกหรือป้องกันข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์  แล้วสามารถใช้อุปกรณ์แท็บเลต สมาร์ทโฟน  ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส  แอนดรอยด์  วินโดว์สโฟน 8 หรือ แบล็คเบอร์รี่  เรียกข้อมูลมาใช้งานได้

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:25:00 ]
ความเห็นที่ 34

3 สถาบันเอกชนมองต่างมุม ทั้งขานรับและเห็นแย้งเป้าส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ปี 2556 โต 8-9% แนะให้ประเมินสถานการณ์ และปรับแผนทุก 3 เดือน

ชี้ปัจจัยเสี่ยงหลักเศรษฐกิจยุโรป-สหรัฐฯสองตลาดใหญ่ยังตกหลุมดำ ค่าจ้าง 300 บาททั่วประเทศฉุดขีดแข่งขัน สินค้าการ์เมนต์ กุ้ง ฟันธงเป้ากลุ่มโต 0% ไก่สวนทางนับวันยิ่งรุ่ง
   กรณีที่กระทรวงพาณิชย์ โดยนายบุญทรง  เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการได้ประกาศเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 2556ที่กำลังจะมาถึงว่าจะขยายตัวในอัตรา 8-9% มูลค่าประมาณ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากปี 2555 คาดจะขยายตัว 4.17% มูลค่าที่ 2.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีความใกล้เคียง และมีความต่างกับอีกหลายสำนักที่พยากรณ์ต่างกันไป(ดูตารางประกอบ)
   ก่อนหน้านี้ "ฐานเศรษฐกิจ"ได้สำรวจความเห็นของ 3 สถาบันภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกโดยตรงคือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ประเมินตัวเลขการขยายตัวที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ขยายตัวที่ 6-8%  และ 7-8%  ตามลำดับ ส่วนสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ประเมินขยายตัว 5%  โดยมองปัจจัยเสี่ยงที่คล้ายกันคือ เศรษฐกิจของสองตลาดหลักคือสหภาพยุโรป(อียู) และสหรัฐอเมริกายังแย่ไม่ต่างไปจากเดิม รวมถึงปัจจัยจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของไทยเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 จะทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน
   ล่าสุดนายสุกิจ  คงปิยาจารย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ให้ความเห็นว่า เป้าหมายส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ขยายตัว 8-9%  นั้นมีทั้งเป็นไปได้ และไม่ได้ เพราะสถานการณ์ข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง และไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ประเมินสถานการณ์ส่งออกปีหน้าทุก 3 เดือน หากแนวโน้มไม่ดีต้องเร่งปรับแผนงานเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามในส่วนของการส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่มในปี 2556 คาดจะขยายตัว 0-5% จากปี 2555 คาดจะติดลบ 10%  มีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจของสองตลาดหลักคือสหรัฐฯและอียูยังไม่ฟื้นตัว ดังนั้นจึงมีแผนรุกตลาดที่ยังขยายตัว เช่น อาเซียน และญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ขณะที่อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน และปัญหาระเบียบการใช้แรงงานต่างด้าว รวมถึงการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาททั่วประเทศถือเป็นตัวฉุด
   ส่วนดร.ผณิศวร  ชำนาญเวช นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย คาดการส่งออกสินค้ากุ้งของไทยในปี 2555 จะติดลบประมาณ 12% จากตลาดหลักคือสหรัฐฯบริโภคสินค้ากุ้งที่มีราคาถูกลงตามภาวะเศรษฐกิจ ส่วนในปี 2556 คาดอัตราการขยายตัวการส่งออกสินค้ากุ้งไปทั่วโลกในแง่มูลค่าจะไม่ขยายตัวจากปีนี้ แต่แง่ปริมาณคงใกล้เคียงกันที่ประมาณ 3.2 แสนตัน แต่สินค้ากุ้งไทยจะเผชิญปัญหาภายในมากขึ้นคือโรคกุ้งที่ทำให้ปริมาณผลผลิตลดลง และราคาสูงขึ้นกระทบต้นทุน และผลจากกรณีที่องค์กรพัฒนาเอกชน(เอ็นจีโอ) สหรัฐฯกล่าวหาอุตสาหกรรมกุ้งไทยใช้แรงงานเด็ก และแรงงานทาส อาจส่งผลต่อการนำเข้า และลดการบริโภคกุ้งไทยได้
   ขณะที่นายคึกฤทธิ์  อารีปกรณ์ ผู้จัดการ สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่าในปี2556 คาดการส่งออกสินค้าไก่จะขยายตัวเกิน 10%  เนื่องจากตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 เป็นต้นมาสหภาพยุโรปได้อนุญาตการนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทยอีกครั้ง โดยให้โควตาภาษี(เสียภาษีนำเข้า 15.4%)เป็นรายไตรมาส จำนวน 92,610 ตัน ถึงสิ้นปีนี้จะนำเข้าในโควตา 3.2 หมื่นตัน และจนถึงกลางปีหน้าจะนำเข้าอีกกว่า 6 หมื่นตันช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออก ประกอบกับคาดการณ์ว่าในปีหน้าตลาดญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะอนุญาตการนำเข้าไก่สดจากไทยเช่นกัน
   "หากตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีไฟเขียว และตลาดอียูเดินหน้าเต็มที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกไก่สด เพิ่มเติมจากการส่งออกไก่สุกแปรรูป ดังนั้นในปีหน้าทั้งปริมาณและมูลค่าการส่งออกสินค้าไก่ของไทยในภาพรวมน่าจะขยายตัวทั้งเชิงปริมาณ และมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 10-15% จากปีนี้คาดจะส่งออกได้ประมาณ 5.38 แสนตัน มูลค่ามากกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท"

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:36:25 ]
ความเห็นที่ 35

สรุปแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2)
ชื่อบริษัท     ชื่อผู้บริหาร                          ความสัมพันธ์*      ประเภท        วันที่รับเอกสาร           วันที่ได้มา/         จำนวน             ราคา     วิธีการได้มา/ หมายเหตุ
หลักทรัพย์                                    จำหน่าย                                                    จำหน่าย
BGH         ธวัชวงค์     ธะนะสุมิต                    ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     17/12/2555         135,000         111.50             ซื้อ
BGH         ธวัชวงค์     ธะนะสุมิต                    ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     17/12/2555            20,000        112.00             ซื้อ
BGH         ประดิษฐ์     ทีฆกุล                         ผู้จัดทำ          หุ้นสามัญ      20/12/2555     18/12/2555         100,000         111.50             ซื้อ
CHARAN    สุกิจ    จรัญวาศน์                         ผู้จัดทำ          หุ้นสามัญ      20/12/2555     19/12/2555             3,700            48.83            ซื้อ
ECL         ประภากร     วีระพงษ์                    ผู้จัดทำ        วอร์แรนท์     20/12/2555     19/12/2555     1,000,000                0.30             ขาย
TRC         สมัย     ลี้สกุล                                ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     17/12/2555         625,000             3.85             ขาย
SCC         ปรีชา     อรรถวิภัชน์                     คู่สมรส          หุ้นสามัญ      19/12/2555     19/12/2555             5,000         420.00             ขาย
PHOL        ชวลิต    หวังธำรง                        ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     17/12/2555         194,700             4.22             ซื้อ
PHOL        ชวลิต    หวังธำรง                        ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     18/12/2555         594,500             4.25             ซื้อ
DRT         สุวิทย์     แก้วอำพันสวัสดิ์                ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     19/12/2555            20,000            7.50             ขาย
DRT         สุวิทย์     แก้วอำพันสวัสดิ์                ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     19/12/2555            30,000            7.45             ขาย
MJD         ประทิน     พูลวรลักษณ์                    ผู้จัดทำ        วอร์แรนท์     19/12/2555     18/12/2555     2,401,400                1.04             ขาย
MJD         ประทิน     พูลวรลักษณ์                    ผู้จัดทำ        วอร์แรนท์     20/12/2555     19/12/2555         600,000             1.00             ขาย
MODERN    สมศักดิ์    วาริการ                        ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     17/12/2555     1,000,000                0.00             โอนออก
STA         ประสิทธิ์     พาณิชย์กุล                    ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     18/12/2555         400,000            16.48            ซื้อ
STA         อาศรม     อักษรนำ                        คู่สมรส         หุ้นสามัญ      20/12/2555     18/12/2555         100,000            16.40            ขาย
SPORT     วรรคสร     โหลทอง                     ผู้จัดทำ          หุ้นสามัญ      20/12/2555     13/12/2555            53,000            2.82             ซื้อ
SPORT     วรรคสร     โหลทอง                     ผู้จัดทำ          หุ้นสามัญ      20/12/2555     13/12/2555            50,000            2.82             ซื้อ
SAMCO     ยุวดี     นุชถาวร                            ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     19/12/2555         120,000             2.50             ขาย
MCOT        สุทิศา    เหลืองไพโรจน์                   ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     12/12/2555            10,000           44.00            ขาย
IRC         พรทิพย์     เศรษฐีวรรณ                    คู่สมรส          หุ้นสามัญ      20/12/2555     17/12/2555            50,000           14.58            ซื้อ
IRC         พรทิพย์     เศรษฐีวรรณ                    คู่สมรส          หุ้นสามัญ      20/12/2555     18/12/2555            12,000           14.68            ซื้อ
EMC         ชนะชัย     ลีนะบรรจง                    ผู้จัดทำ        วอร์แรนท์     20/12/2555     17/12/2555    24,860,050               0.40             ขาย
EMC         ชนะชัย     ลีนะบรรจง                    ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     18/12/2555         112,700             1.59             ซื้อ
EMC         ชนะชัย     ลีนะบรรจง                    ผู้จัดทำ        วอร์แรนท์     20/12/2555     18/12/2555    32,186,050               0.38             ขาย
MFEC        แววตา    สุขเสน่ห์                           ผู้จัดทำ         หุ้นสามัญ      20/12/2555     17/12/2555         300,000             5.80             โอนออก

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:38:52 ]
ความเห็นที่ 36

ขณะที่คำทำนายวันสิ้นโลกกำลังใกล้เข้ามาทุกที โรงแรมและร้านอาหารจำนวนมากฉกฉวยโอกาสดังกล่าวในการโปรโมทสินค้าแบบแปลกๆ เพื่อสร้างผลกำไรจากบันทึกทางศาสนา ซึ่งเชื่อว่าอายุขัยของโลกจะสิ้นสุดในวันที่ 21 ธันวาคม 2555 หรือวันสุดท้ายตามปฏิทินของชาวมายันนั้นเอง โดยโปรโมชั่นสินค้า มีตั้งแต่แพ็คเกจท่องเที่ยวตามรอยวันสิ้นโลก ไปจนถึงเมนูอาหาร ซึ่งส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เป็นครั้งสุดท้าย

ด้วยราคา 79,000 ดอลลาร์ต่อคู่ โรงแรมโรสวูด มายาโคบา ในเมืองริเวียรา มายา ของเม็กซิโก เสนอแพ็คเกจห้องพักสุดหรู ในชื่อ"การเริ่มต้นใหม่ที่สุดยอด" ที่ประกอบไปด้วยการชำระล้างจิตใจจากหมอผีชาวมายัน และโอกาสในการนั่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวเยี่ยมชมบริเวณ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นพร้อมนักโบราณคดี ขณะที่ลูกค้าของโรงแรม เจ ดับบลิวแมริออท ในเมืองแคนคูน สามารถเข้าชมซากปรักหักพังของอารยธรรมชีเชนอิตชา ไปพร้อมกับการปรนเปรอตัวเองด้วยสปาบำบัด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากชาวมายัน

ในสหรัฐ โรงแรมจำนวนมากกำลังพยายามกอบโกยกำไรจากตำนานอันน่าตื่นเต้นของวัฒนธรรมมายาเช่นกัน โดยโรงแรมคีทติ้ง ในซาน ดิเอโก เสนอสินค้าเกี่ยวกับความเชื่อทางโชคลาง ด้วยราคาขั้นต่ำ ซึ่งเริ่มต้นจากตัวเลขมรณะอย่าง 666 ดอลลาร์ รวมถึงขายแพ็คเกจ ที่ประกอบไปด้วยอาหารมื้อสุดท้ายและคลาสออกกำลังกายเพื่อหลบหนีซอมบี้ ภายใต้ชื่อว่า "จุดจบของโลก" ทั้งนี้ ผู้จัดการฝ่ายมาตรฐานและปฎิบัติการของคีทติ้ง คริสโตส บรูคส์ ได้ไอเดียจากเพลง "ทิลล์ เดอะ เวิลด์ เอ็นด์ส" ของนักร้องดัง อย่าง บริตนีย์ สเปียส์

"สำหรับปีนี้เราพูดคุยเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายด้วยไอเดียวันสิ้นโลก เนื่องจากการท่องเที่ยวในเมืองซาน ดิเอโก ชะลอตัวในช่วงสิ้นปีเสมอ จึงต้องมีความคิดแปลกใหม่ในการโปรโมทโรงแรม" บรูคส์กล่าว พร้อมระบุว่า แพ็คเกจที่ว่านี้ ขายดีมากจนกลายเป็นโปรโมชั่น ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดของปี และห้องพักถูกจองไปแล้ว 15 ห้อง

นอกจากนี้ โรงแรมคีทติ้ง ยังจำหน่ายแพ็คเกจพิเศษสำหรับช่วงเวลาหลังวันโลกาวินาศ โดยลูกค้าที่จองห้องพักหลังวันที่ 21 ธันวาคม จะได้รับส่วนลดพิเศษกว่า 40% ซึ่งการลดราคาในลักษณะดังกล่าว เป็นเหมือนกับการพนัน กล่าวคือ ถ้าลูกค้าจ่ายค่าห้องพักแล้ว ปรากฎว่าโลกไม่ถึงการอวสาน ลูกค้าก็ได้ห้องพักราคาถูกไป แต่ถ้าโลกถึงวาระสุดท้ายจริงๆ ก็แค่สูญเสียเงิน บรูคส์ กล่าว เมื่อดูจากยอดการจองห้องพักแล้ว โลกจะดำรงต่อไปอีกนาน

ส่วนโรงแรมเคอร์ติส โฮเทล เสนองานเลี้ยง "ปาร์ตี้ ไลค์ แดร์ส โน ทู มายา" ในราคา 12,021 ดอลลาร์ ที่ประกอบไปด้วย การเช่าพื้นที่ของโรงแรมในรัฐเดนเวอร์ทั้งชั้น รวมถึงสิ่งของยังชีพสำหรับวันสิ้นโลก อาทิเช่น ยาเม็ดป้องกันรังสี อาหารแห้งแช่แข็ง หน้ากากป้องกันแก๊ส และนักวาดรอยสัก เผื่อแขกคนไหนอยากเก็บความทรงจำในวันสุดท้ายบนโลกด้วยน้ำหมึก

เคท ทอมป์สัน ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดของโรงแรม กล่าวว่า แม้ว่าสุดท้ายแล้วแพ็คเกจดังกล่าวไม่เคยถูกขายออกไป แต่ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนได้มาก และนี้คือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการโปรโมทแบบเพ้อฝันของเคอร์ติส

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:43:23 ]
ความเห็นที่ 37

ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันจันทร์
เหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ใจ รู้สึกเคว้งคว้างเหมือนต้องต่อสู้กับทุกๆ อย่างเพียงลำพัง แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณมีผู้ใหญ่คอยให้การสนับสนุนช่วยเหลือ แม้จะต้องดิ้นรนด้วยตัวเองแต่ก็สามารถทำทุกอย่างได้สำเร็จตามที่ต้องการ ผู้ที่ทำงานในเครื่องแบบจะได้ข่าวดีในเรื่องหน้าที่การงาน การเงินไม่ขัดสนแต่หากเดินทางไกลจะมีค่าใช้จ่ายสูง การเดินทางปลอดภัยได้พบคนรู้จักคุ้นเคย ผู้ที่เป็นเก๊าท์จะมีอาการกำเริบจนเดินแทบไม่ไหว คนรักที่สูงวัยกว่าเริ่มติดตามความเคลื่อนไหวของคุณ ควรเพลาๆ การเที่ยวและการช้อปปิ้งลงบ้าง สีเหลือง ขาว และชมพู เสริมเสน่ห์ทำให้โดดเด่น เป็นที่สนใจ

 ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันอังคาร
จะเจอกับเรื่องยุ่งๆ ตั้งแต่เช้า ต้องใช้สติปัญญาความรู้ความสามารถของตัวเองในการทำงานและแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง เรื่องต่างๆ ที่ตั้งใจจะทำต้องเปลี่ยนแผนการหรือวิธีการใหม่ หรืออาจต้องยอมเสียบางอย่างเพื่อรักษาอีกสิ่งหนึ่งไว้ การนัดหมายเพื่อสังสรรค์อาจต้องยกเลิกหรือเลื่อนเวลานัดออกไป การเงินมีแต่รายจ่าย ระวังจะเจ็บป่วยอย่างกระทันหัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวจะมีอาการแน่นหน้าอก มือเท้าชา ความรักต้องฟังซึ่งกันและกันจะได้ไม่เกิดปากเสียงหรือแตกแยกกัน สีเขียวและชมพู ทำให้ชีวิตสดใส คลายความเครียดและความกังวลใจ

ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันพุธ
การเดินทางจะนำความสำเร็จมาให้ จะได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจและสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการ วันนี้รู้สึกเบื่อและเซ็ง คิดวนเวียนแต่กับเรื่องเก่าๆ แต่การเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกันทั้งครอบครัวจะนำความสุขมาให้ ไม่ต้องไปซีเรียสกับการเดินทาง ควรไปอย่างสบายๆ แวะตามทางไปเรื่อยๆ การเงินยังมีใช้จ่ายอย่างคล่องมือ ความรักต้องตัดสินใจเลือกอนาคตของตัวเองแล้วว่าจะสานสัมพันธ์กับคนรักต่ออีกหรือไม่ สีฟ้า ม่วง เทา และเขียว เสริมดวงชะตาให้โดดเด่น มีความมั่นคง และพบกับความสำเร็จ

ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี
เป็นวันที่เต็มไปด้วยความสุข พบแต่เรื่องที่น่ายินดี ได้ทำสิ่งใหม่ๆ และได้รับโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต จะทำอะไรให้เชื่อมั่นในตัวเองแล้วจะพบกับความสำเร็จ การเงินต้องแบ่งเก็บไว้บ้างอย่าใช้จนเพลิน เพราะยังมีภาระเรื่องบ้านรออยู่ ความรักมีความสุข แต่คนรักก็แอบมีรักซ้อนปิดบังเอาไว้ สีน้ำเงินและสีเหลืองเสริมบารมีและดวงชะตา

ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันศุกร์
ทำอะไรอย่าประมาท ต้องใจเย็น ไม่วู่วาม มีสติอยู่เสมอ การงานสำเร็จราบรื่นไม่มีอุปสรรค ผู้ใหญ่บางคนทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่ต้องร่วมงานด้วย ผู้ที่ทำงานด้านวิชาการจะได้รับการสนับสนุนทั้งงานและตำแหน่ง การลงทุนทำท่าว่าจะดีแต่สุดท้ายก็เสมอตัว การเงินมีมากก็จ่ายมาก ระวังจะเดินสะดุดหกล้ม หรือมีอาการเจ็บบวมที่ข้อเท้า สีแดงและสีขาว เสริมอำนาจบารมี ช่วยให้พบกับความสำเร็จ

ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันเสาร์
เป็นวันศุกร์หรรษาสำหรับคุณ สิ่งที่ทำได้รับความสำเร็จ ผู้ใหญ่ให้คำชื่นชม มีความสุขเบิกบานกับคนสนิทและเพื่อนที่รู้ใจ ดังนั้นจึงไม่ควรใส่ใจกับคำพูดให้ร้ายของผู้อื่น รวมทั้งการไม่เชื่อฟังและไม่เอาใจใส่ในงานของบริวาร คนที่คิดร้ายแทงคุณข้างหลังกรรมกำลังตามสนองเขาอยู่ การเดินทางต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถในเวลากลางคืน สีขาวทำให้ใจเย็น สีชมพูเสริมเสน่ห์ ทำให้ชีวิตมีความสุข

ดวงชะตาผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
วันนี้อาจจะรู้สึกเบื่อๆ บ้างในช่วงเช้า แต่ข่าวคราวที่น่ายินดี และความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ บรรลุตามเป้าหมายที่ต้องการได้รับการสนับสนุนอุปถัมภ์จากผู้ที่มีอำนาจและยศถาบรรดาศักดิ์ ทำให้เป็นวันที่เต็มไปด้วยความสุขความสำเร็จ ได้สังสรรค์กับเพื่อนฝูงและคนรู้จัก และยังได้เจอคนที่ถูกใจอีกด้วย กิจการที่ดำเนินการอยู่รวมถึงการลงทุนต่างๆ เป็นไปในทางที่ดี ได้รับความสำเร็จและกำไรที่งดงาม หลีกเลี่ยงสีดำที่จะทำให้ต้องได้เจอหรือได้ฟังแต่เรื่องที่เป็นทุกข์

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 08:46:32 ]
ความเห็นที่ 38

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : บมจ.ไทยออยล์

" เวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นหลังโอบามา และเบห์เนอร์ใกล้ได้ข้อสรุปการแก้ปัญหา"
เบรนท์ส่งมอบ ก.พ. ปรับลดลง 0.16 ปิดที่ 110.20 เหรียญฯ และน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.15 ปิดที่ 90.13 เหรียญฯ


+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ หลังริพับลิกันผลักดันร่างกฎหมายขึ้นมาในเรื่องการปรับขึ้นภาษีคนรวยและการลดรายจ่าย หรือที่เรียกว่าแผน 2 (Plan B) ซึ่งขัดกับนโยบายของโอบามา อย่างไรก็ตามนาย จอห์น เบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนกล่าวว่ายินดีที่จะร่วมแก้ปัญหาวิกฤตการคลังกับโอบามาต่อไป

+ จีดีพีในไตรมาส 3/55 ของสหรัฐฯ ขยายตัว 3.1%ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายงานเดือนก่อนที่ขยายตัว 2.7% และขยายตัวเป็น 2 เท่าจาก ไตรมาส 2/55 ที่ 1.3% เนื่องมาจากยอดส่งออก และยอดใช้จ่ายของรัฐบาลปรับสูงขึ้น โดยการส่งออกขยายตัว 1.6% เพิ่มจากที่รายงานเมื่อเดือนก่อนที่ 1.4% ส่วนการใช้จ่ายของรัฐบาลขยายตัว 3.9% เพิ่มจากรายงานเมื่อเดือนก่อนที่ 1.1%

- ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้นถึง 17,000 มาอยู่ที่ 361,000 แต่ยอดเฉลี่ย 4 สัปดาห์ปรับตัวลดลง 13,750 มาอยู่ที่ 367,750 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดนับจากเดือน ต.ค.

+ ราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซลที่ตลาดล่วงหน้าของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากโรงกลั่นน้ำมัน Motiva Enterprise ที่เท็กซัสของสหรัฐฯ จะกลับมาเปิดดำเนินการได้ช้ากว่าที่คาดกาณ์ไว้หลังเกิดไฟไหม้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเนื่องจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงหน้าหนาว

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ และราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาดล่วงหน้าของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีสต๊อคน้ำมันเบนซินในสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดีอุปทานในภูมิภาคยังคงมีอยู่มาก อีกทั้งกำลังจะเข้าสู่วันหยุดยาว ทำให้ตลาดเงียบเหงา

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์หน้า เบรนท์ 105 -112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 83-90 เหรียญฯ

ราคาจะยังคงผันผวนจากแรงกดดันเรื่องปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงสร้างความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบ ติดตามการหารือ Fiscal cliff และผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญรอบ 2 ในอียิปต์วันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันศุกร์: : รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจและดัชนีราคาผู้บริโภค(ม.มิชิแกน) และความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจเยอรมนี
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่
วันจันทร์: -
วันอังคาร: รายงานการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น
วันพุธ: ดัชนีราคาบ้านสหรัฐ โดย S&Pและ Case-Shiller
วันพฤหัส: ยอดขายบ้านใหม่ ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ความรู้สึกของผู้บริโภคฝรั่งเศส
วันศุกร์: ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอการปิดขายสหรัฐ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตเมืองชิคาโก ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตยูโรโซน จีดีพีไตรมาส 3 และการใช้จ่ายของผู้บริโภคฝรั่งเศส
วันอาทิตย์: ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตจีน โดย HSBC

ติดตามความชัดเจนการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ของสหรัฐฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี ซึ่งหากไม่สามารถหาข้อสรุปได้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2556 มีความเสี่ยงที่จะถดถอยและอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
- ติดตามผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญรอบที่ 2 ในอียิปต์วันที่ 22 ธ.ค.นี้ หลังผลการลงประชามติรอบแรกเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมาปรากฎว่าร้อยละ 57 ของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์ลงมติยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางกลุ่มผู้คัดค้านที่ระบุว่าเกิดปัญหาทุจริตในการลงประชามติรอบแรกและอยากให้รัฐบาลตรวจสอบ
- นอกจากนี้ติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างผู้แทนสำนักงานปรมาณูสากล (IAEA) และเจ้าหน้าที่อิหร่านในเรื่องโครงการพัฒนานิวเคลียร์ โดยเบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่ายจะกลับมาหารือกันอีกรอบวันที่ 16 ม.ค. 2556 อย่างไรก็ดีสหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินเพื่อเติมต่ออิหร่านภายในเดือน ก.พ. ปี 2556 ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้การเจรจาระหว่าง IAEA กับอิหร่านล้มเหลว
- ติดตามผลตอบรับของนักลงทุนหลังธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมาโดยประกาศอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก $112 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 09:00:15 ]
ความเห็นที่ 39

สวัสดีครับพี่ๆ น้าๆ ชาวปิ๊งๆ สุขสันต์วันศุกร์ ครับ

อยากได้ข้อมูลหุ้น พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เพิ่มจังเลยครับ
ขอตัวไปหาก่อนได้ยังไงจะมาแชร์ได้นะครับ ฟิ้ววววววววววววว.....

จากคุณ : Nat_YFS2011 [21 ธ.ค. 55 09:02:42 ]
ความเห็นที่ 40

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนว่า ทำลายสถิติรอบใน 51 ปี หรือตั้งแต่มีการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตทั้งสิ้น 256,581 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค. 1.75% และเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 982.85% เนื่องจากปลายปี 2554 เกิดสถานการณ์อุทกภัยจนกระทบกับการผลิตรถยนต์ แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 161,768 คัน และผลิตเพื่อการส่งออก 94,813 คัน

ในช่วง 11 เดือนของปี 2555 ประเทศไทยผลิตรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 2.23 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 64.34% แบ่งเป็นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1.29 ล้านคัน และผลิตเพื่อส่งออก 941,351 คัน คาดว่า ตลอดทั้งปีนี้จะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 2.45 ล้านคัน

โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวอีกว่า ได้ตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2556 ไว้ที่ 2.5 ล้านคัน และเพิ่มเป็น 3 ล้านคันภายในปี 2560 ทำให้ไทยจะติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ผลิตรถยนต์มากที่สุดในโลก

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 09:03:03 ]
ความเห็นที่ 41

“ประภัสร์” ยื่นคำขาด ปตท.ต้องจ่ายค่าเช่าหลังสัญญาใช้ฟรีเดิมหมดอายุ มี.ค. 56 นี้ เมินอ้างสิทธิ์เดิมตั้งแต่เป็นการปิโตรเลียม ชี้วันนี้ ปตท.ไม่ใช่หน่วยงานรัฐแล้ว อย่าทำตัวเป็นเศรษฐีเอาเปรียบยาจก ขณะที่ใจกว้างเปิดโอกาสให้เสนอค่าเช่าที่อยากจ่ายมาก่อน หากไม่ยอมจ่ายเตรียมย้ายออกได้เลย ส่วนแอร์พอร์ตลิงก์เพิ่มหน้าที่ซื้ออะไหล่ลดขั้นตอนแก้ปัญหาบริการ
     
      นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงการใช้ที่ดินของ ร.ฟ.ท.จำนวน 24 ไร่ บริเวณที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่สัญญาจะหมดอายุในเดือนมีนาคม 2556 ว่า ล่าสุดนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ได้มาหารือโดยระบุว่า ปตท.มีสิทธิ์เหนือพื้นดินและเงื่อนไขสัญญาสามารถต่ออายุได้อีก 30 ปี  โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน ซึ่ง ร.ฟ.ท.ยืนยันว่าสัญญาดังกล่าวเป็นเรื่องเดิมที่ให้สิทธิ์กับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยที่ได้เปลี่ยนแปลงเป็น ปตท.ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าผู้ใช้ประโยชน์ขณะนี้ไม่ใช่รัฐต่อรัฐโดยแจ้งให้ ปตท.เร่งเสนออัตราค่าเช่าที่เห็นว่าเหมาะสมมาก่อนที่หมดสัญญา
     
      “ปตท.จะมายึกยักไม่จ่ายค่าเช่าโดยอ้างสิทธิ์เหมือนก่อนที่เป็นการปิโตรเลียมไม่ได้ อย่าทำเหมือนเศรษฐีเอาเปรียบยาจก ร.ฟ.ท.ไม่ได้เรียกร้องอะไร และยังเปิดโอกาสให้ ปตท.เสนอค่าเช่าที่พอใจด้วย การเจรจาอยู่บนพื้นฐานของวันนี้ ที่ ปตท.ไม่ใช้รัฐวิสาหกิจแล้ว จะมาอยู่ฟรีแล้วอ้างว่าได้โอนสิทธิ์มาไม่ได้ ถ้าตัดสินใจช้า ร.ฟ.ท.ก็จะเสนอค่าเช่าไป ถ้าไม่อยากเช่า ปตท.ต้องย้ายออกเพื่อจะได้นำที่ดินมาใช้ประโยชน์อื่น เช่น ย้ายสำนักงานของรถไฟไปอยู่แทน” นายประภัสร์กล่าว
     
      ส่วนการแก้ปัญหาบริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์นั้น นายประภัสร์กล่าวว่า จะปรับปรุงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความคล่องตัวมากขึ้นโดยจะเพิ่มหน้าที่ให้บริษัทร.ฟ.ท.จำกัด จัดซื้ออะไหล่ประเภทสิ้นเปลือง เช่น น้ำมันเครื่องได้เอง ซึ่งจะเพิ่มหน้าที่ดังกล่าวเข้าไปในสัญญาจ้างเดิมที่กำหนดให้เป็นผู้เดินรถและซ่อมบำรุงเท่านั้น ส่วนการจัดซื้อต่างๆ จะต้องเสนอขออนุมัติจาก ร.ฟ.ท.ก่อน ทำให้จัดซื้อล่าช้าจนกระทบต่อการให้บริการ โดยเบื้องต้น ร.ฟ.ท.จะตั้งงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อสำรองไว้จัดซื้อดังกล่าว โดยเมื่อมีการเบิกใช้จะเติมให้เต็มวงเงินเพื่อให้มีสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง ส่วนอะไหล่ที่ใช้เพื่อซ่อมบำรุงเป็นจำนวนมากให้แอร์พอร์ตลิงก์ทำแผนจัดซื้อเสนอมาตามปกติ ซึ่งจะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้  
     
      “ตอนนี้มีรถ 1 ขบวนที่ต้องจอดอยู่เฉยๆ เพราะไม่มีอะไหล่ ซึ่งหลังจากนี้จะอ้างปัญหาซื้ออะไหล่ไม่ได้เพราะ ร.ฟ.ท.ปรับวิธีลดขั้นตอนลงแล้ว และจะทำให้การให้บริการเป็นไปตามมาตรฐานมากขึ้นและให้ประสิทธิภาพการเดินรถอยู่ที่ 99% จากปัจจุบันอยู่ที่ 96% ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกจะเร่งติดตั้งลิฟต์ บันไดเลื่อนทุกสถานี และขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้าง sky walk เชื่อมมักกะสันกับรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีเพชรบุรีแล้วหลังจากปรับแบบใหม่ คาดว่ากลางปี 56 จะแล้วเสร็จ”

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 09:25:21 ]
ความเห็นที่ 42

สวัสดี วัน ซิ่น โลก คร้าบบบบ   อิอิ       

จากคุณ : มารหุ้นแสวงพ่าย [21 ธ.ค. 55 09:27:04 ]
ความเห็นที่ 43

หยิบเงินหยิบทอง : บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง


กลยุทธ์วันนี้ 1370+/-
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ แนวรับ 1370 จุดทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง SET INDEX ปิดที่ 1377.40 จุด ลบเพียง 1 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41,931 ล้านบาท

ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 1,650 ล้านบาท แต่ยังคง Short สุทธิ Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 2,941 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อีก 1,238 ล้านบาท

ทิศทาง SET INDEX วันนี้คาดปรับฐานลงสู่แนว 1370 จุด หรือต่ำกว่า เมื่อการประชุมสภาล่างของสหรัฐฯ ช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ได้ผ่านแผนลดการใช้จ่ายแล้ว ส่วนแผนพิจารณาด้านภาษีที่เสนอโดยนาย Boehner สภาล่างได้ยุติการพิจารณาวันนี้ โดยจะกลับมาพิจารณาและโหวตหลังช่วงคริสมาสต์ กดดันภาพการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วเอเชียในเช้าวันนี้

ทั้งนี้จับตาหุ้นที่ถูกเข้า – ออกจากการคำนวณดัชนี FSTE ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งจะทำให้พอร์ตกองทุนที่ใช้ดัชนีนี้อ้างอิงต้องปรับพอร์ตหุ้นให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้

MBKET แนะนำให้ “ซื้อเก็งกำไรราว 5% หาก SET INDEX หลุด 1370 จุด” กลับมาถือพอร์ตหุ้น 55% และเงินสด 45%

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร 5% บริเวณต่ำกว่า 1,370 จุด” พร้อม “ทยอยสะสม” PTTGC
กลยุทธ์ทางเลือกวันนี้: MBKET แนะนำ “พอร์ตเล่นรอบรายวัน ที่เปิด Long ช่วงย่อระหว่างวัน ในรอบ 2 วันที่ผ่านมาไปแล้ว การดีดกลับเข้าใกล้แนวต้าน 945/947 จุด อาจปิดสถานะหลบความเสี่ยงท้ายสัปดาห์ แต่ยังไม่มีสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม จากรอบแกว่งขึ้น เป็นขาลง” Stop loss< 930 จุด
Portfolio   Buy on Weakness: VNT/AMATA/ MAJOR/ SPCG/ SMT/ BTS/ PJW/ IRPC/ TPIPL/ RCI/ MK/ INET/ BCP/ BBL/ KTB/ BAY/ KK/PTTGC/ QH/ MFEC/ LOXLEY/ TRUE/ SIMAT/ KCE
Accumulative Buy: PTTGC
Technical View แนวรับ 1368+/- จุด แนวต้าน 1385+/- จุด ถือครองส่วนที่เหลือ คาดหวังการเข้าทดสอบเป้าหมายที่ให้ คงใช้การหลุดแนว 1350 เป็นจุดปิดขายทำรอบรักษาผลกำไรในส่วนที่เหลืออยู่

