|
จาก คห 18
"เผอิญมีคน ๆ หนึ่งเอารถสปอร์ตมาขาย อายุ 10 ปีแล้ว แต่เจ้าของใช้ไปแค่ 8,000 กิโล สภาพรถยังใหม่เอี่ยมเลย มาขายผมราคาห้าแสนบาท
ราคาเท่ากับราคารถแจ๊สของฮอนด้า แม้กระทั่งคิดเชิงเศรษฐศาสตร์ก็ถือว่าคุ้ม เบื่อเมื่อไหร่ก็สามารถขายต่อได้โดยไม่ขาดทุนเลย
ตกลงผมก็ซื้อ วันไปรับรถยังมีลังแถมมาให้ลังเบ้อเร่อ คนขายบอกว่าในลังนี้คือเครื่องเก่า แต่เครื่องที่ติดอยู่ในรถคือเครื่องรถแข่ง กลายเป็นว่าจ่ายห้าแสนได้รถแข่งมาคันหนึ่ง"
ขอให้พวกเราทุกๆคนที่เป็นคนดี นึกดูดีๆ
เป็นไปได้หรือ ทีชีวิตคนๆหนึ่งจะโชคดี ถึงขนาดมีคนเอารถสปอร์ตที่ตบแต่งอย่างดีแล้ว เป็นรถแข่ง มาขายให้เราในราคาที่ถูกมากๆ ห้าแสน และโชคดีเช่นนี้ มันจะมีกี่ครั้งในชั่วชีวิต
ถามว่า ถ้ามีคนมาเสนอให้ผมเช่นนี้ ผมเอาใหม เอาแน่นอน ก็มันราคาถูกมาก จะใช้ไม่ใช่อีกเรื่องหนึ่ง
แต่ผมคงตั้งตรวจสอบความผิดปกติบางอย่างด้วย
ทำไมเขานำมาขายเรา ?
เขาต้องการอะไร
ถ้าต้องการเงิน แค่ไปที่เต็นท์รถ เอารถคันนี้ ไปวาง คิดว่า เกินห้าแสนไหม
ถ้าไม่อยากไปเอง จ้าง คนใช้ในบ้านไปทำ ให้เงินค่าจ้างสักหมื่นหนึ่ง ดำเนินเรื่อง เจ้าของรถ จะได้เงินกลับมาเกิน ห้าแสนไหม
เกินแน่ๆ
ดังนั้น จุดหมายจึง ไม่ใช่เพื่อต้องการเงิน
อีกอย่างเป็นรถถูกขโมยมา เลยขายไม่ได้ เป็นไปได้ไหมว่า เรากำลังรับของโจร?
หรือเรากำลัง เป็นเครื่องฟอกเงินให้เขา เพราะรถนี้เขาได้มาโดยผิดกฏหมาย?
ถ้าไม่ใช่ดังนี้แล้วเขาต้องการอะไรจากเรา ?
แน่นอน สิ่งที่เขาต้องการคือ คอนเนคชั่น ที่เรามี พาวเวอร์ที่เรามีอยู่ ที่จะดลบันดาลให้เขาได้สิ่งตอบแทนคืนกลับมา มากกว่าราคาสิ่งที่เขาเสียไป
ยิ่งสิ่งที่เขาเสียไป ราคาสูง เขาก็ต้องการสิ่งที่ตอบแทนกลับมานั้นราคาสูงด้วย
ดังนั้น ถ้าเป็นคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ เราจะไม่พบกับลาภลอยเช่นนี้เลย ในชีวิต
แต่ในคนบางคน ที่มีหน้าที่ตำแหน่งการงานใหญ่โต กลับพบลาภลอยอย่างนี้เป็นประจำ มีคนเอารถมาขายให้ราคาถูกๆอย่างไม่น่าเชื่อ มีคนเอาที่ดินเขายายเที่ยงมาขายถูกๆอย่างไม่น่าเชื่อ มีคนเอาพระเครื่องราคาเป็นสิบๆล้านมาขายในราคา ถูกๆอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะรักเราศรัทธาเรา
รักเราศรัทธาเราจริงหรือ หรือจริงๆแล้ว มีผลประโยชน์บางอย่างอยู่
เราจึงเห็นข้าราชการ นักการเมือง ผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆท่าน ร่ำรวยกันมากมาย โดยแทบไมได้ทำงานอะไร หรือทำน้อยมาก หรือบริษัทของท่าน ช่างเก่งฉกาจ ประมูลงานได้ทุกงวด ได้กำไรในงานมากมาย มหาศาล
อยากจะบอกให้ทุกๆคนทราบว่า
นี่แหละครับ คือ ผลประโยชน์ แฝง คือลาภที่มิควรได้ แต่กลับมีการรับกันอย่างเป็นปกติในสังคมไทย
และได้รับการขนานนามว่า เป็นผู้ดี เป็นคนดีของสังคม
ในเมื่อคนที่ดีที่สุดของสังคมเป็นเช่นนี้แล้ว เราจะหวังได้อย่างไรว่า การคอรัปชั่นจะหมดไปจากประเทศไทยโดยเร็ววัน
สิ่งเหล่านี้ สังคมไทยโดยรวมเข้าใจ และรับรู้มาพักหนึ่งแล้ว
ดังนั้น ผลการสำรวจในช่วงหลังๆ จึงแสดงว่า ถ้าโกงบ้างก็ไม่เป็นไร ขอดูเพียงให้มีผลงานที่พอรับได้ ที่ให้กับประชาชนส่วนรวมเป็นอย่างมากก็พอ
นั่นเพราะเขาเข้าใจความจริงดีว่า ปัจจุบันนี้ การขจัดคอรับชั่นในเมืองไทย ยังเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ และต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
แต่มีพวก สื่อดัดจริต และ ผู้ที่สวมคราบคนดีเท่านั้นที่ไม่ยอมเข้าใจ ตีโพยตีพายเหมือนโลกจะแตก
ทั้งๆที่ตัวเอง คอรัปชั่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่มองไม่เห็น และคิดว่าคนอื่นคงมองไม่เห็นเช่นตัว
เลิกเลือกคนดีได้แล้ว เพราะตัวชี้วัดมันใช้ไม่ได้
หันมาเลือกคนทำงานกันดีกว่า
ตัดสินกันที่งาน
เพราะผลงาน สามารถใช้ตัวชี้วัดมาวัดได้
สู้กันแบบนี้แหละ ประเทศจะเจริญเอง
จากคุณ |
:
kfai
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ธ.ค. 55 09:33:43
A:124.120.144.41 X:
|
|
|
|
|