 |
อันนี้เล่าให้ฟังนะคะ จขกท. ^0^
การเรียนมหาลัย มีกองทุนให้กู้ยืม ชื่อว่า กยศ.
เขาให้ค่าเทอม ไม่เกินเทอมละ 20,000 บาท(เขาจะดูจากใบเสร็จค่าเทอม คือให้ตามนั้นแต่ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเทอม) ค่ากินอยู่เดือนละ 4,000 บาท
ดังนั้น คำว่า เรียนมหาลัย ต้องขายนาเรียน เราว่า.. มันหมดยุคสมัยนั้นแล้วล่ะ >.<
---
ที่สำคัญ
มหาลัย "ชั้นนำ" ของประเทศ ไม่ใช่มหาลัยเอกชน แต่เป็นมหาลัยรัฐบาล
ซึ่ง ค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาลัยรัฐบาล ถ้ากู้ กยศ.ด้วย และทางบ้านส่งเสียด้วย ก็สามารถตั้งใจเรียนอย่างเดียวได้สบายๆโดยไม่ต้องคำนึงเรื่องเงิน(ไม่ต้องทำงานพิเศษระหว่างเรียน)
แต่ถ้า.. ทางบ้าน ไม่มีรายได้เลย ไม่มีเลย!!
มันก็มีมหาลัย ราคาถูกอยู่ นั่นก็คือ ม.รามคำแหง
หากเรา ไปดูประวัติของคนที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิตล่ะก็ เขาไม่ได้จบจุฬาหรือธรรมศาสตร์กันทุกคนหรอกนะคะ บางคนก็จบมหาลัยทั่วๆไปธรรมดา
มันอยู่ที่ "สมองของคนทำงาน" เรียนที่ไหนก็คือกันล่ะ ถ้าสมองดี
พี่ญาติเรา จบการเงิน ม.รามคำแหง ค่าใช้จ่ายในการเรียนจนได้ใบปริญญา ไม่เกิน 100,000 บาท --' ถูกมาก! แต่พี่เขาตั้งใจเรียน และเขาได้ภาษาด้วย(เขาศึกษาเอง ไม่ได้ไปเรียนพิเศษอะไรเลย)
ตอนนี้ Go inter ไปทำงานต่างประเทศ รายได้เดือนละเป็นแสน!!!
ประสาอะไร คนจบม.ไทย ค่าใช้จ่ายในการเรียนเป็นแสน รายได้น้อยกว่าคนจบม.รามก็มี ><
แต่คนจบม.ไทยชั้นดี รายได้ดีกว่าคนจบม.ราม ก็มี
เพราะชีวิตวัยทำงาน กับวัยมหาลัย มันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน มันอยู่ที่ตอนเรียน เราตั้งใจไหม?? เราขยันไหม?? จบมา เรามีการไปฝึกงานไหม หรือถ้าไม่ไปฝึกงาน เราลองไปสมัครงานเพื่อทำ profile ไหม?? เก็บประสบการณ์ไหม
ถ้าเรามีประสบการณ์ทำงาน เราก็สามารถไปต่องานที่ดีๆกว่านี้ได้ ยิ่งถ้าภาษาดีเราก็ Go Inter ได้ แต่ถึงแม้ภาษาจะไม่ดี แต่ถ้าเราเก่งจริงๆในสาขาวิชาที่มันยากๆ(เช่นพวก วิทย์ หรือวิศวะฯ)ถ้าเราเก่งจริงๆ เราก็สามารถไปต่อให้ชีวิตเราเจริญรุ่งเรืองได้
ดังนั้น..
สำหรับหนูนะคะ คิดว่าคุณจขกท.น่าจะเป็นผู้ใหญ่กว่าหนู
สมัยเด็กๆ หนูเห็นในละคร เขาบอกไม่มีเงินเรียน พ่อแม่ต้องขายนาส่งลูกเรียน
แต่พอหนูโตมา หนูมีความรู้รอบตัวเยอะแยะมากมาย มันทำให้หนูรู้ว่า การขายนาส่งลูกเรียน มันเป็นการกระทำที่ "ล้าสมัยไปแล้ววววว!!"
ถ้าคุณอยากเรียนที่ดีๆ แต่ไม่มีเงิน ก็ไปกู้ กยศ.
แต่ถ้ากูกยศ.ไม่ได้จริงๆ(อาจมีปัญหาบางอย่างทำให้กู้ไม่ได้) คุณก็ไปเรียนม.ราม
จบม.รามมา คุณต้องวางแผนการทำงานและอนาคตให้ดี ตอนเรียนก็ตั้งใจเรียนเก็บเกี่ยวความรู้ให้มากๆ และพยายามสร้าง Resume ให้สวยๆโดยการมีประสบการณ์ทำงานจริงในวิชาที่เรียนมา เพื่อเป็นใบเบิกทางในการไปสมัครงานด้านอื่นๆด้วย
หวังว่า คุณลุงจขกท.คงจะพอเข้าใจนะคะ ^_^
สมัยนี้ มันหมดยุคสมัยของคน "ไม่มีเงินเรียน" แล้ว!! เพราะเราสามารถเรียนได้ ถ้าเราไม่ใช่ขอทาน ถ้าเรายังพอมีรายได้บ้าง อาจจะเป็นอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำ เราก็ยังไปเรียนหนังสือจนจบมหาลัยได้
ถ้าไม่มีเงินเรียนโรงเรียนมัธยมดีๆ ก็ไปเรียน กศน.(การศึกษานอกโรงเรียน)
สำหรับหนู หนูกำลังจะจบใบปริญญาใบที่ 2 สมัยเรียนมัธยมหนูก็ไปลงเรียน กศน.ด้วย (แต่เรียนไม่จบนะ แหะๆ ^_^ กิจกรรมมันเยอะ เลยจบม.6 แค่ที่เดียว กะจะจบ 2 ที่ซะหน่อย)
หนูรู้เลย.. คนที่บอกว่า ไม่มีเงินเรียน มันเป็นแค่ "ข้ออ้าง"
ประเทศไทยเรา มีโรงเรียนที่ค่าเทอมถูกมาก และมีมหาลัยที่ค่าเทอมถูกมาก
ส่วนงานของคุณ จะไปได้ดีหรือไม่ได้ดี ส่วนหนึ่งขึ้นกับชื่อเสียงมหาลัยก็จริง แต่อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากๆและเป็นส่วนหลักๆเลย ก็คือ "ฝีมือ + ความรู้ + และประสบการณ์การทำงาน"
พี่ญาติหนูจบ ม.ราม ไปสมัครงานที่ต่างประเทศ เขาไม่รู้จักด้วยซ้ำ ว่าม.รามกับม.จุฬา ต่างกันยังไง?? เขาตีค่าสองมหาลัยนี้ เท่ากัน แต่ผู้สมัครเข้าทำงาน ก็ต้องมาสอบข้อเขียนและภาคปฏิบัติของบริษัทเขา
จะเห็นได้ว่า "ฝีมือ + ความรู้ + และประสบการณ์ในการทำงาน" สำคัญที่สุด! ไม่ใช่ชื่อเสียงของมหาลัยที่คุณจบมา
แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 20:34:58
| จากคุณ |
:
Gretchen  
|
| เขียนเมื่อ |
:
3 ธ.ค. 55 20:26:50
|
|
|
|
|
คุณกล้าทำ แบบนี้ เพื่อลูกรักของคุณไหมครับ???
