ความคิดเห็นที่ 1 เลือกเรียนวิทย์ไปค่ะ สำหรับเราแม่ที่มาบังคับ มาคิดแทนลูกเนี่ยน่าจะหมดไปจากสังคมปัจจุบันได้แล้วนะ ลูกเรียนจบมัธยม มีความคิดอยากเรียนมหาลัย แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่ละ ยังจะมาบังคับลูกอีก สรุป อะไรเรียนหนักกว่า ไม่ต้องสนใจค่ะ เลือกเรียนที่เราชอบที่สุด เรียนแล้วจะมีความสุขกับมันที่สุด สุดท้ายแล้วน้องก็จะอยากไปเรียนทุกวัน จบมาเป็นนักวิทย์ แพทย์เรียน หกปี วิทย์เรียนสี่ เรียนปีก็เยอะกว่า ยากกว่า กดดันกว่า แพงกว่า แถมไม่ชอบมาตั้งแต่แรก เรียนเพราะถูกบังคับ เรียนเพราะคนอื่นอยากให้เรียน คิดเอานะ ว่าควรเรียนแพทย์ไหม จากคุณ : THe Capital Monkey เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:38:15

ความคิดเห็นที่ 2 เลือกที่ชอบค่ะ ลองอธิบายเหตุผลให้แม่ฟัง พี่ว่าแม่น่าจะเข้าใจ เพราะถ้าเราทำในสิ่งที่เราชอบ เราจะทำมันได้ดีกว่า สิ่งที่เราไม่ได้ชอบ จากคุณ : mint_narak เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:38:49

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าต่างกันเยอะนะครับ ส่วนตัวไม่ได้เรียนทั้งสองสายคงตอบอะไรไม่ได้ แต่ผมคิดว่าให้คิดถึงเวลาทำงานครับ อยากจะทำอะไร ดีกว่า ถ้าเป็นแพทย์จะรับได้ไหมกับการทำงาน เคยลองไปดูหรือยัง หรือถ้าสายวิทย์จะเข้าไปเรียนอะไร จบมาจะทำงานเกี่ยวกับอะไร มองข้างหน้าไกล ๆ คุยกับตัวเองเยอะ ๆ และวางแผนชีวิตตัวเองดี ๆ ครับ ไม่งั้นอาจจะต้องซิ่วออกมาเหมือนเพื่อนผมหลาย ๆ คนที่บอกกับผมว่าเลือกคณะผิด จากคุณ : โกโก้ โก๋บางไทร เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:39:53

ความคิดเห็นที่ 4 แพทย์เรียนหนักกว่าจ้า เรียนpreclinic 3ปี ขึ้นclinic อีก3ปี แต่วิทยาศาสตร์เรียน4ปีมีหลายแขนง แล้วแต่หนูชอบอะไร สามารถเรียนต่อได้จนจบด็อกเตอร์ ทุนเรียนต่อเยอะ สมัยนี้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ใหม่มีมากให้ศึกษา ต้องการคนเก่งไปพัฒนาประเทศด้วย แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 00:43:07 จากคุณ : ลอนดอนคิดซ์ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:42:45

ความคิดเห็นที่ 5 มันหนักคนละแบบอ่ะค่ะ แพทย์จะออกแนวapplied science  นำความรู้มาประยุกต์ใช้ มันเชื่อมโยงชีวิตประจำวันมากกว่านะ วิทยาศาสตร์  จะเป็นแนวpure science  วิทยาศาสตร์ล้วนๆๆๆ ขึ้นอยู่กับความชอบนะคะ แต่ถ้าคนทั่วไปคงบอกว่าแพทย์หนักกว่า และที่สำคัญ คะแนนสูงกว่าแน่นอน แต่โดยส่วนตัวเรา เราเป็นคนไม่เก่งวิทย์มาก เลยชอบเรียนแบบแพทย์มากกว่าอ่ะ ชอบพบปะผู้คน ชีวิตวุ่นวาย 5555 มันสนุกดีแม้จะยากมากๆๆก็ตามที เรียนแล้วมันทำให้เข้าใจสิ่งรอบๆตัวมากขึ้น การทำงานของร่างกาย มันดูใกล้ตัว เข้าใจง่ายกว่า แต่ถ้าให้เราไปเรียนวิดยา คงกลั้นใจตาย ไม่ไหวแน่TT สำหรับเรามันทั้งยากและน่าเบื่อ เวลาเดินผ่านตึกคณะวิดยาทีไร เห็นห้องเงียบๆ ตึกเงียบๆ แต่ละห้องมีคนทำการทดลองโน่นนี่ง่วนอยู่ห้องละ2-3คน ถ้าชีวิตเราเป็นแบบนั้นเราคงไม่มีความสุข มันเงียบเหงาอ่ะ เรียนอะไรก็ดูไกลตัว อันนี้เป็นมุมมองส่วนตัวของเรานะคะ หลายคนชอบคิดว่าวิดยาเป็นคณะรอซิ่ว แต่สำหรับเรา คนที่ตั้งใจเรียนวิดยาจริงๆนี่เจ๋งมากเลยนะ^^ จากคุณ : เด็กหญิงน่ารัก เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:00:26