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 09:31:09 ]
ความเห็นที่ 44

ตลาดหุ้นเอเชียปรับเพิ่มขึ้นเช้านี้ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว

ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 129.74 จุด ณ เวลา 9.50 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,145.58 จุด เพิ่มขึ้น 106.25 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,592.57 จุด ลดลง 2.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,004.61 จุด เพิ่มขึ้น 5.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,178.69 จุด เพิ่มขึ้น 3.17 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,635.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.70 จุด


หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ บวก 1.8%, หุ้นมิตซุย ฟุโดซัง ทะยาน 4.5% และหุ้นบิลลาบอง อินเตอร์เนชั่นแนล เพิ่มขึ้น 3.8%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สามของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2555 โดยระบุว่าขยายตัว 3.1% ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% เนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ขยายตัว 1.6% และยอดส่งออกขยายตัว 1.9%

ขณะเดียวกันสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 09:32:43 ]
ความเห็นที่ 45

ข่าวด่วน !!! เรารอดแล้วค่ะ

จากคุณ : su_k3430 [21 ธ.ค. 55 09:47:47 ]
ความเห็นที่ 46

55555

เอามั่ง

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 09:56:44 ]
ความเห็นที่ 47

*DTAC
-นสพ.รายงาน มั่นใจรายได้ปีหน้าเติบโตมากกว่าปีนี้ หลังเล็งเปิดให้บริการ 3 จี ครอบคลุม 50% ภายในปีหน้าเร็วกว่ากสทช.กำหนด พร้อมอัดงบกว่า 2.5 หมื่นล้าน ลงทุน 3 จี คลื่น 2.1 GHz หนุนราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบัน

*TRT
-นสพ.รายงาน  ตั้งเป้า 5 ปีรายได้แตะ 5,000 ล้านบาท หรือเติบโต 20-25% ต่อปี จากปีนี้ที่คาดจะมีรายได้ 2,100-2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีงานในมืออยู่ 1,300 ล้านบาท ลุยประมูลงานใหม่กว่า 3,600 ล้านบาท มั่นใจได้งาน 20-25% บุกตลาดอาเซียนรับ AEC ประเดิมรับงานพม่า มูลค่า 300 ล้านบาท


*PTT
-นสพ.รายงาน “ประภัสร์"กร้าวเรียกค่าเช่าที่ดินจาก PTT ยันไม่ขอยึดสัญญาเดิมที่ให้ต่ออายุใช้ประโยชน์ฟรีอีก 30 ปี เพราะถือว่าเปลี่ยนนิติบุคคลผู้ขอเช่าจากการปิโตรเลียมฯ แล้ว จึงต้องทำสัญญาใหม่ ระบุต้องเร่งเสนอผลตอบแทนมาให้พิจารณาก่อนหมดสัญญามี.ค.56 ไม่เช่นนั้นจะจัดการขั้นเด็ดขาด

*KAMART
-นสพ.รายงาน ติดปีกเครื่องสำอางขายดีช่วงเทศกาลปีใหม่ปั๊มรายได้ไตรมาสสุดท้ายกระฉูด 30% "หัวเรือใหญ่" เร่งขยายสาขาและเพิ่มช่องทางจำหน่ายปูทางกำไรและรายได้โดดเด่นในปี 2556 กูรูคาดโชว์กำไร 220-230 ล้านบาท ดัน EPS 0.38 ต่อหุ้น เป้าหมาย 9 บาทยังต่ำ

*SUSCO
-นสพ.รายงาน รับอานิสงส์รถคันแรก ดันปริมาณใช้น้ำมันพุ่งพรวด คาดรายได้-กำไรปี 2556 โตเฉียด 100% หลังรับรู้รายได้จากปิโตรนาส พร้อมจ่อควักงบ 200 ล้านบาท ปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน หวังดึงดูดลูกค้าเข้าใช้บริการเพิ่ม คาดผลงานโค้งท้ายรายได้-กำไรโตทุบสถิติ

*KSL
-นสพ.รายงาน จ่อแจ้งงบปี 2554/55 (พ.ย.54-ต.ค.55) สัปดาห์หน้ารายได้ทะลุ 2 หมื่นล้านบาท ผู้บริหารตั้งเป้าปีหน้ารายได้โต 10% เดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงาน จ.ขอนแก่น ด้านโบรกปรับกำไรเพิ่ม 12% เชื่อธุรกิจโรงไฟฟ้า

*TMILL
-นสพ.รายงาน แบบไต๋ Q4/2555 ผลงานเด่นสุดในรอบปี อานิสงส์ไฮซีซันหนุนออเดอร์ปรี๊ด ด้านเอ็มดีย้ำชัดปี 2555 รายได้ตามนัดพุ่ง 20% จากปีก่อน หลังดีมานด์-ราคาพุ่ง พร้อมเล็งทุ่มงบ 550 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัว รองรับอุปสงค์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง

*LH
-นสพ.รายงาน กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ส่วนกลาง ปักหลักลงทุน"เชียงใหม่"ปลุกตลาดคึกคักสุดในรอบหลายปี หวั่นเปิดศึกชิงแรงงาน-ส่งมอบงานไม่ทัน แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เผยพื้นที่ก่อสร้างร่วม 6 แสน ตร.ม.ขยายเท่าตัว ปริมาณบ้านจัดสรรทะลุ 5,123 ล้าน คอนโดมิเนียมโตก้าวกระโดด หลังราคาที่ดินพุ่งกว่า 100% ผุดกว่า 1 หมื่นห้อง มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้าน รับดีมานด์คนรุ่นใหม่

*กลุ่มสื่อสาร
-นสพ.รายงาน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. กลุ่มผู้นำแรงงาน บมจ.ทีโอที ยื่นหนังสือถึงนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการ ในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้เสนอความเห็นยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความข้อกฎหมาย การประมูลคลื่น 3 จี

*KTB
-นสพ.รายงาน กรุงไทยเปิดสำนัก งาน ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อรองรับการเป็นสมาชิก AEC พร้อมกันนี้ตัวแทนของธนาคารยังรับให้คำปรึกษา รวมถึงประสานงานให้กับลูกค้าที่ต้องการจะลงทุนในประเทศพม่า

*MATCH
-นสพ.รายงาน มั่นใจปีนี้กำไรโตกระโดด อานิสงส์การเมืองนิ่ง ไม่มีมหาอุทกภัย แจงมีนักลงทุนรายใหญ่สนใจหุ้น ผู้บริหารเผยผลดำเนินงานปี 55 จะเติบโตก้าวกระโดดและต่อเนื่องถึงปี 56 โดยเฉพาะกำไรปีนี้โตประมาณ 500% เนื่องจากไม่มีมหาอุทกภัยซึ่งทำให้รายได้ที่อั้นมาจากปีก่อนเข้ามาในปีนี้ และการเมืองที่ไม่มีม็อบสีต่างๆ ออกมา เทียบกับปีก่อนหน้านี้

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 09:58:26 ]
ความเห็นที่ 48

สวัสดีค่า คุณฮะ คุณหย๊ายหย่าย คุณพันเกลียว คุณพี่P_ปรัชญา คุณตำลึงริมรั้ว คุณPeterMc คุณมาร์รูปหล่อ คุณsiriratana.l คุณมารหุ้นแสวงพ่าย คุณsu_k3430 และเพื่อนๆ พี่ๆ ที่น่าร๊ากกกกกกทุกท่าน ^ ^




ผ้าซิ่นหน้าตาเปงแบบนี้เองหรา.. เพิ่งเคยเห็นนะเนี่ยยยยยยยย 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 10:07:17 ]
ความเห็นที่ 49

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลง หลังจากที่แกนนำจากพรรครีพับลิกันของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเลื่อนแผนการลงคะแนนเสียงกฎหมายภาษี ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้มีการปรับขึ้นภาษี ขณะที่การเจรจาเรื่องงบประมาณยังไม่มีความคืบหน้า

ดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัว 0.3% แตะ 128.79 จุด เมื่อเวลา 11.15 น.ตามเวลากรุงโตเกียว

หุ้นเทคโทรนิค อินดัสทรีส์ อ่อนตัว 0.8% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ส่วนหุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ร่วง 2.9% ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ สำหรับหุ้นมิตซูบิชิ เอสเตท พุ่ง 3.7%

บรรดาผู้นำของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายภาษี ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอจากภายในพรรคที่จะทำให้ผ่านการลงคะแนนได้

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:08:22 ]
ความเห็นที่ 50

TISCO Market Insight : บทวิเคราะห์กลยุทธรายวัน

สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -1.00 จุด ขายทำกำไร รอ Fiscal Cliff
หุ้นไทยแกว่งปรับฐานในกรอบแคบ ทั้งแดนบวกและลบระหว่าง 1372-81 โดยนลท.มีการขายทำกำไรระยะสั้นหลังราคาหุ้นทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 16 ปี และเฝ้ารอความชัดเจนการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ  อย่างไรก็ดี เงินนอกยังไหลเข้าต่อเนื่อง ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.65 พันลบ. ทั้งเดือน ธ.ค. (MTD) ซื้อสะสม 1.92 หมื่นลบ. 



ทิศทางตลาดวันนี้ : เด้ง กรอบจำกัด หลัง US GDP 3Q55 ดีกว่าคาด
หุ้นโลกเมื่อคืน (20 ธ.ค.) ปิดทรงตัวถึงปรับขึ้นเล็กน้อย นลท.เชื่อการเจรจางบประมาณสหรัฐฯ น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี หลัง John Boehner โฆษกสภาผู้แทนราษฎรและแกนนำของพรรครีพับลิกัน ยังพยายามเดินหน้าเจรจากับปธน.Obama เรื่องตัดลดงบประมาณ ประกอบกับตัวเลข GDP ไตรมาส 3/555 ของสหรัฐฯ ขยายตัว 3.1% ดีกว่าที่ประกาศก่อนหน้านี้ที่ 2.7% และดีกว่าตลาดคาดที่ 2.8%  ด้านการประชุม BOJ เมื่อวันที่ 19-20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประกาศขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ (QE) อีก 10 ล้านล้านเยน เป็น 101 ล้านล้านเยน ส่งผลดีต่อสภาพคล่องในระบบการเงิน-เชื่อว่าเม็ดเงินจากต่างชาติยังคงไหลเข้าหุ้นไทยอยู่ มอง SET รีบาวด์ แต่อยู่ในกรอบจำกัด แนะนำติดตามการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ใกล้ชิด ประเมินแนวรับ 1370+/- แนวต้าน 1380-85 

กลยุทธ์การลงทุน : ทนแกว่ง อ่อนตัวหาจังหวะสะสมเพิ่ม
หุ้นไทยระยะสั้นยังแกว่งไปตามกระแสข่าวความคืบหน้าการแก้วิกฤติหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) อย่างไรก็ดี น่าจะสามารถตกลงกันได้ก่อนสิ้นปีนี้ เป็นผลดีต่อหุ้นทั่วไทย (เป้า 1390-1400 ภายในเดือน ม.ค. 56) ประกอบกับยังมีเม็ด LTF & RMF จ่อเข้าลงทุนต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ประเด็นหุ้นน่าสนใจ (1) หุ้นใหญ่พื้นฐานดี แนะนำ ADVANC, BJC, IVL, KBANK, KK, MAKRO, PTT, TOP, (2) หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีประเด็นเชิงบวกรออยู่ในปีหน้าจากอุปสงค์ภายในประเทศแข็งแกร่งและการลงทุนทั้งของภาครัฐ (โครงสร้างพื้นฐาน) และเอกชน (3G) ชอบ BTS, CPALL, ROBINS, SAMART, SYMC สำหรับการเทรดดิ้งระยะสั้น แนะนำหุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก BCP, GRAND, KAMART, TMILL, SUSCO  อนึ่ง คาดหุ้น GOLD, JTS และ PAE ติดใช้เกณฑ์ Cash Balance ในประกาศ ตลท. เย็นวันนี้ (21 ธ.ค.) 

หุ้นเด่นเล่นสั้น : BCP , TMILL
BCP – ผลกำไร 4Q55F น่าจะโดดเด่น จากการกลับมาผลิตเต็มที่ของหน่วยกลั่นที่ 3 ที่ถูกไฟไหม้ และผลประกอบการปีหน้ายังสดใส ทั้งจากธุรกิจโรงกลั่น-ปั๊มน้ำมัน จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง และการขยายตัวของตลาดรถยนต์ในประเทศ นอกจากนี้จะมีรายได้จากโครงการเอทานอล, ไบโอดีเซล, โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ จะเข้ามามากขึ้น ราคาหุ้นถูก คิดเป็น PER เพียง 9.7 เท่าปีหน้า แถมปันผลสูงราว 4% ต่อปี มูลค่าเหมาะสม 32.5 บ. (CONSENSUS) 
TMILL – ราคาหุ้นเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว หลังร่วงลงอย่างหนักนับตั้งแต่เข้าตลาดจากจุดสูงสุดที่ 7.2 บาท ผลการดำเนินของ TMILL จะดีขึ้นจากการชำระเงินกู้ และโดยปกติไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นฤดูกาลขายแป้งสาลีของบริษัทจากเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ปีหน้าเล็งขยายกำลังการผลิตเพิ่ม  
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
21 ธ.ค. TH เปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ
FR ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของฝรั่งเศสในเดือน ธ.ค.
IT ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอิตาลีในเดือน ธ.ค.
UK ตัวเลข GDP ของอังกฤษในไตรมาส 3/55 (สุดท้าย)
US ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. (สุดท้าย)
 US ตัวเลขรายได้, การใช้จ่าย (ในเดือน พ.ย.) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ (ในเดือน ธ.ค.)
24 ธ.ค. US ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย.
24-27 ธ.ค. TH ตัวเลขการค้าเบื้องต้นของไทยในเดือน พ.ย.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:10:38 ]
ความเห็นที่ 51

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเซีย พลัส มองว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะอ่อนตัวลง เนื่องจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์ได้ปรับตัวลง และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยตลาดฮ่องกงเช้านี้ปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก อันเป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff แต่สุดท้ายเชื่อว่าจะตกลงกันได้และคงจะทำให้ตลาดฯปรับตัวขึ้นมาได้ดีขึ้น



"ตลาดฯน่าจะเผชิญการต่อสู้กันระหว่างแรงซื้อของกองทุนในประเทศและแรงขายของฝั่งโบรกเกอร์ แต่มองว่าแรงสองแรงนี้จะสามารถดูดซับกันได้ ต้องรอดูประเด็นตลาดในต่างประเทศเพิ่มเติม"นายเทิดศักดิ์ กล่าว

พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด แนวต้าน 1,385 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(20 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,311.72 จุด เพิ่มขึ้น 59.75 จุด (+0.45%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,443.69 จุด เพิ่มขึ้น 7.88 จุด(+0.55%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,050.39 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด(+0.20%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 106.25 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.17 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.70 จุด ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 94.69 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 3.51 จุด ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.02 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(20 ธ.ค.)1,377.40 จุด ลดลง 1.00 จุด(-0.07%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,641.41 ล้านบาท เมื่อ 20 ธ.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(20 ธ.ค.) ที่ 90.13 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.15 ดอลลลาร์หรือ 0.2%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(20 ธ.ค.) ปิดที่ 6.0 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.64/66 อ่อนค่าตามทิศทางยูโร
- นายวีระพล จิรประดิษฐกุลอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าปี 2555 มีการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เฉลี่ยเดือนละ 6.05 แสนตันเพิ่มขึ้น 11% และหากยังไม่มีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีจะทำให้ยอดนำเข้าสูงขึ้นถึงเดือนละ 1.7 แสนตันจากปัจจุบัน 1.46 แสนตัน และช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2551-2555)รัฐต้องชดเชยการนำเข้าแอลพีจีไปแล้ว 9.54 หมื่นล้านบาทเฉพาะปี2555 มีการจ่ายชดเชย 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

- "วิรไท สันติประภพ" รองผู้จัดการสายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)แถลงว่า ปี 2556 ตลาดหุ้นไทยยังได้อานิสงส์เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่องจากสิ้นปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มมีทิศทางดีขึ้นตามการแก้ไขปัญหาทางการคลังและธนาคารกลางหลายประเทศมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ

- นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในระยะนี้ยังเคลื่อนไหวปกติ แม้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)จะประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือมีวงเงินรวมเป็นเงินถึง 10 ล้านล้านเยน ผ่านการขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ทั้งในรูปพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรภาคเอกชน และยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำที่ 0-0.1% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังมีเงินอัดฉีดสภาพคล่องของสหรัฐ ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่(คิวอี 3 พลัส)

- ตลาดหลักทรัพย์เผยมูลค่าระดมทุนปีนี้ ทุบสถิติในรอบ 4-5 ปี เผยยอด 11 เดือนสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ยังไม่รวมการเพิ่มทุน ของปตท.สผ.อีก 9 หมื่นล้านบาท คาดปีหน้าเม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง ได้อานิสงส์ธนาคารกลางทั่วโลกอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่ม แถมตลาดหุ้นไทยยังมีน้ำหนักในดัชนี MSCI ASIA EX JAPAN เตือนระวังเงินต่างชาติทำตลาดผันผวนแรง ด้าน"วิรไท" ไม่ต่อสัญญาทำงานกับตลาด แจงอยากไปทำงานมูลนิธิ ขณะที่ "จรัมพร" ประกาศจัดทัพรองเอ็มดีใหม่ ชู"ภากร ปีตธวัชชัย-บดินทร์ อูนากูล-เกศรา มัญชุศรี" ร่วมบริหารงาน

