ความคิดเห็นที่ 1 SET Long-term จากคุณ : Fresh Extra - [ 3 ก.ย. 51 09:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มีวินัยในการใช้เงิน ตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เงินล้านไม่ไกลเกินฝัน เก็บได้ภายใน 5 ปี จากคุณ : มนนจ - [ 3 ก.ย. 51 09:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเคยอ่านครับ ^^ (และแนะนำให้คนรู้จักอ่านด้วย) 10% ในหนังสือคือดอกเบี้ย "ออมทรัพย์" ซึ่งเคยมีอยู่จริงนะ แต่เป็นสมัยก่อนแล้วครับ ในหนังสือนั้นผู้แต่งสมมติขึ้นมาให้เราเห็นถึงพลังของดอกเบี้ยทบต้นครับ ปัจจุบันนี้เหลืออย่างมากที่สุด 1% ครับ (เฉพาะฝากแบบไม่มีเงื่อนไขของวงเงิน ไม่มีเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติม เป็นออมทรัพย์แบบเพียวๆ เลย) อัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ ลองหาจากเวปของธนาคารแห่งประเทศไทยครับ เป็นตารางๆ เปรียบเทียบให้เห็นแต่ละที่เลย อ่านๆ ดูจะรู้ว่า บางธนาคารนี่ไม่คุ้นชื่อซะเลย คนบางคนถึงยังยึดติดกับอดีตอยู่ครับว่าได้ 10% โดยที่ไม่ได้ติดตามดอกเบี้ยในปัจจุบันเลย **** หนังสือของผู้แต่งคนเดียวกันนี้ ยังมีอีกสองเล่มครับ ไม่รู้ว่าเนื้อหาคล้ายกันหรือเปล่า แต่ชื่อหนังสือคล้ายๆ กันเลย แต่เรื่องที่คุณพริกไทยอ่าน เป็นเรื่องแรกที่ออกขาย ในบรรดาสามเล่มน่าจะได้ครับ เพราะผมเคยเห็นเล่มนี้ก่อนอีกสองเล่มครับ **** คุณพริกไทยเป็นคนเหนือหรือเปล่าครับ จากคุณ : zylinz - [ 3 ก.ย. 51 09:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ คุณ Fresh Extra set ---- เป็นคนความเสี่ยงต่ำอ่ะค่ะ เลยไม่กล้าเล่นของสูง Long-term ---- ได้แก่อะไรบ้างค่ะ (แบบว่าง้าวจริงๆ) จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 09:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เคยอ่านในหนังสือสวดมนต์ครับ มีบทหนึ่งที่เรียกว่าคาถาเงินล้าน ถ้าสวดทุกวันจะทำให้มีเงินล้านได้ แต่คงต้องใช้เวลานานหน่อยนะ อิอิอิ จากคุณ : kaisin - [ 3 ก.ย. 51 09:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดอบเดบี้ยสูงๆ จะมีในประเทศที่เงินเฟ้อสูงๆ ครับ สำหรับประเทศไทย ตามคุณข้างบนว่า สมัยก่อน ช่วงฟองสบู่นั้นมีครับสำหรับประเทศไทย เดียวนี้ไม่มี.. สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น ถ้าเราเป็นคนไม่โลภมาก และมีวินัยการลงทุนที่ดี การหาผลตอบแทน 10% ต่อปีนั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินไปครับ (ระยะท้าท้ายน่าจะอยู่แถวๆ 20% ต่อปี) แต่เงินฝากเอาดอกเบี้ย กับเงินลงทุนในตลาดหุ้นเทียบกันไม่ได้ เพราะในตลาดหุ้นต้องมีการทำการบ้าน และต้องเรียนรู้มีประสบการณ์ มากพอประมาณก่อนครับ จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 09:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบ #5 ครับ :) จากคุณ : xsit - [ 3 ก.ย. 51 09:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตารางนั้นเป้นไอเดียนะครับ.. แต่ก่อนทำไว้แต่แบบที่ได้ผลตอบแทนมากๆ ไว้จะทำแบบตาราง 10-20-30-40-50% ต่อปีมั้ง จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 09:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Long term คือการลงทุนระยะยาว ถ้าเกี่ยวกับ SET ก็เป็นการซื้อหุ้นพื้นฐานดีเก็บเอาไว้ โดยหวังเงินปันผล และส่วนต่างของราคาหุ้น เช่น ซื้อ ปตท. ที่ 140 บาท ผ่านไป 5 ปี ราคาเพิ่มเป็น 200 บาท ส่วนต่างเท่ากับ 200-140= 60บาท ผลตอบแทนต่อปีเท่ากับ 8.57%ไม่รวมปันผล จากคุณ : greenstock - [ 3 ก.