วันที่ 29 ธันวาคม 2555 10:48
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



แบงก์ชาติประเมินเศรษฐกิจไทยปี2556 ปัจจัยในประเทศยังหนุนการเติบโตทั้ง"บริโภค-ลงทุน"ลุ้นภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบ จีดีพีโตกว่า4.6%


นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ถ้าดูจากปัจจัยในประเทศแล้ว แทบไม่มีปัจจัยเสี่ยงใดที่น่าเป็นห่วงมากนัก จึงมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีโอกาสเติบโตได้มากกว่าที่ ธปท. ประเมินไว้ที่ 4.6% โดยที่ปัจจัยหนุนยังคงเป็นเรื่องการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ทั้งนี้ ธปท.คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2555 จะขยายตัว 5.7% ในขณะที่ปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 4.6%

“ในประเทศไม่มีปัจจัยเสี่ยงอะไรที่น่าเป็นห่วงมากนัก จะมีก็เพียงปัจจัยเสี่ยงด้านบวก เช่น ถ้าภาครัฐมีการเร่งเบิกได้เร็วก็จะช่วยในเรื่องของการใช้จ่าย และยังกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องด้วย เช่น การลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนปัจจัยเสี่ยงนั้น ก็คงเป็นเรื่องเดิมๆ เช่น การเมือง ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คงต้องติดตามดูการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาททั่วประเทศว่าเป็นอย่างไร แต่ผลต่อเงินเฟ้อคงไม่มากเหมือนช่วงที่ผ่านมา” นายเมธี กล่าว

ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศนั้น ยังคงเป็นความเสี่ยงเดิม คือ ภาพรวมเศรษฐกิจโลก โดยในส่วนของสหรัฐยังต้องติดตามดูการแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง (Fiscal Cliff) ของสหรัฐอเมริกา ว่าจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่ ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปนั้น เท่าที่ติดตามดูในขณะนี้จะเห็นว่าความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนั้นเริ่มลดลง

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นนั้น นายเมธีกล่าวว่า รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นที่เข้ามาประกาศใช้มาตรการนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนปรนมากขึ้น จึงต้องคอยติดตามว่าจะมีปัญหาเงินทุนไหลเข้าประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน

"โอบามา"กลับนั่งโต๊ะหารือรีพับลิกัน

สำหรับความเคลื่อนไหวการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐ ประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐ เจรจากับนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนางแนนซี เปโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (29 ธ.ค.) ตามเวลาในไทย เพื่อแก้ปัญหา "หน้าผาการคลัง" ก่อนเส้นตายสิ้นปีนี้
นายแมคดอนเนลล์ กล่าวว่า จะต้องรอดูข้อเสนอของประธานาธิบดีโอบามา จากนั้นพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจะนำข้อเสนอดังกล่าวไปทบทวน แล้วตัดสินใจว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป

ก่อนหน้านี้ นายรีดตำหนินายโบห์เนอร์ว่าบริหารสภาผู้แทนราษฎรแบบเผด็จการ เพราะไม่ยอมนำร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาไปลงคะแนนเสียงในสภาล่าง ร่างกฎหมายฉบับนี้ห้ามขึ้นภาษีครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 250,000 ดอลลาร์ นายรีดยังกล่าวหานายโบห์เนอร์ว่าต้องการปล่อยให้ "ตกหน้าผา" เพื่อจะได้มีการขึ้นภาษีทั้งหมด จากนั้นพรรครีพับลิกันจะลงคะแนนเสียงเพื่อลดภาษีชนชั้นกลางให้เหลือระดับต่ำกว่าปี 2556
ขณะที่โฆษกของนายโบห์เนอร์โต้ว่าสภาล่างได้ผ่านร่างกฎหมายขยายเวลาลดหย่อนภาษีสำหรับคนอเมริกันทุกคน รวมถึงร่างกฎหมายใหม่แทนที่การลดใช้จ่ายอย่างไม่เลือกเจาะจง

ล่าสุด แกนนำสภาผู้แทนราษฎรสั่งให้บรรดาสมาชิกกลับไปวอชิงตันในวันอาทิตย์ (30 ธ.ค.) พร้อมเตือนว่าสมัยประชุมอาจต่อเนื่องไปถึงวันที่ 2 ม.ค. 2556

กรีซต้องการ2หมื่นล้านยูโรเพิ่มทุนแบงก์

ธนาคารกลางกรีซระบุในรายงานว่าธนาคารรายใหญ่ที่สุด 4 แห่งของกรีซ ต้องการเงิน 27,500 ล้านยูโรในการเพิ่มทุนภายในสิ้นเดือนเม.ย. ปีหน้า โดยธนาคารทั้ง 4 คือ เนชั่นแนลแบงก์ออฟกรีซ อัลฟา ยูโรแบงก์ และ ไพเรอุส ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐเพราะถูกมองว่าสำคัญต่อภาคธนาคารของประเทศ

ส่วนธนาคารขนาดเล็กอีกหลายสิบแห่งจะได้รับการเพิ่มทุนจากกองทุนเอกชน ภายในปลายเดือนเม.ย. เช่นกัน
ธนาคารกลางระบุในรายงานว่าภาคธนาคารได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากความพยายามปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ และสภาพเศรษฐกิจแง่ลบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งสินทรัพย์และเงินฝากของธนาคาร

คาดว่าธนาคารรายใหญ่ๆ ของกรีซ ต้องใช้เงิน 50,000 ล้านยูโร เพื่อเพิ่มทุนหลังจากได้รับการลดหนี้กว่า 100,000 ล้านยูโร เมื่อเดือนมี.ค. และได้รับการซื้อคืนหนี้เมื่อต้นเดือนนี้

นอกจากนั้น ผู้นำยุโรปยังตัดสินใจที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 49,100 ล้านยูโรแก่กรีซภายในต้นปีหน้า แลกเปลี่ยนกับมาตรการรัดเข็มขัดชุดใหม่ ขณะที่บริษัทสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ ปรับเพิ่มความน่าเชื่อถือของกรีซ 6 ขั้น นอกจากนั้น ธนาคารกลางยุโรปยังกล่าวว่าพร้อมจะรับพันธบัตรกรีซเป็นเครื่องค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารอีกครั้งหนึ่ง

รอบนี้คงไม่ "ไว้ลาย" อีกนะ

เชื่อไม่ได้มั้ง เห็นปรับการประมาณการตลอดแทบจะทุก ๆ อาทิตย์
เดี๋ยวราคาพลังงานเพิ่ม เกิดอุทกภัย หรือเหตุในต่างประเทศ
ก็ปรับอีกแระ ไม่รู้ว่าคนไทยได้ประโยชน์อะไร กับการประมาณการ
เศรษฐกิจ

ตั้งไว้ก่อนแล้วค่อยเพิ่ม-ลดตามสถานะการณ์บ้านเมือง