ความคิดเห็นที่ 6 มันหนักต่างกันน่ะค่ะ ถ้าน้องถนัดในสิ่งๆนั้น น้องก็จะทำมันได้ดีและมองว่ามัน ไม่ยาก ซึ่ง ณ จุดนี้คงตอบให้ไม่ได้ว่าคณะอะไรที่ยากกว่ากัน มันอยู่ที่ตัวน้องเอง แต่สิ่งนึงที่สำคัญคือต้องเป็นคณะที่เรียนแล้วมีความสุข มันก็จะเป็นอีกแรง ที่ทำให้น้องเรียนได้ดีประสบความสำเร็จ อยากให้เลือกด้วยใจตัวเองจริงๆ ว่าอยากเรียนอะไร เพราะตัวเราเป็นคนเรียน  จบมามันมีงานทำอยู่แล้วถ้าไม่เลือกงาน สุดท้ายก็ สู้ๆนะคะ ช่วงเอ็นท์มันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง คิดดีๆ  พอผ่านเข้ามาในมหาลัย ชีวิตมันโหดร้ายกว่าเยอะ555 จากคุณ : zerjes (zerjes) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:00:30

ความคิดเห็นที่ 7 อ้อ คห.1บอกว่าเรียนแพทย์แพง เรื่องนี้แล้วแต่สถาบันนะคะ เนื่องจากแต่ละสถาบันได้เงินอุดหนุนจากรัฐไม่เท่ากัน ถ้าอยากทราบค่าเล่าเรียนจริงๆก็ดูได้จากม.รังสิต ถ้าจำไม่ผิดก็2ล้านกว่า ส่วนที่รัฐสนับสนุนมีตั้งแต่ค่าเทอมรวมแล้วปีละเกือบแสน บางสถาบัน 6,ปีจนจบก็แค่แสนกว่าๆ เทอมละประมาณหมื่นเดียว ข้อสังเกตคือยิ่งเป็นสถาบันแพทย์เก่าแก่ มีชื่อเสียง ค่าเทอมจะถูกกว่านะ ทั้งนี้ ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาตัดสิน แค่สอบให้ติด เราว่าไม่ว่าที่ไหนก็มีทุนให้ทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงน่ารัก เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:07:38

ความคิดเห็นที่ 8 เลือกที่ชอบค่ะ พี่แนะนำว่าให้อ่านหลักสูตรค่ะ น้องจะรู้ว่าอะไรเีรียนหนัก พี่เรียนสายวิทย์กึ่งๆแพทย์มา แทบจะลากเลือด มันยากนะ นี่ไม่รวมพวกเรียนแพทย์มันเครียดมาก ตัวที่ต้องเีรียนรวมกับแพทย์ ยากจริงจังอ่ะ การเป็นแพทย์หมายถึงการรับผิดชอบชีวิตคน ความเครียดก็เลยเยอะค่ะ ส่วนวิทย์ ก็แล้วแต่สาขานะ อาจจะเป็นฝ่ายสนับสนุนแต่ไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนเท่าแพทย์ คือที่บ้านพี่ไม่บังคับนะ น้องเลือกให้แม่ แล้วให้แม่ดูว่ามันไม่ถึง จบข่าวค่ะ ก็ไ่ม่ติด ก็บอกว่าคะแนนมันถึงอันนี้ นู๋ก็ชอบอยากจะเรียน หาข้อมูลของคณะที่น้องอยากเรียนให้ดีค่ะ เอาเหตุผลไปลบล้างความคิดของแม่ให้ได้ค่ะ สู้ๆ ชีวิตของเรา เราเลือกเองโดยมีผู้ใหญ่ให้คำปรึกษา แต่ไม่ใช่คนที่ชี้นิ้วให้เราทำ เพราะในวันนึงเราโตขึ้นเค้าไม่สามารถจะชี้ทางเดินเราไปตลอดทั้งชีวิตได้หรอกค่ะ ^^ จากคุณ : เกิดจากความรัก เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:21:19