ย. 51 09:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากค่ะ คุณมนนจ, zylinz คุณ มนนจ คือตอนนี้ก็พยายามเก็บอยู่อ่ะค่ะ โดยซื้อเป็นกองทุนรวมอ่ะค่ะ แต่ดอกมันแค่ 3 กว่าๆ เอง เลยอยากรู้ว่า ดอกเบี้ย 10 % นี่มีจริงอ่ะป่าว คุณ zylinz เหมือนกันเลยค่ะ พยามแนะนำให้คนรู้จักอ่านด้วยอ่ะ แต่ส่วนใหญ่มีแต่มาเปิดๆดูแล้วก็จากไป ซะงั้น กำลังจะไปหามาอ่านอีกอยู่ค่ะ มีเล่มไหนแนะนำอีกมั๊ยค่ะ ม่ายช่ายคนเหนือเจ้า......เป็นคนอีสานเด้อค่ะ จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 10:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันไม่ยากหรอกครับ คาถาก็แค่ เก็บ เก็บ แล้วก็ เก็บครับ ใช้จ่ายเฉพาะของจำเป็น กาแฟ กินแล้วละ10-20 บาท แทนที่จะกินแก้วละ 100 เก็บเงินสะสมทุกเดือน แล้วฝากกองทุน ไปเรื่อยๆ 10 ปี-20 ปี จากเงินก้อนเล็กๆ ก็เป็นเงินล้านได้ครับ จากคุณ : Notelio - [ 3 ก.ย. 51 10:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ คุณ kaisin,xsit ปกติก็สวดคาถาเงินล้านอ่ะค่ะสวดมานานมากแระ เลยหาอย่างอื่นมาสวดแทนเผื่อจะดีขึ้นบ้าง เป็นคาถากองทุน คาถาหุ้น กำลังจะลองๆค่ะ คุณ บุญทับ ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล แล้วถ้าซื้อกองทุนแบบ 3,6 เดือน ดอกเบี้ย 3 % จาก เงินต้น 50,000 บาท ไปเรื่อยๆ หล่ะค่ะ แบบว่าพอครบดิว แล้วก็ไปซื้อใหม่ ต่อไปเรื่อยๆ มีโอกาสจะได้เท่าในตารางที่นำมาให้ดูรึเปล่าค่ะ คุณ greenstock อยากซื้อหุ้นที่ไม่เสี่ยงมากเก็บไว้เหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้ศึกษาเลย ลงต้องค่อยๆพยายามไปเรื่อย จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 10:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อีกสองเล่ม หน้าปกจะคล้ายๆ กับเล่มนี้เลยครับ ดูที่ชื่อผู้เขียนก็ได้ครับ คนเดียวกันเลย ส่วนคาถานั้น ท่องไว้แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย ก็คงไม่ได้เห็นเงินล้านนะคร้าบพี่น้อง หึหึ จากคุณ : zylinz - [ 3 ก.ย. 51 10:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มีสลึง พึงบรรจบ ให้ครบบาท มีบาท พึงบรรจบ ให้ครบร้อย .... .... พอครบล้าน เล่นหุ้น ให้จน เอ๊ยให้รวย เอย แหะๆ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 3 ก.ย. 51 10:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เคยอ่านครับ ก็เป็นไอเดียช่วยเราได้บ้าง จะได้รู้การเก็บออมหรือการลงทุนให้เงินออมเรางอกเงยเร็วๆ เค้ามีวิธีอย่างไรกันบ้าง อย่างครั้งขณะที่อ่านผมเองก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องยกตัวอย่างดอกเบี้ย 10% ทำไมไม่อ้างอิงดอกเบี้ยแบบปัจจุบันไปเลย คุณจะได้รู้ว่าถ้าคุณเริ่มปฏิบัติตั้งแต่ตอนนี้ คุณจะถึงเป้าหมายที่วางไว้อย่างไรและเมื่อไหร่ แต่ถ้าเอาอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันผมว่ามันดูแล้วน่าท้อเสียจริงๆ เพราะพลังของอัตราดอกเบี้ยทบต้นมันแทบไม่มีเอาเสียเลย แต่หนังสือเล่มนี้ผมว่าโดยรวมๆ แล้วดีนะครับ ไม่เสียดายเงิน และไม่เสียดายเวลาในการอ่าน น่าแนะนำให้สำหรับคนที่กำลังพยายามเก็บเงินครับ ยังไงซะเริ่มเก็บออมตั้งแต่วันนี้ก็ยังดีนะครับ จะใช้จ่ายอะไรก็คิดให้มากหน่อยว่ามันคุ้มกันไหมกับสิ่งที่เรากำลังจะจ่ายเงินออกไปเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ซื้อเพื่อความสุขบ้างผมว่ามันก็สมควรนะครับ แต่ไม่ใช่เอะอะอะไรก็อ้างแต่ว่าซื้อเพื่อความสุขเท่านั้น เผลอแป้บเดียวแก่ตัวไป ไม่เหลือเงินเก็บเพื่อการเกษียณเสียแล้ว (เพราะใช้ซื้อความสุขไปหมดแล้ว) แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวนิดนึง ผมก็เป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเก็บเงิน (4เดือนแล้ว) และมองหาแหล่งลงทุนที่ทำให้เงินออมงอกเงยเร็วๆ อยู่เหมือนกันครับ ตอนนี้ก็มีฝากประจำแบบพิเศษที่ไม่หักภาษีดอกเบี้ย แล้วก็ลงทุนในกองทุนรวม ส่วนออมทรัพย์มีไว้ใช้จ่ายในเดือนเท่านั้น ส่วนพวก LTF & RMF ยังไม่ได้ลง เพราะคิดแล้วว่าคงไม่คุ้มสำหรับผม เนื่องจากว่าอัตราภาษีปีนี้ผมยังไม่ถึงขั้น 20% ไม่รู้คนอื่นจะมีความเห็นยังไงเหมือนกันนะ :-) จากคุณ : nicknak - [ 3 ก.