PANTIP.COM : Y5290959 ทำไมพระพุทธเจ้าก็ไม่เป็นผู้หญิง []

ความคิดเห็นที่ 3

ผมจะอธิบาย ในเชิงวิทยาศาสตร์นะครับ

พระพุทธองค์ ทรงตรัสว่า กรรมเก่า ก็คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ผัสสะ แห่งทวารหก นี้ ก่อให้เกิด เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ

ในทางการแพทย์และการวิจัยทางจิตวิทยาพบว่า เพศหญิงมีทวารทั้งหกที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่าเพศชายถึงประมาณ 3 เท่าตัว

เธอจะมีดวงตาที่มองเห็นสีสันได้กว่า 200 เฉดสี ในขณะที่เพศชายแยกได้ไม่ถึง 50 เฉดสี และมุมมององศาของการเห็นของผู้หญิงก็มากกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด เธอสามารถมองไปทางข้างๆได้โดยไม่ต้องหันศีรษะ เพราะดวงตาผู้หญิงเคลื่อนตัวได้โดยอิสระมากกว่าผู้ชายมาก ผู้ชายจะมองไปทางข้างหน้าเท่านั้น ผู้ชายจึงค้อนหรือชายตาไม่เป็น ดังนั้นจุดอ่อนของผู้หญิง ทางทวารนี้ จึงยากที่จะป้องกัน และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมผู้หญิงจึงหลงใหลในสีที่ฉูดฉาดของการแต่งกาย ชื่นชอบในความวูบวาบของเครื่องเพชร ความวาววับของทองคำ มากกว่าผู้ชาย

หูของผู้หญิง สามารถแยกแยะเสียงต่างๆได้ชัดเจนกว่าผู้ชาย และความไวสูงมาก แม้ว่าเพื่อนจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องเธอห่างออกไปสิบเมตร ถ้าเธอตั้งใจจะฟัง ก็ได้ยินและรู้รายละเอียดด้วยว่าเป็นเสียงใคร แม่ลูกอ่อนที่นอนหลับกลางตลาดสดท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม เธอสามารถตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงลูกร้องเพียงนิดเดียว เมื่อประสาทหูทำงานอย่างทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ ทำให้การควบคุมจิตเป็นไปได้ยาก และต้องใช้กำลังของสติมากกว่าเพศชาย

จมูกก็เช่นกัน ผู้หญิงมีจมูก ที่ไวต่อกลิ่น มากกว่าเพศชาย และเธอจะรับรู้กลิ่นผิดแปลกปลอมเพียงนิดในตัวของสามีได้ มีผลการวิจัยแล้วด้วยว่า ผู้หญิงใช้กลิ่นเป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกคู่ ดังนั้นถ้าเจ้ากรรมนายเวรคิดจะสนองตอบด้วยการหาคู่กรรมให้ ก็จะใช้กลิ่นเป็นตัวล่อให้ติดกับ เช่นเดียวกับลิ้น ความหลากหลายในการลิ้มรสชาติของลิ้นในผู้หญิงสูงกว่าผู้ชายมาก และเพราะความหลากหลายนี้เองทำให้ นักปรุงอาหารชื่อดังส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงไปยึดติดที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมากเกินไป

สำหรับวจีกรรมที่จะออกมาโดยใช้ลิ้นเป็นเครื่องมือก็เช่นกัน ผู้หญิงจะต้องพูดไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000 คำ ถ้าน้อยกว่านี้เธอจะอึดอัด ในขณะที่ผู้ชาย บางวันพูดไม่ถึง 1,000 คำ เขาก็รู้สึกเฉยๆสบายใจ