ความคิดเห็นที่ 9 เอ่ออ งงกับคุณแม่คุณนะครับ ผมว่าเรียนหมอไม่ว่าสาขาไหน โหดกว่าคณะวิทย์แน่นอน ไม่งั้นหมอจะเรียนกัน 5 ปี 6 ปีหรอครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 02:01:50

ความคิดเห็นที่ 10 อยากเรียนวิทยาศาสตร์สาขาไหนเหรอคะ มันกว้างมากเลยนะ แต่ก็อย่าที่ความเห็นบนๆ บอก เลือกเรียนที่อยากเรียนนะคะ จากคุณ : เป็นแค่เพียงเม็ดทรายบนชายหาด เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 02:10:19

ความคิดเห็นที่ 11 1. หมอเรียนหนักกว่า เเละ คู่เเข่งโหดกว่า 2. ทำคะเเนนให้ถึงก่อนค่อยกังวลก็ได้น้ะน้อง จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 02:37:32

ความคิดเห็นที่ 12 อยากให้แม่มีความสุข... กับ งานที่เราชอบในอนาคตตอนเรียนจบ... จากคุณ : It's Muen เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 04:56:23

ความคิดเห็นที่ 13 หมอเรียนหนักกว่าเย๊อะะะะะะะะะะะะะะ เพราะถ้าพลาดนั่นคือชีวิตคน จากคุณ : ฉู่ฉี่ไข่เจียว เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:25:44

ความคิดเห็นที่ 14 ทันตะ ก็ OK อยู่นะครับ ส่วนคณะวิทย์ ก็ต้องชัดเจนกว่านี้นะครับ ว่าจะเรียนสาขาอะไร จบแล้วทำอะไร ส่วนแพทย์ เคยเห็นบางคนสอบติดได้ แต่ไม่เอา ไปเรียนเภสัช จบเภสัชแล้ว สุดท้ายก็กลับไปเรียนแพทย์ใหม่อีกรอบ คนเราโตขึ้น ความคิดอาจเปลี่ยนไปก็ได้ ตอนเด็กๆ อาจกลัวมากไปหน่อย กลัวในสิ่งที่ยังไม่เคยสัมผัส ไม่เคยเจอ แต่ถ้าได้ลองทำ เราอาจจะทำได้ก็ได้ จากคุณ : Dragonfly7Colors (Dragonfly7Colors) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:58:52

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าไม่ชอบแพทย์ อย่าเรียนแพทย์เลย ขนาดคนที่ชอบบางคนพอเรียนจริงๆยังมีเปลี่ยนความคิดเลย เรียนอะไรก็ยากทั้งนั้นแหละค่ะ แต่เรียนหมอความรับผิดชอบมันก็สูงหน่อย ความเครียดคิดว่ามากกว่าเรียนวิทย์นะ เหนื่อยหนักๆหน่อยก็ตอนเรียน clinic (ปี4-6 แต่ปี6 จะเหนื่อยมากเป็นพิเศษ) จบมาถ้าอยู่ รพ รัฐฯ เวลาส่วนตัวมีน้อย งานหนัก คนไข้วีนเหวี่ยง พ่อแม่ไม่ได้ไปดูแลหรอก วันหยุดราชการทีไรใจจะขาด เพราะไม่ได้ค่อยจะได้หยุดกะชาวบ้าน รับได้ไม๊ ต้องคิดไปถึงตอนทำงานด้วยนะคะ ส่วนคณะวิทย์เห็นเพื่อนเรียน (ป.โท) มีต้องนอนเฝ้า lab เร่งงาน เหมือนกัน ถ้าชอบวิทย์ คิดว่าเลือกวิทย์ดีกว่าค่ะ แต่ถ้าได้ทันตะ แนะนำทันตะนะ เครียดน้อยกว่า เรียนสบายกว่าหมอหน่อย(ตอนเรียนมีวันหยุด ไม่ต้องอยู่เวร ตอนทำงานเวรไม่เกินสี่ทุ่มมั้ง) จบมามีงานแน่นอน เงินเดือนเยอะ (บางทีเยอะกว่าหมออีก) ชีวิตเรา...ใช้ซะ เอ๊ยย ไม่ใช่!! มันคือชีวิตเรา อนาคตเรา คิดให้ดี ตัวเราน่าจะรู้จักตัวเองที่สุด จะได้ไม่มาเสียใจคิดว่า รู้งี้ตอนนั้นเลือก.....ดีกว่า ขอให้สมหวังนะคะ ^^ จากคุณ : ... (sero_cannabis) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:00:35