ย. 51 10:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่ะ คุณเต่าหยวนเปียว ตอนนี้มียังไม่ถึงล้านอ่ะค่ะ ซักหกหลักนี่พอจะลุ้นให้เป็นล้านไหวมั๊ยค่ะ แอบสนใจหุ้น ปตท. อย่างที่คุณ greenstock ยกตัวอย่างมา(ใจง่ายอ่ะ) ไม่รู้ว่าซื้อหลักแสน จะมีความเสี่ยงแค่ไหน คุณnicknak ใช่แล้วค่ะอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วส่วนตัวได้แรงบันดาลใจมากๆในการเก็บเงิน ตอนนี้เริ่มมานั่งทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำเดือนใหม่ เผื่อจะมองเห็นเงินที่หายไปอย่างไร้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ส่วน LTF & RMF ยังไม่ได้ลองศึกษาดูเลยค่ะ แล้วถ้าเราเสียภาษีปีละแค่ 15000 ซื้อ LTF ไปมันจะคุ้มมั๊ยค่ะ จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 10:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พี่ก็ซื้อจากเซเว่นมาอ่านค่ะแต่ส่วนตัวเงินล้านเก็บได้เมื่อนานมาแล้วอยากได้หลายๆๆล้านมากกว่าต้องอ่านอีกเล่มค่ะ ให้เงินทำงาน ของ ธนพ เอี่ยมอมรพันธุ์ และ  เงินทองต้องใส่ใจ ค่ะยังไงอ่านแล้วปฏิบัติตามได้จับเงินล้านแน่ๆๆ พี่ก็คนอีสานเหมือนกันเด้อค่ะ จากคุณ : แม่ลูกชายสาม (chuaykongma) - [ 3 ก.ย. 51 10:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณค่ะ คุณแม่ลูกชายสาม (chuaykongma) ยินดีค่ะ คุณพี่อยู่จังหวัดไหนค่ะ หนูอยู่ขอนแก่นค่ะ อยากได้เงินหลายๆล้านเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวคงต้องไปหา ให้เงินทำงาน  มาอ่านแระ เผื่อจะมีเงินหลายๆล้าน แบบคุณพี่บ้าง อิอิ ขอบคุณค่า จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 10:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อยากได้หลายๆ ล้าน ผมคิดว่าต้องหาหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุนอย่างจริงจังมาอ่านแล้วหละครับพี่ กระโดดไปอ่านหนังสือประเภท Intermediate เลยครับ จากคุณ : zylinz - [ 3 ก.ย. 51 11:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้ามีให้เก็บไม่น่าจะยาก  สำคัญรายได้มันไม่เพียงพอจะให้เก็บนะสิ หึ....หึ.. เคยดูรายการทีวี ช่อง ๙ "VIP" เขานำคนที่เก็บเงินมาออก  ดูก็น่าสนใจ ถ้า คิดว่า มีเงินล้านแล้วต้องมีชีวิตแบบนั้นมีความสุข  ผมคิดไปถึงตนเอง เมื่อ ธนาคารมหานคร ให้ดอกเบี้ย ๑๗ % และจ่ายดอกเบี้ยเข้าบัญชีออมทรัพย์ ให้ทุกเดือน  นอกจากเอาเงินออมที่มีอยู่ทั้งหมดไปฝากแล้วยังกู้สหกรณ์ที่ เป็นสมาชิกอยู่ซึ่งเสียดอกเบี้ยต่ำกว่ามากไปฝากด้วย  ได้ดอกเบี้ยมาก็นำไป ใช้คืนสหกรณ์ทุก ๆ เดือน   จนกระทั่งธนาคารมหานครถูกยุบไปรวมกับ ธนาคารกรุงไทย  เมื่อคิดย้อนเวลาไป นึกถามตนเองว่า ชีวิตมีความสุขหรือ ไม่ ?     เพื่อนฝูงที่เคยเที่ยวเตร่กัน  ผลัดกันเป็นเจ้ามือเลิกหมด   กิจกรรม ที่สร้างความสนุกพอใจก็หยุดหมด  ฯลฯ  ชีวิตคนเราไม่แน่นอน จะตายเมื่อ ไหร่ก็ไม่ทราบล่วงหน้า  จะทนลำบากเก็บเงินล้านทั้ง ๆ ที่รายได้มีจำกัดไป เพื่ออะไร ?  เมื่อวันศุกร์ ๒๙ สิงหาคม  ดูรายการ "กบนอกกะลา" เรื่องงานศพ  ผู้ดำเนิน รายการถามญาติผู้ตายเรื่องเผาแบงค์กงเต็ก คำตอบที่ได้รับ "จะให้คนตาย ไปใช้ในนรก" ช่างตอบมาได้น่าเขกหัว....หุ....หุ........ จากคุณ : jinvet - [ 3 ก.