Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<Y> ถึง ความหวัง และ แรงบันดาลใจ vote ติดต่อทีมงาน

สวัสดีครับช่วงนี้ผมเห็นกระทู้ Y ในห้องสยามบ่อยมาก ผมจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองบ้างโดยเป็นประสบการณ์จากคนที่แอบชอบผมคนหนึ่งซึ่งได้เขียนความรู้สึกเกี่ยวกับตัวผมผ่านจดหมายฉบับหนึ่ง  ขออนุญาตนำเรื่องราวมาแชร์ โดยไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีแต่อย่างไร เพียงอยากให้ทุกคนได้เห็นเรื่องราวในบางมุมที่อาจไม่เคยเห็นเท่านั้นเอง เรื่องราวในจดหมายทั้งหมดนี้ผ่านมาแล้วประมาณ 3 ปีและตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีแล้วครับ  เริ่มต้นอ่านตามด้านล่างเลยครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถึง  ความหวัง และ แรงบันดาลใจ

           นี่เป็นการเขียนฉบับแรก ก็ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรเหมือนกัน แต่ความรู้สึกมันบอกว่า มีอะไรเยอะแยะเลยที่อยากจะระบายออกมา  ผมมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่เกิดกับตัวผมเอง ผมไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดี

          เมื่อก่อนผมทำงานที่ชลบุรี เป็นวิศวกร ทำงานมาได้ประมาณ 2 ปี ครึ่ง วันหนึ่งผมเลิกกับแฟนผม ผมเสียใจมาก ช่วงนั้นไม่เป็นอันทำงานเลยผมให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักของผม แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเค้าคนนั้นไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว   ผมปิดโอกาสตัวเอง ไม่ยุ่งกับใคร ไม่ค่อยพูดกับคนอื่น อยู่คนเดียว  จมอยู่กับความเจ็บปวด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร เค้าถึงทิ้งผมไป  ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน มันก็พอทีจะทำให้ผมพอทำใจได้บ้าง   แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะ ยังแอบคิดถึงเค้าคนนั้นอยู่เป็นระยะ
     
         วันหนึ่งผมเล่น MSN เป็นการเล่นครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้เล่นมาหลายเดือนมาก ก็มีคุยอยู่หลายคนอยู่ ก็มีทั้งที่คุยแล้วสบายใจ กับคุยแล้ว  โมโห ก็มี  แต่จะมีคนหนึ่งที่ผมคุยแล้วรู้สึกดี คุยรู้เรื่องที่สุด แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าผมเป็นคนแอดเค้า หรือ เค้าแอดผม  ผมถามชื่อเค้า เค้าตอบผมว่าชื่อ  A (นามสมมติ) เรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว เรียนจบมาจาก มหาวิทยาลัย D  โสด ไม่มีแฟน  ในใจผมตอนนั้น อยากเห็นหน้าคนคนนี้จัง และแล้ว ผมก็ได้เห็นรูปเค้า หน้าตาค่อนข้างดี เลย น่ารัก ด้วย ก็คุยกันมาเรื่อยๆ เค้าก็ถามผมว่าชื่ออะไร ผมก็ตอบไปว่า ชื่อ B จบจาก มหาวิทยาลัย F  (แอบโกหกเด็กไป  คริๆ จริงๆมหาวิทยาลัยเดียวกัน)  แต่เป็นไรไม่รู้ ทำไมผมถึงสนใจ เด็กคนนี้ ก็ไม่รู้ ผมพยายามหาวิธีที่จะติดต่อกับรุ่นน้องที่เรียนที่ มหาวิทยาลัย D แล้วก็ถามน้องว่า รู้จักคนชื่อ A  มั้ย แต่น้องก็ตอบว่าไม่มีคนชื่อนี้ ผมเลยส่งรูปที่ได้มาให้น้องดูสักพักน้องก็ตอบกลับมาว่า นี่มันชื่อ  C  นะ ไม่ได้ชื่อ A ซะหน่อย  อ้าว ในใจเราคิดว่าถูกเด็กหลอกแล้วแน่เลย  แต่ไม่เป็นไร เราก็โกหกเหมือนกันนี่  หายกัน 555
     