ความคิดเห็นที่ 16 ลองสอบแพทย์ดูครับ ถ้าไม่ติดก็บอกแม่ จะได้ไม่มีอะไรคลางแคลงใจ จากคุณ : คนไม่พิเศษ "ซาคุ" เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:42:08

ความคิดเห็นที่ 17 เรียนวิทย์ ยากกว่าตอนหางานครับ แพทย์ แม้จะเรียนหนัก แต่ก็มีงานรองรับ ไปได้หลายทาง แต่ถ้าเป็นถ้าเราเก่ง เราชอบ เรียนวิทย์จบไปก็ไม่ต้องกลัว ครับ จากคุณ : คลอโรพลาสต์ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:46:52

ความคิดเห็นที่ 18 อันไหนหนักกว่านี่ผมไม่รู้ แต่ผมเห็นคนที่ก้าวหน้า เขาทำงานเพราะรักในงานนั้น เลยมีความสุขกับงานไปด้วยทำให้ไม่รู้สึกว่าหนัก และเป็นโชคดีของผมที่พ่อแม่เรียนจบแค่ประถม และมัธยม ท่านจึงบอกผมว่าท่านไม่มีความรู้ เอ็งอยากเรียนอะไร เอ็งเลือกเอาเอง บางครั้งผู้ใหญ่ ก็มักจะเอาความฝันของตัวเองไปฝากไว้กับลูกกับหลาน ผมเคยเขียนเรื่องนี้เอาไว้ในบล๊อค ลองจิ้มเข้าไปอ่านดูก็ได้ แล้วถ้ามันโดนใจก็ค่อยเอาไปให้แม่อ่านดูก็ได้นะครับ http://sphere-class.exteen.com/20121120/entry-3 จากคุณ : ความน่าจำเป็น เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:48:35

ความคิดเห็นที่ 19 พี่เรียนคณะวิทย์มา คิดว่าเรียนแพทย์กับทันตะหนักกว่านะ เพราะคนที่มาตัดเกรดด้วยเก่ง ๆ ทั้งนั้น ดูจากคะแนน เอนท์ก็บอกได้ระดับนึงนะว่าคณะไหนโหดกว่า เข้ายากและต้องไปตัดกับเด็กเก่งเยอะ ๆ แม่น้องเข้าใจผิดไปนะคะ ว่าอย่างน้องเรียนคณะวิทย์ ไม่ไหวหรอก ลองหาทุนคณะวิทย์ดูนะคะ แม่แทบ ไม่ต้องส่ง มีทั้ง พสวท ศรีตรังทอง ถ้าชอบคณะวิทย์ เลือกวิทย์ดีกว่าค่ะ แต่ชอบเอกไหน ก็ต้องเลือกต่อด้วย จากคุณ : chinchang&jaejung เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:58:53

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านแล้วงง ประเด็นอยู่ที่คะแนนด้วยรึเปล่าตอนนี้ ถ้าคะแนนไม่ถึงก็คงต้องดูคณะอื่น ๆด้วย แพทย์ก็หนักกว่าในหลายจุด  คิดง่าย ๆนะ คนเก่งเยอะ ดังนั้นแต่ละวิชาก็ตัดคะแนนสูง-โหด แล้วน้องต้องคิดไปถึงตอนเรียนจบทำงานด้วย ทำได้รึเปล่าชอบรึเปล่า ทำได้รึเปล่ารับผิดชอบสุขภาพร่างกายชีวิตคนไข้ ส่วนวิทยาศาสตร์ อาจไม่ตัดโหดเท่าแพทย์ แต่ใช่ว่าไม่หนัก เตือนไว้เลยเผื่อใครมาอ่านเจอ ที่คิดว่าวิทยาศาสตร์เป็นคณะทางเลือก มีเยอะนะที่โดนรีไทร์ตั้งแต่ปีแรก เห็นทุกปีวันเกรดออกจะมีปีหนึ่งไปติดต่อทะเบียนคณะเต็มไปหมด ซึ่งบอกเลยว่าคณะไม่ช่วย เพราะมันเยอะมาก !! ลองหาข้อมูลดี ๆแต่ละคณะเรียนอะไรบ้าง สู้ ๆ มีอะไรถามได้นะจ๊ะ :) จากคุณ : star anise เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:01:56