ย. 51 11:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณเต่าหยวนเปียว ตอนนี้มียังไม่ถึงล้านอ่ะค่ะ ซักหกหลักนี่พอจะลุ้นให้เป็นล้านไหวมั๊ยค่ะ แอบสนใจหุ้น ปตท. อย่างที่คุณ greenstock ยกตัวอย่างมา(ใจง่ายอ่ะ) ไม่รู้ว่าซื้อหลักแสน จะมีความเสี่ยงแค่ไหน ------- คุณพริกไทยใบยอ ไหวซิครับ แต่พอล้านแล้ว จะเอาสิบล้าน ... เป้าหมายเงินล้านแรกมักตั้งกัน แต่ต่อไปละ มีเท่าไหร่พอ หุ้นปตทก็ดีครับ แต่จะซื้อเท่าไหร่ดี เสี่ยงแค่ไหน ไม่ใช่การลงทุนเสี่ยงแค่ไหน แต่ต้องถามตัวเองว่าเสี่ยงได้แค่ไหน เช่นมีเงินอยู่5แสน  ซื้อหุ้นลงทุนยาว แล้วราคาในกระดานลงไปเหลือ2-3แสน รับได้ไหม หากบอกว่ารับไม่ได้ คือรับไม่ได้จริงๆ แต่หากบอกว่ารับได้ ยังไม่แน่ครับเมื่อถึงตอนนั้น ลองstimulateตัวเลขดูครับ ลงทุนแค่ไหนแล้วสบายใจ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 3 ก.ย. 51 11:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านเหมือนกันค่ะ  และเคยอ่านหลายๆเล่มที่เกี่ยวกับการเงินด้วย แต่ถ้าเป็นเงินฝากออมทรัพย์ หรือประจำในปัจจุบันคงได้ไม่ถึง 10% เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันไปเลย ก็คงอยากให้เห็นอานุภาพของดอกเบี้ยทบต้นมั้งคะ แต่จริงๆถ้าอยากได้เงินล้าน  คงต้องเริ่มจากเก็บเงิน  อ่านหนังสือหาความรู้ และก็ปฏิบัติจริงค่ะ  เราเองก็ได้แต่เก็บเอง ยังไม่ค่อยลงทุนเท่าไรเลย จากคุณ : Kibby - [ 3 ก.ย. 51 11:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมคิดว่า การที่เราอยากมีเงินเก็บเป็นล้านๆ บางคนก็ไม่ได้คิดจะเก็บไว้ใช้เองหรอกครับ แต่จะเก็บไว้ให้ลูกหลาน ให้ครอบครัวใช้จ่ายมากกว่าครับ จากคุณ : zylinz - [ 3 ก.ย. 51 11:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หวังเอาดอกเบี้ย ปีละ 3% นี่คงต้องเหนื่อยอีกนานครับ คิดคราวๆ ว่า 3 ปี เพิ่งจะได้ 10% ของเงินต้น กว่าจะทบต้น จากเงินกองแรกสัก 1 เท่า (100% ) อาจจะต้องใช้เวลา สัก 20 ปี ถึงตอนนั้น เงินเฟ้อมันกินไปถึงไหนก็ไม่รู้.. จะใช้เงินต่อเงิน ถ้าอยากได้เป็นกอบเป็นกำ ต้องใช้ความพยายาม และกล้าเสี่ยงให้มากขึ้นอีกหน่อยครับ (ดูเงื่อนไขของเราด้วย) นอกจากจะใช้เงินต่อเงินแล้ว.. เรื่องการเก็บออก ผมมักจะใช้คำพูดง่ายๆ คือ เก็บออกโดย ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้.. ..ถ้าเก็บออมแบบนี้ได้ ก็จะช่วยเสริม กองทุนเราอีกแรง แต่การเก็บออกเงินนั้น จะเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราบวกครับ 1+1+1+1+1 ไปเรื่อยๆ แต่การออม การลงทุน เป็นการเพิ่มในแบบทวีคูณครับ 1x2x4x8 ..เพียงแต่ เงื่อนไข ตรงนี้ ก็คือเงินทุนเริ่มต้นของเราเอง เค้าถึงว่า เงิน ล้านแรกหายาก.. เพราะเริ่มจาก หมื่น เป็นแสน เป็นล้าน เนี่ย .. 100 เท่า เหมือนจาก 1 ล้าน ไป 100 ล้าน ก็ 100 เท่า.. ..แต่เงื่อนไขของ หมื่น ไป ล้าน กับ 1 ล้าน ไป ร้อยล้าน มันต่างกันมาก นี่แหละหนา ที่เค้าเรียกว่า "ทุนนิยม" ผมก็พร่ามไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ.. ..แค่อยากจะฝากว่า จะหวังเงินล้าน ด้วยการหาผลตอบแทนแค่ ปีละ 3-5% เนี่ยเหนื่อยครับ เหนื่อยมากๆ ยื่งยุคเงินเฟ้อสูงๆ ด้วย .. ..คงต้องเรียนรู้ หาหนทางที่จะได้มากกว่านั้นครับ ปีละ 10-20% เราต้องตั้งเป็นเป้าไว้ แล้วหากิจกรรม กิจการที่จะทำให้เราได้ แล้วก็มุ่งเน้นไปทางนั้นครับ จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 11:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เงินแสนเป็นเงินล้านได้ครับ ผมยืนยัน เพียงแต่ อย่างที่ว่าไว้.. เราต้องค้นหาวิธีการ ที่จะเป็นไปได้ครับ.. ฝากเงินธนาคาร หรือซื้อกองทุนตราสารหนี้(ได้ดอกเบี้ย) ปีละ 4-5% การทำเงินแสน เป็นเงินล้าน เนี่ย 20 ปี ก็ยังไม่ถึง (สมมติ ที่ต้น 1 แสนนะครับ) ดังนั้นถ้าเรามีเป้าหมายแน่ชัด แทนที่จะเลือกวิถีทาง ที่ความเสี่ยงต่ำๆ แบบนี้(ฝากธนาคาร) แต่เมื่อไร่จะถึงเป้าหมายไม่รู้ สู้เอาเวลาสัก 1 ปีเต็มๆ มาศึกษา หนทางที่จะหาให้ได้ ปีละ 10-20% เพื่อย่นระยะเวลา ที่เยิ่นเย่อจากความเสี่ยงต่ำๆ ไปสู่ความเสี่ยงที่สูงหน่อย