- แบงก์ชาติชี้ต่างชาติเริ่มเข้ามาซื้อหุ้นไทยก่อนหยุดยาว แต่เงินบาทยังเคลื่อนไหวปกติ ย้ำต่างชาติไม่ได้ขนเงินเข้าไทยมากสุดในเอเชีย จับตาเรื่องหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯและยุโรปต่อไป พร้อมกันนี้แผนปรับปรุงฐานะการเงิน ธปท.ยังไร้ข้อสรุป บอร์ดแบงก์ชาติสั่ง ทผง.เสนอมาใหม่อีกครั้งปลายเดือน ม.ค. 56 ชี้ที่ประชุมต้องการความแน่นอน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องละเอียดอ่อน

- ตลาดหลักทรัพย์เตือนปีหน้านักลงทุนระมัดระวังการลงทุนจากเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าออกเร็ว เชื่อตลาดหุ้นไทยโดดเด่นจากเศรษฐกิจเติบโต -กำไร บจ.ดีต่อเนื่อง"วิรไท" แจง 2-3 สัปดาห์นี้ฝรั่งซื้อสุทธิ1.7 หมื่นล้านบาท ผลดีต่อเนื่องจากเดือนก่อน จากไทยมีน้ำหนักการลงทุนใน MSCI เพิ่มเป็น 3.24% จาก 2.66%ณ สิ้นปี 2554

- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. โดยที่คณะกรรมการทั้งสองชุดมีความเป็นห่วงตรงกันในเรื่องของหนี้ครัวเรือน และสินเชื่อบุคคลที่ขยายตัวในอัตราสูง

*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 74 บาท เชื่อว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ยังมี Sentiment เชิงบวก จากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ US$90.00/barrel และคาดว่าหากการการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ได้ข้อสรุปภายในสิ้นปี 2555 จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้อย่างต่อ อีกทั้งราคาหุ้นยังมี Valuation ที่ไม่สูงนัก

- BECL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 39 บาทจาก 34 บาทหลังจากบริษัทซื้อ TTW จาก CK เพิ่มจาก 9.2% เป็น 20.2% ที่ราคา 7.55 บาท ทำให้มีกระแสเงินสดเพิ่มจากเงินปันผล และปรับกำไรปี 2013 ขึ้น 9% และปี 2014 ขึ้น 11% จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ TTW ตามสัดส่วนที่ถือเพิ่ม จากเดิมที่รับรู้เฉพาะเงินปันผล นอกจากนี้ BECL ยังมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นระยะถัดไปคือการนำ CK Power เข้าตลาดฯ เร็วสุดปลาย 1Q13 และการขอปรับขึ้นค่าทางด่วนในปี 2013

- MSC(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"แม้จะไม่ได้รับผลบวกโดยตรงจากการทำโครงข่าย 3G แต่ MSC มีรายได้ที่แน่นอนจากยอดสั่งซื้อซ้ำของลูกค้าเดิมกว่า 95% อีกทั้งยังจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 4-5% ต่อปี ขณะที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเพียง 45% YTD ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PE 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 21 เท่า พร้อมให้แนวรับ 5.10 บาท แนวต้าน 5.90/6.40 บาท

- DTAC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 105 บาท คาดกำไรสุทธิใน 4Q55 ของ DTAC ไว้ที่ 2,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% QoQ และ 23% YoY จากผลบวกทางฤดูกาล รวมทั้งยอดขายเครื่องโทรศัพท์เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อนจากการเปิดขาย IPHONE 5 นอกจากนี้ ยังมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากเห็นความชัดเจนแผนลงทุนโครงข่าย 2.1 GHz หลังได้รับใบอนุญาต ซึ่ง DTAC จะได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุน ปัจจุบัน DTAC ซื้อขาย PE 18 เท่า ต่ำกว่า ADVANC ขณะที่ราคาหุ้นปรับ 27% YTD และ Underperform กลุ่มถึง 14%

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:14:49 ]
ความเห็นที่ 52

หุ้น DNA เปิดเทรดวันแรกที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 1.62 บาท(+85.26%)จากราคาขาย IPO ที่ 1.90 บาท/หุ้น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ดีเอ็นเอ 2002(DNA) ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น DNA ไว้ที่ 2.34 บาท/หุ้น

DNA เป็นผู้จัดจำหน่ายสื่อ Home Entertainment ทั้งหนังและเพลงในรูปแบบ DVD, VCD, CD, และ Blu Ray โดยมีร้านค้าปลีกและจุดจำหน่ายในห้าง Modern Trade ต่างๆ ทั่วประเทศ 1,432 สาขา เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนประมาณ 300 ล้านบาทจะนำไปขยายสาขา

สำหรับกำไรงวด 9M12 +108% Y-Y เป็น 43 ล้านบาท คาด 4Q12 กำไรดีขึ้นเพราะ high season และผลเต็มไตรมาสจากการเข้าบริหารพื้นที่อีก 131 สาขากับคู่ค้ารายหนึ่งแทนผู้ค้ารายเดิม รวมกำไรทั้งปี 2012 คาด +161% เป็น 63 ล้านบาท สำหรับกำไรปี 2013 คาด 106 ล้านบาท +68%

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:15:55 ]
ความเห็นที่ 53

กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,649.80 USDต่อออนซ์ ลดลง 17.90 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635 - 1,671 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำยังคงปรับตัวร่วงต่อลงมาติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจาก การหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,660 ส่งผลให้มีแรงขายทองคำอีกระลอก นอกจากนี้ ในช่วงวันหยุดยาว มีกองทุนเฮดจ์ฟันด์เทขายทองออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อปรับ Port การลงทุน ขณะที่สัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดี เป็นอีกแรงกดดันต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ ด้านประเด็นการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ยังมีความไม่แน่นอน และการตกลงกันระหว่างนักการเมืองในสหรัฐยังมีข้อกังขา ดังนั้น ประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลทำให้ราคาทองคำผันผวนในระยะนี้ สำหรับการคาดการณ์ที่ว่าวิกฤติยูโรโซนและปัญหา fiscal cliff เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในปีหน้า อาจจะเป็นแรงหนุนกลับให้สินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ค่าเงินดอลลาร์ และราคาทองคำกลับมาปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ในระยะสั้นนี้ ราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มเชิงลบ โดยการปรับขึ้นของราคาทองคำอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ดังนั้น จึงแนะนำให้ลด Port การลงทุนในช่วงสิ้นปี



Spot Gold
Technical Analysis
ราคาทองคำร่วงหนักหลังจากหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,660 ซึ่งส่งผลกดดันให้ราคาลงไปทำ Low ที่บริเวณ 1,635 ซึ่งส่งผลทำให้ภาพระยะกลางของราคาทองคำเป็นแนวโน้มเชิงลบ หากในวันนี้มีแรงซื้อกลับ ส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมา แต่ก็อาจจะถูกเทขายทำกำไรในทุกๆ แนวต้าน ซึ่งมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,660/1,675 และหากหลุดแนวรับบริเวณ 1,630/1,620 จะกดดันให้ราคาทองคำกลับลงไปทดสอบบริเวณ 1,600 ในระยะถัดไป ดังนั้น แนะนำให้ลด Port การลงทุน หรือรอจังหวะการ Rebound กลับขึ้นมาบริเวณแนวต้านสำคัญ เพื่อเปิด Short ทำกำไรระยะสั้น

Key Point in Precious Market
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD แข็งค่า ( - ), ราคาน้ำมันลดลง ( - ), ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อลดลง ( - ), การลด Position ของนักลงทุนในช่วงปลายปี ( - ), ความไม่แน่นอนในเรื่อง Fiscal Cliff ( +/- ), ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ออกมาดี ( - ) ฟิทช์?เตือนสหรัฐอาจสูญ?เสียอันดับ?เครดิต ( + )

- ประเด็นที่ต้องติดตาม การแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ
- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันศุกร์ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน(ไม่รวมยานพาหนะ) เดือน พ.ย., รายจ่ายส่วนบุคคล เดือน พ.ย., รายได้ส่วนบุคคล เดือน พ.ย., ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ เดือน พ.ย. โดย เฟดสาขาชิคาโก, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ช่วงท้ายเดือน ธ.ค. โดย ม.มิชิแกน

- SPDR ถือทองจำนวน 1,350.52 ตัน
Spot Silver
ราคาโลหะเงินปิดที่ 29.68 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 29.6 - 31.2 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ซื้อเพิ่ม 24.08 ตัน ถือโลหะเงินจำนวน 9,895.37 ตัน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 28.9/28.3 แนวต้านบริเวณ 30.5/31.2 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับ-แนวต้าน








กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- บีโอเจประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมอีก 10 ล้านล้านเยน
- ทองคำถูกแรงเทขายกระหน่ำจากเฮดจ์ฟันด์
- คาดราคาทองจะซบเซาต่อเนื่องใกล้เทศกาลคริสต์มาส
- ราคาทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมาถูกแรงเทขายอย่างกระหน่ำจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์จนหลุดแนวรับที่ 1,660 ดอลลาร์ และลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,636 ดอลลาร์ จากข่าวที่ว่าบริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ สมิธ บาร์นีย์แนะนำปรึกษาทางการเงินให้ถอนเงินลงทุนของลูกค้าออกจากกองทุนของจอห์น พอลสัน



- นอกจากนี้การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งก็เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำเช่นกัน โดยจีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐขยายตัว 3.1% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะขยายตัว 2.8% และดีกว่าการประมาณการครั้งที่ 2 ที่ขยายตัว 2.7% นอกจากนี้ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.สูงสุดในรอบ 3 ปี โดยเพิ่มขึ้นเป็น 5.04 ล้านหน่วย สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์และสูงกว่าเดือนต.ค.ซึ่งอยู่ที่ 4.79 ล้านหน่วย

- เมื่อวานธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 0-0.10% และเพิ่มวงเงินในมาตรการปล่อยกู้และซื้อสินทรัพย์ขึ้นอีก 10 ล้านล้านเยนเป็น 101 ล้านล้านเยน และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในครั้งถัดไปมีโอกาสปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเป็น 2% ซึ่งการปรับขึ้นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวอาจส่งผลลบต่อค่าเงินเยนในอนาคต สำหรับค่าเงินบาทเมื่อเทียบดอลลาร์เมื่อวานยังเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว

- หลังจากที่ราคาทองคำถูกแรงเทขายอย่างหนักจนหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 1,660 ดอลลาร์ ทำให้ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำกลับเป็นขาลง แต่สัญญาณทางเทคนิคส่งสัญญาณการขายมากเกินไป ดังนั้นราคาทองคำมีแนว โน้มฟื้นตัวทางเทคนิค โดยแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1,660 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,636 ดอลลาร์

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.56
Close   chg.  Support        Resistance
24,190  -290  24,000/23,900  24,300/24,400
ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำกลับเป็นขาลง แต่สัญญาณทางเทคนิคส่งสัญญาณการขายมากเกินไป ดังนั้นกรณีที่ราคาทองคำฟื้นตัวทางเทคนิคขึ้นมาที่บริเวณ 1,660 ดอลลาร์ อาจเลือกเปิดสถานะขาย เนื่องจากมองว่าการฟื้นตัวอาจจะไม่ยั่งยืนและเป็นการฟื้นตัวรยะสั้น แนวรับสำหรับการเก็งกำไรฝั่งซื้ออยู่ที่ 1,636-1,640 ดอลลาร์

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.56
Close  chg.  Support  Resistance
920    -29   910/900  930/950
ราคาโลหะเงินถูกแรงเทขายอย่างหนักจนหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ระดับ 30.70 ดอลลาร์เช่นเดียวกับราคาทองคำ การดีดตัวของราคาโลหะเงินที่บริเวณ 31.0- 31.20 ดอลลาร์อาจเลือกเปิดสถานะขาย

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:18:41 ]
ความเห็นที่ 54

บล.บัวหลวง วิเคราะห์หุ้น บมจ.การบินไทย (THAI) โดยระบุว่าประเด็นหลักจากการประชุมนักวิเคราะห์ ยืนยันมุมมองที่เรามีต่อ THAI เราคิดว่าความคาดหวังในการเติบโตของกำไรสุทธิ QoQ ในไตรมาส 4/55 (ช่วงไฮซีซั่น) จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้คาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2555-57 ที่ 27% หนุนโดยการขยายฝูงบินและรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยที่สูงขึ้น จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หุ้น THAI มีระดับการซื้อขายอยู่ที่?PEG ปี 2556 เพียง 0.3 เท่า และสัดส่วน EV/EBITDA ที่?4.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทและค่าเฉลี่ยภูมิภาค



เราคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 4/55 ของ THAI เพิ่มสูงขึ้น QoQ และพลิกกลับจากขาดทุนหลักที่รายงานในไตรมาส 4/54 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากช่วงไฮซีซั่นของฤดูกาลท่องเที่ยวและการขยายฝูงบิน จากข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าโดยปกติแล้วในไตรมาสที่สี่ของบริษัท ตัวเลขการจราจรจะเติบโตประมาณ 3% QoQ THAI ได้รับเครื่องบิน A380 ใหม่จำนวน 2 ลำในเดือนก.ย.

และต้นเดือนธ.ค.
ให้สังเกตว่าเรายังคาดการณ์ว่ารายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยจะปรับตัวสูงขึ้น QoQ หนุนโดยการปรับเพิ่มภาษีน้ำมัน (มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2555), การเปิดเส้นทางบินใหม่ (กรุงเทพฯ-ซัปโปโร ในเดือนต.ค.) และการบริหารจัดการฝูงบิน

เราคำนวณว่ารายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยจะเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่?2.76 บาทต่อกม. จาก 2.71 บาทต่อกม. ในไตรมาส 3/55 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ผู้บริหารได้แนะไว้ (แต่ลดลงจาก 2.81 บาทต่อกม.ในไตรมาส 4/54 เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในอุตสาหกรรมสายการบิน)

เราคาดการณ์แนวโน้มกำไรหลักของ THAI จะเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า หนุนโดยการขยายฝูงบินและรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยที่สูงขึ้น ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากผู้โดยสารที่ 12% ในปี 2556 หนุนโดยปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (ASK) ที่เพิ่มสูงขึ้น 9% และรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยสูงขึ้น 3% นอกจากนี้คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (เฉพาะส่วนที่ไม่รวมค่าน้ำมันและไม่รวมค่าใช้จ่ายพนักงาน) จะเพิ่มขึ้นเพียง 3-4% ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการเพิ่มรายได้ (เช่น การปรับปรุงระบบ IT)

THAI ได้ป้องกันความเสี่ยงบางส่วนสำหรับความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2556 (57% ของการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมดในไตรมาส 1/56 และ 45% ของการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมดในไตรมาส 2-4/56) ที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วง 105-116 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าราคาน้ำมันเครื่องบินปัจจุบันที่ 127 เหรียญต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามบริษัทมีแนวโน้มที่จะบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษทางภาษีอยู่ในช่วง 600-900 ล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของนโยบายทางบัญชีที่ขยายอายุการใช้งานของเครื่องบินจาก 15 ปีเป็น 20 ปี (ซึ่งจะทำให้สามารถลดค่าเสื่อมราคาลงได้ประมาณ 3 พันล้านบาท)

ที่มา : บล.บัวหลวง

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:22:26 ]
ความเห็นที่ 55

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐปรับเพิ่มการประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 59.75 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 13,311.72 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.88 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 1,443.69 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 6.02 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 3,050. 39 จุด


ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สามของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2555 โดยระบุว่า จีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 3.1% ซึ่งเป็นปรับเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.7% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% เนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ขยายตัว 1.6% และยอดส่งออกขยายตัว 1.9%

ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 17,000 ราย แตะที่ 361,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 357,000 ราย

นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ จะวีโต้ข้อเสนอ “แผนสอง" ของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่เกี่ยวกับหน้าผาทางการคลัง หรือมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค. 2556

หุ้น NYSE Euronext ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้น 34.10% หลังจากมีข่าวว่า NYSE Euronext ตกลงขายแพลทฟอร์มด้านการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และตราสารอนุพันธ์ให้กับอินเตอร์เนชันแนล เอ็กซ์เชนจ์

หุ้นเมิร์กในกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลง 3.4%

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:33:25 ]
ความเห็นที่ 56

- วันที่ 21/12/12 เป็นวันที่คนทั่วโลกจับตาว่าจะมีเหตุการณ์ใดที่โยงเข้ากับ"วันสิ้นโลก" ตามปฏิทินของชนเผ่ามายากำหนดไว้หรือไม่ ด้านบมจ.ไทยคม (THCOM) ได้เตรียมความพร้อม โดยจัดให้มีการเฝ้าระวังตามมาตรการและกระบวนการจัดการตามมาตรฐานวิศวกรรม และเพิ่มความถี่ในการติดตามตรวจสอบสถานะของระบบดาวเทียมอย่างต่อเนื่อง แม้ระบุว่า จากการตรวจสอบยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าจะมีพายุสุริยะแต่อย่างใด


- วันนี้ได้ฤกษ์เปิดสมัยประชุมรัฐสภา สมัยสามัญนิติบัญญัติ โดยในสมัยประชุมนี้รัฐธรรมนูญกำหนดให้สภาฯพิจารณา ร่างกฎหมายเป็นหลัก

- ทางกรมราชทัณฑ์จะปล่อยตัวนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อการร้าย ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ เพื่อให้มาร่วมประชุมสภาฯ ได้แต่ต้องกลับเข้าสู่เรือนจำอีกครั้งเมื่อปิดสมัยประชุมสภาฯ

- ติดตามฟังเสียงสะท้อนถึงผลตรวจสอบกรณีการแพร่ภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแข่งขันศึกมวยไทยวอริเออร์ส ซึ่งถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ โดย พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา ระบุว่า เนื้อหาในรายการถ่ายทอดสดไม่ได้ขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 เพราะกระบวนการออกอากาศเป็นไปตามการอนุญาตทั้งระเบียบของช่องและเกณฑ์ของ กสทช.โดยมีการแจ้งรายละเอียดอย่างกว้างๆ แล้วว่าถ่ายทอดสดรายการอะไร ที่ไหน อย่างไร และในวันนี้คณะอนุกรรมการฯ จะสรุปรายละเอียดเพื่อเสนอให้บอร์ดกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) พิจารณาในวันที่ 7 ม.ค.56

- ตามดูท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์หลังจาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีใช้เอกสารอันเป็นเท็จสมัครเข้ารับราชการทหาร และการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ได้ปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากการรับราชการทหารแล้ว แต่ยังไม่ได้ถอดยศ แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์ไปฟ้องร้องต่อศาล และมีคำสั่งชะลอไว้ก่อนก็จะปฎิบัติตามคำสั่งของศาล

- การจัดทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เผยผลการหารือนายอัชฌาพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ด้วยการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.เพื่อเข้ามาร่วมรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ที่ทำการพรรคเพื่อไทย

- คณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐทำร้ายสื่อมวลชน และประชาชนในการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม(อพส.) วุฒิสภา ที่มีนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เป็นประธาน จะเชิญ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เข้าชี้แจง

- ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เรียกช่างภาพของหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายในระหว่างการชุมนุมของ อพส.เมื่อวันที่ 24 พ.ย.55

- ภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียสมัยพิเศษ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย เป็นวันที่สอง ต่อด้วยการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนบังคลาเทศอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 21- 22 ธ.ค.55

- พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ร่วมรณรงค์ก้าวสู่ปีใหม่อย่างปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ ปี 2556 กับผู้นำ อปพร. ทั่วประเทศ เน้นลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมปิดการสัมมนาผู้นำ อปพร. ที่โรงแรมแม็กซ์ พระราม 9

-  พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์ อำนวยความสะดวกและส่งเสริมการท่องเที่ยวในห้วงเทศกาลคริสมาสต์ และวันปีใหม่ 2556 ที่ถนนข้าวสาร กทม.

- ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เวลา 12.00 น. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.นัดแถลงข่าว ณ โรงแรมออลซีซั่น ถนนวิภาวดีฯ และช่วงบ่ายเวลา 13.00 น.แกนนำ นปช.แถลงข่าวที่อิมพิเรียล ลาดพร้าว เกี่ยวกับการนัดชุมนุมในพรุ่งนี้ที่โบนันซ่า

- คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย นัดประชุม ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือถถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการวางตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

- บมจ. ดีเอ็นเอ 2002 (DNA) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าสื่อโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในรูปแบบร้านค้าปลีก โดยวางจำหน่ายสินค้าประเภทภาพยนตร์ เพลง ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ในรูปแบบบลูเรย์ ดีวีดี วีซีดี และซีดี รวมถึงสินค้าประเภทสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสารรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน และพ็อกเกตบุ๊ก จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายเป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) อย่างเป็นการ โดยมีราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ระดับ 1.90 บาท

- บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ "ยุทธศาสตร์ทางอากาศ:ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2" ณ ห้องประชุมอาคาร 6 ชั้น 7 กรมการขนส่งทางบก โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ร่วมเสวนาในหัวข้อ "นโยบายการพัฒนาการขนส่งทางอากาศ" ตั้งแต่เวลา 08.30 น.

- นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ประชุมความร่วมมือด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา(ภาคเอกชน) ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 กระทรวงพาณิชย์ เวลา 09.00 น. หลังจากนั้นเวลา 11.30 น.แถลงข่าวข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจการค้าประจำเดือน พ.ย.55  ณ ห้อง KM ชั้น 12 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และช่วงเย็นเวลา 18.30 น.เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "ออนซอนกลองยาวชาววาปีของดีพื้นบ้าน" ประจำปี 2555 ณ บริเวณพิธีสนามหน้าที่ว่าการอำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

- นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกกล้วยไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 85 พรรษามหาราช ณ บริเวณสนามหญ้าหน้ากระทรวงการคลัง เวลา 08.30 น.

- นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต แถลงผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ณ กรมสรรพสามิต เวลา 10.00 น.

- ผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ จัดงานแถลงข่าว 5 โรงพยาบาลเอกชนในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ จับมือโชว์ความพร้อมเปิดตัว "หน่วยบริการฉุกเฉิน" Bangkok Emergency Services อย่างเป็นทางการ โดยมี นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) เป็นประธานเปิดงาน ณ โถงล็อบบี้ ชั้น 1 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ เวลา 13.30 น.

- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องข้าวร่วมกันจัดประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 21-23 ธ.ค.55 ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และเชื่อมโยง ผลงานวิจัยด้านข้าวของประเทศ ภายในงานมีการบรรยายพิเศษจากนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในหัวข้อ "นโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อการวิจัยข้าวไทย" พร้อมทั้งนำผลงานวิจัยข้าวพันธุ์ใหม่มาจัดแสดง

- คณะทำงานด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สป.) จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเรื่อง "สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ" เวลา 09.30 น. ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดงานและบรรยายพิเศษ เรื่อง "ความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" นอกจากนี้ยังมีการอภิปรายของบุคคลสำคัญอีกหลายท่าน เช่น นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า และนายสมพร เทพสิทธา ประธานคณะทำงานการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

- ธนาคารกรุงเทพ (BBL) จัดงาน “วันเกษตรก้าวหน้า 2555” ณ ลานด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ถนนสีลม โดยจะมีพิธีมอบรางวัลเกษตรก้าวหน้า 2555 ให้กับบุคลากรที่มีผลงานดีเด่นด้านการจัดการความรู้และเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการที่ช่วยให้เกษตรกรเป็นอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งยังนับเป็นโอกาสดีที่จะได้เลือกชมและเลือกซื้อผลผลิตทางการเกษตรมาตรฐานส่งออกที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากลูกค้าโครงการเกษตรก้าวหน้าทั่วประเทศในราคาสุดพิเศษ ซึ่ง 1 ปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

- บมจ.ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย แถลงข่าวทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2556 ณ อาคารยูทาวเวอร์ ห้องประชุมยูเนี่ยนชั้น 7 ถนนศรีนครินทร์

- เครือข่ายปฏิรูปพลังงานแห่งชาติ เดินทางรณรงค์จากลานพระบรมรูป ร.5 ไปหน้ารัฐสภา ยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาคัดค้านการขึ้นราคา LPG

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 10:58:30 ]
ความเห็นที่ 57

กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--GT Wealth Management
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลง US$19.52 มาปิดที่ระดับ US$1,647.04 ราคาทองคำอ่อนตัวลงหนักเมื่อวานหลังจากหลุดแนวรับทางเทคนิคและการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด โดย GDP ไตรมาส 3 ออกมามากกว่าคาด 3.1% จากที่ประมาณการณ์ครั้งที่ 2 อยู่ที่ระดับ 2.7% ประกอบกับยอดการขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้นสูงสุดรอบ 3 ปีสะท้อนเศรษฐกิจเชิงบวก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกรับตัวเลขเศรษฐกิจ ขณะมีการรายงานการขายของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ด้านปัญหา Fiscal Cliff ยังรอการเจรจาของคองเกรสซึ่งไม่ทันวันหยุดคริสต์มาส ค่าเงินบาทช่วงเช้า (10.00 น.) อ่อนค่าใกล้ระดับ 30.65 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ SPDR รายงานการถือครองทองคำที่ระดับ 1,350.52 ตัน คงที่ โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม 2555 (GFZ12) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 23,890 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 23,750 บาท ราคาเสนอขาย 23,850 บาท ลดลง 450 บาท



แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดทองคำก่อนสิ้นปียังมีแรงกดดันโดยเฉพาะปัจจัยทางเทคนิคที่ยังเป็นเชิงลบทำให้การเข้าซื้อเก็งกำไรในตลาดอาจจะไม่สูงมากนัก ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญในช่วงต้นปี แนวโน้มนโยบายทางการเงินที่ทยอยผ่อนคลายเพิ่มเติมทั้งจากธนาคารกลางขนาดใหญ่และธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ทำให้คาดว่าราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นในกรอบ 3-6 เดือนข้างหน้า

GT Wealth Management
www.gtwm.co.th








กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,668 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,644 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.64 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,150 บาท กับ 24,250 บาท และกลับมาปิดที่ 24,200 บาท กับ 24,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,455 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,392 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 45 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2% แบบ 10 บาท ลดลง 2% Silver Futures ลดลง 7% GFZ12 ปิด 23,960 บาท และ GFG12 ปิด 24,190 บาท GF10Z12 ปิดที่ 23,970 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,180 บาท SVZ12 ปิด 920 บาท


สัญญา Comex ปิดลดลง 21.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,645.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 1.43 ดอลลาร์ ที่ระดับ 29.67 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,350.52 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 15 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 90.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 59.75 จุด ปิดที่ 13,311.72 จุด

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.7 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
ที่มา KITCO, TheBullionDesk, Reuters, CNBC
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการทำ Liquidation อย่างหนักโดยเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ในสัปดาห์นี้ รวมไปถึงสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในตลาดทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,650 เหรียญ มากกว่า 1% ลงมาเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยราคาทองคำหลุดระดับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงมา ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถทรงตัวอยู่ได้มาเป็นเวลา 4 เดือน

ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทยมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจทางสหรัฐออกมาดีเป็นอย่างมากคือ จีดีพีไตรมาสที่ 3 ของสหรัฐออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดอย่างมากที่ระดับ 3.1% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% จึงก่อให้เกิดแรงคาดการณ์ที่ว่า ตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวที่อาจทำให้การใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินสั้นลง

หลังจากราคาทองคำหลุดระดับแนวรับทางเทคนิคที่จุดต่ำสุดของวันอังคารบริเวณ 1,662 เหรียญลงมา ก่อให้เกิดการกระตุ้นคำสั่ง Sell Stop Orders ใหม่ๆ เข้ามาในสัญญาทองคำส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เช่นเดียวกันกับซิลเวอร์ที่มีคำสั่ง sell stops เข้ามาหลังจากที่ราคาหลุดแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณจุดต่ำสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 30.79 เหรียญ

นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่นายสมิทธ์ บาร์นีย์ จากมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ชี้แนะที่ปรึกษาทางการเงินถึงการดึงเงินสดของลูกค้าออกจากกองทุนจอห์น พอลสัน ซึ่งการประกาศดังกล่าวได้กระตุ้นแรงคาดการณ์ว่า มหาเศรษฐีเฮดจ์ฟันด์เมเนเจอร์อาจต้องการทำ Liquidate การลงทุนในทองคำ

การเทขายในวันพฤหัสบดีส่งผลให้ RSI ระดับ 14 วันลงไปสู่ระดับ 25 ซึ่งถือว่าอยู่ในภาวะ oversold เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

ภาพทางเทคนิค ราคาทองคำมีแนวโน้มเป็นขาลงในระยะสั้น จะเป็นขาขึ้นได้ต้องฝ่าจุดแนวต้านทางเทคนิคที่แข็งแกร่งในจุดต่ำสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 1,674.7 เหรียญ มองว่าแนวโน้มขาลงรอบถัดไปอันใกล้จะมีราคาเป้าหมายลงไปใกล้ระดับแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,600 เหรียญ แนวต้านแรกจะอยู่ที่ 1,650 เหรียญ และ 1,660 เหรียญ แนวรับแรกจะเป็นจุดต่ำสุดของวันพฤหัสบดีที่ 1,636 เหรียญ และ 1,625 เหรียญ

ข้อมูลจากไอเอ็มเอฟเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อิรักมีการเพิ่มการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยมีการเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำเป็น 4 เท่าสู่ระดับ 31.07 ตัน ในขณะที่บราซิลเพิ่มการสำรองทองคำเกือบ 1 ใน 3 ส่วนในเดือนพฤศจิกายนเป็นจำนวน 14.68 ตัน หรือ 28% ส่งผลให้มีการสำรองทองคำอยู่ที่ระดับ 67.19 ตัน นอกจากนี้ ประเทศแอฟริกาใต้มีการเพิ่มการสำรองทองคำเช่นกันในเดือนกันยายน 2 ตัน และเดือนตุลาคมจำนวน 17.17 ตัน ในขณะที่ตุรกีลดการถือครองทองคำในเดือนที่ผ่านมาลง 5.84 ตันจากเดือนตุลาคม สู่ระดับ 314 ตัน ประเทศเบลารุสเพิ่ม 1.39 ตันสู่ระดับ 42.7 ตัน รัสเซียมีทั้งซื้อและขายทองคำในช่วงโอกาสต่างๆ ซึ่งรวมแล้วปริมาณเพิ่ม 2.86 ตันสู่ระดับ 937.8 ตัน

นายจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกสภาพรรครีพับลิกันออกมายกเลิกฉับพลันถึงการลงมติในคืนวันพฤหัสบดีสำหรับแผนในการเพิ่มภาษีคนรวย เมื่อหัวหน้าพรรครีพับลิกันได้ออกมายอมรับว่า เขาคงไม่มีแรงสนับสนุนเพียงพอต่อข้อเสนอดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นดิ่งลงทันทีที่มีการยกเลิกการลงมติ

นายแฮร์รี่ รี้ด กล่าวว่า วุฒิสภาจะเปิดประชุมใหม่ในวันพฤหัสบดีหน้า ซึ่งเป็นเวลา 5 วันก่อนถึงกำหนดเส้นตาย โดยสภาคองเกรสชุดปัจจุบันจะทำงานจนถึงวันที่ 2 มกราคม ดังนั้นจึงเป็นเส้นตายสำหรับการอนุมัติหนทางแก้ไข หากปราศจากข้อตกลงใด การปรับเพิ่มภาษีและการตัดลดค่าใช้จ่ายจะมีผลทันทีและจะขึ้นอยู่กับสภาคองเกรสชุดใหม่ที่จะมาถึงในวันที่ 3 เพื่อพยายามทำการประนีประนอมอีกครั้ง

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศเมื่อคืน
- Existing Home Sales ตัวเลขจริงออกมาที่ 5.04M จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.76M
- Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขจริงออกมาที่ 8.1 จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ -10.7

- Unemployment Claims ตัวเลขจริงออกมาที่ 361,000 ราย จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 344,000 ราย

- Final GDP q/q ตัวเลขจริงออกมาที่ 3.1% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 2.7%
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.8% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ -0.2%

- Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.1%
- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.5% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.2%
- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.4%
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 74.5 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 74.9

วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในทิศทางขาลงตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยตลาดรับรู้ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาคือตัวเลข GDP ที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ มาอยู่ที่ระดับ 3.1% ทำให้เกิดแรงเทขายในทองคำอีกครั้งหนึ่ง และหลุดแนวรับที่ระดับ 1,662 เหรียญลงมา ทองคำถูกกดดันด้วยความคิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้น และปัญหา Fiscal Cliff ที่แก้ปัญหาไม่จบก่อนเทศกาลคริสมาส ซึ่งทางพรรคริพับ บริกัน โดยนายโบเนอร์ ออกมาแสดงความเสียใจและยกเลิกแผนบีกับภาครัฐบาล สรุปคือ Fiscal Cliss ก็ไม่สามารถตกลงได้ก่อนคริสมาส และต้องคอยดูผลหลังเทศกาลคริสมาส โดยทองคำตกลงมาและหลุดแนวรับที่ระดับ 1,662 เหรียญ และทำจุดต่ำสุดเมื่อคืนที่ระดับ 1,635 เหรียญในตลาด Comex เกิด Panic Selling อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับมาในช่วงปลายตลาด Comex และกลับมาปิดระดับ 1,643 เหรียญโดยประมาณ สรุปราคาทองคำและซิลเวอร์รวมถึงทองแดงที่เป็นกลุ่มโลหะมีค่ามีการปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยซิลเวอร์มีการปรับตัวลงประมาณ 3% ทองคำปรับตัวลงประมาณ 1.7% การปรับตัวลดลงนี้ทำให้ภาพรวมของทองคำดูลดความสดใสลงไปมากและต้องจับตาดูข่าว Fiscal Cliff จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวโน้มของราคาทองคำเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาลง ทั้งระยะสั้น กลาง และ ยาว โดยที่กราฟในระยะยาวปรับตัวตัดลงมา แนวรับของทองคำที่เป็นแนวต่อไปจะอยู่ระดับ 1,620 และ 1,600 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดที่ทองคำ Break Out ขึ้นมาเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม จากการที่รับข่าว QE3 ซึ่งทองคำได้ปรับตัวขึ้นจากระดับ 1,620 เหรียญ และตอนนี้มีท่าทีว่าจะกลับลงไปที่เดิม ทองคำในวันนี้จะมีแนวรับอยู่ระดับ 1,635 และแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,650 เหรียญ

แนะนำให้ลูกค้าบริหารพอร์ทให้เหมาะสมซึ่งได้แนะนำมาก่อนหน้านี้สองวันแล้ว และพยายามลดสถานะ Long Position ลงหรือตัดขาดทุน นักลงทุนที่ใช้ Margin น่าจะต้องทำ Stop loss หรือลด Long Position เนื่องจากไม่รู้ว่าทองคำจะหยุดตกเมื่อไร ถ้ายังถือต่ออาจจะเข้าสู่ระดับ Force Close จึงย้ำว่าการลงทุนทองคำจะต้องบริหารพอร์ทให้เหมาะสม ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำ Stop Loss หรือลด Long Position เพื่อปรับความสมดุลในพอร์ทให้เข้ากับสภาวะของตลาด

Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,000 บาท
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,420 บาท
Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 930 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบขาลง 1,635 — 1,650 เหรียญ ยังมองว่าราคาน่าจะมีการแกว่งตัวอย่างมาก

นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
แนะนำให้เริ่มเปิด Short Position บ้างหลังจากที่แนะนำให้ปิดไปหมดแล้วเมื่อวานนี้ และให้เปิด Short Position เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เมื่อวานได้แนะนำให้ลดพอร์ทออกไปบ้างแล้ว และทั้งหมดที่เหลือที่ถือ Long Position น่าจะสามารถถือได้มากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ในการถือครองระยะยาวคือต้องไม่ใช้ Margin อะไรเลย และพอร์ทที่ใช้ Margin ไม่ถือเป็นการถือครองระยะยาว เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการใช้ Margin

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 11:00:34 ]
ความเห็นที่ 58

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 21 ธันวาคม 2555
Summary:
1. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย.55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

2. คำสั่งซื้อสินค้าส่งออกไต้หวันเดือน พ.ย. 55 ขยายตัวร้อยละ 11.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า

3. ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0 - 0.1 และดำเนินมาตรการ QE เพิ่มเติมอีก 10 ล้านล้านเยน


Highlight:
1. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย.55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ( Thai Industries Sentiment Index: TISI) เดือน พ.ย.55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน มาอยู่ที่ 95.2 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 93.0 ในเดือน ต.ค. 55 ทั้งนี้ ค่าดัชนีที่เพิ่มขึ้นเกิดจากยอดคำสั่งซื้อรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุน และผลประกอบการ ที่ปรับสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมในช่วง 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.6 จุด ลดลงจากระดับ 101.8 ในเดือนก่อนหน้า

- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ประสบปัญหาห่วงโซ่อุปทานในปี 54 จากภัยพิบัติสึนามิในญี่ปุ่นและมหาอุทกภัยในไทย โดยจะเห็นได้จากตัวเลขดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค. 55 เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อนหน้า และเป็นผลมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าและบริการในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้างและกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยังมีค่าต่ำกว่า 100 บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการยังคงอยู่ในระดับที่ไม่ดี จากความเสี่ยงทั้งด้านต้นทุนและเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความเสี่ยง ซึ่งอาจกระทบอุปสงค์จากต่างประเทศและส่งผลต่ออุตสาหกรรมการผลิตที่เน้นการส่งออก อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตวิทยุโทรทัศน์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องประดับ และเครื่องหนังได้

2. คำสั่งซื้อสินค้าส่งออกไต้หวันเดือน พ.ย. 55 ขยายตัวร้อยละ 11.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า

- คำสั่งซื้อสินค้าส่งออกไต้หวันเดือน พ.ย. 55 ขยายตัวร้อยละ 11.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า เร่งขึ้นชัดเจนจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 3.2  ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดทิศทางการส่งออกในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า สะท้อนถึงแนวโน้มภาคการส่งออกที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในระยะต่อไป

- สศค. วิเคราะห์ว่า ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกไต้หวันที่ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว เกิดจากคำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้าหลักที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรปที่ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 20.3 ร้อยละ 9.6 และร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ตามลำดับ สะท้อนอุปสงค์จากนอกประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดว่าจะส่งผลบวกต่อภาคการส่งออกของไต้หวัน ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 74.5 ของ GDP ในระยะต่อไป ภายหลังจากที่มูลค่าการส่งออกหดตัวลงต่อเนื่อง และส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนแรกปี 55 หดตัวร้อยละ -3.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ทั้งนี้ เศรษฐกิจคู่ค้าที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 56 เมื่อเทียบกับปี 55 จะเป็นแรงส่งสำคํญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไต้หวัน โดย สศค. คาดว่าในปี 56 เศรษฐกิจไต้หวันจะขยายตัวร้อยละ 5.1 เร่งขึ้นจากปี 55 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.9 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55)

3. ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0 - 0.1 และดำเนินมาตรการ QE เพิ่มเติมอีก 10 ล้านล้านเยน

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ช่วงร้อยละ 0 - 0.1 ต่อปี และขยายวงเงินการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติม (Quantitative Easing) โดยจะเข้าซื้อสินทรัพย์อีก 10 ล้านล้านเยน ส่งผลให้วงเงินรวมของมาตรการ QE จากเดิม 91 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 101 ล้านล้านเยน โดยการดำเนินการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศต่อไป

- สศค.  วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 55 นี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอย ทั้งจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกซึ่งส่งผลกระทบผ่านช่องทางการค้า บ่งชี้จากมูลค่าส่งออกของญี่ปุ่นในช่วง 11 เดือนแรกของปี 55 หดตัวเฉลี่ย -1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อีกทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สัดส่วนร้อยละ 59.1 ของ GDP สะท้อนจาก ยอดค้าปลีกญี่ปุ่น ไตรมาส 3 ปี 55 ขยายตัวเฉลี่ยเพียงร้อยละ 0.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 3 ปี 55 เฉลี่ยที่ร้อยละ -0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองของญี่ปุ่นและการเผชิญกับภาวะเงินฝืดในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 55 นายชินโสะ อาเบะ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ชนะการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของญี่ปุ่นตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยนายอาเบะมีท่าทีสนับสนุนการดำเนินนโยบาย QE ของญี่ปุ่นอย่างชัดเจน จึงต้องติดตามว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นต่อไปให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในแนวทางใด

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 11:02:25 ]
ความเห็นที่ 59

ดอกบัวกำลังแรลลี่ไป200
แต่ผมขอปล่อยไปหน่อยละ
ไม่ไหว   เห็นที่ราคา200ตั้งล้านกว่าหุ้น





นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า สัปดาห์นี้หุ้น บมจ.พีเออี (ประเทศไทย)หรือ PAE, บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(GOLD)และบมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์(JTS)มีโอกาสจะเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)โดยคาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 24 ธันวาคมนี้ และใช้ต่อเนื่องไป 3 สัปดาห์


ทั้งนี้ PAE มีมูลค่าซื้อขายรวม 467.05 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 226.36% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน, GOLD มีมูลค่าซื้อขายรวม 305.59 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 91.65% และมีผลการดำเนินงานขาดทุน, JTS มีมูลค่าซื้อขายรวม 85.95 ล้านบาท/วัน มี Turnover list อยู่ที่ 131.41% และมีค่า P/E 50.14 เท่า

ล่าสุด เมื่อ 10.25 น.หุ้น GOLD อยู่ที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท(+1.14%)มูลค่าซื้อขาย 107.47 ล้านบาท

หุ้น JTS อยู่ที่ 2.26 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 15.25 ล้านบาท
หุ้น PAE อยู่ที่ 1.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท(+6.98%)มูลค่าซื้อขาย 162.27 ล้านบาท

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 11:15:24 ]
ความเห็นที่ 60

นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพด้อยสิทธิ ครั้งที่ 2/55 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 60 โดยขายทั้งหมดให้แก่ Vanomet AG นั้น บริษัทได้ดำเนินการซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวทั้งหมดแล้วภายในวันที่ 24 ธ.ค.55 ในราคาเสนอซื้อที่ 850 บาท/หน่วย อนุมัติโดยที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 2/55 เมื่อวันที่ 11 ต.ค.55 โดยราคาดังกล่าวได้คำนวณรวมดอกเบี้ยงวดแรกจำนวน 14.054795 บาท/หน่วย ซึ่งบริษัทได้ชำระให้แก่ Vanomet AG เมื่อวันที่ 23 พ.ย.55 ดังนั้น ราคาเสนอซื้อคืนสุทธิที่บริษัทจะชำระแก่ Vanomet AG เท่ากับ 835.945205 บาท/หน่วย








หุ้น DNA เปิดเทรดวันแรกที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 1.62 บาท(+85.26%)จากราคาขาย IPO ที่ 1.90 บาท/หุ้น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ดีเอ็นเอ 2002(DNA) ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น DNA ไว้ที่ 2.34 บาท/หุ้น

DNA เป็นผู้จัดจำหน่ายสื่อ Home Entertainment ทั้งหนังและเพลงในรูปแบบ DVD, VCD, CD, และ Blu Ray โดยมีร้านค้าปลีกและจุดจำหน่ายในห้าง Modern Trade ต่างๆ ทั่วประเทศ 1,432 สาขา เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนประมาณ 300 ล้านบาทจะนำไปขยายสาขา

สำหรับกำไรงวด 9M12 +108% Y-Y เป็น 43 ล้านบาท คาด 4Q12 กำไรดีขึ้นเพราะ high season และผลเต็มไตรมาสจากการเข้าบริหารพื้นที่อีก 131 สาขากับคู่ค้ารายหนึ่งแทนผู้ค้ารายเดิม รวมกำไรทั้งปี 2012 คาด +161% เป็น 63 ล้านบาท สำหรับกำไรปี 2013 คาด 106 ล้านบาท +68%

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 11:17:19 ]
ความเห็นที่ 61

นึกว่ากัวโลกแตกกกกกกกกกกกกกก กิ กิ

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 11:17:50 ]
ความเห็นที่ 62

โลกแตกยังไม่เห็น
ตอนนี้คว้าเอาที่เห็นไว้ก่อนละ
อันนี้ก็ทำท่าจะแตกเหมือนกัน


เอเอฟพี - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของสวีเดนต้องปิดเตาปฏิกรณ์แห่งหนึ่ง เมื่อวานนี้(20) หลังตรวจพบน้ำทะเลไหลซึมเข้าไปภายใน บริษัท วัตเตนฟอลล์ ผู้บริหารโรงไฟฟ้า และสำนักงานตรวจสอบนิวเคลียร์แห่งชาติ แถลง
     
      Jan Gallsjo ผู้ตรวจสอบจากสำนักงานนิวเคลียร์แห่งชาติ เผยต่อสำนักข่าว ทีที นิวส์ ว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบความสุ่มเสี่ยงใดๆภายในเตาปฏิกรณ์ที่ 4 ของโรงไฟฟ้า Ringhals ใกล้เมืองโกเธนบิร์กทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวีเดน
     
      อย่างไรก็ตาม น้ำเค็มที่พบภายในระบบน้ำอัดความดันถือว่าเป็นสิ่งผิดปกติที่ต้องได้รับการแก้ไข Gallsjo กล่าว
     
      เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้าอีกแห่งของสวีเดนก็ต้องปิดตัวลง หลังสำนักงานตรวจสอบพิจารณาเห็นว่า ผู้บริหารโรงไฟฟ้าไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยความปลอดภัย
     
      เตาปฏิกรณ์ตัวที่ 2 ของโรงไฟฟ้า Oskarshamn ต้องหยุดเดินเครื่อง เนื่องจากทางโรงไฟฟ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานต่อสำนักงานความปลอดภัยด้านรังสีของสวีเดนว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานดีเซล 2 ตัวได้รับการซ่อมบำรุงตามมาตรฐานหรือไม่
     
      สวีเดนใช้พลังงานนิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าสนองความต้องการในประเทศร้อยละ 35

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 11:30:04 ]
ความเห็นที่ 63

โถๆ.. อาเจ๊ขรา โลกไม่แตกกกกกกกกกกหรอก

เข้าบ้านมาเหอะ เค้าหิวอีกแง๊ววววววววววววววววนะ 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 13:56:00 ]
ความเห็นที่ 64

สวัสดีทุกท่านค่ะ  ^    ^

555555555555555คนอารายยย  รู้ว่าเค้าแอบอ่าน  555555

มะคืนช่วยเฮียล้างแอร์  นอนดึกมว๊ากกกก  เพลียยยย

เอารูปคริสต์มาสสวยๆจากบ้านโน้นนนนมาฝากค่ะ


http://caccioppoli.com/Animated%20gifs%20merry%20christmas%20feliz%20navidad%20nativity%20wise%20men%20santa%20christmas%20tree%20christmas%20lights%20carolers.html

แทะกระบองเพชรแก้หิวไปก่อนนะ น้องกุ๊กกรูรรร์

จากคุณ : ง่วงอะ...555555....หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:04:11 ]
ความเห็นที่ 65

มีอีกค่ะ .....

http://en.clipart-fr.com/Animated-Gif/Christmas/Christmas-cliparts-7.php

ไอติม สำหรับเด็กหญิงกุ๊กกรูรร์  55555

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:06:24 ]
ความเห็นที่ 66

แกงเหลืองทางใต้ สำหรับคุณจอยค่ะ ^  ^

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:09:04 ]
ความเห็นที่ 67

ลาบปลาแซลมอล  ของแพงนะเนี่ยยยย  ^    ^

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:10:34 ]
ความเห็นที่ 68

ฮ่าๆ ชอบกินติน เอ๊ย!! ติมมมมมมมมมมมม 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 14:11:25 ]
ความเห็นที่ 69

อารายอ่ะ  ^   ^

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:13:23 ]
ความเห็นที่ 70

เสื้อสวยยยยยยยยยยยนะเจ๊ 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 14:13:28 ]
ความเห็นที่ 71

ครึ่งเช้า วันที่ 21 ธันวาคม 2555 ฝรั่ง Net buy 130 M.

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39299

จากคุณ : *-==HUTCHISON==-* [21 ธ.ค. 55 14:14:27 ]
ความเห็นที่ 72

ต้มข่าไก่

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:15:49 ]
ความเห็นที่ 73

กรี๊ดดดดดดดดด..ผู้ชาย  55555555

จากคุณ : ยังเด็กปายยยยย55555555..หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:18:22 ]
ความเห็นที่ 74

ครึ่งเช้าพ่อหัวทองซื้ออีกแง๊ววววว.. ซื้อเข้าไปเรยพ่อ ซื้อเข้าไปเรยยยยยย 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 14:19:04 ]
ความเห็นที่ 75

เสื้อสวย ยังมะมีใครสนจายยยยเรยยยยย  555555

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:20:47 ]
ความเห็นที่ 76

โถ.. ด.ญ. หมูแดง 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 14:22:39 ]
ความเห็นที่ 77

น้ำพริกถ้วยเก่า  ยิ่งเก่า ยิ่งอาหย่อยยยย55555

จากคุณ : มีไข่เค็มล่วยยยย5555....หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:23:09 ]
ความเห็นที่ 78

555555ผู้ชายไร  ฟันโค ตะ ระ เยอะเรยยยยย5555555555

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:26:09 ]
ความเห็นที่ 79

หยอกเย้า

จากคุณ : *-==HUTCHISON==-* [21 ธ.ค. 55 14:27:15 ]
ความเห็นที่ 80

โอยยยยยยยยยยย.. แน่นพุง 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 14:28:52 ]
ความเห็นที่ 81

ฟันเยอะ ต้องหม่ำไก่ทอด ดีที่ซู๊ดดด ^    ^

จากคุณ : มะไม่ใครแย่งทัน55555....หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:29:11 ]
ความเห็นที่ 82

ด.ช.คุณใหญ่ แซ่ฮัท 555555555

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:30:42 ]
ความเห็นที่ 83

ไม่รับกาแฟค่ะคุณฮัท.. เปลี่ยนเปนอย่างอื่นด้ายมื 555

จากคุณ : ร้อนนนนนนนนนนนจัง (จุ๊กกุ๊กจัง) [21 ธ.ค. 55 14:31:02 ]
ความเห็นที่ 84

ลา ล่า ล๊า..

จากคุณ : คุณฮัทร้อนนนนนนมิ.. 555 (จุ๊กกุ๊กจัง) [21 ธ.ค. 55 14:34:12 ]
ความเห็นที่ 85

ด.ช.คุณฮะ แซ่นะ ^    ^

จากคุณ : เค้าขอโตดน๊าา...55555 หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:35:27 ]
ความเห็นที่ 86

ตลาดเปิดแว๊ววววว...หุ้นเค้าลงต่อออออ...555555555

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:38:11 ]
ความเห็นที่ 87

ดีไม่แซ่นะยะ..

ไม่งั้นจะปวดหมองกั่วนี้ กร๊ากกกกกกกกกกกก

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 14:39:06 ]
ความเห็นที่ 88

กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
เฮียอย่ามาแย่งคอมพ์เค้าน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:48:44 ]
ความเห็นที่ 89

ช่วยย่อยงั๊บบบบบบบบบบบ..

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 14:49:30 ]
ความเห็นที่ 90

แพ้คนหล่อ  ไปแระจ้ะ จุ๊บ จุ๊บ น้องกุ๊กกรูรร์ และทุกท่าน ^   ^

จากคุณ : ไปนอนแล้วค่ะ.......หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 14:51:18 ]
ความเห็นที่ 91

อย่าเพิ่งๆ เค้าแอบเห็นเฮียแอบหนีไปอาบน้ำ กร๊ากกกกกกกกกกกก

จากคุณ : หนูล้อเล่งนะคะเฮีย ม๊วฟๆ 555 (จุ๊กกุ๊กจัง) [21 ธ.ค. 55 14:56:51 ]
ความเห็นที่ 92

สงสัยเฮียงอลลลลลลลลลลลลลลล..