ความคิดเห็นที่ 21 สอบกสพท ไปหรือเปล่า สอบโควต้าหรือเปล่า สอบตรงยื่นหรือเปล่า ถ้าทั้งสามอันไม่ได้ ก็ต้องรอแอดกลาง ตอนนั้นก็เหลือแค่ทันตะ กะ วิดยาเท่านั้น สอบได้แล้วค่อยเครียดก็ได้นะ ถ้าตอนนี้ผล แกตแพต ไ้ด้แค่วิดยา ไม่เห็นต้องเครียดเลย จากคุณ : อิ้ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:02:48 A:58.9.119.186 X: TicketID:382883

ความคิดเห็นที่ 22 พี่เลือกวิทยาน่ะ ตอนนั้นพี่สอบตรงโควต้าของวิทยาได้ (ทุน + ทำสัญญาเรียบร้อย) ปรากฎผลแพทย์ของ กสพทออก ( ข้อเขียน)  พี่ติดแพทย์ เค้าโทรมาตามให้ไปสัมภาษณ์ ทีนี่ที่บ้านละวุ่นวายกันใหญ่ เอาไงดี สุดท้าย พี่เลือกวิทยาน่ะ เพราะพี่คิดว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่พี่จะอยู่กับมันไปได้ตลอดชีวิต ปล. พี่ไม่ได้ไปสอบสัมภาษณ์เลย จะพูดว่าติดก็คงไม่ได้มั๊ง ปล 2. คนรอบตัวหลายคนบ่นน่ะ ว่าติดหมอทำไมไม่เรียน จะถามว่าพี่เสียดายไหม ให้กลับไปเลือกใหม่ พี่ก็เลือกที่จะเรียนวิทยาค่ะ แต่!!! ถ้าจะเรียนวิทยา ป. ตรี คงไม่พอ ลองดูยาวๆน่ะ มีอะไร ปรึกษาพี่ได้จ้าา แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 09:25:23 จากคุณ : นักดาบเลเวล3 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:22:11

ความคิดเห็นที่ 23 อย่า เลือก แพทย์ เลย แม่น้องจะรับได่มั้ยเนี่ยไม่ได้กลับมลบ้านทุกวันเพราะต้องอยู่เวรตอนเรียน พอทำงานก็ต้องไปใช้ทุนที่อื่น ไปเรียนวิทย์เหอะ จากคุณ : ผมจะรู้ได้ไงว่าใครอยู่ข้างหลัง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:08:41

ความคิดเห็นที่ 24 แพทย์หนักกว่าค่ะ ต้องกลับมาอ่านหนังสือทุกวัน ความรับผิดชอบต้องมากกว่ามาก ต้องเบียดเพื่อนที่เก่งๆกันทั้งนั้นให้เกินมีน เพื่อนพี่อยู่วิทยามีเวลาว่างมากกว่าเยอะ แต่ด้านเนื้อหาตอบไม่ได้นะไม่เคยเรียนวิทยา ตอนนี้ก็ตั้งใจอ่านหนังสือสอบตรงไปก่อน (สอบตรงคณะอะไร?) - จขกท.ลองคิดก่อนว่าที่ไม่เลือกเรียนแพทย์มาเลือกวิทยาเพราะการเรียนหนักเหรอ แล้วพอแม่บอกว่าวิทยาหนักกว่าเลยจะเบนไปแพทย์? หรือว่าชอบคณะวิทยาศาสตร์มากกว่า ถ้าเป็นอย่างหลังก็เลือกวิทย์ไป ถ้าเป็นอย่างแรกให้ลืมเรื่องการเรียนหนักไปเลยให้คิดถึงความชอบจริงๆ เพราะถ้าชอบแล้วหนักแค่ไหนมันก็เรียนได้เองแหละ - ถ้าจขกท.เลือกวิทย์มากกว่าแพทย์ ก็ค่อยมาคิดว่าถ้าอยากได้วิทยามากกว่าทันตะด้วยเหตุผลเพราะชอบมากกว่า เลือกรับตรงวิทยา แต่ถ้าชอบทันตะพอๆกับวิทยา ไปแอดก็เลือกทันตะไว้สองอันดับแรก (ถ้า+/-ไม่แย่ไปนะ) อันดับสามสี่ก็เลือกวิทยา แต่ต้อง+เยอะๆเลยนะเพื่อความปลอดภัย จากคุณ : หิมะสีนํ้าเงิน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:45:15

