Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ใกล้แค่ไหนคือไกล / ไกลแค่ไหนคือใกล้ ? vote ติดต่อทีมงาน

เราเคยออกเดทครั้งแรกกับผุ้ชายคนหนึ่งที่เคยเจอกันรู้จักกันในการแข่งขัน Scrabble ตอนม.​ ๒

เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่นั้นจนกระทั้งเรียนมหาลัยด้วยกัน ( แต่คนละคณะ )
หลังจากเปิดเรียนชั้นปี ๑ เทอม ๒ ได้ไม่นาน เขาคงเห็นว่าเรามีผู้ชายมาจีบเยอะมั้งเลยขอให้เราไปเดทด้วยกัน
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็แค่ชอบที่เขาตรงไปตรงมาและใส่ใจเรามาตลอด
ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธอะไร
๑๐ ธันวาคม เป็นวันรัฐธรรมนูญที่เราไม่รู้ว่ามันมีความหมายอะไร ก็แค่ดีใจที่ได้หยุดเรียน

เรานัดกันไปออกเดทครั้งแรกในวันหยุดรัฐธรรมนูญนี่เอง !

ตอนนั้นเราทั้งคู่ยังเด็กมาก ต่างคนต่างก็ไม่เคยมีแฟน ไม่รู้ว่าที่เค้าเรียก ๆ กันว่า " ออกเดท "  มันคืออะไรกันแน่ ?

เรานัดกันตอนสิบโมง แต่เขามารับเราที่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่ มาจอดรถอยู่ที่หน้าบ้านแล้วก็นั่งรออยู่ในรถอย่างนั้น
แน่นอน ! เจ็ดโมงเช้านี่เรายังไม่ตื่นหรอกนะ . . อิอิ

แม่เราก็เลยเดินไปบอกให้เขาเข้ามารอในบ้านและกินอาหารเช้าด้วยกันซะเลย
เขาสนิทกับที่บ้านเรามาตั้งนานแล้ว เพราะเขาชอบมาอ่านหนังสือที่บ้านเรา เล่นเกมสู้กับพี่ ๆ ของเรามาตั้งแต่ตอน ม. ปลาย

วันนั้น เราไปเดินเที่ยวกันที่ฟาร์มจระเข้้ - สามพราน ตามด้วยพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไร
และจบด้วยการไปไหว้พระที่วัดไร่ขิงนั่นเอง

เขามาส่งเราตอนเย็น ๆ หน่อย แม่เราก็เลยชวนกินมื้อค่ะด้วยกันอีกรอบ
เราเล่าให้ทุกคนฟังว่าวันนี้เราไปไหนและเจออะไรด้วยกันมาบ้าง ? ฟาร์มจระเข้สนุกมากค่ะ  
ฮ่่่า ๆๆๆ  พี่ชายเราหัวเราะดังมากและแซวว่า "จระเข้ช่วยให้บรรยากาศโรแมนติกมากขึ้นมั้ย ?"
เขายิ้มแบบเขิน ๆ , มองหน้าเรา , และตอบพี่ชายของเราว่า . . 
"ถ้าได้อยู่ใกล้ ๆกับคนที่รัก ไม่ว่าที่ไหนก็โรแมนติกครับพี่ !"
มันเป็นคำตอบที่ทำให้เรายิ้มได้นานมากซะจนไม่คิดว่าตัวเองจะหยุดยิ้มได้เลย

นี่คือเรื่องราวการออกเดทครั้งแรกในชีวิตของเรากับผู้ชายที่อายุสั้นที่สุดบนโลกที่เราเคยรู้จัก . .

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
หลายปีผ่านไปจนถึงปีสุดท้ายของเราในรั้วมหาวิทยาลัย

เราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง ตอนที่ไปทำงานให้กับรุ่นพี่ เขาเป็นวิศวกรโยธาที่มีบริษัทเป็นของตัวเอง
อืมม . .. เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมาก ๆ บ้านรวย และเจ้าชู้
เขาตามเราไปทุกที่ที่เราไป โทรหาเราตลอดเวลา แวะมาหาเราที่คณะหลังเลิกเรียนบ่อย ๆ 
แต่ผู้ชายแบบนี้ . . ไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่าสนใจเลยสักนิด
ในวันที่เขาบอกกับเราว่าเขารักเรา รักนิสัยของเรา รักรอยยิ้ม และรักดวงตาที่ดูเศร้า ๆ คู่นี้ของเราด้วย
คำว่ารักของเขา . . ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นหรือหวั่นไหวเลยแม้้แต่น้อย
เรามองหน้าเขา มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นเหมือนกับ . . เรากำลังพยายามค้นหาอะไรบางอย่าง ?