          จากนั้นเราก็คุยกันทาง MSN กันมาเรื่อยๆประมาณเกือบ 1 อาทิตย์ ผมก็ขอเบอร์น้องเค้า แล้วก็โทรไปหา คุยกันเรื่อยๆ แต่ในความคิดผมน้องเค้าเป็นคน ที่มีความคิดดี มีความคิดเป็นผู้ใหญ่มาก ผมบอกกะเค้าเลยว่าผมชอบความคิดเค้านะ และน้องเค้าก็ถามผมมาว่าชอบร้องเพลงมั้ย ผมบอกว่าชอบฟังมากกว่า แล้วเค้าถามว่าชอบฟังเพลงอะไร   ผมตอบว่า เพลง รัก ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครมาร้องเพลงให้เราฟังทางโทรศัพท์ ซึ่งมันอะไรที่แปลกสำหรับผม แต่ก็รู้สึกดีมากๆ ที่น้องเค้าร้องให้ฟัง ผมมีความสุขมาก ณ ตอนนั้นผมบอกได้เลยว่าผมลืมแฟนเก่าผมสนิทเลย เป็นช่วงเวลาที่เราไม่ได้สัมผัสมันมานาน  หลังจากวันนั้นผมก็คุยกะน้องเค้ามาเรื่อยๆ บางที่โทรไปก็ไม่รับสาย แล้วก็ไม่โทรกลับด้วยนะ ในใจก็คิดอยู่แล้วว่าน้องเค้าก็ต้องมีคนที่น้องเค้ารักอยู่แล้วแน่เลย แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องโทรด้วย ก็คุยกันมาเรื่อยๆ คิดดูแล้วก็นานเหมือนกันนะ บางทีน้องเค้ามีปัญหางานเค้าก็โทรมาระบาย ในใจเรารู้สึกโคตรดีใจเลย ที่น้องเค้าโทรมาปรึกษา แต่ก็ไม่ได้บอกให้เค้ารู้หรอก   ผมเก็บรูปทุกรูปที่น้องเค้าส่งมาให้ เอารูปน้องเค้าขึ้นหน้าจอคอม (บ้าไปแล้วหรือเปล่า)

          วันหนึ่งหลังจากที่เราคุยกันมาหลายเดือนแล้ว น้องเค้าก็ถามว่า ผมจะโกรธมั้ยถ้าเค้าจะบอกอะไรสักอย่างหนึ่ง ในใจผมคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นเรื่องแฟน แน่นอน  และมันก็ใช่จริงๆด้วย เค้าบอกว่าเค้ามีคนที่เค้ารักอยู่แล้ว ในใจผมตอนนั้นมันแป้วๆ อย่างไงไม่รู้ว่ะ  บอกไม่ถูกเหมือนกัน เสียใจมั้ย ก็ไม่ได้เสียใจ แต่มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก หลังจากวันนั้นที่น้องเค้าเล่าเรื่องแฟนเค้าให้ผมฟัง ผมก็อึ้งเหมือนกันนะ ไม่เคยคิดว่าในชีวิตคนเราจะมีอย่างนี้ด้วย  แฟนของน้องเค้า มีแฟนอยู่แล้ว   งง มั้ยล่ะ ทนอยู่ได้ไงก็ไม่รู้ คงเป็นเพราะเค้ารักแฟนของเค้ามากๆ  มากจนยอมทุกอย่าง  และหลังจากนั้น ผมก็คุยกันมาเรื่อยๆ
         