ความคิดเห็นที่ 25 - จขกท.เป็นเด็กซิ่วใช่หรือปล่าว เพราะเคยยื่นคะแนนแล้วสอบไม่ติดทันตะ + โค้วต้าแพทย์ - พี่ว่าปัญหาของน้องคือสอบไม่ติดทันตะ + แพทย์มากกว่า  ส่วนคุณแม่ก็กดดันให้ลูกสอบให้ติด - อีกอย่างแม่บอกว่าน้องเรียนวิทย์ไม่ไหวแต่เรียนแพทย์ได้ง่ายกว่า  อันนี้สงสัยว่าเอาอะไรมาิคิด มิน่าถึงสอบทันตะ + แพทย์ไม่ติด จากคุณ : pigytwo (pigytwo) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 11:25:57

ความคิดเห็นที่ 26 เลือกที่ชอบนะคะ เอาแบบที่เรียนแล้ว สบายใจ ใช่เลย จากคุณ : กุหลาบสีเพลิง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 12:10:41

ความคิดเห็นที่ 27 เราไม่ได้เรียนแพทย์ค่ะ แต่คิดว่าแพทย์หนักกว่า แค่จำนวนปีก็มากกว่าแล้ว วิชาที่เรียนก็หนัก มีนัดเรียนนอกตาราง ต้องเรียนแข่งกับเพื่อนร่วมคณะอีก จบมาทำงานหนัก ความรับผิดชอบสูงมาก ทันตะนี่ก็เรียนหนัก เรียนทั้งร่างกายเหมือนกันไม่ใช่แค่ฟันอย่างเดียว ทำแลบเยอะมาก ถ้าไม่ได้ชอบจริงแล้วต้องเรียนนี่คงหนักน่าดู - -" แต่วิทย์ก็หนักเหมือนกันนะ เลือกสิ่งที่คิดว่าอยากเรียนดีกว่าค่ะ จากคุณ : monamour911 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 14:34:58

ความคิดเห็นที่ 28 ความจริงไม่อยากให้มองว่าคณะไหนเรียนหนักเลยครับ ผมคิดว่าเรียนหนักทุกคณะแหละครับ แต่เราก้อจะอดทนเรียนผ่านไปได้แน่นอนครับ แค่4-6ปี มันเป็นระยะเวลาไม่นานครับ แล้วไม่ต้องกลัว คนเราฝึกมาแล้วทำงานได้แน่นอนครับ ไม่ว่าสาขาไหน มันไม่หนักหรือเหนื่อยเกินความสามารถหรอกครับ อยากให้มองอนาคตเวลาทำงานมากกว่าครับ ว่าอยากทำงานแบบไหน ได้ค่าตอบแทนมากเพียงใด ซึ่งเราจะอยู่กับการทำงานมากกว่าการเรียนครับ และจะส่งผลต่อชีวิตของเราในทุกๆด้านครับ เพราะมันจะมีค่าตอบแทนที่เรียกว่า "เงิน" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงค์ชีวิตนะครับ ผมอยากให้เลือกเรียนในสิ่งที่อยากเป็น เพราะนั่นคือตัวตนของเราในอนาคตครับ อาชีพจะระบุตัวตนของเราไปตลอดชีวิต ระบุหน้าที่ในสังคมบนโลกนี้ของเราครับ อยากให้มองไกลๆครับ อย่ามองใกล้ๆแค่ว่าอยากเรียนอะไรนะครับ มองว่า "ฉันอยากเป็นใคร" ในอนาคต ในสังคมนี้ จะดีกว่าครับ จากคุณ : pamper เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 16:32:03

ความคิดเห็นที่ 29 พี่ขอตอบสั้นๆ คร่าวๆ  ไม่มีเวลาเขียนเยอะ เพราะกำลังเตรียมตัวเดินทาง ให้ไปเข้าค่ายอยากเป็นหมอ อยากเป็นทันตะ อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ตามมหาวิทยาลัยต่างๆก่อนค่ะ แล้วจะรู้เบื้องต้นว่าตนเองจะเหมาะสมกับคณะไหน  แล้วค่อยตัดสินใจเลือก บางครั้งน้องอาจค้นพบตัวตนที่แท้จริงก็ได้ค่ะ หรืออาจจะพบว่าตนเองไม่ได้ถนัดทั้ง 2-3 คณะนั้นเลย สอบถามเพิ่มเติมได้ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ ตอบคำถาม แพทย์เรียนหนักกว่าค่ะ จากคุณ : ณินทร์ลดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 20:47:27

ความคิดเห็นที่ 30 คะแนนแพทย์สูงกว่าคณะวิทย์ลิบลิ่วเลยค่ะ จากคุณ : Buongiorno เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 22:12:55