แต่เรารับได้ แต่จะย่นระยะเวลาได้ มากกว่า2-4 เท่าเลยครับ แทนที่จะเป็น 20 ปี อาจจะ หาได้เท่ากัน ภายใน 10 ปีเท่านั้น (ซึ่งคุณค่า ของปีที่ลดลงเนี่ย มันเกินกว่าจะตีค่าได้ด้วยซ้ำ) ว่าแล้ว เดี๋ยวเอาทำตามรางเลยดีกว่า.. จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 11:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จะบอกว่าจริงค่ะ ล้านแรกยากที่สุด  คาถาของดิฉันคือ ออมก่อนที่เหลือถึงจะใช้ และเนื่องจากสวมบทบาทแม่บ้านด้วยเลยใช้วิธีจ่ายของแบบchoose wisely, be rich อธิบายง่ายๆคือของที่ซื้อหามาใช้ในบ้านต้องดูวัตถุประสงค์ในการใช้ ตัวอย่างเช่นคุณซื้อกระดาษชำระเอาไว้ใช้ในห้องน้ำและห้องครัว ส่วนมากคนเราจะซื้อยี่ห้อเดียวกันโดยไม่คิดว่าในครัวคุณไม่ได้ต้องการความนุ่มความละเอียดขนาดนั้น แค่นี้คุณก็ประหยัดเงินได้ จากคุณ : Searchlady (Searchlady) - [ 3 ก.ย. 51 11:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่รู้ว่า ในหนังสือ มีบอกหรือเปล่า ว่า   ผลตอบแทนสูง  ความเสี่ยงก็สูงตาม ตอบว่ามีคะ  เช่น ในตลาดหุ้น  ปีละ 10%   ทุกคนบอกว่า  หมู   แต่  พอคิดว่า หมู เลยตั้งเป้าไว้  10% ใน 2 เดือน  และ ทำได้จริงๆ คะ  ใน 2 เดือนแรก    แต่  อีก 10 เดือนที่เหลือ   ก็เสียคืนไปให้   พูดง่ายๆ ว่ามีจริง แต่ ต้องมีฝีมือคะ จากคุณ : หนูอยากรวย - [ 3 ก.ย. 51 11:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณค่ะ คุณ jinvet ถ้ามีเงินตอนนี้แล้วได้ดอกเบี้ยเหมือนเมื่อก่อนคงรวยไปแล้ว เสียดายนะคะมันคงไม่มีอีกแล้ว ถ้าต้องใช้คำว่าทนลำบากในการเก็บเงิน ส่วนตัวคงไม่ทนเหมือนกันค่ะ แต่ถ้า เราจัดสรร รายรับ-รายจ่ายให้พอดี ไม่ต้องถึงขนาดกินเกลือกินแกลบ คงดีไม่น้อยถ้ามีโอกาสมีเงินล้านค่ะ คุณเต่าหยวนเปียว ขอบคุณค่ะที่ตอบว่าไหว(แอบเอามาเป็นกำลังใจเล็กๆ) คือตอนนี้มีเงินล้านแรกแล้วค่ะ เลยอยากได้เพิ่มอีกเป็นทวีคูณเหมือนในหนังสือยกตัวอย่างอ่ะค่ะ หุ้น ปตท.นี่ มีตกไปแยอะๆ เลยเหรอค่ะ ถ้าซื้อซัก 5 แสน ลงไปเหลือ2-3แสน นี่สงสัยร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่เลยค่ะ คุณ Kibby อานุภาพของดอกเบี้ยทบต้น นี่สร้างแรงบันดาลใจให้มากจริงๆค่ะ เลยต้องลงมือทำจริงๆจังๆ ซะที คุณ zylinz ใช่เลยค่ะ อยากเก็บไว้ให้ลูกให้หลาน เพราะส่วนตัวตอนนี้ก็ใช้เงินของอาม่าอยู่ เลยอยากให้ลูกมีใช้แบบเราในอนาคต คุณ บุญทับ เงินแสนเป็นเงินล้านได้ครับ ผมยืนยัน.... คำพูดนี้ นี่คือกำลังใจอีกแรง ขอบคุณค่ะ ตอนนี้มีเงินเก็บอยู่ 1 ล้าน ค่ะ เอาซื้อกองทุนไปแล้วอ่ะค่ะ แต่ดอกมันก็แค่ 3 กว่าๆ  อยากได้ดอก 10% แบบที่ถามอ่ะค่ะ เผื่อจะทวีคูณไปได้เยอะกว่านี้ สงสัยว่าต้องศึกษาอีกมากมายเหลือเกิน ตอนนี้ชักเริ่มท้อแท้แล้วอ่ะ ก็คุณพี่เล่นบอก สู้เอาเวลาสัก1 ปีเต็มๆ มาศึกษา หนทางที่จะหาให้ได้ ปีละ 10-20% ...........มันต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ เง้อ...ชักท้อ คุณ Searchlady โอ้ววว เป็นแม่บ้านมืออาชีพเลยค่ะ ส่วนตัวก็ทำแบบคุณSearchlady อยู่เหมือนกันค่ะ ประหยัดทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเครื่องสำอางของตัวเอง(อันนี้กำลังพยายามลดอยู่ค่ะ หวังว่าจะสำเร็จ) คุณหนูอยากรวย ในหนังสือบอกค่ะ ผลตอบแทนสูง  ความเสี่ยงก็สูงตาม  ก็อย่างพวกหุ้นใช่มั๊ยค่ะ อยากเสี่ยงค่ะ แต่ตอนนี้ใจยังไม่ถึงค่า..... แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 12:02:28 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 12:00:45 จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 11:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จากตารางใน คห.6 เปลี่ยนจาก %ต่อเดือนมาเป็น% ต่อรอบหรือ %ต่อครั้ง สำหรับตลาดหุ้นน่าจะเห็นความชัดเจนกว่านะ ในตลาดหุ้นเราไม่รู้ว่าปีนึงจะมีกี่รอบ และจะคาดหวังรอบนึงกี่ %  บางคนเล่นสั้นๆปีนึงอาจจะทำได้เป็นร้อยรอบ เล่นระยะกลางๆอาจจะได้ไม่กี่สิบรอบ หากเล่นรอบใหญ่ก็ยิ่งน้อยลงไป ความสำคัญคือเราไม่รู้ ไม่มั่นใจว่ารอบใหญ่จะมาเมื่อไหร่ มันมองยาก แต่หากมองรอบสั้นๆ ผมเชื่อว่าจะเห็นเยอะมาก หากขยันหา คิดว่าไม่น่ายากที่จะไม่เจอ จากคุณ : rockriverarms - [ 3 ก.