           จนมาถึงวันหนึ่ง ความรู้สึกผมเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ผมรู้สึกว่าผมเริ่มชอบน้องเค้าแล้วล่ะ ผมก็คิดอยู่นานนะ ว่าจะบอกน้องเค้าดีมั้ย ชอบที่ทั้งๆยังไม่เคยเห็น แล้วก็ไม่รู้รูปที่น้องเค้าเอามาให้ดูเป็นรูปเค้าจริงๆหรือเปล่าแต่ผมก็ไม่สนอยู่แล้ว แค่ผมรู้สึกว่าผมคุยกะเค้าแล้วมีความสุข ก็พอ  แต่ถึงอย่างนั้นเหอะ เราก็รู้อยู่แล้วว่าน้องเค้ามีแฟนอยู่แล้ว แล้วก็คิดแล้วว่าน้องคงจะรักแฟนมากถึงยอมได้ขนาดนี้  เพราะฉะนั้นผมคงต้องเป็นฝ่ายตัดใจดีกว่า  คิดอยู่หลายวันอยู่เหมือนกัน ทั้งๆที่รู้นะว่าน้องเค้าคงไม่มาใส่ใจเราหรอก ที่เค้าคุยกับเราก็เพราะเค้าอยากหาที่ระบายมากกว่า  มาวันหนึ่ง น้องเค้าโทรหาตอนเย็นๆ ผมก็โทรกลับไป แล้วก็บอกเรื่องนี้กับเค้าไปว่า  "ต่อไปจะไม่โทรแล้วนะ "  น้องเค้าก็เงียบไปพักหนึ่ง แล้วก็ถามว่าทำไม  ผมก็ตอบไปว่า  ผมกลัวความรู้สึกตัวเอง เพราะตอนนี้ผมเริ่มชอบเค้าแล้ว ผมไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงจรความรักของเค้า บอกเค้าว่ารู้สึกดี ที่ได้คุยกัน   รู้มั้ยว่าตอนนั้นผมเสียใจแค่ไหนที่พูดออกไป ผมต้องเสียคนที่เราชอบ เรารู้สึกดีไป  แต่น้องเค้าก็พูดออกมาว่า "ผมขอโทษที่ผมอาจคุยอะไรไปแล้วเหมือนให้ความหวังพี่  ผมก็เป็นอย่างนี้แหละ " ความรู้ตอนนี้ก็รู้แล้วน้องเค้าคงไม่อะไรมากหรอก  แล้วเค้าพูดอีกประโยคว่า "ถ้าพี่คิดอย่างนั้นก็ตามใจพี่ก็แล้วกัน  "   แล้วเรื่องของเราสองคนก็จบลงหลังจากวางโทรศัพท์

          ตอนเย็นวันนั้นความรู้สึกเดิมๆก็เข้ามาอีกแล้ว  คิดอยู่เสมอว่า ต่อไปจะอยู่คนเดียวแล้ว คงไม่คุยกับใครอีกแล้ว  

          เวลาผ่านไป ความคิดก็เริ่มเปลี่ยนแปลงผมเป็นฝ่ายโทรหาน้องเค้าอีกครั้งหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าโทรหาทำไม แต่ก็คุยกันเป็นปกตินะ พยายามไม่คิดอะไรมาก ก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนผมเปลี่ยนงาน มาอยู่ที่กรุงเทพฯผมกับน้องเค้าก็ได้คุยอะไรหลายๆเรื่องเลย ปากบอกน้องเค้าไปว่าไม่ได้คิดไร  แต่ในใจแอบคิดไม่ได้สักที
   
         วันหนึ่งผมเปิดคอมพิวเตอร์ ผมเปิดไปเจอ เรซูเม่ น้องเค้า ผมคิดไงก็ไม่รู้ ยื่นให้ฝ่ายบุคคล บอกว่าเป็นญาติผม ช่วยเรียกสัมภาษณ์หน่อย ทังๆที่ยังไม่ได้บอกน้องเค้านะ ก็งง เหมือนกัน ว่าตัวเองทำอะไรอยู่หลังจากนั้นก็โทรไปหาน้องเค้าบอกว่าเดี๋ยวจะมีคนเรียกไปสัมภาษณ์งานนะ น้องเค้าก็คง งง นะ  แล้วก็เรียกสัมภาษณ์จริง ๆ  ก่อนวันสัมภาษณ์ เราก็คุยกันเรื่องนี้ตลอดเลยนะ  แล้ววันหนึ่งน้องเค้าก็มาหาผม เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เจอน้องเค้า  ตื่นเต้น นะ ไม่รู้ว่าน้องเค้าจะยังไง เห็นเราแล้วจะยังไง แต่ก็พยายามคิดว่าถึงจะเป็นอย่างไงก็ช่างเถอะ  แล้วเราก็ได้เจอกันน้องเค้าน่ารักมากกกกกกกก เลยยยยย ผมอึ้งไปเลยแล้วก็ไปกินไอติมกันผมแอบมองหน้าน้องเค้าหลายครั้งแต่น้องเค้าไม่รู้หรอก
   