ความคิดเห็นที่ 31 กลับมาตอบต่อ พี่อยากให้น้องเลือกเรียนในสิ่งที่อยากเรียน โดยการไปเข้าค่าย born to be ต่างๆ บางครั้งอาจจะเจอตัวเองว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร หากตัดสินใจได้แล้ว ก็มาหาข้อมูลในคณะนั้นๆ ว่ามีที่ไหนบ้าง คะแนนพอจะไปที่ไหนได้  มองอนาคตด้วย หากจะเรียนแพทย์ ทันตะ แต่คะแนนแอดไม่ถึง ก็อาจเลือกเอกชน ค่าเรียนประมาณ 3 ล้านกว่าบาท กู้ กยส. ได้ประมาณ 9 แสนมั้ง  หรือไปเรียนต่างประเทศก็ได้ หากไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แล้วมาสอบ licence เอา หากเรียนในคณะที่ทางบ้านบังคับจะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต อันนี้จากประสบการณ์ตรงของครอบครัวเลยค่ะ  บ้านพี่คุณพ่อจะ plan เรื่องการเรียนให้ลูกตั้งแต่เด็กๆ โดยดูจากนิสัย บุคลิกภาพ พี่สาว เรียนวิศวะที่ธรรมศาสตร์ ตอนหลังคุณพ่อให้ลาออกมาเอ็นแพทย์ โดยให้เลือกแพทย์ศิริราชอย่างเดียว หากเอ็นไม่ติดให้กลับไปเรียนวิศวะที่ธรรมศาสตร์ใหม่ สรุปเขาเอ็นติดแพทย์ศิริราชและจบเกีรยตินิยม จบเฉพาะทางศิริราช ตอนจบใหม่จะไปใช้ทุนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่ทางบ้านไม่ให้ไป  ตอนแรกๆ ทำงานเค้ามีความสุขดีค่ะ แต่หลังจากนั้นเค้าทุกข์เพราะโดนฟ้องเนื่องจากคนไข้แพ้ยา ระหว่างโดนฟ้องได้ทุนไปเรียน subboard ทางด้านโรคติดเชื้อ พอโดนฟ้องปุ๊บตัดสินใจไม่ไปเรียนเลยค่ะ  ทุกวันนี้เป็นแพทย์แบบหมดกำลังใจ  พี่พยายามไซโคให้เค้าลาออกจากราชการไปอยู่เอกชน เค้าบอกมาว่า "หากลาออกไปอยู่เอกชน แล้วใครจะมาดูแลเด็กติดเชื้อ HIV ที่ รพ. รัฐบาล" (ในจังหวัดมีเค้าคนเดียวที่มุ่งมั่นรักษาเด็กติดเชื้อ HIV) ระหว่างเรียนเหนื่อยมากค่ะ และไม่มีเวลาเลย แต่เค้าก็สู้ เพราะเค้าเป็นคนที่ไม่คิดอะไรมาก ใจเย็น และเป็นคนเรียนเก่ง พี่ชาย อยากเรียนแพทย์ คุณพ่อให้ไปเรียนนายร้อยตำรวจ จบนายร้อยตำรวจอันดับต้นๆ ของรุ่น วันแรกที่คุณพ่อไปส่งที่เตรียมทหาร คุณพ่อบอกว่า "ขอให้อดทนนะและตบหลังแบบให้กำลังใจ" เค้าเล่าว่า ไม่รู้หรอกว่าทำไมคุณพ่อถึงบอกแบบนั้น พอได้เข้ามาเรียน รู้ซึ้งเลยกับการฝึกที่โหดและหนัก แต่ก็จบมาได้ พอมาถึงเวลาทำงานเขากับเข้ากับพวกตำรวจไม่ได้ เช่น มีคำสั่งให้ทำผิดเป็นถูก เถียงนายไปเรื่อยๆ ไม่ทำตามคำสั่ง โดนเด้งเป็นลูกปิงปอง ในที่สุด ลาออกในยศ พตท. มาทำธุรกิจสบายใจไปแล้ว ส่วนพี่ ก็อยากเรียนแพทย์ คุณพ่อบอกว่าบ้านเรามีแพทย์แล้ว แต่ยังไม่มีนักกฎหมาย เลยให้พี่เรียนกฎหมาย ตอนเรียนก็เรียนได้ แต่ไม่ได้จบเกีรยตินิยม ตอนเรียนก็รู้ได้ว่า "จะไม่เป็นทนายความเด็ดขาดเพราะไม่ชอบวิชาชีพทนายความ" "จะไม่เป็นนิติกรเด็ดขาดเพราะไม่ชอบ" พี่จะไม่เดินสายอัยการหรือตุลาการ เพราะชีวิตนี้ยังมีอะไรบนดลกให้เรียนรู้อีกเยอะ เลยเบนสายมาทำด้านวิชาการ งานวิจัยต่างๆที่ต้องใช้กฎหมาย กฎระเบียบในการแก้ไขปัญหาในหน่วยงานของรัฐ  เหนื่อยบ้าง สนุกบ้าง ท้อบ้าง ตามสถานการณ์ แต่สายกฎหมาย หากใครได้สัมผัสในระยะหนึ่งแล้วจะรู้สึกว่าเหมือนตนเองมีกรรม เพราะสายนี้มันร้อน ที่ครอบครัวพี่บังคับให้ลูกๆเรียนแตกต่างกันไป เพราะเวลาใครมีปัญหาจะได้ช่วยเหลือกัน แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 23:59:44 แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 23:58:27 แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 23:56:22 จากคุณ : ณินทร์ลดา เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:52:50