พี่ต่ออยากฟังเรื่องเดทแรกของเราไหม ? "

เราใช้เวลายืดยาวในการเล่าเรื่องราวการออกเดทครั้งแรกของเราให้เขาฟัง
และปฎิเสธโอกาสที่จะลองคบกันแบบคนรักอย่างที่เขาขอร้อง

หลังจากที่เขาฟังจนจบ เขาจับมือเราและพูดว่า 
งั้น . . . วันที่ ๑๐ ธันวาของทุกปี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทำอะไร เรามาเจอกันนะ เราจะไปเที่ยวด้วยกัน จะทำตัวเหมือนคนรักกัน เป็นคู่รักกันแค่หนึ่งวัน . . . ได้ไหม ?
ไม่ว่าตลอดทั้งปีที่ผ่าน ๆมาเราจะดีหรือร้ายต่อกันและกันยังไง 
แต่ทุกวันที่ ๑๐ ธันวา ขอให้มันเป็นวันที่ต่อจะได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่ มีโอกาสหาวิธีใหม่ ๆมาทำให้เราได้เป็นคู่รักกันจริง ๆ "

ตอนนั้น  เราไม่ได้คิดอะไรมากกว่าเรื่องเล่นสนุกไปวัน ๆ 
พอได้ยินคำว่าเป็นแฟนกันแค่วันเดียว ก็คิดว่ามันก็น่าสนุกดีนะ ก็เลยตอบตกลงเขาไป

เราสนิทกันมากขึ้น ๆ เพราะเขาโทรหาเราทุกวัน ไม่ว่าดีหรือร้ายก็โทรมาหา
จนกระทั่งถึงวันที่เราไปเรียนต่อที่อังกฤษ เขาก็ไปส่งเราที่สนามบินพร้อมกับครอบครัวของเรา 
เขาสั่งเสีย ฝากฝัง สั่งสอน ยิ่งกว่าพี่ชายและพ่อของเราซะอีก จนเราเดินไปขึ้นเครื่องช้ากว่าคนอื่น ๆ
" ไปถึงแล้วรีบไปซื้อซิมโทรศัพท์เลยนะ แล้วก็ต้องโทรมาหาต่อเป็นคนแรกด้วย ! "
พ่อเราหันไปมองหน้าเขา 
...!!!!....
ขอโทษครับ " เขาบอกพ่อเรา และหันมาสั่งเราอีก " โอเค . . รีบโทรมาหาพ่อกับแม่ก่อน แล้วค่อยโทรมาหาต่อเป็นรายต่อไป ! "
เราส่ายหน้าหัวเราะและรีบวิ่งไปขึ้นเครื่อง . . มุ่งหน้าสู่ London !

๓ ปีในอังกฤษ เขาโทรหาเราทุกสัปดาห์ ส่งนั่นส่งนี่ไปให้เราทุกเดือน
และบินไปหาเราทุกปีในวันที่ ๑๐ ธันวาคม

แต่หลังจากที่เรียนจบ เราไม่ได้กลับมาไทย เพราะได้งานที่ออสเตรเลีย
ทำงานไปได้สักพัก เราก็เรียนต่อไปอีก เพราะเห็นว่าปัจจุบันนี้ Marketing เป็นองค์ความรู้ที่สำคัญในโลกธุรกิจมาก

เขายังโทรหาเราทุกสัปดาห์ ส่งของไปให้เราทุกเดือน และอาสาเป็นทนายหน้าหอให้พ่อกับแม่เราด้วย
นอกจากที่เขาจะบินไปหาเราในวันที่ ๑๐ ธันวา ของทุกปีแล้ว . . เขายังบินไปในวันเกิดของเราด้วย เขาทำแบบนี้ตลอดระยะเวลา ๕ - ๖ ปีในออสเตรเลียของเรา

ถึงแม้ว่าในหนึ่งปีเราจะได้เจอหน้าน้อยมาก แต่เราก็คุยกันเยอะมากผ่านโทรศัพท์
เราไม่เคยใส่ใจว่าเขาจะคิดหรือรู้สึกยังไงกับเรา เรารับรู้แค่ว่าเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกับเรามากที่สุด
เรารู้สึกปลอดภัยที่จะแชร์เรื่องดี - ร้าย - สุข - ทุกข์ กับผู้ชายคนนี้มาก ๆ
หลายครั้งที่เราโทรไปร้องไห้กับเขาเป็นชั่วโมง ๆ 
หลายครั้งที่ทำตัวเป็นศิราณีสอนให้เขาไปจีบหรือชิ่งหนีสาว ๆ  ฯลฯ

วันนี้ . . 
๑๐ ธันวาคมอีกแล้ว !

๑๐ ธันวา . . วันนี้ เป็นวันที่เราเหนื่อยมาก ๆ 
เพราะต้องออกไปบ้านลูกค้าแต่เช้า และสู้รบกับลูกค้าและผู้รับเหมาทั้งวัน
เขาโทรหาเราตอนบ่าย ๒ นัดเราไปกินข้าวตอนเย็น

ระหว่างกินข้าวกันอยู่ เราก็เห็นเขาวุ่นวายอยู่แต่กับโทรศัพท์ แต่ไม่ได้สนใจเพราะเขาเป็นพวกสาวเยอะอยู่แล้ว
แต่จู่ ๆ โทรศัพท์เราก็มีเสียงเตือนดังขึ้นว่ามีคนโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คของเรา !