ย. 51 12:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมมองในมุมกลับว่า การเก็บเงินบางส่วน แล้วลงทุนบางส่วน เพื่อพัฒนาศักยภาพตัวเอง เพื่อให้การเติมโตของรายได้ในอนาคตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน จากนั้นค่อยคิดถึงเรื่องเงินล้านดีกว่าครับ จากคุณ : HaHaHa - [ 3 ก.ย. 51 12:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 10% แบบปลอดภัย100%เหมือนสมัยก่อนคงไม่มีแล้วมั้งคะ ถ้าอยากได้ผลตอบแทนสูง ก็ต้องลงทุน ลงแรงศึกษาหาความรู้+เสี่ยงกันหน่อย แล้วแต่ใครจะถนัดทางไหน เล่นหุ้นปั่น? เล่นหุ้นปันผล? ปล่อยกู้? ทำธุรกิจ? ซื้อทองเก็งกำไร? จากคุณ : ไอซ์ที - [ 3 ก.ย. 51 12:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หวัดดีพี่ร็อก ครับ.. ตารางที่ว่านั่น เป็นอะไรที่ ออกแนวจิตนาการแบบมือสมัครเล่นมากสักหน่อยครับ มาตอบคุณเจ้าของกระทู้เพิ่มเติม เรื่องใช้เวลาศึกษา 1 ปีนี่ ยังเรียกว่าสั้นนะครับ(จริงๆ ส่วนใหญ่นานกว่านั้นอีก สำหรับคนลองผิดลองถูก) ตารางนี้ มาสดๆ ร้อนๆ เลยครับ.. (โพสที่นี่ก่อน บล็อกตัวเองอีก 555) พอเปลี่ยนจาก ทุน 1 แสน , มาเป็นทุน 1 ล้าน การตั้งเป้าให้เป็น 10-20% ต่อปี ก็อาจจะถือว่ามากได้ครับ (แปลงเป็นเงิน ก็ 1-2 แสน) แต่ถ้านับจากทุน 100,000 การตั้งเป้า 10-20% นั้น แปลงเป็นเงินจริงๆ นับว่าน้อยครับ คือแค่ 1-2 หมื่นต่อปี กว่าจะเก็บได้เป็นล้าน เหนื่อยยากสาหัสครับ ..นี่คือเหตุผลที่ว่าเงินทุนเริ่มต้นนั้นสำคัญครับ อย่าลืมว่า คนเรามีค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงอยู่ขั้นต่ำที่แน่นอน คนทุนแสน หาได้ 10% ใช้ไม่ถึงเดือน ใช้ไม่กี่เดือนก็หมดครับ แต่คนทุนล้าน ทุน10 ส้าน หาได้ 10% ก็กินไปได้หลายเดือน เป็นปี ..การที่ยอดเงินจะเพิ่มขึ้นได้นั้น จึงง่ายกว่าคนมีทุนน้อยมากๆ (คนทุนน้อยได้มาต้องกินต้องใช้หมด กองเงินไม่โตขึ้น) ภาพนี้ ทำมาให้คนที่เงินทุนเริ่มต้น อย่างคนปกติสามัญ ทำงาน 2 ปี มีเงินเก็บเป็นเงินสด 1 แสน ..หวังมีเงินล้าน เป็นสิ่งที่ทำได้ครับ แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน ทำผ่านการออมอย่างเดียวลำบากครับ จำเป็นต้องรู้วิธีให้เงินทำงาน ..อยากได้ผลตอบแทนสูง ก็ต้องให้เงินทำงานที่เสี่ยงมากหน่อย แต่โดยส่วนตัวผมมองว่า การตั้งเป้าหมายในตลาดหุ้น ปีละ 10-20% ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปครับ เพียงแต่คนผู้นั้น ต้องศึกษาและจริงจังให้มากหน่อย เมื่อมีวิธีการเครื่องไม้เครื่องมือแล้ว เราก็ต้องรักษาหลักการ และวินัยของเราเอาไว้ให้ได้ และเล่นตามหลักการที่เราพิสูจน์แล้ว สิ่งที่คาดหวังก็จะไม่ยากเกินไปครับ.. แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 12:55:43 จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 12:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แก้ไขนิดหน่อย จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 12:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กรณีทุนล้าน ก็ดูตาราง แล้วเติมศูนย์ลงไปอีกตัว 555 จริงๆ ผมชอบกระทู้ทำนองนี้นะครับ ไอเดียทำนองนี้ .. ..