ความคิดเห็นที่ 32 สายกฏหมายมันร้อนนี่มันคือยังไงคับ ผมไม่ค่อยเข้าใจ ขอเป็นความรู้ติดตัวหน่อยคับ ละเอียดๆ จากคุณ : pamper เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 09:22:47

ความคิดเห็นที่ 33 บอกตรงๆว่าวิดยาสายไม่แข็งจริงอยู่ไม่ได้นะคะ วิดยาจุฬานี่เรียนหนักมากค่ะ เคยเห็นตารางแล้วแบบ..ยิ่งถ้าเป็นสาขาดังๆคะแนนสูงๆนี่ยิ่งหนักค่ะ มีเพื่อนเรียนเคมีกับเคมีวิศวกรรมมันแทบจะกระอักเลือดตาย เรียนหนัก โหด หินมากๆ ปีๆนึงคนลาออกเยอะมาก ปีนี้ก็ออกไปครึ่งนึงแล้วมั้ง(ตามที่ได้ยินมานะ) ที่สำคัญคือวิดยาหางานยาก ถ้าไม่ใช่พสวท.ทุน หรือไม่เก่งจริงนี่ อยู่ยากค่ะ ที่เห็นจะมีต่อโทต่อเอก เป็นอาจารย์มหาลัย ครูอะไรพวกนี้ ส่วนจขกท.หมอกับวิดยานี่เทียบกันตรงๆไม่ได้นะคะ มันเรียนคนละอย่าง คะแนนหมอ ทันตะสูงมาก คนเก่งเยอะ การแข่งขันต้องมีอยู่แล้วคงไม่มีใครอยากเป็นที่โหล่ของคณะหรอก ซึ่งแน่นอนว่าจบออกมาอนาคตดี มั่นคง รายได้ดี แต่ซึ่งที่ต้องแลกไปคือเวลา สมอง และการอุทิศตนค่ะ ถ้าคิดว่าทนได้ก็ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ไปอ่านหนังสือสอบกสพท.เถอะ จากคุณ : อย่าอมข้าวสิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 15:11:09

ความคิดเห็นที่ 34 RE 32 เอาละเอียดเยยเหรอค่ะ  ขอย่อๆ ก่อนนะคะ ที่ว่ามันร้อนก็คือ กฎหมายคืออาวุธ สามารถทิ่งแทงคนอื่นๆได้เสมอแม้กระทั่งผู้ใช้กฎหมายเอง แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 55 08:56:04 จากคุณ : ณินทร์ลดา เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 21:03:28

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณคับ คุณ มุณินทร์ลดา เอิ้กๆๆๆๆ จากคุณ : pamper เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 22:04:13

ความคิดเห็นที่ 36 ^ อ่านแล้วขออนุญาตลบบางข้อความ เพราะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับปัญหาเรื่องงานใน Public อ่ะค่ะ จากคุณ : ณินทร์ลดา เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 08:58:03

ความคิดเห็นที่ 37 มันก็ยากคือๆกันนะ วิทย์กับแพทย์ แต่อยู่ที่ว่าใจเรารักอะไรมากกว่ากัน วิทย์ก็ต้องจำแม่นแพทย์ก็ต้องจำแม่น แพทย์ต้องวิเคราะห์แม่นยำ ส่วนวิทย์ก็ต้องวิเคราะห์แม่นยำ กินกันไม่ลงจริงๆ แต่ถ้าในความคิดแพทย์ยากกว่าน่ะ จบมาแล้วก็ต้องมาดูแลชีวิตคนมากมาย ส่วนวิทย์นี่คิดว่าความลับผิดชอบนั้นยังน้อยกว่าแพทย์น่ะ จากคุณ : พัทตานี เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 12:32:28