|
"เราอาศัยกุลธิดาใดมาแล้วสิ้นทาง ๓๐ โยชน์ กุลธิดานั้นไม่มีโอกาสแม้ในวันนี้ เมื่อกุลธิดานั้นได้โอกาส เราจักทำอนุโมทนา."
ลำดับนั้น พระศาสดาประทานสาธุการเป็นครั้งแรกแก่นางกุมาริกานั้นว่า "ดีละ ดีละ กุมาริกา ปัญหาอันเราถามแล้วนั่นแล อันเธอแก้ได้แล้ว" แล้วตรัสถามแม้ข้อต่อไปว่า "เธอ อันเราถามแล้วว่า เธอจะไป ณ ที่ไหน? เพราะเหตุไร จึงกล่าวว่า ไม่ทราบ?" กุมาริกา. "พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบหม่อมฉันผู้ถือกระเช้าด้ายหลอดเดินไปยังโรงของช่างหูก, พระองค์ย่อมตรัสถามว่า ก็เธอไปจากโลกนี้แล้ว จักเกิดในที่ไหน? ก็หม่อมฉันจุติจากโลกนี้แล้วย่อมไม่ทราบว่า จักไปเกิดในที่ไหน?" ลำดับนั้น พระศาสดาประทานสาธุการแก่นางเป็นครั้งที่ ๒ ว่า "ปัญหาอันเราถามแล้วนั่นแล เธอแก้ได้แล้ว" แล้วตรัสถามแม้ข้อต่อไปว่า "เมื่อเช่นนั้น เธอ อันเราถามว่า ไม่ทราบหรือ? เพราะเหตุไร จึงกล่าวว่า ทราบ?" กุมาริกา. พระเจ้าข้า หม่อมฉันย่อมทราบภาวะคือความตายของหม่อมฉันเท่านั้น เหตุนั้น จึงกราบทูลอย่างนั้น. ลำดับนั้น พระศาสดาประทานสาธุการแก่นางเป็นครั้งที่ ๓ ว่า "ปัญหาอันเราถามแล้วนั่นแล เธอแก้ได้แล้ว" แล้วตรัสถามแม้ข้อต่อไปว่า "เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอ อันเราถามว่า เธอย่อมทราบหรือ? เพราะเหตุไร จึงพูดว่า ไม่ทราบ?" กุมาริกา. หม่อมฉันย่อมทราบแต่ภาวะ คือความตายของหม่อมฉันเท่านั้น พระเจ้าข้า แต่ย่อมไม่ทราบว่า "จักตายในเวลากลางคืน กลางวันหรือเวลาเช้าเป็นต้น ในกาลชื่อโน้น เพราะเหตุนั้น จึงพูดอย่างนั้น."
ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :- ๗. อนฺธภูโต อยํ โลโก ตนุเกตฺถ วิปสฺสติ สกุนฺโต๑- ชาลมุตฺโตว อปฺโป สคฺคาย คจฺฉติ. สัตว์โลกนี้เป็นเหมือนคนตาบอด ในโลกนี้ น้อยคนนักจะเห็นแจ้ง, น้อยคนนักจะไปสวรรค์ เหมือนนกหลุดแล้วจากข่าย (มีน้อย) ฉะนั้น. ____________________________ ๑- อรรถกถา เป็น สกุโณ.
แก้อรรถ บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า อยํ โลโก ความว่า โลกิยมหาชนนี้ชื่อว่าเป็นเหมือนคนบอด เพราะไม่มีจักษุคือปัญญา. สองบทว่า ตนุเกตฺถ ความว่า ชนในโลกนี้น้อยคน คือไม่มาก จะเห็นแจ้งด้วยสามารถแห่งไตรลักษณ์มีไม่เที่ยงเป็นต้น. บทว่า ชาลมุตฺโตว ความว่า บรรดาฝูงนกกระจาบที่นายพรานนกผู้ฉลาดตลบด้วยข่ายจับเอาอยู่ นกกระจาบบางตัวเท่านั้น ย่อมหลุดจากข่ายได้ ที่เหลือย่อมเข้าไปสู่ภายในข่ายทั้งนั้น ฉันใด; บรรดาสัตว์ที่ข่ายคือมารรวบไว้แล้ว สัตว์เป็นอันมาก ย่อมไปสู่อบาย, น้อยคนคือบางคนเท่านั้น ไปในสวรรค์ คือย่อมถึงสุคติหรือนิพพานฉันนั้น. ในเวลาจบเทศนา นางกุมาริกานั้นดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล. เทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชน.
พระพุทธองค์ เป็น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
ยังกล่าวอนุโมทนาผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
ก็มีแต่คนที่มืดบอด ไม่รู้หนทางธรรมเท่านั้น ที่ไม่รู้จักกล่าวอนุโมทนาสาธุแก่ผู้อื่น
อนุโมทนาสาธุครับ
จากคุณ |
:
กระบี่นางฟ้า
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ธ.ค. 55 20:52:36
|
|
|
|
|