อ๊ะ อ๊ะ วันนี้เค้าล้างจานเองก็ด้ายยยยยยยย 555

จากคุณ : แค่วันเดียวนะ กิ กิ (จุ๊กกุ๊กจัง) [21 ธ.ค. 55 15:19:06 ]
ความเห็นที่ 93

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,374.74 จุด ลดลง 2.66 จุด(-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 15,364.73 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,375.83 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,369.33 จุด

น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ทรงตัวในแดนลบ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย บางส่วนมีการ Sell on Fact หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)เพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์


ส่วนประเด็นการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ยังไม่มีความคืบหน้า ต้องรอดูต่อไปว่าจะมีความชัดเจนในข้อตกลงกันอย่างไร แม้ว่าจะสามารถตกลงกันได้ตลาดก็คงจะมี Sell on Fact อยู่ เนื่องจากตลาดคาดหวังการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ไปแล้ว แต่ถ้าการประชุมออกมาแล้วยังตกลงกันไม่ได้ตลาดก็ยังมีโอกาสอ่อนตัวอยู่

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.จิตรา คาดว่า ตลาดฯน่าจะมีโอกาสที่จะติดลบน้อยกว่าช่วงเช้า เนื่องจากมีแรงซื้อจากกองทุน LTF และ RMF ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาช่วยหนุนตลาดบางส่วน

พร้อมให้แนวรับ 1,370 จุด แนวต้าน 1,380 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,086.41 ล้านบาท ปิดที่  70.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.25 บาท

BBL   มูลค่าการซื้อขาย   862.52 ล้านบาท ปิดที่ 197.50 บาท เพิ่มขึ้น  0.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย   606.22 ล้านบาท ปิดที่  45.50 บาท ลดลง   1.00 บาท

NMG   มูลค่าการซื้อขาย   515.19 ล้านบาท ปิดที่   1.75 บาท เพิ่มขึ้น  0.10 บาท

SCC   มูลค่าการซื้อขาย   507.03 ล้านบาท ปิดที่ 434.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 15:49:41 ]
ความเห็นที่ 94

เวลากินน้ำพริกนี่
ถ้าใช้ถ้วยเก่า
ต้องกินกับไข่เค็มรีนี่


แบบนี้หนีไปกิืนถ้วยใหม่ดีกว่า
จะได้กินไข่ต้มขาวๆไม่ดำเป็นไข่พะโล้
ท่าทางน่าจะสะอาดดี


ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เลื่อนการลงมติร่างกฏหมายภาษี ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.2% แตะที่ระดับ 281.28 จุด ณ เวลา 8.09 น.ในลอนดอน
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดลดลง 39.69 จุด หรือ 0.52% แตะที่ 7,632.41 จุด ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 3,649.33 จุด ลดลง 17.40 จุด หรือ 0.47%


นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานผลสำรวจของสถาบันวิจัย GfK ที่เผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนม.ค. เนื่องจากความวิตกกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศอื่นๆในยูโรโซนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี

รายงานของ GfK ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงแตะ 5.6 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ 5.8 จุดในเดือนธ.ค.

หุ้นอาร์เซลอร์มิตตาลร่วง 3.1% หลังบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่สุดของโลกเตรียมปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ของธุรกิจในยุโรป ส่วนหุ้นแอโรพอร์ต เดอ ปารีส์ ดิ่งลง 8.3% หลังบริษัทเผยคาดการณ์ผลกำไร

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 16:02:32 ]
ความเห็นที่ 95

ดัชนีหุ้นออสเตรเลียปิดปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังสหรัฐที่ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายทุกขณะ หลังจากที่มีรายงานว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายภาษี ขณะที่การเจรจาเรื่องงบประมาณยังไม่มีความคืบหน้า

ดัชนี S&P/ASX 200 ลดลง 10.50 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 4,623.60 จุด ส่วนดัชนี ALL ORDINARIES ปิดวันนี้ที่ 4,635.20 จุด ลดลง 11.40 จุด หรือ 0.25%



-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดร่วงลงในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการแก้ปัญหา fiscal cliff ของสหรัฐที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ประกอบกับตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นบริษัทผู้ผลิตจอแบน อันเนื่องมาจากยอดขายที่มีแนวโน้มปรับตัวลง

ดัชนีเวทเต็ดปรับตัวลง 75.53 จุด หรือ 1.01% ปิดที่ 7,519.93 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับข่าวที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายภาษี ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง

ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 99.27 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 9,940.06 จุด
-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง สอดคล้องตลาดหุ้นในภูมิภาคที่กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในสหรัฐ

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวลง 15.04 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 2,153.31 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นอ่อนตัว 34.88 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 8,658.35 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.95% ในวันนี้ โดยปิดตลาดประจำสัปดาห์ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ หลังจากที่นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เลื่อนการลงมติกฏหมายภาษี ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายลงจำนวนมากและการปรับขึ้นภาษี

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ลดลง 19.08 จุด ปิดที่ 1,980.42 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลางที่ 545.5 ล้านหุ้น มูลค่า 5.27 ล้านล้านวอน (4.90 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นลบมากว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 445 ต่อ 359

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดปรับตัวลงในวันนี้ สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เลื่อนการลงมติร่างกฏหมายภาษี ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง

ดัชนี VN ลดลง 2.9 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 396.78 จุด
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้
ดัชนี LSX Composite Index ปิดบวก 5.09 จุด หรือ 0.42% ที่ 1,204.59 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 241,217 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.38 พันล้านกีบ (ราว 174,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายภาษี ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง

ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 153.49 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 22,506.29 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 22,423.16-22,565.09 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 6.203 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 16:07:56 ]
ความเห็นที่ 96

อืม   วันสิ้นโลกเอ๊ยซิ่นโลก
สงสัยต้องไปหาใครมาแทะเหงือกเล่นละ


สหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติการเพิ่มเงินทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ 4 แห่งของสเปนในวงเงิน 1.865 พันล้านยูโร (2.480 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบธนาคารในประเทศ

ในการช่วยเหลือครั้งนี้ ธนาคารลิเบอร์แบงก์จะได้รับการเพิ่มทุน 124 ล้านยูโร ธนาคารบังโก ซีอีไอเอสเอส 604 ล้านยูโร ธนาคารกาฮา3 407 ล้านยูโร และธนาคารบังโก มาเร นอสตรอม 730 ล้านยูโร

โจคิม อัลมูเนีย รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่า แผนการปรับโครงสร้างธนาคารพาณิชย์ 4 แห่งนี้ จะทำให้ธนาคารเหล่านี้มีศักยภาพในการสร้างกำไรอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดการฟื้นฟูภาคการเงินที่แข็งแกร่งในสเปน ไปพร้อมการลดภาระของผู้ชำระภาษี

การช่วยเหลือครั้งนี้มีขึ้น หลังคณะกรรมาธิการยุโรปผ่านแผนปรับโครงสร้างให้แก่ธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลในเดือนพ.ย. ซึ่งได้แก่ ธนาคารแบงเกีย, ธนาคารคาตาลุนยา,ธนาคารบังโก เด บาเลนเซีย และธนาคารโนบากาลิเซีย (NCG) ซึ่งต้องการเงินช่วยเหลือ 3.7 หมื่นล้านยูโรจากอียู

แผนปรับโครงสร้างในสถาบันการเงิน ประกอบด้วยการปิดสาขาของธนาคาร การเลิกจ้างพนักงาน รวมถึงการลดเงินเดือน

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 16:18:14 ]
ความเห็นที่ 97


วันที่เวลาทองคำ
แท่ง 
96.5%
รับซื้อบาทละ
ทองคำ
แท่ง 
96.5%
ขายบาทละ
ทอง
รูปพรรณ 
96.5%
รับซื้อกรัมละ
ทอง
รูป พรรณ 
96.5%
รับซื้อบาทละ
ทอง
รูปพรรณ 
96.5%
ขายบาทละ
 
21/Dec/201215:57:002390024000155423558.6424400 (50)
13:07:00238502395015502349824350 (50)
09:58:002380023900154723452.5224300 (0)
09:58:002380023900154723452.5224300 (50)
09:37:002375023850154423407.0424250 (-450)
20/Dec/201213:47:002420024300157323846.6824700 (50)
09:35:002415024250157023801.224650 (-100)
19/Dec/201209:31:002425024350157623892.1624750 (-300)
18/Dec/201209:31:002455024650159624195.3625050 (100)
17/Dec/201212:43:002445024550158924089.2424950 (-50)
09:36:002450024600159324149.8825000 (-100)

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 16:19:50 ]
ความเห็นที่ 98

SITHAI หลุดแนวรับ 30 บาท หลังหุ้นพุ่งกว่า 245% ตั้งแต่ต้นปี ปี 56 เดินหน้าลงทุนอินเดีย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SITHAI ล่าสุด ณ เวลา 15.10 น.อยู่ที่ 29.00 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 6.45% มูลค่าการซื้อขาย 164.27 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้น SITHAI อ่อนตัวลงต่อเนื่องจากระดับราคาสูงสุดที่ 33.50 บาท เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และวันนี้หลุดแนวรับที่ 30 บาท โดยมีแนวรับถัดไป ซึ่งเป็นแนวรับสุดท้ายที่ 24 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากระดับราคาตั้งแต่ต้นปีที่ 8.40 บาท จะเห็นว่าราคาหุ้น SITHAI ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 245%

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SITHAI เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตรอินเดียร่วมทุนในสัดส่วน 55% และบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วน 45% ล่าสุดบริษัทได้ประกาศหาซื้อที่ดินก่อตั้งโรงงานผลิตวัตถุดิบผงเมลามีนแล้ว โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 56 และคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถผลิตผงเมลามีนได้ราว 500 ตันต่อเดือน นอกจากนี้ บริษัทจะใช้งบลงทุนในการก่อสร้างโรงงานผลิตจานชามอีกประมาณ 150 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 2556 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.2 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท

ที่มา : http://www.kaohoon.com/online/52731/twitter.htm

ข่าวหุ้น
http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=39302

จากคุณ : ด.ช.คุณใหญ่ แซ่ฮัท (*-==HUTCHISON==-*) [21 ธ.ค. 55 16:26:42 ]
ความเห็นที่ 99

99

จากคุณ : คุณใหญ่ แซ่ฮัท (*-==HUTCHISON==-*) [21 ธ.ค. 55 16:30:06 ]
ความเห็นที่ 100

100พลุ

จากคุณ : *-==HUTCHISON==-* [21 ธ.ค. 55 16:30:30 ]
ความเห็นที่ 101

ไม่เมา ทำไม่ได้นะเนี่ยยยยยยยย 555

จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง [21 ธ.ค. 55 16:32:58 ]
ความเห็นที่ 102

หุ้น WIN ราคาพุ่งขึ้น 13.43% มาอยู่ที่ 0.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท มูลค่าซื้อขาย 79.91 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.31 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.69 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.86 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.69 บาท

นายจักร จามิกรณ์ ประธานกรรมการ บมจ.วิโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค (WIN) กล่าวว่า ราคาหุ้น WIN ปรับตัวสูงขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนเป็นการสะท้อนการ Turnaround ของบริษัทฯหลังจากที่บริษัทฯได้มีการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไปแล้ว ทำให้บริษัทฯสามารถขยายธุรกิจได้มากขึ้น โดยมีความคล่องตัวสูงขึ้น จึงไม่น่าเป็นกังวล อีกทั้งเป็นการปรับตัวขึ้นมาตามหุ้นขนาดเล็กเพื่อให้ความสอดคล้องกับดัชนี SET ที่มีการปรับตัวขึ้นไป



"หลังจากที่บริษัทฯได้แจ้งงบฯไตรมาส 3/55 ไปแล้ว จะเห็นได้ว่าบริษัทฯได้มีการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกมาไปหมด ซึ่งทำให้บริษัทฯมีความสามารถในการขยายธุรกิจได้มากขึ้น และมีความคล่องตัวสูงขึ้นด้วย"นายจักร กล่าว

สำหรับผลประกอบการของ WIN ในปี 55 มีแนวโน้มที่จะออกมาดีขึ้น และในปีหน้าผลประกอบการก็น่าจะขยับขึ้นไปได้ดีกว่าปีนี้ ตามทิศทางของแผนงานที่วางไว้ โดยจะเน้นธุรกิจพื้นที่ปลอดภาษีและคลังสินค้าให้เช่าเป็นหลัก ซึ่งปีหน้ากำไรของบริษัทฯจะมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดเจนขึ้น

"ค่าใช้จ่ายของบริษัทฯลดลงมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้ และกำไรก็มีการปรับตัวขึ้นมาตลอด ซึ่งปีหน้าจะเห็นกำไรขึ้นอย่างชัดเจน เพราะค่าเช่าสูงขึ้นตลอด และจำนวนพื้นที่ให้เช่าก็สูงขึ้นตลอดด้วย ดังนั้นงบฯปี 56 จึงน่าจะออกมาดีกว่าปีนี้"นายจักร กล่าว

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 16:33:09 ]
ความเห็นที่ 103

ประเทศไทยติดอันดับที่ 3 ประชาชนในประเทศมีความสุขมากที่สุดจากการจัดอันดับของบริษัทวิจัยจากสหรัฐใน 148 ทั่วโลก

กัลอัพ อิงค์ บริษัทวิจัยจากสหรัฐ เผยผลการจัดอันดับประเทศที่ประชากรมีความสุขมากที่สุดในโลก โดยใช้เกณฑ์จากผลสำรวจจากคน 1,000 คน ในประเทศต่างๆ ในคำถามต่างๆ อาทิ เมื่อวานคุณหัวเราะหรือได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือไม่ พบว่า 5 อันดับประเทศที่ประชาชนมีความสุขที่สุด คือ

อับดับที่ 1 คือ ปานามา และ ปารากวัย
อันดับที่ 2 คือ เอลซัลวาดอร์ และเวเนซุเอลา
อันดับที่ 3 คือ ไทย
อันดับที่ 4 คือ ฟิลิปปินส์
อันดับที่ 5 คือ สิงคโปร์
ขณะที่สหรัฐอเมริการั้งอันดับที่ 33
“คนในประเทศร่ำรวยไม่ได้มีความสุขเสมอไป สวนทางผู้คนในประเทศยากจนที่มักจะมีทัศนคติเชิงบวก” เอพีระบุ สอดคล้องกับความเห็นผู้เชี่ยวชาญที่มองว่า วัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญต่อความคิดของคน โดยเฉพาะในอเมริกาใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องสังคมเป็นมิตร

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [21 ธ.ค. 55 16:43:09 ]
ความเห็นที่ 104

ว๊าววว...ไทย เป็นอันดับ3  
มิน่าล่ะ....อนันอยู่ดอย ยังยิ้มด้ายยยยย  55555555

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 16:59:47 ]
ความเห็นที่ 105

น้องกุ๊กกรูรรร์ กะ  หมูแดง  ^   ^

จากคุณ : จินตนาการไปวันๆ..5555555หมูแดง (dogbox) [21 ธ.ค. 55 17:29:47 ]
ความเห็นที่ 106

ทำแล้ว มีความสุข ^    ^

จากคุณ : ก็ทำปายย...55555...หมูแดง..... (dogbox) [21 ธ.ค. 55 17:32:24 ]
ความเห็นที่ 107

ขอบคุณคร่าาาคุณหมูแดง  ^__^

แกงเหลืองทางใต้เรียก  แกงส้ม ค่ะ  :)

เครื่องแกงส้ม

๑.พริกขี้หนูสด
๒.หัวกระเทียมสด
๓.ขมิ้นสด
๔.กะปิแกง(กะปิมีสองชนิดคือกะปิสำหรับแกงและกะปิสำหรับตำน้ำพริก)
๕.หัวหอมแดง (ใส่น้อยที่สุดประมาณ 1-2 หัว)
๖.มะนาว หรือมะขามสดหรือเปียก หรือมะม่วง หรือมะดัน ฯลฯ

...ส่วนเนื้อนิยมใส่เนื้อปลาหรือกุ้งเป็นหลัก

...ส่วนผักนั้นตามแต่ชอบที่นิยมก็มี ดอกแค ผักบุ้งน้ำ ผักกะเฉด
มะระกอดิบ ผักกวางตุ้ง(ใช้ซิม) ฯลฯ


ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ+ ไข่เจียว  อร่อยยยยจังค่ะ  ทานก่อนนอน  อ้วนแแน่ ๆ เลยยยย  T^T

จากคุณ : มาทานมื้อดึกกันค่ะ ^^ (joyly_polly) [21 ธ.ค. 55 21:14:14 ]
ความเห็นที่ 108

สวัสดีค่ะ คุณจอย ^   ^

เมื่อคืนฝันดีไปหน่อย  ตอนนี้ตื่นอยู่ในโลกแห่งความจริงแระ5555555

จากคุณ : หมูแดง (dogbox) [22 ธ.ค. 55 05:55:24 ]
ความเห็นที่ 109

เช้านี้ แวะมาทานไข่เจียว ของคุณจอย ขอบคุณค่ะ ^    ^

จากคุณ : จุ๊บ จุ๊บ...........หมูแดง (dogbox) [22 ธ.ค. 55 05:58:41 ]
ความเห็นที่ 110

โห   มาเช้า
สงสัยจะทำความดีสะสมบุญในว้นซิ่นโลก
นี่ยังขาดอีกครึ่งวัน
ทางด้านฝั่งตะวันตกถึงจะพ้นวันซิ่นโลก


KR Daily Update :ประเด็นเด่นวันนี้

    กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รายได้รัฐบาลในเดือน พ.ย. 2555 จัดเก็บได้ 1.74 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2.3 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 15.2 นำโดยภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ต.ค.-พ.ย. 2555) รายได้รัฐบาลสุทธิสูงกว่าเป้าหมายราว 2.5 หมื่นล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลโดยเฉพาะจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่สูงกว่าประมาณการ ส่วนหนึ่งคงเป็นผลจากปัจจัยด้านฤดูกาลที่เข้าใกล้ช่วงเทศกาลใช้จ่ายปลายปีและผลจากโครงการรถยนต์คันแรกที่กำลังจะสิ้นสุดลง มองไปข้างหน้า ยังคงมีปัจจัยติดตามที่อาจมีผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ผ่านการดำเนินกิจการของภาคธุรกิจและเสถียรภาพด้านรายได้ของประชาชน ไม่ว่าจะเป็น ทิศทางเศรษฐกิจหลักในโลกที่แม้มีเสถียรภาพมากขึ้นแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความเปราะบางเช่นกัน ภาวะค่าครองชีพและต้นทุนการผลิตในประเทศที่ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคืนเงินภายใต้โครงการรถคันแรก ตลอดจนการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา อย่างไรก็ดี ภายใต้สถานการณ์ที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2556 น่าจะสามารถรักษาแรงส่งการขยายตัวไว้ได้ใกล้เคียงกับปี 2555 คงจะทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลน่าจะทำได้ใกล้เคียงเป้าหมายทั้งปีงบประมาณ 2556 ที่ตั้งไว้ที่ 2.1 ล้านล้านบาท


