มาสเตอร์แอดชี้สื่อนอกบ้านยังรุ่ง เกาะติดเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่า-เอาจริงธุรกิจ"อีเวนต์" (MACO)

30 ธ.ค. 2555 เวลา 12:08:08 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือมาโก้ (MACO) กล่าวถึงทิศทางของธุรกิจช่วง 3-5 ปีต่อจากนี้ว่า จะเน้นธุรกิจน็อน-มาโก้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับสื่อนอกบ้านที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท แต่ถือเป็นการเสริมศักยภาพทางด้านธุรกิจของบริษัทระหว่างธุรกิจหลักคือบริหารสื่อนอกบ้าน และน็อน-มาโก้

สำหรับธุรกิจน็อน-มาโก้ หรือการจัดอีเวนต์และจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเริ่มต้นขึ้นในปี 2556 นี้ เน้นให้บริการฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่แล้ว ด้วยการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด และเมื่อทุกอย่างอยู่ตัวแล้วค่อยขยับออกไปหาลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมการจัดอีเวนต์และกิจกรรรมต่าง ๆ รูปแบบการบริการของผู้ประกอบการธุรกิจนี้อาจจะคล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่แตกต่างสำหรับธุรกิจนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของครีเอทีฟ หรือการหาแง่มุมไอเดียมาสร้างสรรค์ในแต่ละอีเวนต์ เพื่อสร้างความแตกต่าง

ขณะที่บริษัทมีสื่อเป็นของตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นจุดเด่นอีกข้อที่คู่แข่งในตลาดไม่มี ซึ่งบริษัทจะนำสื่อนอกบ้านที่มีอยู่ในมือมาใช้ประโยชน์ระหว่างธุรกิจซึ่งกันและกัน โดยที่ลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าสื่อเพิ่ม รวมถึงคาดว่าอีก 1-2 ปีข้างหน้า ทั้ง 2 ธุรกิจจะเติบโตควบคู่ไป แต่สัดส่วนจะเป็นเท่าไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งวันนี้ธุรกิจน็อน-มาโก้ ถือเป็นโปรดักต์ใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น ดังนั้นจึงต้องค่อย ๆ เอาโปรดักต์ออกไปเสนอลูกค้าก่อน

ส่วนจุดเด่นอีกเรื่อง คือบริษัทไม่มีมูลค่าขั้นต่ำของงานอีเวนต์ เพราะไม่ใช่รายใหญ่เหมือนเจ้าตลาดรายอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนภายในได้ ทำให้สามารถรับจัดงานอีเวนต์ตั้งแต่มีมูลค่าและขนาดงานเล็กไปจนถึงรายใหญ่ที่มีมูลค่าสูง

อย่างไรก็ตาม มองว่าสถานการณ์ตลาดอีเวนต์ปี 2556 แม้ว่าจะไม่มีอีเวนต์ใหญ่เหมือนปี 2555 แต่สำหรับไทยถือว่ามีเทศกาลหรือวาระสำคัญต่าง ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดอีเวนต์ปี 2556 เติบโตเช่นกัน

"หน้าที่ของเราคือ ต้องบริหารพื้นที่ที่ว่างให้เกิดประโยชน์ จึงเป็นที่มาของธุรกิจน็อน-มาโก้ เน้นเรื่องธุรกิจอีเวนต์และกิจกรรมต่าง ๆ เพราะเวลาที่จัดกิจกรรมอีเวนต์ สามารถใช้พื้นที่โฆษณาที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้"

สำหรับสื่อนอกบ้านปี 2556 ยังเดินหน้าขยายพื้นที่ใหม่ตามชานเมือง หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด และบริหารพื้นที่ที่มีอยู่ให้มีรายได้

นายนพดลกล่าวต่อว่า ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่นอกบ้านถึง 13 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้สื่อนอกบ้านปี 2556 ยังคงเติบโต แต่ความท้าทายของผู้ประกอบการธุรกิจนี้อยู่ที่เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทั้งทีวีดิจิทัล

สื่อดิจิทัล เทคโนโลยี 3G ที่เข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้สื่อนอกบ้านต้องปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสาน เพื่อให้เกิดประโยชน์

จากนี้ไปสื่อนอกบ้านจะไม่ใช่การสื่อสารทางเดียวอีกต่อไป แต่จะมีการปรับตัวสู่การสื่อสารแบบสองทางที่สามารถตอบโต้ระหว่างผู้บริโภคกับสื่อนอกบ้าน เช่น การพัฒนาคิวอาร์โค้ด เอ็นเอฟอาร์ (Near feel Communtion) ที่สามารถบันทึกได้ว่ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับสื่อนอกบ้านป้ายนั้น ๆ

ทั้งนี้ ถ้าสื่อนอกบ้านสามารถตอบโจทย์เจ้าของแบรนด์สินค้าได้ วัดผลได้ เชื่อว่าน่าจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากสื่ออื่นได้มากขึ้น ขณะเดียวกันปี 2556 บริษัทเตรียมที่จะพัฒนาเทคโนโลยีหรือแอปพลิเคชั่น หวังสร้างการสื่อสารสองทางระหว่างสื่อนอกบ้านกับกลุ่มเป้าหมาย

"อนาคตต่อจากนี้ไป สื่อประเภทใดจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องสามารถอธิบายกับเจ้าของแบรนด์สินค้าได้ว่า ส่งสารให้กับใคร และวัดผลได้อย่างไร เพราะมีเทคโนโลยีที่สามารถวัดผลได้อยู่แล้ว"

จากคุณ : Wild Rabbit [วันสิ้นปี 55 11:35:56 ]