เพราะผมเองก็เริ่มต้นจากไอเดียทำนองนี้แหละ แต่เวลาอยู่ในตลากหุ้นมากๆ เนี่ย เราจะมีข้อเสีย ที่รักษาหลักการไม่ได้เท่าที่ควร จริงๆ จุดหนึ่ง ที่ผมอยากจะเน้น และชอบเน้นบ่อยๆ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเหมือนกับคนอื่น นั่นการคือ ก า ร กำ ห น  ด เ ป้ า  ห ม า  ย . . เช่าถ้าเรากำหนดว่าจะเอาปีละ 10% สมมติว่า เราทำได้เข้าเป้าตั้งแต่ 3 เดือนแรกของปี ..โดยแนวคิดของผม คุณสามารถหยุดเล่นได้เลยครับ แต่ถ้าคุณยังรู้สึกว่า คุญยังมองเห็นโอกาสอยู่ ก็อาจจะเข้ารอบใหม่ก็ได้ แต่ก็ต้องเมีเงื่อนไขไว้บังคับตัวเอง เช่นต้องไม่ให้ 10% แรกที่ได้มาสูญเสียไป เป็นต้น และในปีหนึ่งๆ สำหรับผู้ที่ตั้งเป้าเอา 10-20% นั้น ไม่จำเป็นต้องติดตามตลาดมากครับ (แต่ต้องมีประสบการณ์ในการอ่านตลาดพอประมาณนะ) เพียงแต่เราอาจจะติดตามตลาด และตัวหุ้นที่เราคตัดแล้วอยู่ห่างๆ คอยจำตาดูอย่างมีเงื่อนไขในการติดตาม ปีหนึ่ง เล่นสัก 2-3 รอบ รอบละ 5-10% เป็นสิ่งที่ไม่ยาก ที่ยากคือ เมื่อกำไรแล้ว ไม่เลิก ไปเล่นต่อ โดยผิดหลักการของเรา ก็มักจะทำให้กำไรที่หามาได้ สูญไป จนบางครั้งเข้าเนื้อของทุนเริ่มแรกด้วยซ้ำ ความยาก มันคือการจำกัดความโลภนี่แหละครับ.. จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 13:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณค่ะ คุณrockriverarms พูดถึงเรื่องหุ้นตอนนี้ยังมึนตึบอยู่ค่ะ ไม่สามารถตั้งตัวได้เมื่อเจอเรื่องนี้ เมื่อ 4 ปีที่แล้วเคยบ้าเพื่อนพาซื้อหุ้น ตัวเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย สุดท้าย...หมดตูดแปดหมื่น เลยลาขาดจากหุ้นมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย คุณHaHaHa อยากเอาไปลงทุนทำธุรกิจบางส่วนอยู่ค่ะ แต่ภายในระยะ 3-4 ปี นี้ยังไม่สะดวกเท่าไหร่ เลยจะเอามาต่อเงินก่อนน่ะค่ะ คุณไอซ์ที สงสัยคงต้องลงทุนลงแรงศึกษาอย่างหนักหน่วงเลยหล่ะค่ะ เพราะไม่รู้เรื่องเลย แบบว่าเริ่มต้นจากศูนย์ค่ะ คุณบุญทับ ขอบคุณและเป็นเกียรติอย่างมากค่ะที่ตารางของคุณบุญทับได้มาปรากฏต่อสาธารณชนในกระทู้เล็กๆบ้านๆ กระทู้นี้เป็นที่แรก สำหรับหนึ่งปีนี่สั้นแล้วใช่มั๊ยค่ะ เง้อ......แต่ถ้าซัก 10 ปี มีเงินได้ถึง 10 ล้านจริงๆ ก็คุ้มค่านะคะ แล้วสำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลยแม้แต่น้อย นี่เริ่ม step แรกจากไหน ยังไงค่ะ จะซื้อตัวไหน จะดูยังไง ซื้อตามใครดี อะไรทำนองนี้ แบบว่าไม่มีความรู้เรื่องการเงินเลยอ่ะค่ะ  ขนาดพูดเล่นเป็นรอบ ยังไม่เข้าใจเลยค่ะว่ารอบยังไง เง้อ.....ก็คนมันโง่อ่ะค่ะ แหะๆ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 14:01:57 จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 14:00:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คำตอบของการเก็บเงินของผมมีข้อเดียวครับ คือ อย่าโลภ.. ผมเก็บได้เกือบห้าแสน แต่ความโลภทำให้เหลือแค่แปดหมื่นอะครับ เข็ดจนตาย 5555555 ไม่น่าเลยกรู ... จากคุณ : จอบบ้อน - [ 3 ก.ย. 51 14:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณค่ะ คุณจอบบ้อน นั่นสิค่ะ นอกจากความรักทำให้คนตาบอดได้แล้ว ความโลภก็ทำให้คนตาบอดได้เหมือนกัน 555++ เคยตาบอดมาแล้วเช่นกันค่ะ ไม่อยากสบตากะใครเลย(กลัวเค้าหาว่าบ้า หุหุ) แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 14:12:43 จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 14:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คงต้องหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับหุ้นมาอ่านครับ 1 ปีปัจจุบัน แลกกับ 10 ในอนาคต คุ้มครับ ..ถ้าเราไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนเวอร์เกินเหตุ อยากจะบอกว่า ทำได้ไม่ยากหรอกครับ สิ่งที่สำคัญคือต้องรักษาวินัยให้ได้.. ผมเองมีเนื้อหาแนะนำเกี่ยวกับการเล่นหุ้นอยู่ แต่คิดว่า คุณ พริกไทย ควรจะมีพื้นฐานความรู้เรื่องหุ้นในเบื้อต้นก่อน จึงแนะนำจะเหมาะกว่า แนะนำให้ขึ้นกระทู้ ขอคำแนะนำเรื่องหนังสือสำหรับคนหัดเล่นหุ้น จะมีเพื่อนๆ มาช่วยตอบเยอะครับ ..