    ทางการฟิลิปปินส์อนุมัติกฎหมายภาษีบาป (Sin Tax Law) ด้วยการปรับขึ้นภาษียาสูบและแอลกอฮอล์ เริ่ม 1 ม.ค. 2556 โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวในปีแรก 33.96 พันล้านเปโซ (825 ล้านดอลลาร์ฯ) ซึ่งทางการมีแผนนำรายได้จากภาษีบางส่วนมาอัดฉีดโครงการสุขภาพวงเงิน 146.7 พันล้านเปโซ ทั้งนี้ อัตราภาษีบุหรี่จะจัดเก็บร้อยละ 4 ต่อปี บวกกับอีกร้อยละ 20 ของราคาขายปลีก และยังมีการจัดเก็บภาษีสรรสามิตร้อยละ 15 ของผลิตภัณฑ์ยาสูบ สำหรับการจัดเก็บภาษีผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์จะจัดเก็บ 20 เปโซ บวกกับร้อยละ 15 ของราคาค้าปลีกต่อลิตร (ซึ่งอัตราดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า การปรับเปลี่ยนกฎหมายภาษีบาปของทางการฟิลิปปินส์ เป็นไปเพื่อยกระดับสุขภาพของประชากรในประเทศเป็นหลัก โดยการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นย่อมส่งผลโดยตรงต่อราคาและจำกัดการบริโภคของประชากรโดยทางอ้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของรัฐบาลเพื่อที่จะควบคุมการบริโภคยาสูบและแอลกอฮอล์ เนื่องจากประชากรในประเทศมีปัญหาสุขภาพจากการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อการรักษาโรคที่เกิดจากพฤติกรรมดังกล่าว 177 พันล้านเปโซ ในปี 2554 ทั้งนี้ ในช่วงแรกที่ประชาชนอาจจะยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้มากนัก คาดว่าทางการน่าจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์มีงบประมาณอุดหนุนสุขภาพด้านอื่นๆ โดยเฉพาะแก่ผู้ยากจนในประเทศที่มีจำนวนราวร้อยละ 20 ของประชากร (หรือราว 5.6 ล้านครัวเรือน) อันจะมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและประเด็นเชิงสังคมได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ในระยะยาว พฤติกรรมการบริโภคสินค้าบาปที่อาจลดลง เพราะอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี คงทำให้รายได้ส่วนเพิ่มของรัฐบาลจากภาษีนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นเหมือนในช่วงแรก

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 07:36:26 ]
ความเห็นที่ 111

นายกิดาการ สุวรรณธรรมา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ปรับตัวลง เนื่องจากการแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง(Fiscal cliff)ยังไม่จบ โดยเลื่อนการเจรจาออกไปถึงวันที่ 27 ธ.ค.ทำให้ทั้งตลาดหุ้นและตลาดทองคำปรับตัวลง หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเก็งประเด็นดังกล่าวว่าจะผ่านไปด้วยดี
สัปดาห์หน้าคาดแนวโน้มตลาดจะทรงตัวและมีโอกาสปรับตัวลงตามข่าวเกี่ยวกับการเจรจา Fiscal cliff จากวันนี้ไปจนถึงวันที่ 27 ธ.ค.อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้ายังมีปัจจัยบวกหนุนทั้งการทำ window dressing ช่วงสิ้นปี และการเข้าซื้อของบรรดากองทุนต่าง ๆทั้งนี้ วันที่ 24 ธ.ค.มองแนวรับไว้ที่ 927 จุด แนวต้านที่ 940 จุด

สำหรับราคาทองคำมองเป็นตลาดขาลงในระยะนี้ แต่หากมีการปรับลงแรงก็ยังมีโอกาสรีบาวน์ โดยวันจันทร์หน้าให้แนวรับที่ 23,700 บาท แนวต้านที่ 24,100 บาท
ดัชนีอ้างอิง SET 50  ปิดวันนี้ที่ระดับ 934.21 จุด ลดลง 3.31 จุด, -0.35%
ปริมาณ                        สถานะคงค้าง
Total Market                      85,815                             270,091
Total Futures                     85,649                            264,483
Brent Crude Oil                       388                                  856

Metal                                    33,508                               47,284
- 50 Baht Gold                11,383                                16,923
- 10 Baht Gold                21,632                                30,068
- Silver                                  43                                  293

USD                                         3,372                                17,030

Interest Rate                             -                                     -
- 3M BIBOR                               -                                      -
- 6M THBFIX                              -                                     -
- 5Y Gov Bond                           -                                     -

SET50 Index                         35,307                               49,724
- S50Z12                          18,772                                34,616
- S50F13                                 221                                 250
- S50G13                                     4                                     4
- S50H13                          16,150                                13,984
- S50M13                                 144                                 616
- S50U13                                  16                                  253

Sector Index Futures                  1                                     7
- BANK Index Futures               -                                     5
- COMM Index Futures               -                                     -
- ENERG Index Futures            -                                      1
- FOOD Index Futures               -                                     -
- ICT Index Futures                -                                      1

Single Stock                      13,532                             149,582
- ADVANC Futures                   23                                  129
- BANPU Futures                       1                                  113
- BAY Futures                       383                              1,614
- BBL Futures                       117                                  959
- BTS Futures                       281                             76,107
- CPALL Futures                       7                                  217
- CPF Futures                          20                             1,559
- DTAC Futures                          -                                    48
- HMPRO Futures                   256                              1,130
- IRPC Futures                       80                              1,985
- ITD Futures                   1,947                                 6,566
- IVL Futures                          12                                 783
- KBANK Futures                   236                                  635
- KTB Futures                   4,809                                13,259
- LH Futures                           49                                  945
- MINT Futures                      100                                 227
- PS Futures                              -                                 253
- PTT Futures                          31                                 806
- PTTEP Futures                   207                              2,796
- QH Futures                          293                            11,820
- SCB Futures                       264                                  191
- SCC Futures                          19                                 104
- STA Futures                          47                                 332
- TCAP Futures                          -                                 439
- THAI Futures                          -                                 637
- TMB Futures                   4,001                                13,843
- TOP Futures                          83                                 524
- TRUE Futures                      251                             3,341
- TTA Futures                           2                              7,820
- TUF Futures                           4                                  400

Total Options                             166                             5,608
SET50 Index                              166                              5,608
Call                                    137                             1,604
Put                                        29                             4,004

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 07:42:49 ]
ความเห็นที่ 112

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,373.38 จุด ลดลง 4.02 จุด(-0.29%)มูลค่าการซื้อขาย  35,026.41 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,375.83 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,368.66 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 249 หลักทรัพย์ ลดลง 331 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 135 หลักทรัพย์

นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในแดนลบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงประมาณ 0.7-0.9% ซึ่งหุ้นไทยถือว่ายังมีความแข็งแกร่งกว่าหุ้นต่างชาติ โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนี้ปรับตัวลงมาจากความยืดเยื้อการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal cliff จึงทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายทำกำไรออกมาก่อน รวมถึงตลาดบ้านเราเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานด้วย

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ตลาดฯยังได้รับแรงซื้อจากองทุน LTF RMF สำหรับกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์ เพื่อสามารถทำผลตอบแทนได้ตามเป้าที่วางไว้ก็ได้มีการขายออกมา ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแรงซื้อของกองทุนจึงยังไม่มากเท่าไร

อย่างไรก็ดี มองว่าตลาดโดยรวมยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาหนุน และเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)ของหลาย ๆ ประเทศ

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายสุรชัย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะชะลอความร้อนแรงลง และอาจมีแรงเทขายทำกำไร เนื่องจากตลาดต่างประเทศได้หยุดทำการซื้อ-ขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส อีกทั้งยังต้องติดตามการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff ต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด แนวต้าน 1,385 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTGC  มูลค่าการซื้อขาย 2,069.14 ล้านบาท ปิดที่  69.75 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท

BBL    มูลค่าการซื้อขาย 1,387.28 ล้านบาท ปิดที่ 197.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,317.40 ล้านบาท ปิดที่  45.25 บาท ลดลง   1.25 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,250.12 ล้านบาท ปิดที่ 203.00 บาท ลดลง   4.00 บาท
SCC    มูลค่าการซื้อขาย 1,124.21 ล้านบาท ปิดที่ 438.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 07:46:43 ]
ความเห็นที่ 113

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 76,251 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 64,004 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 83.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้  ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 7,261 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.5%   ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,342 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด


สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA LB155A และ LB176A (รุ่นอายุ 9.0 ปี, 3.0 ปี และ 2.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,969 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ

1. บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศ) จำกัด (TLT149A)   มูลค่า 203 ล้านบาท
2. บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด (มหาชน)  (AYCAL145A)   มูลค่า 201 ล้านบาท

3. บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON137A)   มูลค่า 200 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 604 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน   ซื้อสุทธิ 12,410 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ    ซื้อสุทธิ 11,650 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 3,667 ล้านบาท
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับตัวลดลงในตราสารอายุ 5 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 ถึง 2 bp ปริมาณการซื้อขายกระจุกตัวอยู่ในพันธบัตรธปท.ที่ประมูลในวันนี้ ในนขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ด้านนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,667 ล้านบาท






คำลี่ พิลาวง    นางเอกภาพยนตร์เรื่อง สะบายดี หลวงพะบาง

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 07:50:54 ]
ความเห็นที่ 114

-- สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2552 และสูงกว่าเดือนพ.ย.ปีที่แล้วที่ระดับ 4.40 ล้านยูนิตต่อปี

-- สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านในสหรัฐของเดือนต.ค. ยังคงขยายตัวอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อมีการปรับตามฤดูกาล เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมที่ยังอยู่ในระดับต่ำ



ดัชนีราคาบ้านรายเดือนของ FHFA ระบุว่า ราคาบ้านในเดือนต.ค. ขยับขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า และราคาบ้านในช่วง 12 เดือนสิ้นสุด ณ เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5.6% เป็นสัญญาณแสดงว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

-- บรรดาผู้นำของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายภาษี ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอจากภายในพรรคที่จะทำให้ผ่านการลงคะแนนได้

ทั้งนี้ ผู้นำพรรครีพับลิกันได้แจ้งต่อสมาชิกสภาผู้แทนฯในที่ประชุมว่า การลงมติร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันคริสต์มาสปีนี้

-- สหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติการเพิ่มเงินทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ 4 แห่งในวงเงิน 1.865 พันล้านยูโร (2.480 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบธนาคารในประเทศ

ในการช่วยเหลือครั้งนี้ ธนาคารลิเบอร์แบงก์จะได้รับการเพิ่มทุน 124 ล้านยูโร, ธนาคารบังโก ซีอีไอเอสเอส 604 ล้านยูโร, ธนาคารกาฮา3 407 ล้านยูโร และธนาคารบังโก มาเร นอสตรอม 730 ล้านยูโร

-- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของออสเตรเลีย หลังจากรัฐบาลลดการให้ความสำคัญกับการเกินดุลงบประมาณ

-- ผลสำรวจรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ระบุว่า บีโอเจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมากสูงสุดแป็นประวัติการณ์ที่ 104.93 ล้านล้านเยน ณ สิ้นเดือนก.ย. สะท้อนให้เห็นถึงการขยายเข้าซื้อพันธบัตรจากโนบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นพิเศษ

-- รัฐบาลญี่ปุ่นคงคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศ โดยระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังซบเซาลงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย แต่ในขณะเดียวกันก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่าบางภาคส่วนกำลังดีดตัว อาทิ การผลิตและการบริโภค

-- ผลการสำรวจโดยสถาบันวิจัย GfK เผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนม.ค. เนื่องจากความวิตกกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศอื่นๆในยูโรโซนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี

รายงานของ GfK ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงแตะ 5.6 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ 5.8 จุดในเดือนธ.ค.

-- นายชินโสะ อาเบะ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) และว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าววันนี้ว่า เขาจะเร่งรัดการปฏิรูปภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นการตอกย้ำจุดประสงค์ของเขาในการใช้มาตรการทางการคลังเพื่อเอาชนะภาวะเงินฝืดที่ยาวนานในประเทศ

-- บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ 3 อันดับแรกของญี่ปุ่นต่างมียอดการผลิตในจีนลดลงเป็นตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน เพราะได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองประเทศ

-- พัก กึน-ฮเย หัวหน้าพรรคแซนูรีและว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ และประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ ตกลงกันว่าจะพบปะกันอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อหารือถึงเรื่องต่างๆในระดับทวิภาคีและนานาประเทศ

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งถูกปรับทบทวนลงจากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 07:54:27 ]
ความเห็นที่ 115

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) หลังจากที่ข้อเสนอเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังของนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ถูกเลื่อนการลงมติออกไป ซึ่งจุดปะทุความหวั่นวิตกว่าสหรัฐอาจหนีไม่พ้นวิกฤตงบประมาณที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ อันจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 120.88 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 13,190.84 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 13.54 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 1,430.15 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 29.38 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 3,021.01 จุด

ข้อเสนอ "แผนสอง" ของนายโบห์เนอร์ ซึ่งครอบคลุมการขึ้นภาษีสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติมากพอ ซึ่งดับความหวังก่อนหน้านี้ที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงงบประมาณได้อย่างรวดเร็ว

"พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเราจะทำสำเร็จหรือไม่" สื่อสหรัฐรายงานคำกล่าวของโบห์เนอร์เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ม.ค.2556

ออตโต เวเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของรีเสิร์ช แอนด์ แอสเส็ท แมเนจเมนท์ ในซูริคกล่าวว่า เรายังไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ในเรื่องที่ว่าวิกฤตการคลังอาจฉุดรั้งเศรษฐกิจสหรัฐลง 2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐเดินหน้าขึ้นคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงงบประมาณได้ก่อนกำหนดเส้นตายในปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐไม่ต้องเผชิญกับภาวะที่จะมีการปรับลดรายจ่ายและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติ หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff)

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์นั้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงแตะ 72.9 ในเดือนธ.ค. ซึ่งนับว่าอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา และต่ำกว่ารายงานช่วงต้นเดือน

อย่างไรก็ดี วอลล์สตรีทยังได้รับแรงหนุนบางส่วนจากข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่สดใส ซึ่งช่วยกระตุ้นให้มีแรงซื้อเข้ามาพยุงตลาดได้อยู่บ้าง โดยสำนักสถิติแรงงานเผยว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ร่วงลงใน 45 รัฐและดิสทริก ออฟ โคลัมเบีย

ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆกำลังวางแผนขยายธุรกิจในปีหน้า ส่วนรายได้ส่วนบุคคลของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งนับว่ามากสุดตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากที่ลดลง 0.3% ในเดือนก่อนหน้า ด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.

ในส่วนของหุ้นที่โดดเด่นนั้น หุ้น Halozyme Therapeutics พุ่ง 27.36% หลังจากที่บริษัทประกาศในช่วงเช้าวันศุกร์ว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงความร่วมมือและใบอนุญาตทั่วโลกกับไฟเซอร์ เพื่อพัฒนาและทำตลาดผลิตภัณฑ์ต่างๆที่รวมชีวสารของไฟเซอร์กับเทคโนโลยี Enhanz ของ Halozyme

ส่วนหุ้นรีเสิร์ช อิน โมชั่น ผู้ผลิตแบล็กเบอร์รีร่วง 22.73% เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างการเก็บค่าบริการใหม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท

หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นแกนนำหุ้นลบเมื่อวันศุกร์ โดยซิตี้กรุ๊ปร่วง 1.69% แตะ 39.49 ดอลลาร์ ขณะที่แบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 2.00% แตะที่ 11.29 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐจะเปิดทำการครึ่งวันในวันจันทร์นี้ และจะปิดทำการซื้อขายในวันอังคาร เนื่องในวันคริสต์มาส

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 08:04:51 ]
ความเห็นที่ 116

“ขงจื๊อ” เคยกล่าวไว้ว่า
“หากเจ้าวางแผนไว้ 1 ปี...จงปลูกข้าว
หากวางแผน 10 ปี...จงปลูกต้นไม้
หากวางแผน 100 ปี...จงให้ความรู้แก่บุตรหลาน”

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 08:17:53 ]
ความเห็นที่ 117

อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณฮะ คุณใหญ่ คุณจอย และทุกท่าน ^   ^

จะออกไปยืดผมจักกาหน่อย  มีความสุขทุกท่านนะคะ ^    ^

จากคุณ : จะสวยเผื่อ555555........หมูแดง (dogbox) [22 ธ.ค. 55 09:23:52 ]
ความเห็นที่ 118

ถ้าสวยเผื่อ
สงสัยอีกหน่อยต้องไปผ่าตัดด้วยแน่

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 11:22:52 ]
ความเห็นที่ 119

แต่ถ้ายืดนี่
ต้องมีเวล่ำเวลาครับ
ยืดผิดคิวได้เป็นเรื่อง
ยืดๆหดๆ

จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ [22 ธ.ค. 55 11:24:21 ]
ความเห็นที่ 120

^๐^ ^๐^ ^๐^ ปิ๊งๆๆๆกระทู้อารมณ์ดีในดวงใจ @ สินธร # 24/12/12 ซื้อๆขายๆหุ้น ^๐^

จากคุณ : yai-cho [23 ธ.ค. 55 22:58:07 ]