ลูกหนี้รายได้ต่ำหมื่นเริ่มเป็นหนี้สูญ "ธปท." เตรียมควบคุม
|
|
เอ็มเอสเอ็น/แบงคอกบิซ : เครดิตบูโรส่งสัญญาณคนมีรายได้ต่ำกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน เริ่มส่งกลิ่น แต่ยังไม่กลายเป็นหนี้หน่า หวั่นหันไปกู้นอกระบบ สร้างภาระสังคม
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร National Credit Bureau หรือ NCB ระบุว่า จากฐานข้อมูลของเครดิตบูโร สามารถบ่งบอกได้ว่าหนี้ภาคครัวเรือนเริ่มมีปริมาณเพิ่ม โดยสามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มไหนที่มียอดค้างชำระมากที่สุด ซึ่ง ธปท.ก็ได้นำข้อมูลของเครดิตบูโรไปเชื่อมและต่อจิ๊กซอว์กับผลสำรวจทั่วไป เพื่อเป็นการส่งสัญญาณ ในการแก้ไขจากระดับอ่อนๆ ไปถึงระดับหนัก
"จากฐานข้อมูลของเครดิตบูโร ยอมรับว่า มีหนี้ภาคครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน เริ่มมีสัญญาณค้างชำระเพิ่ม เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม จึงเริ่มหันมารณรงค์ให้พวกที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน รู้ว่าในอนาคตหากเป็นเช่นนี้ คือ หากยังก่อหนี้เพิ่ม อาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิต รวมไปถึงกระทบต่อหน้าที่การงาน เราจึงต้องเปลี่ยนมาตรการเฝ้าระวังมาเป็นเตือนขั้นอ่อน เรื่อยๆ ไปจนถึงขั้นสูง ซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรการรณรงค์ให้ระวังและเตือนในเรื่องการก่อหนี้ จากฝั่งผู้กำกับและฝั่งผู้เก็บข้อมูล"
เขาย้ำว่า ผลสำรวจที่ผ่านมา พบว่า ในระบบแม้ว่ามีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ของสถาบันการเงิน ยังต่ำอยู่คือประมาณ 1-2% ก็ตาม แต่ประเด็น คือ สถาบันการเงินได้ผลักให้คนกลุ่มนี้ หรือ กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มีรายจ่ายที่เพิ่ม และกลายเป็นภาระของสังคมในอนาคต หรือไม่ เพราะฉะนั้นจึงได้มีการหารือกันกับ ธปท. ว่ามีแนวทางไหนได้บ้าง เช่น ส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการ เบาๆ เพลาๆ ลงหน่อยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ได้หรือไม่
"เพราะจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่กระตุ้นของสถาบันการเงินและผู้ประกอบการนั้น พบว่า มียอดขอกู้สินเชื่อสมมติว่าอยู่ที่ 1 ล้านใบต่อเดือน แต่สถาบันการเงินอนุมัติแค่ 30% ต่อเดือน ส่วนอีก 70% ที่ไม่อนุมัตินั้น ก็พบว่า ไม่ผ่านคุณสมบัติจากสถาบันการเงิน และคนกลุ่มนี้ที่มาขอสินเชื่อ ก็มาจากการกระตุ้นของผู้ประกอบการเพื่อให้ใช้สินเชื่อ ซึ่งในกรณีที่ไม่ผ่านการอนุมัติสินเชื่อ กลุ่มพวกนี้จะไปใช้บริการสินเชื่อนอกระบบหรือไม่ และหากไปใช้บริการสินเชื่อนอกระบบ ก็จะกลายเป็นภาระสังคม ในระยะยาวตามมา นี่คือสิ่งที่ทางการเป็นห่วงมากกว่า"
เขาระบุว่า ข้อมูลของเครดิตบูโร มีความใกล้เคียงและสอดคล้องกับการเก็บข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่า หนี้ภาคครัวเรือน เริ่มมีปริมาณที่เพิ่ม ดังนั้นจึงมีความเป็นห่วงว่าภาคครัวเรือนอาจจะมีการชำระหนี้ได้ลดลง เพราะว่า ธปท. ก็พบว่า ภาคที่มีรายได้ 25,000-30,000 บาทต่อเดือน ก็มีศักยภาพในการชำระหนี้ลดลง ดังนั้น เมื่อพบว่าภาคครัวเรือนกลุ่มนี้มีการชำระหนี้ที่ลดลง จึงหันมาดูว่า กลุ่มที่มีรายได้ต่อหัวต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มีปัญหาหรือไม่ และหากพบว่ามีปัญหา แล้วปัญหาเกิดจากอะไร เช่น จากการกระตุ้นของผู้ให้สินเชื่อหรือไม่ ทั้งๆ ที่ยังไม่จำเป็น โดยเฉพาะการโฆษณาประชาสัมพันธ์
"เวลานี้ต้องลงไม้ลงมือ เพราะฉะนั้นคนลงโฆษณา ต้องเพลาๆ หน่อย โดยเฉพาะสถาบันการเงิน พวกกู้ง่ายได้ง่าย เวลากู้ก็ต้องดูตามความสามารถของผู้ชำระด้วย"
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5EYzJOREV6TlE9PQ==§ionid=
เศรษฐกิจพอเพียงกันครับ
| จากคุณ |
:
หมาป่าดำ  
|
| เขียนเมื่อ |
:
6 ธ.ค. 55 14:34:29
|
|
|
|