         แล้วก็มาถึงวันที่น้องเค้าสัมภาษณ์ น้องเค้าก็ได้ จริงๆ  ผมดีใจมากๆ แต่ไม่ได้พูดกับใครหรอกว่าผมดีใจ มันเป็นความรู้สึกลึกๆข้างใน มันบอกว่าดีใจ เชื่อมั้ยว่า ผมตั้งหน้าตั้งตารอวันที่น้องเค้าจะมาเริ่มงานมากๆผมรู้สึกดีใจนะ ที่ได้ช่วยน้องเค้าหาที่พัก อย่างน้อยผมก็ได้ช่วยเหลือน้องอย่างจริงใจ โดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทนเลย ผมมีความสุขกับการได้ช่วยเหลือน้องเค้า แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว
 
         จนวันที่น้องเริ่มทำงาน ผมมีความสุขมากที่ได้เห็นหน้าเค้า 5 วัน ใน 7 วัน ถึงแม้จะแอบคิดในใจว่าเราชอบเค้านะ แต่ก็ต้องห้ามใจ คอยเตือนตัวเองเสมอว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก เค้ามีคนรักของเค้าแล้ว ทุกครั้งที่ผมคิดผมก็จะถอยห่างออกจากน้องเค้าทุกครั้ง แต่ไม่เคยได้นานเลย สัก 2 วันผมก็คิดใหม่  ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี กับความรู้สึกของตัวเอง ต้องห้าม แล้วตัดใจเลย หรือปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้ เรื่อยๆ ผมรู้สึกไม่พอใจมากเวลารู้ว่าน้องเค้าไปหาแฟนของเค้ามา ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึก

         แล้วสิ่งที่มีความสุขมาก ก็คือ การที่น้องเค้าส่งเมลล์มาให้ผม ผมจะอ่านทุกตัวในเมลล์ของน้องเค้า และเก็บรูปทุกรูปที่เป็นของเค้าไว้  

        จนมาถึงวันนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าผมต้องทำอย่างไรดี ปล่อยให้หัวใจมีความสุขกับการหวังอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้ กับการ ตัดใจ จากน้องเค้าไป ผมกลัวว่าถ้าน้องเค้ารู้ว่าผมรู้สึกอย่างไงกับเค้า แล้วเค้าก็เปลี่ยนไป
ผมกลัวน้องเค้าจะเป็นกังวล และระแวงผม  

        พรุ่งนี้น้องเค้าก็ไปเที่ยวกะแฟนเค้าแล้ว เค้าคงมีความสุขมากอะ  เดินทางให้ปลอดภัยนะ เที่ยวให้สนุกนะ เก็บรอยยิ้มแห่งความสุข มาฝากด้วยนะ ได้แต่บอกลับหลังเค้า ไม่กล้าที่จะบอกต่อหน้าสักที

        การเดินถอยออกมาก้าวหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สามารถทำได้เลย  มันต้องใช้เวลา และความอดทนที่ต้องฝืนกับความรู้สึกตัวเราเอง  แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอสำหรับตัวเราเอง จะได้ไม่ต้องเสียใจ คิดมากอีก วันนี้ถอยมา  1 ก้าว  พรุ่งนี้ถอย 1 ก้าว วันต่อๆไปถอย วันล่ะ 1 ก้าว   สักวันเราก็คงมองไม่เห็นกันในที่สุดและท้ายที่สุดความหวังที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็เป็นจริงอย่างที่คิด แรงบันดาลใจที่เคยมีก็คงลดถอยตามก้าวเดินที่เราถอยหลังออกมา

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้ผมกับพี่เค้าก็ยังเป็นพี่น้องพูดคุยกันเหมือนเดิม ต่างคนต่างมีชีวิตในเส้นทางเดินของตนเองครับ

จากคุณ : ผมมากับความใสซื่อครับ
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 16:49:56




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com