กายสัมผัส ก็เป็นจุดอ่อนที่สำคัญเพราะกายสัมผัส มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุด ถ้าเราคลี่ผิวหนังของเราออกมาจะพบว่าพื้นที่สัมผัสมากกว่าพื้นที่ประตูห้องเสียอีก ผิวหนังชั้นนอกของผู้หญิงบอบบางกว่าผู้ชาย 3 เท่าและประกอบไปด้วยระบบประสาทมากกว่าด้วย ดังนั้นผู้หญิงจะรับรู้อารมณ์ความรู้สึกผ่านทางกายสัมผัสได้ไวกว่าผู้ชายอย่างน้อย 3 เท่าตัว จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผู้หญิงจึงใช้กายสัมผัสเป็นกิจวัตร เราจะเห็นผู้หญิงเดินจูงมือเพื่อนหญิงด้วยกันอยู่เป็นประจำ เพราะพวกเธอสามารถสื่อความรู้สึกซึ่งกันและกัน ผ่านการสัมผัส แต่สำหรับผู้ชาย ถ้าคุณเห็นเพื่อนผู้ชายเดินจูงมือเพื่อนผู้ชายล่ะก็ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าทั้งสองคนต้องผิดปกติแน่ๆ เพราะผู้ชายไม่สามารถสื่อความรู้สึกผ่านทางผิวหนังได้ชัดเจนเท่าผู้หญิง

การทำงานของสมองผู้หญิงก็ต่างจากผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด ผู้ชายจะใช้สมองซีกซ้ายเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นสมองส่วนเหตุผล ตรรกศาสตร์ แต่ผู้หญิง จะใช้สมองซีกขวา ซึ่งเป็นส่วนของอารมณ์ ความรู้สึก ดังนั้นผู้หญิงจะสะเทือนใจ มีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าผู้ชาย เมื่อเกิดรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส คลื่นประสาทจะส่งไปตีความในสมองซีกขวาของผู้หญิง ดังนั้นอารมณ์ที่เกิดขึ้นจะลึกซึ้งกว่าผู้ชาย

เมื่อเราได้รับรู้แล้วว่า ทวารทั้งหก อันเป็นทางที่วิบากกรรมส่งผลผ่านเข้าสู่ร่างกาย ในเพศหญิงทรงประสิทธิภาพมากกว่าเพศชายขนาดนี้ จึงต้องเข้าใจว่า เพศหญิงจะต้องใช้กำลังของสมาธิจิต กำลังของสติ สูงกว่าเพศชายไม่น้อยกว่าสองเท่าตัวในการเอาชนะเจ้ากรรมนายเวร และถ้าเพศหญิงมีสมาธิจิต ถึงขั้นมีสติร้อยเปอร์เซ็นต์จนบรรลุอรหันต์ได้ แสดงว่า กำลังสติของเธอ ก็จะต้องมากกว่า เพศชายที่บรรลุอรหันต์หลายเท่าเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่เพศหญิง จะสามารถบรรลุได้ในชาติภพเดียว แม้ว่าจะปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดตามหลักวิปัสสนากรรมฐานก็ตาม เพราะรูปธรรมไม่เอื้ออำนวย เธอจะต้องเก็บกำลังสติ สมาธิจิตที่มีเป็นต้นทุนสำหรับการเกิดใหม่ในชาติภพต่อไป

การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ในขณะที่กำหนด กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา เช่น ได้ยินหนอ คันหนอ ได้กลิ่นหนอ คิดหนอๆๆ ฯลฯ ทั้งหลายเหล่านี้ เพศหญิง จะต้องใช้กำลังสติในการกำหนดสูงกว่าเพศชายมาก ทำให้สูญเสียพลังไประหว่างญานระดับขั้นต่างๆ มากเกินไป จนยากที่จะขึ้นถึงญานที่ 16 ได้

ตอบยาวไปหน่อย แต่ เรื่องวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนา ผมได้อธิบายไว้อย่างละเอียดในหนังสือ "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" พุทธศาสนาสามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เพราะพุทธะ เป็นยิ่งกว่าวิทยาศาสตร์

จากคุณ : ปัจจตัง (ปัจจตัง) - [ 4 เม.ย. 50 22:01:44 ]