" พี่ต่อจะบ้าเหรอ นั่งอยู่ด้วยกันตรงนี้แล้ว . . จะไปโพสต์ในเฟสบุ๊คเพื่อ ???
เรามองหน้าเขาแบ่บ . . งงมากอ่ะ
เขายื่นหูฟังมาให้เราเสียบโทรศัพท์ " ฟังก่อนดิ . . เร็ว ๆ เพลงนี้เพราะมาก ถ้าไม่ฟังตอนนี้ . . วันนี้จะเป็นวันที่ต่อรู้สึกแย่มาก ๆ 
เขารบเร้ามากจนเราต้องตัดรำคาญ หยิบหูฟังมาเสียบที่โทรศัพท์และเริ่มต้นฟังเพลงนั้น 
[ เก็ทสึโนว่า - ไกลแค่ไหนคือใกล้  ]  ( เขาโพสต์เพลงนี้ลงในเฟสบุ๊คของเรา )

พยายามจะทำวิธีต่าง ๆ ให้เธอนั้นรักฉัน
พยายามทุกวัน มอบให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ 
. . .
เขามองหน้าเราตลอดเวลาที่เรากำลังฟังเพลงนี้อยู่

เนื้อเพลงทุกถ้อยคำ เมโลดี้ที่กำลังเล่นไป โน๊ตทุกตัว เสียงเบส เสียงกลอง ฯลฯ
มันทำให้เราใจสั่นมากขึ้น ๆ จนกระทั่ง . . 
 
" อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้ . . . บอกที
อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉัน . . . เสียที 
มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ . . . ได้โปรด
บอกกับฉันให้รู้ที ว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีความหมาย "

น้ำตาของเรา . . จู่ ๆ ก็ไหลออกมา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าเพลงนี้มันเพราะจริง ๆ หรือเพราะหัวใจของเรามันหวั่นไหวซะเอง ?

" ต่อรู้นะว่า ถ้าพูดอีกก็จะโดนปฎิเสธอีก " เขาพูด  "​ ที่ต่อเป็นผู้ชายเจ้าชู้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะความรักของต่อ . .
มันเป็นแค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่ต่อก็ได้แค่หวังว่ามันจะสมหวังสักวัน 

เรารู้สึกสับสนมากและไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกนั้นยังไง ? ก็เลยได้แต่บอกกับเขาเหมือนทุกครั้ง
" คนอย่างเรา . . ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน ไม่มีอะไรดีพอให้ใครสักคนมาทุ่มเทความรักให้หรอกนะ
ต่อก็เห็นนี่นาว่าเราทำให้ผู้ชายเสียใจมาเท่าไรแล้ว ? เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร
อาจจะเพราะเราเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ที่คิดถึงแต่เรื่องสนุกสนานไปวัน ๆ ไม่เคยคิดถึงอนาคต
ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้ชีวิตเราจะเป็นยังไง ? คนอย่างเรา . . จะเอาห้าเอาสิบอะไรก็ไม่ได้เลยสักอย่าง "

" ก็ต่อชอบแบบนี้อ่ะ ติ๊สดี ประหลาดดี เป็นตัวของตัวเองดี " เขาพูดแบบกวน ๆ
เราเลยตัดบทไปว่า " เราเป็นแบบนี้กัน มันก็ดีอยู่แล้วนะ เรามีความสุข . . พี่ต่อมีความสุขป้ะล่ะ ?
ถ้าเราคบกันแบบแฟนแบบนั้น ชีวิตเราอาจจะไม่มีความสุขก็ได้นะ และถ้าวันหนึ่งพี่ต่อทำให้เราเสียใจ . . 
เราจะไปร้องไห้กับใครวะ ? "
เขาลูบหัวเราแล้วหัวเราะออกมา " อืมม . . ๑๐ ธันวาปีหน้า เรื่องของเราอาจจะดีกว่านี้ก็ได้มั้ง ต่อจะพยายามไปเรื่อย ๆ เพราะความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จมันก็จะยู่ที่นั่น "
เรามองหน้าเขา แล้วยื้มที่มุมปาก " เออ . . ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามมันก็อยู่ตรงนั้นแหละ ! "

เราหัวเราะออกมาพร้อมกันด้วยความเข้าใจ

" ป่ะ . . ได้เวลาแล้วล่ะ  ไปดู Cloud Atlas กันดีกว่า ต่อซื้อตั๋วมาแล้ว ! "

๑๐ ธันวา ปีนี้ . .
เป็นอีกหนึ่งวันที่เราเหนื่อยมาก ๆ แต่ก็เป็นวันที่ดี , มีความสุข , และมีความหมายมากจริง ๆ




จากคุณ : 12478B13
เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 03:32:54




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com