มีคนมาถามประจำ จนบางคนเค้าก๊อปเก็บไว้  มีคนมาถามที ก็เอามาลงให้อ่านที ซึ่งมือใหม่มีประโยชน์มากๆ ครับ ค่อยๆ เรียนรู้ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องเร่งครับ.. ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : บุญทับ - [ 3 ก.ย. 51 14:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณค่ะ คุณบุญทับ หนังสือเกี่ยวกับหุ้นนี่ มีเล่มไหนแนะนำให้อ่านเป็นเล่มแรกๆบ้างค่ะ ชอบอ่านหนังสือค่ะ (โดยเฉพาะหนังสื่อที่จะทำให้เราได้เงิน อิอิ) เดี๋ยวคงต้องไปตั้งกระทู้บ้านๆของตัวเอง อย่างที่คุณบุญทับแนะนำบ้างแล้วค่ะ เอาเป็นพรุ่งนี้แล้วกัน แล้วเจอกันนะคะ.....ขอบคุณค่ะ จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 14:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 40 การเก็บเงินที่ดีที่สุดคือ รับเงินเดือนมาแล้วตัดเงินเก็บเลย ที่เหลือกระเบียนกระเสียนใช้เอาให้พอ เช่นมีเงินเดือน 50000 ตัดเก็บ 45000 บาท ที่เหลือ 5000 บาทใช้ให้ชนเดือน คุณก็จะเก็บได้เดือนละ 45000 บาททุกเดือน ง่ายมากครับ จากคุณ : บุรี (Buree) - [ 3 ก.ย. 51 17:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หนังสือเล่มนั้นดีค่ะ  เราก็ชอบอ่านแล้วเก็บไว้  แต่ออกแนวเพ้อฝันซะมาก ฮุ ๆ ๆ 1. อัตรา10%นี่แหละค่ะ  ซึ่งมันเป็นไปได้ยากกรณีความเสี่ยงต่ำ  ดีไม่ดีเงินต้นอาจหายด้วยซ้ำ 555  ขนาดดอกเงินกู้บ้านยัง8%เลยคุณขา -_-' 2. อีก10-20-30ปีถัดไป  ได้เงินครบล้าน  แต่สมัยนี้ก๋วยเตี๋ยวชามละ25  กว่าจะได้ครบล้าน  ก๋วยเตี๋ยวคงชามละ70ละค่ะ ตั้งเป้าได้  แต่อย่าไปยึดตามหนังสือนักค่ะ  เราว่ามันเพ้อฝันไปหน่อย  เราเห็นบางคนยึดตามมากเกินไป  มาตั้งกระทู้แนะนำแบบเพ้อๆก็มีเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 3 ก.ย. 51 18:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มีผู้มาแจมเยอะแยะเลยดีจังพี่คนอุบลค่ะอยู่กทม ตอนนี้เงินล้านที่หาได้เกิดจากค้าขายค่ะมิได้มาจากลงทุนทางการเงินแต่เมื่อมีแล้วพี่จะแบ่งส่วนเช่นส่วนเย็นพี่ก็ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อบ้านเก็บค่าเช่า ซื้อทองแท่งเก็บบ้างระยะยาวๆๆๆ กองทุนรวมบ้าง หุ้นก็ติดดอยอยู่ และตอนนี้ก็ลงทุนทำสวนยางพาราค่ะอนาคตน่าจะได้มากกว่า10% ค่ะ  สำหรับหุ้นคงจะพอแล้วเข้ามาแล้วรู้ว่าตัวเองไม่ได้เรื่องเลยแต่พอได้เป็นความรู้ คือซื้อความรู้จากของจริงค่ะ จากคุณ : แม่ลูกชายสาม (chuaykongma) - [ 3 ก.ย. 51 20:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณค่ะ คุณBuree ถ้าต้องเก็บเงินถึงขั้นกระเบียนกระเสียน ส่วนตัวแล้วคงไม่ไหวค่ะ เพราะแอบฟุ่มเฟือยเล็กๆ แหะๆ คุณ กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เอาหนังสือไว้เป็นแนวทางและแรงบันดาลใจอ่ะค่ะ ซึ่งถ้าในความเป็นจริงอย่างที่พี่ๆข้างบน เค้าแนะนำมา คงต้องลงทุนลงแรงและใช้ความพยายามอย่างมากในการศึกษาอยู่เหมือนกัน จะพยายามต่อไปค่ะ คุณ แม่ลูกชายสาม (chuaykongma) อยากเอามาลงทุนทำธุรกิจอยู่เหมือนกันค่ะพี่ แต่ช่วง 3-4 ปีนี้ยังคงทำไม่ได้ด้วยเหตุผลส่วนตัวค่ะ เลยคิดจะเอาเงินมาต่อเงินแบบที่ในหนังสือเค้าแนะนำอ่ะค่ะ สงสัยต้องหาความรู้อีกเยอะเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 51 23:02:46 จากคุณ : พริกไทย-ใบยอ - [ 3 ก.ย. 51 22:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คำตอบที่คุณบุญทับเขียน เหมือนที่เคยได้อ่านหนังสือมาเลยค่ะ (มากๆด้วย) ไม่ทราบว่าคุณบุญทับเป็นนักเขียนด้วยหรือเปล่าคะ แล้วอีกอย่างนึง  คำตอบมีประโยชน์มาก  เหมาะสำหรับมือใหม่ ชอบมากค่ะ จากคุณ : เสื้อยืด (เสื้อยืด'เกงยีนส์) - [ 10 ก.ย. 51 19:29:28 ]